xs
xsm
sm
md
lg

พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 10 : “ซูซี่” ทำงานใช้หนี้พนันพ่อแม่!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 10 : “ซูซี่” ทำงานใช้หนี้พนันพ่อแม่!

บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : จรูญพร ปรปักษ์ประลัย

พุฒิเดินพูดโทรศัพท์ออกมาจากคอนโด

"ไม่สำเร็จครับพี่เจน ผมพยายามพูดแล้ว แต่ไอ้เคนมันไม่ฟังเลย"

ภายในห้องทำงาน องค์กรฟีนิกซ์ เจนพูดโทรศัพท์อย่างเคร่งเครียด
"แต่ยังไงเราก็ปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ เคนเข้ามาในฟีนิกซ์ รู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรา เขาจะสร้างความเสียหายให้เรามากเลย ถ้าเขาบอกความลับของเราให้ซูซี่รู้"
"ถ้างั้นผมจะหาทางหยุดซูซี่"
"หยุดทั้งสองคน ถ้าจำเป็นก็ฆ่าทั้งสองคน"
พุฒิอึ้งไปกับคำสั่งของเจน
"ฟีนิกซ์เป็นหน่วยงานลับ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในฟีนิกซ์ จะต้องถูกเก็บเป็นความลับตลอดไป"
"ครับพี่เจน"
พุฒิวางสาย สีหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด เขายังคิดไม่ออก ว่าถึงเวลาจริง ๆ เขาจะสามารถฆ่าเพื่อนได้อย่างไร

พุฒิเดินมายังที่จอดมอเตอร์ไซค์ ทันใดนั้น รถคันหนึ่งก็พุ่งผ่านไป ก่อนหักรถขวางหน้าอย่างเร็ว พุฒิชะงัก
ปืนกลในมือคนขับถูกยื่นออกมาจากช่องหน้าต่างรถ แล้วลั่นไกปืนกระหน่ำ
ทว่าในจังหวะนั้นเอง ชาคริตก็ตะโกนพร้อมพุ่งเข้าผลักพุฒิล้มลง
"ระวัง !"
กระสุนหลายนัดผ่านทั้งสองคนไปเข้ากับเสาที่อยู่ด้านหลัง พรุนไปทันตา
"เร็ว !"
พุฒิกับชาคริตวิ่งไปหลบหลังเสา มือปืนกระหน่ำยิงอีกชุด พุฒิกับชาคริตชักปืนออกมายิงตอบโต้
มือปืนเหยียบคันเร่ง พารถออกไป
พุฒิกับชาคริตออกมาจากที่ซ่อน ยิงตามรถคันนั้นไป
เมื่อขับรถออกมาพ้นรัศมีแล้ว มือปืนก็โยนปืนลงที่เบาะข้าง ๆ
เอมมี่สีหน้านิ่งเหี้ยม เธอรู้ว่าแม้ครั้งนี้จะพลาด แต่สักวันมัจจุราชอย่างเธอต้องเด็ดชีวิตพุฒิได้แน่

พุฒิถาม "ใครกันน่ะ"
"น่าจะเป็นคนของธงรบ ... ต่อจากนี้แกคงยิ่งอยู่ยาก เพราะพวกมันรู้แล้วว่าแกเป็นใคร"
พุฒิเห็นด้วย แต่ยังมีอีกอย่างที่เขาสงสัย เขาหันขวับมามองหน้าชาคริต
"เดี๋ยวนะชาคริต มานี่ได้ไงเนี่ย"
"ก็มาช่วยไง นี่ ๆ แกยังไม่ได้ขอบคุณฉันเลยนะ"
"ไม่ได้ขอให้ช่วยสักหน่อย"
"เฮ้ยไอ้นี่ เนรคุณจริง ๆ เลย"
"คอยตามดูฉันอยู่ใช่ไหม"
"ตามเติมอะไร ไร้สาระ"
"พี่เจนเป็นคนสั่งให้ตามใช่ไหม"
ชาคริตไม่ตอบ เขาหันหน้าไป
"ระวังตัวด้วย คราวหน้าไม่มีใครคอยช่วยแล้วนะ ไปก่อนล่ะ"
ชาคริตเดินไป พุฒิหันมองตามอย่างไม่ค่อยพอใจนัก

เคนนั่งเครียดอยู่ที่คอนโด เขาเปิดภาพที่อัดไว้มาดู
ภาพในจอ ซูซี่ตัดสินใจพูดออกมา
"ครั้งหนึ่งเราเคยรักกันค่ะเคน"
เคนแปลกใจ "รักกัน จริงสิครับ"
"ใช่ แต่พอซูซี่มาคิดทบทวน ซูซี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าสิ่งที่ซูซี่ได้เห็นได้ยินในตอนนั้น มันเป็นความจริง หรือแค่สิ่งที่เคนทำเพื่อจุดหมายบางอย่าง"
เคนกด ‘หยุด’ ไว้แค่นั้น แล้วกดกลับไป
"ครั้งหนึ่งเราเคยรักกันค่ะเคน"
เคนกด ‘หยุด’ แล้วกดกลับไปอีกครั้ง
"ครั้งหนึ่งเราเคยรักกันค่ะเคน"

