สกู๊ปพิเศษ
การจัดแสดงโขน 2561 “พิเภกสวามิภักดิ์”
ระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน - 5 ธันวาคม ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 จัดการแสดงโขนประจำปี 2561 ตอน “พิเภกสวามิภักดิ์”
วิดีโอเพื่อการประชาสัมพันธ์
การแสดงโขนครั้งนี้ ได้นำบทพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ฉบับต่างๆ อาทิ บทพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 1, รัชกาลที่ 2, รัชกาลที่ 6 นำมาสอดประสานปรับปรุงการดำเนินเรื่องให้กระชับเหมาะสมกับปัจจุบัน แต่ยังคงอนุรักษ์ศิลปะการแสดงแบบโขนหลวงไว้อย่างครบถ้วน โดยแบ่งเป็นตอนต่างๆ ได้แก่ องก์ที่ 1 สุบินนิมิต ประกอบด้วย ตอนที่ 1 พิเภกถูกขับ, ตอนที่ 2 พิเภกลาชายาและธิดา, ตอนที่ 3 เนรเทศ และ องก์ที่ 2 ประกอบด้วย ตอนที่ 1 พบนิลเอก, ตอนที่ 2 สวามิภักดิ์, ตอนที่ 3 มณโฑทูลตัดศึก, ตอนที่ 4 สนามรบ และ ตอนที่ 5 แก้หอกกบิลพัท
โดยมีฉากไฮไลต์ยิ่งใหญ่อลังการ อาทิ ฉากท้องพระโรงกรุงลงกาที่สวยงามขึ้นด้วยการเพิ่มพระที่นั่งบุษบก, ฉากพิเภกถอดมงกุฎฝากนางตรีชฎาไปคืนทศกัณฐ์ก็ไม่เคยมีมาก่อน, ฉากเรือสำเภาโล้ไปปล่อยพิเภกขึ้นฝั่งก็จัดสร้างอย่างวิจิตรตระการตา พร้อมด้วยฉากที่ใช้เทคนิคสมัยใหม่ ทั้ง รอก สลิง แสง สี และเสียง ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจหลายฉากและสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมตลอดการแสดง
ที่ผ่านมา มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ได้จัดแสดงโขน รามเกียรติ์ ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา รวมทั้งสิ้น 7 ตอน ได้แก่
ครั้งที่ 1 พ.ศ.2550 ชุด “ศึกพรหมาศ”
ครั้งที่ 2 พ.ศ.2552 ชุด “ศึกพรหมาศ”
ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2553 ชุด “นางลอย”
ครั้งที่ 4 พ.ศ.2554 ชุด “ศึกมัยราพณ์”
ครั้งที่ 5 พ.ศ.2555 ชุด “จองถนน”
ครั้งที่ 6 พ.ศ.2556 ชุด “ศึกกุมภกรรณ ตอน โมกขศักดิ์”
ครั้งที่ 7 พ.ศ.2557 ชุด “ศึกอินทรชิต ตอน นาคบาศ”
ครั้งที่ 8 พ.ศ.2558 ชุด “ศึกอินทรชิต ตอน พรหมาศ”
ครั้งที่ 9 พ.ศ.2561 ตอน “พิเภกสวามิภักดิ์”
ในปี 2561 มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เลือกโขนรามเกียรติ์ ตอน “พิเภกสวามิภักดิ์” มาจัดแสดง เพื่อสื่อถึงความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทยทุกคนที่มีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และตอน “พิเภกสวามิภักดิ์” ยังสื่อถึงการรักษาความเที่ยงธรรมสุจริต
เรื่องย่อ
องก์ที่ 1 สุบินนิมิต
ตอนที่ 1 พิเภกถูกขับ
