xs
xsm
sm
md
lg

พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 15 : “ธงรบ” ชิงและครอง “มงกุฎยูซ่า!”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 15 : “ธงรบ” ชิงและครอง “มงกุฎยูซ่า” !

บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : จรูญพร ปรปักษ์ประลัย

ซูซี่คว้าโทรศัพท์มาจากมือเคน แล้วกระแทกเสียงลงไป

"คุณธงรบ คุณเลิกยุ่งกับชีวิตฉันได้แล้ว"

ธงรบยิ้มอย่างรู้สึกเป็นต่อ
"ซูซี่ เธออาจตัดใครบางคนไปจากชีวิตได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอก" ธงรบพูดกวนเป็นนัย
ธงรบหันโทรศัพท์ไปอีกทาง หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งถูกแม้กกี้จับไว้อยู่
"ซูซี่ ซูซี่ ช่วยแม่ด้วย"
ซูซี่ตกใจสุดขีด ร้องออกมาดังลั่น
"แม่ !"
เคน พิงก์ และชาคริต พลอยตกใจไปด้วย จากน้ำเสียงของซูซี่ บ่งบอกให้รู้ว่ามีเรื่องร้าย แต่ก็ยังไม่ชัดว่าร้ายขนาดไหน
ธงรบดึงโทรศัพท์กลับมาพูด
"ฉันเคยบอกแล้วไง ว่าอย่าทำให้ฉันโกรธ"
"คุณต้องการอะไร"
"ฉันต้องการตัวเธอ แลกเปลี่ยนกับแม่ของเธอ แต่มีข้อแม้ เธอต้องมาคนเดียว"
"ได้ ที่ไหนเมื่อไหร่บอกมาเลย"
ซูซี่ฟังคำตอบ แล้วพูดกลับไปอีกครั้ง
"โอเค แล้วเจอกัน"
ซูซี่กดวางสายแล้วเดินไป ทุกคนมองตาม
พิงก์ถาม "ซูซี่ จะไปไหนน่ะ"
ซูซี่หยุดตอบ โดยไม่หันหน้าไป
"จะไปไหน มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ"
"เกี่ยวสิ ในเมื่อเราเป็นทีมเดียวกัน"
"ใช่ ! เราเป็นทีมเดียวกัน แล้วอีกอย่าง...คุณยังไม่ได้คืนโทรศัพท์ผมด้วย" เคนว่า
ซูซี่หันกลับมา ยื่นโทรศัพท์คืนให้เคน แล้วบอกกับทุกคน
"ธงรบจับตัวแม่ฉันไป ฉันต้องไปช่วย"
"จะบ้าเหรอ ! เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเป็นกับดัก"
"ถึงตาย ฉันก็ต้องไปช่วยแม่"
จังหวะนั้นเองเจนก็เดินเข้ามา
"ไปไม่ได้ ฉันไม่อนุญาต"
ซูซี่หันขวับไปหาเจน
"คุณเจน คุณหยุดฉันไม่ได้หรอก"
"ฉันไม่ได้จะหยุดเธอ แต่เราจะไปด้วยกัน...เราคือฟีนิกซ์"
ซูซี่นิ่งมองเจนอย่างไม่มีคำโต้เถียงใด ๆ อีก

ภายในห้องเก็บอาวุธ แเคน พิงก์ เจน และชาคริตสวมชุดป้องกัน พร้อมด้วยอาวุธของแต่ละคน
พุฒิยื่นมือเข้ามาหยิบปืน เคนถาม
"พุฒิ แกจะทำอะไรน่ะ"
"ยังไงงานนี้ฉันไม่ยอมพลาดหรอก"

ซูซี่หยิบปืนขึ้นมาดู แล้วเสียบเข้าซองปืน ก่อนบอกกับเจน
"คุณเจน เงื่อนไขของธงรบคือฉันต้องไปคนเดียว"
"เรื่องนั้นไม่มีปัญหา เราแค่ตามไปโดยไม่ให้พวกนั้นรู้" เจนถามทุกคน "พร้อมกันหรือยัง"
"พร้อมครับ" เคนตอบ
พิงก์บอก "พร้อมค่ะ"
ชาคริตบอก "พร้อมอยู่แล้ว"
"ส่วนผม พร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์เลยครับ"
ซูซี่มองพุฒิแบบนึกไม่ถึง
"คุณพุฒิ คุณควรพักให้หายดีก่อน"
พุฒิยิ้มให้ซูซี่
"ไม่หรอกครับ ถ้าผมไม่ไป คงต้องเสียใจไปตลอดชีวิต"
ซูซี่มองพุฒิอย่างซาบซึ้ง
เคนมองและยิ้มแบบเชียร์เพื่อนสุด ๆ
"เยี่ยม !"
พิงก์เหล่มองเคนทำนองว่า เยอะไปไหม
"ไปกันเลย" เจนลุย

พุฒิ ซูซี่ เคน พิงก์ เจน และชาคริต เดินเรียงหน้ากระดานอย่างเท่ บริเวณหน้าอาคารแห่งหนึ่ง

