รสรินล่าแวมไพร์ ตอนที่ 7 : เลือด “รติรมณ์” ทำแวมไพร์เป็นคนได้
บรรยากาศหน้าร้านตัดผมภุชงค์บาร์เบอร์
รสรินและนพเดินเข้ามาภายในร้าน เดินผ่านร่องรอยการต่อสู้ภายในร้านภุชงค์บาร์เบอร์ ร้านดูพังยับ ข้าวของกลาดเกลื่อนจากร่องรอยการต่อสู้ในวันก่อน
ทั้งสองเดินพลางมองสำรวจเหมือนหาร่องรอยอะไรบางอย่าง
"มีความจริงข้อนึงได้บอกว่า เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น มักจะทิ้งร่องรอยเอาไว้ เพื่อตอบคำถาม ..ถึงสิ่งที่เรามองข้ามเสมอ"
นพเหลือบมองรสริน เห็นเธอเดินสำรวจ เธอมองร่องรอยการต่อสู้ที่เคยเกิดขึ้น
รสรินเจอมีดสีทองที่ฆ่าแจ๊คตายตกอยู่ รสรินคิดย้อนกลับไป
เมื่อทั้งสองคนเปิดเข้ามาในห้องๆหนึ่งที่ชั้นบน เป็นห้องนอนเรียบร้อยที่ตกแต่งอย่างวินเทจโบราณ มีคอมตั้งโต๊ะ มีเตียง ตู้เสื้อผ้า และตู้หนังสือ น่าจะเป็นห้องนอนของภุชงค์
นพมองสำรวจรอบๆห้องอย่างใช้ความคิด
"มองหาทุกอย่าง เอกสาร ร่องรอย หรืออะไรก็ได้ที่น่าจะเป็นเบาะแส ถ้านับจากวัชระและริวกิ
ภุชงค์คือเบาะแสคนสุดท้ายที่เรามีแล้ว"
รสรินคิดถึงภาพ ตอนที่ แจ๊คเห็นก็กระชากมือออกจากมีด แล้วพุ่งไปหารสริน
เขากำมีดสีทองเตนียมแทงไปที่หัวใจรสริน แล้วจังหวะที่กำลังจะถึงตัวรสริน แจ๊คก็มาขวางไว้ เขาถูกแทงที่หัวใจ! รสรินตกใจ
นพหันมองที่แจ๊ค รสรินมองแจ๊คที่ร่างกายค่อยๆสลาย เริ่มจากอก
"ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเราผมไม่เคยลืมนะ" แจ๊คว่า
"ขอโทษนะ...ที่ชั้นจำมันไม่ได้"
แจ๊คยิ้มเจ็บปวด จับใบหน้ารสริน ก่อนมือของแจ๊คค่อยๆสลายไป
" บางครั้งร่องรอยก็เป็นสิ่งพิเศษ เราไม่มีวันรู้… ว่ามันจะมาในรูปแบบไหน"
นพบอก "ชั้นไม่น่าพลาดเลย น่าจะกินเลือดมัน"
"ไม่เป็นไร นายไม่ผิดหรอก ตอนนั้นมันฉุกละหุก"
"อื่ม"
รสรินเปิดตู้เสื้อผ้า เห็นเสื้อผ้าเชยๆจากยุคเก่า เห็นชุดกาวน์หมอด้วย นพไปที่ตู้อีกด้านมีแต่ของใช้ที่เหมือนหลุดออกมาจากยุคโบราณ
ทั้งสองหาหลักฐานไปสักพัก นพก็เจออะไรเข้าให้
"ภุชงค์มีลูกสาวด้วยหรอ"
นพเดินไปหารสริน พร้อมกับยื่นกล่องใบนึงที่มีรูปอยู่ด้านใน
"พวกแกเป็นใคร"
โจตกใจขว้างมีดใส่นพ นพหลบทัน นพปามีดกลับ
โจป้องกันตัว มีดถากแขนโจไป
เลือดที่แขนโจไหล
"โอ๊ย!"
รสรินสูดกลิ่นทันที เธอตกใจ!
"เธอเป็นมนุษย์!"
มุมหนึ่งริมถนนใกล้ที่จอดรถวีไอพีข้างตึกหรูค่อนข้างลับตาคน มู่กับชานนนั่งซุ่มอยู่ในรถชานนท์
"ใกล้มาถึงรึยังมู่"
มู่มุ่งมั่น มองนาฬิกา มองไปที่จอดรถ
"ปกติเค้าจะมาถึงเวลานี้ทุกวัน บวกลบไม่น่าเกินยี่สิบนาทีค่ะ"
ทั้งสองเห็นรถหรูคันหนึ่งแล่นมาจอดตรงที่จอดวีไอพีข้างตึก ค่อนข้างลับตาคน
ไม่นานคนขับรถก็ลงมาเปิดประตูให้เจ้านาย
ชายที่ดูแพงเดินลงมาและเข้าอาคารไป
"ไปมู่ เร็ว!"
มู่กับชานนท์เปิดประตูอย่างเร็ว ถลันออกจากรถพุ่งเร็วๆเงียบๆไปที่รถเป้าหมาย
"ค่ะรุ่นพี่!"
ชานนท์มู่วิ่งไปสะเดาะกุญรถคันนั้น
พอเข้าไปในรถก็เปิดดูคอนโซลหน้ารถ
เห็นขวดยาพ่นสำหรับคนเป็นหอบ
ชานนท์ดมที่หัวฉีดหน้าตาอึมครึม
"ดมสิ จำกลิ่นนี้ได้มั้ย"
มู่ดมบ้าง ตื่นเต้น
"กลิ่นมันคุ้นๆนะ หรือว่า!"
ชานนท์เคียดแค้น แอบหนักใจ!
"เก็บหลักฐานไปก่อน" ชานนท์บอก
มู่หยิบสำลีและถุงซิปล็อคขึ้นมา เอาสำลีใส่ถุง ฉีดยาพ่นลงไปในถุง
เห็นควันสีขาวพุ่งเข้าไปในถุง มู่รีบปิดปากถุง
ทั้งสองเก็บขวดยาพ่นหอบ แล้วรีบกลับมาที่รถตนเอง
ผ่านเวลา ทั้งสองนั่งคุยกัน ชานนท์หนักใจ แค้นเคือง
มู่เอาถุงซิปล็อคกับสำลีที่ได้จากรถท่านประชิดออกมา ตรงหน้ามีแก้วน้ำเปล่า
มู่เอาสำลีใส่ลงไปในแก้วน้ำ น้ำกลายเป็นสีดำและน้ำเดือดปุดๆ
"ชัดเลย"
ชานนท์เคียดแค้นกัดฟันเมื่อนึกถึงแวมไพร์
"ถูกน้ำแล้วเปลี่ยนเป็นสีดำ นี่มันวีทูพี ยาแวมไพร์ ถ้าตำรวจเจอก็จะเป็นเหมือนแค่ยาพ่นโรคหอบ" ชานนท์ว่า
มู่จริงจัง ตื่นเต้นนิดๆ
"สรุป ท่านประชิดติดวีทูพี"
มู่เอา tablet ขึ้นมา เปิดให้ชานนท์ดู
มีรูปคนใส่สูทแบ่งเป็นหลายๆช่อง หลายคนในนั้นถูกติ๊กเครื่องหมายไว้ มีช่องหนึ่งเป็นรูปประชิด มู่ติ๊กเครื่องหมายเพิ่มไปอีกราย
"ดูเหมือนตอนนี้คนระดับบิ๊กๆในประเทศจะอยู่ในเครือข่ายแวมไพร์ของมหาสมุทรต็มไปหมด ไม่รู้มันคิดจะทำอะไรกันแน่" มู่ว่า
"สงสัยต้องรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ทำเรื่องส่งให้หัวหน้าซักที ตอนนี้เรื่องมันใหญ่เกินกว่าพวกเราจะจัดการกันแค่สองคนแล้ว"
ชานนท์เคียดแค้น หนักใจ
"เป็นอะไรรุ่นพี่ อย่าเครียดสิ"
ชานนท์ถอนหายใจ เผลอกัดฟัน
"รุ่นพี่ยังคิดเรื่องแม่อยู่หรอคะ"
"ถ้าที่คนที่ฆ่าแม่ชั้นยังลอยนวลอยู่ ยังไงใจชั้นก็ไม่มีวันสงบ"
มู่กังวลไปด้วย ห่วงชานนท์
"ชั้นเข้าใจค่ะ"
"ตลกมั้ยล่ะ ชั้นจับคนร้ายคดีอื่นได้ตั้งเยอะแยะ แต่กลับจับคนที่ฆ่าแม่ตัวเองไม่ได้ ทุกครั้งที่เหมือนจะจับได้ มันก็รอดตลอด แล้วที่ผ่านมากลับรู้สึกว่ามันอยู่รอบๆตัว"
ชานนท์ส่ายหัวเซ็งตัวเอง
สายตาใครบางคนแอบมองไปที่ชานนท์กับมู่
มุมหนึ่ง บลูกำลังแอบมองอยู่
ชานนท์มองไปที่มุมสะท้อนกระจกมุมหนึ่ง กลับเห็นเหมือนใครมองอยู่ เขาหันขวับมาอย่างไม่ให้ตั้งตัว
ชานนท์เห็นหัวบลู ผลุบไปหลังที่กำบัง
"เฮ้ย นั่น!"
