"ย้อย" สาระแน ตัวแม่ !
เมื่อปี 2558 ตอนที่ค่ายเมกเกอร์เค ทำละครเรื่อง "สุดแค้นแสนรัก" ประสบความสำเร็จมาก ใครๆก็พูดถึงตัวละครชื่อ "แย้ม" ที่ "ต๊งเหน่ง" รัดเกล้า อามระดิษ เล่นเอาไว้ มาปีนี้ เรากำลังจะได้ชม “พี่สาวแท้ๆ” สายพันธุ์เดียวกัน ชื่อ "ย้อย" ซึ่งมีนิสัยสันดานลม้ายคล้ายและใกล้เคียงกัน จะต่างกันบ้างก็ด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน
ในปี 2483 ในงานประจำปีของวัดเขาจอมคีรีนาคพรต สองศรีพี่น้องเปิดตัวที่นั่น ! และย้อยได้พบกับเซ้งที่ขายไอติมตัดในงานวัด ! และทั้งคู่ได้ร่วมหอลงโรงในเวลาต่อมา จนมีลูกชายถึง 4 คน
เรื่องนี้ แย้มคนเดิมในวัยสาวก็เข้ามาแจมกับย้อย ซึ่งรับบทโดย "ใหม่ เจริญปุระ" เป็นช่วงๆ เพื่อให้เห็นความสัมพันธ์ของพี่น้องในวัยสาว จนถึงเหตุการณ์ที่แย้มเอายงยุทธ ลูกชายของอัมพรมาฝากย้อยเลี้ยงไว้ เนื่องจากนางแย้มแค้นครอบครัวนางอัมพรมาก เพราะพ่อของอัมพรไปฆ่าผัวนางแย้ม คือ ตาเทืองเสียชีวิตลง เมื่ออัมพรมาถาม นางย้อยก็ตอแหล ตอบเซย์โน ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ทราบ แย้มไม่ได้นำยงยุทธมา ใน "กรงกรรม" เชื่อมสายสัมพันธ์ของย้อยกับแย้ม อุดช่องโหว่ตอนนี้ของ "สุดแค้นแสนรัก" ให้สนิท ดำเนินเรื่องที่เกิดก่อนเหตุการณ์ใน"สุดแค้นแสนรัก" ถึง 5 ปี คือ เรื่องราวของครอบครัวนางย้อย เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2510
"ทุกคนมีกรรมเป็นมรดก ไม่มีใครหลีกเลี่ยงหนีกรรมที่ก่อเอาไว้ได้พ้น"
ละคร "กรงกรรม" สร้างโดย แอค อาร์ต เจนเนอเรชั่น โดย “อ๊อฟ” พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง และ “แดง”ธัญญา โสภณ และคนที่มารับบท "ย้อย" คือ ใหม่ เจริญปุระ
ปี 2510 ณ ตลาดอำเภอชุมแสง ในจังหวัดนครสวรรค์
ย้อยแผดเสียงลั่น “ไม่ต้องบอกก็รู้หรอกว่า สารรูปอย่างอีนี่จะทำงานอะไรได้ แต่งเนื้อแต่งตัว แต่งหน้าทาปากอย่างนี้ มันต้องเป็นกะหรี่แน่ๆ”
"กะหรี่" ที่ว่า คือ หญิงขายบริการที่บาร์แห่งหนึ่งในยุคจีไอ ย่านท่าอากาศยาน ตาคลี จ. นครสวรรค์ เธอชื่อ "เรณู" ซึ่งคนที่มารับบทนี้คือ "เบลล่า ราณี" ... กะหรี่ตาคลีคนนี้ไม่ได้กลัวและยอมจำนนต่อแม่ผัว นาง "พร้อมรบ" สุดใจขาดดิ้น บุกน้ำ ลุยไฟเพื่อให้ลูกในท้องได้มีพ่อกับเขา นางประกาศเย้ยแม่ผัวตั้งแต่ฉากแรก ...
"ไม่กลับ ... ฉันไม่กลับ ฉันจะอยู่ที่นี่กับผัวของฉัน"
แม่ผัวแว้ด "อีหน้าด้าน"
ต้นเรื่องแค่นี้ก็แสบสันต์ไปถึงไหนต่อไหน ... สีสันของละครไม่ได้มีแค่เรื่อง "ด่าทอ" แบบเผ็ดร้อนเท่านั้น แต่การเข้ามาของเรณูนั้นมีเรื่องอำนาจมนตรา ไสยเวทย์ มนตร์ดำ และเสน่ห์ฝาแฝด
ทั้งปฐม ผัวของนางซึ่งเป็นลูกชายคนโตของย้อย กับ นางย้อย ต่างเจอมนตร์ดำเข้าให้ จาก "เสือ" เลยกลายเป็น "แมว" ร้อง "เหมี๋ยวเหมี๋ยว" เซื่ยงๆ ถึงขนาดนางย้อยเปลี่ยนมารักและเอ็นดูเรณูมาก ให้คนไปซื้อขนมที่ร้านเรณูมากินทุกวัน สุดท้าย กะหรี่อย่างเรณู ตัดกรรม ตัดใจ ! เพราะรู้ในสัจธรรมที่ว่า "เราแก้ไขกรรมในอดีตไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะยอมรับกรรมนั้น และใช้มันเป็นบทเรียนสำหรับชีวิตในวันข้างหน้าได้ เพื่อที่จะไม่หลงผิดซ้ำซากอีก"
เรามาดูความเจ้ากี้เจ้าการของนางย้อยกับครอบครัวตระกูล "แบ้" หรือนามสกุล "อัศวรุ่งเรืองกิจ" กันดีกว่า !
