เรื่องย่อ “กรงกรรม”
บทประพันธ์ : จุฬามณี
บทโทรทัศน์ : ยิ่งยศ ปัญญา
กำกับการแสดง : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรงจง
แนวละคร : พีเรียด ดรามา
ผลิต : บริษัท แอคอาร์ต เจเนเรชั่น จำกัด
ผู้จัด : แดง ธัญญา - ออฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ประชาสัมพันธ์ : น้ำ พีอาร์ 081-4315121
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.20 น. ทางช่องไทยทีวีสี 3, ช่อง 33 และรับชมผ่านทาง Application 3 Live
ระยะเวลาออกอากาศ : ตอนแรก วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562
#กรงกรรม #actartgeneration #Ch3Thailand #lakornonlinefan #ลมหายใจคือละคร
เรื่องย่อ
ปีพ.ศ. 2510 ณ ตลาดอำเภอชุมแสง ในจังหวัดนครสรรค์
ย้อย เถ้าแก่เนี้ยเจ้าของกิจการร้านค้าและโรงสี ผู้เจ้ากี้เจ้าการกับทุกเรื่องของทุกคนในครอบครัว ย้อยแต่งงานกับเจ๊กเซ้ง และมีลูกชายด้วยกันทั้งหมด 4 คนคือ ปฐม ประสงค์ กมล และมงคล
ปฐม ลูกชายคนโตกลับมาเยี่ยมบ้านหลังจากไปเป็นทหารที่ตาคลี เขากลับมาพร้อมกับเรณู หญิงสาวที่ทำอาชีพขายบริการในบาร์ที่ตาคลี ปฐมต้องพาเรณูกลับมาด้วยเพราะเรณูบอกว่าท้องกับเขา ย้อยเห็นลูกชายพาผู้หญิงขายบริการเข้าบ้านก็ไม่พอใจอย่างมากเพราะปฐมมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ซึ่งก็คือพิไล ลูกสาวเถ้าแก่โรงสีที่ตลาดทับกฤชซึ่งเพียบพร้อมด้วยหน้าตา ฐานะ และการศึกษา ย้อยไม่อยากให้เรณูอยู่บ้านเดียวกับเธอ จึงให้ไปอยู่ที่บ้านในตรอกซึ่งตนได้จากการรับจำนองมา
ย้อยไม่อยากมีปัญหากับครอบครัวของพิไล จึงไปหาประสงค์ซึ่งบวชอยู่ที่วัดและขอให้เขาสึกออกมาแต่งงานกับพิไลแทนปฐม แม้ว่าประสงค์จะไม่อยากแต่งงานเพราะเขาแอบชอบจันตาซึ่งเป็นลูกจ้างร้านสังฆภัณฑ์ของนางป๋วยฮวย แต่เขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถขัดใจแม่ได้จึงตอบตกลง ย้อยจึงไปบอกข่าวกับพิไล แต่พิไลยื่นข้อเสนอว่า ขอสินสอดทองหมั้นใหม่ทั้งหมด และให้นางย้อยเป็นคนรับผิดชอบค่าจัดงานด้วย เมื่อได้ฤกษ์แต่งงาน ย้อยก็ไล่เรณูไปอยู่ที่บ้านหลังโรงสี และเอาบ้านในตรอกเป็นเรือนหอของประสงค์และพิไล ด้านเรณู หลังจากเรณูย้ายไปอยู่ที่หลังโรงสี ก็สร้างกระท่อมใหม่ขึ้นมาอีกหลังหนึ่งเพื่อไว้ใช้ทำขนมขาย โดยได้ความช่วยเหลือจากเจ๊กเซ้งและกมล