ชานนท์ลุกพรวดมุ่งตรงไปทางบลู
บลูขว้างมีดใส่ชานนท์ ชานนท์หลบทัน บลูแยกเขี้ยวตาวาวแล้ววิ่งล่อชานนท์ไปที่เปลี่ยว
ชานนท์กับมู่วิ่งเข้าไปในที่เปลี่ยว มู่หยุดหอบ ชานนท์ชะงัก
"มู่ระวัง!"
ชานนท์โผเข้ากอดมู่ลงพื้น มีดของบลูเฉียดมู่ไปนิดเดียว มีดยังพุ่งมาเรื่อยๆเป็นจังหวะ ทั้งสองกอดกันกลิ้งหลบมีดไปโดยไม่เห็นตัวบลู
ชานนท์กับมู่ลุกขึ้นยืน แยกกัน ชานนท์นั่งยิงปืนใส่บลู
บลูเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วมาโผล่หลังมู่
"แกคือคนที่เคยบุกไปหาชั้น"
บลูยิ้มไม่ตอบ ล็อคคอมู่ไว้
"รุ่นพี่ โอ๊ย!"
บลูแอบเอาเครื่องดักฟังใส่กระเป๋ามู่
มู่ต่อสู้จนหลุดจากแขนบลู ชานนท์กระโดดถีบ บลูกระเด็นเข้ากำแพง
ชานนท์ควักปืนออกมาจะยิงบลู บลูพุ่งจับชานนท์หันหลังเข้ากำแพงแล้วผลักชานนท์พิงกำแพงจนปืนหลุด
บลูเอามือกดมือชานนท์ให้กางแขนสองข้างติดแน่นกับกำแพง
บลูสูดดมชานนท์แบบอยากกินเลือด มองหน้าใกล้ๆ
"แกนี่หน้าไม่เหมือนแม่เลยเนอะ"
ชานนท์อึ้ง
"แกเคยเห็นแม่ชั้นเหรอ"
บลูยิ้มเลวๆ หาเรื่องสุดๆ
"มากกว่าเห็นอีก"
ชานนท์คิดออก โกรธมาก
"แก !"
บลูชะงัก
"อยากไปหาแม่แกมั้ยล่ะ"
ชานนท์แค้น ตาแดงน้ำตาเล็ด
ชานนท์ใช้แรงฮึด เข่าใส่ท้องบลู แล้วไม่รอช้าเขาโจมตีบลู
ชานนท์กับบลูสู้กันอย่างหนัก มู่เล็งปืนไปทางบลูแต่ไม่กล้ายิง
ชานนท์แย่งมีดบลูมาได้แต่บลูถีบชานนท์กระเด็น
มู่ยิงปืนใส่บลู แต่บลูพุ่งตัวแล้วกระโดดหนีไปอย่างรวดเร็ว
"มู่เป็นยังไงบ้าง"
ชานนท์มู่มองไปอย่างเสียดาย
"ไม่ต้องห่วงนะรุ่นพี่ ชั้นจะช่วยรุ่นพี่จัดการมันอีกแรง"
ชานนท์เก็บแค้นครั้งนี้ไว้ โดยที่ทั้งสองไม่รู้ว่า เครื่องดักฟังที่อยู่ในแจ๊คเก็ตมู่เป็นที่เรียบร้อย
ต่อมา นพ รสริน ชานนท์ มู่ และกุ๊บกิ๊บนั่งประชุมกัน โดยมีคอมพิวเตอร์อยู่ตรงหน้านพ
โจยังนอนสลบอยู่หลังจากเสียเลือดมาก ในสภาพที่ทำแผลเรียบร้อย
นพพูดกับชานนท์
"จากที่คุณเล่ามา มหาสมุทรมันคงคิดจะทำอะไรอยู่จริงๆ"
"ผมถึงต้องดันเรื่องนี้ไปหาหัวหน้า" ชานนท์ว่าหน้าจริงจัง
"แต่ไอ้คนที่โจมตีผมวันนี้ และฆ่าแม่ ผมรับรอง ผมจะจัดการมันอย่างสาสม"
มู่จับแขนชานนท์อย่างเป็นห่วง
ชานนท์พยักหน้าขอบคุณทั้งสอง ชานนท์มองไปที่โจ
" สรุปเด็กคนนี้เป็นแวมไพร์ และตอนนี้เป็นคนหรอ"
รสรินบอก "ชั้นก็ยังไม่เข้าใจอะไรหรอก รอเธอฟื้นคงรู้อะไรมากขึ้น"
นพทำอะไรหน้าจอไปเรื่อย เขาเหลือบไปเห็นโจขยับ
"เธอฟื้นแล้ว"
ทุกคนเดินไปที่โจนอน
"พ่อไปฆ่าครอบครัวพี่รึเปล่า?"
ทุกคนมองหน้ากัน งง
ผ่านเวลา โจชันตัว โดยทุกคนนั่งล้อมรอบ ฟังเธอพูดอยู่
"โชคดีที่พ่อไม่ได้ฆ่าครอบครัวพี่"
นพกับรสรสรินพูดไม่ออก รวมถึงทุกคน
"ชั้นเจอรูปเธอกับพ่อ เธอเคยเป็นแวมไพร์หรอ" รสรินถาม
"ใช่ พ่อช่วยหนู ...จากการที่เค้าฆ่าพ่อแม่ตัวจริงของหนู หนูเป็นแวมไพร์มาตั้งแต่นั้น แต่หนูไม่เคยชอบเลย ...แต่ช่างเถอะ ยังไงตอนนี้หนูเป็นมนุษย์แล้ว"
ทุกคนแปลกใจ
"ตอนแรกหนูก็ไม่เชื่อ แต่มีหมอคนนึงเค้าช่วยได้" โจบอก
"หมอหรอ"
"อื่ม หมอลึกลับ"
รสรินถาม "เค้าเป็นใคร?"
โจมองอย่างลังเล
"จริงๆหนูต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ"
โจมอง ยังไม่ไว้ใจ
"หนูไว้ใจพวกพี่ได้รึเปล่า?"
"ถ้าไม่อย่างงั้นพวกชั้นจะช่วยเธอไว้หรอ ทั้งๆที่ชั้นปล่อยเธอตายไปก็ได้"
"หมอคนนั้นชื่ออะไร?"
"รติรมณ์ ...เธอชื่อรติรมณ์"
รสรินอึ้งในคำตอบ
"รติรมณ์ เหรอ"
นพตื่นเต้น ดีใจ ทุกคนก็เช่นกัน
เครื่องดักฟังที่บลูแอบใส่มาในกระเป๋ามู่ ทำงาน
ณ ที่แห่งหนึ่ง บลูแอบฟังเสียงทั้งหมดจากเครื่องดักฟังที่แอบติดไปในกระเป๋ามู่
เสียงโจบอก "รติรมณ์หรอ"
บลูได้ยินชัดหมดทุกถ้อยคำ บลูยิ้มเลว
ในห้องทำงาน มหาสมุทรยืนตระหง่าน หันหลังให้บลู บลูยืนรายงาน
"นังรสรินกับไอ้หน้าโง่นั่นมันเจอโจ ลูกของไอ้ภุชงค์"
มหาสมุทรชะงัก
"ชั้นดักฟังที่พวกมันคุยกัน โจเคยเป็นแวมไพร์ แต่รักษากับหมอลึกลับ จนตอนนี้กลับเป็นคนปกติแล้ว"
บลูเปิดเครื่องบันทึกเสียงที่บันทึกมาจากกการดักฟัง
"โอเค ถ้าพี่อยากหายจริงๆ เดี๋ยวหนูจะนัดพี่รติรมณ์ให้ละกัน"
รสรินได้ยินก็ตาโต เธอนิ่งไป
"เมื่อกี๊เธอบอกว่า...หมอคนนั้น...ชื่ออะไร?"
