xs
xsm
sm
md
lg

พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 5 : “ยูซ่า" เทพธิดาแห่งดวงดาว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 5 : “ยูซ่า" เทพธิดาแห่งดวงดาว

บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : จรูญพร ปรปักษ์ประลัย



เจนและยักษ์จ้องหน้าเคนด้วยสายตาจริงจัง

"พี่เจน น้ายักษ์ จะให้ผมพูดซักกี่ที ผมก็พูดเหมือนเดิม ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าจะไปเสกยูซ่ามาให้ได้ยังไง"
"เคน ให้น้าไหว้ก็ได้วะ งานนี้มันสำคัญกับบริษัท เคนจะทำเพื่อเราทุกคนสักครั้งไม่ได้เหรอ"
"แต่น้าครับ"
ยักษ์รีบพูดดักไว้ "อย่า ! อย่าบอกนะว่าเคนไม่ใช่ยูซ่า"
เคนอึ้งไปกับคำพูดของยักษ์
"ทุกคนเขารู้กันหมดแล้วเคน ... เคน ไม่ว่าคนเราจะปฏิเสธความจริงยังไง เราก็หนีมันไปไม่พ้นหรอก" เจนบอก
เคนพูดไม่ออก รู้สึกกดดันอย่างที่สุด
"โอเค ๆ ไม่พูดแล้วก็ได้ ใช้สมองคิดเอาเองก็แล้วกัน โต ๆ กันแล้ว"

ต่อมา เคนเปิดประตูห้องเจนออกมา หน้ามุ่ยหงุดหงิด พนักงานคนอื่น ๆ ในบริษัท ยืนกระจายกันอยู่ต่างหันมามองเคน
เคนหลบตาไม่มองใคร จนกระทั่งพุฒิเข้ามาประกบ
"เป็นไงมั่งวะเคน"
เคนมองไปรอบ ๆ แล้วบอกกับพุฒิ
"ไปคุยกันที่อื่นเหอะ"

ณ ที่แห่งหนึ่ง เคนกับพุฒิยืนพูดกันอย่างซีเรียส
"โต ๆ กันแล้วมันเกี่ยวตรงไหนวะ ... เฮ่อ ทำไมฉันไม่กลายเป็นมนุษย์ล่องหน หายวับจากโลกนี้ไปเลยวะ กดดันโว้ยกดดัน"
"ช่วยไม่ได้นี่หว่า ในเมื่อคนทั้งบริษัทรู้กันหมด ว่าแกเป็นยูซ่า"
"เรื่องนั้นมันก็ใช่ แต่ไอ้ที่ฉันยังไม่รู้น่ะสิ ทำไมอยู่ ๆ ฉันถึงได้ขึ้นไปกระโดดโลดเต้นบนเวที เป็นยูซ่งยูซ่าอะไรนั่น ใครจะบอกฉันได้มั่งวะ"
"ใครจะไปบอกแกได้ ก็มีแต่แกนั่นแหละ ไอ้เคน แกต้องรีบนึกให้ออก ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแก"
ไม่ไกลจากสองคนนั้นนัก ซูซี่หลบมุมแอบฟังสองหนุ่มคุยกัน สีหน้าเธอเต็มไปด้วยความสนใจ
จังหวะนั้นเอง มีใครบางคนเดินตรงไปหาเคนและพุฒิ ซูซี่รีบขยับตัวหลบลึกเข้าไป แต่ยังคงไม่ละสายตา
"เคน"
เคนและพุฒิหันไปมอง
"พิงก์"
ซูซี่ที่ยังมองดูอยู่ที่เดิมมีท่าทีเอะใจ ไม่พอใจขึ้นมาเมื่อเห็นพิงก์
"ขอคุยอะไรหน่อยได้ป่ะ"
"คุยอะไรเหรอ นึกว่าเกลียด ไม่อยากจะคุยด้วยซะแล้ว"
"ก็ไม่ได้ถึงขนาดนั้นหรอก"
"เรื่องงานหรือเปล่า"
"เรื่องของเรา"
พิงก์หันไปมองพุฒิ เคนก็มองพุฒิเช่นกัน พุฒิรู้ตัวทันที
"โคเอ รู้ตัวแระ"
พุฒิยกมือ ‘บาย’ แล้วเดินไป
พิงก์กับเคนหันกลับมามองหน้ากัน แต่ยังไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา
ซูซี่มองมาจากที่ซ่อน ด้วยความอยากรู้อยากเห็น แกมริษยาเมื่อเห็นทั้งคู่เริ่มกลับมาคุยกันอีกครั้ง
เคนและพิงก์ยืนเคียงข้างกัน มองไปยังท้องฟ้า
"ที่จริง เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดเคนเลยนะ"
"ไม่ค่ะ"
เคนมีสีหน้าแปลกใจ พิงก์หันมาพูดกับเคน
"ไม่ใช่เคนที่ต้องเคลียร์ แต่เป็น ‘เรา’ ต่างหาก เราจะช่วยกันหาคำตอบ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเคน"
เคนมองพิงก์อย่างซาบซึ้ง
"พิงก์ขอโทษนะ ที่ผ่านมาพิงก์เอาแต่โกรธ แทนเราจะช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ ช่วยกันหาทางออก"
"ผมก็เหมือนกัน แทนที่จะบอกทุกอย่างกับพิงก์ กลับเก็บปัญหาไว้คนเดียว ทั้ง ๆ เรากำลังจะแต่งงานกัน"
เคนจับมือพิงก์แล้วดึงเข้ามากอด พิงก์กอดตอบ
"เรายังรักกันอยู่ใช่ไหมครับ"
"ถามได้ ก็เพราะรักน่ะสิ"
ทั้งคู่ยิ่งกอดกันแน่น

ซูซี่มองอย่างริษยา ดวงตาร้อนผ่าวด้วยความหึงหวง
ทันใดนั้นมีเสียงกระแอมขึ้นมา
"อะแฮ่ม"
ซูซี่หันขวับไปมองอย่างตกใจ พุฒิเดินเข้ามาใกล้
"แอบดูคนเขาจู๋จี๋กัน เขาเรียกว่าพวกคนถ้ำรู้ไหมครับ"
"ถ้ำอะไร"
"ก็ถ้ำมองยังไงล่ะครับ"
ซูซี่มองหน้าพุฒิแบบเคือง ๆ
"คุณก็เหมือนกันนั่นแหละ คงแอบดูฉันอยู่นานแล้วสิ"
"เปล่าครับ พอดีผมเห็นอะไรแวบ ๆ คลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นคุณ ก็เลยแวะมาดูให้แน่ใจ แล้วก็ไม่ผิดหวังซะด้วย"
"เหรอคะ ระวังตัวไว้บ้างก็ดีนะคะ บางทีอะไรที่เห็นแวบ ๆ มันก็อาจทำให้ต้อง ‘เจ็บ’ ก็ได้"
ซูซี่พูดแล้วเดินหนีไป แกล้งชนไหล่พุฒิแบบหงุดหงิด พุฒิหันมองตาม ใบหน้าที่ยิ้ม ๆ เปลี่ยนเป็นสงสัยในตัวซูซี่

