พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 16 : จิตว่าง จะเปลี่ยนเป็น “ยูซ่า”
บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : จรูญพร ปรปักษ์ประลัย
เคนเดินไปเดินมาอย่างหงุดหงิด พิงก์ยืนกอดอกมองดูอยู่
"ตกลงผมต้องเป็นยูซ่าอีกแล้วเหรอเนี่ย"
"ก็จริงน่ะสิ เคนมีปัญหาอะไรเหรอ"
"ปัญหา ? ปัญหาของผมก็คือ ผมไม่ได้มีปุ่มเปลี่ยนร่างอัตโนมัติ คิดจะเปลี่ยนเป็นใคร ก็เปลี่ยนได้ ณ บัดนาว"
"แต่แผนจะไม่สำเร็จ ถ้าเราไม่มียูซ่า"
"แล้วถ้ายูซ่าไม่ยอมออกมาเหมือนครั้งก่อน ๆ ล่ะ"
"ถ้ายูซ่าไม่ยอมออกมา เคนก็ต้องเป็นยูซ่าให้ได้"
"เฮ้ย ! ไม่เอาอ่ะ จะให้ผมแต่งหญิง ขึ้นไปโชว์บนเวทีเหรอ ? ไม่มีทาง ผมทำไม่ได้หรอก"
"ได้สิ เคนต้องทำได้"
"ไม่ได้"
"ได้"
"ม่าย..."
"ฮือ ..." พิงก์พูดพร้อมพยักหน้ายืนยัน
เคนส่ายหน้า หน้าเหยเหมือนกินยาขมปี๋เข้าไปเต็ม ๆ
ป้ายคัตเอ้าท์หน้าบาร์ ภาพโปรโมทยูซ่า พร้อมข้อความเชิญชวน "ยูซ่า สเปเชียลโชว์พิเศษ คืนพิเศษ เพื่อคุณคนพิเศษ ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น"
เจ๊หว่างกับเฮียฮะยืนมองดูป้ายนั้นเซ็ง ๆ พูดกันแบบซึม ๆ
"สว่างฮะ สว่างว่ายูซ่าเค้าจะยอมมาขึ้นโชว์ให้เราจริง ๆ เหรอฮะ"
"นั่นน่ะสิ มงกุฎก็ปิ๋วไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ทีนี้จะเอาอะไรมาทำให้เค้ายอมขึ้นโชว์ได้ล่ะ"
เคนกับพิงก์เดินเข้ามายืนข้าง ๆ เจ๊หว่าง โดยที่สองเจ้าของบาร์ไม่รู้ตัว
"คำสัญญายังไงล่ะคะ"
เจ๊หว่างพูดโดยยังไม่รู้ว่าเป็นเคนที่พูด "จริงด้วย ยูซ่าสัญญาไว้ ว่าจะขึ้นโชว์ให้เราเป็นประจำ"
"ใช่ค่ะ และเขาจะทำตามสัญญา ใช่ไหม"
พิงก์พูดแล้วก็เอาศอกกระทุ้งให้เคนตอบ
เคนตอบแบบฝืนใจ "คร้าบ"
คราวนี้เจ๊หว่างรู้ตัวแล้ว หันขวับมองหน้าเคน
"แต่คุณไม่ใช่ยูซ่านี่"
"นั่นน่ะสิครับ"
"ไม่ใช่ ก็ทำให้เป็นสิคะ"
"จะไหวเหรอฮะ"
"ไหวซิคะ ในเมื่อครั้งหนึ่ง เคนเคยเปลี่ยนตัวเองเป็นยูซ่ามาแล้ว ถ้าจะทำอีกสักครั้ง ทำไมจะไม่ได้ โดยเฉพาะ ถ้าได้ครูเก่ง ๆ แบบเจ๊ช่วยสอนให้"
เจ๊หว่างมองเคนอย่างเพ่งพินิจ
"นะคะเจ๊ ถึงหุ่นเค้าจะไม่ให้ แต่ใจรัก แล้วอีกอย่าง ถ้าเจ๊ทำสำเร็จ ก็วินวินกันทั้งสองฝ่าย ยูซ่าคนใหม่ได้ขึ้นไปเฉิดฉายบนเวที ส่วนเจ๊ก็มีสุดยอดนางโชว์เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง"
"อ่ะ ๆ ฉันสอนให้ก็ได้ แต่บอกก่อน ถ้าไม่เห็นแวว ฉันเลิก ... อีกอย่าง ฉันจะสอนให้เฉพาะเด็กที่ไม่ดื้อ ไม่เถียง ไม่เจ้าปัญหา ขยัน มีวินัย ไม่เกเร ฉันพูดคำไหน ต้องเป็นคำนั้น"
"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงค่ะ รายนี้หัวอ่อน เจ๊พูดอะไร เชื่อฟังทุกอย่าง ใช่ไหม"
พิงก์พูดแล้วก็เอาศอกกระทุ้งให้เคนตอบอีก
เคนตอบแบบฝืนใจ "คร้าบ"
"พิงก์อาสาเป็นฝ่ายสนับสนุนให้เองค่ะ ใครต้องการอะไร อาหาร เครื่องดื่ม ยาแก้ปวด พิงก์จัดให้ได้หมด"
"แล้วเราจะเริ่มกันเมื่อไรเหรอครับ"
"เดี๋ยวนี้เลย"
เคนหน้าเหย "เดี๋ยวนี้ !"
เจ๊หว่างกำลังแต่งหน้าให้เคนอยู่ เคนหันหลังให้กระจก เขาจึงยังไม่เห็นลุคใหม่ของตัวเอง
"รู้ไหม ถ้าคิดจะเป็นยูซ่า เธอต้องเป็นยูซ่าทั้งข้างนอกข้างใน อ่ะ เสร็จแล้ว"
เจ๊หว่างขยับตัวออก เคนหันไปมองตัวเองในกระจก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นตัวเองแต่งหญิง ตอนแรกเขาตกใจ
"เฮ้ย !"
เจ๊หว่าง เฮียฮะ และพิงก์ เข้ามาไปมองดู สักพักอาการของเคนก็เปลี่ยนไป
"ฮึม... จะว่าไปเราก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย"
หน้าพิงก์เปลี่ยนจากมีรอยยิ้มเป็นเครียด เริ่มสงสัยบางอย่างในตัวเคน
เคนยืนอยู่เบื้องหน้าเจ๊หว่าง เขาสวมรองเท้าส้นสูงปี๊ด ยืนเก้ ๆ กัง ๆ ดูไม่มั่นคงนัก
"จำไว้ ทุกครั้งที่ก้าวขึ้นมาบนเวที เราคือนางผญา ทุกท่วงท่าต้องเริ่ด เริ่มจากการเดิน"
เจ๊หว่างถอยออกมาดู เคนยังยืนเก้ ๆ กัง ๆ
"เอาเลยเหรอครับ"
เจ๊หว่างดุ "ก็ใช่น่ะสิ ไป !"
เคนเริ่มเดินแบบยังรักษาศูนย์ไม่ได้ เฮียฮะกับพิงก์มองดูอย่างไม่สบายใจนัก เคนเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็เสียหลัก
"เฮ้ย ๆๆๆ"
เขาหน้าคะมำ ล้มคว่ำไป
พิงก์ถึงกับเอามือปิดตาไม่อยากมอง
"อู๊ย !"