"รติรมณ์ค่ะ ...เธอชื่อรติรมณ์"
มหาสมุทรตื่นเต้น หันมามองบลูนิดๆ
"ตอนนี้พวกมันวางแผนให้โจนัดรติรมณ์มาเจอ ในอีกไม่กี่วันนี้"
มหาสมุทรวาดหวัง ผ่อนคลายลึกๆในใจ
"ดีมากบลู ในที่สุดก็ได้เจอซักทีนะ ...รติรมณ์!"
นพกับรสรินเดินเข้ามาที่ออฟฟิศพร้อมกัน
รสรินโหวงๆเหวอๆ มีอะไรในใจกึ่งดีใจ สับสน ตื่นเต้น
"ดีใจด้วยนะ เธอรอวันนี้มาตลอดเลยนี่"
"ใช่ แต่ว่า มัน…บอกไม่ถูก"
นพหนักใจ
"ชั้นก็ยังไม่วางใจอยู่ดี จนกว่าจะได้เจอรติรมณ์จริงๆ จนกว่าจะได้เห็นกับตาตัวเอง"
รสรินบอก "แต่มันก็เข้าเค้านะ รติรมณ์รักษาแวมไพร์ให้หายได้ พวกมหาสมุทรเองคงต้องการจะฆ่าเธอ"
รสรินกังวล
"ไม่รู้ว่าตอนนี้รติรมณ์จะเป็นยังไงบ้าง จะจำชั้นได้รึเปล่า"
นพให้กำลังใจ "ต้องจำได้สิ"
รสรินเริ่มแสดงสีหน้ามั่นใจขึ้น
"จริงๆวันนี้ชั้นมีเรื่องนึงจะบอกนายด้วยนะ"
"เรื่องอะไร?"
ยังไม่ทันที่รสรินจะตอบ ระหว่างที่เดินมา ทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงโวยวายของสุชาติ
"เร็วเข้า คุณณัฐวุฒิ เอาไปแจกพี่ๆทุกโต๊ะ"
ณัฐวุฒิ หอบแก้วกาแฟพะรุงพะรัง และถุงข้าวกล่องจำนวนมากกำลังเดินแจก สุชาติแกล้งณัฐวุฒิ
"เอ้า ทุกคน พี่ให้เค้าซื้อมาเองนะ ณัฐวุฒิเค้าเลี้ยง"
ณัฐวุฒิตกใจ
"อ้าวพี่ ไหนบอกพี่เลี้ยงไงครับ ให้ผมจ่ายก่อน เดี๋ยวพี่คืนให้ไง"
สุชาติยิ้มเลวๆ
"มุกไง มุก บ้านนายรวยจะตาย แค่นี้จิ๊บๆ น่า"
"ไม่ตลกนะพี่ เงินตั้งเยอะ"
สุชาติยืดอกกร่าง
"แล้วจะทำไม ไม่ให้เว้ย บ้านนายรวยนี่ อย่าขี้เหนียวสิ เห็นแก่ส่วนรวมหน่อย"
สุชาติแกล้งผลักณัฐวุฒิ ให้เสียหน้า
สุชาติหัวเราะ " ซุ่มซ่ามไม่เข้าท่า ฮ่ะๆๆๆๆ"
คนในออฟฟิศมองปลงๆ
สุชาติมองรสรินกับนพที่เดินมา
"น้องรสรินจ๊ะ รู้มั้ยพอพี่มองเราพี่ก็เสียดายทู๊กกที เท่ๆอย่างพี่ดันไม่ชอบ ดันไปชอบไอ้โอตาคุห่วยๆนี่อยู่ได้"
"ทำไมล่ะคะ"
"สวยไม่คิดนะเรานี่ย"
นพโวย
"อ้าวพี่"
นพเหล่สุชาติ สุชาติจ้องตอบไม่ยอม
"ทำไมไอ้นพ แฟนสวยแล้วกร่างหรอ"
นพกัดฟัน กำหมัด มองทุกคนที่มองเขาเป็นตาเดียว ก่อนจะคลายหมัดลง แล้วเดินหนีไป
"โห่นึกว่าแน่นะเนี่ย"
นพเดินไปสมทบรสริน
นพพูดเบา "ถ้าไม่เห็นว่าต้องทำงานที่นี่อยู่ .. ชั้นคงจัดการพี่สุชาติไปนานแล้ว ไม่ทนแบบนี้หรอก"
"ดี ชั้นก็จะบอกนายเรื่องนี้ล่ะ"
"เรื่อง?"
"ชั้นคุยกับกุ๊บกิ๊บแล้ว ชั้นจะลาออก"
นพตกใจ
"ลาออก ทำไมอ่ะ?"
"ชั้นไม่ต้องใช้สถานะพนักงานออฟฟิศบัหน้า เพื่อสืบหาอะไรแล้ว"
"อื่ม ก็จริง แล้วเธอจะออกวันไหน"
"พรุ่งนี้"
"เร็วไปไหมเนี่ย"
"อ่อ ชั้นลาออกให้นายแล้วด้วยนะ"
"ให้ชั้น! เดี๋ยวนะ!"
"นายคงไม่ต้องทำงานหาเงินเพื่ออาหารแล้ว เพราะต่อไปนี้นายกินเลือด..."
"โธ่! อย่างน้อยเธอก็น่าจะปรึกษาชั้นก่อน"
"นายชอบเพื่อนร่วมงานอย่างนี้หรอ"
รสรินมองไปทางสุชาติยืนจีบสาวกวนๆอยู่ นพมองตาม ถอนหายใจ
"ก็จริง.. แต่กับไอ้ณัฐก็อีกแบบนะ"
"นายกับณัฐวุธเจอกันในเกมส์ออนไลน์ได้ทุกคืนนะ"
"โอเค ออกก็ออก งั้นจะได้ทยอยเก็บของเลย"
นพจะเดินไป รสรินดึงเสื้อไว้
"ก่อนออก นายไม่จัดการอะไรหน่อยหรอ"
รสรินมองสุชาติ สุชาติอ้อล้อสาว ชนกาแฟที่ณัฐวุธซื้อ
นพหันมองณัฐวุธ เห็นเขาเปิดกระเป๋าตังค์เครียด เงินบ๋อแบ๋
นพสีหน้ามุ่งมั่น เดินไปหาสุชาติ
"งั้นขอทิ้งทวนหนักๆหน่อยละกัน"
สุชาติยืนเด่น นพเดินไปหายิ้มๆ
"พี่สุชาติครับ"
"ว่าไงครับคุณนพ มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ"
"ผมจะเล่นกลให้พี่ดู"
สุชาติยื่นหน้าเข้ามาใกล้ นพดีดหัวสุชาติ สุชาติสลบฟุบลงไป
นพเดินมา ยิ้มกับรสริน
ในห้องทำงาน มหาสมุทรยืนมองเมืองอยู่
ภาพเก่าๆตอนเขาทำให้ลูกน้องทุกคนเป็นแวมไพร์ปรากฏ
ในเซฟเฮ้าส์ โจนั่งคุยโทรศัพท์กับรติรมณ์อยู่
ไม่ไกลนัก มู่ทำรายงานอยู่อย่างเคร่งเครียด
รสรินนั่งหาข้อมูลอยู่
"จะว่าไป ก็มีข้อมูลเยอะเหมือนกันนะเนี่ย นึกถึงหน้าหัวหน้าดิ ชั้นว่าคงมีตกใจแน่ๆ และแต่ละคนบิ๊กๆทั้งนั้น"
โจบอก "พี่ๆชั้นนัดหมอให้แล้วนะ พรุ่งนี้เที่ยง ที่นี่"
โจยื่นเศษกระดาษให้รสรินดูแผนที่ รสรินรับมา
"ขอบคุณนะโจ"
โจยิ้ม "ไม่เป็นไรพี่"
นพเดินเข้าในห้อง
"นพมาแล้ว งั้นพวกชั้นกลับก่อนนะ" มู่ว่า
"ขอบคุณนะที่มาอยู่เป็นเพื่อนโจ" รสรินว่า
" จริงๆหนูอยู่คนเดียวก็ได้" โจจับแผล "เลือดก็หยุดแล้ว ไม่เห็นต้องมีคนเฝ้าเลย"
"ไม่ได้สิ พวกชั้นทำเธอบาดเจ็บ อีกอย่างพรุ่งนี้เธอต้องพาชั้นไปหาหมอคนนั้นหมอคนนั้น" มุ๋ว่า
โจยักไหล่ทำนองว่าไม่เป็นไร
"เดี๋ยวเราจะไปไหนอะ" มู่ถาม
"ว่าจะออกไปหาอะไรกินอะคะ" โจบอก
"เดี๋ยวพี่ไปด้วย เดี๋ยวชวนพี่ชานนท์ด้วย" มู่บอก
"ปะ"
มู่ โจ เก็บของและออกจากไป โดยมู่ลืมแจ๊คเก็ตไว้ไม่ได้หยิบไปด้วย
บลูนั่งอยู่ที่สูงๆแห่งหนึ่ง เธอจับหูฟังตัวเองก็บ่น
"ยัยโง่เอ๊ย ดันลืมแจ๊คเก็ตไว้เนี่ยนะ"
บลูโดดลง ออกจากฉากไป
ร้านกาแฟคาเฟ่ ชานนท์ มู่ โจดื่มเครื่องดื่มอยู่
"เดี๋ยวหนูไปเดินเล่นแถวนี้ก่อนนะพี่"
"โอเค อย่าไปไกลล่ะ" ชานนท์บอก
แล้วโจก็เดินไป
นพนั่งทำงานหน้าคอมแจ๊คเก็ตมู่ตก
"เอ๊ะนี่แจ๊คเกตมู่รึเปล่า" นพถาม
"อื่มใช่ สงสัยลืมไว้"
นพหยิบมา ของในนั้นกระจายลงพื้น
เครื่องดักฟังบลูกระเด็นออกมา มันสไลด์ไปหยุดที่เท้ารสริน
รสรินพยิบขึ้นมาดูก็ตาโต
"เครื่องดักฟัง! ชานนท์กับมู่ถูกตาม!"