ในขณะเดียวเดียวกัน ซูซี่ก็มองด้วยปลายตา ด้วยความไม่ไว้วางใจพุฒิเช่นกัน

พุฒิเปิดประตูห้องประชุมเข้ามา ยักษ์และคนอื่น ๆ ปรี่เข้าไปหาพุฒิอย่างร้อนใจ

"เป็นไงมั่งพุฒิ กล่อมไอ้เคนสำเร็จไหม" ยักษ์ถาม
พุฒิส่ายหน้า
"ยังครับน้า"
ยักษ์และทุกคนมีสีหน้าผิดหวังขึ้นมาทันที
"โหย แล้วแบบนี้จะทำยังไงกันวะเนี่ย เวลาใกล้เข้ามาแล้วนะ"
"นั่นน่ะสิคะ ถ้าลูกค้ายกเลิกงาน เราไม่ต้องสูญเงินไปตั้งหลายล้านเหรอคะ" นับดาวว่า
"ไม่ได้ ยังไงจะยอมให้งานนี้หลุดไม่ได้"
เจ๊สาบอก "แต่ถ้าเคนไม่ยอมซะอย่าง เราจะทำอะไรได้คะ"
"นั่นน่ะสิ มองไม่เห็นทางเลยอ่ะน้า" บับเบิ้ลว่า
"อย่า อย่าบอกคนอย่างน้ายักษ์ว่าไม่มีทาง"
ยักษ์เดินไปเดินมาอย่างหงุดหงิด ขณะที่คนอื่นก็นั่งคิดยืนคิดอยู่ในมุมของตัวเอง
แล้วยักษ์ก็ปิ๊งไอเดีย หยุดและโพล่งขึ้นมาอย่างดีใจ
"คิดออกแล้ว คิดออกแล้วโว้ย"
ทุกคนหันมามองยักษ์เป็นตาเดียวกัน
"นางโชว์ไม่ได้มีคนเดียวในโลก หาใครสักคนมาแทนยูซ่า คนที่เหมือนยูซ่าเป๊ะ ๆ จนใครก็จับไม่ได้"
ทุกคนดูเหมือนเห็นคล้อยตาม
"โอเคน้ายักษ์ ผมจัดการให้เอง เอาพวกลูก ๆ ของเจ๊หว่างนี่แหละ ต้องมีสักคนสิน่า" บับเบิ้ลว่า
"ครับน้า"
"เยส !" ยักษ์โม้ต่อ "เห็นหรือยัง ทางมันต้องมีเว้ย อยู่ที่เรานี่แหละ ว่ามองหามันดี ๆ แล้วหรือยัง"
ทุกคนออกอาการดีใจที่พบทางออกสำรอง
เคนเปิดประตูเข้ามา มองทุกคนอย่างแปลกใจ
"มีอะไรเหรอครับ ดีใจอะไรกัน"
ยักษ์เดินเข้าไปหาเคน
"เคน น้าขอถามอีกครั้ง ถามเป็นครั้งสุดท้าย เคนจะยอมเป็นยูซ่าให้ไหม"
เคนดูลำบากใจ
"น้ายักษ์ครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากจะช่วยนะ แต่ว่า..."
ยักษ์รีบตัดบท "โอเค จบข่าว ไม่ต้องพูดต่อแล้ว"
เคนอึ้งไป ด้วยความงงว่าเกิดอะไรขึ้น

สตูดิโอเล็ก ๆ ทาผนังสีเดียวเรียบ ๆ ใช้เป็นที่สำหรับการทดสอบหาคนเหมือนยูซ่า
สาวคนหนึ่งกำลังแสดงท่าเลียนคลิปยอดนิยมแบบยูซ่า อยู่หน้ากล้องซึ่งพุฒิเป็นคนถ่าย รายนี้นอกจากจะหน้าไม่เหมือนแล้ว ยังหลุด ๆ รั่ว ๆ ไม่ตรงตามที่ยูซ่าแสดงไว้เลย
ยักษ์ เคน ซูซี่ บับเบิ้ล และนับดาว ดูด้วยความเบื่อหน่าย
สุดท้ายยักษ์ก็ยกมือบอกให้หยุด เพลงเฝดลง
"อ่ะ ๆ ขอบคุณ คนต่อไป"

นางโชว์คนถัดมา ก็อปโชว์เดียวกัน แต่รูปร่างหน้าตาลีลาไม่ได้เลย
ยักษ์มองดูแล้วส่ายหน้า ว่าไม่ได้เลย

นางโชว์คนที่สาม ก็อปโชว์เดียวกัน แต่ก็ยังคงไม่ใกล้เคียงอีก
ทุกคนดูเซ็งกว่าเดิม

นางโชว์คนที่สี่ ก็อปโชว์เดียวกัน คนนี้เตลิดเปิดเปิง เว่อร์สุด ๆ จนล้มหลุดเฟรมไป ก่อนกลับเข้ามาโชว์ต่อ
ยักษ์ยืนขึ้นพูด
"โอเค พอได้แล้ว คนต่อไป"
นางโชว์เดินออกไป บับเบิ้ลเข้ามาบอกยักษ์
"หมดแล้วครับน้า"
ยักษ์ร้อง "หา !"
"ไม่ต้องหงต้องหาเลยน้า ที่ดูไปเนี่ยเป็นสิบแล้วนะ"
"แต่มันยังใช้ไม่ได้เลยนี่หว่า เร็ว ไปหามาเพิ่มอีก"
"โหยน้ายักษ์ แล้วนี่ต้องหามาอีกแค่ไหนเนี่ย"
"ก็หามาให้เยอะที่สุดนั่นแหละ จะเจ๊หว่าง เจ๊แหว่ง หรือเจ๊ไหน ๆ เอ็งก็โทร.ไปกราบกราน ให้คุณเจ๊ทั้งหลายช่วยส่งเด็กมาให้ที"
"ก็ได้"
บับเบิ้ลยกโทรศัพท์กดออกแล้วรอสาย
ซูซี่ลุกขึ้น เคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เหลือบตามองตาม ซูซี่เดินเข้าไปหายักษ์และบับเบิ้ล
"เสียเวลาเปล่าค่ะ ในโลกนี้มียูซ่าคนเดียว ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน นอกจาก..."
ซูซี่หันไปมองเคน คนอื่น ๆ ก็เช่นกัน ทั้งห้องเงียบกริบ รอให้เคนพูดอะไรออกมา เคนลุกขึ้นมาอย่างหงุดหงิด
"ก็... ผมบอกแล้วไง ว่าผมก็อยากจะช่วย แต่..."
"คุณเคนคะ ซูซี่ขอร้องล่ะ"
พุฒิเข้ามาขอร้องอีกคน
"นะไอ้เคน"
นับดาวขอร้องบ้าง "นะคะคุณเคน"
เคนมองไปรอบ ๆ ทุกคนต่างมองด้วยสายตาเว้าวอน ยักษ์พยักหน้าเป็นสัญญาณให้เคนยอมตอบรับ
"ก็ได้ ๆ ลองดูก็ได้"
ทุกคนดีใจร้องเฮลั่น ...ยักษ์/บับเบิ้ล/นับดาว"เย่ !"
เคนเซ็งที่หลุดปากออกไป
"แต่ถ้าวันถ่ายทำ เกิดผิดพลาดอะไรขึ้นมา โทษผมไม่ได้นะ"
ซูซี่เดินเข้ามากุมมือ และมองหน้าเคน
"คุณเคน"
เคนมองตอบ
"ขอบคุณนะคะ"

