ซิ่นลายหงส์ ตอนที่16 สะอาดรับไม่ได้เรื่องน้องสาวกับพ่อเจ้า
บทประพันธ์ : ณไทย ภัทรกวีกานท์ บทโทรทัศน์ : ปริศนา / ณไทย ภัทรกวีกานท์
พ่อเจ้ายืนอึ้ง นิ่งงัน มองต่างหูในมือศรีธาราไปไม่เป็น สีหน้าของศรีธาราดูผิดหวังไม่น้อยสังหรณ์ใจบางอย่าง แต่ยังแกล้งถาม
“ทองมีทำหล่นไว้ตอนที่เก็บกวาดห้องท่านพ่อหรือเปล่าครับ แต่ผมก็ไม่เคยเห็นเขาใส่ของมีราคาแบบนี้”
พ่อเจ้าหน้าซีดเผือด รู้ว่าโกหกไปก็ยิ่งทำให้ตัวเองดูแย่กว่าเดิม
ทันใดประตูห้องก็เปิดพรวดเข้ามาโดยสอาง ในมือถือต่างหูอีกข้างมาด้วย
“พ่อเจ้า เห็นตุ้มหูของข้าน้อยอีกข้างบ่อเจ้าคะ”
สอางผงะเมื่อหันไปเห็นศรีธาราอยู่ในห้องด้วย ศรีธาราเองก็อึ้งไป เมื่อความจริงกระจ่างขึ้นตรงหน้า มองพ่อเจ้าอย่างผิดหวัง
“ท่านพ่อ”
พ่อเจ้าละอายใจ “ศรีธารา ไปรอพ่อที่ห้องทำงานก่อน เดี๋ยวพ่อตามไป”
“ไม่ครับ ถ้าท่านพ่อมีอะไรจะพูดกับผม ก็ขอให้พูดกันตรงนี้ ต่อหน้าญาเอื้อยสอาง”
พ่อเจ้ายังอ้ำอึ้งพูดไม่ออก สอางกลัวจะโดนเขี่ยทิ้งเพราะถูกจับได้ก็รีบบีบน้ำตาทำตัวให้น่าสงสาร
“ท่านซาย อย่าต่อว่าพ่อเจ้าเลยเจ้าค่ะ ข้าน้อยผิดเอง” สอางโผเข้าไปกอดพ่อเจ้า “ข้าน้อยเองที่เป็นคนเริ่มเรื่องทั้งเหมิด เพราะว่าข้าน้อย...อยากตอบแทนบุญคุณพ่อเจ้า ข้าน้อยเต็มใจถวายตัวฮับใซ้เพิ่นแทนแม่เจ้าสะอาดที่บ่อยอมเฮ็ดหน้าที่นี่”
ศรีธาราฉุนขาด “พูดออกมาได้ไม่อายปาก ญาเอื้อยเอาตัวเข้าแลกกับพ่อของผม แต่กลับอ้างบุญอ้างคุณว่าทำเพื่อแม่เจ้าสะอาด แน่ใจหรือว่าแม่เจ้ารับรู้เรื่องนี้ด้วย อย่าคิดว่าผมไม่รู้ประวัติของญาเอื้อยนะ ญาเอื้อยไม่ได้ทำแบบนี้เป็นครั้งแรก”
สอางหน้าม้านด้วยความอับอาย นึกโกรธศรีธาราขึ้นมา
พ่อเจ้าสงสารสอางปรามลูกชาย “ศรีธารา”
ศรีธาราหันมามองพ่ออย่างเจ็บช้ำ “ผมผิดหวังในตัวท่านพ่อเหลือเกิน นี่หรือครับผู้ชายที่เป็นเสาหลักของบ้านเมือง เป็นสามีที่ประเสริฐ เป็นพ่อตัวอย่างของลูก”
พ่อเจ้าก้มหน้านิ่ง ละอายใจ
“ผมไม่เคยรังเกียจที่ท่านพ่อแต่งงานใหม่ เพราะผมก็เป็นผู้ชายคนนึง แต่การที่ท่านพ่อมีผู้หญิงคนอื่น ทั้งที่ยังมีแม่เจ้าสะอาด ผมคงยอมรับไม่ได้”
สอางหน้าตึง ชักไม่พอใจ เผลอแสดงธาตุแท้ออกมา “ข้าน้อยมันน่ารังเกียจตรงใด๋ท่านซาย ในเมื่อข้าน้อยก็เซื้อสายเดียวกับแม่เจ้าสะอาด กับอีนางสะออน แม่ญิงที่ท่านชายหลงใหลได้ปลื้ม”
ศรีธารายิ้มหยัน “อย่าลากสองคนนั้นมาแปดเปื้อนด้วยเลย ญาเอื้อยสอาง แม่เจ้าสะอาด กับสะออน สูงส่งกว่าญาเอื้อยเหมือนฟ้ากับเหว พวกเขาไม่เคยเอาตัวเองมาแปดเปื้อนกับกิเลสตัณหาแบบนี้”
พ่อเจ้าตวาด “ศรีธารา พอได้แล้ว”
สอางมองหน้าศรีธาราด้วยความเจ็บใจ น้ำตาไหลออกมาเพราะจี้ใจดำ เลยสะบัดหน้าวิ่งออกจากห้องไป พ่อเจ้ามองตามอย่างร้อนใจ
สอางกลับเข้าห้องมาเก็บเสื้อผ้าไปร้องไห้สะอื้น ทำเป็นเสียอกเสียใจเหลือแสน พ่อเจ้าตามมา
“สอาง เธอจะทำอะไร”
“ข้าน้อยสิไปจากนี่ คนอย่างอีสอาง บ่อได้ต่ำต้อยถึงขั้นสิให้ไผมาดูถูก”
พ่อเจ้ารั้งมือไว้ “ฉันรู้ ฉันเองก็ไม่เคยเห็นเธอต่ำต้อยด้อยค่ากว่าใครนะสอาง อย่าถือสาศรีธาราเลย เขากำลังโกรธ”
สอางสะบัดสะบิ้งไม่ยอมหยุด เก็บเสื้อผ้า พ่อเจ้าต้องกอดรวบตัวไว้
“อย่าไปจากที่นี่เลยนะ ฉันขอร้อง ฉันขาดเธอไม่ได้”
ศรีธาราเดินตามมาหยุดหน้าประตู มองเข้าไปในห้องเห็นภาพพ่อเจ้ากอดสอางแน่นก็อึ้งหนัก
“ถ้าเธอทิ้งฉันไป แล้วฉันจะอยู่อย่างไร ไหนเธอบอกว่ารักฉันไงล่ะสอาง”
“แล้วสิให้ข้าน้อยหน้าด้านอยู่ในฐานะหยัง ในเมื่อท่านซายเพิ่นรังเกียจข้าน้อยถึงปานนี่” สอางสะอื้นไห้
“ฉันจะพูดกับเขาให้เข้าใจ เธออย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่นเลยนะ ศรีธาราไม่ใช่คนใจแคบ ฉันจะทำให้เขายอมรับเธอให้ได้”
พ่อเจ้าจับหน้าสอางให้หันมามอง แล้วเช็ดน้ำตาให้ ก่อนดึงร่างเข้ามากอดแนบแน่น
ศรีธารามองตะลึง ไม่อยากเชื่อว่าพ่อเจ้าจะไปเป็นไปได้ถึงขนาดนั้น ได้แต่ถอนใจ แล้วเดินจากไป
โซ่ทองเดินเอายามาให้สะออนที่นั่งเกายุกยิกๆ อยู่บนเรือนแพทย์
“เลิกเก่าได้แล่ว เนื้อโตถลอกเหมิ้ด”
“กะมันคันเนาะอ้าย”
“เอายานี่ ทาซะ”
สะออนหยิบตลับยาออกมาถูตามแขนขา
“อ้ายหวังว่านี่สิเป็นเทือสุดท้ายที่เจ้าสิเฮ็ดหยังพิเรนทร์ๆ อีก”
สะออนชะงัก หมั่นไส้โซ่ทองขึ้นมาอีก แกล้งตีรวนยอกย้อน
“พิเรนทร์ตรงใด๋ ญาเอื้อยสอางกะกิน เจ้าศรีธาราเพิ่นกะบอกอยู่ว่า เหล้าไวน์นี่ แม่ญิงฝรั่งเขากินกันเหมิดบ้านเหมิดเมือง”
โซ่ทองขึ้นเสียง “อยากเป็นแม่ญิงฝรังคักซั่นบ้อ เกิดมาเป็นแม่ญิงอีสานมันบ่อดีตรงใด๋”
สะออนขึ้นเสียงโต้กลับ “กะอ้ายบ่อแมนบ้อ ที่อยากให้ข้อยทัดเทียมคู่ควรกับเจ้าศรีธารา ข้อยกะพยายามสิเป็นแบบนั้น เป็นหยังถึงมาว่าข้อย”
โซ่ทองเถียงไม่ออกนึกฉุนที่สะออนเถียงกลับไม่ลดละ สะออนเหลือบไปเห็นศรีธาราเดินขึ้นเรือนมา
“ท่านซาย”
ศรีธาราที่นั่งคุยกับสะออนตามลำพัง สีหน้าศรีธาราไม่สู้ดีนัก ยังเสียใจเรื่องพ่อเจ้าอยู่
“สะออน อาการคุณดีขึ้นแล้วใช่ไหม”
“เจ้าค่ะ ท่านซาย”
“ผมต้องขอโทษด้วยที่มีส่วนทำให้คุณเจ็บป่วย”
“บ่อแม่นความผิดของท่านซายดอกเจ้าค่ะ ข้าน้อยผิดเอง ที่บ่อประมาณตน”
“แต่อ้ายโซ่ทองพูดถูกแล้ว ผมไม่ควรอยากให้สะออนเป็นเหมือนผู้หญิงอื่น เพราะสะออนก็คือสะออน”
สะออนฟังแล้วนึกหมั่นไส้โซ่ทองขึ้นมาอีกตะหงิดๆ แต่ฝืนยิ้มตอบ
“อ้ายโซ่ทองเพิ่นคงหมายความว่า ยาเอื้อยสอางเพิ่นเป็นนางพญาหงส์ ส่วนข้าน้อยมันเป็นแค่นกแก้ว ลอกเลียนจังได๋ กะบ่มีวันเหมือน”
ศรีธาราได้ยินชื่อสอางก็นิ่งไปดื้อๆ หน้าเครียดขึ้นมาทันทีเห็นชัดแจ้ง สะออนมองแปลกใจ
“มีอีหยังเจ้าคะ ท่านซาย”
ศรีธาราได้สติ ฝืนยิ้มกลบ แล้วเปลี่ยนเรื่องคุย
“สะออน คุณอยากไปเยี่ยมญาแม่กับญาเอื้อยสะอาดที่วัดไหม ผมจะพาไป”
“เพิ่นพากันกลับมาแล้วเจ้าค่ะ ยาเอื้อยเพิ่นกำลังทอผ้าอยู่ที่โฮงทอผ้า ข้าน้อยนึกว่าพ่อเจ้าให้ท่านซายมาฮับซะอีก”
ศรีธาราทำหน้าประหลาดใจ ระคนโล่งอก
สะอาดนั่งต่ำหูกทอผ้าอยู่ในโรงทอ มองเห็นสะออนกับศรีธาราเดินเข้ามา