รสรินเอาเครื่องดักฟังใส่แก้วน้ำ
ต่อมา โจเดินเล่นอยู่ บริเวณทางที่ค่อนข้างเปลี่ยว
โจเตรียมวิ่ง
อีกมุมหนึ่งไม่ไกลนัก ในมุมมืด บลูฟังทางรสรินอยู่ บลูได้ยินเสียงโจ เลยเดินมา
ขณะที่กำลังรั้นกันอยู่ อยู่ๆบลูก็ปรากฏตัว
บลูยิ้ม เริ่มเดินหาโจ โจวิ่งหนี
บลูหยิบมีดปาไปที่ขาโจ
"โอ้ย"
โจล้มลง
บลูเดินเข้ามาหาโจ
เวลาเดียวกัน ชานนท์กับมู่กำลังคุยโทรศัพท์กับรสรินและนพ มู่เอาหูไปใกล้โทรศัพท์ชานนท์
"อะไรนะ!" ชานนท์เสียงสูงตกใจ
รสรินกำลังซ้อนมอเตอร์ไซค์นพอยู่
"ใช่! คุณได้ยินไม่ผิดหรอก มันซ่อนเครื่องดักฟังในกระเป๋าเสื้อมู่ พวกคุณกำลังถูกตาม!"
"ต้องเป็นมันแน่ๆ"
ชานนท์กับมู่หลังวางสาย รีบลุกจากโต๊ะ
บริเวณลานจอดรถ บลู ล็อกโจแล้วเอามีดจ่อไว้ รสริน นพ ชานนท์ มู่ วิ่งเข้ามาหา
"เฮ้ย หยุด แกจริงๆด้วย ปล่อยเด็กซะ" ชานนท์ว่า
โจกลัว
"โชคดีจริงๆนะ มากันหมดเลยเนอะ" บลูว่า
รสรินบอก "ปล่อยเด็กซะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเด็ก"
"ทุกเรื่องมันเกี่ยวกับชั้นหมดละ"
บลูเอามีดปาดคอโจ ก่อนเหวี่ยงโจออกมา ขณะที่นพ รีบวิ่งออกไปรับโจไว้
บลูขว้างมีดไปทางรสริน รสรินหลบทัน
เกิดการต่อสู้กันขึ้น ระหว่างรสรินและบลู
ชานนท์ยิงปืนใส่บลู
บลูขว้างมีดใส่ชานนท์ ชานนท์หลบทัน
ชานนท์เข้าโจมตีบลู ทั้ง 2 คนต่อสู้กัน รสรินหลบไปดูโจที่อยู่ในอ้อมกอดนพ
ชานนท์แย่งมีดจากบลูได้ ผ้าปิดตาบลูหลุด
ชานนท์ มู่ เริ่มเห็นจุดอ่อนของบลูว่าคือแสงสว่าง
รสริน นพ มองดูโจที่เสียเลือดมาก
"หรือ เราจะเปลี่ยนเขา" นพถาม
"โจ ไม่อยากป็นแวมไพร์" รสรินว่า
รสริน นพ มองดูโจที่กำลังจะตายไป เพราะเสียเลือดมาก โจตาย
ด้าน ชานนท์ บลู และมู่ยังคงต่อสู้กันอยู่
ชานนท์ พลาดท่าเสียหลัก บลูกำลังจะใช้มีดจัดการเขา
มู่ยิงปืนใส่หลอดไฟให้แตก
บลูออกอาการยังเห็นได้ชัด
มู่ยังคงยิงหลอดไฟให้แตก อย่างต่อเนื่อง
ชานนท์บุกโจมตีบลู และเขาเสียหลักล้มลง
มู่เข้ามาช่วย แต่โดนบลูจัดการทำให้บาดเจ็บ
บลูรีบเดินไปจัดการ ชานนท์ที่นอนคว่ำอยู่
ชานนท์ใช้ปืนยิงที่หัวใจบลู ขณะที่บลูเดินเข้ามาใกล้เขา
"อย่างแกต้องโดนยิงที่หัวใจ"
ร่างบลูสลายไป
ชานนท์ รีบเข้ามาพยุงมู่
"มู่เป็นไงบ้าง"
นพ รสริน ต่างมองหน้ากัน กับเรื่องราวที่เกิดตรงหน้า
บรรยากาศการต่อสู้จบลง ทุกคนดูเศร้า
รสรินกับนพถือกระเป๋าออกจากห้อง
"หลังจากเหตุการณ์เรื่องบลู เธอพบว่ามีการดักฟังภายในบ้าน โดยที่เธอไม่รู้ตัว นั่นอาจจะเป็นฝีมือบลู ...เราทำทุกย่างเพื่อลบรอยเท้าเรา" นพบรรยาย
รสรินล็อคประตูห้อง เจอคนเฝ้า
คนเฝ้าบ้านตกใจ รีบรับกุญแจ
"คุณจะย้ายออกจริงๆหรอ"
"ของที่เหลือในนั้น ลุงเอาไปได้เลยนะ"
"แล้วของสำคัญล่ะหนู"
"มีแค่ที่เห็นนี่แหล่ะค่ะ"
คนเฝ้าบ้านมองรสรินกับนพอย่างสำรวจ
"รู้มั้ย หนูเป็นผู้เช่าที่แปลกที่สุด ตั้งแต่ลุงเคยเจอมาเลย"
"ทำไมคะ"
"ชั้นเฝ้าตึกนี้มาตั้งแต่ยังหนุ่ม แต่หนูไม่เคยแก่เลยยังไงล่ะ"
รสรินยิ้มโยนกุญแจให้ ลุงรับ
ทั้งสองเดินออกจากบ้านไป
ในห้องทำงาน ชานนท์ยิ้ม น้ำตาเหมือนจะเอ่อขึ้นมา
ชานนท์มองเหลือบไป เห็นมู่นอนหลับที่โซฟา
ชานนท์เดินไปหามู่
ชานนท์ ห่มผ้าให้มู่ และเอื้อมมือไปจับมือมู่ เขายิ้มอย่างอบอุ่นใจ
"ขณะที่ผู้กองชานนท์ ร่องรอยความแค้นที่เคยชัดเจนในใจได้ถูกสะสางลง เขาแก้แค้นให้แม่เขาได้สำเร็จ"
ในห้องทำงานหรู มหาสมุทรยืนมองเมืองอยู่
ไม่นานมีลูกน้องเอาของมาให้ เป็นกระเป๋าเล็กๆใบหนึ่ง มหาสมุทรรับมา
เสียงนพบรรยาย
"แต่ก็อย่างที่บอก...ร่องรอยก็เป็นสิ่งพิเศษ เราไม่มีวันรู้… ว่ามันจะมาในรูปแบบไหน"
มหาสมุทรเดินมานั่งโต๊ะ เปิดดูเป็นมีดของบลูทุกเล่ม มหาสมุทรค่อยปิด เหมือนไม่รู้สึกอะไร
"บางครั้งมันก็ก่อตัวเป็นความแค้นอีกครั้ง แต่บางครั้งมันก็เป็นตัวกำหนด ถึงเส้นทาง...ที่เราจะไปต่อ"
ท้องฟ้าครามยามเช้ามืด นกบินเหนือหลังคาโรงแรม
บรรยากาศของห้องโรงแรม ในแสงสลัวๆ นพค่อยๆลืมตาตื่น เขามองเวลาเป็นเวลาเช้ามืด เขาตื่นมามองรอบๆ ก็เอะใจอะไรบางอย่าง เขาสูดอากาศเหมือนได้กลิ่นอะไรบางอย่าง พอเปิดผ้าห่มมาก็พบเลือดเต็มไปหมด เขาค่อยๆ ลงจากเตียง
นพค่อยๆ เดินสำรวจ รอบๆห้องก็เห็นศพใครบางคนนั่งพิงผนังห้องอยู่ ส่วนอีกศพนอนคว่ำหน้า นพกลืนน้ำลาย เปิดผ้าคลุมจึงเห็นว่าเป็นศพชานนท์ และพลิกศพที่นอนคว่ำหน้าอยู่จึงเห็นว่าเป็นมู่ เขาช็อก
อยู่ๆ นพได้ยินเสียงร้องของรสริน
“อ๊ากกกก...”
