ซิ่นลายหงส์ ตอนที่ 11 สมิงพันดงปั่นหัวชาวบ้านใส่ร้ายพ่อแพทย์พุทไธ
บทประพันธ์ : ณไทย ภัทรกวีกานท์ บทโทรทัศน์ : ปริศนา / ณไทย ภัทรกวีกานท์
ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคนที่ยังมองสะออนเป็นตาเดียว เพ็ง เภาหน้าซีดเผือดที่ห้ามสะออนไม่ทัน
สมิงพันดงมองจ้องสะออนเขม็ง พูดยิ้มเยาะ
“มึงคือลูกของบักเฒ่าพุทไธแม่นบ่อ อีใด๋วะ อีที่เป็นแม่ฮ่าง หรือว่าอีที่ยังบ่อมีผัว”
สะออนฉุน “ข้อยสิเป็นอีใด๋มันก็เรื่องของข้อย บ่อต้องมาอยากฮู้ สิ่งที่เจ้าต้องฮู้คือ ข้อยบ่อยอมแน่ ที่เจ้ากุเรื่องมาทำลายซื่อเสียงของพ่อข้อย”
สะออนกวาดตามองกลุ่มชาวบ้านเห็นหลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาก็ยิ่งผิดหวัง
“แล้วลุงป้าน้าอาเป็นหยังกันไปเหมิด เหตุใด๋จึงมาหลงเซื่อคำปลิ้นปล้อนของมัน”
สมิงพันดงชักเริ่มไม่พอใจมากขึ้น “เฮ่ย อีนางนี่”
เพ็งกะเภาตกใจกลัวสมิงพันดง พยายามกระตุกมือสะออนเตือน แต่สะออนไม่กลัว หันไปด่าสมิงพันดง
“เจ้าปรุงยาปลอมมาต้มตั๋วไทบ้าน แค่นั้นบ่อพอ ยังสร้างเรื่องให้ไทบ้านเข้าใจพ่อข้อยผิด บักคนสันดานซั่ว”
“มึงปากเก่งกับกูเกินไปแล้ว อีนาง” สมิงพันเหลืออดสั่งลูกศิษย์ทันที “พวกสูจับอีเด็กปากปลาแดกนี่ไว้ มันตั้งใจมาทำลายพิธีกู ให้กูปราบอีผีปอบนี่แล้วก่อน กูสิปราบอีเด็กเวรนี่นำ”
ลูกศิษย์ชายคนสนิทปรี่เข้าหาสะออนอย่างคุกคาม สะออนหนีไม่ทัน ถูกลูกน้องกระชากตัวไว้
เพ็งร้องขอ “อย่าเฮ็ดอีหยังนายกูเด้อ”
เภาอ้อนวอน “ปล่อยแม่สะออนเดี๋ยวนี่ ว้าย”
เพ็งกะเภาพยายามยื้อยุดช่วยสะออน ถูกลูกศิษย์สมิงพันดงตบคว่ำ แล้วลากสะออนไปข้างในเรือน พวกชาวบ้านมองดูอย่างตื่นตระหนก แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไร
ด้านโซ่ทองยังคงนั่งเผชิญหน้ากับศรีธาราด้วยความอึดอัดใจ
“ท่านชาย...บอกเรื่องสะออนกับข้อยทำไม”
“ก็อ้ายโซ่ทองสนิทกับสะออน ผมก็อยากจะให้อ้ายช่วยเป็นพ่อสื่อให้ผมหน่อยน่ะสิ”
โซ่ทองอึ้ง ทำหน้าไม่ถูก ศรีธารารีบพูดต่อ
“ที่จริงผมเคยบอกอ้ายตั้งนานแล้วว่ารู้สึกยังไงกับสะออน ตอนนั้นอ้ายด่าผมว่าไม่เจียมตัว” ศรีธาราอมยิ้ม “แต่ตอนนี้ ผมคิดว่า ผมมีสิทธิ์ที่จะหวังในตัวสะออนได้แล้วล่ะ อ้ายว่าจริงไหม”
“เอ่อ ข้อย... ข้อยตอบแทนสะออนไม่ได้ดอกจ้ะ”
“อ้ายก็ไม่ต้องตอบ แต่ช่วยทำยังไงก็ได้ ให้สะออนรับไมตรีจากผมได้ไหม ยังไงสะออนก็ไม่ได้ชอบพออยู่กับใครไม่ใช่เหรอ”
โซ่ทองยิ่งรู้สึกหวิวๆ เมื่อเห็นศรีธาราแสดงท่าทางรุกหนัก ถึงตอนนี้จะยังไม่ได้รู้สึกรักชอบสะออน แต่ก็แอ[มีความรู้สึกหวงเกิดขึ้นมาไม่น้อย
“นะอ้ายโซ่ทอง ช่วยผมหน่อย ถือซะว่าช่วยน้องชายให้สมหวังในรัก ผมไหว้ล่ะ”
ศรีธารายกมือไหว้แถมจะก้มกราบลงที่พื้น โซ่ทองตกใจ รีบกระถดหนี สอางยกพาข้าวขึ้นเรือนมาเห็นพอดี
“ตายแล้วท่านชาย ไปยอมือไหว้บักขี้ข้านี่ทำไมเจ้าคะ เดี๋ยวเสนียดจัญไรก็กินมือเอาดอก”
สอางปราดเข้ามาขวางกลาง ขึงตามองโซ่ทองอย่างไม่พอใจ
“มึงต้มตุ๋นอีหยังให้เจ้าศรีธารายอมือกราบไหว้มึง ขี้กลากสิขึ้นหัวกบาลมึงเด๊ะ บักขี้ครอก”
โซ่ทองหน้าเหวอ พูดอะไรไม่ออก ศรีธารารีบห้าม
“เปล่าครับ อ้ายโซ่ทองไม่ได้ทำอะไร ผมเต็มใจกราบอ้ายเพิ่นเอง ในฐานะที่เรานับถือเป็นพี่เป็นน้องกัน”
“ท่านชายไปนับญาติอะไรกับมัน ไอ้นี่มันเป็นแค่บ่าวไพร่ในเฮือน อย่าไปยกย่องให้มันแปดเปื้อนเกียรติตัวเองเลยเจ้าค่ะ”
สอางหันมาขึงตาตวาดด่าโซ่ทองไม่เลี้ยง
“มึงลงไปได้แล้ว อย่ามาเสนอหน้า ป้าดโธ้... เห็นว่าบ่อมีไผอยู่ ก็กำเริบเสิบสาน วางท่าเป็นเจ้าบ้านเจ้าเฮือน บ่อเจียมกะลาหัว ไปให้พ้นหน้ากู บักห่ามึง”
โซ่ทองสะเทือนใจกับคำพูดเหยียดหยามของสอาง แต่ไม่ตอบโต้แม้แต่คำเดียว ทำท่าจะคลานออกไป แต่เพ็ง กะเภาวิ่งสวนขึ้นเรือนมา หน้าตาตื่น น้ำตากลบตา
“บักโซ่ทอง บักโซ่... แม่สะออนแย่แล้ว” เพ็งละล่ำละลัก
“เกิดหยังขึ้น เอื้อยเพ็ง เอื้อยเภา แล้ว...สะออนไปไส”
“ไปซ่อยแม่สะออนแหน่หล่า บักโซ่” เภาว่า
เพ็งกะเภาสะอื้นไห้อย่างคนขวัญเสีย สอาง ศรีธาราชะงัก รีบลุกมาหา
“เกิดอะไรขึ้นครับ แล้วนี่ สะออนหายไปไหน”
“เพิ่น... เพิ่นถืกจับโตไปเจ้าค่ะ” เพ็งกระอึกกระอัก
เภาพูดไปร้องไห้ไป “บักหมอผีเฒ่าสมิงพันดงมันจับแม่สะออนไป ฟ่าวไปซ่อยเพิ่นเถาะ ข้อยย่านว่ามันสิทำร้ายแม่สะออน”
เพ็งกะเภาร้องไห้โฮ ศรีธารากับโซ่ทองตกใจมาก
นางงอเดินขึ้นเรือนมา เห็นสอางนั่งหงุดหงิดอยู่คนเดียวก็งง
“สอาง เจ้าศรีธาราไปไสแล้วล่ะ”
สอางโมโห “ไปเบิ่งอีสะออน เห็นซุมอีเพ็งอีเภาว่ามันไปก่อเรื่องอยู่ที่เฮือนหมอผีทางได๋ก็บ่อฮู้ ก็เลยถืกจับโตไป”
“อ้าว นี่ก็แสดงว่าทุกคนออกไปซ่อยสะออนกันเหมิดแม่นบ่อ”
“ก็สิแม่นตั๊ว พ่อซายแห่แหนแล่นไปซ่อยมัน บ่อมีบักได๋อีได๋เห็นกะลาหัวกูจักคน กูล่ะหมั่นไส้อีสะออนคัก ปล่อยให้เขาฆ่ามันตายโลด กูสิรอสมพื้นน้ำหน้า”
สอางลุกพรวดขึ้น มองพาข้าวอย่างโมโห
“แนวอยู่แนวกินนิ่ ถ้าบ่อมีไผกิน ก็เทให้หมามันกินโลด กูสิกลับไปนอน”
สอางเดินเอาตีนเตะพาข้าวเบาๆ ด้วยความขวางตาแล้วเดินลงเรือนไป นางงอลอบยิ้มสะใจ
ฝ่ายสมิงพันดงนั่งอยู่หน้าเรือน กำลังแจกยาให้พวกชาวบ้านที่ยังเหลือประปราย พวกชาวบ้านกลุ่มใหญ่กลับไปแล้ว เพราะพิธีไล่ปอบเสร็จแล้ว เหลือแต่พวกมาขอยาไปกิน โซ่ทอง ศรีธารา เพ็ง เภาขึ้นเรือนมา
“ปล่อยโตสะออนมาเดี๋ยวนี่ บักเฒ่าสมิงพันดง”
สมิงพันดงมองโซ่ทองอย่างรู้จักอยู่แล้ว เพราะลูกน้องลูกศิษย์เคยมารายงาน แต่ทำเป็นไม่สนใจโซ่ทอง หันไปพูดกับเพ็งเภาแทน
“เป็นหยังสูเอาบักลูกศิษย์เอกมันมา ถ้าสูแน่จริง ก็เอาบักเฒ่าพุทไธมากราบตีนขอสมมากูแทนลูกสาวมัน”
โซ่ทองฉุนขาด “คนอย่างมึง ถ้าอยากพบกับพ่อแพทย์ ก็ต้องคลานเข่าเข้าไปกราบตีนเพิ่นที่เฮือนพู่น สิได้มีความฮู้ มีสติปัญญาไว้ทำมาหากิน บ่อต้องเที่ยวต้มตั๋วไทบ้านไปทั่วอย่างนี่”
“ท่าทางเก่งเป็นนักเลงใหญ่อย่างนี่นิ่เอง ถึงได้ขวงหูขวงตาจนถืกเขาฟันปางตาย” สมิงชั่วแดกดัน
โซ่ทองชะงักแว่บมองสมิงพันดงอย่างสงสัยทันที ถลาเข้าไปถามอย่างเอาเรื่อง
“มึงว่าหยังนะ”
ศรีธาราเกรงเรื่องจะลุกลาม รีบเข้ามาแทรก แนะนำตัวกับสมิงพันดง
“เดี๋ยวก่อนนะครับ ผมว่าเราคุยกันดีๆ ดีกว่า ผมชื่อศรีธารา เป็นลูกชาย พระขัตติยะรามังกูร ผมขอเป็นตัวแทนฝ่ายพ่อแพทย์พุทไธก็แล้วกัน หากสะออนทำอะไรผิดใจท่านพ่อครู ผมก็ขอ...”