ดาดฟ้าอาคารจอดรถแห่งหนึ่ง แม่ของซูซี่ถูกมัดมือผูกโยงไว้ตรงริมดาดฟ้า เพียงเอมมี่ใช้ดาบในมือตัดเชือก ร่างแม่ซูซี่ก็จะดิ่งจากยอดตึกลงไปพื้นล่าง
แม่ของซูซี่มีอาการหวาดกลัวสุดขีด
"อย่า ! อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันสาบาน ว่าหนี้ที่ติดอยู่ทั้งหมด จะเอามาคืนภายในห้าวัน อ่ะ ๆ สามวันก็ได้ สองวัน วันเดียว ครึ่งวัน หรือจะเป็น ... "
ธงรบรีบขัดอย่างรำคาญ "พอ พอ พอเลย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับหนี้หรอก"
"ถ้าอย่างงั้นจับฉันมาทำไม ขอร้องล่ะ จะให้ฉันกราบก็ได้ ปล่อยฉันไปเถอะนะ... นะ... "
"ปล่อยน่ะปล่อยแน่ แต่ต้องรอให้ลูกสาวแกมาก่อน"
ทันใดนั้นเอง เสียงซูซี่มีก็ดังเข้ามา
"ฉันมาแล้ว"
ซูซี่ก้าวเข้ามา พร้อมด้วยปืนคู่ในมือ แม่ซูซี่มองเห็นลูกสาวดีใจมาก
"ซูซี่ ช่วยแม่ด้วย แม่จะตกลงไปอยู่แล้ว"
"ปล่อยแม่ฉันเดี๋ยวนี้"
"ของแบบนี้มันต้องยื่นหมูยื่นแมว ยอมให้จับ แล้วฉันจะปล่อยแม่เธอไป"
"ได้"
ซูซี่ปล่อยมือที่กุมด้ามปืน ปืนทั้งสองกระบอกห้อยอยู่กับนิ้วในโกร่งไกปืน
ชิปปี้มาคว้าปืนทั้งสองกระบอกไป ธงรบเดินเข้ามาหาซูซี่
"โทษที แต่คนอย่างเธอ คงไม่ได้มีแค่ปืนสองกระบอกหรอก"
ธงรบใช้สองมือลูบไล้ไปตามตัวซูซี่ช้า ๆ จากบนลงมาล่าง ทุกสัดส่วนของร่างกาย ระหว่างนั้นเขายิ้มพึงใจ
"ฮึ น่าเสียดาย ร่างสวย ๆ แบบนี้ยังใช้งานได้อีกเยอะ"

ธงรบเจอมีดสองเล่ม ปืนกระบอกเล็กอีกสองกระบอก โทรศัพท์มือถือหนึ่งเครื่อง เขาส่งทั้งหมดให้กับแม้กกี้

อาคารฝั่งตรงข้าม พุฒิแนบตาอยู่กับกล้องติดสไนเปอร์ พร้อมลั่นไก หากสถานการณ์จำเป็น

ธงรบกระทำต่อเรือนร่างของซูซี่ ทำให้พุฒิต้องกัดฟันด้วยความโกรธแค้น
ธงรบสำรวจร่างซูซี่จนพอใจแล้วบอกกับลูกน้อง
"มัดมันไว้"
แม้กกี้เข้ามาใช้เชือกมัดข้อมือของซูซี่ไว้ด้วยกัน เขาพูดยิ้ม ๆ อย่างรู้สึกสนุก ไม่ได้รู้สึกผิดแบบคำพูด
"โทษทีนะเจ๊"
"ทีนี้จะปล่อยแม่ฉันได้หรือยัง"
"ไม่ต้องห่วง คนอย่างธงรบ พูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว" แล้วสั่งเอมมี่ "ปล่อยนังนั่น"
เอมมี่ดึงแม่ของซูซี่กลับมายังจุดที่ปลอดภัย ธงรบมองแล้วบอกกับซูซี่
"ไป"
ธงรบพูด พร้อมดันร่างซูซี่ให้เดินไป
ซูซี่กับแม่ถูกคุมตัวให้เดินตรงมาหากัน
"คุณธงรบ คุณจะทำอะไรซูซี่"
ไม่มีใครตอบ แม่ลูกเดินสวนกันไป แม่ซูซี่พุ่งเข้าไปฉุดยื้อลูกสาวออกมาจากธงรบ
"ปล่อย ! ปล่อยลูกฉัน !"
"โหย น่ารำคาญจริงโว้ย"
ธงรบผลักแม่ซูซี่ออกไป จนแม่ซูซี่ล้มลงไปนั่งกับพื้น
"โอ๊ย !"
"แม่ !"
"ถ้าไม่อยากตายทั้งคู่ ก็หยุดโวยวายได้แล้ว"
ธงรบพาซูซี่ไปที่ริมดาดฟ้า แม่ซูซี่ได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญ
"ซูซี่ ! แม่ขอโทษ"
ซูซี่ถูกจับไปยืนที่ริมดาดฟ้า ลมพัดแรงอย่างน่ากลัว

ที่อาคารฝั่งตรงข้าม พุฒิพูดผ่านบลูทูธ
"พี่เจน เราไม่มีเวลาแล้วครับ ต้องลงมือเดี๋ยวนี้แล้ว"

วิวของดาดฟ้า เห็นชัดว่ามีใครอยู่ตรงจุดไหนบ้าง
แหล่งที่มาของภาพมาจากโดรนซึ่งบินสูงพอที่พวกธงรบจะไม่สังเกตและได้ยินเสียงใบพัด

เจนมองมอนิเตอร์ที่ฉายภาพมาจากโดน ตอบผ่านบลูทูธอย่างควบคุมสติ
"อย่าเพิ่งลงมือ จนกว่าฉันจะสั่ง"
"พวกนั้นกำลังจะฆ่าซูซี่นะครับ"
"รอต่อไป"
พุฒิกัดฟันตอบ "ครับ"

เจนชี้ไปที่มอนิเตอร์แล้วบอกกับทีม
"เราจะบุกเข้าไปอย่างเร็วที่สุด เคน ชาคริต จัดการธงรบกับพวก ส่วนฉันกับพิงก์จะเข้าช่วยซูซี่กับแม่เอง"
เคน/พิงก์/ชาคริตรับคำพร้อมกัน "ครับ/ค่ะ"

ธงรบมองซูซี่มีด้วยดวงตาดุดัน
"เธอบอกอะไรพวกฟีนิกซ์ไปบ้าง"
"ฉันยังไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น ... แต่ทำไมต้องกลัวด้วยล่ะคุณธงรบ ในเมื่อพวกนั้นไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดคุณอยู่แล้ว"
"ใครว่ากลัว แค่ถามเพื่อความแน่ใจเท่านั้น ... แต่ถึงยังไง ฉันก็คงเก็บเธอไว้ไม่ได้ ... เสียดาย ! King Crow น่าจะเป็นคนส่งเธอลงหลุม แต่ก็อย่างที่รู้ ฉันมันคนใจร้อน ขี้เกียจรอ ... เอมมี่ จัดการได้"
เอมมี่ชักดาบขึ้นมา เตรียมฟันเชือกให้ขาด
แต่ทันใดนั้นเอง เสียงเจนก็ดังเข้ามา
"หยุดเดี๋ยวนี้"
เจนเข้ามา พร้อมด้วยทีมฟีนิกซ์ เคน พิงก์ และชาคริต กระจายกันไปตามที่ตกลงกันไว้
ลูกน้องธงรบหันปากกระบอกปืนจะยิง แต่เคนและชาคริตยิงหยุดพวกเขาไว้เสียก่อน

