ซิ่นลายหงส์ ตอนที่12 สอางถูกญาพ่อตบหนีไปขออยู่วังอินทนิล
บทประพันธ์ : ณไทย ภัทรกวีกานท์ บทโทรทัศน์ : ปริศนา / ณไทย ภัทรกวีกานท์
นางงอมองตะลึงตะไลเมื่อเห็นสอางเดินขึ้นมาบนเรือนมองมาอย่างเอาเรื่อง
“ได้ยาดีอย่างนี่ มันคงสิเซาเจ็บเซาปวดแล้วแม่นบ่อ ญาพ่อ”
สอางเดินสีหน้าถมึงทึงเข้ามาใกล้นางงอ แต่สายตายังจดจ้องพ่อแพทย์ไม่วางตา
“ดี ข้าน้อยสิสั่งสอนให้มันจื่อมันจำอีกจักเทือ”
สอางเดินไปข้างเตียงใช้แขนฟาดลงบนขานางงออย่างแรง
“โอ๊ย”
พ่อแพทย์ตกใจ “สอาง”
“แค่นี้มึงยังเจ็บบ่อพอดอก อีงอ มึงต้องเขียวไปเหมิดตนเหมิดโต สิได้สำออยญาพ่อกูให้สาสมใจ”
สอางคว้าผมนางงอดึงไว้แล้วตวัดมือตบดังฉาด นางงอคว่ำไปร้องโอดโอย สอางจะซ้ำ พ่อแพทย์ร้องห้าม รวบตัวสอางไว้
“สอาง หยุดเดี๋ยวนี้เด๊อ เจ้าเป็นบ้าไปแล้วบ้อ”
โซ่ทองกับสะออนทำงานอยู่บนเรือนแพทย์ ได้ยินเสียงร้องเรียกของเสากับสีแหล่ประสานกันดังลั่นมา
“แม่สะออน บักโซ่ทอง”
ทั้งสองกระหืดกระหอบขึ้นมาบนเรือน สีหน้าร้อนรนใจ
“ไปซ่อยแม่งอแน สงสัยแม่งอสิถึงฆาตแล้ว” สีแหล่บอก
โซ่ทองแปลกใจ “แม่งอเป็นหยัง ก็พ่อแพทย์เอายาไปให้แล้ว บ่อแม่นหรือ”
“พ่อแพทย์อยู่นั่นแล้ว แต่แม่สอางก็อยู่นำคือกัน บ่อฮู้ว่าไปอาละวาดฟาดงวงฟาดงาอีหยังแน ได้ยินแต่เสียงแม่งอฮ้องโอดโอยทรมาน ไปซ่อยเพิ่นแนหล่า เร็วๆ”
สะออนกับโซ่ทอง ได้ฟังแล้วตกใจ รีบวางมือจากงาน ลงจากเรือนไปพร้อมกับสองบ่าว
พ่อแพทย์กอดสอางไว้ แต่สอางยังดิ้นรนจะเข้าไปเล่นงานนางงอ
“ปล่อยข้าน้อย ข้าน้อยสิเหยียบอีง่อยนี่ให้มันหลาบจำ”
สอางสะบัดจนหลุดกระโจนขึ้นเตียงไปคร่อมตบตีนางงอไม่ยั้ง พ่อแพทย์ดึงตัวออกมาไม่ไหว
นางสายได้ยินเสียงเอะอะรีบวิ่งเข้ามาช่วยห้าม
“แม่งอ แม่สอางอย่าจ้ะ อย่าเฮ็ดเพิ่น”
นางสายคว้ามือสอาง สอางสะบัดจะตบ แต่ยั้งมือไว้เมื่อเห็นหน้าเป็นนางสาย ภาพแม่ไอ่ผุดขึ้นมาในหัว จนเกิดได้สติขึ้นมา
นางงอฟุบหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น หัวหูกระเซอะกระเซิงเพราะถูกจิกทึ้ง นางสายรีบเข้าไปประคอง
“มึงไสหัวออกไปจากเฮือนกูเดี๋ยวนี่ อีขี้ข้าซาติซั่ว”
นางงอเงยหน้าขึ้นสบตากับสอาง น้ำตากลบตาด้วยความรู้สึกเจ็บใจ สอางกระทืบเท้าขู่
“ไปไกลๆ กู ไป”
พ่อแพทย์สุดทนตวาดลั่น “หุบปาก สอาง เจ้าถือสิทธิ์หยังมาไล่ผู้นั่นผู้นี่ออกจากเฮือน เจ้ามันก็แค่ผู้อาศัย”
สอางโกรธ “ญาพ่อ”
“พ่อฝนว่านยามาให้แม่งอ ก็ย่อนเจ้าเฮ็ดบาปเฮ็ดกรรมให้เพิ่นเจ็บโต ถ้าบ่อสำนึกบาปของโตเอง ก็ให้คึดฮอดบุญคุณแม่งอ ที่เพิ่นทะนุถนอมเลี้ยงเจ้ามาแน” ญาพ่อด่า
สอางไม่ฟัง “อีนี่น่ะเบาะมันมีบุญคุณ มันก็เป็นแค่ขี้ข้า หน้าที่ของมันก็ต้องฮับใซ้ข้าน้อย ญาพ่ออย่ามาย่องยอมันให้สูงส่ำข้าน้อย”
สะออน โซ่ทอง เสา สีแหล่ พรวดตามขึ้นมาบนเรือน สีหน้าตกใจ แต่ไม่กล้าเข้ามายุ่ง
“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว แม่งอเพิ่นบ่อเคยมีศักดิ์ศรีต่ำต้อยด้อยวาสนาไปกว่าเจ้าเลย สอาง”
“พ่อแพทย์...”
นางงอตกใจร้องปราม กลัวพ่อแพทย์จะพูดเรื่องอดีต แต่สอางไม่ทันฟัง เพราะโมโหจนหน้ามืด
“ก็แม่นตั๊ว ตอนนี่ บักได๋อีได๋ก็สูงส่งกว่าข้าน้อยเหมิด ย่อนข้าน้อยมันเป็นแม่ฮ่างผัวถิ่ม ไสสิไปเทียบเศษขี้ตีนแม่เจ้าสะอาดกับแม่หมอสะออนได้ล่ะ”
สอางหันไปพาลใส่น้องสาว แล้วเห็นโซ่ทองเข้า
“แม้แต่บักซาติอีกา อย่างบักโซ่ทอง มันก็สูงส่งกว่าข้าน้อยแล้ว”
“เลิกพาลไปกระทบกระเทียบผู้อื่นได้แล้ว นี่มันเป็นเรื่องของเจ้าผู้เดียว”
“บ่อ เรื่องนี่มันเป็นเรื่องของญาพ่อกับอีงอ ที่คิดสิเล่นซู้กันกลางเว็นแสกๆ ข้าน้อยบ่อยอม” สอางฟ้องสะออน “มึงเบิ่งเอา อีสะออน ถ้ากูมาขวงไว้บ่อทัน ป่านนี้ มึงก็คงสิมีแม่อีกคนเป็นอีง่อยแล้ว”
“สอาง”
พ่อแพทย์สุดทน เงื้อมือตบหน้าสอางดังฉาดใหญ่ ท่ามกลางความตกใจของทุกคน พ่อแพทย์ชี้หน้าด่าซ้ำ
“ทุกข์ยากเพิ่นให้เลี้ยง ปากเกลี้ยงให้ไล่หนี สันดานเกินเยียวยา ประมาทหยาดคุณคน แม้กระทั่งคนเลี้ยงมาพาใหญ่ และพ่อบังเกิดเกล้า”
สอางเอามือกุมหน้า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยโดนพ่อแพทย์ทำร้ายมาก่อน กรีดร้องโวยวายรับไม่ได้
“ญาพ่อ...ญาพ่อฆ่าตีข้าน้อย”
สะออนได้สติถลาเข้าไปหาพี่สาว
“ญาเอื้อย”
“อย่ามายุ่งกับกู”
สอางสบัดออกจากสะออน มองจ้องหน้าพ่อแพทย์ด้วยความเจ็บช้ำ
“ฮึ ชีวิตข้าน้อยมันอาภัพ แม้แต่ญาพ่อยังฆ่าตีข้าน้อย ในเมื่อมีแต่คนซัง ข้าน้อยก็สิบ่ออยู่ให้หนักเฮือนอีกต่อไป”
สอางอาละวาดแล้ววิ่งร้องไห้ลงเรือนไป พ่อแพทย์เสียใจแต่ก็ยังไม่อยากตามไปปลอบให้สอางได้ใจ
เสา สีแหล่ตามมาที่ห้องสอาง ช่วยกันเคาะประตูเรียก แต่สอางไม่มาเปิด
“แม่สอาง เปิดประตูให้ข้าน้อยแน...”