ซูซี่พูดกับเคนเหมือนอยู่ในโลกกันสองคน แต่ที่จริงระหว่างคนทั้งสอง พุฒิมองดูอยู่ด้วยสายตาสงสัย

ต่อมา ซูซี่หลบมุมพูดโทรศัพท์อยู่

"เรียบร้อยแล้วค่ะ"
พุฒิที่เคยตามดูอยู่ เข้ามาหยุดมอง โดยที่คิดว่าซูซี่คงจะไม่รู้

ธงรบตอบโทรศัพท์อย่างพอใจ
"เยี่ยม ที่เหลือก็แค่รอดู ว่าถึงวันถ่ายทำ ยูซ่าจะมาจริงหรือเปล่า"
"ใช่ค่ะ แต่ซูซี่ยังมีอีกเรื่อง"
ซูซี่ปรายตาไปข้างหลัง ตรงที่พุฒิยืนอยู่
"เรื่องอะไร"
"ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ค่ะ เอาไว้เจอกันแล้วจะบอก แค่นี้ก่อนนะคะ"
ซูซี่วางสายแล้วหมุนตัวหันไป ก็เจอพุฒิยืนยิ้มอยู่และยื่นแก้วกาแฟให้
"กาแฟไหมครับ"
ซูซี่ไม่สนใจคำชวนของพุฒิ สายตามองพุฒิอย่างเคือง ๆ
"ขอบคุณค่ะ แต่ฉันไม่ดื่มกาแฟ แล้วก็ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายด้วย"
ซูซี่เดินไปโดยไม่พูดอะไรให้มากกว่านั้น ในใจเธอคิดว่า ถ้าพุฒิล้ำเส้นมากไปกว่า ก็คงปล่อยเขาไว้ไม่ได้
พุฒิจิบกาแฟมองซูซี่ เริ่มมั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้คงมีอะไรซ่อนอยู่แน่

ธงรบวางโทรศัพท์ลง ชิปปี้ถามด้วยความสงสัย
"เพราะอะไรนายถึงได้มั่นใจนักล่ะครับ ว่าเราจะได้อะไรจากนังยูซ่า"
"ก็เพราะครั้งสุดท้ายที่ฉันเจอไอ้สายลับนั่น มันเป็นที่บาร์ยูโทเปียน่ะสิ"
"ครั้งสุดท้าย ?"
"ใช่ เมื่อสองปีก่อน"

เมื่อ 2 ปีก่อน จอร์ชเปิดประตูออกมาด้านหลังบาร์ยูโทเปีย
คนสามคนที่ยืนพิงกำแพงอยู่ ขยับเดินตามไป
จอร์ชรู้ตัว แต่ก็ยังคงเดินไปต่อ จนกระทั่งมีคนอีกสามคน เข้ามาขวางไว้
"มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่า"
ธงรบในเงามืด"แกก็รู้นี่ ว่าฉันต้องการอะไร"
ปืนในมือธงรบเล็งตรงไปที่จอร์ช
จอร์ชไม่รอช้า เขาตวัดเท้าเตะปืนในมือธงรบ จนปืนกระเด็นไป แล้วถีบซ้ำเข้าไปอีกที
ธงรบรีบกระโดดขึ้นตั้งหลัก มองจ้องจอร์ช ลูกน้องของธงรบเข้ามาจะรุมอัดจอร์ช แต่ธงรบทำสัญญาณมือ บอกให้ทุกคนถอยออกไป ทั้งหมดทำตามคำสั่ง
แล้วจอร์ชกับธงรบจะเข้าสู้กันท่ามกลางความมืด ทั้งคู่ผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างดุเดือด สุดท้ายธงรบพลาดเสียท่า แต่เขาก็ไม่ยอมง่าย ๆ เพียงเสี้ยววินาที เขาก็โผไปหยิบปืนบนพื้นขึ้นมา ยิงใส่จอร์ช ปัง !
จอร์ชนิ่งค้างอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะทรุดฮวบไป
ธงรบเข้าไปหาจอร์ช พยายามค้นหาของในตัวเขา
"อยู่ไหน ของของฉันอยู่ที่ไหน"
จอร์ชยิ้มอย่างสะใจ
"หาให้ตาย แกก็หาไม่เจอ เพราะมันไม่ได้อยู่ที่ฉัน"
"แล้วมันอยู่กับที่ไหน กับใคร"
จอร์ชยิ้มอย่างสะใจ ก่อนที่จะสิ้นลมหายใจ
"โธ่เว้ย"
ธงรบลุกขึ้น กระหน่ำกระสุนใส่ร่างจอร์ชเข้าไปอีกหลายนัด ปัง ปัง ปัง
ธงรบยืนกำปืนแน่น ขบกรามแน่นจนเส้นขึ้นหน้า

ธงรบพูดต่อด้วยสีหน้าครุ่นคิด
"ที่จริงฉันน่าจะเอะใจมากกว่านี้ ถ้าไม่จับได้ซะก่อน ว่ามีสายลับอีกคน แฝงตัวเข้ามาทำงานกับเรา"
"ใครกันเหรอครับนาย"
"King Crow"
ชิปปี้กับแม้กกี้ฟังแล้วเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว ทั้งคู่มองหน้ากัน แล้วพูดชื่อ King Crow โดยไม่ออกเสียง ก่อนหันกลับไปสนใจธงรบ
"ฉันหลงคิดมาตลอดว่า King Crow หรือเคน อโณทัย คือคนที่เอาของไปซ่อนไว้"

ในอดีต ... เคนในร่างของ King Crow ถูกมัดเหมือนกระสอบทรายอยู่กลางเวที
ธงรบต่อยหลายหมัดเข้าที่หน้า King Crow จนปากแตก แก้มปริ เลือดไหลออกมา
"แกจะบอกได้หรือยัง ว่าเอาของไปซ่อนไว้ที่ไหน"
King Crow มองหน้าธงรบ ไม่ตอบ สิ่งที่เขาทำคือ ถ่มน้ำลายปนเลือดใส่เข้าหน้าธงรบ
"ถุย !"