เจนยิงลูกน้องซึ่งจับตัวแม่ซูซี่ไว้ แล้วเข้าไปดึงตัวเธอไป
"ทางนี้"

ธงรบหันปืนมายิงใส่ แต่เจนพาแม่ซูซี่วิ่งหลบหลีกไปได้อย่างน่าหวาดเสียว

ในเวลาเดียวกัน พิงก์กระโดดถีบชิปปี้กับแม้กกี้สองคนรวด ก่อนตรงเข้าไปหาเอมมี่

แต่ก็ช้าเกินไป เอมมี่ใช้ดาบฟันฉับ
"ซูซี่ !"
พิงก์พุ่งชนเอมมี่จนเอมมี่เซไป ก่อนคว้าเชือกที่มัดซูซี่ไว้ได้แบบฉิวเฉียด
ซูซี่ห้อยอยู่โดยมีเพียงมือของพิงก์จับเชือกเอาไว้
เอมมี่ตั้งหลักลุกขึ้น เงื้อดาบในมือเดินเข้าหาพิงก์ กะฟันฉับเดียว ปลิดชีพพิงก์ พร้อมซูซี่ที่ร่วงตกลงไป
เคนหลบอยู่ตรงช่องบันไดทางขึ้น เขาหันไปเห็นพิงก์มีอันตราย เขาตกใจมาก
"พิงก์ !"
แต่ทันใดนั้นเอง ธงรบก็หลบอยู่ข้างรถ ก็หันปืนมายิงใส่เคน เคนรีบหลบเข้าที่กำบัง กระสุนโดนผนังปูนแตกเป็นรู

พุฒิแนบตามองภาพจากกล้องติดสไนเปอร์นั้นด้วยความตื่นเต้น
"หา !"
เอมมี่วาดดาบลงมาที่พิงก์ ทว่ากระสุนจากปืนสไนเปอร์ของพุฒิ เจาะเข้าที่ดาบหักเหลือแต่ด้าม
เอมมี่ประหลาดใจมาก
"หือ ?!"
เอมมี่หันไปทางตึกที่พุฒิซุ่มอยู่

เอมมี่มองตรงมา
พุฒิเล็งตรงไปที่กะปลิดชีพเอมมี่
นิ้วพุฒิเหนี่ยวไกปืน
กระสุนพุ่งเข้าเอมมี่
แต่เอมมี่กระโดดหงายหลังหลบ กระสุนปืนผ่านอากาศเหนือหัวไปเส้นยาแดงผ่าแปด

พิงก์กับซูซี่ที่กำลังช่วยกันอยู่
"พิงก์ เธอไม่จำเป็นต้องช่วยฉันก็ได้นะ"
"ทำไมถึงคิดอย่างงั้นล่ะ"
"ฉันรู้ว่าเธอเกลียดฉัน ก็เหมือนกับที่ฉันเกลียดเธอนั่นแหละ"
"เรื่องนั้นเอาไว้ค่อยเคลียร์กันทีหลังแล้วกัน"
พิงก์พยายามดึงซูซี่ขึ้นมา

ทางด้านชาคริต เขายิงใส่ชิปปี้ แต่ชิปปี้ยิงตอบ พลางม้วนตัวหลบ
ชิปปี้วิ่งไปรวมตัวกับธงรบที่ข้างรถ
"นายครับ เรารีบหนีกันก่อนเถอะ"
แม้กกี้วิ่งเข้ามาจากอีกทาง
"ใช่ครับนาย พวกมันมีสไนเปอร์คอยซุ่มยิงอยู่ และอาจมีกำลังเสริมตามมาอีกก็ได้"
ธงรบกัดฟันอย่างโกรธแค้น
"โธ่ !"
"ไปกันเถอะครับ"
ทั้งสามเปิดประตูขึ้นรถไป
เคนและชาคริตมองไปจากที่ซ่อน
"พวกมันจะหนีไปแล้ว"
ชาคริตบอก "ฉันไม่ให้พวกมันหนีไปง่าย ๆ หรอก"
ชาคริตรีบลงบันไดไปด้านล่าง

แม้กกี้ขับรถออกไป เอมมี่รีบวิ่งเข้ามาขึ้นรถ แล้วรถก็ขับลงจากดาดฟ้าไป

พิงก์พยายามดึงซูซี่ขึ้นมา แต่มือเธออ่อนล้าลงไปทุกที
เชือกค่อย ๆ ไหลลงไป พิงก์พยายามยื้อไว้สุดแรง
พิงก์ออกแรงเต็มที่ "อ้า..."
จังหวะที่เชือกเกือบหลุดมือไปนี่เอง เคนก็เข้ามาช่วยไว้อีกแรง
พอได้สองแรงช่วยกัน ร่างซูซี่ก็ค่อย ๆ ถูกดึงขึ้นมาจนสำเร็จ
พอขึ้นมาได้ ทั้งพิงก์และซูซี่ต่างพากันหมดแรง
"ขอบใจมากนะ พิงก์ เคน"
พิงก์หอบเหนื่อย "ฮือ"

พุฒิถอนตาจากกล้องติดสไนเปอร์อย่างโล่งอก
เขานั่งลงอย่างผ่อนคลาย

พิงก์ เคน และซูซี่ยังนั่งพักเหนื่อยกันอยู่ แม่ซูซี่ก้าวเข้ามา โดยมีเจนตามมาด้านหลัง
"ซูซี่ !"
"แม่ !"
ทั้งคู่วิ่งเข้ากอดกัน
เจนมองภาพนั้นด้วยความยินดี
เช่นเดียวกับเคนและพิงก์ที่มองอย่างปลาบปลื้ม ก่อนสบตาและกุมมือกันไว้

รถธงรบขับลงมาตามทางวนลงอาคาร
ชาคริตขับรถตามลงมา เปิดกระจกไล่ยิง
ในรถธงรบ ทุกคนพากันหัวร้อน
"แม่งเอ๊ย !"
กระจกรถธงรบเปิดออก ทุกคนที่อยู่ในนั้น ยกปืนขึ้นยิงตอบชาคริต

