xs
xsm
sm
md
lg

พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 8 : สายลับ "เคน" มาแล้ว!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 8 : สายลับ "เคน" มาแล้ว!

บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : จรูญพร ปรปักษ์ประลัย

ชาคริตเดินเข้ามาหาเจนในห้อง

"พี่เจนแน่ใจเหรอครับ ว่าวิธีนี้จะได้ผล"
"ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ยังไงเราก็ต้องลองทุกวิธี หาทางทำให้เคนจำสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อนให้ได้"
"แต่ดูท่ามันจะไม่รอดนะครับ ไก่อ่อนซะขนาดนั้น"
"เชื่อสิ ยังไงเสือก็ต้องเป็นเสือ"

ในห้องพัก พุฒิพันแผลที่ไหล่ให้เคน มองเขาอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก
"โอเคไหมเคน นี่แค่เบาะ ๆ นะเว้ย ยิ่งฝึกไปจะยิ่งหินกว่านี้"
"ทำไงได้วะ มาถึงขั้นนี้แล้วนี่หว่า"
"เออ แกมันเจ๋งว่ะ คิดจะทำอะไรแล้ว ไม่เคยมีคำว่าถอย"
"ชัวร์อยู่แล้ว เออพุฒิ ขออะไรอย่างได้ไหม"
"อะไร"
"ช่วยฝึกเพิ่มให้ที"
"เฮ้ย แค่นี้ยังเหนื่อยไม่พออีกหรอ"
"ยัง ถ้าอยากชนะ เราต้องพยายามให้มากขึ้นเป็นสองเท่า แต่ถ้ายังไม่ได้ ก็เพิ่มขึ้นอีก"
พุฒิมองเคนด้วยความทึ่ง
"ได้เลยเพื่อน"

ที่สนามยิงปืน พุฒิสอนตั้งท่ายิงเป็นแบบให้เคน เคนทำตาม พุฒิช่วยจับแก้ไขให้ถูกต้อง
เคนยกปืนยิง พุฒิยืนมองดูอยู่ด้านหลัง
เคนเอาเป้ามาดู กระสุนเข้าหนึ่งนัด เคนดีใจสุด ๆ
"เฮ้ย เจ๋งป่ะ"
พุฒิตอบแบบเอาใจเพื่อน "เออ เจ๋ง เป้าไม่สะอาดแล้ว"
ชาคริตเข้ามาดู ยิ้ม ๆ
"โอ้โห สงสัยต้องฉลองใหญ่แล้วมั้งเนี่ย"
ชาคริตพูดแล้วก็เดินหัวเราะออกไป เคนมองตามเคือง ๆ
"ไม่ต้องไปสนใจ มาฝึกกันต่อ"
"ฮึม"
เคนเปลี่ยนแมกกาซีน แล้วยกปืนขึ้นมาเตรียมยิง
"เคน"
"ว่าไง"
"ฉันอยากให้แกเปลี่ยนอะไรอย่างหนึ่ง"
"อะไร"
"ถ้าแกอยากกลับมาเป็นสุดยอดสายลับ จำไว้ว่าสมองไม่ใช่ทั้งหมด สิ่งที่แกต้องใช้คือทักษะที่เชี่ยวชาญ ใจที่แน่วนิ่ง และที่สำคัญ สัญชาตญาณ"
เคนฟังแล้วเข้าใจทันที เขาเหมือนคนที่มีคนชี้ทางสว่างให้
"ฮือ"
เคนลั่นไกปืนออกไป ปัง !
เขาแวบเห็นภาพบางอย่างในความทรงจำ

ภาพนั้น เคนโหนเชือกหย่อนตัวเองลงมาแบบห้อยหัว

เคน ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาจากสิ่งที่ได้เห็น
เคนลั่นไกปืนออกไปอีกนัด ปัง !
กระสุนเริ่มเข้าเป้า

ภาพเคนโหนเชือกหย่อนตัวเองลงมาแบบห้อยหัว เขายกปืนเล็งตรงมา

เคนลั่นไกปืนออกไปอีกนัด ปัง !
กระสุนใกล้กลางเป้ามากขึ้น

ภาพเคนซึ่งห้อยหัวอยู่ ลั่นไกปืน
กระสุนพุ่งออกจากปากกระบอกปืน

เคนลั่นไกปืนออกไปอีกนัด ปัง !
กระสุนพุ่งชนเป้าที่วางไว้ แตกกระจาย
กระสุนเข้าตรงวงกลมกลางเป้าซ้อมยิง
หน้าเคน ซึ่งไปด้วยความเด็ดเดี่ยวดุดัน

พุฒิยิ้มอย่างพอใจ
ที่ใกล้ ๆ นั้น ชาคริตมองดูอย่างไม่อยากเชื่อสายตา เจนเข้ามายืนข้าง ๆ มองดูเคนอย่างพอใจ

พุฒิกับเคนอยู่บนเวทีฝึกมวย พุฒิใช้สองนิ้วชี้ที่ตาตัวเอง บอกให้เคนมองตาคู่ต่อสู้ไว้
พุฒิทำท่าปล่อยหมัด สับศอก ตอกเข่าแบบต่าง ๆ ให้เคนทำตาม
เจนกับชาคริตเดินเข้ามามองดู
เคนต่อยใส่เป้าซ้อมที่พุฒิติดล่อไว้ หมัดของเคนดูไม่มีน้ำหนักนัก
เคนยังคงต่อยล่อเป้าซ้อมอยู่กับพุฒิ หมัดของเคนดูมีน้ำหนักมากขึ้น ใบหน้าเขาจริงจังขึ้น
เคนยังคงต่อยล่อเป้าซ้อมอยู่กับพุฒิ หมัดของเคนดูมีน้ำหนักอย่างชัดเจน ใบหน้าของเขาดูดุดัน

เจนมองอย่างพอใจ พลางหันไปมองชาคริตทำนองว่า ‘เป็นไง เห็นหรือยัง’

เคนเข้าที่จุดสตาร์ทวิ่ง เจนกับพุฒิยืนดู ชาคริตกดปุ่มนาฬิกาจับเวลา

"ไป"
เคนวิ่งออกไป ผ่านด่านสิ่งกีดขวางต่าง ๆ เคนดูแข็งแรงและคล่องแคล่วกว่าครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด
เจนยิ้ม พุฒิยิ้มออกมาเช่นกัน
"อย่างงี้สิ มันต้องอย่างงี้"
"เคนตัวจริงกลับมาแล้ว"
ชาคริตมองด้วยดวงตาริษยา

ฉาก 6บริษัทโฆษณา - ห้องประชุมกลางวัน
ตัวละครซูซี่, น้ายักษ์, บับเบิ้ล, เจ๊สา, นับดาว

