พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 18 : “เจน-พิงก์-เคน” ใครคือสายลับสองหน้า !?
บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : จรูญพร ปรปักษ์ประลัย
พิงก์กับเคนยืนมองถุงศพ ชิปปี้ แม็กกี้ ถูกรูดปิด เจนเดินมาข้างหลัง ทั้งคู่หันมาจะถามถึงธงรบ
“ใจเด็ดเหมือนเจ้านายมันเลย ยอมตายแต่ไม่ยอมโดนจับ”
“ธงรบตายแล้วจริงๆเหรอครับ” เคนถาม
พิงก์มองเจน
“เสียดายโอกาสที่จะได้รู้ความลับที่มันมี เราคงจะได้ข้อมูลลับอีกหลายอย่างไม่นับพวกที่สมคบคิดกับมัน ซึ่งก็คงมีเยอะเลย”
เจนพูดหน้านิ่ง
“ชั้นก็เสียดาย แต่ชั้นก็ต้องทำเหมือนพวกเธอนั่นแหละ ชั้นไม่มีทางเลือก”
เจนมองร่างของชิปปี้แม็กกี้ที่เจ้าหน้าที่หามออกไป
บนรถขนศพวิ่งอยู่กลางถนน ข้างในรถเห็นถุงศพอยู่สี่ถุง ทุกอยากดูเงียบสงบ ถุงศพธงรบถูกยิงออกมาจากด้านใน ธงรบลุกขึ้นนั่งมองตรงอย่างโกรธแค้น
ในห้องเจน ทั้งหมดยืนอยู่รวมกัน
“ขอบใจทุกคนมาก โดยเฉพาะเคน ที่ทำให้เราจัดการนายธงรบได้สำเร็จ”
“เฮ่อ ! สุดยอด ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเลย จากนี้ไปผมจะได้เป็นอิสระซะที ลาก่อนชีวิตสายลับ”
“ยังเคน ภารกิจของเรายังไม่จบ”
เคนหน้าเปลี่ยนเป็นเซ็งทันที “อะไรนะ ธงรบก็โดนจัดการไปแล้ว ยังจะเหลืออะไรอีกล่ะ”
“เรายังไม่หยุดไม่ได้ ตราบใดที่ยังไม่ได้ข้อมูลในแฟลชไดรฟ์”
พุฒิบอก “ใช่ ข้อมูลอาจรั่วไหล และส่งผลที่เราคาดไม่ถึง”
“โหย ! ใครจะตามแฟลชไดร์ฟบ้านั่นก็เอาเหอะ ผมไม่เอาด้วยหรอก พอกันที”
เคนพูดแล้วเดินออกจากห้องนั้นไปทันที ทั้งหมดมองหน้ากัน แล้วพิงก์ก็เดินตามเคนไป
เคนเดินเข้ามาในห้อง หยิบเสื้อผ้าออกมา เตรียมเปลี่ยนชุด และไปจากที่นี่
พิงก์เดินเข้ามาหยุดมอง
“เคน ! เคนจะทำอะไรน่ะ”
“ผมจะไปจากที่นี่ กลับไปมีชีวิตเหมือนเดิม กับคุณ”
พิงก์เดินเข้ามาหาเคน
“เคน... เคนก็รู้ดี ว่าไม่มีทางที่ชีวิตเราจะกลับไปเหมือนเดิมได้ ถึงจะหนีไปไกลสักแค่ไหน แฟลชไดรฟ์นั่นก็จะยังตามไปหลอนเคนอยู่ดี”
เคนดูอ่อนลง เขาวางเสื้อผ้าลง ขณะที่พิงก์พูดต่อ
“ธงรบตายไปแล้วก็จริง แต่ไททันยังอยู่ และคนพวกนั้นก็คงไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่ อาจต้องมีคนตายเพิ่มขึ้นอีก เพราะข้อมูลในแฟลชไดรฟ์นั่น”
“แล้วผมต้องทำยังไง”
“ให้โอกาสตัวเองอีกครั้ง ที่จะเปิดเผยความลับที่ซ่อนอยู่ในตัวเคน ... เพื่อเรียกความทรงจำกลับคืนมา เราต้องย้อนเหตุการณ์ให้เหมือนวันที่เคนได้แฟลชไดรฟ์มา”
“หมายความว่า...”
“ต้องมีการจัดการประกวดดาวจรัสหรูยูโทเปียอีกครั้ง”
เคนอ้าปากค้างพูดไม่ออก
“หา...”
“และเคนต้องกลับไปเป็นยูซ่า แบบเดียวกับวันนั้น”
“หา...”
เฮียฮะนั่งเศร้าอยู่ จนกระทั่งมีเสียงเรียกด้วยความดีใจ
“ฮะ ฮะ”
เฮียฮะจำเสียงนั้นได้ทันที เงยหน้าขึ้นมอง
“สว่าง !”
เจ๊หว่างเดินเข้ามา
“บอกกี่ทีแล้ว ว่าอย่าเรียกว่าสว่าง ให้เรียกหว่างเฉย ๆ”
“สว่าง ! สว่าง !”
เฮียฮะลุกขึ้นเข้าไปกอดเจ๊หว่างไว้แน่น ดีใจจนน้ำตาไหล
“สว่าง !”
เจ๊หว่างกอดเฮียฮะตอบ รู้สึกได้ถึงความรักที่เฮียฮะมีให้ น้ำตาเจ๊หว่างซึมออกมา
“จ้ะ สว่างก็สว่าง”
“สว่างหายไปไหนมาฮะ ใครทำอะไรสว่างหรือเปล่าฮะ”
“เปล่าหรอกเฮีย ฉันไม่เป็นอะไรหรอก”
เอมมี่เดินตามเข้ามามองพร้อมปืนในมือ
"ถูกต้อง ตอนนี้ยังไม่มีใครเป็นอะไร แต่ถ้าเจ๊ไม่ยอมทำตามเงื่อนไขที่เราตกลงกันไว้ ฉันกลับมา ‘ฆ่าล้างบาร์’ แน่"
"เงื่อนไขอะไรเหรอฮะ"
"เราจะต้องจัดประกวด ‘ดาวจรัสหรูยูโทเปีย’ อีกครั้ง"
"โหย จะเป็นไปได้ไงล่ะฮะ จัดประกวดทีต้องใช้เงินตั้งเยอะ แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนมาจัดล่ะฮะ"
"เรื่องเงินน่ะไม่ต้องห่วง แต่ที่สำคัญ ต้องจัดให้เหมือนครั้งที่แล้วเป๊ะ ห้ามมีอะไรผิดเพี้ยนเด็ดขาด คิดว่าทำได้ไหม"
"ถามว่าทำได้มั้ย ! มีอะไรมั่งที่เจ๊หว่างทำไม่ได้ เจ๊หว่างซะอย่าง ‘ขอเพียงแค่บอกมา’ จัดให้ได้หมดแหละ"
ที่บริษัทโฆษณา ยักษ์เดินไปเดินมาเหมือนหนูติดจั่น สุดท้ายก็หยุด หันไปถามลูกน้องที่นั่งรวมกันอยู่ในห้อง
"สรุป ไม่มีไอเดียใหม่กันแล้วใช่ไหม"
"ไม่มีแล้วครับ นี่ก็ระดมกันมาทั้งบริษัท เค้นสมองคิดกันเต็มที่แล้วนะครับ" บับเบิ้ลบอก
"คิดเต็มที่ แต่มันยังไม่ดีพอ"
เจ๊สาบอก "แล้วจะให้ทำยังล่ะคะ พวกเราไม่ใช่ครีเอทีฟนี่นา"
"ไม่ใช่ก็ต้องคิดให้ออก ไม่อย่างนั้นคงไม่ทางอื่น"
"ยังไงเหรอคะ" นับดาวถามอยากรู้
"มีทางเดียว ปิดบริษัท"
ทุกคนหน้าเสีย ร้อง "หา !"
