ซิ่นลายหงส์ ตอนที่19 พ่อแพทย์ทำพิธียกยอโซ่ทองเป็นแพทย์หลวง
บทประพันธ์ : ณไทย ภัทรกวีกานท์ บทโทรทัศน์ : ปริศนา / ณไทย ภัทรกวีกานท์
พิธียกอ้อยอครูที่พ่อแพทย์จันทกุมารจัดขึ้นครั้งนี้ ยิ่งใหญ่กว่าครั้งไหนๆ ของเมืองอีสานบุรี เพราะพ่อแพทย์ต้องการยกย่องพุทไธให้ชาวบ้านรับรู้ พร้อมกับประกาศตั้งชื่อเรือนที่สร้างให้ใหม่นี้ให้ว่าเรือนพุทไธเทพ
ไม่เท่านั้นยังถือเป็นการบอกกล่าวบรรดาไทบ้านกลายๆ เรื่องที่จะให้พุทไธกับจันทร์ได้ครองเรือนร่วมกัน ขณะที่พุทไธตกอยู่ในสภาพน้ำท่วมปากพูดไม่ออก ได้แต่มองคำอ่อนอย่างเศร้าสร้อย
พ่อแพทย์จันทกุมารและพุทไธสวมใส่ชุดพราหมณ์ขาว พ่อแพทย์นั่งบนที่สูงกว่า หน้าเครื่องไหว้เทพ พุทไธนั่งพนมมืออยู่บนพื้น มีพานบายศรี ฝ้ายขาว ชาวบ้านห้อมล้อมเป็นสักขีพยาน ในรัศมีบายศรี มีจันทร์ และคำอ่อนนั่งกันคนละทาง มีนางสาย ทิดทอง พ่อแม่ของโซ่ทอง และญาแม่บัวภามารดาของพุทไธนั่งร่วมพิธีอยู่
“สาธุ สาธุ พุทธรัตนัง ธัมมะรัตนัง สังฆรัตนัง ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อสรรวันดี วันดิถีอมุตโชค โตกนี้แม่นโตกไม้จันทน์ ขันนี้แม่นขันไม้แก้ว ตกแต่งแล้วจั่งยกยอมา”
เสียงพ่อแพทย์พูดคำบูชานำพิธี พุทไธยกขันใส่เครื่องไหว้ ธูปเทียนดอกไม้ ฝ้ายขาว ขึ้นอธิษฐาน และยื่นให้พ่อแพทย์เพื่อไหว้ครู
“มื้อนี่ เป็นมื้อสรรวันดี พี่น้องไทบ้านหมู่เฮาได้มาตุ้มโฮมเป็นสักขีพยานว่า ข้อย พ่อแพทย์จันทกุมาร แพทย์หลวงประจำองค์พ่อเจ้าพระขัตติยะสุทธากูร เจ้าเมืองอีสานบุรี ได้ให้ท้าวหมอพุทไธศิษย์ฮักผู้หมั่นสักการะบูชาครูบาอาจารย์ แต่งพิธียกอ้อยอครู สักการะทั้งครูเทพ ครูคน ให้เจ้าเดินตามฮอยหมอชีวกะโกมารภัจจ์ บรมครูแห่งการแพทย์แผนโบราณ ผู้ถวายการรักษาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และบำเพ็ญแต่คุณงามความดีตลอดชีวิต ช่วยเหลือผู้เจ็บไข้ได้ป่วยโดยบ่อเลือกยากดีมีจน ชนชั้นวรรณะ”
พ่อแพทย์ใช้แป้งกระแจะเจิมหน้าผากพุทไธ
“ท้าวหมอพุทไธเอ๊ย สืบแต่มื่อนี่ไป เจ้าจงเจริญฮุ่งเฮืองในฐานะแพทย์คนสำคัญของบ้านเมืองเฮา เตรียมพร้อมยอยศขึ้นฮับตำแหน่งแพทย์หลวงประจำองค์เจ้าเมืองอีสานบุรีทุกๆ องค์จากนี้ไป”
พ่อแพทย์จันทกุมารผูกฝ้ายขาวให้พุทไธ
“ให้เจ้าฮ่มเย็นเป็นสุข อยู่ดีมีแฮง ไทบ้านไทเมืองเลื่อมใสศรัทธาในซื่อเสียงและคุณงามความดีของเจ้าตลอดไป”
พ่อแพทย์เรียกให้จันทร์เข้าไปหาแล้วผูกฝ้ายให้ ชาวบ้านต่างมองดูภาพนั้น แล้วพากันส่งเสียงในเชิงชื่นชมว่าช่างเหมือนการแต่งงานไม่ผิดเพี้ยน และสองหนุ่มสาวก็ดูสง่างามเหมาะสมกัน บรรยากาศดูอบอุ่น มีเพียงคำอ่อนที่ไม่ได้รู้สึกดีไปด้วย
“อันว่าสิ่งสำคัญนั้นพ่อได้ยกให้เจ้าเหมิดแล้วทุกอย่างทุกแนว ขอให้เจ้ารักษา วิซาความฮู้ สมบัติทุกสิ่งอัน และลูกสาวคนเดียวของพ่อ ไว้ด้วยศักดิ์ศรีของเจ้าไปตลอดชีวิต ให้พ่อได้นอนตายตาหลับเด้อ”
พุทไธน้ำท่วมปาก สบตาคำอ่อนที่มองมาด้วยความผิดหวัง
หลายวันต่อมาพุทไธถือกล่องไม้ใส่ไม้ฝางมาหาคำอ่อน ที่กำลังนั่งคัดฝักไหมอยู่ พุทไธใช้สรรพนามเรียกแทนตัวเองว่า ข้อย เสมอ กับจันทร์และคำอ่อน เสมอ
“คำอ่อน มื่อวาน สายกับทิดทองผัวเพิ่น ไปเก็บไม้ฝางในป่า เพิ่นฝากข้อยเอามาแบ่งให้เจ้าไว้ย้อมผ้า”
“เอาของมาฝากข้อยแบบนี่ คู่ดองของอ้ายสิบ่อตามมาอาละวาดข้อยบ้อ” คำอ่อนตัดพ้อ
“คำอ่อน เจ้าอย่าเคียดให้ข้อยเลย เจ้าก็ฮู้ว่าข้อยฮักแต่เจ้าผู้เดียวทอนั่น”
“แต่ข้อยกับคนเหมิดบ้านกะได้ยินเต็มสองหู ว่าพ่อแพทย์จันทกุมาร เพิ่นอยากให้อ้ายแต่งดองออกเฮือนกับจันทร์”
“ข้อยบอกแล้วว่าข้อยสิหาทางเจรจากับท่านพ่อแพทย์ ให้เพิ่นเปลี่ยนใจ”
“แต่จันทร์มันคงสิหมายมั่น เตรียมนุ่งผ้าซิ่นลายหงส์ของญาแม่บัวภา แม่ของอ้ายบ่อมีทางปล่อยให้หลุดมือ ข้อยมันต่ำต้อยด้อยวาสนา คงบ่อมีบุญได้นุ่งซิ่นรับขวัญของแม่ย่าปล่อยดอก” (แม่ย่าปล่อย (สำนวน) = ว่าที่แม่ย่าที่ต้องปล่อยไปเพราะดวงไม่สมพงศ์กัน)
คำอ่อนทำเป็นลุกหนี พุทไธตามไปกอด
“จั่งใด๋ ข้อยก็สิหาทางหยุดยั้งเรื่องนี่ให้ได้ เพราะแม่ญิงที่ข้อยฮักก็คือเจ้าเด้ คำอ่อน เจ้าผู้เดียวทอนั่น ที่สมควรสิได้ครอบครองซิ่นลายหงส์ผืนนั่น”
พุทไธซบหน้าลงหอมแก้มคำอ่อนฟอดใหญ่ คำอ่อนกระเง้ากระงอดพองาม แล้วรีบผละออกเมื่อเห็นสายวิ่งมา
“อ้ายหมอพุทไธ! ซอยแน! เกิดเรื่องใหญ่แล่ว”
“เกิดหยังขึ้น สาย”
“พ่อแพทย์เป็นหยังบ่อฮู้จ้ะ อยู่ดีๆกะล้มไปเลย”
พุทไธรีบวิ่งออกไปทันที
พุทไธวิ่งขึ้นไปบนเรือน เห็นพ่อแพทย์จันทกุมารนอนสั่นเทา มือเท้า เล็บ เป็นสีดำเขียว ทิดทอง สามีนางสายประคองร่างไว้ คำอ่อนแอบตามมาชะโงกมอง แต่ไม่กล้าขึ้นไป
“พ่อแพทย์ มืนตาไว้ก่อน อย่าฟ่าวหลับไปเด้อ อีสายมันไปเอิ้นอ้ายหมอแล้ว” ทิดทองบอกอาการ
จันทร์ร้องไห้โฮ “ญาพ่อ ญาพ่อแข็งใจไว้ก่อน อย่าเพิ่งเป็นหยังไปเด้อ อย่าฟ่าวถิ่มข้าน้อยไปเด้อ ญาพ่อ นั่น อ้ายพุทไธเพิ่นกลับมาแล้ว”
“พ่อแพทย์ นี่มันเกิดหยังขึ้น” พุทไธถาม
“พุทไธ เจ้าเบิ่งไว้ นี่เป็นอาการของคนถืกใส่ยาพิษ” ป่วยเจียนตาพ่อแพทย์ก็ยังมีแก่ใจสั่งสอนศิษย์เอก
“พ่อแพทย์ต้องยาพิษ ทิดทอง ไปต้มน้ำฮ้อนไว้ สาย ไปเก็บว่านนาคราชมาให้ข้อย”
สายกับทองรีบผละไป คำอ่อนโผล่หน้าแอบดูอยู่ที่หัวบันได พอเห็นทั้งสองมาก็รีบหลบซ่อนตัว
“พ่อแพทย์ไปต้องยาพิษมาแต่ไส จันทร์”
“ยาพ่อเพิ่นไปงานบุญอยู่วัดมา มันปนมากับพาข้าว” จันทร์บอก
“ว่านนาคราชอย่างเดียวเอาบ่ออยู่ดอกพุทไธ มีวิธีเดียวทอนั่น คือต้องดูดพิษออก” พ่อแพทย์ว่า
“ให้ข้อยเฮ็ดจั่งใด๋ พ่อแพทย์”
“ให้บักทิดทองมันขุดหลุมในสวนยาหลังบ้านไว้ พ่อสิลงไปนอนในหลุมนั่น”
ทุกคนตกใจ
ไม่นานต่อมาพ่อแพทย์จันทกุมารนอนอยู่ในหลุมดินขนาดพอตัวคน เว้นหัวเท้าและแขนพอขยับได้ พุทไธและทิดทองเอาดินกลบฝังร่างไว้ เปิดหน้าให้หายใจ พ่อแพทย์มองเห็นจันทร์ปาดน้ำตาสะอึกสะอื้นตลอดเวลาก็พูดปลอบลูก
“เซาฮ้องห่มฮ้องไห่สาจันทร์เอ้ย พ่อยังบ่อได้เป็นหยังดอก”
“ข้าน้อยย่าน” จันทร์สะอื้นไห้
“เจ้าอย่าย่านเลย วิธีนี่ พ่อเคยรักษาคนอื่นมาก่อน ให้พ่อนอนหลับยาวๆ ในนี่ ให้ดินดูดพิษจักเจ็ดมื่อ มาส่งข้าวส่งยา มื่อละเทือก็พอ เดี๋ยวพ่อก็หายดี”
“ถ้ายาพ่อหลับไปแล้วบ่อตื่นขึ้นมาเด้”
“อย่าคึดกังวลเลย เจ้าก็ยังมีอ้ายหมอพุทไธ พ่อได้ฝากฝังเจ้าไว้กับอ้ายแล้ว”
จันทร์ปิดหน้าสะอื้น สายนั่งมองดูก็น้ำตาไหล ก้มหน้าเช็ดน้ำตา ทิดทองกอดปลอบ
“บ่อต้องฮ้องไห้ดอก จันทร์ พ่อแพทย์ต้องบ่อเป็นหยัง ข้อยสิเตรียมน้ำต้มว่านไว้ให้พ่อแพทย์อาบตอนครบเจ็ดมื่อ”
“ได้ยินบ่อลูก ให้เจ้าเซื่อตำหรับยาของพ่อ ยาพิษนี่ มันฆ่าพ่อบ่อได้ดอก พ่อต้องฟื้นคืนมาแต่งพาขวัญให้เจ้าสองคนได้ออกเฮือน ถ้าบ่อจังซั่น พ่อคงนอนตายตาบ่อหลับ”
พ่อแพทย์ยิ้มปลอบลูก จันทร์ทรุดลงข้างหลุมจับมือพ่อแพทย์มาแนบแก้มอย่างห่วงใย