ศรีธาราทำท่าจะไหว้ขอโทษสมิงพันดง แต่สมิงพันดงหัวเราะลั่นออกมา จนศรีธาราชะงัก
“แม่นควมกูเว้าบ่อล่ะสู ฮ่าๆๆๆ ขนาดลูกซายท่านเจ้าเมืองอีสานบุรีก็ยังตกอยู่ใต้อำนาจมัน ถึงกับยอมือขึ้นสิกราบไหว้กู สูเห็นบ่อ”
พวกชาวบ้านพยักพเยิดคล้อยตาม สมิงพันดงมองศรีธาราเต็มตา ยิ้มเยาะ
“เจ้านิ่ก็เหลือเกิน เขาฆ่าแม่ตายไปทั้งคน ยังสิยอมก้มหัวให้เขาหลอกใซ้อีก”
“มึงเว้าหยัง บักเฒ่าเจ้าเล่ห์”
โซ่ทองยัวะ สุดทน ง้างหมัดเข้าใส่ ลูกน้องสมิงขยับเข้ามาใกล้ทันที ศรีธารารีบยกมือห้าม
“ใจเย็นๆ ก่อนเถอะนะ ผมไม่อยากให้มีเรื่องมีราวกัน ท่านพ่อครูผมต้องการตัวสะออนคืน ท่านจะเอายังไงก็ว่ามา กักขังกันไว้อย่างนี้ ไม่เกรงกลัวขื่อบ้านขางเมืองหรือครับ” ศรีธาราคุยดีๆ ด้วย
“ไผหาเรื่องไผก่อน พยานเขาเห็นกันเหมิด อยากให้ตำรวจมาเจรจา ก็ไปเอิ้นมาแม้”
สมิงพันดงหันไปพยักพเยิดกับลูกน้องและพวกชาวบ้าน แล้วหันมายิ้มเยาะใส่โซ่ทองกับศรีธาราอย่างเป็นต่อ
“หรือสิให้ง่ายกว่านั่น ก็ไปเอิ้นบักเฒ่าพุทไธมาแค่คนเดียว ให้มันมากราบตีนขอสมมาข้อย เรื่องมันสิได้จบๆ”
“ได้ พวกเราจะไปตามพ่อแพทย์มาที่นี่ อ้ายโซ่ทองไปตามพ่อแพทย์มา ผมจะอยู่ดูแลสะออนเอง”
รถของวังอินทนิลแล่นมาจอดที่หน้าเรือนพุทไธเทพ พ่อแพทย์ลงจากรถ แล้วหันมาบอกคนขับรถ
“รอก่อนจักคราวเด้อ ข้อยสิฝากยาไปให้แม่ของเจ้า เพิ่นสิได้หายไข้หายไอ”
คนรถยกมือไหว้พ่อแพทย์อย่างดีใจ พ่อแพทย์พึมพำ
“เอ... คนเสียไปไสกันเหมิด เฮือนเงียบปานป่าซ้า”
โซ่ทองวิ่งกลับมาที่ถึงเรือนพร้อมกับเพ็ง และ เภา
“พ่อแพทย์”
พ่อแพทย์มองฉงน “พวกสูกระหืดกระหอบมาจากไสกัน”
“ข้อยมาจากสำนักบักเฒ่าสมิงพันดงจ้ะ ตอนนี่ มันจับโตสะออนกับเจ้าศรีธาราไว้”
พ่อแพทย์และคนรถของวังตกใจ
ลูกน้องสมิงพันดงเปิดประตูห้องที่ขังสะออนไว้ ให้ศรีธาราเข้ามาแล้วปิดประตู ศรีธาราปรี่เข้ามาหาสะออน
“ท่านชาย...”
สะออนมองหน้าศรีธาราอย่างพิศวง อ้าปากจะถาม แต่ศรีธาราขัดขึ้น
“ทำไมท่านชายมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะเจ้าคะ”
“ผมกับอ้ายโซ่ทองรู้เรื่องหมดแล้ว ตอนนี้อ้ายเพิ่นกำลังไปตามพ่อแพทย์ ผมก็เลยอาสามาอยู่เป็นเพื่อนคุณ ไม่ต้องกังวลนะ”
ศรีธาราเดินมานั่งข้างๆ สะออน ดึงตัวสะออนมาโอบไว้ สะออนงงๆ แต่ก็ไม่ขัดขืน เพราะใจกังวลเรื่องพ่อแพทย์มากกว่า
สมิงพันดงยังคงแจกจ่ายยาให้ชาวบ้านที่ทยอยกันมาขอ ซักพักลูกน้องก็เข้ามากระซิบอะไรบางอย่าง
“บ๊ะ มื่อนี่เฮือนกูฮับแขกจนหัวคันไดบ่อแห้งเลยโว้ย”
สมิงพันดง หัวเราะชอบใจ ลุกเดินไปที่ชานหน้าเรือน จังหวะเดียวกับที่พ่อแพทย์ โซ่ทองขึ้นเรือนมาพอดี
พ่อแพทย์มองจ้องมาที่สมิงพันดง เป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรก
“มาแล้วหรือ พ่อแพทย์พุทไธ”
“มึงนี่บ้อ บักเฒ่าสมิงพันดง”
“เออ กูนี่ล่ะ พ่อครูสมิงพันดง ! ลูกมึงมาเฮ็ดกูสิบหายขายหน้า กูล้างตีนรอแล้ว สิกราบตีนขอสมมากู ก็ฟ่าวกราบซะ” สมิงชั่วหัวเราะสะใจ
พ่อแพทย์ขบกรามแน่น มองสมิงพันดงด้วยความแค้นใจ
“ต่อให้มึงขุดโคตรขุดเหง้ามึงขึ้นมานำ กูก็บ่อกราบให้เสียมือดอก ปล่อยลูกกูกับเจ้าศรีธาราเดี๋ยวนี่”
“บ่อ มึงต้องกราบกูก่อน โทษฐานที่ลูกมึงบุกเข้ามาป่วนพิธีของกูจนเพพินาศ” สมิงพีดงไม่ยอม
“พิธีต้มตั๋วหลอกลวงของมึงเพพินาศไปก็สมควรแล้ว” พ่อแพทย์หันไปมองชาวบ้านที่ยังเหลือ “พวกเจ้าบ่อฮู้โตกันเลยบ้อ ว่ากำลังถืกมันต้ม บักเฒ่าเจ้าเล่ห์นี่มันเป็นแค่หมอผีลวงโลก”
พวกชาวบ้านมองหน้าพ่อแพทย์อย่างเคลือบแคลง
ชายชาวบ้าน1 เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “แต่ก็ยังบ่อเห็นมีไผตายย่อนว่านยาของพ่อครูสมิงพันดงจักคนเด้ล่ะ”
“แม่น แต่ว่านยาของท่านพ่อแพทย์หั่นล่ะ ที่ฆ่าแม่เจ้าปทุมรัตน์จนตาย” หญิงชาวบ้าน2 เสริม
พ่อแพทย์งง “นี่หมู่เจ้าเว้าหยังกัน”
“แม่เจ้าป่วยมาหลายปี อยู่ๆ ก็มาตายหลังจากลูกสาวท่านเข้าวังไปบ่อจักมื่อ แล้วก็ยังยกลูกสาวให้เป็นเมียพ่อเจ้าอีก ท่านสิให้หมู่ข้อยคึดจั่งได๋”
สิ้นคำชายชาวบ้าน3 พวกชาวบ้านพากันเออออตามกัน พ่อแพทย์ผงะหน้าซีด สมิงพันดงมองสะใจ
“พ่อแม่พี่น้อง พวกเจ้ากำลังหลงเซื่อคำยุแยงของบักหมอผีชั่วคนนี่ มันแต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อทำลายศรัทธาของพ่อแพทย์” โซ่ทองอธิบาย แต่ไม่เป็นผล
“พ่อแพทย์หั่นล่ะ ที่เฮ็ดให้หมู่ข้อยเสื่อมศรัทธาเอง ปรุงว่านยาฆ่าแม่เจ้าปทุมรัตน์จนตาย” ชาวบ้าน1 ว่า
ชาวบ้าน2 “ยอมฮับความจริงสาพ่อแพทย์ ว่านยาของท่านมันเสื่อมคุณวิเศษแล้ว ขนาดแม่เจ้าปทุมรัตน์ยังบ่อรอด แล้วนับประสาหยังกับคนทุกข์คนยากอย่างหมู่ข้อย”
พวกชาวบ้านส่งเสียงเห็นด้วยดังขึ้น แล้วลุกขึ้นยืนประจันหน้า พ่อแพทย์ยิ่งตกใจ มองทุกคนที่ล้วนแต่เป็นคนคุ้นหน้ากัน แต่วันนี้กลับแสดงท่าทีระแวง ไม่ไว้ใจ
พ่อแพทย์ยืนนิ่ง น้ำตาตกในจนพูดอะไรไม่ออก ขณะที่สมิงพันดังหัวเราะสะใจ
“มึงกราบตีนกูแม้ บักเฒ่าพุทไธ แล้วสารภาพผิด ขอสมมาลาโทษสา กูสิเมตตาขอความศรัทธาคืนให้”
สมิงพันดงยื่นเท้าออกมาแล้วกระทืบกับพื้นตรงหน้าแรงๆ เป็นการเยาะเย้ยพ่อแพทย์
“บักสมิงพันดง”
โซ่ทองแค้นจัดกำมือแน่นด้วยความโกรธ อยากจะปราดเข้าไปซัดเปรี้ยง แต่มีเสียงพ่อเจ้าดังขึ้น
“พ่อแพทย์พุทไธบ่อมีหยังสิต้องกราบขอสมมาไผ”
ทุกคนหันไปที่บันได เห็นพ่อเจ้า สะอาดแม่เจ้าคนใหม่ พร้อมญาแม่คำอ่อนขึ้นเรือนมา มีคนรถของวัง ตามขึ้นมาด้วย พวกชาวบ้านเห็นสะอาดก็ตกใจ รีบทรุดลงนั่ง
“แม่เจ้าปทุมรัตน์ประซวรเป็นโรคหัวใจมาโดนหลายปี ทางสิหายขาดนั่นบ่อมี แม่เจ้าเองเพิ่นก็ฮู้โต พ่อแพทย์ยื้อจนสุดความพยายามแล้ว เรื่องนี้ข้อยฮู้ดี” พ่อเจ้าบอกด้วยน้ำเสียง
ชาวบ้านตั้งใจฟัง ทุกคนเชื่อคำของเจ้าเมืองที่ตนเคารพเทิดทูน สมิงพันดงเห็นท่าไม่ดี รีบก้มกราบ
“ข้าน้อยบ่อคึดว่าพ่อเจ้าสิให้เกียรติมาเยี่ยมยามฮอดเฮือนซาน ขอกราบเซิญ...”
