พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 9 : ที่แท้ “ธงรบ” กับ “เจน" รู้จักกัน !?
บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : จรูญพร ปรปักษ์ประลัย
บ้านธงรบดูเงียบสงบ มีลูกน้องธงรบยืนตรวจตราตามจุดต่าง ๆ แต่ก็มีจุดอับที่ให้ใครบางคนเล็ดลอดเข้ามาได้
เคนกับพุฒิในชุดพลางตัว กระโดดเข้ามา พุฒิส่งสัญญาณมือให้เคนเตรียมรอเข้าไปในบ้าน ส่วนเขาจะแยกไปตัดระบบรักษาความปลอดภัย เคนพยักหน้าเข้าใจ พุฒิแยกหายไป
เคนถอยหลังอย่างระมัดระวัง โดยหารู้ไม่ว่าพิงค์กำลังถอยมาจากอีกทาง
ในที่สุดทั้งคู่ก็ถอยมาชนกัน
"เฮ้ย !"
ทั้งคู่หันขวับมาหากัน พร้อมชักปืนเล็งมาที่กัน
ด้วยความเชี่ยวชาญที่เหนือกว่า พิงก์หมุนตัว ตวัดเท้าแตะใส่มือเคน สายลับฝึกหัดอย่างเคนในตอนนี้
ปืนในมือหลุดกระเด็นไป เคนหันมองตาม จังหวะนั้นเอง พิงก์เข้าจู่โจมต่อ เคนเสียหลัก ล้มลงไปโดนของที่ตั้งวางอยู่ พิงก์รีบโผไปรับของนั้นไว้ ของไม่ตกแตก แต่ก็ยังมีเสียงกระทบอยู่ดี
เอมมี่นั่งอยู่ในห้องหนึ่งในบ้าน ที่ตายังมีผ้าพันอยู่ แต่หูเธอยังดี เธอได้ยินเสียงจากด้านนอก
"หือ ?"
เคนตั้งรับ แต่สู้ไม่ได้ เขาเป็นรองพิงก์อย่างชัดเจน
เอมมี่นิ่งตั้งใจฟัง แล้วเธอก็ยกโทรศัพท์มือถือที่อยู่บนโต๊ะข้าง ๆ ขึ้นมา กดโทรออกอย่างคุ้นเคย
ภายในห้อง ธงรบนั่งอยู่หน้าจอขนาดใหญ่ กำลังเล่นเกมเพลย์ฟุตบอลอย่างเมามัน สาวสวยในชุดน้อยชิ้นนั่งประกบ
เกมของธงรบเป็นต่อ เขาเฮลั่น เมื่อเตะเข้าโกลได้
"เย่ !"
สาว ๆ ถึงกับส่งเสียงเชียร์สนั่นและลุกขึ้นเต้น .... วู่ !
โทรศัพท์มือถือที่อยู่ข้าง ๆ แสดงสัญญาณว่ามีสายเข้า เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดรับ
"ว่าไงเอมมี่"
"มีคนลอบเข้ามาค่ะนาย"
สีหน้าธงรบเปลี่ยนเป็นแปลกใจและโกรธขึ้นมาทันที
"ใคร ?"
"ยังไม่รู้ค่ะ แต่เอมมี่ได้ยินเสียง"
"เดี๋ยวฉันจัดการต่อเอง"
ธงรบกดวางสาย สีหน้าเหี้ยมเกรียม ไม่เคยมีใครกล้าลูบคมเขาแบบนี้
สาวสวยเข้าไปกอดธงรบแบบเอาใจ แต่ธงรบไม่มีอารมณ์จะสนุกด้วยแล้ว เขาโยนเครื่องเล่น PS4 ลง แล้วลุกขึ้นโวย
"เฮ้ย อยู่ที่ไหนกันหมดวะ"
ชิปปี้กับแม้กกี้วิ่งเข้ามา พร้อมด้วยชายหนุ่มชุดดำอีกสองคน
"มีอะไรครับนาย"
ธงรบมองหน้าชิปปี้ที่เป็นหัวหน้าทีมแบบ ‘พวกมึงไม่รู้อะไรกันเลยเหรอ’
เคนพยายามสู้ แต่สุดท้ายพิงก์ก็ล้มเคนลงได้ ปืนในมือเธอจี้ให้เขาหยุด จากนั้นเธอก็ดึงผ้าที่ปิดหน้าเขาอยู่ ทันทีที่เห็นหน้าเคน พิงก์ก็ถึงกับอึ้ง
"เคน !"
เคนได้ยินเสียงพิงก์ เขาจำได้ทันที
"พิงก์เหรอ"
พิงก์เปิดหน้ามาแทนคำตอบ
ทันใดนั้นเอง พุฒิก็เข้ามาด้านหลังพิงก์
"วางปืน"
พิงก์วางปืนลง
"ยกมือ แล้วหันมา"
พิงก์ชูสองมือ ลุกขึ้น แล้วหันมา พุฒิคิดไม่ถึงว่าจะเป็น...
"พิงก์ !"
พุฒิเปิดหน้าให้พิงก์ดู พิงก์ไม่แปลกใจเลยสักนิด เพราะเธอรู้ว่าเขาเป็นสายลับ ตั้งแต่เขาไปช่วยยูซ่าแล้ว
เคน พุฒิ และพิงก์ สวมหน้ากากกลับคืนไป วิ่งเข้ามาหลบที่ข้างประตูด้านหลังที่เชื่อมต่อที่ที่ทำงานของบ้านธงรบ ประตูมีระบบล็อคแบบสแกนใบหน้า พิงก์ยกแท็บเล็ตขึ้นมา แล้วกดแอพหลอกประตู ด้วยแอพนี้จะมีใบหน้าคนมากมายหลายร้อยใบหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในเสี้ยวของเสี้ยววินาที จนเครื่องสแกนสับสน แล้วนำจุดสำคัญของใบหน้าต่าง ๆ มารวมกัน กลายเป็นรหัสเปิดประตู เมื่อล็อคประตูคลายออก พุฒิผลักประตูเปิดเข้าไป แล้วมองไปด้านใน ก่อนพยักหน้าเป็นสัญญาณให้เคนและพิงก์รู้ ว่าทางสะดวก
เขานำเข้าไปอย่างระมัดระวัง พิงก์กับเคนตามไปด้วยฝีเท้าเงียบกริบ
ภายในห้องทำงานธงรบ หลักๆ ในห้องนี้ มีโต๊ะของธงรบ กับโต๊ะของเลขาหน้าห้อง
พุฒินำเคนกับพิงก์เข้ามา พุฒิส่งสัญญาณให้เคนกับพิงก์ตรวจดูที่คอมพิวเตอร์
เคนและพิงก์แยกกันไป เคนไปที่โต๊ะใหญ่ ส่วนพิงก์ไปที่โต๊ะเลขา ขณะเดียวกัน พุฒิก็ตรวจดูข้าวของต่าง ๆ ในห้อง
เคนเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องติดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขารีบเจาะเข้าเครื่องโดยการหลอกเครื่องว่าลืม password
ภายในที่พัก ธงรบยืนเครียด ชิปปี้กับแม้กกี้รีบเข้ามาหา หลังจากที่สำรวจไปทั่วบริเวณแล้ว
"เจออะไรไหม"
"ไม่เลยครับนาย หรือเอมมี่จะแค่หูแว่ว"
"ไม่หรอก คนอย่างเอมมี่ไม่ตื่นตูมอะไรง่าย ๆ" ธงรบนึก "เดี๋ยวนะ ยังมีอีกที่ที่เรายังไม่ได้ดู"
"ที่ไหนเหรอครับ"
"ออฟฟิศฉัน"
"แต่ห้องนั้น ไม่มีทางที่ใครจะเข้าไปได้"
"ถ้าเป็นพวกฟีนิกซ์ ก็ไม่แน่หรอก" ธงรบว่า
เคนใส่ password ที่สร้างใหม่ เขารอลุ้น หน้าจอติดขึ้นมา
"เยส !"