กล่าวถึงทศกัณฐ์สุบินนิมิตว่า มีแร้งขาวบินมาแต่ทิศตะวันออก แร้งดำมาแต่ทิศตะวันตก เมื่อพบกันได้เข้าต่อสู้ แร้งดำแพ้ ร่างตกลงมากลายเป็นพวกยักษ์ และฝันอีกหนึ่งเรื่องว่า ตนเองถือกะลามีสายชนวนพาดอยู่ในมือ และมีหญิงรูปร่างอัปลักษณ์เข้ามาจี้จุดไฟที่สายชนวน จนไฟลุกติดมาไหม้มือ ทศกัณฐ์กลุ้มใจจึงเสด็จออกว่าราชการ และให้พิเภกน้องชายทำนายฝัน พิเภกผู้ถือความซื่อสัตย์สุจริต จึงทำนายว่าเป็นลางร้ายจะเกิดสงคราม ฝ่ายยักษ์จะพ่ายแพ้ ส่วนฝันอีกข้อนั้น เพราะนางสำมะนักขาจะชักโยงให้ศึกครั้งนี้มาล้างอสุรพงศ์พรหม วิธีแก้คือ ให้ทศกัณฐ์ส่งนางสีดามเหสีของพระรามที่พาตัวมาคืนกลับไป ทศกัณฐ์พิโรธเข้าไล่ทำร้าย แต่กุมภกรรณและอินทรชิต ขอพระราชทานโทษ ทศกัณฐ์จึงขับไล่ออกจากลงกา และริบทรัพย์สมบัติ ให้นางตรีชฎาไปเป็นข้านางสีดาที่สวนขวัญ ในการสร้างฉากท้องพระโรงนี้ ผู้ออกแบบฉากได้จินตนาการขึ้นใหม่ ให้มีความวิจิตรงดงามยิ่งขึ้น ในส่วนของการแสดงได้นำการขับร้องเพลงวา ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นผลงานสร้างสรรค์ของคุณหญิงไพฑูรย์ กิติวรรณ นำมาใช้แทนเพลงร้องช้าปี่ของเดิม
ตอนที่ 2 พิเภกลาชายาและธิดา
ในตอนนี้ได้นำบทพระราชนิพนธ์ ตอนพิเภษณ์ถูกขับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มาเป็นหลักในการทำบทผสมผสานกับบทพระราชนิพนธ์รามเกียรติ์ของรัชกาลที่ 2 ดำเนินเรื่องตั้งแต่พิเภกกลับไปยังตำหนัก ลานางตรีชฎาและนางเบญจกาย (บทรัชกาลที่ 6 นางเบญจกายมีชื่อว่า นันทา) สุดท้ายพิเภกก็ถอดมงกุฏเครื่องยศ ให้ตรีชฎาไปคืนทศกัณฐ์ ซึ่งในตอนนี้มิได้นำมาแสดงบ่อยครั้งนัก เพราะตัวพิเภกจะต้องถอดมงกุฏกลางเวที หัวโขนพิเภกนี้สูญสลายไปหมดแล้ว จึงต้องคิดจัดทำขึ้นใหม่ โดยอาศัยข้อมูลจากบันทึกเรื่องราวในสาสน์สมเด็จ ที่สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวิดติวงศ์ เคยทอดพระเนตร
ตอนที่ 3 เนรเทศ
ผู้จัดทำบทได้นำบทพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ของรัชกาลที่ 2 มาเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากบทรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 6 ที่ทำให้พิเภกเหาะข้ามไปจากกรุงลงกา บทพระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 2 ให้มโหธร เชิญเสด็จพิเภกลงสำเภาออกไปจากกรุงลงกา เมื่อถึงร่องน้ำฝั่งแผ่นดินที่พระรามพักพลอยู่ จึงใช้เรือสำปั้นโล้ไปปล่อยขึ้นฝั่ง ในการแสดงครั้งนี้นับว่าเป็นฉากสำคัญที่งดงามที่สอดประสานกับการขับร้องที่แสดงความโศกสลด ความเที่ยงตรงในสัจจะสุจริต อันเป็นคุณธรรมของพิเภก
--- พักครึ่งเวลา ---
องก์ที่ 2 หอกกบิลพัท
ตอนที่ 1 พบนิลเอก
นิลเอก เป็นหนึ่งในทหารเอกของพระรามมีหน้าที่เป็นกองตระเวน พาพลวานรมาปฏิบัติหน้าที่ จนได้พบกับพิเภก พิเภกยอมให้นิลเอกจับตัวได้ และได้พาไปเข้าเฝ้าพระราม
ตอนที่ 2 สวามิภักดิ์
นิลเอกพาพิเภกเข้ามาเฝ้า พระรามซักถามถึงสาเหตุในการมาจากลงกา พิเภกก็ทูลสนองตามความจริง มิได้ทูลถึงความดีของตนและให้พระรามนั้นพิสูจน์ดูความจงรักภักดีของตนต่อไปในอนาคต และเปรียบเทียบตนเองว่า “ชนธรรมดาย่อมเห็นว่าสูญสิ้นมูลค่า ต่อเมธีมีปัญญาจึงเห็นว่าค่าทองคง” ซึ่งทำให้พระรามพอพระทัย จึงให้สุครีพนำพระแสงศรไปประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาให้พิเภกดื่มสาบาน แล้วท้ายสุดได้พระราชทานแต่งตั้งให้พิเภกเป็นราชา พร้อมทั้งสวมมงกุฏพระราชทาน
