xs
xsm
sm
md
lg

“ตู่-นพพล” ยอมรับ นักแสดงอาวุโสให้เกียรติร่วมงาน “ริมฝั่งน้ำ”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“ตู่-นพพล” ยอมรับ นักแสดงอาวุโสให้เกียรติร่วมงาน “ริมฝั่งน้ำ”

สำหรับนักแสดงทุกระดับชั้น ที่มาร่วมงานละคร “ริมฝั่งน้ำ” กับผู้จัด “ตู่” หรือ “อาตู่-นพพล โกมารชุน” ต้องถือว่าไม่ธรรมดา เพราะมีตั้งแต่ศิลปินแห่งชาติ, ศิลปินอาวุโส, นักแสดงกิตติมศักดิ์ , นักแสดงวัยรุ่นในปัจจุบัน แถมพกนักแสดงหน้าใหม่ที่มาร่วมงานอีกต่างหาก

ตู่-นพพล เปิดใจ “คำต่อคำ” กับเซกชั่น “ละคร” ใน MGR Online ว่า
“การที่ได้นักแสดงระดับนี้มาร่วมแสดงในละครเรื่องริมฝั่งน้ำ ถือว่าเป็นเกียรติอย่างสูงมากๆเลยนะครับสำหรับนักแสดงอย่างอาตู่ที่อยู่กับวงการนี้มาสี่สิบปี เราได้เห็นนักแสดงรุ่นที่มีความสามารถสูงมากแล้วท่านก็ให้ใจกับงาน ท่านรักที่จะมาแสดงให้กับเรา มีความสุขเหลือเกินครับ”

กังวลใจมั้ย ที่ต้องเอานักแสดงทั้ง 2 รุ่นมาเจอกันในละครเรื่องเดียวกัน
“ตอนแรกก็กังวลอยู่เหมือนกันครับว่า มันจะยากไหมที่จะจับนักแสดงสองรุ่นมาปะทะกัน คือรุ่นผู้ใหญ่เลยกับรุ่นวัยรุ่นทั้งหลาย แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะว่านักแสดงผู้ใหญ่ทั้งหลาย ท่านมีความเมตตากรุณาอยู่แล้วนะครับ ท่านพร้อมที่จะสนับสนุนนักแสดงรุ่นใหม่ พร้อมที่จะทำงานกับคนรุ่นใหม่ การถ่ายทำเป็นไปด้วยความราบรื่นมากๆสำหรับกลุ่มผู้ใหญ่ ไม่ได้มีปัญหาแม้กระทั่งเกี่ยวกับสุขภาพอย่างที่เรากลัว ว่าท่านจะไหวไหม จะแสดงอะไรตรงนี้ไหวไหม ไม่มีปัญหาเลยสักนิดเดียว ทำให้มีความรู้สึกว่าอันนี้คือความสุขจริงๆกับการทำงานท่านยังมีพลังกันเยอะมากจริงๆ บางท่านแปดสิบกว่า แต่ก็ยังจะขับรถมากองด้วยตัวเอง ซึ่งก็บอกว่าไม่ต้องๆเดี๋ยวเราไปรับให้ เราจะจัดรถตู้ไปรับได้เลยไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน คือไม่อยากให้ท่านต้องลำบาก ไม่อยากให้ท่านต้องเหนื่อยมากครับ”