เจ๊หว่างมองอย่างเสียอารมณ์สุด ๆ
"โอ๊ย จะบ้าตาย"
เคนยันตัวเองขึ้นมาอย่างทั้งเจ็บทั้งอาย
"อ้า... ขอโทษครับ"
เจ๊หว่างพูดกับเคน
"คาบาเร่ต์โชว์คือการแสดงอย่างหนึ่ง เล่นเป็นอะไร เราต้องสวมหัวใจ ใส่บทบาท เป็นอย่างนั้นให้ได้ ลองดู ... เกอิชา"
เคนใส่ชุดโชว์เกอิชา พยายามทำท่าทางเป็นเกอิชา ยิ้มปากจู๋ แต่ดูยังไงก็ไม่ใช่
"มาดอนน่า"
เคนใส่ชุดโชว์มาดอนน่า พยายามทำท่าทางเบ่งกล้ามแข็งแกร่งแบบมาดอนน่า แต่ดูยังไงก็ไม่ใช่อีกเช่นกัน
"บียองเซ่"
บนเวที เคนแต่งหญิงกับเจ๊หว่างยืนหันหน้าเข้าหากันบนเวที เฮียฮะกับพิงก์ยืนดูอยู่ข้างล่างอย่างเอาใจช่วย
"รู้ไหม ว่าอะไรที่ทำให้โชว์บางโชว์สุดยอด ขณะที่โชว์ส่วนใหญ่แค่งั้น ๆ หรือไม่ก็ถึงขั้นป่วย"
เคนตอบอย่างมั่นใจ "ก็คงรวม ๆ มั้งครับ เสื้อผ้า หน้าผม ฉาก แสงสี เพลง ความสวยของนางโชว์ แล้วก็การแสดงที่ลงตัว"
"ไม่ใช่เลย นางโชว์ที่ดี ไม่จำเป็นต้องมีเวที ฉาก แสงสีเสียง เสื้อผ้า เครื่องประดับหรู ๆ หรือแม้แต่การแต่งหน้าเริ่ด ๆ นั่นน่ะแค่ส่วนประกอบ หัวใจของโชว์อยู่ที่หัวใจของนางโชว์" เจ๊หว่างใช้นิ้วจิ้มไปที่อกซ้ายของเคน "แค่นั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น"
"แล้วผมต้องทำยังไงครับ"
"ถ้าอยากเป็นยูซ่า ไม่ใช่แค่ทำท่าเลียนแบบยูซ่า แต่ต้องสวมวิญญาณยูซ่า คิดแบบยูซ่า รู้สึกแบบยูซ่า ส่องประกายออกมาจากข้างใน ให้เหมือนกับยูซ่า"
"สวมวิญญาณ..เหรอครับเจ๊"
"เลิก ‘ครับ’ ได้แล้ว แล้วต่อจากนี้ห้ามเรียกฉันว่า ‘เจ๊’ ให้เรียก ‘คุณแม่’"
"หะ ! เอาจริงเหรอครับเจ๊"
เจ๊หว่างหงุดหงิดขึ้นทันที "โอเค เลิกสอน"
เจ๊หว่างหันหลังเดินไปทันที พิงก์หน้าเสีย เคนมองตามเจ๊หว่างไป แล้วตัดสินใจพูด
"ค่ะ คุณแม่"
เจ๊หว่างหยุด หันกลับมา ยิ้มหวาน
"ต้องอย่างนี้สิ ลูกสาวแม่"
ในห้องเจน ที่ฟีนิกซ์ พุฒิพูดแล้วหัวเราะดังลั่น
"ค่ะคุณแม่" พุฒิหัวเราะลั่น
เคนมองพุฒิแบบเคือง ๆ
"เฮ้ย ! ขำอะไร ไม่ตลกนะเว้ย"
"โอเค สัญญาว่าจะไม่หัวเราะแล้ว" พุฒิจะหลุดหัวเราะออกมาอีก แต่รีบหุบปากหยุดไว้ ก่อนพูดย้ำ "ไม่แล้ว ทีนี้ไม่หัวเราะจริง ๆ"
"พี่เจนครับ ผมขอร้องล่ะ ให้ผมทำอะไรก็ได้ ขออย่างเดียว อย่าให้ผมต้องฝึกคาบาเร่ต์โชว์ต่อเลยครับ"
เจนถามนุ่ม ๆ เหมือนเห็นใจ "ไม่อยากฝึกต่อแล้วเหรอจ้ะ"
"ครับพี่เจน มันไม่ไหวจริง ๆ ของมันไม่ใช่ ยังไงมันก็ไม่ใช่"
เจนตอบเด็ดขาดดุดัน "ไม่ได้ !"
"โอ๋ย"
ซูซี่มองเคนแล้วนึกอะไรออก ก่อนเดินเข้าไปยืนตรงหน้าเขา
"เคนคะ บางทีซูซี่อาจจะช่วยให้คุณฟื้นความจำก็ได้นะคะ"
ซูซี่เหลือบมองไปทางเจนและพิงก์
"เดี๋ยวมาหาซูซี่ที่ห้องได้ไหมคะ"
เคนมองไปทางพิงก์ พิงก์ถลึงตาใส่
"เอ่อซูซี่"
ก่อนซูซี่จะทันอธิบายพิงก์ก็เข้ามาหาเคน
"มีอะไรหรือเปล่าคะ"
พิงก์มองซูซี่เคือง ๆ พุฒิก็มองแบบเอะใจเหมือนกัน ว่าอีกไม่นานต้องเกิดเรื่องแน่
"อุ๊ย..ไม่มีอะไรจ้ะ"
ซูซี่หันมาเห็นพิงก์มองอยู่ พิงก์เหลือบตามามองซูซี่แบบดุดัน ซูซี่ยิ้มให้พิงก์แบบ ‘ฉันไม่ได้อะไรสักหน่อยนะยะ’
พิงก์มองเคนแบบงอนๆ แล้วเดินออกไป เคนอึ้งมองตาม มองมาทางเจน เจนพยักหน้าให้ตามไป
พุฒิมองอย่างเบื่อ ๆ ก่อนตามสองคนนั้นไป
"เอาล่ะ สรุปตามนี้ ฉันขอคุยกับซูซี่หน่อย ส่วนคนอื่นไปได้แล้ว"
เมื่อประตูห้องปิด เจนก็หันไปพูดกับซูซี่
"ซูซี่"
"คะ"
"พร้อมบอกทุกอย่างที่เธอรู้เกี่ยวกับธงรบแล้วหรือยัง"
"ค่ะคุณเจน"
เคนเร่งเท้าตามพิงก์มา
"พิงก์ ! พิงก์"
เคนตามไปคว้ามือพิงก์ไว้
"พิงก์ !"
พิงก์ไม่หยุด เดินขึ้นรถ ขับออกไป
"ทำไมต้องงอนด้วยนะ"
"เอาน่า เดี๋ยวเขาใจเย็นลง เขาก็กลับมาเองแหละ" พุฒิว่า
เคนมองตามรถพิงก์แบบไม่เข้าใจ
ในที่ลับตาคน ... รถคันหนึ่งจอดอยู่ พิงก์เดินเข้ามา เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถทางด้านหลัง ซึ่งหัวหน้าของเธอนั่งอยู่แล้ว
หัวหน้าถาม "สรุปว่า..."