บับเบิ้ลบอก "ไม่ได้นะครับ ปิดบริษัทแล้วพวกผมจะไปทำอะไรกันล่ะ"
"นั่นสิคะ ผัวหนึ่ง ลูกสาม แมวห้า หมาสี่ จะอยู่กันยังไงล่ะคะ" เจ๊อูนว่า
"ยอมรับเถอะ ว่าเราไปต่อไม่ไหวแล้ว"
"อย่าเพิ่งสิ้นหวังสิคะ ตราบใดที่เรายังไม่ยอมแพ้ เราก็ยังไม่แพ้" เจ๊สาหันไปบอกทุกคน "เร็ว ! ช่วยกันคิด"
ทุกคนก้มหน้าก้มตาคิด ยักษ์มองอย่างมีกำลังใจขึ้นมา ทันใดนั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขารีบกดรับ
"สวัสดีครับ ‘ไจแอ้นต์แอนด์เจเน็ต’ ยินดีรับใช้ครับ"
ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองยักษ์
"อะไรนะครับ รออีกหน่อยไม่ได้เหรอครับ รับรองพรุ่งนี้เช้า พวกผมมีไอเดียเด็ด ๆ ไปนำเสนอแน่ ... รอไม่ได้แล้วเหรอ ... หา ! ให้คนอื่นทำไปแล้ว ... ครับ ผมเข้าใจครับ สวัสดีครับ"
ยักษ์วางโทรศัพท์ลงเหมือนคนหมดสิ้นเรี่ยวแรง ก่อนบอกกับทุกคน
"ไม่ต้องคิดต่อแล้ว ลูกค้ารายสุดท้ายที่เรามี หลุดไปแล้ว"
ทุกคนหน้าเหวอ พูดไม่ออก
"ท่าทางเราคงต้องปิดบริษัทกันจริง ๆ แล้วล่ะ"
ทุกคนเงียบเสียงอย่างเศร้าสลด จนกระทั่งมีเสียงดังขึ้น
"แค่นี้ก็ตัดใจยอมแพ้กันแล้วเหรอ"
เจนเดินเข้ามา ตามมาด้วยพุฒิ ซูซี่ และพิงก์
"ที่รัก !"
เจนยืนยัน "ไจแอ้นต์แอนด์เจเน็ต จะไม่มีทางปิดตัวง่าย ๆ หรอก"
"แต่เราไม่มีลูกค้า ไม่มีงาน แล้วไม่มีเงินเหลือแล้วนะจ๊ะที่รัก"
"นั่นมันอดีต ตอนนี้เรากำลังจะมีทุกอย่างอีกครั้งแล้ว"
ยักษ์และทุกคนในห้องดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที
"แสดงว่าเราได้งานแล้วเหรอที่รัก"
"ถูกต้องค่ะ"
ทุกคนยิ้มร่า ส่งเสียงเฮออกมาอย่างพร้อมเพรียง "เย่ !"
เจ๊อูนบอก "เยส ! ผัวหนึ่ง ลูกสาม แมวห้า หมาสี่ รอดแล้ว !"
เจนบอกกับทุกคนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"งานนี้เราจะทำงานแบบนินจา หลบอยู่ในเงามืด ไม่เปิดเผยตัวเอง ว่าเราอยู่เบื้องหลังการประกวด"
ยักษ์ถาม "ทำไมต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อย่างนั้นด้วยล่ะจ๊ะที่รัก"
"เราเชื่อว่าในงานนี้ ถ้าพวกสมุนธงรบปรากฏตัวออกมา เราก็พร้อมที่จะต้อนรับพวกเขา" พิงก์บอก
"สรุปว่างานนี้เราได้ทั้งเงินค่าจัดงาน แล้วยังได้ตัวผู้ร้ายอีกด้วย"
ซูซี่บอก"ถูกต้องค่ะ เพราะอย่างงี้ ทุกอย่างจึงต้องเป็นความลับ"
"บอกตามตรงนะ ว่าเจ๊ชักห่วง ๆ การจัดฉากให้เคนจำที่ซ่อนของให้ได้ แล้วถ้าสมุนไททันที่เหลือหรือพวกที่มีส่วนเกี่ยวข้องคิดมาแย่งแฟลสไดร์วจริงๆ มันจะวุ่นวายโกลาหลน่าดูนะคะ" เจ๊สาว่า
บับเบิ้ลบอก "แต่ถึงจะวุ่นวายโกลาหลยังไง ก็คงไม่เท่ากับการประกวดคราวก่อนหรอกครับ ยังไงคราวนี้ ผมก็ไม่ยอมเสียโอกาสหรอก"
"หมายความว่าไง บับเบิ้ล" พิงก์ถาม
"ใช่ บับเบิ้ล หมายความว่าไง"
เคน พิงก์สนใจกับข้อมูลที่บับเบิ้ลกำลังจะบอก
"ก็หมายความว่าโอกาสที่เป็น ‘ดาวจรัสหรูยูโทเปีย’ น่ะสิ รู้ไหมผมน่ะใฝ่ฝันตั้งแต่เห็นยูซ่าสวมมงกุฎแล้ว" บับเบิ้ลโพสท่าสวยเร่ด "ถึงเวลาแล้วที่ดาวดวงใหม่จะฉายแสง"
เจ๊อูนถาม "เดี๋ยวนะ ขออีกทีซิ ใครจะฉายแสงเหรอ บับเบิ้ล"
"อย่าบอกว่าเธอจะลงประกวดด้วย....เธอ..ใช่..เหรอ" เจ๊สาว่า
"ปล่าว ผมไม่ใช่ครับ ผมยังแมนทั้งแท่ง เจ๊หว่างเขามีบุญคุณกับผม ถ้าเขาอยากไห้ผมช่วยนะครับ ผมก็ต้องช่วยเขาใช่ไหมครับ"
"แต่มันอันตรายนะบับเบิ้ล"
"ไม่ต้องห่วง...พวกเราเอาอยู่"
"ใช่แล้วพวกเราทุกคนจะปลอมตัวทำงาน ในนามบริษัทใหม่ที่มีชื่อว่า ..." พุฒิพูดขึ้น
"Don’t Sleep Agency" เจนว่า
ทุกคนยิ้มรับกับชื่อใหม่ แม้แต่บับเบิ้ลที่บ่นทีเล่นทีจริง