ในห้องประชุม บริษัทโฆษณา Giant & Janet น้ายักษ์โยนกระดาษบรีฟงานลงบนโต๊ะอย่างเคร่งเครียด
"โหย ! หายไปไหนกันหมดเนี่ย ติดต่อครีเอทีฟไม่ได้สักคน นี่จะให้ปิดบริษัทกันเลยหรือไง"
บับเบิ้ลบอก "ใจเย็น ๆ สิครับน้า นี่เรากำลังพยายามตามตัวเคนกับชาคริตกันอยู่"
"ใช่ค่ะ ระหว่างนี้นับดาวขอให้ทุกคนในบริษัทช่วยกันคิดงานกันไปพลาง ๆ ก่อนค่ะ"
"ให้ทุกคนช่วยคิด ! มันจะไปได้เรื่องอะไรว้า"
"น้ายักษ์คะ ซูซี่มั่นใจค่ะว่า จะต้องมีคนหนึ่งที่รู้ว่าเคนหายไปไหน" ซูซี่ว่า
"ใครเหรอ"
ทุกคนมองซูซี่เป็นตาเดียวกัน

ที่เดินอยู่บนทางเดินภายในบริษัท ปฏิเสธเสียงแข็ง
"ไม่รู้ ! บอกแล้วไงว่าไม่รู้"
ซูซี่และคนอื่น ๆ เดินตามมา
"แต่มีคนยืนยัน ว่าก่อนวันที่เคนจะหายตัวไป เห็นเธออยู่กับเขา"
พิงก์หยุด หันไปถามซูซี่
"ใครบอก"
บับเบิ้ลยื่นหน้าเข้ามา "เจ๊หว่างน่ะ ... เจ๊หว่างบอกพิงก์กับเคนไปที่บาร์ยูโทเปีย"
"ใช่ ! คราวนี้จะพูดอีกไหมว่าไม่รู้"
พิงก์อึ้งไป เถียงไม่ออกอีก
ยักษ์อ้อนวอน"พิงก์ ช่วยหน่อยเหอะ น้าจะบ้าตายอยู่แล้วเนี่ย มีงาน แต่ไม่มีคนคิด มีหวังลูกค้าแคนเซิลงานหมดแน่"
พิงก์ยังคงไม่พูดอะไร
"น้ายักษ์คะ ทุกคนด้วย ฉันขอคุยกับพิงก์เอง" ซูซี่บอก
คนอื่น ๆ มองหน้ากัน
"โอเค"
ยักษ์เดินออกไป คนอื่น ๆ ออกตาม จนกระทั่งเหลือแต่พิงก์กับซูซี่ ทั้งคู่มองหน้ากันเหมือนนางเสือที่ดุดันไม่แพ้กัน
"พิงก์ ฉันรู้ว่าเธอมีความลับ ไม่แต่เรื่องเคนเท่านั้น"
"โอ๊ย นี่จะหาเรื่องอะไรกันอีกเนี่ย"
"ก่อนที่เคนจะหายตัวไป นอกจากเธอกับเคนจะไปที่บาร์ยูโทเปียแล้ว ยังมีคนเห็นว่าพวกเธอไปที่สนามมวยใต้ดินด้วย"
"ใคร ? ใครเห็น ?"
"ฉันเอง"
ซูซี่ตอบด้วยสีหน้าของผู้ชนะ ขณะที่พิงก์พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ เพราะถ้าซูซี่อยู่ที่นั่น ก็ต้องเห็นลวดลายการต่อสู้ของเธออย่างแน่นอน

ที่สนามฝึก เจนหยิบปืนขึ้นมา แล้วพูดโดยไม่มองหน้าเคน
"อาวุธแต่ละอย่างมีประโยชน์ต่างกัน ปืนอาจเป็นอาวุธประจำกายที่ร้ายแรงที่สุด แต่จุดอ่อนของมันก็คือ ทันทีที่กระสุนหมด มันก็ไม่ต่างจากเศษเหล็ก"
เจนวางปืนแล้วหยิบมีดขึ้นมา
"แต่มีดนี่สิ ทุกครั้งที่ใช้งาน ไม่เคยมีคำว่าผิดหวัง"
เพียงขาดคำ เจนก็วาดมีดเข้าใส่เคน แต่เคนเตรียมตัวอยู่แล้ว เขาขยับตัวหลบ เจนยิ้ม
"ดีมาก"
พุฒิกับชาคริตเดินเข้ามามองด้วยความสนใจ
เจนจู่โจมเข้าใส่เคนอีก เคนหลบอย่างฉิวเฉียดไปที่โต๊ะวางอาวุธ แล้วหยิบมีดขึ้นมาบ้าง เจนมองอย่างพอใจ
"เยี่ยม บทเรียนที่สอง ทุกครั้งที่ต่อสู้ ไม่ว่ากับใคร ลบความคิดว่าเขาเป็นญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ผู้หญิง คนแก่ เด็ก หรือแม้แต่ศัตรู คิดซะว่าเป็นแค่วัตถุที่เคลื่อนไหวได้ และเราต้องทำทุกอย่าง เพื่อที่จะหยุด ไม่ให้มันเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป"
เจนพูดแล้วก็พุ่งเข้าหาเคน เคนหลบแล้วสวนมีดออกไป เจนหลบได้เช่นกัน เธอยิ้ม
"สุดยอด สมที่เคยเป็นสายลับมือหนึ่ง"
ทั้งคู่เข้าสู้กันต่อ มีดในมือของเขาและเธอเคลื่อนผ่านกันไปมา สุดท้ายเจนก็ปัดมีดเคนกระเด็นไป เพียงเสี้ยววินาทีที่เคนเหลือบตาไม่มองมีด มีดอีกเล่มก็เข้ามาจ่อที่คอหอย เคนนิ่งอย่างยอมแพ้ เจนยิ้ม แล้วขยับมีดออก
"เคน เธอนี่เก่งจริง ๆ ฉันไม่เคยเห็นใครเก่งเท่าเธอในเวลาแค่นี้เลย"
"แต่ผมก็ยังแพ้อยู่ดี"
"อีกไม่นานหรอกเคน อีกไม่นาน"

เจนมองเคนอย่างเชื่อมั่น เคนนิ่งอย่างมีกำลังใจ พุฒิยิ้มกับความสำเร็จขั้นต้นของเพื่อน ส่วนชาคริตดูไม่พอใจนัก

พิงก์กับซูซี่ยืนพูดกันอยู่ที่มุมหนึ่งด้านนอกบริษัท ซึ่งค่อนข้างเป็นส่วนตัว ไม่มีคนอื่น