การแสดงในช่วงนี้ เป็นการตัดทอนเนื้อเรื่องให้มีส่วนเกี่ยวเนื่องกับพิเภกโดยดำเนินตาม หลังจากทศกัณฐ์ทูลเชิญท้าวมาลีวราช ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระอัยกามาตัดสินความ แต่ด้วยเหตุผลและความจริงปรากฏว่า ทศกัณฐ์เป็นฝ่ายผิด ท้าวมาลีวราชสั่งให้ทศกัณฐ์คืนนางสีดา แต่ทศกัณฐ์ลุอำนาจและพาลผิดไม่ยอมคืน ทั้งไปประกอบพิธีเผารูปเทวดาที่หาดทรายกรด ให้เหล่าเทวดาที่มาเป็นพยานนี้สิ้นชีพ สุดท้ายพระอิศวรให้เทพบุตรพาลีแปลงกายมาทำลายพิธีได้
ตอนที่ 3 มณโฑทูลตัดศึก
เมื่อทศกัณฐ์เสียพิธีมิอาจเผารูปเทวดาที่หาดทรายกรดได้ เพราะเทพบุตรพาลีมาทำลายพิธี จึงกลับเข้าปราสาทชัย นางมณโฑมเหสียุยงว่า การเสียพิธีครั้งนี้น่าจะเกิดจากพิเภกเป็นไส้ศึกบอกความลับ เพื่อให้สิ้นเสี้ยนศึกควรฆ่าพิเภกเสีย ทศกัณฐ์เห็นจริงตามคำทูล จึงสั่งมโหธรให้เร่งจัดทัพ ทศกัณฐ์เองจะออกไปทำศึก ได้ท่วงทีจึงพุ่งหอกกบิลพัทฆ่าพิเภกเสีย
ตอนที่ 4 สนามรบ + แก้หอกกบิลพัท
กองทัพของทั้งสองฝ่ายยกมายังสนามรบ ก่อนยกทัพมาพิเภกทูลพระรามว่า ศึกครั้งนี้ทศกัณฐ์ต้องการที่จะฆ่าตน พระรามจึงสั่งพระลักษมณ์ให้คอยป้องกัน ทศกัณฐ์ทำอุบายให้พิเภกออกมาหาตน โดยเสกสรรค์ปั้นความถึงสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องที่มิอาจตัดขาดจากกัน ในครั้งนี้จะได้เพิ่ม “ทางเล่น” ของบทตลกฝ่ายยักษ์ให้คอยห้ามพิเภก แต่ในที่สุดเมื่อทศกัณฐ์ได้ท่วงทีก็พุ่งหอกกบิลพัทหมายให้ถูกพิเภก แต่พระลักษมณ์ถลันออกมาป้องกัน จึงถูกหอกล้มสลบลง ฝ่ายทัพทศกัณฐ์ได้ชัยชนะจึงยกกลับเข้าเมือง พิเภกทูลพระรามถึงวิธีแก้ไข โดยให้ไปนำสรรพยา “สังกรณีตรีชวา มูลโคอศุภราช แม่หินบดยาจากท้าวกาลนาด และที่สำคัญคือ ลูกหินบดยาที่ทศกัณฐ์ทำเป็นเขนยหนุนนอนอยู่” หนุมานรับอาสาไปนำสรรพยาสิ่งต่างๆ มาแก้ไข หนุมานนำสรรพยาแม่หินบดและลูกหินมาถวายพระรามได้ทันเวลา พระรามกล่าวชมหนุมาน ซึ่งในบทโขนไม่ปรากฏบ่อยครั้งนัก และมอบสรรพสิ่งต่างๆ ให้พิเภกประกอบพิธีบดและผสมยาแก้พิษหอกกบิลพัทได้สำเร็จ พระราม พระลักษมณ์ พญาวานรพร้อมกองทัพจึงกลับคืนไปยังพลับพลาที่เขาคันธกาลา ด้วยความสวัสดี
--- จบการแสดง---
การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ประจำปี 2561 ตอน “พิเภกสวามิภักดิ์” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน ถึง วันที่ 5 ธันวาคม 2561 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ ทุกสาขา โทร.02-262-3456 หรือ www.thaiticketmajor.com บัตรราคา 420, 620, 820, 1,020, 1,520 และ 1,820 บาท รอบนักเรียน นักศึกษา บัตรราคา 200 บาท (หยุดการแสดงทุกวันจันทร์) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Khon Performance โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