จนรถขับวนลงมาถึงด้านล่าง
แม้กกี้ขับรถขนไม้กั้นช่องทางออกตึกไป ชาคริตขับรถตามมาติด ๆ
"นายครับ มันยังตามมาไม่เลิกเลยครับ"
"ถ้างั้นก็จัดของหนักให้มัน เอาแบบลูกเดียวละเอียดไปทั้งคันเลย"
"ครับนาย"
ช่องซันรูฟเปิดออก ชิปปี้โผล่ขึ้นมาพร้อมด้วยปืนบาซูก้า
ชาคริตเห็นก็ถึงกับหน้าเปลี่ยน
"เฮ้ย !"
ชิปปี้ยิงกระสุนบาซูก้าออกไป
ชาคริตเหยียบเบรก หักรถ รถถึงขั้นหมุน
กระสุนบาซูก้าพุ่งตรงไป ระเบิดกระจาย
รถธงรบแล่นต่อไป ชิปปี้กลับลงมา
"เรียบร้อยแล้วครับนาย"
รถชาคริตจอดนิ่ง ก่อนที่ชาคริตจะออกมา ด้วยอาการของคนเพิ่งรอดตาย
"โฮ่ !"
ชาคริตหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรออก
"พี่เจน พวกมันหนีไปได้ครับ"

เจนตอบโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

"ไม่เป็นไร ตอนนี้เรามีหลักฐานที่จะใช้เล่นงานธงรบกับพวกแล้ว ทีนี้ต่อให้พวกมันมีปีก ก็หนีไปไหนไม่พ้น"

บนหน้าจอ เป็นภาพที่บันทึกด้วยโดรนและกล้องติดสไนเปอร์ ขณะที่ธงรบกับพวกจับซูซี่กับแม่ไว้

เจนมองภาพนั้นอย่างมั่นใจ
"ภาพพวกนี้จะใช้มัดตัวนายธงรบจนดิ้นไม่หลุด ขอแค่ให้ได้ตัวเขามาก่อนเท่านั้น จากนั้นเราจะค่อย ๆ ให้เขาเปิดปาก คายความลับทั้งหมดของไททันออกมา"
"ถ้างั้นเรารีบบุกรังพวกมัน ก่อนที่พวกมันจะไหวตัวทันดีกว่าครับ"
"ไม่ต้องรีบ ฉันประสานกับทาง ตม. แล้ว ยังไงธงรบก็หนีออกนอกประเทศไม่ได้ แล้วอีกอย่าง... ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว"

เคนเดินเข้ามาในห้องพิเศษ ก่อนหันไปหาพิงก์ที่เดินตามมา
"อย่างน้อยเราก็มั่นใจ ว่า King Crow จะไม่มีทางหลุดจากห้องนี้ออกไปอาละวาดที่ไหนได้อีก"
"แต่ถ้าต้องเป็นแบบนี้ไปตลอด ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ"
"ไม่หรอกเคน พิงก์มั่นใจว่าอีกไม่นานหรอก เคนต้องกลับมาเป็นเคนคนเดิม"
"เคนคนเดิม ? แล้วตกลงมันดีหรือร้ายกันล่ะ"
"ดีสิ เคนตัวจริงต้องเป็นคนดีแน่นอน"
"ฮือ ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ ... พิงก์ คุณไปพักเถอะ วันนี้เราเหนื่อยกันมามากแล้ว"
"ค่ะ"

ในห้องสังเกตการณ์ ชาคริตยืนมองภาพในจอมอนิเตอร์อยู่
ภาพหลายมุมของเคนปรากฏบนจอมอนิเตอร์
พิงก์เดินเข้ามา มองภาพเดียวกันนั้น
ชาคริตหันมาหาพิงก์อย่างอยากรู้
"นี่พิงก์ อย่าหาว่าสู่รู้เลยนะ แต่ถามจริง ๆ เหอะ เผื่อเคนเขากลับมาเป็นเคนคนเดิม แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดไว้ คุณจะรับได้เหรอ"
"ก็ยังไม่แน่ใจ แต่ยังไงฉันก็เชื่อว่ามีเคนตัวจริงอยู่ในเคนที่ฉันรู้จัก ไม่ว่าเคนจะแปลงเป็นใคร เคน อโณทัย ครีเอทีฟโฆษณา ยูซ่า นางโชว์ หรือแม้แต่ King Crow ก็มีเคนตัวจริงอยู่ในนั้นทั้งนั้น ยังไงคนเราก็หนีตัวตนที่แท้จริงของเราไปไม่ได้หรอก"
ชาคริตพยักหน้าเห็นด้วย
"อือ.. ฝากดูเคนก่อนนะ ขอตัวไปอาบน้ำแป๊บเดียว"
"ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องรีบ"
ชาคริตเดินออกจากห้องนั้นไป พิงก์หันกลับไปมองจอมอนิเตอร์
ในจอมอนิเตอร์ เคนกลายเป็น King Crow แล้ว เขามองตรงมาที่กล้องอย่างหาเรื่อง

King Crow มองตรงมาที่จอมอนิเตอร์
"ไอ้พวกฟีนิกซ์ แกจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้ ฉันจะไม่ยอมถูกขังตลอดไปหรอก แล้วเมื่อไรที่ฉันออกไปได้ ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด"
พิงก์มองภาพนั้นอย่างรู้สึกเศร้าและสงสาร
"เคน"

พุฒิกับซูซี่เดินอยู่ด้วยกันที่ริมทะเล
"ขอบคุณนะคะที่มาเป็นเพื่อน"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ หวังแค่ว่าพวกนั้นคงไม่ตามไปรังควานแม่คุณอีกเท่านั้นแหละ"
"ค่ะ แม่ถูกส่งไปอยู่ต่างประเทศ ภายใต้การคุ้มครองของฟีนิกซ์ ซูซี่ก็เบาใจขึ้นแล้วค่ะ"
"แล้วคุณล่ะ จากนี้ไปจะเอายังไงต่อ"
"ตราบใดที่ธงรบยังลอยนวลอยู่ ชีวิตซูซี่คงไม่มีวันสงบสุขแน่ ซูซี่จะทำทุกอย่างเพื่อจัดการกับเขา"
"ถ้าอย่างนั้นอย่างแรกที่คุณจะช่วยได้ ในฟีนิกซ์มีหนอนบ่อนไส้ที่ทำงานให้ธงรบอยู่ลับ ๆ คุณรู้ไหมว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร"
"หนอนบ่อนไส้อย่างนั้นเหรอคะ ?"
ใบหน้าซูซี่แสดงชัดเจนว่าไม่รู้เรื่องนี้