สีแหล่ “พวกเฮาเป็นห่วงเจ้าเด๊”
“ไปไกลๆ อย่ามายุ่งกับกู”
สอางตะโกนออกมาพร้อมปาของบางอย่างใส่ประตูอย่างแรง เสากะสีแหล่กระโจนหนี สะออนตามเข้ามา
“ญาเอื้อย...นี่ข้าน้อยเอง เปิดประตูให้ข้าน้อยแน”
“มึงก็บ่อต้องมายุ่งกับกู อีสะออน กูฮู้ว่ามึงสิมาสมพื้นน้ำหน้าซ้ำตื่มกู ไปให้พ้น”
“ญาเอื้อยเอ๋ย... เป็นหยังคึดอย่างนั่นหนอ ข้าน้อยบ่อเคยคึดร้ายอย่างนั่นเลย”
สอางไม่ตอบ ได้ยินแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น ตามมาด้วยเสียงทำลายข้าวของดังเปรื่องปร่างอยู่ในห้อง สะออนยิ่งเป็นห่วง
นางสายกลับมาทำงานต่อที่บ้าน สีหน้าไม่สบายใจนัก มีโซ่ทองคอยช่วย ซักพักก็เห็นสะออนเดินกลับมา
“สอางเป็นจั่งได๋แน”
“ขังโตเองอยู่แต่ในห้อง ข้อยเอิ้นให้เปิดปานได๋ ก็บ่อยอมเปิด ก็เลยให้เอื้อยเสากับเอื้อยสีแหล่คอยฟังเสียงอยู่ใกล้ๆ” สะออนบอก
นางสายฟังอยู่ห่างๆ ถอนใจ แล้วเผลอบ่นออกมา
“พ่อแพทย์ก็บ่อน่าใจฮ้อนลงไม้ลงมือกับลูกเลย แม่สอางเพิ่นเป็นลูกฮักลูกแพง คงบ่อคึดว่าสิถืกญาพ่อฆ่าตีเอาแบบนี่”
“ข้อยเริ่มสงสัยแล้วล่ะอีแม่ ว่าแม่งอนี่เป็นไผกันแน่ เป็นหยังพ่อแพทย์ถึงได้เดือดเนื้อฮ้อนใจแท้ ยามที่เพิ่นมีเรื่องกับสอาง”
นางสายสะอึก สีหน้ามีพิรุธขึ้นมาทันที สะออนตามมานั่งใกล้ๆ
“ข้อยก็อดสงสัยบ่อได้ เกิดมาก็ได้ยินแต่ญาพ่อสอน บอกว่าแม่งอบ่อแม่นข้าฮับใซ้ แต่ญาติพี่น้องก็บ่อแม่น แล้วที่แท้ เพิ่นมีศักดิ์เป็นหยังกับข้อยกันแน่”
นางสายยิ่งลำบากใจ หลบตาเมินหน้าหนี ไม่กล้าตอบ
“ข้อย...ข้อยบ่อฮู้นำดอก”
“ฮื้อ อีแม่อยู่เฮือนนี่มาตั้งแต่เป็นสาว เป็นหยังคือบ่อฮู้บ่อเห็น ข้อยบ่อเซื่อดอก” โซ่ทองไม่ค่อยเชื่อ
นางสายโมโหกลบเกลื่อน “เอ๊ะ บักโซ่นิ่ เจ้าสิมาร่ำไรหยังกับแม่คักแท้ บ่อฮู้ก็คือบ่อฮู้นั่นล่ะ ถ้าอยากฮู้คัก เจ้าก็ไปถามพ่อแพทย์เอาเองพู่นไป”
นางสายอึดอัดใจ ลุกเดินเลี่ยงไปยุ่งวุ่นทำงานทางอื่นเพื่อหนีปัญหา
โซ่ทองกับสะออนมองตามด้วยความสงสัยมากยิ่งขึ้น
เย็นนั้นนางงอเอายาพ่อแพทย์มาทาที่แขนขากับใบหน้าที่ฟกช้ำเพราะโดนสอางตบ มีพ่อแพทย์นั่งดูห่างๆ
“พ่อแพทย์ขึ้นไปเบิ่งสอางสา บ่อต้องห่วงข้อยดอก”
“ข้อยบ่ออยากถือหางให้ลูกมันได้ใจ ที่ผ่านมา ข้อยคงตามใจหลายเกินไป สอางมันเลยเคยโต เที่ยวผิดพาลเหยียบหัวคนแบบนี่”
“ข้อยก็บ่อต่างจากเจ้าดอก”
“จั่งได๋ ข้อยก็ขอสมมาลาโทษแทนลูกมันนำ สอางมันโง่เขลาเบาปัญญา บ่อมีความคึดความอ่าน แม่งออย่าได้หัวซาเด็กน้อยเลยเด๊อ”
นางงอยิ้มนิดๆ เป็นเชิงรับคำให้อีกฝ่ายคลายกังวลใจ จนพ่อแพทย์ลงจากเรือนไป นางงอทายาที่หน้าต่อ แล้วแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์พึมพำกับตัวเอง
“ข้อยบ่อหัวซาดอกพ่อแพทย์ ฮักสิเลี้ยงลูกเสือ ก็ต้องยอมให้มันตะปบเอาบ้าง ฝนเขี้ยวฝนเล็บ เสี้ยมมันไว้ฉีกเนื้อคนที่ข้อยซังในภายภาคหน้า”
สะออนเดินเข้ามาเคาะประตูหน้าห้องสอาง
“ญาเอื้อย… ข้าน้อยเอาข้าวแนวกินมาส่งญาเอื้อยบ่อได้กินข้าวกินน้ำตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเด๊”
สะออนเคาะอยู่นานสองนานแต่ก็ไม่มีเสียงตอบ
“ญาเอื้อย เปิดประตูให้แน”
สะออนใจหายวาบ กังวลว่าสอางอาจทำร้ายตัวเองได้
“หรือว่า… ญาเอื้อย”
สะออนรีบผลักประตูอย่างแรงเข้าไป แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็น เสา สีแหล่ นอนหลับก่ายกันอยู่ข้างเตียงโดยไม่มีสอางอยู่บนเตียง สะออนรีบปลุกถาม
“เอื้อยเสา เอื้อยสีแหล่ ตื่นเดี๋ยวนี่ ญาเอื้อยล่ะ ญาเอื้อยสอางอยู่ไส”
เสากะสีแหล่ตื่นตกใจที่เห็นสะออน
“เอื้อยสองคนฮู้บ่อ ว่าญาเอื้อยสอางเพิ่นเสียไปไส”
“ว้าย… แม่สอางเสียบ่อเนี่ย” เสาทำเป็นไม่รู้เรื่อง
สีแหล่เสริมว่า “เมื่อคืนพวกข้อยเข้ามานอนเฝ้าเพิ่นก็ยังอยู่เด๊ล่ะ แล้วไปไสล่ะบาดนิ่ อีเสา มึงฮู้บ่อ”
“ฮ่วย อย่ามาโยนให้กูเด๊อ กูก็เฝ้าอยู่ แต่บ่อได้ล่ามไว้ เพิ่นสิหลอยออกไปไส ไผสิไปฮู้นำ” เสาโวย
“หรือว่า ญาเอื้อยสิหนีไปแล้ว นี่เอื้อยสองคนบ่อฮู้อีหลีบ่อ ว่าญาเอื้อยเสียไปไส”
เสา กะ สีแหล่ ขยิบตาใส่กันแล้วหันมาประสานเสียงบอก
“พวกข้อยบ่อฮู้”
สะออนหงุดหงิดที่เอาความจากสองคนไม่ได้ เป็นห่วงสอางมาก
ผู้คนในวังเรียกสะอาดในฐานะแม่เจ้า เวลานี้สะอาดแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าดูมีระดับสมฐานะแม่เจ้า กำลังจัดอาหารใส่บาตร เสร็จแล้วก็หันไปเช็ดถูปัดกวาดครัวที่รกหูรกตา ญาแม่เดินเข้ามาเห็น สะอาดหยิบจับผ้าขี้ริ้วทำงาน ก็รีบร้องห้าม
“สะอาด เฮ็ดหยังน่ะลูก เดี๋ยวเนื้อโตก็หม่นหมองเหมิดดอก”
“เล็กๆ น้อยๆ เองจ้ะญาแม่ ข้าน้อยเห็นครัวมันเปรอะเปื้อน”
ญาแม่แย่งผ้าขี้ริ้วมา “งานพวกนี่ ให้เด็กน้อยมันเฮ็ด ลูกเอ๋ย... เจ้าเป็นถึงแม่เจ้าแล้วหนา”
“ญาแม่ก็ฮู้ว่าสิให้ข้าน้อยนั่งแนมเบิ่งซื่อๆ ข้าน้อยเฮ็ดบ่อได้ดอก เคยอยู่มาจั่งได๋ ก็ให้ข้าน้อยเฮ็ดแบบนั่นต่อไปสา”
“เจ้าเป็นเจ้าของวังแล้ว สิเฮ็ดโตเป็นไทบ้านได้จั่งได๋ ถ้าไผมาเห็นแม่เจ้าสะอาดจับผ้าขี้ริ้วเช็ดครัว มันสิเสื่อมเสียไปฮอดพ่อเจ้าว่าดูแลเมียบ่อดีเด๊ลูก”
สะอาดแอบถอนใจกับเจ้ายศเจ้าอย่างของญาแม่ แต่ยังไม่ทันแย้งก็เห็นบ่าวหญิงยืนหน้าตื่นอยู่ที่ประตู
“อ้าว ทองมี พระมาแล้วบ้อ”
ทองมีอึกอัก “ยังเจ้าค่ะ แต่ว่า...มีแขกมาขอพบแม่เจ้าเจ้าค่ะ”
สะอาดกับญาแม่ทำหน้าแปลกใจ กำลังจะเอ่ยปากถามว่าใคร ก็ได้ยินเสียงสอางดังมาก่อนตัว
“ญาเอื้อย…”
สอางวิ่งเข้ามาพอถึงหน้าประตูก็ทิ้งห่อผ้า โผเข้ามาหาสะอาดกับญาแม่ร้องไห้โฮ
“ข้าน้อยอยู่เฮือนบ่อได้แล้วญาเอื้อย”
สะอาดงง แต่ก็กอดประคองน้องสาวไว้ ขณะที่ญาแม่มีสีหน้าตกใจ
ไม่นานต่อมา พ่อเจ้า ศรีธารานั่งอยู่ในห้องรับแขก ร่วมฟังสอางบีบน้ำตาสะอึกสะอื้นเล่าเรื่อง
“ตั้งแต่เกิดได้ใหญ่มา ญาพ่อบ่อเคยฮ้ายด่าข้าน้อยเลย แต่คราวนี่ ทั้งฮ้ายด่า ทั้งฆ่าตีข้าน้อย ข้าน้อยสิทนอยู่ต่อไปได้จั่งได๋”
สอางเล่าไปร้องไห้ไป พลางซบหน้ากับอกสะอาดเสียใจจริงๆ ไม่ได้แกล้ง แต่ญาแม่ไม่ค่อยเชื่อนัก
“ญาพ่อของเจ้าบ่อแม่นคนเจ้าอารมณ์ มันต้องมีเรื่องหยังกันมาก่อน ถึงได้ตีเจ้า”
“ก็ข้าน้อยจับได้ ว่าอีงอมันกำลังสิเอาญาพ่อเฮ็ดผัว”
ทุกคนสะดุ้งไปตามๆ กัน ญาแม่อึ้งไปขณะหนึ่ง ก่อนจะตวาดอย่างฉุนเฉียว
“ข้อยบ่อเซื่อ”
“ถ้าญาแม่บ่อเซื่อ ก็เมือเฮือนไปถามอีสะออนเบิ่ง ว่ามันเกิดหยังขึ้น มันเองก็เห็นกับตา ว่าญาพ่อขึ้นไปหาอีงอ ฮอดเฮือนอีงอมันถือโอกาสตอนที่ญาแม่บ่ออยู่ยั่วยวนญาพ่อ พอจับได้ ข้าน้อยก็ด่ามัน ญาพ่อเลยฆ่าตีข้าน้อย”
สอางร้องไห้โฮออกมาอีก ญาแม่พูดไม่ออก สะอาดอึดอัดใจ อายพ่อเจ้ากับศรีธาราที่ต้องมาฟังเรื่องแบบนี้
“ข้าน้อยสิบ่อกลับคืนไปอยู่นั่นอีกแล้ว ญาเอื้อยให้ข้าน้อยอยู่นำเด๊อ เมตตาลูกนกลูกกาบ่อมีที่พึ่งพาอาศัยเอาบุญแนเด๊อญาเอื้อย”
“น้องหล่า แต่ที่นี่...”