"ยังยืนยันอะไรไม่ได้ทั้งนั้นค่ะ"
"อะไรของคุณเนี่ย พิงก์ ผมไม่เข้าใจเลย ผมส่งคุณให้มาสืบนะ ไม่ใช่ให้มารักกับเป้าหมาย รู้ไหมว่านี่เป็นการฝ่าฝืนกฎขั้นร้ายแรง"
"ขอโทษค่ะ แต่ฉันมั่นใจว่าเคนเป็นดี"
"เฮ่อ ผมหนักใจกับคุณจริง ๆ คุณก็รู้ว่า เคนไม่ใช่สายลับธรรมดา เราทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว ว่าเคนได้แฟลชไดร์ฟมาจากจอร์ช แต่ไม่มีใครบอกได้สักคนว่า ตอนนี้แฟลชไดร์ฟอยู่ที่ไหน ผมกำลังสงสัยว่า ไอ้ที่เขาความจำเสื่อม อาจเป็นแค่ละครตบตาทุกคน บางทีเขาอาจเอาข้อมูลไปขายให้ใครแล้วก็ได้"
"ไม่หรอกค่ะ ถ้าเขาจะหลอก ก็คงหลอกไม่ได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงหรอกค่ะ" พิงก์ว่า
"คุณประเมินเขาต่ำเกินไปแล้ว คน ๆ อาจเป็นสายลับสองหน้า หลอกทุกคนให้เชื่อ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง"
"ไม่จริง"
"ถ้างั้นก็พิสูจน์สิ แต่อย่าลืมเด็ดขาด... ว่าถ้าคุณทำผิดพลาด บทลงโทษคืออะไร"
"ฉันทราบดีค่ะหัวหน้า"
"อีกอย่าง เวลาของคุณเหลือน้อยแล้วนะ"
"ค่ะ"
จากนั้น พิงก์เปิดประตูรถออกมา ยืนคิดในชั่วเสี้ยววินาที ก่อนปิดประตูกลับ แล้วเดินออกไป
ภายในรถ หัวหน้าบอกกับคนขับรถมาดเหี้ยม ซึ่งเป็นมือสังหารประจำหน่วย
"จับตาดูไว้ และถ้าจำเป็น ก็จัดการ ‘เก็บ’ ทั้งสองคนได้เลย"
"ครับ"
เคนนั่งเซ็งอยู่ในห้อง เคนถอนลมหายใจแบบเบื่อ ๆ "โฮ่ !"
พิงก์เปิดประตูเข้ามา เคนเงยหน้าขึ้นมองอย่างดีใจ
"พิงก์ !"
เคนรีบลุกมาหาพิงก์
"พิงก์ ! คุณไปไหนมา ผมเป็นห่วงแทบแย่"
พิงก์ฝืนยิ้ม "เคน พิงก์ขอโทษนะ ที่ใช้อารมณ์มากไป แต่ซูซี่เขา..."
"ซูซี่จะยังไงก็ไม่สำคัญหรอก นี่ลองจับดู" เคนจับฝ่ามือพิงก์มาแนบที่อก
พิงก์งง ๆ "ให้จับทำไมเหรอ"
"จะได้รู้ไง ว่าเคนคนนี้ใจแข็งแค่ไหน"
พิงก์ยิ้ม "ฮือ ทั้งแข็งทั้งแน่นเลย"
เคนดึงพิงก์ลงไปบนเตียง กอดกระชับ
"เราจะรักกันไปตลอดนะ"
"ค่ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะรักกันตลอดไป"
พิงก์พลิกตัวขึ้นมาอยู่ข้างบน และก้มลงจูบเคน
ที่บ้านเจ๊สา บับเบิ้ลโพล่งขึ้นมาอย่างประหลาดใจ
"เฮ้ย ! ฉันเนี่ยนะ"
"ก็ใช่น่ะสิ บับเบิ้ล เธอเคยฝึกงานที่บาร์ยูโทเปีย ยังไงก็ต้องรู้เรื่องคาบาเร่ต์ดีกว่าทุกคนตรงนี้" พิงก์ว่า
"แต่ที่ฉันไปฝึกน่ะฝ่ายฉากเว้ย ดูปากนะ" บับเบิ้ลพูดช้า ๆ เน้น ๆ "ฝ่าย ฉาก"
"เถอะน่า ถือว่าช่วย ๆ กัน ยังไงเจ๊หว่างก็สอนเป็นหลักอยู่แล้ว เธอแค่ช่วยดูเวลาที่เคนกลับมาฝึกต่อ ดูว่าใช่ไม่ใช่ ในฐานะที่เคยเห็น เคยคลุกคลีกับพวกนางโชว์มา"
"จริง แต่ที่เจ๊รู้น่ะ ไม่ใช่แค่คลุกคลีนะ" เจ๊สาบอก
พุฒิถาม "ยังไงเหรอครับเจ๊สา"
เจ๊สาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ยิ้มแบบมีเลศนัย
"ฮ่ะฮ่า ใครอยากเห็นภาพเก่า ๆ ของบับเบิ้ลบ้าง"
ทุกคนยกมือ ยกเว้นบับเบิ้ล
"เดี๋ยวนะเจ๊ จะเอารูปอะไรมาโชว์ ขอผมดูก่อน"
เจ๊สาบอก "ดูทำไม ไม่เห็นมีอะไรต้องเซ็นเซอร์ซะหน่อย อย่างเช่นภาพนี้"
เจ๊สาเปิดภาพแรก ภาพบับเบิ้ลแต่งหน้าสาว สวมชุดนางโชว์ ทุกคนมองตะลึง
พุฒิบอก "เฮ้ย ! สวยอ้ะ"
"นั่นสิ ! ตกลง ‘ฝ่ายฉาก’ เขาแต่งแบบนี้กันเหรอ" เคนถาม
บับเบิ้ลอึกอัก รีบแก้ตัว "ก็... แค่แต่งเล่น ๆ ช่วงที่ว่าง ๆ น่ะ หนเดียวเอง"
"หนเดียวเองเหรอ แล้วนี่อะไร"
เจ๊สากดเปลี่ยนภาพใหม่ ภาพบับเบิ้ลแต่งหน้าสาว สวมชุดนางโชว์อีกชุด โพสเต็มที่
"ไม่ใช่แค่นี้นะ"
เจ๊สากดเปลี่ยนภาพใหม่ ภาพบับเบิ้ลแต่งหน้าสาว สวมชุดนางโชว์เป็นชุดที่ 3 โพสจัดเต็มยิ่งกว่าเดิม
"ยังมีอีก"
"พอ ! พอแล้วเจ๊ ผมยอมรับก็ได้ ผมไปฝึกงานที่บาร์ยูโทเปีย ก็เพราะจริง ๆ แล้วชอบ ยิ่งเข้าไปเห็นก็ยิ่งชอบ เรียกว่าความใฝ่ฝันเลยดีกว่า แต่อย่าเข้าผิดนะครับ ผมยังเป็นผู้ชายทั้งแท่ง แค่รักการแสดงเท่านั้นครับ"
ทุกคนพูดพร้อมเพรียง "จ้า"
"บับเบิ้ล ถึงเวลาทำความฝันให้เป็นจริงแล้วล่ะ"
คำพูดของพิงก์ทำให้บับเบิ้ลเกิดไฟขึ้นมา สีหน้าเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
เคน, พิงก์ พุฒิ เจ๊สา และเจ๊อูนยืนเรียงแถว บับเบิ้ลยืนอยู่เบื้องหน้าทุกคน
เพลงขึ้นมา บับเบิ้ลทำท่านำ เคนพยายามทำตาม แต่ไม่มีสมาธิ
"หยุดๆๆๆ เลย เคล็ดลับของนักแสดงคือ ถอดตัวตนเก่าออกไปให้หมด ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วใส่จิตวิญญาณใหม่เข้าไป"
พิ้งเห็นท่าไม่ได้การเลยดึงเคนออกมา
"ขอบคุณมากบับเบิ้ล พิ้งรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร"
พิ้งดึงเคนมา แล้วพยายามอธิบายไห้เคนฟัง
"ทำยังไงเหรอ พิ้ง"
"ก็แทนที่เคนจะปฏิเสธบุคลิกที่แปลกแยก ก็เปลี่ยนมาเป็นยอมรับซะ จากนั้นก็ทำความรู้จักกับบุคลิกที่แตกต่าง จนในที่สุด ทุกบุคลิกก็จะรวมกันเป็นหนึ่ง"
"แล้ว….ทำไง"
"สะกดจิตตัวเอง"
"อะไรนะ…ผม"
"มันคือการทำสมาธินะแหละ เป็นการทำไห้จิตว่าง เพื่อดึงตัวตนของยูซ่าที่อยู่ไต้จิตสำนึกสามารถออกมา"
พิงก์เอาหนังสือการทำสมาธิอกมากางให้เคนดู
"ที่ว่านี่รวมถึง King Crow ด้วยเหรอ"
"ใช่ !"