“เซ่าหมั่นได้แล้ว ญาเอื้อย ฟ้าวกลับคืนไปเฮ็ดหน้าที่แม่เจ้าสาเถาะ อย่าหาว่าข้าน้อยไล่เลย ป่านนี้ พ่อเจ้าเพิ่นคงคึดฮอดหลายแล้ว”
สะอาดยิ้มขำน้อง พลางหันมาถามศรีธารา “พ่อเจ้าให้ท่านซายมาฮับเอื้อยหรือเจ้าคะ”
ศรีธาราหน้าเก้อ เพราะยังไม่อยากกลับไปเผชิญหน้ากับพ่อที่วัง
“เปล่าครับ แต่ถ้ายาเอื้อยอยากกลับวัง ผมก็จะไปส่ง”
สะอาดเกรงใจ “ถ้าจั่งซั่น ขอเวลาเอื้อยจักคราวนะเจ้าคะ”
เสียงสอางแหลมเข้ามา “ใซ้เวลาตามสำบายโลด ยาเอื้อย ข้อยบ่อฟ่าวดอก”
ศรีธารากับสะออนหันไป เห็นสอางเดินกรีดกรายเข้ามาในโรงทอ ศรีธาราอึ้งไป
“สอางน้องหล่า”
สอางยิ้มร่าเดินเข้ามากอดสะอาดอย่างสนิทสนมรักใคร่ นั่นทำให้ศรีธารากระอักกระอ่วนหนักเข้าไปอีก
“พ่อเจ้าส่งคนมาฮับยาเอื้อย ข้าน้อยก็เลยขอติดรถมานำ เพราะคึดฮอดบ้าน ข้าน้อยคึดฮอดยาเอื้อยล้ายหลาย”
สะอาดยิ้มเอ็นดูลูบหัวสอาง แต่ศรีธาราเห็นแล้วกระอักกระอ่วนจนต้องเบือนหน้าหนี สอางมองๆ
ศรีธาราปลีกตัวออกมายืนเหม่อ เครียดไม่หายเรื่องพ่อเจ้ากับสอาง โดยไม่รู้ว่าสอางเดินตามมา
“ข้าน้อยขอบใจท่านชายหลาย ที่ยังบ่อบอกเรื่องนั้นกับญาเอื้อย”
ศรีธาราหันขวับมามองสอางอย่างชิงชัง
“ผมก็อยากจะบอกเหมือนกัน แต่มันกระดากปาก ที่ต้องประจานเรื่องของพ่อตัวเองให้คนอื่นฟัง”
สอางยิ้มรับ “ก็ดีแล้วเจ้าค่ะ เรื่องภายในครอบครัว ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า”
“พูดออกมาได้ยังไงญาเอื้อยสอาง แม่เจ้าสะอาดเป็นคนในครอบครัวที่ใกล้ชิดผมยิ่งกว่าญาเอื้อยเสียอีก” ศรีธาราบอกเสียงเข้ม “ญาเอื้อยควรจะบอกให้แม่เจ้ารู้ด้วยตัวเอง”
“ญาเอื้อยของข้าน้อยเพิ่งกลับจากถือศีล จิตใจกำลังผ่องใส เรื่องหยังข้าน้อยต้องหาเรื่องกวนน้ำใจเพิ่นให้ขุ่นมัวล่ะ”
“แล้วก่อนที่จะทำเรื่องบัดซบลงไปกับพ่อของผม ญาเอื้อยไม่คิดเลยหรือ ว่ามันจะฆ่าแม่เจ้าสะอาดให้ตายทั้งเป็นแค่ไหน”
ศรีธารายิ่งพูดยิ่งขึ้น ตรงเข้าไปบีบแขนสอางเขย่าๆ
“ญาเอื้อยมันเห็นแก่ได้ ไม่มียางอาย”
“โอ๊ย ข้าน้อยเจ็บ”
สอางเจ็บพยายามสะบัดออก โซ่ทองแบกฟืนผ่านมาเห็นเหมือนศรีธาราทำร้ายสอางจึงรีบวิ่งเข้ามาห้าม
“ท่านซาย สิเฮ็ดหยังสอางน่ะ”
โซ่ทองแกะมือศรีธาราออกจากสอาง แล้วผลักออกไป
“ผมก็ไม่อยากจะแตะต้องเนื้อตัวผู้หญิงคนนี้ให้แปดเปื้อนหรอก”
โซ่ทองงง “มีเรื่องอีหยังกันท่านซาย เป็นหยังต้องใซ้คำรุนแรงจังซี่”
“ก็ถามเขาดูสิว่าทำความชั่วอะไรเอาไว้”
ศรีธาราเดินหัวเสียออกไปเลย โซ่ทองไม่เข้าใจ หันมาหาสอางที่มองตามศรีธาราด้วยความเจ็บใจ
“สอาง เจ้าเป็นหยัง...”
“อย่ามายุ่งกับกู”
สอางตวาดแล้วถอยหนีเดินออกไปอีกทาง ทิ้งให้โซ่ทองงงอยู่ลำพัง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
สะออนกับสะอาดขึ้นมาช่วยญาแม่พับผ้าเก็บใส่ตู้
“สะออนมันเว้าถืกแล้ว เจ้าอย่ามัวเถลไถลอยู่นี่เลย กลับไปอยู่วังสาเถาะลูก”
สะอาดอิดออดโยกโย้ไปมา “โดนๆ เทือ ข้าน้อยจึงสิได้มาบ้าน ให้ข้าน้อยอยู่ต่ออีกจักหน่อยสายาแม่ อย่างน้อยกะให้เฮาได้กินข้าวพร้อมหน้ากันจักมื้อแหน่”
“โอ๊ยน่อ...ยาเอื้อย ฟังเว้าดูล่ะ มื่อหน้าข้าน้อยกับญาแม่สิไปกินข้าวอยู่วังนำดอก มื่อคืน ข้าน้อยกับอ้ายโซ่ทองกะไปกินพาแลงอยู่วังมา”
ญาแม่ชะงัก “เจ้าไปกับบักโซ่ท่องซั่นเบาะ”
“ไปพ้อกันโดยบังเอิญจ้ะยาแม่ อ้ายโซ่เพิ่นไปตรวจร่างกายพ่อเจ้า แต่ข้าน้อยไปกับเจ้าศรีธารา”
ญาแม่สีหน้าคลายกังวลลง พยักหน้าพอใจที่รู้ว่าสะออนกับศรีธาราไปไหนมาไหนด้วยกัน
สะอาดมองไปเห็นนางสาย พาเคนกับบุญล้นขึ้นเรือนมา
“แม่สาย พาไผมาน่ะ”
นางสายเหลือบมองทั้งสอง “เพิ่นบอกว่าเป็นญาติพี่น้องของพ่อแพทย์ มาจากพนมไพรเจ้าค่ะ แม่เจ้า”
ด้านนางงอกวาดใบไม้อยู่หน้าเรือนด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง หลังยังงออยู่ แต่ไม่กระย่องกระแย่งอย่างเก่า
“เรี่ยวแรงดีคักแท้เนาะอีงอ”
นางงอสะดุ้ง หันไปมอง “สอาง”
นางงอรีบวางไม้กวาด เดินกระย่องกระแย่งมาหา เพราะกลัวโดนจับได้
“ข้อยบ่อฮู้เลยว่าเจ้ามา กินข้าวกินปลารึยัง เดี๋ยวข้อยไปแต่งพาข้าวให้เด๊อ”
“บ่อต้อง กูบ่ออยาก กูแวะเอายามาคืน” สอางหยิบห่อยาจากชายพกผ้าซิ่นส่งให้
นางงอรับมาเปิดดู แล้วส่งคืนให้
“ข้อยดีใจหลายที่เจ้าซะนะใจพ่อเจ้าได้ แต่เจ้าเก็บว่านเม่าเอาไว้ก่อนดีกว่า”
“มึงบ่อเซื่อว่าเสน่ห์ของกูสิมัดใจพ่อเจ้าไว้ได้ซั่นบ้อ”
“ข้อยเซื่อว่าเจ้ามีดีพอที่สิเฮ็ดให้พ่อซายทุกคนมาสยบแทบเท้าได้ แต่อย่าลืมว่าพ่อเจ้าเพิ่นเป็นผู้ใหญ่ อยู่ในศีลกินในธรรมมาตลอด ถ้าเพิ่นสำนึกผิดคิดได้ว่าเฮ็ดผิดบาป เพิ่นกะอาจสิตีโตออกห่างจากเจ้าได้ง่ายๆ แล้วนี่ สะอาดกะกำลังสิกลับเข้าวังแล้ว”
สอางหน้าเครียดไป เพิ่งฉุกคิด
“ถึงสะอาดสิบ่อง่ามมีเสน่ห์อย่างเจ้า แต่เพิ่นก็ต้องมีดี พ่อเจ้าถึงได้ยกยอขึ้นเป็นเมียตามที่แม่เจ้าองค์เก่าปรารถนา”
สอางชักเริ่มไม่สบายใจ “แต่พ่อเจ้าบอกกูเองว่าเพิ่นกับยาเอื้อยยังบ่อเคยนอนนำกันจักคืน”
“เรื่องของผัวเมี่ย บ่อแม่นว่าสิมีแต่เรื่องในมุ้ง ถึงเพิ่นบ่อปรนนิบัติพัดวีเทิงตั่งเทิงเตียง แต่กะคงเอาใจใส่ดูแลผัววิธีอื่นได้ ถ้าบ่ออย่างนั้น พ่อเจ้าสิเอ็นดูบ้อ”
นางงอยัดยาใส่มือสอาง
“เจ้าอย่าได้วางใจว่าสะอาดสิบ่อมีปัญญายาดแย่งพ่อเจ้าคืนไป เก็บยานี้เอาไว้ใซ้จัดการทุกอย่างให้เด็ดขาดดีกว่า เซื่อข้อย”
สอางคล้อยตามกำยาไว้ในมือ มีเสียงคนวิ่งตึกๆ ขึ้นเรือนมา ทั้งสองหันไปมอง เห็นเพ็งกะเภาวิ่งมาหา
นางงอเอ็ด “อีเพ็ง อีเภา สูมาหยัง”
“ข้อยมาเอิ้นแม่สอางไปเฮือนใหญ่จ้ะ มีคนมาส่งข่าวว่าพ่อแพทย์เพิ่นเจ็บหนัก” เพ็งบอก
สอางกับนางงอตกใจ
สอางขึ้นเรือนใหญ่มาพร้อมกับนางงอ เห็นญาแม่นั่งคอพับคออ่อนพิงสะอาดอยู่ตรงชานยกพื้นกลางเรือน มีสะออนช่วยพัดวี โซ่ทอง นางสายนั่งห่างออกไปกับพวกบ่าวไพร่ในเรือน
“ญาพ่อเป็นหยัง” สอางถามขึ้น
“ไข้ป่าจ้ะญาเอื้อย ตอนนี่ยังนอนซม รักษาโตอยู่เมืองพนมไพร” สะออนบอก
“พ่อแพทย์เอ๊ย...เป็นเวรกรรมหยังน้อ”
ญาแม่ซบกับอกสะอาดสะอื้นไห้ สะอาดกอดปลอบ แล้วฟังญาติ นายเคน กับนายบุญล้นเล่าต่อ
“พวกข้อยเอิ้นหมอแถวนั่นมาเบิ่งอาการ แต่พ่อแพทย์ก็บ่อดีขึ้นเลย สิพาบุกป่าฝ่าดงคืนมาอีสานบุรีก็เดินทางลำบาก ย่านสิทรุดหนักลงไปอีก” เคนบอก