เคนกด ‘หยุด’ สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความครุ่นคิด

เจ๊สากับบับเบิ้ลกำลังกินกันอย่างเอร็ดอร่อย

"โอ้โห สุดยอดอ้ะ อร่อยโคตร"
"เฮ้ย ๆ ๆ แบ่งมั่ง เอามาเลย"
พิงก์นั่งนิ่งเหมือนตัดขาดออกไปอยู่อีกโลก สักพัก บับเบิ้ลกับเจ๊สาก็รู้ตัว หยุดกิน แล้วมองพิงก์อย่างห่วง ๆ
"พิงก์"
พิงก์เพิ่งรู้ตัว "ว่าไง"
"ไม่กินเหรอ"
"อิ่มแล้ว"
"อิ่มอะไร เพิ่งกินไปสองคำเอง"
"เจ๊ บับเบิ้ล ฉันขอขึ้นไปบนห้องก่อนนะ"
พิงก์พูดแล้วก็ลุกออกไป เจ๊สากับบับเบิ้ลมองตามอย่างเข้าใจความรู้สึก ว่าเคนกับพิงก์เพิ่งเลิกกันจริง ๆ
"ฮื่อ น่าสงสาร"

พิงก์เดินกลับเข้ามาในห้อง นั่งลง เสียบหูฟัง แล้วกดดูภาพในจอแท็บเล็ต
ภาพในจอ ซูซี่ตัดสินใจพูดออกมา
"ครั้งหนึ่งเราเคยรักกันค่ะเคน"
ภาพในจอ ซูซี่เข้ามาด้านหลังเคน โอบเขาจากทางนั้น
"คุณพอจะจำอะไรได้หรือยังคะเคน"
พิงค์อึ้งกับความจริงที่เพิ่งได้รู้

เคนนั่งเครียดอยู่ ในสมองเต็มไปด้วยความคิดมากมาย เสียงเคาะประตู เขาหันไปมอง

เคนเปิดประตู พิงก์ยืนรออยู่หน้าห้อง "พิงก์"

พิงก์กับเคนยืนพูดกันอยู่
"หมายความว่ายังไง ที่ซูซี่บอกว่าเคนกับเค้าเคยรักกัน"
"ไม่รู้ ! ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น ผมจำอะไรไม่ได้เลย"
"จำไม่ได้ ! แล้วถ้าเผื่อว่า... เผื่อเคนเกิดจำทุกอย่างได้ขึ้นมา เคนจะกลับไปรักเค้าอีกไหม"
เคนอึ้งกับคำถามของพิงก์
"โหพิงก์ ใครจะไปตอบถูก มันเป็นเรื่องอนาคต ไม่มีใครรู้หรอก แต่ที่แน่ ๆ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะยังรักคุณเสมอ"
"ถ้างั้นถามใหม่ ตอนนี้เคนรู้สึกอย่างไรกับซูซี่"
"ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร"
พิงก์หันเดินผ่านเคนไปด้านหลัง
"แล้วตอนที่เค้าทำแบบนี้ล่ะ"
พิงก์โอบกอดเคนจากทางด้านหลัง ท่าเดียวกับซูซี่
"จะให้ตอบตรง ๆ"
พิงก์ยื่นหน้ารอฟัง
"มันก็แปลก ๆ นะ แต่ไม่เหมือนที่รู้สึกอยู่นี่หรอก"
"ที่รู้สึกอยู่เป็นยังไงเหรอ" พิงก์ถาม
เคนหมุนตัวไป ดึงพิงก์เข้ามาในอ้อมกอด แล้วจูบ ก่อนที่จะบอก
"ก็อย่างนี้ไง"
"ไม่เห็นเข้าใจเลย"
"ถ้างั้นคงต้องบอกอีกที"
เคนจูบพิงก์อีกครั้ง
"เข้าใจหรือยัง"
"ยัง"
"คุณนี่เข้าใจอะไรยากจัง"
เคนจูบพิงก์เป็นครั้งที่สาม

ที่ข้างโต๊ะ มีเครื่องดักฟังติดอยู่

ซูซี่นั่งอยู่ในรถ สวมหูฟังอยู่ สีหน้าเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้นริษยา

ครู่ต่อมา เคนถอนจูบจากพิงก์

"เข้าใจแล้วใช่ไหม"
"นิดหน่อย"
"พิงก์ เชื่อผมเถอะ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับซูซี่ เป็นเรื่องงานล้วน ๆ ไม่มีเรื่องส่วนตัวเลยสักนิด"
"ค่ะ พิงก์จะพยายามเชื่อ แล้วเคนได้อะไรจากซูซี่มาบ้างล่ะ"
"ยัง แต่จากนี้ไปเราจะรู้ความเคลื่อนไหวของเค้าทุกก้าว"
"แปลว่า..."
"ตอนนี้ซูซี่ไปรินไวน์ ผมแอบเอาเครื่องติดตามตัวใส่ในกระเป๋าเค้า อยากเห็นไหมล่ะ"
พิงก์ยิ้ม
"อยากสิ"
เคนกดดูที่มือถือซึ่งสร้างแอพไว้ ภาพกราฟิกแผนที่ปรากฏบนหน้าจอ เคนยกให้พิงก์ดู
"นี่ไง"
พิงก์มองแล้วหน้าเจื่อน
"ฮึ้ย"
"อะไร"
"ซูซี่อยู่ที่นี่"
เคนรีบหันหน้าจอกลับมาดู
เคนงง "ที่นี่ ? ที่ไหน ?"
"ที่คอนโดนี้ไง"
"หา ! เค้ามาทำอะไรน่ะ ?"
"หรือที่จริงเค้ายังไม่ได้ไปไหน"

เคนกับพิงก์วิ่งเข้ามาหลบที่หลังเสา มองโทรศัพท์พลางมองหา
"น่าจะแถว ๆ นี้แหละ" พิงก์พูดเบา ๆ
"แยกกันหา" เคนบอก
"ฮือ"
เคนกับพิงก์แยกกันออกไปคนละทาง ทั้งคู่พยายามมองเข้าไปในรถที่จอดอยู่
สักพักหนึ่งเคนก็ลุกขึ้น บอกกับพิงก์
"พิงก์ ผมเจอแล้ว"
พิงก์รีบวิ่งมาหา
"ไหน"
"นี่ไง"
เคนยกเครื่องติดตามตัวที่อยู่บนพื้นขึ้นมา
"ซูซี่รู้ตัวก่อนที่จะเราจะลงมาที่นี่"
"เป็นไปได้ไง หรือว่า..."

