ซิ่นลายหงส์ ตอนที่24 จบบริบูรณ์
บทประพันธ์ : ณไทย ภัทรกวีกานท์ บทโทรทัศน์ : ปริศนา / ณไทย ภัทรกวีกานท์
ญาแม่นอนซมตามหน้าตาเนื้อตัวมีตุ่มอยู่เต็ม อาการต้องพิษเต็มขั้น ขยับตัวอย่างกระสับกระส่ายอยู่ครู่หนึ่ง จึงค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้น นางสายที่เฝ้าอยู่ขยับเข้ามาหา
“ญาแม่ ฮู้เมือโตแล้วบ้อ”
ญาแม่ค่อยๆ เหลือบมอง นางสายขยับเข้ามาจับแขนขาญาแม่ด้วยความดีใจ
“คอแห้งหิวน้ำบ่อ ข้าน้อยสิไปเอาน้ำมาให้”
นางสายไม่รอคำตอบหันไปหยิบขันน้ำ แล้วพยุงญาแม่ให้ลุกขึ้นป้อนน้ำให้
ญาแม่ดื่มน้ำแต่ยังมองนางสายไม่วางตา จนนางสายประคองนอนลงเหมือนเดิม
“อดทนอีกจักหน่อยเด้อ เดี๋ยวญาแม่กะเซา โซ่ทองมันเก่ง มันต้องรักษาญาแม่ได้”
นางสายบีบมือให้แรงใจ ญาแม่น้ำตาคลอ เห็นความจริงใจของนางสาย รวบรวมเรี่ยวแรงพูด
“แม่สาย...”
“จ้า”
ญาแม่น้ำตาไหลรินออกมาเป็นสาย “ข้อย...ข้อยขอสมมา”
“ขอสมมาข้าน้อยเรื่องหยัง”
ญาแม่อัดอั้นตันใจ อยากจะสารภาพแต่ก็ละอายใจจนไม่กล้าพูดออกมาตรงๆ
“บาปกรรม...มันสนองคืนข้อยแล้ว...” ญาแม่สะอื้นไห้
นางสายงง “ญาแม่...หมายความว่าจั่งใด๋”
ญาแม่มองหน้าสาย ยื่นมือสั่นๆ มาจับแขน “น้ำ... อย่ากินน้ำ...”
ญแม่ไออย่างรุนแรง จนเลือดทะลักออกมา นางสายตกใจ
“ญาแม่” นางสายตกใจร้องตะโกนเรียกลูกชายสุดเสียง “บักโซ่ แม่สะออน ซ่อยแน้”
นางสายประคองญาแม่ที่อาเจียนจนตัวโยน โซ่ทองกับสะออนวิ่งเข้ามาเห็นสภาพก็ตกตะลึง พุ่งเข้ามาช่วยประคองแทน นางสายค่อยๆ ถอยออกมา ภาพญาแม่อาเจียนเป็นเลือดยังติดตา สีหน้าตะลึงตะไล
นางสายกลับมาที่เรือน อกสั่นขวัญแขวนตื่นตระหนกไม่คลาย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่
โดยเฉพาะตอนญาแม่คว้าแขนแล้วพยายามพูด
“บาปกรรม...มันสนองคืนข้อยแล้ว...” ญาแม่สะอื้นไห้ออกมา
นางสายมีสีหน้าครุ่นคิด หวนนึกถึงการสนทนาวันก่อน ที่ญาแม่ตามมาซักถามที่เรือน
“แม่สาย ข้อยยังบ่อหายข้องใจ ที่เจ้าบอกให้ข้อยอย่าเฮ็ดกรรมอีก เจ้าฮู้เจ้าเห็นหยัง บอกข้อยมา”
“ข้าน้อยเห็นญาแม่กับแม่จันทร์จองเวรจองกรรมกันบ่อสุดบ่อสิ้น ตั้งแต่มื่อแรกแล้ว”
สายพูดเป็นนัยพลางสบตากับญาแม่ ญาแม่นิ่งตะลึงสังหรณ์ใจ
นางสายเริ่มปะติดปะต่อท่าทางและคำพูดญาแม่เข้าด้วยกัน พลันก็นึกถึงประโยคสุดท้ายของญาแม่
“น้ำ... อย่ากินน้ำ...”
นางสายเอะใจเดินไปที่ครัวบนเรือน หยุดตรงหน้าแอ่งน้ำดื่มกินที่ใช้
ส่วนบนเรือนแพทย์ ญาแม่อาเจียนจนหมดเรี่ยวแรง สะออนกับโซ่ทองหาน้ำมาให้ล้างปากแล้วประคองนอนลง
“ญาแม่” สะออนแตะแขนผัว ร้อนร้นใจ “เฮ็ดจั่งใด๋ดีอ้ายโซ่ อาการญาแม่คือบ่อดีขึ้นเลย”
“ญาแม่ฮากออกมาหลายแล้ว อาจสิซ่อยให้พิษในกายลดลง เฮาก็ต้องรอเบิ่งอาการเพิ่นก่อน”
สะออนพยักหน้ารับ เริ่มมีความหวัง จนได้ยินเสียงเอะอะที่หน้าเรือน เลยลุกออกไปดู
สะออนเดินลงเรือนมา เห็นเสากับสีแหล่กำลังยืนผลักดันกับบ่าวของตนอยู่ที่ตีนบันไดหน้าเรือน มีนางจันทร์อยู่ด้วย
“หนีไปไกลๆ เด้อ แม่นสิเป็นเจ้าบ้านเจ้าเฮือนใหญ่โตมาแต่ไสกูกะบ่อสน ถ้าอยากขึ้นไป กะข้ามศพกูก่อน” บ่าว1 ไม่ยอม บ่าว2 ช่วยดัน
นางจันทร์โมโห “มึงมาแสดงกับกูเข้าเด้อ อีขี้ข้า สูเหยียบมันให้ไส้แตกเลย กูสิข้ามศพมันให้เบิ่ง”
เสากับสีแหล่พุ่งเข้าจะคว้าตัวบ่าว แต่ถูกบ่าวตบเปรี้ยง ไม่ยอมให้ขึ้นเรือนไปเด็ดขาด สะออนเดินมาหา
“แม่นหยังกันน่ะ เซาเดี๋ยวนี้เด้อ”
บ่าว1 บ่าว2 สะบัดจากเสากะสีแหล่ วิ่งมาฟ้องสะออน “ซุมพากนี่ มันสิขึ้นเฮือนแพทย์จ้ะ ข้อยบอกว่าญาแม่ป่วยอยู่ บ่อให้มาฮบกวน มันกะบ่อฟัง”
“นี่มันเขตเฮือนญาแม่จันทร์ เพิ่นสิเหยียบสิยืนหม่องใด๋ สิไปไสมาไสก็ได้ มึงเป็นขี้ข้ามีสิทธิ์หยังมาห้าม” เสาด่า
“กูอุตส่าห์ว่าสิมาเบิ่งใจอีคำอ่อน เห็นว่าป่วยคักหลาย ใกล้ไปทางเขาแล้ว” นางจันทร์พูดแดกดัน
สะออนฉุน เสียงแข็งใส่ “ญาแม่ยังบ่อตายดอก แม่จันทร์ฮู้เรื่องแล้ว ก็กลับคืนไปซะ”
“อีจองหอง สูปลูกเฮือนอยู่ในเขตบ้านพ่อกูแท้ๆ มีสิทธิ์หยังมาไล่กู กูนี่ดอก ที่มีสิทธิ์สิไล่พวกสูยามใด๋กะได้ กูบ่อสั่งให้มึงลากคออีคำอ่อนไปตายหม่องอื่นกะบุญแล้ว” นางจันทร์ว่า
เสียงเยือกเย็นของสะอาดดังขึ้น “เว้าจาซ้ำตื่มคนป่วยหนักให้ตาย เพิ่นบ่อเอิ้นว่าเป็นบุญดอกเด้อ แม่งอ”
นางจันทร์หันขวับไป เห็นสะอาดยืนมองอยู่ สะออนมีสีหน้าดีใจ
“ญาเอื้อย…”
“ในเมื่อฮู้ว่าญาแม่ป่วยอยู่ ถึงแม่งอบ่ออาลัยอาวรณ์ ก็อย่าเว้าหยังที่บั่นทอนจิตใจพวกเฮาเลย ข้อยขอบิณฑบาตล่ะ”
นางจันทร์ทำคอแข็งใส่สะอาด แล้วสะบัดหน้าเดินจากไปกับสองบ่าว สะออนถลาไปกอดสะอาดอย่างดีใจ
“ข้าน้อยคึดว่าข่าวสิไปบ่อฮอดญาเอื้อยสาแล้ว ข้าน้อยกับแม่ป้าไปหาอยู่วัดกะบ่อเห็น”
“เอื้อยไปแสวงบุญทางเมืองสุวรรณเขต กลับมาฮอดเมื่อเซ้านี่ พอท่านแม่ซีบอกก็ฟ่าวมาเลย”
“ไปกราบญาแม่กันเด้อ ญาเอื้อย”
สะออนปาดน้ำตาแล้วจูงมือสะอาดขึ้นเรือนแพทย์ไป
ญาแม่นอนนิ่งอยู่บนที่นอน อาการทุรนทุรายสงบลงแล้ว สะออนขยับเข้าไปใกล้ กระซิบถามเบาๆ
“ญาแม่...ได้ยินข้าน้อยบ่อ”
ญาแม่กะพริบตานิดๆ เหมือนรู้ตัวอยู่
“ถ้าญาแม่มืนตาไหว กะมืนเบิ่งแน ว่าไผมายาม”
ญาแม่กะพริบตาแล้วพยายามลืมขึ้น เหลือบมองไปตามเสียงของสะออน จนเห็นสะอาดนั่งอยู่ข้างๆ
“แม่ซี...”
