xs
xsm
sm
md
lg

พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 17 : “เจน” ฆ่า “ธงรบ” !?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 17 : “เจน” ฆ่า “ธงรบ” !?

บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : จรูญพร ปรปักษ์ประลัย

ห้องพักธงรบอีกห้องหนึ่ง เจ๊หว่างกำลังแต่งหน้าให้เคน ชิปปี้ แม้กกี้ และอีกสองหนุ่มในชุดดำถือปืนรายล้อม

สุดท้ายเจ๊หว่างก็ฟิวส์ขาดทนไม่ไหว
“โอ๊ย เล่นถือปืนยืนคุมกันอยู่แบบเนี่ย ใครจะมีอารมณ์แต่งหน้ากันล่ะ”
ชิปปี้บอก “ช่วยไม่ได้เจ๊ ไอ้นี่มันร้าย เผลอเมื่อไร มัน ‘เล่น’ พวกผมแน่”
เจ๊หว่างเคือง ๆ “ไม่ใช่แต่ลูกสาวฉันหรอกที่จะ ‘เล่น’ พวกเธอ อย่าเผลอก็แล้วกัน”
“อุ๊ยเจ๊ ! เจ๊จะเล่นอะไรพวกผมเหรอครับ”
“อยากลองไหมล่ะ”
เจ๊หว่างหันขวับกลับไปแต่งหน้าต่อ แม้กกี้ถอยออกไป ใบหน้ายังระบายด้วยรอยยิ้ม
“หนูก็เหมือนกัน หาเรื่องมาให้แม่ตลอด”
“ขอโทษด้วยนะคะ ไม่ได้คิดจะดึงคุณแม่มาเกี่ยวจริง ๆ ค่ะ”
เจ๊หว่างแต่งหน้าให้ต่อโดยไม่พูดอะไร จนเคนพูดขึ้นมา
“คุณแม่คะ”
“หือ ?”
“ตรงใต้ตานี่ดูแปลก ๆ หรือเปล่าคะ”
“แปลกยังไง”
“หนูว่ามันออกเขียว ๆ”
“ไม่มั้ง”
เจ๊หว่างก้มลงไปดูใกล้ ๆ เคนกระซิบบางอย่างที่หูเจ๊หว่าง เจ๊หว่างมีปฏิกิริยาเปลี่ยนเป็นนิ่งไปเสี้ยววินาที ชิปปี้เพ่งมองอย่างรู้สึกมีพิรุธ เจ๊หว่างรีบกลบเกลื่อน
“จริงด้วย เดี๋ยวแม่เติมให้อีกหน่อยดีกว่า”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่”
ชิปปี้คลายสีหน้าที่เพ่งมอง
เจ๊หว่างกับเคนแอบสบตากัน แล้วพยักหน้าให้กันเล็ก ๆ อย่างรู้กัน

ในห้องเจน พิงก์นั่งเครียดด้วยความเป็นห่วงเคน ซูซี่นั่งลงข้าง ๆ มองพิงก์อย่างเข้าใจความรู้สึก
“การที่พวกนั้นอุตส่าห์ลงทุนวางระเบิด เพื่อจับตัวเคนไป แสดงว่า” พิงก์พูดขึ้น
“พวกนั้นจะยังไม่เจอแฟลชไดรฟ์ พวกมันจับตัวเคนไป เพื่อเค้นว่า ว่าแฟลชไดรฟ์ซ่อนอยู่ตรงไหนในมงกุฎ”
“เคนไม่รู้หรอกหรอก ยูซ่าต่างหากที่รู้ พวกนั้นคงต้องพยายามเปลี่ยนเคนให้เป็นยูซ่า”
ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ดังขึ้น พิงก์รีบกดรับ
“สวัสดีค่ะเฮีย มีอะไรเหรอคะ”

เฮียฮะพูดขึ้นอย่างร้อนใจ
“สว่างน่ะสิฮะ ไม่รู้ว่าสว่างหายตัวไปไหน นี่เฮียให้เด็ก ๆ ช่วยกันหาจนทั่วแล้วนะฮะ แต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอ เฮียกลัวฮะว่า สว่างจะโดนพวกนั้นจับตัวไปทำอะไร”
“ใจเย็น ๆ ก่อนเฮีย พิงก์มั่นใจค่ะว่า เจ๊หว่างยังปลอดภัย”
“แต่เฮียไม่มั่นใจเลยฮะ”
“พิงก์สัญญาค่ะ ว่าจะรีบหาตัวเจ๊หว่างให้เร็วที่สุด”
“ฮะ ๆ ฝากด้วยนะฮะ”
“ค่ะ วางใจเถอะค่ะเฮีย พิงก์เข้าใจความรู้สึกของเฮียดี เวลานี้พิงก์แล้วก็... เราทุกคนที่นี่ ก็ไม่ต่างจากเฮียหรอกค่ะ สวัสดีค่ะเฮีย”
พิงก์กดวางสาย ก่อนหันไปมองซูซี่ที่มองเธออยู่
“เจ๊หว่างถูกจับตัวไปอีกคน”
“ตอนนี้ธงรบได้ไปครบแล้ว ทั้งมงกุฎและยูซ่า”
“พวกมันต้องการให้แน่ใจ ว่าแฟลชไดรฟ์ซ่อนอยู่ในมงกุฎจริง ๆ จากนั้นก็แค่ทำลายข้อมูลทิ้งซะ”
“ความลับขององค์กรไททันก็จะถูกเก็บเป็นความลับตลอดไป”
“ที่ฉันสืบมาสองปี ไม่ได้อะไรเลย …แล้วเคนละ”
“คนอย่างธงรบ คงไม่ปล่อยเคนออกมาเป็น ๆ หรอก”
พิงก์มองซูซี่ด้วยสายตาเครียดกังวล ซูซี่ก็เช่นกัน

เจ๊หว่างแต่งหน้าให้เคนเสร็จ วางอุปกรณ์เก็บไว้กล่องเครื่องสำอาง
“เอาล่ะ เสร็จแล้ว ฉันไปล่ะนะ”
เจ๊หว่างพูดแล้วก็หิ้วกล่องเครื่องสำอางเดินไปหน้าตาเฉย แม้กกี้เข้าขวางไว้
“จะรีบไปไหนล่ะเจ๊ ไหนว่าจะเล่นอะไรกันก่อนไง”
“อย่าท้านะ ฉันเอาจริงแล้วจะร้อง”
“โอ้ ! อยากร้องเหมือนกันอ่ะ”
“พอแล้วแม้กกี้ มัวแต่เล่น เอาตัวพวกนี้ไปได้แล้ว” ชิปปี้บอก
เจ๊หว่างเหลือบไปขยับตากับเคน เคนขยิบตาตอบ
“ไป”
แม้กกี้ใช้ปืนขู่เจ๊หว่าง เจ๊หว่างทำเป็นหันไป แต่แล้วก็สะบัดกลับมา เข่าใส่แม้กกี้
“อู๊ย ! อี...”
แม้กกี้ถึงขั้นตัวงอเป็นกุ้ง ยกปืนจะยิงเจ๊หว่าง แต่เจ๊หว่างใช้กล่องเครื่องสำอางฟาดเข้าที่แขนแม้กกี้ แล้วฟาดกลับมาที่หน้าเขา จนแม้กกี้กระเด็นล้มลง
“โอ๊ย !”
“บอกแล้วไง ว่าเอาจริงแล้วจะร้อง ฮ่ะฮ่า ไม่รู้จักทหารเก่าซะแล้ว”
ชิปปี้และคนอื่น ๆ ต่างหันไปสนใจเจ๊หว่าง ปากกระบอกปืนหันไปหาเจ๊หว่าง
แม้กกี้บอก “เฮ้ย ! หยุดนะ”
จังหวะนั้นเอง เคนเลยมีจังหวะ ลุกขึ้นจัดการกับชิปปี้และชายชุดดำทั้งสอง จนล้มระเนระนาด
เคนเสร็จธุระจากทุกคน หันไปหาเจ๊หว่าง
“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณแม่ ไปกันเถอะค่ะ”
“สงสัยไปไม่ได้แล้วล่ะ”
เจ๊หว่างถูกดันเข้ามา ที่คอเธอมีมีดจ่ออยู่ เอมมี่จ่อมีดเล่มนั้น