ต่อมา ประตูห้องเปิดออกอย่างเบาที่สุด เคนกับพิงก์ย่องเข้ามา พิงก์จุ๊ปากไม่ให้เคนพูดอะไร
พิงก์ชี้บอกให้เคนหาด้านหนึ่ง ส่วนเธอก็แยกไปหาอีกด้าน
ทั้งคู่ช่วยกันหาตามซอกมุมต่าง ๆ
สุดท้ายพิงก์ก็เจอเครื่องดักฟังที่ข้างโต๊ะ
พิงก์สะกิดเรียกเคน เคนหันมามอง แล้วถึงบางอ้อว่าเกิดอะไรขึ้น
เคนรับเครื่องดักฟังมาจากพิงก์ แล้วกดถอดซิมออก
"หมดกัน"
"แสดงว่าตอนนี้ซูซี่รู้ตัวแล้ว" พิงก์ว่า
"พอกันเลย เค้ามาที่นี่ก็เพราะเรื่องงานเหมือนกัน โธ่ผมก็นึกว่า..."
พิงก์มองเคนอย่างหมั่นไส้ "นึกว่าอะไร อ๋อ คิดว่าเค้าหลงเสน่ห์ตัวเองงั้นสิ"
เคนรีบปฏิเสธเสียงแข็ง "เปล่า !"
"เอาไงต่อดีล่ะ"
"ตอนที่ซูซี่ดักฟัง เรายังไม่ได้พูดเรื่องการส่งของใช่ไหม"
"คิดว่ายังนะ ฮึม ยังไม่ได้พูดหรอก"
"ถ้างั้นเราจะเดินหน้ากันต่อ"
พิงก์มองหน้าเคนอย่างเชื่อมั่นในตัวเขา

ซูซี่เดินเข้าบ้านมา ในหัวมีความคิดต่าง ๆ วิ่งไปมาอย่างสับสน
พอเปิดไฟ ก็พบพุฒิที่นั่งรออยู่ ซูซี่ตกใจ
"หะ ! คุณเข้ามาได้ยังไง"
พุฒิลุกขึ้นมา
"เรื่องแค่นี้ไม่ยากสำหรับผมหรอกครับ"
"คุณต้องการอะไร"
"ผมรู้แล้วว่าคุณทำงานให้ธงรบ"
"แล้วไง"
"ถ้าคุณยังไม่หยุด ผมจำเป็นต้องจัดการบางอย่าง"
"นี่คุณขู่ฉันเหรอ"
"ผมไม่ได้ขู่"
พุฒิพูดแล้วหันหลังจะออกจากบ้านไป ซูซี่มองตาม แล้วชักปืนออกมา
"คิดหรือว่าเข้ามาแล้วจะออกไปง่าย ๆ"
พุฒิหันกลับมา
"เอาสิครับ ยิงเลย ไหน ๆ คุณก็พยายามจะฆ่าผมมาสองครั้งแล้ว"
"คุณพูดเรื่องอะไร"

"ไม่ต้องมาทำไก๋ ผมรู้ว่าเป็นคุณ"

ด้านนอกบ้านซูซี่ มีรถคันหนึ่งขับเข้ามาจอด

ธงรบก้าวออกมาจากรถ เอมมี่ตามออกมา การ์ดสองคนก้าวออกมายืนอยู่ข้างรถ

ซูซี่มองไปทางด้านนอกอย่างคาดไม่ถึง
"คุณธงรบมา รีบหาที่หลบก่อน"
เป็นครั้งแรกที่พุฒิเห็นด้วยกับความคิดซูซี่ เขาพยักหน้าแล้วเดินผ่านเธอเข้าไป ซูซี่รีบเก็บปืน
ประตูบ้านเปิดออกช้า ๆ ซูซี่มองตรงไป พุฒิที่หลบมุมแอบอยู่ก็มองไปเหมือนกัน
ธงรบกับเอมมี่ก้าวเข้ามาในบ้าน ซูซี่ยืนรออยู่แล้ว
"คุณธงรบ"
ธงรบยิ้มแฝงความเหี้ยมเอาไว้
“คุณธงรบมีอะไรหรือเปล่าคะ”
ธงรบเดินเข้ามาลูบหน้าซูซี่ ส่วนเอมมี่ยืนคุมเชิงอยู่ด้านหลัง
“แหม ไม่ได้มาบ้านนี้มานานเลย” เขามองไปรอบ ๆ “คิดถึงความหลังเก่า ๆ นะ เธอล่ะซูซี่”
“ค่ะ ซูซี่ไม่เคยลืม ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณธงรบให้กับซูซี่”
“ใช่ ทุกสิ่งทุกอย่าง”
ธงรบพูดแล้วกระชากผมซูซี่
“โอ๊ย !”
เอมมี่มองดูอยู่ ยิ้มสะใจ
พุฒิที่มองอยู่สีหน้าเปลี่ยนเป็นโกรธ เขาชักปืนออกมา