ได้ “กัปตัน” มากำกับละครเรื่องนี้
“ริมฝั่งน้ำเป็นเรื่องที่ทำหลังจากไข่มุกมังกรไฟ ตอนไข่มุกมังกรไฟเหนื่อยมากนะครับ เพราะว่าเป็นละครบู๊ด้วย ละครที่ถ่ายทำอยู่ต่างจังหวัด การทำงานก็ค่อนข้างจะหนักหนาสาหัสอยู่ตอนนั้น พอผู้ใหญ่อนุมัติเรื่องนี้ลงมา ตอนนั้นกำลังคิดว่าอยากจะพักสักครู่ เลยคิดว่าจะมีใครมากำกับแทนได้ไหม แล้วก็เป็นการสนับสนุนบุคลากรรุ่นใหม่ด้วยซึ่งหายากมากตอนนี้การที่เราจะสนับสนุนบุคลากรขึ้นมาสักคนหนึ่งในวงการนี้ เป็นสิ่งที่ยาก ยากตรงที่ว่าโอกาส ฝีมือ และการทำงานนะครับ มันมักจะไม่คล้องจองกัน ไม่ได้จังหวะเดียวกัน ก็เลยคิดไปถึงว่า เออ ถ้าเกิดว่าเป็นกัปตันมากำกับล่ะ เพราะว่ากัปตันกับอาตู่นี่ทำงานด้วยกันมานานนะครับ ทั้งเราเป็นผู้กำกับให้เค้า เค้าเป็นนักแสดงให้เรา การเป็นนักแสดงก็เคยปะทะการแสดงด้วยกันหลายเรื่อง ทำให้เกิดความรู้สึกว่า กัปตันน่าจะเป็นผู้กำกับที่เหมาะกับเรื่องนี้ เพราะว่าเรื่องนี้มีผู้ใหญ่เยอะ แล้วโดยธรรมชาติของกัปตันเค้าเป็นคนที่อ่อนน้อมมาก เป็นคนที่เข้าผู้ใหญ่ได้ดีมากครับ แล้วนักแสดงหลายท่านก็เคยทำงานกับกัปตันมาแล้วทั้งนั้นแล้วก็เคยเห็นงานที่เค้ากำกับมาแล้วด้วย ก็เลยคิดว่าถ้าเป็นการสนับสนุนผู้กำกับรุ่นใหม่ที่มีพลังเยอะๆ มาทำงานตรงนี้ กัปตันน่าจะเหมาะสม เพราะว่ายังไงอาตู่ก็อยู่ที่กองถ่ายทุกวันอยู่แล้วครับ แล้วเราก็สามารถที่จะคุยกันได้ว่าอะไรยังไง ตรงไหนควรจะเพิ่ม ตรงไหนควรจะลด แล้วก็จะเป็นการทำงานระหว่างรุ่นที่ดีมากด้วยครับ”

แถมดึง “เฟรช-อริศรา” มาเป็นโค้ชแอ็กติ้งอีกคน
“ส่วนเฟรช-อริศราเค้าเป็นคนที่แทบจะเรียกว่าเป็นลูกศิษย์เลย งานการแสดงเฟรชเริ่มงานกับอาตู่มาก่อน เราเป็นผู้กำกับคนแรกของเค้า แล้วเราก็ทำงานกันมาหลายเรื่องมาก เห็นว่าเค้ามีความสามารถทางด้านการแสดง สำหรับเฟรชนี่อยากจะให้มาดูแลพวกนักแสดงรุ่นใหม่ คือกัปตันเค้าจะรับไปดูแลผู้ใหญ่ทั้งหลาย แต่ว่านักแสดงรุ่นใหม่ยังมีอีกหลายคนที่มีประสบการณ์ทางด้านการแสดงน้อยอยู่ ก็อยากให้เฟรชมาเป็นแอ็กติ้งโค้ชให้เด็กๆ ซึ่งตรงนี้เฟรชเหมาะมากเพราะเค้าเป็นคนที่เข้าใจการแสดง เป็นคนที่เข้าใจคนรุ่นใหม่ สามารถที่จะหาวิธีอะไรที่เค้าจะสอน ที่เค้าจะตะล่อมให้มาเข้ากับเรื่องได้ ก็เลยคิดว่าถ้ากัปตันกับเฟรชมาร่วมงานกัน ซึ่งเค้าก็เคยทำงานด้วยกันมาก่อนแล้ว มันก็น่าจะเข้าขากันดี สิ่งหนึ่งที่จะไม่ต้องห่วงก็คือ กัปตันต้องการจะปรับนักแสดงพวกวัยรุ่น เค้าก็จะส่งเฟรชไป ตัวเค้าเองก็จะคอยดูแลการแสดงของพวกผู้ใหญ่แล้วทั้งสองคนก็จะมาจอยกัน เวลาในฉากจริงที่จะต้องทำงานด้วยกันครับ”