นพรีบวิ่งไปดูห้องข้างๆ
เขาเห็นรสรินถูกชายลึกลับใช้มือบีบคอและยกขึ้นลอยจากพื้น ในมุมมองของนพ เขาเห็นเพียงหลังชายคนนั้นแต่ไม่เห็นหน้า รสรินมองหน้านพอย่างเจ็บปวดเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พูดไม่ได้ และก่อนที่เขาจะตั้งตัว ชายคนนั้นกระชากเนื้อที่คอของรสรินหลุดออก ร่างรสรินตายในทันที
นพควักอาวุธออกมา
"แกเป็นใคร"
ชายคนนั้นค่อยๆ หันมาอย่างช้าๆ
นพสะดุ้งตื่น
นพสะดุ้งตื่นจากฝัน เหงื่อแตกเต็มตัว อยู่ๆ รสรินเดินเข้ามา
"เป็นไรของนาย"
"ชั้นฝันร้าย"
"ตื่นได้แล้ว เตรียมตัวให้พร้อม วันนี้เรามีนัด...ไปเจอรติรมณ์"
นพพยักหน้า รสรินเดินออกไป นพเอามือลูบหน้าปาดเหงื่อก่อน
"ความฝันเป็นเรื่องประหลาด บางครั้งมันคือความกลัว บางคนบอกมันคือความกังวล" นพบรรยาย
นพลุกจากเตียง เปิดตู้เย็น มีเลือดแช่อยู่หลายขวด
"แต่นี่มันต่างออกไป ... ในความฝันผมเห็นทุกอย่างชัดเจน ผมรู้สึกถึงเลือดอุ่นๆ"
นพหยิบดื่มขวดนึง
"ได้ยินแม้แต่เสียงลมหายใจของรสริน และได้กลิ่นความตายที่เคลื่อนเข้ามา.. ความฝันนี้กำลังบอกอะไรบางอย่างกับผม"
เสียงโทรศัพท์จากชานนท์โทรเข้ามา
นพถาม"สรุปก็คือ วันนี้พวกคุณไม่ไปหารติรมณ์กับพวกผมใช่มั้ย?"
"โทดทีนะ ผมมีเรื่องใหญ่ต้องจัดการ เรื่องคนระดับบิ๊กเป็นแวมไพร์คงต้องถูกดันเข้ากรมตำรวจซักที มู่เพิ่งทำดาต้าเสร็จเมื่อคืน ถ้าถึงมือหัวหน้าพวกชั้นเมื่อไหร่ เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ"
"เค พอเข้าใจได้"
"พวกคุณไปกันเองได้นะ"
"อื่ม ได้"
ในที่แห่งหนึ่ง กุ๊บกิ๊บ ชานนท์ และมู่อยู่ด้วยกัน
"แล้วในฐานะหนึ่งในทีม ชั้นควรไปกับใครอ่ะ"
ชานนท์บอก "เธอเลือกเลย"
"ชั้นเลือกคุณ"
กิ๊บยิ้มแป้นแล้น มู่หมั่นไส้
"ดูเธอกระดี๊กระด๊าจริงนะ"
"แน่นอนสิ"
"จริงๆรุ่นพี่ไม่น่าจะให้ทางเลือกกับเธอเลยนะคะ"
"โห เดี๋ยวนี้แขวะกันต่อหน้า ไม่ผ่านฟิลเตอร์เลยนะยะ"
ชานนท์เริ่มปวดหัว ห้ามทัพ
ชานนท์พูดกับมู่ "เอาน่า" ถามกุ๊บกิ๊บ "คุณกุ๊บกิ๊บรู้จักที่นี่มั้ย"
ชานนท์ยื่นมือถือให้กุ๊บกิ๊บดู
"อ๋อ รู้จัก ... ไปที่นี่เหรอ"
"อื้อ"
มู่ยื่นหน้ามามองจอมือถือ
"อ้าว เราไม่ไปกรมตำรจแล้วเหรอรุ่นพี่"
"หัวหน้านัดที่นี่อ่ะ เห็นบอกมีประชุมกับสมาคมผู้บริหารหลายคนอยู่"
"อ้อ โอเคค่ะ อืมม แต่แปลกนะ หัวหน้าไม่เคยประชุมอะไรแบบนี้เลย"
มู่แปลกใจนิดๆ แต่ก็ไม่เอะใจอะไร
นายตำรวจเดินนำหน้าหัวหน้าชานนท์พาไปห้องประชุม
"ในห้องเรียบร้อยแล้วครับ เดี๋ยวท่านเดินไปสุดทางเลยนะครับ ผมขอตัวก่อนครับ"
"อืม"
โทรศัพท์ของหัวหน้าชานนท์ มีสายเข้า
"ผู้กองถ้ามาถึงที่นี้ โทรหาผมด้วยนะ"
หัวหน้าชานนท์ เดินเข้าห้องประชุม
ณ โรงเลือดใต้ดิน มหาสมุทรเขากำลังพูดคุยกับนักวิทยาศาสตร์ประจำโครงการ“Dr.พิเชษฐ”ลุคเขาดูใจดี ผมขาววัยกลางคน คนงานจำนวนหนึ่งกำลังจัดการเอาผงเลือดใส่ถังชีวะขนาดย่อมหลายร้อยลูกโดยDr.พิเชษฐคุมการทำงานอยู่
"เหลืออีกเยอะมั้ยคุณพิเชษฐ"
"อีก 400 ลูกก็ครบครับ"
"ดีเพราะวันนี้ ผมจะมีประชุมใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย คิดว่าคงได้สมาชิกมาเพิ่มจนครบตามแผนที่วางไว้เมื่อนั้น...การติดตั้งจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเรา"
"ครับผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เอ่อ แล้วเรื่องรติรมณ์นั่นล่ะครับ"
มหาสมุทรคิดนิดนึงก่อนจะพูด
"ลูกน้องมือดีของผมตายไปคนนึงก็เพราะการตามหารติรมณ์นี่ล่ะ เชื่อเถอะว่าตอนนี้ไม่มีใครอยากฆ่ามันมากเท่าผมแล้ว ...เพียงแต่ตอนนี้เรามีสิ่งที่ใหญ่กว่าต้องจัดการ"มหาสมุทรมองทุกอย่างตรงหน้า
ไม่นานมีสายเรียกเข้า มหาสมุทรพูดในสาย
"ครบแล้วใช่มั้ย ... อื้มชั้นไปเดี๋ยวนี้แหละ"
พอวางสายมหาสมุทรหันมาพูดกับDr.พิเชษฐ
"เรื่องนี้คุณจัดการไปก่อนนะ เดี๋ยวผมไปประชุมก่อน"
ทุกคนเร่งทำงานกันต่อไป มหาสมุทรมองภาพทุกอย่างอย่างภาคภูมิใจก่อนจะเดินออกไป
บรรยากาศเพนท์เฮ้าส์สุดหรู บุคคล VIP หลายวงการทั้ง ผบ.ตร. , นักธูรกิจ, นักการเมือง, รวมถึงลูกน้องแวมไพร์อีก 5-6 คนที่เป็นผู้ติดตาม กำลังนั่งประชุมกันอยู่ในบรรยากาศผ่อนคลาย มีเครื่องดื่มชั้นดีถูกเสิร์ฟเป็นระยะ หนึ่งในกลุ่มคนที่นั่ง มีประชิต ผู้ว่าแบงค์ชาตินั่งอยู่ มหาสมุทรกำลังพูดให้ทุกคนฟังอยู่
"ผมขอขอบคุณผู้ทรงเกียรติทุกท่านที่มาร่วมประชุมในครั้งนี้"
ผบ.ตร.และหัวหน้าชานนท์
มหาสมุทรเดินอ้อมไปทางหลังทุกคนพร้อมพูดอธิบาย
"จุดประสงค์ที่ทุกท่านมาอยู่ร่วมกันในวันนี้ คือการได้เป็นสักขีพยาน พลิกโฉมนวัตกรรม
ยาปฏิชีวนะตัวใหม่ ที่จะข้ามข้อจำกัด ทุกอย่างที่เคยเกิดกับมนุษย์ จะไม่มีการป่วย ไม่มีความเสี่ยงการเกิดโรค และที่สำคัญ...เราจะมีอายุยืนกว่าเดิมถึง 6 เท่า"