“วันนี้ไปหาไอ้เคนมาใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“ไปทำไม”
“ก็เรื่องงานของเรา ซูซี่พยายามสืบ ว่าก่อนหน้านี้เค้าหายตัวไปไหน เกี่ยวข้องอะไรกับฟีนิกซ์หรือเปล่า”
“เหรอ นึกว่าไปรำลึกความหลังกับมันซะอีก”
“ไม่ใช่ค่ะ”
ธงรบมองตาซูซี่แบบจับผิด
“ซูซี่สาบานได้”
“โอเค ฉันเชื่อเธอก็ได้ แล้วได้อะไรจากมันบ้าง”
“ยังค่ะ แต่ซูซี่ซ่อนเครื่องดักฟังเอาไว้”
“ดี หวังว่าคงได้เรื่องอะไรบ้างนะ ไม่อย่างงั้น ฉันจะกลับมาที่นี่อีก”
“ค่ะคุณธงรบ”
ธงรบปล่อยมือจากผมซูซี่ ซูซี่คิดว่าคงจบเรื่องแล้ว ธงรบหันหลังไปมองเอมมี่ แล้วเหมือนนึกอะไรได้ เขาหันขวับมา ฟาดหลังมือใส่ซูซี่ จนซูซี่กระเด็นไป ซูซี่ล้มลงไปกระแทกกับโต๊ะ ข้าวของตกกระจาย
ธงรบเปิดประตูออกไป เอมมี่มองซูซี่ยิ้ม ๆ ก่อนตามธงรบไป

พุฒิมองด้วยสายตาโกรธแค้น

ด้านนอก ธงรบก้าวขึ้นรถทางด้านหลัง เอมมี่ตามไปนั่งข้าง ๆ การ์ดสองคนปิดประตูให้ แล้วเข้าไปนั่งทางด้านหน้า แล้วรถก็ถอยกลับออกไป

ภายในบ้าน ซูซี่ประคองตัวเองลุกขึ้น
“โอ๊ย”
พุฒิรีบเข้ามาช่วย
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
ซูซี่ปัดมือพุฒิออก
“ไม่ต้องมายุ่ง”
พุฒิมองจ้องซูซี่อย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมคุณต้องยอมให้มันทำแบบนี้ด้วย เพราะเงินเหรอ เพราะข้าวของต่าง ๆ พวกนี้ หรือเพราะว่า...”
ซูซี่สวนออกมาอย่างเหลืออด
“พอ ! พอได้แล้ว คุณไม่รู้อะไรหรอก”
แล้วน้ำตาซูซี่ก็เริ่มไหลออกมา
“คุณไปซะ”
พุฒิยังคงยืนนิ่งจ้องซูซี่อย่างเห็นใจ ซูซี่ยืนยันอีกครั้ง
“ฉันบอกให้ไปไง ไปได้แล้ว”
พุฒิเข้าไปหาซูซี่ช้า ๆ
“ซูซี่ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตคุณ ผมพร้อมที่จะฟัง”

ทั้งคู่ยืนอยู่กับความเงียบ ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาอีก

ภายในห้องเจน ชาคริตเปิดฉากพูดอย่างหงุดหงิด

“จริง ๆ นะครับพี่เจน พวกนั้นเหมือนมีลับลมคมใน ผมว่าพวกมันต้องมีแผนจะทำอะไรสักอย่าง”
“ไม่ว่าพวกนั้นจะทำอะไร ต้องกระทบถึงฟีนิกซ์แน่ ๆ”
“ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ”
“ถ้างั้นเราต้องหาทาง ‘หยุด’ ทุกคน”
“ครับ”

ซูซี่นั่งลงบนโซฟา พุฒิยื่นแก้วน้ำส่งให้ ซูซี่รับแก้วน้ำมาแล้ววางลง ก่อนที่จะเริ่มพูด
“ฉันไม่มีทางเลือก ถ้าฉันไม่ทำงานให้เขา เขาจะฆ่าพ่อแม่ของฉัน”
พุฒินั่งลงข้าง ๆ
“ทำไม”
“พ่อแม่ฉันถูกผีพนันเข้าสิง เล่นจนเป็นหนี้หลายล้าน แล้วเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดก็คือธงรบ ฉันเลยต้องมาทำงานใช้หนี้ ยอมทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการ”
“นานแค่ไหนแล้ว”
“นานมาก ฉันคิดว่าใช้หนี้หมดเมื่อไร เขาจะปล่อยฉัน แต่เปล่า ถึงเขาจะไม่ได้ไยดีอะไรฉันแล้ว แต่เขายังเก็บฉันไว้...เป็นสมบัติของเขา”
“แล้วกับไอ้เคน”
“เขาเป็นรักแรก และรักเดียวของฉัน”
พุฒิมองซูซี่อย่างเข้าใจความรู้สึก

ประตูออฟฟิศบริษัทโฆษณาเปิดออก เคนเดินเข้ามาพร้อมช่อดอกไม้
บับเบิ้ลกับเจ๊สาที่กำลังเม้าท์กันอยู่ หันมามอง
“เฮ้ย” บับเบิ้ลคาดไม่ถึง
เคนเดินผ่านเจ๊สากับบับเบิ้ลไป
“สงสัยจะมีเซอร์ไพรส์”

