xs
xsm
sm
md
lg

อลเวงรักสลับร่าง ตอนที่ 6 : เป็นเมียเก็บหรือ? จับทุ่มซะเลย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


Secret Garden อลเวงรักสลับร่าง ตอนที่ 6 : เป็นเมียเก็บหรือ? จับทุ่มซะเลย

บทประพันธ์จากซีรีส์เกาหลี Secret Garden
บทโทรทัศน์ : เนปาลี

เครื่องบินค่อยลงแตะพื้น สนามบินฟูกุโอกะ .... ณ มุมต่างๆของสนามบิน

รถตู้คันหนึ่งวิ่งออกไปจากหน้าสนามบิน

ภาพสองข้างทางที่สวยงาม วีนาดูสนุกสนาน มิวะ ทำหน้าที่ไกด์บรรยายนั่นนี่สองข้างทางไป

ณ ล็อบบี้โรงแรม บริเวณรีเซฟชั่น มิวะเข้าเช็คอินและหันมาบอกทั้งคู่
วีนาถาม
"พี่มิวะ โปรแกรมวันนี้เป็นยังไงบ้างคะ"
"สิบโมงถ่ายรายการที่ศาลเจ้าซากะ สิบเอ็ดโมงไปประสาทซากะ สิบเอ็ดโมงครึ่งไปร้านขนมญี่ปุ่น เที่ยงสิบห้ากินข้าวบนรถ บ่ายโมงเดินชม..."
"อ่อ...ทำงานตั้งแต่วันแรกเลยหรอคะ"
"ทำงานค่ะ เพราะว่าคุณธนัทสั่งมาเลยนะคะ"

บริเวณ ถนนหน้าวังซากะ วีนาเดินเล่นก่อนเลี้ยวเข้าไป
ทางเดินในวัง วีนาเดินเล่น ถ่ายรูปนั่นนี่ไป
"เป็นศาลเจ้าที่ทุกคนบอกว่าศักดิ์สิทธ์กันมาก รู้สึกดีใจค่ะที่ได้มาที่นี่"
ทีมงาน1บอก "เดี๋ยวพี่ขออีกทีหนึ่งนะคะ คุณวีนาพักอยู่กับคุณมิวะก่อนนะคะ ขอเปลี่ยนขนาดภาพแปบนึงค่ะ"
"พี่มิวะคะ ตอนนี้เราจะมีเวลาว่าง เป็นส่วนตัวบ้างไหมคะ"
"ไม่มีค่ะ พอดีคุณธนัทบอกว่า ไม่มีเวลาก็เลยสั่งทำงานเยอะๆนะคะ"
วีนาทำท่าเนียนๆแล้วรีบวิ่งหนีออกจากวัด
ทีมงาน1ว่า "ได้ไหมพี่ โอเคนะ พี่มิวะคะ เชิญคุณวีนาค่ะ ไปไหนแล้วคะ"
วีนาวิ่งหนีออกจากวัดอย่างรวดเร็ว

วีนาเดินอยู่ข้างทางพร้อมเปิดแผนที่ดูเส้นทาง
วีนาถาม "Excuse me, Where ?"
นักธุรกิจญี่ปุ่นตอบว่า "You go street second street you turn left"
"Ok,thank you"
วีนาเดินชมวัง ดูความสวยงามอย่างสดชื่น เปิดประตูวังรับแสงแดดอย่างสดใส
ทางด้านมิวะเดินหาวีนาตามสถานที่ต่างๆ
วีนาถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน เดินเล่นจนมานั่งพัก เปิดแผนที่นำทางหาที่กำลังไปต่อ

"คุณวีนา น่าตีจริงๆเลย หนีมาที่นี่ได้ยังไงคะ วันหลังอย่าทำอย่างนี้อีกนะคะ"