เสียงในห้องเริ่มฮือฮา บ้างปรบมือยินดี
"ครับ ทุกคนฟังไม่ผิด เราจะมีอายุยืนกว่าเดิมถึง 6 เท่า ซึ่งความจริงข้อนั้น" มหาสมุทรผายมือไปที่ผู้ว่าแบงค์ชาติ "คุณประชิดได้ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว"
ประชิดหยิบรูปออกจากแฟ้มให้ทุกคนดู
"นี่คือภาพเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนผมเป็นมะเร็งไขกระดูกระยะสุดท้าย ...ตอนนี้ผมแข็งแรงกว่าเดิม และกระดูกทุกส่วนในร่างกายผมกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง"
ทุกคนเริ่มมีท่าทีเห็นด้วย
มหาสมุทรเดินอ้อมมาทางด้านหลัง ผบ ตร.แล้วหยุดยืนที่เขา
"และวันนี้ทุกท่านในห้องนี้ จะได้เป็นคนกลุ่มแรกที่ได้รับเชิญเข้าร่วมลงทุนกับผมในฐานะหุ้นส่วนหลัก"
วิบูลย์ยิ้มตื่นเต้น "แล้วไหนเอกสารการลงนามครับ ผมพร้อมแล้ว"
มหาสมุทรยิ้ม
"ไม่จำเป็นหรอกครับ ของพรรค์นั้น"
มหาสมุทรให้สัญญาณลูกน้องผู้ติดตาม ลูกน้องให้พวกเด็กเสิร์ฟออกจากห้องจนหมด ก่อนที่ลูกน้องมหาสมุทรหลายคนเดินเอากล่องมาวางตรงหน้าผู้ร่วมประชุมทุกคน แล้วยืนประกบด้านหลังผู้ประชุมแต่ละคน ผู้ประชุมเริ่มระแวง ก่อนจะเปิดกล่องมีเข็มอยู่ ทุกคนงง
"ถ้าพวกคุณฉีดสิ่งนี้เข้าไป ผมรับรองว่าทุกอย่างที่ผมพูดมาจะเป็นเรื่องจริง"
ทุกคนมองเลิกลั่กหันซ้ายขวา ก่อนคนหนึ่งในนั้นหยิบไปฉีด เมื่ออีกคนเห็นจึงกลั้นใจฉีดตาม แล้วทุกคนก็ฉีดตาม หัวหน้าชานนท์มองทุกคน เขาเริ่มไม่เห็นด้วย
"พวกคุณเป็นอะไรกันไปหมด เชื่อแบบนั้นจริงๆหรอ"
มหาสมุทรยิ้มส่งสัญญาณให้ลูกน้องคนหนึ่ง ลูกน้องคนนั้นเดินมาล็อคตัวหัวหน้าชานนท์แล้ว จับฉีดยาทันที หัวหน้าดิ้นซักพักก็เปลี่ยนแววตาเป็นแวมไพร์
"ได้หัวหน้าตำรวจมาเป็นสมาชิก ผมอุ่นใจขึ้นเยอะเลย"
แล้วแววตาของทุกคนก็เปลี่ยนเป็นแวมไพร์
"คราวนี้เรามาเริ่มประชุมกันจริงๆซะทีนะครับ เพราะต่อไปนี้ประเทศจะขับเคลื่อนโดยพวกคุณ
พร้อมจะฟังกันรึยังครับ"
มหาสมุทรเริ่มเล่าแผนการทั้งหมด
แววตาของหัวหน้าชานนท์สะท้อนภาพมหาสมุทรที่เล่าเรื่อง
ที่หน้าห้องเพนท์เฮ้าส์ ชานนท์กับมู่ยืนอยู่
"ห้องเนี้ยนะรุ่นพี่"
"เพนท์เฮ้าส์ก็มีห้องเดียวนี่ล่ะ"
พอทั้งสองจะเข้าไป อยู่ๆจ่าพิชิตกับจ่าเหลิมก็เดินมา
"อ้าวผู้กองไปไงมาไงครับเนี่ย"
"มาส่งรายงานให้หัวหน้าแล้ว..พวกจ่าล่ะ"
"หัวหน้าให้มารับครับเห็นว่าประชุมใกล้เสร็จแล้ว ผมรอข้างหน้านี่ล่ะ"
"โอเคแล้วเจอกัน"
สองจ่าตะเบ๊ะ แล้วมู่กับชานนท์ก็ผลักประตูห้องเข้าไป
เมื่อชานนท์และมู่เปิดประตูเข้ามา บรรยากาศที่กำลังประชุมเครียดอยู่ก็หยุดลง ทุกคนในที่ประชุมมองมาทางทั้งสองเป็นตาเดียว
มหาสมุทรมองมาที่ชานนท์ ชานนท์มองไปที่เขา และมองไปที่ผู้ว่าการแบงค์ชาติ
มู่บอกเบาๆ "นั่นท่านประชิดที่เป็นแวมไพร์นี่รุ่นพี่"
"ชั้นเห็นแล้ว"
ชานนท์มองไปที่ผบ.ตร. มองไปที่หัวหน้า เขาสังเกตดูที่หน้าอก
มีรอยเลือดซึมเล็กๆจากเข็ม และทุกคนก็เป็นแบบนั่น
ชานนท์กลืนน้ำลายเอือก
"ท่าไม่ดีเลยรุ่นพี่"
"หัวหน้าครับ ผม....เอางานมาส่ง" ชานนท์บอก
"เข้ามานั่งก่อนสิผู้กอง"
ข้อเท้าชานนท์เตรียมเคลื่อนไหว
"ไม่ได้เจอกันนานนะครับ ผู้กองชานนท์"
มือของชานนท์ค่อยๆเลื่อนกระชับอาวุธที่เอวช้าๆ เหงื่อของชานนท์เริ่มหยด
แวมไพร์ผู้บริหารต่างๆเริ่มหายใจดัง
ทั้งสองฝ่ายตั้งท่าเตรียมพร้อม
และทันทีที่ชานนท์กับมู่ควักปืน เล็ง ฝั่งผู้บริหารทุกคนในที่ประชุมก็เปลี่ยนแววตาเป็นสัตว์ดุร้าย แล้วกระโจนหาทั้งสอง!!!
"ซวยละ!"
ปัง! นัดแรก ชานนท์ยิงหัวหัวหน้า แต่เขาหลบทันเลยถูกไหล่ หัวหน้ากระโจนจะกัดแต่ชานนท์ใช้แฟ้มฟาดจนหัวหน้าเซไปกองกับพื้น มู่ถีบนักการเมืองและยิงไปอีกนัด! ปัง!
"มู่ถอย"
"คุ้มกันให้ด้วย เดี๋ยวชั้นจะไปช่วยหัวหน้า"
ชานนท์รีบวิ่งไปคว้าตัวหัวหน้า เกิดการต่อสู้กันชุลมุนในห้องเพนท์เฮาส์
ชานนท์ มู่ พาหัวหน้าหนีออกมา
ส่วนกุ๊บกิ๊บ รออยู่ที่รถ
นพกับรสรินยืนอยู่ตรงลานน้ำพุในที่นัดหมายรติรมณ์ ทั้งสองคุยกัน
"ปกติน้องเธอเป็นคนชอบมาเลทเปล่า"
รสรินมองนพตาแข็ง
"โทษทีก็เห็นเธอเครียดน่ะก็เลยล้อเล่นนิดหน่อย"
"ชั้นไม่ตลก"
นพนั่งเงียบไปไม่นานก็พูดขึ้นมาอีก
"เธอว่าน้องเธอจะมาเหรอ"
"ชั้นไม่รู้"
"ถ้าเกิดเธอไม่มาตามนัดล่ะ"
"ชั้นไม่รู้"
นพหันมองรอบๆก็เหลือบเห็นในมุมไกลๆ หญิงสาวคนหนึ่งในเสื้อฮูดมองมาทางทั้งคู่ แต่เมื่อเห็นนพมองกลับมาเธอก็รีบหันหลังกลับแล้วเดินไป
"รสรินนั่นอาจจะเป็นน้องเธอ"
รสรินหันมองตามชั่วจังหวะหนึ่งเธอคนนั้นหันมามองรสรินรสรินตาโต
"รติรมณ์!"
แล้วทั้งสองก็รีบเดินตามสาวคนนั้นไป สาวคนนั้นเดินหนี รสรินนพเริ่มเร่งฝีเท้า สาวคนนั้นเลี้ยวหลบไปอีกทาง นพกับรสรินเลี้ยวตามเธอไปสักพักสาวคนนั้นจึงวิ่งหนีทั้งสอง! รสรินกับนพวิ่งตาม!