บุญล้นเสริมว่า “ข้อยก็เลยซวนบักเคนมาส่งข่าวพี่น้องทางนี่ก่อน ได้ยินเพิ่นว่าพ่อแพทย์มีลูกศิษย์เก่ง คงสิพอซ่อยรักษาได้”
โซ่ทองรีบอสา “ข้อยเองจ้ะ ข้อยสิไปพนมไพร่กับพวกอ้าย”
“ข้อยไปนำ” สะออนจะไปด้วย
สะอาดทักท้วง “สะออน”
สะออนอ้อนวอนขอร้อง “ให้ข้าน้อยไปสา ญาเอื้อย ญาแม่ สิให้นั่งรอฟังข่าวอยู่เฮือน โดยบ่อฮู้ว่าญาพ่อเป็นตายร้ายดีแนวใด๋ ข้าน้อยกะคงสิตายทั้งเป็น”
“แต่พนมไพรมันไกลกันดาร เดินทางลำบากเด้ลูก” ญาแม่ทัดทาน
“ลำบากจั่งใด๋ข้าน้อยกะสิไป ข้าน้อยต้องไปรักษายาพ่อด้วยโตของข้าน้อยเอง ให้ข้อยไปนำสาเด้ออ้ายโซ่”
สะออนห่วงพ่อ อ้อนวอนโซ่ทองน้ำตาไหล โซ่ทองหนักใจ กลัวสะออนจะไปลำบาก ศรีธาราคิดอยู่อึดใจจึงโพล่งออกมา
“ผมจะไปด้วยครับ เอารถผมเดินทางไปจะได้ไม่ช้า ผมฝากเรียนท่านพ่อด้วยนะครับ ยาเอื้อยสะอาด”
ศรีธาราหันไปทางสะอาด เหลือบไปมองสอางด้วยแววตาชิงชัง สอางสะบัดหน้าหนีไม่แยแส
หลังจากทุกคนแยกย้ายกันไปหมด สะอาดประคองญาแม่ให้นอนลงบนที่นอน มีนางสาย เพ็ง เภาช่วยจัดแจงหายาให้กิน สะอาดหันไปสั่งสอาง
“น้องหล่า ไปบอกให้คนขับรถกลับวังไปก่อนสา เอื้อยสิอยู่เฝ้าญาแม่”
“บ่อต้องดอก ไปสาสะอาด เจ้าถิ่มผัวมาหลายมื้อแล้ว กลับไปดูแลเพิ่น”
“ข้าน้อยสิถิ่มญาแม่ให้อยู่ลำพังได้จังใด๋ สะออนกะไปพนมไพรแล้ว”
ญาแม่ทอดถอนใจ สีหน้าเครียด เหลือบมองสอางที่นั่งอยู่ห่างๆ ท่าทางไม่ยินดียินร้ายกับคนอื่นๆ จึงแกล้งพูดขึ้น
“กะให้สอางนั่นเด้อยู่กับแม่ ส่วนเจ้ากะกลับไป”
สอางรีบปฏิเสธทันที “ข้าน้อยนี่เบาะ สิให้ข้าน้อยอยู่เฮ็ดหยัง ปรนนิบัติรักษาไผกะเฮ็ดบ่อเป็น เดี๋ยวยาแม่บ่อถืกใจ ก็สิฮ้ายข้าน้อยบ้านแตกอีกล่ะ”
“อย่างน้อยกะอยู่เป็นหมู่ยาแม่แนจักหน่อย สอางน้องหล่า”
สอางกระวนกระวายไม่ยอม อยากกลับไปอยู่กับพ่อเจ้า
“ยาแม่อยากให้ข้าน้อยอยู่นำอยู่บ้อ ตอนดีๆ ก็เฮ็ดทรงคือบ่ออยากเห็นหน้าข้าน้อย ต้องมาทนแนมหน้ากันตอนป่วย สิบ่อป่วยตื่มเก่าติ”
สอางลอยหน้าถาม ยาแม่จ้องตอบเอือมๆ รู้อยู่แล้วว่าสอางคงไม่ยอมอยู่ดูแลตนแน่
“แม่กะเว่าไปจั่งซั่นล่ะ เจ้าพากันกลับคืนไปสา แม่บ่อได้เป็นหยังหลายดอก แม่สาย อีเพ็ง อีเภากะอยู่”
“แต่ข้าน้อยห่วงญาแม่”
“อยู่ใกล้กันแค่นี้ บ่อต้องห่วงดอกลูก มีหยังแม่สิสั่งให้คนไปบอก”
ญาแม่พะเน้าพะนอสะอาด สอางหมั่นไส้มองอย่างเซ็งๆ ปนรำคาญ
บนเรือนบ้านญาติของพ่อแพทย์ที่เมืองพนมไพรวันเดียวกันนี้
พ่อแพทย์นอนซมพิษไข้อยู่บนเรือน หน้าซีดเซียว เหงื่อออกเต็มหน้า และยังไม่ได้สติ แต่มีญาติคอยดูแลอยู่ใกล้ชิด พ่อแพทย์พุทไธหวนย้อนไปถึงเหตุการณ์ตอนเป็นหนุ่มน้อยพุทไธ
ในวันนั้นทองจันทร์แต่งตัวสวยจูงมือออกจากห้องมาพร้อมกับเพื่อนสาว พ่อแพทย์จันทกุมารกับพุทไธกำลังปรุงยาอยู่ ให้อดีตมีเรือนหลังเดียว เรือนแพทย์เพิ่งขยายหลังจากพ่อแพทย์แต่งกับคำอ่อน และสร้างเรือนแพทย์แยกต่างหากออกมาเพื่อดูแลคนไข้
“จันทร์เอ๊ย เจ้าสิไปไสลูก”
“ข้าน้อยสิไปงานบุญเบิกบ้านบูซาพระธาตุจ้ะ ญาพ่อ เห็นว่ามื่อนี่สิมีหมอลำหมอแคนจากบ้านอื่นมาลำใส่กันอยู่ลานวัด ยาพ่อไปนำบ่อ”
“ไปเที่ยวกันตามประสาผู้บ่าวผู้สาวสา” ญาพ่อจันทกุมารพยักพเยิดไปทางพุทไธ “เอาอ้ายพุทไธไปนำแหน่ อ้ายเพิ่นสิได้ซ่อยดูแล”
จันทร์สบตากับพุทไธเขินๆ ฝ่ายนั้นก็ยิ้มเขินตอบมา เหมือนสองบ่าวสาวจะมีใจให้กันอยู่เงียบๆ
“อ้าย ว่าจั่งใด๋ อยากไปนำข้อยบ่อ”
“จ้ะ แม่จันทร์”
จันทร์ยิ้มเขิน สบตากับพุทไธ
งานบุญพระธาตุวัดแคนหลวง มีขบวนแห่นางแก้วอัญเชิญขันหมากเบ็ง และการแสดงรื่นเริงต่างๆ ตามประเพณีอีสาน
จันทร์พาพุทไธเดินลัดเลาะมารอดูขบวนแห่นางแก้วที่หน้าวัดกับเพื่อนสาว เห็นชาวบ้านกำลังเฝ้ารอขบวนแห่อัญเชิญพานขันหมากเบ็งมาตามทาง เสียงเพลงแว่วมาแต่ไกล
“ขบวนอัญเซิญขันหมากเบ็งบ้านเฮาปีนี้ งามอีหลีเนาะ แม่จันทร์”
“แม่น งามหลาย ปีนี่ม่วนกว่าปีก่อนๆ อ้ายว่าบ่อ แต่เอ๊... ปีนี่ ไผน้อได้เป็นนางแก้วอัญเซิญขันหมากเบ็งขึ้นถวายสักการะพระธาตุแคนหลวง”
“นั่นแหล่ว อ้ายฮู้แต่ว่านางแก้วที่เลือกมาสิต้องเป็นสาวงามและเป็นสาวบริสุทธิ์ในหมู่บ้านเฮา”
พุทไธฟังจันทร์เล่า แล้วชะเง้อมองดูริ้วขบวนอย่างสนใจ เห็นขบวนค่อยๆ เคลื่อนที่ผ่านมาจนถึงหน้าวัด พลันสายตาของพุทไธก็จับจ้องอยู่ที่บานขันหมากเบ็ง และนางแก้วเหนือเสลี่ยง
“นั่นเด้ แม่จันทร์ นางแก้ว”
“อีคำอ่อน ลูกสาวพ่อท้าวบุดดา” น้ำเสียงของจันทร์ที่พูดถึงลูกสาวผู้ใหญ่บ้านฟังออกว่าไม่ค่อยชอบหน้ากันนัก
พุทไธมองไปยังคำอ่อนซึ่งแต่งตัวสวยงามเป็นนางแก้วบนเสลี่ยง คำอ่อนมองตอบพุทไธกลับมาอย่างสะดุดตาเช่นกัน
ด้านสะอาดเข้ามาในวังพร้อมกับสอาง พ่อเจ้ากับพวกบ่าวไพร่รีบออกมาต้อนรับ
พ่อเจ้าหน้าเจื่อน มีพิรุธ “มาแล้วหรือ สะอาด”
สะอาดไหว้ทักพ่อเจ้ายิ้มให้บ่าวทุกคน “ข้าน้อยเอาบุญมาฝากพ่อเจ้า พวกเจ้าทุกคนนำ”
“ข้าน้อยดีใจหลายที่แม่เจ้ากลับมาเจ้าค่ะ” ทองมีดีใจ
สะอาดขำ “เว้าปานว่าข้อยจากไปเป็นปีเลยเนาะ”
“พวกเฮาอยากให้แม่เจ้ากลับมาอยู่วังไวๆ เจ้าค่ะ” คำมูนบอก
“แม่เจ้าอย่าไปไสอีกเลยเด้อเจ้าค่ะ” เลี่ยมว่า
คำมูนกับเลี่ยมพูดพลางเหลือบมองสอางอย่างหวั่นเกรง สอางถลึงตาใส่พูดเหน็บแนม
“ถ้าแม่เจ้ามีจิตศรัทธาธรรม คึดสิไปเข้าวัดเข้าวาอีก พวกสูก็สิห้ามซั่นบ้อ พวกมารผจญ บ่อฮู้จักบาปจักกรรม”
บ่าวทั้งสามคอหดหลบตาวูบ ไม่กล้าสู้ตาสอาง พ่อเจ้ารู้สึกกระอักกระอ่วนร้อนตัวเลยตัดบทว่า
“ไปปักกลดอยู่วัดป่า เธอคงจะไม่ค่อยสบายตัวนัก ไปพักผ่อนเสียเถอะสะอาด แล้วเดี๋ยวค่อยคุยกัน”
“ข้าน้อยพาไปเองจ้ะ ญาเอื้อย”
สอางเข้าประคองพี่สาวไม่วายทิ้งสายตาให้พ่อเจ้าเชิงนัดแนะให้ไปเจอกัน พ่อเจ้าทำหน้าเก้อๆ มีพิรุธ
สอางประคองให้สะอาดนอนลงบนเตียง จัดแจงที่นอน หมอนให้ อยากให้พี่สาวหลับจะได้หลบไปหาพ่อเจ้าไวๆ
“อยู่วังมีเรื่องวุ่นว่ายหยังบ่อ น้องหล่า เบิ่งทรงสาวๆเป็นกระวนกระวายใจ”
“บ่อมีหยังดอกจ้ะ ข้าน้อยก็เฮ็ดหน้าที่ดูแลเวียกงานการครัวแทนญาเอื้อย แต่อีขี้ข้าซุมนั่นมันซังข้าน้อย ย่อนว่าข้าน้อยเว้าจาบ่อหวานหู คงหาโอกาสมาฟ้องญาเอื้อย”