เสียงพูดของพ่อแพทย์จันทกุมารดังก้องในหู พ่อแพทย์พุทไธต้องสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากผล็อยหลับไป เห็นสะอาดนั่งจ้องอยู่
“ตื่นแล้วบ้อ ญาพ่อ”
“เจ้าบ่อได้พาท่านหญิงจากตักศิลาไปวัดบ้อสะอาด”
“ข้าน้อยเห็นยาแม่กับสะออนไปแล้ว ก็เลยขออยู่เฝ้าไข้ยาพ่อดีกว่าจ้ะ ยาพ่อหิวข้าวรึยัง ข้าน้อยสิแต่งพาข้าวมาให้”
สะอาดเดินไปยกพาข้าวที่เตรียมไว้มาวาง จัดแจงขันน้ำดื่ม น้ำล้างมือให้ พ่อแพทย์มองสะอาดอย่างเอ็นดู
“แล้วเจ้าได้กลับไปอยู่วังแหน่บ่อ ลูก”
สะอาดชะงัก เงยหน้าสบตากับพ่อแพทย์ เหมือนวัวสันหลังหวะ
“มีปัญหาหยังกันบ่อ”
สะอาดรีบตอบ “บ่...บ่อมีจ้ะ พ่อเจ้าเพิ่นก็ฮู้ว่ายาพ่อบ่อสำบาย ข้าน้อยเลยต้องมาเฝ้า”
“พ่อมีคนเฝ้าตั้งหลวงหลาย เจ้าควรกลับไปดูแลผัวได้แล้ว สะอาด สอางมันอยู่นั่น ก็เฮ็ดหยังแทนเจ้าบ่อได้ดอก”
สะอาดสะดุ้งอีกรอบ คำพูดของพ่อแพทย์จี้ใจดำ
พ่อแพทย์ถอนใจ “เว้าถึงสอาง ก็บ่อได้เห็นหน้าเห็นตากันเป็นเดือนๆ บ่อฮู้ว่ามันเป็นจั่งใด๋ ถ้าเจ้ากลับวังไปแล้ว ก็บอกให้มันมาเยี่ยมยามพ่อแน พ่อคึดฮอด”
สะอาดน้ำตาคลอๆ นึกสงสารพ่อแพทย์ที่ยังไม่รู้อะไรเลย แต่ก็พูดไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ที่วังอินทนิล สอางยืนดูเสากะสีแหล่ช่วยกันติดรูปภาพขนาดใหญ่บนผนังห้องโถงด้วยความพึงพอใจ รูปนั้นติดแทนที่รูปของแม่เจ้าปทุมรัตน์กับพ่อเจ้าเดิมนั่นเอง
“บู๊ย... แม่เจ้าสอางนี่งามสง่าปานนางพญาหงส์เลยเจ้าค่า ฮูปนี่ เหมาะสมกับตำแหน่งแม่เจ้าแห่งอีสานบุรีอีหลีเจ้าค่ะ” เสาอวยไส้แตก
สีแหล่เสริมว่า “แฮ่งพอได้ถ่ายเคียงข้างพ่อเจ้า แฮงเบิ่งคู่ควร สมกันปานเทวดากับนางพญาหงส์ ดีกว่าฮูปเก่าตั้งหลาย”
“เสียดายอย่างเดียว ที่ยังบ่อฮูปท่านซายน้อยๆ บ่อซั่น ฮูปนี่สิสมบูรณ์เลยเจ้าค่า” เสาบอก
สอางลูบท้องตัวเอง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“เอาไว้ให้กูออกลูก แล้วค่อยถ่ายใหม่ก็ได้ดอก ตอนนี่ แค่ได้เอาฮูปกูขึ้นไปแทนฮูปผีอีแม่เจ้าปทุมรัตน์ กูก็พอใจแล้ว”
วันนี้สะออนและคนอื่นๆ อยู่บนศาลาวัดแคนหลวง ช่วยกันจัดเตรียมพาข้าวถวายเพลพระเณร ศรีธาราขยับเข้ามาใกล้ ตั้งใจจะถวายร่วมกับสะออน แต่สะออนชะงักแล้วเลี่ยงไปถวายข้างญาแม่แทน
ศรีธาราหน้าเจื่อนไป ขณะที่สายวารีดึงสะหวีวิไลวันเข้ามาถวายคู่กับศรีธาราแทน สะหวีวิไลวันแอบจับตามองสีหน้าของศรีธารา
เวลาผ่านไป พระสงฆ์สวดมนต์ให้พรเสร็จ สะหวีวิไลวันยังคงนั่งข้างๆ ศรีธารา พบว่าอีกฝ่ายเอาแต่เหม่อลอย
จนกระทั่งพระเณรฉันท์เพลเสร็จ ศรีธารา สะหวีวิไลวัน สายวารีช่วยกันเก็บพาข้าวออกมา สะหวีวิไลวันเห็นศรีธารายังเงียบ เลยทนไม่ไหว เอ่ยถาม
“ท่านพี่เป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูเงียบๆ”
“นั่นสิคะ ปกติท่านพี่ออกจะร่าเริง วันนี้พูดแทบนับคำได้” สายวารีก็แปลกใจ
ศรีธารารู้สึกตัว “ไม่ได้เป็นอะไรจ้ะ พี่ใจลอยคิดนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย”
“ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวทำบุญเสร็จ ไปเดินเล่นในวัดกันนะคะ น้องยังไม่เคยมาที่นี่เลย จะได้พาท่านหญิงวันเดินเที่ยวด้วย” สายวารีออกความคิด
“ได้สิ”
ศรีธารายิ้มออกมา พลางมองไปยังสะออน คิดหาทางไปเที่ยวกับสะออนให้ได้
สะออนเดินลงมาจากศาลาพร้อมศรีธารากับญาแม่ หลังจากร่วมวงกินข้าวเสร็จ
“สะอ่อน เดี๋ยวพาท่านซายกับท่านญิงทั้งสองไปเดินเบิ่งวัดแหน่ลูก”
สะออนชะงักสีหน้าลังเล ศรีธารารีบบอก
“พรุ่งนี้ สายวารีกับท่านหญิงวันก็จะกลับพระนครแล้ว ยังไม่มีโอกาสได้เที่ยววัดแคนหลวงเลยครับ”
“ท่านซายมาอยู่ที่นี่จนคุ้นเคยแล้ว น่าสิพาท่านหญิงเที่ยวได้แล้วนะเจ้าคะ” สะออนบ่ายเบี่ยง
“ผมอยากให้คุณไปด้วย”
“แต่ข้าน้อยต้องไปหาอ้ายโซ่ทอง”
ศรีธาราหุบยิ้ม สีหน้าผิดหวัง ญาแม่เผลอดุเสียงเขียวออกมา
“สิแล่นไปหามันเฮ็ดหยัง”
“ข้าน้อยสิไปเยี่ยมยาครู ได้ยินว่าเพิ่นบ่อสำบาย”
ศรีธาราไม่พอใจ “ถ้าอย่างนั้น ผมไปด้วย”
“ท่านซายพาท่านหญิงไปเที่ยวเถาะเจ้าค่ะ ข้าน้อยกับอ้ายโซ่ซ่อยกันดูแลยาครูได้”
สะออนพูดจบก็รีบเดินลิ่วออกไปเลย ไม่รอให้ศรีธาราตามมาตอแยอีก ศรีธารามองตามสีหน้าเครียดเพราะเริ่มรู้แล้วว่าโซ่ทองชอบพอสะออน
ศรีธารากับญาแม่นั่งคุยกันอยู่ สายวารี สะหวีวิไลวัน อยู่ด้วย
“ข้าน้อยต้องขอโทษท่านหญิงทั้งสองนำเด้อเจ้าคะ ที่สะออนมันมัวแต่ไปวุนที่อื่น เลยบ่ได้พาไปเบิ่งวัด”
“บ่อเป็นหยังดอกจ้ะ แม่ แค่ได้มาเฮ็ดบุญนำกัน ข้อยก็ดีใจแล้ว” สะหวีวิไลวันพูดอีสานกับญาแม่
“โอกาสหน้าเราค่อยมาเที่ยวก็ได้ค่ะ” สายวารีเห็นศรีธาราดูซึมๆ จึงถามเรื่องกลับพระนครที่คุยกันไว้ “แล้วตกลงวันพรุ่งนี้ท่านพี่จะกลับพระนครกับพวกเราหรือเปล่าคะ”
ศรีธาราหน้าเครียด ครุ่นคิด
“กลับสิ พี่มีธุระต้องไปทำ”
“ถ้าอย่างนั้น น้องจะมารับ เตรียมตัวไว้นะคะ”
สายวารีทิ้งท้ายแล้วเดินจากไปกับสะหวีวิไลวัน ศรีธารามองตาม ใช้ความคิด แล้วหันมาหาญาแม่ที่กำลังจะขึ้นเรือน
“ยาแม่ครับ ผมมีธุระจะขอปรึกษา”
ยาแม่หันมองศรีธาราอย่างแปลกใจ
พ่อแพทย์ยังคงพักฟื้นอยู่ เวลานี้เอนหลังคุยกับญาแม่อยู่บนเรือนแพทย์ สีหน้าไม่สบายใจนักเมื่อได้ฟัง
“เจ้าศรีธาราเซิญแม่คำอ่อนกับสะออนไปพระนครนำกัน ไปเฮ็ดหยัง”
“เพิ่นอยากให้ข้อยพาลูกไปกราบญาติผู้ใหญ่ฝั่งแม่เจ้าปทุมรัตน์น่ะพ่อแพทย์”
“เป็นหยังต้องไปกราบเพิ่น”
ญาแม่มองค้อนผัว
“อย่าเฮ็ดเป็นบ่อฮู้เรื่องเลย พ่อแพทย์ เจ้าศรีธาราแสดงออกซัดเจนมาแต่ใด๋แล้ว ว่ามักลูกสาวเฮา ที่อยากให้ข้อยกับสะออนไป ก็ย้อนอยากให้ไปฮู้จักญาติผู้ใหญ่ไว้”
พ่อแพทย์มีสีหน้าลังเล “แล้วสะออนมันว่าจั่งใด๋”
“ข้อยยังบ่อทันได้บอก แต่ลูกมันสิว่าหยังได้ เขาเซิญมา มันก็ต้องไป” ญาแม่ตั้งใจมัดมือชก
“ไปเยี่ยมยามเพิ่นฮอดเฮือนเขา ก็ส่ำเอาโตเองไปผูกมัด สิเปลี่ยนใจภายหลัง ก็คงลำบาก” พ่อแพทย์ติง
“แล้วสิเปลี่ยนใจเฮ็ดหยังล่ะ คนสูงศักดิ์อย่างเจ้าศรีธารามันหาได้ง่ายๆบ้อ สะออนมันโซคดีปานใด๋แล้ว ที่ได้พบกับเพิ่น” ญาแม่ยิ้มย่อง
พ่อแพทย์มองหน้าญาแม่คำอ่อนที่ฝันไกลเชิงเตือนสติ
“แม่คำอ่อนถามลูกแล้วบ้อ”
ญาแม่ชะงัก มองผัว รู้สึกระแวงขึ้นมาทันที
“สิถามเฮ็ดหยัง ข้อยเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่สินำพาให้ลูกมันเห็นอนาคต ถ้าได้แต่งดองกับเจ้าใหญ่นายโต มันก็สิมีบุญวาสนาสูงส่งไปซั่วชีวิต ข้อยสิไปมื้ออื่นนี่ล่ะ ไปบ่อจักมื้อดอก เดี๋ยวก็กลับมา”
ญแม่รวบรัดตัดความแล้วลุกไปโดยไม่รอความเห็นผัว พ่อแพทย์กังวลใจ
ฝ่ายโซ่ทองกับสะออนลงมาจากกุฏิยาครู เดินคุยกันมาทางในวัด
“ไคแหน่ ที่ยาครูเพิ่นบ่อเป็นหยัง”
“แต่จั่งใด๋ มื้ออื่น อ้ายก็ต้องแวะมาเบิ่งเพิ่นอีกเทือ ตอนแรก อ้ายคึดว่า ถ้าเป็นหลาย ก็สินอนเฝ้าเพิ่นอยู่กุฏิเลย”
“ถ้าจั่งซั่น มื่ออื่นข้อยสิมานำ”