ชิปปี้และชายชุดดำทั้งสองลุกขึ้นมา ใช้ปืนจี้เคนไว้

มุมลับตาคน รถจอดอยู่ พิงก์เดินไปที่รถ แต่พอเปิดประตูรถเข้าไปนั่ง จังหวะนั้นเอง มือสังหารก็ก้าวเข้ามาด้านหลัง พร้อมด้วยเชือกเข้ารัดคอพิงก์

พิงก์ตกใจมาก
“โอ๊ย !”
พิงก์หายใจลำบากขึ้นทุกที ๆ แต่ก่อนที่เธอจะสิ้นลมหายใจ เธอก็รวบรวมกำลังเฮือกสุดท้าย ซัดเข้าไปที่มือสังหาร และพาตัวเองหลุดจากเขามาได้ ก่อนที่จะตามเข้าไปซัดอีกหลายดอก ทั้งสองฝ่ายสู้กันอย่างดุเดือด จนกระทั่งมือสังหารลงไปกอง
“นี่มันอะไรกัน”
มือสังหารลุกขึ้นมาอีกครั้ง พิงก์เตรียมต่อสู้อย่างเต็มที่
แต่แล้วหัวหน้าก็เดินเข้ามาจากด้านข้าง
“นี่คือบทลงโทษสำหรับคนทรยศ”
“ฉันไม่ได้ทรยศ” พิงก์ยืนยัน
“ตราบใดที่คุณยังตามแฟลชไดร์ฟคืนมาไม่ได้ จะทำให้เราเชื่อได้ยังไง ว่าคุณไม่ได้ร่วมมือกับเคนเก็บซ่อนข้อมูลเอาไว้ หลายอย่างที่เคนทำ มันสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง”
หัวหน้ายกแท็บเล็ต เปิดภาพของเคน ตอนที่เป็นคิงโครว์ แล้วยิงพ่อค้ายา
“ถ้าคุณบริสุทธิ์จริง ต้องพิสูจน์ตัวเอง ด้วยการจัดการกับเขา ... คุณเป็นคนเดียวที่เขาไว้ใจ ยอมให้เข้าถึงตัวเขาได้อย่างใกล้ชิด แต่ถ้าคุณไม่ทำ เราจะหาทางจัดการเขาเอง”
พิงก์เครียดจัด

ภายในบ้านธงรบ มือเคนทั้งสองถูกจับมัดเชือก ธงรบตบหน้าเคนอย่างแรง จนเคนหน้าหัน
“ฤทธิ์เยอะนักนะ ... บอกแล้วไง ว่าที่พามานี่ ก็เพราะเห็นว่า เราจะทำธุรกิจร่วมกันได้”
“ธุรกิจร่วมกันประสาอะไร ฉันเห็นมีแต่แกคนเดียวที่ ‘ได้’ กับ ‘ได้’”
“ทำไมคิดอย่างนั่นล่ะ คนเก่งรอบตัวอย่างแก ไม่น่าจะต้องจมปลักอยู่ในฟีนิกซ์ บริษัทโฆษณา หรือบาร์คาบาเร่ต์กระจอก ๆ อะไรนั่น”
“เฮ้ย พูดให้มันดี ๆ หน่อย คาบาเร่ต์ชั้นเนี่ย ขนาดฝรั่งยังต้องบินตรงมาดูเลย นี่ถ้าไม่โดนมัด มีตบกันแน่”
ธงรบยิ้มขำ “โทษทีเจ๊ ... เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยแล้วกัน ฉันอยากให้แกมาทำงานด้วย รับรองว่าแกจะมีทุกอย่างที่ต้องการ แต่ก่อนอื่น แกต้องบอกว่าแฟลชไดรฟ์ซ่อนอยู่ตรงไหน”
ธงรบวางมงกุฎตรงหน้าเคนอีกครั้ง
“แกจะใช้เวลาเท่าไรก็ได้ แต่ทุก ๆ สิบนาที เจ๊หว่างจะได้แผลเพิ่มขึ้นหนึ่งแผล”
เอมมี่ถือมีดเตรียมแทงเจ๊หว่าง
“โอ๊ย กูอยู่ของกูเฉย ๆ ทำไมต้องมาเกี่ยวกับกูด้วยเนี่ย”
เคนยื่นมือไปที่มงกุฎ แล้วยกขึ้นสวมไปที่ศีรษะ
ความทรงจำเก่า ๆ ค่อย ๆ ย้อนกลับคืนมา

คืนนั้น เจ๊หว่างประกาศด้วยอาการตื่นเต้นยินดีอย่างที่สุด
“และผู้ที่ได้ครอบครองตำแหน่ง ‘ดาวจรัสหรู ยูโทเปีย’ ครั้งที่ 1 ได้แก่... ผู้เข้าประกวดหมายเลข 3 ยูซ่าค่ะ”
เสียงกรี๊ดสนั่นหวั่นไหว ยูซ่าก้าวเข้ามายืนข้างหน้า เกล็ดเงินเกล็ดทองรูปดาวดวงเล็ก ๆ ร่วงพรูลงมาที่ร่างยูซ่า
ผู้ชมและคณะกรรมการยืนปรบมือ
กรรมการระดับ ‘ตัวแม่’ ก้าวเข้าไปคล้องสายสะพายและสวมมงกุฎให้ยูซ่า
“ดีใจด้วยนะหนูยูซ่า”
ผู้ชมทั้งบาร์ยกกล้องขึ้นถ่ายอย่างพร้อมเพรียง เห็นว่ายูซ่ายังถือแฟลชไดรฟ์อยู่ในมือ