มงคลไปเรียนช่างที่ปากน้ำโพนั่งรถไฟกลับมาเยี่ยมบ้านที่ชุมแสง บังเอิญเจอวรรณา น้องสาวของเรณูที่เรียนตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่ที่ปากน้ำโพเหมือนกัน มงคลจีบวรรณตามประสาคนเจ้าชู้ วรรณามาตามเรณูกลับบ้านซึ่งอยู่ที่ปากน้ำโพโดยด่วนเพราะเรไร แม่ของเธอป่วยหนัก เรณูจึงรีบไปเยี่ยมแม่ทันที หลังจากสั่งเสียกันเสร็จ แม่ของเรณูก็สิ้นลม เรณูจึงต้องอยู่ช่วยจัดงานศพที่บ้าน 3 วัน โดยงานศพถูกจัดขึ้นที่ปากน้ำโพ หลังจากแม่ตาย เรณูก็ตั้งใจว่าเอาป๊อก ลูกของเธอซึ่งเกิดจากการถูกพี่เขยข่มขืนไปอยู่ด้วยกันที่ชุมแสง แต่สุดท้าย ป๊อกก็ตัดสินใจ อยู่กับหลวงพ่อที่วัดไปก่อน
ย้อยไปที่ทับกฤชและแวะพักที่ปากน้ำโพหนึ่งคืน บังเอิญได้ยินคนในตลาดคุยกันว่า เรณูมีลูกมาก่อนแล้ว ย้อยแค้นใจที่เรณูหลอกลูกชายตน เมื่อกลับไปถึงชุมแสงก็เอากุญแจไปล็อกบ้านหลังโรงสีของเรณู เมื่อเรณูกลับมาจึงเข้าบ้านไม่ได้ เรณูจึงไปขอกุญแจที่ร้านของย้อย แต่ย้อยก็บอกให้รอวันรุ่งขึ้นจึงจะให้ เรณูจึงขอไปนอนที่บ้านของจันตาหนึ่งคืน แล้วรีบออกมาที่หน้าร้านของย้อยแต่เช้า ทำเหมือนว่าตนนั้นนอนหน้าบ้านมาทั้งคืนให้ชาวบ้านเห็นใจและไปต่อว่าย้อยว่าใจดำกับคนท้อง หลังจากนั้นไม่นาน เรณูก็ปล่อยข่าวว่าตนแท้งจากการลื่นล้มเพราะทำงานหนักเกินไป ย้อยได้ยินก็ไม่เชื่อและพยายามคิดหาทางกำจัดเรณูให้เร็วที่สุด
หลังงานแต่งงานของประสงค์และพิไลผ่านพ้นไป ทั้งสองคนก็ไปอยู่ที่บ้านในตรอกของนางย้อย แต่พิไลทำงานบ้านไม่เป็นสักอย่าง เพราะปกตินางพิกุลผู้เป็นแม่ทำให้อยู่เสมอ พิไลจึงขอจ้างคนอื่นมาทำงานบ้านแทนทุกอย่าง ป้อมกับบุญปลูก สองพี่น้อง ซึ่งทำงานอยู่ในร้านย้อย ก็ขยันขันแข็ง และเป็นคนซื่อสัตย์ เป็นที่รู้ดีของย้อย บุญปลูกนึกสงสารประสงค์ จึงมาช่วยประสงค์กับพิไล ทำงานบ้านอยู่บ่อยครั้ง
ประนอมกับติ๋ม เพื่อนที่เคยทำงานในบาร์กับเรณูมาธุระที่ชุมแสง เรณูเล่าชีวิตของเธอให้ฟัง ติ๋มฟังเรื่องที่นางย้อยรังแกเรณูอย่างไรบ้างก็แนะนำให้เรณูไปทำเสน่ห์ใส่นางย้อยเหมือนที่เคยทำใส่ปฐม ย้อยรู้ว่าเรณูพาเพื่อนขายบริการมาที่บ้านก็ตามไปด่าทอถึงบ้าน ย้อยให้ป้อมหาหมอมือดี มาช่วยแก้ไข จึงนั่งเรือไปหาหมอมีที่เกยไชย