“บ่อต้องดอก เจ้าอยู่เฝ้าเฮือนสา เดี๋ยวญาแม่สิฮ้ายเอา”
“ญาแม่เพิ่นสิว่า ก็ย่อนว่าข้อยบ่ออยู่กับท่านซายนั่นล่ะ นี่ข้อยก็หนีมา บ่อซั่น คงถืก ลากไปย่างเที่ยวเล่นกับน้องๆ ของเพิ่น ปานนี่ บ่อฮู้ว่ายังพากันย่างเที่ยวอยู่ในวัดบ่อ”
สะออนมองซ้ายขวาหวาดระแวง แล้วเข้าหลบหลังโซ่ทอง
“อย่าฟ้าวเมือเฮือนเลยอ้ายโซ่ ข้อยยังบ่ออยากเมือ”
“แล้วเจ้าสิไปไส”
โซ่ทองพายเรือพาสะออนเที่ยวเล่นชมบัวในบึง สะออนเอามือราน้ำเล่น ท่าทางเบิกบานใจ
“แล้วเจ้าแน่ใจแล้วบ้อ ว่าสิบ่อฮับไมตรีจากท่านซาย จึงหลบหน้าหลบตาเพิ่นแบบนี่”
“ข้อยพร้อมฮับไมตรีจากเพิ่นเสมอ แต่ในฐานะหมู่คนนึงทอนั่น อ้ายอย่ามากล่อมข้อยให้ยากเลย”
“บ่อได้กล่อม แค่ถามเบิ่งซือๆ ในเมื่อเจ้าบ่อเต็มใจ อ้ายก็สิบ่อฝืนใจเจ้า”
สะออนดีใจ “อีหลีบ้ออ้าย”
โซ่ทองพยักหน้ายิ้มๆ “มันก็แม่นความเจ้าว่า อ้ายนึกถึงซีวิตของยาเอื้อยสะอาด ที่เฮ็ดตามใจผู้อื่นเพื่อความเหมาะสม แต่บ่อได้เฮ็ดตามใจโตเอง เพิ่นก็หาความสุขในซีวิตบ่อได้เลย อ้ายบ่ออยากให้เจ้าเป็นแบบนั่น”
“เฮ้อ...เป็นหยังข้อยบ่อเกิดในครอบครัวธรรมดา ที่พ่อบ่อได้เป็นหัวเจ้าบ้าน มีหน้ามีตา ซีวิตคงสิง่ายกว่านี่หลาย สิออกเฮือนกับไผ ก็บ่อต้องคึดหยังหลาย แค่เลือกคนที่อยู่นำกันแล้วมีความสุขก็พอ”
“แล้วตอนนี่ เจ้ามีความสุขบ่อล่ะน้องหล่า”
โซ่ทองพูดเป็นนัยๆ พลางส่งสายตาวิบวับไปให้ สะออนมองตาแล้วเขิน เบือนหน้าหนี เสหันไปวักน้ำสาดใส่แก้เขิน โซ่ทองยกไม้พายขึ้นป้อง แล้วแกล้งโคลงเรือเขย่าๆ สะออนร้องวี้ดว้ายจับกราบเรือแน่น
โซ่ทองพายเรือมาเทียบท่า ก้าวขึ้นไปก่อนแล้วยื่นมือให้สะออนจับ สะออนก้าวขึ้นตาม แล้วเผลอเหยียบลงไปในโคลนเกือบเสียหลัก เซถลาจนสองคนหน้าชนกันตะลึงจังงังกันไปทั้งคู่
โซ่ทองมองหน้าสะออนในระยะใกล้ชิด แล้วเกิดวาบหวามในใจ เอื้อมมือขึ้นเกลี่ยผมที่ปรกหน้าสะออนออกให้ แต่สายตาสะออนมองไปทางด้านหลังสะดุดตาบางอย่าง ร้องบอกอย่างแปลกใจ
“แม่งอตั้วนั่น เพิ่นสิย่างไปไส ท่าทางรีบร้อน”
โซ่ทองหันมองตามไป
นางงอเดินจ้ำอ้าวมุ่งหน้าไปทางสำนักสมิงพันดง หากสังเกตดีๆ จะพบว่าอาการเดินเกือบเหมือนคนปรกติแล้ว โซ่ทองกับสะออนเดินตามมาติดๆ มองดูนางงออย่างสงสัย
“แม่นแม่ง่ออีหลีบ่อ สะออน เป็นหยังเพิ่นย่างเร็วแท้”
“ต้องแม่นเพิ่นนั่นล่ะ ข้อยจำได้ คนแต่งเนื้อแต่งโตจังซี่ มีแต่แม่งอผู้เดียว”
นางงอเดินไปถึงหน้าเรือนไม้อันเป็นสำนักสมิงพันดง มองซ้ายแลขวาจนไม่เห็นใครแน่ จึงรีบขึ้นบันไดไป ขณะที่โซ่ทองกับสะออนเดินตามมาใกล้ แล้วหยุดซุ่มดู
“นี่มันสำนักบักสมิงพันดง แม่งอเพิ่นมาเฮ็ดหยัง
สะออนฮึดฮัดจะตามไป แต่โซ่ทองดึงแขนไว้
“อย่า สะออน เฮาเคยมีเรื่องกับมัน ลุยเข้าไปตอนนี่ มันบ่อปล่อยเฮาแท้ๆ”
ผ่านเวลาไปพักใหญ่ นางงอลงจากเรือนมา เอายาที่ได้จากสมิงพันดงเก็บใส่ชายพก แล้วเดินมุ่งหน้ากลับบ้าน
สะออนกับโซ่ทองซุ่มอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ห่างจากสำนักของสมิงพันดงมาไกลพอประมาณ จนเห็นนางงอเดินมาใกล้ก็โผล่พรวดออกไปขวาง
“แม่งอ”
นางงอชะงักตกใจ รีบปรับสีหน้า “สะออน เจ้าบ่อมีหยังเล่นบ้อ ข้อยตกใจเหมิด”
สะออนถามอย่างใจเย็น “แม่งอมาเฮ็ดหยังแถวนี่”
นางงออึกอักมองซ้ายมองขวา แล้วรีบทำหน้าเครียด หาเรื่องสองคนกลับ
“แล้วเจ้าล่ะ มาเฮ็ดหยัง อย่าบอกเด้อ ว่าแอบมากอดมาหอมกับบักโซ่”
“สะออนถาม เป็นหยังบ่อตอบล่ะแม่ง่อ” โซ่ทองมองจ้อง
นางงอเสียงเขียว “ป้าดโธ่ บักอันนี่ มึงมายุ่งมายากหยังนำกู”
โซ่ทองเดินวนรอบตัวนางงออย่างจับผิด
“ข้อยต้องยุ่ง ย่อนข้อยเห็นแม่ง่อล่งม่าจากสำนักบักสมิงพันดง”
นางงอหน้าซีดเผือด รีบเอามือกอดอกร้อนตัว โซ่ทองเดินเข้าไปใกล้
“แล้วถือหยังติดมือมาแต่สำนักมัน”
“บ่อมีหยังดอก” โซ่ทองทำท่าจะฉกห่อยา นางงอไม่ทันตั้งตัว ตกใจมากพอๆ กับโมโห “บักโซ่ เอาคืนมา”
สะออนรอจังหวะอยู่รีบล้วงห่อยาจากชายพกผ้าซิ่นนางงอมาได้ นางงอร้องลั่นปัดป้องพัลวัน แต่สุดท้ายห่อยาก็หล่นออกมา
นางงอหน้าตาตื่นจะก้มเก็บ แต่สะออนแย่งไปได้ แล้วรีบแก้ห่อออกดู
“นี่มันยาอีหยัง แม่งอ”
นางงออ้ำอึ้ง คิดหาข้อแก้ตัวไม่ทัน โซ่ทองรับยาจากสะออนมาดู
“แม่งอไปเอายาหยังของบักหมอผีนรกนั่นมา”
“อั่น... ยา...ยา” นางงอนึกหาคำแก้ตัว “ยารักษาพ่อแพทย์”
สะออนกับโซ่ทองอึ้ง นางงอเห็นทางออกรีบละล่ำละลักโกหกต่อ
“ข้อยเห็นว่าบักโซ่มันรักษาพ่อแพทย์บ่อหาย แต่พวกไทบ้านเขาว่า ยาของพ่อครูสมิงพันดงออกฤทธิ์ดี รักษาได้สารพัดโรค ข้อยก็เลยไปขอ...”
โซ่ทองสวนออกมาอย่างไม่พอใจ “ยาของบักสมิงพันดงมันของปลอม กินแล้วมีแต่ให้โทษถึงตาย”
นางงอถึยง “บ่อแม่นดอก”
“แม่งอฮู้ได้จั่งใด๋ว่ามันบ่อแม่น”
นางงอชะงัก ไม่กล้าตอบ โซ่ทองยิ่งโมโห โปรยยาในห่อทิ้งลงพื้น นางงอตกใจและโกรธร้องลั่น
“บักห่าโซ่ บักขี้ข้า บักเวรตะไล มึงเฮ็ดหยัง มึงเทยากูถิ่มเฮ็ดหยัง”
“ข้อยบ่อยอมให้พ่อแพทย์กินยาของบักสมิงพันดงเด็ดขาด”
“มึงอยากให้พ่อแพทย์ตายซั่นบ้อ” นางงอตะแบงต่อ
“ยาจากบักหมอเถื่อนสมิงพันดงนั่นล่ะ ที่กินแล้วต้องตาย อย่าคึดเอายาจากมันมาให้ยาพ่อกินเป็นอันขาดเด้อแม่งอ” สะออนว่า
“ถือศักดิ์ศรีกันบ่อเข้าเรื่อง ถ้าพ่อแพทย์เป็นหยังไป พวกสูสิว่าจั่งใด๋” นางงอโมโห
“ข้อยเป็นศิษย์พ่อแพทย์ ข้อยฮู้ดีกว่าสิ่งใด๋เหมาะกับเพิ่น แม่งออย่ามาก้าวก่ายการรักษาของข้อยเลย บ่อจังซั่น ข้อยสิบอกให้พ่อแพทย์ฮู้ ว่าแม่งอลักคบค้ากับบักสมิงพันดง”
โซ่ทองปาห่อยาทิ้งไป แล้วชวนสอางเดินกลับ ทิ้งนางงอให้ยืนคุมแค้นกำมือแน่น พลางมองดูยาที่พื้นด้วยความเสียดายอยู่ลำพัง
สะออนเดินขึ้นเรือนมา แล้วต้องชะงักเมื่อเห็นญาแม่นั่งหน้าตึงรออยู่ตรงนอกชาน
“ไปไสมา จนตะเว็นตกดิน เป็นหยังเพิ่งเมือเฮือน”
สะออนฝืนยิ้ม “ข้าน้อย...นั่งเว้ากับยาครูเพลินไปจนลืมเบิ่งฟ้าจ้ะ”
“กะฮู้อยู่ว่าเพิ่นบ่อแข็งแฮง ยังสิไปรบกวนอยู่ได้ แทนที่สิกลับมาซ่อยกัน ต้อนฮับแขก”
สะออนรีบถามอย่างมีความหวัง “ท่านซายกับท่านหญิงกลับไปกันเหมิดแล้วบ้อ ยาแม่”
“กลับไปแต่ท่านหญิงสองคน ส่วนท่านซายยังอยู่ มื้ออื่น จั่งสิไปพระนคร”
สะออนเผลอยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ ญาแม่ไม่สนใจ พูดต่อ
“เจ้ากะเตรียมโตไว้เลย สะออน สิได้ไปเปิดหูเปิดตากับเพิ่น”
สะออนตกใจคาดไม่ถึง “อีหยัง ญาแม่ ยาแม่หมายความว่าจั่งใด๋”
ยาแม่ยิ้มกริ่มลูบผมลูกอย่างเอ็นดู “กะเจ้าศรีธาราเพิ่นซวนเฮาไปกราบญาติพี่น้องเพิ่นอยู่พระนคร ไปจัก 5-6 มื้อทอนั่นล่ะลูก”
สะออนหลุดปากปฏิเสธไปทันที “ข้าน้อยบ่ออยากไป”
ยาแม่ชะงักมือที่ลูบผมสะออน ขมวดคิ้วนิ่วหน้าไม่พอใจ
“เพิ่นให้เกียรติเซิญเฮาสองคน สิปฏิเสธได้จั่งใด๋ สะออน”
“ยาแม่ก็บอกเพิ่นไปตั้ว ว่าเฮาต้องเฝ้าไข้ยาพ่อ อาการยาพ่อยังบ่อดี”