ต่อมา วีนาเดินตามเสียงเพลง ท่าทางตื่นเต้น

นักดนตรีสาวสองคนเล่นกีตาร์ ร้องเพลง น่ารักๆ
"คุณวีนารออยู่ตรงนี้ก่อนะคะ อย่าหนีหายไปไหนอีกนะคะ"
วีนาเต้นตามเสียงเพลงเบาๆ สนุกๆ
วีนาเหมือนถูกมองด้วยใครคนหนึ่ง
วีนาเต้นไปเพลินๆ สนุกๆ หันไปหันมา แวบๆ เธอเหมือนเห็นธนัท วีนาชะงัก ขยี้ตา ก่อนจะเดินหารอบวง ไม่เจอใคร วีนางงๆ ก่อนจะเดินไปยกหูโทรศัพท์หามุก
ธนัทค่อยๆเดินฝ่าออกมาแล้วตรงมาทางวีนา วีนาอ้าปากค้างตะลึง
ธนัทเดินเท่ๆ มา ยิ้มๆ
"คอนนิจิวะ"
วีนาเหวอๆ "นี่ นายมาทำอะไรที่นี่อ่ะ"
ธนัทยิ้ม "มากวนใจ" ธนัทมองกระเป๋าวีนา "โอ๊ะ นี่ถึงกับสะพายกระเป๋าใหม่มาเลยเหรอเนี่ย"
วีนามองอย่างไม่ชอบใจ "เรย์อยู่ไหน"
"เรย์ผู้น่ารัก ไม่ยอมมา ผม ก็เลยกลัวว่าคุณจะเหงา มาอยู่เป็นเพื่อน"
วีนาจ้องเดือดๆ "ไม่ต้อง กลับไปเลย"
ธนัทหัวเราะ "ตลก...พูดไรออกมาเนี่ยรู้ตัวมั้ยว่าไล่ใคร ผมน่ะเป็นคนจ่ายทุกอย่าง และจัดการทุกอย่าง ว่าง่ายๆ ก็คือ ที่คุณได้มาที่นี่ เพราะผมจ๊ะ อย่าลืมนะคุณมาทำงาน ขอโทษทีนะ ที่ของฟรีในโลกนี้ไม่มีจริง"
วีนาถอนหายใจเซ็งๆ มองตามเคืองๆ..
นักธุรกิจที่วีนาถามทาง เดินเข้ามาทักทายธนัท และหันมามองวีนา
"พอดีเขามาทำงานให้ผมครับ"
"ไปทานข้าวด้วยกันไหมครับ"
"ไม่ได้ครับ เดี๋ยวเขาต้องทำงาน เดี๋ยวเราไปทานข้าวกันดีกว่าครับ"
วีนาทำหน้าจ๋อยๆ
มิวะเอาข้าวกล่องมาให้ทานในนรถ
"กินอาหารกลางวันกันบนรถนะคะ"

วีนาและทีมงานกำลังถ่ายทำ ที่ร้านขนม เธอกำลังทานชา
"แค่ยกขึ้นมากลิ่นก็หอมแล้วค่ะ"
ทีมงาน1 บอก "โอเคค่ะ เดี๋ยวอีกเทคนึงที่จะขอให้วีนาพูดเป็นภาษาญี่ปุ่น"
"มาดูที่นี่...มาเห็นที่นี่ค่ะ"
"คัท คัท พี่ อีกทีนึง"

ที่โรงแรม วีนาในชุดนอน กราบหมอนไหว้พระ ก่อนพูดถึงพ่อ

"พ่อคะ วันนี้เหนื่อยมากๆเลยค่ะ คนงี่เง่าใช้งานหนักมากเลย นอนก่อนนะคะ"

ยามเช้า ท่ามกลางบรรยากาศสวยๆของโรงแรม

วีนาตื่นแต่เช้า วิ่งมาลับๆล่อๆ หันซ้ายหันขวา จะหนีธนัทไปเที่ยว

วีนาเดินเข้าร้านกาแฟ ตรงพิพิธภัณฑ์ ท่าทางสบายใจ พร้อมสั่งกาแฟนั่นนี่ ยิ้มร่าเริง

จู่ๆ ใครคนหนึ่งก้าวพรวดมานั่งฝั่งตรงข้าม วีนาสะดุ้งก่อนจะถอนหายใจเมื่อเห็นธนัท
"กินอะไร"
วีนามองเคืองๆ "ไม่ต้องยุ่งเลย"
"ถ้างั้นก็รีบๆกินให้เสร็จซะ แล้วไปถ่ายรายการต่อ และอย่าลืมนะ มาทำงาน ไม่ได้มาเที่ยว"
มิวะบอก
"คุณธนัทคะ คุณต้องถ่ายรายการที่นี่ค่ะ เพราะคุณเรย์ไม่มา คุณธนัทก็ต้องรับผิดชอบนะคะ อีกสิบนาทีนะคะ"
"ห๊ะ ต้องรับผิดชอบ"
วีนาบอก
"ต้องรับปิดชอบนะคะ อย่าลืมว่ามาทำงานนะไม่ได้มาเที่ยว"
ธนัทลุกขึ้นโน้มตัวไปหาวีนาจนใกล้ จ้องหน้าวีนาก่อนจะยิ้มอ่อนโยน แล้วเอานิ้วค่อยๆปาดวิปครีมออกจากปากเธออย่างนิ่มนวล วีนาตะลึงลืมหายใจไปชั่วขณะ
ธนัทคว้ามือวีนาเดินออกจากร้าน
วีนาเดินตามแบบมึนๆ เบาๆ...