เจนยืนเครียดครุ่นคิดแบบไม่มีทางออก บอกใครไม่ได้

ในอดีต รถสองคันจอดอยู่เคียงกัน ไม่ห่างจากรถสองคันนั้น เจนและธงรบยืนอยู่ใกล้ ๆ กัน
"คงยังไม่ลืมนะ ว่ามีใครเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้บ้าง"
"ไม่ลืมหรอก"
"งั้นขอพูดชัด ๆ ถ้ามีใครลากผมลงนรก ผมก็จะลากทุกคนที่เกี่ยวข้องลงนรกไปกับผมด้วย ขอย้ำ ทุกคน"

เจนยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ชาคริตเปิดประตู
"พี่เจนครับ"
เจนหลุดจากภวังค์ หันไปหาชาคริต
"ว่าไง"
"เคนกับพิงก์ออกไปข้างนอกกันสองคน ไม่รู้ว่าออกไปไหนครับ"
"หรือว่าเคนจะรู้ที่ซ่อนแฟลชไดรฟ์แล้ว มาดูกันดีกว่า ว่าพวกนั้นไปที่ไหนกัน"
เจนหยิบมือถือขึ้นมา กดแอปเครื่อง GPS ที่ติดอยู่กับรถ

เคนขับรถเข้าจอดที่ด้านหน้าบาร์ยูโทเปีย
เคนกับพิงก์เปิดประตู ออกมาจากรถ แล้วหันมองเข้าไปด้านใน

บนหน้าจอแสดงภาพแผนที่ตำแหน่งรถ
เจนบอกกับชาคริต
"บาร์ยูโทเปีย"
"ให้ตามไปไหมครับ"
"ฮือ รีบไป"
"ครับ"

ชาคริตออกไป เจนมองตามสีหน้าครุ่นคิด

เคนกับพิงก์เดินเข้ามาในบาร์ มองไปรอบ ๆ แล้วตะโกนเรียก

"เจ๊หว่าง เฮียฮะ อยู่ไหนกันคร้าบ ยู้ฮู"
เจ๊หว่างกับเฮียฮะเดินมา สีหน้าดีใจ
"อู๊ย มาแล้วเหรอลูกสาวแม่"
เจ๊หว่างเข้ามาจับมือจับไม้เคนอย่างดีใจ
"เดี๋ยวนะครับเดี๋ยว นี่ผมเคนครับ ไม่ใช่ยูซ่า"
เจ๊หว่างปล่อยมือ สีหน้าเปลี่ยน น้ำเสียงแข็งขึ้นมาทันที
"ถ้างั้นคุณมีธุระอะไร"
"เมื่อวันก่อน ตอนที่พวกนั้นเข้ามาจับเจ๊ เฮีย แล้วก็พวกลูก ๆ ของเจ๊ วันนั้นยูซ่าเค้าพูดถึงการประกวด"
"ดาวจรัสหรูยูโทเปีย"
"ใช่แล้วครับ ผมเลยไปลองค้นดู จนเจอภาพนี้"
เคนเปิดภาพถ่ายยูซ่าตอนที่สวมมงกุฎให้เจ๊หว่างกับเฮียฮะดู
"รู้ไหมคะ ว่ามงกุฎนี่อยู่ที่ไหน"
เจ๊หว่างตอบเรียบ ๆ "อยู่ที่ฉันเอง ยูซ่าขอให้ฉันเก็บไว้ให้"
เคนยิ้มดีใจ "ขอเราดูหน่อยได้ไหมครับ"
"ได้ซิฮะ เดี๋ยวเฮียไปเอาให้นะฮะ"
เฮียฮะหันจะเดินไปเอา แต่เจ๊หว่างรีบห้ามไว้ด้วยเสียงแข็งกร้าว
"ไม่ได้ !"
เฮียฮะชะงักหยุด หันกลับมา เคนและพิงก์ต่างหน้าเจื่อน
"ทำไมล่ะคะ แค่ขอดูเท่านั้นเอง"
"แค่ขอดูก็ไม่ได้ มงกุฎนั้นเป็นของยูซ่า คนเดียวที่ฉันจะให้ดูคือยูซ่า"
"เฮ้ย ! แบบนั้นได้ไงล่ะ"
"ถ้าอยากดูก็ต้องให้ยูซ่าเป็นคนมาขอ"
"แต่ยูซ่าเค้า..."
"ไม่ ! ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ยูซ่าสัญญา ว่าจะมาขึ้นแสดงที่นี่เป็นประจำ ถ้ายูซ่าทำอย่างที่พูดได้จริง ฉันจะเอามงกุฎคืนให้"
"แต่..."
"เลิก ‘แต่’ ได้แล้ว จบการสนทนา คุณสองคนไปได้แล้ว"
เคนและพิงก์ยังยืนนิ่ง พยายามคิดหาทางไปต่อ
"ไปซี่"
พิงก์หันมามองหน้าเคน แล้วจูงมือออกไป
เฮียฮะกับเจ๊หว่างมองตาม