ธงรบมองจ้อง King Crow อย่างโกรธจัด ขณะรับผ้าจากลูกน้องมาเช็ดหน้า จากนั้นก็โยนผ้าทิ้ง แล้วหยิบโซ่ขึ้นมาพันมือไว้ กะจะกระหน่ำ King Crow ด้วยหมัดหุ้มโซ่

ธงรบยิ้มอย่างนึกขำตัวเอง

"คิดไม่ถึง ว่ามันไม่ได้แค่แฝงตัวมาอยู่กับเรา แต่ยังปลอมตัวเป็นนางโชว์ เพื่อนัดพบกับไอ้สายลับนั่นด้วย"
"ผมเข้าใจแล้วครับนาย" ชิปปี้บอก
"ตอนนี้เรารู้ตัวมันแล้ว อีกไม่นาน เราต้องได้ของของเราคืนมาแน่"

พิงก์หันมาพูดกับเคนอย่างซีเรียส
"ถ้าไม่แน่ใจ เคนไปรับปากทุกคนอย่างนั้นได้ไงน่ะ"
"ก็ไม่ได้อยากรับปากหรอก แต่สถานการณ์มันบังคับ ถ้าพิงก์อยู่ตรงนั้นด้วยนะ พิงก์จะเข้าใจ สายตาทุกคนเนี่ย โอ้โห อย่างเว้าวอนเลย เหมือนเคนเป็นความหวังสุดท้าย ถ้าเคนไม่ช่วย ทุกคนต้องแย่กันหมด"
เคนมองดูภาพสตอรีบอร์ดบนโต๊ะ
"แล้วนี่เคนคิดไว้หรือยัง ว่าจะทำยังไง"
"ก็คิด ๆ ไว้บ้าง แต่ก็ไม่ชัวร์ว่ามันจะเวิร์คหรือเปล่า"
"ยังไงเหรอ"
"ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ผมจะเป็นยูซ่าเฉพาะตอนที่หลับใช่ไหม"
"ใช่"
"นั่นแหละ เพราะฉะนั้นทำยังไงก็ได้ ให้ผมหลับก่อนที่จะถึงเวลาถ่ายทำ จบ นี่คือทั้งหมดที่คิดไว้"
"แล้วเกิดไม่ได้ผลล่ะเคน"
"ถ้าไม่ ผลก็ตัวไปตัวมันก็แล้วกัน ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว"
เคนวางสตอรีบอร์ดลงเครียด ๆ
ใกล้ช่องสุดท้ายของสตอรีบอร์ด เป็นภาพวาด ‘เทพธิดาแห่งดวงดาว’ ซึ่งยูซ่าต้องสวมบทบาท

ในห้องประชุม ภาพวาดกลายเป็นภาพคีย์ วิชวลที่ใช้โปรแกรมทำขึ้นมา โดยนำหน้ายูซ่ามาใส่ในชุดเทพธิดาที่เตรียมไว้ ให้ใกล้เคียงกับของจริง
ธงรบมองดูรูปนั้นโดยไม่พูดอะไร ทุกคนมองธงรบแบบลุ้น ๆ
"โอเค ผมซื้อไอเดีย"
ทุกคนยิ้มโล่งอก
"แต่ข้อแม้ยังเหมือนเดิม"
หน้าทุกคนกลับมากังวลอีกครั้ง
"พรีเซนเตอร์ต้องเป็นยูซ่าเท่านั้น"
"ครับคุณธงรบ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง คนของผมกับยูซ่านี่สนิทกันมาก... เรียกว่าแทบจะเป็นคน ๆ เดียวกันเลยก็ว่าได้ จริงไหม เคน" ยักษ์ว่า
ทุกคนมองไปที่เคน เคนนิ่งไม่พูด
ยักษ์เสียงเข้มขึ้น "เคน"
เคนตอบแบบขอไปที "ครับ"
ธงรบมองหน้าเคนแล้วยิ้มแบบมีนัยยะ
"ถ้างั้นก็ดี อย่าทำให้ผมต้องผิดหวังก็แล้วกัน"

ยักษ์ ซูซี่ นับดาว และบับเบิ้ลเดินประกบธงรบมา
"ยังไงรายละเอียดคิวถ่ายทำจะรีบให้น้องผมส่งให้นะครับ คุณธงรบอยากมาดูการถ่ายทำตอนไหน ก็มาได้เลยครับ แต่ถ้าคุณธงรบไม่ว่าง ก็ไม่ต้องห่วง รับรองทุกอย่างจะเรียบร้อยสมบูรณ์ ตรงตามที่คุณธงรบคิดฝันไว้เป๊ะ"
"โอเค ผมจะมามาพบยูซ่าด้วยตัวผมเอง"
"ครับ ได้เลยครับ"
"แค่นี้แหละ ไม่ต้องไปส่งแล้ว"
"ซูซี่ไปเองค่ะ พอดีมีอะไรต้องคุยกับคุณธงรบอีกนิดหน่อย"
"จ้า ฝากดูแลด้วยนะ"
"ค่ะ"
ซูซี่กับธงรบเดินไป ยักษ์มองตาม คนอื่นมองตาม
บับเบิ้ลบอก "สรุปตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเคนคนเดียว"
"คงต้องลุ้นกันหนักหน่อย งานนี้จะรุ่งหรือร่วงก็มันนี่แหละ"

ธงรบกับซูซี่เดินมาที่รถซึ่งจอดรออยู่
"ไหนว่ามีเรื่องอะไรจะบอก"
"มีคนในบริษัทนี้ที่คอยตามดูซูซี่อยู่ค่ะ"
"เหรอ เธอนี่ยังเสน่ห์แรงเหมือนเดิมนะซูซี่"
"มันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิคะ ซูซี่กลัวว่าถ้าขืนเขายังยุ่มย่ามอยู่อย่างนี้ สุดท้ายเขาอาจจะรู้ ว่าซูซี่ทำงานให้คุณ"
ธงรบถามอย่างนึกสนุก "ถ้างั้นเราทำยังไงกับมันกันดีล่ะ"
"ยังไงก็ได้ค่ะ ขอแค่ให้เขาไปพ้น ๆ ไม่เกะกะขวางทาง จนกว่างานนี้จะสำเร็จ"
"ได้ มันเป็นใคร"
"เขาชื่อพุฒิค่ะ"
ธงรบนึกตามทันทีว่าใครคือพุฒิ
"พุฒิ ?"
"ค่ะ แต่คน ๆ นี้ไม่ธรรมดา ซูซี่เคยเห็นฝีมือมาแล้ว"
"คนไม่ธรรมดา ... ถ้างั้นก็ต้องจัดอะไรที่ไม่ธรรมดาให้มันน่ะสิ"
"ค่ะ"
ธงรบยิ้มและพยักหน้าอย่างนึกสนุก ก่อนที่จะก้าวขึ้นรถไป
คนขับรถปิดประตูให้ เข้าไปนั่งที่คนขับ แล้วรถก็แล่นออกไป ซูซี่มองตามไป พลางนึกว่าธงรบจะทำอย่างไรกับพุฒิ

เจนบอกกับพุฒิด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น
"พุฒิ เราต้องเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส บางทีคราวนี้เราอาจได้อะไรจากยูซ่าก็ได้"
"ไม่มีประโยชน์หรอกครับ ผมเคยลองแล้ว ยูซ่าจำเรื่องของที่ซ่อนไว้ไม่ได้เลย"
"อย่าเพิ่งด่วนสรุปสิ อย่าลืมว่าความทรงจำของเคนกำลังค่อย ๆ กลับคืนมา วันนั้นกับวันนี้อาจไม่เหมือนกันก็ได้"
"จริงด้วย ผมลืมคิดเรื่องนี้ไป"
"เราเสียเวลากับการตามของนี้มานานแล้ว อย่าให้มันหลุดมือเราไปเด็ดขาด"
"ครับ"