หมอมีตรวจดูแล้วพบว่าปฐมถูกเสน่ห์จริง แต่ถ้าอยากถอนเสน่ห์จะต้องพาปฐมมาด้วยเท่านั้น เรณูรู้ข่าวว่าย้อยไปหาหมอมีก็กลัวปฐมถูกถอนเสน่ห์ จึงรีบไปหาหมอก้อนผู้ทำเสน่ห์ให้ ติ๋มจึงแนะนำให้เรณูทำของใส่ย้อยด้วย โดยติ๋มป็นคนออกเงินให้ เพราะติ๋มเองก็มีความแค้นกับย้อยที่ยึดบ้านของเธอไปทำให้เธอต้องไปขายบริการที่ตาคลี และอยากให้เรณูแก้แค้นแทนเธอ
นางศรี ลูกค้าประจำของที่ร้านถูกใจนิสัยของกมลจึงอยากได้ไปเป็นหลานเขยของตน ย้อยกลัวว่ากมลจะไปหาลูกสะใภ้ไม่ดีให้ตนอีก จึงพยายามจับคู่กมลกับเพียงเพ็ญ หลานของนางศรี ลูกสาวคนเล็กของกำนันศรที่ตำบลฆะมัง แต่มีข้อแม้ว่าเมื่อแต่งงานแล้วต้องให้กมลไปอยู่ที่ฆะมังด้วย แต่ความจริงแล้วเพียงเพ็ญนั้นรักชอบอยู่กับก้านและได้เสียกันไปแล้ว ที่สำคัญตอนนี้เพียงเพ็ญกำลังท้องกับก้าน ด้านกมลนั้นแอบชอบอยู่กับจันตา ย้อยรู้ข่าวจากคนในตลาดว่ากมลอาจจะมีใจให้กับจันตา ก็บังคับให้กมลรีบแต่งงานทันที
ก้านมาซื้อยาให้นางกุ่นผู้เป็นแม่ที่ชุมแสง แต่มีเงินไม่พอ บังเอิญกมลมาซื้อยาให้เจ๊กเซ้งพอดี เมื่อเห็นว่าก้านเงินไม่พอค่ายาก็ช่วยออกเงินให้ ทำให้ก้านซาบซึ้งใจ โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้ทราบชื่อกันแล้วแยกย้ายไป ต่อมาก้านแอบไปหาเพียงเพ็ญ และรู้ข่าวว่ากำนันศรจะบังคับให้เพียงเพ็ญแต่งงานกับกมล เขาตั้งใจจะฆ่ากมลทิ้ง แต่เมื่อไปถึงชุมแสงและทราบว่า กมลคือคนที่เคยออกเงินให้ค่ายาให้แม่ของเขา เขาจึงตัดสินใจไม่ฆ่ากมล แล้วก้านก็ย้ายไปอยู่กับวงดนตรีที่กรุงเทพ เพราะก้านมีพรสวรรค์ทางด้านการร้องเพลง ปล่อยให้เพียงเพ็ญแต่งงานกับกมลตามความต้องการของผู้ใหญ่
เมื่อย้อยโดนเรณูทำเสน่ห์ ย้อยก็เอ็นดูเรณูมาก และยังจ้างเรณูทำขนมมงคลในงานแต่งงานของกมลด้วย ฝ่ายพิไลเมื่อเห็นย้อยเอ็นดูเรณูก็อิจฉา ยิ่งพิไลพยายามยุให้ย้อยเกลียดเรณู ย้อยกลับรักเรณูมากขึ้นไปอีก จนถึงวันงานแต่งงานของกมล ย้อยก็ให้สร้อยทองกับเรณูเพื่อใส่ไปงาน แม้ว่าเรณูบอกว่าจะคืนหลังจบงาน แต่นางย้อยก็บอกว่าให้แล้วให้เลยไม่รับคืน พิไลเห็นว่าผิดปกติอย่างมาก และสงสัยว่าย้อยอาจจะถูกเรณูทำเสน่ห์ใส่ จึงคิดจะไปหาหมอมีเพื่อหาทางแก้คุณไสย
