เรื่องย่อ "คู่ซ่าคดีป่วน"
บท - กำกับการแสดง : ดนัย อัมพรดนัย
แนวละคร : ซีรีส์คอมเมดี
ผลิต : สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ร่วมกับ บ. ซี สตูดิโอ
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 ถึง 21.10 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3
ระยะเวลาออกอากาศ : ตอนแรกวันที่ 4 ส.ค. 2562
ความยาว : ความยาว 52 นาทีต่อตอน ทั้งหมด 13 ตอน
#คู่ซ่าคดีป่วน # ThaiPBS #lakornonlinefan #ลมหายใจคือละคร
"คู่ซ่าคดีป่วน" ซีรีส์คอมเมดี ทางเลือกของคนชมละครน้ำดี ประเภทสืบสวนสอบสวน ซึ่งคุณๆได้ทั้งความสนุกสนานและได้สาระทางด้านกฎหมาย
หลายคนบอกว่าระบบกฎหมายประเทศไทยมีสองมาตรฐาน และอีกหลายคนเข้าใจว่า “มันไม่มีมาตรฐานเลยต่างหาก” บ่อยครั้งที่เราเห็นว่าทำไม คนหนึ่งทำสิ่งนี้โดนตัดสินโทษ แต่สำหรับบางคนทำอย่างเดียวกันกลับไม่มีความผิด ในข้อหาเดียวกันทำไมบางคนติดคุก บางคนรอลงอาญา บางครั้งก็จับผิดตัวกันไปเลย และบ่อยครั้งที่คดีเล็กน้อยกลับติดคุกมากกว่าคดีอุกฉกรรจ์ ที่มาที่ไป คืออะไร
ละครเรื่องนี้จึงมุ่งนำเสนอความรู้ทางด้านกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมาย ในชีวิตประจำวันที่มักมีปัญหาอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ประชาชนทั่วไปถูกเอารัดเอาเปรียบทางกฎหมาย หรือถูกหลอกเพราะไม่รู้กฎหมาย อีกทั้งยังจะส่งเสริมให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกันในสังคม
นอกจากนี้ ละครเรื่องนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ ให้ ตระหนักถึงปัญหา และอยากลงมือแก้ปัญหานั้นๆ โดยเฉพาะปัญหาทางข้อกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมาย โดยหวังอย่างยิ่งว่าละครเรื่องนี้จะสามารถชี้นำให้สังคมตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ ....
เรื่องย่อ
ชาลี เพิ่งกลับมาจากประเทศนามีเบียที่เขาไปเป็นอาสาสมัครอยู่ถึง 3 ปี หลังจากเรียนจบนิติศาสตร์ ชาลีก็สอบตั๋วทนายผ่านและเขาได้ร่วมหุ้นกับเสรีเพื่อนที่สนิทกัน ตั้งสำนักงานทนายความ “ชาลีและเสรีและเพื่อน” ขึ้น โดยทั้งคู่หวังว่า มันจะเป็นที่พึ่งทางด้านกฎหมายให้กับชาวบ้าน เป็นทนายความเพื่อประชาชน ตามอุดมการณ์ที่ทั้งชาลีและเสรี ตั้งใจไว้ตั้งแต่ยังเป็นเด็กค่ายอาสาของคณะ
หลังจากตั้งสำนักงานได้ไม่นาน ชาลีเห็นประกาศของยูนิเซฟรับอาสาสมัครช่วยเหลือสังคมด้านมนุษยธรรมที่ประเทศนามีเบีย ชาลีไม่คิดอะไรมาก นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้ทำตามอุดมคติ เขาสมัครไป 3 เดือน เสรีก็เห็นด้วยที่จะเพิ่มความน่าเชื่อถือของสำนักงานด้วยการที่มีทนายความที่เป็นอาสาสมัครของยูนิเซฟ