ธนัทจูงวีนาเดินเข้าชานชาลาสถานีรถไฟคาราซึ อย่างสบายใจ วีนาเลิ่กลั่ก หันซ้ายขวา
"นี่คุณจะพาฉันไปไหนทำไมต้องขึ้นรถไฟ"
ธนัทยิ้ม "น่า...ไม่เอาไปขายหรอก หน้าตาแบบนี้ขายได้ที่ไหน"
ธนัทไม่สนใจ ดันหลังวีนาขึ้นรถไฟไป
"ฉันถามว่าจะไปไหน"
ธนัทยิ้มภูมิใจ "ยกระดับการกินของคุณ โดยเริ่มจาก...สเต็กที่อร่อยที่สุดในโลก"

ภายในร้านสเต็ก ตอน กลางวัน ไฟลุก พรึ่บบนเคาน์เตอร์ วีนามองอึ้งๆ เห็นขั้นตอนต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเนื้อ โชว์เนื้อสั้นๆ ธนัทกับเชฟคุยกันนั่นนี่ ชนแก้ว ดูสนุกสนาน
วีนาหันไปรอบๆ ในร้านไม่มีใครเลย ก่อนหันมาแขวะ
"เดินทางมาตั้งไกล ปิดร้านเพื่อมากินเนื้อแค่นี้หรอ ได้ข่าวว่าอย่างนี้บ้านเราก็มี"
"เอาอย่างนี้ ถ้ามันไม่ใช่เนื้อที่อร่อยที่คุณเคยกินในชีวิต ผมยอมให้คุณจับทุ่ม ถีบแรงๆ ตามด้วยกระทืบหนักๆ เลย"

วีนาตาเป็นประกาย "แน่ใจ๊"
ธนัทพยักหน้าคีบชิ้นเนื้อไว้รอ
"ดี ฉันจะถีบแรงๆ ก่อนสองทีแล้วตามไปจับทุ่ม ก่อนที่จะ.."
ธนัทบีบปากวีนาก่อนเป่าสเต็กให้เย็นสองสามครั้งแล้วยัดใส่ปาก
ชิ้นเนื้อเข้าปากวีนา ก็ชะงักตาเหลือกด้วยความอร่อย ก่อนหันไปอีกทาง พึมพำ "เชี่ยยยยย" หน้าตาวีนาฟินอร่อยมาก เคี้ยวๆ ก่อนหันมาอึ้งๆ
ธนัทยิ้มกวนตีน รอป้อนอีกคำก่อนพูด
 
"แต่ถ้าอร่อย ขอจูบเบาๆ ทีเดียว เค๊.."

ธนัทกับวีนาเดินข้ามสะพาน แถวร้านสเต็ก เดินตามถนนโคมไฟสวยๆ แล้วเดินไปขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟอิมาริ

สองคนนั่งบนรถไฟ...
สองข้างทางรถไฟสวยๆ ธนัทกับวีนาชี้กันดูนั่นนี่ ทั้งสองเริ่มรู้สึกดีต่อกันขึ้นเรื่อยๆ
ธนัทกับวีนาลงรถไฟที่สถานีหนึ่ง...
วีนาและธนัทนั่งพักที่สะพานแห่งหนึ่ง
วีนาป้อนข้าวปั้นธนัท
"อื้อ เป็นไง อร่อยไหม"
ธนัทนั่งพิงไหล่วีนา ทั้งสองคนจับมือกัน
ธนัทและวีนาวาดรูปในจานเซรามิ ทั้งคู่ยิ้ม

ถนนในหมู่บ้านเซรามิค ในเส้นขายของ
ธนัทเอามือยื่นมาค่อยๆจิ้มหน้าผากวีนานิ่งๆ วีนาเพ่งมือธนัทจนตาเหล่
ธนัทหัวเราะ "ตาเหล่อ่ะ"
วีนาปัดมือออก "บ้า แล้วคุณทำอะไรเล่า"
"ดูว่านี่เรื่องจริงหรือเปล่า"
"เพี้ยนได้อีกนะเนี่ย"
"ก็คุณอ่ะ...ชอบโผล่มาในความคิดของผมบ่อยๆ พอเอื้อมมือไปจับ...คุณก็หายไป"