“สะอาดกะอยู่ บักโซ่มันกะอยู่” ญาแม่ดักคอลูกสาวอย่างรู้ทัน “อย่าคึดเด้อ ว่าแม่สิให้มันแล่นไปนำ”
สะออนยิ่งสีหน้าไม่ดี พยายามเกาะแขนอ้อนแม่
“แต่ถึงจั่งใด๋ ข้าน้อยก็บ่อมีอารมณ์สิไปไสดอก เอาไว้โอกาสหน้าเด้อญาแม่”
“แม่ฮับปากกับท่านซายไปแล้ว ท่านหญิงสายวารีกะสิมาฮับ สิให้เว้ากลับไปกลับมาแม่กะเสียผู้ใหญ่ตั้ว”
สะออนหน้าเจื่อน ญาแม่ทำไม่รู้ไม่ชี้
“กะซาง จั่งใด๋ แม่กะต้องไป ให้มันฮู้กันไปเลย ว่าเจ้าสิถิ่มแม่ให้ไปต่างบ้านต่างเมืองผู้เดียว”
สะอาดอยู่บนเตียงก้มกราบพระลงที่หมอน แล้วหันมาคุยกับสะออนที่นั่งพับเพียบอยู่กับพื้น
“เอื้อยฮู้แล้วล่ะ ยาแม่ฝากให้เอื้อยเฝ้าเฮือน”
สะออนถอนใจ “ข้อยถืกยาแม่มัดมือซกจนได้”
“อย่าไปคึดหยังหลายเลย ถือว่าไปเที่ยวม่วนๆ บ่อจักมื่อก็คืนมาแล้ว”
“แต่ข้าน้อยฮู้เจตนาของยาแม่ หรือยาเอื้อยเบิ่งบ่อออก”
สะอาดมีสีหน้าลำบากใจ เพราะเดาได้เช่นกันว่าญาแม่ต้องการจับคู่ให้สะออนกับศรีธารา
“ข้าน้อยบ่ออยากถืกบังคับขืนใจจังซี่ ญาเอื้อยก็คงฮู้ดี ว่าการเฮ็ดตามใจผู้อื่น สุดท้าย ก็มีแต่เฮาผู้เดียวที่เป็นทุกข์”
สะอาดนิ่งงัน รู้สึกสะท้อนใจขึ้นมา
“จ้ะ เอื้อยฮู้ แต่คนที่หวังดีกับเฮาก็เป็นพ่อแม่บังเกิดเกล้า เราสิปฏิเสธความหวังดีของเพิ่นได้จั่งใด๋ น้องหล่า”
“หมายความว่า คนเป็นลูก บ่อมีสิทธิ์ทางเลือกความสุขของโตเองเลยซั่นบ้อ”
สะอาดมองหน้าสะออนอย่างเห็นใจ ลูบหัวปลอบประโลม
“สิทธิ์น่ะเจ้ามี น้องหล่า แต่เจ้าต้องฮู้จักประนีประนอม อย่าโอนอ่อนผ่อนตามไปทุกอย่างทุกแนวคือเอื้อย แต่ก็อย่าเอาความพอใจของโตเองเป็นใหญ่คือสอาง”
สะออนฉุกคิด นึกถึงว่าพี่สาวสองคนเลือกทางเดินที่สุดโต่ง สะอาดแบกทุกข์ไว้คนเดียว ส่วนสอางก็โยนทุกข์ให้พ่อแม่ ยิ่งหนักใจ ไม่รู้จะตัดสินใจยังไง สะอาดเห็นน้องสาวสีหน้ากลุ้ม ก็ลูบหัวปลอบ
สะอาดเดินทางไปพระนครกับยาแม่สา อย่างน้อยก็ไปฮู้ไปเห็นให้เหมิดทุกอย่างที่ควรฮู้ ถ้าซั่งใจโตเองได้แน่นอนแล้ว ก็จงใช้เหตุผลค่อยเว้าค่อยจากับยาแม่ว่าเจ้าอยากมีซีวิตแบบใด๋
สะออนหน้าซึมลงไป ยังไงก็ไม่อยากไปอยู่ดี แต่สุดท้ายก็พยักหน้ารับคำ
ฝ่ายโซ่ทองอาบน้ำอยู่หลังบ้านเสร็จ แต่งเนื้อแต่งตัวใหม่เตรียมเข้านอน แต่พออ้อมมาทางหน้าเรือนก็เจอศรีธารายืนอยู่ โซ่ทองทักสีหน้าฉงน
“ท่านซาย มีหยังรึ”
ศรีธารามองหน้าโซ่ทองอย่างหมางเมิน ไม่ได้นับถือเหมือนสมัยก่อน เพราะรู้สึกว่าอีกฝ่ายเป็นคู่แข่งหัวใจไปแล้ว
“ผมเอาของมาคืนอ้าย” ศรีธารายื่นแคนให้ “พรุ่งนี้ผมจะกลับพระนครแล้ว”
โซ่ทององแคนอย่างแปลกใจ “ที่จริงท่านซายเก็บไว้กะได้ ข้าน้อยถือว่าให้เป็นเครื่องระลึก”
“ไม่ ดีกว่า เก็บไว้ผมก็คงไม่หยิบออกมาเป่าอีก เพราะผมรู้ตัวดีว่าฝีมือเป่าแคนคงสู้อ้ายไม่ได้ แล้วอีกอย่าง ก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้สะออนจะอยากฟังเสียงแคนอีกไหม”
ศรีธาราเห็นโซ่ทองทำหน้างงๆ ก็ยิ้มเย้ยในที
“ผมจะพาสะออนกับญาแม่ไปพระนครด้วย”
เมื่อเห็นโซ่ทองมีสีหน้าตกตะลึง ศรีธารายิ่งสะใจ คุยข่มต่อ
“สะออนควรจะได้ไปสัมผัสวิถีชีวิตของคนเมืองให้คุ้นเคยตั้งแต่ตอนนี้ จะได้รู้ว่าอยากจะใช้ชีวิตที่ไหนมากกว่ากัน ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ญาติๆ ของผมก็จะได้มีโอกาสเจรจากับญาแม่ด้วย”
โซ่ทองพูดถามออกไปอย่างยากลำบาก “แล้ว... สะออนฮู้หรือยัง”
“ญาแม่คงบอกสะออนแล้วล่ะครับ ถ้าญาแม่ตกลงใจว่าจะเดินทางไปกับผม สะออนก็คงไม่มีปัญหา อ้ายว่าไหมล่ะ”
ศรีธาราพูดยิ้มๆ อย่างผู้ชนะ แล้วเดินจากไป นางสายเปิดประตูออกมาดูเห็นหลังศรีธาราไวๆ
“บักโซ่ เจ้าศรีธาราเพิ่นมาเฮ็ดหยังลูก”
โซ่ทองหันไปมองสาย สีหน้าเป็นกังวล ในใจกริ่งเกรงว่าสะออนอาจจะโดนญาแม่มัดมือชก
“ท่านซายเพิ่นสิพาสะออนไปพระนครจ้ะ อีแม่
สามคนนอนไม่หลับ โซ่ทองนอนกระสับกระส่ายในกระท่อม ลืมตาโพลง คำพูดของศรีธารายังก้องในหัว
“สะออนควรจะได้ไปสัมผัสวิถีชีวิตของคนพระนครให้คุ้นเคยตั้งแต่ตอนนี้ จะได้รู้ว่าอยากจะใช้ชีวิตที่ไหนมากกว่ากัน ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ญาติๆ ของผมก็จะได้มีโอกาสเจรจากับญาแม่ด้วย”
ส่วนสะออนยืนเหม่อลอยอยู่ริมหน้าต่างห้องนอน นึกถึงคำพูดเตือนของสะอาด
“แต่เจ้าต้องฮู้จักประนีประนอม อย่าโอนอ่อนผ่อนตามไปทุกอย่างทุกแนวคือเอื้อย แต่ก็อย่าเอาความพอใจของโตเองเป็นใหญ่คือสอาง เดินทางไปสยามกับญาแม่สา อย่างน้อย ก็ไปฮู้ไปเห็นให้เหมิดทุกอย่างที่ควรฮู้ ถ้าซั่งใจโตเองได้แน่นอนแล้ว ก็จงใช้เหตุผล ค่อยเว้าค่อยจากับญาแม่ ว่าเจ้าอยากมีซีวิตแบบใด๋”
ทางด้านศรีธาราพลิกตัวไปมากังวลไม่หาย สะออนเดินมาล้มตัวลงนอน พลิกตัวพยายามข่มตาลงอย่างยากเย็นเช่นกัน
สะออนฝันถึงเหตุการณ์ในอดีตชาติ
เวลานั้นราชบุตรกำลังแต่งตัวสรวมเครื่องทรง เตรียมออกไปเข้าเฝ้าอัญญาหลวงท้องพระโรงวังหลวง สีออนเข้ามาช่วยแต่งตัวให้ผัว ราชบุตรมองอย่างเอ็นดู แต่ก็ถามอย่างรู้ทัน
“มาเอาใจอ้ายแบบนี่ มีหยังสิขออ้าย”
สีออนสบตาราชบุตรเชิงอ้อนวอน “ข้าเจ้าอยากหื้ออัญญาอ้ายคิดทบทวนเรื่องอัญญาเอื้อยหูกคำเพคะ”
ราชบุตรชักสีหน้าใส่ “อ้ายบอกแล้ว ว่าอย่าเว้าถึงมัน”
“แต่มีแค่อัญญาอ้ายคนเดียวตี้จะจ่วยเปิ้นได้เพคะ”
ราชบุตรเสียงดังใส่ “เจ้าสิให้อ้ายซ่อยเหลือ ไว้ซีวิตมัน อ้ายสิเฮ็ดได้จั่งใด๋ คำตัดสินของอัญญาหลวงถือเป็นอาญาสิทธิ์ หากขัดขืนก็ส่ำว่าเป็นกบฏ”
“แต่อัญญาหลวงเปิ้นดูมีเมตต๋าต่ออัญญาเอื้อยหูกคำในฐานะพระธิดาอยู่แล้ว ถ้าอัญญาอ้ายจะจ่วยเจรจา”
“เซื้อซาติกษัตริย์ ถ้าตรัสแล้วคืนคำ ไผสิเซื่อถือศรัทธาอีก อัญญาหลวงบ่อมีวันเฮ็ด จังซั่น เลิกคึดเรื่องนี่สาเถาะ สีออน เจ้ากำลังฟุ้งซ่านย้อนอีหูกคำ”
“ข้าเจ้าฟุ้งซ่านเพราะทนเห็นคนต้องโทษประหารโดยตี้ตั๋วเองบ่าสามารถจ่วยเหลือหยังเปิ้นได้ต่างหากเพคะ”
ราชบุตรชักสีหน้าเมินหนี พยายามข่มความรำคาญ สีออนเข้าไปกอดพะเน้าพะนอ เว้าวอนผัว
“ข้าเจ้าบ่าเจื่อว่าเนื้อแท้ของอัญญาเอื้อยหูกคำจะเป๋นคนเลวร้าย เพราะเปิ้นก่อดีกับข้าเจ้า ดีกับอัญญาอ้าย เปิ้นเคยฮักเคยบูชาอัญญาอ้าย ถึงจะถูกเหยียบย่ำ ทำร้ายจิตใจ๋ ก่อบ่าเกยกึ๊ดคั่งแค้นตอบโต้”
ราชบุตรสีหน้าอ่อนลง เมื่อนึกถึงตอนที่หูกคำเคยแอบหลงรักตนเอง
“ถึงอัญญาอ้ายจะตอบแทนความฮักแก่เปิ้นบ่าได้ ก่อได้โปรดให้ความเมตต๋ากับเปิ้นบ้างเถิดเพคะ”
“เจ้าสิให้อ้ายเฮ็ดแนวใด๋ สีออน สิให้อ้ายก่อกบฏเพื่อซ่อยอีแม่ญิงคนนี่ซั่นบ้อ เฮาสิได้ตายนำกันเหมิด”
“อัญญาอ้ายก่อบ่าต้องลงมือเองเพคะ”
ราชบุตรหันมองสีออนอย่างประหลาดใจ
ต่อมาองครักษ์จูงม้ามาผูกรอไว้ที่หน้าคุ้ม เห็นราชบุตรกับสีออนเดินออกมา แต่ทั้งสองไม่ได้สวมเครื่องทรงเต็มยศ แต่แต่งตัวคล้ายชาวบ้านธรรมดา
“กูกับสีออนสิไปเดินดง เที่ยวล่าสัตว์ในป่าแถวๆ นี่ กูบ่ออยากให้คนแตกตื่น พวกสูบ่อต้องตามกูไปดอก”
“แต่ว่า...”