"กลัวมันจะไปกันใหญ่นะสิ"
"แต่ยังไงก็น่าลองไม่ใช่เหรอ"
พิงก์พยายามอธิบายเคนถึงการทำสมาธิ
"กำหนดจิตให้อยู่กับอะไรอย่างนึง เช่นการท่องจำและทำอะไร ซ้ำๆกันไปเรื่อยๆ จนในที่สุดจิตเราก็จะว่าง"
เคนมองหน้าพิ้งแบบงง
"เคน...หลับตาแล้วทำจิตให้ว่าง ..ทำอะไรก็ได้ที่ซ้ำๆไปเรื่อยๆ ซักพักเราจะรู้สึกถึงความว่างเปล่า"
พิงก์เปิดตาขึ้นมาดูเคนว่าทำตามไหม เคนหลับตาอยู่เอามือทุบขาตัวเองอยู่ พิงก์มองอยู่ซักพักแล้วถาม
"รู้สึก ยังไงมั้งเคน"
เคนนิ่งไม่ตอบ
"เคน..เคน"
พิงก์จับตัวเคนเขย่าเรียก...เคนตื่นจากพวัง
"เฮ้ย"
"ค่อยๆ เป็นค่อยๆไป เคนไม่ต้องรีบ"
"พิงก์ ผมกลัว"
เคนตกใจเหมือนโดนปลุกในขณะเดินละเมออยู่ พิงก์เข้าไปกอด
"ไม่ต้องกลัวเคน พิงก์จะอยู่เคียงข้างเคนตลอดไป"
เคนอยู่ในอาการตกใจ พิงก์รู้สึกผิดที่ต้องทำไห้คนรักต้องเผชิญกับฝันร้าย
เจ๊หว่างส่งแผ่นดีวีดีให้เคน
"วันนี้ไม่มีการฝึกใด ๆ ทั้งสิ้น เอานี่ไปดู แล้วจำท่าทั้งหมดให้ได้ ... ถ้ากลับมาคราวหน้าไม่ได้เรื่อง ก็ปิดคลาส ขาดกันไปเลย เข้าใจไหม"
"ค่ะคุณแม่"
ในห้องขังพิเศษ เคนวางคอมพิวเตอร์แบบมีช่องเล่นแผ่นดีวีดีลงบนโต๊ะ
แผ่นดีวีดีเข้าไปในเครื่อง
หน้าจอปรากฏคลิปโชว์ของยูซ่าขึ้นมา
เคนนั่งมองดูอย่างตั้งใจ เขากดดูซ้ำ เริ่มทำมือทำไม้ตาม เขาดูซ้ำอีก ลุกขึ้นทำตาม หลังจากที่เคน พยายามทำตามอย่างเดียวแต่ไม่ได้ผล เลยนั่งทำสมาธิตามที่ได้เรียนมา แล้วเคนก็ได้เข้าถึงตัวตน
เคนปรากฏบนหน้าจอให้ห้องสังเกตการณ์
พิงก์ เจน พุฒิ และซูซี่ มองดูอย่างชื่นชม
"คนอย่างไอ้เคน ลองเอาจริงซะอย่าง อะไรมันก็ทำได้ทั้งนั้นแหละ" พุฒิบอก
"นี่แหละเคนตัวจริงล่ะ"
เคนทำท่าตามยูซ่า อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกอินขึ้นมา ท่าที่เคยเก้ ๆ กัง ๆ ตอนนี้กลับเข้าที่แป๊ะ
ทุกคนมองตะลึง
"ฮึ้ย ใช่เลยอ้ะ หรือว่านี่จะเป็น..." พิงก์ว่า
ซูซี่ต่อให้ทันที "ยูซ่า"
อยู่ ๆ เคนก็รู้สึกวูบหน้ามืดขึ้นมา เขาทรุดตัวลงไปนั่งคุกเข่า
พิงก์ ซูซี่ และพุฒิ ต่างเป็นห่วง
พิงก์/ซูซี่อุทาน"เคน !"
"ไอ้เคน !"
พุฒิขยับจะออกไปช่วย แต่เจนห้ามไว้
"อย่า ! ปล่อยเขาไว้อย่างนั้นแหละ"
เคนที่นั่งก้มหน้าอยู่เงยหน้าขึ้นมา แต่เวลานี้สีหน้าเขาเปลี่ยนเป็น King Crow ไปแล้ว เขาขยี้ผมเปลี่ยนลุคตัวเอง
King Crow ลุกขึ้น มองหน้าจอที่เปิดอยู่แบบงง ๆ ผสมไม่พอใจ
"นี่มันอะไรกันวะเนี่ย"
พุฒิกลับไปยืนที่เดิม
"ซวยแล้ว !"
King Crow หยิบเก้าอี้ขึ้นมา เงื้อเตรียมฟาด
"เฮ้ย ๆ อย่านะเว้ย ของมันแพง"
King Crow กำลังจะฟาดจอคอมพ์ แต่แล้วเขาก็ชะงักเมื่อมีเสียงเคนดังขึ้นมา
"พอ ๆ เลิกบ้าได้แล้ว จะบ้าไปถึงไหนกันเนี่ย"
King Crow หันไปทางที่ได้ยินเสียงเคน เคนก้าวออกมาหา
"ไม่ว่าแกจะทำยังไง ก็ไม่มีวันได้ออกไปจากที่นี่"
"แกคิดเหรอ ว่าจะขังฉันไว้แบบนี้ได้ตลอดไป" King Crow วางเก้าอี้ลง "แล้วดูแกสิ อยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาซ้อมเต้นคาบาเร่ต์ ไม่รู้จักอายมั่งหรือไงวะ"
จบคำพูดของ King Crow ก็มีอีกเสียงเข้ามา
"ทำไมต้องอายด้วย โชว์คาบาเร่ต์มันน่าอายตรงไหนเหรอ"
King Crow หันไปหายูซ่าที่เดินเข้ามา
"เธอกล้าออกมาแล้วเหรอยูซ่า"
ยูซ่าเข้ามาหยุดยืน ตอนนี้ทั้งสามคนยืนเป็นมุมสามเหลี่ยม
พิงก์ พุฒิ ซูซี่ เจน มองที่หน้าจอ
"คิงพูดกับยูซ่าเหรอ" ซูซ่าถาม
"ดูเหมือนจะมีเคนอยู่ด้วยนะ" พิงก์ถาม
หน้าจอ King Crow ยืนพูดอยู่คนเดียว
"ลืมไปแล้วหรือไง ว่าคราวที่แล้วที่เจอกัน เธอโดนอะไรไปบ้าง"
King Crow ยื่นมือไปหายูซ่า แต่เคนห้ามไว้ด้วยน้ำเสียงดุดัน
"เลิกยุ่งกับเค้าได้แล้ว"
King Crow เหล่มองเคน "ฉันก็ไม่ได้อยากยุ่งหรอก แค่จะให้มันเปิดปากบอกที่ซ่อนแฟลชไดรฟ์ก็เท่านั้นเอง หรือว่าแกไม่อยากรู้วะเคน"
"อยากรู้ก็เรื่องของนาย ยังไงฉันก็ไม่บอก" ยูซ่าบอก
"เธอต้องบอก"
King Crow เดินไปหายูซ่าที่ถอยหนี แต่อยู่ ๆ ยูซ่าก็ค่อย ๆ เลือนหายไป King Crow มองอย่างโกรธแค้น
"หนีไปไหนวะ กลับออกมาเดี๋ยวนี้นะ"
เคนที่ยืนมอง King Crow อยู่ค่อย ๆ เลือนหายไปอีกคน
King Crow หันขวับไปมอง
"ไอ้เคน แกอยู่ไหน เก่งจริงออกสู้กันอีกสิซะ คราวนี้ฉันจะฆ่าแกให้ได้"
แต่ทั้งเคนและยูซ่าไม่กลับมา
King Crow โกรธจัด หยิบเก้าอี้ขึ้นมาอีกครั้ง
ภาพในจอ King Crow ฟาดเก้าอี้ไปที่คอมพิวเตอร์
พุฒิส่ายหน้าแบบเซ็ง ๆ
"จนได้ !"