สะอาดเสียงอ่อนโยนนึกเวทนา แต่เหลือบมองพ่อเจ้าอย่างเกรงใจ พ่อเจ้าพยักหน้าเข้าใจ
“ถ้าน้องสาวของเจ้ามีเรื่องทุกข์ขมตรมใจ อยากสิอยู่นี่จักคราว ข้อยก็บ่อขัดขีนหยังดอก”
สอางได้ยินก็ร้องไห้เสียงดังกอดสะอาดแน่นขึ้น เพื่อให้ตัวเองดูน่าสงสาร ญาแม่กังวลหนัก
สะอาดดูบ่าวสาวๆ ช่วยกันจัดที่นอนให้สอาง บ่าวบางคนจัดผ้าผ่อนยกมาให้ ญาแม่สีหน้าว้าวุ่นใจ แต่รอจนบ่าวออกไปแล้วถึงเริ่มพูด
“สะอาด คึดดีแล้วหรือลูก ที่สิให้สอางมาอยู่วังนำ”
“น้องกำลังเจ็บซ้ำน้ำใจ... ข้าน้อยเวทนาน้อง ให้ข้าน้อยได้สงเคราะห์น้องสาญาแม่”
ญาแม่สะอาด เป็นหยังเจ้าต้องเผาโตเองเพื่อให้ผู้อื่นอุ่นอย่าลืมหนา นี่วังอินทนิล วังเจ้าเมืองอีสานบุรี คนอย่างสอางได้มาอยู่ก็มีแต่สิ...
OS.สอางญาแม่คิดว่าข้าน้อยสิเฮ็ดหยัง ?
ญาแม่หันไปมอง เห็นสอางเดินเข้ามา ท่าทางเอาเรื่อง ไม่เหลือร่องรอยโศกเศร้าแล้ว
สอางข้าน้อยบ่อแม่นเด็กน้อยอย่างอีสะออนจักหน่อย ที่สิได้สร้างเรื่องสร้างราวให้ผู้ใหญ่ปวดหัวปวดประสาท
ญาแม่ถึงเจ้าบ่อดื้อบ่อมึนคือสะออน แต่ก็สร้างเรื่องวุ่นวายได้บ่อแพ้กันดอก
ญาแม่จ้องตอบรู้ทัน แต่สอางสู้ตาด้วยความถือดี
สอางญาแม่ก็มัวแต่ระแวงลูก จนลืมระวังคนอื่น ถึงได้ถืกมันแทงหลังเอา กลับไปเฝ้าแนมอีงอที่เฮือนจักหน่อยดีบ่อ บ่อแม่นป่านนี่ มันได้ญาพ่อเป็นผัวสมใจแล้วบ๊อ...
ญาแม่(โมโห) แม่บ่อมีวันเซื่อ ว่าพ่อของเจ้าสิหน้ามืดตามัว คึดเอาคนอย่างอีงอมาเป็นเมียดอก
สอางใจเย็นไปเถาะ บ่อมีข้าน้อยอยู่เป็นก้างคาคอ ป่านนี่ อีงอมันขึ้นไปนอนทับฮอยญาแม่เทิงเฮือนใหญ่แล้ว อีสะออนลูกฮักของเจ้า มันคงสิเฮ็ดได้แค่กางมุ้งให้นั่นล่ะ
ญาแม่ฟังแล้วนิ่งงัน ลึกๆ เริ่มใจคอไม่ดี สะอาดรีบเข้ามาดึงสอาง ชวนพูดเรื่องอื่น
สะอาดสอาง เจ้าได้อยู่นี่แล้ว ดีใจบ่อ มานี่มา เอื้อยสิหาผ้าหาแพรให้นุ่ง
สะอาดดึงสอางมา ดูเสื้อผ้าที่จัดให้ คลี่ห่อผ้าน้องสาวออก จัดเก็บให้น้อง
ญาแม่หน้าเครียด นึกห่วงบ้าน
ด้านพ่อแพทย์นั่งอยู่กับสะออน สีหน้าพ่อแพทย์เงียบขรึม แต่มีแววโล่งใจ เมื่อรู้เรื่องจากศรีธารา
พ่อแพทย์สอางหนีไปอยู่วังอินทนิล !!
“ข้าน้อยถามเอื้อยเสา เอื้อยสีแหล่ก็พากันปากหนัก ถามเท่าไรก็ไม่ยอมบอก”
“ข้าน้อยต้องขอสมมาจริงๆ ท่านชาย พอดีมีเรื่องเกิดขึ้นที่บ้าน จึงทำให้สอางต้องทำแบบนั้น”
“ไม่เป็นไรเลยครับพ่อแพทย์ ท่านพ่อให้ผมมาเรียนพ่อแพทย์กับสะออนว่าญาเอื้อยสอางจะอยู่ที่วังนานเท่าไรก็ได้ ท่านไม่ติดขัดอะไร”
พ่อแพทย์เกรงใจ “จะดีรึท่านชาย”
“ก็ยังดีกว่าให้ญาเอื้อยสอางหนีเตลิดไปที่อื่นที่อันตรายนะครับ”
สะออนเห็นด้วย “แม่นแล้วญาพ่อ”
“ถ้าอย่างนั้น ข้าน้อยคงต้องรบกวนฝากสอางมันอยู่ที่นั่นสักพักนะ ท่านชาย ก็ขอให้สอางอย่าไปทำเรื่องทำราวให้ที่นั่นเดือดร้อนเลย ข้าน้อยกังวลใจนัก”
สีหน้าพ่อแพทย์เต็มไปด้วยความกังวล
โซ่ทองออกมาเก็บสมุนไพรเตรียมไปทำยา หันมาย้อนถามสะออนหลังรู้เรื่องสอางหนีไป
“สอางนั่นบ่อ ไปอยู่วังอินทนิล”
“แม่นแล้วจ้ะ ญาเอื้อยสะอาดให้เจ้าศรีธารามาส่งข่าว ข้อยก็เลยฟ่าวมาบอกอ้าย สิได้บ่อต้องเป็นห่วง”
“จั่งได๋อ้ายก็ห่วงอยู่ดี พ่อลูกกัน ถ้าบ่อปากบ่อเว้ากัน ก็มีแต่สิแตกไปคนละทาง เจ้านั่นล่ะต้องเป็นกาวใจ สะออน”
สะออนงง “อ้าว เป็นหยังต้องเป็นข้อยล่ะ”
“หรือเจ้าอยากเห็นพ่อแม่พี่น้องเฮือนแตกสาแหรกขาด”
“ไผสิอยากเห็น แต่สิให้ข้อยเฮ็ดจั่งได๋ล่ะ”
“สะออนก็ไปอยู่ที่วังด้วยกันสิครับ จะได้ช่วยแม่เจ้าสะอาดเกลี้ยกล่อมให้ญาเอื้อยสอางใจเย็นลง”
สะออนกับโซ่ทองอึ้ง หันไปเห็นศรีธาราเดินเข้ามาขัดจังหวะ
“มีพี่ๆ น้องๆ ช่วยกันพูด ผมว่าอีกไม่นาน ญาเอื้อยสอางก็คงหายน้อยใจ”
สะออนหน้าเจื่อน อิดออดไม่อยากไป “แต่ว่า...”