ริมฝั่งน้ำ ท้าทายมากนะ
“ริมฝั่งน้ำเป็นแนวละครที่ท้าทาย เพราะว่ามันก็เป็นความยากส่วนหนึ่งคือต้องกำกับเหล่านักแสดงอาวุโสมากฝีมือทั้งหลาย ทำให้กัปตันต้องเตรียมงานเยอะ ต้องทำการบ้านเยอะ ผู้กำกับจะต้องมีคำตอบให้กับทุกคน ทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นเล็ก เพราะฉะนั้นการทำงานของกัปตันจะต้องเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ซึ่งตรงนี้ก็จะได้ฝึกปรือให้ฝีมือแกร่งกล้าขึ้นอย่างมาก”

ในฐานะ “ผู้จัด” ละครเรื่องนี้
“ในฐานะที่เราเป็นผู้จัดก็ไปกองตลอด บรรยากาศในกองสนุกดีครับ อย่างฉากวันไหนที่จะมีผู้ใหญ่เยอะๆ มากๆ เค้าก็จะเฮฮามาก เค้าจะมีความสุขมาก แล้วก็จะมีนักแสดงอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้แสดงเรื่องนี้ แต่เป็นนักแสดงรุ่นอาวุโสรุ่นเดียวกัน ทำกับข้าวมาเลี้ยงกันใหญ่เลยทั้งกอง เค้าก็จะมีความสุขกับการได้เจอกัน ได้เฮฮากัน อย่างมีอยู่วันหนึ่งที่เป็นฉากที่รวมตัวกัน ก็จะได้รับเกียรติจากพี่จิ๋ม-มยุรฉัตรทำกับข้าวมาเยอะมากไปที่กอง เพราะพี่จิ๋มบอกอยากเล่นเรื่องนี้ อยากมาร่วมสนุกด้วย แต่ในเมื่อไม่มีบทให้ฉันเล่น ฉันก็ทำกับข้าวมาให้พวกเธอ ทำกับข้าวมาให้พวกเหล่านักแสดงด้วยกันนี่ได้รับประทานกัน สนุกมากเป็นบรรยากาศที่ไม่เหมือนเรื่องอื่นครื้นเครงมากแล้วก็นักแสดงรุ่นใหม่ๆ เค้าจะมีความรู้สึกว่า เค้าได้รับความอบอุ่นจากผู้ใหญ่มากๆ”