สะอาดขยับเข้ามาใกล้ บีบมือญาแม่
“ข้าน้อยมาแล้วจ้ะ ญาแม่”
ญาแม่สบตากับสะอาดน้ำตาร่วงริน รู้ชะตากรรมตัวเองดีกว่าวาระสุดท้ายกำลังจะมาถึง
เย็นเดียวกันนั้น สอางนั่งหน้าซีดขาวอยู่ตรงนอกชาน เหลือบเห็นนางจันทร์ เสา สีแหล่เดินขึ้นเรือนใหญ่มา
“ญาแม่กูเป็นจั่งใด๋แน”
“บ่อมีไผได้เห็นดอกเจ้าค่ะ แม่สะออนเพิ่นบ่อให้ขึ้นไป” สีแหล่ว่า
“แม่เจ้าไปเบิ่งเอาเองเถาะเจ้าค่ะ แม่ซีสะอาดเพิ่นกะอยู่เทิงเฮือน” เสาเสริม
“บ่อไปดอก กูย่าน ได้ยินว่าญาแม่เลือดออกปากออกดัง กูบ่ออยากเห็นภาพติดตา รอให้เพิ่นหายก่อนพู่นล่ะ”
นางจันทร์หัวเราะเสียงดังลั่นด้วยความสะใจ
“เพิ่นคงบ่อหายดอกแม่เจ้า อาการหนักปานนี่ ไปทางเขาแล้ว คงบ่อพ้นคืนนี่ไปได้ดอก อีเสา อีสีแหล่ มึงไปแต่งข้าวน้ำซ่ามปลาพาใหญ่มา คืนนี่ กูสิสะหลอง”
“สะ...สะหลองงานหยังจ๊ะ ญาแม่” เสางง
“กะสะหลองที่อีคำอ่อนมันกำลังสิดับแนวนั้นแหล่ว” นางจันทร์หัวเราะหึๆ “เหมิดเวรเหมิดกรรมกันจักเทือ”
เสากับสีแหล่ทำหน้าเจื่อนๆ รู้สึกไม่ดีที่นางจันทร์เห็นความตายของญาแม่คำอ่อนเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ก็รีบลงเรือนไป
นางจันทร์หันไปเห็นสอางยังมีสีหน้าหม่นมอง ก็เข้าไปปลอบ เอาใจ
“แม่เจ้าอย่าเศร้าไปเลย ตอนอยู่ เพิ่นกะบ่อได้ออนซอนแม่เจ้าปานใด๋ ให้เพิ่นตายให้เหมิดทรมานไปสา แม่เจ้าเองกะสิได้สำบายหู บ่อต้องฟังเสียงฮ้ายเสียงด่าแล้ว บาดนี่ สิเฮ็ดหยังกะเฮ็ดได้ ตามใจปรารถนา”
สอางนิ่งคิด พยายามจะคิดตามนางงอ แต่ก็ทำใจไม่ได้อยู่ดี เพราะยังไงญาแม่ก็เป็นแม่ที่ให้กำเนิดมา
“กูใจบ่อดี กูสิไปสวดมนต์”
สอางสะบัดลุกเดินหนีเข้าห้องนอนไป นางจันทร์มองค้อนด้วยความหมั่นไส้นิดๆ
โซ่ทองเดินกลับมาที่บ้าน เห็นนางสายผู้เป็นแม่นั่งเศร้าอยู่ตรงชานเรือน
“ข้อยขอนอนนี่เด้ออีแม่ คืนนี้แม่ซีเพิ่นสิอยู่เฝ้าญาแม่เอง ก็เลยให้สะออนอยู่เป็นหมู่”
นางสายมีท่าทีเซื่องซึม “อาการเพิ่นเป็นจั่งใด๋แน”
โซ่ทองถอนใจ “ยังบ่อดีขึ้นปานใด๋ แต่อย่างน้อยกะบ่อฮากเป็นเลือดแล้วจ้ะ”
“แสดงว่าเพิ่นต้องยาพิษอีหลี”
“ข้อยบ่ออยากคึดว่าเป็นอย่างนั่นเลย แต่อาการกะคือเข้าไปทุกเทือ ถ้าแม่นอีหลี กะต้องหาโตคนร้ายไปลงโทษให้ได ข้อยสิบ่อให้อภัยมันเด็ดขาด”
“แล้วถ้าคนร้ายนั้นเป็นพวกเฮาเองล่ะ บักโซ่”
โซ่ทองมองหน้าแม่อย่างสงสัย
“อีแม่หมายถึงไผ ไผมันสิกล้าทำร้ายไทกันเอง เฮากะเหลือกันอยู่แค่นี่”
นางสายหันไปหยิบห่อผ้าที่วางข้างๆ ตัวขึ้นมา เปิดห่อผ้าออกให้โซ่ทองดู
“ตอนแลง แม่กลับมาคว่ำแอ่งน้ำที่เจ้าสงสัยว่าสิมียาพิษ ก็เลยพ้อฮากไม้พวกนี้อยู่ก้นแอ่ง”
โซ่ทองมองห่อผ้าในมือแม่สาย เห็นรากไม้ในนั้น จึงหยิบขึ้นมาดูอย่างแปลกใจ
“ฮากว่านมือผี”
“ของพวกนี้มันบ่อถืกลมปลิวมาตกใส่แอ่งน้ำง่ายๆ ดอก ต้องมีคนใส่ลงไป เจ้าว่าบ่อ บักโซ่”
โซ่ทองหยิบขึ้นมาพินิจพิจารณา สีหน้าตะลึง
“แล้วอีแม่คึดว่า เป็นพวกเฮากันเองซั่นบ้อ ไผล่ะอีแม่”
นางสายกลืนน้ำลายลงคอ “กะสิแม่นเพิ่นเองนั่นล่ะ”
“อีแม่”
นางสายสะท้อนใจระบายออกมา “ญาแม่เพิ่นคงสิหมายเอาซีวิตแม่ กะเลยมาวางยาใส่แอ่งน้ำเฮือนเฮา ย่อนเพิ่นบ่อฮู้ว่า ตอนนี้ญาแม่จันทร์เพิ่นห้ามบ่อให้พวกเฮาไปเฮ็ดอยู่เฮ็ดกินอยู่ครัวใหญ่แล้ว ที่ผ่านมา กะมีแต่เฮาแม่ลูกท่อนั่นล่ะที่เฮ็ดกินอยู่นี่”
“อีแม่คือเว้าแนวนั่น เพิ่นเป็นหยังถึงต้องปองร้ายอีแม่” โซ่ทองยังไม่อยากเชื่อ
นางสายน้ำตาคลอ สีหน้าอัดอั้นตันใจ
“ย่อนแม่ไปฮู้ไปเห็นความลับของเพิ่น...”
นางสายเล่า เมื่อในอดีต ตนออกมานึ่งข้าวอยู่ตรงครัวเล็กๆ หลังกระท่อมท้ายสวน
“โดนมาแล้ว ตั้งแต่สมัยเจ้ายังบ่อเกิด แม่ปลูกกระท่อมอยู่ติดสวนว่านยาของพ่อแพทย์จันทกุมารนี่ล่ะ”
เห็นเงาตะคุ่มๆ ใครคนหนึ่งเดินย่ำเข้าไปในสวนท่ามกลางความเงียบ
“กลางเดิกมื่อนึง แม่ได้ยินเสียงคนฮ้องเจ็บปวดทรมานมาจากในสวน แม่จอบเบิ่ง กะเห็นพ่อแพทย์จันทกุมารกำลังถืกสังหาร”
พ่อครูจันทรกุมารนอนอยู่ในหลุม ใบหน้าสะบัดไปมาอย่างทุรนทุราย ร้องครวญครางขณะมีน้ำร้อนไหลชโลมลงมาบนใบหน้า คนที่ยืนเทน้ำร้อนจากหม้อลงมาใส่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้ผ้าคลุมหน้าเอาไว้
“แม่มาฮู้ทีหลัง ว่าคืนนั่นพ่อแพทย์ต้องยาพิษ เลยต้องลงนอนในหลุมให้ดินดูดพิษ แต่คนร้ายใจโหดมันรอท่าอยู่ พอตกกลางเดิกกะเลยลักเข้ามา เอาน้ำร้อนฮาดใส่หน้าพ่อแพทย์” นางสายเล่าด้วยน้ำเสียงสยดสยอง “ฮาดจนน้ำเหมิดหม้อ แล้วกะยืนเบิ่งจนพ่อแพทย์แน่นิ่งไป”
นางสายซุ่มดูอยู่หลังต้นไม้ เอามือปิดปากอย่างตกใจไม่กล้าส่งเสียง
“แม่บ่อกล้าฮ้องให้คนมาซ่อย ย่อนว่าคืนนั่น ทิดทอง พ่อของเจ้าบ่ออยู่ กะเลยสิย่องหนีออกไป”
ทว่าเท้านางสายดันไปเหยียบกิ่งไม้หักดังเป๊าะ คนร้ายเงาตะคุ่มหันขวับมาตามเสียง
นางสายเอามืออุดปากค้อมหัวต่ำ เหลือบตามองเห็นใบหน้าคนร้ายที่หันมาพอดี
“แต่มันคงฮู้โตก็เลยหันมาแนมเบิ่งแม่” นางสายเล่าเสียงสั่นเครือ “แล้วตอนนั่นล่ะที่แม่ได้เห็นหน้าคนใจโหดผู้นั่น เต็มตา”
ผ้าคลุมหน้าหลุดลงเผยให้เห็นใบหน้าคำอ่อนเหลือบมองมาทางนางสาย แม้ไม่เห็นใคร แต่สีหน้าก็เหมือนหวาดระแวงขึ้นมา
“คนที่ฆ่าพ่อแพทย์จันทกุมารในคืนนั่น...กะคือญาแม่คำอ่อนนี่ล่ะ”
คำอ่อนมองซ้ายแลขวาอย่างหวาดระแวง รีบเอาผ้าคลุมปิดหน้าให้มิดชิด แล้ววิ่งออกไป
นางสายมองตามคำอ่อน พอเห็นว่าวิ่งหายไปแล้ว จึงรีบวิ่งไปดูพ่อแพทย์จันทกุมารที่หลุม พบว่าพ่อแพทย์จันทกุมารนอนแน่นิ่ง ใบหน้าบวมแดงเพราะถูกน้ำร้อนลวก
โซ่ทองตื่นตระหนกตกใจสุดขีด ทรุดลงอย่างอ่อนแรง คาดไม่ถึงว่า ญาแม่เป็นคนฆ่าพ่อแพทย์จันทกุมารเพื่อจะได้ครอบครองพ่อแพทย์พุทไธ
“แม่บ่อกล้าบอกให้ไผฮู้ว่าเห็นหยัง ย่อนเฮามันคนขี้ทุกข์ขี้ยาก อยู่ซื่อๆ สิไปกล่าวหาลูกสาวหัวเจ้าบ้าน กะคงอยู่ในหมู่บ้านนี่บ่อได้ แม่กะเลยบ่อปากบ่อเว้ามาตลอด ยิ่งพอพ่อของเจ้าตาย เฮาสองแม่ลูก กะยิ่งลำบาก แม่ก็ส่ำว่าท่วมปาก”
“ข้อยบ่ออยากเซื่อเลย”
“แม่กะบ่ออยากเว้าสู่เจ้าฟังดอก โซ่ทอง แม่อยากให้เจ้านับถือเพิ่นเป็นผู้เจ้าบุญนายคุณ เหนือหัวเหนือเกล้าตลอดไป ถ้าบ่อได้ความเมตตาจากเพิ่นค้ำไว้ เจ้ากะคงบ่อมีมื่อนี่”
โซ่ทองมีสีหน้าสลดลง นางสายลูบแขนลูกปลอบ
“ที่เพิ่นคึดสิฆ่าอีแม่ ก็คงย่อนเพิ่งฮู้ว่า อีแม่ฮู้ความลับข้อนี้ แต่กะคือเวรกรรมนำทัน เพิ่นเลยได้รับผลนั่นสาเอง”
“แล้วข้อยควรเฮ็ดจั่งใด๋”
“เจ้ากะรักษาเพิ่นให้สุดความพยายาม เพื่อตอบบุญแทนคุณเพิ่น แต่หากว่าเจ้าซ่อยเพิ่นบ่อได้ กะคึดสาว่า บุญของเพิ่นเฮ็ดมาฮอดแค่นี่”
โซ่ทองคิดตาม แล้วพยักหน้ารับ แล้วต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเรียกสะออนดังขึ้นที่หน้าเรือน
“อ้าย... อ้ายโซ่”
โซ่ทองกับนางสายลุกพรวดเดินออกดู เห็นสะออนขึ้นเรือนมาน้ำตานองหน้า
“ไปเบิ่งญาแม่แน ญาแม่สิบ่อไหวแล้ว”
โซ่ทองใจหล่นวูบ รีบร้อนลงเรือนไปพร้อมกับนางสายและสะออน
โซ่ทองรีบวิ่งขึ้นมาบนเรือนแพทย์เพื่อดูอาการญาแม่ สะออนร้องไห้วิ่งมาด้วยกัน
“ญาแม่...”