"เคนเขาต้องไปทำอะไรอย่างหนึ่ง เพื่อยุติเรื่องยุ่ง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต"
"อะไร ที่ไหน"
"อันนี้ฉันไม่รู้จริง ๆ"
"พิงก์ เลิกโกหกซะทีเถอะน่า"
"ฉันไม่ได้โกหก ฉันเป็นคนบอกเคนเอง ไม่ให้เขาพูด ว่าเขาจะไปทำอะไรที่ไหน เพราะฉันไม่อยากเก็บความลับของเขาไว้ ไม่อยากให้มีใครมาตอกหน้า ว่าเป็นคนโกหก"
ซูซี่มองหน้าพิงก์อย่างรู้ดีว่า คงคาดคั้นให้พิงก์พูดมากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
"ฉันไม่มีอะไรจะพูดแล้ว"
พิงก์หันเดินไป ซูซี่ยื่นมือคว้าแขนพิงก์ไว้
"เดี๋ยวซิ"
พิงก์ปัดแขนซูซี่ แล้วผลักออกไป ซูซี่เสียหลักถอยหลัง พิงก์หันมาจ้องหน้า
"บอกแล้วไงว่าไม่มีเรื่องจะพูดแล้ว"
"งั้นก็ไม่ต้องพูด"
ซูซี่พุ่งเข้าใส่พิงก์ ทั้งคู่ต่อสู้กันอย่างคนมีของด้วยกันทั้งคู่ ระหว่างการต่อสู้ทั้งคู่หยุดมองกัน
"เก่งเหมือนกันนี่" พิงก์ว่า
"ก็พอตัว"
"เธอเป็นใคร"
"แล้วเธอล่ะ"
พิงก์กับซูซี่สู้จนเหนื่อยหอบ สุดท้ายทั้งคู่ค้างอยู่ในท่าจิกผมเหมือนผู้หญิงตบกันตามปกติ
ทันใดนั้น ยักษ์ บับเบิ้ล เจ๊สา นับดาว วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
"เฮ้ย ๆ อะไรกันเนี่ย"
"นั่นสิ เห็นบอกจะคุยกัน ไม่คิดว่าจะคุยกันดุเดือดแบบนี้" บับเบิ้ลว่า
ทั้งคู่ไม่อยากให้ใครรู้ความลับ รีบปล่อยมือ ทำเป็นลูบผมกันและกัน
"เปล่า ไม่มีอะไร"
"ใช่ แค่ทดสอบสุขภาพเส้นผมน่ะ เอ้อ... ผมแข็งแรงดีนะเนี่ย"
"ของเธอก็เหมือนกัน"
ยักษ์มองอย่างหงุดหงิด
"เหรอ ! ... ขอบอกว่าไม่เนียนเลย ... พิงก์ ซูซี่ น้าจะทนไม่ไหวแล้วนะ อย่าให้มีเรื่องแบบนี้อีก"
พิงก์กับซูซี่ชำเลืองมองกันอย่างแค้น ๆ
ทั้งคู่รับคำยักษ์ "ค่ะ"
ยักษ์เดินไปอย่างหงุดหงิด ขณะที่เจ๊สาเข้าไปหาพิงก์ ส่วนนับดาวเข้าไปหาซูซี่
"พิงก์ เป็นไงมั่ง"
นับดาวว่า "โถ คุณซูซี่"

เคนสานมือหนุนนอนอยู่บนเตียง ตามองเพดาน คิดทบทวนเรื่องต่าง ๆ ขณะที่พุฒินั่งถอดปืนทำความสะอาด
อยู่ ๆ เคนก็นึกอะไรขึ้นได้ เขาลุกพรวดขึ้น พุฒิหันมามองงง ๆ
"เฮ้ยเคน ผีเข้าหรือไงวะ"
"ที่สนามมวยใต้ดิน มีคนคนนึงมาทักฉัน"

วันนั้น .... เคนมองรอบ ๆ พิงก์ยืนอยู่ข้าง ๆ จังหวะนั้นเองก็มีเสียงเรียกเข้ามา
"เคน"
เคนกับพิงก์หันไป
"เรียกผมเหรอครับ"
"ก็ใช่น่ะสิ"

เคนนึกแล้วก็มั่นใจมาก ๆ
"เขาต้องรู้จักฉันแน่ ๆ" เคนลุกขึ้นยืน "ไปกันเถอะ"
เคนจะเดินออกจากห้องไป พุฒิรีบเข้าขวางไว้
"เฮ้ย ๆ ๆ"
"ทำไมล่ะ"
"พี่เจนสั่งไว้ ว่าระหว่างที่ยังฝึกซ้อม ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด"
"เหรอ ... แกก็อย่าบอกพี่เจนสิวะ"
เคนพูดแล้วก็โฉบหลบพุฒิออกไป พุฒิหมุนตัวมองตาม
"โหย ไอ้เคน !"
เขารีบตามเพื่อนไปทันที
พุฒิเดินบ่นออกไป "นำความซวยมาให้อีกแล้ว"

คืนนั้นในสนามมวย คนเนืองแน่นเหมือนทุกคืน เคนกับพุฒิเดินเข้ามา และมองไปรอบ ๆ
"เจอไหมวะ"
"ยังว่ะ"
ที่ด้านหลังของพวกเขา เฮียชัยยืนอยู่บนเวที พร้อมด้วยคู่ชกที่ยืนจ้องหน้ากันอยู่
"พร้อมจะซัดกันหรือยัง"
กลุ่มคนดูพากันโห่ร้อง "เย่ !"
เคนหันไปมองบนเวที พุฒิหันมองตาม
"นั่นไง คนนั้นน่ะ"
"โธ่ ! นึกว่าใคร"
"แกรู้จักเหรอ"
"รู้จักสิวะ เฮียชัยไง เฮียชัยเป็นเจ้าของที่นี่"
เฮียชัย บอกคู่ชก
"ลุย !"
กลุ่มคนดูพากันโห่ร้อง "เย่ !"

เฮียชัยถอยออกมาจากสังเวียน คู่ต่อสู้จ้องมองพร้อมที่จะพุ่งเข้าใส่กัน

มุมหนึ่งที่ไม่มีคนอื่น ในสนามมวยใต้ดิน

เฮียชัยมองเคนงง ๆ พุฒิฟังอยู่ด้วย
"จริงเหรอวะ ที่เอ็งจำอะไรไม่ได้เลยน่ะ"
"จริงครับเฮีย เหมือนอยู่ ๆ ความจำทุกอย่างก็หายไปหมด"
"เอ็งคือคิงโครว์ นักสู้ที่เก่งที่สุดของที่นี่"
"แล้วเกิดอะไรขึ้น"
"เพราะความเก่งของเอ็ง ถึงได้มีคนชวนไปทำงานด้วย"
"ใคร ?"
"เสี่ยธงรบ"
เคน/พุฒิอุทานพร้อมกัน "ธงรบ !?"
เคนกับพุฒิมองหน้ากันอย่างคิดตรงกัน
"ขอบคุณมากนะเฮีย ผมไปก่อนล่ะ" เคนว่า
เคนลุกพรวดขึ้น พุฒิหันมองตาม
"เฮ้ยไอ้เคน"
"จะรีบไปไหนวะ"
"ธงรบ ! ธงรบนี่แหละคือคำตอบ"