"ฟังจากชื่อ สงสัยงานนี้คงไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันแหง ๆ"
ต่อมา เจนเปิดแผนผังของยูโทเปียให้ทุกคนดู และบอกกับทุกคน
"งานนี้เราจะให้มีอะไรผิดพลาดไม่ได้ โดยเฉพาะเธอ เคน"
เคนยังดูลำบากใจ หันหลบสายตา พิงก์มองเคนแล้วเรียกเหมือนเตือนสติ
"เคน"
"ครับพี่เจน ผมจะพยายามให้ดีที่สุด"
"ดีมาก ... เคน พี่สัญญา ว่านี่จะเป็นภารกิจสุดท้าย เสร็จภารกิจนี้ ทุกคนจะได้มีชีวิตตามแบบที่ตัวเองต้องการ ส่วนคนอื่น เข้าใจหน้าที่ของตัวเองดีแล้วนะ"
"ค่ะ/ครับ"
เคนก้าวเข้ามาในห้องขังพิเศษที่จัดทำขึ้นมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ พิงก์เดินตามมา
"เคน คิดอะไรอยู่เหรอ"
เคนหันมาตอบพิงก์
"คิดถึงคำพูดของพี่เจนน่ะ พี่เจนบอกว่าหลังจากภารกิจสุดท้าย เราจะได้มีชีวิตตามแบบที่เราต้องการ แต่ผมยังนึกไม่ออกเลย ว่าผมจะมีชีวิตแบบนั้นได้ไง ตราบใดที่ King Crow กับยูซ่ายังไม่ไปจากตัวผม ... ทุกคืน ผมยังต้องขังตัวเองเอาไว้ เพราะกลัวว่า King Crow จะออกไปทำเรื่องบ้า ๆ อะไรอีก"
พิงก์มองเคนอย่างเข้าใจและเห็นใจ
"เคน อย่ายอมแพ้นะ เพราะถ้าเคนเอาชนะ King Crow ที่อยู่ในตัวเคนไม่ได้ เคนก็จะต้องทนอยู่กับความกลัวไปชั่วชีวิต"
เคนพยักหน้าอย่างครุ่นคิด
... ประตูห้องขังพิเศษถูกดันปิดล็อก เคนนั่งลงครุ่นคิดตามลำพัง
วันนั้น ... ที่สนามมวยใต้ดิน
เฮียชัยรวบรวมความคิดก่อนบอกกับเคน
"ถ้าจะบอกตรง ๆ คนอย่าง King Crow ไม่มีจุดอ่อนหรอก ใครก็ล้มเขาไม่ได้"
เคน พิงก์ และพุฒิหน้าเจื่อนกับคำตอบที่ได้รับ
"แต่ก็ไม่แน่นะ อาจมีคนที่รู้จุดอ่อนของเขาก็ได้"
"ใครกันเหรอคะ"
"ตัว King Crow เองไง"
เคนเงยหน้าขึ้นมาเหมือนคิดอะไรออก เขาพยักหน้ากับตัวเอง
"ใช่แล้ว"
เคนเดินมาข้างนอกฟีนิกซ์ หน้าตามุ่งมั่น เคนกดโทรศัพท์
"เฮียชัยเหรอครับ ผมอยากไห้เฮียช่วยหน่อย"
เคนยืนอยู่คนเดียวหน้าตึกใหญ่โต
คืนนั้น เฮียชัยก้าวขึ้นไปกลางเวที
"เพื่อน ๆ ยังอยากมันกันอยู่ไหม !"
คนดูส่งเสียงเฮสนั่นแทนคำตอบ
"วันนี้เรามาเอ้าติ้งกันเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศตามคำขอของแชมป์ของเราตลอดกาล แต่ตอนนี้เขามาในชื่อใหม่ เคน"
เคนก้าวขึ้นมาบนเวที เก้ ๆ กัง ๆ อย่างคนไม่เคยขึ้นเวที
คนดูมองอย่างแปลกใจ
คนดูบอก "นั่นมัน King Crow นี่หว่า"
ในกลุ่มคนดู พิงก์ยืนดูอย่างเอาใจช่วย จนกระทั่งซูซี่แทรกคนเข้ามายืนข้าง ๆ
กลางเวที เฮียชัยพูดต่อ
"และนักสู้ที่จะขึ้นมาถล่มกับ เคน ให้ยับกันไปข้างก็คือ จอมหักกระดูกคนเดิม Bone Breaker"
คนดูส่งเสียงเฮลั่น
Bone Breaker ก้าวขึ้นมาบนเวที และเข้าไปจ้องหน้าเคนอย่างดุดัน เคนมองแบบกล้า ๆ กลัว ๆ
"คิดว่าเปลี่ยนชื่อแล้ว ไอ้ที่แกเคยทำอะไรฉันไว้ จะหายกันหรือไง วันนี้แกตายแน่ !"
"พูดมาก ไม่เจ็บคอหรือไง" เคนถาม
สิ้นคำพูดของเคน Bone Breaker ก็ยื่นมือไปบีบคอเคนไว้ เคนหน้าตาตื่น
เคนกับ Bone Breaker ต่อสู้กันโดยที่เคนเป็นรองในเรื่องพละกำลังและความอึด แต่เขาพลิ้วพอที่จะหลบหลีก Bone Breaker ไปได้หลายครั้ง จนในที่สุดเคนก็ถูก Bone Breaker จับล็อก แล้วทุ่มกระแทกกับพื้น ลงไปกองลุกไม่ขึ้น
"โอ๊ย"
Bone Breaker เดินเข้าไป ยิ้มเหี้ยมกับชัยชนะของตัวเอง "ฮึ ๆๆๆ"
เขาก้าวไปอย่างไม่รีบร้อน เพราะรู้ดีว่ายังไงเกมนี้ต้องจบด้วยชีวิตเคน หรืออย่างน้อยก็ทำให้เขาต้องพิการไปทั้งชีวิต
เคนพยายามลุก แต่ลุกไม่ขึ้น
Bone Breaker ก้าวไปถึงร่างเคน แต่เขายังต้องการเสียงของคนดู
เขาหันไปเปร่งพลังอวดคนดูรอบสังเวียน
Boneเปล่งเสียง พร้อมท่า "อ้า..."