เคนกับพิงก์เดินออกจากบาร์ยูโทเปียมาอย่างเซ็ง ๆ
"ทีนี้จะเอายังไงกันดีล่ะ"
"ก็คงมีอยู่ทางเดียวนั่นแหละ"
"ทางไหนเหรอพิงก์"
"เคนต้องเป็นยูซ่า"
"หา ! ไม่มีทางอ้ะ"
"เหอะน่า แค่แต่งเป็นยูซ่าครั้งเดียว"
"มันไม่ได้แค่แต่งน่ะสิ เจ๊แกจะให้ขึ้นโชว์ด้วย"
"ยอม ๆ ไปเถอะเคน ยังไงก็คุ้ม แลกกับการได้รู้ความจริง"
จังหวะนั้นเอง ชาคริตก็ยืนหลบมุมอยู่ก็เข้ามา
"ความจริงอะไรเหรอ"
เคนกับพิงก์หันไปมองชาคริต ไม่แน่ใจนักว่าควรบอกหรือไม่
"ใช่เกี่ยวกับเรื่องแฟลชไดรฟ์หรือเปล่า"
"ไม่เกี่ยวหรอก ฉันแค่สงสัยเรื่องในอดีตของฉันน่ะ"
ชาคริตจ้องเคนอย่างจับพิรุธ
"พอดีเคนเค้าอยากให้แน่ใจน่ะ ว่าระหว่างยูซ่ากับจอร์ช ความสัมพันธ์ไปถึงไหนกันแล้ว ถึงขั้น ‘เคยมีอะไรกัน’ แล้วหรือยัง"
ชาคริตหน้าเหย "เหรอ แล้วเป็นไง"
"เจ๊หว่างกับเฮียฮะไม่รู้หรอก สองคนนั้นเค้าแอบคบกันอยู่ลับ ๆ" พิงก์บอก
"ใช่ ! แล้วนายล่ะชาคริต มาทำอะไรที่นี่"
"ก็...พอดีผ่านมาน่ะ ... ไม่มีอะไรแล้วล่ะ พวกนายจะไปไหนก็ไปเถอะ"
"โอเค งั้นไปก่อนนะ"
เคนกับพิงก์ขึ้นรถ
ในรถ เคนมองชาคริตในกระจกมองหลัง เขารู้สึกไม่ไว้ใจชาคริต
ชาคริตมองไปที่รถเคน ใบหน้าดูแฝงความร้ายกาจเอาไว้
พิงก์หันไปพยักหน้ากับเคน
"ไปเถอะเคน ก่อนที่เขาจะสงสัยมากกว่านี้"

เคนขับรถออกไป

เจ๊หว่างกับเฮียฮะยืนพูดกันอยู่

"ที่จริงเค้าแค่ขอดูมงกุฎเองนะฮะ"
"เชื่อฉันสิ มันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ ๆ"
"ถ้าอย่างงั้น เราเอามงกุฎออกมาดูกันดีกว่าฮะ เผื่อว่าจะเจออะไรในนั้นฮะ"
"ฮะ" เจ๊หว่างรู้ตัวว่าเผลอ ‘ฮะ’ ตามเฮียฮะออกไป "อุ๊ย ต้องไม่ฮะสิ ... ดี ๆ รีบไปเอามาเลย จะได้รู้กันไปซะที"
เจ๊หว่างกับเฮียฮะหารู้ตัวไม่ ว่าระหว่างที่พูดกันอยู่นั้น ชาคริตซุ่มแอบฟังอยู่

เจนพูดโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงดีใจ
"มงกุฎเหรอ ! หรือว่าแฟลชไดร์ฟจะซ่อนอยู่ในนั้น"
ชาคริตตอบอย่างมั่นใจ
"เดี๋ยวก็รู้ครับพี่เจน"

เฮียฮะเอากล่องใส่มงกุฎมาวางตรงหน้าเจ๊หว่าง
"มาแล้วฮะ"
เจ๊หว่างเป่าฝุ่นที่เกาะที่ฝากล่อง ก่อนที่จะเปิดมันออก หยิบมงกุฎออกมา
"โอ้ ! มงกุฎอันเลอค่า"
จังหวะนั้นเอง ชาคริตก็เข้ามา พร้อมปืนในมือ
"ส่งมงกุฎนั่นมา"
เจ๊หว่างหันไปเห็นปืนก็สะดุ้งโหยง
"ว้าย !"
"ใจเย็น ๆ นะฮะ ค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จากันฮะ"
ชาคริตย้ำเสียงแข็งขึ้น "ส่งมงกุฎมา"
"สว่างฮะ ให้เขาไปเถอะฮะ"
"แต่นี่มันของยูซ่านะ"
ชาคริตไม่พูดอะไรอีก แค่ง้างนกพร้อมยิง เจ๊หว่างรีบบอก
"ก็ได้ ก็ได้ เอาไปเลย"
เจ๊หว่างส่งมงกุฎให้ชาคริต ชาคริตรับมาอย่างพอใจ
"แค่นี้เอง"
จังหวะนั้นเอง เอมมี่ก็เข้ามาข้างหลังชาคริต ปืนเล็งตรงมาที่ชาคริต
"ถูกต้อง ! แค่ส่งมาเอง"
ชาคริตหันไปมองเอมมี่อย่างแปลกใจ
"เอมมี่ ! เธอรู้เรื่องนี้ได้ไง"
"ลืมไปแล้วเหรอ ว่าคนอย่างคุณธงรบมีหูตาอยู่ทุกที่อยู่แล้ว"
ชาคริตหันไปมองจ้องเฮียฮะ เฮียฮะรีบปฏิเสธ
"เฮียเปล่านะฮะ เฮียไม่ได้บอกอะไรใครเลยฮะ"
"ถ้างั้นใครกัน ไอ้เคน พิงก์ หรือว่า..." ชาคริตนึกถึงเจน
"ดูเหมือนว่าแกจะฉลาดขึ้นแล้วนะ"
"ฉันไม่เชื่อแกหรอก ฉันต้องไปถามให้รู้ความจริง"
"ส่งมงกฎมาให้ฉัน"
"ไม่ !"
ชาคริตพูดแล้วก็โยนมงกุฎลอยขึ้นเหนือหัว เอมมี่เงยหน้ามองตามขึ้นไป จังหวะนั้นเอง ชาคริตก็หมุนตัว ยิงปืนเข้าใส่เอมมี่ แต่เอมมี่หลบแล้ว แล้วยิงสวนไป ชาคริตหลบได้เช่นกัน
มงกุฎกลิ้งตกมาที่พื้น เจ๊หว่างมองที่มงกุฎนั่น
"มงกุฎ !"
เจ๊หว่างเข้าไปจะหยิบมงกุฎ แต่เฮียฮะรีบดึงไว้
"สว่างฮะ เค้ายิงกันแล้ว ยังจะห่วงมงกุฎอีกเหรอฮะ รีบเผ่นกันเถอะฮะ"
เฮียฮะดึงเจ๊หว่างออกไป
"โธ่ ! มงกุฎ"
ทั้งสองพากันวิ่งแจ้นออกจากห้องนั้นไป
มงกุฎอยู่ที่พื้น ทั้งเอมมี่และชาคริตหลบมุมมองดู เขาและเธอต่างรู้ดีว่าจังหวะแบบนี้ใครพลาดคนนั้นตาย
วิธีเดียวที่จะจัดการอีกฝ่ายให้ได้คือ ยั่วยุให้สติแตก และเอมมี่ก็ไม่รอช้า
"ชาคริต แกจะเอาชีวิตมาเสี่ยงทำไม ในเมื่อสุดท้ายแฟลชไดร์ฟที่ซ่อนอยู่ในมงกุฎ ก็ต้องกลับมาอยู่ในมือคุณธงรบอยู่ดี .... ถามจริง แกโง่หรือเซ่อกันแน่ ถึงได้ดูไม่ออก ว่าคุณเจนที่แกรักเทิดทูน กับคุณธงรบของฉัน ที่แท้ก็พวกเดียวกัน"
ชาคริตช็อก ! คาดไม่ถึง ไม่เชื่อ
"ไม่จริงอ่ะไม่จริง"
"จริงซิ แกไม่ได้แค่โง่ถูกหลอก แต่งานนี้แกยังจะต้องเป็นแพะรับบาปด้วย สมน้ำหน้า ดันโง่ดีนัก"
"ไม่จริง" ชาคริตตะโกนลั่น "ไม่จริ้ง !"
เอมมี่จุดไฟชาคริตติด เขาถึงกับเดือดพล่าน โผออกมาจากที่ซ่อน แล้วรัวกระสุนใส่เอมมี่ และนี่เองเปิดโอกาสให้เอมมี่ปลิดชีพเขาอย่างง่ายดาย
ชาคริตโดนกระสุนของเอมี่เข้ากลางอก
"โอ๊ย !"
เขายืนหมดสภาพก่อนทรุดลงนั่งคุกเข่า
เอมมี่เดินเข้ามาหา
"แกนี่มันโง่จริง ๆ"
ชาคริตรวบรวมกำลังยกปืนขึ้นยิงช้า ๆ แต่เอมมี่ซ้ำเข้าไปอีกนัดเสียก่อน ปัง !
ชาคริตถึงกับลงไปนอน หายใจรวยริน
เอมมี่เข้าไปหยิบมงกุฎขึ้นมาจากพื้น แล้วก้าวข้ามร่างชาคริตไป
ชาคริตนอนใกล้ตาย เวลานี้ในสมองเขามีแต่ภาพเก่า ๆ