เคนรีบร้อนเดินไป พุฒิเดินตาม
"ไอ้เคน ไปไม่ได้นะเว้ย"
เคนหยุดหันกลับมา
"ทำไมล่ะ"
"ถ้าธงรบเป็นตัวการเรื่องนี้จริง ๆ มันเสี่ยงเกินไปที่เราจะบุกไปหามัน"
"แต่เราไม่มีวิธีอื่นนี่หว่า"
"ขอร้องล่ะเคน อย่างน้อยเราควรรายงานเรื่องนี้ให้พี่เจนได้รู้ก่อน"
เคนมองหน้าพุฒิอย่างเห็นด้วย
"โอเค ถ้างั้นรีบไปกัน"

พุฒิขับรถเข้ามาจอดในฟีริกซ์ เคนเปิดประตูออกมาจากรถโดยไม่รอ พุฒิเปิดตามมา
"ไอ้เคน ไอ้เคน"
ชาคริตเดินเข้ามาถาม เสียงเข้ม
"ออกไปไหนกันมา"
"พี่เจนอยู่ไหน"
"ฉันถามว่าไปไหนมา"
"หลบไป"
เคนผลักชาคริต แต่ชาคริตเบี่ยงตัว แล้วจับมือข้อมือเคนไว้ เคนจ้องหน้าชาคริตอย่างไม่พอใจ ชาคริตจ้องกลับ
"ถามจริงเคน แกจะเอาจริงเหรอ" ชาคริตถาม
เคนไม่ตอบด้วยคำพูด แต่เริ่มเปิดฉากซัดใส่ชาคริต แต่ชาคริตก็มีเขี้ยวเล็บแพรวพราว สู้กับเคนได้สบาย
"ฝีมือดีขึ้นเยอะ แต่ก็ยังถือว่ากระจอก"
เคนบุกเข้าใส่ชาคริต แม้ฝีมือยังเป็นระดับฝึกหัด แต่ด้วยความโกรธ พลังของเคนจึงเพิ่มขึ้น จนสามารถต่อยเข้าที่กลางอกชาคริตได้ ชาคริตถอยแล้วก้มมองที่อกตัวเอง ก่อนมองหน้าเคนอีกครั้ง
"สงสัยคงออมมือให้ไม่ได้แล้ว"
ชาคริตเปลี่ยนเป็นฝ่ายบุก ซัดเคนเข้าไปหลายที สุดท้ายก็ถีบเคนจนล้มลง แล้วตามไป ง้างมือจะตะบันหน้าเคน
ทันใดนั้นเอง เสียงเจนก็ดังขึ้น
"พอ ! พอได้แล้ว !"
ชาคริตถอนตัวออกมาจากเคน พุฒิเข้าไปประคองเคนลุกขึ้นมา
"ไอ้เคน !"
"นี่มันอะไรกัน" เจนถาม
"พี่เจน ผมรู้แล้ว ว่าใครคือตัวการของเรื่องนี้"
เจนมองหน้าเคนด้วยความอยากรู้
"ใคร"
"ธงรบ"

คืนเดียวกัน ที่บ้านธงรบ เขาถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"แน่ใจนะ"
"ค่ะ พิงก์ต้องเป็นอีกคนที่เข้าไปแฝงตัวอยู่ใน Giant & Janet แน่ ๆ"
"แสดงว่ามันเป็นพวกเดียวกัน"
"ไม่ค่ะ พิงก์น่าจะมาจากหน่วยงานอื่น แต่ยังยืนยันไม่ได้ว่าเป็นพวกไหน"
ธงรบนิ่งคิด เอมมี่เดินเข้ามา
"ไม่เห็นต้องคิดให้ปวดหัวเลยค่ะนาย ทุกคำตอบที่นายอยากรู้ เอมมี่จะเป็นคนหามาให้เองค่ะ"
ธงรบมองเอมมี่ แล้วยิ้มอย่างพึงใจ ขณะที่ซูซี่มองเอมมี่อย่างไม่ค่อยพอใจนัก ความแค้นเก่ายังคงฝังแน่น
"ดีมาก ฉันจะรอคำตอบจากเธอนะเอมมี่"
"ค่ะนาย"

เอมมี่พูดแล้วก็ชม้ายตามองซูซี่ ยิ้มอย่างเยาะหยัน

ภายในห้อง เจนฟังความคิดของเคนด้วยความลำบากใจ

"เคน ไม่ใช่อยู่ ๆ เราจะบุกเข้าไปจับใครก็ได้นะ ธงรบเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง ถ้าไม่มีหลักฐาน อย่าคิดเลยว่าจะทำอะไรเขาได้"
"แล้วถ้าเราหาหลักฐานมาได้ล่ะครับพี่เจน"
"พุฒิ เธอคิดจะทำอะไร"
"เพียงเราหาทางเข้าไปที่นั่นได้ เราก็จะมีหลักฐานมามัดตัวเขา และที่มากกว่านั้น ..."
"อะไร ?"
"เราอาจได้คำตอบ ว่ามีข้อมูลอะไรเก็บอยู่แฟลชไดร์ฟที่เราตามหา"
"ใช่ครับพี่เจน ผมจะไปกับไอ้พุฒิเอง" เคนว่า
"ไม่ได้"
"ทำไมล่ะครับ"
"เธอยังไม่พร้อม"
"แล้วเมื่อไรผมจะพร้อมล่ะ"
"เธอพร้อมก็ต่อเมื่อพี่บอกว่าพร้อม"
ชาคริตฟังแล้วยิ้มเยาะ เคนเหลือบมองอย่างไม่พอใจ

ในห้องพัก เคนทุบผนังอย่างจังด้วยความหงุดหงิด
"โธ่ !"
"โทษที ฉันกับแกน่าจะไปที่นั่นตั้งแต่แรก"
"บางทีอาจถูกอย่างที่พี่เจนว่าก็ได้ ฉันยังไม่พร้อม"
"แล้วแกจะเอายังไง"
"ฉันจะฝึกให้หนักขึ้น ฉันต้องทำให้พี่เจนยอมรับให้ได้"