พิไลบังเอิญเจอเชิดซึ่งเป็นลูกน้องเก่าของพ่อที่ทำอาชีพรับจ้างขับเรือ พิไลจึงจ้างเชิดขับเรือไปหาหมอมี แต่หมอมีดันป่วยตายกะทันหัน พิไลจึงต้องกลับบ้านมือเปล่า เชิดไปที่ตาคลีเพื่อสืบข่าว บังเอิญได้เจอกับติ๋มและเล่าเรื่องพิไลกับเรณูให้ฟัง ติ๋มจึงแนะนำหมอบางที่อยู่ท่าน้ำอ้อยซึ่งเป็นเจ้าแม่ร่างทรงชอบหลอกเก็บเงินแพง ๆ เพื่อเลี่ยงให้เชิดไม่เจอกับหมอก้อนผู้ทำเสน่ห์ให้เรณู เชิดไปหาหมอบางและได้ความว่าต้องเอาคนถูกคุณไสยมา พิไลยังคิดหาทางพาย้อยไปไม่ได้ จึงหาทางแก้แค้นเรณูโดยให้เชิดไปขโมยสร้อยทองที่ย้อยให้เรณู แต่ย้อยกลับให้สร้อยทองใหม่กับเรณูอีก อีกทั้งยังบอกว่า จะเปิดร้านตัดเสื้อผ้าให้วรรณาเมื่อเรียนจบด้วย
หลังจากแต่งงานเพียงเพ็ญก็แพ้ท้องอย่างหนัก เพียงเพ็ญยังซื่อสัตย์ต่อก้าน อ้างว่าตนไม่สบายกลัวกมลติดไข้จึงขอแยกเตียงนอนกับกมล ซึ่งกมลก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ฝ่ายก้านหลังจากไปกรุงเทพฯไม่นานก็ต้องกลับมาเพราะบังอรส่งข่าวไปว่านางกุ่นป่วยหนัก บังอรเป็นลูกของเจ้าของที่นาในฆะมังที่ก้านและกุ่นไปรับจ้างทำนาให้ บังอรแอบชอบก้านและหวังจะแต่งงานด้วยจึงมาคอยดูแลนางกุ่น นางกุ่นขอให้ก้านตัดใจจากเพียงเพ็ญและแต่งงานกับบังอร กำนันศรต้องการตัดขาดก้านกับเพียงเพ็ญจึงเสนอเงินส่วนหนึ่งให้บังอรรีบจัดงานแต่งงานกับก้านให้เร็วที่สุด แต่ก่อนงานแต่งงานหนึ่งวันนางกุ่นก็สิ้นลม ทำให้งานแต่งงานถูกยกเลิกไป
ฝ่ายเพียงเพ็ญตัดสินใจบอกกมลเรื่องที่ตนท้องมาก่อนแต่งงาน และให้กมลตัดสินใจทำตามใจตนเองว่าจะเอาอย่างไรต่อไป สุดท้าย ทั้งคู่ตัดสินใจไปเซ็นต์ใบหย่ากันเงียบ ๆ ที่อำเภอ กมลบอกกับพ่อแม่ของเพ็ญว่า ตนเองจะกลับไปเฝ้าพ่อที่กำลังป่วยที่ชุมแสง ส่วนเพ็ญก็หนีออกจากบ้านไปอย่างเงียบ ๆ เพราะไม่อยากให้พ่อแม่ต้องอับอายไปมากกว่านี้
หลังจากเจ๊กเซ้งป่วยมะเร็งปอดไม่นานก็เสียชีวิต งานศพถูกจัดขึ้นที่ปากน้ำโพ ทั้งเรณูและพิไลต่างก็มาช่วยงาน พิไลคิดแค้นเรณูจึงป่าวประกาศให้ทุกคนในงานศพรู้ว่าเรณูทำคุณไสยใส่ย้อย แม้ว่าเรณูจะทำเป็นไม่สนใจ แต่ในใจเธอนั้นรู้สึกเสียใจและละอายใจที่ตนทำคุณไสยใส่ทั้งปฐมและย้อยไป ย้อยรู้ความจริง ว่ากมลหย่ากับเพียงเพ็ญแล้ว ย้อยแค้นใจที่ถูกย้อมแมวขาย ที่สำคัญ นึกเวทนากมลเป็นอย่างมาก กมลกราบเท้าแม่ ขอกลับมาอยู่ชุมแสงอีกครั้ง เพียงเพ็ญเป็นลมหมดสติอยู่ที่สถานีรถไฟ กมลมาเจอเข้า จึงช่วยไว้ และพาไปอยู่ที่บ้านสวน ท้ายโรงสี ก้านมาตามหาเพ็ญ กมลจึงฝากก้านทำงานที่โรงสี อยู่กับประสงค์ ก้านกับเพียงเพ็ญได้พบกันในที่สุด กมลให้ก้านทำความดี ชนะใจเพียงเพ็ญให้ได้