เคนใช้มองมือจับมงกุฎ นึกย้อนความทรงจำ
ธงรบมองจ้องเขา เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ในห้อง
เจ๊หว่างมองแบบเสียว ๆ อดเหลือบมองมีดในมือเอมมี่ไม่ได้
เคนพยายามนึก แต่เขายังไม่เห็นว่าแฟลชไดรฟ์ถูกซ่อนตรงไหนในมงกุฎ
ธงรบยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา
“ครบสิบนาที”
“เฮ้ย ทำไมมันเร็วนักวะ” เจ๊หว่างว่า
เอมมี่เงื้อมีดขึ้น เจ๊หว่างร้องเสียงหลง
“ย้าก...ยูซ่า..ช่วยแม่ด้วย..ยูซ่า”
เคนตื่นขึ้นมาจากภวังค์...พูดขึ้นมาโดยฉับพลันทันที
“หยุด !”
เขาถอดมงกุฎออกมาวางลง
“ยูซ่า..จำอะไรได้แล้วเหรอลูก”
“ผมเคนครับ..ไม่ไช่ยูซ่า”
“โธ่..ยูซ่าลูกแม่..ทำไมรีบไปรีบกลับขนาดนี้ละ”
เอมมี่ดึงมีดพร้อมเสียบเจ๊หว่าง
“จะเป็นยูซ่าหรือเคนถ้าไม่รู้ว่าขัอมูลลับอยู่ที่ไหนก็ต้องตาย”เอมมี่บอก
“ชั้นรู้....”
“นั่นไงเขารู้...ฉันไม่ต้องตายแล้วไช่ไหม” เจ๊หว่างว่า
เจ๊หว่างผลักมือเอมมี่ที่ถือมีดออกไป
“รู้แล้วมันอยู่ไหนละ”
“ไม่รู้...”
เอมมี่ง้างจะแทงเจ๊หว่างอีกที เจ๊หว่างกรี้ดอีกที
“แต่ชั้นรู้ว่าข้อมูลลับของพวกแกไม่ได้อยู่ในมงกุฎนี่”
ธงรบส่งสัญญานไห้เอมมี่หยุด เจ๊หว่างผลักมือเอมมี่ที่ถือมีดออกไปอีกครั้ง
“หมายความว่าไง”
“ก็จะให้หมายความไง พูดยังไงก็หมายความตามนั้นแหละ”
เอมมี่จะเงื้อแทงเจ๊หว่างอีกครั้ง เจ๊หว่างอารมณ์เสียเอามือจับมือเอมมี่
“โอ้ยจะรีบฆ่าชั้นไปไหนไห้เขาพูดกันไห้จบได้ไหม”
ธงรบยื่นหน้าเข้าไปหาเคน
“แกอย่ามาเล่นตลกกับฉันนั้น” ธงรบว่า
“ไม่ได้ตลก ไม่เชื่อก็ดูเอาเองสิ ว่าแฟลชไดรฟ์จะซ่อนอยู่ตรงไหนได้”
“ก็ดูแล้ว ถึงได้ไปเอาตัวแกมานี่ไงล่ะ สรุปว่า ?”
“อีกครั้งนะ ตั้งใจฟังชัด ๆ แฟลชไดร์ฟไม่ได้อยู่ในมงกุฎนี่”
“เรื่องนั้นชั้นรู้อยู่แล้ว ชั้นถามว่ามันอยู่ที่ไหน”
“ฉันก็ไม่รู้”
“เฮ้ย ทำไมพูดง่ายแบบนี้วะ”
เอมมี่หันไปเสนอกับธงรบ
“เอมมี่ว่าเก็บมันทั้งคู่เลยดีกว่าค่ะ”
“เฮ้ย กูโดนด้วยอีกแล้วเหรอเนี่ย”
“ดีเหมือนกัน” ธงรบว่า
“ดีตรงไหนว้า”
“เอาตัวพวกมันไป จัดการอย่างให้เหลือร่องรอย”
“ค่ะ”
“โอย... อะไรจะซวยอย่างนี้”
“ไหนล่ะเรื่องธุรกิจของเรา”
“ไม่มีธุรก่งธุรกิจอะไรแล้ว แกไม่ผ่านเงื่อนไขแรก”
ชิปปี้ใช้ปืนขู่เคน ขณะที่แม้กกี้จับสองมือเคนมัดเข้าหากัน จากนั้นก็ใช้ผ้าปิดตา
ส่วนเอมมี่ก็ใช้ผ้าปิดตาเจ๊หว่าง
“ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่เกี่ยวอะไรด้วย สาบาน ว่าฉันจะไม่พูด ไม่บอกอะไรใครเลย”
“เอาผ้าปิดปากนังนี่ด้วย รำคาญ”

เอมมี่ใช้ผ้าอีกผืนมัดปากเจ๊หว่างตามคำสั่งธงรบ

เจนยืนรออยู่ในห้อง พุฒิเดินเข้ามา

“พี่เจนครับ เรียกผมมามีอะไรเหรอครับ”
“รู้ไหมว่าพิงก์ไปไหน”
“ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ เมื่อกี้เห็นรับโทรศัพท์ แล้วก็ออกไป”
“ช่วงนี้พิงก์ดูแปลก ๆ พี่ก็เลยติดต่อไปทางหน่วยของพิงก์”
“แล้วไงครับ”
“ทางนั้นสงสัยว่า พิงก์กับเคนกำลังร่วมมือกัน ตบตาเราทุกคน”
พุฒิตกใจ “หา ! แล้วพิงก์กับเคนจะทำแบบนั้นไปทำไม”
“เพื่อผลประโยชน์น่ะสิ ที่ผ่านมา เคนเล่นไม่ซื่อมาตลอด เขาเข้าไปทำงานกับธงรบ เข้าไปเป็นนางโชว์เพื่อหลอกเอาข้อมูลจากจอร์ช แต่เมื่อได้ข้อมูลมา เขากลับเก็บเอาไว้เอง ไม่ยอมส่งมอบให้เรา ก็เพราะเขารู้ดี ว่าข้อมูลนั้นสามารถแปรเปลี่ยนเป็นเงินจำนวนมหาศาลได้”
“ไม่น่าจะเป็นไปได้นะครับ”
“ลืมไปแล้วเหรอว่าเขาสองคนกำลังจะแต่งงานกัน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดขึ้นมา ป่านนี้ทั้งคู่อาจหายตัว บินไปเสพสุขอยู่ที่ไหนกันแล้วก็ได้”
“ยังไงผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ถ้าเคนคิดจะหลอกเราจริง ทำไมเขาต้องรอถึงสองปี”
“ก็เพื่อให้เราตายใจไง แต่ยังไงก็เหอะ พี่อยากให้พุฒิเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นลับก่อน อย่าแพร่งพรายให้สองคนนั้นรู้ตัวเด็ดขาด”
“ครับพี่เจน”

เจ๊หว่างและเคนถูกดันขึ้นบันไดมาโดยชิปปี้ แม้กกี้และลูกน้อง
ชิปปี้เตือน “โอกาสสุดท้ายแล้ว บอกที่อยู่แฟลชไดรฟ์ไม่งั้นพวกแกตายแน่ๆ”
“กูบอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่รู้ๆ”
“ถ้างั้นพวกแกก็ตายซะ”
เจ๊หว่างกรี๊ดตกใจ
“เคนเรียกคิงโครว์มาเถอะ”
“แต่เจ๊”
“เอาเถอะๆ เรียกมาตอนนี้มีแต่คิงโครว์เท่าที่จะช่วยเราได้”
แม้กกี้มอง2คนมีพิรุธ
“พวกมึงกระซิบอะไรกัน”
เคน เจ๊หว่างเงียบ
“กูถามว่าพวกมึงพูดอะไรกัน”
แม้กกี้ง้างไกลปืนจะยิง
“กูคิดออกแล้ว”
“คิดออกว่า”
“ถึงแฟลชไดรฟ์จะไม่ได้ซ่อนอยู่ในมงกุฎตายังไงที่ซ่องแฟลชไดรฟ์ต้องเกี่ยวข้องกับการประกวดดาวจรัสหรูยูโทเปียแน่”
“ใช่ เมื่อกี้เคนเค้าไม่มีสมาธิ”
“หมายความว่าไง”
“เคนเค้าต้องทำสมาธิ เค้าถึงจะเรียกยูซ่ามาได้ แล้วถ้ายูซ่ามาแล้วจำได้ พวกแกก็จะได้ความดีความชอบไปด้วยนะ”
ชิปปี้มองหน้าแม้กกี้
“เอ้าลองดู แต่ถ้าพวกแกตุกติก ฉันยิงพวกแกไส้แตกแน่”
“เอาเคนรีบทำสมาธิสิ”
เคนหลับตาทำสมาธิซักพักแล้วลืมตาขึ้นมาเจ๊หว่างดีใจหันมาหัวเราะใส่ชิปปี้ แม้กกี้
“555 ทีนี้พวกแกเสร็จแน่ ฉันให้เคนเค้าเรียกคิงโครว์มาต่างหาก”
ชิปปี้ แม้กกี้และลูกน้องถอยเพราะความกลัว
ชิปปี้โพล่งตกใจ “คิงโครว์”
“ใช่ที่นี้พวกแกเสร็จแน่ ใช่มั้ยคิงโครว์”
เคนนิ่งไม่ตอบ เจ๊หว่างลุ้น
“ใช่มั้ยคิงโครว์ คิงโครว์”
เจ๊หว่างเข้าไปใกล้เคน
“คุณแม่นี่หนูเองยูซ่า”
เจ๊หว่างตกใจ
“ยูซ่าจะมาทำไมตอนนี้”
ชิปปี้ แม้กกี้หัวเราะ
“แหมๆตอนแรกกลัวแทบตายนึกว่าจะต้องสู้กับคิงโครว์ซะแล้ว คงได้แค่ตบกับไอ้กระเทยควาย”
“อย่าว่ายูซ่าเป็นกระเทยควายนะ ยูซ่าเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็ก”
ยูซ่าสะบัดกระโปรงให้เห็นขาที่แม้กกี้หัวเราะ
“นี่ขาคนหรือท่อนซุงกันแน่วะเนี่ย”
ชิปปี้หัวเราะ ยูซ่าโมโห
“ท่อนซุงเหรอ”
ภาพสุดท้าย ...ที่สนามมวย ผู้ร้ายสลบเหมือด ยูซ่าจับแม้กกี้ต่อย3หมัดเหมือนตอนที่ธงรบต่อยคิงโครว์ก่อนจะสลบความจำเสื่อม ยูซ่ายืนนิ่ง เจ๊หว่างเข้ามาเรียก
“ยูซ่าๆๆๆ”
เคนตื่นขึ้นมา
“ผมเคนครับเจ๊”
“อย่าเรียกว่าเจ๊ เรียกว่าคุณแม่สิจ๊ะลูกสาว”
“ครับคุณแม่”