พิงก์ขับรถเข้ามาจอดยังที่พัก แล้วเปิดประตูรถออกมา พร้อมโทรศัพท์ พูดภาษาอังกฤษ
"ใช่ค่ะ เริ่มมีคนสงสัยฉันแล้ว ฉันไม่แน่ใจว่าปิดได้อีกนานเท่าไร"
ใครคนหนึ่ง เดินผ่านหลังพิงก์ไป พิงก์หันมอง แต่ไม่เห็น ใครคนนั้น ผ่านหลังไปอีกด้านหนึ่ง พิงก์แน่ใจแล้วว่าไม่ปกติแน่
"แค่นี้ก่อนนะคะ"
พิงก์กดวางสาย ทันใดนั้นเอมมี่ก็เข้ามาพร้อมปืนจี้มาที่พิงก์
"โทรคุยกับใครเหรอ"
พิงก์ทำใจดีสู้เสือหันไปหาเอมมี่ พิงก์จำเอมมี่ได้ทันที เพราะเอมมี่เคยตามธงรบไปที่บริษัทโฆษณา
"คุณนั่นเอง"
"โทรศัพท์สวยดีนะ ขอฉันดูหน่อยสิ"
เอมมี่ยื่นมือไปดึงโทรศัพท์จากมือพิงก์ แล้วกดดูว่าพิงก์โทรคุยกับใคร จังหวะที่ก้มลงไปมองนั่นเอง พิงก์ก็ถีบเข้าที่ท้องของเอมมี่ จนเอมมี่เสียหลัก ปล่อยมือถือหลุดกระเด็นไปที่พื้น เอมมี่จะตามไปหยิบโทรศัพท์ แต่พิงก์เข้าขวางไว้
"ขอดูนิดเดียว ทำไมต้องหวงด้วย"
เอมมี่หันปืนมาหาพิงก์อีกครั้ง แต่คราวนี้พิงก์ไม่รอช้าพุ่งเข้าหาเอมมี่ คว้ามือที่กำปืนไว้ เอมมี่พยายามขืน และจะยิงพิงก์ให้ได้ แต่พิงก์ก็จับมือเอมมี่กระแทกกับฝาผนัง จนปืนหลุดจากมือไป เอมมี่ตั้งหลักได้ ถีบพิงก์ออกไป แล้วหันไปมองปืน แต่พิงก์เข้าจู่โจมอีกครั้งเสียก่อน
เอมมี่หันมาตั้งรับและตอบโต้ ทั้งคู่ต่อสู้กันโดยเอมมี่เป็นต่อ แต่พิงก์ก็ไม่ยอมให้เอมมี่หยิบโทรศัพท์ได้ สุดท้ายพิงก์โดนอัดจนสะบักสะบอม แต่ก็ฉวยจังหวะหยิบโทรศัพท์กลับขึ้นมาได้ เช่นเดียวกับเอมมี่ที่หยิบปืนขึ้นมาได้พร้อมกัน
พิงก์ลุกขึ้นมา พร้อมกับเอมมี่ที่หันปืนมาที่พิงก์พอดี
"ส่งโทรศัพท์มา"
พิงก์มองหน้าเอมมี่
"คุณกล้ามากนะ ที่มาแบบเปิดเผยตัวแบบนี้"
"คิดเหรอว่าฉันจะแคร์ ในเมื่ออีกไม่กี่นาที แกก็จะตายแล้ว ... ส่งโทรศัพท์มา" เอมมี่ตะคอก
"ได้"
พิงก์ทำทียื่นโทรศัพท์ให้ แต่แล้วเธอกลับเขวี้ยงมันออกไป เอมมี่มองตาม จังหวะที่เอมมี่มองตามไปนี่เอง พิงก์ก็ถีบเอมมี่หงายหลังไป ก่อนหันหลังวิ่งกลับไปที่รถ
เอมมี่ตั้งหลักลุกขึ้นมาอย่างโกรธแค้น
"แก !"
เอมมี่วิ่งตามไปแล้วลั่นกระสุนใส่
พิงก์วิ่งพลางก้มหัวหลบ จนไปถึงรถ เปิดประตูเข้าไป แล้วออกรถไปทันที เอมมี่ตามมายิงจนหมดแมก แต่พิงก์หนีหายไปเสียแล้ว เอมมี่ยืนมองตาม ตัวสั่นด้วยความโกรธ

พิงก์ขับรถออกไป พลางล้วงหยิบบางอย่างจากในกระเป๋า
เอมมี่เดินกลับมาที่โทรศัพท์ที่ตกอยู่ ยื่นมือไปหยิบขึ้นมา
พิงก์หยิบรีโมทเล็ก ๆ ออกมาจากในกระเป๋า
เอมมี่พยายามที่จะเปิดโทรศัพท์ดู
พิงก์กดรีโมท
ระเบิดที่ซ่อนอยู่ในโทรศัพท์ ระเบิดตูม ! เอมมี่หงายหลังกระเด็นไปทันที
"โอ๊ย !"
ระเบิดไม่มีฤทธิ์ทำลายล้างมากนัก แต่แสงระเบิดที่สว่างจ้ามีผลทำให้สายตาเอมมี่มองไม่เห็น
"โอ๊ย !"
เธอเอื้อมมือควานหาไปรอบ ๆ แล้วก็กรีดร้องด้วยความแค้นสุดขีด
"อ้า !"

พิงก์โยนรีโมทลงบนเบาะ แล้วขับรถต่อไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

วันต่อมา สนามฝึกยิงปืนแบบจำลองสถานที่ บุกเข้าบ้านของผู้ร้าย และยิงพวกผู้ร้ายที่อยู่ในนั้น

เคนวิ่งเข้าไปหลบพิงข้างประตู จากนั้นก็หมุนตัวมาถีบประตูเปิด ก่อนที่จะวิ่งเข้าไป ยิงภาพผู้ร้ายขนาดเท่าคนจริง นัดแล้วนัดเล่า จนหมดทุกภาพ
ระหว่างที่ยิงนั้นเอง ภาพในอดีตแวบกลับมาในสมองเคนอีกครั้ง

ณ อาคารร้าง เคนวิ่งเข้ามา เล็งปืนไปที่กลุ่มอาชญากรที่กำลังส่งมอบยาเสพติด
"ทุกคนหยุด"
แต่ไม่มีใครเชื่อ ปืนทุกกระบอกหันมาหาเคน เคนเริ่มเปิดฉากยิง เช่นเดียวกับอีกฝ่ายที่พยายามจัดการกับเขา สุดท้ายเคนก็จัดการทุกคนจนหมดเกลี้ยง เงินยูเอสดอลล่าร์ที่ใช้ซื้อยาปลิวว่อนไปทั่ว
เคนเดินผ่านพวกแก๊งค้ายาไปยังกระเป๋าที่ตกอยู่ เขาหยิบโคเคนออกมาจากในนั้นออกมาดู

เคนถีบประตูเข้าไปอีกห้อง แต่ในห้องนั้นไม่มีใคร ทันใดนั้นเอง ชาคริตที่ซ่อนอยู่ก็ออกมาพร้อมปืน เล็งตรงมาที่เคน
"ปัง ! แกเสร็จฉันแล้ว"
"ไหนว่ามีแต่รูปภาพไง"
"แปลกตรงไหน ทุกสถานการณ์ก็มีอะไรไม่คาดฝันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ"
เจนกับพุฒิเดินเข้ามา
"ถูกต้องแล้ว ในปฏิบัติการณ์จริง เราคาดเดาอะไรไม่ได้หรอก พลาด...ก็ตายสถานเดียว"

เคนซ้อมถอดประกอบปืน โดยมีพุฒิคอยจับเวลา เคนทำได้อย่างคล่องแคล่ว
"เรียบร้อย"
"ทำเวลาดีกว่าเดิม แต่ขออีกที"
พุฒิส่งผ้าให้เคน เคนรับผ้ามาผูกตาไว้ พุฒิมองดู แล้วเริ่มจับเวลาอีกครั้ง
"โอเคพร้อม ไป !"
เคนถอดประกอบปืนอีกครั้งได้อย่างคล่องแคล่ว แม้มองไม่เห็นก็ตาม