“อีหล่าเอ๊ย” สะอาดยิ้มเอ็นดู “เจ้ากะเว้าจากับเขาดีๆ แหน่ จั่งใด๋เขากะมีบุญคุณ คอยซ่อยเหลือให้เฮาสะดวกสำบาย”
สอางเบือนหน้าหนี แอบเบ้ปากหมั่นไส้ความมองโลกในแง่ดีของพี่สาว
“แล้วพ่อเจ้าเป็นจั่งใด๋แหน่ เพิ่นดีกับเจ้าบ่อ ยามเอื้อยบ่ออยู่”
สอางยิ้มหวานให้ “เพิ่นปรานีข้าน้อยหลายจ้ะญาเอื้อย ญาเอื้อยมีบุญหลายที่ได้ผัวแสนประเสริฐอย่างพ่อเจ้า”
สอางยิ้มเยาะในสีหน้า แต่สะอาดไม่รู้ตัว
ทองมี คำมูน และเลี่ยมช่วยกันเตรียมอาหารอยู่ในครัว สอางเดินเข้ามา ทั้งสามชะงัก หลบวูบ
“แม่เจ้าสะอาดเพิ่งกลับมาจากหม่องเย็น อย่าให้กูฮู้เด้อว่ามีอีใด๋สาระแนเอาเรื่องฮ้อนไปเผาหัวใจเพิ่น”
ทองมีหมั่นไส้ มองท้าทาย “ท่านนางหมายถึงเรื่องใด๋จ้ะ”
สอางจ้องทองมีตาเขียว ปราดเข้าไปจิกหัวทองมี
“มึงก็ฮู้ดีว่าเรื่องใด๋ แล้วสิเสือกมาถามกวนประสาทกูเฮ็ดหยัง ถ้ามึงลองดีกับกู กูสิเลาะแข่วมึงออก แล้วบอกคนว่ามึงมื่นล้มในครัวนี่ เอาบ๊อ”
สอางแกล้งทำท่าเหมือนจะกระแทกหน้าทองมีกับโต๊ะกลางครัว ทองมีร้องวี้ด คำมูนกับเลี่ยมผวา รีบทรุดลงนั่งยกมือท่วมหัว
“อย่าจ้ะท่านนาง พวกข้าน้อยบ่อเว้าดอก”
“ปล่อยทองมีมันสา พวกข้าน้อยกราบล่ะ”
คำมูนกับเลี่ยมไหว้สอางปลกๆ ทองมีน้ำตาไหลเจ็บใจ สอางมองทั้งสามอย่างพอใจ ยอมปล่อยมือ
“กูสิเซื่อพวกมึงเบิ่งจักเทือ ออกไปได้แล้ว กูสิเตรียมข้าวปลาให้พ่อเจ้าเอง”
ทองมี คำมูน เลี่ยมรีบพากันออกไป สอางมองตาม จนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ รีบเอาห่อว่านเมาออกมา แล้วนึกถึงคำพูดนางงอตอนอยู่เรือนพุทไธเทพ
“ข้อยเซื่อว่าเจ้ามีดีพอที่สิเฮ็ดให้พ่อซายทุกคนมาสยบแทบเท้าได้ แต่อย่าลืมว่าพ่อเจ้าเพิ่นเป็นผู้ใหญ่ อยู่ในศีลกินในธรรมมาตลอด ถ้าเพิ่นสำนึกผิดคิดได้ว่าเฮ็ดผิดบาป เพิ่นก็อาจสิตีโตออกห่างจากเจ้าได้ง่ายๆ แล้วนี่ สะอาดก็กำลังสิกลับเข้าวังแล้ว”
“เจ้าอย่าได้วางใจว่าสะอาดสิบ่อมีปัญญายาดแย่งพ่อเจ้าคืนไป เก็บยานี้เอาไว้ใซ้จัดการทุกอย่างให้เด็ดขาดดีกว่า เซื่อข้อย”
สอางมองยาในมือ แล้วหันรีหันขวาง ก่อนจะแอบเทยาลงไปในอาหารที่จัดไว้ให้พ่อเจ้า
พ่อเจ้ายืนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง สีหน้าเซื่องซึม สอางนำอาหารมาเสิร์ฟให้ถึงห้องทำงาน
“ศรีธาราน่ะหรือดั้นด้นไปถึงพนมไพร ลูกฉันเคยไปเสียที่ไหน”
“มีญาติๆ ของยาพ่อข้าน้อยไปนำ คงสินำทางไปจนได้ล่ะเจ้าค่ะ”
“ไปนอนค้างอ้างแรมที่อื่น แทนที่จะมาเก็บผ้าผ่อน หรือมาขอพ่อสักคำหน่อยก็ไม่ได้ ลูกมันคงเกลียดขี้หน้าฉันเต็มประดา”
“โธ่... พ่อเจ้า”
พ่อเจ้าหันกลับมองหน้าสอาง เริ่มรู้สึกผิดชอบชั่วดี
“เราทำผิดบาปอย่างมหันต์ใช่ไหมสอาง”
สอางร้อนใจ นึกถึงที่นางงอเตือน รีบลุกไปหา
“พ่อเจ้าได้ข้าน้อยก่อนยาเอื้อย เฮาบ่อได้เฮ็ดบาปนะเจ้าคะ ท่านซายเพิ่นยังบ่อเข้าใจทอนั่นเอง”
พ่อเจ้าพยายามคล้อยตามแต่ก็ยังหนักใจ สอางประคองกลับมานั่งที่โต๊ะ เห็นของว่างวางบนโต๊ะ
“พ่อเจ้าอย่าเพิ่งกังวลไปเลย จั่งใด๋ท่านซายก็ต้องกลับมาเจ้าค่ะ” สอางเปิดสำรับอาหาร เปลี่ยนเรื่อง “ข้าน้อยได้ยินว่าพ่อเจ้ายังบ่อได้เสวยหยังเลยตั้งแต่เซ้า เสวยจักหน่อยแนเจ้าค่ะ”
พ่อเจ้าอ่อนลง มองดูอาหารตรงหน้า พยายามจะกินตามที่สอางคะยั้นคะยอ สอางมองลุ้นๆ
เย็นนั้น พ่อแพทย์ฟื้นจากไข้ ค่อยๆ ปรือตามอง เห็นสะออน โซ่ทอง ศรีธารานั่งอยู่ข้างๆ ตัว
“สะออน”
สะออนดีใจยิ้มทั้งน้ำตา “ญาพ่อ ข้าน้อยมาแล้วจ้ะ”
พ่อแพทย์ยกมืออันสั่นเทาขึ้นกุมมือลูก พยายามจะยิ้มให้ แต่ยังดูอ่อนแรงอยู่มาก โซ่ทองเข้ามาจับมืออีกด้าน
“บ่อต้องห่วงจ้ะ พ่อแพทย์ ข้าน้อยสิรักษาพ่อแพทย์ให้เซา แล้วเฮาสิได้กลับเมื่อบ้านนำกัน”
พ่อแพทย์พยักหน้ารับ ก่อนจะหลับไปอีกเพราะความอ่อนเพลีย สะออนสะอื้นไห้ออกมา สงสารญาพ่อ
“อย่าฮ้องไห้เลยสะออน เดี๋ยวพ่อแพทยเพิ่นสิเป็นกังวล”
โซ่ทองบีบมือสะออน แล้วเช็ดน้ำตาให้ ศรีธารามองอากัปกริยาสองคน โดยไม่ได้ติดใจอะไร แค่เห็นความใกล้ชิดแบบพี่ชายน้องสาวเท่านั้น
สะออนหันไปถามญาติ “ญาพ่อของข้อยเป็นแบบนี่ได้จังใด๋อ้าย”
“ตอนพ่อแพทย์พุทไธมาฮอดใหม่ๆ มีคนในหมู่บ้านเฮาป่วยหนัก เพิ่นอาสาไปเบิ่งให้ แล้วก็ติดไข้กลับมา นอนลุกบ่อขึ้น บักคำ คนป่วยนั่น อยู่ได้ 2 มื่อก็ตาย” เคนว่า
สะออนสะอื้นออกมาด้วยความขวัญเสีย โซ่ทองรีบปลอบ
“บ่อเป็นหยังดอกสะออน เฮาสิซอยกันรักษาพ่อแพทย์ เพิ่นสิต้องดีขึ้น”
สะออนพยายามกลั้นสะอื้น พยักหน้ากับโซ่ทอง แล้วลูบแขนพ่อแพทย์อย่างเป็นห่วง
โซ่ทองเปิดย่าม หยิบเอายาสมุนไพรต่างๆ ออกมาเตรียม มีสะออนเป็นลูกมือคอยช่วย
แต่ละคนเอาใจช่วยพ่อแพทย์ตามวิถีใครมัน
โซ่ทองกำลังปรุงยาขะมักเขม้น สะออนกับศรีธาราช่วยเช็ดตัวให้พ่อแพทย์ รอจนโซ่ทองปรุงยาเสร็จก็ประคองพ่อแพทย์ให้ลุกขึ้นกิน แต่พ่อแพทย์ยังนอนซมเหมือนเดิม
ด้านสะอาดนั่งสมาธิอยู่ในห้องนอน พยายามตั้งจิตอธิษฐานส่งกำลังใจไปให้พ่อแพทย์
ฝั่งญาแม่สวดมนต์ไหว้พระอธิษฐานจิตขอพรให้สามี แล้วก้มลงกราบพระในห้องพระบนเรือน
ญาแม่ไหว้พระเสร็จก็ออกมาจากห้องพระ ต้องชะงักเมื่อเห็นนางงอขึ้นเรือนมา
“มึงขึ้นมาหยัง อีงอ”
“ข้อยสิมาไหว้พระ อธิษฐานให้พ่อแพทย์เซาป่วย”
“มึงมาสาระแน่หยังกับเรื่องของผัวกู”
“ผัวของเจ้า แต่กะเป็นคนฮู้จักมักคุ้นของข้อยมาก่อน แล้วเป็นหยังข้อยสิอธิษฐานขอพรพระให้คุ้มครองเพิ่นบ่อได้”
นางงอพูดเย้ยๆ แล้วจะเดินเข้าห้อง ยาแม่ขวางไว้
“สิสวดมนต์อธิษฐานหยังกะไปเฮ็ดอยู่เฮือนมึงพู้น อย่าม่าวุ่นว่ายเทิงเฮือนกู”
“กะได้ แต่เอาพระพุทธรูปเก่าในห้องพระมาให้ข้อย” นางงอจ้องหน้านิ่ง
“มึงมีสิทธิ์หยัง พระพุทธรูปนันเป็นของพ่อแพทย์”
“แม่น เป็นของพ่อแพทย์จันทกุมาร พ่อของข้อย”
ยาแม่ถลึงตามอง นางงอไม่ยอมแพ้ จะเดินเข้าไปในห้องพระบนเรือน ยาแม่ไม่ยอมจับตัวไว้
“กูบ่อสน ออกไป”
“ปล่อย”
ยาแม่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับนางงอ แต่เริ่มรู้สึกว่านางงอแข็งแรงมากขึ้น รั้งตัวไว้ไม่ได้ง่ายๆ