King Crow ฟาดไปที่คอมพิวเตอร์จนพังพินาศ ทุกคนยืนอึ้ง
"แป่ว ! จบข่าว !"
พิงก์กลับมาดูภาพวงจรปิดที่อัดไว้จากหลายๆ คลิป ทั้งที่พุฒิอัดมาจากบ้านและที่สนามมวยใต้ดิน
วันต่อมา เคนขับรถเข้ามาจอด
เคนกับพิงก์ก้าวลงมาจากรถ
เคนมองไปที่บาร์ยูโทเปีย แล้วอยู่ ๆ เขาภาพในอดีตก็แวบเข้ามาในหัว
ถนนหน้าบาร์ยูโทเปีย แท็กซี่คันหนึ่งจอด จอร์ชก้าวลงมาจากรถ แล้วเดินไป
แท็กซี่อีกคันตามเข้ามาจอด เคนลงจากรถ มองตามแล้วเดินไล่หลังจอร์ชไป
พิงก์มองเคนอย่างรู้สึกว่าเขามีอาการไม่ปกติ
"เคน เป็นอะไรหรือเปล่า"
เคนไม่ตอบ เขามีอาการของคนอยู่ในภวังค์
เคนเดินมาจนถึงหน้าบาร์ เขามองป้ายไฟสว่างไสวของบาร์ยูโทเปียอย่างแปลกใจ ก่อนมองหาจอร์ช
จอร์ชเดินเข้าบาร์ไป ท่ามกลางลูกค้าคนอื่น ๆ ที่ทยอยเข้าไป เคนเดินตามไป พนักงานต้อนรับยิ้มให้
"สวัสดีค่ะ กี่ที่คะ"
"ที่เดียวครับ"
"ถ้างั้นเชิญเลยค่ะ"
"เดี๋ยวครับ ผมถามอะไรหน่อยสิ ฝรั่งที่เข้าไปเมื่อกี้ เขาเคยมาที่นี่หรือเปล่า"
พนักงานเหล่มองอย่างหยั่งเชิง เคนรีบกลบเกลื่อน
"คือว่าผม... ผมแอบปิ๊งเขาอยู่น่ะครับ"
พนักงานยิ้ม "อ้อ !"
เคนหยิบเงินจากกระเป๋าพับส่งให้
"ช่วยหน่อยนะ"
พนักงานรับเงิน แต่ยังยิ้มไม่เอ่ยอะไรออกมา เคนหยิบเงินพับส่งไปให้อีก คราวนี้พนักงานยิ้มกว้างขวางกว่าเดิมมาก
พนักงานยิ้ม "ฝรั่งสุดหล่อเมื่อกี้ เค้ามาคืนที่สามแล้วค่ะ มาทีไรก็มาคนเดียว แล้วขากลับก็กลับคนเดียวค่ะ"
"ถ้างั้นผมก็มีหวัง"
"ชัวร์ เอาใจช่วยนะคะ ขอให้ได้ขอให้โดนค่ะ"
เคนยิ้มแบบกึ๋ย ๆ หน่อย "ครับ ขอบคุณครับ"
เคนเดินเข้าบาร์ไป พนักงานคนนั้นยิ้มกว้าง รู้สึกราวกับเป็นกามเทพสื่อรัก ลูกค้าคนอื่นเดินเข้ามา
"สวัสดีค่ะ กี่ที่คะ"
พิงก์มองเคนอย่างยิ่งกังวล
พิงก์เรียก "เคน ! เคน !"
เคนรู้สึกตัวขึ้นมา เขายังตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้เห็น
"หะ !"
"เคนเป็นอะไรเหรอ"
เคนตอบเหมือนเพ้อ ๆ "ผมตามเค้ามาที่นี่"
"ตามเค้า ? ตามใครมาเหรอเคน"
"จอร์ช"
"จอร์ช ? เมื่อไรกัน"
"น่าจะหลังจากผมได้รับภารกิจจากพี่เจนน่ะ"
พิงก์มองเคนอย่างรู้สึกตื่นเต้นไปด้วย
"นี่แหละเป็นสาเหตุให้ผมเปลี่ยนตัวเองเป็นยูซ่า"
ไม่ไกลจากจุดนั้นนัก ชิปปี้กับแม้กกี้ซุ่มดูอยู่ ชิปปี้ยกโทรศัพท์โทรรายงาน
"นายครับ มันโผล่ออกมากันแล้วครับ ให้ผมจัดการเลยไหมครับ"
ธงรบตอบโทรศัพท์ด้วยท่าทางของคนที่รู้สึกว่าตัวเองคือคนคุมเกม
"ยังไม่ต้อง คอยตามดู ว่าพวกมันคิดจะทำอะไรกัน แต่คอยโทร. รายงานฉัน"
"ครับนาย"
ชิปปี้กดวางสาย
ธงรบยืนโทรศัพท์ค้างอยู่อย่างนั้น สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความครุ่นคิด
เคนในคราบยูซ่าก้าวขึ้นไปยืนบนเวที
เจ๊หว่าง เฮียฮะ และพิงก์ ยืนดูอยู่ข้างล่าง
"ไหนโชว์ให้ดูหน่อยสิ ว่าไปฝึกมาแล้ว ได้อะไรติดหัวติดตัวมามั่ง"
"ได้ครับเจ๊"
เจ๊หว่างมองดุๆ
"ค่ะคุณแม่"
เพลง I am Uza ขึ้นมา เคนเริ่มแสดง ท่าทางดูเก้ ๆ กัง ๆ แข็ง ๆ แม้จะพยายามเต็มที่แล้ว
เจ๊หว่างถึงกับส่ายหน้า ขณะที่เฮียฮะและพิงก์ยืนดูหน้าเครียด
ที่มุมห้อง ชิปปี้กับแม้กกี้ซุ่มดูอยู่
ทั้งคู่ยิ้มขำเมื่อเห็นท่วงท่าการแสดงของเคน
"ฮึ ! ไม่ได้เรื่อง"
ในที่สุดเจ๊หว่างก็ทนไม่ไหว
"โอ๊ย พอแล้ว เสียเวลาฉันจริง ๆ เลย ... นี่ ๆ เมื่อกี้เข้ามาทางไหนกันเหรอ"
"ทางนั้นครับ"
"ฟังนะ เข้ามาทางนั้น ก็ออกไปทางนั้น แล้วไม่ต้องกลับมาอีก"
"คุณแม่ !"