เคนกับชาคริตอยู่ในชุดยูโด ทั้งคู่มองหน้ากัน
เจนกับพุฒิกอดอกมองดูอยู่
เคนกับชาคริตเดินเข้าหากัน ชาคริตพยายามจะทุ่มเคน แต่เคนขืนไว้ ฐานเขามั่นคงกว่าเดิมมาก
"เก่งนี่"
"อยู่แล้ว"
จังหวะที่เคนพูดว่าอยู่แล้วนี่เอง ที่เขาเผลอหลุดสมาธิ ชาคริตจึงฉวยโอกาสทุ่มเขาลงไปได้
ชาคริตยิ้ม "โอ้ว"
เคนตั้งหลักลุกขึ้นมา ชาคริตเข้าไปอีกครั้ง พยายามจะทุ่มอีก แต่คราวนี้เคนไม่พลาดอีก เขาฉวยจังหวะที่ชาคริตเปิดช่องทุ่มชาคริตลงไปบ้าง
"เสมอกันแล้วนะ"
ชาคริตลุกขึ้นมามองอย่างเคือง ๆ
เจนมองแล้วยิ้มพอใจ พุฒิก็เช่นกัน

ในห้องน้ำ เคนเปิดน้ำชำระคราบเหงื่อไคล เขาก้มหัวรับน้ำ และยิ้มอย่างรู้สึกดีกับตัวเอง

เคนเปิดประตูห้องอาบน้ำออกมา พุฒิยืนรออยู่แล้ว
"รู้ไหมเคน วันนี้แกเจ๋งมากเลย"
"พุฒิ ฉันเริ่มจำได้แล้วล่ะ"
พุฒิยิ้มดีใจ "เหรอ แล้วที่จำได้ แกเห็นอะไรมั่งวะ"
"มันไม่ค่อยปะติดปะต่อน่ะ แต่ว่าเจ๋งสุด ๆ ไปเลย"
"อะไรวะเจ๋ง"
"ก็ฉันตอนที่เป็นสายลับน่ะสิ"
"นั่นแหละที่ฉันเคยบอก อีกไม่นาน แกจะต้องกลับมาเป็นสุดยอดสายลับอีกครั้งแน่ ๆ"
เคนยิ้มรับ "ฮือ"

ในบ้านธงรบ เอมมี่นั่งอยู่ มีผ้าพันตาไว้ ซูซี่เดินเข้ามา มองและยิ้มสะใจ เสียงรองเท้าทำให้เอมมี่รู้สึกตัว
"เป็นไงบ้างเอมมี่ ไม่คิดเลยว่าคนเก่ง ๆ อย่างเธอจะเสียท่าจนได้"
"ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ รอให้ตาฉันหายก่อนเถอะ รับรอง มันหนีฉันไปไม่รอดแน่"
"กว่าถึงตอนนั้น อะไร ๆ อาจสายเกินไปแล้วก็ได้ เอาเป็นว่า เรื่องนี้เธอไม่ต้องมายุ่งก็แล้วกัน"
"ดูเหมือนเธอจะมั่นใจนะซูซี่ ว่าเธอแน่พอที่จะจัดการมันได้"
ซูซี่เข้าไปจับที่ไหล่ทั้งสองข้างเอมมี่ แล้วกดลงไปที่ไหปลาร้าอย่างแรง จนเอมมี่เจ็บร้องออกมา
"โอย"
ซูซี่ปล่อยมือ
"แน่ไม่แน่ก็รอดูเอาก็แล้วกัน ... อุ๊ย ลืมไป เธอมองไม่เห็นนี่นา"
ซูซี่เดินหัวเราะออกไป เอมมี่กัดกรามแน่นด้วยความเจ็บแค้น

ที่บ้านเจ๊สา พิงก์นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร สีหน้าเคร่งเครียด
เจ๊สากำลังเตรียมอาหารง่าย ๆ ให้
"ให้เดานะ เรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับเคน"
"จะว่าเกี่ยวก็เกี่ยว แต่ที่จริงก็ไม่เกี่ยวซะทีเดียวหรอก"
"มันยังไงกัน เกี่ยวหรือไม่เกี่ยว ยิ่งฟังก็ยิ่งงง"
"เอาเป็นว่า ฉันยังบอกอะไรเจ๊ไม่ได้ก็แล้วกัน"
เจ๊สาเอาของเข้าไมโครเว็บ แล้วเดินมานั่งรอที่โต๊ะ
"โอเค บอกไม่ได้ก็ไม่ต้องบอก เออ แล้วกะอยู่นี่ไปอีกนานเท่าไร"
"คงอีกสักพักแหละเจ๊"
"เอาเหอะ จะอยู่นานแค่ไหนก็ตามใจ ดีเหมือนกัน แก้เหงา แล้วเรื่องงานล่ะ"
"ท่าทางคงต้องลายาวจนกว่าเรื่องจะจบ เจ๊อย่าบอกใครนะ ว่าฉันมาอยู่ที่นี่"
"เออ ไม่บอกหรอก"
เจ๊สาหยิบอาหารที่เสร็จแล้วมาวางตรงหน้าพิงก์และตัวเอง
"พิงก์ มีอะไรที่เจ๊พอช่วยได้ก็บอกเลยนะ พิงก์ก็เหมือนน้องแท้ ๆ คนหนึ่งของเจ๊นั่นแหละ"
"ขอบคุณนะเจ๊"

เจ๊สาเริ่มลงมือกิน ขณะที่พิงก์นิ่งคิด

ภายในห้อง เคนล้มตัวลงนอน

"โหย เหนื่อยโคตรเลย"
"บอกแล้วไง ว่ายิ่งฝึกก็จะยิ่งหนัก"
"นั่นสิ แล้วนี่เมื่อไรพี่เจนจะยอมให้ฉันเป็นสายลับซะที"
"ฉันว่าคงอีกไม่นานแล้วล่ะ ... เออเคน"
"ว่าไง"
"วันนี้พิงก์โทรมา"
เคนเด้งขึ้นมาทันที
"เฮ้ย จริงดิ้ โทรมาทำไมวะ"
"ไม่รู้เหมือนกันว่ามีเรื่องอะไร แต่พิงก์อยากพบแก"
เคนลุกขึ้นทันที
"ไป"
"เฮ้ย เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีกหรอก"
"ฉันไม่สน แกจะไปกับฉันหรือเปล่า"
พุฒินิ่งนิดนึงก่อนตัดสินใจ
"ไป ! ไปก็ไป"
เคนยิ้ม "มันต้องแบบนี้สิวะ"