บริเวณริมเขื่อนสวย ธนัทเดินถอยหลังมองหน้าวีนาที่เดินตามมาเขินๆยิ้มๆ
วีนาพูดลอยๆ "ถอยหลังเดินแบบนั้นจะแช่งให้หกล้มตายไปเลย"
"ผมตายจริง ๆ คุณจะเศร้าน๊า"
"ไม่มีทาง ฉันจะดีใจมากที่โลกของฉันมันกลับมาเงียบสงบแบบเดิม"
ธนัทขำๆ "อ่ะ ๆๆ...ตอนนี้โลกของคุณเป็นยังไงอ่ะ"
วีนายิ้มๆไม่ตอบ
สองคนหยุดหันไปมองทะเลสาบ
"มันจะไม่เงียบสงบหรอก...เพราะมันมีแรงกระเพื่อมไปแล้ว" ธนัทก้มลงหยิบก้อนหินก่อนขว้างไป "เห็นนั่นใช่มั้ย"
ก้อนหินตกลงน้ำ เห็นแรงกระเพื่อมสวยๆ
วีนาพยักหน้า "อื้อ"
"ถ้าหินก้อนนี้ตกลงไป…ต่อให้ทะเลสาบมันกว้างใหญ่แค่ไหน มันก็จะส่งแรงกระเพื่อมไปได้จนสุดขอบพอมันหล่นลงไป มันก็เหมือนคุณกับผม...เราต่างตกลงไปในกันและกันแล้ว เราจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป...เชื่อสิ..."

วีนาอึ้ง

ธนัทกับวีนาเดินช้าๆ มาที่สะพานตรงสันเขื่อน ทั้งคู่ดูสบายใจ

"ผมอยากให้โลกมีแค่นี้จัง"
วีนาหันไปมองธนัท "มีแค่ไหน"
"แค่คุณกับผม กับที่ไหนก็ได้"
"เอาเข้าจริง มันก็เป็นไปไม่ได้หรอกน่า… ใช่มั้ย"
ธนัทอึ้งๆ "ก็ดีที่คุณเข้าใจ แต่จะบอกให้นะว่าผมไม่ยอมหรอก ผมจะหาวิธีให้เราเป็นไปได้ ผมจะไม่ปล่อยคุณไปไหนแน่ๆ"
วีนาพยักหน้ายิ้มเศร้าๆก่อนตัดบท "กลับกันเถอะ…เย็นมากแล้ว"
ธนัทเดินนำไป วีนาเดินตามไปช้าๆ

สองคนนั่งในรถไฟ ขบวนนั้นมีคนนั่งกันอยู่ประปราย
ธนัทนั่งพิงไหล่วีนา หลับ
วีนาชะงักไป จ้องมือนั้น จังหวะเดียวกับที่รถไฟกำลังเข้าสถานี วีนาเงยหน้ามองเจ้าของมือนั้นอย่างงงๆ
ชายลึกลับคนนั้น ใส่เสื้อคลุมเหมือนพนักงานดับเพลิงลุกขึ้นทำท่าจะลง
วีนาตะลึงก่อนพึมพำเบาๆ
"พ่อ"
รถไฟจอดพอดี ประตูเปิด ชายลึกลับคนนั้นเดินลงไป
"อะไร" ธนัทถามอย่างงงๆ
วีนาลุกพรวด ธนัทร่วงลงเบาะรถไฟ งง เห็นวีนาพรวดพราดลงไป จึงรีบลุกตาม
"เดี๋ยว จะไปไหนอ่ะ"

ที่สถานีรถไฟ secret garden วีนาชะเง้อรีบเดินตามชายลึกลับที่เหมือนจะหายไป
ธนัทเดินตามมาก่อนจะดึงวีนาไว้
"นี่คุณ...จะไปไหนอ่ะ"
วีนาหันมาน้ำตาคลอๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไง
ชายลึกลับเดินออกจากสถานีไป ธนัทดึงแขนวีนาออกก่อนเดินตามออกไปทันที
"เดี๋ยว" ธนัทมองรอบๆอย่างงๆก่อนวิ่งตามไปอย่างเป็นห่วง
ท่ามกลางแสงยามเย็นของพระอาทิตย์ที่สวยแปลกตา

วีนายังคงเดินตามชายลึกลับไปเรื่อยๆเหมือนจะตามทัน เหมือนจะไม่ทัน ชายคนนั้นก็มาๆหายๆ วีนาชะเง้อมองตามแต่ชายคนนั้น จนไม่รู้ตัวว่าเดินไปทางไหน...
ธนัทเดินตามพลางร้องเรียก
"วีนาๆ เดี๋ยวๆ" ธนัทวิ่งตามมาคว้ามือไว้ "คุณจะไปไหน"
วีนาเห็นชายลึกลับหยุดยืน มองตรงมาทางที่วีนายืนอยู่กับธนัท ในแสงโพล้เพล้วีนาพยายามเพ่งมองชัดๆ
ธนัททำท่าจะบ้าตาย

"อะไรของเขาวะเนี่ย" ธนัทวิ่งตาม "วีนา..."