นักแสดงอาวุโสแต่ละคน มีคาแร็กเตอร์แตกต่างกันไป
สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ - “เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่เราจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับผู้สูงอายุคิดว่าท่านผู้ชมเมื่อได้ชมละครเรื่องนี้แล้ว จะเห็นภาพเลยคือ นี่ๆ แม่เราเป็นอย่างนี้นี่เลย ตาเราเป็นอย่างนี้เลย เพราะฉะนั้นแต่ละท่านจะมีคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างกันหมด อย่างท่านแรก อาอาด คุณสะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ อาตู่เองได้เคยแสดงกับอาอาดมาหลายเรื่อง กำกับอาอาดก็เคย ให้อาอาดกำกับก็เคยนะครับ ทำงานกันมานานมากแล้วก็รู้จักอาอาดกันมานานมากเลย ตั้งแต่สมัยรุ่นแม่ของอาตู่ ก็เลยคิดว่าอาอาดนี่เป็นนักแสดงที่มีมาด มีลักษณะซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่ทุกคนเวลามองแล้วจะยำเกรงและเชื่อถือ แล้วบทตัวละครตัวนี้ ตัวชาญชัยเป็นตัวละครที่เหมือนกับจะเป็นพระเอกของเรื่องเลย เป็นตัวละครหลักที่เป็นผู้ใหญ่ที่จะให้คำสอน จะเตือนสติ แล้วก็เป็นคนที่ต้องนิ่ง ต้องมีวุฒิภาวะสูง ต้องมีความรู้ดี และสามารถที่จะให้อะไรกับคนรอบข้างได้ ตอนที่วางตัวก็นึกถึงอาอาดเป็นคนแรกเลย เหมาะที่สุดเลยครับ ตอนนั้นก็ยังรู้สึกว่าถ้าติดต่อไปแล้ว อาอาดจะรับเล่นไหม เพราะได้ข่าวว่าท่านเพิ่งเข้าโรงพยาบาล แต่พอได้คุยกันปั๊บ อาอาดบอกเล่น ได้เลย อาแข็งแรงแล้ว สุขภาพตอนนั้นที่ไม่ค่อยดีก็ฟื้นกลับคืนตัวมาแล้ว และพร้อมที่จะเล่น”

พิสมัย วิไลศักดิ์ - “ตัวละครที่มี้ พิสมัย รับบทก็เหมือนกันครับ พออ่านปั๊บเนี่ยก็ต้องเป็นมี้แน่นอน จะเป็นคนอื่นไปไม่ได้ เพราะว่าอารมณ์และความสามารถของมี้สูงสุดอยู่แล้ว ตัวละครคุณนิ่มนวลนี่จะต้องเป็นอัลไซเมอร์ผู้ใหญ่รอบข้างเราในยุคสังคมสมัยนี้เป็นอัลไซเมอร์กันเยอะเลยนะฮะ เราอยากเสนอภาพตรงนี้ออกมาว่า เราควรจะดูแลผู้ใหญ่ที่เป็นอัลไซเมอร์ยังไง ควรจะให้ความสำคัญ ความสนใจในชีวิตประจำวันของเค้ายังไง ตัวละครที่มี้เล่นเพิ่งเป็นอัลไซเมอร์ขั้นแรก ก็จะมีการหลงๆ ลืมๆ แล้วไอ้ความหลงๆลืมๆ เราก็ทำให้มันสนุกให้มันเป็นมุกที่น่ารัก ความรู้สึกที่คนดูดูแล้วจะรู้สึกว่าผู้สูงอายุกลุ่มนี้มีความน่ารักอยู่ในตัวมากนะครับ”

สุประวัติ ปัทมสูต - “ท่านต่อไปคือพี่อี๊ด-สุประวัติ ที่นักแสดงทั้งหลายก็เรียกกันว่าพ่ออี๊ด พ่ออี๊ดเป็นผู้ที่มีความสามารถสูงมาก ในบทนี้เราต้องการบทซึ่งในอดีตเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ มีความทะนงในตัวเองมาก มีความรักในศักดิ์ศรีของตัวเอง แล้วก็จะหยิ่ง ไม่ค่อยจะเข้ากับผู้คนได้ แล้วซึ่งในชีวิตจริงเราก็จะเห็นเยอะเลยผู้ใหญ่ประเภทนี้ พี่อี๊ดจะเป็นตัวแทนของคนที่ลักษณะอย่างนี้ครับ แล้วก็ครั้งแรกที่เค้ามองคนจะมองคนอย่างไม่ค่อยจะเป็นมิตรนัก เพราะว่าไม่ไว้ใจว่าคนนี้ดีจริงไหม เป็นคนที่น่าคบจริงไหม พี่อี๊ดจะถ่ายทอดความรู้สึกตรงนี้ได้อย่างดีมาก เพราะเวลาที่แกเล่น แล้วเข้าคู่กับน้าชู”