“ช่างเถอะ รีบไปก่อนที่มันจะตื่น”

ห้องธงรบ เขากำลังอยู่หน้าคอม สีหน้าเครียด พิมพ์ข้อความอยู่

ธงรบพิมพ์ข้อความ “ถ้าผมจะตกนรก ผมจะลากทุกคนที่เกี่ยวข้องลงไปด้วย” ธงรบกดส่ง แล้วเปิดไฟล์
ผ่านหลังธงรบเห็นแค่มุมขวาบนมีโฟล์เดอร์
โทรศัพท์ธงรบดังขึ้น ธงรบรับ
“โธ่เว้ย ! มันหนีไปอีกจนได้”
“ขอโทษจริง ๆ ครับนาย” ชิปปี้บอก
“ไม่ต้องพูด ไม่ต้องแก้ตัวอะไรทั้งนั้น ฉันน่าจะฆ่าพวกแกให้ตายตามไอ้สองตัวนั่นไปจริง ๆ”
“ผมจะตามตัวมันกลับมาให้ได้ครับ”
“แกจะทำยังไง บุกตะลุยเข้าไปในฟีนิกซ์อีกอย่างงั้นเหรอ”
“ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตัวมันมา”
“เอาซี่ พิสูจน์ให้เห็นว่าแกทำอย่างได้ที่คุย แต่ถ้าแกตามมันกลับมาไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีก แต่ต่อจากนี้ไป ฉันเจอแกเมื่อไร ฉันจะยิงแกทันที”
“ครับนาย”
ธงรบยืนนิ่งอย่างหงุดหงิด เอมมี่เข้ามาโอบกอดจากด้านหลัง
“นายคะ เรื่องแค่นี้อย่าเอามาเป็นอารมณ์เลยค่ะ”
เอมมี่ค่อย ๆ ปลดเสื้อธงรบ ธงรบดูเหมือนยังหงุดหงิด เขาดึงสองมือของเธอออก แต่เอมมี่กลับหมุนตัวเข้ามา ลูบไปที่แผ่นอกของธงรบ ธงรบคว้ามือเอมมี่ไว้อีกครั้ง แล้วจับยกออก แล้วในจังหวะนั้นเอง เขาก็ก้มลงซุกไซ้ที่ซอกคอเอมมี่อย่างหิวกระหาย ทิ้งที่หน้าจอคอมเบลอๆ

พุฒิ ซูซี่ ยักษ์ เจ๊อูน เจ๊สา นับดาว และบับเบิ้ล ต่างพากันเคร่งเครียด
“ตกลงนี่ไม่มีใครบอกได้เลยใช่ไหม ว่าไอ้เคนหายหัวไปไหน โอ๊ย เล่นมา ๆ หาย ๆ ไม่บอกไม่กล่าวแบบนี้ ฉันจะไม่ไหวแล้วนะ” ยักษ์ว่า
จังหวะนั้นเอง เคนก็เปิดประตูเข้ามา หน้าตาบอกบุญไม่รับ
ทุกคนหันไปมอง ซูซี่กับพุฒิดีใจมาก
“เคน”
“ไอ้เคน”
“เคน เป็นไงบ้าง”
ยักษ์ปรี่เข้าหาเคนทันที
“เคน มานี่เลย มีข้อแก้ตัวอะไรก็รีบว่ามา”
เคนมองหน้ายักษ์ แต่กลับมีเพียงความว่างเปล่าเป็นคำตอบ
“กะแล้ว ว่าต้องเป็นแบบนี้”
ในเวลานั้นเอง พิงก์ก็เปิดประตูเข้ามาอีกคน พิงก์ดีใจมาก
“เคน”
เคนหันไปหาพิงก์
“พิงก์”
ทั้งคู่เดินเข้ามาหากัน ยักษ์มองตามเหวอ ๆ
“เฮ้ย ๆ ๆ ฉันยังคุยอยู่นะเว้ย”
พิงก์กับเคนเข้ามาจับมือกัน ซูซี่มองแบบผิดหวัง พุฒิมองซูซี่อย่างอ่านความคิดได้ เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
“พวกนั้นทำอะไรเคนหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรหรอก”
เจนเดินเข้ามา
“เคน ตามไปคุยกับพี่ที่ห้อง”
“ครับ”
เคนตอบเจน แล้วบอกพิงก์
“เดี๋ยวค่อยคุยกันต่อนะ”
“ฮือ”
เคนหันเดินตามเจนไป พิงก์มองตามด้วยสายตาสงสัย
เคนเดินผ่านซูซี่ ผ่านพุฒิ ทั้งคู่ต่างมองด้วยสายตาปริศนาเช่นกัน
เคนเดินผ่านยักษ์ ยักษ์เดินตามเคนไปอย่างเอาเรื่อง

เคนกับยักษ์เดินตามกันมาจนถึงหน้าห้องเจน เจนยืนรออยู่
เคนเดินเข้าไป แต่พอยักษ์จะตามเข้าไป เจนก็บอก
“คุณไม่ต้อง เดี๋ยวเจนคุยเอง”
ยักษ์หน้าเหวอ เก้อ ก่อนตอบอย่างเอาใจ
“จ้ะที่รัก”
เจนเข้าห้องไป ปิดประตูล็อก ยักษ์หันกลับมาพูดแบบรักษาหน้ากับลูกน้องที่มองอยู่

“จะว่าไป ให้คุณเจนเขาคุย ก็ดีเหมือนกันนะ”

ในห้อง เจนถามเคนอย่างร้อนใจ

“ตกลงธงรบได้แฟลชไดรฟ์ไปหรือเปล่า”
“ไม่ครับ ผมกับเจ๊หว่างหาทางจัดการกับพวกมัน แล้วหนีออกมาได้แล้ว”
“แล้วถ้างั้นสรุปรู้หรือยัง ว่าแฟลชไดรฟ์อยู่ที่ไหน”
“ยังครับ แต่ที่แน่ ๆ แฟลชไดรฟ์ไม่ได้ซ่อนอยู่ในมงกุฎ”
เจนมองเคน
“แล้วเธอว่ามันน่าจะอยู่ที่ไหนได้”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ อย่างเดียวที่ผมรู้ตอนนี้ก็คือ ต้องหาทางจับธงรบให้ได้ ถ้าเราจับเขาได้ ทุกอย่างก็จบ”
“ใช่ ที่เคนพูดก็ถูก แต่การจะจับนายธงรบ ไม่ใช่เรื่องง่าย”
“ผมมีแผนแล้วครับพี่เจน”
เจนมองเคนอย่างอยากรู้แผนของเขา
“รีบตามพุฒิ พิงก์ และซูซี่มาที่นี่ เราจะคุยแผนกันทันที”
“ครับ”