เคนเปิดประตูห้องออกมา ซูซี่เดินยิ้มเข้ามา
"คุณเคน"
"ครับคุณซูซี่ มีอะไรหรือเปล่าครับ"
"เรื่องโฆษณา Star Beauty น่ะค่ะ หวังว่าคุณคงไม่โกรธนะคะ ที่ซูซี่ทำให้คุณต้องยอมตกกระไดพลอยโจน แต่เราไม่มีทางเลือกอื่นจริง ๆ"
"ครับ แค่นี้ใช่ไหมครับคุณซูซี่ ผมต้องไปแล้ว"
เคนเดินไป ซูซี่มองตาม เคนเดินไปหาพิงก์ที่ยืนรอ
"ไปกันเถอะ"

เคนกับพิงก์เดินไปด้วยกัน ซูซี่มองตามอย่างโกรธแค้น

เคนกับพิงก์เดินไปที่รถ 
 
"เมื่อกี้เคนคุยอะไรกับคุณซูซี่เหรอ"
"ไม่มีอะไรหรอก แค่เรื่องงานน่ะ"
"เคนไม่ได้คิดอะไรกับเค้าใช่ไหม"
"เปล่า !"
"แต่เหมือนว่าเค้าจะคิดนะ แล้วที่แปลก เค้าทำตัวสนิทกับเคน อย่างกับว่าเคยรู้จักกันมาก่อนอย่างนั้น"
เคนอึ้งไป เพราะซูซี่ก็เคยถามเขาว่า จำเธอไม่ได้หรือ
"อาจเพราะต้องทำงานด้วยกันน่ะ เค้าก็เลยพยายามทำตัวสนิทด้วย"
"พิงก์ว่าไม่ใช่แค่นั้นหรอก"
"หมายความว่าไง"
"พิงก์ลองสอบถามไปที่บริษัทต่าง ๆ ในประวัติการทำงานของเค้า แล้วไงรู้ไหมคะ"
เคนหันไปหาพิงก์ สีหน้าอยากรู้เต็มที่
"ทุกที่ยืนยันว่าคุณซูซี่ไม่เคยทำงานอยู่ที่นั่น"
"หา ! เรารีบกลับไปบอกพี่เจนกับน้ายักษ์กันเหอะ"
เคนดึงพิงก์หันหลังกลับอย่างร้อนใจ แต่พิงก์ยื้อไว้
"อย่าเพิ่งเลย บอกไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา งาน Star Beauty เค้าเป็นคนเอาเข้าบริษัท ต่อให้รู้ว่าปั้นประวัติปลอมให้เว่อร์ซักแค่ไหน ก็ไม่มีผลอะไรหรอก"
"แต่เราก็ไม่ควรปล่อยไว้แบบนี้"
"อย่างน้อยตอนนี้เราก็รู้แล้ว ว่ามี ‘ไฟ’ อยู่ใกล้ตัว สิ่งที่เราต้องทำคือคอยระวัง ไม่ให้มันมาไหม้เรา หรือลุกลามออกไป"
เคนเห็นด้วยกับพิงก์ ถึงอย่างนั้นสีหน้าเขาก็ยังเต็มไปด้วยความกังวล
"อยากรู้จังว่าเค้าคิดจะทำอะไรของเค้า"
"อีกไม่นานหรอกค่ะ เค้าต้องเผยตัวจริงออกมาแน่"
เคนพยักหน้าเห็นด้วย พิงก์ก้าวขึ้นไป เคนก้าวขึ้นตาม แล้วขับรถออกไป

ในรถ สีหน้าเคนมีแต่ความเคร่งเครียด พิงก์ก็เช่นกัน

คืนนั้น ซูซี่นั่งจิบค็อกเทลนิ่ง ๆ เศร้า ๆ ที่บาร์แห่งหนึ่ง ในสมองมีแต่ภาพอดีต

เคนในร่างของ King Crow ถูกมัดเหมือนกระสอบทรายอยู่กลางเวที
ธงรบต่อยหลายหมัดเข้าที่หน้า King Crow จนปากแตก แก้มปริ เลือดไหลออกมา
"แกจะบอกได้หรือยัง ว่าเอาของไปซ่อนไว้ที่ไหน"
King Crow มองหน้าธงรบ ไม่ตอบ สิ่งที่เขาทำคือ ถ่มน้ำลายปนเลือดใส่เข้าหน้าธงรบ
"ถุย !"
ธงรบมองจ้อง King Crow อย่างโกรธจัด ขณะรับผ้าจากลูกน้องมาเช็ดหน้า จากนั้นก็โยนผ้าทิ้ง แล้วหยิบโซ่ขึ้นมาพันมือไว้ กะจะกระหน่ำ King Crow ด้วยหมัดหุ้มโซ่
ทันใดนั้นเอง ซูซี่ก็ก้าวเข้าไปหาธงรบ
"คุณธงรบค่ะ"
ธงรบหันมาซูซี่โดยไม่พูดอะไร
"ให้ซูซี่จัดการต่อเองเถอะค่"
"แน่ใจนะ ว่าเธอจะทำให้มันยอมพูดออกมา"
"ค่ะ"
ธงรบโยนโซ่ทิ้งลงกับพื้น หันหลังเดินออกมา แต่เมื่อถึงลูกน้องคนหนึ่งเขาก็หยุด สั่งพอให้ได้ยิน
"คอยเฝ้าพวกมันไว้"
"ครับนาย"
ธงรบเดินจากไป ซูซี่มองหน้าเคน
"เคน !"
เคนเงยหน้ามองซูซี่ แต่ไม่เอ่ยคำใด ๆ
"เคนจะยอมตายไปกับของนั่นจริงเหรอ"
เคนยังคงนิ่งเงียบ
"พูดออกมาสิ พูดออกมา"
ซูซี่หยิบโซ่ขึ้นมา แล้วฟาดไปบนร่างของเคน เสียงโซ่กระทบร่างดังลั่น แต่เคนก็กัดฟันข่มความเจ็บ
ธงรบหันกลับมามอง แล้วยิ้มอย่างพอใจ สะใจ
"พูดออกมาเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้ !"