ผู้ชมต่างเฮลั่นด้วยความชื่นชมและสะใจ
แต่แล้วในจังหวะที่ Bone Breaker หันไปหาคนดู เคนที่กองอยู่ด้านหลังเขาก็ลุกขึ้นช้า ๆ ทว่าใบหน้าของเคนตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็น King Crow ไปเสียแล้ว
"ดีใจอะไรเหรอวะ ไอ้กระดูกหัก"
Bone Breaker หันมามองจ้อง
"จอมหักกระดูกโว้ย"
"ไม่จริงหรอก"
King Crow พูดแล้วพุ่งเข้าใส่ Bone Breaker ทันที อาการเจ็บปางตายเมื่อกี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง
King Crow ซัด Bone Breaker อย่างต่อเนื่อง จนในที่สุด Bone Breaker ก็หมดสภาพ ลงไปกองกับพื้น
King Crow ชูสองมือรับเสียงโห่ร้องของคนดูที่พากันสะใจ
เฮียชัยก้าวเข้าไปหา King Crow
"และผู้ชนะก็คือ King Crow" แล้วชัยก็นึกได้ "ไม่ใช่สิ เคน"
ไม่ว่าชื่อไหนคนดูก็ยังส่งเสียงเฮสะใจเหมือนเดิม
King Crow ยืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง คิงโครว์หันไปเห็นเคนแล้วหันกลับสีหน้าวิตก เพราะทุกครั้งที่เคนมีความจำเพิ่มขึ้น ตัวบุคลิกแฝงก็จะเลือนลางไปเรื่อยๆ จุดเชื่อมต่อที่ชัดที่สุดคือหมัด 3 หมัดที่คิงโคร์วโดนธงรบต่อยก่อนจะหมดความจำ แล้วอยู่ ๆ ก็เหมือนตัวตนของ King Crow หลุดออกจากร่าง ใบหน้าเขางวยงง ร่วงไปนอนกับพื้น เฮียชัยเขาไปประคอง
"เคนๆๆ"
เคนค่อยๆตื่นเห็นเฮียชัยลางๆ เคนค่อยพยุงตัวขึ้น
"เคน เป็นยังไงมั่ง ได้คำตอบที่ตัวเองต้องการไหม"
"ครับ ผมว่าผมรู้แล้วล่ะ ว่าจะเอาชนะ King Crow ได้ยังไง"
เฮียชัยงงๆ แต่สีหน้าเคนดูมุ่งมั่น
ประตูห้องเปิดออก พิงก์วิ่งเข้ามากอดเคน
"เคนเป็นไงมั่ง"
"ผมโอเค ผมคิดว่าผมรู้ว่าจะทำยังไงไห้ชนะคิงโคร์ว"
"ดีจัง ไม่แน่นะ ความทรงจำของเคนอาจกลับมาโดยไม่ต้องขึ้นเวทีประกวด ‘ดาวจรัสหรูยูโทเปีย’ ก็ได้"
"ถ้าอย่างนั้นได้ก็ดีน่ะสิ"
"ว่าแต่...เคนจำอะไรได้บ้างหรือยังล่ะ"
พิงก์เข้าประชิดตัวเคน เคนมองอย่างรู้สึกแปลกใจ ก่อนตอบ
"ยังเลย"
พิงก์มองแบบดูพิรุธว่าเคนปดหรือเปล่า "โอเค เรายังพอมีเวลา"
เคนเอะใจ "เวลาอะไรเหรอ"
พิงก์ตกใจ ว่าหลุดเรื่องเวลาที่หัวหน้าให้ไว้ไป เลยรีบกลบเกลื่อน " เปล่า... ก็เวลาที่พวกนั้นจะรู้เรื่องธงรบ แล้วส่งคนมาตามล่าเราน่ะ"
เสียงข้อความเข้ามา พิงก์ก้มลงดู หน้าเปลี่ยน
"ใครเหรอ"
"เจ๊สาอ้ะ นางไปเจอร้านอาหารใหม่เข้า เลยชวนไปกิน"
พิงก์ผละจากเคน เดินไปหยิบผ้าขนหนูพาดบ่า
"ร้อนจังเลย พิงก์ขออาบน้ำก่อนนะ"
เคนมองอย่างตะขิดตะขวงใจ ก่อนตอบ "ฮือ"
พิงก์เดินออกไป เคนยังคงมองด้วยสีหน้าครุ่นคิด
พิงก์เข้ามาอย่างร้อนใจ เธอยกมือถือขึ้นกด โทรออก
"หัวหน้า ทำไมถึงได้เปลี่ยนแปลงคำสั่งล่ะคะ"
หัวหน้าของพิงก์ตอบนิ่ง ๆ
"ตอนนี้เรามั่นใจแล้ว ว่าเคนเป็นสายลับสองหน้า ถ้าไม่รีบจัดการเขา เขาจะหนีไปอีกครั้ง พร้อมด้วยแฟลชไดรฟ์"
"แล้วถ้าเขายอมมอบแฟลชไดรฟ์ให้เราดี ๆ ล่ะ"
"ยังไงเคนก็ยังเป็นตัวอันตรายที่เราเก็บไว้ไม่ได้ เราจำเป็นต้องฆ่าเขา ถึงคุณไม่ทำ ก็จะมีคนอื่นทำ และถ้าเป็นแบบนั้น เราคงปล่อยคุณไว้ไม่ได้เช่นกัน"
หัวหน้ากดวางสาย
พิงก์ยืนเครียด เธอกดดูข้อความคำสั่งอีกครั้ง - "Prove you’re not attaced to the subject KILL HIM"
ทันใดนั้นเอง ประตูห้องน้ำเปิดออก พิงก์ตกใจ
"ห่ะ !"