เขารีบเสียบ external hard drive เข้าไป แล้วกดโยนไฟล์ทั้งหมด พุฒิเข้ามายืนดูด้านหลัง
"เป็นไงบ้าง"
"ขออีกแป๊บเดียว จะกวาดข้อมูลให้เกลี้ยงเลย"
"เจ๋ง !"
ทันใดนั้นเอง ไฟก็เปิดพึ่บขึ้น เคน พิงก์ และพุฒิ หันไปมองด้วยความตกใจ
ธงรบ ชิปปี้ แม้กกี้ และคนอื่น ๆ ถือปืนเข้ามา
"พวกแกเป็นใคร ลุกขึ้น แล้วเปิดหน้าออกให้หมด"
เคน พุฒิ และพิงก์ที่ลุกขึ้นมาช้า ๆ
"เร็วสิวะ !"
เคน พุฒิ และพิงก์ม่มีทางเลือก ยื่นมือมาจับที่ผ้า ปิดหน้า เตรียมดึงออก
แต่แล้วเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
"หยุด !"
ทุกคนในห้องชะงัก และหันไปทางด้านหลัง มีดเล่มหนึ่งพุ่งตรงมาที่ธงรบ
ธงรบเบี่ยงหน้าหลบ มีดแล่นผ่านหน้าไปแบบฉิวเฉียด เข้าปักกับผนัง
ธงรบมองมีด แล้วหันขวับกลับไป ...
"เชี่ยเอ๊ย !"
มีควันหนาๆพุ่งมาจากด้านนอก
ทุกคนมองไปแล้วถอยหนีอย่างหวั่น ๆ ไม่มีใครแน่ใจว่าหลังม่านควันนั้นมีใครหรืออะไรรอพวกเขาอยู่
แม้กกี้โพล่ง "มันอะไรกันวะ"
พุฒิหันไปสบตาเคนและพิงก์ แล้วทั้งหมดก็วิ่งไปจัดการคนของธงรบที่ห่วงหน้าพะวงหลัง ก่อนที่จะวิ่งผ่านควันอันหนาทึบไป
"ยิง !" ธงรบสั่ง
ปืนที่อยู่ในมือทุกคนยิงออกไปที่ควันอันหนาทึบนั้น
"ตามไป!" ธงรบสั่งอีก
"นายครับ พวกมันอาจดักเล่นงานเราอยู่ด้านนอกก็ได้นะครับ"
"ไป ! กูบอกให้ไปก็ไปสิโว้ย !"
"ครับ"
ชิปปี้กับคนอื่น ๆ เดินไปอย่างระวัดระวัง ผ่านม่านควันที่ยังหนา ควันมีผลต่อพวกเขา บ้างก็ไอ บ้างก็รู้สึกหน้ามืด แม้กกี้ถึงกับเซไป ชิปปี้เข้าไปรับเขาไว้
"แม้ก ! ไหวเปล่าวะ"
"ไหวพี่"
แม้กกี้ตั้งหลักแล้วเดินไปต่อ ยิ่งเดินไปควันก็ยิ่งจางลง...
ธงรบมองตามไป รอดูอยู่อย่างนั้นเพราะไม่อยากออกไปเสี่ยงด้วยตัวเอง แต่แล้วเขากลับเริ่มรู้สึกมึนงง ควันนั้นมีฤทธิ์ไม่ต่างจากยาสลบในห้องผ่าตัด
"โอ๊ย !"
เขาเซไปกระแทกกับโต๊ะ ข้าวของตกกระจาย แล้วเขาก็ล้มลงกับพื้น
ชิปปี้ แม้กกี้ และพวกที่มาถึงประตู แม้กกี้ดันประตูที่เปิดแง้มออก แต่แล้ว... ปัง ! กระสุนปืนมาจากด้านนอก แม้กกี้รีบหลบกลับเข้าไป
เจนยืนจังก้าอยู่ที่หน้าประตู ซัดกระสุนเข้าไปอีกหลายนัด เพื่อหยุดไม่ให้พวกนั้นกล้าออกมา
ชิปปี้ แมกกี้ และคนอื่น ๆ หลบอยู่ ไม่มีใครกล้าออกไป
เมื่อเห็นว่าด้านในนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหวแล้ว เจนก็บอกพุฒิ เคน และพิงก์
"เร็ว ทางนี้!"
เจนวิ่งนำไป พุฒิ เคน และพิงก์ วิ่งตามไปติด ๆ
เมื่อเสียงปืนเงียบไปแล้ว ชิปปี้กับแม้กกี้ก็หันมองกัน ก่อนที่ชิปปี้จะค่อย ๆ ดันประตูเปิดออก
เจนวิ่งนำทุกคนมาที่รถ เมื่อทุกคนเข้าไปแล้ว ชาคริตซึ่งประจำอยู่ที่นั่งคนขับ ก็ขับรถพุ่งออกไปทันที
ชิปปี้ แม้กกี้ และคนอื่น ๆ วิ่งตามออกมากระหน่ำยิง แต่สายไปเสียแล้ว ทั้งหมดได้แต่ยิงอากาศเท่านั้น
เมื่อควันจางลงไปแล้ว ธงรบค่อยได้สติขึ้นมา
"โอ๊ย !"
ชิปปี้กับแม้กกี้เข้ามาช่วยกันประคองธงรบ
"นายครับ"
"โอ๊ย ! ... ไอ้พวกนั้นล่ะ"
ชิปปี้กับแม้กกี้มองหน้ากัน ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
ธงรบตะคอก "พวกมันอยู่ไหน !"
"พวกมันหนีไปได้ครับนาย"
"หะ !"
ด้วยความโกรธ ธงรบมีแรงขึ้นมา แต่ยังเซ ๆ ตรงเข้าไปบีบล็อกคอชิปปี้
ธงรบตะคอก "ไอ้พวกโง่ !"