“ผมว่าสะออนไม่เห็นต้องห่วงทางนี้เลย ยังไงอ้ายโซ่ทองก็ต้องอยู่ช่วยพ่อแพทย์ได้อยู่แล้ว จริงไหมอ้าย”
ศรีธาราสบตากับโซ่ทองเป็นนัย เชิงส่งสัญญาณ โซ่ทองจำต้องผสมโรงทั้งที่ไม่เต็มใจนัก
“อืมม... เจ้าสิไปอยู่ที่วังก็ได้ สะออน บ่อต้องห่วงทางนี่ดอก อ้ายเฮ็ดเวียกกับพ่อแพทย์มาสองคนตั้งหลายปี ก็บ่อเห็นลำบากหยัง”
สะออนหน้างอ น้อยใจคิดว่าโซ่ทองขับไสไล่ส่ง
“หาเรื่องไล่ข้อยเลยหนออ้าย อยากฮู้แท้ ว่าเฮือนนี่มันเป็นเฮือนของอ้ายหรือเฮือนของพ่อข้อยกันแน่”
สะออนพาลโมโห เดินกระทืบเท้าจากไป โซ่ทองยิ่งเซ็ง แต่ศรีธารากลับยิ้มเอ็นดูแล้วรีบตามไป
นางงอนั่งให้เสากะสีแหล่ช่วยแต้มยาให้ ฟังเสาพูดไปด้วย
“ตอนแรกแม่สอางเพิ่นสั่งไว้ บ่อให้บอกไผ แต่เพิ่นไปฮอดวังแล้ว พวกข้อยก็เลยมาบอกให้แม่งอฮู้ไว้”
นางงอยิ้มร้ายมีสีหน้าสะใจ “มึงเฮ็ดถืกแล้วล่ะ ที่ส่งสอางไปฮอดวังอินทนิล”
สีแหล่งง “อ้าว ว่าแม่นสิอาวรณ์ นี่แม่งอดีใจซั่นบ่อ ที่แม่สอางต้องระเหเร่ร่อนออกจากบ้าน”
“บ่อแม่น กูอยากให้เพิ่นไปอยู่นั่นตั้งโดนแล้ว สิได้ไปพบพ้อเจ้าใหญ่นายโตไปได้ดิบได้ดีมีวาสนาสูงๆ บ่อต้องจมปลักอยู่นี่”
เสากะสีแหล่มองหน้ากันอย่างแปลกใจ
“อ้าว นี่แม่งอบ่อได้เคียดได้เคืองแม่สอางเลยบ้อ” เสาถาม
สีแหล่งง “อย่าบอกหนาว่าแม่งอลงทุนเจ็บโต ให้แม่สอางหาเหตุหนีไปอยู่กับแม่สะอาด”
นางงอตวาด นึกเจ็บใจ “ไผมันสิโง่หาเรื่องให้โตเองเจ็บโต กูก็เป็นคนเด๊ะ บ่อแม่นควาย แต่กูคงสิบ่อเจ็บโดนดอก ถ้าได้เห็นแนวดีๆ หลังจากนี่”
นางงอมีสีหน้าสะใจ ด้วยวาดหวังจะเห็นสอางไปก่อเรื่องที่วังอินทนิล
สอางเดินตามสะอาดญาแม่เข้ามาในห้องนอน มองดูความใหญ่โตกับการตกแต่งอย่างอิจฉา
“นี่ห้องไผหรือญาเอื้อย เป็นตาสำบายแท้ เป็นหยังบ่อให้ข้อยอยู่ห้องนี่ล่ะ”
“ห้องของเอื้อยเอง”
สอางแปลกใจ “ห้องญาเอื้อย อ้าว... แล้วญาเอื้อยบ่อได้นอนกับพ่อเจ้าดอกหรือ”
สะอาดอึ้งไป สบตากับญาแม่อย่างลำบากใจ ญาแม่รีบพูดแทรก
“ก็นอนบ้าง บ่อนอนบ้าง คนซั้นเจ้านายถึงสิแต่งดองกันแล้ว ก็ต้องมีนอนแยกกันทั้งนั่นล่ะ แต่ก่อนห้องนี่ คือห้องบรรทมของแม่เจ้าปทุมรัตน์”
“พิลึก ผัวเมียกัน แต่บ่อนอนนำกัน” สอางจ้องจับผิดพี่สาวกับแม่ “มีหยังที่ข้อยยังบ่อฮู้อีกบ่อ”
สะอาดหลบตาสอาง ยิ่งออกพิรุธหนักขึ้น
“เจ้าอย่ามาอยากฮู้อยากเห็นเรื่องที่บ่อแม่นเวียกงานของโตเองเลยสอาง อยู่วังผู้ดี ก็เฮ็ดโตให้เป็นผู้ดีแน อีกอย่าง โตเองก็เป็นแค่ผู้อาศัย เอื้อยของเจ้าตอนนี่ยอยศขึ้นเป็นแม่เจ้าสะอาดแล้ว อย่ามาตีโตเสมอ กลับไปห้องเจ้าก่อน แม่มีเรื่องสิเว้ากับแม่เจ้าสะอาด”
ญาแม่จงใจเน้นสถานะของสะอาดชัดๆ สอางเจ็บใจ สะบัดหน้าเดินออกไป
สอางเดินออกมานอกห้อง อารมณ์เสีย จิตใจขุ่นมัว แต่ยังไม่ยอมแพ้
“ หึ คนอย่างอีสอาง ยิ่งห้ามก็เท่ากับยิ่งยุนั่นล่ะญาแม่”
สอางเหลือบเห็นพ่อเจ้า เดินคุยมากับข้าหลวงผู้ช่วย ไปทางห้องทำงานอีกตึก
สอางเหลือบมองตามอย่างสู่รู้ แต่ยังหาเหตุผลตามไปไม่ได้ เลยหันหลังจะกลับห้อง แต่เจอทองมีบ่าวรับใช้ยกถาดกาแฟของว่างมาทางด้านหลังพอดี จนเกือบจะชนเข้าดีที่หลบทัน
“ว้าย อีปอบมึง มืนตาเบิ่งแหน่”
ทองมีตกใจกลัว “ขอสมมาจ้ะ”
ทองมีค้อมหัวให้สอางอย่างเคารพ ท่าทางสงบเสงี่ยม สอางเหลือบมองของในถาดไม่เคยเห็น
“อีหยั่งนั่นน่ะ”
“กาแฟกับของว่างสำหรับพ่อเจ้าจ้ะ”
ทองมีตอบแล้วจะไปสอางเรียกไว้
“เดี๋ยว”
สอางยิ้มในสีหน้า มีแผนการบางอย่าง
พ่อเจ้านั่งคุยธุระการงานกับข้าหลวง แล้วได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา”
พ่อเจ้าหันไปมองแล้วแปลกใจที่เห็นสอางยกถาดกาแฟกับของว่างเข้ามา แทนที่จะเป็นบ่าวของวัง
“กาแฟกับของว่างสำหรับพ่อเจ้าเจ้าค่ะ”
สอางเดินเข้ามาท่าทีกระชดกระช้อย หยิบกาแฟกับของว่างเสิร์ฟพ่อเจ้า
“นางข้าหลวงไปไสกันเหมิด เป็นหยังเจ้าจึงต้องยกเข้ามาให้เองล่ะ สอาง”
“ข้าน้อยอาสาเองเจ้าค่ะ อยู่ว่างๆ เดี๋ยวสิสำบายเกินไป เลยขอซ่อยพวกข้าหลวงในโฮงครัวเขาเตรียมของว่างให้พ่อเจ้า”
“อย่าเกรงใจไปเลย เทือหลังบ่อต้องลำบากดอก แต่เทือนี่ก็ขอบใจหลายเด๊อ”
“เจ้าค่ะ มาอาศัยซายคาเฮือนเพิ่นอยู่ ข้าน้อยก็อยากตอบบุญแทนคุณบ้าง ถ้ามีแนวใด๋ที่ข้าน้อยพอซ่อยได้ ก็ขอให้พ่อเจ้าเอิ้นใซ้ได้เลยเด๊อเจ้าค่า”
สอางยิ้มหวานหยดย้อย สายตาสำรวจมองรอบๆ ห้องพ่อเจ้าอย่างสนอกสนใจ
ข้าหลวงเห็นท่าทางของสอางแล้วไม่ค่อยชอบใจนัก แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่ขยับตัวลุก
“ข้าน้อยสิให้พ่อเจ้าเสวยของว่างก่อน เมื่อใกล้ยามที่พ่อเจ้าต้องเตรียมโต ข้าน้อยสิเข้ามาทูลแจ้งอีกเทือ”
สอางสอดขึ้นมาอย่างไร้มารยาท “สิพากันไปไสจ๊ะ”
ข้าหลวงชะงัก มองสอางเป็นเชิงตำหนิ แต่สอางไม่รู้ตัว พ่อเจ้ายังใจเย็นไม่ถือสา
