xs
xsm
sm
md
lg

พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 2 : "ยูซ่า" นางโชว์ ลูกสาวเจ๊หว่าง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พยัคฆ์ร้ายสาย(ส)ลับ ตอนที่ 2 : "ยูซ่า" นางโชว์ ลูกสาวเจ๊หว่าง

บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : จรูญพร ปรปักษ์ประลัย

ดนตรีเริ่มอินโทรขึ้นอย่างอลังการ

เจ๊หว่างเชิญชวน "ยินดีต้อนรับทุกคนสู่ ยูโทเปีย let’s enjoy the show plesae welcome back ยูซ่า"
พื้นเปิด ไฮโดรลิกนำร่างอรชรที่ยืนบิดเป็น S Shape หันหลังให้ผู้ชมขึ้นมาจากพื้น

ดวงตาถูกฉายการแต่งอย่างโฉบเฉียบปรายตามอง
ริมฝีปากเคลือบลิสติกเข้มจัดจ้านยิ้มน้อย ๆ
แล้วเมื่อเธอหันมาเต็ม ๆ ทุกคนก็เหมือนถูกมนต์สะกดเข้าจริง ๆ
เธอคือราชินีแห่งยูโทเปีย เธอคือยูซ่า หรือเคนในร่างนางโชว์นั่นเอง

ผู้ชมต่างตะลึงมอง แข็งเหมือนโดนมนตร์สะกดกลายเป็นหินกันไปเดี๋ยวนั้น
เจ๊หว่างและเหล่านางโชว์ยืนมองอย่างชื่นชม
ทุกท่วงท่าการแสดงล้วนสุดยอด สมกับที่ผู้คนถามหามาสองปีเต็ม

วันรุ่งขึ้น เคน อโณทัยทะลึ่งพรวดขึ้นจากที่นอน ด้วยความตกใจ นี่เป็นฝันประหลาดร้ายกาจสุด ๆ สำหรับเขา
"เฮ้ย !"

ที่ห้องน้ำ เคนพุ่งไปที่หน้ากระจก ยืนหน้ามองตัวเองแบบละเอียด เมคอัพทั้งหลายไม่มีร่องรอยหลงเหลืออยู่ เขาก้มดูหน้าอกตัวเอง ก็ไม่มีอะไรมาเสริมให้โป่งพองเหมือนในฝัน สุดท้ายเขาเปิดเป้ากางเกงดูจุ๊ดจู๋ แล้วถึงรู้สึกโล่งอก
"โอ้... ยัง สมบูรณ์เหมือนเดิมลูกพ่อ... บึ๋ย... ฝันบ้าอะไรวะเนี่ย"

ในห้องครัวของบริษัทโฆษณา Giant & Janet เคนกดน้ำร้อนใส่กาแฟ อ้าปากกว้าง หาว ...พิงก์เข้ามาอย่างร้อนรน พอเห็นเคนก็หงุดหงิดขึ้นมา
"เคน หาตั้งนาน มาอยู่นี่เอง"
พิงก์คว้าแขนเคน เคนทำหน้างง ๆ
"ทำไม จะไปไหน"
"ดูทำหน้าเข้า จะไปไหน เวลานี้ประชุมไงคะ จำไม่ได้เหรอ"
"ขอกินกาแฟก่อนแก้วนึงได้ไหมอ่ะ"
"ไม่ได้ ไม่ทันแล้ว ไปเร็ว"
พิงก์ดึงเคนออกไปจนกาแฟในแก้วกระฉอกใส่มือ
"อู๊ย"
"ไปเร็ว"
ซูซี่ยืนมองดูทั้งสองอยู่จากมุมหนึ่งยิ้มอย่างมีแผนในใจ

เจน พูดกับลูกค้าและทุกคนในที่ประชุม อาทิ เคน, พิงก์, พุฒิ,ยักษ์, บับเบิ้ลและเจ๊สา
"จากโจทย์ที่ได้รับ ทีมครีเอทีฟของเราได้ไปคิดมาแล้วค่ะ ว่าจะทำยังไงให้แคมเปญโฆษณาตอบโจทย์ และพุ่งตรงสู่กลุ่มเป้าหมาย ขอเชิญครีเอทีฟมาเล่าให้เราฟังดีกว่าค่ะ"
เจน วัลลภาวางขวดเครื่องดื่มลงกับโต๊ะ แล้วขยับไปข้าง ๆ
ลูกค้ายิ้ม รอฟังการนำเสนอ แต่ปรากฏห้องเงียบกริบแบบ Dead Air ไปซะอย่างนั้น
พอทุกคนหันไปมอง ก็เห็นเคนนั่งหลับอยู่ พิงก์รีบใช้ศอกกระแทก
"เคน ๆ"
เคน อโณทัยรู้สึกตัว มองไปรอบ ๆ แบบงง ๆ ก่อนที่จะปะติดปะต่อเหตุการณ์ได้ เขาลุกขึ้น เดินไปพูดที่ด้านหน้า
"ใช่ครับ ผลิตภัณฑ์ Man Power เป็นเครื่องดื่มที่จะตอบโจทย์ของผู้ชายวัยทำงานทุกคน ที่ต้องการความกระชุ่มกระชวย" แต่เคนหาว "ดื่มแล้วๆมีพลัง" หาวเป็นครั้งที่สอง "เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยทำให้ผู้ชายอย่างเรา ๆ ประสบความความสำเร็จ" แล้วหาวหนักสุด ๆ
เคนเอื้อมมือไปจะหยิบขวด Man Powerแต่กลับพลาดขวดหลุดออกจากมือ
ทุกคนตกใจ
เฮียยักษ์โพล่ง "เฮ้ย !"
ลูกค้าเหลือบไปมองยักษ์ ว่าแบบนี้จะไหวเหรอ ยักษ์ยิ้มเจื่อน
คนอื่น ๆในห้องต่างหน้าเสีย โดยเฉพาะพิงก์
ขวดเครื่องดื่ม Man Power ไม่ได้ตกลงไปที่พื้น ด้วยสัญชาตญาณและการเคลื่อนไหวอันฉับไว เคนยื่นปลายเท้าไปรับขวดไว้ได้อย่างทันท่วงที
หลายคนก้มลงมองใต้โต๊ะ
เคนเตะขวด Man Power หมุนควงมาเข้ามือพอดีเป๊ะ
เคนบิดฝาขวดเปิดออก แล้วดื่มอัก ๆ ๆ จนหมดขวด
ทุกคนมอง เคนดื่มเสร็จ ก็กระแทกขวด Man Power ลงกับโต๊ะดังปัง ! ทุกคนสะดุ้ง
เคนก้มหน้าเหมือนไม่ไหวแล้ว ทุกคนมองลุ้น ๆ ขณะที่เคนนับถอยหลัง
"สาม สอง หนึ่ง"
เคนเงยหน้าขึ้นมาอย่างไว ดูมีพลังขึ้นมาทันที
"ว้าว เพียงดื่ม Man Powerไปแค่3วินาที ก็เห็นผลทันตาเลยนะครับ เปลี่ยนผมให้เป็นคนละคน เลยทีเดียว นี่แหละครับ พลังของ Man Power"
ลูกค้าประทับมาก ยิ้มร่า ลุกขึ้นปรบมือเต็มแรง
คนอื่น ๆ ปรบมือตาม
เคนโค้งคำนับน้อมรับการปรบมือ