สมิงพันดงกุลีกุจอจะต้อนรับ แต่พ่อเจ้าทำเป็นไม่เห็น พูดกับชาวบ้านต่อ
“ส่วนเรื่องแม่สะอาด แม่เจ้าปทุมรัตน์เองเป็นผู้แต่งขันขอ ยกยอให้สะอาดเฮ็ดหน้าที่เมียแทนเพิ่น คนเฮือนพุทไธเทพบ่อเคยจาบจ้วงออกโรงเสนอโต บังคับใจข้อยได้ หากไผยังข้องใจอีก ก็ขอให้ถามข้อยมา ข้อยสิตอบเอง”
พวกชาวบ้านพากันเงียบ เกรงบารมีพ่อเจ้า ญาแม่เหลือบมองสมิงพันดงที่ท่าทางกริ่งเกรง
“ว่าจั่งได๋ล่ะ บักเฒ่าหมอผี บัดนี่ มึงมีหยังสิถามบ่อ”
สมิงพันดงเหลือบตาขึ้นมองญาแม่อย่างไม่เกรงกลัว ทั้งสองประสานสายตากันจังๆ แต่พอเห็นสายตาของพ่อเจ้าที่มองมา ก็รีบสลดลง
“ข้าน้อย...ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”
“ข้อยเว้าภาษาคน ถ้าเข้าใจภาษาคนแล้ว ก็อย่าให้ได้ยินว่ามีไผปลุกปั่นข่าวลือขึ้นมาอีก ได้ยินบ่อ”
สมิงหน้าเสีย รีบรับปาก
“ได้ยินแล้วจ้ะ”
พ่อเจ้าหันไปพูดกับชาวบ้าน แต่จงใจด่ากระทบสมิงชั่ว “ไทบ้านไทเมืองอีสานบุรีของเฮาฮักกันมั่นยืน สืบมาแต่โคตรแต่เหง้า คนพเนจรหมอนหมิ่น ร่อนเร่มาหากิน ข้อยบ่อเคยรังเกียจ แต่อย่ามาสร้างความเดือดฮ้อนให้กับบ้านเมืองของข้อย”
พ่อเจ้าหันไปมองหน้าสมิงพันดงแว่บหนึ่งเป็นเชิงเตือน สมิงพันดงหน้าม้าน แต่ต้องข่มความไม่พอใจเอาไว้ในใจ มือยังพนมไหว้ แต่ก้มหน้านิ่ง
“ถ้าท่านพ่อครูบ่อมีหยังขุ่นข้องหมองใจแล้ว ข้อยก็ขอโตน้องสาวข้อย กับเจ้าศรีธาราคืน” แม่เจ้าสะอาดบอก
สมิงพันดงเบือนหน้าหลบสายตาทุกคน เจ็บใจที่ถูกพ่อเจ้ากับสะอาดมาฉีกหน้าถึงเรือน
โซ่ทองรออยู่ที่หน้าเรือนกับคนอื่นๆ พอเห็นสะออนกับศรีธาราถูกปล่อยตัวลงเรือนมา จะเข้าไปหา แต่สะอาดกับญาแม่รีบเข้าไปกอดสะออนไว้
“ยาแม่... ยาเอื้อย...”
สะอาดลูบหัวลูบแขนน้อง “เจ้าเป็นจั่งได๋แหน่ เจ็บตรงได๋บ่อ น้องหล่า”
“บ่อจ้ะยาเอื้อย พวกมันบ่อได้เฮ็ดหยังข้าน้อย”
“พวกเขาขังเราไว้ในห้องเฉยๆ ครับ แต่ถ้าสะออนอยู่คนเดียว ผมก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ศรีธาราว่า
“ขอบใจท่านชายหลายเจ้าค่ะ ที่ตามไปดูน้อง มาเจ็บใจแท้ ข้อยล่ะอยากให้พ่อเจ้าเอาเรื่องมันให้หลาบ มันกล้าจับเจ้าศรีธาราไว้ บ่อฮู้จักบ่อนต่ำบ่อนสูง” ญาบอกโมโหไม่หาย
สะอาดไม่เห็นด้วย “อย่าเลยจ้ะ ยาแม่ ข้าน้อยบ่ออยากให้อื้อฉาวหลายไปกว่านี่”
พ่อแพทย์เห็นด้วยกับสะอาด “แม่นแล้ว จั่งได๋ สะออนกับเจ้าศรีธาราก็ปลอดภัยแล้ว ข้อยว่าอโหสิกันไปเถาะ เพิ่นคงสิบ่อกล้าเฮ็ดอีกดอก หรือพ่อเจ้าเห็นว่าจั่งได๋”
พ่อเจ้ามองไปที่สำนักสมิงพันดงอย่างกังวลนิดๆ
“ข้อยเป็นผู้ว่าราชซะการเมือง ก็บ่ออยากมีเรื่องมีราว ถ้าพ่อแพทย์บ่อถือสาหาความ ก็ให้แล้วๆกันไปเถาะ” พ่อเจ้าหันไปทางศรีธาราเชิงตำหนิ “ทีหน้าทีหลัง ถ้าเกิดปัญหาอะไร จงมาบอกพ่อ อย่าวู่วามทำพลการอย่างวันนี้ เพราะอาจจะไม่โชคดีอย่างนี้อีก”
“ขอโทษครับท่านพ่อ ผมมัวแต่เป็นห่วงสะออน จนไม่นึกถึงอะไรเลย”
ยาแม่ปลื้ม “โถ... สะออนเอ๋ย กราบขอบใจท่านซายสาลูก เพิ่นห่วงเจ้าปานนี่ เจ้าเห็นบ่อ”
สะออนหน้าเจื่อนจ๋อยยกมือไหว้ขอบคุณ ศรีธารารับไหว้ยิ้มสุขใจ ญาแม่ยิ้มปลื้มลืมโลก
เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของโซ่ทองที่มองดูห่างๆ ไม่มีใครเห็นความสำคัญ
เย็นนั้น สอางเดินออกมาจากในห้อง เห็นพี่น้องกำลังนั่งคุยกันอยู่
“ตื่นแล้วบ่อ สอาง ฮู้เรื่องกับเขาบ่อ ว่าเกิดหยังขึ้นกับคนเฮือนเฮา”
“เป็นหยังข้อยสิบ่อฮู้ ว่าอีสะออนมันสะดิ้งไปสะดิ้งมา จนสร้างเรื่องเดือดฮ้อน”
“ทั้งๆ ที่ฮู้ แต่ก็ยังมีกะจิตกะใจนอนจนแดดสิไหม้ขี้ตา น้ำใจสิซ่อยไผก็บ่อมี” ญาแม่ตำหนิ
“โอ๊ย ไผมันสิไปดีเลิศประเสริฐศรี ตกน้ำบ่อไหลตกไฟบ่อไหม้ คืออีสะออนมันล่ะ มันบ่อขาดแคลนคนซ่อยเหลือดอก มีแต่คนยาดแย่งกัน ทั้งขี้ข้าขี้ครอก ทั้งเจ้าทั้งนาย เห็นแล้วปวดประสาท”
สอางแดกดันน้องสาวแล้วเดินกรีดกรายมานั่งร่วมวง หยิบผลไม้ที่ฝานทิ้งไว้มากินด้วยท่าทางไม่สะทกสะท้าน สะออนยิ้มเจื่อน
“ขอสมมาจ้ะที่สร้างปัญหา ข้าน้อยหาเรื่องใส่โตเองแท้ๆ เทือหลังข้าน้อยสิบ่อใจฮ้อนอีกแล้ว”
“เอื้อยสิไว้ใจได้บ่อ ไปอยู่ในวังนำกันดีกว่า น้องหล่า”
สอางได้ยินเช่นนั้นก็หูผึ่ง
“ข้าน้อยบอกแล้วบ่อแม่นหรือยาเอื้อย ว่าข้าน้อยต้องซ่อยเวียกซ่อยงานยาพ่อ ยิ่งตอนนี่ ไทบ้านเข้าใจยาพ่อผิดๆ เฮายิ่งต้องหาทางกอบกู้ศรัทธากลับคืนให้ยาพ่อ”
ญาแม่กับสะอาดมองหน้ากันแล้วถอนใจ รู้ว่าไม่มีทางกล่อมสะออนได้
“จังแม่นมึงเล่นโตเนาะ อีสะออน” สอางดัดเสียงหวาน “ยาเอื้อย... ถ้าสะออนมันบ่อไป ก็ให้ข้าน้อยไปอยู่เป็นหมู่ก็ได้จ้ะ”
สะอาดอึ้งพูดไม่ออก แต่ญาแม่ขัดขึ้นทันที
“สะอาดเพิ่นบ่อได้อยากมีหมู่ดอก ที่สิเอาสะออนไป ก็ย่อนน้องมันขี้ดื้อขี้มึน เจ้าบ่ออยากไปก็บ่อเป็นหยังดอก สะออน แต่ถ้ามีเรื่องขึ้นอีก แม่สิบ่อฟังฟ้าฟังไฟอีหยังอีกแล้ว บอกไว้ก่อน”
สะออนหน้าม่อย ทำปากขมุบขมิบบ่นแม่ ขณะที่สอางค้อนหมั่นไส้
สอางเดินกลับเข้าห้องมา บ่นบ้าอย่างหงุดหงิด
“ยาแม่คึดซั่นบ้อ ว่าสิกันท่าคนอย่างข้าน้อยได้สำเร็จ รอให้โอกาสของอีสอางมาฮอดก่อนเถาะ หึๆ”
เสียงแคนแว่วกังวานหวานปนเศร้าดังขึ้น โซ่ทองเป่าแคนอิงเสาเรือน นกแก้วเกาะอยู่ในกรงบนเรือนแพทย์
นึกถึงตอนทุกคนรุมล้อมหน้าล้อมหลังสะออนกับศรีธารา หลังจากทั้งคู่ลงมาจากเรือนสมิงพันดง
สีหน้าโซ่ทองดูออกว่าน้อยเนื้อต่ำใจ เป่าแคนไปจนจบเพลง แล้วหันไปคุยกับนกในกรง
“ม่วนบ่อ อีแก้วลูกพ่อ”
“อีแก้วลูกพ่อ อีแก้วลูกพ่อ”
“พ่อเป่าแคนลายนี้ม่วนบ่อลูก”
เสียงสะออนดังขึ้นมา “ม่วนหลายจ้า...”
โซ่ทองหันไปมองเห็นสะออนเดินขึ้นเรือนมา
“ข้อยคึดว่าอ้ายกลับเฮือนไปแล้ว บาดที่แท้ มาเป่าแคนกล่อมอีแก้วอยู่นี่เอง”
“เจ้ามีธุระหยังกับอ้ายบ่อ”
โซ่ทองเดินเลี่ยงไปนั่งห่างๆ ท่าทางปั้นปึ่ง สะออนเดินตามมานั่งข้างๆ จ้องหน้า
“ข้อยสิมาขอบใจอ้าย เรื่องมื่อนี่น่ะจ้ะ”
โซ่ทองงอน “เจ้าควรสิขอบใจเจ้าศรีธาราหลายกว่า ที่ยอมเสี่ยงตายเข้าไปอยู่กับเจ้า”
“ฮึ เจ้าศรีธาราตามข้อยไป ก็ไปนั่งแนมหน้ากันเสยๆ บ่อได้ซ่อยหยังจักหน่อย แต่อ้ายต่างหาก ที่เป็นคนเอิ้นยาพ่อไปซ่อยข้อย”
โซ่ทองฟังแล้วรู้สึกดีขึ้น
“เจ้าบ่อได้คึดว่าอ้ายถิ่มเจ้าเอาตัวรอดดอกหรือ”
“ข้อยฮู้ว่าอ้ายบ่อมีทางถิ่มข้อยดอก ถ้าบ่อมีอ้าย ป่านนี่ ข้อยกับเจ้าศรีธารา...” สีหน้าสะออนเศร้าลง “ก็บ่อฮู้สิเป็นจั่งได๋ ข้อยขอบใจหลายๆ เด้ออ้าย”
สะออนยกมือไหว้ขอบคุณ โซ่ทองยิ้มออก อารมณ์ดีขึ้น ลูบหัวสาวเจ้าเบาๆ
“เจ้าบ่อเป็นหยังก็ดีแล้ว แต่บักเฒ่าสมิงพันดงมันฮู้จักเจ้า มันเอาปูนแดงหมายหัวเจ้าไว้แล้ว คราวนี่ สิไปไสมาไส ต้องระวังโตหลายกว่าเก่า”
“มันยังสิกล้าเฮ็ดอยู่บ่ออ้าย”
“คนซั่วทราม ถ้ามันสู้ต่อหน้าบ่อได้ มันก็ต้องลอบกัดข้างหลัง แผลมีดฟันหลังอ้าย เจ้าคึดว่าไผเฮ็ด มันอยากสิครอบงำไทบ้านเพื่อมีอำนาจเหนือพ่อแพทย์”
สะออนมีสีหน้าเป็นกังวล
บนเรือนตกอยู่ในความมืด พ่อแพทย์ถือถาดยาเส้น เดินออกมานอกชานเรือนคนเดียว ยังไม่ยอมหลับ เพราะครุ่นคิดถึงคำพูดของชาวบ้านที่ได้ยินเมื่อตอนกลางวันอย่างไม่สบายใจ
“แม่เจ้าป่วยมาหลายปี อยู่ๆ ก็มาตายหลังจากลูกสาวท่านเข้าวังไปบ่อจักมื่อ แล้วก็ยังยกลูกสาวให้เป็นเมียพ่อเจ้าอีก ท่านสิให้หมู่ข้อยคึดจั่งได๋”
“พ่อแพทย์หั่นล่ะ ที่เฮ็ดให้หมู่ข้อยเสื่อมศรัทธาเอง ปรุงว่านยาฆ่าแม่เจ้าปทุมรัตน์จนตาย”
“ยอมฮับความจริงสาพ่อแพทย์ ว่านยาของท่านมันเสื่อมคุณวิเศษแล้ว ขนาดแม่เจ้าปทุมรัตน์ยังบ่อรอด แล้วนับประสาหยังกับคนทุกข์คนยากอย่างหมู่ข้อย”
เสียงของชาวบ้านดังก้องปะปนกันอยู่ในหัวพ่อแพทย์จนเครียด หยิบเส้นยาใส่ใบตองแห้ง พันมวนเป็นบุหรี่ มองมาทางตะเกียงไฟจะจุดสูบ เสียงหนึ่งดังขึ้น
“พ่อแพทย์พุทไธ เจ้าเลิกสูบยาตั้งแต่แต่งเมีย เป็นหยังเจ้าจึงสิคืนไปสูบอีกล่ะ”
พ่อแพทย์ชะงัก หันไปทางเสียงเห็นนางงอยืนอยู่มุมหนึ่งตรงชานเรือน
“แม่งอ...”