“กูบอกให้ปล่อย”
กลายเป็นนางงอที่ออกแรงสะบัดจนญาแม่ซวนเซล้มลงไปก้นจ้ำเบ้า เพ็งกะเภาวิ่งขึ้นมาเห็นพอดี พากันตกใจ
ญาแม่ตะลึงคาดไม่ถึง โกรธจัด “อีงอ”
นางงอมองอย่างสะใจ แล้วชี้หน้าห้ามเพ็งกะเภา
“กูสิสวดมนต์ให้พ่อแพทย์พุทไธ อีหน้าใด๋ขวางมือขวางตีน กูสิตบตกเฮือนเลย”
เพ็งกะเภาชะงักไม่กล้า นางงอหายใจหอบแล้วก้าวเข้าห้องพระไป ญาแม่ยังล้มอยู่ที่พื้น มองตามนางงออย่างแค้นใจ พร้อมกับเกิดความรู้สึกแปลกใจว่านางงอไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน
ฝ่ายศรีธารายืนเหม่อลอยอยู่ที่นอกชานเรือนญาติพ่อแพทย์ ครุ่นคิดเรื่องตัวเอง โซ่ทองเดินมาตาม
“ท่านซาย กินข้าวแล้วหรือยัง”
“ผมไม่หิว” ศรีธาราตอบซึมๆ แล้วเปลี่ยนเรื่อง “พ่อแพทย์เป็นยังไงบ้างอ้าย”
“สะออนเอาน้ำอุ่นเซ็ดโตให้อีกเทือกะเหมือนว่าอาการหนาวสั่นสิค่อยๆ ดีขึ้น แต่ยังบ่ฮู้สึกโตเต็มที่”
ศรีธาราพยักหน้ารับรู้ซึมๆ แล้วทอดสายตาเหม่อต่อ โซ่ทองเห็นอีกฝ่ายเครียดๆ ก็เข้าใจว่าอยากกลับบ้าน
“ท่านซายอย่าวิตกเลย ข้าน้อยสิเร่งรักษาเพิ่น ถ้าพ่อแพทย์อาการดีขึ้นพอที่เฮาสิเดินทางได้ เฮากะสิกลับอีสานบุรีกันทันที”
ศรีธารารีบพูดบอก “อ้ายไม่ต้องรีบร้อน ดูแลพ่อแพทย์ให้ดีที่สุด รอให้หายสนิทเสียก่อนแล้วค่อยกลับก็ได้ ผมไม่ได้อยากรีบกลับ”
โซ่ทองจ้องหน้าศรีธารา อ่านออกว่าอีกฝ่ายเหมือนมีอะไรในใจ
“ข้าน้อยเห็นท่านซายท่าทางเคร่งเครียด อึดอัดแบบนี้ตั้งแต่เซ้า มีหยังในใจหรือบ่อ”
ศรีธาราหลบสายตา เหมือนไม่อยากบอก โซ่ทองจ้องหน้าเค้นความจริง
“มีเรื่องวุ่นว่ายหยังที่วังรึท่านซาย หรือว่า...สอางไปสร้างเรื่องหยัง”
ศรีธาราเผลอเหลือบตาขึ้นสบตาตอบโซ่ทองเมื่อถูกจี้ใจจำ โซ่ทองใจหายวาบ รีบมองไปทางสะออนกลัวมาได้ยิน แล้วรีบซักต่อ
“มีเรื่องหยัง บอกข้าน้อยมาเถาะ ท่านซาย”
ที่วังอินทนิล ทองมีเดินเข้ามาในครัวท่าทางไม่สบายใจ
“จนป่านนี้แล้ว พ่อเจ้ายังเฟียกับท่านนางสอางในห้องงานบ่อยอมออกมา”
“แล้วท่านไซยสาเกตล่ะ ทองมี” คำมูนถาม
“ถืกไล่กลับไปตั้งแต่กลางเว็นแล้ว เวียกงานบ่อได้เฮ็ดได้สร้าง แขกคนที่นัดหมายสิมาหาพ่อเจ้า ก็ถืกยกเลิกเหมิด” ทองมีบ่น
“แม่เจ้าเพิ่นก็ขังโตนั่งภาวนาอยู่ในห้องพระ ข้อยบ่อกล้าไปเอิ้นเพิ่นดอก” ทองมีถอนใจ
สะอาดนั่งสมาธิอยู่ในห้องนอน ใบหน้าแน่วนิ่งเหมือนเริ่มเห็นภาพนิมิตอดีตชาติขึ้นมาอีก
ภายในโรงทอผ้าเวียงคำนาค เห็นหูกคำนั่งทอผ้าอยู่ในกี่อย่างขะมักเขม้น ใช้กระสวยสอดไหมใส่ฟืมกระตุกเท้าทอไหมทีละเส้นๆ อย่างไม่รู้เหนื่อย ผืนผ้าบนหูก ค่อยๆ ถักทอร้อยเรียงเส้นไหมย้อมสีกลายเป็นลวดลายหงส์สวยงามบนผืนไหม
เวลาผ่านไป หูกคำต่ำหูกทอไหมเส้นสุดท้ายสำเร็จ ตัดผ้าไหมออกจากหูก ได้ผ้าไหมลายหงส์เสร็จสมบูรณ์ แม่ไอ่เข้ามาลูบคลำยกผ้าไหมขึ้นมาเผยให้เห็นลวดลายหงส์ในนั้น
“หงส์สวาหนะ พญาแห่งหงส์ทั้งปวง อัญญานางต่ำผ้าได้งามหลายเพคะ”
“แม่ไอ่บอกข้อยแหน่ ได้ผ้าซิ่นแล้ว เฮาต้องแต่งพิธีถวายบรรณาการพระมหาพรหมจั่งได๋อีกแหน่ ความฝันของข้อยจึงสิสมหวัง ได้นุ่งครองผ้าผืนนี้ในพิธีอภิเษกสมพงศ์ของข้อยกับอัญญาอ้ายศรีโซ่ทอง”
สองคนยิ้มยินดีปลาบปลื้มในผลงานจากความตั้งใจ
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ อยู่ในสายตาใครบางคนที่มองดูอยู่ตั้งแต่ต้นจากด้านนอกโรงทอ
ในเวลาต่อมา โหรหลวงนั่งคำนวณดวงชะตาบ้านเมืองบนกระดานชนวน อยู่ตรงหน้าอัญญาหลวงและราชวงศ์ ภายในท้องพระโรง
“ดวงซาตาของเวียงคำนาค ยังบ่อเคลื่อนออกจากอาถรรพณ์อัปมงคลเลยพระเจ้าค่ะ ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป แผ่นดินสิเกิดอาเพศ แม่น้ำของสิแห้งเป็นดินทราย พืชสัตว์ทั้งหลายสิตายก่ายกองกัน ไทบ้านไทเมืองสิอึดอยาก ทุกขเวทนาสาหัส”
อัญญาหลวงไม่ชอบใจนัก “แม่นหยังกันนี่ พวกเฮากะแต่งพิธีบูซาพญานาคราชสิบห้าตระกูลตามประเพณีแล้ว”
โหรมีสีหน้าหนักใจ เพราะหาคำตอบไม่ได้เช่นกัน ศรีสะอาดนึกๆ แล้วพูดขึ้น
“อาจสิเป็นได้ว่ามีคนกำลังเฮ็ดเรื่องกาลกิณีจนเกิดอาถรรพณ์เพคะ อัญญาพ่อ”
“เจ้าหมายถึงไผ ศรีสะอาด” อัญญาหลวงหันมาถาม
“ข้าน้อยผ่านไปทางโฮงต่ำผ้าของอีหูกค่ำ ข้าหลวงของข้าน้อยเห็นว่ามันแอบต่ำผ้าซิ่นขึ้นลายสัตว์ปีก”
ทุกคนในท้องพระโรงส่งเสียงฮือฮาไปตาๆ กัน
“เป็นความจริงซั่นบ้อ ศรีสะอาด” มหาเทวีรับลูกทันที
“แค่นั้นยังบ่อพอเพคะ อีหูกค่ำมันยังคึดอุบาทว์แต่งพิธีบูซาผ้าลายสัตว์ปีก ข่มขวัญเมือง เล่นของเลี้ยงผีใส่อัญญาอ้ายให้เอามันเป็นเมียเพคะ”
ทุกคนคล้อยตาม โดยเฉพาะราชบุตรศรีโซ่ทองลุกพรวด สีหน้าโกรธจัด
“อีกาลีบ้านกาลีเมือง มันจงใจบูซาพลังอำนาจสัตว์ปีก เหตุนี่เอง พญามหานาคราชเพินจึงได้พิโรธ มันน่าฟันหัวกบาลให้ขาดแท้”
อัญญาหลวงเองก็มีสีหน้าไม่พอใจ
หูกคำกับแม่ไอ่ ทำพิธีบูชากราบไหว้ถวายผลไม้ อาหารการกินแต่พระพรหม หูกคำฟ้อนรำถวายด้วยตัวเอง ขณะที่แม่ไอ่พึมพำบทสวดคำบูชา นางข้าหลวงโรงทอร่วมทำพิธีอยู่ด้วยกัน แต่จู่ๆ พิธีสะดุดลงเมื่อเสียงอัญญาหลวงดังขึ้น
“หูกคำ”
หูกคำกับแม่ไอ่ชะงักหันไปมอง เห็นอัญญาหลวงเข้ามาพร้อมกับคนอื่นๆ ก็รีบทรุดลงทำความเคารพ
“อัญญาพ่อ”
อัญญาหลวงถามเสียงขุ่น “นี่เจ้ากำลังเฮ็ดหยัง”
“ขอเดซะ ข้าน้อยกำลังแต่งพิธีบูซาพระมหาพรหมเพคะ”
มหาเทวีเดินไปที่ตั่ง มองเห็นผ้าซิ่นลายหงส์ กระชากออกมากางดู
“ด้วยผ้าซิ่นลายหงส์ผืนนี่นั่นเบาะ มึงบ่อฮู้หรือว่าการสักการะบูซาสัตว์ปีกเป็นของต้องห้ามในเวียงคำนาค มันสิเฮ็ดให้พญามหานาคราชพิโรธ”
แม่ไอ่อธิบาย “ขอเดซะ พระอาญาบ่อพ้นเกล้า แต่อัญญานางบ่อได้เจตนาสักการะบูซาพญาหงส์ เพิ่นแต่งพิธีสักการะบูซาพระมหาพรหมทอนั่นเพคะ”
ราชบุตรตวาดลั่น “หุบปากเลยแม่ไอ่ เจ้านั่นล่ะโตดี เสี้ยมสอนกันเฮ็ดเรื่องอุบาทว์” แล้วหันมาทางหูกคำพูดจาด่าทอหยามเหยียดและหัวเราะเยาะ “มึงคึดซั่นบ้อ อีหูกคำ ว่าแค่กราบไหว้บูซาเทวดา แล้วสิมีมนต์ดลใจให้กูพิศวาสมึง มึงนี่มันบ่อเจียมกะลาหัว”
หูกคำเม้มปากแน่นเจ็บใจที่ถูกด่า อัญญาหลวงรับผ้ามาดู แล้วส่ายหน้าผิดหวัง