“มึงคึดว่ากูบ่อมีปัญญาสิปกป้องโตเองกับเมียซั่นบ้อ”
องค์รักษ์จ๋อย รีบถอยหลบไม่กล้าตามไป ปล่อยให้ราชบุตรกับสีออนขึ้นม้า แล้วขี่ออกไปตามลำพัง
ราชบุตรกับสีออนขี่ม้าเข้ามาในป่าท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงัด สีออนเหลือบมองซ้ายขวาให้แน่ใจว่าจะไม่มีคนตามมา
“บ่อมีคนตามมาแล้วเพคะ” สีออนมองป่ารอบๆ “อีกไกลบ่อเพคะ กว่าจะถึง...”
“เท่าที่อ้ายได้ยินมา กระท่อมของมันก็อยู่เกือบสุดชายท่งพู่น” ราชบุตรสบตากับสีออนอย่างจริงจัง “อ้ายซ่อยได้ทอนี่ล่ะ สีออน ผลสิเป็นจั่งใด๋ ก็สุดแท้แต่บุญแต่กรรม”
“เพคะ แค่เพียงเท่านี้ ข้าเจ้าก็ภูมิใจในตัวอัญญาอ้ายเหลือเกินแล้ว ข้าเจ้ากึ๊ดบ่อผิด ที่เลือกฝากชีวิตไว้กับป้อจายที่มีจิตใจเมตตาอย่างอัญญาอ้าย”
สีออนเอนตัวซบราชบุตรแล้วหอมเบาๆ ที่แก้มผัว
ราชบุตรขี่ม้ามุ่งหน้าไปยังบ้านเป้าหมาย สีหน้าเครียดเคร่ง
โซ่ทองมาวัดหายาครูแต่เช้า เวลานี้นั่งรอยาครูขีดเขียนทำนายความฝันอย่างใจจดใจจ่อ ยาครูเขียดเขียนชะตาแล้วยิ้มเอ็นดู
“เบิ่งทรงมึงกับอีสะออน สิมีดวงซาตาผูกพันกันอยู่ ฝันของมึง คนบูฮ่ำบูฮานเพิ่นเอิ้นว่า เป็นบุรพนิมิต”
“บุรพนิมิต เป็นแนวใด๋น้อ ยาครู”
“เพิ่นว่าเป็นบุพเพในอดีต มาบอกลางในฝันให้ส่องเห็นอนาคต”
“หมายความว่า ข้าน้อยกับสะออนสิได้คองคู่กัน แม่นบ่อยาครู”
“อาจสิได้คองคู่หรือบ่อนั้น มันก็เป็นไปได้เหมิด มีหลวงหลายที่เคยผูกพันใน ซาติเก่า แต่ก็มาแคล้วคลาดกันในซาติใหม่ ย่อนชะตาปัจจุบันมันหันเหออกจากกัน คนเฮาเลยมักตั้งจิตอธิษฐานตอนเฮ็ดบุญ ว่าขอให้คองคู่กันไปทุกภพทุกซาติ”
โซ่ทองหน้าเศร้าลง “ถ้าจังซั่น ข้าน้อยกับสะออน คงบ่อได้เฮ็ดบุญฮ่วมกันมาสะออนเพิ่นเลยได้มีท่านซายศรีธารามาพัวพัน”
“แล้วมึงคึดจั่งใด๋กับอีสะออนล่ะ ทิดโซ่ทอง”
โซ่ทองอึ้ง นิ่งงันไป สีหน้าลังเลตอบไม่ถูกเช่นกัน
สะออนขึ้นมาป้อนกล้วยให้อีแก้วบนเรือนแพทย์ แต่งตัวเหมือนกำลังจะออกเดินทางไกล
“คาดแต่แถนสายแนนฟ้า ลิขิตมาให้เป็นคู่ แมนเกิดอยู่คนฝ่ายก้ำ ยังนำคล้องจ่องมา ภาพในฝันนั้นมาเตือนว่า มึงสองคนมีสายแนนผูกพันกันอยู่ แต่ในความจริงแล้วสิเป็นจั่งใด๋ ก็อยู่ที่ใจมึงสิเลือก” (สายแนน =บุพเพสันนิวาส)
เสียงยาครูดังก้องในหูโซ่ทองซึ่งเวลานี้กึ่งเดินกึ่งวิ่งลงมาจากกุฏิยาครู
“ถ้าบ่อได้ฮักได้ใคร่กัน ก็แยกย้ายไปมีซีวิตของไผของมัน เหลือไว้แต่ความฮู้สึกยินดีต่อกันก็พอ”
สะออนป้อนกล้วยให้อีแก้วอย่างใจลอย สีหน้าเศร้าซึม สะอาดมายืนมอง พยักหน้าเป็นเชิงเตือนให้ไปได้แล้ว สะออนจำต้องผละออกจากกรงอีแก้วอย่างเศร้าๆ
“แต่ถ้าใจจริงของมึงสองคนผูกสมัครฮักใคร่กัน สินั่งนอนอยู่ซือๆ ให้สายแนนแถนฟ้าเพิ่นลิขิตให้ทุกอย่างทุกแนว มันก็บ่อสำเร็จได้ดอก” (สายแนนแถนฟ้า = พรหมลิขิต)
โซ่ทองรีบร้อนผ่านหน้าเรือนพัก นางสายเรียกไว้แล้วเข้าไปบอกลูกด้วยท่าทางร้อนใจ โซ่ทองฟังแล้วตกใจ รีบวิ่งออกไป เสียงยาครูดังก้อง
“มีสองมือสองตีน ก็ต้องฮู้จักใช้สองมือสองตีนที่มีนั่น ทลายอุปสรรคขวากหนามด้วยโตเอง มันจึงสิลุล่วงไปได้”
โซ่ทองวิ่งหน้าตั้งไปทางเรือนใหญ่
สะออนลงจากเรือนมาพร้อมกับญาแม่และสะอาด เห็นศรีธารา สายวารี สะหวีวิไลวันรออยู่ที่รถแล้ว
“ผมเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปใส่ในรถหมดแล้ว ญาแม่กับสะออนพร้อมจะเดินทางหรือยังครับ”
ญาแม่ยิ้มรับพยักหน้า ขณะที่สะออนหน้าเศร้าไม่ยอมตอบ ศรีธาราทำเป็นมองไม่เห็นเดินนำทุกคนออกไป
เสียงเรียกของโซ่ทองดังขึ้น “สะออน”
สะออนหยุดเดินหันกลับมา เห็นโซ่ทองวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา
“อย่าไปเลย น้องหล่า อ้ายบ่ออยากให้เจ้าไป”
ญาแม่โกรธขึ้นมาทันที “มึงเป็นบ้าไปแล้วบ้อ บักโซ่ เว้าหยังออกมา”
โซ่ทองยกมือไหว้ “ญาแม่ อย่าบังคับสะออนเลย สะออนบ่อได้อยากไปพระนครกับท่านซายดอก”
ยาแม่โมโห หันไปด่านางสายที่วิ่งตามมาพอดี
“แม่สาย ฟังลูกเจ้าเว้าดู๊ กำเริบเสิบสานใหญ่ เป็นแค่ขี้ข้า มันถือดีจั่งใด๋มาก้าวก่ายเรื่องของลูกกู”
นางสายหน้าซีด วิ่งเข้ามาจับแขนโซ่ทองเป็นเชิงปราม แต่โซ่ทองไม่หยุดพูด
“ข้าน้อยจำเป็นต้องก้าวก่าย เพราะข้าน้อยฮักสะออน”
สะออนและคนอื่นๆ ตะลึงไปตามๆ กัน
“ญาแม่กับท่านซายกำลังมัดมือซกให้สะออนตัดสินใจเลือกสิ่งที่เพิ่นบ่อได้ต้องการ” โซ่ทองหันไปหาสะออน “สะออน บอกญาแม่ไปน้องหล่า ว่าเจ้าบ่ออยากไป”
ญาแม่เดือดดาลใหญ่ ตวาดลั่น “บักโซ่ มึงเก่งกับกูเกินไปแล้ว สะอาด พาน้องเจ้าไปขึ้นรถ”
สะอาดลังเลแต่เกรงใจยาแม่ ประคองสะออนจะไป โซ่ทองปราดเข้าไปคว้าแขนไว้
“สะออน อยู่กับอ้ายเด้อ”
“บักโซ่ ปล่อยลูกกูเดี๋ยวนี่”
ญาแม่เห็นโซ่ทองดึงแขนสะออนไว้ ก็เข้าไปดึงแขนอีกข้าง
“อ้ายฮู้ว่าเจ้าบ่อได้สนใจซีวิตผู้ลากมากดีอยู่เมือง เจ้าเคยบอกอ้ายว่าซีวิตแบบนั่น มันบ่อเหมาะกับเจ้า อย่าไปเลยเด้อ สะออน อยู่กับอ้ายเด้อ”
โซ่ทองฉุดแขนสะออนไว้ไม่ยอมปล่อย ขณะที่ญาแม่พยายามดึงแขนสะออนฉุดไว้ สะออนละล้าละลัง
“บักโซ่” ญาแม่ตวาด
“หรือถ้าเจ้าอยากไป ก็เว้าออกมาให้อ้ายได้ยินเต็มหู อ้ายสิปล่อยเจ้าไป”
สะออนมองหน้าโซ่ทองลำบากใจ ญาแม่พยายามฉุดสะออนไป แต่โซ่ทองไม่ยอมปล่อยมือ นางสายร้องไห้พยายามจะเข้ามาห้ามโซ่ทอง ศรีธาราทนไม่ไหว ก้าวเข้ามาหาโซ่ทองแล้วชกเปรี้ยง
“บ้าไปแล้วหรืออ้ายโซ่ เจียมตัวไว้ซะบ้างนะ ว่าตัวเองเป็นใคร”
โซ่ทองล้มไป ศรีธาราก้าวเข้ามาใกล้ ชี้หน้าด่า
“อ้ายไม่มีสิทธิ์ในตัวสะออน”
โซ่ทองปาดเลือดที่ซึมออกจากปาก แล้วลุกขึ้นต่อยศรีธาราคืน ทุกคนร้องวี้ดว้ายตกใจ
“ท่านชายนั่นล่ะ ที่บ่มีสิทธิ์ หยุดเอาฐานะสูงส่งของตัวเองมากดขี่บังคับจิตใจสะออนได้แล้ว”
ศรีธาราโกรธที่ถูกจี้ใจดำ เงื้อหมัดเข้าใส่ สองหนุ่มตะลุมบอนกันด้วยความแค้นใจ ศรีธาราออกหมัดหนักกว่าจนโซ่ทองเป็นฝ่ายเพลี่ยพล้ำ สะออนตัดสินใจสะบัดมือออกจากญาแม่ วิ่งถลามาห้าม
บนเรือนแพทย์ตอนนี้ เห็นพ่อแพทย์เดินซัดซังออกมาดูเหตุการณ์ เพราะได้ยินเสียงเอะอะดังลั่น
“หยุดเถาะเจ้าค่ะ ท่านซ่าย อย่าเฮ็ดอ้ายโซ่” สะออนร้องห้าม
“อย่าไปยุ่ง สะออน ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้” ญาแม่กระตุกแขนสะออนออกไป
สะออนไม่ยอม “ข้าน้อยต้องยุ่ง เพราะนี่มันเป็นเรื่องของข้าน้อย”
ญาแม่กับศรีธาราผงะ สะออนประคองกอดโซ่ทองไว้
“อ้ายเพิ่นเว้าถืกแล้ว ข้าน้อยบ่อได้อยากไปพระนคร ยาแม่กับท่านซายอย่าบังคับใจข้าน้อยเลย”
“นี่ เจ้าเว้าหยังออกมา”
“ข้าน้อยฮู้ว่าญาแม่อยากให้ข้าน้อยไปนั่นเฮ็ดหยัง”
ญาแม่สะอึก อึ้ง เถียงไม่ออก สะออนพูดต่อ
“แต่มันบ่อมีประโยชน์ดอก ซีวิตหรูหราในเมืองกรุง มันเปลี่ยนความคึดของข้าน้อยบ่อได้ดอก เป็นตายจั่งใด๋ ข้าน้อยก็ต้องดั้นด้นกลับมาอยู่อีสานบุรีบ้านเกิดข้าน้อยอยู่ดี ข้าน้อยบ่อเคยใฝ่ฝันอยากไปย้อมโตเองในบ่อทองให้เป็นสาวพระนคร ข้าน้อยเป็นคนอีสานบุรี โตข้าน้อยเป็นคนบ้านนี่ หัวใจข้าน้อยก็เป็นของคนบ้านนี่”
สะออนพูดพลางกุมมือของโซ่ทองไว้ ทั้งสองสบตากันอย่างซึ้งใจ
“สะออน...” ศรีธาราอึ้ง
“ข้าน้อยขอบใจท่านซายสำหรับความเมตตา แต่ท่านชายกลับไปใซ้ชีวิตของท่านชายเถาะเจ้าค่ะ”
ศรีธาราถอยร่นออกไปเหมือนคนหมดแรง สายวารีเข้าประคองไว้ ศรีธาราหน้าสลด รู้แล้วว่าแพ้โซ่ทองยับเยิน ขณะที่คนอื่นๆ ยังช็อกอยู่ ญาแม่ตั้งสติได้โพล่งออกมา
“หยุดเว้าจาเพ้อเจ้อได้แล้ว เจ้าต้องไปกับแม่ เดี๋ยวนี่”
ญาแม่เข้ามาจะดึงแขน แต่ถูกสะออนสะบัด พูดเสียงดังทั้งน้ำตา
“ข้าน้อยบ่อไป ฆ่าข้าน้อยให้ตาย แล้วอุ้มเอาร่างกายไปซะ แต่หัวใจข้าน้อย ขออยู่นี่ อยู่กับอ้ายโซ่ทอง”
สะออนพูดจบก็กอดโซ่ทองแน่น ญาแม่ช็อก ศรีธาราหน้าซีดเป็นกระดาษขาว ค่อยๆ หันหลังหนี ญาแม่ละล้าละลังเข้าห้าม
“ท่านซายอย่าเพิ่งใจฮ้อนนะเจ้าคะ ขอเวลาข้าน้อยเว้ากับลูกซักประเดี๋ยว ท่านซาย...”