ชิปปี้มองธงรบด้วยสายตาเกรงกลัว ทุกคนมองอย่างทำอะไรไม่ถูก
ชิปปี้เริ่มหายใจไม่ออก แม้กกี้มองอย่างเป็นห่วง
แต่ก่อนที่ชิปปี้จะเป็นอะไรไปมากกว่านี้ ธงรบก็ผลักเขาออกไป จนล้มลงไปกับพื้น เขาหายใจออกมาอย่างโหยอากาศ
ธงรบชี้นิ้วไล่
"ออกไป ! ออกไปให้หมด"
แม้กกี้ประคองชิปปี้ลุกขึ้น ทั้งหมดพากันออกไป จนเหลือธงรบคนเดียว เขาหันขวับไปที่ผนังซึ่งมีมีดปักอยู่ แล้วเดินไปดึงมีดออกมา เขามองดูมีดนั้นแล้วนึกถึงเจน - หนึ่งในมือมีดที่เก่งที่สุดที่เขาเคยรู้จัก
เจนมองหน้าพิงก์ เคน พุฒิ และชาคริตดูอยู่ด้วย
"พิงก์ เธอทำงานให้ใคร"
พิงก์ลังเลที่จะตอบ
"บอกมาเถอะน่า เราพวกเดียวกัน มีอะไรจะได้ประสานงานกัน" ชาคริตว่า
พิงก์หันมองหน้าเคนเชิงปรึกษา เคนพยักหน้าบอกให้พูด พุฒิมองหน้าเคน อ่านออกทันทีว่า เคนรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว
"ฉันได้รับมอบหมายให้มาทำงานต่อจากจอร์ช และสืบว่าใครเป็นเป็นคนฆ่าเขาด้วย"
"ที่แท้ก็สายลับอเมริกัน" เจนว่า
"ค่ะ หน่วยงานของเรามีคนทำงานอยู่ทั่วโลก"
เจนยิ้ม
"เก่งมากนะที่แฝงตัวอยู่ได้ถึงสองปีโดยไม่มีใครจับได้ แม้แต่... " เจนเหลือบตามองเคน "คนที่อยู่ใกล้ชิดที่สุด ท่าทางเราต้องคุยกันอีกยาวเลยล่ะ แต่ตอนนี้เราเหนื่อยกันมามากแล้ว ไปพักกันก่อนเถอะ"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่เจน"
"ทางนี้"
เคนพาพิงก์ออกไป พุฒิตามออกไปด้วย เมื่อทั้งสามคนออกไปแล้ว ชาคริตก็หันมาถามเจน
"เป็นไปได้ไหมครับ ว่าเคนกับพิงก์จะรู้กัน แล้วเก็บทุกอย่างเป็นความลับมาตลอด"
"ไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้อะไร ๆ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละ"
พิงก์ เคน และพุฒิเดินเข้ามาในห้องพัก
"พักก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน" เคนว่า
พิงก์พยักหน้า "ฮือ"
"ไอ้เคน ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ"
เคนพยักหน้าแล้วเดินตามพุฒิไป พิงก์มองตามด้วยความอยากรู้
บริเวณทางเดินด้านหน้าห้องพัก พุฒิชี้หน้าเคน
"แกรู้เรื่องนี้มานานหรือยัง"
"เรื่องอะไร"
"จะเรื่องอะไรซะอีก ก็เรื่องที่พิงก์เป็นสายลับน่ะสิ"
"ก็เพิ่งรู้ ... ก่อนที่จะเข้ามาฝึกที่นี่แหละ" เคนบอก
"แล้วแกไม่เคยคิดจะบอกเลยเหรอ เรื่องสำคัญแบบนี้ทำไมถึงไม่ยอมบอกกันบ้างวะ หรือว่าไม่ไว้ใจกัน"
"แล้วแกล่ะ สองปีที่ผ่านมา แกเคยบอกความจริงอะไรฉันบ้าง"
ทั้งคู่มองหน้ากัน ต่างรู้ดีว่าปมปัญหาที่ค้างคาใจยังคงไม่คลายออก
พิงก์ที่ฟังอยู่ตลอดเปิดประตูออกมา
"พอเถอะ เลิกเถียงกันได้แล้ว พิงก์เป็นคนขอเคนเอง ว่าให้ปิดเรื่องนี้เอาไว้"
พุฒิหันไปหาพิงก์
"ในฐานะสายลับ พุฒิก็รู้นี่ เราไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น"
เคนมองหน้าพิงก์ คำพูดนี้เหมือนจะรวมเขาไว้ด้วย เขารู้สึกเจ็บขึ้นมา
"รวมทั้งผมด้วยใช่ไหม"
พิงก์หันมองเคน รู้สึกตัวว่า แม้คำพูดนี้จะถูก แต่ก็ไม่ควรพูดออกไป
เคนไม่พูดอะไรต่อ เดินผ่านพิงก์ออกไป พิงก์มองตามอย่างห่วงใย และร้องเรียก
"เคน เคน"
พิงก์ตามเคนไปทันที ทิ้งไว้แต่พุฒิที่ยืนนิ่งคิดอะไรอยู่
พิงก์เดินตามเคนมาที่ห้อง locker พิ้งเห็นชุดของเคน ถูกถอดทิ้งอยู่ ในห้องเหมือนโดนคนทำลายข้าวของด้วยความโกรธ โทรศัพท์พิงก์ดังขึ้น พิงก์ดูโทรศัพท์แล้วหน้าเสีย ก่อนจะรับ พิงก์เหลือบเห็นกล้องวงจรปิด ก่อนที่จะเข้าไปในห้อง lockerหญิง
"yes sir we retrieved the package …I’ll do anything to get it sir…good by sir"
พิงก์วางโทรศัพท์หน้านิ่ง
ชาคริตยืนมองพิงก์ที่ห้อง กล้องวงจรปิดหน้าเต็มไปด้วยความไม่ไว้ใจ
เคนเดินออกมายืนปล่อยอารมณ์ พิงก์ตามเข้ามายืนข้าง ๆ
"เคน พิงก์ขอโทษนะที่พูดไปอย่างนั้นน่ะ"
เคนพูดโดยไม่มองหน้าพิงก์
"ผมไม่รู้ว่าจะยังเชื่อคำพูดของคุณได้อยู่หรือเปล่า อะไรคือความจริง อะไรคือบทบาทที่คุณแสดงในฐานะสายลับ"
"พิงก์สัญญา ต่อจากนี้ไป ทุกอย่างระหว่างเราจะเป็นความจริงเสมอ"
เคนนิ่ง ไม่พูดอะไรอีก ในใจเขายังคงสับสน พิงก์ยื่นมือเข้าไปสอดประสานมือเคน จับกุมมือเขาไว้อย่างให้คำมั่น
"เคน เราเริ่มต้นกันใหม่นะ"
เคนยังคงนิ่ง ไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธ
ห่างออกไป ชาคริตมองดูคนทั้งสองอยู่ สายตาระแวงและมุ่งร้าย
ธงรบนั่งในบ้าน นั่งพลิกมีดในมือไปมา ซูซี่เปิดประตูเข้ามา มองอย่างเป็นห่วง
"บอกแล้วไง ว่าไม่ให้ใครเข้ามา"
ซูซี่เดินเข้ามามองธงรบ
"คุณธงรบคะ คิดว่างานนี้เป็นฝีมือใครคะ"
ธงรบดันมีดออกมาให้ซูซี่เห็นชัด ๆ
"ซูซี่ เธอเคยเห็นมีดแบบนี้มาก่อนไหม"
"ไม่ค่ะ"
"แต่ฉันเคยเห็น ฉันรู้ว่ามันเป็นของใคร"
"ใครคะ"
"ผอ. ฟีนิกซ์"
"ฟีนิกซ์ ! ... แล้วพวกนั้นได้อะไรไปบ้างคะ"
ธงรบส่ายหน้า
"ไม่ โชคดีที่เรารู้ตัวเร็ว แต่ก็เจ็บใจ ที่โดนพวกมันเข้ามาลูบคมถึงที่"
"คุณธงรบตรวจดูข้อมูลในคอมพิวเตอร์หรือยังคะ"
"ยัง"
ธงรบนึกเอะใจ รีบกดเปิดคอมพิวเตอร์
เจนมองหน้าทุกคน สุดท้ายก็มาสุดที่พิงก์
"เอาล่ะ ถึงที่เวลาที่เราจะพูดความจริงกันแล้ว พิงก์ เมื่อคืนเธอไปทำอะไรที่บ้านนายธงรบ"
"ก็คงเหมือนเคนกับพุฒินั่นแหละค่ะ ฉันต้องการหลักฐานที่จะยืนยัน ว่าธงรบเกี่ยวข้องกับ ไททัน"
พุฒิฟังแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมา
"เสียดาย เราคงค้นหลักฐานออกมาได้ทันเวลา ถ้าไม่มีคนเข้ามายุ่งวุ่นวายซะก่อน" พุฒิเหลือบมองไปทางพิงก์
"นี่พุฒิ ถ้าจะถ้าโทษกันล่ะก็... ฉันก็อยากจะบอกเหมือนกัน ว่าถ้าฉันไม่เผอิญเจอพวกนาย งานของฉันก็คงสำเร็จไปแล้ว"
"เดี๋ยวๆๆ ที่ว่าไม่สำเร็จน่ะ อะไรไม่สำเร็จเหรอ" เคนว่า
ทุกคนมองเคนด้วยสายตาสงสัย
ชาคริตถาม "หมายความว่าไง"
ทางด้านธงรบ พิมพ์ password แล้วคลิก ปรากฏว่าเข้าไม่ได้
"เป็นไปได้ยังไง password ใช้ไม่ได้ หรือว่า..."