“พ่อบ่อเคยหวงห้ามที่เจ้าฮักการต่ำผ้า ย้อนเห็นว่าเจ้าเป็นคนมีฝีมือ แต่เจ้ากลับคึดซั่ว ใซ้ฝีมือทอผ้าซิ่นขึ้นเป็นลายสัตว์ปีกที่เป็นอัปมงคล มันสิทำลายเวียงคำนาคของเฮาให้เพพินาศสิบหาย เบิงทรงสิให้เจ้าต่ำผ้าต่อไปอีกบ่อได้แล่ว หูกคำ” อัญญาหลวงประกาศก้องกับทหาร “พวกมึงจงม้างโฮงต่ำผ้านี้ให้เหมิด”
พวกทหารกระจายกันจะเข้ารื้อทุกอย่าง หูกคำกับนางไอ่ตกใจ หูกคำรีบเข้าไปอ้อนวอนขอร้อง
“อย่าเพคะอัญญาพ่อ ข้าน้อยบ่อเคยมีเจตนาจังซั่น อย่าม้างโฮงต่ำผ้าของข้าน้อยเลยเพคะ” หูกคำอัดอั้นจนร้องไห้ออกมา “ข้าน้อยผิดเองที่บ่อทันคึดว่าสิ่งที่เฮ็ดมันสิเป็นอัปมงคลแก่บ้านเมือง อโหสิภัยให้แก่ข้าน้อยสาเพคะ อัญญาพ่อ”
หูกคำก้มลงกราบเท้าบิดา อัญญาหลวงหน้าเครียด และสุดท้ายก็ใจอ่อนแต่มีข้อแม้
“ถ้าจังซั่น พ่อสิให้โอกาสเจ้าอีกเทือ แต่ผ้าซิ่นลายหงส์นี้ เจ้าสิเก็บเอาไว้ครอบครองบ่อได้”
หูกคำผวาเฮือกตกใจ พยายามจะยื้อแย่งมา แต่อัญญาหลวงส่งต่อให้ทหารถือไว้
ทั้งหมดพากันออกไปจากโรงทอง หูกคำได้แต่มองซิ่นลายหงส์ที่หลุดมือไปอย่างคับแค้นใจ ทรุดตัวลงร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร แม่ไอ่รีบเข้ามาปลอบโยนด้วยความเวทนา
ผ้าซิ่นลายหงส์พาดยาวโชว์ความสวยงามอยู่บนราวแขวน ศรีธสะอาดกับมหาเทวีพากันเฝ้าชื่นชมอย่างไม่วางตาอยู่ในคุ้มหลวง
“ถึงข้าน่อยสิซังอีหูกคำปานใด๋ แต่ผ้าซิ่นผืนนี้ของมันกะงามถืกตาต้องใจอีหลี งามจนข้าน้อยละสายตาบ่อได้เลยเพคะ อัญญาแม่”
อัญญาหลวงเดินเข้ามา พอเห็นซิ่นลายหงส์ก็ไม่พอใจ
“นี่เจ้ายังบ่อเอาผ้าซิ่นไปทำลายอีกบ้อ แม่คำอ่อน”
ศรีสะอาดรีบไปหยิบผ้ามาประคองไว้อย่างหวงแหน “อย่าทำลายถิ่มเลยเพคะ อัญญาพอ ของงามจั่งซี่ข้าน้อยเสียดาย”
อัญญาหลวงฉุน เหน็บแนมออกไป “ฮึ เจ้าสองคนบ่อแม่นติ ที่บอกว่า หูกคำเฮ็ดให้พญามหานาคราชพิโรธ แล้วสิเก็บผ้าซิ่นผืนนี่ไว้เฮ็ดหยัง”
มหาเทวีปลอบ “ใจเย็นๆ เพคะอัญญาหลวง ข้าน้อยกับลูกบ่อเก็บไว้กะได้ แต่ของมีราคาขนาดนี้ อย่าเผาถิ่มให้มันเสียของเลย ถวายเป็นบรรณาการแก่เมืองที่บ่อมีเซื้อสายนาค ดีบ่อเพคะ ถ้ามันพ้นจากเวียงคำนาคไปแล้ว กะส่ำว่ามันเป็นของข้นนอกอาณาจักรบ่อเกี่ยวข้องหยังกับเฮาอีก”
“เจ้าสิให้ข้อยถวายให้อาณาจักรใด๋”
มหาเทวียิ้มในสีหน้า มีคำตอบในใจอยู่แล้ว
ไม่นานหลังจากนั้น มีพิธีการสำคัญของเวียงคำนาคประเทศราช นั่นคือเจ้าหญิงสีออนทำพิธีถวายสักการะต่อราชวงศ์ทุกคน ด้วยการเข้าไปกราบ และมอบของขวัญบรรณาการ พิธีจัดขึ้นในท้องพระโรงคุ้มหลวง โดยไล่จากอัญญาหลวง มหาเทวี เจ้าราชบุตร จนมาหยุดที่ศรีสะอาด ส่วนหูกคำนั่งในลำดับท้ายสุดแต่ยังไม่ถึงคิว
“ลุกขึ้นมานั่งนำเอื้อย สีออน น้องหล่า”
“ขอบพระทัยเพคะ”
สีออนขยับขึ้นนั่งเคียงข้างศรีสะอาด ศรีสะอาดเปิดกล่องเครื่องบรรณาการเห็นเพชรนิลจินดาสวยงาม
“งามหลาย เจ้ามาฮู้ใจเอื้อยแท้”
“ข้าเจ้าตั้งใจ๋เลือกสรรเพชรนิลจินดาตี้ควรค่ากับอัญญาเอื้อยตี้สุด เพื่อตอบแทนน้ำพระทัยตี้ประทานผ้าซิ่นลายหงส์แก่ข้าเจ้า”
หูกคำที่นั่งฟังอยู่ด้วย ถึงกับชะงัก ตกใจ ศรีสะอาดยิ้มสมใจ เหลือบมองหูกคำ พูดเสียงดังขึ้น
“ซิ่นลายหงส์เหมาะสมกับนางพญาหงส์อย่างเจ้าที่สุดแล้ว สีออน”
ศรีสะอาดปรายตามองไปทางหูกคำอย่างผู้ชนะ
“เจ้าจงเอาออกมานุ่งในพิธีอภิเษกสมพงศ์กับอัญญาอ้ายศรีโซ่ท่อง ให้ไพร่ฟ่าอาณาจักร เทวดาฟ้าดินได้เห็นถึงความงามของผ้าซิ่นที่คู่ควรกับเจ้าแต่เพียงผู้เดียว”
หูกคำน้ำตารื้นเจ็บใจ ทนฟังต่อไปไม่ได้ ลุกพรวดขึ้น แล้วเดินออกจากพิธีไปทันที
สีออนมองอย่างแปลกใจ ยังไม่เข้าใจ เพราะไม่รู้เรื่องตื้นลึกหนาบางของหูกคำ
สะอาดสะดุ้ง ลืมตาตื่นขึ้น สีหน้าตกใจเมื่อฝันเห็นความเป็นมาของผ้าซิ่น สะอาดทอดถอนใจแล้วมองไปรอบๆ ตัวอย่างไม่สบายใจ
ภายในห้องนอนสอางว่างเปล่า มีเสียงเคาะประตูเรียกดังขึ้นที่หน้าห้อง
“สอาง น้องหล่า...เจ้าหลับแล้วไป่”
สะอาดเงี่ยหูฟัง แล้วค่อยๆ แง้มประตูเปิดเข้ามา พอไม่เห็นสอาง ก็แปลกใจ
สะอาดเดินออกมาตามหาสอางตามจุดต่างๆ ในวัง ไม่เจอก็เริ่มใจเสีย
“สอาง... น้องหล่า เจ้าเสียไปไส”
สะอาดใจคอไม่ดี เดินตามหาสอางด้วยความเป็นห่วง
“อย่าเป็นอันตรายอันใด๋เลย น้องหล่าของเอื้อย”
สะอาดเดินผ่านหน้ากรอบรูปของแม่เจ้าปทุมรัตน์ในห้องโถง หันไปมอง ดวงตาแม่เจ้าปทุมรัตน์กำลังจ้องมองเธออยู่ และเหมือนกับว่าแม่เจ้าอยากจะสื่อสารอะไรกับเธอ
สะอาดพนมมือไหว้พูดกับภาพ “แม่เจ้าเจ้าคะ ข้าน้อยจิตใจบ่อดี บ่อฮู้ว่าน้องสาวเสียไปไส ข้าน้อยย่านว่าสิเกิดอันตรายแก่ซีวิตเพิ่นคือในความฝัน สาธุเจ้าค่ะ ถ้าดวงวิญญาณแม่เจ้ายังสถิตอยู่ ขอให้ข้าน้อยหาสอางพบเถาะเจ้าค่ะ”
ทันใดนั้นเอง แจกันทองเหลืองที่วางประดับอยู่บนโต๊ะบริเวณทางเดินหน้าห้องนอนของพ่อเจ้าร่วงตกลงบนพื้นเสียงดังเปรื่องปร่าง สะอาดได้ยินก็หลุดจากภวังค์ หันไปมองต้นเสียง แล้วหันกลับมามองดวงหน้าแม่เจ้าปทุมรัตน์ในภาพอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจลุกเดินไปตามเสียงแจกันเมื่อครู่
อีกฟากหนึ่ง โซ่ทองรู้เรื่องจากศรีธาราแล้วถึงกับถอนใจเฮือกใหญ่ แม้จะรู้อยู่แล้วแต่ก็ใจหายอยู่ดี
“ข้อยคิดไว้แล้วไม่มีผิดว่ามันจะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
“ผมไม่นึกว่าสอางจะกล้าทำได้ ยิ่งกว่านั้นผมไม่นึกว่าพ่อผมเองจะกล้าทำได้” น้ำเสียงศรีธาราเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“สอางเป็นคนสวย มีเสน่ห์ เต็มไปด้วยจริตมารยา ผู้ชายที่ไหนได้ใกล้ซิดก็เผลอใจหลงไหล”
“แม้แต่อ้ายใช่ไหม” ศรีธาราถามออกไป
โซ่ทองสะอึก นึกละอายใจ แต่ไม่ยอมพูดอะไร รีบตัดบท
“แม่เจ้าสะอาดรู้เรื่องหรือยัง”
ศรีธาราส่ายหน้า “ผมไม่กล้าบอก แต่ผมควรจะกล่อมให้ท่านพ่อยอมสารภาพกับเธอ ลูกผู้ชายไม่ควรจะทำร้ายผู้หญิงลับหลังด้วยเรื่องแบบนี้”
“อย่าเพิ่งเลย ถ้ามันเป็นแค่ความเผลอใจชั่วครั้งคราว ท่านชายก็ไม่จำเป็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ มันจะทำร้ายแม่เจ้าโดยไม่จำเป็น”
“แต่ท่านพ่อดูจะรักหลงสอางมากนะอ้ายโซ่ ผมกลัวว่ามันจะไม่แค่ชั่วคราวน่ะสิ”