รสรินกับนพวิ่งตามรติรมณ์พอถึงทางโค้ง
ทั้งสองคนวิ่งไล่ต่อ
"รติรมณ์นี่พี่"
รติรมณ์วิ่งหนีไม่ยอมหยุด เกิดการวิ่งไล่ล่ากันสักพัก
รติรมณ์มาถึงทางตัน เธอหอบและหยุดลง แต่หันหลังอยู่ รสรินพูดเสียงอ่อน
"รติรมณ์... นี่พี่เอง"
ไม่นานรติรมณ์ก็ค่อยๆหันมา
"พี่หยุดตามหาชั้นเถอะ"
"ไม่ พี่เจอเธอแล้ว และจะไม่มีวันให้เธอหายไปจากพี่อีก"
"แล้วอย่าหาว่าชั้นไม่เตือน!"
ว่าแล้วรติรมณ์ก็ควักมีดออกมา กระโจนเข้าหารสริน
รสรินและรติรมณ์กำลังสู้กันอยู่อย่างดุเดือด
จังหวะหนึ่งของการต่อสู้ มีดรสรินถูกปลดออกไป รติรมณ์ไม่รอช้า จ่อมีดแหลมลงหน้าอกตรงหัวใจรสริน
นพจะเดินเข้า แต่รสรินเอามือห้าม
รติรมณ์พูดด้วยหน้านิ่งๆ
"ถ้าพี่เข้ามาอีกชั้นจะฆ่าพี่ด้วยมือชั้นเอง"
รสรินไม่ฟัง เธอก้าวไปอีกนิด เลือดที่อกค่อยๆซึมออกจากเสื้อ
"ชั้นบอกว่าอย่าเข้ามาไง"
รติรมณ์เริ่มพูดด้วยความหวั่นใจ
รสรินกำมีดรติรมณ์แน่น เลือดที่มือเธอไหล
"ถ้าการที่พี่ได้เจอเธอแล้วพี่ต้องตายเพราะมือเธอ พี่คงหมดคำถามต่อการมีชีวิตอยู่แล้ว"
รติรมณ์เริ่มมือสั่น
"เพราะการมีชีวิตอยู่สำหรับพี่ ...คือการรอได้พบเธอนะติ"
รติรมณ์น้ำตาไหล มืออ่อน รสรินกำมีดของน้องสาวแน่น ไม่นานน้องสาวก็คลายมีดลง รสรินจับมีดแล้วทิ้งลงพื้น การต่อสู่ในคราวแรกเปลี่ยนเป็นการสวมกอดของสองพี่น้อง นิ่งเนิ่นนาน
ใบหน้าทั้งสองมีหลากหลายอารมณ์ เสียใจ คิดถึง และดีใจอย่างที่สุด
"ต่อไปนี้พี่จะไม่ทิ้งเธอไปไหนอีกแล้ว พี่สัญญา"
นพมองภาพสองพี่น้องกอดกัน เขายิ้มอ่อนๆ
ต่อมา ในที่แห่งหนึ่ง รสริน รติรมณ์และนพนั่งคุยกัน สีหน้ารติรมณ์ผ่อนคลายลง
"ที่ผ่านมาเกิดเรื่องกับชั้นมากมาย ชั้นเหมือนตกนรก... และคนที่เป็นเจ้าของขุมนรกนั้นก็คือมหาสมุทร"
ทั้งคู่แปลกใจ รติรมณ์เริ่มเล่าเรื่องในอดีตให้ฟัง
เหตุการณ์ที่อู่ตะเภา
รสรินเจียนหมดสติ เธอมองทุกอย่างได้อย่างพร่าเลือน สายตาจับจ้องแต่รติรมณ์ น้ำตารสรินไหล สุดท้ายก่อนที่เธอจะหมดสติลง อยู่ๆรติรมณ์ก็ค่อยๆขยับร่าง ลุกจากรถเข็น และลุกยืนขึ้นมา! เธอมองรสริน
"พี่ริน นี่มันอะไรกัน?"
พอสิ้นเสียง รสรินก็หมดสติลง
รสรินสลบไปตอนที่รติรมณ์ลุกยืน เมื่อยืนขึ้น มหาสมุทรก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมเหล่าแวมไพร์ เดินเข้ามาพาเธอไป
"หลังจากพี่สลบไป ฉันถูกมันจับมา"
พ.ศ. 2510
มหาสมุทร แจ๊คและอีกหลายคนมองรติรมณ์ที่ถูกมัดอยู่กลางห้องหมอ ริวกิ ที่กำลังพูดอธิบายกับมหาสมุทร
"พวกมันบอกว่าเลือดชั้นมีความพิเศษ ไม่ว่าพวกมันจะกัดชั้นในรูปแบบไหน ชั้นก็ไม่เป็นทาส
ใคร หรือผูกพันธ์กับใคร ชั้นเป็นแวมไพร์ที่ต่างออกไป"
มหาสมุทรมองรติรมณ์ที่ถูกมัด
"ตั้งแต่นั้น ชั้นกลายเป็นหนูทดลองของพวกมัน"
หมอเดินไปที่รติรมณ์ เธอดิ้น กลัว
พ.ศ. 2520
มหาสมุทรส่องDNA
รติรมณ์ถูกมัดบนเตียง และท้องโต มีพยาบาลเดินทำงานกันมากมาย / หมอริวกิถาม
"ท่านครับ ผลทดสอบบอกว่า ลูกในท้องมันเป็นมนุษย์ครับ"
มหาสมุทรยิ้มเบาๆ แปลกใจ
"แต่สองเดือนที่แล้วยังเป็นแวมไพร์อยู่เลย ตอนนี้กลายเป็นมนุษย์"
"ครับ ยีนส์มันต่อต้านเลือดพวกเราในทุกกระบวนการ"
"น่าสนใจดี" มหาสมุทรหันไปสั่งพยาบาล "เจาะตัวอย่างเลือดเด็กมาตรวจอีกรอบ แล้วเตรียมผ่าออกคืนนี้เลย"
พูดจบ มหาสมุทรเดินไป
อยู่ๆพยาบาลก็เอาเข็มยาว จิ้มไปที่ท้องของรติรมณ์ เธอร้องเจ็บปวด
แจ๊คได้แต่ดูพ่อของตนเอง ทดลองรติรมณ์อย่างไม่เต็มใจนัก
มันเป็นห้องผนังสีขาวโล่ง รติรมณ์มองผ่านกระจกออกไปอย่างไม่มีจุดหมาย แจ๊คนั่งอยู่ใกล้ๆ
"พี่แจ๊คปล่อยให้เกิดเรื่องนี้แบบนี้กับชั้นได้ยังไง แล้วพี่รสรินจะว่ายังไง"
แจ๊คไม่ตอบอะไร
"ชั้นอยากเห็นหน้าลูก"
แจ๊คไม่ตอบอะไรอีก
รติรมณ์ถามแจ๊ค
"ลูกชั้นผู้ชายหรือผู้หญิง"
แจ๊คนิ่งไปครู่ก่อนจะตอบ
"ผู้หญิง"
รติรมณ์น้ำตาไหล เธอถอดสร้อยที่รสรินให้ยื่นให้แจ๊ค
"เอานี่ให้ลูกชั้นแล้วตั้งชื่อลูกชั้นว่ารำพึง"
แจ๊ครับมาแล้วเดินออกไป โดยรติรมณ์ไม่เห็นว่า แจ๊คแอบสีหน้าใจอ่อน
รสรินได้ฟังก็น้ำตาไหล ส่วนรติรมณ์หน้าเฉยเมย
"พี่ขอโทษที่พี่ช่วยเราไม่ได้เลย"
"ไม่เป็นไรพี่รสริน ชั้นรู้ว่าพี่ไม่เคยทิ้งชั้น"
รสรินปาดน้ำตา
"ไม่อยากเชื่อว่าแจ๊คจะทำเลวกับเธอแบบนั้น"
"พี่แจ๊ค...เขามีข้อตกลงกับไอ้มหาสมุทร"
"เรื่องอะไร?"
"เพื่อแลกกับการได้ช่วยพี่รสรินในวันนั้น… เขาจะยอมเป็นทาสไอ้มหาสมุทร"
รสรินอึ้งไป
พ.ศ. 2549
รติรมณ์ นั่งอยู่นิ่งๆ ไม่นาน แจ๊คเดินเอาขนมไทยมาให้
"วันนี้วันเกิดเธอ นี่ของชอบของเธอ"
รติรมณ์ค้อนมองหน้าแจ๊ค แล้วอยู่ๆเธอก็ปัดขนมลงพื้น กรี๊ดใส่!