“อย่าสูบเลย พ่อแพทย์จันทกุมารครูของเจ้าก็เคยสั่งไว้ว่า บ่ออยากเห็นคนในเฮือนเฮาติดยาสูบคือเพิ่น”
พ่อแพทย์มองหน้านางงอที่เดินมานั่งข้างๆ อย่างเข้าใจกัน ก่อนจะระบายความอัดอั้น เพราะไม่รู้จะพูดกับใคร
“ข้อยเหนื่อยใจน่ะ แม่งอ”
“เหนื่อยใจเรื่องอีหยัง”
“เรื่องที่ไทบ้านเว้าถึงข้อยกับลูกในทางเสื่อมเสีย” พ่อแพทย์ถอนใจ “ซื่อเสียงข้อยที่สั่งสมหลายสิบปีอีกทั้งคุณงามความดีของครูบาอาจารย์ ต้องมาเพพินาศย่อนคำแถลงแปลงลิ้นของคนสารเลว”
“เจ้าเสื่อมเสียย่อนฝีมือคนอื่นซั่นบ่อ”
นางงอเหน็บแนมในที พ่อแพทย์มองดูแววตานางงอที่เจ็บปวดกับเรื่องในอดีต
“ต้นตอความเสื่อมเสียมันเกิดจากบ่อนใด๋ สงสัยสิลืมไปแล้ว”
“แม่งอ” พ่อแพทย์เงียบ มองตานางงอ “ข้อยขอล่ะเด๊อ เรื่องหยังที่ผ่านไปแล้ว ก็ขอให้มันผ่านไปสา อย่าเหนี่ยวรั้งมันไว้เลย”
“สนิมเหล็กมันก็เกิดจากเหล็ก มันสิกัดกินหยัง มันก็กัดกินเนื้อเหล็กเอง กรรมมันเกิดจากบ่อนใด๋ มันก็กัดกินสิ่งนั่นล่ะ”
พ่อแพทย์ฟังแล้วยิ่งเจ็บปวด มวนยาสูบในมือยื่นไปจุดกับตะเกียง นางงอฉวยยาสูบออกจากมือพ่อแพทย์แล้วปาทิ้งลงเรือนไป
“เอาล่ะ ข้อยผิดไปแล้ว ที่รื้อฟื้นมันขึ้นมา ข้อยขอสมมา แต่ยาสูบนี่ มันซ่อยให้เจ้าลืมหยังบ่อได้ดอก มันแค่หลอกเฮาเป็นบางครั้งบางเทือเท่านั่น”
พ่อแพทย์หน้าเศร้าลง เมื่อนึกถึงครูแพทย์ของตน
“ขอบใจเจ้าหลาย แม่งอ”
“ถ้าเจ้าทุกข์ใจจนนอนบ่อหลับ ข้อยสิลงไปต้มหยังฮ้อนๆ มาให้กิน”
พ่อแพทย์มองหน้านางงอ เห็นนางงอคลายความขุ่นมัว ยิ้มให้เศร้าๆ ก็พยักหน้าตกลง
ส่วนที่วังอินทนิล พ่อเจ้านั่งทำงานอยู่ในห้องทำงาน จนได้ยินเสียงเคาะประตูก็เงยหน้ามอง เห็นสะอาดเข้ามาหา
“ข้าน้อยเห็นพ่อเจ้าเฮ็ดเวียกดึกดื่น เลยซงน้ำซาฝรั่งเศสมาให้เจ้าค่ะ” สะอาดข่มความประหม่าเต็มที่
“ขอบใจเจ้าหลาย สะอาด”
พ่อเจ้ามองสะอาดก้มหน้าก้มตารินถ้วยชายิ้มขำๆ เอ็นดู
“ที่จริงเจ้าก็ควรสิเข้านอนได้แล้ว บ่อต้องอยู่ดึกเป็นหมู่ข้อยดอก”
“ข้าน้อย ตั้งใจสิอยู่รอกราบพ่อเจ้า ที่ปกป้องศักดิ์ศรีของข้าน้อย ทั้งๆที่เรื่องที่เว้านั่น มันบ่อแม่นความจริงเลย”
“สามีก็มีหน้าที่ต้องปกป้องเกียรติ ศักดิ์ศรีของภรรยาอยู่แล้ว เจ้าบ่อจำเป็นต้องถือเป็นบุญเป็นคุณถึงกับต้องกราบดอก”
“ถ้าอย่างนั่น ข้าน้อยขอกราบเท้าสมมาสักการะสามีตามประเพณี”
สะอาดทรุดกายลงแล้วก้มกราบเท้าพ่อเจ้า อีกฝ่ายลูบเรือนผมแล้วเป่ากระหม่อมให้เบาๆ สะอาดไหว้
พ่อเจ้ารับไหว้ยิ้มชื่นชม ทั้งสองสบตากันนิ่งนาน จนพ่อเจ้าเผลอตัวยกมือขึ้นแตะแขนสะอาดจะดึงเข้ามาหาตัว สะอาดเกร็งตัว แต่ไม่กล้าขัดขืน
พ่อเจ้าเลื่อนมือสูงขึ้นจนเกือบจะถึงต้นแขน สะอาดเกร็งหนัก แต่พ่อเจ้าได้สติเสียก่อน รีบปล่อยมือลง
“มันดึกแล้ว เจ้าไปหาหลับหานอนสา สะอาด”
พ่อเจ้าหลบสายตา ยกชาขึ้นจิบแล้วทำงานต่อ สะอาดโล่งใจ ลึกๆ ก็ยังไม่กล้าใกล้ชิดกับพ่อเจ้าอยู่ดี ลุกเดินออกจากห้องไปอย่างสงบ
สะอาดออกมาจากห้องปิดประตูลง ญาแม่ที่รออยู่รีบพุ่งเข้ามาถาม
“เป็นจั่งได๋แหน่ พ่อเจ้าว่าจั่งได๋ลูก”
“พ่อเจ้าบอกว่าเป็นหน้าที่ของเพิ่นที่ต้องปกป้องศักดิ์ศรีของข้าน้อยอยู่แล้ว”
ญาแม่ยิ้มพอใจอย่างมีความหวัง แต่ไม่วายทำหน้างอใส่ลูก
“แล้วเป็นหยังบ่ออยู่ปรนนิบัติพัดวีเพิ่น ฟ่าวออกมาเฮ็ดหยัง”
“เพิ่นให้ข้าน้อยกลับไปนอนจ้ะ ยาแม่”
“เพิ่นก็ไล่พอเป็นพิธีนั่นล่ะ แต่เจ้าก็บ่อจำเป็นต้องออกมา”
สะอาดหน้าแดง ก้มหน้างุด ญาแม่ถอนใจ
“ลูกเอ๊ย เจ้าแต่งดองออกเฮือนมีผัวแล้ว ต้องฮู้จักปรนนิบัติมัดใจผัว ถ้าแบบนี่ เจ้าก็สิเป็นแค่แม่เจ้าสะอาดแต่เพียงในนามเท่านั่นล่ะ”
“เป็นแบบนี่ก็ดีแล้วล่ะจ้ะ ยาแม่ ข้าน้อยยังบ่อพร้อมดอกจ้ะ”
ญาแม่ไม่สบายใจเอาเลย รู้ว่าสะอาดกับพ่อเจ้ายังไม่ได้นอนด้วยกัน
สมัยเวียงคำนาค มหาเทวีนับเพชรนิลจินดาเก็บห่อกำมะหยี่ ได้ยินเสียงศรีสะอาดดังแว่วมา
“อัญญาแม่เพคะ อัญญาแม่”
มหาเทวีหันไปมองรีบร้อน แล้วรีบเก็บห่อกำมะหยี่ซ่อน พอดีกับที่ศรีสะอาดเดินยิ้มเข้ามา
“มีหยังลูก ศรีสะอาด”
“ข้าน้อยไปเบิ่งซุมทหารจับอีหูกคำจำขังคุกหลวงมาเพคะ ตอนนี่ ที่เฮือนกับโฮงต่ำผ้าของมัน บ่อมีไผอยู่แล้ว ข้าน้อยก็เลยสิมาเซิญอัญญาแม่ไปยึดเอาผ้าของมัน”
“ลูกซวนอีข้าหลวงไปเป็นหมู่สา ค่ำนี่ แม่บ่อว่าง”
“อัญญาแม่สิเฮ็ดหยังหรือเพคะ”
มหาเทวีอึกอักมีพิรุธ “แม่สิสวดมนต์ แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้ผีสางคางแดงทั้งหลายที่ซ่อยกันสาปส่งให้อีหูกคำมันถึงแก่ภัยอันตราย สมกับที่แม่มุ่งมาดปรารถนา”
นอกจากไม่ได้สวดมนต์ มหาเทวียังคลุมผ้าดำพรางตัวเดินเข้ามามุมลับตาอย่างระแวดระวัง โดยมีองครักษ์คนสนิทตามประกบจนถึงจุดนัดพบ
“พวกมันอยู่แถวนี่พระเจ้าค่ะ”
องครักษ์เป่ามือเป็นสัญญาณเสียงสั้นๆ 2-3 ที ไม่นานก็เห็นหัวหน้าโจรโม่งดำเดินเข้ามาอย่างระแวดระวังในชุดเดียวกับที่โจมตีขบวนเสด็จ แต่เมื่อโจรโม่งดำเดินมาถึงตรงหน้า พวกกลับคุกเข่าลงทำความเคารพ มหาเทวีโยนถุงเงินให้
“นี่บำเหน็จรางวัลของพวกสู เอาไปปันกัน แล้วอย่าได้แพร่งพรายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ไผฮู้ ถ้าบ่ออย่างนั่น หัวกบาลพวกสูบ่อได้ตั้งอยู่เทิงบ่าแน่”
โจรโม่งดำรับคำ แล้วรีบเร้นกายหายตัวไปในความมืด มหาเทวีถอนใจ หันหลังจะเดินกลับ แต่ชะงักเมื่อเห็นศรีสะอาดยืนอยู่
“อัญญาแม่”
“ศรีสะอาด”
“อัญญาแม่ฮู้จักกับพวกโจรเถื่อนที่บุกมาโจมตีขบวนเสด็จของเฮา นี่แสดงว่าอัญญาแม่ฮู้เห็นเป็นใจกับพวกมัน แม่นบ่อเพคะ”
มหาเทวีนิ่งเงียบ มององครักษ์เป็นเชิงไล่ให้หลบไปก่อน จนองครักษ์หายตัวไปถึงค่อยพูด
“แม่นแล้ว”
“อัญญาแม่” ศรีสะอาดทำหน้าตกใจในเบื้องแรก แล้วคลี่ยิ้มออกมาเต็มหน้า “อัญญาแม่ประเสริฐเลิศหลาย สะหลาดปราดเปรื่องที่สุด”
มหาเทวียิ้มลำพองใจ “ถ้าบ่อเฮ็ดวิธีนี่ เฮาสิกำจัดอีหูกคำได้บ่อ หรือสิให้มันเปิดโปงเฮา ทางเดียวที่สิปิดปากมันได้ ก็คือยัดข้อหาลอบปลงพระซนม์ให้มัน มันสิได้ตายตกไป ก่อนที่สาธุบาทเจ้ารามังกูรสิเสด็จมาเวียงคำนาค”
“แล้วพวกท้าวทหารสิบฮ้อยน้อยใหญ่ กับนางข้าหลวงที่ต้องตายไปล่ะเพคะ”