“งั้นเราก็ต้องคิดหาทางให้คุณสอางออกมาจากวังโดยเร็วที่สุด ก่อนที่เรื่องจะแพร่งพรายออกไป”
“เรื่องอิหยังหรือจ๊ะอ้าย”
โซ่ทองกับศรีธาราสะดุ้ง หันไปเห็นสะออนเดินเข้ามา
ประตูห้องนอนพ่อเจ้าถูกเปิดแง้มออก สะอาดยืนตะลึงตะไลคามองเข้าในห้อง ดวงตาเบิกกว้าง
ภาพที่เห็นเป็นพ่อเจ้ากับสอางร่างเปลือเปล่า กำลังกอดรัดจูบหอมกันพัลวันอยู่บนเตียงนอน ตรงโต๊ะหัวเตียงมีขวดไวน์และแก้ววางอยู่ บ่งบอกว่ามีการดื่มกินกันจนเมามาย
“พ่อเจ้า...” สะอาดอุทานเสียงเบาหวิว
พ่อเจ้าหันมาเห็นสะอาดยืนช็อก น้ำตาเอ่อท่วมดวงตา ก็หยุดกามกิจลง สอางชะงักหันไปเห็นสะอาดยืนจ้องอยู่
“ญาเอื้อย”
สะอาดยืนตัวสั่นสะท้าน พยายามตั้งสติกับภาพที่เห็นต่อหน้าต่อตา สอางรวบผ้าห่มมาปิดหน้าอกของตน เหลือให้เห็นหัวไหล่ที่เปลือยเปล่า
พ่อเจ้าผละออกจากสอาง คว้าโสร่งไหมมาปกปิดกายท่อนล่างท่อนบนยังเปลือยเปล่า
“สอาง นี่เจ้ายังเหลือความเป็นคนอยู่บ่อ เจ้าบ่อฮู้เลยติ ว่าพ่อซายที่เจ้ากำลังสมสู่อยู่นั่น เพิ่นเป็นสามีของเอื้อย”
สอางอึกอัก คาดไม่ถึงว่าสะอาดจะมาเห็น “เอ่อ.. ยาเอื้อย ข้าน้อย...”
“บ่อต้องเว้าหยังทั้งนั้น” สะอาดพูดกับพ่อเจ้าด้วยความเสียใจสุดซึ้ง “ข้าน้อยบ่อคึดเลย ว่าพ่อเจ้าที่ข้าน้อยเทิดทูนบูซา สิเป็นคนแบบนี่ นี่คือน้องสาวแท้ๆ ของข้าน้อย แต่ท่านก็ยัง”
สอางตั้งสติได้เริ่มสะใจขึ้นมาแล้ว
“มันก็เป็นย่อนยาเอื้อยบ่อเคยเฮ็ดหน้าที่เมียให้ถึงพร้อมนั่นล่ะ พ่อเจ้าเพิ่นเลยมอบความเป็นผัวให้แก่ข้าน้อยได้ลึกกว่าที่ให้แก่ยาเอื้อย”
สะอาดตกใจ “สอาง”
“ขอสมมาเด้อยาเอื้อยที่ต้องเว้าความจริง ถ้ายาเอื้อยเฮ็ดหน้าที่เมีย หลับนอนกับผัวโตเองตามประเพณีแล้ว บ่อมีวันที่ผัวสิมามั่วประเวณีกับแม่ญิงอื่นดอก”
สะอาดชอกช้ำระกำทรวง “เอื้อยคึดบ่อถึงเลยที่เรื่องแบบนี้สิเกิดขึ้นกับเอื้อยอีกเป็นเทือที่สอง ด้วยน้ำมือของคนที่ขึ้นซื่อว่าเป็นพี่น้องฮ่วมท้องเดียวกัน”
สอางยิ้มเยาะ “ยาเอื้อยต้องขอบใจข้าน้อยจึงสิถืก ที่ซ่อยผ่อนคลายสิ่งที่แน่นอยู่ในกายในใจของผัวยาเอื้อย เพื่อให้ซีวิตผัวเมียของยาเอื้อยอยู่ดีมีสุขยืนยาวต่อไปได้อีก”
พ่อเจ้าดุ “สอาง เธอพอก่อน สะอาด ช่วยรับฟังเหตุผลก่อนนะ ฉันกับสอางต่างมีเหตุผลที่ต้องทำ”
สะอาดน้ำตาคลอ น้ำเสียงเยือกเย็น “เหตุผลที่ต้องร่วมหลับนอนกันแบบนี่หรือเจ้าคะ ถ้าจั่งซั่น ข้าน้อยกะมีเหตุผลที่ต้องเฮ็ดคือกันเจ้าค่ะ”
สะอาดเดินออกจากห้องไปทั้งน้ำตา พ่อเจ้าคว้าเสื้อคลุมมาสวมนุ่งครองผ้าโสร่งอย่างเร็วรีบตามไป
สะอาดวิ่งหนีออกมา มีพ่อเจ้าวิ่งตามมา
“สะอาด ได้โปรดเปิดใจฟังเหตุผลของฉันบ้างเถอะ”
สะอาดน้ำตาไหลอาบ แสร้งไม่ได้ยิน และรีบเดินออกไป หยุดอยู่หน้ารูปภาพแม่เจ้าปทุมรัตน์ และจดจ่ออยู่แต่กับภาพดวงหน้าของแม่เจ้าปทุมรัตน์ที่เธอเคารพที่สุด น้ำตาไหลสะอื้น
“กรรมจากการเป็นเมียที่บ่อได้ดั่งใจพ่อเจ้านั่น ข้าน้อยได้ซดไซ้จนคุ้มแล้ว ส่วนกรรมจากการทรยศต่อความหวังดีของแม่เจ้าปทุ่มรัตน์ ข้าน้อยขอไปซดไซ้ในภายหน้า อย่าให้ข้าน้อยต้องทนทุกขเวทน่าอยู่ที่นี่อีกต่อไปเลยเจ้าค่ะ”
พ่อเจ้าได้ยินเช่นนั้นก็กังวล เพราะรักแม่เจ้าปทุมรัตน์และสะอาดมาก
“สะอาด นี่เธอจะทิ้งฉันไปไหน เธอไม่เห็นแก่หัวใจของฉันเลยหรือ แล้วจากนี้ไปฉันจะอยู่อย่างไร”
สอางตามมาเอ่ยขึ้น
“ก็อยู่กับข้าน้อยนั่นเดเจ้าคะ ข้าน้อยพร้อมที่สิเฮ็ดให้ท่านมีความสุขบ่อเว้นมื่อเว้นคืน ส่วนยาเอื้อย ในเมื่อยาเอื้อยมาก่อนข้าน้อย ข้าน้อยก็จะยอมให้ยาเอื้อยอยู่ในฐานะนายใหญ่ในบ้านได้คือเก่า แต่ฐานะเมีย ขอให้มีแค่ข้าน้อยผู้เดียวทอนั่น ที่ได้ปรนนิบัติพ่อเจ้า ข้าน้อยคงแบ่งปันให้ไผบ่อได้”
ทันใดนั้นเอง กรอบรูปเจ้าแม่ปทุมรัตน์บนผนังห้องโถงก็ตกลงมาแตกต่อหน้า ทุกคนตกใจ
“แม่เจ้าปทุมรัตน์เพิ่นคงสิมารับรู้แล้ว แล้วยาเอื้อยล่ะ รับกติกานี้ได้บ่อ”
สะอาดมองกรอบรูปร้องไห้โฮ นั่งคุกเข่าลงเก็บรูปแม่เจ้าในกองเศษกระจกขึ้นมา
“แม่เจ้า...” สอาง “ข้าน้อยขอสมมาเจ้าค่ะ ข้าน้อยขอถอนคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับแม่เจ้า” สะอาดหันมาทางสอาง “เอื้อยคงทนอัปยศอดสู ใซ่ผัวฮ่วมกับเจ้าบ่อได้ดอก ขอบใจที่ยังมีน้ำใจซวนใซ่ผัวฮ่วมกัน แต่เอื้อยมีศักดิ์ศรีพอ อยู่กินกันให้พอใจสา”
สะอาดน้ำตาร่วงเป็นสาย หันมามองหน้าพ่อเจ้าประกาศตัดสัมพันธ์
“ข้าน้อยสำนึกบุญคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อเจ้าเมตตากรุณามาตลอด บัดนี้ ข้าน้อยได้ซดใซ้กรรมจนหมดสิ้นแล้ว จากนี้ไป เฮาบ่อมีหยังที่ติดค้างกันอีก”
สะอาดยื่นรูปนั้นคืนให้พ่อเจ้า เหมือนเป็นสัญลักษณ์ว่าเธอขอปลดปล่อยทุกอย่างที่ข้องเกี่ยวกัน ลุกขึ้น ถอยหลัง น้ำตานองหน้า จิตใจแน่วนิ่ง พาตัวเองเดินออกไปนอกตำหนัก พ่อเจ้าจะวิ่งตามไป
“สะอาด สะอาด”
สอางคิดปราดเดียว ลุกไปหาพ่อเจ้าแล้วแกล้งเหยียบให้โดนเศษแก้วจนบาดเท้า ร้องออกมา
“อย่าไปเจ้าค่ะ พ่อเจ้า โอ๊ย”
พ่อเจ้าหันเหความสนใจมาที่สอาง
“สอาง เธอเป็นอย่างไรบ้าง”
“ข้าน้อยเจ็บเจ้าค่ะ หา...เลือด ข้าน้อยกลัว เลือด”
พ่อเจ้าประคองสอาง ดูเท้าข้างที่บาดเป็นแผลเห็นเลือดซึมออกมา พอหันไปมองสะอาด ก็พบว่าพ้นตัวออกไปแล้ว
สะอาดเดินร้องไห้ออกมาที่หน้าวัง ย่ำเดินด้วยเท้าเปล่าออกมาบริเวณสวน ร่ำไห้ เจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้น นึกถึงภาพเหตุการณ์ที่นำพาเธอมาอยู่ที่วังอันใหญ่โตแห่งนี้
นับแต่แม่เจ้าปทุมรัตน์ขอร้องก่อนตายให้สะอาดยอมอภิเษกกับพ่อเจ้า
“ถ้าฉันมีเรี่ยวแรงพอที่จะลงไปก้มกราบเธอ ฉันคงจะทำซะเดี๋ยวนี้”
ตอนสะอาดพบพ่อเจ้าครั้งแรกมองสะอาดด้วยความเสน่หา
“อิฉันอยากให้เด็กคนนี้เป็นตัวแทนของอิฉัน ท่านคิดว่าแกพอจะเป็นตัวแทนอิฉันได้ไหมคะ”
“ถ้าแม่บัวถูกชะตากับแม่สาวน้อยคนนี้ ฉันก็คงไม่ขัดใจดอก”
แม่เจ้าปทุมรัตน์ขอร้องก่อนตายให้สะอาดยอมอภิเษกกับพ่อเจ้า
“ถ้าฉันมีเรี่ยวแรงพอที่จะลงไปก้มกราบเธอ ฉันคงจะทำซะเดี๋ยวนี้”
“ฉันอยากให้เธอ...อยู่ที่ตรงนี้ คอยดูแลลูกผัวฉัน เป็นแม่เจ้าต่อจากฉัน...”