เคนมองแล้วยิ้มขำ ๆ
"ผมเอง ตกใจอะไรพิงก์ เออ แล้วนี่ทำไมยังไม่อาบน้ำอีกล่ะ"
"ก็เจ๊สาน่ะสิ โทรมาตื้อจะให้ไปกินร้านนั้นอยู่ได้ แล้วเคนล่ะ เข้ามาทำไม ทำพิงก์ตกใจแทบแย่เลยรู้ป่ะ"
"อ้าว เคนก็ร้อน เหนียวตัว แล้วก็อยากอาบน้ำเหมือนกันนี่ เคนว่า...เรามาอาบด้วยกันเลยดีกว่า"
"ไม่เอาอ้ะ ขออาบสบาย ๆ ดีกว่า"
"เหอะน่า"
เคนดึงมือถือไปจากมือพิงก์ แล้ววางลงตรงหน้ากระจก
ข้อความ Kill the Rabbit สะท้อนอยู่ในกระจก
พิงก์เหล่ตามองข้อความ แต่เคนไม่เลิกตื้อ
"ไป"
เคนดึงมือพิงก์ แล้วเราก็ได้ยินเสียงฝักบัวราดลงบนร่างของคนทั้งสอง
คืนประกวด ด้านหน้าบาร์ยูโทเปีย ประดับประดาด้วยแสงไฟสวยงาม แสงไฟสาดส่อง ผู้คนทยอยเข้าสู่งาน
นับดาวทำหน้าที่พิธีกร
"อีกไม่กี่นาทีแล้วนะคะ ก็จะถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย การประกวดสุดยอดนางโชว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสามโลก ‘ดาวจรัสหรูยูโทเปีย’ และนี่คือโฉมหน้าผู้เข้าประกวด ที่กำลังตั้งตารอขึ้นสู่เวทีด้วยความตื่นเต้นค่ะ"
กลุ่มผู้ประกวดที่ล้วนแต่แต่งหน้าแต่งตัวกันเต็มที่ โดยเฉพาะบับเบิ้ลที่แปลงเป็นนางโชว์แบบเว่อร์วังอลังการสุด ๆ ทั้งหมดยิ้ม ส่งจูบ โบกไม้โบกมือเล่นกับกล้อง
มีพนักงานชายแปลกหน้า2-3คน เจ๊หว่างเอะใจว่าคนเก่าๆ หายไปไหน
เคนสวมชุดเดียวกับตอนที่ชนะการแข่งขัน เจ๊หว่างส่งมงกุฎให้เคน
"พร้อมนะลูกสาวแม่"
เคนรับมงกุฎมาก่อนตอบ
"พร้อมค่ะคุณแม่"
เฮียฮะบอกกับเจ๊หว่าง
"ไปกันเถอะฮะสว่าง"
เจ๊หว่างมองเคนอย่างรักและชื่นชม ก่อนที่จะหันหลังเดินไป พิงก์เดินเข้ามา
เคนยิ้มให้พิงก์พยักหน้า
"คงถึงเวลาของยูซ่าแล้วสินะ"
เขาหันไปมองเงาสะท้อนในกระจก และพูดกับเงาสะท้อนแล้วเริ่มทำสมาธิจนเปลี่ยนเป็นยูซ่า ยูซ่าหันมามองพิงก์ พิงก์ยิ้มให้
"เคนเค้าเป็นคนดีมากนะ เค้ารักเธอมากนะพิงก์"
พูดจบเคนก็สวมมงกุฎเดินออกไปปล่อยให้พิงก์ยืนมองตัวเองในกระจก สับสนในความรู้สึก
ด้านในบาร์ กรรมการและแขกผู้ร่วมงานเข้าประจำที่หมดแล้ว
เจนและยักษ์ยืนคุมงานอยู่ที่แผงควบคุม
ยักษ์บอก "ทุกคนพร้อม งานจะเริ่มภายในห้าวินาที ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง เพลงมา"
พุฒิอยู่ที่แผงควบคุม กดเปิดเพลง พร้อมด้วยไฟ
บนเวทีเพลงเปิดตัวยิ่งใหญ่ พร้อมโชว์ไฟอย่างอลังการ เหล่านางโชว์ปรากฏตัวบนเวทีทีละคน จบด้วยการที่ทั้งหมดยืนโพสท่า ผู้ชมผู้เชียร์ปรบมือเกรียวกราว ในกลุ่มคนดูมีเจ๊สากับเจ๊อูนอยู่ด้วย
เจ๊สาชี้ไปที่บับเบิ้ล "นั่น บับเบิ้ลอยู่นั่น"
"ใช่ ๆ โห !"
เจ๊สากับเจ๊อูนส่งเสียงเชียร์สุดฤทธิ์
พิงก์อยู่ที่หน้าเวทีกับซูซี่ เจนอยู่ที่บาร์กับเจ๊หว่าง
เจ๊อูนกับเจ๊สาที่ส่งเสียงเชียร์เต็มพิกัด
"บับเบิ้ล ๆ เย่ !"
บับเบิ้ลและเหล่าผู้เข้าประกวด “ดาวจรัสหรู ยูโทเปีย” ที่เข้ารอบสุดท้ายยืนยิ้มกว้างอยู่บนเวที
เจ๊หว่างประกาศด้วยอาการตื่นเต้นยินดีอย่างที่สุด
"และผู้ที่ได้ครอบครองตำแหน่ง ‘ดาวจรัสหรู ยูโทเปีย’ ครั้งที่ 2 ได้แก่... ผู้เข้าประกวดหมายเลข 5 บับเบิ้ลค่ะ"
เสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือสนั่นหวั่นไหว
บับเบิ้ลก้าวเข้ามายืนข้างหน้า เกล็ดเงินเกล็ดทองรูปดาวดวงเล็ก ๆ ร่วงพรูลงมาที่ร่าง
เจ๊สากับเจ๊อูนปลาบปลื้ม จนเจ๊สาน้ำตาไหล
"และผู้ที่ให้เกียรติมอบมงกุฎให้แก่ผู้ชนะ ก็คือสุดยอดนางโชว์ผู้ชนะการประกวดครั้งแรก ยูซ่าค่ะ"
เสียงเพลงเปิดตัวยิ่งใหญ่อลังการ
ผู้ชมและคณะกรรมการยืนปรบมือต้อนรับ
ยูซ่าก้าวเข้ามายืนที่กลางเวที เสียงปรบมือยังต่อเนื่อง
เจนมองลุ้น ๆ ว่าการจัดงานครั้งนี้ จะได้ผลตามที่คิดไว้หรือเปล่า
ยูซ่านำมงกุฎ (คนละมงกุฎกับที่ตัวเองสวมอยู่) ไปมอบให้บับเบิ้ล
"ดีใจด้วยนะบับเบิ้ล"
บับเบิ้ลรับมงกุฎจากยูซ่า
ผู้ชมทั้งบาร์ยกกล้องขึ้นถ่ายอย่างพร้อมเพรียง
ยูซ่าถอยออกมายืนด้านหลังบับเบิ้ล ซึ่งโพสท่าให้ถ่ายอย่างเต็มที่
ข้างเวที พิงก์และซูซี่มองตรงไปที่ยูซ่า
"จะได้ผลไหมนะ" พิงก์ว่า
"เดี๋ยวก็รู้"
จังหวะนั้นเอง ก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน ผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างเก็บอารมณ์ไม่อยู่
"เชอะ นังเด็กเส้น เอามงมาเลยนะ"
ใครคนนั้นเข้าไปคว้ามงกุฎจากหัวบับเบิ้ล บับเบิ้ลหน้าเหวอ เช่นเดียวกับทุกคนบนเวทีและผู้ชม
"เฮ้ย ทำอะไรเนี่ยหล่อน เอาของฉันคืนมานะ"
ทั้งคู่ยื่อแย่งมงกุฎกันไปมา
"มงนี่ต้องมาลงที่ชั้น"
"ฝันไปเถอะนางปลวก"
เคน/ยูซ่า มองดูเหตุการณ์นั้นแล้วภาพอดีตย้อนกลับคืนมาอีกครั้ง
คืนนั้น ยูซ่าส่งมงกุฎให้เจ๊หว่าง
"คุณแม่คะ"
"อะไรกันยูซ่า มงกุฎนี่เป็นของหนูนะ"
"มงกุฎนี่มีค่ากับหนูมากค่ะ หนูเลยอยากให้คนที่หนูรักเคารพ เก็บรักษาเอาไว้ให้"
"จ้ะยูซ่า แม่จะเก็บไว้ให้ แต่ถ้าอยากได้เมื่อไรก็บอก มงกุฎนี่ยังคงเป็นของหนู"
"ขอบคุณค่ะคุณแม่"
เจ๊หว่างเอามงกุฎใส่ลงในกล่องที่จัดทำไว้เป็นพิเศษ ทันใดนั้นก็มีเสียงเอะอะ
เสียงเฮียฮะบอก "เข้าไม่ได้นะฮะ บอกแล้วว่าเข้าไม่ได้"
เจ๊หว่างกับยูซ่าหันไปมอง
ผู้เข้าประกวดคนหนึ่ง "อย่ามาขวางฉัน หลบไป"
เสียงผลักกันโครม เฮียฮะล้มลงมาในห้อง
"โอ๊ย !"