ต่อมา วีนามองตามชายลึกลับนั้นอย่างลุ้นๆ เศร้าๆ กระทั้งผ่านป่าสนที่มืดและดูลึกลับ ชายคนนั้นเดินเร็วๆก่อนหายไป

ชายลึกลับปรากฏตัวลิบๆ ตรงหน้าอีกที...วีนารีบวิ่งตามไป
วีนากึ่งเดินกึ่งวิ่งตามพ่อที่มาๆ หายๆ จนไปเจอถนนมอสเล็กๆกลางป่า วีนายังวิ่งตามไป
หน้าต้นการบูร ชายลึกลับคนนั้นเดินหายไป วีนามองไปรอบๆ ดูเคว้งๆ ก่อนจะร้องไห้ออกมาเบาๆพึมพำ
วีนานั่งร้องไห้หน้าบันไดศาลเจ้า ใครคนหนึ่งมานั่งข้างๆ วีนาเงยหน้า
ธนัทหน้านิ่งๆก่อนจะดึงวีนาเข้าไปกอด พลางถามอย่างเป็นห่วง
"คุณต้องอธิบายแล้วแหล่ะ จะไปไหน"
วีนาวิ่งตามหาชายลึกลับ หยุดเดินที่ใต้ต้นไม้
"อะไรของคุณ จะบอกผมไดด้หรือยัง"
"ตามมาไม่ทันอ่ะ...เขาหายไปแล้ว"
"คุณพูดถึงใคร"
วีนาร้องไห้โฮออกมาทันที
ธนัทชะงัก ด้วยอะไรบางอย่างทำให้เขาเข้าใจ เขากอดวีนาไว้ วีนายังคงร้องไห้
สองคนกอดกันหน้าต้นการบูร...ผ่านเวลาจนวีนาหยุดร้องไห้แล้วดันตัวเองออกจากอกธนัทอย่างเขินๆ
ธนัทปาดน้ำตาให้วีนาก่อนถาม...
"เหนื่อยมั้ย...หาอะไรทานสักหน่อยก่อนมั้ย"
วีนามองไปรอบๆ "ในป่านี่นะ"
จู่ๆก็มีแสงไฟ จากบ้านหรือร้านอะไรสักอย่าง เปิดขึ้นในป่า ทั้งคู่หันไปมองงงๆ
"ในป่านี่แหล่ะ"
สายตาคนทั้งคู่มองไป เห็นแสงไฟเล็กๆส่องลอดออกมาจากหลังต้นไม้นั่นและมีหิ่งห้อยกลุ่มเล็กๆ ส่องแสงรอบๆปากทางเข้าโพรงไม้ใหญ่นั้น