"ใช่แล้วค่ะ มีคนแก้ไข password เพื่อเข้าไปขโมยข้อมูล"
ธงรบคาดไม่ถึง "หะ !"
เคนหยิบ external hard drive ออกมาวางบนโต๊ะ ทุกคนมองเป็นตาเดียว
"เมื่อคืนยุ่ง ๆ น่ะก็เลยไม่ทันได้บอก ข้อมูลทั้งหมดอยู่ในนี้แล้วครับพี่เจน"
"เฮ้ย เจ๋งว่ะ" พุฒิบอก
"ฝีมืออยู่แล้ว"
"ในนี้น่าจะมีหลักฐานที่ใช้มัดตัวธงรบได้"
"ยิ่งกว่านั้น บางทีอาจมีข้อมูลที่เราตามหากันอยู่ด้วย"
"เป็นไปได้ไง ในเมื่อข้อมูลในแฟลชไดร์ฟนั่น เคนได้มาจากจอร์ช" เจนว่า
"ก็ไม่แน่นี่ครับพี่เจน บางทีจอร์ชอาจได้มาจากธงรบอีกทีก็ได้ เขาถึงได้พยายามตามล่าเอาคืนไปยังไงล่ะครับ"
ทุกคนฟังเคนอย่างเห็นด้วยว่าเป็นไปได้
"แล้วเคนได้เปิดดูหรือยัง"
"เปิดแล้วครับ แต่ไฟล์ทั้งหมดโดนล็อกไว้ คงต้องใช้เวลาหน่อย"
"อย่าเสียเวลาเลย รีบส่งไปให้ฝ่ายตรวจสอบไอทีจัดการ"
ชาคริตรีบบอก"ผมเอาไปให้เอง"
ชาคริตยื่นมือไปจะหยิบ hard drive แต่เคนดึงเข้ามาหาตัวเอง เจนมองหน้าเคนแบบดุ ๆ
"เคน เราทำงานเป็นทีม ต้องไว้ใจกันสิ"
ชาคริตมองจ้องหน้าเคนแบบหยั่งเชิง เคนถอนหายใจ ก่อนผลัก hard drive กลับไป ชาคริตหยิบ hard drive ขึ้นมามองดู
"สั่งให้ตรวจดูให้ละเอียด รวมทั้งข้อมูลที่ถูกลบไปแล้วด้วย"
"ครับพี่เจน"
ชาคริตเดินออกไปพร้อมด้วย hard drive เคนมองตามอย่างเซ็ง ๆ พิงก์มองเคนอย่างรู้สึกเหมือนกัน ว่ามีอะไรแหม่ง ๆ
ธงรบนั่งเซ็ง ซูซี่มองหน้าธงรบ
"คุณธงรบคะ ในเครื่องนี้มีข้อมูลสำคัญอะไรบ้างหรือคะ"
"เยอะแยะ"
"แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะคะ"
"ถ้าพวกมันคิดจะเอาข้อมูลพวกนี้มาเล่นงานฉันล่ะก็ ... รับรองว่าพวกมันจะต้องโดนหนักยิ่งกว่าหลายเท่า"
สัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้น ธงรบยกขึ้นกดรับ
"ว่าไง ... เยี่ยม"
ธงรบกดวางสายแล้วบอกกับซูซี่
"อีกสามวันของจะมาส่ง ซูซี่ เธอจัดการรับของให้ด้วย"
"ค่ะคุณธงรบ"
เย็นวันนั้น รถสองคันจอดอยู่เคียงกัน ไม่ห่างจากรถสองคันนั้น เจนและธงรบยืนหยั่งท่าทีอยู่ใกล้ ๆ กัน
"มีธุระอะไร"
"ก็แค่เอาของมาคืน"
ธงรบส่งมีดให้เจน เจนรับมีดนั้นมามองดู
"ใครบอกว่าเป็นของฉัน"
ธงรบยิ้ม "ผมเอาของของคุณมาคืนแล้ว หวังว่าคุณคงมีน้ำใจ เอาของของผมไปคืนให้ด้วย"
เจนนิ่งแบบไม่แสดงท่าทีใด ๆ
"คงยังไม่ลืมนะ ว่ามีใครเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้บ้าง"
"ไม่ลืมหรอก"
"งั้นขอพูดชัด ๆ ถ้ามีใครลากผมลงนรก ผมก็จะลากทุกคนที่เกี่ยวข้องลงนรกไปกับผมด้วย ขอย้ำ ทุกคน"
"เรื่องนั้นฉันเข้าใจอยู่แล้ว"
"ดี"
ธงรบเดินกลับขึ้นรถ แล้วรถก็ขับออกไป เจนยืนอยู่ตรงนั้นชั่วครู่ ก่อนเดินกลับไปขึ้นรถ แล้วขับรถออกไปอีกทาง
แผนกพิสูจน์หลักฐานองค์กรฟีนิกซ์
hard drive ที่เคนเอามาต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์ เจ้าหน้าเคาะนิ้วที่โต๊ะรอการทำงานของคอมพิวเตอร์
เจ้าหน้าที่ลุ้น ผ่านไหล่เจ้าหน้าที่เห็น เจนเดินเข้ามามองดู
เจนเป็นไง เจอข้อมูลอะไรบ้าง
เจ้าหน้าที่หันมาจะลุกขึ้น แต่เจนส่ายหน้าและไห้เขาทำงานต่อ
"ยังครับ แต่คงอีกไม่นานครับ"
เจ้าหน้าที่นั่งทำงานต่อ หน้าจอเห็น progress bar running till 70%
"ดีมาก"
เจนเดินออกไป ประตูปิด เห็นกล้องวงจรปิดมีไฟกระพริบอยู่ เจ้าหน้าที่มองลุ้นที่จอ
ผ่านเวลาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ progressbar อยู่ที่ 98% พนักงานลุ้น
กล้องวงจรปิดจากกระพริบกลายเป็นดับ ที่ประตูเปิดออกอย่างช้าๆ คนเดินเข้ามาในห้อง