พิงก์มองเคน ถอนใจโล่งอกที่รอดตัวไปได้

โซนทีมของเคนเคนยืนอยู่กับพิงก์และเพื่อน ๆ

บับเบิ้ลบอก "หูย เมื่อกี้นะ ผมลุ้นจนไม่รู้จะลุ้นยังไงแล้วนะครับเนี่ย ลุ้นแทบตาย"
เจ๊สาบอก "ดีนะ เจ้าพ่อคุณเขายังพริ้วไปได้อ่ะ"
เคนยิ้มรับ "อ้า ของแบบนี้มันเป็นเรื่องของฝีมือและประสบการณ์คร้าบ"
"ไม่ต้องทำคุยเลย เกือบไปแล้วไหมละ บอกมาดีกว่า ว่าเมื่อคืนไปไหนมา ทำไมถึงได้เอาแต่ง่วงเหงาหาวนอนขนาดนี้" พิงก์ถาม
"อ่าวบอกแล้วไง ว่า เมื่อคืนเนี่ย อยู่ที่ห้องไม่ได้ออกไปไหนเลยจริงๆ ถ้าไม่เชื่อนะ ให้ไปสาบานเจ็ดวัดเก้าวัดก็ได้"
"เอางี้ เพื่อความมั่นใจ ฉันมีวิธีพิสูจน์ ว่าทุกพูดของแกเป็นความจริง" พุฒิบอก
"ยังไงวะ"

พุฒิติดตั้งกล้องเป็นมุมสูงเลนส์ไวด์ เห็นได้ทั่วห้อง
"โหย ต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย"
"เหอะน่า อย่างน้อยจะได้สบายใจไงว่านอนหลับติดเตียงจริง ไม่ได้เที่ยวออกไปเดินเล่นที่ไหน"
"ใช่เลย ขอบอกเลยนะ ว่ากล้องนี้เลนส์กว้างสุด อย่าเผลอเดินแก้ผ้าไปมาให้ทุเรศลูกกะตา"
"โอเค"
พุฒิกดเร็คคอร์ด ปุ่มสีแดงกระพริบ
"เริ่ม recordเละ"

เช้าวันรุ่งขึ้น เคนยังนอนกอดหมอนข้างอยู่ เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้น มองไปรอบ ๆ และลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจ
เคนกดรีโมททีวีเปิด ภาพและเสียงจากกล้องที่อัดไว้ปรากฏขึ้น
เคนในจอเดินสวมชุดนอนเข้ามา ยื่นหน้ามองตรงไปที่เลนส์กล้อง แล้วพูดขำ ๆ
"หลับฝันดีนะเคน"
เคนนอนลง ก่อนดึงผ้าห่มขึ้นมาห่ม เอียงตัวกอดหมอนข้าง แล้วหลับตา

เคนที่ดูอยู่นั่งลง ทุกอย่างเป็นปกติ
ในจอ เขานอนท่าเดิม หลับสนิทดีทุกประการ

"เยี่ยม"
แต่แล้ว ... อยู่ ๆ เคนในจอก็ลุกขึ้น
เคนที่นั่งดูหน้าเสีย
"เฮ้ย !"

เคนในจอลุกขึ้นหายจากห้องนั้นไป
เคนที่นั่งดูถึงกับเหวอ เขาลุกพรวดขึ้น หยิบรีโมทกดฟาร์สฟอร์เวิร์ด

เวลาบนจอภาพผ่านไปหลายชั่วโมง ห้องว่างเปล่าปราศจากเคน จนกระทั่งแสงเปลี่ยนเป็นเช้า เคนในจอเดินกลับมา ล้มตัวลงนอนตะแคงกอดหมอนข้าง หลับตา
เคนที่ยืนดูอยู่ถึงกับงง
"เฮ้ย !"

เคนในจอยังนอนอยู่ท่าเดิมเขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้น มองไปรอบ ๆ และลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจ

เคนหน้าเสียเมื่อได้พบคำตอบ
"เห้ย นี่กูหายไปไหนมาทั้งคืนวะเนี่ย"

เคนนั่งลงที่โต๊ะ เปิดคอมพิวเตอร์ เช็คข่าวทางอินเตอร์เน็ตด้วยความกลัว
บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ มีข่าวสารพัดสารเพ โดยเฉพาะข่าวอาชญากรรม - ฆาตกรรม แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา เคนถอนหายใจอย่างโล่งอก
"โอเค้ ! โอเค !"
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์เสียงเข้าดังลั่น เคนสะดุ้งเพราะใจกำลังจดจ่ออยู่กับตัวเอง
"เหวย !"
"สวัสดีพิงก์"

พิงก์ถามอย่างเป็นห่วง
"เป็นไงบ้างคะเคน เปิดกล้องดูแล้วหรือยัง"
"ดูแล้ว"
"แล้วเป็นไงมั่ง มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า"
"ก็... โอเคนะ ไม่มีอะไรผิดปกติ ... เออ เดี้ยวเราค่อยคุยกันนะ เดี๋ยวขอเตรียมตัวไปทำงานก่อน เดี่ยวเจอกันที่บริษัท"
"พิงก์ถึงที่บริษัทแล้ว เคนเอาที่อัดไว้เมื่อคืนมาให้ดูด้วยล่ะ"
"เดี้ยวเจอกันที่บริษัทละกันนะ แค่นี้นะ"
เคนกดวางสาย
พิงก์มองโทรศัพท์อย่างรู้สึกแหม่ง ๆ ในใจเธอคิดว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่