สุดท้ายเธอได้อภิเษกสมพงศ์กับพ่อเจ้าหลังแม่เจ้าเสียชีวิต
“ถือเสียว่าสงเคราะห์คนใกล้ตายอย่างฉันให้ได้ตายตาหลับเถอะนะ รับปากฉันสิ สะอาด ทำบุญกุศลครั้งใหญ่กับฉันเถอะนะ ถ้าชาติหน้ามีจริง ฉันสัญญาว่าจะตอบแทนเธอ”
เสียงสอาง พ่อเจ้า + ภาพสะอาดก้มกราบเท้าพ่อเจ้า
“สะอาด ช่วยรับฟังเหตุผลก่อนนะ ฉันกับสอางต่างมีเหตุผลที่ต้องทำ”
“พ่อเจ้าเพิ่นมอบความเป็นผัวให้แก่ข้าน้อยได้ลึกกว่าที่ให้แก่ยาเอื้อยเสียอีก”
เสียงแม่ชีที่วัดป่าดังก้องขึ้น พร้อมๆกับภาพสอางกับพ่อเจ้ากอดรับจูบหอมกันพัลวันบนเตียง
“แม่ขาวน้อย แม่หวังว่าการมาถือศีลเทือนี่ คงสิบ่อแม่นเทือสุดท้ายของเจ้าดอกนะ”
สะอาดในสภาพน้ำตานองหน้า เดินเท้าเปล่าออกจากวังหายไปในความมืด
พ่อเจ้าวิ่งออกมาแต่ไม่เห็นสะอาดแล้ว พ่อเจ้าเสียใจใหญ่หวง สอางตามมาข้างหลังหยุดยืนแอบมองอย่างสะใจ สมใจ
พ่อเจ้านอนไม่หลับตื่นแต่เช้าอยู่ในอาการกระวนกระวายใจ เดินออกมาหน้าตึกตำหนักใหญ่ มองไปยังถนนเข้าวัง และคอยถามทองมีที่อยู่ด้วยตลอดเวลา
“ทองมี เธอคิดว่าแม่เจ้าสะอาดจะกลับมามั้ย”
“ข้าน้อย...กะบ่อทราบดอกเจ้าค่ะ แล้วเป็นหยังพ่อเจ้าบ่อไปตามแม่เจ้าที่เฮือนเพิ่นล่ะเจ้าคะ”
“ฉันไม่รู้จะอธิบายกับพ่อแพทย์และยาแม่คำอ่อนว่าอย่างไร เพราะฉันก็ละอายแก่ใจเหลือเกินที่ทำตัวแบบนั้นกับลูกสาวของเขา”
พ่อเจ้าถอนใจหมดอาลัยตายอยาก แล้วคิดถึงเจ้าแม่ปทุมรัตน์ขึ้นมายิ่งรู้สึกผิด
“แม่บัวคงผิดหวังในตัวฉัน ที่เป็นผัวที่ดีให้ใครไม่ได้สักคน”
สอางเดินออกมาได้ยินพอดี บอกออกไปด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว
“คิดอย่างนั่น ก็มีแต่สิทุกข์ อกไหม้ไส้ขมล่ะเจ้าค่ะพ่อเจ้า ปล่อยๆออกไปเสียบ้าง พ่อเจ้าเองก็บ่อได้อยู่อย่างพ่อม่าย ข้าน้อยก็ยังอยู่ทั้งคน”
“แต่การที่ได้เธอเป็นเมียสาม มันทำให้เมียสองฉันหมองไหม้ วิญญาณเมียหนึ่งก็ตายตาไม่หลับนะสอาง”
“แม่เจ้าปทุมรัตน์เพิ่นตายตกนรกขึ้นสวรรค์ไปถึงภพภูมิใด๋แล้ว พ่อเจ้าสิเฮ็ดหยัง เพิ่นก็บ่อรับรู้หยังนำดอกเจ้าค่ะ”
เสียงขุ่นเขียวของญาแม่ดังก้องขึ้น “แต่กูฮู้ และสิบ่อยอมให้มึงเฮ็ดเรื่องซั่วทรามกับเอื้อยมึงอีก อีสอาง”
ญาแม่ปรี่เข้ามาชี้หน้าด่าสอาง สอางขึงตาไม่ยอม ทั้งเจ็บใจและอาย เพราะถูกแม่ด่าต่อหน้าข้ารับใช้
“มึงฮู้บ่อ ว่าเฮ็ดเวรกรรมหยังลงไป สร้างเรื่องอื้อฉาว สนองตัณหาโตเอง มึงเฮ็ดแบบนี้กับเอื้อยแท้ๆ ของมึงได้จังใด๋ เมือเฮือนกับกูเดี๋ยวนี้ อย่าม่าอยู่สร้างความวิบัติอยู่นี่อีก ไป”
ญาแม่เข้ามากระชากข้อมือจะฉุดดึงสอางออกไป แต่สอางสะบัดสุดแรงเกิด
“บ่อ ปล่อยข้าน้อย ยาแม่นั่นล่ะออกไป ยาแม่เว้าแบบนี่ ก็ส่ำว่าด่าพ่อเจ้านำ ตบมือข้างเดียวมันบ่อดังดอกญาแม่ พ่อเจ้าเองก็พิศวาสปรารถนาในโตข้าน้อยคือกัน บ่อซั่น สิสอดด้ายสอดเข็มเข้ากันได้จั่งใด๋”
พ่อเจ้าปราม “สอาง”
“อีสอาง” ญาแม่แค้นแทบกระอัก
“ยาเอื้อยมาอภิเษกสมพงศ์กับพ่อเจ้า ก็เฮ็ดหน้าที่เมียแต่ในพาขวัญ พ่อเจ้ายังหนุ่มยังแน่น ใจคอยาแม่สิให้เพิ่นหลับนอนกับท่อนไม้ที่ตายแล้วซั่นบ้อ” สอางเยาะเย้ย
ญาแม่ตวาด “มึงเซาเดี๋ยวนี่หนา”
“บ่อเซา ยาแม่ต้องเห็นน้ำใจข้าน้อย ที่เฮ็ดบุญใหญ่ อุทิศเรือนร่าง พาผัวยาเอื้อย ขึ้นสวรรค์”
“กูบ่อคึดมาก่อนเลย ว่ามึงสิซั่วทรามปานนี่” ญาแม่ช้ำใจมากหันมาเอาเรื่องพ่อเจ้า “พ่อเจ้า ข้าน้อยยกลูกสาวให้พ่อเจ้าคนเดียวคือสะอาด เหตุใด๋ มาหยามน่ำหน่ากั่นป่านนี่ ถ้าสะอาดเสียใจจนตาย ท่านสิรับผิดซอบจังใด๋”
“สะอาดเป็นอย่างไรบ้าง แม่คำอ่อน ฉันเสียใจเหลือเกินกับเรื่องที่เกิดขึ้น”
สอางสอดขึ้นมาอีก “กะซอยบ่อได้ มีผัวเป็นของโตเองแต่แรก แต่บ่อใซ้สิทธิ์ความเป็นเมียเอง พอน้องมาใซ้แล้วสิอกแตกตาย ซั่นก็ตายไปโลด ญาเอื้อยผิดเองที่บ่อฮู้จักเฮ็ดหน้าที่เมีย แล้วสิมาโทษผู้อื่นว่าซั่วทรามได้จั่งใด๋”
“อีสอาง อีลูกทรพี”
“เอ้อ ข้าน้อยมันทรพี สิบอกให้เอาบุญเด้อญาแม่ ต่อให้ญาเอื้อยตาย ข้าน้อยก็สิบ่อไปเผาผีเพิ่น บ่อต้องมานับญาติกัน”
“อีสอาง”
ญาแม่คำอ่อนเป็นลมล้มลงสลบคาที่ ด้วยกรรมเก่าที่อัญญานางหูกคำเคยสาปแช่งเอาไว้ ว่าจะตามมาเหยียบหัวใจอัญญานางคำอ่อน มหาเทวีในชาตินี้
“แม่คำอ่อน”
พ่อเจ้าช็อกไม่รู้อีกฝ่ายเป็นหรือตาย สอางมองนิ่งขึงสีหน้าเรียบเฉย
อ่านต่อตอนที่17