"ไม่ต้องเรียกฉันคุณแม่แล้ว พอ พอกันที"
เจ๊หว่างหันหลังเดินไปอย่างหงุดหงิด
เคนมองพิงก์อย่างผิดหวัง พิงก์พยักหน้าให้กำลังใจ
"เคน สมาธิ" พิงก์เตือน
"ผมกลัว! กลัวว่าจะไม่ใช่ยูซ่า..นะซิ"
"ฉันมีแผนสำรองไว้แล้ว"
พิงก์เอากุญแจมือและโซ่ออกมาโชว์
"เจ๊หว่างคะ ขอเวลาอีกแป๊บเดียวค่ะ รับรองเจ๊จะได้ดูโชว์ที่เจ๊ไม่เคยเห็นมาก่อน"
พิงก์เอากุญแจมือใส่ยูซ่าทั้งมือและเท้าแล้วเอาโซ่ล็อคไว้
เจ๊หว่างหันมา
"แหมเห็นหน้าสวยๆ เรียบร้อยแบบเธอไม่นึกเลยว่าจะวิตถารขนาดนี้ แล้วแส้ไปไหนล่ะ"
เฮียฮะบอก "คิดถึงวันเก่าๆ เลยนะสว่างฮะ แต่ตอนนั้นสว่างชอบน้ำตาเทียนมากกว่าใช่มั้ยฮะ"
"บ้าน่า เฮียฮะพูดอะไรก็ไม่รู้ แต่..ยูซ่าเธอลองน้ำตาเทียนดูบ้าง รับรองเลิศสแมนแตน"
เจ๊หว่างเฮียฮะหัวเราะคิกคัก
พิงก์มองหน้าเคนรู้ว่าเจ๊หว่างเข้าใจผิด
"ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะเจ๊ เคนเค้าต้องทำสมาธิเพื่อที่จะดึงตัวยูซ่าจากจิตใต้สำนึกของเค้าออกมา"
"โห! เก๋ไก๋สไลเดอร์ แล้วทำไมไม่ทำตั้งแต่แรก"
"ผมไม่มั่นใจว่าเรียกแล้วใครจะมายูซ่าหรือคิงโครว์"
เจ๊หว่างตกใจ
"อย่างงั้นไม่ต้องเรียกมาเลยนะฮะ ถ้าเกิดเป็นคิงโครว์ มันไม่มาฆ่าเราเหรอฮะ"
พิงก์บอก "ไม่ต้องกลัวค่ะพิงก์มีแผน B ไว้แล้ว"
พิงก์ชูเข็มยาสลบขึ้นมา
"เข็มเดียวสลบถึงเช้า เริ่มได้เลยเคนไม่ต้องเป็นห่วง"
เคนเริ่มทำสมาธิ
เคนลุกขึ้น แล้วในเวลานั้นเอง เขาก็เหมือนสวมวิญญาณยูซ่าเข้าไปในตัว เสียงเพลงดังขึ้นมาในหัว
เคนเริ่มเต้นอีกครั้ง แต่คราวนี้กลายเป็นเหมือนอีกคน ท่วงท่าทุกอย่างเป๊ะ
เจ๊หว่างหันกลับมามอง สีหน้าเปลี่ยนเป็นแปลกใจ ก่อนที่จะจบด้วยใบหน้าพึงพอใจ
ที่มุมห้อง ชิปปี้กับแม้กกี้มองอย่างแปลกใจ
"เป็นไปได้ยังไงเนี่ย"
ท่วงท่าของเคนซ้อนทับยูซ่าในอดีต บนเวทีเดียวกันนี้
ในอดีต คืนหนึ่งที่บาร์ยูโทเปีย
ยูซ่าโชว์อยู่บนเวที ท่ามกลางสายตาผู้คนที่เฝ้ามอง
จอร์ชนั่งอยู่ในกลุ่มคนดู
ยูซ่าจบการแสดงอย่างสวยงาม
คนดูลุกขึ้นปรบมือ เป่าปากกันอย่างมีความสุข รวมทั้งจอร์ชที่ยืนอยู่ในกลุ่มคนดูด้วย
ยูซ่าผายสองมือรับเสียงปรบมือและการชื่นชมของคนดู
เคนผายสองมือรับเสียงปรบมือและการชื่นชมของคนดูในจินตนาการ
เจ๊หว่างยิ้มอย่างมั่นใจว่านี่แหละคือคนที่เธอเฝ้ารอคอย
"ยูซ่าลูกแม่"
เคนในคราบยูซ่าพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
"พิงก์ ผมเห็นทั้งหมดแล้ว ผมแฝงตัวมาเป็นนางโชว์ เพื่อที่จะทำความรู้จักกับจอร์ช"
"แล้วเคนเห็นอะไรอีก"
เคนหมุนตัวไปรอบ ๆ แล้วเขาก็หยุดมองที่กระจก เดินเข้าไป แล้วภาพในอดีตแวบเข้ามา
ในกระจกเป็นภาพยูซ่าที่เดินเข้ามา
ยูซ่ามองตัวเองในกระจก ค่อยๆ ถอดเครื่องประดับบางส่วนออก
ทันใดนั้นเอง จอร์ชก็ก้าวเข้ามาด้านหลัง ยูซ่าตกใจร้องว้าย
"ว้าย ! คุณเป็นใคร เข้ามาได้ไง ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะตามพี่ รปภ. มาลากตัวคุณไปจริง ๆ"
"ใจเย็น ๆ ผมไม่มีอันตราย ผมแค่ชอบคุณ"
ยูซ่าค่อยลดอาการตกใจลง
"ชอบฉัน ! แต่แบบนี้มันไม่ได้นะคะ เรามีกฎ ห้ามคนภายนอกเข้ามาเด็ดขาด"
"ผมชื่อจอร์ช นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมมาเมืองไทย ผมถูกส่งมาทำงานที่นี่เมื่อสองปีก่อน ทำให้ผมได้พบคนคนหนึ่ง คนที่พิเศษกับผมอย่างที่สุด"
จอร์ชหยิบรูปใบหนึ่งออกมา รูปถ่ายของเขากับสาวสวยรูปร่างหน้าผมทรงเดียวกับยูซ่าเป๊ะ
"หลังจากกลับไป ผมก็ติดต่อเธอไม่ได้อีก ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น"
"คุณก็เลยมาตามหาเธอ"
"ครับ"
"แต่ฉันคงเป็นตัวแทนใครไม่ได้หรอกนะคะ"
"ผมไม่ได้หวังให้คุณมาแทนเขา แค่ขอให้คุณเปิดใจรับผมเป็นเพื่อนอีกสักคน"
"แล้วเพื่อนเขาต้องทำยังไงกันเหรอคะ"
"ก็ต้องทำความรู้จักกัน"
จอร์ชตอบแล้วเข้าประชิดตัวยูซ่าทันควัน ยูซ่ารีบถอยหนี
"อุ๊ย ไม่ได้นะคะ ถ้าคุณแม่รู้ว่าแอบมากุ๊กกิ๊กกับใครในนี้ มีหวังบาร์แตกแน่"
จอร์ชขยับตัวถอยออก ยูซ่าค่อยรู้สึกโล่งอกโล่งใจ
"ขอโทษด้วยครับ ผมลืมตัวไปหน่อย ถ้างั้นผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ แล้วคืนพรุ่งนี้ ผมจะกลับมาคุณอีก"
"ค่ะ ฉันจะรอนะคะ"
จอร์ชใช้นิ้วแตะที่ริมฝีปากตัวเองเบา ๆ ก่อนเอาไปแตะที่ริมฝีปากยูซ่า แล้วหันหลังออกไป
ทันทีที่จอร์ชออกไป ยูซ่าก็ถอนใจอย่างหนักหน่วงด้วยความโล่งอก "โฮ่ !"