ซูซี่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง เคนเดินเข้ามาวางดอกไม้ไว้ข้าง ๆ ซูซี่มองอย่างแปลกใจ
“ดอกไม้... คิดจะเล่นละครอะไรอีกเหรอคะ”
บับเบิ้ล เจ๊สา เจ๊อูน นับดาว และคนอื่น ๆ ตามมาดูอย่างสนใจ
“ดอกไม้นี่แทนคำขอโทษครับ ผมรู้ว่าคุณคงโกรธมาก ที่ผมทำกับคุณแบบนั้น”
“คำขอโทษ...ไม่จำเป็นหรอกค่ะ สิ่งที่ซูซี่ต้องการ คือคำอธิบายมากกว่า”
“ก็ได้ ถ้าคุณอยากได้คำอธิบาย ผมก็ต้องการคำอธิบายจากคุณเหมือนกัน”
“ค่ะ ฉันว่าฉัน ‘แมน’ พอที่จะคุยกับคุณตรง ๆ แล้วคุณล่ะคะ”
“ได้สิครับ ห้องผมพร้อมเปิดรับคุณทุกเมื่อ”
เคนหันหลังเดินไป คนอื่น ๆ มองตามอย่างอยากรู้ว่า ซูซี่จะทำอย่างไร ซูซี่นั่งนิ่งครุ่นคิด

เคนเดินเข้าห้องสีหน้าหงุดหงิด มองเหลียวกลับไปมอง แล้วชะเง้อกลับไปดูอีกสองที ว่าซูซี่ตามมาหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าซูซี่จะตามมา เคนมีสีหน้าผิดหวัง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรออก

บริเวณที่จอดรถ บริษัท พิงก์สวมแว่นดำ ซุ่มอยู่แถวที่จอดรถ สัญญาณโทรศัพท์เรียกเข้า เธอมองดูหน้าจอ แล้วกดรับ
“ค่ะเคน”
“ไม่สำเร็จอ้ะ เค้าคงไม่หลงกลเราง่าย ๆ แล้วล่ะ”
“แล้วจะทำยังไงกันล่ะ กำหนดส่งของวันนี้แล้วด้วย”

รถตู้จอดอยู่ที่หน้าตู้คอนเทนเนอร์ บริเวณท่าเรือ

ในรถตู้ พ่อค้ายาเปิดกล่องเครื่องสำอาง Star Beauty กล่องหนึ่ง แล้วหยิบถุงโคเคนออกมาดูแล้วยิ้มพอใจ ก่อนโยนถุงโคเคนกลับลงไปในกล่อง

ในห้องทำงาน เคนครุ่นคิดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“นั่นน่ะสิ ยังไงคุณสแตนด์บายไว้แล้วกัน”
เสียงเคาะประตู เคนเงยหน้ามอง แล้วพูดเบาลง
“แค่นี้ก่อนนะ มีคนมา”
เขากดวางสาย
ประตูเปิดออก ซูซี่ก้าวเข้ามา เคนมองไปอย่างแปลกใจ
“คุณซูซี่ คุณเอาจริงเหรอเนี่ย”
“จริงสิคะ แล้วคุณล่ะเคน ‘จริง’ หรือเปล่า”
ด้าน บับเบิ้ล เจ๊สา เจ๊อูน นับดาว พนักงานคนอื่น ตามมาดูเหตุการณ์
ซูซี่ผลักประตูปิด กดล็อค แล้วเดินมาหาเคน
“เมื่อวานคุณแอบติดเครื่องติดตามตัวฉัน”
“คุณก็แอบซ่อนเครื่องดักฟังผมเหมือนกัน”
“คุณพยายามจะทำอะไรหรือคะ”
“แล้วคุณล่ะครับ”
“ก็แค่อยากรู้ ว่าพอฉันไม่ได้อยู่ด้วย คุณจะพูดถึงฉันว่ายังไง”
“เสียดาย สิ่งที่คุณฟังไม่ใช่ความจริง”
“นี่คุณจะหลอกอะไรฉันอีก”
“ที่จริงผมชอบคุณมาตลอด ผมต้องยั้งใจทุกครั้งที่เจอคุณ แม้แต่ตอนนี้”
“ฉันไม่เชื่อ”
เคนเข้าหาซูซี่ จับไหล่ทั้งสองข้างของเธอไว้
“เชื่อผมเถอะครับ”
ซูซี่มองมือเคนอย่างระแวง ก่อนปัดมือเคนออก
“เมื่อวานคุณเพิ่งบอก ว่าอาจเร็วเกินไป”
“ก็ตอนนั้นผมสับสน พิงก์เขาบังคับให้ผมติดเครื่องติดตามตัวคุณ ไม่แค่นั้นเขายังแอบติดกล้องเอาไว้ เก็บภาพเราสองคน ผมก็เลย...”
“เลยอะไรคะ”
“เลยไม่กล้าที่จะแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา คุณซูซี่ ครั้งหนึ่งผมเคยรักคุณ แล้วลึก ๆ ผมว่าผมก็ยังรักคุณอยู่”
เคนเข้าประชิดซูซี่ ยืนหน้าเข้าใกล้กัน
“พิสูจน์สิคะ”
ขาดคำซูซี่ เคนประกบปากกับปากของซูซี่ทันที ซูซี่รับจูบเคนอย่างถวิลหา
หลังจากการจูบ...
“เคนคะ เราหนีไปด้วยกันเถอะ ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่”
“คุณซูซี่ ผม...”
“ทำไมคะ เพราะพิงก์เหรอ ... ฮึ ฉันเข้าใจแล้ว คุณไม่ใช่เคนที่ฉันรู้จัก เราไม่เคยพบกัน ไม่เคยรักกัน ไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรกันทั้งนั้น ... ฉันผิดเองที่พยายามกลับเข้ามาในชีวิตคุณ เพราะหลงคิดว่า ความทรงจำคุณกำลังกลับมา และบางส่วนเสี้ยวของมัน คุณจะยังจำฉันได้บ้าง”
ซูซี่ตบเข้าที่หน้าเคนดังเพี้ยะ จนเคนหน้าหัน เขาหันขวับกลับมา
“ตบผมทำไมเนี่ย”
“ก็ที่คุณหลอกจูบฉันน่ะสิ พอกันที ฉันจะไม่ทำอะไรโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว”
ซูซี่หันหลังเดินกลับออกไป