“ค่ำนี้ข้อยต้องไปงานเลี้ยงกับแม่เจ้าสะอาด” พ่อเจ้าตัดบทลุกขึ้น “ที่จริงอาบน้ำแต่งโตตอนนี่เลยก็ดีคือกัน ขอโทษเด้อสอาง ที่ยังบ่อมีเวลาเว้านำ แต่เชิญเจ้าตามสำบาย”
พ่อเจ้าตามข้าหลวงออกไปโดยไม่สนใจ สอางมองตามทั้งเซ็งทั้งขัดใจ
สะอาดแต่งชุดสวยงาม มีเครื่องประดับพราวดูสวยสง่า เดินเคียงคู่กับพ่อเจ้าไปขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าวัง
สอางยืนดูอยู่มุมหนึ่งข้างๆ ญาแม่ที่ส่งสายตาชื่นชม
“ญาเอื้อยได้แต่งโตงามๆ อย่างนี่ทุกมื่อเลยแม่นบ่อ ญาแม่”
“ก็เกือบทุกมื่อ เวียกงานของเจ้าเมือง งานหลวงต้องบ่อขาด งานราษฎร์ก็ต้องบ่อเสีย พ่อเจ้าไปไส แม่เจ้าเพิ่นก็ต้องตามไปนำ เพื่อให้เกียรติเจ้าภาพ”
สอางมองพี่สาวที่ขึ้นนั่งบนรถ ท่าทางโก้สง่าด้วยความริษยา
“ไผสิไปคึดไปฝัน ว่าจากที่นั่งเฝ้าหูกทอผ้า หน้าดำหน้าแดง ยาเอื้อยสิได้ลงซุบโตในบ่อเงินบ่อคำ กลายเป็นแม่เจ้าแห่งเมืองอีสานบุรี ไปทางใด๋ก็มีแต่คนสักการะกราบไหว้”
ญาแม่เหลือบมองลูกสาวคู่ปรับ รู้จากน้ำเสียงเยาะหยันว่าสอางกำลังอิจฉา
“ที่คนกราบไหว้เพิ่น บ่อแม่นย่อนยศถาบรรดาศักดิ์อย่างเดียวดอก เอื้อยของเจ้าก็วางโตสมกับที่คนสิกราบไหว้บูชานำ”
สอางเชิดหน้า พยายามซ่อนความหมั่นไส้เอาไว้ แต่ญาแม่ยิ้มนิดๆ อย่างรู้ทัน
“เอื้อยมีบุญวาสนาดี เจ้าก็ควรดีใจไปกับเพิ่นนำหนา สอาง”
สอางสะบัดเสียงใส่ “แล้วไผว่าข้าน้อยบ่อดีใจล่ะ ข้าน้อยดีใจตั้งแต่เพิ่นได้ผัวสมใจแล้วล่ะ ถึงสิเอิ้นว่ากินน้ำใต้ศอกใต้เข่า แต่มันก็ซื่นใจ ไผเขาก็กินกัน แม้แต่คนขี้ทูตกุฏฐังอย่างอีงอ”
สอางเยาะญาแม่กลับ แล้วสะบัดหน้าเดินออกไป ญาแม่หน้าตึง ใจเริ่มนึกกังวลถึงนางงอขึ้นมาอีก
สะออนถือกระด้งตากรากไม้แห้งมาเก็บในห้องสมุนไพร หน้าตาบูดบึ้งเพราะงอนโซ่ทอง ศรีธาราถือกระด้งแว่นมะตูมแห้งเดินตามเข้ามาหา สะออนเอาห่อผ้าบางๆมาใส่แว่นมะตูมแห้ง
“แว่นมะตูมตากแห้งนี่กลิ่นหอมจังเลยนะครับ”
“ข้าน้อยฝากห่อหมากตูมแห้งห่อนี้ไปถวายพ่อเจ้านะเจ้าคะ ส่วนอีกห่อ ฝากให้ญาเอื้อยสอางเจ้าค่ะ ญาเอื้อยได้กินแล้วจะสดชื่นอารมณ์แจ่มใส”
“น่าอิจฉาญาเอื้อยจังเลยนะครับ ที่มีน้องสาวน่ารักน่าทะนุถนอมอย่างนี้”
โซ่ทองถือถาดสมุนไพรเดินตามมา ทันได้ยินพอดี
“ท่านชายก็ยกยอข้าน้อยเกินไป”
“ผมพูดด้วยน้ำใสใจจริงนะ ญาเอื้อยทั้งสองของคุณ คงรักคุณมากนะสะออน คุณเป็นน่ารัก จิตใจดี ใครเห็นคุณ ก็อดหลงรักไม่ได้”
โซ่ทองยืนดูศรีธาราพร่ำคำหวานต่อสะออน และเห็นสะออนวางตัวลำบาก จนศรีธาราหันมาเห็น
“ลองถามอ้ายโซ่ทองดูก็ได้ ถ้าคุณไม่เชื่อ จริงมั้ยครับ อ้าย สะออนเป็นคนน่ารัก ใครเห็น ก็อดหลงรักไม่ได้”
“ไม่รู้สิ ข้าน้อยรู้สึกเฉยๆ”
สะออนรู้สึกน้อยใจมากที่โซ่ทองพูดอย่างนั้น สีหน้าบึ้งตึง ตัดบทไปพูดเรื่องอื่น
“ห่อแว่นหมากตูมนี่ ข้าน้อยถือช่วยนะเจ้าคะ เดี๋ยวข้าน้อยไปส่งท่านชายเจ้าค่ะ”
“ขอบคุณครับ อ้ายโซ่ทอง ผมกลับแล้วนะครับ” ศรีธารายกมือไหว้ขอบคุณ
โซ่ทองรับไหว้ด้วยสีหน้านิ่งเฉย แววตาน้อยใจ ทั้งคู่เดินออกไปด้วยกัน โซ่ทองไม่มองแต่เมื่อทั้งสองเดินออกไปแล้วสักพัก เขาก็หันกลับไปมองด้วยแววตาเสียดาย โกรธตัวเอง
สะออนก้มหน้าก้มตาฝนว่านยาอยู่เงียบๆ ไม่พูดไม่จา โซ่ทองเมียงมองดูอยู่ครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจถามออกไป
“เคียดอ้ายบ้อ”
“เคียดหยัง” สะออนทำท่าเฉยเมย “บ่อได้เคียดจักหน่อย”
“อ้ายฮู้ว่าเจ้าเคียด ถ้าอ้ายเว้าหยังให้เจ้าน้อยอกน้อยใจ อ้ายก็ขอสมมาเด๊อ”
สะออนยังไม่ตอบอะไร โซ่ทองจึงตัดสินใจพูดต่อ
“ถ้าเจ้าเคียดที่อ้ายตอบท่านซาย ว่าเจ้าบ่อน่าฮัก คือกับอ้ายบ่อฮู้สึกหยังกับเจ้า อ้ายก็อยากบอกว่า...”
สะออนหันมามองโซ่ทอง แล้วรีบตัดบทบอก
“ข้อยเคียดที่อ้ายสิไล่ข้อยไปทางอื่น บ่อได้เคียดที่อ้ายบ่อสนใจบ่อฮักข้อยจักหน่อย”
โซ่ทองสะอึก จริงๆ เริ่มรู้สึกถึงความในใจ แต่ก็รีบกลบเกลื่อน
“อ๋อ เรื่องนี่นิ่เอง อย่าหัวซาอ้ายเลย อ้ายบ่อไล่เจ้าไปไสดอก อ้ายแค่เห็นว่าเจ้าเป็นห่วงสอาง ก็น่าสิไปเบิ่งไปแยงเพิ่นแนจักหน่อย”
“ข้อยก็บ่อถิ่มญาเอื้อยดอก แต่สิให้ไปอยู่ที่วังอินทนิล ข้อยบ่ออยากไป อยู่นั่นมีแต่ผู้ลากมากดี บ่อเหมาะกับข้อย ท้องไฮ่ท้องนาแบบนี่ต่างหากที่เหมาะกับข้อย”
“เจ้านิ่มันประหลาดแท้ มีแต่คนอยากสิไปได้ดับได้ดีอยู่ในเวียงในวัง สุขสำบายเป็นเจ้าคนนายคน แต่เจ้ากลับอยากสิอยู่ตามประสาไทบ้าน เอาล่ะ ถ้าเจ้าบ่ออยากไปอยู่วัง ก็ซ่อยงานกันอยู่นี่ กอบกู้สำนักแพทย์พุทไธเทพนำกัน พ่อแพทย์สิได้เหมิดห่วง”
สะออนค่อยยิ้มออก หายโกรธโซ่ทองเป็นปลิดทิ้ง
“ข้อยสิเริ่มกอบกู้ตั้งแต่มื่ออื่นเลย เฮามาซ่อยกันเด้ออ้าย”
เห็นสะออนยิ้ม โซ่ทองก็พลอยยิ้มไปด้วย
โซ่ทองพูดคุยปรับทุกข์กับนกแก้วเรื่องสะออน
“อีแก้วเอ๊ย...”