มงคลคบกับมาลาไม่นานมาลาก็ท้อง มงคลไม่อยากรับผิดชอบและขอให้มาลาไปทำแท้ง แต่มาลาไม่กล้าทำและไม่กล้าบอกพ่อแม่จึงมาหาย้อยเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยขอให้วรรณาไปเป็นเพื่อนและเป็นพยานว่าเธอคบกับมงคลจริง แต่ย้อยไม่เชื่อและให้มาลาสาบาน มาลาจึงกล่าวสาบานกับเจ้าพ่อชุมแสงว่าถ้าตนโกหกขอให้มีอันเป็นไปในสามวันเจ็ดวัน แต่ถ้าพูดความจริงแล้วไม่ช่วยอะไรขอให้มงคลมีอันเป็นไปแทน ไม่กี่วันต่อมามงคลก็จมน้ำตาย
เรณูจะไปแจ้งข่าวเรื่องการตายของมงคลกับปฐมที่ค่ายทหาร แต่กลับพบปฐมอยู่กับอรพรรณี ลูกสาวเจ้านาย เรณูเริ่มทำใจ รู้ว่าความรักของเธอกับปฐม จะกลายเป็นเรื่องอดีตไปจริง ๆ เรณูเศร้าใจ เพราะตอนนี้เธอกำลังอุ้มท้องลูกของปฐมอยู่ ในขณะที่พิไลรู้ข่าวก็คับแค้นใจอย่างหนัก คิดจะพาย้อยไปเอาเสน่ห์ออกให้เร็วขึ้น เพราะกลัวว่าสมบัติที่ตัวเองควรได้จะตกไปอยู่ที่เรณูและลูก
เชิดเห็นติ๋มมาเยี่ยมเรณูที่ชุมแสง จึงรู้ว่าตัวเองถูกหลอกให้ไปหาหมอบางแน่ พิไลจึงสั่งให้เชิดไปเค้นมาว่าเรณูทำคุณไสยที่ไหน แต่ด้วยความแค้นเชิดจึงซ้อมจนติ๋มจนบาดเจ็บสาหัส
ด้านจันตา หลังจากกมลแต่งงานไป ปลัดจินกรก็มาสู่ขอจันตากับนางป๋วยฮวย แต่ในวันงาน กรองแก้วซึ่งเป็นญาติของปลัดจินกรมาพร้อมกับสามี เมื่อเห็นหน้าจันตาก็ป่าวประกาศว่า จันตาเคยเป็นเมียน้อยของสามีเธอ รวมถึงเคยท้องและทำแท้งมาก่อนด้วย งานแต่งงานจึงต้องยกเลิกกลางคัน จันตาตัดสินใจจะกลับไปอยู่สุโขทัยบ้านเกิด กมลเครียดหนัก คิดไม่ตก เพราะถ้าหากเขาปล่อยจันตาไป ในชีวิตนี้อาจไม่ได้พบเธออีก จึงไปกราบลาย้อย ขอใช้ชีวิตในแบบของตนเองสักครั้ง อยู่ปกป้องคนที่ตนเองรัก กมลตามจันตาไปที่สถานีรถไฟ และซื้อตั๋วไปเชียงใหม่ ขอเริ่มต้นชีวิตคู่กับจันตาที่นั่น ย้อยตามมา เอาเงินสินสอดที่ได้คืนจากเพียงเพ็ญให้กมล และจันตา ไปทำทุนค้าขาย เริ่มต้นชีวิตใหม่ กมล จันตา กราบขอบคุณย้อย