เคนหันจากกระจกมามองพิงก์
"ทุกอย่างเกิดขึ้นที่นี่"
"แล้วแฟลชไดรฟ์ล่ะ แฟลชไดรฟ์อยู่ที่ไหน"
"แฟลชไดรฟ์ ?"
เคนหมุนมองไปทางประตูห้อง ภาพในอดีตแวบเข้ามาแบบเต็ม ๆ
คืนหนึ่ง ... ในห้องแต่งตัว จอร์ชดูตื่นเต้นและรู้สึกไม่ปลอดภัย
"มีอะไรคะจอร์ช คุณเป็นอะไรหรือเปล่า"
"มีคนตามจับผมอยู่ คุณช่วยอะไรผมอย่างได้ไหม"
"อะไรเหรอคะ"
จอร์ชหยิบแฟลชไดรฟ์ขนาดเล็กออกมา
"ช่วยเก็บแฟลชไดร์ฟนี่ไว้ให้ผมที"
"ในนี้มีอะไรคะ"
"ข้อมูลสำคัญ"
"สำคัญแค่ไหน"
"สำคัญมาก มันเป็นข้อมูลลับของพวกอาชญากรข้ามชาติ"
ยูซ่าทำตกใจ "หา !"
จอร์ชยื่นแฟลชไดร์ฟให้กับยูซ่า
"ข้อมูลทุกอย่างอยู่ในนี้ รักษาไว้ให้ดี แล้วผมจะรีบกลับมาเอา"
จอร์ชลุกขึ้น มองยูซ่าแล้วกล่าวคำอำลา
"ลาก่อน"
จอร์ชก้าวออกจากห้องนั้น ทันทีที่แน่ใจว่าจอร์ชไปแล้ว ยูซ่าก็รีบหยิบแท็บเล็ตออกมา เสียบแฟลชไดร์ฟดูอย่างตื่นเต้น แล้วข้อมูลในนั้นก็ทำให้เขาต้องตกใจ
"เฮ้ย ! จริงเหรอวะเนี่ย" ยูซ่าเสียงเคน
เขารีบถอดแฟลชไดรฟ์ออก แล้วตัดสินใจตามจอร์ชออกไป
เคนหันกลับมามองพิงก์
"จอร์ชเอาแฟลชไดรฟ์มาให้ผม"
"แล้วจากนั้นล่ะ"
เคนหมุนมองไปรอบ ๆ แต่...
"มีแค่นี้แหละ ผมไม่เห็นอะไรแล้ว"
พิงก์มองเคนอย่างส่ออาการผิดหวัง
"ขอโทษด้วยนะพิงก์"
"ไม่เป็นไรหรอก อีกไม่นานเคนก็คงจำที่เหลือได้"
เคนพยักหน้าอย่างเชื่อมั่นแบบนั้นเช่นกัน
ธงรบฟังชิปปี้ด้วยสีหน้าสนใจ
"ใช่แล้วครับนาย ผมเห็นกับตาตัวเองเลย ว่าอยู่ ๆ ไอ้เคนมันก็เปลี่ยนเป็นยูซ่าไปแบบ" ชิปปี้ดีดนิ้ว แป๊ะ ! แทนคำพูด
"แสดงว่า มันสั่งได้แล้วหรือไง ถึงได้เปลี่ยนตัวเองได้ตามใจแบบนี้"
แม้กกี้บอก "ไม่ใช่แค่นั้นนะครับนาย ดูเหมือนว่า ความทรงจำในส่วนของยูซ่าจะกลับเข้ามาในหัวมันด้วย"
"จริงเหรอวะ ถ้างั้นก็เจ๋งเลย ฉันชักอยากจะเจอมันอีกสักครั้งแล้วสิ"
"ผมไปเอาตัวมันมาให้เองครับ" ชิปปี้บอก
"ไม่ต้อง ฉันมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น"
เจนพูดขึ้นอย่างดีใจ
"เยี่ยม เหลืออีกนิดเดียว เราก็จะรู้แล้ว ว่าแฟลชไดรฟ์ซ่อนอยู่ตรงไหนในมงกุฎนั่น ถ้ามันอยู่ในมงกุฎนั้นจริงๆ"
พุฒิถาม "แล้วถ้าเผื่อว่าธงรบหามันเจอแล้วล่ะครับ"
"ถ้ามันเจอแล้วก็เท่ากับงานที่เราทำมาทั้งหมดจะสูญเปล่า เธอเสี่ยงมากนะ พิงก์ที่ให้เคนเรียกยูซ่ามาทั้งๆ ที่เธอรู้ว่าโอกาสที่คิงโครว์จะมาก็พอๆกันเหมือนกับเสี่ยงโยนหัวก้อยบนชีวิตคน... แล้วคนๆ นั้นก็คือคนรักของเธอ"
ทุกคนนิ่ง พิงก์นิ่งมองหน้าเคน
"จากที่พิงก์ได้ดูคลิปวิดีโอตอนเคนจะเปลี่ยนเป็นยูซ่าหรือคิงโครว์ ส่วนมากจะสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางด้านจิตใจและบรรยากาศในตอนนั้น ถ้าเคนตื่นตระหนกตกใจก็มักจะเป็นคิงโครว์ที่ถูกเรียกออกมา และถ้าเคนอยู่ที่ยูโทเปียหรืออยู่ในสภาพสงบนิ่ง ก็จะเป็นยูซ่า"
"นี่เป็นแค่การคาดเดาเธอก็รู้" ซูซี่บอก
พิงก์นิ่ง เคนจับมือพิงก์
"พี่เจนครับผมคิดว่าถ้าผมได้อยู่ในบางสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับตอนที่ผมได้แฟลชไดรฟ์มา ผมน่าจะจำอะไรที่พอเป็นประโยชน์ขึ้นมาได้บ้างนะครับ"
เจนมองหน้าเคน
"หมายความว่าไง"
ก่อนที่เคนจะตอบ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทุกคนยกโทรศัพท์ขึ้นดู ปรากฏเป็นของเคน
เคนกดรับสาย
"สวัสดีครับ ผมเคน"
ธงรบพูดโทรศัพท์ด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ
"ได้ข่าวว่าแกจะกลับไปทำอาชีพเก่าหรือไง"
"ว่าไงนะ"
ทุกคนในห้องหันมามองเคน
"อาชีพนางโชว์ไง อย่าปฏิเสธ ว่าแกไม่ได้ไปฝึกเต้นคาบาเร่ต์"
"รู้ได้ยังไง"
"มีอะไรด้วยเหรอที่ฉันไม่รู้ เคน ฉันอยากพบแก เราน่าจะทำธุรกิจร่วมกัน แทนที่จะมาเอาเป็นเอาตายกันด้วยเรื่องนี้"
"แกอยากนัดเจอฉันเหรอ"
"ใช่"
"ที่ไหน เมื่อไร"
"ถ้าแกตกลง ฉันจะส่งสถานที่กับเวลานัดไปให้"
"ตกลง"
"แล้วเจอกัน"
ธงรบกดวางสาย แล้วยิ้มกระหยิ่ม
เคนยืนนิ่งมองโทรศัพท์ที่วางสายไปแล้ว สักเสี้ยววินาทีเสียง ติ๊ง ! ก็ดังขึ้นมา เจนถามทันที
"ธงรบนัดเจอที่ไหน"
เคนชูหน้าจอโทรศัพท์ให้ดู เจนสั่งการทันที