“กล้าได้ ก็ต้องกล้าเสีย คิดการใหญ่ ใจก็ต้องใหญ่ ยอมสูญเสียอีหยังบ้าง แลกกับสิ่งที่สิได้”
ศรีสะอาดอึ้งคาดไม่ถึง ทึ่งในความใจเด็ดของแม่
“ข้าน้อยภูมิใจหลายที่มีแม่เป็นสตรีใจหาญ”
“แม่ทำทุกอย่างก็เพื่อเจ้าเด๊ะ ศรีสะอาด ตอนนี่ เจ้าบ่อต้องคึดหลายเรื่องอีหูกคำ แม่กำจัดเสี้ยนหนามที่ขัดขวางเจ้าบ่อให้เป็นมหาเทวีของสาธุบาทเจ้ารามังกูรแล้ว”
มหาเทวียิ้มเหี้ยมเกรียม ศรีสะอาดก้มกราบ มหาเทวีก้มรับไหว้ประคองลูกรักขึ้น
“เป็นบุญเกล้าบุญกระหม่อมของข้าน้อยหลายล้นเพคะอัญญาแม่”
ศรีสะอาดยิ้มดีใจกับความยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเข้ามาในชีวิต
สอางสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย เนื้อตัวชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ
“ซ่อยแน้ ซ่อยกูแน้”
สอางร้องกรี๊ด ฝันว่าตัวเองเป็นหูกคำโดนจับขังคุก สะออน เสา และสีแหล่เปิดประตูเข้ามา
“ยาเอื้อย ยาเอื้อยเป็นหยัง”
สะออนตรงเข้าไปจับเนื้อจับตัวสอางที่ยังดิ้นไม่หยุด
“อย่า...ปล่อยกู อย่า”
“ข้าน้อยเอง สะออนจ้ะยาเอื้อย ยาเอื้อยมืนตาตื่นขึ้นมาก่อน”
สะออนจับหน้าสอางเงยขึ้นตบๆ เบาๆ ที่ปลายคาง ซักพักสอางก็ได้สติ ลืมตามอง
“สะออน...” สอางมองสะออนอย่างคนขวัญขวัญอย่างหนัก “เอื้อยฝันร้าย ฝันว่าถืกทหารตัวใหญ่ๆ มันจับไปขังในคุกมืด มีมดมีปลวกเต็มไปเหมิด มันเจาะกินเอื้อยจนเจ็บแสบไปเหมิดโต”
สะออนอึ้ง สีหน้ากังวล เสากับสีแหล่พลอยร้อนใจไปด้วย
“แม่สอางฝันร้ายอีกแล้ว ข้อยว่าไปหดน้ำมนต์จักหน่อยดีบ่อ” เสาว่า
สีแหล่เห็นด้วย “แม่นแล้ว ข้าน้อยว่า ต้องมีแนวบ่อดีมาสิงสู่อยู่คักๆ ไปให้ยาครูหดน้ำมนต์ ตรวจเบิ่งซะตาให้จักหน่อยก็น่าสิดีเด๋เจ้าค่ะ”
ได้ยินชื่อยาครูสอางเอ็ดตะโรใส่สองบ่าว “ยาครูนั่นบ่อ กูบ่อไป ไปให้เบิ่งยามใด๋ ก็เห็นแต่แนวอัปมงคล เว้าให้กูใจเสีย เจ้านั่นล่ะ สะออน ไปหาว่านหายามาให้เอื้อยกินแหน่”
“ยาแก้ฝันร้ายมันบ่อมีดอกยาเอื้อย แล้วเนื้อโตยาเอื้อยก็เย็นเป็นปกติ บ่อได้ไข้ได้หนาว” สะออนจับเนื้อจับตัวสอางแล้วนึกได้ “เอาอย่างนี่สา ข้าน้อยฮู้ว่าต้องปิ้นปัวรักษายาเอื้อยด้วยแนวใด๋ จึงสิอารมณ์ดี”
ไม่นานต่อมา สอางดื่มน้ำมะตูมที่สะออนต้มมาให้ สีหน้าดีขึ้นทันตา
“เป็นจั่งได๋แหน่ ของมักของโปรดยาเอื้อยแม่นบ่อ”
สอางพยักหน้า ยิ้มใจดี “น้ำต้มหมากตูมหอมฝีมือไผ ก็บ่อหอมหวานซื่นใจสู้ของเจ้าเด๊ ฮู้บ่อ สะออน”
“ถ้าอย่างนั่น ก็กินให้เหมิดเหยือกเลยจ้ะ เดี๋ยวข้าน้อยสิไปต้มให้อีก”
สะออนยิ้มให้สอางแล้วลุกไป สอางจะรินน้ำมะตูมกินต่อ แล้วเพิ่งรู้สึกว่านางงอหายไป
“แล้วนี่ อีงอมันไปตายทางใด๋ ปกติต้องเห็นมันขึ้นมาเสนอหน้าเทิงเฮือน”
“สงสัยแม่งอสิอยู่ที่เฮือนแพทย์พู่นล่ะเจ้าค่ะ” เสาบอก
สอางงง “มันแล่นไปตายหยังอยู่นั่น”
“สงสัยสิแต่งพาข้าวไปให้พ่อแพทย์เจ้าค่ะ เห็นตื่นลงไปเตรียมของตั้งแต่เซ้า”
สอางงงปนหงุดหงิด “ธุระเวียกงานหยังของมัน มันหน้าที่ของอีสายบ่อแม่นหรือ”
สีแหล่คันปาก “อุ๊ย สงสัยแม่งอสิแย่งงานแล้วล่ะเจ้าค่ะ ก็ขนาดเมื่อกลางดึก ข้าน้อยกับอีเสายังเห็นแม่งอเข้าครัวไปแต่งข้าวน้ำซ่ามปลามาให้พ่อแพทย์อยู่เลย”
สอางชะงัก สีหน้าระแวงพฤติกรรมของนางงอขึ้นมาทันที
พ่อแพทย์นั่งกินข้าวอยู่ลำพังบนชานเรือน มีนางงอคอยดูแลอยู่ไม่ห่างช่วยรินน้ำ ขยับอาหารให้พ่อแพทย์ตักได้ถนัด สีหน้านางงอดูแจ่มใสเป็นพิเศษที่ได้ใกล้ชิดคอยเอาใจพ่อแพทย์ จนเห็นพ่อแพทย์เริ่มอิ่ม
“พ่อแพทย์สิเอาหยังอีกบ่อ หมากไม้หมากไหล่ก็มีหลาย ข้อยสิเอาขึ้นมาให้กิน”
“แลงๆ ก็แล้วกัน เจ้าศรีธาราสิแวะมา แม่งอค่อยยอขึ้นมาฮับแขกเทือเดียว”
“ได้จ้ะ”
นางงอรับเอาคำยิ้มสุขใจ เก็บพาข้าวลุกออกไป
นางงอยกพาข้าวออกมาทางครัวบนเรือน แล้วต้องชะงักเมื่อเห็นสอางยืนจ้องอยู่
“อ้าว สอาง ตื่นตั้งแต่ยามใด๋ แล้วกินข้าวกินปลาแล้วบ้อ”
“อีเสาอีสีแหล่มันแต่งพาข้าวให้กูแล้ว”
นางงออึกอัก รู้สึกละอายใจที่พักนี้มัวแต่ดูแลพ่อแพทย์จนลืมสอาง
“ข้อยคึดว่าเจ้ายังหลับอยู่ ก็เลยบ่อได้ไปส่องเบิ่ง ขอสมมาเด๊อ”
นางงอยิ้มเจื่อนๆ แล้วยกพาข้าวไปเก็บในครัว สอางมองหมั่นไส้ แล้วแกล้งยื่นขาออกไปขัด จนนางงอเสียหลักล้มคะมำไป พาข้าวตกกระจาย
“ว้าย” นางงอกตกใจ “สอาง”
เสากับสีแหล่วิ่งออกมาดู รีบประคองนางงอให้ลุกขึ้น พอดีกับที่พ่อแพทย์โผล่หน้าออกมาดู
“เกิดหยังขึ้น แม่งอ”
นางงอเห็นสอางมองมาด้วยสีหน้าเย็นชาก็อึ้งไป
“บ่อมีหยังดอก ญาพ่อ ข้าน้อยแค่สั่งสอนอีขี้ข้านี่บ่อให้ลืมกำพืดว่าโตมันเป็นไผ”
พ่อแพทย์วิ่งออกมาดูนางงอ “แค่แม่งอยอพาข้าวพาน้ำมาให้พ่อกิน ถึงกับต้องหาเรื่องกันเลยบ้อ สอาง”
“ก็มันสาระแนเฮ็ดเกินหน้าที่ เวียกแต่งข้าวน้ำซ่ามปลาให้ยาพ่อ นอกจากยาแม่แล้ว ก็เป็นเวียกงานของอีสาย” สอางหันมาเอาเรื่องนางงอ “มึงมีหน้าที่ต้องมาฮองมือฮองตีนกู อีงอ”
นางงอสะอึก เจ็บปวดไปถึงหัวใจ พ่อแพทย์เอ็ดตะโร
“สอาง คนของเจ้าก็มีอยู่หลวงหลาย สิเฮ็ดหยังก็เอิ้นใซ้อีเสา อีสีแหล่ก็ได้ตั๊ว”
“แต่อีเสาอีสีแหล่ มันบ่อได้ใฝ่สูงคึดอยากเป็นเมียน้อยยาพ่ออย่างอีงอ”
นางงออึ้ง สอางจ้องเขม็งอย่างรู้ทัน
“อย่าคึดว่ากูฮู้บ่อทันมึงเด๊อ ยามยาแม่บ่ออยู่ จอบหลอยขึ้นมาเสนอตัวฮอดเรือนแพทย์ โถ... ส่องเบิ่งสารรูปโตเองแหน่ พ่อซายทางใด๋สิเอามึง”
สอางมองดูพ่อแพทย์ที่ยืนอึ้งๆ อยู่ จึงขึ้นเสียงใส่ผู้เป็นพ่อ ด่านางงอไม่ไว้หน้า
“ถ้ายาพ่อสิมักมากหลายเมีย สู้เอาอีสาย ข้าน้อยยังสิบ่อขายหน้าส่ำเอาอีงอ มึงได้ยินบ่อ ขี้ข้าอย่างอีสายมันยังมีสง่าราศีน่ากราบไหว้กว่ามึง”
นางงอน้ำตาซึม น้อยใจที่โดนด่า ได้แต่เม้มปากแน่น พ่อแพทย์ทนไม่ไหว ขึ้นเสียงใส่ลูก
“สอาง เซาจาบจ้วงล่วงเกินพ่อเดี๋ยวนี่ และแม่งอ เพิ่นก็นับเป็นญาติผู้ใหญ่ในเฮือนนี่ เจ้ากล้าเว้าอย่างนี่ได้จั่งได๋”
“ข้าน้อยบ่อคึดนับญาติกับอีง่อยอย่างมัน มึงจำใส่กบาลจนกระดูกมึงเข้าหม้อเด๊อ อีงอ ต่อให้น้ำท่วมฟ้า ปลากินดาว ยาพ่อก็บ่อมีวันหน้ามืดเอามึงมาเฮ็ดเมียดอก อีขี้ข้าบ่อสมประกอบ”
สอางชี้หน้านางงออย่างเคียดแค้น แล้วสะบัดหน้าเดินออกไป นางงอมองตามน้ำตาไหลพราก
“สอาง...”