เจ้าหน้าที่เพ่งมองที่หน้าจอ progress bar ถึง 100% โฟลเดอร์เปิดออกเห็นหน้าจอเป็นรายซื่อสายลับที่อยู่ในองค์กรไททัน เจ้าหน้าที่สงสัย มองไปทางมุมขวาล่างของจอ มีโฟลเดอร์หนึ่งอยู่
เจ้าหน้าที่คลิ๊กเม้าท์ ... ตกใจ
ผ่านไหล่เจ้าหน้าที่ เห็นคนอยู่ข้างหลังมองอยู่
ผ่านไหล่คนชุดดำ เห็นหน้าจอแค่มุมบนขวาเป็น โฟล์เดอร์ ตำรวจ
มือของคนลึกลับก็จับเจ้าหน้าที่หักคอ แล้วจัดไห้เขานั่งเหมือนเดิม
คอมพิวเตอร์มีแฟลชไดร์ฟอีกอันเสียบไปที่เต้า มี progress bar copying
เจ้าหน้าที่นั่งที่เก้าอี้เห็นปืนเก็บเสียงโผล่เข้ามาแล้วยิงไปที่เจ้าหน้าที่หลายนัด ร่างเจ้าหน้าที่สะดุ้ง ชิปปี้ไส่ชุดปิดหน้าเข้ามา ดึงตัวเจ้าหน้าที่ออกจากเก้าอี้ไปนอนบนพื้น
ร่างเจ้าหน้าที่มีแผลแต่เลือดออกไม่เยอะ ปากซีด หน้าเริ่มเขียว
ชิปปี้ ผ่านหลังไปที่คอมเห็นหน้าจอแค่มุมขวาบน
ชิปปี้ดึงแฟลชไดร์ฟออกแล้วเดินออกไป กล้องวงจรปิดจากดับอยู่เป็นเปิดมีไฟกระพริบ
เสียงสัญญาณเตือนภัย เคน พุฒิ และพิงก์ เดินออกมาจากห้องของแต่ละคนมารวมกันที่ทางเดินหน้าห้องพัก แล้วเดินไปด้วยกันอย่างรีบร้อน
"เกิดอะไรขึ้น"
"ไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้แค่ว่านี่เป็นสัญญาณเตือนภัยระดับสูงสุด ต้องมีเรื่องร้ายแรงขึ้นแน่ ๆ"
ทั้งเคนและพิงก์ต่างมีสีหน้าตกใจ
ทั้งสามเข้ามาในห้อง ซึ่งเจนยืนรออยู่แล้ว
"พี่เจน เกิดอะไรขึ้นหรือครับ"
"มีคนลอบเข้ามา"
ชาคริตเข้ามาเป็นคนสุดท้าย ทุกคนหันไปมอง ก่อนที่จะหันกลับมาสนใจเจน ที่พูดต่อจากนั้น
"เขาฆ่าคนของเรา"
เคน พุฒิ พิงก์ ต่างหน้าเสีย ขณะที่ชาคริตยังคงนิ่ง
"หา !"
"เป็นไปได้ยังไง ไม่มีใครผ่านระบบป้องกันของฟีนิกซ์มาได้หรอกครับ" พุฒิบอก
"ได้สิ ถ้ามีคนในนี้ช่วยเปิดทางให้ หรือไม่ก็คนในนี้แหละที่เป็นฆาตกรซะเอง"
"ภาพจากกล้องวงจรปิดล่ะครับ" เคนถาม
"กล้องถูกตัดการทำงานในช่วงนั้น"
เคน พุฒิ พิงก์ มองอย่างตกใจและสะเทือนใจ ขณะที่ชาคริตยังคงนิ่งเหมือนเดิม
"โห แบบนี้จะไปรู้ได้ไงว่าใคร"
"แล้วฆาตกรได้อะไรไปมั่งคะ"
"hard drive ของเคน" เจนบอก
"ว่าแล้วเชียว"
เคนหันขวับไปชี้หน้าชาคริต
"ชาคริต แกใช่ไหมที่เป็นตัวการ"
"เฮ้ย พูดให้ดี ๆ ดูจากภาพวงจรปิดแล้ว มันก็เป็นใครได้ทั้งนั้น" ชาคริตมองหน้าแต่ละคน พิงก์ พุฒิ ... แล้วก็ "รวมทั้งแกเองด้วย ไอ้เคน"
เคนหันขวับไปชี้หน้าชาคริต
"แต่ฉันเป็นคนเอา hard drive นั่นมานะ"
"แล้วไง บางทีแกอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ อย่าลืมสิว่าแกความจำเสื่อม พอเห็นข้อมูลในนั้น แกอาจรำลึกขึ้นมาได้ ว่าแกมีเอี่ยวกับพวกนั้น ก็เลยจัดการเอามันคืนไป เหมือนที่แกซ่อนข้อมูลในแฟลชไดร์ฟไว้สองปีเต็ม ๆ ไง"
เจนมองหน้าเคน เคนหันไปมองเจนแบบผิดหวัง
"พี่เจนอย่าบอกนะครับ ว่าพี่เจนเชื่อมัน"
"ยัง ตอนนี้ฉันยังไม่สรุปอะไรทั้งนั้นแหละ จนกว่าจะพิสูจน์อะไรได้"
"แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้เราเสียข้อมูลสำคัญไปแล้ว"
"นั่นสิ"
"ไม่ว่าใครจะเป็นฆาตกรก็ตาม ต้องมีคนในฟีนิกซ์ที่เป็นหนอนบ่อนไส้ ทำงานให้กับธงรบ"
เคนจ้องหน้าชาคริต
"ผมสาบาน ว่าผมจะลากคอไอ้คน ๆ นั้นมาให้ได้"
ชาคริตจ้องหน้าเคนตอบ ต่างไม่มีใครยอมใคร
เจนมองด้วยสายตาที่แอบพอใจ
ห้องหนึ่งในบ้านธงรบ หมอถอดผ้าที่พันตาเอมมี่ออกให้
"ลืมตาได้แล้วครับ"
เอมมี่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
สายตาเอมมี่ ภาพเบลอแบบหลุดโฟกัส ก่อนที่จะค่อย ๆ ปรับชัด ธงรบยืนอยู่ข้างหน้าเธอ
"เป็นไงมั่งเอมมี่"
เอมมี่ยิ้มแล้วพูดอย่างติดตลก "เห็นชัดยิ่งกว่าเดิมอีกค่ะ"