พิไลได้หมอมือดีชื่ออาจารย์สมดีจากทับกฤช จึงไปรับมาเปิดโปงเรื่องที่เรณูทำคุณไสยให้คนทั้งตลาดฟัง เรณูรู้สึกอับอายมาก จึงย้ายไปอยู่พยุหะคีรีพร้อมกับวรรณา และขอให้หมอก้อนเอาคุณไสยออกจากปฐม ฝ่ายติ๋มแค้นที่ตนถูกนายเชิดทำร้ายร่างกาย ไปขอให้หมอบางช่วย แต่หมอบางปฏิเสธเรื่องการทำไสยดำจนถึงแก่ความตาย ติ๋มจึงวานต๋อมพี่ชายไปหาหมอเบี้ยว เมื่อทำคุณไสยเสร็จ พิไลก็ทุรนทุราย เพ้อว่าจะมีคนมาฆ่าตลอดเวลา จนมีข่าวลือว่าพิไลอาการเหมือนผีเข้าและเรณูเป็นคนทำเพื่อชำระแค้น
ติ๋มกลัวว่าเรื่องราวจะบานปลายไปถึงเรณู จึงออกไปประกาศหน้าบ้านย้อยว่าเป็นฝีมือตน ถ้าพิไลอยากหายดีก็ต้องให้พิไลมาคุยกันหน้าบ้าน ไม่เช่นนั้นประสงค์จะโดนไปด้วย ย้อยกลัวว่าประสงค์จะเดือดร้อนจึงเรียกพิไลออกมา และต้องป่าวประกาศเรื่องร้าย ๆ ที่ตนทำไว้ให้คนทั้งชุมแสงฟัง อาจารย์สมดีขอให้พิไลคลายความเคียดแค้นและความละโมบในใจออกมา พร้อมกับนึกถึงพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์อยู่พักใหญ่จึงจะหายดี เมื่อพิไลได้สติก็ขอกลับไปอยู่ที่ทับกฤชเพราะอายชาวบ้าน โดยอ้างว่าจะขอกลับไปบวชชี
เมื่อเรณูย้ายมาก็เปิดร้านขายข้าวเกรียบปากหม้อเพื่อหารายได้ ฝ่ายปฐมปลดทหารก็กลับไปบ้าน พร้อมกับอรพรรณี ปฐมตั้งใจจะมาตกลงกับเรณูเรื่องลูกและเมียใหม่ของเขา แต่เรณูย้ายไปแล้วจึงไม่ได้เจอกัน ปฐมกราบลาย้อย ขอไปใช้ชีวิตอยู่กับอรพรรณี ปฐมออกจากบ้านแบ้ไปแล้วจริง ๆ กมลพาจันตากลับมาเยี่ยมย้อยในเวลาต่อมา กมลกับจันตาค้าขายจนตั้งตัวได้ และมีความสุขมาก ย้อยจึงยกตึกแถวของตนที่ปากน้ำโพให้ทั้งสอง และตั้งใจว่าตนจะย้ายไปอยู่ด้วยเพราะใกล้โรงพยาบาลมากกว่าที่ชุมแสง ส่วนประสงค์นั้นให้ดูแลกิจการทั้งหมดที่มีในชุมแสงต่อไป
3 ปีต่อมา ย้อยก็เหมือนมีลูกเล็กอีกคน เพราะมาลาคลอดลูกแล้วมาทิ้งไว้ให้เลี้ยง ส่วนมาลากลับไปแต่งงานที่เขากะลา ประสงค์แต่งงานกับบุญปลูก กมลแต่งงานกับจันตา วรรณาได้แต่งงานกับปลัดจินกร เรณูรับป๊อกมาอยู่ด้วยกันที่ร้านที่พยุหะคีรี โดยมีกิจการขายขนมไทย ข้าวเกรียบปากหม้อ และสาคูไส้หมูที่เป็นไปได้ด้วยดี ฝั่งปฐม แม้จะได้เรียนสูงและไปทำงานในบริษัทของอรพรรณี มีลูกด้วยกัน1คน แต่เขาไม่มีความสุขเลย อรพรรณีเที่ยวเล่นทุกวัน เขาลาไปเยี่ยมแม่ที่บ้านและบังเอิญได้พบกับเรณูที่มาเยี่ยมย้อยเช่นกัน ทั้งคู่ได้เจอกันและปรับความเข้าใจกัน