ญาแม่นอนหายใจรวยริน มีเลือดไหลซึมออกจากทวารทั้ง ปาก จมูก ผิวหนังชุ่มเหงื่อไปทั้งร่าง
แม่สายตามขึ้นมาทีหลังคนอื่น เห็นญาแม่อยู่ในสภาพใกล้สิ้นใจก็มองด้วยความอาวรณ์ น้ำตาไหล นึกถึงบุญคุณ
แม่สายทรุดลงข้างเตียงก้มกราบขออโหสิกรรม
“ญาแม่เอ๋ย เจ้าบุญนายคุณของข้าน้อยผู้ทุกข์ยาก สิ่งใดที่ข้าน้อยเคยล่วงเกิน กะขอให้อโหสิกรรมกันสาเด้อ อย่าให้มีบาปเวรผูกพันกันเลย”
สะออนน้ำตาไหล ร้องไห้สะอื้น
แม่ชีสะอาดจับมือญาแม่ หยั่งรู้ด้วยทิพญาณ พูดด้วยความสงบเย็น
“ญาแม่... ความสุขความทุกข์และสมบัติเทิงหลายในโลก ให้ญาแม่ปล่อยมันถิ่มไป อย่าอาลัยอาวรณ์กอดฮัดเอาสิ่งใด๋ไว้เลย”
วาระสุดท้าย ลมหายใจสุดท้ายของญาแม่ มองเห็นภาพในอดีตของตนหลายเหตุการณ์ ทั้งในวัยสาวและอดีตชาติซ้อนกลับไปกลับมาหลายภาพ ขณะที่สติค่อยๆ ดับวูบลงไป
“ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ขอเพิ่งพระบารมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลุดพ้นไปอยู่ในหม่องสงบสบาย บ่อเกิดภพเกิดซาติ บ่อเวียนว่ายตายเกิดอีกเด้อ ญาแม่”
สะออนสะอื้นไห้แล้วก้มลงกราบญาแม่
สะอาดมองอย่างสงบ สะออนหันมาเห็นสอางเดินขึ้นเรือนมาพอดี
“ญาเอื้อย.... ญาแม่เฮาเหมิดแล้วเด้อ”
ทุกคนหลีกทางให้ สอางเดินเข่าอ่อนมาทรุดลงนั่งข้างเตียง พนมมือขึ้น สติสตังเลื่อนลอย ทั้งรัก ทั้งชัง ทั้งโล่ง ทั้งใจหาย สอางมองดูญาแม่ชัดๆ น้ำตาเอ่อคลอโดยไม่รู้ตัว ค่อยๆ ก้มลงกราบขอขมาญาแม่
แม่ชีสะอาดทอดสายตามองน้องสาว ภาพสอางค่อยๆ เปลี่ยนเป็นอัญญานางหูกคำ ที่สวมเครื่องทรงราชสำนักเวียงคำนาค ถูกล่ามด้วยโซ่ทองคำที่ข้อเท้า พอเลื่อนสายตามามองญาแม่ ก็เห็นภาพญาแม่ในเครื่องทรงอัญญานางคำอ่อนมหาเทวีนอนอยู่
สะอาดเอ่ยขึ้น “น้องหล่า...แกะสายโซ่ที่ล่ามหัวใจเจ้าออกสา อโหสิกรรม ตัดเวรตัดกรรมให้เหมิดสิ้น อย่ามีเวรมีภัยกันอีกเลย ญาแม่เพิ่นสิไปดีไปสงบแล้ว ปล่อยเพิ่นไปสาเด้อ”
สอางเดินกลับขึ้นเรือนพุทไธเทพอย่างตื้อๆ มึนๆ เห็นนางจันทร์นั่งรอฟังข่าวอยู่ตรงชานเรือน
“ญาแม่กูเหมิดแล้วล่ะ อีจันทร์”
นางจันทร์เหลือบมองสอาง เห็นสอางทรุดนั่งลงน้ำตาคลอๆ ก็ขยับเข้าไปลูบแขนปลอบ
“อย่าเสียอกเสียใจไปเลย คึดสาว่า เพิ่นไปดีแล้ว เหลือแต่พวกเฮาที่ยังต้องดิ้นรนกันต่อไป”
สอางหันมามองนางจันทร์ ยังไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร
“แม่เจ้าเองกะต้องดิ้นรนกลับขึ้นไปจุดสูงสุดให้ได้ ถึงสิบ่อได้สูงส่ำเก่า แต่กะอย่าให้น้อยหน้าพี่น้อง”
“กูสิกลับคืนไปสูงส่งอีกได้จั่งใด๋ ในเมื่อต้องมาจมปลักดักดานยู่นี่”
“อย่างน้อย การเป็นเมียแพทย์หลวงโซ่ทองกะบ่อได้น้อยหน้าต่ำตาไผดอก ข้อยว่า”
สอางตกใจ ไม่นึกถึงข้อนี้มาก่อน “อีจันทร์”
“ข้อยฮู้ว่าแม่เจ้าบ่อได้พิศวาสหยังบักโซ่ทอง แต่ทุกมื่อนี่ มันเป็นคนสำคัญของเมืองอีสานบุรี พ่อเจ้ากะยอย่อง เจ้าใหญ่นายโตกะพลอยยอมฮับนับถือไปนำ ถึงสิบ่อได้ติดเครื่องยศ แต่ตำแหน่งแพทย์หลวงกะบ่อได้กระจอกงอกง่อย”
สอางนิ่งคิด สะอึกกับคำพูดนั้น จนเถียงไม่ออก
“สิว่าไป กะคือแม่สะออนมาตีปลาหน้าไซ เอาบักโซ่ไปจากแม่เจ้า ทั้งที่แต่กี้แต่ก่อนมันเทิงฮักเทิงหลงแม่เจ้าจนโงหัวบ่อขึ้น แม่เจ้าบ่อคึดสิทวงคืนแนบ้อ”
นางจันทร์พูดเสี้ยมสอางด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
เย็นวันต่อมา หน้าเรือนพุทไธเทพที่จัดไว้รับแขกเหรื่อ ที่ด้านล่างของเรือน โซ่ทองกับสะออนยืนรับแขกที่เดินเข้ามาไม่ขาดสาย เห็นพวกข้าราชการทหาร แวะเข้ามาพูดคุยด้วย
นางงอกับสอางเดินเข้ามายืนดูอยู่ห่าง
“เบิ่งนั่นดู๊ล่ะ แม่เจ้า มีแต่พวกเจ้าใหญ่นายโตเทิงนั่นที่เข้ามาเว้ากับพ่อแพทย์ แต่คนที่ยืนข้างๆ นั่น ควรสิเป็นแม่เจ้าสอาง บ่อแม่นแม่สะออน”
สอางมองไปที่สะออนที่ยืนเคียงข้างโซ่ทอง พนมมือไหว้ เจรจากับแขกด้วยความริษยา แล้วตัดสินใจเดินเข้าไป
สะออนกับโซ่ทองกำลังยืนคุยกับแขก สอางเดินเข้าไปเบียดแทรกส่งเสียงหวาน
“น้องหล่าสะออน ไปเบิ่งข้าวน้ำซ่ามปลาในครัวสา เดี๋ยวเอื้อยสิต้อนฮับแขกให้เอง”
สะออนกับโซ่ทองงงที่อยู่ๆ สอางก็เข้ามาทำพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน แถมไหว้ทักนายทหารใหญ่หัวเราะหัวใคร่ทำตัวสนิทสนม
“ขอบใจท่านผู้การหลายเด๊อจ้า ที่มาฮ่วมงานเผาญาแม่ข้อย ต้องขอสมมาเด้อที่บ่อได้ไปเซิญเอง มัวแต่ยุ่งยากเตรียมงานกันทุกคน”
พวกแขกผู้ใหญ่เองก็พากันงงๆ หน้าเจื่อนทั้งแถบ สอางหันไปทางสะออนที่ยังยืนงงอยู่ที่เดิม
“ไปแม้น้องหล่า เอื้อยฮับแขกกับพ่อแพยท์กันได้ ไปหาน้ำหาท่ามาเลี้ยงแขกเร็ว”
สะออนงงหนักว่าเดิม แต่ก็รับคำ “อ่อ... จ้ะ...”
สะออนจะผละไป แต่สายวารีตรงเข้ามาคว้าแขนไว้ มีศรีธาราตามมาด้วย
“สะออน อย่าเพิ่งไป มารู้จักท่านลุงท่านป้าของฉันก่อน ท่านเพิ่งมาจากสยาม”
สอางและโซ่ทอง ชะงักหันไปมอง เห็นผู้ใหญ่แต่งตัวดีสองคนเดินเข้ามากับศรีธารา
“ทั้งสองท่านเป็นพี่ชายกับพี่สะใภ้ของท่านแม่ครับ มาเป็นตัวแทนท่านพ่อ นี่สะออนลูกสาวของญาแม่คำอ่อน ส่วนนั่นพ่อแพทย์โซ่ทอง สามีของเธอครับ”
สะออนกับโซ่ทองยกมือไหว้ผู้ใหญ่ ทั้งสองรับไหว้ ศรีธาราจงใจไม่แนะนำสอาง สายวารีก็ชิงพูดแทรก
“สะออนเป็นน้องสาวของญาแม่สะอาด ภรรยาคนที่สองของท่านพ่อน่ะคะ”
พวกผู้ใหญ่พยักหน้ารับรู้ ยิ้มเอ็นดูสะออน แล้วเข้ามาแสดงความเสียใจ ทุกคนพูดจากันโดยไม่สนใจสอางที่ยืนอยู่วงนอกเลย สอางหน้างอคว่ำโมโห ในที่สุดก็สะบัดหน้าเดินออกไป
โซ่ทองกับศรีธาราเดินแยกออกมาคุย
“เรื่องตรวจสารพิษจากน้ำที่อ้ายโซ่ให้ผมไป ตอนนี้ผมกำลังเร่งอยู่ ถ้าได้ผลว่ามีพิษจริงๆ ผมจะส่งเรื่องให้ตำรวจเลย จะได้รีบทำการสอบสวนเร็วๆ”
โซ่ทองเหลือบมองสะออนที่กำลังนั่งคุยกับสายวารีและญาติๆ ก่อนจะตัดสินใจโกหกศรีธารา
“คงไม่ต้องแล้วล่ะท่านชาย ข้าน้อยรู้แล้วว่าเป็นอุบัติเหตุ โอ่งน้ำที่บ่าวตักมาให้ญาแม่ดื่ม มันมีลูกไม้เน่าปลิวตกลงไป บังเอิญว่าญาแม่เพิ่นเพิ่งกลับมาจากเรือนแม่ครูคำอุ่ม ก็เลยได้ดื่มเป็นคนแรก จนล้มป่วย” โซ่ทองอึกอักมีพิรุธ แต่ศรีวารีไม่ทันเห็น “ไม่ได้มียาพิษอะไรดอก”
ศรีธาราแปลกใจนิดๆ “อย่างนั้นเองหรือครับ”
โซ่ทองตัดบท “เพราะฉะนั้นข้าน้อยฝากท่านชายไปแจ้งทางท่านหมอฝรั่งให้ด้วยว่า ครอบครัวข้าน้อยไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบใดๆ อีก”
ศรีธาราพยักหน้ารับรู้ คลายใจลง โซ่ทองพยายามฝืนยิ้ม แต่สีหน้าดูลำบากใจ
นางจันทร์เดินหลบผู้คนกลับมาที่เรือนพุทไธเทพ พอจะก้าวขึ้นบันไดก็ถูกรวบตัวจากด้านหลัง ร้องลั่นดิ้นสู้ขัดขืนด้วยความตกใจ
“อยู่ซื่อๆ นี่ข้อยเอง แม่จันทร์”
นางจันทร์สะดุ้งเหลือบตามองเห็นว่าคนที่รวบตัวเองอยู่คือสมิงพันดงที่เปิดโม่งปิดหน้าปิดตาออก
ในเวลาต่อมา สมิงพันดงเดินสำรวจบนเรือน เข้าห้องโน้นออกห้องนี้เหมือนสำรวจตรวจตรา มีนางจันทร์ยืนมองไม่พอใจนัก
“เฮือนซานใหญ่โตแบบนี่ มูนมังสมบัติพัสถานกะบ่อแม่นหน่อยๆ เสียดายแท้...”
“เสียดายหยัง”
“กะเสียดายที่ข้อยบ่อมีโอกาสมาอยู่กินกับแม่จันทร์เทิงเฮือนนี่”
สมิงพันดงเดินเข้ามาโอบกอด นางจันทร์สะบัดตัวออก
“กะพ่อครูไปเฮ็ดเรื่องอัปรีย์สีกบาลเอาไว้เอง ถึงได้ถืกไล่ออกจากหมู่บ้าน ข้อยสิไปซ่อยหยังได้”
“ฮู้แล้วล่ะ กะย่อนเหตุนี่ล่ะ ข้อยถึงได้จอบมาหาแม่จันทร์ ในเมื่อกลับมาอยู่นี่บ่อได้แล้ว แม่จันทร์กะซ่อยสงเคราะห์เงินคำจักก้อนให้ข้อยเอาไปตั้งโตแนได้บ่อล่ะ”
“ธุระหยังที่ข้อยต้องให้เจ้า”
“เว้าออกมาได้ กะที่เจ้ากลับมาผู้จกผู้งาม เป็นสาวส่ำน้อยทุกมื่อนี่เด้ บ่อแม่นย่อนยาข้อยบ้อ”
“แต่กูกะเอาโตเข้าแลกให้มึงได้จนสมใจแล้ว กะถือซะว่าหายกัน มึงสิมาเอาเงินเอาคำหยังจากกูอีก”
สมิงชั่วเริ่มโมโหที่ถูกตัดรอน “ฮ่วย กูกำลังอับจนหนทาง มึงสิซ่อยกูจักหน่อยบ่อได้บ้อ”
“หนีโลด ซื่อเสียงมึงเหม็นเน่าไปเหมิดบ้าน ถ้ากูซ่อย ไทบ้านกะหาว่ากูเป็นซุมเดียวกันกับมึงตั้ว มึงลงไปจากเฮือนกูได้แล้ว บ่อซั่น กูสิฮ้องดังๆบอกว่ามึงอยู่นี่พวกไทบ้านที่มางานเผาอีคำอ่อนสิได้ตามมาเหยียบหัวกบาลมึง”
“อีจันทร์ อีเนรคุณ”
“ไป บ่อซั่น กูฮ้องอีหลีเด๊ะ” นางจันทร์ชี้มือไล่ พร้อมกับแกล้งร้องตะโกน “ซ่อยแน้ ซ่อยกูแน้...”