มุมที่ค่อนข้างส่วนตัว ไม่มีใครเดินผ่าน ซูซี่ยืนเศร้า รู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว
พุฒิเดินเข้ามายืนข้าง ๆ
“ไม่ดีใจเหรอครับที่ไอ้เคนปลอดภัยกลับมา”
“ดีใจสิคะ ทำไมจะไม่ดีใจล่ะ”
“แต่คุณดูเศร้า ๆ”
“ซูซี่ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ แค่ไม่รู้จะทำตัวยังไงเท่านั้น เหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน”
“ส่วนเกินอะไรเหรอครับ”
“ทุกอย่าง ต่อให้ซูซี่เดินจากทุกคนไปตอนนี้ ก็ไม่ได้มีความหมายกับใครเลย”
“ไม่จริงหรอกครับ”
“เหรอคะ ดูอย่างเคนซิคะ ช่วงเวลาที่ผ่านมา เคนจำอะไรๆได้ตั้งมากมาย แต่เคนก็ไม่เคยจำได้ ว่าเราเคยรักกันมากแค่ไหน”
“เคนมันไม่ไช่คิงโครว์ มันคงจำไม่ได้หรอกครับว่าคุณมีความหมายกับเขาแค่ไหน แต่คุณรู้ไว้เลยนะครับ คุณมีความหมายกับผม”
“แต่..สักวันคุณก็จะลืมซูซี่”
พุฒิไม่ตอบรับและไม่โต้แย้ง แต่เขากลับดึงซูซี่เข้ามาจูบ
เมื่อถอนจูบออก ซูซี่มองจ้องพุฒิโดยไม่เอ่ยคำใด ๆ
“ผมไม่มีทางลืมคุณ ผมสัญญา ว่าจะไม่มีวันลืมจูบนี้ จูบแรกของเรา”
“ค่ะ”
ซูซี่พูดแค่นั้น แล้วก็หันหลังเดินจากไป พุฒิมองตามอย่างเศร้า ๆ

ครู่ต่อมา เจนยืนสั่งการอยู่หน้าห้องปฎิบัติการ
“จากข้อมูลที่ได้มาจากเคน เราต้องวางแผนไห้รอบคอบเพื่อป้องกันความสูญสูญเสีย เคน ...”
เจนหันไปหาเคน เคนชี้ไปที่แผนที่ floor plan
“ธงรบไช้ตึกนี้เป็นที่กบดาน ข้างบนตึกไม่มีคนอาศัยอยู่แต่ด้านล่างยังมีคนค้าขาย มันจะไช้คนของมันรักษาการในห้องควมคุมตึก ซึ่งจะดูคนเข้าออกจากกล้องวงจรปิด ควบคุม ลิฟท์ ไฟฟ้าจากที่นี่ มีลิฟท์ไช้การได้อยู่สองตัว ตัวหนึ่งขึ้นถึงห้องธงรบโดยเฉพาะ และอีกตัวที่ขึ้นไปแค่ชั้นที่พวกสมุนมันอยู่ ซึ่งอยู่ชั้นล่างลงไปชั้นเดียว ถ้ามีเหตุฉุกเฉินสมุนก็จะขึ้นมาที่ห้องธงงรบโดยบันได”
“เราจะแบ่งไปเป็นสามชุด ชุดหนึ่งมีพุฒิและซูซี่จัดการพวกยามรักษาการในห้องวงจรปิดและห้องควบคุมและคอยประสานจากที่นั่น ชุดสองเป็นเคนและพิงก์จัดการยามที่อยู่หน้าห้องและเปิดทางสะดวกไห้ชุดของพี่ที่เป็นชุดสามเข้าไปจับตัวธงรบและเอมมี่”
เคนบอก “พี่เจนครับ ไห้ผมไปกับชุดสามเถอะครับ เพราะผมรู้ location ดีที่สุด”
“นี่เป็นคำสั่งไม่ไช่ข้อเสนอ เธออยู่กับพิงก์นะดีแล้ว เราจะบุกทันทีที่พระอาทิตย์ตก”
“ทำไมไม่ไปตอนนี้ละครับ ขืนคอยเดี๋ยวมันก็ไหวตัวทันอีกนะครับ”
“ไม่ต้องห่วง ฉันไห้คนคอยเฝ้าดูพวกมันอยู่ ถ้ามันเคลื่อนไหวเราจะได้รู้ ยิ่งมันออกมาที่รังก็ยิ่งง่ายสำหรับเรา เอาล่ะพวกเธอไปพักผ่อนกันได้แล้ว เตรียมตัวกันไห้พร้อม เราพลาดไม่ได้ พรุ่งนี้ฉันอยากทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า”
ทุกคนนิ่งรู้ว่านี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอกัน
“เอาละไปกันได้แล้ว”
“ครับ/คะ”
ทุกคนออกไป ซูซี่ลังเลคอยอยู่เพื่ออยากจะบอกเคนเรื่องที่ได้ยินจากพุฒิ
“เดี๋ยวเคน”
เจนมองเคนเอาปืนออกมาจากตู้ที่เก็บอาวุธของเจน เจนยื่นปืนไห้ ซูซี่ที่หันมาเห็นกล่องอาวุธของเจน และในกล่องอาวุธ เธอเห็นมีดที่ธงรบเอามาโชว์บอกว่าเป็นหัวหน้าฟีนิกซ์
“อย่าไห้มันหายไปอีกละ”
เจนมองเคนแล้วยื่นไห้เคน
“ระวังตัวไห้มากนะเคน เพราะสิ่งที่เธอต้องการ มันอยู่ที่เธอ”
“ครับ”
ทุกคนออกไป เจนเดินกลับมานั่งที่โต๊ะเปิดคอมพิวเตอร์ ในจอเห็นแผนที่แล้วมี จุดเขียนว่า K เจนยิ้ม โทรศัพท์เจนดังขึ้น
“ว่าไง”

สายของเจนนั่งอยู่หน้าคอม หน้าจอเห็นข้อความ “ถ้าผมจะตกนรก ผมจะลากทุกคนที่เกี่ยวข้องลงไปด้วย”
“ไฟล์นี้ส่งมาจาก IP ADDRESS ของโน้ตบุคที่อยู่ในอาคารนี้ครับ”
“หมายความว่า ตัวไฟล์ก็ต้องอยู่ในตัวโน้ตบุ๊คไช่ไหม”
“ครับ”
“ดี”
เจนวางหู
“ไอ้ธงรบ ถึงวันของชั้นแล้ว”

เจนยิ้มอย่างโหดเหี้ยม

เคนเดินออกมา พิงก์รีบเดินเข้าไปหา ซูซี่และพุฒิยืนมอง จะเข้าไปหาเคนเหมือนกัน เพราะต่างคนก็มีอะไรจะพูดกับเคน

“เคน เคนโอเคนะ”
“ผมโอเค นี่จะเป็นโอกาสที่เราจะได้กลับมาไช้ชีวิตเหมือนเดิมซะที ผมเหนื่อยเต็มทีแล้ว”
“พิงก์เหมือนกัน”
เคนหันมามองพิงก์ยิ้มปลอบใจ ซูซี่มองทั้งสองแล้วเดินออกไป พุฒิเดินตาม