เจ๊หว่างรีบเข้าไปดูเฮียฮะ
"เฮีย ! เจ็บหรือเปล่า !"
"โอ๋ย ! นิดหน่อยอ้ะ"
ผู้เข้าประกวดเดินหน้าเหี้ยมเข้ามา
"นังยูซ่าอยู่ไหน"
ยูซ่าหันไปมองงง ๆ
"ฉันอยู่นี่"
เจ๊หว่างลุกพรวดทันที
"นี่หล่อน อยากตายหรือไง !"
"ฉันก็แค่มาเอาของของฉัน"
ผู้เข้าประกวดเดินไปที่หีบใส่มงกุฎ และยกขึ้นทันที
"เอามาเลยนะ"
ยูซ่ารีบแย่งไว้
"ไม่ได้"
"ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อมงกุฎนี่เป็นของฉัน หล่อนมันเด็กเส้น"
"พูดดี ๆ นะว่าใครเด็กเส้น"
"หล่อนนั่นแหละ"
ทั้งคู่ยื้อแย่งกัน จนหีบหลุดตกมือ ฝาเปิดออก ทุกคนต่างตกใจ "หา !"
ผู้เข้าประกวดเข้าไปจะหยิบ ยูซ่าเห็นฝาเปิด กลัวความลับรั่ว รีบเข้าไปกระชากชุดของผู้เข้าประกวด
"หยุดนะ"
พอผู้เข้าประกวดหันหน้ามา ยูซ่าก็กำหมัดชกเข้าไปที่หน้าอีกฝ่ายเต็ม ๆ หมัดเดียวก็ลงไปนอนสลบ
ยูซ่าหยิบกล่องขึ้นมาปิดฝา ก่อนที่จะรู้ตัวว่าเฮียฮะกับเจ๊หว่างยืนมองอยู่ จึงรีบพูดกลบเกลื่อน
"ใครก็เอาของเราไปไม่ได้ จริงไหมคะคุณแม่"
"ใช่จ้ะ ลูกสาวแม่"
ยูซ่าขาแน่ใจว่าภาพที่เห็นนั่นเองคือคำตอบความจำทั้งหมด ทำให้เคนจำที่อยู่ของแฟลชไดรฟ์ได้ จากยูซ่ากลายเป็นเคน เคนหันไปทางพิงก์
"พิงก์ผมรู้แล้วว่าแฟลชไดร์ฟอยู่ที่ไหน"
เคน/ยูซ่าเดินไป พิงก์ตามไปทันที จู่ๆแผงควบคุมไฟฟ้าระเบิด ไฟเวทีและในผับทั้งหมดก็ดับลง พุฒิ ซูซี่ เจนตกใจ
"พุฒิ พิงก์ ซูซี่ เกิดอะไรขึ้น"
"ไม่ทราบครับเหมือนมีคนทำให้ไฟช็อตแผงควบคุม" พุฒิบอก
"แล้วเคนกับพิงก์ล่ะ"
พุฒิมองซูซี่ให้ตามมาไปบนเวทีพยายามหาเคนและพิงก์แตไม่เจอ
"เคนกับพิงก์ไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ ผมหาไม่เจอ"
"ทุกคนแยกกันตามหาเคนกับพิงก์ให้เจอ"
ในบาร์ยูโทเปียเต็มไปด้วยความสับสนอลหม่านของผู้คนที่ตกใจ และทีมฟินิกซ์ที่ต้องตามหาเคนและพิงก์
เคน/ยูซ่าเดินเข้ามาในห้องแต่งตัว พิงก์ ซูซี่ และเจ๊หว่าง เดินตามมา
เคน/ยูซ่ามองหาอะไรบางอย่าง
"หาอะไรอยู่เหรอคะเคน"
"กล่องที่ใส่มงกุฎ"
"กล่องใส่มงกุฎ"
เคนเดินไปหยิบกล่องใส่มงกุฎ
เคนดึงกำมะหยี่ที่บุด้านในกล่องออก เขายิ้มเมื่อเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่
"ในที่สุด"
เคนชูแฟลชไดร์ฟขึ้นมา พิงก์มองแฟลชไดร์ฟอย่างตื่นเต้น
เคนส่งแฟลชไดรฟ์ให้พิงก์
"เอาไปสิ แล้วก็จบเรื่องซะ"
สีหน้าพิงก์เปลี่ยนเป็นแปลกใจ
"เคนพูดเรื่องอะไร"
เคนเฉลย "Kill him ผมรู้ว่านั้นหมายถึงผม"
พิงก์อึ้งไป ขณะที่เคนพูดต่อ
"ทุกอย่างที่คุณทำ ก็เพื่อที่ให้ได้ข้อมูลนี้เท่านั้น ระหว่างเรามันไม่ได้มีความหมายอะไรหรอก"
พิงก์อึ้งไป ขณะที่เคนพูดต่อ
"ถึงเวลาที่คุณจะจบภารกิจของคุณแล้ว ลงมือเถอะ เพราะถึงคุณไม่ทำ ก็จะมีคนทำอยู่ดี ถ้าผมต้องตายผมหน้าคุณคือสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากเห็น"
ด้านหลังราวเสื้อผ้า มือสังหารหลบมองดูอยู่
"และถ้าเป็นอย่างนั้น จะไม่ใช่แค่ผมชีวิตเดียวที่ต้องตาย แต่จะเป็นคุณอีกคน ที่ต้องมาจบชีวิตเพราะไอ้เรื่องบ้า ๆ นี่"
พิงก์เองก็รู้ว่ามีคนซุ่มดูอยู่ เธอยกปืนขึ้นเล็งตรงไปที่เคน
"พิงก์ผมขอร้อง นี่ถือว่าเป็นการช่วยผม สัญญาว่าผมจะไม่จากไปอย่างโกรธแค้น ผมยังรักคุณ และดวงวิญญาณของผมก็จะรักคุณตลอดไป"
พิงก์พูดไม่ออก สับสนไม่หมด น้ำตาไหลพราก
ทันใดนั้น ประตูก็เปิดออก ซูซี่ เจน พุฒิเข้ามาพร้อมปืน
"หยุดเดี๋ยวนี้" เจนสั่ง
"พี่เจน ผมขอร้องล่ะ นี่เป็นเรื่องระหว่างผมกับพิงก์ ปล่อยให้พิงก์ทำงานของเขาให้เสร็จ แล้วหลังจากนั้น พวกพี่จะทำยังไง ก็ตามใจ"
"ไม่ ! วางปืน และส่งแฟลชไดร์ฟมาเดี๋ยวนี้"
จังหวะนั้นเอง มือสังหารที่ซ่อนอยู่ก็ขยับออกมา พร้อมปืนที่ยกขึ้นจะยิงทุกคน
เคนเหลือบมองแล้วตะโกนลั่น
"ทุกคนระวัง"
เขากระโจนเข้าไปปัดปืนทันที เสียงปืน ปัง !