"ฮึม"

เคนผุดลุกผุดนั่งอย่างคิดไม่ตก เขาพูดกับตัวเอง

"โหย !เอาไงดีวะไอ้เคน หลักฐานชัดเจนแบบนี้ ... ลบทิ้งดีกว่า"
เคนหยิบกล้องมาตั้งท่าจะลบไฟล์ภาพทิ้ง แต่เขาก็ยั้งมือไว้
"ไม่ได้ !ถ้าลบก็ยิ่งมีพิรุธสิวะ"
"แล้วจะเอายังไงดีล่ะ โธ่เว้ย ! คิดสิวะคิด"
"รู้แล้ว ทำเป็นป่วย เป็นไข้ นอนซม ไปทำงานไม่ไหว"
"ไม่ได้อีกแหละแบบนี้เท่ากับหนีปัญหา หลบหน้าหลบตา"
"จริง แล้วก็ใช่ว่าพิงก์จะไม่รู้จักคอนโดเรา มีหวังเจ๊บุกถึงที่แน่"
เคนลุกขึ้น บอกกับตัวเองแบบปลุกกำลังใจ
"เอาเว้ย !ตายเป็นตาย ไปก่อนค่อยว่ากันทีหลัง"

ซู่ซี่ขับรถเข้ามาจอดที่บริษัทโฆษณา Giant & Janet
เคนกำลังเดินเข้ามาให้ออฟฟิศพอดี
ซูซี่เห็นเคนและจะเข้าไปทักทาย ซูซี่เดินลงจากรถ ถอดแว่นตากันแดดออก แล้วยิ้ม
เคนยังเดินเหม่อลอยอยู่ ซู่ซี่เข้าไปทัก
"ฮึม"
ทำเอาเขาถึงกับสะดุ้ง ผงะถอยเสียหลัก
"เฮ้ย !"
ซูซี่ยิ้มขำ ๆ
"ตกใจอะไรคะคุณเคน"
เคนรีบตั้งหลัก
"เปล่าหรอกครับ คือพอดีกำลังใจลอย คิดอะไรอยู่น่ะครับ"
"เรื่องงานเหรอคะหรือว่าเรื่องที่สำคัญกว่านั้น"
"คุณซูซี่หมายถึง... "
"เรื่องงานแต่งงานยังไงล่ะคะ ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ"
"ขอบคุณครับ"

อีกมุมหนึ่งของที่จอดรถ พุฒิแอบสงสัยในท่าทางของทั้งคู่ มองไปอย่างรู้สึกไม่ชอบมาพากล

เคนกับซูซี่เดินคู่กันมา พุฒิรีบเดินตามหลังมาติด ๆ
"คุณเคนกับคุณพิงก์รู้จักกันนานแล้วเหรอคะ"
"สองปีแล้วครับ เอ้อ ผมขอตัวก่อนนะครับ"
เคนเดินแยกไปทางห้องตัวเอง ซูซี่มองตาม ทันใดนั้นพิงก์ก็เข้ามาขวางเคนไว้ พุฒ แอบดูอยู่ห่างๆ
"เคน"
เคนยิ้มเฝื่อน ๆ "พิงก์"
พิงก์แบมือ
เคนแกล้งงง "อะไร"
"ไฟล์วิดีโอที่ถ่ายไว้เมื่อคืนไง"
เคนแกล้งตกใจ "เฮ้ย ลืมไปสนิทเลย" เขาอึกอัก "เดี๋ยวเอาไว้ ... ผมหาจังหวะกลับไปเอามาให้ดูนะ"
พิงก์มองเคนตาขวาง
"ไม่ต้องเลยเคน แค่นี้พิงก์ก็รู้แล้ว ว่าเคนโกหก ... เวลาเคนโกหก ตาสองข้างเคนจะไม่เท่ากัน แบบเนี้ย"
พิงก์ชี้ที่ตาของเคน สองข้างเล็กใหญ่ไม่เท่ากันจริง ๆ เคนสะดุ้งเฮือก
"จริงเหรอ ! แต่เมื่อคืนผมไม่ได้ไปไหนเลยจริง ๆ นะ"
"ไม่เชื่อ"
"โอเค เมื่อคืนนี้ผม ... ผม ..."
ทั้งสามคนมองลุ้น ๆ เคนจะสารภาพความจริงอะไรออกมา ซูซี่มองอย่างสนใจ
"เมื่อคืนคุณเคนไปทำอะไรมาเหรอคะ"
พอได้ยินเสียงซูซี่ เคนก็รู้ว่านรกคูณสอง หน้าตาเขาเซ็งสุด ๆ
พิงก์เหลือบมองซูซี่ หันขวับไปมองเคนอย่างคาดคั้น
"คราวนี้จะบอกได้หรือยัง ว่าเมื่อคืนเคนไปไหนมา"
"ผมไม่รู้ ไม่รู้จริง ๆ"
พิงก์มองเคนด้วยสายตาผิดหวัง
"เคน เคนมีอะไรปิดบังหรือเปล่า"
"เปล่า แต่ผมไม่รู้จริง ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผม"
"เคนมีอะไรก็บอกคุณพิงก์ไปเถอะค่ะ"
"เคน พิงก์เคยบอกเคนแล้วใช่ไหม เวลาที่มีอะไร มันไม่ใช่เรื่องของเคนคนเดียว แต่มันเป็นเรื่องของเราสองคน"
"ครับ"
"ไปทำงานดีกว่า"
"ไม่ทำอีก"

เคนตอบรับ โดยในใจยังคงสับสน ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อดี

วันเดียวกัน ชิปปี้พูดกับธงรบด้วยสีหน้าจริงจัง

"นายครับ เมื่อคืนมันโผล่ไปที่สนามมวย"
"นั่นไง ฉันบอกแล้ว ว่ายังไงมันต้องออกมา ไม่เสียแรงที่ส่งพวกแกสองคนไปเฝ้าไว้"
แม้กกี้บอก "แต่มันเหมือน คนเก่าที่เราเคยเจอเลยนะนาย"
หน้าตามันเหมือนกันก็จริง แต่ท่าทางไม่ใช่ แล้วที่สำคัญ ไอ้คนก่อนมันแหยอย่างกะลูกเจี๊ยบ ส่วนไอ้นี่มันพญาอินทรีชัด ๆ
"ขนาดนั้นเลยเหรอวะ"
"ใช่ครับ"