ญาแม่ละล่ำละลักต่อรอง แต่ศรีธาราทำเหมือนไม่ได้ยิน เดินคอตกผ่านญาแม่ไปเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก โดยมีสายวารีคอยประคอง สะหวีวิไลวันทำตัวไม่ถูก รีบตามทั้งสองไป
“ท่านซาย...”
ญาแม่พยายามร้องเรียกไว้ แต่ศรีธาราเดินต่อไปโดยไม่หันกลับมา ขณะที่สะออนกับโซ่ทองยังคงประคองกอดกันแน่นอยู่ที่พื้น
ในขณะที่นางงอเดินลัดเลาะมาทางหน้ากระท่อมเรือนโซ่ทองกับนางสาย แล้วต้องชะโงกมองเพราะได้ยินเสียงเอะอะ มองชัดๆ จึงเห็นญาแม่คำอ่อนขว้างห่อเสื้อผ้าของสองแม่ลูกลงบนพื้น
“ไปเลยเด้อมึงสองโต อีพวกกินเทิงเฮือน ขี้ฮาดเทิงหลังคา”
นางสายกอดโซ่ทองร้องไห้ ก้มลงเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายที่พื้น สะออนเข้ามาขวางยกมือไหว้
“ข้าน้อยไหว้ล่ะจ้ะ ญาแม่”
“นี่เจ้าสิตามพวกมันไปซั่นบ้อ สะออน อีลูกบ่อฮักดี”
“ถ้าญาแม่บ่อปรานีข้าน้อยแล้ว ข้าน้อยก็พร้อมสิไป”
ยาแม่ยิ่งโกรธจัด เผลอตัวเงื้อมือเหมือนจะตบสอาง แต่เสียงพ่อแพทย์ดังขึ้น
“ข้อยสิไม่ยอมให้ไผไปไสทั้งนั้น”
ยาแม่ชะงักหันไปมอง เห็นสะอาดประคองพ่อแพทย์เข้ามา นางงอที่ซุ่มมองอยู่ ชะโงกหน้ามาดูอย่างสนใจ
“พ่อแพทย์”
“โซ่ทองเป็นลูกศิษย์ข้อย เลี้ยงมันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ตั้งแต่ทิดทองตาย มันก็นับถือว่าข้อยเป็นพ่อ แม่สายก็เป็นคนของท่านพ่อแพทย์จันทกุมาร ถึงบ่อแม่นญาติทางเลือด แต่ก็เป็นญาติทางใจ เจ้าสิไล่ตะเพิดไปไสบ่ได้” พ่อแพทย์เสียงเข้ม
“แต่บักโซ่ทองมันบ่อฮู้จักบ่อนต่ำบ่อนสูง ขี้ข้าห้าเบี้ยใต้ถุนเฮือน คิดมักใหญ่ใฝ่สูง หวังสิหลอกลวงสะออน”
โซ่ทองขัดขึ้นพยายามอธิบาย “ข้าน้อยบ่อเคยคิดแบบนั่น ความฮู้สึกที่ข้าน้อยมีให้สะออน เป็นความฮักที่บริสุทธิ์ใจ ข้าน้อยกับสะออนผูกพันกันมาตั้งแต่ยังน้อย...”
ยาแม่ตวาด “พอแล้ว มึ่งบ่อต้องมาเว้า กูบ่ออยากฟัง จั่งใด๋ เรื่องของมึงกับสะออน มันก็เป็นไปบ่อได้”
โซ่ทองก้มหน้านิ่งเจียมตัว พ่อแพทย์ถอนใจเฮือก
“เป็นหยังสิเป็นไปบ่อได้ล่ะ แม่คำอ่อน ถ้าลูกเฮากับบักโซ่ทองสิฮักกัน”
ญาแม่แทบเต้น ขัดใจมาก ประกาศกร้าว “พ่อแพทย์เว้าออกมาได้จั่งใด๋ สะออนมันเป็นถึงลูกสาวแพทย์หลวง เกิดมาในตระกูลหัวเจ้าบ้าน สิให้มันมีผัวเป็นขี้ข้าใต้ถุนเฮือน ข้อยยอมบ่อได้”
พ่อแพทย์จ้องหน้าเมีย “ตอนที่ข้อยเป็นแค่คนจร ร่อนเร่มาจากบ้านอื่น ได้มาพบพ้อกับลูกสาวหัวเจ้าบ้านอย่างแม่คำอ่อน เป็นหยังแม่คำอ่อนถึงบ่อรังเกียจข้อยคือกับบักโซ่มัน”
นางงอนิ่งงัน นึกถึงความหลังขึ้นมา ขณะที่ยังแอบฟังทั้งสองคุยกัน
“มั่นบ่อคือเด้ พ่อแพทย์” ญาแม่ไม่ยอมรับ
“บ่อคือจั่งใด๋ สมัยนั้น ข้อยเป็นแค่ลูกศิษย์ของท่านพ่อแพทย์ บ่อมีหัวนอนปลายตีน เหมิดสิ้นสมบัติพัสถาน ต่ำต้อยด้อยวาสนาบ่อต่างกับบักโซ่ แต่เจ้าก็ฮับไมตรีจากข้อย เฮาสองคนอยู่กินกัน ก็ย่อนความฮัก มาจนถึงทุกมื่อนี่ เจ้าสิบอกว่าโตเองบ่อมีความสุขซั่นบ้อ”
พ่อแพทย์พูดให้เมียได้คิด โดยไม่รู้ว่ากำลังรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ที่สะเทือนใจนางงอ
“ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา เฮามีความสุขกับครอบครัวที่เฮาสร้างมาด้วยความฮัก แล้วเจ้าบ่ออยากเห็นลูกมีความสุขคือเฮาสองคนแนบ้อ”
นางงอสุดจะทนฟังพ่อแพทย์เหยียบย่ำหัวใจตัวเอง ค่อยๆ หันหลังกลับ เดินออกไปทั้งน้ำตา
ญาแม่น้ำตาซึม มองสะออนที่กอดโซ่ทองสะอื้นไห้ แล้วหันไปเห็นสะอาดน้ำตานองหน้า มองมาด้วยแววตาอ้อนวอน
“ปล่อยให้เพิ่นเลือกทางเดินซีวิตโตเองสา แม่คำอ่อน เห็นแก่ความสุขของลูกแน อย่างน่อย ถ้าข้อยตาย ก็ขอให้ข้อยตายตาหลับ ที่เห็นลูกมันมีความสุข” พ่อแพทย์พูดกับเมียดีๆ
ญาแม่ปาดน้ำตา ยังทำใจไม่ได้เพราะเสียดายลูกเขยไฮโซอีสานอย่างศรีธารา
สะอาดขึ้นเรือนมา เห็นห่อเสื้อผ้าของญาแม่มีคนวางไว้บนเรือนแล้วก็จะเอากลับเข้าไปเก็บในห้อง แต่ญาแม่เดินออกมา
“บ่อต้องเก็บของแม่”
“เป็นหยังล่ะจ๊ะ ญาแม่”
ญาแม่ตอบท่าทีมึนตึง “แม่สิไป่น่อนเฮื่อนแม่ป้าคำอุ่น”
“มื้ออื่น ญาพ่อสิแต่งพิธียกอ้อยอครู ให้โซ่ทองได้ขึ้นยศเป็นแพทย์หลวง ญาแม่น่าสิอยู่นำกัน”
ญาแม่หันขวับมองสะอาดตาแดงๆ
“ที่แม่ยอมลดราวาศอกให้ก็โพดโพแล้ว อย่าเพิ่งบังคับให้แม่นั่งกราบไหว้ยินดีกับมันเลย”
“แต่ญาพ่อกับน้องคงสิเสียใจ”
“แม่ก็เสียใจที่บ่อมีไผเห็นความหวังดีของแม่ พากันคึดว่าแม่เป็นยักษ์เป็นมารกันไปเหมิด ยาพ่อของเจ้าสิยกยอปอปั้นบักโซ่ก็เฮ็ดไปโลด แม่ขอไปเฮ็ดใจไกลๆจากนี้”
ญาแม่พูดจบก็คว้าห่อผ้าเดินลงเรือนไป สะอาดมองตามด้วยสีหน้าสะเทือนใจ
ค่ำนั้น โซ่ทองนั่งป้อนผลไม้ให้นกอีแก้วอยู่บนเรือนแพทย์ จนเห็นสะออนเดินหน้าเศร้าเข้ามานั่งด้วย
“ยาแม่ยอมกลับเฮือนบ่อ สะออน”
สะออนส่ายหน้า “ยาแม่เพิ่นเป็นคนแข็ง แต่แม่ป้าคำอุ่นบอกว่า สิซ่อยเว้าให้ อ้ายอย่าเสียใจไปเลยเด้อ ยาแม่ใจแข็งบ่อโดนดอก จั่งใด๋ ลึกๆ เพิ่นก็ฮักเอ็นดูอ้าย”
โซ่ทองหน้าเศร้า “แต่ก็บ่อหลายพอที่สิยอมฮับอ้ายเป็นลูกเขยหล่าได้ดอก”
“ให้ถึงมื่อนั่นก่อนอ้าย” สะออนช่วยป้อนผลไม้ให้นกอีแก้ว “อีแก้ว บอกพ่อของเจ้าแหน่ ว่าอย่าเพิ่งใจน้อย อย่าเพิ่งคึดหยังหลาย”
โซ่ทองค่อยยิ้มออก หย่อนผลไม้เข้าไปในช่องใกล้ๆ กันกับนิ้วสะออน
“ก็ได้ อ้ายสิถ่า แต่เจ้าต้องห้ามเปลี่ยนใจก่อนสิถึงมื่อนั่นเด๊อ”
สะออนทำไก๋ “เปลี่ยนใจหยัง”
โซ่ทองยื่นนิ้วก้อยเข้าแตะนิ้วก้อยสะออนที่คาอยู่ในกรงนก
“ก็เปลี่ยนใจไปเลือกคนอื่นที่บ่อแม่นอ้ายนั่นแหล่ว”
สะออนเขินอาย หลบสายตา
“ข้อยสิไปหาไผมาแทนอ้ายได้อีกล่ะ ไล่ตะเพิดกลับไปเหมิดแล้ว”
“สัญญาแล้วเด้อ”
โซ่ทองทำนิ้วเหมือนตะขอเกี่ยวกับนิ้วก้อยสะออนเป็นคำสัญญิงสัญญา สะออนก้มหน้าเอียงอาย พอเหลือบมองเห็นโซ่ทองจ้องอยู่ก็ยิ่งเขิน โซ่ทองยิ้มเอ็นดู
“อีแก้วฮักพ่อ อีแก้วฮักแม่ อีแก้วฮักพ่อ อีแก้วฮักแม่”
ทั้งสองเหลือบมองอีแก้วแล้วยิ้มให้กำลังใจกันอีก
ยินเสียงโอ้กอ้ากดังลั่นตำหนักใหญ่วังอินทนิล เป็นสอางกำลังโก่งคออาเจียนใส่กระโถนทองอยู่บนเตียงในห้องนอนชั้นบน โดยมีเสาช่วยดูแลลูบหลังไปมา สอางอาเจียนออกมาหมดเหนื้อหมดตัวแทบทรุด เสาประคองถามอาการ
“เป็นจั่งใด๋แหน่เจ้าคะ แม่เจ้าสอาง”
“อีนี่ ถามออกมาได้ ก็เมื่อยจนกูสิเป็นลมนั่นแหล่ว ไสล่ะ ยาหอมยาลม เอามาให้กูเร็วๆ”
“มาแล้วเจ้าค่า แม่เจ้า มาแล้วเจ้าค่า...”