กระสุนเข้าที่แขนเจน
"โอ๊ย !"
เจนถึงกับเซไปด้วยแรงกระสุนที่พุ่งใส่ พุฒิกับซูซี่รีบเข้าไปดูเจน
"พี่เจน /คุณเจน"
ในเวลาเดียวกัน เคนก็เข้ายื้อแย่งปืนจากมือสังหารอย่างสุดชีวิต
พิงก์ยืนมองอย่างสับสน
เมื่อไม่เห็นจังหวะที่จะฆ่าเคน มือสังหารตะโกนบอกพิงก์
"ฆ่ามัน ! ฆ่ามัน !"
พิงก์ยังคงยืนเล็งปืนอย่างสับสน จนกระทั่งซูซี่เข้ามาเล็งปืนขู่ห้ามพิงค์
"อย่านะพิงก์"
พิงก์เหล่ตามองซูซี่ แล้วจังหวะนั้นเอง เธอก็หมุนตัวเข้าหาซูซี่ จับซูซี่หมุนตัวไปกับเธอ แล้วหันปืนกลับไปทางเคนกับมือสังหารอีกครั้ง ก่อนลั่นไกปืนออกไป ปัง !
ทุกคนตะลึง
"หา !" พุฒิร้อง
"ไม่ ! ไม่ !" ซูซี่กรีดร้อง
เคนกับมือสังหารยืนนิ่ง มือสังหารยิ้ม แต่กลับเป็นมีเลือดทะลักออกมาจากปากเขา แล้วเขาก็ไหลล้มลงไปดังโครม เคนหันไปมองพิงก์
พิงก์มองเคนด้วยสายตาอำลา แล้วผลักซูซี่ออกไป ก่อนที่จะหันหลังวิ่งหนี
เจนนั่งเจ็บอยู่ตะโกนลั่น
"ตามตัวมาให้ได้ !"
ขณะที่พุฒิยังลังเล มองเคน ซูซี่เดินมาพยุงเคน
"ไปซี่ !" เจนสั่ง
"ครับพี่เจน"
พุฒิวิ่งตามไปอีกคน ขณะที่เคนยืนนิ่งอย่างหมดอาลัยตายอยาก เขามองไปที่เจน
เจนมองเคนด้วยสายตาผิดหวัง
ในห้อง เจนใช้ผ้าพันแขนตัวเองไว้ พุฒิกับซูซี่กลับเข้ามา
เคนตามคนอื่น ๆ เข้ามา
พุฒิบอก "ผมว่าเรารีบประสานไปทางหน่วยงานของพิงก์เถอะครับ อย่างน้อยเราก็น่าจะอ้างได้ว่า นี่เป็นภารกิจร่วม ข้อมูลที่ได้มา เราก็ควรจะมีส่วนด้วย"
"ฉันติดต่อไปแล้ว"
"แล้วทางนั้นว่ายังไงครับ"
"เขาบอกว่าพิงก์ไม่ใช่คนของเขาแล้ว พวกเขาบอกว่า ตอนนี้พิงก์ได้อยู่ในรายชื่อผู้ทรยศแล้ว และกำลังส่งกำลังตามหาพิงก์อยู่"
เคน พุฒิ และซูซี่ต่างมีสีหน้าตกใจ
ซูซี่สงสัย "ถ้าอย่างนั้นพิงก์เป็นพวกไหนกันคะ"
"พิงก์คงเป็นสายลับสองหน้า หรือที่แย่กว่านั้น พิงก์อาจทำงานให้กับใครบางคนในไททัน"
"แต่ธงรบมันตายไปแล้วนี่ครับ"
"องค์กรผู้ร้ายข้ามชาติใหญ่ขนาดนี้ ป่านนี้คงมีคนมาแทนธงรบ ไปแล้ว"
พุฒิถาม "ใครเหรอครับ"
"ทางเดียวที่เราจะรู้คือ ต้องตามตัวพิงก์ให้เร็วที่สุด ซูซี่ เคน ขอฉันคุยกับพุฒิตามลำพัง พวกเธอไปพักผ่อนได้แล้ว"
ซูซี่ เคนรับคำแล้วเดินออกไป
"เฝ้าจับตามองเคนอย่าให้คลาดสายตา"
พุฒิมองหน้าเจนเหมือนจะพยายามอธิบายแทนเคน เจนเอาคลิปที่คิงโคร์วกับพวกธงรบจัดการพ่อค้ายาเสพติด
"ฉันเข้าใจว่าเธอคิดว่าเค้าเป็นเพื่อน แต่สายลับอย่างเราต้องแยกแยะระหว่างเรื่องส่วนตัวกับงาน และถ้าฉันคิดไม่ผิด เค้าและพิงก์อาจร่วมมือกันหลอกให้เรากำจัดธงรบจริงๆ อย่างที่หน่วยงานของพิงก์บอกก็ได้ เพื่อที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าไททันแทน"
พุฒิอึ้ง
"ฉันไว้ใจเธอได้ใช่ไหม ว่าเธอจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ"
"ครับ"
พุฒิเดินออกจากห้องไป เจนยิ้ม
เคนเดินพล่านอยู่ในห้องขังพิเศษ
เคนกำหมัดต่อยไปที่ผนังอย่างหงุดหงิด
ซูซี่เดินเข้ามามองเคนอย่างเข้าใจความรู้สึก
"เคน อย่าโทษตัวเองเลย ที่พิงก์ทำแบบนี้ ไม่ใช่ความผิดของคุณ"
เคนหันขวับมาหาซูซี่
"เค้าทำแบบนี้ทำไม เค้าเป็นใคร"
"เราทุกคนล้วนมีความลับ มีมุมที่ไม่เคยเปิดเผย แม้แต่กับคนที่ตัวเองรัก"
"รักเหรอ ? ผมรู้แค่ว่าผมรักเค้า"
"ค่ะ ฉันเข้าใจ"
ทั้งสองต่างยืนนิ่ง ไม่พูดอะไรอีก
ในที่ลับตาคน รถจอดอยู่ พิงก์เดินเข้ามา ประตูรถเปิดออก หัวหน้าเดินออกมา พร้อมด้วยลูกน้องในชุดสูทสองคน
"ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้"
"เป็นแบบไหนเหรอคะ นี่ไง" พิงก์เอาแฟลชไดรฟ์ออกมา แฟลชไดรฟ์ที่หัวหน้าต้องการ มาเอาไปสิคะ"
"ทำไมคุณถึงไม่ฆ่ามันซะ"
"บอกตามตรง ฉันยังไม่เข้าใจภารกิจนี้ เคนทำผิดอะไร มีหลักฐานอะไรยืนยันได้ว่าเขาเป็นสายลับสองหน้า"
"คุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจ แค่ทำตามคำสั่ง"
พิงก์นิ่งคิดก่อนที่จะพูดต่อ "หรือว่าเคนกำความลับอะไรไว้ หัวหน้าถึงต้องหาทางปิดปากเขา"
"พอได้แล้ว นี่คุณกำลังกำลังล้ำเส้นรู้ไหม ... ส่งแฟลชไดรฟ์นั่นมา"
"ค่ะ เอาแฟลชไดรฟ์ไป แล้วจบกันซะที"
พิงก์ยื่นแฟลชไดรฟ์ให้หัวหน้า แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงตะโกนเข้ามา
"อย่า !"
มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็พุ่งเข้ามาจอด
ทั้งหมดหันไปมอง คนขับเปิดหมวกกันน็อคออก ทำให้เห็นว่าเป็นจอร์ช
"จอร์ช !"
"อย่าให้ข้อมูลเขาเด็ดขาด"
"ฆ่าพวกมันทั้งคู่" หัวหน้าสั่ง
มือปืนในชุดสูททั้งสองหันปืนเข้าหาจอร์ชและพิงก์
แต่จอร์ชปิดคันเร่งพุ่งเข้าใส่หัวหน้า จนเขาเสียหลักหงายไป
"เร็วขึ้นมา"
พิงก์กระโดดขึ้นซ้อนท้ายจอร์ช แล้วมอเตอร์ไซค์ก็พุ่งออกไป ขณะที่ปืนของชายในชุดสูทยิงไล่ตามหลังไปหลายนัด
หัวหน้าลุกขึ้นมาด้วยความโกรธ
"โธ่เว้ย !"
พุฒิเดินไปมาในห้องอย่างสับสน คิดถึงเรื่องที่ผ่านมา จนกระทั่งมีเสียงเรียก
"พุฒิ"
พุฒิหันไป
"ว่าไงครับคุณซูซี่"
ซูซี่เดินเข้ามา และปิดประตู เพื่อให้การพูดนี้เป็นความลับ
"พี่เจนมีความลับอะไรเหรอคะ ถึงต้องพูดกับพุฒิตามลำพัง"
พุฒิพยายามกลบเกลื่อน "ก็ไม่อะไรหรอกครับ แค่เรื่องส่วนตัวของผมน่ะ"
"ไม่จริงหรอกค่ะ คนอย่างพี่เจนไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัว ... เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเคน หรือไม่ก็ฉันใช่ไหม"
พุฒิมองหน้าซูซี่แบบจนมุม
"ไม่เกี่ยวกับคุณหรอก"
"ถ้างั้นก็เกี่ยวกับเคน"
"ครับ พี่เจนเชื่อว่าพิงก์กับเคนรวมหัวกัน หลอกให้เราจัดการกับธงรบ เพื่อที่จะขึ้นมาเป็นใหญ่แทน"
"เป็นไปไม่ได้ ก่อนที่พิงก์จะหนีไป เราทุกคนก็เห็น ว่าพิงก์กำลังจะยิงเคน"
"เราไม่รู้หรอกครับว่าเกิดอะไรขึ้นแน่ บางทีหลังจำกัดธงรบได้แล้ว เคนกับพิงก์อาจตกลงกันไม่ลงตัว มันก็เลยเป็นอย่างที่เราเห็น"
"ถ้างั้นเคนก็สายลับสองหน้าด้วยเหรอ"
"ตอนนี้อะไร ๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละ คุณลองคิดดูสิ ว่าคิงโครว์ที่คุณรู้จักเมื่อสองปีก่อน กับคิงโครว์ตอนนี้ เหมือนกันหรือเปล่า"
ซูซี่นิ่งคิดก่อนตอบ "ไม่ คิงที่ฉันรัก ไม่ได้ดุร้ายเหมือนกับคิงโครว์ตอนนี้"
"เป็นไปได้ไหม ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนนั้น เคนก็แค่แสดงละคร เพื่อให้เข้าถึงข้อมูล เขาหลอกทุกคน แม้แต่คุณ เขาก็แสร้งทำเป็นรัก เพื่อหลอกใช้งาน"
ซูซี่เสียงแข็ง โกรธเมื่อถูกจี้จุด "เป็นไปไม่ได้ เขารักฉัน"
พุฒิหงุดหงิดขึ้นมาทันที
"ไม่แน่ เขาอาจไม่ได้หลอกคุณ แต่คุณเองที่หลอกตัวเอง ว่าเขารัก คุณแยกไม่ออกว่าใครกันแน่ที่รักคุณ"
"ในชีวิตฉัน ไม่เคยมีใครรักฉันมากเท่าเขา"
"ผมนี่ไง" พุฒิดึงซูซี่เข้ามา "แค่คุณไม่เคยมองเห็นความรักของผมเท่านั้นแหละ"
พุฒิพยายามจะจูบซูซี่ ซูซี่ผลักออก แล้วตบเข้าที่หน้าของเขาดังฉาด
"เลิกบ้าได้แล้ว"
แล้วซูซี่ก็เดินออกจากห้องนั้นไป ทิ้งให้พุฒิยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก
ซูซี่เดินไปมาในห้อง สับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น คิดถึงอดีต ตอนเคนตื่นขึ้นมาที่เตียงแล้วตกใจที่เจอซูซี่ คิงโคร์วตอนอยู่กับซูซี่ คิงโคร์วตอนหลังที่บ้าระห่ำ ซูซี่หันมามองเห็นหน้ากากเหล็กที่วางอยู่
ซูซี่เดินมาหยิบหน้ากากเหล็กขึ้นมามองอย่างครุ่นคิด แล้วนึกอะไรบางอย่างออก
พุฒิคิดถึงเรื่องเก่าๆ ที่เขากับซูซี่สวีทกัน แล้วก็ยิ้มกับตัวเอง
"ไอ้พุฒิ ไอ้โง่"
พุฒิยิ้ม แล้วก็เดินพรวดออกไป
ซูซี่เดินเข้ามาในห้องเคน เคนลุกขึ้นนั่ง
"ซูซี่ มีอะไรหรือปล่าว เราไปคุยกันข้างนอกไหม"
ซูซี่รู้ว่าเคนกำลังเข้าใจผิด
"เคนไม่ต้องห่วงหรอก ซูซี่รู้แล้วว่าตอนนี้หัวใจซูซี่อยู่ที่ใคร แต่ไม่รู้เขาจะรู้หรือเปล่า"
เคนยิ้ม
"ยินดีด้วยนะ"
ซูซี่ยิ้มตอบ แล้วก็หยิบหน้ากากเหล็กมาไห้เคนดู
"เคนจำมันได้ไหม"
ก่อนที่ซูซี่จะถาม เคนเหมือนอยู่ในภวังค์ ภาพอดีตตอนที่เคนโดนซ้อม จากหน้ากากเหล็ก วิ่งผ่านเข้ามาในหัวอย่างเร็ว จนเห็นเคนโดนหน้ากากเหล็กต่อยสามครั้ง แล้วหน้ากากเหล็กก็ถอดหน้ากากไห้เห็นเป็นธงรบ
"ธงรบ"
อ่านต่อตอนที่ 19