เมื่อคืน ที่สนามมวยใต้ดิน
นักสู้ร่างบึกบึนสไตล์โคแนนยอดคนเถื่อน ยืนอยู่กลางเวที ส่งเสียงคำรามน่ากลัว
เคน หรือ King Crow เป็นชื่อที่รู้จักในสนามมวยใต้ดิน เดินขึ้นเวทีมายืนประจันหน้า ในชุดวอร์มสีสดใส สไตล์ บรูซ ลี
ชิปปี้กับแม้กกี้ยืนอยู่ในหมู่คนดู มองดูอย่างตื่นเต้น
เฮียชัยเดินเข้ามายืนระหว่างเคนกับคู่ต่อสู้ของเขา
เฮียชัยพูดแล้วก็เดินออกไป
นักสู้ใต้ดินเปล่งเสียงคำรามบุกเข้าใส่เคน เคนกระโดดสูงหลบ ม้วนตัวข้ามหัวไปด้านหลังคู่ต่อสู้
คู่ต่อสู้หันขวับอย่างไม่พอใจ แต่กลับต้องโดนลูกถีบขาคู่เข้าเต็มอก จนกระเด็นไป
เคนตั้งท่า กวักมือเรียกให้อีกฝ่ายเข้ามา เจ้าคนเถื่อนกำลังเลือดเดือดพล่าน มันบุกเข้าใส่เคนอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับเป็นนาทีชะตาขาดของมัน เคนไม่เพียงแต่หลบได้อย่างง่ายได้ แต่ยังซัดกลับไปชุดใหญ่ แบบไม่ให้เจ้าคนเถื่อนได้ทันตั้งตัว สุดท้ายมันก็ลงไปนอนวัดพื้น พยายามจะลุก แต่ลุกไม่ขึ้น
คนดูส่งเสียงโห่ร้อง ชิปปี้กับแม้กกี้มองดูด้วยสายตาระคนสงสัย
แม้กกี้บอก "ฝีมือแบบนี้ พนันได้เลย ว่าไม่ใช่คนเดียวกันแน่ ๆ"
"ใช่ไม่ใช่เดี๋ยวก็รู้" ชิปปี้บอก

ชิปปี้และแม้กกี้ก็เพิ่งได้ข้อมูลจากธงรบ
ชิปปี้ถาม "ตกลงมันเคยทำงานกับนายเหรอ"
"ก็ใช่น่ะสิ"
"มิน่า มันถึงได้เก่งแบบนั้น"แม้กกี้ว่า
"เห้ยแล้วทำไมนายถึงอยากได้ตัวมันนักล่ะ"
"มันซ่อนของที่สำคัญสุด ๆ เอาไว้ ... ความลับที่มีมูลค่ามหาศาล" ธงรบว่า
"แต่มันบอกว่าจำอะไรไม่ได้เลยนะนาย"
"นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องหาทางพิสูจน์ ว่ามันจำอะไรไม่ได้จริง ๆ หรือมันเล่นละครตบตาทุกคนกันแน่"

พุฒเดินเข้ามาในห้องเจน วัลลภา
"ได้มาไหม"
"ครับ อยู่นี่"
พุฒิหยิบแฟลชไดร์ฟออกมาจากกระเป๋ากางเกง
"มาดูด้วยกัน"
เจนเสียบแฟลชไดร์ฟเข้ากับคอมพิวเตอร์ คลิกเม้าส์ ภาพในจอปรากฏขึ้น ...

ห้องนอนเคน ยามค่ำเคนสวมชุดนอน ยื่นหน้ามองตรงไปที่เลนส์กล้อง แล้วพูดขำ ๆ
"หลับฝันดีนะเคน"
เคนนอนลงบนเตียง ก่อนดึงผ้าห่มขึ้นมาห่ม เอียงตัวกอดหมอนข้าง แล้วหลับตา

เจนและพุฒิมองดูภาพในจออย่างตั้งใจ

ในจอ เคนนอนท่าเดิม หลับสนิทดีทุกประการ แต่แล้วอยู่ ๆ เขาก็ลุกขึ้นเดินหายจากห้องนั้นไป

เจนกับพุฒิหันมามองหน้ากันอย่างรู้กันว่านี่ไม่ปกติแล้ว

เจนรูดไฟล์ภาพผ่านเวลาไป

ผ่านไปหลายชั่วโมง ห้องว่างเปล่าปราศจากเคน

จนกระทั่งแสงเปลี่ยนเป็นเช้า เคนในจอเดินกลับมา ล้มตัวลงนอนตะแคงกอดหมอนข้าง หลับตา เพียงไม่ถึงนาทีเขาก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ก่อนหยิบแว่นตาขึ้นสวม มองไปรอบ ๆ และลุกขึ้นบิดขี้เกียจ

เจนกดหยุดไฟล์ภาพ
"ดูเหมือนเคนจะไม่รู้ตัวเลยว่าไปทำอะไรมา" เจนว่า
"นั่นน่ะสิครับ แล้วเราจะทำยังไงกันต่อดีครับ" พุฒิถาม
"คอยตามดูเขาไว้ เราต้องรู้ให้ได้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา"
"ครับ"
"ทำทุกอย่างให้เนียนที่สุด อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาด"
"ครับ"