"พี่เจน !"

ชาคริตน้ำตาไหลออกมา ก่อนลมหายใจสุดท้ายจะสิ้นลง

พุฒิกับซูซี่นั่งเคียงกันอยู่ริมทะเล
"แล้วหลังจากจัดการกับธงรบ คุณคิดไว้หรือยังครับ ว่าจะทำอะไรต่อ"
"ก็คงเริ่มต้นชีวิตใหม่ เป็นซูซี่คนใหม่"
"ซูซี่คนใหม่ แล้วความรักล่ะครับ ใหม่ด้วยหรือเปล่า"
ซูซี่นิ่งคิด
"ผมหมายถึงระหว่างคุณกับไอ้เคน"
"ระหว่างเคนกับฉันคงจบแล้วล่ะค่ะ"
"แล้วคุณกับ King Crow ล่ะครับ"
"ฉันภาวนาว่าอย่าให้ต้องเจอเขาอีก"
"ถ้าอย่างนั้นผมก็พอจะมีหวังน่ะสิครับ"
ซูซี่ไม่ตอบ พุฒิรีบขายตัวเองต่อ
"หรือจะให้ผมเปลี่ยนตัวเองให้ดุขึ้น เถื่อนขึ้นแบบ King Crow ก็ได้นะครับ ผมมีหลายออฟชั่นให้เลือกครับ"
ซูซี่ยื่นมือมาจับมือพุฒิไว้
"คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองหรอกค่ะพุฒิ ฉันแค่ขอเวลา ... ขอเวลาที่จะรักคุณแบบที่เป็นคุณจริง ๆ"
พุฒิยิ้มและบีบมือซูซี่เบา ๆ
"ครับ ผมจะรอ"
ทั้งสองคนนั่งกุมมือกันอยู่อย่างนั้น แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น พุฒินั่งเฉย
"พุฒิคะ รับโทรศัพท์เถอะค่ะ เผื่อมีเรื่องด่วน"
พุฒิหงุดหงิดขึ้นมา รีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมองดูแล้วกดรับ
"ไอ้เคน แกจะโทรมาทำไมตอนนี้วะ"

เคนตอบไปอย่างเครียดปนเศร้า
"เกิดเรื่องใหญ่แล้วว่ะพุฒิ ... ชาคริตถูกยิง"
พุฒิตกใจ "หา ! แล้วเป็นไงมั่ง ไปช่วยทันหรือเปล่า"
"ไม่ทัน เขาตายแล้ว"
พุฒิตกใจจนพูดไม่ออก
"พุฒิ แกกับซูซี่รีบกลับมาที่ฟีนิกซ์ด่วนเลยนะ"
"ฮือ !"
เคนวางสายไปแล้ว พุฒิยังนั่งอึ้ง จนกระทั่งซูซี่ถามขึ้น
"เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ"
"ชาคริตถูกยิง เขาเสียชีวิตแล้ว"
"หา ! เป็นไปได้ไง"
"รีบกลับฟีนิกซ์กันเถอะครับ"
"ค่ะ"

พิ้งคุยโทรศัพย์กับหัวหน้า
"I don’t know how this info leaked"
"I don’t care how it leaked..i want to know who is the rat .Was kane with you all the time during this incident"
"yes sir of cause"