สมิงพันดงพุ่งเข้าเอามือปิดปาก นางจันทร์ดิ้นหนีถีบสมิงจนกระเด็นไป แล้วหันไปคว้ามีดที่อยู่แถวนั้นขึ้น
“มึงไปเดี๋ยวนี้ แล้วอย่าคืนมาให้กูเห็นหน้าอีก”
นางงอเดินเข้าใกล้วาดมีดในมือใส่อีก สมิงพันดงผวารีบขยับหนี
“กูฝากไว้ก่อนเด้อมึง อีจันทร์ จำใส่กบาลมึงไว้ กูสร้างมึงได้ กูก็จะทำลายมึงให้ได้”
สมิงพันดงชี้หน้าอย่างคั่งแค้น แล้วรีบหนีลงเรือนไปโดยไว
แขกนั่งรอฟังพระสวดศพเต็มนอกชานเรือนแพทย์ โซ่ทองเดินเลี่ยงออกมาคุยกับนางสาย
“ข้อยบอกกับเจ้าศรีธาราไปแล้วล่ะ ว่าความตายของญาแม่นั่นบ่อมีไผเจตนา บ่อต้องสอบสวนหยังอีกแล้ว”
“กะดีแล้วล่ะลูก เจ้าเฮ็ดถืกแล้ว เจ้าศรีธาราเพิ่นคงบ่อติดใจหยังอีกดอก”
“ข้อยฮู้ว่าคงบ่อมีไผติดใจอีก แม้แต่สะออน แต่ข้อยกะเข้าหน้าเมียบ่อติดยามเว้าถึงญาแม่ มันทรมานหลายจ้ะอีแม่ คือกับข้อยเป็นคนเฮ็ดผิดสาเอง”
“ความทุกข์ใจแค่นี่ ขอให้เจ้าฮับมันไว้สาลูก คึดซะว่าตอบบุญแทนคุณญาแม่ เพราะถ้าเจ้าเว้าความจริงออกไป คนที่ต้องทุกข์กะคือแม่สะออน เพิ่นคงหาความสุขบ่อได้ตลอดซีวิต ถ้าได้ฮู้ว่าแม่ของเพิ่นเคยก่อกรรมฮ้ายแฮงปานใด๋เอาไว้”
โซ่ทองก้มหน้านิ่ง นางสายแตะไหล่ปลอบ
“ตอนนี่ ญาแม่เพิ่นกะได้ฮับผลกรรมที่โตเองก่อแล้ว เจ้าบ่อจำเป็นต้องไปซ้ำตื่มเพิ่นอีกด้วยการทำลายซื่อเสียงเพิ่นให้มัวหมองลงไป ปล่อยให้ญาแม่เหลือภาพดีๆ ในฐานะแม่และเจ้านายที่ประเสริฐของคนที่จงฮักภักดีเพิ่นสาลูก”
โซ่ทองพยักหน้ารับเอาคำ เหลือบมองไปทางสะออนที่ต้อบรับแขกสีหน้าเศร้าไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย
หลายวันต่อมา โถกระดูกของญาแม่กับพ่อแพทย์ตั้งคู่กันบนโต๊ะบูชาบนเรือนนางสาย ทุกคนก้มลงกรราบ
สะอาดหันมาทางสอางที่มาร่วมกราบว่า “ขอบใจหลายเด้อน้องหล่า ที่เป็นธุระเว้ากับแม่จันทร์ให้ยอมเอากระดูกยาพ่อมาตั้งคู่กับญาแม่”
“เรื่องแค่นี้ ถือว่าข้าน้อยเฮ็ดเพื่อยาพ่อกับญาแม่เป็นเทือสุดท้าย” สอางบอก
“ตอนนี้ญาแม่กับญาพ่อคงสิได้ไปอยู่คู่กันเทิงสวรรค์ซั้นฟ้าแล้ว เอื้อยกะบ่อมีหยังต้องห่วงอีก คงสิได้กลับวัดป่าแล้วล่ะ กะบ่อฮู้ว่าเฮาสิได้อยู่พร้อมหน้ากันอีกบ่อ”
สะออนแทรกขึ้น “ญาเอื้อยเว้าหยังอย่างนั่นล่ะ วัดป่ากะอยู่บ่อไกล ข้าน้อยสิไปยามดู๋ๆ”
“ถ้าเอื้อยปลงผมแล้ว กะอยากตัดจากทางโลกถาวร อาจสิย้ายไปจำวัดอยู่เมืองสุวรรณเขต”
“ญาเอื้อย...” สะออนใจหาย
“อย่าห้ามเอื้อยเลยน้องหล่า คนเฮากะย่อมเลือกทางที่โตเองมีความสุขกันเทิงนั่น เจ้าเองกะเลือกแล้ว สอางกะเลือกแล้ว เหลือแต่เอื้อยที่ยังติดค้างย่อนห่วงยาพ่อญาแม่ แต่ตอนนี้...กะบ่อมีหยังให้ต้องห่วงอีก ให้เอื้อยไปสา”
สะออนน้ำตาคลอ เข้ากอดสะอาด
“ถ้าอย่างนั่น ข้าน้อยสิไปถือศีลให้ญาแม่ เป็นผู้ปลงผมญาเอื้อย แทนญาพ่อกับญาแม่”
สะอาดลูบหัวสะออนแล้วยิ้มตื้นตันใจ
“ถ้าเจ้าอยากเฮ็ดเพื่อยาพ่อญาแม่ เอื้อยกะบ่อขัดขีนดอก” สะอาดหันมาทางสอาง “น้องหล่าไปนำกัน ลองไปวิปัสสนาเบิ่งจักคืนสองคืน จิตใจสิได้ผ่องใส”
“โอ๊ย ไผก็ว่าข้าน้อยมันเป็นคนบาปหนา อย่าให้ข้าน้อยเข้าวัดไปแปดเปื้อนพระศาสนาเลยเจ้าค่ะ ข้อยอยู่ตามประสาคนบาปกะจิตใจผ่องใสดีอยู่แล้ว ถ้าแม่ซีสิปลงผมสละเพศฆราวาส ข้าน้อยกะอนุโมทนาสาธุตรงนี่กะแล้วกันเด้อเจ้าคะ แล้วถ้าได้ไปสุวรรณเขตมื่อใด๋ ข้าน้อยสิไปยามดอก”
สอางก้มกราบสะอาด แล้วลุกลงเรือนไป สะอาดทอดสายตามองตามน้องสาวอย่างปล่อยปลงไม่ถือสา
คืนนั้นนางจันทร์นั่งคุยอยู่กับสอางอย่างเบิกบานยินดี
“แม่สะออนบ่ออยู่ กะเป็นโอกาสอันดีแล้วล่ะ ที่แม่เจ้าสิได้รวบหัวรวบหางบักโซ่”
“กูกะว่าอย่างนั่นล่ะ แต่ติดที่ว่านเมาในสวนเฮามันบ่อมีแล้ว ตั้งแต่ลูกน้องบักพ่อครูสมิงพันดงมันมาเผาถิ่ม ว่านยาเก่าๆ กะหายเกลี้ยง”
“สิไปเพิ่งว่านเมาเฮ็ดหยัง แม่เจ้า เสน่ห์ของแม่เจ้านั่นล่ะที่สิมัดใจบักโซ่ได้แต่กี้แต่ก่อนมันฮักมันหลงแม่เจ้าจนบ่อมืนหูมืนตา ถ้าได้ใกล้กันอีกเทือ มีบ๊อ ถ่านไฟเสน่หาสิบ่อติดบ่อลุก แม่เจ้าเซื่อมั่นเสน่ห์ของโตเองเถาะ”
สอางมีสีหน้าดีขึ้น เริ่มวาดหวังว่าทุกอย่างจะง่ายดายอย่างทุกครั้งที่เคยหว่านเสน่ห์ใส่ชายอื่น
ในขณะที่สะออนจัดเตรียมข้าวของสำหรับไปถือศีลที่วัดป่า โซ่ทองเดินมาโอบกอด
“อ้ายคงคึดฮอดเจ้าคักเลย สะออน”
“ข้อยไปบ่อโดนดอกอ้าย ฮ่วมพิธีปลงผมให้ญาเอื้อย แล้วกะถือศีลต่ออีกจักมื่อสองมื่อ”
“อ้ายหยอกเจ้าเล่นซื่อๆ ดอก เจ้าอยากอยู่โดนกว่านั่นกะได้ บ่อต้องห่วงทางนี่ดอก ไปเฮ็ดบุญให้สำบายใจ ค่อยกลับคืนมา”
“บ่อแม่นว่าข้อยกลับคืนมา แล้วสิมีแม่ญิงคนใหม่มานั่งหน้าสอนหลอนอยู่เทิงเฮือนนี่ดอกเด้อ”
โซ่ทองหัวเราะ ลูบผมเมียรัก
“ถ้าอ้ายสิมีคนอื่น กะคงมีตั้งแต่ยังบ่อทันได้เจ้าพู่นล่ะ ที่ผ่านมา เจ้าเห็นมีแม่ญิงคนใด๋มาพัวพันกับอ้ายแนล่ะ”
“กะบ่อแน่ดอก ทุกมื่อนี่ อ้ายเป็นถึงพ่อแพทย์โซ่ทอง คนที่บ่อเหลียวแลอ้าย อาจสิเปลี่ยนใจกะได้ ไผสิฮู้”
“แต่อ้ายบ่อเปลี่ยนใจจากเจ้าแน่นอน เมียอ้าย”
โซ่ทองดึงสะออนมากอด ประทับจูบที่หน้าผาก สะออนขวยเขิน แล้วหันไปจัดข้าวของต่อ
โซ่ทองเดินลงมาส่งสะออนอย่างอาลัยอาวรณ์ที่หน้าเรือน จนสะออนลับตาพ้นเรือนไป พอโซ่ทองหันกลับจะขึ้นเรือน เสากับสีแหล่ก็วิ่งมาดัก สีแหล่เรียกไว้
“พ่อแพทย์จ๋า ว่างอยู่บ่อจ้า”
โซ่ทองมองฉงน “มีหยังเอื้อย”
เสาทำเสียงร้อนรนใจ “แม่เจ้าสอางจ้ะ เพิ่นบ่อสำบาย นอนเจ็บอยู่เทิงเฮือน พ่อแพทย์ไปเบิ่งเพิ่นแน”
สอางทำเป็นไม่สบายนอนซมอยู่ในห้อง โซ่ทองเดินตามเสาสีแหล่เข้าไปดู
“แม่เจ้าอาการเป็นจั่งใด๋แหน่ เห็นเอื้อยสองคนนี้บอกว่าบ่อสำบาย
สอางเปลี่ยนท่าทีเป็นอ่อนหวาน พูดดีๆ ด้วย “ข้อยเจ็บคิง เฮี่ยวแฮงบ่อค่อยมี สงสัยสิเมื่อยล้าจากงานเผาญาแม่ พ่อแพทย์สิเอายาหยังมาให้กิน กะเอามาโลด”
“ถ้ายังบ่อฮู้ว่าป่วยเป็นหยัง ข้าน้อยกะคงจัดยาให้บ่อได้”
“ซั่นพ่อแพทย์กะตรวจข้อยแหมะ”
โซ่ทองรู้สึกแปลกๆ กับท่าทีและคำพูดคำจาของสอาง ขยับเข้าไปจับเนื้อตัวตรวจไข้อย่างเกรงใจ
เสากับสีแหล่ลอบยิ้มเผลอตัวหัวเราะคิก เพราะรู้ทันว่าสอางพยายามอ่อยหว่านเสน่ห์ใส่น้องเขย โซ่ทองได้ยินเสียงหัวเราะทั้งคู่ก็หันไปมอง แล้วได้สติ ถอยห่างออกมาจากสอางอีก
“เบิ่งแล้ว แม่เจ้าคงบ่อได้ป่วยไข้หยัง แต่อาจสิอ่อนล้า ข้าน้อยสิกลับไปเอายาอยู่เฮือนแพทย์มาให้”
โซ่ทองรีบถอยหนีออกจากห้องไปทันที สอางเซ็ง หันไปด่าสองบ่าว
“ย่อนมึงสองโตแท้ๆ เฮ็ดให้กูเสียฤกษ์ เดี๋ยวถ้าพ่อแพทย์กลับคืนมาใหม่ พวกมึงหนีเด้อ อย่ามาสะหล่อสะแหล่แถวนี่ เดี๋ยวสิถืกตีนกู ได้ยินบ่อ”
“ได้ยินเจ้าค่า ไปแล้วเจ้าค่า...”