นางย้อยไม่พอใจ ที่อาไช้ หรือ ปฐม (เพ็ชร ฐกฤต) ลูกชายคนโตกลับจากการเป็นทหารที่ตาคลี และหนีบเอาเรณู (เบลล่า ราณี) สาวขายบริการซึ่งท้องกับเขามาด้วย ย้อยไม่พอใจ เพราะปฐมนั้น นางหมายมั่นให้จะให้แต่งงานกับ พิไล (แพร์ พิชชาภา) ลูกสาวเถ้าแก่ฮง เจ้าของโรงสีที่ตลาดทับกฤช ต่อมาปฐมมีเมียใหม่ชื่ออรพรรณี นางก็ไม่ชอบใจอีก แต่พอรู้ว่าครอบครัวว่าที่สะใภ้ใหม่รวย ก็หยวนๆกันไป จนสุดท้ายปฐมเกิดอุบัติเหตุ อรพรรณีก็ตัดท่อน้ำเลี้ยง ไม่ให้ความช่วยเหลือ ปฐมรักษาตัวอยู่ 3 ปีจึงเป็นปกติ โดยมีเรณูคอยดูแลข้างกาย
แผน 1 ล่ม นางย้อยก็งัดแผน 2 ลูกคนรองชื่อ ประสงค์ (แชมป์ ชนาธิป) ชื่อจีนว่า “ตง” ซึ่งแปลว่า “กลาง” บวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่อยู่ที่วัด ย้อยไปหาพระลูกชาย บอกให้สึกมาแต่งงานกับพิไลตงไม่อาจขัดใจแม่ แต่งงานกับกับพิไล พิไลทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง จนประสงค์ต้องทำงานบ้านแทนเมีย ภายหลังประสงค์อยู่กินกับบุญปลูก (น้ำฟ้า ธัญญภัสร์) ซึ่งเป็นคนงานในบ้าน
ลูกชายคนที่สาม ชื่อ กมล (เจมส์ จิรายุ) ชื่อเล่น “ซา” แปลว่า “สาม” ชอบพอจันตา (ยิหวา ปรียากานต์) ไม่อาจขัดใจแม่ แต่งงานกับเพียงเพ็ญ (ริชชี่ อรเณศ)ที่ท้องกับก้าน (อ้วน เด่นคุณ) แต่กมลกับเพียงเพ็ญไม่มีอะไรกัน กมลยังให้การสนับสนุนก้านอีกต่างหาก ภายหลังหย่า ย้อยแค้นใจที่ถูกย้อมแมว แม้ว่าจะไม่ชอบจันตา แต่ก็ยอม เพราะสงสารลูกที่เคยถูกนางบังคับ ทำให้ชีวิตการแต่งงานของลูกพัง
มงคล (ออกัส วชิรวิชญ์) ลูกชายคนที่ 4 เป็นคนเจ้าชู้ คบหากับมาลาจนท้องก่อนแต่ง มงคลไม่อยากรับผิดชอบ ยุให้เมียทำแท้ง ย้อยไม่เชื่อว่ามาลาท้องกับลูกชาย จึงให้สาบาน มาลาสาบานกับเจ้าพ่อชุมแสงว่า ถ้านางโกหกขอให้มีอันเป็นไป แต่ถ้านางพูดจริงและนางย้อยไม่ยอมช่วยเหลือ ขอให้มงคลมีอันเป็นไปแทน ไม่กี่วันต่อมา มงคลก็จมน้ำตาย
"บ้านแบ้" เป็น กรงแห่งกรรมที่เต็มไปด้วยแรงรัก แรงแค้น และแรงอาฆาต
บั้นปลายชีวิตนางย้อย นางมีโรคประจำตัวคือ "เบาหวาน" ต่อมาอาการกำเริบจนต้องตัดขาทิ้ง ปฐมขับรถมาเยี่ยมแม่และเกิดอุบัติเหตุ พอย้อยทราบข่าวก็ช็อกตายด้วยวัย 51 ปี
เรณูดูแลปฐมอยู่ 3 ปีจนอาการเป็นปกติ ทั้งคู่ สร้างครอบครัว ขยายกิจการ เปิดโรงงานทำขนม
ละครเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า "การไม่รู้จักปล่อยวาง ยึดมั่นกับสิ่งรอบตัวคือทุกข์ การให้อภัยคือกุญแจดอกสำคัญในการไขให้หลุดพ้นจาก พันธนาการของกรรม" !
หมายเหตุ รูป รัดเกล้า อามระดิษ ในบท "แย้ม" จาก "สุดแค้นแสนรัก"