บั้นปลายชีวิต เบาหวานของย้อยกำเริบหนักจนต้องตัดขาทิ้ง ระหว่างพักฟื้น ปฐมตั้งใจขับรถกลับมาเยี่ยมแม่ แต่เกิดอุบัติเหตุรถชนจนบาดเจ็บสาหัส ย้อยได้ยินข่าวก็ช็อกจนขาดใจตายในวัย 51 ปี อรพรรณีได้ยินข่าวอุบัติเหตุเห็นว่ารักษาไปก็ไม่หายเป็นปกติแน่ จึงปฏิเสธเรื่องการช่วยเหลือทางการเงินใดๆ
ประสงค์และกมลจึงตัดสินใจจำนองที่ดินที่ย้อยแบ่งให้ปฐมจนหมดเพื่อเป็นค่ารักษา ปฐมรักษาตัวอยู่ 3 ปีก็กลับมาเป็นปกติโดยมีเรณูคอยดูแล ทั้งสองคนช่วยกันขยายกิจการร้านขนมของเรณูจนเปิดโรงงานขนมได้ และอยู่กันอย่างมีความสุข
รายชื่อนักแสดง
ราณี แคมเปน : เรณู
จิรายุ ตั้งศรีสุข : กมล(อาซา)
ใหม่ เจริญปุระ : ย้อย
ฐกฤต ตวันพงค์ : ปฐม (เฮียใช้)
ชนาธิป โพธิ์ทองคำ : ประสงค์(อาตง)
วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ : มงคล (อาสี่)
ปรียากานต์ ใจกันทะ : จันตา
จิตรภาณุ กลมแก้ว : ปลัดจินกร
รินรดา แก้วบัวสาย : วรรณา
พิชชาภา พันธุมจินดา : พิไล
ธัญญภัสร์ ภัทรธีรชัยเจริญ : บุญปลูก
เด่นคุณ งามเนตร : ก้าน
อรเณศ ดีคาบาเลส : เพียงเพ็ญ
ปริญญ์ วิกรานต์ : หลักเซ้ง
กษมา นิสสัยพันธุ์ : กำนันศร
ปริศนา กล่ำพินิจ : นางสมพร
จรรยา ธนาสว่างกุล : นางศรี
ปวีณา ชารีฟสกุล : พิกุล
ณัฐนี สิทธิสมาน : นางแรม
อรรถพล เทศทะวงศ์ : ป้อม
สิรินรัตน์ วิทยพูม : อรพรรณี
อริศรา วงษ์ชาลี: ติ๋ม
อ้อยใจ แดนอีสาน : ประนอม
ธัญชนก หงษ์ทองคำ : หวาน
สุเชาว์ พงษ์วิไล : อาจารย์ก้อน
ชลัฏ ณ สงขลา : เชิด
คัคกิ่งรักส์ คิคคิคสะระณัง : เจ๊อ๋า
ณภัทร ชุ่มจิตตรี : ไอ้หวัง
นิศาชล ต้วมสูงเนิน : บังอร
วราพรรณ หงุ่ยตระกูล : หมุ่ยนี้
วิศรุต หิรัญบุศย์: ดำ
ดนัย จารุจินดา: หมอสมดี
ปวันรัตน์ นาคสุริยะ : ป้าเม้า
การัญชิดา คุ้มสุวรรณ : มาลา
อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา : อาม่าร้านสังฆภัณฑ์
ศิรินทรา นิยากร : เรไร
พิเชษฐ์เอี่ยมชาวนา : อาสิทธิ์
รัดเกล้า อามระดิษ : แย้ม
โฆษวิสปิยะสกุลแก้ว : สุบิน
โชติรส ชโยวรรณ : กรองแก้ว
โฉมฉาย : ฉัตรวิไล : นางลิ้ม
ภคพล ตัณฑ์พาณิชย์ : ป๊อก
สิรีภรณ์ ยุกตะทัต : สายทอง
กุณกนิช คุ้มครอง : กุ่น
ชลัฎ ณ สงขลา : น้าเชิด
หมายเหตุ - ละครเรื่อง "กรงกรรม" เกิดในปี 2510 ก่อนละครเรื่อง "สุดแค้นแสนรัก" 5 ปี