เสากับสีแหล่รับคำ แล้วรีบคลานออกไป
โซ่ทองเดินมาจากเรือนพุทไธเทพ ด้วยสีหน้าไม่เสบยกังวลเรื่องที่สอางทำกับตน นางสายเห็นจึงถาม
“โซ่ทอง ไปไสมาลูก”
“สอางเพิ่นว่าเพิ่นป่วย เลยให้ข้อยไปเบิ่งอาการจ้ะ อีแม่”
“แล้วเพิ่นป่วยเป็นหยังล่ะลูก”
“บ่อฮู้คือกันจ้ะอีแม่”
นางสายเห็นสีหน้าท่าทางของโซ่ทองดูอึดอัดพิกล
“เจ้าขึ้นไปเฮ็ดเวียกเฮ็ดงานเทิงเฮือนแพทย์สา เดี๋ยวแม่สิไปเบิ่งสอางเอง
“จ้ะ อีแม่”
โซ่ทองเดินขึ้นเรือนไป นางสายใคร่ครวญครุ่นคิด รู้สึกทะแม่งๆ ในใจ
ด้านสะอาด พา สะออน และป้า แม่ครูคำอุ่นเข้ามากราบแม่ชีหัวหน้า
“แน่ใจแล้วบ้อลูก ว่าเจ้าปล่อยวาง ละทางโลกได้เหมิดเกลี้ยงแล้ว จึงสิมาปลงผมบวชซี”
“ข้าน้อยแน่ใจแล้วเจ้าค่ะ”
สะอาดตอบด้วยความสำรวม แม่ชีจึงถามแม่ครู
“หลานสาวผู้นี่ของท่านแม่ครูเพิ่นแน่วแน่แล้วแม่นบ่อ”
“สะอาดเพิ่นเป็นคนใฝ่ในศีลกินในธรรมมาตั้งแต่น้อย จิตใจใสสะอาดคือกันกับชื่อของเพิ่นนั่นล่ะเจ้าค่ะ ท่านแม่ซี บ่อมีอะไรให้ห่วงดอก พ่อแม่เพิ่นกะไปเหมิดแล้ว ลูกผัวกะบ่อมีให้ห่วง” แม่ครูว่า
“เจตนาของเจ้า คงบ่อได้บวชซีแค่หนีทุกข์ดอกเนาะ” แม่ชีดักคอ
“เจ้าค่ะ ท่านแม่ซี ข้าน้อยบ่อได้บวชซีแค่หนีทุกข์ แต่ต้องการบวชเพื่อพ้นทุกข์เจ้าค่ะ สมบัติในโลกทุกสิ่ง สุขและทุกข์ทุกอย่าง ข้าน้อยสละได้เหมิดแล้ว ขออุทิศลมหายใจที่เหลือในซีวิตซาตินี้ แก่พระธรรมของพระศาสดาเจ้าค่ะ”
สะออนน้ำตาไหลริน โอบกอดเอวพี่สาว สะอาดมองแม่ชีด้วยดวงตาเปี่ยมความหวังว่าจะได้บวช
แม่ชีเยื้อนยิ้ม เหมือนตระหนักชัด มองเห็นงามในจิตใจของสะอาด
แต่ละชีวิตดำเนินไปตามครรลองบุญกรรมใครมัน สะออนช่วยโกนหัวให้สะอาด ต่อจากแม่ครูคำอุ่นที่อยู่ร่วมพิธีด้วยอย่างเรียบง่าย สะอาดพนมมือปลงผมด้วยท่าทีอันสงบนิ่ง ในใจอุทิศบุญกุศลใหญ่หลวงนี้ให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งในชาตินี้และชาติปางก่อน
“ผลบุญจากเจตนาที่ใสสะอาดของผู้ข้า ในการสละทางโลกเทือนี้ ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร ที่ผู้ข้าเคยก่อกรรมล่วงเกินเทิงซาตินี่และซาติก่อน”
ภาพเหตุการณ์ในอดีตชาติของอัญญานางศรีสะอาด ที่ได้ย่ำยีบีทาต่ออัญญานางหูกคำผุดซ้อนขึ้นมาเป็นฉากๆ ในขณะที่เสียงอธิษฐานจิตของสะอาดดังเรื่อยๆ
ศรีสะอาดบุกเข้าไปรื้อคุ้มหูกคำ ขโมยผ้าซิ่นลายหงส์มาเป็นของตน
สอางเข้ามายื้อแย่งผ้าซิ่นลายหงส์จากสะอาดและสะออน แถมตบหน้าสะอาดฉาดใหญ่
สอางนุ่งซิ่นลายหงส์เข้าพิธีแต่งดองกับกำจร
ศรีสะอาดเข้าหอกับสาธุบาทเจ้าอย่างมีความสุข
สะอาดเข้าไปเห็นสอางนอนอยู่กับพ่อเจ้า ช็อก
“ขอให้บุญกุศลที่ผู้ข้าได้เคยสร้างไว้ ซ่อยส่งให้คนเหล่านั่นได้พ้นทุกข์ ไปพร้อมกันกับโตผู้ข้า อย่าได้ฮ้อนได้ไหม่ด้วยไฟโลภะ โทสะ โมหะอันเป็นบ่อเกิดของการสร้างเวรกรรมแก่กันบ่อจบบ่อสิ้นอีกเลย”
ฝ่ายสอางเดินวนเวียนกระวนกระวายรอโซ่ทองอยู่ในห้องลำพัง พอได้ยินเสียงเคาะประตูก็รีบไปเปิด
“เป็นหยังคือซ้าแท้ พ่อแพทย์” สอางชะงัก สีหน้าผิดหวัง
“บักโซ่ให้ข้าน้อยเอายาหอมมาให้แม่เจ้าเจ้าค่ะ”
นางสายยกถาดยามาวางข้างเตียง แล้วผสมยาหอมใส่น้ำ
“เดี๋ยวแม่เจ้ากินยาแล้ว กะนอนพักเด้อเจ้าค่ะ นอนซักตื่น บ่ายๆ แลงๆ คงสิฮู้สึกดีขึ้น”
สอางโมโห พูดสวนขึ้นด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “นี่พ่อแพทย์ของแม่สายรังเกียจข้อย จนบ่อคึดจะมาดูดำดูดีเลยบ้อ สิปล่อยให้ข้อยตายคาเฮือนแม่นบ่อ”
“บ่อแม่นดอกเจ้าค่ะ แต่มื่อนี่ พ่อแพทย์เวียกงานเพิ่นหลาย คนไข้มารอเอายาอยู่เฮือนแพทย์หลายคน ข้าน้อยก็เลยอาสาเอามาให้เจ้าค่ะ แม่เจ้าลองกินยาเบิ่งก่อน ถ้ายังบ่อดีขึ้น แลงๆ ข้าน้อยสิไปเอิ้นพ่อแพทย์มาให้เด้อเจ้าค่ะ”
สอางชักหน้าคตึงไม่พอใจ รู้ทันว่าโซ่ทองพยายามหลบหน้าตน
โซ่ทองเดินลงมาส่งชาวบ้านคนสุดท้ายที่มารับยาที่หน้าบันไดเรือนแพทย์
“ลองเอายาไปกินเบิ่งเด้อพ่อลุง ถ้ายาเหมิดแล้ว ยังบ่อดีขึ้น กะให้คนมาเอิ้นข้อย ข้อยสิไปตรวจให้อยู่บ้าน โซคดีจ้ะ”
โซ่ทองไหว้ลาชาวบ้าน แล้วจะขึ้นเรือน แต่เหลือบเห็นสอางเสียก่อน
“แม่เจ้า หายป่วยบ้อ”
“ดีขึ้นแล้วล่ะ” สอางแกล้งยิ้มอ่อนแสนดี “ข้อยสิมาไหว้ญาพ่อกับญาแม่พอดี ตอนบ่ายๆ ข้อยนอนหลับฝันเห็นเพิ่น”
“เซิญเลยจ้ะ”
สอางเดินสงบเสงี่ยมตามโซ่ทองขึ้นบันไดไป แล้วจู่ๆ ทำเป็นซวนเซหน้ามืดจะเป็นลม
โซ่ทองตกใจรีบเข้าประคองรับไว้ “แม่เจ้า ระวัง”
สอางทำเป็นอ่อนแรงนอนอยู่บนชานเรือนแพทย์ โซ่ทองนั่งฝนยาอยู่ใกล้ๆ
“แม่เจ้าคงยังบ่อแข็งแฮงดี บ่อน่าสิฟ่าวลงจากเฮือน กินยาก่อนจักหน่อยเด้อ”
“ยังเป็นห่วงข้อยอยู่บ้อ ข้อยว่าแม่นเจ้าซังน้ำหน้าข้อย จนบ่ออยากสนใจว่าข้อยสิเป็นตายฮ้ายดีจั่งใด๋แล้ว” สอางตัดพ้อ
“ข้าน้อยสิคึดอย่างนั่นกับแม่เจ้าได้จั่งใด๋ เฮาเป็นไทเฮือนเดียวกัน”
“เจ้ามีจิตใจประเสริฐหลายๆ พ่อแพทย์โซ่ทอง นับมื่อ ข้อยยิ่งฮู้สึกว่าโตเองมันโง่ที่มองข้ามความดีของเจ้า ไปหาพ่อซายทางอื่น ข้อยหลงผิดไปแล้วพ่อแพทย์”
สอางเปิดฉากรุกอย่างมั่นใจในเสน่ห์ตน คว้ามือโซ่ทองมากุม โซ่ทองชะงัก รู้สึกแปลกๆ
“แม่เจ้า...”