ชูศักดิ์ สุธีรธรรม - “น้าชู-ชูศักดิ์ สุธีรธรรม เล่นในบทบาทของคนแก่ซึ่งมองดูภายนอกแล้วจะดูเหมือนคนสวน แล้วน้าชูกับพี่อี๊ดเค้าจะต้องไปอยู่ห้องเดียวกันในบ้านร่มไม้ชายคา ตัวพี่อี๊ดเค้าก็จะมีความรู้สึกดูถูกคนๆนี้ ในขณะที่อีกคนนึงเค้าก็จะเป็นคนที่คึก สนุกสนานมาก คอยแหย่ คอยอะไรต่างๆ เพราะฉะนั้น ภาพของสองคนนี้จะเป็นภาพที่สนุกสำหรับเรื่องนี้ดูแล้วจะมีแต่รอยยิ้มครับ”

เศรษฐา ศิระฉายา - “อย่างอาต้อย-เศรษฐา นี่ไม่ต้องห่วงอยู่แล้ว สนุกอยู่แล้ว”

ทาริกา ธิดาทิตย์ - “พี่ก้อย-ทาริกา เราจะให้เล่นชีวิต เป็นดราม่าเลย พี่ก้อยจะเล่นเป็นแม่ของพระเอก ผู้ใหญ่ที่มีความทุกข์เพราะความเหงา ตรงนี้เป็นสิ่งที่ละครเรื่องนี้อยากจะเสนอให้คนดูได้รู้สึกว่าคนแก่ที่มีความเหงาแล้วจะต้องอยู่ตามลำพัง มันเป็นความทุกข์มาก แล้วจะทำให้ท่านกลายเป็นคนที่น่าสงสารมาก พี่ก้อยจะแสดงตรงนี้ได้อย่างดีมากเลยครับ”

โฉมฉาย ฉัตรวิไล - “แม่แอ๊ด-โฉมฉาย นี่มาทางตลกเลยครับ แนวเฮฮา เป็นสีสันของละครเรื่องนี้ ยังมีพี่เม้า-สุดา ชื่นบาน พี่แดง-ฉันทนา กิติยพันธ์ ทั้งคู่ก็เป็นนักแสดงที่มีฝีมืออย่างสูง”

นักแสดง 2 รุ่นเข้ากันได้มั้ย
“เวลานักแสดงทุกคนมารวมตัวกันหมด คุยกันไม่เลิกเลย บางคนหมดคิวแล้วก็ยังไม่กลับ ขออยู่ต่อเพื่อที่จะคุยต่อ ตรงนี้ทำให้บรรยากาศของการทำงานเรื่องนี้มีความสุขมากๆ

นักแสดงรุ่นเด็กๆ ทุกคนเค้าก็เต็มที่นะครับ เวลาเล่นเข้าฉากกับผู้ใหญ่ทีแรกก็จะเกร็งมากอยู่เหมือนกันว่า โห เล่นกับรุ่นใหญ่ทั้งนั้นเลย อย่างเพื่อน เพื่อนนี่ก็มีความสุขกับการที่ได้อยู่กับผู้ใหญ่ ทุกครั้งอย่างเวลาพักกองไปกินข้าวด้วยกัน ผู้ใหญ่ก็จะคุยกันเรื่องนี้เรื่องโน้น เพื่อนก็จะนั่งฟัง โห ตาโต อ้าปากค้าง เค้าจะสนุกกับผู้ใหญ่กลุ่มนี้มาก เพราะเพื่อนเป็นนักแสดงที่รักในงาน เค้าอยากที่จะเข้าไปใกล้ชิดผู้ใหญ่กลุ่มนี้ เค้าก็จะเข้าไปเลย ไปฟัง ไปร่วมสนุกคุยกับผู้ใหญ่กลุ่มนี้ครับ