เคนยืนอยู่ที่มุมอาคารด้านนอกออฟฟิศ ถอนหายใจอย่างอึดอัดใจ
"เฮ้อ !"
ซูซี่เดินเข้ามายืนข้าง ๆ เคน มองไปทางเดียวกันกับเคน
"แปลกนะคะ คนกำลังจะแต่งงานแท้ ๆ แต่กลับดูไม่ค่อยจะมีความสุขเอาเสียเลย"
"คุณซูซี่ ผมขอตัวก่อน"
เคนหันเดินหนีไป ซูซี่หันมองตาม ถามดุ ๆ
"เดี๋ยวสิคะ" เคนหยุด แต่ยังไม่หันมา "ซูชี่แปลกใจจังเลยว่าทำไม ทำไมใครๆที่ยี้ไม่ชอบหน้าซูซี่ รวมทั้งคุณเคนด้วย"
เคนหันกลับมาตอบ สีหน้าจริงจัง
"ผมไม่ได้ไม่ชอบคุณนะครับ แต่ผมมีเรื่องไม่สบายใจส่วนตัว"
ซูซี่ขยับเข้าไปใกล้เคน
"คุณมีเรื่องอะไรไม่สบายใจเหรอคะ เล่าให้ซู่ซี่ฟังได้นะคะ"
"คุณซูซี่ ผมว่า... คุณออกไปจากตรงนี้ก่อนดีกว่าครับ ก่อนที่ใครมาเห็นเข้า แล้วจะคิดไปกันใหญ่"
ซูซี่เดินเข้าไปใกล้เคน มองด้วยดวงตาอันแพรวพราว
"ซูซี่ไม่สนหรอกค่ะว่าใครจะคิดยังไง ซูซี่สนใจแค่เราสองคนมากกว่า"
เคนมองซูซี่ด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ
"เราเพิ่งรู้จักกันนะครับ"
"เคน นี่คุณจำฉันไม่ได้จริง ๆ เหรอ"
"หือ"
"เคน จำฉันไม่ได้จริงๆหรอ"
เคนประหลาดใจ
"คุณทำอะไรของคุณ" เคนดูเหมือนจะโกรธขึ้นมา "นี่คุณกำลังเล่นเกมอะไรอยู่ หรือว่า ..."
เคนมองไปรอบ ๆ
"ไหน คุณซ่อนกล้องไว้ใช้ไหม ตรงไหน ตรงนี้ มันต้องมีซักที่ นี่คุณ บอกให้ทีมกล้องออกมาได้ละ"
"คุณเคน วันนี้คุณอาจยังไม่เชื่อ แต่อีกไม่นานหรอก คุณจะรู้ความจริง" ซูซี่ว่า
ทันใดนั้นเอง ชายหน้าเหี้ยมสามคนเดินเข้ามา
ชาย 1ถาม "อุ๊บ ทำอะไรกันอยู่เหรอ"
"ฮั่นแน่ นี่ใช่ไหมทีมถ่ายทำที่จ้างมา ไหนล่ะกล้องอยู่ไหน"
"พูดอะไรของแกวะ"
ชายคนนั้นพูดแล้วก็ตบกบาลเคน เคนยิ่งอารมณ์เสีย
"นี่ ไม่ตลก ซูซี่ คุณบอกทีมงานของคุณ ว่าผมไม่เล่นด้วย"
"คุณเคน ซูซี่ไม่รู้จักคนพวกนี้นะคะ"
"จริงดิ้"
"จริงสิคะ"
"เฮ้ย ยังไม่ตอบคำถามเลยนะว่ามาทำอะไรกัน"
ชาย 2"สงสัยคงแอบหลบมุมมาจู๋จี๋ดู๋ดี๋กันซิท่า"
เคนมองอย่างไม่สบายใจ
"ขอโทษนะพอดีมีธุระส่วนตัวต้องไปทำ ไม่ว่างคุยด้วย คุณซูซี่ ไปๆ"
เคนเดินนำซูซี่ไป แต่ไอ้ตัวหัวโจกขยับไปดักไว้ เคนหันไปอีกทาง ก็โดนอีกสองคนดักไว้เป็นสามมุม
ชาย 1ถาม "จะรีบไปไหน ... มานี่"
ไอ้หน้าเหี้ยมเข้ามาคว้าข้อมือซูซี่ ซูซี่พยายามดึงมือออก
"ไอ้บ้า แกจะทำอะไรฉัน"
"ก็แค่... หาอะไรสนุก ๆ ทำกันเท่านั้นเอง บอกตรงๆนะเว้ย ฉันชอบแฟนแกวะ ขอได้ไหมวะ"
ซูซี่ถูกกระชากไป ขณะที่เคนมองตามอย่างทำอะไรไม่ถูก เพราะอีกสองคนยังยืนจ้องเขาอยู่
"ปล่อยนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ปล่อย! ปล่อย !"
สุดท้ายเคนก็ทนไม่ได้อีกต่อไป
"ปล่อยเขานะเว้ย"
ไอ้หน้าเหี้ยมชะงัก ทั้งเขาและซูซี่ต่างหันมามองเคน
"แล้วเรามาสู้กันอย่างลูกผู้ชาย"
ไอ้หน้าเหี้ยมยิ้มแบบขำ ๆ
ชาย 1บอก "สู้แบบลูกผู้ชายพูดจริงหรือเปล่าวะ โธ่เอ้ย ไก่อ่อนอย่างแกไม่ต้องถึงมือฉันหรอก ... จัดการมัน !"
ชาย 2รับคำ "ได้เลยพี่ รออยู่แล้ว"
ชาย 2 และชาย 3 แล้วเดินเข้าไปหาเคน เคนตั้งการ์ดเตรียมสู้แบบที่เคยเห็นนักมวยเขาทำกัน แต่ท่าทางของเคนดูไม่แข็งแรงเอาเสียเลย
สองอันธพาลหันมามองกันแล้วยิ้มขำ ๆ
ชาย 2บอก "มีสองอย่างให้แกเลือก อยากไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงบาล หรือไปนอนฟังพระสวดที่วัดกันแน่วะ"
"ฉันไม่เลือกทั้งสองอย่าง ขอแค่ปล่อยฉันกับผู้หญิงไป แล้วฉันจะไม่ติดใจเอาความพวกแก"
"แกตอบผิดคำถามว่ะ"
สองอันธพาลเดินเข้าหาเคน แล้วฝ่าเท้าของหนึ่งในนั้นก็พุ่งตรงเหมือนงูฉกเข้าที่ท้องเคนซึ่งเปิดช่องให้อยู่ เคนถึงกับตัวงอเป็นกุ้ง
"โอ๊ย !"
ซูซี่มองด้วยความตกใจเป็นห่วง
"คุณเคน !"
เคนพยายามตั้งหลักสู้ แต่กลับโดนแจกด้วยลูกเตะลูกต่อยแบบไม่อั้น
ซูซี่มองอย่างทนต่อไปไม่ไหว
"พอเถอะ ! พอได้แล้ว !" ซูซี่ว่า
ชาย 1บอก "จัดการมันเลย"
ซูซี่มองดูเคนที่โดนซ้อมจนหมดสภาพ แต่พวกนั้นก็ยังไม่หยุด เธอไม่มีทางอื่น
อันธพาลทั้งสองหันไปหาลูกพี่ของมัน แต่ทันใดนั้นเอง ร่างหนึ่งก็กระโดดเข้ามา ถีบเข้าจัง ๆ ที่ทัดดอกไม้ของหนึ่งในนั้น จนปลิวไปตามแรงถีบ อีกคนหันขวับไปมอง แต่ก็โดนจระเข้ฟาดหางเข้าที่ก้านคอ ล้มลงไปอีกคน
ไอ้ตัวหัวหน้าหน้าเสีย
"เฮ้ย !มึงเป็นใครวะ"
พุฒิหมุนตัวหันมามองจ้องดวงตาดุดัน
"ไม่อยากเป็นเหมือนไอ้สองตัวนั่น ก็ปล่อยผู้หญิงซะ"
"ไม่ปล้อยเว้ย!"
พุฒิมองจ้องผู้ร้าย ก่อนหันไปสบตาซูซี่ และพยักหน้าส่งสัญญาณ
ซูซี่พยักหน้าตอบ แล้วฉวยจังหวะกระทุ้งศอกเข้าที่ท้องผู้ร้ายอย่างแรง
"โอ๊ย !"
ซูซี่วิ่งออกมา ผู้ร้ายโกรธจัด
"คุณเคน เป็นอะไรหรือป่าวคุณ"
"มา"
"เสือกเรื่องผู้หญิงนักหรอมึง หะ"
ชาย 1 ชัดมีดพกสั้นออกมา
ขณะเดียวกัน ซูซี่วิ่งเข้าไปประคองเคนที่โดนซ้อมสะบักสะบอม