3 ปีผ่านไป ชาลีกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง เขาเองก็ยังสงสัยว่าความตั้งใจที่จะไป 3 เดือน มันกลายไปเป็น3 ปีได้ยังไง ไวมาก แต่ก็ช่างเถอะ ยังไงเสรีก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรแรงเกินไป
กลับมาคราวนี้เขาไม่ได้บอกเสรีเพราะอยากให้เซอร์ไพรส์ แต่เมื่อมาถึงสำนักงาน ชาลีเองต่างหากที่ต้องเซอร์ไพรส์ เพราะจากสำนักงานเก่าๆ “สำนักงานทนายความชาลีและเสรีและเพื่อน” กลายเป็นสำนักงานดูดี และเหลือแค่ชื่อ “สำนักงานทนายความเสรีและเพื่อน” ไปเสียแล้ว
เสรีบอกว่าที่ต้องเปลี่ยนชื่อเพราะขี้เกียจคอยตอบคำถามที่ว่า “แล้วชาลีล่ะไปอยู่ไหน?” และที่ต้องทำให้สำนักงานดูดีก็เพราะต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ถ้ามันเป็นแค่นั้นชาลีก็ คงไม่คิดมาก
แต่เมื่อเขาเข้าไปทำงานวันแรก ชาลีก็รู้แล้วว่าเสรีคนนี้ไม่ใช่เสรีคนที่เขาเคยรู้จัก จากเด็กค่ายอาสา ทนายความคนยากช่วยเหลือชาวบ้านกลายเป็นเสรีที่เงินไม่มางานไม่เดิน รับงานง่ายๆสบายจังฮู้ แต่เสรีมีหรือจะยอมรับ เขายืนยันว่าอุดมการณ์ไม่เปลี่ยน เปลี่ยนแค่เปลือกนอก ถ้าไม่ทำ อย่างนี้สำนักงานคงเจ๊งไปตั้งแต่ปีแรกที่ชาลีไปนามีเบียแล้ว ชาลีเถียงไม่ออก 3 ปีมันก็เกินไปจริงๆ
การมาทำงานวันแรกของชาลีก็เกิดความขัดแย้งซะแล้ว เมื่อเสรีปฎิเสธคดีถูกรถชนแล้วหนี เพียงเพราะเจ้าทุกข์มีเงินน้อยเท่านั้น ชาลีก็ของขึ้นน่ะสิ ชาลีตกลงรับงานโดยไม่คิดค่าทำคดี และยืนยันกับเสรีว่าถ้าไม่ยอมเขาก็จะกลับไปทำงานที่นามีเบียตามเดิม เสรีเองก็จนใจ ความจริงแล้วหุ้นครึ่งหนึ่งก็เป็นหุ้นของชาลีจริงๆท้ายที่สุดเสรีก็ต้องยอมแต่ชาลีต้องทำคดีนี้เองโดยลำพังเขาจะไม่ยุ่ง
แล้วเสรีก็ส่งน้ำหวานผู้ช่วยทนายความประจำสำนักงานมาช่วยเหลือเรื่องเอกสาร เพราะเสรีเองก็ไม่อยากให้แพ้คดี เพราะจะเสียชื่อเสียงของสำนักงาน
น้ำหวานเป็นคุณหนูไฮโซที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบไข่ในหิน ที่บ้านของน้ำหวานมีธุรกิจนำเข้าส่งออกใหญ่โต แต่น้ำหวานไม่ได้บอกใคร เพราะเธอเองก็ไม่คิดว่ามันสำคัญอะไรที่จะต้องบอก
น้ำหวานแอบปลื้มเสรีอยู่ เพราะเสรีเป็นคนเนี๊ยบ ดูดี มีหลักการ เธอรู้ว่าเสรีไม่ใช่คนใจดำ อะไรที่จะไม่ช่วยคนอื่น แต่ถ้าช่วยสักคน เดี๋ยวอีกคนก็จะมา เสรีจึงทำเป็นไม่ช่วยและส่งเธอมาดูอย่างลับๆ
แค่คดีแรกก็ยากเสียแล้ว เมื่อคนที่ขับรถชน เป็นลูกกำนันในพื้นที่ ซึ่งมีเส้นสายเป็นอย่างดี ทำให้สำนวนที่ตำรวจทำมาอ่อนเกินไป ชาลีและลูกความจึงต้องออกหาหลักฐานเอาเองในพื้นที่ อิทธิพลของคู่กรณี แต่ก็ยังดีที่เสรีแอบช่วยอยู่อย่างลับๆ