ซูซี่เดินมากับพุฒิ
“พวกธงรบมันร้ายกาจมากนะ คุณไม่ต้องไปก็ได้นะ”
“ทำไมละ อย่าบอกนะว่าคุณเป็นห่วงชั้น”
พุฒิยิ้ม
“ใช่ผมเป็นห่วงคุณ”
“อย่ามาทำเป็นลิเกหน่อยเลย ชั้นรู้จักพวกนั้นดี ชั้นดูแลตัวเองได้”
“ครับ ผมรู้ว่าคุณเก่ง ผมถึงรักคุณไง”
ซูซี่อดยิ้มไม่ได้ในความฉอเลาะของพุฒิ
“หวังว่ามันจะไม่กลายเป็นคิงโคร์วหรือยูซ่าตอนเราบุกจับธงรบนะ”
“ไม่หรอก เคนเขาเริ่มควบคุมตัวเองได้ดีขึ้นแล้วหนิ”
“ผมละปวดหัวแทนมันจริงๆเลย อะไรคือจริงอะไรคือปลอม”
“คุณหมายความว่าไง”
“เอา คุณลองคิดดู ตัวมันจริงๆคือใคร ถ้าไม่นับพวกที่มันผุบๆโผล่ๆมาเองนะ ก็มีเคนนักโฆษณาที่เรารู้จัก เคนสายลับที่ผมเคยทำงานด้วย หรือ คิงโคร์วที่คุณเคยรัก”
“แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นใคร”
“สำหรับผมเขาคือเคน เพื่อนตายของผมที่ป่วยอยู่”
ซูซี่นิ่งคิดถึงสิ่งที่พุฒิพูดมาซึ่งก็เป็นความจริงที่เธอต้องยอมรับ พุฒิเดินเข้ามาใกล้ๆ
“ตอนนั้นคุณ รู้ไหมว่าเขาเป็นสายลับ”
“ฉันไม่รู้ ถ้ารู้ฉันคงไม่...”
ซูซี่อารมณ์เสียผลักพุฒิออกไป
“คุณถามอย่างนี้ทำไม”
“ใจเย็นๆ ผมแค่อยากรู้ว่าคุณเป็นเหมือนผมหรือเปล่า เพราะผมหลงชอบคุณทั้งๆที่รู้ว่าคุณเป็นพวกธงรบนะซิ”
ซูซี่จากอารมณ์เสียกลับมายิ้มทันที
“อย่าผลักผมออกไปอีกนะ ขอเป็นกอดแทน”
พุฒิเข้าไปกอดซูซี่ทั้งสองคนยิ้ม แต่ก็ต่างคนต่างมีอะไรในใจ

ที่กบดานธงรบ ภายในห้องควบคุม ลูกน้องดูมอนิเตอร์ ทุกอย่างดูเรียบร้อยดี
ในลิฟท์ ลูกน้องธงรบอีกคนโชว์ถุงใส่ของไห้ยามรักษาการดู
“ปลดล็อกชั้น26ห้องนายไห้หน่อย”
ยามรักษาการมองที่สมุดโน้ต
“คุณเอมมี่บอกไม่ใครขึ้นไปรบกวน”
“แต่นายสั่งให้ชั้นไปซื้อของมา ให้เอาไปไห้เลย โทรไปถามคุณเอมมี่เลย”
ยามรักษาการโทรไปถาม
“ได้ขึ้นไปเลย”
แต่ซักพักเหมือนมีควันเข้ามาในห้อง ยามรักษาการเห็นท่าไม่ดีเปิดประตูเพื่อหาอากาศหายใจ แต่พอเปิดประตูออกไป พุฒิซูซี่และฟีนิกซ์ก็กรูเข้ามา พวกยามรักษาการจะสู้ แต่ไม่ทันพุฒิและซูซี่จัดการได้หมด พุฒิพูดกับวิทยุ
“ห้องควบคุม เคลียร์ ลิฟท์จะลงไปรับ ชุดสองและชุดสาม”
เจนตอบ “รับทราบ ล็อกลิฟท์ชั้นธงรบเลยหลังจากชุดสามถึงแล้ว กันมันหนี”
เจนหันมาหาเคนและพิงก์
“พวกเธอจัดการลูกน้องของมันข้างล่างและคอยคุมไม่ไห้มันขึ้นมาช่วยนายมัน”
“ครับ แต่...”
“ส่วนพวกเธอ เฝ้าหน้าลิฟท์อย่าไห้ใครขึ้นมาได้”
เจนชี้ไปที่จนท.สองนาย จนท. รับคำ
“คำสั่งมีแค่นี้ ระวังตัวกันด้วย”

กลุ่มเจนและเคนแยกย้ายกันขึ้นลิฟท์

ภายในห้อง ธงรบนั่งป้อนข้อมูลใส่คอมพิวเตอร์ เอมมี่เดินออกมาจากห้องน้ำไส่เสื้อไห้เข้าที่เข้าทาง มากอดหลังธงรบ

“คุณธงรบจะให้ใส่ทำไมคะ เราควบคุมตึกนี้ไว้แล้ว”
เอมมี่มองคอมพิวเตอร์
“คุณจะตามหามันทำไม ในเมื่อคุณก็มีมันอยู่แล้ว แค่นี้พวกมันก็ไม่กล้าตอแยกับคุณแล้ว”
ธงรบจับเสื้อเอมมี่
“แค่ลางสังหรณ์ ชั้นสงสัยว่ามันไม่ได้มีแค่นี้ มันต้องมีอยู่กับอีกคน”
แต่ทันใดนั้นประตูก็ถูกถีบเปิด ที่ช่องประตู เจนนำทีมเข้ามา
“ทุกคนหยุดอยู่กับที่”
แต่ธงรบไม่ฟังเสียง เขายื่นมือจะคว้าปืนที่โต๊ะ เจน ยิงเข้าที่โต๊ะถูกคอมพิวเตอร์พังพินาศ จนธงรบต้องรีบชักมือออก
“เฮ้ย”
“ยอมมอบตัวเถอะธงรบ”
“ถามจริง จะจับผมข้อหาอะไรกันเหรอ”
“เพียบ คดียาวเป็นหางว่าวเลยล่ะ ยกมือขึ้น”
ธงรบยิ้มกวน ๆ “ครับผม”
ธงรบยอมยกสองมือขึ้นมา
ขณะเดียวกัน เอมมี่ก็ตั้งหลักลุกขึ้นยืน จนท.รีบเข้ามาใช้ปืนควบคุม
เอมมี่มองแล้วยิ้มหยัน
“ฮึ ! นึกว่าใคร สู้ตัวต่อตัวไม่ได้ ก็เอาพวกมารุมซินะ”
จนท. บอก “ยกมือ”
“ได้”
เอมมี่ยอมยกสองมือขึ้น แต่ใบหน้าไม่มีความกลัวอยู่เลย
ในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฟีนิกซ์ก็สำรวจส่วนต่าง ๆ ของห้อง ก่อนกลับมารายงาน
“เรียบร้อยครับ ไม่พบคนอื่น นอกจากสองคนนี้”
ธงรบมองเคนอย่างแค้น ๆ ผสมชื่นชม
“เจน เธอนี่มันเก่งจริง ๆ อุตส่าห์ดมกลิ่นกลับมาจนถึงนี่ได้ แต่จะเอาคนมาเยอะทำไม คุยกันดีๆก็ได้ นะเจน”
ลูกน้องฟีนิกซ์งงที่ธงรบพูดกับเจนเหมือนคนรู้จัก

เคนกับพิงก์ออกมาจากลิฟท์ จัดการลูกน้องธงรบ ที่อยู่หน้าลิฟท์ จนต้องถอยเข้าไปในห้อง