ซูซี่เปิดประตูห้องออกมา เคนตามมาอย่างรู้สึกผิด
“คุณซูซี่”
ซูซี่ไม่สนใจเดินผ่านบรรดา ‘พนักงานมุง’ ที่อออยู่หน้าห้องไป
ซูซี่เดินกลับไปที่โต๊ะ หยิบกระเป๋าสะพายลุกออกไป
ที่ประตูออฟฟิศ พุฒิเดินเข้ามา หยุดมองอย่างรู้สึกว่า ออฟฟิศมีบรรยากาศมาคุ
ซูซี่เดินผ่านพุฒิไป เขารู้ว่ามีเรื่องแล้ว เขามองตามเธอ ก่อนพุ่งไปที่ห้องเคน
“ไอ้เคน เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
“เอาไว้ก่อน ฉันไม่มีเวลาคุยกับแก”

เคนรับกลับเข้าไปในห้อง พุฒิตามไป

ในห้อง เคนยกโทรศัพท์พิมพ์ข้อความ แล้วกดออก พุฒิมองดูอย่างสงสัย

เสียงข้อความ พิงก์รีบกดดู
ข้อความจากเคน “ปลาว่ายน้ำออกไปแล้ว”
พิงก์มองไปตรงช่องทางเข้าออฟฟิศ มองหาซูซี่

ทางด้านเคน รีบหยิบปืนในลิ้นชักออกมา เหน็บใส่ในซอง พุฒิจ้องหน้าเคน
“เคน แกคิดจะทำอะไร”
“บอกแล้วไงว่าไม่มีเวลาคุยด้วย”
เคนเดินผ่านพุฒิไป พุฒิคว้าเคนไว้
“ไม่ ! ต้องคุยกันเดี๋ยวนี้”
เคนหันมองอย่างไม่พอใจ
“ปล่อย”
“คุยกันให้รู้เรื่องก่อน”

พิงก์ซุ่มมองดูอยู่ ซูซี่เดินมา
พิงก์พิมพ์ข้อความตอบ “ปลาว่ายน้ำมาแล้ว”

เสียงติ๊งบอกให้รู้มีข้อความเข้ามา เคนจ้องหน้าพุฒิ แล้วกระชากแขนออก
“พุฒิ ฉันต้องรีบไปแล้ว”
พุฒิตะคอก “พูดมา ว่าแกจะทำอะไร พูดสิวะ”

ซูซี่เดินผ่านเสาที่พิงก์แอบอยู่ไป พิงก์มองตาม หันซ้ายหันขวา ว่าเมื่อไรเคนจะออกไปมา

เคนพยายามทำใจให้สงบ
“ฉันไม่มีอะไรจะพูด”
พุฒิยังยืนขวาง เคนผลักพุฒิออกไป พุฒิเสียหลักไป เคนรีบออกจากห้อง พุฒิลุกขึ้น มองตามไป
“ไอ้เคน”

เคนออกจากห้องมาอย่างรีบร้อน
บรรดา ‘พนักงานมุง’ มองเขาเป็นตาเดียว เจนเดินแหวกทุกคนมา
“เคน จะไปไหนน่ะ”
“พี่เจน พอดีผมมีธุระด่วนน่ะครับ”
เคนไม่อธิบายมากไปกว่านั้น เขารีบเดินผ่านทุกคนออกไป
พุฒิเดินตามมาจนถึงเจน
“พี่เจน”
“รีบตามไป”
“ครับ”
พุฒิตามไปทันที เจนและคนอื่น ๆ หันมองตามอย่างอยากรู้

ซูซี่ก้าวขึ้นรถ แล้วขับรถออก พิงก์รีบไปที่รถของตัวเองที่จอดอยู่ไม่ไกล
เคนวิ่งออกจากออฟฟิศ ซูซี่จอดรถ เคนเปิดประตูขึ้นไป
พุฒิตามออกมา มองดูเคนขึ้นรถพิงก์ เขายิ่งแปลกใจ
“พิงก์ ?”
พุฒิรีบวิ่งไปเอารถ

ภายในรถ พิงก์ถามเคนอย่างร้อนใจ
“ทำไมออกมาช้าจัง”
“ไอ้พุฒิน่ะสิ มันชักสงสัยหนักขึ้นแล้วล่ะ”
ทางด้านหลัง พุฒิขี่มอเตอร์ไซค์ตามมา

ซูซี่ขับรถเข้าไปในท่าเรือ
พิงก์ขับตามมา แต่จอดก่อนที่จะถึงประตูทางเข้า
“ที่นี่แหละ”
“เอาไงกันดีล่ะ เราแค่สองคน ไม่น่าจะพอ”
“ไม่มีเวลาเรียกใครมาเพิ่มแล้วล่ะ ลุยกันเลยเหอะ”
พิงก์ชักปืนออกมา แล้วก้าวลงจากรถ เคนมองแบบไม่มั่นใจนัก ก่อนชักปืนก้าวออกมาจากรถ
ทั้งคู่เดินไปด้วยกัน

ซูซี่จอดรถแล้วก้าวเข้าไปตรงตู้คอนเทนเนอร์ พ่อค้ายากับลูกน้องอีกสองคนก้าวออกมาจากอีกทาง ทุกคนมีอาวุธ
“ไหนล่ะของ”