พุฒิขับรถมาตามทาง เคนนั่งมาข้าง ๆ คิดด้วยสีหน้างง ๆ
"เฮ้ยพุฒิ ถามหน่อยสิ ฉันใช้โทรศัพท์ไม่ได้ แล้วทำไมแกถึงใช้ได้วะ"
"ไอ้เคน แกนี่ถามอะไรโง่ ๆ ก็แกยังเป็นสายลับฝึกหัด รอให้ฝึกเสร็จก่อนสิวะ"
"เออ"
ทันใดนั้นเองก็มีระเบิดตูมขึ้นมากลางถนนเสียงดังสนั่น พุฒิเบรกรถเอี๊ยดจนรถหมุนคว้าง เคนหน้าตาตื่น
"เฮ้ย !"
กลุ่มชายชุดดำเดินเข้ามา พร้อมด้วยปืน M16 ครบมือ
เคนหันมองหน้าพุฒิ
"เอาไงดีวะ"
"แกนิ่งไว้ก่อน ฉันจะลองเจรจากับพวกมันดู"
พุฒิเปิดประตู แล้วชูสองมือออกไป
"พวกคุณต้องการอะไร"
แต่แทนที่จะตอบ ท้ายปืนกลับกระแทกเข้าหน้าพุฒิล้มลง
เคนตกใจสุดขีด
"ไอ้พุฒิ !"
เขากระชากประตู พุ่งออกมาจากรถ แล้วเล็งปืนไปที่คนที่ซัดท้ายปืนใส่พุฒิ
"หยุดนะ !"
"แกนั่นแหละที่ต้องหยุด วางปืนซะ ไม่งั้นเพื่อนแกตาย"
ปลาย M16 เล็งตรงไปที่พุฒิ เคนยังยืนลังเล
ชายชุดดำตะคอก "เร็ว !"
เคนไม่มีทางเลือกอื่น เขาวางปืนลงกับพื้น ชายอีกคนเข้ามาจับแขนเขาไพล่หลัง แล้วมัดข้อมือทั้งสองติดกัน
เคนมองดูพุฒิที่ถูกดึงขึ้นมา มัดมือ แล้วใช้ผ้าดำคลุมหัว
เขาเองก็ถูกผ้าดำคลุมหัวเช่นกัน

ณ สถานที่ร้างแห่งหนึ่ง ผ้าดำคลุมที่คลุมหัวเคนถูกเอาออก เวลานี้เขาถูกมัดโยงไว้กับคานด้านบน
ชายชุดดำคนที่เป็นหัวหน้ายืนจ้องเขาอยู่ คนอื่น ๆ มองอยู่รายล้อม
"พวกแกเอาเพื่อนฉันไปไว้ที่ไหน"
"ยังจะห่วงเพื่อนอีกเหรอ ห่วงตัวแกเองเถอะ"
พูดแล้วเขาก็ซัดหมัดเข้าใส่เคนแบบไม่ยั้ง หลายต่อหลายหมัด
"แกต้องการอะไร"
"บอกทุกอย่างที่เกี่ยวกับฟีนิกซ์มา"
เคนมองจ้อง เขาแน่ใจว่าพวกนี้ต้องเป็นอาชญากรที่ต้องการล้มล้างฟีนิกซ์อย่างแน่นอน
"ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น"
"ไอ้โกหก"
ชายชุดดำประเคนหมัดใส่เคนไปอีกชุดใหญ่ จนหน้าแตกปากเคนแตก เลือดปริไหลออกมา

เคนถูกมัดไพล่หลังถูกพาไปยังอ่างขนาดใหญ่มีน้ำอยู่เต็ม ชายชุดดำจิกผมเคนจับกดน้ำ สักครู่จึงกระชากกลับขึ้นมา เคนอ้าปากรับอากาศอย่างคนใกล้หมดลมหายใจ
"บอกมาว่าหัวหน้าของแกเป็นใคร"
"ฉันไม่รู้"

เคนถูกจับกดลงไปในน้ำอีกครั้ง

เคนยังคงถูกมัดโยงไว้ แต่เวลานี้เขาสลบไม่รู้เรื่องแล้ว

ทันใดนั้นเอง พวกชายชุดดำก็สาดน้ำมันจากในถังใส่ร่างเขา
น้ำมันที่โดนหน้าทำให้เคนตื่นขึ้นมา มองอย่างตกใจ
"แกจะทำอะไรน่ะ"
"น้ำมัน...ก็น่าจะคู่กับไฟไม่ใช่เหรอ"
ชายชุดดำพูดแล้วหยิบไฟแชกออกมาหมุนเล่น
"อย่านะ"
"รู้จักกลัวแล้วหรือไง ถ้ากลัวก็พูดออกมาสิวะ มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ยอมตายเพื่อองค์กร ดูอย่างเพื่อนแกสิ"
"เพื่อนฉันทำไม"
"เพื่อนแกมันทนทรมานไม่ไหว ก็เลยพูดออกมาซะเกลี้ยง"
"ไม่จริงอ่ะ เขาไม่มีวันพูด"
"รู้ได้ยังไง สุดท้ายคนเรามันก็ต้องเอาตัวรอดกันก่อนทั้งนั้น หรือไม่จริง"
ชายชุดดำจุดไฟแชกออกมา
"ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าแกไม่พูด แกจะไม่ได้พูดอีก หนึ่ง !"
สีหน้าเคนตื่นกลัวและสับสน
"สอง !"
เคนยังคงกัดฟันแน่น
"อะไรกันวะ อุตส่าห์ทำขนาดนี้แล้ว แกยังไม่พูดอีกเหรอวะ สาม !"
ชายชุดดำปาไฟแชกออกไป
ไฟแชกหมุนอยู่กลางอากาศ
เคนร้องลั่น
"อ้า..... !"
ไฟแชกตกลงไปที่เคน เขายังอ้าปากร้องอยู่อย่างนั้น แต่ไฟกลับไม่ติดขึ้นมา
"อ้า..... !"
เสียงเขาค่อย ๆ เบาลง สีหน้าเปลี่ยนเป็นงง ๆ
"หา ?"
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงปรบมือดังเข้ามา เคนมองไปอย่างแปลกใจ
เจนเดินปรบมือออกมาจากมุมมืดของห้อง
"พี่เจน"
ชาคริตตามมา
"ชาคริต"
และสุดท้ายพุฒิ
"ไอ้พุฒิ นี่มันอะไรกันวะ"
"โทษทีที่ต้องทำแบบนี้ นี่เป็นส่วนหนึ่งของการฝึก"
"ใช่ ! สายลับทุกคนต้องทนต่อการทรมานทุกรูปแบบให้ได้"
"ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต้องไม่เปิดเผยความลับขององค์กรให้ศัตรูรู้เด็ดขาด"
"แต่พวกนี้ไม่ใช่ศัตรูหรอกนะ เขาเป็นพวกเดียวกับเรา"
ชายชุดดำบอก "ใช่ครับ พวกผมแค่แสดงไปตามบทบาท"
"แล้วที่พี่จะเผาผมเนี่ย ตามบทด้วยหรือเปล่า"
ชายชุดดำยิ้ม "เผาเผิวอะไรกันล่ะ นี่ไม่น้ำมัน แค่ทำให้ดูเหมือนเท่านั้น"
ชายชุดดำแก้มัดให้เคน
เจนเดินเข้าไปหาเคน
"เคน เธอผ่านการฝึกแล้วนะ"
เคนรู้สึกดีใจอยู่ลึก ๆ แต่ก็เหนื่อยจนยิ้มไม่ออก
"หมายความผมเป็นสายลับแล้วเหรอครับ"
"ใช่ ขอแสดงความยินดีด้วยนะสายลับเคน"
"ขอบคุณครับพี่เจน"
เคนหันไปมองพุฒิ พุฒิยิ้มให้และชูกำปั้นแทนคำชื่นชม