จนท. ฟีนิกซ์กระเด็นด้วยอำนาจของกระสุนปืน โผล่จากควันปืนเป็นชิปปี้ แม็กกี้
“พวกมันบุกขึ้นไปแล้ว ดี วันนี้แหละ เราจะได้พิสูจน์ตัวเองซะที ไปแม็กกี้”
ชิปปี้แม็กกี้ไปที่ลิฟท์ห้องธงรบ แต่ลิฟท์ไม่ยอมลงมา สองคนวิ่งขึ้นบันไดไป

พุฒิมองไปที่มอนิเตอร์
“ห้องควบคุมถึง ชุดหนึ่ง ชุดสอง ลูกน้องธงรบ กำลังขึ้นบันใดด้วยอาวุธหนัก จะถึงชุดสองอีกห้านาที”

เจนได้ยินพุฒิพูดมาทางวิทยุ
“ทำยังไงก็ได้ อย่าไห้พวกมันขึ้นมาช่วยนายมันได้”
ธงรบยิ้ม
“มีอะไรไห้ผมช่วยหรือเปล่า เราไม่น่าจะต้องมาเสียเลือดเสียเนื้อเลย แค่ปล่อยผมไป ผมจะบอกพวกมันไห้หยุด ทุกคนก็จะกลับบ้านอย่างสุขภาพแข็งแรง”
เจนนิ่ง ธงรบหัวเราะจะเดินออกไป เจนเล็งปืนไปที่ธงรบ
“หยุด”
“อะไรของคุณเนี่ย ก็ได้ งั้นเชิญเข้ามาจับได้เลย หวังว่าคงยังไม่ลืมที่ผมเคยบอกไว้นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะลากทุกคนที่เกี่ยวข้องไปลงนรกกับผมให้หมด รวมทั้งคุณด้วย”
เจนเครียด ดึงชุดสื่อสารออก เหยียบจนพัง ลูกน้องมองงงๆ เจนหันมายิงเอมมี่และลูกน้องทั้งสองคน
“แกจะเอาอะไรมาเอาผิดฉัน”
“เอมมี่”
ธงรบจะไปหาหาเอมมี่
“หยุด”
เจนหัวเราะอย่างสะใจ ธงรบหน้าเสีย
“ถ้าทายไม่ผิด ข้อมูลชุดสุดท้ายที่แกมีเก็บไว้ต่อรองเพื่ออยู่รอด อยู่ในคอมพิวเตอร์ที่ฉันเพิ่งยิงจนพังไม่มีขิ้นดี...ไช่ไหม”
ธงรบโกรธ แต่พยายามนิ่งไว้
“แก”
“โชคคงเข้าข้างฉัน เคนเอาข้อมูลลับจากคอมพิวเตอร์แกมาอีกครั้ง ชั้นก็แค่เอากอ็ปปี้มาเก็บไว้ก่อนที่ลูกน้องแกจะเข้ามาเอาแฟลชไดรฟ์ไป”

ภาพแฟลชไดรฟ์ที่เคนเอามาต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ เจ้าหน้าเคาะโต๊ะ รอการทำงานของคอมพิวเตอร์
เจ้าหน้าที่ลุ้น ผ่านไหล่เจ้าหน้าที่เห็นเจนเดินเข้ามามองดู
“เป็นไง เจอข้อมูลอะไรบ้าง”
เจ้าหน้าที่หันมาจะลุกขึ้นแต่เจนส่ายหน้าและไห้เขาทำงานต่อ
“ยังครับ แต่คงอีกไม่นานครับ”
เจ้าหน้าที่นั่งทำไห้เห็นหน้าจอมี progress bar running till 70%
“ดีมาก”
เจนเดินออกไป ประตูปิดเห็นกล้องวงจรปิดมีไฟกระพริบอยู่ เจ้าหน้าที่มองลุ้นที่จอ
ผ่านเวลาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ progressbar อยู่ที่ 98% ที่หน้าพนักงานลุ้น
กล้องวงจรปิดจากกระพริบกลายเป็นดับ ที่ประตูเปิดออกอย่างช้าๆ คนเดินเข้ามาในห้อง
เจ้าหน้าที่เพ่งมองที่หน้าจอ progress bar ถึง 100% โฟลเดอร์เปิดออกเห็นหน้าจอเป็นรายซื่อสายลับที่อยู่ในองค์กรไททัน ที่หน้าเจ้าหน้าที่สงสัย มองไปทางมุมขวาล่างของจอ
เจ้าหน้าที่คลิ๊กเม้าท์ สีหน้าตกใจ
ผ่านไหล่เจ้าหน้าที่ เห็นคนอยู่ข้างหลังมองอยู่
หน้าจอแค่มุมบนขวาเป็น โฟล์เดอร์ ตำรวจ
มือของคนลึกลับจับเจ้าหน้าที่หักคอ แล้วจัดไห้เขานั่งเหมือนเดิม
คนลึกลับนั้นคือ เจน

ที่คอมพิวเตอร์มีแฟลชไดรฟ์อีกอันเสียบไปที่เต้า มี progress bar copying

เจ้าหน้าที่นั่งที่เก้าอี้ ปืนเก็บเสียงยิงไปที่เจ้าหน้าที่หลายนัด ร่างเจ้าหน้าที่สะดุ้ง ชิปปี้ไส่ชุดปิดหน้าเข้ามา ดึงตัวเจ้าหน้าที่ออกจากเก้าอี้ไปนอนบนกับพื้น

ร่างเจ้าหน้าที่มีแผลแต่เลือดออกไม่เยอะ ปากซีด หน้าเริ่มเขียว
ชิปปี้ดึงแฟลชไดรฟ์ออก ชิปปี้เดินออกไป กล้องวงจรปิดจาก ดับอยู่เป็นเปิดมีไฟกระพริบ

ธงรบบอก “ถึงแกมีแฟลชไดรฟ์แล้วแกจะทำอะไรได้...จับผมเลย อย่างมากผมก็แค่ติดคุกไม่กี่ปี เดี๋ยวก็ออกมา”
“จะจับทำไม......แค่บอกว่าพวกแกต่อสู้ขัดขืนยิงลูกน้องชั้นตายไม่ดีกว่าเหรอ..แล้วก็จะมีแต่ฉันที่มีข้อมูลลับพวกนั้น..”
ธงรบเริ่มเข้าใจสิ่งที่เจนกำลังจะพูด
“ข้อมูลลับพวกนั้นจะทำไห้ชั้น..มาแทนแกไง...ใครขวางฉันก็ปล่อยข้อมูลไห้สื่อ...โซเชี่ยลไวมากและรุนแรกมากนะ”
ธงรบเห็นท่าไม่ดีเริ่มเจรจา
“ใจเย็นๆ เจน อย่าลืมนะมันมีข้อมูลอีกชุดนึงที่เคนมันเอาไป วันไหนมันจำได้ คุณจะทำยังไง ถ้าไม่มีผม”
เจนคิด