เวลากลางคืน ร้านอาหารเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่อย่างกลมกลืน ธนัทยืนมองนิ่งๆ วีนามองร้านนั้นอย่างรู้สึกอุ่นใจยังไงบอกไม่ถูก ทั้งคู่เดินเข้าร้านไป
ทั้งคู่เปิดประตูเข้าไปในร้าน ที่เงียบกริบไม่มีคน
ธนัทพูดทักภาษาญี่ปุ่น
"สวัสดีครับ มีอะไรทานมั่งมั้ยครับ"
ป้าเจ้าของร้าน โผล่ออกมามองหน้าธนัทดุๆ ก่อนจะหันไปทางวีนาอย่างเอ็นดู พลางทำท่าโบกมือให้ไปนั่ง ก่อนหายกลับไปหลังร้าน...ในร้านเงียบเชียบ ธนัทนั่งชิลล์ หยิบโทรศัพท์ออกมาพลางบ่น
"จะทำให้ เชิญนั่งก่อนนะคะ"
วีนาหยิบก้อนแก้วสีขาวขุ่นขึ้นมาเล่นส่องไปมาทั่วร้าน สายตาวีนาเบลอๆ เบี้ยวๆ ผ่านก้อนแก้วเห็นเหมือนเห็นพ่อตัวเองอีกครั้ง ป้าเดินออกมาจากหลังร้าน วีนาตกใจยืนขึ้น รีบมอง
"โอเคไหม...นั่งก่อน" ธนัทบอก
ป้าเจ้าของร้าน เดินออกมาพร้อมถาดอาหาร วีนาตะลึง งงๆ ก่อนถาดอาหารวางลงที่โต๊ะ
"จะกินได้ไหมเนี่ย" ธนัทถาม
"อย่าพูดอย่างนั้นสิคุณ เดี๋ยวป้าเขาก็เสียใจหรอก"
ป้าที่มองธนัทเคืองๆ เหมือนฟังเข้าใจ ก่อนจะยกอาหารดีๆวางให้วีนา ส่วนของธนัท ป้าให้ อะไรงงๆมากิน
ป้ายื่นน้ำให้ธนัทรับ และยื่นอีกแก้วให้วีนารับ วีนาเห็นรอยแผลบนมือป้าเหมือนกับรอยแผลของชายลึกลับชุดดับเพลิง และยื่นมือไปรับอย่างหน้าตาสงสัย
ป้ายืนมองสองคนด้วยสายตาแปลกๆ ก่อนเดินถือบิลออกมาวาง ทำท่าเก็บตังค์ๆ
ป้าหันมายิ้มให้วีนาอย่างรักๆห่วงๆเป็นพิเศษ แล้วชี้ๆไปที่นาฬิกา ก่อนทำท่าให้ไปขึ้นรถไฟ
"ขอบคุณนะครับ"
วีนายิ้มพยักหน้า "รีบไปเถอะ เดี๋ยวจะเย็นเกินไป"
ทั้งคู่ลุกจะเดินออกมา ป้าเดินมาดึงทั้งคู่ไว้ก่อนยื่นขวดน้ำให้หนึ่งขวด พร้อมห่อผ้าขนาดเล็กใส่ ของกินเล่น
"เอาไว้ดื่มระหว่างทางนะ เผื่อจะหิว"
ธนัทโบกมือไม่เอา "ไม่เป็นไรครับพวกเราอิ่มแล้ว"
วีนาดุธนัท "นี่ เสียมารยาท" ก่อนหันไปขอบคุณป้า "ขอบคุณนะคะ"
วีนารับมาไว้ตามมารยาท ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นว่ามือของป้ามีรอยแผลข้างเดียวกันและคล้ายกันกับของชายลึกลับที่เธอเดินตามมา วีนาเงยหน้ามองอย่างตะลึง ป้ายิ้มเอ็นดูก่อนจะพยักหน้าทำท่าว่า ไปเถอะ...

วีนาอึ้งๆ แววตาป้ามองเธออย่างห่วงใยก่อนชี้ฟ้าว่ามันจะมืดแล้ว วีนาพยักหน้ายิ้มก่อนเดินออกมา

ทั้งคู่มุดกลับออกมาจากโพรงไม้ใหญ่ ที่มีหิ่งห้อยกลุ่มเล็กๆบินวนเวียนอยู่เช่นเดิม

"รถไฟที่นี่หมดกี่โมงนะ" วีนาถาม
"นั่นน่ะสิ นี่จะค่ำแล้วด้วย แต่ไม่ต้องห่วง ผมดูแลคุณได้แน่นอน"
อยู่ๆก็มีเสียงฟ้าร้องดังสนั่น ธนัทยกมือขึ้นปิดหูทันที หน้าตาตื่น วีนาขำ ธนัทเงยหน้าขึ้นมองฟ้า
ฟ้าแลบติดๆกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา ธนัทเหลือบมองฟ้ากลัวๆ วีนาเริ่มสงสารๆ
ฟ้าร้องดังๆอีกที ธนัทหลับตาปี๋ วีนาก้าวเข้าไปก่อนเอามือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหูให้
ธนัทที่กำลังหลับตาอยู่ รู้สึกได้ถึงความสงบ แม้เสียงฟ้าจะยังดังต่อเนื่อง เขาค่อยๆลืมตาขึ้นมา ใบหน้าของวีนาอยู่ตรงหน้า กำลังยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน แสงวูบวาบของฟ้ายังดูน่ากลัว แต่ธนัทกลับรู้สึกดีขึ้น
ธนัทค่อยๆลดมือตัวเอง ก่อนจะกอดวีนาไว้ วีนาแนบอยู่ที่อกของธนัท พลางยิ้มๆเขินๆแบบรู้สึกดี
ธนัทหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย
ฟ้าแลบสวยๆตรงต้นไม้ใหญ่ ที่มีธนัทกับวีนายืนกอดกันอยู่ เวลาผ่านไปพักหนึ่ง จนทุกอย่างสงบลง
วีนาค่อยๆเอามือออกจากหูของธนัท ธนัทมองไปรอบๆก่อนจะก้มลงมองวีนา ทั้งคู่มองกันด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง วีนาก้มหลบสายตานั้นก่อนพึมพำ
"เราไปกันเถอะ"