แล้วน้ำตาซูซี่ก็ไหลออกมา โดยไม่มีใครเห็น นอกจากเคนเท่านั้น

ซูซี่ยังคงจิบค็อกเทลอยู่ที่บาร์ ใครคนหนึ่งนั่งลงข้าง ๆ คือพุฒินั่นเอง

"อะไรก็ได้ ขอที่มันแรง ๆ"
บาร์เทนเดอร์รินวอดก้าส่งให้พุฒิ
ซูซี่เหลือบตามอง หน้าเปลี่ยนเป็นเซ็ง เบื่อหน่ายทันที
"นี่คุณ ตกลงคุณจะตามฉันไปถึงไหนกันเนี่ย"
"เหรอครับ นี่ผมไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย สงสัยคงจะมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างอยู่แถว ๆ เนี้ย"
พุฒิยื่นมือไปวนรอบตัวซูซี่ ซูซี่ลุกพรวดขึ้น
"ฉันไปหละ แล้วไม่ต้องตามมาอีกล่ะ"
"เดี๋ยวสิครับ ผมมีอะไรจะถาม"
"ว่ามา"
"คุณกับไอ้เคน เคยรู้จักกันมาก่อนใช่ไหม"
ซูซี่อึ้งไปกับคำถามนั้น ก่อนที่จะตอบออกไป
"มันเรื่องอะไรของคุณ"
"ก็ไอ้เคนมันเป็นเพื่อนผม แล้วผมก็ดันมาชอบคุณ เกิดคุณสองคนเคยเป็นกิ๊กกัน หรือว่าถ่านไฟเก่ายังไม่มอด กลับติดพึ่บติดพั่บขึ้นมาอีก ผมจะได้เตรียมทำใจไว้แต่เนิ่น ๆ ยังไงล่ะครับ"
"งั้นก็เตรียมใจไว้ได้เลย ยังไงฉันก็ไม่สนคุณ แล้วก็ขอเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ว่าเลิกยุ่งกับชีวิตฉันได้แล้ว"
ซูซี่เดินออกไป พุฒิหยิบแก้ววอดก้าขึ้นมาดื่ม โดยที่สายตายังคงไม่ละไปจากซูซี่

ซูซี่เดินพูดโทรศัพท์ออกมาหน้าบาร์
"ถ้าเขายังตามมาอีก จัดการได้เลย"
ซูซี่เดินออกไป พุฒิเดินเข้ามามองหา
ซูซี่เดินไปที่รถ ขับออกไป
พุฒิรีบเดินไปที่มอเตอร์ไซค์ สวมหมวกกันน็อค และขี่ตามไป

ซูซี่มองผ่านกระจกรถ เห็นมอเตอร์ไซค์แล่นตามมา แล้วพูดโทรศัพท์บอกกับธงรบ
"คุณธงรบคะ ซูซี่ชักมั่นใจแล้วค่ะ ว่าที่เขาคอยตามซูซี่ ไม่ใช่แค่ตามจีบ แต่เขากำลังพยายามสืบ ว่าซูซี่เป็นใครกันแน่"
ธงรบคิดตามคำพูดของซูซี่
"ถ้างั้นมันก็อาจไม่ได้เป็นแค่คนทำโฆษณา"
"ค่ะคุณธงรบ"
ธงรบไม่ได้พูดอะไรอีก สีหน้าครุ่นคิดและเดาว่า พุฒิอาจเป็นคนของฟีนิกซ์

มอเตอร์ไซค์ของพุฒิยังคงตามซูซี่ไป เขามัวไปแต่มองไปที่รถของซูซี่ จึงไม่ทันสังเกตว่ามีมอเตอร์ไซค์อีกคันขับออกมาจากมุมมืดข้างทาง
ในรถซูซี่ เธอเหลือบตามองผ่านกระจก แล้วยิ้มออกมาอย่างรู้ว่าพุฒิกำลังจะถูกจัดการ

รถมอเตอร์ไซค์อีกคันเร่งเครื่องขึ้นมาประกบ พุฒิเฉลียวใจหันไปมอง แต่สายไปเสียแล้ว ท่อนเหล็กในมือคนที่ซ้อนท้ายฟาดเข้าที่หน้าของเขา ซึ่งสวมหมวกกันน๊อคอยู่ พุฒิเสียหลัก ล้มกลิ้ง หลุดออกจากมอเตอร์ไซค์ มอเตอร์ไซค์หมุนผ่านร่างเขาไปแบบฉิวเฉียด
รถซูซี่ขับแยกห่างออกไป ซูซี่ยิ้มเหี้ยม
พุฒินอนเจ็บอยู่บนพื้น เขาถอดหมวกกันน็อคออก เพื่อให้เห็นชัด ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
"โอ๊ย"
มอเตอร์ไซค์อีกคันจอด ทั้งคนขับคนซ้อนลงมาจากมอเตอร์ไซค์ เดินเข้ามาพุฒิ แล้วท่อนเหล็กในมือคนซ้อนก็ฟาดเข้าไปที่หน้าพุฒิอีกที พุฒิหงายล้มไปทันที
"โอ๊ย"
ในดวงตาเบลอ ๆ ของพุฒิ ชิปปี้นั่งลงข้าง ๆ พุฒิ ซึ่งหมดสภาพตอบโต้อะไรไม่ได้
"เป็นไง ... นี่แค่เตือน ถ้าขืนยังยุ่มย่ามไม่เลิก คราวหน้าจะไม่ใช่แค่นี้"
พูดแล้วชิปปี้ก็ลุกขึ้น เดินออกไปกับแม้กกี้
พุฒิที่เห็นสองคนนั้นแบบเบลอ ๆ เดินออกไป ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ แล้วขี่ออกไป ก่อนที่จอภาพจะวูบดับไป

พุฒินอนอยู่บนเตียงพยาบาล เคนกับพิงก์เปิดประตูเข้าอย่างร้อนใจ
"เฮ้ย ไอ้พุฒิ ทำไมเป็นแบบนี้วะ สภาพดูไม่ได้เลยว่ะ"
พุฒิเจ็บ "โอ๊ย ไอ้เคน จะตอกย้ำทำไมวะเนี่ย"
"รู้หรือยังว่าใครทำ"
"ยัง ทุกอย่างมันเร็วมากเลยพิงก์ แล้วพอเกิดระเบิด ก็มึนไปหมดเลย"
"แล้วพุฒิสงสัยใคร"
พุฒิมีชื่อซูซี่อยู่ในใจ แต่เขาไม่พูด ได้แต่ส่ายหน้า
ประตูห้องเปิดออกอีกครั้ง เจน ยักษ์ บับเบิ้ล เจ๊สา และนับดาว พากันเข้ามา
"นั่นสิ ยังครบสามสิบสองหรือเปล่า มีอะไรสึกหรอไปมั่งไหม" เจ๊สาถาม
"ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับ วันนี้หมอนัดสแกนสมอง ถ้าไม่มีอะไร ก็น่าจะกลับไปทำงานต่อได้"
"ไม่ต้องเลย หยุดพักไปก่อน ไม่ว่างานอะไร น้ายักษ์จัดการต่อให้เอง"
คราวนี้ทุกคนพูดเหมือนนกกระจอกแตกรัง พูดแซงกันทับไลน์กันเละ
"ใช่ ต้องพักผ่อนให้มาก ๆ ตอนนี้ตัวเองสำคัญที่สุด เรื่องงานค่อยว่ากันทีหลัง แล้วอีกอย่าง ก็เรื่องคดี ยังไงเราต้องจัดการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ..." บับเบิ้ลว่า
นับดาวพูดแซงกัน ทับไลน์กัน
"คุณพุฒิต้องคิดถึงตัวเองก่อนนะคะ เผื่อกระทบกระเทือน เป็นอะไรไปมากกว่านี้ มันจะไปกันใหญ่"
เจ๊สาพูดแซงกันอีกคน " พุฒิ เชื่อเจ๊นะ พักผ่อนให้มาก ๆ หมอบอกอะไรก็อย่าดื้อ จะได้หายไว ๆ แล้วก็ไม่ต้องรีบไปทำงาน น้ายักษ์แกก็อนุญาตแล้ว"
เจนฟังเสียงราวนกระจอกแตกรังด้วยสีหน้ารำคาญ
"พอ ! หยุดพูดกันได้แล้ว"
ทั้งหมดค่อย ๆ เงียบเสียงลง
"ออกไปให้หมด"
เจ๊สา บับเบิ้ล นับดาว เคน พิงก์ พากันออกไป เหลือแต่ยักษ์ที่ยังยืนอยู่ เจนหันไปมองยักษ์
"คุณด้วย ขอเจนพูดอะไรกับพุฒิหน่อย"
"จ้ะ ๆ ได้จ้ะเจนจ๋า"
ยักษ์รีบเดินตามคนอื่น ๆ ออกไป