สีแหล่ยกถาดยาเข้ามาวางข้างเตียง เอายาป้อนถึงปาก เสาช่วยบีบนวดคลายเส้น
“โอ๊ย มาทรมานแท้น้อ เป็นหยังคนท้องคนไส้มันจึงทรมานสังขารปานนี่ ถ่าเบิ่งเด๊อ กูสิบ่อยอมมีลูกอีกแล้ว มีคนเดียวพอ” สอางบ่นๆ แล้วนึกได้ “แล้วนี่พ่อเจ้าอยู่ไส บ่อคึดสิมาดูดำดูดีกูเลยบ้อ”
“อั่น พ่อเจ้า...ออกไปธุระข้างนอกเจ้าค่ะ” สีแหล่บอก
สอางฟังแล้วกรี๊ด ตีอกชกตัวด้วยความโมโห เสากับสีแหล่ต้องช่วยกันปลอบ
“สูเห็นบ่อ เพิ่นบ่อห่วงกูเลยจักหน่อย ขนาดกูอุ้มท้องลูกให้เพิ่นแท้ๆ กูนี่มันมีกรรมหยัง มีผัวจักคน ก็หาดีบ่อได้”
“ใจเย็นๆ เจ้าค่ะแม่เจ้า พ่อเจ้าเพิ่นก็คงปวดประสาทเรื่องของเพิ่น ก็เลยลืมนึกถึงแม่เจ้าไป” เสาว่า
“ฮ่วย แล้วมันเป็นความผิดของกูเบาะ กูบ่อได้เป็นคนไล่ซุมลูกทรพีนั่นออกไปจากวังเด้ ประสาลูกเมียเก่า สิอาลัยอาวรณ์หยังคักแน”
สีแหล่บอกเสียงอ่อย “อั่น แต่...เพิ่นออก ไปก็ย่อนแม่เจ้าสอางเด้เจ้าคะ”
“อีสีแหล่ มึงเป็นพวกไผ”
สอางยัวะ คว้าหมอนขว้างใส่ สีแหล่เอามือกั้นไว้ แล้วเข้ามารวบขากอดเข่าสอาง
“บ่อแม่นจั่งซั่นเจ้าค่ะ ข้าน้อยแค่สิบอกว่า มีแม่เจ้าสอางผู้เดียวทอนั่น ที่สิแก้ปัญหานี่ได้ ถ้าอยากให้พ่อเจ้าเพิ่นสำบายใจ แม่เจ้าก็น่าสิลองไปออยเจ้าศรีธารากับเจ้าสายวารี ให้กลับวังเด้เจ้าคะ ถ้าแม่เจ้าเฮ็ดให้พ่อลูกกลมเกลียวกันได้ ข้าน้อยว่า พ่อเจ้าก็สิยิ่งฮักแม่เจ้าหลายขึ้นอีกเจ้าค่า”
สอางชะงัก คิดตามที่สีแหล่พูด สีหน้าท่าทางออ่อนลง
เช้าวันนี้พิธีมียกอ้อยอครูของโซ่ทอง มีแต่คนในเรือนพุทไธมาร่วมพิธี โซ่ทองวางพานไหว้ครู พร้อมกับก้มลงกราบพ่อแพทย์ คนอื่นๆ รายล้อมอยู่รอบๆ สะออน นางสาย สะอาดมีสีหน้าชื่นชมยินดี
ภายในพานไหว้ครูซึ่งชาวอีสานเรียกว่าขัน 5 จะประกอบด้วย ขันแรกสำหรับไหว้ครูธรรม ใส่ผ้าขาว เหล้าขาว ไข่ไก่สุก 1 ฟอง กรวยที่เรียกว่าขันห้า เทียนเล่มปาก 1 คู่ เทียนจุด 1 คู่ เทียนเล็ก 5 คู่ ดอกไม้ 5 คู่ ซึ่ง 1 คู่นั้นไหว้ข้างนอกเพื่อเป็นการคาราวะ และเงิน 6 สลึง อีกขันไหว้ครูแถน นางฟ้าเทวดา เครื่องพิธีประกอบหลักๆ มีเหมือนกันกับครูธรรม เพียงแต่ครูเทวดาหรือครูพระยาแถนนี้มีกำไลข้อแขน-ขา หวี กระจก น้ำมันงา เส้นผมเกล้าหนึ่งกระจุก ผ้านุ่ง เครื่องแต่งตัวครบและเงินใส่ขัน 1 บาท
พ่อแพทย์มองโซ่ทองแล้วน้ำตาคลอด้วยความภูมิใจ หวนนึกถึงพิธีกรรมของตัวเองในอดีต
“โซ่ทองเอ้ย ต่อไปนี้ ก็นับว่าเจ้าเป็นโตแทนของข้อยแล้ว ฝากเจ้าดูแลไทบ้านแคนหลวง ซ่อยเหลือคนโดยบ่อเลือกยากดีมีจน ซนซั้นวรรณะ และถ่ายทอดวิซาแพทย์ของครูข้อยให้สืบต่อไป อย่าให้ดับสูญ”
“จ้ะ พ่อแพทย์”
“ส่วนเรื่องของเจ้ากับสะออน ข้อยสิปลูกเฮือนใหม่ให้อยู่ เอาไว้ให้เฮือนเสร็จแล้ว จั่งจัดพิธีแต่งดอง เจ้าสิว่าจั่งใด๋”
“สุดแท้แต่พ่อแพทย์สิเห็นดีเห็นงามจ้ะ”
“สะออนเด๋ลูก”
พ่อแพทย์หันไปหาลูกสาวคนเล็ก สะออนยิ้มขวยเขิน
“ข้าน้อยก็ว่าตามยาพ่อจ้ะ”
พ่อแพทย์ยิ้มพอใจ “ถ้าจังซั่น ระหว่างนี่ ก็เฮียนฮู้เบิ่งนิสัยใจคอกันไปก่อน พ่อฮู้ว่าเจ้า ทั้งสองฮู้จักกันมาโดน แต่ถ้าคิดสิครองฮักกันเป็นผู้บ่าวผู้สาว ก็ต้องอีกหลายอย่างหลายแนวที่ต้องศึกษากัน ขอให้วางโตอยู่ในฮีตในคอง อย่าให้ไผเว้าได้ ว่าพ่อและครูของเจ้าบ่อได้อบรม”
โซ่ทองกับสะออนรับคำ แล้วยกมือไหว้ พ่อแพทย์ลูบหัวทั้งสองอย่างรักใคร่
สะออนกับโซ่ทองประคองพ่อแพทย์ให้นอนลงพักผ่อน หลังจากเก็บข้าวของในพิธีเรียบร้อยแล้ว
“เดี๋ยวข้าน้อยกับญาเอื้อยสิเอาผ้าขาวที่เพิ่งต่ำแล้ว ไปถวายท่านแม่ซีอยู่วัด แล้วสิแวไปหาญาแม่จ้ะ”
“ถ้าญาแม่ของเจ้ายังบ่ออยากกลับมา เจ้าก็บ่อต้องไปเขี่ยวเข็ญเพิ่นดอก ให้เพิ่นพักสมองอยู่กับแม่ป้าให้สำบายใจ”
“จ้ะ ญาพ่อ”
สะออนห่มผ้าให้พ่อแพทย์แล้วลุกออกไป พ่อแพทย์หันมาหาโซ่ทอง
“มีเวียกงานหยังก็ไปเฮ็ดสา บักโซ่ ต้องไปเบิ่งอาการยาครูบ่อแม่นบ้อ”
โซ่ทองมีท่าทีลังเลเหมือนมีความในใจ “ข้าน้อยก็ว่าสิไปจ้ะ แต่มีเรื่องอยากสิปรึกษาพ่อแพทย์ก่อน”
“เรื่องหยัง”
“ตั้งแต่เซ้าที่แต่งพิธียกอ้อยอครู บ่าวไพร่ในเฮือนขึ้นมากันเหมิด ยกเว้นแม่งอ” โซ่ทองลังเลที่จะพูด “ข้าน้อยก็เลยคึดได้ว่า มื่อก่อน ข้าน้อยกับสะออนพ้อแม่งอ อยู่สำนักพ่อครูสมิงพันดง”
พ่อแพทย์ขมวดคิ้ว ท่าทางคาดไม่ถึง
นางงอนั่งสางผมอยู่หน้ากระจก ดวงตาแดงก่ำเหมือนคนร้องไห้หนักหน่วงมาทั้งวันทั้งคืน
นางงอแอบฟังพ่อแพทย์คุยกับญาแม่ ตัดเร็วๆ สลับกับสีหน้านางงอที่เจ็บช้ำกับความในใจพ่อแพทย์
“ตอนที่ข้อยเป็นแค่คนจร ร่อนเร่มาจากบ้านอื่น ได้มาพบพ้อกับลูกสาวหัวเจ้าบ้านอย่างแม่คำอ่อน เป็นหยังแม่คำอ่อนถึงบ่อรังเกียจข้อยคือกับบักโซ่มัน”
“สมัยนั้น ข้อยเป็นแค่ลูกศิษย์ของท่านพ่อแพทย์ บ่อมีหัวนอนปลายตีน เหมิดสิ้นสมบัติพัสถาน ต่ำต้อยด้อยวาสนาบ่อต่างกับบักโซ่ แต่เจ้าก็ฮับไมตรีจากข้อย เฮาสองคนอยู่กินกัน ก็ย่อนความฮัก มาจนถึงทุกมื่อนี่”
“ถ้าตอนนั่น เฮามัวคึดถึงแต่ความเหมาะสม ก็คงบ่อได้แต่งดองกัน ย่อนว่าข้อยก็มีคนอื่นที่เหมาะสมกับข้อยอยู่ แต่สุดท้ายข้อยก็เคารพหัวใจโตเอง คือกันกับเจ้า ที่เลือกข้อย ย่อนเคารพหัวใจโตเอง”
นางงอฟังพ่อแพทย์พูดถึงความหลังกับยาแม่ด้วยความเจ็บใจ เหมือนถูกตอกย้ำว่าพ่อแพทย์ไม่เคยมีตนเองในหัวใจเลย
“ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา เฮามีความสุขกับครอบครัวที่เฮาสร้างมาด้วยความฮัก แล้วเจ้าบ่ออยากเห็นลูกมีความสุขคือเฮาสองคนแนบ้อ”
นางงอคิดถึงคำพูดพ่อแพทย์อย่างปวดร้าวใจ
“ความสุข ผู้ใด๋ก็พากันมีความสุข มีแต่กูผู้เดียวที่ต้องทนทุกข์ทรมาน”
นางงอรำพึงเสียงสั่นเครือ แล้วสะอื้นไห้ออกมา ก่อนจะฟุบหน้าลงร้องไห้หน้ากระจก
เมื่ออดีต ร่างของพ่อแพทย์จันทกุมารหมดลมหายใจแล้วนอนอยู่บนเรือน สภาพศพพุพองบริเวณใบหน้าเพราะเกิดจากการถูกน้ำร้อนราด จันทร์กอดพ่อ ร้องไห้คร่ำครวญ
“ยาพ่อ...ยาพ่อ ไสว่าสิบ่อถิ่มข้าน้อยไป” จันทร์หันไปหาพุทไธ “เป็นหยังถึงเป็นแบบนี่ล่ะอ้าย ไสบอกว่าถ้ายาพ่อลงไปดูดพิษแล้ว ยาพ่อสิต้องหาย”
“นั่นแหล่วอ้ายหมอ เป็นหยังถึงเป็นแบบนี่” ทิดทองถาม
พุทไธมีสีหน้าเครียดจัด จับดูบริเวณใบหน้าของพ่อแพทย์
“แผลพุพองเต็มหน้าแบบนี่ คงเกิดจากพิษถืกขับออกมาหลายเกินไป ข้อยก็คึดบ่อถึงว่าพ่อแพทย์สิต้องยาพิษฮ้ายแฮงปานนี่”
จันทร์ได้ยินก็ยิ่งร้องไห้ดังขึ้น ทิดทองหันไปมองหน้าสาย เห็นสายเอาแต่ก้มหน้าก้มตาซับน้ำตามีพิรุธ
“ยาพ่อกลับคืนมาก่อน ไสยาพ่อบอกว่าสิบ่อถิ่มข้าน้อยไป”
จันทร์กอดศพพ่อแพทย์จันทกุมารร้องไห้ฟูมฟาย พุทไธเข้าไปกอดปลอบโยน สีหน้าเครียด
ในเวลาต่อมา พุทไธนั่งคุยกับท้าวบุดดา และ ญาแม่คำหอม พ่อแม่ของคำอ่อน มีคำอ่อนนั่งร่วมวงอยู่ด้วย
“ข้อยฮู้ว่าเจ้ายังเศร้าโศกเสียใจเรื่องพ่อแพทย์จันทกุมารอยู่ แต่นี่มันก็ผ่านเวลามาโดนแล้ว เจ้าก็ควรสิเริ่มคึดเรื่องแต่งดองกับคำอ่อนได้แล้ว”
“ลูกสาวแม่เป็นสาวเป็นนาง ไทบ้านก็ฮู้กันเหมิดแล้วว่าฮักอยู่กับเจ้า แต่ถ้าบ่อจัดการตบแต่งให้เป็นเรื่องเป็นราว มันก็สิพากันไปเว้าเสียๆ หายๆ ท้าวหมอพุทไธต้องเข้าใจเด้ ว่าแม่บ่อสำบายใจ” ญาแม่คำหอมว่า
“ข้าน้อยเข้าใจจ้ะ”
“ถ้าจังซั่น ก็ตกลงปลงใจสา สิได้ฟ่าวแต่งดองออกเรือน ถ้าเจ้าแต่งกับลูกสาวข้อย ข้อยก็สิยกสมบัติทั้งเหมิดให้ รวมทั้งยศถาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่งหัวเจ้าบ้าน ให้เจ้ายิ่งใหญ่สุขสำบายไปตลอดซาติ”
พุทไธยังไม่ทันจะตอบอะไร จันทร์ก็พรวดพราดเข้ามากลางวง
“กูมาสมเพชแท้ พวกพ่อแม่อุบาทว์ เอาลูกออกเร่ขาย หน้าบ่อมียางอาย กูเห็นพวกขายงัวขายควาย ยังเว้าให้งัวควายฟังเบิ่งมีราคากว่านี่เลย”
พุทไธปราม “จันทร์...”