จากคดีแรก ชาลีเริ่มพาสำนักงานทนายความ “เสรีและเพื่อน” เข้าสู่ทนายความเพื่อประชาชนอย่างที่ตั้งใจไว้แม้เสรีจะไม่เห็นด้วยแต่ด้วยจิตวิญญาณเด็กค่ายเก่า เขาก็จำยอมเรื่อยมา นับเป็นการร่วมมือกันของสองทนายความที่มีมุมมองต่างกันอย่างสุดขั้ว
บุคลิกนักแสดง
เสรี : อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา (กอล์ฟ)
เคยเป็นเด็กกิจกรรมมีอุดมการณ์ แต่เมื่อเข้าสู่ความเป็นจริง เสรีพบว่าสังคมทุนนิยมการไม่มีเงินมันทำอะไรไม่ได้เลย เขาค่อยๆเปลี่ยนทัศนคติ เป็นเงินไม่มางานไม่เดินแต่จริงๆแล้ว เสรีเป็นคนจิตใจดี บ่อยครั้งที่เขาก็เกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ แต่นั่นก็นานๆ มากถึงจะคิดอย่างนี้สักครั้ง
เสรีเป็นคนละเอียด รอบคอบ ชอบวางแผน ไม่สนใจจริยธรรมของทนายนักเพราะเขาเห็นว่ากฎหมายหลายตัวก็ไม่ยุติธรรม บางครั้งเสรีจึงวางแผนนอกกรอบบ้างเพื่อประโยชน์ของฝ่าย ตนว่าความให้คนผิดบ้างเพื่อประโยชน์ของสำนักงาน การร่วมงานกับชาลีทำให้เสรีได้เรียนรู้ว่าคนเราถ้าไม่มีอุดมคติเสียแล้ว งานที่ทำก็มีความหมายและคุณค่าลดลง สิ่งที่สร้างศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจไม่ใช่เงินเสมอไป
ชาลี : จิรกิตติ์ ถาวรวงศ์ (เมฆ)
จบกฎหมายด้วยคะแนนดีเด่น ทั้งๆที่เอาเวลาไปทำกิจกรรมซะหมดเป็นคนฉลาด มีความมุ่งมั่น ยึดมั่นในอุดมการณ์ และมีความฝันในเชิงอุดมคติที่ว่า “ทุกคนเท่าเทียมกันตามกฎหมาย” ชอบเอาชนะ จนบางครั้งดูดื้อด้านเป็นคนมุทะลุ ใจร้อน ทำอะไร หวังผลเร็ว
ข้อด้อยของชาลีก็คือยังไม่เคยทำคดีจริงๆจังๆ เพราะจบมาไม่กี่ปีก็ไปเป็นอาสาสมัครที่นามีเบีย เป็นคนตรง การต่อสู้จะเอาชนะก็ต้องชนะกันในทางกฎหมาย ไม่ชอบใช้เล่ห์เหลี่ยม ด้วยความ ที่เป็นคนตรงทำให้บางครั้งเขาก็ถูกหลอกเพราะความเชื่อของตัวเอง เช่น ชาลีเชื่อว่าคนรวยมักเอาเปรียบคนจนเสมอ ซึ่งก็ไม่จริงเสมอไป การทำงานที่สำนักงานทนายความนี้จะทำให้ชาลีได้เรียนรู้ชีวิตจริงมากขึ้น ว่าไม่มีอะไรขาวหมดไม่มีอะไรดำหมด และไม่มีใครที่จะถูกต้องเสมอไป
น้ำหวาน : ภัชธร ธนวัฒน์ (พลยอ)
หญิงสาวเพิ่งจบการศึกษาทางด้านบัญชี มีนิสัยร่าเริง อุดมคติสวยงาม เป็นคุณหนูทนลำบากไม่ค่อยได้ เพราะที่บ้านเลี้ยงมาดีแบบมีพี่เลี้ยงดูแลตลอดจนกระทั่งเรียนจบน้ำหวานจึงขอทาง บ้านว่าอยากยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง
มีความพยายามในการอดทนสูง ใจอ่อนและชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่มีใครรู้ว่าน้ำหวานบ้านรวย รู้แค่ว่ามีนามสกุลไฮโซ อาจเป็นญาติคนรวยเท่านั้น น้ำหวานจะมีอาหารกล่องมากินจากบ้านเสมอเพราะแม่จัดให้ ยิ่งทำให้คนอื่นคิดว่าน้ำหว่าคงมีฐานะลำบากจึงต้องเอาข้าวมากิน น้ำหวาน ชอบผู้ชายเท่และแอบชอบเสรี เพราะเสรีเป็นคนแต่งตัวดี มีมาดแตกต่างจากชาลีโดยสิ้นเชิง