ที่สถานีมืดและไม่มีใคร มีเพียงแสงไฟสลัวๆ จากโบกี้รถไฟที่จอดอยู่ ส่องลอดออกมา พอสองคนมาถึงตรงชานชาลา รถไฟก็เริ่มออกตัวช้าๆทันที วีนาหน้าเหวอๆ
"ไม่ทันแล้ว...อย่าบอกนะว่าเที่ยวสุดท้าย"
"อาจจะ"
วีนากับธนัทวิ่งไป แต่ไม่ทัน รถไฟแล่นออกไปแล้ว

ภายในโรงแรมของเรย์ เวลาเดียวกัน
ทีมงานลงไปนอนกองกับพื้น
ข้างๆ เป็นมิวะที่นั่งหงอย ก่อนจะหันมาพูดว่า
"สองคนนั้นยังไม่กลับมาเลย...ทำยังไงดีคะ"
ทีมงาน1 บอก
"ถ้างั้นแจ้งความจะดีไหมครับ"
ทีมงาน2 บอก "ถ้าแจ้งความ มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปเลย เราไปตามหาเองดีกว่าไหม"
"เห็นด้วยค่ะ จะลองโทรหาเขาอีกครั้งนะคะ" มิวะบอก

วีนายืนมองท้องฟ้าอยู่ที่ชานชาลาอย่างเหงาๆ ธนัทเดินมาหา
"โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ เราคงต้องรอต่อไปเรื่อยๆก่อน"
วีนาพยักหน้า พึมพำ "ขอโทษนะที่ทำให้คุณเดือดร้อนที่ฉันพรวดพราดลงมาแบบนี้เลย"
วีนาดูเศร้าๆ ธนัทตัดสินใจดึงวีนามาใกล้ๆ ก่อนถามเสียงอ่อนโยน
"ถามได้มั้ย ว่าเมื่อกี้ร้องไห้ทำไม"
วีนาก้มหน้า...พึมพำ "มันน่าจะไร้สาระสำหรับคุณนะ"
"ช่างมันเถอะ...เอาเป็นว่าถ้าคุณเป็นอะไร ผมอยากจะบอกคุณว่า...ผมพร้อมที่จะดูแลคุณนะ"
วีนาเงยหน้ามองธนัท "ดูแลฉัน"
ธนัทพยักหน้า "ดูแลทุกอย่างเลย ตัวคุณ น้ำตาของคุณ เสียงหัวเราะด้วยก็ดี ผมชอบมากกว่า"
วีนาอดยิ้มไม่ได้ "ดูแลเป็นกิริยาไม่ใช่คำพูด ถ้าคุณจะดูแลฉันจริงๆ ฉันรู้ได้เองไม่ต้องบอกหรอก"
วีนาเดินกลับเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ยาวหน้าสถานี
ธนัทมองตาม เห็นวีนานั่งกอดเข่าบนเก้าอี้อย่างนิ่งๆ ทั้งที่อากาศหนาวเย็น
 