พ่อค้ายาส่งซิกให้ลูกน้องเปิดตู้คอนเทนเนอร์ เมื่อประตูตู้เปิดออก ข้างในก็เต็มไปด้วยกล่องเครื่องสำอาง Star Beauty

เคนกับพิงก์หลบข้างตู้คอนเทนเนอร์ ส่องกล้องดู

"เฮ้ย มีแต่กล่องเครื่องสำอางน่ะ" เคนว่า
"เครื่องสำอางอะไร ถ้าเป็นเครื่องสำอาจจริง พวกนั้นไม่แบกปืนมากันให้หนักหรอก"
"ถ้างั้นธุรกิจเครื่องสำอางก็แค่แอบแฝง"
"แหง"
พิงก์พูดแล้วก็พุ่งออกไป
"ทุกคนหยุด ยกมือขึ้น"
เคนมองเหวอ ๆ เพราะไม่ทันได้ตั้งตัว
"เฮ้ย !"
เคนรีบตามไปยืนข้างพิงก์ ชูปืนใส่พวกนั้น แล้วทำเสียงเข้ม
"เร็ว !"
ซูซี่มองพิงก์และเคนแบบเคือง ๆ
"พิงก์ เคน นี่มันอะไรกันเนี่ย"
หัวหน้ายามองซูซี่อย่างไม่พอใจ
พ่อค้ายาถาม "นี่เธอหลอกพวกฉันเหรอ"
"เปล่า ฉันไม่รู้เรื่อง" ซูซี่ว่า
หัวหน้ายาจับซูซี่ล็อกคอไว้ เอาปืนจ่อ สั่งลูกน้อง
"ฆ่าพวกมันให้หมด"
พวกค้ายายกปืนกลขึ้น แต่เคนกับพิงก์ไวกว่า ปล่อยกระสุนออกไปก่อน แบบแยกกันจัดการ
ลูกน้องพ่อค้ายาล้มลง พ่อค้ายามองอย่างโกรธแค้น
"ฮึม"
เคนกับพิงก์หันปืนเล็งไปที่พ่อค้ายา
"ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ"
พ่อค้ายาดึงซูซี่ไปช้า ๆ
"พวกแกอย่าตามมานะ ไม่อย่างนั้นอีนี้ตาย"
เคนกับพิงก์ไม่มีทางเลือก ได้แต่มองหัวหน้ายาพาซูซี่ไป
ทันใดนั้นเอง พุฒิก็ออกมาจากที่ซ่อนพร้อมด้วยปืนในมือ เขายกขึ้นอย่างมั่นใจ ก่อนที่จะยิงออกไป
กระสุนเฉียงเข้าที่ขมับพ่อค้ายา เขาตายในทันที ร่วงลงไปเดี๋ยวนั้น
ซูซี่หันไปมองพุฒิที่เดินถือปืนเข้ามา ขณะเดียวกัน เคนกับพิงก์ก็ถือปืนเข้ามาสมทบ
"ซูซี่ คุณถูกจับแล้ว" พุฒิว่า
"ข้อหาอะไรเหรอคะ"
"ค้ายา"
"หลักฐานทนโท่อยู่อย่างนั้น เธอคงไม่คิดจะแก้ตัวหรอกนะ" พิงค์ว่า
"ท่าทางคราวนี้ฉันคงพลาดจริง ๆ แหละ"

เคนกับพิงก์เดินเข้ามาด้านใน ขณะที่พุฒิยังใช้ปืนควบคุมตัวซูซี่ไว้
พิงก์กับเคนช่วยกันเปิดกล่องออก แล้วทั้งคู่ก็ต้องแปลกใจ เคนหยิบขวดน้ำหอมออกมา
"เฮ้ย !"
เขาแกะกล่องอื่นก็เป็นเครื่องสำอางเหมือนกัน
"มีแต่เครื่องสำอางน่ะ" เคนว่า
"คิดว่าฉันจะซ่อนยาไว้ในกล่องพวกนี้เหรอ" ซูซี่ว่า
"ต้องมียาอยู่ในนี้แน่ ๆ" พิงก์ว่า
"ถ้าคิดอย่างนั้น ก็เชิญหาได้ตามสบาย ฉันขอตัวก่อนล่ะ"
ซูซี่หันเดินออกไป พุฒิหันปืนตามไป
"คุณจะไปไหนไม่ได้นะ"
"เอาสิ ไหน ๆ พวกคุณก็โดนข้อหาฆ่าคนตายสามศพแล้ว จะฆ่าฉันเพิ่มอีกคนจะเป็นอะไรไป"
ซูซี่เดินไปโดยไม่มีอาการกังวล พุฒิมองตามอย่างไม่อาจทำอะไรได้
"โธ่ !"
เขาเก็บปืน ไปช่วยเคนกับพิงก์เปิดกล่องเครื่องสำอาง ระหว่างที่หันหลังอยู่นั้นเอง ทั้งสามคนก็รู้สึกว่าตู้คอนเทนเนอร์มืดขึ้น พวกเขาหันไปมอง
เคนร้อง "เฮ้ย !"