ยักษ์ บับเบิ้ล นับดาวนั่งเครียด บนโต๊ะมีกระดาษงานกระจัดกระจาย น้ายักษ์หยิบกระดาษดูทีละแผ่น สุดท้ายก็ถึงขั้นกุมกบาล
"ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้เรื่อง นี่ก็ไม่ได้เรื่อง โหย ไม่ได้เรื่องเลยสักอัน ตาย ! แบบนี้ตายแน่ ๆ"
เจ๊สาโผล่หน้ามา
"น้ายักษ์"
ยักษ์ไม่มีอารมณ์จะมอง
"อะไร้ ! คนกำลังเครียด ไม่เห็นหรือไง"
"มีคนมาหาน่ะน้ายักษ์"
"ใคร"
เคนโผล่หน้าเข้ามาในห้องประชุม
"ผมเอง"
ยักษ์ บับเบิ้ล นับดาวมอง ตาโต
"เฮ้ย !"
ชาคริตโผล่มาอีกผม
"ผมด้วย"
พุฒิโผล่มาเป็นคนสุดท้าย
"แล้วก็ผมอีกคน"
บับเบิ้ลกับนับดาวยิ้มดีใจ แต่ยักษ์กลับโกรธเลือดขึ้นมา
"มากันทำไมเนี่ย รู้ไหมว่าขาดงานกันไปเฉย ๆ แบบนี้ บริษัทเสียหายขนาดไหน ฉัน ‘ไล่’ พวกแกออก !"
เคน พุฒิ ชาคริตมองหน้ากัน
"โอเค ออกก็ออก" เคนบอก
เคน พุฒิ ชาคริต หันหลังไป บับเบิ้ล เจ๊สา นับดาวหน้าเหวอ ร้อง "อ้าว !"
ยักษ์มองแล้วเหมือนนึกอะไรขึ้นได้
"เดี๋ยว !"
ทั้งสามหันหน้ามา ใบหน้าไม่ยินดียินร้าย
"ก่อนจะไป มาคิดงานให้ก่อน ... คิดเสร็จ ขายเสร็จ ทำเสร็จ แล้วฉันค่อยไล่พวกแกออก"
ทั้งสามยืนเฉย
"มาซี่ มาเร็ว ๆ"
เคน พุฒิ ชาคริตเดินกลับเข้าไปในห้องประชุม ยักษ์แจกบรีฟงานให้ทั้งสามคน
"เอาไป เอาไป เอาไป ฉันให้เวลาครึ่งชั่วโมง คิดงานให้ออก"
ทั้งสามยิ้มขำ "คร้าบ"
ที่ประตู ซูซี่ขยับตัวเข้ามามอง จับจ้องที่เคน ดวงตาเป็นประกาย

ซูซี่ยืนอยู่มุมหนึ่งในบริษัท ในมุมที่ค่อนข้างลับ ไม่มีคนอื่น
"เคนกลับมาทำงานแล้วค่ะ"

ต่อมา ธงรบรับฟังด้วยใบหน้านิ่งเกร็ง
"มีอะไรผิดปกติบ้างหรือเปล่า"
"ไม่เลยค่ะ ท่าทางเหมือนไปเที่ยวพักร้อนกันมาอย่างนั้นแหละ"
"พวกมันคงพยายามปกปิด ไม่ให้ใครรู้ว่าไปทำอะไรมา"
"ซูซี่จะพยายามสืบให้เองค่ะ"
"อย่าให้ฉันรู้ก็แล้วกัน ว่าเธอแอบช่วยมันอีก"
"เชื่อใจซูซี่เถอะค่ะ จะไม่มีเรื่องแบบนั้นอีกแล้ว"

ที่บ้านเจ๊สา พิงก์เปิดท้ายรถ หยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกมา

พิงก์วางกระเป๋าแล้วเปิดออก ในนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์สายลับ ทั้งอาวุธสารพัด อุปกรณ์แปลงโฉม อุปกรณ์ในการพลางตัว และอื่น ๆ อีกมากมาย
เธอมองอย่างคิดแผนในใจ

เคนกับพุฒิปิดห้องคุยกันอยู่สองคน พุฒิถามเคนอย่างจริงจัง
"แกเข้าใจแผนแล้วนะ"
"เข้าใจแจ่มแจ้งเลยล่ะ จะให้ทวนให้ฟังอีกทีไหม"
"ไม่ต้องแล้ว"
"ถ้างั้นขอคิดงานแป๊บนะ แถวนี้มีคนจะคลั่งตายอยู่แล้ว"

ยักษ์นั่นเองที่กำลังคลั่ง
"โอย... คิดงานกันออกหรือยัง ได้หรือยัง !"

คืนนั้น บ้านธงรบดูเงียบสงบ มีลูกน้องธงรบยืนตรวจตราตามจุดต่าง ๆ แต่ก็มีจุดอับที่ให้ใครบางคนเล็ดลอดเข้ามาได้
พิงก์ ในชุดพลางตัว กระโดดจากกำแพงลงมาที่พื้น มองซ้ายมองขวา
อีกจุดหนึ่ง เคนกับพุฒิ ในชุดพลางตัว กระโดดเข้ามา พุฒิส่งสัญญาณมือให้เคนเตรียมรอเข้าไปในบ้าน ส่วนเขาจะแยกไปตัดระบบรักษาความปลอดภัย เคนพยักหน้าเข้าใจ พุฒิแยกหายไป
เคนถอยหลังอย่างระมัดระวัง โดยหารู้ไม่ว่าพิงค์กำลังถอยมาจากอีกทาง
ในที่สุดทั้งคู่ก็ถอยมาชนกัน ต่างสะดุ้งตกใจ
"เฮ้ย !"

ทั้งคู่หันขวับมาหากัน พร้อมชักปืนเล็งมาที่กัน หากใครลงมือก่อน ปฏิบัติการครั้งนี้ก็จะล้มเหลวทันที และที่มากกว่านั้น มันย่อมหมายถึงความสูญเสีย ซึ่งทั้งคู่คงไม่อยากให้เกิดอย่างแน่นอน

อ่านต่อตอนที่ 9


กำลังโหลดความคิดเห็น