ธงรบเดินเข้ามาใกล้ เอาสองมือแตะที่ไหล่เธออย่างนุ่มนวล
"ถ้างั้นก็คงพร้อมจะทำงานแล้วสินะ"
"นายอยากให้เอมมี่ทำอะไรหรือคะ"
"ทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จ ฆ่าพวกสายลับที่พยายามสืบเรื่องของเรา"
"ค่ะนาย"
ที่สนามฝึก เคนซัดมัดเข้าใส่กระสอบทรายอย่างระบายความโกรธแค้นภายใน
พิงก์เดินเข้ามายืนดู สีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้กัน
"เคน อย่าเพิ่งหวังหมดสิ"
เคนหยุดชกหันมาหาพิงก์
"คุณก็รู้ ว่าการจัดการกับธงรบเท่านั้น ที่จะทำให้ชีวิตผมกลับมาเป็นปกติได้ นี่เป็นเหตุผลเดียวที่ผมยอมมาที่นี่ แล้วดูสิ อยู่ ๆ ก็มีคนมาทำมันพังอีก"
"ยังไม่พังหรอก"
"เลิกพูดเถอะ พูดไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ยังไงผมก็กลับไปเป็นเคนคนเดิมไม่ได้ ไม่ใช่สิ ไม่ใช่เคนคนเดิม แต่เป็นเคน คนที่ผมอยากเป็นต่างหาก เคน อโณทัย คนโฆษณาธรรมดา ๆ คนนึง"
"เคน เชื่อพิงก์สิว่าเราทำได้"
พิงก์หยิบแท็บเล็ตของเธอออกมา เคมมองอย่างสงสัย
"มีอะไรในนี้เหรอ"
พิงก์เดินเข้าไปใกล้เคนมากขึ้น
"เมื่อคืน ที่พิงก์ไปที่บ้านธงรบน่ะ พิงก์ไม่ได้เข้าไปค้นข้อมูลหรอก"
พิงก์มองหน้าเคน สายตาบ่งบอกว่า บอกเรื่องนี้แล้วห้ามบอกใครนะ
"พิงก์เข้าไป ติดเครื่องบันทึกเสียงเอาไว้"
คืนนั้น ที่บ้านธงรบ ขณะที่เคนกับพุฒิกำลังคุยกันอยู่ พิงก์ก็หยิบเครื่องดักฟังออกมากดเปิด
"เป็นไงบ้าง"
"ขออีกแป๊บเดียว จะกวาดข้อมูลให้เกลี้ยงเลย"
"เจ๋ง !"
พิงก์ติดเครื่องดักฟังซ่อนไว้ใต้โต๊ะ
เคนยิ้ม
"แล้วได้ข้อมูลอะไรหรือเปล่า"
"ชัวร์อยู่แล้ว"
พิงก์กดเปิดเสียงที่บันทึกไว้ แล้วส่งหูฟังข้างหนึ่งให้เคน
สัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้น ธงรบยกขึ้นกดรับ
"ว่าไง เยี่ยม"
ธงรบกดวางสายแล้วบอกกับซูซี่
"อีกสามวันของจะมาส่ง ซูซี่ เธอจัดการรับของให้ด้วย"
"ค่ะคุณธงรบ"
ใต้โต๊ะเลขา เครื่องดักฟังซ่อนอยู่ตรงนั้น
เคนตื่นเต้นกับข้อมูลใหม่ที่ได้รู้
"ของ ที่ธงรบพูดถึงคืออะไรกัน"
"ถ้าธงรบเป็นพวกไททันจริง มันก็น่าจะเป็นยาเสพติด แล้วระดับไททัน ส่งของทีคงไม่ใช่แค่ถุงสองถุงแน่"
"เราต้องสืบให้รู้ ว่าพวกมันจะส่งของที่ไหน เมื่อไร"
"ฮือ คนที่เราให้ข้อมูลเราได้ก็คือซูซี่"
"ผมรู้แล้วล่ะ ว่าจะทำยังไง"
"ห้ามบอกคนอื่นเด็ดขาด เราไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น"
"แม้แต่พุฒิเหรอ"
"ใช่ พวกนั้นอาจรวมหัวกัน หลอกเรามาตลอดก็ได้"
เจนนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เพ่งมองไปที่จอ มือกดเมาท์แล้วจะกด delete แต่ กด save แทน เจนมองอย่างพอใจ
มุมล่างขวามือเป็น logo phoenix
ในบริษัทโฆษณา พิงก์กับเคนอยู่ในห้องที่เปิดประตูอยู่
"เอาล่ะพิงก์ คุณมีอะไรก็พูดมาตรง ๆ เลย ไหน ๆ ชีวิตผมมันก็พังเละไม่มีเหลือแล้ว จะมีอะไรเพิ่มเข้ามาอีก ก็เอาเลย !"
"โอเค ถ้างั้นไม่ต้องอ้อมค้อมกันนะ"
ที่ประตู ขาเผือกเบอร์ต้นๆ อย่างเจ๊สา บับเบิ้ล นับดาว เจ๊อูน ยื่นหน้ายื่นตาฟังอยู่ ด้านหลังพวกเขา คนอื่นๆ ในออฟฟิศก็ฟังอยู่ด้วย
พิงก์มองหน้าเคนด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว
"จากนี้เราเลิกยุ่งเกี่ยวกันเถอะ"
เคนตกใจ "พิงก์ !"
พวกที่ฟังอยู่ด้านนอกพลอยอึ้งไปด้วย ซูซี่เดินเข้ามา มองอย่างแปลกใจ
"มีอะไรกันเหรอ"
บับเบิ้ลรีบจุ๊ปากบอกซูซี่ให้เงียบก่อน "ชู่ !"
พิงก์เปิดประตูเดินพรวดออกมา พวกเพื่อนสนิทมองตามอย่างเป็นห่วง
บับเบิ้ลเรียก "พิงก์ ! พิงก์ !"