จนท.ฟีนิกซ์ ยืนเฝ้าบันไดทางขึ้น ด้วยใจจดจ่อ เสียงวิ่งใกล้เข้ามาแล้วก็เงียบ แต่ทันใดนั้นเองลูกระเบิดสองลูกก็ลอยขึ้นมาที่บันได
เคนเห็นสั่งไห้ลูกน้องหลบ
“ระเบิด ทุกคนหลบ”
ยังไม่ทันสิ้นเสียงเคน ระเบิดก็ทำไห้ จนท.ฟีนิกซ์ หลายคนกระเด็นไปตามแรงกระแทก ซิปปี้แม็กกี้โผล่มาจากบันใดชั้นล่าง พร้อมด้วยปืนกลยาวสาดกระสุนเปิดทาง
ชิปปี้บอก “เป็นไงกันบ้าง สบายดีไหม”
“คิดถึงพวกเราอยู่ไช่ไหม” แม็กกี้ว่า
ทั้งคู่สาดกระสุนอย่างบ้าคลั่ง พิงก์เคนโผล่มาจากที่กำบังยิงใส่ แต่พวกมันไม่เป็นไร พวกมันหันมาทางเคนและพิงก์สาดกระสุนเข้าใส่ สองคนหลบกันแทบไม่ทัน
“อยากได้อีกชุดไช่ไหม ได้ แม็กกี้จัดไห้พวกมันหน่อย”
“ได้เลยพี่”
พวกมันหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในขณะที่สาดกระสุนใส่ฟีนิกซ์
ทั้งสองจะวิ่งขึ้นไปช่วยธงรบ แต่บันไดโดนบล็อกด้วยไม้
“เอาไงดีพี่ พวกมันเอาไม้มาปิดทางขึ้น เราไปช่วยนายไม่ทันแน่ๆ”
“ทันซิวะ เพียงแต่เราต้องเสียเวลาจัดการพวกนี้ก่อน”
ชิปปี้สาดกระสุนไปอีกหนึ่งชุด
เคนพิงก์หลบอยู่
“พวกมันมีเสื้อเกราะอาวุธของพวกเราทำอะไรมันไม่ได้หรอก” พิงก์ว่า
เคนมองไปทางที่ชิปปี้แม็กกี้เดินสาดกระสุนเข้ามา ตามหาพิงก์และเคน
“พวกมันใส่เกราะแค่ร่างกายช่วงบน”
เคนลุกขึ้นจะยิง แต่ชิปปี้ก็สาดกระสุนมาก่อน เคนต้องหลบอย่างหวุดหวิด
“เดี๋ยวผมจะวิ่งออกไปล่อไห้พวกมันยิง คุณน่าจะมีเวลาพอที่จะจัดการพวกมัน”
เคนวิ่งออกไป ชิปปี้แม็กกี้ก็สาดกระสุนตาม พิงก์ได้โอกาสเล็งยิงไปที่ขาซ้าย แม็กกี้ล้มลง
“พี่ชิป ผมโดนยิง”
“ทนหน่อยโว้ย ถอยก่อน”
ชิปปี้ลากตัวน้องไปหวังจะหนีด้วยลิฟท์ พร้อมกับโยนระเบิดใส่พิงก์
“แม่นนักเหรอมึง งั้นลองรับไปอีกลูกแล้วกัน”
พิงก์กระโดดหลบระเบิด
เคนโผล่ออกมาด้วยความเป็นห่วงพิงก์
“พิงก์”
ชิปปี้เห็นก็ยิงใส่อีก
“เอาอย่างงี้แล้วกันแม้ก เรายิงผ่าพวกมันออกไป เราจะไช้ลิฟท์ หนีลงไป”
“จะดีเหรอพี่ เราจะเอาพวกมันอยู่ เหรอ”
“ไม่มีทางอื่นแล้ว ระเบิดเราหมดแล้ว ถ้าจะหนี มีทางนี้ทางเดียว”
“ถ้างั้น...เอายังไงก็เอา”
“นับหนึ่งถึงสาม แล้วเริ่มยิงเลยนะ”
แม้กกี้พยักหน้าเครียด ๆ “ฮึ”
“หนึ่ง สอง สาม”
เคนบอกพวกฟีนิกซ์ที่เหลือ
“เล็งไปที่ขาแขนพวกมันไว้ เราต้องการจับเป็น”
ชิปปี้แม็กกี้เดินฝ่าดงกระสุนออกไป พลางยิงออกไปด้วย ที่ร่างแม็กกี้ชิปปี้โดนรุมยิง ชิปปี้แม็กกี้คลานเข้าลิฟท์กัดฟันลุกขึ้น ที่ขาขวาชิปปี้โดนยิง ทั้งสองเลือดอาบทั้งตัว ชิปปี้กดเรียกลิฟท์
“ทำไมลิฟท์ไม่ทำงานวะ”
ชิปปี้เอาด้ามปืนกระทุ้งแผงควมคุมลิฟท์แล้วดึงสายไปเพื่อควบคุมลิฟท์
“แม็ก แกยิงถ่วงเวลาพวกมันไว้นะ”
“ได้พี่”
แม็กกี้โผล่ออกมายิงพิงก์เคนและพวกฟีนิกซ์หลบ แม็กกี้เปลี่ยนแม็กปืน ที่ฟีนิกซ์ค่อยๆคลืบตคลานเข้ามาไกล้เรื่อยๆ
“เป็นไงบ้างพี่ พวกมันเข้ามาไกล้เรื่อยๆแล้วนะพี่”
“เออนะ กูรู้ ได้แล้วๆ”
ชิปปี้สามารถควบคุมลิฟท์ได้อีกครั้ง กดลิฟท์ลงชั้นล่าง ประตูกำลังจะปิด ชิปปี้แม็กกี้กอดกันหัวเราะ
“ไอ้พุฒิพวกมันเข้าลิฟท์ไปแล้ว พวกมันกำลังจะหนี ตัดไฟอาคารเลย”
ชิปปี้แม็กกี้ยิ้ม
ประตูลิฟท์ค่อยๆปิด
“ไว้ค่อยเจอกันอีกนะ สาด”

ธงรบพยายามต่อรองกับเจน
“ยอมรับเถอะยังไงคุณก็ต้องการ ที่คนชั่วอย่างผมคอยทำงานไห้คนดีอย่างคุณ คุณอยากได้อะไรก็แค่บอก เงิน อำนาจ ผมสามารถทำไห้ฝันคุณเป็นจริงได้นะ ยังไงคุณก็จะเป็นคนดีของสังคมที่พร้อมด้วยทุกอย่างต่อไป ส่วนผมก็จะยอมเป็นคนชั่วที่ทุกคนคอยสาปแช่งต่อไป แล้วรับรองว่าผมจะไม่บอกความลับของคุณไห้ใครฟัง”
“ชั้นเชื่อว่าคุณไม่ปากโป้งแน่ เพราะคนชั่วที่ตายแล้วพูดอะไรไม่ได้หรอก”
ไฟอาคารปิด เจนกระหน่ำกระสุนใส่ธงรบ
เจนยืนนิ่งมองด้วยสายตาโหดเหี้ยม

แต่ทันใดนั้นไฟลิฟท์ก็ดับลง
“เฮ้ยอะไรกันวะเนี่ย !”
ชิปปี้ตกใจมาก พุฒิตัดไฟอาคาร
“ชิปปี้ แม็กกี้ ทิ้งปืนแล้วมอบตัวซะ” เคนบอก
“มอบตัวเหรอ”ชิปปี้ว่า
ทั้งคู่โผล่ออกมายิง ฟีนิกซ์หลบ ทั้งสองคนยิงจนหมดแม็ก เคนมองพิงก์
“ชิปปี้ แม็กกี้ ที้งอาวุธซะเถอะ โทษหนักจะได้เป็นเบา ถ้าพวกแกไห้การต่อศาลเอาผิดธงรบ พวกแกจะติดคุกไม่กี่ปีหรอก” พิงก์ว่า
ชิปปี้แม็กกี้มองหน้ากัน พยักหน้า แล้วจับมือกัน
“ถึงพวกกูไม่ไช่คนดี แต่กูก็ไม่ไช่พวกงูเห่าโว้ย”
ชิปปี้และแม็กกี้ช่วยกันพยุงกันออกมา ยกปืนขึ้นทำท่ายิง เคนพิงก์เห็นว่าปืนไม่มีกระสุน พยายามห้ามลูกน้อง แต่ไม่ทันพวกฟีนิกซ์ต่างยิงไส่ทั้งสอง
“อย่า”

ร่างทั้งสองระตุกเพราะกระสุน ทั้งสองนั่งคุกเข่าล้มลง

อ่านต่อตอนที่ 18


กำลังโหลดความคิดเห็น