“ให้โอกาสข้อยลบล้างความผิดเก่าๆ แนได้บ่อ”
สอางโผเข้ากอดโซ่ทอง โซ่ทองตกใจไม่ทันตั้งตัว พยายามจะผลักออก
“แม่เจ้า แม่เจ้าสิเฮ็ดหยัง”
“มื่อนี่ ข้อยเห็นความดีของเจ้าแล้ว ข้อยสิตอบบุญแทนคุณเจ้า”
สอางกอดจูบโซ่ทองอย่างรุกเร้า โซ่ทองตกใจ ทำอะไรไม่ถูก ปัดป้องขืนตัวหนี
“แม่เจ้า อย่าเฮ็ดแบบนี่”
“เจ้าเคยฮักเคยหลงข้อยบ่อแม่นบ๊อ มื่อนี่ ข้อยฮู้แล้วว่าบ่อมีไผฮักข้อยส่ำเจ้า ให้ข้อยได้ซดเซยเรื่องที่ผ่านๆ มาให้เจ้าสาเด๊อ”
สอางพยามจะจูบโซ่ทอง โซ่ทองบ่ายเบี่ยงหน้าหลบหนีพัลวัน
“อย่าเฮ็ดอย่างนี่เลยแม่เจ้า ข้าน้อยบ่อได้ต้องการ อย่า”
โซ่ทองโมโห ผลักสอางออกไปจากตัวอย่างแรง แล้วลุกขึ้นหันหลังให้
“ข้าน้อยมีเมียอยู่แล้ว เรื่องเก่าๆ ที่ผ่านมา กะให้มันจบสิ้นไปสา”
สอางบอกอย่างลำพองใจและถือดี “อีสะออนมันกะแค่โตแทนของข้อย มันเทียบหยังกับข้อยได้อยู่บ้อ”
โซ่ทองฉุน หันกลับมาหา “สะออนบ่อแม่นโตแทนของใคร สะออนกะคือสะออน แม่ญิงที่ข้าน้อยฮักที่สุด และเป็นผู้เดียว ที่ข้าน้อยฮักในยามนี่ หัวใจของข้าน้อย บ่อมีทางให้แม่ญิงคนใด๋เข้ามาอีก”
“ข้อยบ่อเซื่อ คนเฮามันสิลืมความรักคราวก่อนคราวหลังได้ง่ายๆ อยู่บ้อ”
“ลืมได้แน่นอน ถ้าความฮักคราวนั่นมันสร้างความเจ็บซ้ำน้ำใจ จนบ่ออยากสิฮู้สึกหยังอีกแล้ว นั่นล่ะคือสิ่งที่ข้าน้อยฮู้สึกกับแม่เจ้า”
โซ่ทองจ้องหน้าแม่เจ้าบ่าวตั้ง พูดใส่หน้าด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา
“ข้าน้อยบ่อได้ฮัก เคียด หรือว่าซังแม่เจ้าอีกแล้ว มีแต่ความนับถือในฐานะเอื้อยของเมีย แม่เจ้าอย่าพยายามฮื้อฟื้นหยังขึ้นมาอีกเลย มันบ่อมีประโยชน์ มีแต่สิเฮ็ดทำให้ความนับถือที่ข้าน้อยมีต่อแม่เจ้ามันลดน้อยลง”
สอางเสียหน้าอย่างแรง “นี่ข้อยอุตส่าห์ลดโตลงมาเกลือกลั้วกับเจ้าแล้วเด้ โซ่ทอง”
“ก็ย่อนแม่เจ้าบ่อเหลือซาติพญาหงส์สูงศักดิ์โตใด๋ให้เกลือกกลั้วแล้ว”
โซ่ทองพูดใส่หน้าจังๆ อย่างรู้เท่าทัน สอางหน้าม้าน โกรธจนตัวสั่น
“แต่กะอย่างที่แม่เจ้าเคยเว้าฝังหัวข้าน้อยไว้ ข้าน้อยมันซาติเซื้ออีกาหน้าดำ ต่ำต้อยด้อยวาสนา อย่าได้ลดโตลงมาเกลือกกลั้วให้เสื่อมเสียเกียรติเลย”
“บักหน้าโง่ ซั่น มึงกะเกลือกกลั้วกับซาติเซื้อนกกระจอกอย่างอีสะออนไปซะ กูสิคอยเบิ่งว่า มึงสิไปได้จักน้ำ มื่อใด๋ที่มึงตกต่ำ เหมิดอำนาจวาสนา อย่าได้คลานมากราบตีนกูกะแล้วกัน มีแต่กูสิเหยียบหัวกบาลมึงนั่นล่ะ บักซาติอีกา”
สอางลุกพรวดกระแทกเท้าปังๆ ลงจากเรือนไปด้วยความแค้น โซ่ทองถอนใจเฮือกใหญ่ที่รอดมาได้
สอางเดินปึงปังเข้าห้องมา นึกถึงการถูกโซ่ทองปฏิเสธแล้วก็ยิ่งแค้นใจ ทั้งโกรธทั้งเสียหน้า
“บักโซ่ทอง มึงเห็นเพชรอยู่ตรงหน้า ยังสิหลงใหลขี้ดินหินแห่ คนหน้ามืดตาบอดอย่างมึง ได้อีสะออนเป็นเมียกะสมควรแล้ว”
สอางหงุดหงิด หันไปคว้าไหเหล้าข้างเตียงมาดื่มอักๆ แก้กลุ้ม
“แล้วมึงสิต้องเสียใจ ที่บ่อเลือกนางพญาหงส์อย่างกู”
สอางดื่มเหล้าเข้าไปอึกใหญ่ เมาหลับไปตอนไหนไม่รู้
ฝ่ายแม่ชีสะอาดนั่งสมาธิอยู่กับสะออนที่วัดป่า เห็นภาพอดีตในนิมิตแล้วรู้สึกกระสับกระส่าย จนสะดุ้งหลุดจากภวังค์
“แม่ซี เป็นหยังไปเจ้าคะ”
“เอื้อย... เอื้อยเห็น...”
แม่ชีสะอาดนิ่งคิดทบทวน คล้ายลังเล สุดท้ายตัดสินใจเล่าให้น้องฟัง
“เอื้อยเห็นภาพในนิมิต”
“ภาพในนิมิต นิมิตเกี่ยวกับหยังเจ้าคะ”
สะอาดน้ำตาไหลเอ่อคลอ ลังเลว่าจะเล่าต่อไหม
“แม่ซีเว้าสู่ข้าน้อยฟัง ให้ข้าน้อยได้พลอยตาสว่างนำแนเจ้าค่ะ”
“อดีตซาติของพวกเฮาน่ะ สะออน เรื่องกรรมเก่าของเฮาเทิงสามพี่น้อง และญาพ่อญาแม่ของเฮา”
แม่ชีนิ่งคิดทบทวน
“พ่อแม่พี่น้อง พวกเฮาทุกคน ได้เคยมีบุญทำกรรมแต่งแต่ซาติเก่าชาติหลังมานำกัน เทิงความรัก ความแค้น บุญและบาปที่เฮ็ดฮ่วมกันมา จิตจึงพัวพัน ตามมาเกิดฮ่วมกัน มาใซ้บุญใซ้กรรมนำกันอย่างที่เป็นอยู่ในซาตินี้”
สะออนสงสัยใคร่รู้ “แม่ซีเว้าสู่ข้าน้อยฟังแนได้บ่อเจ้าคะ ว่าเฮาเกี่ยวข้องกันจั่งใด๋”
เหตุการณ์ในอดีตชาติ เรื่องราวที่ผูกพันข้องเกี่ยวกับผ้าซิ่นลายหงส์ของหูกคำ ผุดขึ้นตามคำบอกเล่าของแม่ชีสะอาดราวกับสายน้ำไหล
ทองจันทร์เอาหูกคำไปทิ้งที่สวนหม่อน แม่ไอ่แอบมาช่วยไว้เก็บเอาไปเลี้ยง
ทองจันทร์ทำเสน่ห์มนต์ดำใส่อัญญาหลวง มหาเทวีเข้ามาเห็นสั่งทหารจับตัวไป
สุดท้ายทองจันทร์ถูกสั่งประหารชีวิต
เวลาเดียวกัน นางจันทร์นอนกระสับกระส่ายเหมือนฝันร้ายอยู่ในห้องนอนบนเรือนพุทไธเทพ เห็นภาพนิมิตตัวเองถูกสั่งประหาร และก่อนตายได้กล่าวคำสาปแช่งมหาเทวีคำอ่อนเอาไว้
“อีคำอ่อน อีแม่ญิงอำมหิต มึงมันเป็นมารหัวใจกู มึงสิต้องซดไซ้เวรด้วยซีวิตมึง”
สิ้นคำสาป เพชฌฆาตก็ก้าวเท้าเข้ามาเงื้อดาบฟันฉับ ตามด้วยเสียงกรีดร้องปานใจจะขาดของหูกคำ
นางจันทร์สะดุ้งตื่นขึ้นมา ใจหายใจคว่ำกับภาพในฝัน พอตั้งสติให้สงบลง ก็ลุกขึ้นออกจากห้องมาหาน้ำกินที่นอกชาน แต่ได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากห้องพระ
นางจันทร์เปิดประตูผ่างเข้าไป เห็นสมิงพันดงกับลูกน้องคนสนิทกำลังช่วยกันโกยพระพุทธรูปและของมีค่าในห้อง
“บักห่าสมิงพันดง มึงเฮ็ดหยัง บักพากมึง”
สมิงพันดงหันมาหาโดยไม่สะทกสะท้าน “ในเมื่อกูขอส่วนแบ่งดีๆ แล้วมึงบ่อให้ กูกะสิเลือกเอาตามใจกูแบบนี่ล่ะโว้ย สู หอบไปให้เหมิด”
“ซุมสารเลว นี่มันพระพุทธรูปของพ่อกู กูบ่อให้ เอาคืนมา”
นางจันทร์ถลันเข้าไปยื้อแย่งข้าวของคืน
“ฮ่วย อีนี่”
สมิงชั่วโมโหที่ถูกขัดจังหวะโบกมือปัดป้อง จนวาดแขนไปโดนโถกระดูกพ่อแพทย์จันทกุมาร โถหล่นมาแตกกระจาย นางจันทร์ตกใจ
“กระดูกพ่อกู มึง บักห่าซาติหมา”
นางจันทร์โผนเข้าใส่สมิงกับลูกน้องด้วยความแค้น จิกหูจิกตา สมิงกับลูกน้องร้องลั่น
“อีบ้านี่ กูเจ็บเด้ เอ๊อะ”
สมิงชั่วบันดาลโทสะ ควักมีดจ้วงแทงใส่ท้องอย่างแรง แล้วผลักร่างนางจันทร์กระเด็นไป หัวกระแทกเข้าไปกับเศษโถที่หล่นแตกหงายคมขึ้นมาพอดี เลือดไหลนอง ตาเบิกค้าง ตายคาที่ สมิงพันดงกับลูกน้องช็อก ไม่ตั้งใจให้ถึงตาย
ลูกน้องทรุดลงอังจมูกดู “มันตายแล้วพ่อครู”
“ซ่างแม่มัน เก็บพระกับเครื่องเงินเครื่องทองไปให้เหมิด แล้วเผาเฮือนนี่ถิ่ม อย่าให้เหลือหลักฐาน”
ลูกน้องกับสมิงช่วยกันโกยข้าวของจนเสร็จ ลูกน้องจุดไฟที่เชิงทียนแล้วโยนลงไปบนตัวนางงอ ไฟติดที่เสื้อผ้านางงอที่นอนแน่นิ่ง ก่อนที่ทั้งสองคนจะพากันลงเรือนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนที่วัดป่า แม่ชีสะอาด พา สะออนดำดิ่งสู่อดีตชาติ เห็นภาพเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ
หูกคำฝึกฝนทอผ้ากับแม่ไอ่
หูกคำเอายามาให้ราชบุตรรักษาตัว แต่ราชบุตรปฏิเสธน้ำใจโยนทิ้งโดยไม่ไยดี
ราชบุตรได้พบกับสีออนหลงใหล
หูกคำทอผ้าได้เป็นซิ่นลายหงส์
ศรีสะอาดพาอัญญาหลวงมาชิงไป
หูกคำถูกจับขังคุก ศรีสะอาดาเอาผ้าซิ่นที่หลอกเอามาจากแม่ไอ่มาเย้ย
เพียคำจันมาช่วยหูกคำพาหนี แต่ไปไม่รอดโดนทหารล้อมฆ่าตาย เพียคำจันอธิษฐานจิตให้ได้ครองคู่กับหูกคำในชาติภพใหม่ หูกคำถูกจับตัวไปนำตัวมาที่ลานประหารริมน้ำโขง
หูกคำตะโกน สาปแช่งทุกคนก่อนโดนตัดหัว รองเลือดไว้ย้อมผ้าซิ่น