"พี่แจ๊ค พี่มันแย่กว่าที่หนูคิด"
รติรมณ์หักดินสอและกระโจนหาแจ๊ค ปักดินสอลงไปที่อกแจ๊ค
ปัง! อยู่ๆใครคนหนึ่งยิงปืนใส่รติรมณ์หนึ่งนัด เธอไปกองกับพื้นมุมห้อง เธอเตรียมจะลุกก็ถูกยิงอีกหนึ่งนัด ปัง ! รติรมณ์เจ็บ
คนยิงคือมือปืนคนหนึ่ง คือ แวมไพร์พระนักบวชชื่อวัชระ สีหน้าท่าทางเขาในตอนนี้มีแววตานิ่งดูน่ากลัว
"ยิงเธอทำไม" แจ๊คถาม
"ผมจำเป็นต้องทำ ถ้ามันทำร้ายใคร แต่ไม่ต้องคิดมาก เธอไม่ตายหรอก"
แจ๊คจะเดินเข้าไปหารติรมณ์
"พี่ไม่ต้องมายุ่ง"
แจ๊คอยู่ไปก็ใจอ่อน เดินออกจากห้อง หนีปัญหาไป
ภุชงค์ อยู่ด้านนอกห้องมองมาทางรติรมณ์ อย่างเอ็นดู
ภุชงค์หยิบกรรไกรเตรียมตัดผมให้เธอ
"ไหวไหม ทนหน่อยนะ"
2556
รติรมณ์ในร่างเปลือยในอ่างไม้ถูกแช่น้ำ พร้อมสายยางที่กำลังสูบเลือดออกไปจากส่วนต่างๆเราเห็นกฤษ กฤษณะจดบันทึกอยู่ไม่ไกลนัก
"หลายสิบปีที่ความเจ็บปวดกัดกินจิตใจชั้นชั้นไม่มีความสุขอีกต่อไป ไม่ว่าจะอยู่หรือตายมันคือนรก สำหรับชั้น"
มหาสมุทรกับDr. พิเชษฐมองรติรมณ์
"หลายสิบปีที่มันทดลองชั้นมันได้สร้างตัวตนจนมันเข้มแข็งขณะที่ชั้นอ่อนแอลงเรื่อยๆจิตใจชั้นตายไปแล้วตั้งแต่ชั้นเป็นแวมไพร์..."
รติรมณ์ค่อยๆหลับตา น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากหางตา แล้วนักวิทยาศาสตร์มาเจาะเลือดเธออีกชุด
"แล้วเราหนีออกมาได้ยังไง" รสรินถามน้องสาว
ภุชงค์พารติรมณ์หนี
"ตอนที่มันกำลังทดลองเลือด เฟสสองกับชั้น ชั้นหนีออกมาได้ แน่นอนว่ามันออกตามล่าชั้นและมันคงรู้ว่าพี่ก็ตามหาชั้นด้วย มันเลยปล่อยให้พี่ตามหาชั้นเพราะมันจะได้เจอชั้นด้วย ที่ชั้นห้ามพี่ หนีพี่มาตลอด ...เพราะชั้นไม่อยากให้พี่เป็นอันตรายน่ะ"
"ตอนนี้พี่เจอเราแล้วต่อไปนี้เราจะไม่จากกัน พี่จะปกป้องเราเอง"
รสริน รติรมณ์มองตาซึ้งใจ เธอถอดสร้อยที่เอามาจากรำพึงใส่ให้รติรมณ์กลับคืนตามเดิม รติรมณ์ดีใจน้ำตาไหล
นพมองสองพี่น้องที่เจอกันด้วยสายตายินดี
รสริน นพ รติรมณ์กลับมาที่ห้องโรงแรม ก็เห็นชานนท์ มู่ กุ๊บกิ๊บนั่งพักอยู่ เมื่อเห็นรติรมณ์ ชานนท์มู่ควักปืนเล็ง รติรมณ์เตรียมควักมีด
"เดี๋ยว! พวกเดียวกัน!" รสรินบอก
ผ่านเวลา ทั้งหมดนั่งคุยกันอย่างเป็นมิตร ชานนท์พันแผลตัวเองไปด้วย
"อ่อ...เรื่องมันเป็นแบบนี้เอง ยินดีที่รู้จักนะรติรมณ์"
"เช่นกัน"
นพสงสัย เริ่มถามรติรมณ์
"ตอนที่เธอเล่าเรื่อง ชั้นได้ยินว่ามีเฟสสอง การทดลองเฟสสองที่ว่ามันคืออะไรหรอ"
"ปกติแวมไพร์จะต้องกัด ถึงจะสร้างทาสได้ แต่ไอ้มหาสมุทธมันทะเยอทะยานกกว่านั้น มันต้องการให้กินเลือดมัน แล้วเป็นทาสมันเลย มันคือการสร้างทาสโดยไม่มีการกัด.. วิธีนี่มันประหยัดเวลาและลดความเสี่ยงมากกว่า"
"แล้วตอนนี้แผนมันไปถึงไหนแล้ว" ชานนท์ถามเพิ่ม
"ชั้นไม่รู้ แต่ตอนชั้นหนีออกมา ชั้นเห็นมันทดลองอะไรบางอย่างมันเรียกโครงการนี้ว่า Blood Mist เปลี่ยนเลือดให้กลายเป็นหมอก เมื่อคนสูดเข้าไปจะกลายเป็นแวมไพร์ ทาสของไอ้มหาสมุทรทันที"
กุ๊บกิ๊บบอก "อย่างล้ำ"
"และอาจตายได้"
"ฟังดูไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ" ชานนท์ว่า
"แล้วใครที่โดนหมอกนี่ มีทางแก้มั้ย" มู่ถาม
รติรมณ์ยิ้มอย่างเจ็บปวดลึกๆ
"นั้นเป็นเหตุผลที่ไอ้มหาสมุทรตามล่าชั้น และต้องการฆ่าชั้นทิ้ง ชั้นไม่รู้ว่าเลือดชั้นพิเศษยังไงถึงถูกมันจับทดลอง แต่ระหว่างทดลอง เลือดของชั้นกลับให้ผลที่มันไม่อยากได้ ...เลือดชั้นสามารถเปลี่ยนแวมไพร์ให้กลับมาเป็นคนได้"
"เหมือนที่ทำกับโจ" นพบอก
"ใช่ แล้วเธอไปไหนล่ะ อยู่ที่นี่หรือเปล่า"
รติรมณ์มองหาโจ
"เธอตายแล้ว คนของมหาสมุทรฆ่าเธอ"
รติรมณ์เศร้าไป
"คนที่เกี่ยวข้องกับชั้นมักต้องตาย"
"เธอไม่ผิดหรอก คนผิดคือไอ้มหาสมุทรนั่นต่างหาก และถ้าเป็นอย่างที่ชั้นคิด โครงการ Blood Mist มันน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ชั้นเจอมาวันนี้แน่ๆ มหาสมุทรมันกำลังคิดจะทำอะไรบางอย่างกับผู้คน ผมคิดว่าผมกับมู่คงต้องจัดการเรื่องนี้"
รสรินคิดนิดหนึ่งก่อนพูด
"ชั้นช่วยคุณอีกแรง"
"เธอไม่จำเป็นต้องช่วยชั้นก็ได้นะ เพราะเธอเจอรติรมณ์แล้ว เธอได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว" ชานนท์บอก
"ถ้าชั้นเจอรติรมณ์แล้วต้องแลกมาด้วยการที่พวกชั้นต้องเสี่ยงและหนีไปทั้งชีวิต นั่นมันไม่คุ้มเลย อีกอย่าง... มหาสมุทรต้องชดใช้สิ่งที่มันทำกับน้องสาวชั้น"
รสรินแค้นอย่างสุดๆ
"ถึงพวกเราจะมีจุดประสงค์ต่างกัน แต่เรามีศัตรูคนเดียวกันนะ งานนี้ชั้นเอาด้วย"
"งั้นก่อนอื่นเราคงต้องรู้แผนการทั้งหมดของหมาสมุทร" รสรินว่า
มู่เดินไปเปิดประตูห้องน้ำ
"ชั้นไม่รู้จะมีประโยชน์อะไรมั้ย แต่หัวหน้าชั้นอาจจะช่วยอะไรพวกเราได้" มู่ว่า
หัวหน้าชานนท์แยกเขี้ยว ถูกใส่กุญแจมือและล่ามไว้ในห้องน้ำ เขาแยกเขี้ยว
ทั้งหมดมองหน้ากัน ออกอาการเครียดนิดหน่อย
นพมองทุกคน
อ่านต่อตอนที่ 8