ยักษ์เดินไปสบทบกับคนอื่น ๆ หน้าห้องคนป่วย สีหน้าแอบเคือง ๆ
บับเบิ้ลถาม "อ้าวน้ายักษ์ โดนไล่ออกมาเหมือนกันเหรอ"
ยักษ์กระแทกเสียงหนัก ๆ "เออ"
พิงก์มองไปในห้องนั้นอย่างสงสัย
"ทำไมคุณเจนต้องไล่ทุกคนออกมาด้วย"
"จะอาไร้ เล่นพูดมากกันซะขนาดนั้น ไม่ไล่ออกมา แล้วจะคุยกันรู้เรื่องได้ไง" เคนว่า
"หรือว่าจะไม่ใช่แค่นั้น" พิงก์สงสัย
เคนหันมามองหน้าพิงก์ พลอยคิดสงสัยไปด้วย
จังหวะนั้นเอง ซูซี่ก็เดินเข้ามาอย่างรีบร้อน
"คุณพุฒิเป็นไงบ้างคะ"
ทุกคนหันมามองซูซี่
"คุณซูซี่" เคนเรียก
ซูซี่ร้อนใจจะเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย เคนรีบตามไปกันไว้
"คุณซูซี่ครับ พอดีพี่เจนขอคุยกับไอ้พุฒิก่อน ยังไม่อยากให้ใครเข้าไปครับ"
"แต่ซูซี่จำเป็นต้องพูดกับคุณพุฒิโดยเร็วที่สุด"
"ทำไมล่ะ" เจ๊สาถาม
"ก็ก่อนเกิดเรื่อง คุณพุฒิเค้าไปพบซูซี่ที่บาร์นั่น ซูซี่ไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด ว่าซูซี่เป็นต้นเหตุ"

ทุกคนถึงกับอึ้งพูดไม่ออกกับข้อมูลที่เพิ่งได้รู้

ในห้องคนป่วย เจนเข้าไปหาพุฒิ ลดเสียงพูดให้เบาลง

"ซูซี่เป็นคนทำใช่ไหม"
พุฒิแปลกใจผสมตกใจ "พี่เจน !"
"คิดหรือว่าพี่จะยอมให้ใครเข้ามาในบริษัทโดยไม่ตรวจสอบน่ะ"
"แล้วทำไมพี่ถึงปล่อยเค้าไว้ล่ะ"
"ไม่เคยได้ยินเหรอ ‘คนที่เป็นศัตรู เราควรเก็บเอาไว้ใกล้ตัว’ พุฒิยังไม่ได้ตอบคำถามเลย ว่าซูซี่เป็นคนทำหรือเปล่า"
"ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ มันอาจประจวบเหมาะกันพอดีก็ได้"
"หรือไม่ก็อาจเป็นแผน ที่จะเล่นงานพุฒิ"
"เล่นงานผม ? ทำไมกันเหรอครับ ในเมื่อผมก็แค่...ผู้ชายอีกคนที่คอยตามจีบ"
"เค้าอาจไม่ได้คิดอย่างนั้นน่ะสิ"
"แล้วพี่เจนจะทำยังไง"
"ปล่อยเอาไว้ก่อน บางทีซูซี่อาจพาเราไปเจออะไรดี ๆ ก็ได้"
"ครับ ไม่แน่วันถ่ายโฆษณา เราอาจจะได้เห็นกัน"

ในสตูดิโอถ่ายทำ ทั้งซูซี่ บับเบิ้ล นับดาว ทีมกล้อง ทีมฉาก ต่างรอแบบเบื่อ ๆ ขณะที่ยักษ์เดินไปเดินมาในฉากที่จัดไว้เรียบร้อยแล้ว เขายกนาฬิกาขึ้นดูอย่างร้อนใจ
"เมื่อไรมันจะมาซะทีวะ"
"ใจเย็น ๆ สิน้ายักษ์ เคนเขาขอเวลาตั้งสติ ไม่อย่างนั้นจะให้เขาองค์ลง เปลี่ยนตัวเองเป็นยูซ่าได้ไงล่ะน้า" บับเบิ้ลว่า
"ไอ้นั่นน่าเข้าใจ แต่เนี่ย รอมาสองชั่วโมงแล้วนะเว้ย โอ๋ยยยยย..."
ธงรบเดินมาข้างหลังยักษ์ที่กำลังหน้าเครียด
"เป็นไงบ้างครับคุณยักษ์"
ยักษ์ได้ยินเสียงธงรบ ทั้งยักษ์และบับเบิ้ลรีบหันขวับแบบด่วนจี๋
"คุณธงรบ ! ไม่มีปัญหาเลยครับ ทุกอย่างเรียบร้อยดีทุกประการ"
"ใช่ครับ อีกแป๊บเดียวเราก็จะเริ่มถ่ายทำกันได้แล้ว"
"นี่ยูซ่ามาถึงแล้วเหรอ"
ยักษ์/บับเบิ้ลตอบพร้อมกัน "ยังครับ/ถึงแล้ว"
ยักษ์กับบับเบิ้ลมองหน้ากัน ก่อนที่จะยักษ์จะรีบแก้ตัว
"ถึงแล้วครับถึงแล้ว ตอนนี้อยู่ที่ห้องแต่งตัวครับ"
"ถ้างั้นผมเข้าไปทักทายเค้าหน่อยดีกว่า"
ธงรบหันจะเดินไป ยักษ์รีบขวางไว้
"อย่าเพิ่งเลยครับคุณธงรบ"
"ทำไมล่ะ ผมอยากขอบคุณ ที่เค้ายอมมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับเราน่ะ"
ซูซี่เดินเข้ามาอีกคน
"เรื่องนั้นไว้ทีหลังเถอะค่ะคุณธงรบ ตอนนี้ยูซ่าเขาขอทำสมาธิ เพื่อให้การแสดงออกมาดีที่สุดน่ะค่ะ"
"อ้อ"
"ไปนั่งพักให้สบายก่อนเถอะค่ะ ทางนี้ค่ะ"
ซูซี่พาธงรบเดินไป ยักษ์มองตามแล้วกระชากแขนบับเบิ้ลไปสั่ง
"รีบไป ! บอกมัน ไม่มีเวลาแล้ว"
"ครับ"
บับเบิ้ลรีบเดินออกไป นับดาวเดินตามไปอีกคน
"ฉันไปด้วย"
ยักษ์ยืนเครียดเหมือนโลกจะระเบิด