เรือนที่พักของนางงอ อยู่ในหมู่เรือนของพวกบ่าวไพร่ แต่มีสภาพดีกว่าของบ่าวคนอื่น เพราะพ่อแพทย์กับญาแม่จะไม่กล้ากดนางงอให้อยู่ต่ำเสมอคนรับใช้ เนื่องจากรู้อยู่แก่ใจว่านางงอเป็นเจ้าของเรือนพุทไธเทพตัวจริง และนางงอนั่นเองเป็นคนเลือกมาอยู่ที่กระท่อมนี้ แทนที่จะอยู่บนเรือนใหญ่ในฐานะเจ้าของบ้าน เพราะทระนงในศักดิ์ศรี ไม่อยากอยู่ร่วมชายคากับญาแม่คำอ่อน
นางงอตาแดงช้ำ เสากับสีแหล่ช่วยกันพยุงขึ้นเรือนมา วางลงบนแคร่ที่นอน
เสามองสงสาร “เป็นจั่งได๋แหน่ แม่งอเอ๊ย อย่าน้อยอกน้อยใจเลยเด๊อ มาๆ ให้ข้อยกับอีสีแหล่ซ่อยทายาเด๊อ”
นางงอไม่ตอบ ก้มหน้าบีบนวดขากับแขนที่เป็นรอยช้ำแดงของตัวเอง
สีแหล่รู้สึกผิด “ข้อยสองคนมันปากหมาเอง บ่อน่าบอกแม่สอางเล้ย บ่อคึดว่าเพิ่นสิเคียดสิขมปานนี่”
“โอ๊ย อีปากสะมะแจะ มึงบ่อฮู้หรือ ว่าแม่สอางเพิ่นหวงพ่อแพทย์ปานจงอางหวงไข่” เสาด่า
นางงอนิ่งฟัง พลางก้มหน้านวดแขนขาตัวเอง เจ็บปวดไปทั้งกายและใจ
“แต่แม่งอหนอ บ่อน่าไปยุ่งยากกับพ่อแพทย์เล้ย ปล่อยให้เป็นธุระเวียกงานของป้าสายไปสา ก็คงสิบ่อเกิดเรื่องดอก” สีแหล่ตำหนิ
“พวกมึงสิมาเว้าตอกย้ำซ้ำตื่มหยังกูคักแหน่แท้ แค่นี่ กูยังเจ็บบ่อพออีกซั่นบ้อ”
นางงอตวาดออกมาทั้งน้ำตา เสากับสีแหล่ตกใจ
“ออกไป๊ ไปให้พ้นหน้ากู กูอยากอยู่ผู้เดียว ออกไป”
นางงอปล่อยโฮออกมา เสากับสีแหล่มองอย่างกลัวๆ แล้วรีบเผ่นออกไป
นางงอทรุดลงนอน ร้องไห้สะอึกสะอื้น เจ็บปวดใจกับคำพูดด่าทองของสอาง แถมเนื้อตัวก็เจ็บระบม
ในอดีตชาติ แม่ไอ่เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ทารกน้อยหูกคำอยู่ที่เรือนนางข้าหลวงโรงไหม
“อัญญานางน้อยเอ๋ย น่าเวทนาแท้น้อ เนื้อโตเป็นจ้ำแดงไปเหมิด นี่ถ้าข้าน้อยบ่อไปเห็นเข้า ป่านนี๋ คงถืกมดรุมกัดกินจนเสียพระซนม์ไปแล้ว... อัญญานางทองจันทร์ กูขอสาปให้มึงตายไปเสวยกรรม ตกนรกหมกไหม้ อีแม่ใจยักษ์”
อีกฝั่ง ทองจันทร์อยู่ไฟในห้อง นอนพลิกตัวไปมา น้ำนมไหลเปื้อนผ้าเปียกชุ่ม
“โอ๊ย อีหยังอีกล่ะนี่ กูเอามึงไปถิ่มแล้วแท้ๆ ยังสิมาอาฆาตให้น้ำนมกูไหลบ่อหยุดอีก อีใด๋อยู่ข้างนอกน่ะ เข้ามาหากูแหน่”
พิลา สาลี สองนางข้าหลวงคนสนิทเข้ามาดูแล
“อัญญานางสิให้เติมถ่านไฟบ่อเพคะ” พิลาถาม
“น้ำนมกูไหลนิ่ ทั้งเจ็บทั้งปวด ไปหาว่านยาหยุดน้ำนมมาให้กูกินเดี๋ยวนี่”
“แล้วอัญญานางน้อยล่ะเพคะ หลับอยู่ซั่นบ่อ เป็นหยังคือเงียบไป” พิลามองหา
“ต้องปลุกอัญญานางน้อยให้เสวยน้ำนมเด๊เพคะ จึงสิดีขึ้น” สาลีว่า
ทองจันทร์ชะงักคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตัดสินใจพูดความจริงไป
“สิให้กูเอามาจากไหน กูเอามันไปถิ่มแล้ว”
พิลาตกใจ “หา... อัญญานางเป็นหยังเฮ็ดอย่างนั่นล่ะเพคะ”
“ถิ่มไว้ไสเพคะ ข้าน้อยสิไปเอาคืนมา” สาลีถาม
“อย่าเด๊อ ถ้ามึงไปเอาคืนมา พวกมึงหัวกบาลขาดแน่”
“แต่ถ้าบ่อเอาคืนมา อัญญานางนั่นล่ะเพคะที่สิหัวกบาลขาดก่อนผู้อื่น” พิลาว่า
ทองจันทร์ปรี๊ดแตก อารมณ์เสีย ทั้งเจ็บนม ทั้งเจ็บใจ คว้าข้าวของโยนใส่
“มึงแซ่งกูแม่นบ่อ หา”
“อัญญานางหยุดก่อนเพคะ ฟังก่อน” สาลีบอก
“ใจเย็นๆ เพคะ เฮาต้องไปเอาอัญญานางน้อยกลับคืนมาเพคะ ถ้าบ่ออย่างนั่น อัญญาหลวงเสด็จมาบ่อเห็นลูก พวกเฮาหัวขาดกันเหมิดแน่เพคะ” พิลาบอก
ทองจันทร์ร้องกรี๊ดโวยวาย “นี่มันอีหยังนักหนา อีเด็กกาลกิณี เป็นหยังมึงบ่อเกิดมาเป็นพ่อซาย กูซังมึง”
ตกตอนเย็น ในอีกหลายวันต่อมา อัญญาหลวงอยู่กับท้าวเพียโฮงหลวง ตำแหน่งท้าวเพียซามณเฑียร ซึ่งเป็นคนดูแลความเรียบร้อยในวังหลวง
“ท้าวเพียซามณเฑียร ทองจันทร์ออกลูกตั้งแต่มื่อใด๋นะ ข้อยจำบ่อได้”
“อัญญานางทองจันทร์ให้ประสูติเมื่อคืนเพ็งศีลใหญ่ เจ็ดมื่อก่อนพระเจ้าค่ะ”
“ข้อยอยากเห็นหน้าลูกแล้วล่ะ ได้พ่อซายหรือแม่ญิง”
“เป็นอัญญานางน้อยพระเจ้าค่ะ”
“ท้าวเพียซามณเฑียร เจ้าจงไปบอกข้าหลวงเฮือนทองจันทร์ว่าข้อยสิไปเยี่ยมยามลูก”
“พระเจ้าค่ะ”
สนมทองจันทร์อยู่ไฟเข้าสู่คืนที่ 7 แล้ว ขณะที่นางข้าหลวงคนสนิทเข้ามารายงาน
“อัญญานางเพคะ”
“แม่นหยัง”
“ท้าวเพียซามณเฑียรมาส่งข่าวว่า อัญญาหลวงสิเสด็จมาเยี่ยมยามอัญญานางน้อยเพคะ” พิลาบอก
ทองจันทร์ตกใจ “ตายห่าแล้ว กูสิเฮ็ดจั่งได๋ล่ะบาดนิ”
“พวกข้าน้อยสิไปขอทารกลูกไทบ้านมาให้เลี้ยงเพคะ” สาลีว่า
“ลูกกูกูยังบ่อเลี้ยง มึงสิให้กูเลี้ยงลูกผู้อื่นซั่นบ้อ กูสิตั๋วอัญญาหลวงว่าลูกตาย และกูก็เอาไปฝังแล้ว เรื่องสิได้จบๆ”
“มันบ่อจบง่ายๆ อย่างนั่นดอกเพคะ อัญญานางน้อยเป็นถึงพระธิดาอัญญาหลวง ต้องขึ้นเผาพระเมรุหลวง แล้วเก็บกระดูกใส่ธาตุไว้ในสุสานหลวงเพคะ” พิลาบอก
ทองจันทร์กลุ้มหนัก “แล้วกูสิเฮ็ดจั่งได๋ดี กูต้องถืกฟันหัวกบาลขาดแท้ๆ”
“ข้าน้อยได้ยินเขาลือว่า อีพวกข้าหลวงโฮงต่ำผ้ากำลังซ่อยกันเลี้ยงเด็กทารกแม่ญิงเพคะ” สาลีบอก
“อีหลีบ่อ ไปยืมเด็กน้อยนั่นมาให้กูก่อน อีเด็กนั่นคงสิพอให้กูอ้างหน้ากับอัญญาหลวงได้”
สนมทองจันทร์กลอกตาครุ่นคิดอย่างเจ้าเล่ห์
นางข้าหลวงบางส่วนกำลังง่วนอยู่กับเส้นไหม กระบุงฝักไหม และผ้า แม่ไอ่นั่งดูหญิงชาวบ้านแม่ลูกอ่อนที่ขอให้เข้ามาให้ทารกดื่มน้ำนมจากหน้าอก
“นี่ล่ะนางเอ๋ย กูบ่อกล้าขอนมงัวมาให้อัญญานางน้อยเสวย ก็ย่อนว่าเพิ่นมีสายพระโลหิตของอัญญาหลวง”
“เป็นบุญเกล้าบุญกระหม่อมข้าน้อยหลายเจ้าค่ะ แม่เฒ่า”
เมื่ออิ่มแล้ว แม่ลูกอ่อนคืนทารกให้แม่ไอ่อุ้ม นางข้าหลวงเอาเงินใส่ขันดอกไม้ยื่นให้ แม่ลูกอ่อนเทเงินใส่มือ ยกขึ้นไหว้
“ขอบใจแม่เฒ่าเจ้าค่ะ”
“ขอบใจเจ้าหลาย”
นางข้าหลวงออกไปส่งแม่ลูกอ่อน แม่ไอ่เล่นกับหูกคำ
“เสวยนมอิ่มแล้วบรรทมหลับสบายเลยหนอเพคะ”
สักพัก พระสนมทองจันทร์กับสองนางข้าหลวงก็เข้ามาอีกทาง
“ไปได้เด็กน้อยมาจากไส แม่เฒ่าไอ่”
นางข้าหลวงโรงทอผ้าคนอื่นๆ รีบทรุดตัวนั่งลงกับพื้นด้วยเกรงกลัวบารมี ยกเว้นแม่ไอ่ที่อุ้มเด็กนั่งบนแคร่