เธออดทนและเงียบสงบกับเหตุการณ์แบบนี้ ธนัทเดินไปหาทันที

ธนัทเดินไปคว้าวีนาลงนอนตักทันที วีนาเหวอๆ มองหน้าธนัท งงๆ

ธนัทลูบหัววีนาประมาณว่าดูแลอยู่ให้เห็น
วีนาถามขำๆ "นี่วิธีดูแลเหรอ"
"อื้อ ก็ดูแลเป็นกิริยา ไง"
"มือหน่อย"
"สากเชียว" ธนัทหัวเราะ
สองคนมองหน้ากัน ทุกอย่างเงียบ สักพักเสียงหัวใจของธนัทเริ่มดังขึ้น เรื่อย ๆ วีนานอนจ้องธนัท ธนัทเริ่มตื่นเต้น เมื่อเขารู้สึกว่าเขาอยากอยู่กับเธอตลอดไป ก่อนจะลุกพรวดไป
ธนัทไปเดินงุ่นง่านที่ชานชาลา มือไม้พัลวันไปหมด เดินไปมา บวกลบคูณหารในใจ ถึงความเหมาะไม่เหมาะ เขาดูครุ่นคิดอย่างหนัก เดินวนไปวนมา ปากก็พึมพำท่องกลอนเบาๆ พลันหันไปมองวีนาก่อนตัดสินใจก้าวมาหา
ธนัทเดินมานั่งข้างๆ ถูมือไปมาท่าทางตื่นเต้นเบาๆ
ธนัทกอดวีนา
"คุณเคยได้ยินนิทานเรื่องนางเงือกมั้ย"
วีนางงๆ แต่ก็พยักหน้า "อื้อ"
"เงือกอยู่โลกหนึ่ง เจ้าชายอยู่อีกโลกหนึ่ง ทั้งคู่ได้เจอกัน อยากอยู่ด้วยกัน แต่ในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครแต่งงานกับเงือกได้หรอกถูกมั้ย"
วีนายังงงๆอยู่ "อื้อ"
"ต่อให้เงือกไปแลกเสียงอันไพเราะจนได้ขามาแล้ว มายืนอยู่ข้างๆกันได้แล้ว แต่เงือกก็ไม่ใช่เจ้าหญิงอยู่ดี นึกออกใช่มั้ย"
"คุณกำลังจะบอกอะไรกับฉันเนี่ย"
ธนัทมองวีนาอย่างจริงจังมาก "จำเรื่องการดูแลเมื่อกี้ได้ใช่มั้ย"
วีนาพยักหน้า "อื้อ"
"ผมจะหาบ้านสักหลังหนึ่งนะ เราจะอยู่ที่นั่นกัน ทำอะไรก็ได้ที่เราอยากจะทำ ผมรับรองว่าคุณจะมีทุกอย่าง ทุกอย่าง คุณจะไม่ยุ่งยากอะไรเลย ไม่ต้องห่วงว่าแม่ของผมจะมาวุ่นวาย ไม่ต้องกังวลอะไรเลย เราจะอยู่ด้วยกันเงียบๆ เพราะจะไม่มีใครรู้เรื่องของเรา" ธนัทยิ้ม
ตอนแรกวีนาฟังอย่างซึ้งๆ พอได้ยินคำว่าเงียบๆ ก็ชะงัก จ้องหน้าธนัทอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
"อะไรนะ"
"คุณกับผมจะอยู่ด้วยกันอย่างเงียบๆ ไง …คุณกับผม"
วีนาคิดๆ ก่อนจะเริ่มโกรธจนน้ำตาคลอ รีบลุกหนีแรงๆ
ธนัทเดินตาม "คุณอยากได้บ้านแบบไหน เราจะไปเลือก"
วีนาหันมาตวาดเสียงสั่น "หยุดเลยนะ"
"ฮ้าว" ธนัทงงๆ
"คุณจะให้ฉันเป็นอะไรนะ เมียน้อยเหรอ"
ธนัทโบกมือพัลวัน "ไม่ช่าย เมียน้อยคือมีเมียหลายคน แต่ผมมีคุณคนเดียวเลย"
วีนาพยายามข่มอารมณ์ "งั้นก็คือเมียเก็บ...ใช่มั้ย"
ธนัทกรอกตาคิดๆ "มั้ง"
วีนาร้องลั่นก่อนจับธนัทขึ้นทุ่มทันที แบบล้มคว่ำไปด้วยกัน ธนัทหลังฟาดพื้นไปเต็มๆ ก็ร้องลั่น โดยมีวีนาคร่อมอยู่ด้านบน หน้าตาโกรธสุดๆ
วีนาเสียงดัง
"คุณจะให้ฉันไปเป็นเมียเก็บคุณเนี่ยนะ"
ธนัทหันหน้าหนีแรงตะโกนของวีนา
"ผมแค่พยายามหาความเป็นไปได้ของเราอยู่ แล้วมันก็ดีที่สุดเท่าที่ผมจะคิดได้ในตอนนี้อ่ะ"
วีนาจับธนัทกระแทกหนักๆ ก่อนพูด
"ถ้าคุณพูดเรื่องนี้อีก ฉันจะหักกระดูกคุณทั้งตัวเลย"
วีนาลุกไปอย่างโกรธๆ ก่อนคว้าขวดน้ำมาดื่ม
ธนัทค่อยๆลุกขึ้น มองเคืองๆ "ป่าเถื่อน พูดดีๆไม่เป็นหรือไง ไม่เอาก็ไม่เอาดิ พวกชอบใช้กำลัง"
"ฉันป่าเถื่อนเพราะคุณหยาบคาย เหมาะกันแล้วมั้ย"
"เชื่อผมสิ แลกกับอะไรก็ได้ ผมอยากให้เราเข้าใจกัน ผมอยากเข้าใจคุณ"
วีนายิ้มเยาะๆ "ก็ลองมาเกิดมาเป็นฉันดูสิ"
ไม่ทันขาดคำ ฟ้าก็ร้องออกมาดังลั่น ธนัทรีบนั่งเอามือปิดหู วีนาเดินไปนั่งปลายเก้าอี้อย่างโกรธๆ ก่อนจะพึมพำออกมาพร้อมกัน
ทั้งเริ่มคู่โงนเงนไปมาก่อนจะหลับลงไป

สองคนค่อยล้มตัวลงหลับ ก่อนที่ฝูงหิ่งห้อยจำนวนมากบินมาวนเวียนรอบ ๆ ตัวเขา

อ่านต่อตอนที่ 7


กำลังโหลดความคิดเห็น