สะออนฟังเรื่องราวที่สะอาดเล่าด้วยสีหน้าตื่นตกใจ เสียใจจนน้ำตาคลอ
“เป็นย่อนเหตุนี่นิ่เอง ญาเอื้อยสอางกับแม่จันทร์เพิ่นจึงได้เคียดซังพวกเฮา”
“แฮงอธิษฐานของสอางในซาติเก่าซาติหลังนั้นฮ้ายแฮงหลาย ย่อนว่าเพิ่นถืกยาดแย่งของฮักไปอย่างอยุติธรรม พอเอื้อยได้เห็นภาพเทิงเหมิดแล้ว จึงได้เข้าใจสิ่งที่เพิ่นเป็นในมื่อนี่ เจ้าเองก็จงอย่าเคียดซังสอางเพิ่นเลย น้องหล่า คึดสาว่าความทุกข์อันใด๋ ที่ได้ฮับจากเพิ่น มันก็คือผลกรรมที่เฮาต้องชดใช้”
“ข้าน้อยบ่อเคยเคียดซังญาเอื้อยเพิ่นดอกเจ้าค่ะ ข้าน้อยคึดเสมอว่าจั่งใด๋เฮากะเป็นพี่น้องฮ่วมสายเลือดเดียวกัน แต่บาปเวรที่เพิ่นทำกับเฮาในซาตินี่ล่ะเจ้าคะ แม่ซี มันสิบ่อเป็นกรรมใหม่ของเพิ่นบ้อเจ้าคะ”
สะอาดพยักหน้ารับอย่างสลดใจ
“กรรมที่สอางสร้างไว้ ย่อมต้องเวียนมานำสนองเพิ่นแน่นอน คือล้อเกวียนหมุนตามฮอยตีนงัว เมื่อเพิ่นสร้างกรรมขึ้นใหม่ ก็ต้องตามซดใซ้ต่อไปเรื่อยๆ บ่อสุดบ่อสิ้น ตราบใดที่ยังเวียนว่ายอยู่ในห้วงวัฎสงสาร”
“แล้วอย่างนี่ ซีวิตญาเอื้อยสอางสิเป็นจั่งใด๋เจ้าคะ”
“เอื้อยตอบบ่อได้ดอก น้องหล่า”
สะอาดตอบสีหน้าเศร้าอย่างปล่อยปลง รู้ดีว่ายังไงเสียในบั้นปลายชีวิตของสอางก็คงจบลงไม่ดีแน่
ฝ่ายสอางนอนหลับสนิทเพราะความเมา สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะแสบจมูก เมื่อมองไปเห็นควันลอยเข้ามาเต็มห้อง จนเข้าปากเข้าจมูกไปหมด สอางกระแอมกระไอสำลักควัน สีหน้างุนงงในเบื้องแรก จนกลายเป็นตื่นตระหนกตกใจ
“อีหยังนี่”
สอางมองซ้ายแลขวาแล้ววิ่งออกไปที่นอกชาน พบว่าไฟลุกลามโหมไหม้อย่างรุนแรงไปทั่วเรือนแล้ว สอางกรีดร้องด้วยความตกใจ
“ซ่อยแน้... ซ่อยกูแน้”
สอางมองไปรอบๆ เห็นแต่ควันไฟเต็มไปหมด พร้อมกับเสียงครืนๆ เหมือนเรือนจะพังลงในไม่ช้าไม่นานนี้ แต่พอหันกลับไปในห้องก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้
“ผ้าซิ่น ซิ่นลายหงส์ของกู”
สอางวิ่งลนลานกลับเข้าห้องไป
ด้านโซ่ทองกับนางสายวิ่งหน้าตาตื่นมาหน้าเรือนพุทไธเทพ เห็นไฟลุกโชนน่ากลัว พวกบ่าวกำลังช่วยกันตักน้ำขึ้นไปดับไฟ
“เกิดหยังขึ้น ไฟไหม้ได้จั่งใด๋”
เสาร้อนรนใจ “บ่อฮู้จ้ะ แต่พ่อแพทย์ซ่อยแม่เจ้าแน้ แม่เจ้ากับญาแม่จันทร์ยังติดอยู่ในนั่น”
โซ่ทองมองขึ้นไปบนเรือนที่ไฟลุกโชนอย่างตัดสินใจเด็ดขาด นางสายเงอะงะไม่อยากให้ลูกเสี่ยงชีวิต
สอางอยู่ในห้อง ลนลานรื้อค้นซิ่นลายหงส์จากหีบต่างๆ พึมพำเหมือนคนสติแตก
“ผ้าซิ่นลายหงส์กูอยู่ไส ซิ่นกูอยู่ไส”
สอางค้นทางนั้นทางนี้ หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ขณะที่ไฟเริ่มลามติดเข้ามาในห้อง
ด้านโซ่ทองมองดูไฟที่โหมลามไปทั่วเรือนนึกเป็นห่วงสอาง ยังไงก็ยังมีความนับถือกัน ที่สำคัญเป็นพี่เมียรัก
“เอื้อย เอาผ้าห่มผืนใหญ่ซุบน้ำ มาให้ข้อยแน”
เสากับสีแหล่วิ่งหายไปหาผ้าห่มจุ่มน้ำมาให้ โซ่ทองเอามาห่มคลุมตัวแล้ววิ่งขึ้นไป
นางสายตะโกนอย่างเป็นห่วง “โซ่ทอง ระวังเด้อลูก”
โซ่ทองวิ่งขึ้นมาบนเรือน เอามือปิดปากอุดควันไม่ให้เข้า ยินเสียงไม้ลั่นดังเปรี๊ยะๆ เหมือนจะถล่มลงมาในไม่ช้านี้
“แม่เจ้า”
สอางไม่ได้ยินเสียงเรียกใดๆ เพราะมัวแต่ค้นหาผ้าซิ่นอย่างบ้าคลั่ง ไฟเริ่มลามเลียไปทั่วห้อง
สอางเปิดหีบสุดท้ายออกมาเห็นผ้าซิ่นในนั้น กรีดร้องออกมาด้วยความดีใจ คว้าผ้าซิ่นมากอดแนบอก
“ซิ่นลายหงส์ของกู”
สอางกอดสิ้นลายหงส์อย่างหวงแหนแสนรัก แล้วเหมือนเพิ่งได้สติ มองไปรอบๆ ตัว เห็นไฟโหมไหม้ไปทั่วห้อง ร้องกรี๊ดๆๆ ตะกายหนีตาย
“อ๊าย ไป อย่ามาต้องซิ่นของกูเด้อ ไป๊”
สอางกอดผ้าซิ่นแน่น วิ่งฝ่าควันไฟออกไปหาทางออก ยินเสียงไม้คานห้องลั่นเปรี๊ยะที่เหนือหัว สอางเงยหน้าขึ้นมอง เห็นไม้คานที่ติดไฟอย่างแรงหล่นลงมาใส่ สอางกรี๊ดสุดเสียงก่อนทุกอย่างจะดับวูบลง
รุ่งเช้า บริเวณหน้าเรือนพุทไธเทพวุ่นวายไปด้วยผู้คนที่ช่วยกันขนข้าวของที่ไม่เสียหายลงมาตั้งรวมๆ กันไว้
สะออนกลับมาถึงบ้านรู้ข่าวร้ายว่าไฟไหม้เรือน รีบรุดมาดูเห็นโซ่ทอง นางสายและบ่าว ช่วยกันวุ่นวาย เหงื่อโทรมกายกันไปทุกคน
“อ้ายโซ่ แม่สาย”
โซ่ทองหันไปเห็นสะออนอ้าแขนรับ
“อ้ายบ่อเป็นหยังแม่นบ่อ ข้อยได้ข่าวกะฟ่าวมาเลย ใจคอบ่อดี”
“อ้ายกับแม่บ่อเป็นหยังดอก”
“เกิดหยังขึ้น ไฟไหม้ได้จั่งใด๋”
“บ่อฮู้คือกันจ้ะ แม่สะออน แต่ไฟมันลามมาจากห้องพระ แม่จันทร์กะถืกไฟคลอกตายอยู่ในห้องนั่น” สายบอก
สะออนช็อก ใจหายวาบ “หา...แล้วญาเอื้อยล่ะ”
โซ่ทองกับนางสายทำหน้าอึกอัก พูดไม่ออกบอกไม่ถูก
ยินเสียงร้องเอะอะโวยวายของสอางดังมาจากบนเรือนนางสาย มีเสากับสีแหล่คอยปลอบ
“หนี อย่ามายุ่งกับซิ่นลายหงส์ของกู ออกไป๊”
“บ่อยุ่งเจ้าค่ะ พวกข้าน้อยบ่อยุ่งแล้วเจ้าค่ะ” สีแหล่
สอางขว้างปาข้าวของใส่ เสากับสีแหล่วิ่งหลบจ้าละหวั่น โซ่ทองกับสะออนขึ้นเรือนมาพอดี
สะออนมองช็อกๆ “ญาเอื้อย”
ภาพที่เห็นเป็นสอางยืนกอดผ้าซิ่นลายหงส์อยู่ตรงมุมห้องติดฝาเรือน ใบหน้ามอมแมมไปด้วยคราบเขม่าควันไฟ ผมแหว่งวิ่นกระเซอะกระเซิง มีผ้าพันที่หัวและแขน เป็นแผลที่ถูกคานหล่นทับนั่นเอง
สายตาสอางที่มองมายังสะออน เหมือนเห็นคนแปลกหน้า ชี้หน้าด่ากราด
“หนี พวกมึงอย่ามาเอาผ้าซิ่นของกูไป นี่มันซิ่นของนางพญาหงส์ มึงบ่อมีสิทธิ์”
สอางกอดผ้าซิ่นวิ่งหนีไปซุกหน้าหลบตามมุม ด้วยท่าทางหวาดกลัว โซ่ทองกลุ้มหนัก
“แม่เจ้าสอางห่วงแต่ผ้าซิ่นลายหงส์เลยบ่อยอมหนีออกมาตั้งแต่ไฟยังบ่อลาม พออ้ายลุยไฟขึ้นไปซ่อยได้ กะเห็นเพิ่นถืกไม้ติดไฟหล่นทับอยู่ คงสิผวาจนเสียขวัญฟื้นขึ้นมากะเลยเป็นแบบนี่”
“โอ๊ยน้อ... ญาเอื้อย”
สะออนน้ำตาซึมเดินเข้าไปหา สอางยังคงก้มหน้างุด ปากบ่นพึมพำกอดผ้าซิ่นไว้แน่น
“อย่ามาเอาซิ่นกูไป กูบ่อให้ ซิ่นลายหงส์ของกู”
“ญาเอื้อย นี่ข้าน้อยเองเด้อ”
สะออนยื่นมือจะจับตัว แต่สอางร้องกรี๊ด วิ่งหนีไปอีกด้าน
“หนี ซิ่นของกู กูบ่อให้ ไป๊”
สอางวิ่งไปซุกตัวด้วยท่าทางหวาดกลัวสุดขีด สมองไม่รับรู้อะไรอีกนอกจากซิ่นลายหงส์ในมือ
สะออนมองสภาพพี่สาวแล้วถึงกับทรุดลงนั่งร้องไห้กับอกของโซ่ทองด้วยความเวทนาสงสาร และได้รู้คำตอบที่เฝ้าถามสะอาดแล้วว่า นี่เองคือจุดสิ้นสุดของการสร้างเวรกรรมของสอางหรืออัญญานางหูกคำ
วันเวลาล่วงเลยไปอีก 10 ปี
ถึงวันงานบุญเดือนห้าประเพณีมหาสงกรานต์ พ่อแพทย์โซ่ทองและญาแม่สะออนพาลูกชายหญิงหน้าตาน่าเอ็นดูสองคน พร้อมแม่สาย กับเภา มารดน้ำดำหัวแม่ครูคำอุ่นที่บ้านท่าน
พระพุทธรูปเก่าๆ วางอยู่บนโต๊ะบูชาเบื้องหน้าทุกคน มีโถกระดูกของพ่อแพทย์จันทกุมาร พ่อแพทย์พุทไธ และญาแม่คำอ่อน วางอยู่ด้วยกัน โซ่ทองและสะออน ค่อยๆ ใช้น้ำอบขมิ้นลอยดอกไม้ค่อยๆ สรงบนองค์พระพุทธรูป
“คนที่ระลึกถึงคุณพ่อแม่ คุณครูบาอาจารย์ ผู้ซุบเลี้ยงส่งเสริม และเจ้าบุญนายคุณ ด้วยความกตัญญูฮู้คุณ ย่อมมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง” แม่ครูอวยชัยให้พรลูกหลาน
สองมือของโซ่ทองและสะออนใช้ขันน้อยตักน้ำอบดอกไม้รินรดมือแม่ครูคำอุ่ม