“ลูกของข้าน้อยเพคะ”
“หึๆ กูอยากสิหัวขวนให้แข่วเหี่ย เฒ่าจวนสิได้ขึ้นนอนกองฟอนแล้ว ยังสิมาตอแหลว่าท้องลูกได้อีก”
“เฮาให้ซีวิตแก่ไผ ก็ถือว่าเป็นแม่ของผู้นั่นล่ะเพคะ”
ทองจันทร์ฉุนกึก “นี่มึงกล้าต้มตั๋วกูว่าเด็กนี่เป็นลูกมึงซั่นบ่อ อย่ามาสับส่อต่อคำ เอาลูกกูคืนมา”
“ข้าน้อยให้บ่อได้เพคะ เด็กน้อยผู้นี่ ข้าน้อยเก็บได้ที่สวนหม่อน แล้วเหตุใด๋ลูกของอัญญานางทองจันทร์จึงไปนอนอยู่ที่สวนหม่อนได้ เป็นหยังถึงบ่ออยู่กับแม่ล่ะเพคะ”
“เอ้อ กูถิ่มมันเอง กูเอาลูกกูไปถิ่ม มึงหายสงสัยแล้วยัง เอาลูกกูคืนมา”
“บ่อเพคะ มื่อนั่นถิ่ม แต่มื่อนี่อยากได้คืน ข้าน้อยยิ่งบ่อให้ ซีวิตน้อยๆ นี่สิต้องบ่อตายตกนรกหมกไหม้ตามไผไป”
ทองจันทร์คุมแค้น วางอำนาจใส่ “มึงอยากลองดีกับกูซั่นบ้อ กูเป็นถึงพระสนมอัญญาหลวงหนา”
“อัญเชิญเสด็จกลับเฮือนไปเถาะเพคะ อัญญานาง อย่ามาเป็นอันธพาลในถิ่นข้าน้อยเลย จั่งได๋เสีย ข้าน้อยก็บ่อให้คืน”
“มึงเก่งกับกูซั่นบ้อ อีเฒ่าไอ่ ส่งดาบมาให้กู” ทองจันทร์หันไปฉวยดาบจากข้าหลวงมาขู่
“สิฟันหัวกบาลข้าน้อยซั่นบ่อเพคะ” แม่ไอ่มองท้าทาย “ถ้าอย่างนั่น ผ้าไหมทองคำลายใหม่ที่อัญญานางคำอ่อนมหาเทวีสั่งข้าน้อยต่ำไว้ อัญญานางมาต่ำแทนข้าน้อยเด๊อเพคะ ยังคาหูกอยู่เลย”
ทองจันทร์แค่ได้ยินชื่อนั้นก็กลัว ชักมือกลับ ถอยกลับไปตั้งหลัก
“อีเฒ่า มึงคอยเบิ่งเถาะ มึงสิสิบหายที่มาแส่เรื่องของกู”
ทองจันทร์กลับไปพร้อมกับข้าหลวง
ทองจันทร์กลับมาอยู่ไฟที่คุ้มด้วยความหวาดระแวง จนนางข้าหลวงเข้ามาหา
“อัญญานางเพคะ อัญญาหลวงเสด็จมาเพคะ”
ทองจันทร์วิตกกังวล แล้วรีบออกไปรับเสด็จ อัญญาหลวงเข้ามา
“ถวายบังคมเพคะ อัญญาหลวง”
ทองจันทร์ก้มกราบเท้า อัญญาหลวงรับขวัญ พร้อมพนมมือบริกรรมคาถา เป่ากระหม่อม
“สุขสำบายดีบ่อ ทองจันทร์”
“สำบายดีเพคะ ข้าน้อยอยู่ไฟแล้วกายแข็งแฮงขึ้น แต่ใจนี่สิ”
“ใจเจ้าเป็นหยัง แล้วลูกข้อยล่ะ”
“เอ่อ... ขอเดซะ พระอาญาบ่อพ้นเกล้า ลูก...บ่อได้อยู่กับข้าน้อยเพคะ”
“เป็นหยังจึงเป็นอย่างนั่น”
ทองจันทร์คิดหาคำแก้ตัวสดๆ “ขอเดซะ คืนแรกที่คลอดลูก ข้าน้อยฝันร้าย ว่าไฟไหม้เฮือน คลอกลูกจนไหม้เกรียมน่าสมเพชเวทนา ข้าน้อยจึงย่านว่าสิเกิดเหตุนั่นขึ้นอีหลี ถ้าลูกอยู่กับข้าน้อย”
“แล้วเป็นหยังบ่อเอาไปฝากเลี้ยงที่เฮือนหลวง”
“ขอเดซะ คืนที่สอง ข้าน้อยฝันว่าฝนตกหนัก ฟ้าผ่าลงมา เห็นท่านท้าวพญามหานาคราชเลื้อยเข้ามาอยู่ในโฮงต่ำผ้า แผ่เก้าเศียรคุ้มกันฝนฟ้า ข้าน้อยจึงฝากลูกไว้ใต้ร่มเศียรท่านท้าวเพคะ”
อัญญาหลวงงง “ร่มเศียรท่านท้าว..หมายความว่า”
“ลูกน้อยต้องไปอยู่ในโฮงต่ำผ้า จึงสิปลอดภัยเพคะ ข้าน้อยเลยตัดสินใจยกให้แม่ไอ่เพิ่นเป็นคนเลี้ยง”
“แม่ไอ่ซั่นบ่อ ถ้าอย่างนั่น ข้อยสิไปหาลูกเดี๋ยวนี่ล่ะ”
“ขอเดซะ อัญญาหลวง แม่เฒ่าไอ่นั่นสติฟั่นเฟือนไปด้วยเฒ่าซะราแล้ว ถ้าเพิ่นเว้าจาเพ้อเจ้ออันใด๋ ขออย่าได้ใส่พระทัยเลยหนาเพคะ”
อัญญาหลวงออกไปทันที ทองจันทร์เดินตามออกไป สีหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“อีเฒ่า มึงอย่าเว้าร้ายให้กูได้ยากเด๊อ”
ขณะที่แม่ไอ่ไกวเปลผ้าไหมลายงามงด มีนางข้าหลวงอีกคนร้องเพลงกล่อม อัญญาหลวงเดินเข้ามา มีข้าหลวงตามเสด็จ
“แม่ไอ่ อัญญาหลวงเสด็จมาเจ้าค่ะ”
แม่ไอ่และข้าหลวงกราบบังคมอัญญาหลวง
“ถวายบังคมเพคะ อัญญาหลวง”
“ในอู่นี่ คือลูกของข้อย แม่นบ่อ แม่ไอ่”
“แม่นแล้วเพคะ อัญญาหลวง”
“ลูกพ่อ...”
อัญญาหลวงมองดูเด็กทารกในเปลด้วยความเสน่หา
“ให้ข้อยอุ้มลูกแหน่ แม่ไอ่”
“เป็นบุญเกล้าบุญกระหม่อมของอัญญานางน้อยเพคะ”
แม่ไอ่อุ้มทารกหูกคำขึ้นจากเปลผ้าไหมมาให้อัญญาหลวงอุ้ม
“ลูกพ่อ... เจ้าเป็นตาฮักเป็นตาแพงหลาย”
“เป็นบุญตาของข้าน้อยหลาย ที่ได้เห็นพ่อลูกอยู่นำกัน”
“ขอบใจหลายเด๊อแม่ไอ่ ที่จงฮักภักดีต่อข้อย ข้อยฮู้เรื่องทุกอย่างเหมิดแล้ว”
แม่ไอ่แปลกใจ “ขอเดซะ พระอาญาบ่อพ้นเกล้า อัญญาหลวงฮู้เรื่องว่าจั่งได๋หรือเพคะ”
“ก็ที่ทองจันทร์เอาลูกมาฝากให้แม่ไอ่เลี้ยง ย่อนฝันร้ายนั่นเด เจ้าเฒ่าซะราแล้ว แต่ยังต้องมาเลี้ยงเด็กน้อยอีก ทั้งๆ ที่ผ้าซิ่นทองคำยังต่ำคาหูกอยู่ ข้อยซึ้งน้ำใจเจ้าหลาย”
แม่ไอ่อึกอัก ตัดสินใจพูดไม่ให้ร้ายสนมทองจันทร์ด้วยสงสารหูกคำ “เอ่อ..ข้าน้อยเต็มใจเพคะ ถ้าแนวใด๋สิเฮ็ดให้ซีวิตของอัญญานางน้อยดีขึ้น ข้าน้อยกับข้าหลวงโฮงต่ำผ้าทุกนาง ก็สิเบิ่งแยงปกปักรักษาอัญญานางน้อยเพคะ แต่ขออย่างเดียว ขอให้ข้าน้อยเป็นผู้มีสิทธิ์เลี้ยงดูอัญญานางน้อยแต่ผู้เดียวเถิดเพคะ”
“เหตุใด๋ เจ้าจึงเว้าอย่างนั่นล่ะ แม่ไอ่”
“ข้าน้อยว่า ถ้าอัญญานางน้อยอยู่กับอัญญานางทองจันทร์ อาจสิมีเคราะห์ร้าย หนักสาหัสกว่าเก่า ข้าน้อยจึงกราบขอเลี้ยงดูเองสิดีกว่าเพคะ”
อัญญาหลวงมองลูกในอ้อมอกด้วยความรักและสงสารแล้วคิด
“ได้ ข้อยให้เจ้าเลี้ยงลูกข้อย”
แม่ไอ่ดีใจ “เป็นบุญเกล้าบุญกระหม่อมของข้าน้อยหลายเพคะ”
อัญญาหลวงเข้าไปหาลูกบริกรรมคาถาแล้วเป่ากระหม่อมรับขวัญ
“พ่อฮับขวัญเจ้าแล้ว ลูกหล่า เจ้าสิอยู่ดีมีแฮงในเวียงคำนาค ใต้บารมีท่านปู่ท้าวพญามหานาคราช พญานาคทั้งสิบห้าตระกูลสิปกปักรักษาเจ้า”
อัญญาหลวงประกาศต่อหน้าข้าหลวงทั้งหมดในเหตุการณ์
“ข้อยขอตั้งนามลูกว่า อัญญานางหูกคำ ผ้าซิ่นทองคำที่ต่ำคาหูกผืนนี่ จงต่ำให้สำเร็จ สำหรับพิธีขึ้นอู่เงินอู่คำ สะเหลิมยศสะเหลิมนาม นอกจากศรีสะอาดแล้ว หูกคำ คือลูกสาวผู้เป็นดวงใจของพ่อ”
ข้าหลวงทุกคนก้มกราบด้วยความยินดี
สอางเปิดประตูเข้าห้องนอนมาอย่างโมโห
“อีงอน้ออีงอ กูนับมึงเป็นขี้ข้าก็ถือว่าบุญหัวมึงปานได๋แล้ว ยาพ่อก็เป็นบ้าป่วง สิให้กูไปนับญาติกับมันอีก”
สอางนึกถึงตอนที่นางงอล้ม แล้วอดสงสารไม่ได้
“ว่าแต่...นี่กูเฮ็ดเกินไปบ่อ”
สอางคิดๆ แล้วตัดสินใจออกไปจากห้อง
ฝั่งสะออนเด็ดลูกตำลึงสุกแดงๆใส่กระจาดเล็กๆ อย่างมีความสุข