"คุณเคน เป็นอะไรหรือป่าวคุณ"

ไอ้หน้าเหี้ยมเปิดฉากเสียบมีดเข้าหาพุฒิ
 
พุฒิหมุนตัวหลบคว้ามือบิด จนมีดหลุดร่วงลงไปกับพื้น ก่อนที่จะซัดด้วยหมัดเข้าไปที่หน้าหลายหมัด เล่นเอาอีกฝ่ายถึงกับหน้าหงาย เลือดกำเดาไหลเป็นทาง เขาแตะเลือดที่เปรอะหน้า แล้วเหมือนจะเป็นลม
"มา"
"มึง!! กุฝากไว้ก่อน"
ชายคนนั้นหันหลังวิ่งแจ้น ลูกน้องทั้งสองคนลุกตามไปอย่างทุลักทุเล พอเดินผ่านพุฒิ พุฒิชูกำปั้นให้ สองคนนั้นหน้าเหย รีบยกมือไหว้
ชาย 2 บอก "รอด้วย เฮ้ย พี่รอผมด้วย"
สองคนนั้นรีบตามลูกพี่ไปแบบหมดท่านักเลง พุฒิมองดูจนมั่นใจ ก่อนหันไปมองเคนด้วยความเป็นห่วง
ซูซี่ประคองเคนขึ้นมา พุฒิรีบเข้าไปช่วยอีกด้าน
"คุณพุฒิ เร็ว"
"ไอ้เคนกุเองๆ"
"มันอยู่ไหน"
"อะไรวะ"
"มึงมาดิ"
"มันไปแล้ว"
"เมื่อกี้กูยังไม่เอาจริงเลย เก่งจริงมึงก็มาดิ โถ เอ้ย กูต่อให้อีกเป็น 10 เลย"
"มึงเอาเวลาไปเช็ดเลือดดีกว่าไหม ถ้ามึงจะพูดเนี่ย" พุฒิว่า