บับเบิ้ล เจ๊สา เจ๊อูน รีบตามพิงก์ไป
ซูซี่มองอย่างพอเดาเหตุการณ์ได้ เธอเดินไปที่ห้องของเคน นับดาวมองตามแบบ ‘เฮ้ย จะทำอะไรน่ะ’
เคนยืนเศร้าอยู่ ซูซี่เดินเข้ามา ดันประตูปิดเข้าไป เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็น
"คุณเคน เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ"
เคนไม่ตอบ เขาไม่อยากพูดอะไร ซูซี่เดินเข้ามาใกล้
"ถ้าเป็นเรื่องนั้น ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกค่ะ"
เคนหันไปมองซูซี่อย่างยังคงเครียด พร้อมเหวี่ยงใส่ทุกคน
"เรื่องนั้น เรื่องไหนกันเหรอ"
"ก็เรื่องที่คุณไปเป็นนางโชว์ยูซ่านั่นน่ะ ซูซี่มั่นใจว่าคุณต้องมีเหตุผลที่ไปทำอย่างนั้น"
"ซูซี่ คุณไม่เข้าใจหรอก"
"ทำไมคิดว่าซูซี่ไม่เข้าใจล่ะคะ"
"คุณจะไปเข้าใจได้ยังไง ขนาดผมเองยังไม่เข้าใจเลย ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ ๆ ผมถึงแต่งหญิงขึ้นไปแสดงโชว์บนเวที ทำไมถึงต้องมีเรื่องวุ่นวายพวกนี้เข้ามาในชีวิต ทำไมอะไรที่เคยดี ๆ อยู่ถึงต้องพังพินาศไปหมด ... ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับผมด้วย"
"คุณเคน ทุกอย่างต้องมีคำตอบ ขึ้นอยู่กับว่า เราหามันถูกที่หรือเปล่าเท่านั้น"
"แล้วถ้าตลอดทั้งชีวิตของเรา เรายังหามันไม่เจอล่ะ"
"ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็เชื่อซูซี่เถอะค่ะ ว่าต้องมีใครสักคนในโลกนี้ ที่พร้อมจะยอมรับในสิ่งที่เราเป็น ไม่ว่าเราจะเป็นอะไรก็ตาม"
ซูซี่มองเคนอย่างให้กำลังใจ เคนรู้สึกดีกับคำพูดของซูซี่
พิงก์นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เพื่อน ๆ บับเบิ้ล เจ๊สา เจ๊อูน รุมล้อมอยู่
บับเบิ้ลถาม "พิงก์ ทำไมเรื่องมันเลยเถิดถึงเบอร์นี้ไปได้"
"บับเบิ้ล ฉันพยายามทำใจแล้วนะ แต่ยิ่งนานไป ฉันก็ยิ่งรู้ ว่าฉันทำใจไม่ได้หรอก คิดดูสิ ตอนนี้โฆษณาออกแล้ว คนทั้งโลกยิ่งรู้จักยูซ่า"
ย่านกลางเมือง จอภาพขนาดใหญ่ยักษ์บนตึกสูงตะหง่าน ฉายภาพโฆษณาอยู่ในช่วง Pack Shot ยูซ่ายืนถือน้ำหอมอยู่อย่างสวยสง่าเลอเลิศ
"ถ้าเรายังคบกันต่อ จนถึงขั้นแต่งงานกันตามที่ตั้งใจไว้ คิดดูสิว่าทุกครั้งที่คนพูดถึงเรา เขาจะพูดว่ายังไง เขาจะพูดถึงเคน หรือพูดถึงยูซ่า"
"ทำไมต้องต้องแคร์ด้วยล่ะ พิงก์ เจ๊ถามคำเดียวนะ พิงก์ยังรักเคนอยู่หรือเปล่า" เจ๊สาว่า
พิงก์อึ้งไปกับคำถามนั้น พุฒิเดินเข้ามา มองพิงก์
"พิงก์ ขอคุยด้วยหน่อยสิ"
"พุฒิ ถ้าพุฒิสงสัยอะไร ไปถามเคนเอาเหอะ"
"ไม่ ! ไปคุยกันเดี๋ยวนี้"
พุฒิจับแขนพิงก์ดึงมาจากโต๊ะ
"เฮ้ย !"
"ไป !"
"ก็ได้ !"
พิงก์ตามพุฒิไป คนอื่น ๆ ขยับตามมา พุฒิหันขวับไปชี้นิ้วใส่
"ไม่ต้องตามมา"
ทุกคนชะงักหน้าเจื่อน
พุฒิพาพิงก์มาตรงมุมที่ไม่มีคนอื่น
"ผมรู้นะ เรื่องนี้มันไม่ใช่อย่างที่พิงก์บอกทุกคน ตกลงมันยังไงกันแน่"
"ก็อย่างที่พุฒิรู้นั่นแหละ เคนเขารับไม่ได้ที่มีคนในฟีนิกซ์ รู้เห็นเป็นใจกับการขโมยฮาร์ดดิสก์ เพราะถ้าข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ใช้จัดการธงรบกับพวกได้สำเร็จ ชีวิตเขาก็จะกลับเป็นอิสระได้อีกครั้ง"
"เคนก็เลยพาลโกรธ เกลียด ไม่ไว้ใจทุกคนไปหมด"
"ใช่ รวมทั้งฉันด้วย ... ที่ผ่านมา ฉันพยายามอดทน เพราะเข้าใจความรู้สึกของเคน ว่าเขาจะเครียดสักแค่ไหน ที่อยู่ ๆ ก็เกิดเรื่องแบบนี้ แต่ความอดทนของคนเราก็มีขีดจำกัด"
"เคนทำแบบนี้ ไม่มีผลดีกับตัวมันเองเลยนะ"
"แต่ถ้าเคนปิดตัวเองไม่ยอมรับใคร เราก็คงช่วยอะไรเขาไม่ได้เหมือนกัน"
"มันจะไม่เป็นอย่างนั้นน่ะสิ"
"ยังไงเหรอพุฒิ"
"ซูซี่"
"ซูซี่ทำไม"
"ซูซี่เข้าไปปิดห้องคุยกับเคน คุยอะไรกันก็ไม่รู้ ผมกลัวว่านี่จะเป็นการเปิดโอกาสให้กับพวกนั้น"
พิงก์ยิ่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
"แต่เคนก็รู้ว่าซูซี่เป็นพวกนั้น"
"นั่นน่ะสิ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่ามันคิดอะไรของมันอยู่"
ทั้งสองคนต่างนิ่ง เครียด และกังวล
ซูซี่รินไวน์แดงอยู่ที่คอนโดฯ เคน เธอถือแก้วสองใบเดินมาหาเคนที่นั่งเงียบ คิดอะไรอยู่ในใจ
"คิดอะไรอยู่หรือคะ"
"คุณเคยบอกว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนใช่ไหมครับ"
"ค่ะ"
"แปลกจังที่ผมจำอะไรไม่ได้เลย"
"ก็คงเหมือนเรื่องอื่น ๆ ล่ะมั้งคะ ซูซี่ก็เป็นแค่ ‘ของ’ อีกอย่างหนึ่งที่เคนลืมไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับซูซี่หลงเหลืออยู่ในความทรงจำของเคนเลย"
"ถ้างั้นคุณก็เล่าทั้งหมดให้ผมฟังสิครับ เผื่อมันจะช่วยให้ผมจำอะไรขึ้นมาได้บ้าง"
ระหว่างหนังสือบนชั้นมีกล้องเล็กๆ ซ่อนอยู่
ที่บ้านเจ๊สา สัญญาณภาพและเสียงส่งมาที่แท็บเล็ตของพิงก์ พิงก์นั่งดูภาพและใส่หูฟังหันอยู่ สีหน้าเธอเคร่งเครียด
ซูซี่ตัดสินใจว่าถึงเวลาที่ต้องพูดแล้ว
"ครั้งหนึ่งเราเคยรักกันค่ะเคน"