บุดดาไม่พอใจ “อีจันทร์ นี่มึงเหยียบขึ้นมาเว้าก้าวร้าวห้าวหาญเทิงเฮือนกูได้จั่งใด๋”
“กูมาเบิ่งน้ำหน้าพ่อแม่ที่มันอยากให้ลูกมีผัว จนต้องยัดเยียดสมบัติพัสถานให้พ่อซาย” จันทร์ตวัดสายตามองคำอ่อน “แล้วกูก็อยากเห็นน้ำหน้าของอีแม่ญิงที่มันบ่อมีปัญญาหาผัวเอง จอบแต่สิยาดแย่งเอาคู่หมั้นคู่หมายของผู้อื่น”
“ไผกั่นแน่ที่บ่มีปัญญาหาผัว จนต้องมาทวงสิทธิ์คู่หมั้นคู่หมาย ทั้งที่เจ้าโตเขาบ่อได้พิศวาสเลยจักหน่อย”
“อีคำอ่อน”
จันทร์หวีดร้อง เงื้อมือจะพุ่งเข้าตบ แต่พุทไธคว้าไว้
“จันทร์ น้องหล่า อย่าเฮ็ดจังซี่ ข้อยขอล่ะ”
“ถึงจั่งใด๋ อ้ายพุทไธก็ต้องแต่งดองกับกู ตามที่ยาพ่อกูสั่งไว้ เพราะว่าเพิ่นต้องเบิ่งแยงเฮือนพุทไธเทพต่อไป มึงบ่อมีทางได้สมหวังกับเพิ่นดอก”
“พอแล้วจันทร์ กลับเฮือนเฮาเดี๋ยวนี่”
พุทไธดึงตัวจันทร์กลับลงเรือนไป คำอ่อนมองตามด้วยสายตาเจ็บแค้น โฟกัสที่ดวงตาที่จ้องมอง
กลับถึงเรือนพุทไธเทพ จันทร์พุ่งเข้าทุบตีพุทไธด้วยความแค้นใจและน้อยใจ
“อ้ายเฮ็ดให้ข้อยอับอายขายขี้หน้า ทั้งที่ยาพ่อประกาศให้คนเหมิดบ้านฮู้แล้ว ว่าอ้ายต้องครองเฮือนนี่คู่กับข้อย เป้นหยังถึงยังไปยุ่งกับอีนั่น”
“เจ้าก็ฮู้ ว่าอ้ายกับคำอ่อน...”
“ข้อยบ่อฮับบ่อฮู้หยังทั้งนั้น ข้อยฮู้แต่ว่า อ้ายต้องเฮ็ดตามคำสั่งของยาพ่อ เพราะว่าเพิ่นมีบุญคุณต่ออ้าย ถ้าบ่อมีบุญคุณยาพ่อของข้อยค้ำวาสนาไว้ อ้ายสิได้เป็นพ่อแพทย์พุทไธอย่างทุกมื้อนี่บ้อ”
พุทไธถอนใจ
“ในเมื่อข้อยบ่อมีทางเลือก ข้อยก็คงต้องครองเฮือนทั้งเจ้ากับคำอ่อนแกมกัน”
จันทร์ไม่ยอม “บ่อ ข้อยบ่อยอมใช้ผัวร่วมกับอีนังคำอ่อน มันต้องมีวิธี มันต้องมีทางออกทีดีกว่านี้”
“ทางออกหยังของเจ้า”
จันทร์นัดคุยกับคำอ่อนที่ริมแม่น้ำในเวลาต่อมา
“มึงกับพ่อแม่มึง กำลังสิยาดแย่งของมีค่าอันเดียวที่กูเหลือในซีวิต”
“แต่อ้ายหมอพุทไธเพิ่นมาฮักกูเอง กูบ่อเคยไปบังคับจิตใจเพิ่น มึงนันล่ะ ที่เอาบุญเอาคุณมาบีบคั้นบังคับเพิ่น”
“มึงสิเว้าจั่งใด๋ ก็เรื่องของมึง ถึงจั่งใด๋ อ้ายหมอพุทไธก็ต้องแต่งกับกู”
“อ้ายพุทไธก็ต้องแต่งกับกู มึงถอยไปสาเถาะ อีจันทร์ แม่นบีบคั้นปานใด๋ หัวใจของเพิ่นก็บ่อมีมึงอยู่ในนั่นดอก”
“ในเมื่อมึงกับกู บ่อมีไผยอมกัน มันก็มีวิธีตัดสินอยู่ ว่าแต่มึง สิยอมรับมันได้บ่อ”
“บ่อมีทางกล้าออกปากว่าสิแต่งดองกับมึงให้กูได้ยินดอก ถึงมึงสิบอกว่าใจเพิ่นฮักมึงปานใด๋ แต่เพิ่นติดคำสัญญากับพ่อกู บ่อมีทางเปลี่ยนคำได้”
คำอ่อนนิ่งคิด
“วิธีหยังของมึง ว่ามา ถ้ามันเฮ็ดให้กูได้แต่งกับอ้ายพุทไธสมใจ เสียทอใด๋ กูก็ยอมแลก”
“วิธีเสี่ยงดวง ให้ฟ้าดินเป็นพยาน”
จันทร์พูดพลางจ้องตอบคำอ่อน สายตาวาวจ้า ทั้งสองคนประจันสายตากันไม่มีใครยอมใคร
วันใหม่ในอีกหลายวันต่อมา
พุทไธนั่งอยู่ ต่อหน้าจันทร์และคำอ่อน ที่ประจันหน้ากันบนเรือนพุทไธเทพ สถานการณ์ตึงเครียด ทุกคนเงียบกริบ
“เจ้าสองคน คิดไตร่ตรองด้วยปัญญาดีแล้วบ้อ”
“สุดปัญญาที่ข้อยสองคนสิคึดได้แล้วล่ะ” จันทร์บอก
“ดีที่สุดแล้ว ข้อยพร้อมฮับเดิมพันนี้” คำอ่อนว่า
“บุญวาสนามันแข่งกันบ่อได้ดอก ไผดวงสูงก็ได้ครองผัวสิทธิ์ขาด ไผดวงต่ำก็ก้มหน้าใซ้เวรใซ้กรรมไป ยกเว้นว่าสิมีไผใจเสาะ ขอถอนโตกลับไป” จันทร์มองปรามาสคำอ่อน
“ข้อยบ่อย่านแพ้ดอก ถึงมันสิเสี่ยง แต่ข้อยก็พร้อมแลก”
“ปากดี รินยามาอ้าย ไผสิหงาย ไผสิคว่ำ ก็ให้มันฮู้ดำฮู้แดงกันไปเลย”
พุทไธถอนหายใจ ก่อนจะรินน้ำร้อนลงใส่ถ้วยสองใบ คลี่ห่อผ้าห่อแรก เทผงยาลงไปละลายน้ำ ตามด้วยห่อที่สอง เทผงยาลงละลายน้ำเช่นกัน
“ยาสองถ่วยนี่ มีถ่วยนึง เป็นยาหอมยาลมบำรุงเลือด อีกถ่วยนึงเป็นยาสลายกระดูก”พุทไธหน้าเครียดจัด ถอนหายใจ “หากผู้ใด๋ได้กินยาสลายกระดูก ก็ต้องพบกับความพิกลพิการไปซั่วซีวิต ถึงบ่อตาย ก็ส่ำตายทั้งเป็น”
พุทไธจ้องมองทั้งสอง สีหน้าของคำอ่อนกับจันทร์แน่วนิ่ง มองยาทั้งสองถ้วย ทั้งสองสาวยื่นมือเข้าไปรับถ้วยพร้อมกัน พุทไธมองทั้งสองลุ้นๆ
ใบหน้าคำอ่อนกับจันทร์มองถ้วยยาในมืออย่างตัดสินใจ แล้วยกขึ้นจรดบนริมฝีปาก ค่อยๆ ดื่มกินยาในถ้วยนั้นเข้าไป
ใบหน้าของพุทไธและคนอื่นๆ มองลุ้นๆ ก่อนที่จะได้ยินเสียงถ้วยยาอันหนึ่งหล่นเคล้งตกลงพื้น พร้อมกับเสียงกรีดร้องทุกข์ทรมาน
พุทไธ นางสายและคนอื่นๆ มีสีหน้าตื่นตระหนกตกใจ เช่นเดียวกับคำอ่อน
กลายเป็นทองจันทร์ ที่ทรุดกองกับพื้นด้วยความเจ็บปวด ชักดิ้นชักงอ ร้องโหยหวนด้วยความทุกข์ทรมาน แสนสาหัสสุดจะประมาน
คืนนั้น เห็นหลังงอค่อมของนางงอกำลังขโมยสมุดตำรายาอยู่ในห้องเก็บยาบนเรือนแพทย์ มีสายตาของใครคนหนึ่งตามเข้ามาเงียบๆ
“เฮ็ดหยังอยู่ แม่งอ”
นางงอสะดุ้งเฮือกหันกลับมา เห็นพ่อแพทย์จ้องอยู่
“พ่อแพทย์”
นางงอหน้าซีดเผือด
อ่านต่อ ตอนที่20