พุฒิกับซูซี่ช่วยกันประคองเคนเข้ามา ท่ามกลางพนักงานที่มองดูด้วยความตกใจ
เจ๊สาร้อง "ว๊าย ตายแล้ว เกิดอะไรขึ้นเนี่ย"
พิงก์รีบร้อนเข้ามา สีหน้าตกใจสุด ๆ
"เคน เคนเป็นอะไรเกิดอะไรขึ้น"
พุฒิกับซูซี่ประคองเคนกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟา
"ไปเจอนังเลงแถวนี้อะดิ ดีนะที่ผมออกไปเจอพอดี"
"พวกมันอยู่ไหน ฉันจะไปจัดการพวกมันเอง"
พิงก์กลายเป็นแม่เสือจะออกไปจัดการพวกนั้นเดี๋ยวนั้น แต่พุฒิรีบขวางไว้
"พิงก์ พวกมันหนีไปหมดแล้ว ไม่ทันแล้วล่ะ"
"แล้วปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ยังไง"
"ก็ไอ้เคนโดนหนักขนาดนี้ ยังไงผมก็ต้องเลือกช่วยมันไว้ก่อน"
พิงก์ยอมรับเหตุผลของพุฒิ เธอรีบนั่งลงข้าง ๆ เคน
"เคน บั้บเบิ้ล ขอชิสชู่หน่อยคะ"
"ได้ครับ" บับเบิ้ลว่า
"เลือดออกด้วย เจ็บมากไหม ใครมาทำอะไรเคนเนี่ย" พิงก์ถาม
ซูซี่มองเคนกับพิงก์ที่ดูรักใคร่เป็นห่วงกันด้วยสีหน้าแฝงความเศร้า
เจนกับยักษ์เดินเข้ามา มองดูเหตุการณ์อย่างไม่สบายใจ
"อะไรกันเนี่ย ทำไมบริษัทเราถึงได้เกิดเรื่องไม่หยุดไม่หย่อนแบบนี้ล่ะ"
"นั่นน่ะสิคุณเจน คดีเก่ายังไม่คืบหน้าเลย คดีใหม่มาอีกแล้ว" ยักษ์ว่า
บับเบิ้ล เจ๊สา เจ๊อูน มองดูด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"ยังงี้สงสัยต้องนิมนต์พระมาทำบุญสะเดาะเคราะห์กันแล้วล่ะค่ะ" เจ๊สาว่า
บับเบิ้ลบอก "จริงเจ๊ แต่ก่อนที่จะนิมนต์พระมาทำบุญนะคะ ต้องหากันก่อนเลย ว่าใครที่เป็นตัวซวย ทำให้เคนต้องตกอยู่ในสภาพนี้ครับ"
"วิเคราะห์นะ คนที่นำพาความซวยมาที่นี่ก็คือคงจะหนีไม่พ้น" เจ๊สาหันขวับไปมองซูซี่
บับเบิ้ลหันขวับไปมองหน้าซูซี่ คนอื่น ๆ หันมองซูซี่เป็นตาเดียวกัน
พุฒิบอก "เฮ้ย พี่สองคน พูดเกินไป คิดไปเองหรือป่าว"
"ใช่ครับ คุณซูซี่เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้"
บับเบิ้ลถาม "ถ้าไม่เกี่ยวแล้วทำไมเมื่อกี้ถึงได้ประคองกันเข้ามาล่ะคร๊าบ"
เคนนึกหาเหตุผลไม่ได้ พิงก์จ้องหน้าเคนอย่างไม่พอใจ
ซูซี่บอก"ความจริงคือ พวกนั้นเข้ามาหาเรื่องซูซี่กับคุณเคน ตอนที่ซูซี่กับคุณเคนกำลังคุยกันอยู่"
พิงก์มองหน้าเคน
"คุยกันเรื่องอะไร"
"เรื่องส่วนตัว คงไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้มั้ง"
"พูดมาเลย"
"ถ้าอยากรู้จริง ๆ ฉันบอกให้ก็ได้ ฉันกับคุณเคน"
ทั้งออฟฟิศเงียบกริบ ทุกคนรอฟังคำพูดของซูซี่ ยกเว้นเคนที่ลุกขึ้นมาระหว่างสองสาว
"พอ พอก่อนเหอะ คนเจ็บจะตายอยู่ อย่าพึ่งทะเลาะกันเลยน้า"
เจนมองทั้งสาม และเห็นว่าเป็นทางออกที่ดีที่จะจับสองสาวแยกจากกันก่อน
"เอางี้ พิงก์ รีบพาเคนไปให้หมอตรวจดูให้ละเอียดก่อน"
"ค่ะ"
"ส่วนพุฒิ ตามไปที่ห้องฉัน เล่าทุกอย่างให้ฉันฟังให้หมด" เจนหันไปหาซูซี่ "คุณด้วยซูซี่"
"ค่ะ"
เจนเดินกลับห้องตัวเอง พุฒิกับซูซี่เดินตามไป
เคน พิงก์ บับเบิ้ล เจ๊สา และเจ๊อูนมองตาม ก่อนที่พิงก์จะหันมองจ้องหน้าเคน เคนแกล้งสำออย
"โอ๊ย เจ็บ"
"อย่าคิดนะเคน ว่าเรื่องนี้จะจบง่าย ๆ"

ที่คอนโดของเคน กลางวันต่อมา
พิงก์ตักโจ๊กในชามป้อนเคนแบบยังไม่หายโกรธหายงอน
"อ่ะ"
"โอ๊ย ที่รักนี่มัน ร้อนจี๋เลย ไม่เป่าให้เย็นหน่อยก่อนอ่ะ"
"กินเข้าไป ไม่ต้องบ่น"
"โหย ทำไมต้องโหดร้ายกันด้วยเนี่ย ผมบอกแล้วไง ว่าผมกับคุณซูซี่ไม่มีอะไรกันจริง ๆ"
"เคนบอกไม่มี แต่ทางนั้นเขาทำเหมือนมีนี่"
พิงก์หงุดหงิด ลุกขึ้นหันไป
"ถ้าจะทำเนียน ก็เนียนให้ตลอด อย่าให้จับได้ก็แล้วกัน"
"ทำเนียนอะไรกันเล่า..."
เคนลุกขึ้นกอดพิงก์จากทางด้านหลัง พิงก์นิ่งไปทันที
"ผมรักพิงก์คนเดียว พิงก์ก็รู้นี่ ... คืนนี้พิงก์ไม่ต้องกลับได้ไหม ช่วยอยู่ดูแลคนเจ็บหน่อย นะ นะ"
"ไม่ได้ คืนนี้พิงก์มีนัด"
เคนเสียงที่อ้อน ๆ อยู่เมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเสียงแข็งขึ้นมาทันควัน "กับใคร"
"มาทำเป็นหน้าเข้ม กับบับเบิ้ลแล้วก็เจ๊สาน่ะ นัดไว้ล่วงหน้าตั้งนานแล้ว บับเบิ้ลเขาจัดให้เป็นของขวัญสำหรับเพื่อนสาวที่กำลังจะสละโสด"
"ไม่ไปไม่ได้เหรอ"
"ไม่ได้ค่ะ" พิงก์แกะมือเคนออก แล้วหันมามองหน้าเขา "อยู่บ้านกินยาแล้วพักผ่อน พิงก์ไปก่อนล่ะ ต้องกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดก่อน เดี้ยวไม่สวย"
พิงก์เดินไปหยิบกระเป๋าสะพาย แล้วเดินไป เคนมองตามตาละห้อย
พิงก์เดินออกจากห้องไป ประตูปิด เคนเศร้าเหมือนหมาโดนเจ้าของทิ้ง
"คนใจร้าย ทำไมต้องใจร้ายอ่ะ"

เคนนั่งลงเซ็ง ๆ

บรรยากาศภายนอกจากบาร์ยูโทเปีย เต็มไปด้วยแสงสีแพรวพราวผู้คนเดินเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