“บุญเดือนห้า สงกรานต์ ขึ้นสังขารปีใหม่ปีนี่ ข้าน้อยเทิงสองผัวเมีย ขอสมมาบูซาพระคุณครูบาอาจารย์ คุณบิดามารดา และขอสรงน้ำดำหัวท่านแม่ครูให้อยู่ดีมีแฮง เด๊อ”
“จ้า ความเจ็บอย่าให้ได้ ความไข้อย่าให้มีเด้อ พ่อแพทย์เอ๊ย”
“แม่ป้ากะส่ำว่าเป็นแม่ของข้าน้อย ข้าน้อยดีใจ สิบปีผ่านไปแล้ว แม่ป้ากะยังแข็งแฮงดี ขอให้แม่ป้าอยู่ดีมีแฮง เป็นฮ่มโพฮ่มไทรของลูกหลานไปโดนๆ เด้อ” สะออนบอกลูกทั้งสอง “กราบแม่ใหญ่สาลูก”
ลูกๆ สะออนพนมือกราบแม่ครูอย่างนอบน้อม แม่ครูเอ็นดู เอาน้ำลูบผมหลาน
“ขอบใจหลาย ขอให้เจริญๆเด้อลูกหลานเอ๊ย ผู้สักการะผู้อื่นนั่น ย่อมได้รับการสักการะตลอดกาล”
เสร็จพิธี เด็กๆ พากันออกไปเล่นกับเภาที่ชานเรือน ผู้ใหญ่พูดคุยไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันตามประสา
“แล้วงานการเป็นจั่งใด๋บ้าง พ่อแพทย์ ได้ข่าวว่าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่ ขอให้ซ่อยเวียกงานแม่นบ่อ” แม่ครูถามถึงศรีธาราที่เวลานี้ขึ้นเป็นพ่อเมืองคนใหม่แทนพ่อเจ้าขัตติยะฯ แล้ว
“จ้ะ ท่านซายศรีธารากับท่านหญิงสะหวีวิไลวัน อยากพัฒนาความฮู้ทางการแพทย์แผนโบราณให้ไทเมืองอีสานบุรี สิได้ซ่อยเหลือโตเองได้ บ่อต้องไปหลงเซื่อพวกพ่อมดหมอผี ข้าน้อยกับสะออนกะเลยต้องไปตามหมู่บ้านๆ กับเพิ่น” โซ่ทองว่า
“ดีแล้วล่ะลูก การให้ความฮู้กะนับว่าเป็นการทำทานอย่างนึง พ่อเจ้าเพิ่นได้เห็นเพิ่นกะคงสิดีใจที่บ้านเมืองเฮากำลังเจริญ ที่ลูกชายเพิ่นกับพวกเจ้าโฮมแฮงโฮมใจกัน”
“พวกข้าน้อย กะสิซ่อยเหลือเวียกงานราชการของเพิ่น ให้สุดความพยายามจ้ะ” สะออนบอก
“พวกเจ้าก้าวหน้าใหญ่โต ท่านแม่ซีเพิ่นกะสุขสงบในสายบุญสายธรรม ป้าดีใจแทนพ่อแม่ของเจ้า ห่วงกะแต่สอาง จั่งใด๋กะฝากเบิ่งมันนำ อย่าทอดอย่าถิ่มมันเด้อ หล่าเอ้ย”
ใบหน้าแม่ครูที่แก่ชราลงตามวัยวัน เศร้าหมองลงถนัดตาเมื่อนึกถึงสอาง
บ่ายวันเดียวกัน
เด็กชายอังกูรวัย 10 ขวบ แต่งกายอย่างผู้ดีสมเกียรติหน่อเนื้อพ่อเจ้าขัตติยะฯ เดินเล่นตามแมลงปอที่บินไปมาอยู่ในสวนสวยวังอินทนิล
“แมงกำโซ่น้อย เจ้าจะบินไปไหน มาเล่นเป็นเพื่อนอังกูรหน่อย แมงกำโซ่น้อย”
สอางเวลานี้กลายเป็นบ้า เดินโซซัดโซเซผ่านมา สภาพผมเผ้ารุงรัง มีแผลเป็นที่หน้า นุ่งซิ่นลายหงส์ผืนเก่าๆ เนื้อตัวกะด่างกะดำมอมแมม เห็นเด็กชายแต่งตัวดีก็สนใจอยากเข้าไปเสวนาด้วย
อังกูรหันมาเห็น มองฉงนด้วยสีหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นสอางส่งยิ้มมาให้
“แม่ป้า... แม่ป้าเป็นใครหรือครับ มาจากไหน”
สอางยิ้มชอบใจ “ข้อยเป็นนางพญาหงส์ ข้อยมาจากเมืองสวรรค์ชั้นฟ้าพู่นล่ะ ท่านท้าวน้อยกะมีเซื้อสายพญาหงส์แม่นบ่อ ถึงแต่งโตงามโก้แบบนี่”
อังกูรมองขึ้นไปบนฟ้าแล้วทำหน้างงๆ
“เดี๋ยวข้อยกะสิบินกลับสวรรค์แล้วล่ะ เจ้าสิบินไปนำข้อยบ่อ” สอางหัวเราะร่วน
เจ้าดาราไลเห็นท่าทางจะไม่ดีเลยเดินมาดูว่าอังกูรพูดอยู่กับใคร
“อังกูรลูก เฮ็ดหยังอยู่”
ดาราไหลเดินเข้ามาแล้วต้องชะงัก อังกูรหันมาพูดแบบซื่อๆ
“ท่านแม่ครับ อังกูรกำลังพูดกับนางพญาหงส์ครับ ท่านมาจากสวรรค์ชั้นฟ้า”
ดาราไลพึมพำเบาๆ “แม่เจ้าสอาง...”
สอางมองดาราไลที่แต่งตัวสวยงาม แล้วยิ้มหวานให้ แต่จำไม่ได้
“นี่กะคงเป็นนางพญาหงส์คือกันเนาะ ง้าม...งาม”
สอางเดินเข้าใกล้ดาราไล ดาราไลชะงักถอยหนีอย่างระแวงเมื่อสอางยื่นมือมา แต่สอางกลับยื่นมือมาแตะที่ปิ่นปักผม แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“สงสัยแม่ป้าจะชอบปิ่นปักผมท่านแม่” เด็กน้อยยิ้ม
ดาราไลชะงักมอง เห็นสอางลูบๆ คลำๆ ก็ยิ้มถาม
“อยากได้ปิ่นบ้อ อังกูร ถอดปิ่นปักผมแม่ไปให้เพิ่นแหน่ลูก”
“ครับ ท่านแม่”
สอางดีใจมาก อังกูรค่อยๆถอดปิ่นออกจากมวยผมเจ้าดาราไล แล้วยื่นให้สอาง
“งามหลาย... ปิ่นทองคำ” สอางตะลึงมองอย่างหลงใหลหันมายิ้มให้ลูกและดาราไล “ปิ่นทองคำของนางพญาหงส์”
สอางมองปิ่นอย่างถูกใจ แล้วนึกอะไรได้ เด็ดดอกไม้ใกล้มือ ส่งให้อังกูรเป็นการตอบแทน
“ข้อยให้”
อังกูรงงๆ จะเอื้อมมือรับ แต่ดาราไลแตะแขน
“ไหว้ขอบใจเพิ่นแหมะลูก”
อังกูรยกมือไหว้สอาง แล้วรับดอกไม้มาถือไว้ สอางหันไปเล่นห่อกับปิ่นปักผมต่อ
“ข้อยสิเอาไปอวดญาเอื้อย ข้อยได้ปิ่นทองคำ ง้าม...งาม ญาเอื้อยต้องย่องยอว่าข้อยงาม ข้อยเป็นนางพญาหงส์ นางพญาหงส์ผู้สูงศักดิ์แห่งเมืองอีสานบุรี ข้อยสิไปหาญาเอื้อย...”
สอางได้ปินปักผมแล้วพร่ำเพ้อ เดินออกไปด้วยความตื่นเต้นดีอกดีใจ
ดาราไลมองดูด้วยแววตาเวทนา สังเวชใจและอโหสิกรรม กอดอังกูรไว้แนบกาย อังกูรและดาราไลมองดูสอางเดินไปลับตา
สอางผมเผ้าหลุดลุ่ยยาวสยายกระเซอะกระเซิง เดินมาตามทางเกวียน ด้วยจิตใจแน่วนิ่งตามสติที่หลงเหลือ จะพาตัวเองไปหาแม่ชีสะอาดที่จำวัดอยู่ที่วัดป่า
“ญาเอื้อย มาเบิ่งปิ่นทองคำของข้าน้อย ง้าม...งาม ปิ่นทองคำของนางพญาหงส์ แม่เจ้าสอาง ซายาเจ้าเมืองอีสานบุรีผู้สูงศักดิ์ นุ่งซิ่นลายหงส์ ญาเอื้อย มาเบิ่งเร็วว่าข้าน้อยงามหลายปานใด๋ ข้าน้อยนุ่งซิ่นลายหงส์ ปักปิ่นทองคำ”
เดินมานานสองนาน สอางมีท่าทีอิดโรย ทรุดโทรม ผมเผ้ารุงรัง มอซอ กายมอมแมมด้วยฝุ่นดิน สิ้นคราบนางพญาหงส์ผู้งามสง่า
“ญาเอื้อยอยู่ไส ข้าน้อยคึดฮอดญาเอื้อย บ่อมีไผฮักข้าน้อยส่ำญาเอื้อยเลยจักคน ข้าน้อยคึดฮอดญาเอื้อย... ญาเอื้อยมาเบิ่งปิ่นทองคำ ง้าม...งาม...ปิ่นทองคำกับซิ่นลายหงส์ ของนางพญาหงส์”
สอางเดินโซซัดโซเซจนหลงทาง ล้มลงคลุกดินมองไปรอบๆ อย่างอ้างว้างวังเวงใจ
พลบค่ำ เครื่องบินหน่วยลาดตระเวนบินผ่านส่องไฟลงมายังพื้นดิน สอางเห็นเข้าใจว่าเป็นพญาหงส์ ดีใจยกใหญ่รีบวิ่งตามไป
“พญาหงส์ พญาหงส์มาฮับเอาข้อยแน้ มาเอาข้อยไปอยู่สวรรค์ซั้นฟ้านำแน”
สอางวิ่งตามเสียงเครื่องบินไป
“พญาหงส์ มาฮับเอานางพญาหงส์แน้ นางพญาหงส์มีปิ่นทองคำ นุ่งซิ่นลายหงส์ ง้าม...งาม พญาหงส์มาพาข้อยบินไปสวรรค์นำแน”
สอางเร่งฝีก้าววิ่งตาม จนเหยียบชายผ้าซิ่นลายหงส์ ล้มลงหัวฟาดกระแทกอย่างแรงกับก้อนหินริมทาง นอนหงายหน้ามองดูเครื่องบินที่บินผ่านไป แสงไฟลาดตระเวนสาดต้องใบหน้า เห็นเลือดอาบไหลออกจากจมูก
“พญาหงส์ มาฮับเอานางพญาหงส์ไปสวรรค์แน...”
สอางนอนคลุกฝุ่นดินสภาพมอมแมมสิ้นลายนางพญาหงส์ ค่อยๆ หมดลมหายใจลงอย่างเดียวดาย
หลายวันต่อมา โซ่ทองพายเรือลอยลำอยู่กลางลำน้ำชี มีสะออนนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ด้วยกันบนเรือ ทั้งคู่สวมชุดสีดำไว้ทุกข์ เมื่อถึงกลางลำน้ำ โซ่ทองหยุดพาย สะออน ค่อยๆ หยิบโถกระดูกของสอางขึ้นมาประคอง ห่อโถกระดูกสอางด้วยผ้าซิ่นลายหงส์กระดำกระด่าง สะอื้นไห้รำพันบอกพี่สาวด้วยน้ำตาเต็มตา
“ซิ่นลายหงส์ผืนนี่ ญาเอื้อยฮักคักฮักแน่ ฮักจนหน้ามืดตามัว ฮักจนยอมทำลายทุกอย่างเพื่อมัน ทำลายแม้แต่พ่อแม่พี่น้อง ทำลายแม้แต่โตเอง ถ้าญาเอื้อยฮักมันหลายปานนี่ ข้าน้อยกะขอให้ญาเอื้อยได้อยู่กับมันตลอดไป”
สะออนค่อยๆ หย่อนซิ่นลายหงส์ห่อเถ้ากระดูกสอางถ่วงลงไปในแม่น้ำชี ซิ่นสวยลอยหายไปในความมืดมิดใต้ผืนน้ำ
นับจากนั้น ก็ไม่มีใครได้พบเห็นผ้าซิ่นลายหงส์อีกเลย จวบจนวันนี้
จบบริบูรณ์
เตรียมอ่านนิยายบท “ดงผู้ดี” เร็วๆ นี้