“อีแก้วฮักพ่อ อีแก้วฮักแม่”
“เจ้าฮู้บ่อลูก ว่าแม่สะออนของเจ้า เพิ่นกำลังสิได้ดีมีสุข มีบุญวาสนาสูง ได้เป็นคู่ครองกับเจ้าใหญ่นายโต”
“อีแก้วฮักพ่อ อีแก้วฮักแม่”
“ถ้าแม่สะออนของเจ้าสิไปดีมีสุขกับคนที่ดี คนที่ฮักเพิ่นจริงใจ พ่อก็คงสิต้องดีใจกับเพิ่นนำ”
นกแก้วเงียบไปมองดูดวงตาของโซ่ทอง
“แม่สะออน เพิ่นก็คงต้องครองฮักกับเนื้อคู่ที่เคยฮ่วมเฮียงเคียงหมอนมาแต่ซาติก่อน พ่อสัญญา มื่อได๋ที่แม่สะออนของเจ้าได้แต่งดองออกเฮือน ไปอยู่กับพ่อซายที่เพิ่นคู่ควรแล้ว พ่อสิปล่อยให้เจ้าไปมีอิสระ มีความสุขตามวิถีของโตเอง”
เมื่ออดีตชาติสมัยเวียงคำนาค
อัญญาหลวง มหาเทวี ศรีสะอาดเสด็จออกมาพร้อมกับ ราชบุตร และ ข้าหลวง มาต้อนรับเจ้าหญิงสีออน
“ขบวนเสด็จของเจ้าหญิงสีออนแห่งเซียงรุ่งได้เดินทางจากนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบานมาฮอดมื่อคืนนี่ พ่อจึงให้เข้าพักในเฮือนที่แม่ของเจ้าแต่งไว้”
“อีกจักหน่อยลูกสิได้เห็นฮูปโสมของเจ้าหญิงสีออน ผู้ที่สิมาเป็นสะใภ้หลวงแห่งราชซะวงศ์เวียงคำนาคของเฮา”
“อัญญาพ่อ อัญญาแม่เพคะ ข้าน้อยอยากเห็นเจ้าหญิงที่สิได้อภิเษกสมพงศ์กับอัญญาอ้าย ว่าเพิ่นสิหน้าตาขี้ร้ายขี้เหร่ส่ำได๋” ศรีสะอาดดูถูก
ราชบุตรกังวล ไม่รู้ว่าเจ้าหญิงที่พ่อแม่ไปขอมาจะถูกชะตาเขาหรือไม่ อัญญาหลวงสังเกตเห็น จึงถามขึ้น
“ตื่นเต้นบ่อเป็นอันอยู่หรือ เป็นหยังจึงเงียบอย่างนั่นล่ะ ศรีโซ่ทอง”
“ขอเดซะ ข้าน้อยบ่อฮู้สึกหยัง แม่ญิงคนใด๋ที่อัญญาพ่ออัญญาแม่ว่าดี ข้าน้อยก็พร้อมเอาเป็นเมียตามพระทัยพระเจ้าค่ะ”
“เว้าปานว่าพ่อแม่ไปข่มเหงบังคับใจเจ้าเลยเนาะ” มหาเทวีไม่พอใจนิดๆ
“บ่อแม่นดอกพระเจ้าค่ะ ข้าน้อยเห็นแก่เวียกงานการแผ่นดินเป็นสำคัญ ถ้าการอภิเษกสมพงศ์ของข้าน้อยซ่อยเสริมอำนาจบารมีให้เวียงคำนาคยิ่งใหญ่ขึ้น ข้าน้อยก็เต็มใจ อีกอย่าง อัญญาพ่ออัญญาแม่ก็สิได้อุ้มหลานจักเทือ”
“อย่าเอาพ่อแม่เป็นที่ตั้งเลย เจ้าเบิ่งโตน้องเสียก่อน ถ้าบ่อพอใจ ก็แต่งดอกไม้เงินดอกไม้คำ ไปขอสมมาลาโทษ คืนตัวเพิ่นกลับไป แล้วอยากสิแต่งแม่ญิงทางอื่น พ่อก็บ่อขัดขีน” อัญญาหลวงว่า
ศรีโซ่ทองมีท่าทีทระนง มั่นใจในตน
“อัญญาพ่อออกปากเองแล้วเด๊ะพระเจ้าค่ะ ถ้าขี้ร้ายขี้เหร่ บ่อถืกตาต้องใจข้าน้อย ข้าน้อยขอใซ้สิทธิ์แห่งเจ้าราชซะบุตร ส่งคืนเพิ่นกลับไป ขี้แกลบขี้เถ้ากระบุงเดียวก็สิบ่อแต่งไปขอให้เสียดาย”
“ลูกเอ๋ย... เจ้าสิบ่อใซ้สิทธิ์นั่นเลย ใจเย็นสาก่อน รอเบิ่งฮูปโสมเพิ่นก่อนเถาะ” มหาเทวีปลอบ
นางข้าหลวง นางรำช่างฟ้อน รำนำขบวนพากันโปรยข้าวตอกดอกไม้นำทางมา เสียงฆ้องดังกังวาน ข้าหลวงช่างดนตรีประโคมดนตรี เป่า เจ้าหญิงสีออน อัญเชิญพานขันหมากเบ็งบายศรีดอกไม้เดินมาเข้าเฝ้าอัญญาหลวง อัญญานางมหาเทวี และเจ้าราชบุตรศรีโซ่ทอง
ศรีโซ่ทองตกตะลึงมองดูเจ้าหญิงสีออนด้วยความรักสุดหัวใจตั้งแต่แรกเห็น เจ้าหญิงเชิญขันหมากเบ็งเดินผ่านข้าหลวงที่โปรยข้าวตอกดอกไม้มาตลอดทาง
“ข้าน้อยว่าคนนี่ล่ะเพคะ ที่คู่ควรนั่งตั่งเงินตั่งคำ เป็นมหาเทวีแห่งเวียงคำนาคสืบไปภายภาคหน้า” ศรีสะอาดยังอดชมไม่ได้
“ศรีโซ่ทอง ลูกยังสิใซ้สิทธิ์เจ้าราชซะบุตรคว่ำขันหมากหมั้นอีกอยู่บ่อ” มหาเทวีแกล้งถาม
“บ่อพระเจ้าค่ะ อัญญาแม่ ข้าน้อยเฮ็ดบ่อลงดอกพระเจ้าค่ะ”
ศรีโซ่ทองตะลึงพรึงเพริศ เหมือนล่องลอยอยู่ในห้วงความฝัน มองดูดวงหน้าอันงดงามของสีออน
เจ้าหญิงสีออนเชิญพานขันหมากเบ็งขึ้นบันไดหินมานั่งอยู่ตรงหน้า ยกขันขึ้นตั้งบนหัว ยื่นสุดแขนถวายให้ ศรีโซ่ทอง ศรีโซ่ทองรับไว้ มองดูดวงหน้าสีออนด้วยความรักสุดเสน่หา
“ขอบใจเจ้าหลาย น้องหล่า”
ศรีโซ่ทองถวายขันหมากเบ็งนั้นให้แก่อัญญาหลวงและมหาเทวีที่นั่งอยู่สูงขึ้นไป แล้วรับเอาขันแป้งกระแจะจากมือพ่อแม่ ลงมาเจิมหน้าผากรับขวัญเจ้าหญิงสีออน สีออนก้มลงกราบเท้าศรีโซ่ทอง
ศรีโซ่ทองประคองร่างสีออนขึ้น เชยใบหน้า พูดด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ
“เจ้าจงมาอยู่เป็นบุญบ้านขวัญเมือง ฮ่วมหอลงโลง ฮ่วมซีวิตกับอ้าย ในโฮงเฮือนหลวง ผาสาทยอดแก้ว เป็นสะใภ้หลวงแห่งราชซะวงศ์เวียงคำนาค สุขกะเษิมสำราญ ไปซั่วฟ้าซั่วดินเถิด สีออนน้องหล่า”
ศรีโซ่ทองบริกรรมคาถา เป่าลงกลางกระหม่อมรับขวัญเจ้าหญิงสีออน สีออนพนมมือไหว้
โซ่ทองลืมตาตื่นขึ้นมาค่อนรุ่ง เสียงไก่ขันยามเช้ามืดดังแว่วมา
“สะออนน้องหล่า...”
โซ่ทองมองไปรอบๆเรือน ในความมืด รู้สึกอาวรณ์ นึกเสน่หาสะออนดั่งที่เป็นในความฝัน ลุกขึ้นนั่ง ทบทวน
“นี่อ้ายเป็นบ้าป่วงอีหยัง จึงได้พัวพันฝันเห็นเจ้าอย่างนี่”
โซ่ทองหน้าเศร้าลง
นางสายกำลังก่อไฟนึ่งข้าวอยู่ ได้ยินเสียงแคนเศร้าลอยมา ก็รู้ว่าลูกชายกำลังเศร้าตามประสาหนุ่มเสียงแคนหวานและเศร้า บอกให้แม่รู้ว่าลูกช่ายกำลังรู้สึกหวั่นไหวในความรัก
เสียงแคนนั้นบรรเลงต่อไปยังฉากใหม่
ญาแม่นอนหลับอยู่ในห้อง ในความฝันนั้นได้ยินเสียงของสอางพูดเสี้ยมถึงนางงอ
“ถ้าญาแม่บ่อเซื่อ ก็เมือเฮือนไปถามอีสะออนเบิ่งว่ามันเกิดหยังขึ้น มันเองก็เห็นกับตา ว่าญาพ่อขึ้นไปหาอีงอฮอดเรือน มันถือโอกาสตอนที่ญาแม่บ่ออยู่ ยั่วยวนญาพ่อ พอจับได้ ข้าน้อยก็ด่ามัน ญาพ่อเลยฆ่าตีข้าน้อย” สอางร้องไห้โฮๆ
เสียงสอางก้องในโสตประสาท ทำให้ญาแม่นอนกระสับกระส่าย ไม่สบายใจ
เมื่ออดีตชาติ พิลา สาลี เอามะม่วงกับเกลือมาถวายอัญญานางทองจันทร์
“ท้าวเพียซามณเฑียรมาแจ้งข่าวว่า อัญญาหลวงสิทรงแต่งพิธีขึ้นอู่เงินอู่คำให้อัญญานางหูกคำเพคะ” สาลีว่า
ทองจันทร์กินมะม่วงอยู่ ชะงักสนใจ
“ไผ อัญญานางหูกคำ”
“ก็อัญญานางน้อยที่ประสูติแต่อัญญานางนั่นล่ะเพคะ” พิลาบอก