ซูซี่ดันประตูตู้ปิด แล้วล็อก

เคนวิ่งมาที่ประตูตู้คอนเทนเนอร์ เขาพยายามดันมันออก
"เราโดนขัง"
เพียงขาดคำ แก๊สพิษก็พุ่งเข้ามาในตู้ พิงก์กับพุฒิมองอย่างตกใจ
"ไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ" พุฒิว่า
เคนหันไปมอง พอเห็นแก๊สพิษ เขาก็หน้าเสียหนักขึ้นไปอีก
"หา !"
ทั้งสามคนเริ่มสำลักแก๊สพิษ
"ที่แท้ก็เป็นกับดัก" พิงก์บอก

ซูซี่มองเหมือนคนไร้ความรู้สึก เธอหันหลังเดินออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์นั้น

เคนเข้าไปหาพิงก์ ประคองกอดเธอไว้
"พิงก์ พิงก์ ผมรักคุณนะ"
"ค่ะ"
พิงก์พูดได้แค่นั้นก็วูบสลบไป พุฒิก็เช่นกัน เคนวางพิงก์ลง แล้วเข้าไปหาพุฒิ
"พุฒิ ! ไอ้พุฒิ !"

บนลานจอดรถกว้างๆ รถตู้สองคันจอดเคียงกันอยู่ ชิปปี้กับแม็กกี้ลงมาจากรถ อีกฝ่ายก็ลงมาเช่นกัน
ชิปปี้ถาม "เรียบร้อยไหม"
พ่อค้ายา 2 บอก "เคยมีปัญหาที่ไหนกันล่ะ"
"ขอดูของหน่อย"
"ไม่ว่ากัน"
ชิปปี้ส่งซิกให้แม้กกี้เป็นคนลอง มิกกี้เข้าไปในรถกับลูกน้องพ่อค้ายา

ภายในรถ ลูกน้องพ่อค้ายาใช้ปลายมีดจิกยาส่งให้แม้กกี้ มิกกี้รับมา
ทางด้านนอก ชิปปี้กับพ่อค้ายารออยู่ มิกกี้ออกมา แล้วบอกกับชิปปี้
"สุดยอดเลย"
ชิปปี้เดินไปหยิบกระเป๋าใส่เงินส่งให้พ่อค้ายา พ่อค้ายาเปิดดูเงินในกระเป๋า
พ่อค้ายา 2 บอก "ชอบจังธุรกิจแบบนี้"
พ่อค้ายากับชิปปี้แลกกุญแจรถกัน ก่อนสลับขึ้นรถของอีกฝ่าย แล้วขับออกไป

ภายในรถขนยา แม้กกี้เป็นคนขับ ชิปปี้โทรรายงาน
"เรียบร้อยแล้วครับนาย"

ธงรบฟังโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดี เยื้อง ๆ ไป เอมมี่ยืนฟังอยู่ด้วย
"เยี่ยม

เคน พิงก์ และพุฒิ สลบอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์
เสียงตู้เปิดออก ก่อนที่เจนกับชาคริตจะก้าวเข้ามา
"เร็ว ช่วยกันพาสามคนนี้ออกไป"
เจนกับชาคริตแยกกันไปหาคนทั้งสาม

ร่างเคนและพิงก์นั่งพิงอยู่กับตู้คอนเทนเนอร์ ชาคริตวางร่างพุฒิลงเป็นคนสุดท้าย ก่อนลุกขึ้นยืนข้างเจน บอกอาการเหนื่อย
"โหย ตัวหนักเป็นบ้าเลย"
เคนได้สติขึ้นมาเป็นคนแรก
"โอ๊ย !"
เคนมองรอบตัวแบบงง ๆ ก่อนที่จะมองเห็นเจนกับชาคริต
"พี่เจน ชาคริต"
เคนหันไปข้าง ๆ แล้วเห็นพิงก์ยังสลบอยู่ เขาตกใจ เขย่าตัวเรียก
"พิงก์ พิงก์"
เจนมองเคนอย่างผิดหวัง
"ไม่ต้องห่วง ทุกคนปลอดภัย แต่รู้หรือเปล่า ถ้าพี่กับชาคริตมาช้ากว่านี้นิดเดียว ทั้งสามคนอาจตายกันหมดก็ได้"
พุฒิได้สติขึ้นมาบ้าง
"โอ๊ย !"
"ทำไมทำอะไรกันโง่ ๆ แบบนี้ บอกแล้วไงว่าฟีนิกซ์ทำงานเป็นทีม ถ้าหัดไว้ใจกันบ้าง คงไม่เกิดเรื่องหรอก"
พิงก์ได้สติเป็นคนสุดท้าย
"โอ๊ย !"
"พี่เจน ผมขอโทษ" เคนว่า
"ขอโทษไม่พอหรอก คราวนี้พี่ต้องลงโทษ"
"ครับพี่เจน แต่พิงก์กับพุฒิไม่เกี่ยว"
"ถ้าลงโทษ ก็ลงโทษฉันด้วย"
เจนหันไปมองหน้าพิงก์ สีหน้าดุดัน
"ไปกันได้แล้ว ก่อนที่ตำรวจจะแห่กันมา"
ทั้งสามคนประคองร่างลุกขึ้นมา

ประตูห้องขังในองค์กรฟีนิกซ์ปิดเข้ามา ชาคริตและพุฒิมองเข้าไป เคนและพิงก์อยู่ในนั้น
เจนเดินเข้ามาระหว่างพุฒิและชาคริต
"อยู่ในนี้ คิดทบทวนในสิ่งที่พวกเธอทำลงไป หวังว่าเธอสองคนคงคิดออก ว่าทำอะไรลงไป แล้วอย่าให้มีครั้งที่สอง"
เจนหันหลังเดินไป ชาคริตเดินตาม พุฒิมองเคนกับพิงก์อย่างเห็นใจ ก่อนที่จะหันเดินตามไป

เคนกับพิงก์มองตามพุฒิ แล้วยื่นมือกุมมือของกันและกันไว้

อ่านต่อตอนที่ 11


กำลังโหลดความคิดเห็น