หน้าหันไปหามือสังหาร มือสังหารพยักหน้า

ต่อมา เคน พิงก์ พุฒิ ซูซี่ และเจนต่างยืนเครียด กระจายอยู่ตามมุมต่างๆ ของห้อง

"จากที่เจ๊หว่างบอก ชาคริตไปที่บาร์ยูโทเปีย และจี้เอามงกุฎจากเจ๊หว่าง"
"หรือว่าชาคริตจะเป็น สายลับสองหน้า" ซูซี่ว่า
"ฉันก็สงสัยอย่างนั้นเหมือนกัน เหมือนกับว่าเขาพยายามชิงข้อมูลไปให้ใครบางคน ที่ไม่ใช่ทั้งเราและนายธงรบ พิ้งทางพวกเธอรู้อะไรบ้างไหม"
"ไม่รู้เลยคะ ทางเราก็มืดแปดด้านเหมือนกัน"
"ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็ชัดแล้วว่าไอ้โม่งที่เราตามหามาตลอดคือใคร" พุฒิว่า
"ไม่คิดเลย ว่าสุดท้ายคน ๆ นั้นจะเป็นหนึ่งในคนที่ฉันไว้ใจมากที่สุด"
"แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดกันล่ะคะ ถ้าไม่ใช่ชาคริต หรือใช่ แต่ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวล่ะ แต่ถ้าเขาเป็นสายไห้ธงรบ เขาก็ไม่น่าจะโดนเอ็มมี่ฆ่านะ"
ทุกคนคิดตามซูซี่ แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
"ฉันว่าเราเลิกคิดเรื่องนี้กันก่อนเถอะ รีบไปที่บ้านธงรบ แล้วชิงเอามงกุฎคืนมากันดีกว่า" เจนว่า
ทุกคนรับคำ "ครับ/ค่ะ"

ในห้องพัก ธงรบส่งมงกุฎให้เอมมี่ดู เอมมี่ไล่ดูทุกจุดอย่างละเอียด
"สายลับฟินิกซ์ มันคงไม่โง่ ถ้าข้อมูลลับมันอยู่ในนี้ มันคงแปรสภาพเป็นอะไรที่ทำไห้เราหาไม่เจอแน่ๆ"
"หรือเราจะเข้าใจผิดไปเอง ว่ายูซ่าซ่อนแฟลชไดรฟ์ไว้ในนี้" ธงรบว่า
"แต่วันนั้นยูซ่าพูดเรื่องการประกวดนะพี่ มงกุฎก็น่าจะเข้าเค้าที่สุดแล้วล่ะ" ชิปปี้ว่า
ธงรบครุ่นคิด

คืนนั้น ภายนอกบ้านธงรบดูเงียบสงบ ก่อนที่จะมีเชือกทิ้งดิ่งลงมา ทีมคอมมานโดโรยตัวลงมาอย่างเงียบกริบ
เจนในชุดคอมมานโดส่งสัญญาณให้ทุกคนในทีมกระจายออกไป
ทั้งหมดพากันกระจายไปรอบ ๆ ตามแผนที่วางไว้

เอมมี่วางมงกุฎลงไปตรงหน้าธงรบ
เอมมี่บอก "เอมมี่ว่าทางที่ดีที่สุดคือถามจากเจ้าตัว"
"เธอหมายถึงยูซ่า"
"ใช่ค่ะ"
"แต่เราจะเจอตัวยูซ่าได้ยังไง"
"ที่บาร์ยูโทเปีย"

ป้ายคัตเอ้าท์หน้าบาร์ ภาพโปรโมตยูซ่า พร้อมข้อความเชิญชวน "ยูซ่า สเปเชียล โชว์พิเศษ คืนพิเศษ เพื่อคุณคนพิเศษ ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น"

เอมมี่พูดอย่างมั่นใจ
"ป้ายโฆษณาใหม่เอี่ยมเพิ่งติดตั้ง เหมือนทางบาร์มั่นใจ ว่าจากนี้ไปจะมีโชว์ของยูซ่าเป็นประจำ"
"เธอนี่ช่างสังเกตนะเอมมี่ ... ถ้างั้นส่งคนไปคอยเฝ้าไว้ มันขึ้นแสดงเมื่อไร เราจะไปเอาตัวมันมาทันที"
"ค่ะนาย"

เคนและพิงก์วิ่งเข้าไปยืนสองข้างของประตู พิงค์ส่งสัญญาณให้เคน
เคนยกปืนยิงที่กลอนประตู ก่อนที่จะถีบประตูเปิดเข้าไป

เคนและพิงก์ส่องปืนเข้ามาด้านใน ในบ้านว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ในนั้น

จุดอื่น ๆ ในบ้านที่คนอื่นกระจายกันออกดูก็เช่นกัน ไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตใด ๆ

ทั้งหมดกลับมารวมกันที่เดิม พากันถอดแว่นอินฟาเรตออก
"ไม่มีใครอยู่เลย" เคนบอก
"หรือว่าพวกมันจะรู้ตัวล่วงหน้า" พุฒิว่า
"เป็นไปไม่ได้" เจนว่า
"ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ คนอย่างธงรบมีสายอยู่เต็มไปหมด" ซูซี่ว่า
ทั้งหมดอึ้งไปกับความคิดนั้น
"ถ้าเป็นจริงอย่างที่เธอพูด ฉันจะหาทางลากตัวคน ๆ นั้นมาให้ได้"
พิงก์ถาม "แล้วทีนี้เราจะทำยังไงกันต่อดีล่ะคะ"
"ฉันมั่นใจ ว่าธงรบยังไม่ได้หนีไปไหนไกลหรอก สิ่งที่เราต้องทำคือล่อให้เขาออกมา"
เคนถาม "ทำยังไงเหรอครับ"
"เราคงต้องพึ่งบริการยูซ่าอีกครั้ง ยูซ่าจะเป็นเหยื่อล่อธงรบที่ดีที่สุด" พุฒิบอก
เคนหน้าเจื่อน อ่อนใจและเบื่อหน่ายเต็มที่
"โห ! อีกแล้วเหรอเนี่ย"

ธงรบส่งมงกุฎให้เอมมี่
"ตอนนี้พวกมันคงพยายามทำทุกอย่างเพื่อชิงมงกุฎนี้ไปจากเรา เอมมี่ เอาไปเก็บไว้ให้ดี"
"ค่ะนาย"
เอมมี่ถือมงกุฎเดินออกไป ธงรบเดินไปที่ผนังกระจก และมองออกไปข้างนอก ธงรบและคนอื่นๆไม่ได้อยู่ที่บ้าน หากแต่ธงรบอยู่บนตึกสูงใหญ่หรูหรา
 
ห้องอื่นๆ ในตึกต่างเปิดไฟอย่างสวยงามดูแพรวพราวไปหมด

อ่านต่อตอนที่ 16


กำลังโหลดความคิดเห็น