"ทุกคนเตรียมตัว เวลานัดหมายอีกหนึ่งชั่วโมง เราจะรวบตัวธงรบมาให้ได้"
"ครับ/ค่ะ"
ทางฟีนิกซ์มีการเตรียมการกันอย่างดี โดยกางแผนที่วางกำลังกันอย่างแน่นหนา
ย่านชุมชน ริมถนนกลางเมือง รถยนต์และผู้คนสัญจรไปมา
เคนกับพิงก์ยืนหลบมุมคุยกันอยู่
"ได้เวลาแล้ว ระวังตัวด้วยนะเคน"
"อือ"
เคนพยักหน้าแล้วเดินไป
เคนเดินผ่านหลังซูซี่ที่ทำทีเลือกซื้อของข้างทาง ซูซี่หันมามองเคน ทั้งคู่มองกัน ก่อนเคนเดินผ่านไป
ไม่ไกลกันนัก เจนนั่งอยู่ในรถที่จอดอยู่ริมทาง
"เคน ไม่ต้องห่วงนะ เราจะคอยระวังหลังให้ ถ้ามีอะไรไม่เป็นตามแผน ให้ยกเลิกปฏิบัติการทันที"
เคนแตะบูลทูธที่หูแล้วตอบ
"ครับพี่เจน"
ในซอยใกล้ ๆ พุฒิยืนอยู่ข้างมอเตอร์ไซค์ พร้อมออกตัวทันที
เคนเข้าประจำที่จุดนัดหมาย
เจนมองไปที่เคนแล้วบอกกับทุกคน
"เคนเข้าประจำที่แล้ว ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม"
พิงก์ที่เดินผ่านเคนไป ซูซี่ที่ยังคงเลือกซื้อของ พุฒิที่ขึ้นคล่อมมอเตอร์ไซค์
เคนยืนรออย่างตื่นเต้น
ทันใดนั้นเอง เสียงระเบิดก็ดังขึ้น แสงไฟแตกกระจายกลางถนน
เคนหันขวับไปมอง
ผู้คนวิ่งแตกตื่น เจนหันไปมองอยางตกใจ
"เกิดอะไรขึ้นน่ะ"
พุฒิรีบตอบ
"ระเบิดครับพี่เจน"
ซูซี่มองไปทางระเบิดด้วยความตกใจ
เจนรีบสั่งการ
"ยกเลิกปฏิบัติการ"
พิงก์หันกลับไปมองเคน
แต่ตรงที่เคนยืนอยู่เมื่อครู่ไม่มีร่างเขาแล้ว
"เคน ! เคนหายไปแล้ว" พิงก์บอก
สีหน้าซูซี่เปลี่ยนเป็นตกใจ
"หา !"
ซูซี่รีบจ้ำไปตรงที่เคนยืนอยู่
ต่อมา เคนถูกมัดอยู่กับเก้าอี้มีถุงผ้าดำคลุมหัวอยู่
ถุงผ้าดำถูกดึงออก เคนดูสะลึมสะลือโงนเงนเพราะฤทธิ์ยา
"โอ๊ย ไหนว่านัดมาคุยธุรกิจไง ทำไมต้องฉีดยากันด้วยเนี่ย"
ธงรบเดินเข้าไปจ้องหน้าเคน
"ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่อยากให้หลับมาสบาย ๆ"
"แกมีธุระอะไรกับฉัน"
ธงรบหันไปกวักนิ้วเรียก ชิปปี้เดินถือมงกุฎเข้ามาส่งให้
ธงรบยื่นมงกุฎมาที่หน้าเคน
"แกจำมงกุฎนี่ได้ไหม"
เคนส่ายหน้า
"เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกนี่แหละ"
"ไม่เป็นไร ฉันมีวิธีย้อนความทรงจำของแก เอาชุดมา"
แม้กกี้ เข็นหุ่นใส่ชุดนางโชว์เข้ามา ซึ่งขโมยมาจากบาร์ยูโทเปีย
"แกคงจำชุดนี่ได้นะ"
"ชุดของยูซ่า"
"ถูกต้อง สิ่งที่ฉันอยากให้แกทำคือ สวมชุดนี่ แล้วแสดงเป็นยูซ่าให้ฉันดู"
"จะเป็นยูซ่ายังไงล่ะ แต่งตัวน่ะพอไหว แต่แต่งหน้าฉันไม่เป็นหรอก"
"ไม่ใช่ปัญหา พาช่างแต่งหน้าเข้ามา"
ชิปปี้ดึงใครคนหนึ่งเข้ามา เขาถูกคลุมด้วยถุงผ้าดำเหมือนกัน เมื่อเปิดผ้าออกก็เห็นว่าเป็นเจ๊หว่าง
เคนตกใจ "คุณแม่ !"
ธงรบยิ้มกริ่ม
"ฮึ ! ดูเหมือนวิญญาณยูซ่าจะเริ่มมาแล้วสินะ"
ในที่ลับตาคน พิงก์นั่งอยู่ในรถด้านหลังกับหัวหน้าของเธอ
"ถามจริง คุณไม่แปลกบ้างเลยเหรอ"
"เรื่องอะไรเหรอคะ"
"ก็เรื่องที่เคนโดนจับตัว ทำไมสายลับระดับนั้น ถึงเสียท่าได้ง่าย ๆ ขนาดนี้"
"หัวหน้าหมายความว่าไงคะ"
"หรือว่ามันจะไม่ใช่การจับตัว แต่เป็นการจัดฉาก...อีกครั้ง"
หัวหน้ากดที่แท็บเล็ต แล้วส่งให้พิงก์ ในจอเป็นภาพเคนกับธงรบ
"เคนเคยทำงานให้กับนายธงรบ"
"ไม่ใช่หรอก เขาแค่แฝงตัวเข้าไป มันเป็นส่วนหนึ่งของงาน"
"ส่วนหนึ่งของงาน แล้วทำไมถึงไม่มีใครในฟีนิกซ์รู้เรื่องเลยสักคน"
พิงก์อึ้งไป เถียงไม่ออก
"พิงก์ ความรักทำให้คุณมองอะไรแคบไปหมด" ก่อนเลื่อนภาพบนหน้าจอให้พิงค์ดู "ลองดูสิ ตั้งแต่วันที่เคนได้แฟลชไดร์ฟไป มีสายของเราถูกฆ่าไปกี่คน แต่ทำไมเคนถึงยังรอดอยู่ได้ ทั้ง ๆ ที่น่าจะตายก่อนทุกคนด้วยซ้ำ" น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นตะคอก "ทำไม ! ถ้าไม่ใช่เพราะเขาทำงานให้กับนายธงรบ"
พิงก์ก้มหน้าเครียด
"ทั้งหมดเป็นแค่เรื่องผลประโยชน์ เคนอาจพยายามขู่เอาเงินจากนายธงรบให้ได้มากที่สุด เพื่อแลกกับข้อมูลในแฟลชไดร์ฟ แต่ธงรบไม่ยอม เขาเลยถูกนายธงรบตามล่า สุดท้าย เมื่อไม่มีหนทางอื่น เขาก็เลยแกล้งทำเป็นความจำเสื่อม"
"ไม่จริง ไม่จริง ! ไม่จริง !"
หัวหน้ามองพิงก์ด้วยสายตากดดัน
อ่านต่อตอนที่ 17