“อ้าว ซื่ออีหูกคำ ซั่นบ่อ” ทองจันทร์รับรู้แต่ยังไม่ยินดียินร้าย
“เพคะ อัญญาหลวงทรงตั้งให้ และสิสะเหลิมยศสะเหลิมนาม ขึ้นอู่เงินอู่คำ ยอยศให้เป็นอัญญานางอีกองค์ต่อจากอัญญานางศรีสะอาดเพคะ”
ทองจันทร์ยิ้มพอใจ “ลูกกูนี่มันดวงแข็ง ถึงบ่อได้เป็นพ่อซาย ยาดแย่งตั่งเงินตั่งคำจากบักศรีโซ่ทอง แต่ก็ตีเสมอขึ้นเทียบลูกสาวอีคำอ่อนได้ ป่านนี่ บ่อแม่นมันอกแตกตายแล้วบ้อ”
“แค่นั่นยังบ่อพอเพคะ อัญญาหลวงมีฮับสั่งให้แม่เฒ่าไอ่เร่งต่ำผ้าไหมเงินไหมคำในหูกเพื่อผูกเป็นพระอู่สำหรับสะเหลิมยศอัญญานางน้อยนำเพคะ” พิลาบอก
“กูนี่มันดวงแฮงอีหลี นี่ถ้ากูได้ลูกซายหนา กูเขี่ยอีคำอ่อนตกตั่งได้ง่ายๆ เลยล่ะ กูคึดเรื่องสิปั่นให้อีคำอ่อนมันอกแตกตายได้แล้วล่ะ”
ทองจันทร์ยิ้มย่องผ่องใส เตรียมราวีอัญญานางคำอ่อน เพราะมั่นใจว่าอัญญาหลวงเมตตาลูกมาก
วันหนึ่งอัญญานางคำอ่อนมหาเทวีเสด็จมาที่โรงทอผ้ากับข้าหลวงรับใช้ ขณะที่แม่ไอ่กำลังทอผ้าไหมเงินไหมทองอยู่ในหูก นางข้าหลวงกำลังช่วยกันเลี้ยงอัญญานางหูกคำ ทุกคนลงมาหมอบกราบกับพื้น
“ถวายบังคมเพคะ อัญญานางมหาเทวี”
“ซิ่นไหมคำในหูกนั่น ต่ำใกล้แล้วแล้วหรือยัง แม่เฒ่าไอ่”
“ขอเดชะ พระอาญาบ่อพ้นเกล้า ใกล้แล้วแล้วเพคะ แต่อัญญาหลวงมีฮับสั่งให้ผูกเป็นพระอู่สำหรับพิธีขึ้นอู่เงินอู่คำอัญญานางหูกคำ พระธิดาอัญญานางทองจันทร์เพคะ”
มหาเทวีไม่พอใจ “คึดจั่งได๋ถึงสิสะเหลิมยศให้ลูกอีสนมหางแถวมันซูคอขึ้นมาตีเสมอลูกกู”
“ข้าน้อยบ่อฮู้เพคะ เป็นฮับสั่งจากอัญญาหลวง”
“แล้วอีแม่มันไปตายไสแล้วล่ะ ถึงได้เอาลูกมาฝากเป็นภาระข้าหลวงโฮงต่ำผ้าให้เขายุ่งยาก พวกเจ้าเอาลูกไปคืนแม่มัน แล้วซ่อยกันเร่งมือต่ำทอผ้าให้แล้ว”
“ขอเดซะ พระอาญาบ่อพ้นเกล้า บ่อได้ดอกเพคะ อัญญาหลวงโผดให้ปวงข้าน้อยเป็นผู้เลี้ยงดู ย่อนมีลางบ่อดีในฝันอัญญานางทองจันทร์เพคะ” แม่ไอ่บอก
“อย่าไปหลงกลมัน อีนี่มันหาเรื่องงอมืองอตีน ฮักสนุกสุขสำบาย เจ้าเร่งต่ำผืนนี้ให้ข้อก่อนแล้วค่อยต่ำผืนใหม่ให้มัน ข้อยบ่ออยากให้ลูกอีหมาจิ้งจอกนี่มาเยี่ยวรดผ้าซิ่นไหมเงินไหมคำของข้อย มันสิเกิดอัปมงคล”
ทองจันทร์ก้าวเข้ามาพร้อมสองข้าหลวง ทันได้ยินพอดี
“เด็กน้อยยังบ่อฮู้เรื่องเดียงสาหยัง เป็นหยังอัญญานางมหาเทวีถึงใจฮ้าย คึดอิจสาริษยา หาทางวิวาทยาดแย่งเอาแม้แต่สมบัติอันแรกของเพิ่นได้ลงคอ”
“อีทองจันทร์”
ทองจันทร์ไม่กลัวเกรง “อัญญาหลวงคงสิพิโรธแน่เพคะ ถ้าฮู้ว่าเมียใหญ่หาเรื่องเบียดบังลูกเมียน้อย”
มหาเทวีอึ้ง นิ่งงันไป
ทองจันทร์คุยข่ม “อัญญาหลวงฮักลูกข้าน้อย และสิสะเหลิมยศสะเหลิมนามให้สมเกียรติ เพื่อป้องกันบ่อให้ไผหาเรื่องเบียดบังในสิทธิ์และสมบัติที่ควรสิต้องได้”
“นี่มึงคงสิคึดอ่านอ่วย หาทางเสวยสุข โดยใซ้ลูกเป็นเครื่องมือกอบโกยเอาสมบัติจากราชซะวงศ์มาเข้าโต แม่นบ่อ”
“สุดแท้แต่ปัญญาสิคึดได้เพคะ ลูกข้าน้อยบ่อได้ไปกอบโกยยาดแย่งไผ อัญญาหลวงมีพระเมตตายกให้เอง รวมทั้งซิ่นไหมเงินไหมคำในหูกนั่น” ทองจันทร์บอกอย่างเป็นต่อ
“กูบ่อมีวันยกผ้าซิ่นผืนนี่ให้ลูกมึงดอก”
มหาเทวีเจ็บใจ กัดฟัน กำมือแน่น
“แต่ถ้าอัญญานางบ่อยอม สิขัดคำสั่งอัญญาหลวง ยึดผ้าซิ่นไหมคำไป ไทบ้านไทเมืองต้องลือไปแปดทิศสิบทิศแน่ ว่าอัญญานางมหาเทวีเมืองนี่ ใจดำปานก้นหม้อนึ่ง แล้วบาดนี่ ไผสิศรัทธา อยากเคารพนบไหว้ล่ะเพคะ”
“อีทองจันทร์”
นางข้าหลวงต่างหัวหดหวาดกลัว แต่ทองจันทร์ไม่เกรงกลัว มหาเทวีชี้หน้าด่า
“กูถือว่ามึงได้ประกาศสงครามกับกูแล้ว ผัวกู มึงก็เอา ผ้ากู มึงก็ยังสิเอา ต่อจากนี่ไปมึงอย่าได้พลาดท่าเสียทีก็แล้วกัน เส้นซะตามึงขาดแน่ กูเอาปูนแดงแต้มหนังกบาลมึงไว้แล้ว มึงระวังโตมึงไว้ให้ดี”
มหาเทวีจ้องทองจันทร์ไม่วางตา ทองจันทร์ยิ้มพอใจที่ข่มมหาเทวีได้
ญาแม่สะดุ้งตื่นจากฝันร้าย นิ่งคิดทบทวนความฝันแล้วรู้สึกแค้น กำมือแน่น
“อีทองจันทร์...อีงอ... มึงคึดซั่นบ้อ ว่าสิยาดแย่งเอาทุกอย่างจากกูไปได้”
เช้าวันนี้สะอาดกับญาแม่คำอ่อนยืนรอใส่บาตรอยู่ที่หน้าตำหนักใหญ่ของวัง สีหน้าญาแม่ดูซีดเซียวและเคร่งเครียดกังวลชัดแจ้ง
“ญาแม่ เป็นหยังไป มื่อนี่คือเป็นทรงหน้าซีดๆ”
“แม่นอนบ่อค่อยหลับ”
“บ่อสำบายหรือบ่อ” สะอาดเข้ามาแตะตัวดูไข้ “ข้าน้อยสิหาว่านยามาฝนให้กิน”
“บ่อมีหยังดอก แม่บ่อได้ป่วยไข้อีหยัง”
ญาแม่ฝืนยิ้มให้ แต่แว่บเดียวสีหน้าก็กลับไปเคร่งเครียดเหมือนเดิมเมื่อนึกถึงคำพูดสอาง
“ใจเย็นไปเถาะ บ่อมีข้าน้อยอยู่เป็นก้างคาคอ ป่านนี่ อีงอมันขึ้นไปนอนทับฮอยญาแม่เทิงเฮือนใหญ่แล้ว อีสะออนลูกฮักของเจ้า มันคงสิเฮ็ดได้แค่กางมุ้งให้นั่นล่ะ”
ญาแม่ครุ่นคิดชั่งใจ ในที่สุดก็ตัดสินใจจับมือสะอาด บอกจริงจัง
“เจ้าอยู่ที่วังนี่ ทุกคนก็ฮักหอมเจ้าดี เจ้าคงพออยู่เองได้แล้วล่ะ แม่ทิ้งเฮือนมาโดนแล้ว ถึงเวลาต้องได้กลับจักเทือ แม่เป็นห่วงเฮือนล่ะ”
นางงอเปิดตู้เสื้อผ้าในห้องนอนสอาง หยิบผ้าซิ่นลายหงส์ออกมาลูบคลำดู ก่อนจะหันไปทางเสากะสีแหล่
“สอางบ่อได้เอาซิ่นลายหงส์ไปนำแม่นบ่อ”
“แม่สอางเพิ่นคงลืมไว้น่ะจ้ะแม่งอ เพิ่นให้ข้อยกับอีสีแหล่ซ่อยเก็บผ้าเก็บแพร แต่ก็บ่อได้สั่งว่าให้เอาซิ่นลายหงส์ไปนำ”
เสาบอก นางงอนิ่งคิด แล้วยิ้มร้ายออกมา
“กูมีเรื่องให้พวกมึงซ่อย จักมื่อนึง สอางสิต้องเห็นความหวังดีของกู”
นางงอหัวเราะหึๆออกมาจากห้องสอาง แล้วชะงักเมื่อเห็นญาแม่ขึ้นเรือนมาพอดี ญาแม่เห็นนางงอก็หยุดกึกระแวงขึ้นมาเช่นกัน
“ยังสิกล้าขึ้นมาเทิงเฮือนนี่อีกอยู่บ่อ ได้ยินว่าแม่สอางสุดที่ฮักไล่หนีปานหมูปานหมา (มองดูถูก) เจ็บบ่อล่ะ ที่ถืกเพิ่นเหยียบเอา หรือว่าบ่อฮู้สึกฮู้สาหยัง”