“อีแก้วเอ๊ย หมากตำนินสุกมีแต่ลูกแดงๆ เจ้าต้องมักแน่ๆเลย”
สะออนเดินมาตามทาง สีหน้ายิ้มแย้ม มีความสุข
ไม่นานต่อมา สะออนยื่นลูกตำลึงสุกป้อนให้นกอีแก้วกิน
“กินเก่งแท้หนอ อีแก้วลูกแม่”
“อีแก้วลูกแม่ อีแก้วลูกแม่”
สะออนยิ้มชอบใจ “เป็นตาฮักแท้ เจ้าเฮ็ดให้แม่มีความสุขหลาย ฮู้บ่อ อีแก้วลูกแม่”
“อีแก้วลูกแม่ อีแก้วลูกแม่”
นกอิ่มแล้ว นางสายเดินผ่านมาพอดี สะออนรีบทัก
“แม่สายจ๋า แม่สายสิไปไส”
“ข้อยสิไปต้มน้ำ เตรียมสาวไหมจ้ะ”
“สาวไหมซั่นบ่อ” สะออนมีท่าทีกระตือรือร้น “ให้ข้อยซ่อยเด๊อ ข้อยอยากกินดักแด้”
“มาๆ ดักแด้หม้อนี่ มีแต่ตัวอ้วนๆ แซบๆ เลยล่ะ มันกินใบหม่อมอิ่มทุกมื่อเลย”
“ดีเลย ข้อยสิเอามาปันให้อีแก้วมันกินนำ”
สะออนยิ้มตื่นเต้นรีบลงจากเรือนแพทย์ไปกับแม่สาย
ฝ่ายพ่อแพทย์สอนเรื่องว่านยาให้โซ่ทอง ฝนนอแรด เขี้ยวเสือ กระดูกเสือ ว่านยา
“เขี้ยวเสือนี่เป็นยาอายุวัฒนะ กระดูกเสือก็เป็นยาบำรุงกระดูก ลดอักเสบ เจ็บปวดบาดแผล ของพวกนี่หายาก บางคนบูซาเขี้ยวเสือเป็นเครื่องรางของขลัง”
“พ่อแพทย์ได้ของพวกนี่มาจากไส”
“พ่อแพทย์จันทกุมารเป็นคนให้ข้อย ตอนนั้นข้อยเป็นลูกมือซ่อยเพิ่น คือเจ้านั่นล่ะ ทุกมื่อนี่ ไทบ้านเก็บเศษสัตว์พวกนี้ได้ก็มักเอามาฝากข้อย”
“ของหายากทั้งนั่นเลย พ่อแพทย์นี่มีบารมีกว้างขวางอีหลี”
“ของพวกนี่ เอาไว้รักษาคนเจ็บหนักๆ ถ้ามีคนเจ็บหนักก็ฝนผสมกับว่านยาให้กิน บ่อต้องแพงไว้”
“จ้ะ พ่อแพทย์”
“อย่าไปแพงข้าวของ ซีวิตคนสำคัญที่สุด จำไว้เด๊อ ถ้ามื่อหนึ่งข้อยบ่อได้อยู่สั่งสอนแล้ว ให้จื่อจำคำข้อยไว้”
“ข้าน้อยสิจื่อจำไปตลอดซีวิตจ้ะ” (จื่อจำ = จดจำ)
โซ่ทองคลี่ผ้าห่อกระดูกเสือในกล่องดู ก็นึกคำถามได้
“พ่อแพทย์จ๊ะ กระดูกเสือนี่เป็นยาบำรุงรักษากระดูก ถ้าอย่างนั่น เฮาก็ฝนเพื่อรักษากระดูกแม่งอได้แม่นบ่อ”
“เอ่อ” พ่อแพทย์ตกใจรีบตัดบทไป “อ้าว เขี้ยวเสือใกล้สิเหมิดแล้ว ข้อยสิกลับไปเอาที่เฮือนใหญ่ก่อน เจ้าออกไปยืดเส้นยืดสายข้างนอกก่อนก็ได้”
“จ้ะ พ่อแพทย์”
เมื่อเดินลงเรือนมา คำถามของโซ่ทองแว่บเข้ามาให้หัว
“พ่อแพทย์จ๊ะ กระดูกเสือนี่เป็นยาบำรุงรักษากระดูก ถ้าอย่างนั่น เฮาก็ฝนเพื่อรักษากระดูกแม่งอได้แม่นบ่อ”
พ่อแพทย์เดินขึ้นมาบนเรือนใหญ่ นึกถึงนางงอแล้วเวทนา
“ข้อย... ข้อยอยากมีโอกาสนั่นหลาย แม่งอ แต่เจ้าก็ฮู้ ว่ามันยาก”
สายตาพ่อแพทย์เศร้าสลดลง รู้สึกผิดกับเรื่องเก่าคราวหลัง ที่ไม่มีสิทธิ์ได้รักษานางงอเพราะคำมั่นที่ให้ไว้กับญาแม่คำอ่อน
ในเวลาต่อมา โซ่ทองเดินออกมายืดเส้นยืดสาย คุยเล่นกับนก เห็นในกรงมีเศษลูกตำลึงก็รู้ว่าสะออนเอาตำลึงสุกมาป้อนนก
“อีแก้วเอ๊ย มื่อนี่ได้กินหยังน้อ... นั่น...หมากตำนินสุกนิ่”
“อีแก้วลูกแม่ อีแก้วลูกแม่”
โซ่ทองยิ้มมีความสุข สอนนกพูด
“เจ้านี่เป็นตาฮัก มีแต่คนฮัก ไผก็เอ็นดู เป็นทั้งลูกพ่อ ทั้งลูกแม่ เว้านำพ่อเด๊อ อีแก้วฮักพ่อ อีแก้วฮักแม่”
“อีแก้วฮักพ่อ อีแก้วฮักแม่”
พ่อแพทย์กลับขึ้นเรือนแพทย์มาพร้อมเขี้ยวเสือ ได้ยินนกพูดก็คลายความเครียดลง ยิ้มออกมาได้ มองดูโซ่ทองหยอกนกอย่างเอ็นดู
“เก่งที่สุดเลยลูกพ่อ ต่อไปนี่ อีแก้วต้องฮักทั้งพ่อ ฮักทั้งแม่เด๊อลูก”
โซ่ทองหันกลับมาก็ต้องตกใจ เห็นพ่อแพทย์มองดูอยู่ด้วยสีหน้าเปี่ยมเมตตา
“ข้าน้อยตกใจตื่นเหมิดเลย พ่อแพทย์มาตั้งแต่ยามใด๋”
“นกอีแก้วนี่มันเป็นตาฮักเป็นตาแพงเนาะ ว่าแต่ ฮักพ่อฮักแม่นิ่ หมายถึงไผ”
โซ่ทองตกใจลุกลี้ลุกลน “เอ่อ...หมายถึง...หมายถึงพ่อแพทย์กับยาแม่น่ะจ้ะ คนในเฮือนพุทไธเทพทุกคนต่างก็ฮักและเคารพท่านทั้งสอง”
พ่อแพทย์มองโซ่ทอง ยิ้มขำเอ็นดู
“อีแก้วมันคงมีความสุขหลายเนาะ ที่พ่อแม่ของมันฮักกันดี”
พ่อแพทย์พูดเป็นนัย ยิ้มอ่อนๆ พอใจ แล้วถือห่อเขี้ยวเสือเข้าไปข้างในห้องปรุงยา
โซ่ทองมองตาม รับรู้ได้ว่าคำพูดพ่อแพทย์มีเลศนัยบางประการแฝงอยู่ แต่ไม่กล้าถาม
“อีแก้วฮักพ่อ อีแก้วฮักแม่...อีแก้วฮักพ่อ อีแก้วฮักแม่” นกแก้วเจื้อยแจ้วอยู่ในกรง
นางงอนอนซมอยู่ในกระท่อม ไม่มีกะจิตกะใจจะลุกขึ้น จนกระทั่งได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“แม่งอ อยู่เทิงเฮือนบ่อ”
นางงอสะดุ้ง ลุกพรวดขึ้นนั่งเอน คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินเสียงพ่อแพทย์
“พ่อแพทย์”
นางงอแข็งใจลุกขึ้นกะเผลกๆ ไปเปิดประตูให้ เห็นพ่อแพทย์ยืนถือขันน้ำและกล่องใส่ยามองมาอย่างเป็นห่วง
“เป็นจั่งได๋แหน่ ยังเจ็บระบมอยู่หรือบ่อ ข้อยฝนว่านยามาให้”
นางงออึ้ง ถอยให้พ่อแพทย์เข้ามาในเรือน แล้วทรุดนั่งลงบนแคร่ที่นอน พ่อแพทย์มองแขนขานางงอพบว่ายังมีร่องรอยเขียวช้ำให้เห็น
“เขียวซ้ำขนาดนี่ เบิ่งทรงสิหนักอยู่บ่อน้อย แล้วทนอยู่ได้จั่งได๋ เป็นหยังบ่อขึ้นไปเอาว่านเอายาเทิงเฮือนใหญ่”
“สังขารพิกลพิการอย่างข้อย สิลุกไปไสไหว”
“แล้วเป็นหยังบ่อเอิ้นผู้อื่นให้ไปเอามาให้”
“ข้อยบ่ออยากให้แม่สอางไปเอาเรื่องไผอีก ให้ข้อยเจ็บผู้เดียวเถาะพ่อแพทย์”
“กินยาในขันนี่สา แล้วขยับเข้ามา ข้อยสิทายาให้”
นางงออึ้งนิ่งงันไป มองพ่อแพทย์ใจสั่นสะท้านด้วยความยินดี แต่แว่บเดียวก็ผลักขันออกห่างด้วยทิฐิ
“บ่...บ่อต้องดอกจ้ะ เดี๋ยวมันก็หายเอง”
พ่อแพทย์ถอนใจ “เจ้าอย่าอวดเก่งหลาย ให้ข้อยได้ตอบแทนบุญคุณเจ้าบ้างแหน่เถาะ”
นางงอน้ำตาคลอ เห็นสีหน้าห่วงใยของพ่อแพทย์ ก็ยิ่งรู้สึกตื้นตัน แต่ทิฐิยังแรงอยู่
“บุญคุณหยัง พ่อแพทย์”
“ข้อยบ่อเคยลืมดอก ว่าเจ้าเป็นไผ” พ่อแพทย์มองตาแม่งอ “ข้อยฮู้ดีว่าตอนนี่ เจ้าฮู้สึกจั่งได๋”
นางงอน้ำตารื้น พ่อแพทย์พูดยังไม่ทันจบ เรือนนางงอก็สั่นสะเทือนเมื่อมีคนกระแทกเท้าปึงปังขึ้นมา นางงอหันไปเห็นว่าเป็นสอางก็มีสีหน้าตกใจ
“เสียแฮงที่กูคึดเป็นห่วงมึง บ่อฮู้มาก่อนว่าสิมีแพทย์ใหญ่ขึ้นมาหามึงฮอดเฮือน มึงเก่งเนาะ อีงอ”
สอางจ้องหน้านางงออย่างโกรธแค้นสุดจะประมาณ
อ่านต่อตอนที่12