เคนเอานิ้วจิ้มไปทั่วหน้าตัวเอง แล้วทำเสียงราวสะกดจิตตัวเอง
"ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด"
พิงก์มองเคนอย่างผสมผสานหลายอารมณ์ ทั้งเห็นใจ เข้าใจ หงุดหงิด และเครียด
"ทำอะไรน่ะเคน"
"กำลังหาปุ่มนอนหลับอยู่" เคนกดต่อ "ตุ๊ด ตุ๊ด ตุ๊ด โหย ไม่เจอซะทีอ่ะ"
พิงก์เข้าไปคว้ามือเคน ยั้งไม่ให้เขาทำอะไรแบบนั้นต่อ
"พอเลยเคน"
มือที่ยื้อไว้เปลี่ยนเป็นกุมแบบเห็นใจ
"พิงก์รู้ว่าเรื่องนี้มันยาก แต่เคนต้องพยายามทำให้ได้"
พุฒิเดินเข้ามา
ใช่ แกต้องทำให้ได้
เคนและพิงก์มองไปที่พุฒิ
"เฮ้ยไอ้พุฒิ มาไมวะเนี่ย หมอเขายังให้พักอยู่ไม่ใช่เหรอ"
"ใครจะไปทนอยู่เฉย ๆ ไหวล่ะ ฉันมีของมาฝากแกด้วย นี่"
พุฒิแบมือออกมา ในนั้นมีซองยา
"อะไรวะ"
"ยานอนหลับน่ะ ฉันเอามาจากที่โรงพยาบาล"
"ไม่ได้นะ เกิดกินยานอนหลับแล้วหลับยาว จะยุ่งไปกันใหญ่"
"จริงด้วย ถ้างั้นเอาไงดีล่ะ"
"เคนต้องพยายามหลับให้ได้ด้วยตัวเอง" พิงก์ว่า
"ฮือ"
"โอเค เข้าใจแล้ว พิงก์ พุฒิ ช่วยออกไปก่อน แล้วบอกทุกคนด้วย ว่าขอเวลาอีกหน่อย"
"ฮือ"

พิงก์กับพุฒิลุกขึ้น มองตามตามทั้งสองคนไป สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ

บับเบิ้ลกับนับดาวกำลังยื้อกันอยู่

"อย่าเพิ่งเข้าไปเลย"
"ทำไมล่ะ"
"เชื่อเหอะ ถ้าเค้าพร้อม เค้าก็ออกมาเองแหละ" บับเบิ้ลว่า
"แต่เราไม่มีเวลาแล้วนะบับเบิ้ล"
เสียงประตูปลดล๊อก
"นั่นไง มากันแล้ว"
พิงก์กับพุฒิเปิดประตูออกมา บับเบิ้ลกับนับดาวรีบเข้าไปถามทันที
"ยูซ่าล่ะ"
พุฒิกับพิงก์ส่ายหน้า
"ยังไม่เรียบร้อย"
"เคนเขาขอเวลาอีกหน่อย"
"โหย แต่นี่สองชั่วโมงกว่าแล้วนะ อีกอย่าง ลูกค้ามารอดูแล้วด้วย ถ้ายูซ่าไม่ปรากฏตัวเร็ว ๆ นี้ รับรองเป็นเรื่องแน่" นับดาวว่า
พุฒิกับพิงก์มองนับดาวและบับเบิ้ลอย่างเข้าใจ ทุกคนดูเครียด

ธงรบยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูอย่างหงุดหงิด
"นี่มันอะไรกันเนี่ย เวลาผมมีค่านะคุณยักษ์"
"อีกแป๊บเดียวครับ อดใจรอนี้ดเดียว เอางี้ ผมไปตามให้เอง"
ยักษ์ทำท่าเดินไป แต่ซูซี่จับแขนไว้
"น้ายักษ์"
ยักษ์หันมามองซูซี่
"หือ ?"
"ซูซี่ไปตามให้ดีกว่าค่ะ"
ซูซี่เดินไป ยักษ์มองตาม ธงรบมองยักษ์อย่างหงุดหงิด
"ผมให้เวลาอีกสิบนาที ถ้ายูซ่ายังไม่มา ทุกอย่างเป็นอันล้มเลิก"
ยักษ์เสียงอ่อย ๆ "ครับคุณธงรบ"

พิงก์ พุฒิ และบับเบิ้ลยังคงยืนเครียด ไม่มีใครพูดอะไร ซูซี่เดินเข้ามา ทั้งหมดหันไปมอง รวมทั้งพุฒิด้วย
"คุณซูซี่"
ซูซี่มองหน้าพุฒิอย่างนึกไม่ถึง
"คุณพุฒิ"
ทั้งคู่นิ่งมองกัน ต่างมีอะไรอยู่ในใจ แต่กลับไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา จนกระทั่งซูซี่ถามกลบเกลื่อน
"คุณเคนล่ะคะ"
"ยังอยู่ข้างในครับ กำลังพยายามเปลี่ยนตัวเองเป็นยูซ่าอยู่"
"ค่ะ"
นับดาวถาม "ลูกค้าว่ายังไงบ้างคะคุณซูซี่"
"เขายื่นคำขาด ว่าถ้ายูซ่าไม่เข้าไปในสิบนาที เขาจะยกเลิกงานนี้"
"โอ้ว แม่จ้าววววว สิบนาทีเนี่ยนะ"
"ใช่ แต่ตอนนี้ไม่ถึงสิบแล้วล่ะ"
ทันใดนั้นเอง เสียงปลดล๊อกประตูห้องดังขึ้น กิ๊ก ตามด้วยเสียงประตูเปิด
ทั้งหมดหันไปมองที่ประตู แล้วยิ้มอย่างดีใจ
ทุกคนดีใจ "ยูซ่า !"

ในที่สุด ธงรบลุกขึ้นมาอย่างหมดความอดทน
"พอกันที ผมไม่รอแล้ว"
"คุณธงรบครับ ผมเข้าใจนะแต่..."
ทันใดนั้นเอง บับเบิ้ลก็วิ่งร่าเข้ามา
"มาแล้วครับ มาแล้ว ยูซ่ามาแล้ว"
ทุกคนหันไปมองที่ทางเข้าสตูดิโอ
ธงรบมองด้วยความตื่นเต้น
"ยูซ่า"
ยักษ์รีบตั้งสติสั่งทุกคน
"เอ้าทุกคนเตรียมตัว กล้องพร้อม ไฟพร้อม"
ยูซ่าในชุด ‘เทพธิดาแห่งดวงดาว’ ก้าวเข้าไปยืนกลางฉากอันวิจิตร
ไฟค่อย ๆ เปิดขึ้น จากด้านหลัง ด้านข้าง และสุดท้ายด้านหน้า
เมื่อไฟทุกดวงสว่างหมด ‘เทพธิดาแห่งดวงดาว’ ก็เปล่งประกายเฉิดฉายอยู่กลางฉาก เป็นภาพที่สวยงามที่สุด
ธงรบมองไม่กระพริบตา

พิงก์ พุฒิ ซูซี่ และนับดาวเข้ามายืนมอง ต่างตกตะลึงกันโดยถ้วนหน้า

อ่านต่อตอนที่ 6


กำลังโหลดความคิดเห็น