นางงอยิ้มเย้ย ปะทะสายตา “เจ็บ... แต่ก็บ่อพอตาย คนอย่างข้อยบ่อตายง่ายดอก เส้นวาสนาสั้น แต่เส้นซีวิตยังยาว สิอยู่เฝ้าเฮือนไปอีกโดน โดนพอสิได้เห็นคนตายคาเฮือนพู่นล่ะ”
เสากะสีแหล่เดินย่องตามออกมาดู รู้สึกกลัวๆ เมื่อเห็นนางงอปะทะคารมกับญาแม่อย่างไม่สะท้าน เหมือนว่ามีอำนาจพอๆกัน
นางงอตัดบท “แล้วเจ้าล่ะ ไปนอนอยู่เวียงอยู่วัง บ่อสำบายดอกหรือ เป็นหยังได้ฟ่าวกลับคืนมาซะล่ะ”
ญาแม่มองนางงออย่างชิงชัง เดินเข้ามาใกล้
“ข้อยกลับคืนมา ก็ย่อนได้ข่าวว่าเฮือนนี่ มีอีแมวขโมยขึ้นเฮือน มึงสองคนเห็นอีแมวขี้ทูตหลังงอๆ มันขึ้นมาเพ่นพ่านบ้างบ่อ”
เสากับสีแหล่เหลือบมองนางงอ รู้ว่าญาแม่ว่าเหน็บ แต่ก็รีบส่ายหน้า
“เอ่อ... บ... บ่อเห็นจ้ะญาแม่” เสาบอก
“ข้าน้อยก็บ่อเห็นจักโตเลยจ้ะ” สีแหล่ว่า
“ดีแล้ว ถ้ามึงเห็นมัน ก็เอาค้อนหน่ำคอมันให้ตาย อย่าปล่อยให้มันมาลักอยู่ลักกินของของคนในเฮือน”
ญาแม่ตะคอกเสาสีแหล่ แต่มองหน้านางงอตลอดเวลา นางงอยิ้มใจเย็น เหน็บแนมกลับอย่างรู้ทันกัน
“เดี๋ยวข้อยสิซ่อยเบิ่งเป็นหูเป็นตาให้อีกแฮง”
“บ่อต้อง เทิงเฮือนนี่มีขี้ข้าหลวงหลายแล้ว สังขารพิกลพิการ อย่ามาฮนหาเรื่องใส่โต อยู่ในที่ของเจ้าไป อย่าเที่ยวมาเพ่นพ่าน”
นางงอจ้องหน้าท้าทายญาแม่ เดินเข้ามาใกล้ พูดเบาๆ พอให้ได้ยินกันสองคน
“ก็เจ้าให้ข้อยอยู่ในที่ของข้อยนี่เด ข้อยก็เลยต้องเดินไปให้ทั่วทุกที่ ก็ย่อนว่าทุกที่ มันเป็นที่ของข้อย และทุกอย่างมันก็เป็นของของข้อย”
นางงอยิ้มเย้ย บอกเป็นนัยๆ ว่าตัวเองถือสิทธิ์เจ้าของบ้านเหมือนกัน แล้วเดินจากไป
ญาแม่กำมือแน่นคุมแค้น มองนางงออย่างหวาดระแวง เพราะไม่รู้จะมาไม้ไหน
อีกฟากหนึ่ง สะอาดกำลังช่วยบ่าวเตรียมอาหารชุดใหญ่อยู่ในครัว หันไปเห็นสอางเดินเข้ามาพอดี
“อ้าว สอางน้องหล่า เจ้าหิวหรือยัง”
สอางส่ายหน้า มองอาหารที่ทำเตรียมไว้หลากหลายอย่างสนใจ “นี่ญาเอื้อยเตรียมแนวอยู่แนวกินสิไปไส มันคือหลวงหลายปานนี่”
“มื่อนี่สิมีแขกมากินพาแลงที่วัง ทั้งคนบ้านเฮา ทั้งฝรั่ง พ่อเจ้าก็เลยอยากเลี้ยง ทั้งแนวกินแบบอีสาน ทั้งแนวกินแบบฝรั่ง”
สอางสนใจ “ฝรั่งบ่อ ต๊าย ข้าน้อยเพิ่งฮู้ว่าเจ้าเมืองอีสานบุรีนี่ต้องคบค้าพวกฝรั่งมังค่านำ”
“เป็นเจ้าเมืองก็ต้องผูกไมตรีกับคนไว้หลายๆ ยิ่งคนต่างซาตต่างภาษา ถ้าเพิ่นมาอย่างมิตร เฮาก็สิได้เฮียนฮู้ ฮับเอาสติปัญญาเพิ่น มาสร้างบ้านแปลงเมืองเฮา เจ้าไปอาบน้ำแต่งโตสาน้องหล่า เดี๋ยวแขกสิมาเสียก่อน”
สอางยิ้มตื่นเต้น “ญาเอื้อยสิให้ข้าน้อยออกหน้า ต้อนฮับแขกนำแม่นบ่อจ๊ะ”
“แม่นแล้วจ้ะ ตอนนี่ เจ้าก็นับว่าเป็นเจ้าภาพอีกคนของวัง”
สอางเนื้อเต้นที่จะได้ออกงาน
สอางอาบน้ำแต่งตัวสวยสุดเท่าที่มี เข้ามาให้สะอาดช่วยแต่งหน้าทำผมให้
“เสียดายแท้ ที่ข้าน้อยบ่อได้เอาผ้าซิ่นลายหงส์มานำ บ่อคึดว่ามีงานที่สิต้องได้นุ่งได้แต่ง”
“แค่นี้เจ้าก็งามแล้วล่ะ น้องหล่า”
สะอาดช่วยหวีผมให้น้องอย่างเอ็นดู สอางเหลือบมองพี่สาว เห็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัว ยังไงก็งามกว่าตัวเองเยอะ
“แต่ก็คงงามบ่อส่ำญาเอื้อยดอก ตั้งแต่ญาเอื้อยยอยศขึ้นเป็นแม่เจ้า เนื้อโตก็งามปานนางสวรรค์ซั้นฟ้า ผ้าซิ่นผ้าแพรก็แพงกว่าตอนเป็นแค่ลูกสาวพ่อแพทย์พุทไธหลาย”
สะอาดก้มลงมองตัวเอง ยิ้มเจื่อนๆ
“เอื้อยก็แต่งเพื่อให้สมฐานะแม่เจ้า แต่ถ้าเลือกได้เอื้อยก็อยากเป็นแค่แม่สะอาด แห่งเฮือนพุทไธเทพเท่านั่นล่ะ”
สอางมองพี่สาวยิ้มมีเลศนัย
“ถ้าอย่างนั่น แนวใด๋ที่ญาเอื้อยบ่ออยากใส่ ก็ยกให้ข้าน้อยซะเด๊อ อย่างสร้อยเส้นนี่”
สะอาดตกใจ เอามือจับสร้อยที่คอ สอางเดินมาเผชิญหน้าถือวิสาสะจับสร้อยคอลูบเล่น
“มันงามถืกตาต้องใจข้าน้อยตั้งแต่เห็นญาเอื้อยใส่มื่อคืนแล้วล่ะ”
สะอาดหน้าเจื่อน คาดไม่ถึงว่าสอางจะเอ่ยปากขอซึ่งๆ หน้า สอางเห็นพี่สาวลังเลก็ตีหน้าเศร้า
“ข้าน้อยมาอยู่นี่แต่โต มาเป็นผู้อาศัยใบบุญ ผ้าซิ่นผ้าแพร สร้อยแขนแหวนกำไล ก็บ่อมีติดโตมานำ ออกไปฮับแขกสภาพนี่ ก็อนาถาน่าสมเพช ขายหน้าญาเอื้อย ญาเอื้อย... ข้าน้อยขอสมมา ข้าน้อยขอบ่อออกไปดีกว่า”
“สอาง น้องหล่า...”
สอางทำท่าจะเปลี่ยนชุด สะอาดตกใจ รีบจับมือห้ามไว้ ถอดสร้อยให้น้อง
“เดี๋ยวจ้ะ เจ้าเอาสร้อยของเอื้อยไปใส่ก็ได้”
“ขอบใจจ้ะญาเอื้อย ขอบใจหลาย”
สะอาดสวมสร้อยให้สอาง โดยไม่ได้เห็นรอยยิ้มสาสมใจของอีกฝ่าย
พ่อเจ้านั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก จนเห็นสะอาดกับสอางเดินเข้ามา สอางยิ้มหวานเดินนำหน้า
“เฮาสองคนต้องขอสมมาพ่อเจ้า ที่ปล่อยให้รอโดนเจ้าค่ะ”
“บ่อเป็นหยังดอก แขกยังบ่อมากันเลย พากันนั่งก่อน”
สอางแกล้งทำเป็นประหม่า นั่งลงที่โซฟารับแขก แต่พยายามอวดเนื้อตัวที่แพรวพราวไปด้วยแก้วแหวนเครื่องประดับของพี่สาว จนสะอาดตัวเกลี้ยงไม่เหลือสักชิ้น
“กราบขอบใจพ่อเจ้าเจ้าค่ะ ที่อุตส่าห์ให้ข้าน้อยได้ฮ่วมงานเลี้ยงคืนนี่”
“ข้อยอยากให้สะอาดมีหมู่ แขกมากินข้าวที่วังยามใด๋ เพิ่นก็ได้แต่นั่งนิ่งๆ เงียบๆ บ่อปากบ่อเว้ากับไผ คราวนี่ มีสอางอยู่นำ สิได้บ่อเหงา”
สะอาดก้มหน้าเขิน สอางมองหมั่นไส้ แต่พยามฉีกยิ้มกลบเกลื่อน
พ่อเจ้ามองจับสังเกตจนสะดุดตาบางอย่าง “สะอาดแบ่งสร้อยให้น้องใส่นี่เอง คอเลยเบิ่งโล่งๆ ตามไปที่ห้องข้อย เดี๋ยวข้อยสิเอาสร้อยของแม่บัวมาให้เลือก”
สะอาดตกใจนึกไม่ถึง มองหน้าพ่อเจ้าเหวอๆ
“แต่...”
“ตามข้อยมา”
พ่อเจ้าไม่รอให้ปฏิเสธ ลุกเดินนำเข้าห้องไป สะอาดรีบตามไปด้วย
“กูบ่อมีทางยอมแพ้มึงดอก อีสะอาด”
สอางมองตาม นึกอิจฉาริษยาพี่สาวขึ้นมาอีกจนได้
อ่านต่อตอนที่ 13