เคนแปลกใจ "รักกัน จริงสิครับ"
"ใช่ แต่พอซูซี่มาคิดทบทวน ซูซี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าสิ่งที่ซูซี่ได้เห็นได้ยินในตอนนั้น มันเป็นความจริง หรือแค่สิ่งที่เคนทำเพื่อจุดหมายบางอย่าง"
ในอดีต King Crow เดินเข้าไปหาซูซี่ ซูซี่เดินถอยหนีจนติดผนัง
King Crow ยื่นริมฝีปากเข้าไปหาซูซี่ ซูซี่เชยหน้าเตรียมรับจูบของ King Crow
"จุดหมายบางอย่าง อะไรกันเหรอครับ" เคนถาม
ซูซี่โกหกเพราะคิดว่าเคนยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นพวกธงรบ
"ซูซี่ก็ไม่แน่ใจ แต่พอปะติดปะต่อเรื่องที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด ทั้งที่คุณไปเป็นนางโชว์ ทั้งที่มีคนจับตัวคุณไป แล้วยังมีพวกที่ไปช่วยคุณอีก เหมือนกับว่าคุณแอบทำงานลับ ๆ อะไรอยู่ งานที่เกี่ยวข้องกับคนพวกนั้น"
"แล้วคุณล่ะซูซี่ คุณเกี่ยวข้องอะไรกับคนพวกนั้นหรือเปล่า ถึงได้สงสัยความสัมพันธ์ของเราในเวลานั้น"
ซูซี่สะดุดไปเล็กน้อย ลังเลว่าจะพูดอย่างไรดี แต่สุดท้ายซูซี่ก็พูดออกมา
"ไม่ค่ะ ซูซี่แค่คิดไปเรื่อยเปื่อย ว่าถ้าเวลานั้นเคนกำลังทำงานลับ ๆ อยู่ การที่เคนเข้ามาเกี่ยวข้องกับซูซี่ ก็อาจจะเกี่ยวข้องกัน บางทีเคนอาจต้องการใช้ซูซี่เพื่อเข้าไปหาใครบางคน"
พิงก์ฟังทุกคำพูดอย่างจดจ่อ เจ๊สากับบับเบิ้ลเปิดประตูเข้ามามองดู
"พิงก์ ทำอะไรอยู่เหรอ"
พิงก์ตกใจเล็ก ๆ ถอดหูฟังข้างหนึ่งออก
"เปล่าเจ๊ หาอะไรดูแก้เซ็งไปเรื่อย ๆ น่ะ"
"ทำไมหน้าตาดูซีเรียสจัง" เจ๊สาถาม
"พอดีหนังมันเข้าช่วงดราม่าพอดีน่ะ เจ๊มีอะไรหรือเปล่า"
"มาตามไปกินข้าว เดี๋ยวบับเบิ้ลจะมาแจมด้วย"
"โอเค เดี๋ยวตามลงไป"
"ไม่ต้องเลย ไปช่วยกันจัดโต๊ะเดี๋ยวนี้"
"จ้า"
พิงก์ถอดหูฟังวางลงข้าง ๆ เครื่องแท็บเล็ต แล้วเดินมาหาเจ๊สา
เท็บเล็ตยังคงเปิดไว้อย่างนั้น ในจอแท็บเล็ต ซูซี่เข้ามาด้านหลังเคน โอบเขาจากทางนั้น
ซูซี่เข้ามาโอบด้านหลังเคนแบบเริ่มรุก
"คุณพอจะจำอะไรได้หรือยังคะเคน"
เคนเหลือบมองไปทางกล้องอย่างรู้ดีว่าพิงก์จะดูอยู่ ซูซี่สังเกตเห็น
"มีอะไรหรือเปล่าคะ"
ซูซี่รุกหนักยิ่งขึ้นอีก เคนลุกพรวดเหมือนโดนเข็มแหลม ๆ ทิ่ม
"ขอโทษนะครับ ผมว่ามันอาจจะเร็วเกินไป"
ซูซี่ถอยออกมามองอย่างรู้สึกผิดหวังและน้อยใจ
"ใช่ค่ะ เวลาสองปีที่ซูซี่รอเคนมา มันอาจเร็วเกินไปจริง ๆ"
"ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่ผมยังจำอะไรไม่ได้เลย"
"แน่นอน ในหัวของเคนมีแต่พิงก์เท่านั้น ไม่มีซูซี่ ทุกอย่างระหว่างเรา มันจบสิ้นไปตั้งแต่สองปีที่แล้วแล้ว"
ซูซี่หยิบกระเป๋าเดินออกจากห้องไป เคนมองตาม
"คุณซูซี่"
เคนนิ่งคิด นึกเสียดายโอกาสที่จะสืบให้ได้อะไรมากกว่านี้
พุฒิเข้าจอดรถที่หน้าคอนโด ซูซี่เดินมา พอเห็นพุฒิรีบหลบหลังเสา ขณะที่พุฒิถอดหมวกกันน็อคออก
พุฒิเดินไปทางตัวอาคาร เมื่อเขาผ่านไปแล้ว ซูซี่ก็ขยับออกมาจากที่ซ่อน หันมองตามไป
เคนเดินไปปิดกล้อง พุฒิเข้ามาด้านหลัง
"เคน แกคิดจะทำอะไรน่ะ"
"ฉันจะทำอะไร ก็ไม่เกี่ยวกับแก"
"เรื่องนี้แกทำคนเดียวไม่ได้หรอกนะ"
"แต่ฉันก็ทำกับคนที่ ‘ไว้ใจไม่ได้’ ไม่ได้เหมือนกัน"
"ทำไมวะ กี่ครั้งแล้วที่ฉันช่วยแก ยังไม่ไว้ใจกันอีกเหรอ"
เคนส่ายหน้า
"ไม่! ถ้าแกจริงใจกับฉันจริง ๆ แกคงไม่รอมาจนถึงสองปีหรอก ... อันที่จริง ฉันเกือบจะเชื่อแกอยู่แล้วเหมือนกัน ถ้าไม่เกิดเรื่องฮาร์ดดิสก์นั่นซะก่อน"
"แต่ฉันเป็นเข้าไปเอามันมากับแกนะโว๊ย"
"ใคร ๆ ก็ไปที่นั่นกันทั้งนั้น ทั้งแก พิงก์ พี่เจน แล้วก็ชาคริต ... แกคิดว่าฉันไว้ใจคนพวกนี้ได้จริงเหรอ ทุกคนที่ไปอาจแค่เพื่อให้แน่ใจ ว่าสิ่งที่ฉันได้มา ไม่ไปถึงมือคนที่จะจัดการเรื่องนี้ได้ "
พุฒิอึ้งไปกับเหตุผลของเคน เขาใช้ไม้สุดท้าย
"เคน ฉันเป็นเพื่อนแกนะ"
"ฉันไม่แน่ใจ และถึงจะจริง ฉันก็ไม่อยากมีเพื่อนอย่างแก ไปซะ"
พุฒิพูดอะไรไม่ออก เขาหันหลังเดินออกไป เคนยืนนิ่งเครียด
ต่อมา พุฒิเดินพูดโทรศัพท์ออกมาจากคอนโด
"ไม่สำเร็จครับพี่เจน ผมพยายามพูดแล้ว แต่ไอ้เคนมันไม่ฟังเลย"
เจนพูดโทรศัพท์อย่างเคร่งเครียด
"แต่ยังไงเราก็ปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ เคนเข้ามาในฟีนิกซ์ รู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรา เขาจะสร้างความเสียหายให้เรามากเลย ถ้าเขาบอกความลับของเราให้ซูซี่รู้"
"ถ้างั้นผมจะหาทางหยุดซูซี่"
"หยุดทั้งสองคน ถ้าจำเป็นก็ ‘เก็บ’ ทั้งสองคน"
พุฒิอึ้งไปกับคำสั่งของเจน
"ฟีนิกซ์เป็นหน่วยงานลับ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในฟีนิกซ์ จะต้องถูกเก็บเป็นความลับตลอดไป"
"ครับพี่เจน"
พุฒิวางสาย สีหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด เขายังคิดไม่ออก ว่าถึงเวลาจริงๆ เขาจะสามารถฆ่าเพื่อนได้อย่างไร
อ่านต่อตอนที่ 10