บับเบิ้ลและเจ๊สากำลังสนุก พิงก์หน้าตาไม่ค่อยมีความสุขนัก ผิดกับสองคนนั้น
"พิงก์ครับ ทำหน้าอย่างกะคนเบื่อโลก อย่าบอกนะว่ากำลังคิดถึงแฟน เป็นห่วงแฟนน่ะ"
"ก็ใช่น่ะสิ เคนเจ็บซะขนาดนั้น ป่านนี้คงระบมไปหมดทั้งตัวแล้ว"
เจ๊สาบอก
"จะว่าไปเคนก็น่าสงสารนะ ไม่รู้เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไร ถึงได้มีแต่เรื่องอยู่เรื่อย แต่อีกคิดที ก็น่าหมั่นไส้ คิดดูนะยัยซูซี่เพิ่งเข้ามาทำงานแท้ ๆ ไม่ทันไรแอบไปกิ๊กกันซะแล้ว"
"เจ๊ เคนไม่ใช่คนแบบนั้น ไม่ขนาดนั้นหรอก" พิงก์บอก
"อย่าไว้ใจนะครับ เพราะความไว้ใจนี่แหละ ทำคนเจ็บมานักต่อนักแล้วครับ"
"แต่ถ้าเราไม่ไว้ใจ เราจะรักคนที่เรารักได้ยังไงล่ะครับ บับเบิ้ล"
พูดปุ๊บ เจ๊หว่างเดินเริงร่าเข้ามา
"อุ๊ย ๆ ได้ยินเสียงแว่ว ๆ นึกว่าใคร ที่แท้ก็บับเบิ้ล ลูกสาวสุดที่รักของคุณแม่นี่เอง"
"โอโห เจ๊ บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่าเรียกลูกสาว ให้เรียกลูกชายครับ"
"อะๆๆ อย่าเรียกเจ๊ ต่อไปให้เรียกคุณแม่นะคะลูกสาว"
"ลูกชายคร้าบ"
"โอเคๆ เอาที่สบายใจก็แล้วกันนะ นี่มากับเพื่อนหรอ"
พิงก์,เจ๊สาบอก"สวัสดีค่า"
"อีนี่ อ้วน คนนี่ สวยๆ คนนี้ผู้ชาย"
"ครับผม"
เจ๊หว่างส่งภาษาปาก "อีดอก"
พิงก์,เจ๊สาร้อง "หือ"
"เจ๊ แกบอกว่า หยอก ครับ"
เพื่อนทั้งสองว่า"อ๋อ"
"แกเป็นคนแบบนี้ครับ ชอบหยอกนิดหยอกหน่อยครับ"
"แสดงว่าบับเบิ้ลมาเที่ยวบ่อยนะเนี่ย"
"ไม่ได้มานานแล้วครับ"
"ลูกสาวๆ ลูกสาวกินเลยค่ะ" เจ๊สาบอก

"ลูกชายครับ"

บรรยากาศหลังเวที คนเดินเข้าออก ดูวุ่นวาย

ป้าหนว่า "อ่าวไปไหนกัน รีบไป รีบมาจะได้เวลาแล้วนะจ่ะ เดี้ยวๆหยุดก่อน"
มีทีมงานจะวิ่งเข้าไปห้องหลังเวที
"คืนนี้กลางเดือนแล้ว ใครยังไม่ ส่งแชร์เจ๊บ้าง"
มุมนึง หลังเวที เจ๊หว่างเจอทีมงาน เดินผ่านไป
"เดี้ยวๆ นี่พวกแกจะไปไหนกันเนี่ย" เจ๊หว่างถาม
"ไปซื้อขนมครับ"
"มันใกล้เวลาแสดงแล้ว ใครอนุญาตให้ไป"
"ป้าหน ป้าดิว ครับ"
"รีบไป รีบมา"
"ครับ"
เจ๊หว่างเดินรีบร้อนเดินไปหา หน กับ ดิว ที่กำลังเม้าท์มอยอยู่
"นางหน นางดิว นี่มันกี่โมง กี่ยามแล้ว ทำไมพวกนี่ยังไม่ได้ไปแต่งตัวโชวสักที นี่พวกแก แก่แล้วแก่เลย ไว้ใจไม่ได้เลย มันชวนเด็กเล่นแชร์ มัวชวนคุย แกจะบ้าหรือป่าวเนี่ย เสียเงินเสียงทองจ้างพวกแกไว้นี่มัน เสียดายเงินจริงๆจ้างพวกแกเนี่ย"
"ขอโทษค่ะๆ" ป้าหนว่า
เฮียฮะรีบร้อนเข้ามาหาเจ๊หว่าง
"สว่างฮะสว่าง"
เจ๊หว่างเดินหน้ามุ่ยเข้ามา
"บอกกี่ทีแล้วว่าไม่ต้องเรียกชื่อเต็ม แค่หว่างเฉยๆ"
"ฮะหว่าง"
"มีอะไรเหรอ"
"สงสัยคืนนี้เราคงต้องสลับคิวโชว์กันนิดหน่อยนะฮะ"
"หะ อะไรนะ สลับคิดโชว์ไม่ได้นะ คิวมันจะต้องรวนไปหมดเลย คิวไฟ รวนไปหมด แล้วแขกละ เราโปรโมทโฆษณา ไว้แล้วว่าต้องโชว์เวลานี้ๆๆ สลับคิวโชว์ทันจะได้ยังไง เฮียฮะ ต้องรับผิดชอบเรื่องงาน ไม่ใช่แค่รับผิดชอบแต่ตัวฉันเป็นผัวฉันแต่เรื่องงานไม่รับผิด"
เฮียฮะยิ้ม " เดี๋ยวๆ หว่างฮะ หยุดก่อน ฟังก่อน เป็นเพราะว่า นางโชว์คนพิเศษของสว่างมาฮะ"
เจ๊หว่างยิ้มกว้างออกมาทันที "อะไรนะ จริงเหรอเฮีย"
"จริงสิฮะ"

ในห้องแต่งตัว ลิปสติกสีแดงสดถูกหยิบขึ้นไป ทาเติมไปที่ริมฝีปากแล้วขยับยิ้ม ตามด้วยอายไลเนอร์กรีดไปที่ขอบตา แผงขนตาปลอมถูกติดเพิ่มเข้าไป ก่อนลองกระพริบตา
เฮียฮะกับเจ๊หว่างเดินเข้ามา ทั้งคู่ยิ้มดีใจ
"ใช่จริง ๆ ด้วย" เจ๊หว่างเรียกอย่างนุ่มนวล "ยูซ่า"
ยูซ่าลุกขึ้นมาจากหน้ากระจก
ยูซ่าหันมา ทุกองค์ประกอบในตัวยูซ่าทั้งเสื้อผ้าหน้าผมดูสวยงามอร่ามตาไปหมด
"คุณแม่ขา"
"ยูซ่า หนูสวยเหลือเกิน ลูกสาวของแม่"
"ขอบคุณค่ะคุณแม่"

เจ๊หว่างกับซู่ซ่า เข้ามากอดกัน

อ่านต่อตอนที่ 3


กำลังโหลดความคิดเห็น