นักแสดงเด็กๆคนอื่นๆก็เหมือนกันนะครับ เรื่องนี้เค้าจะมีความรู้สึกว่าผู้ใหญ่เหล่านี้ก็จะมอบวิชาให้ บางฉากที่จะต้องแสดงด้วยกัน บางครั้งเค้าทำไม่ได้ ผู้ใหญ่ก็จะแนะ อย่างนี้สิลูก ถ้าทำอย่างนี้จะดีไหม ซึ่งตรงนี้เราเปิดโอกาสให้เต็มที่ เพราะอาตู่มีความรู้สึกว่าถ้านักแสดงกลุ่มนี้ได้มาเรียนกับผู้ใหญ่กลุ่มนี้จะเป็นประโยชน์กับชีวิตการแสดงของเค้าอย่างมากๆเพราะเค้าจะเก็บเกี่ยวทุกอย่าง ความสามารถของคนนี้ ความเก่งของคนนั้นแล้วเอามาศึกษา มาปรับวิธีใช้กับการแสดงของเค้าได้ในอนาคตครับ”

อาตู่มองบ้านพักคนชราเป็นอย่างไร
“อาตู่มองว่าบ้านพักคนชราเป็นศูนย์กลางของจิตใจสำหรับคนสูงวัยเป็นการรวมตัวของคนที่อาจจะมาจากพื้นเพแตกต่างกัน สังคมที่แตกต่างกัน การที่ได้เข้ามารวมกันตรงนี้เหมือนกับว่าจะต้องมาปรับตัวกันใหม่ แล้วในการปรับตัวนี่มันเป็นสิ่งดีตรงที่ว่า มันได้ใช้สมอง ได้ใช้ความรู้สึก ได้ใช้จิตใจ เพราะก่อนหน้านั้นคนแก่จะถูกทอดทิ้งเยอะ เราจะได้เห็นภาพคนแก่ที่นั่งอยู่กับบ้าน รอเวลาที่ลูกหลานจะกลับมา รอเวลาที่เสาร์อาทิตย์เค้าจะได้มาเยี่ยมเยียนบ้าง บางคนอาจจะไม่ได้เจอกันเลยเป็นปี เพราะต่างคนต่างก็มีงานที่ต้องทำ มีชีวิตส่วนตัวของแต่ละคน แต่วันนึงที่เค้าได้เข้าไปอยู่ในบ้านพักคนชรา ได้ไปอยู่ในสังคมของคนวัยใกล้เคียงกันที่พูดจาเข้าใจกันตรงนั้น ทำให้เค้ามีความรู้สึกว่าเค้ามีความอบอุ่นขึ้น เค้าไม่ได้ว่างเปล่าในชีวิตเลยซะทีเดียว เพราะฉะนั้นอาตู่มองว่าบ้านพักคนชราเป็นศูนย์รวมใจสำหรับคนสูงวัยที่ดีมากเมื่อไหร่ที่เรามีบ้านพักเหล่านี้เยอะๆ แล้วให้สิ่งที่ดีๆ ให้ความอบอุ่นกับผู้ใหญ่กลุ่มนี้แล้ว ชีวิตในบั้นปลายมันดูมีความหมายขึ้นเยอะ ไม่ถูกทอดทิ้งและอ้างว้าง คำว่าเหงา คำว่าอ้างว้างนี้สำคัญนะครับมันทำร้ายจิตใจของคนสูงวัยอย่างมาก”

อยากให้ละครได้เตือนคนรุ่นใหม่
“ริมฝั่งน้ำจะเป็นละครที่สะกิดเตือนให้คนรุ่นใหม่ คนรุ่นกลางหันกลับไปมองคนรุ่นที่แล้วเยอะๆ หันมามองด้วยความรู้สึกที่รักและห่วงใยมากกว่าที่เคยเป็นอยู่ อย่างตัวอาตู่เองก็ผูกพันกับคนแก่เยอะมาก ตั้งแต่เด็กมาแล้ว อาตู่มียายคอยทำกับข้าวให้กิน ก็มีความผูกพัน พอวันนึงยายตายไป เราก็มีความรู้สึกว่า ถ้ายายยังอยู่ก็ดีนะ เราคงจะได้กินอะไรอร่อยๆอีก ความรู้สึกตรงนี้อยากให้เกิดกับคนดูทุกๆคนที่ได้ดูละครเรื่องนี้ อยากให้เก็บความรู้สึกอย่างนั้นกลับมาอีก เพื่อที่ว่าเราจะได้กลับไปที่บ้าน

ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เป็นปู่ย่าตายายเป็นพ่อเป็นแม่ เราควรจะกลับไปให้ความสุขกับเค้า ถ้าได้ดูละครเรื่องนี้แล้วจะเข้าใจเลยครับว่า คนแก่ต้องการความรัก ต้องการความอบอุ่นมากขนาดไหน แล้วท่านสามารถที่จะให้ไม่ใช่เฉพาะความรักความอบอุ่นอย่างเดียวท่านสามารถจะให้ความรู้ ประสบการณ์ชีวิตมาเป็นตัวอย่างให้กับเราในทุกวันนี้ได้ อย่าลืมว่าบางคนในยุคนี้ที่เราเห็นเมื่อมีปัญหาไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้ ตัดสินใจยังไง ยาเสพติด ฆ่าตัวตาย ซึ่งมันเป็นสิ่งผิดทั้งหมด ทำไมไม่ลองย้อนกลับไปหาผู้ใหญ่ในบ้านเราบ้าง กลับไปหาท่าน ลองไปปรึกษาท่าน ท่านเป็นคนที่มีประสบการณ์ชีวิตสูงมาก ท่านอาจจะช่วยแก้ปัญหาชีวิตของเราได้ สิ่งที่สำคัญผู้ใหญ่ทุกคนพอเด็กเข้ามาหาแล้วปลอบได้ เค้ามีความรู้สึกว่า เราให้ความสำคัญกับท่าน ท่านก็มีความรู้สึกว่าท่านสามารถช่วยได้ เมื่อทั้งสองวัยเข้ามาประสานกันแล้ว ชีวิตครอบครัวจะมีความสุขขึ้นอีกเยอะ อย่าลืมว่าครอบครัวเป็นจุดกำเนิดของคนทุกคน หาเวลากลับไปหาครอบครัวกันบ้างครับ

แล้วเราก็ยังเอาเกร็ดจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมของบ้านเรามาถ่ายทอด ที่บางครั้ง ผู้ดูแลคนสูงอายุนี่จะค่อนข้างใจร้ายกับคนแก่ตรงนั้นเราก็จะมีภาพความเป็นจริงมาเสนอ เพราะว่าในที่สุดแล้ว คนสูงอายุจะเป็นเหมือนกันหมดคือ เหงา สังคมยุคนี้ลูกหลานจะต้องออกไปทำงาน ต้องเลี้ยงตัวเอง ต้องต่อสู้ วัยรุ่นบางครั้งก็ไม่ได้สนใจผู้ใหญ่เท่าไหร่ ทำให้การอยู่ตามลำพังของผู้ใหญ่ในยุคนี้น่าสงสารแล้วก็น่าเห็นใจมาก เพราะฉะนั้นภาพที่เราเสนอออกมา ก็คือ บางครั้งบ้านพักคนชรานี่เป็นศูนย์รวมของความสนุก คือ ท่านได้มีเพื่อน ได้พ้นจากความเหงาไป ได้มีคนคุย หรือมีคนถกเถียงด้วย แม้กระทั่งทะเลาะกันก็สนุกแล้ว เพราะว่ามันยังดีกว่าที่จะนั่งแห้งอยู่กับบ้าน มองไปทางไหนก็ไม่มีใครเลยสักคน

ริมฝั่งน้ำ เป็นละครที่แปลกสำหรับยุคนี้ เพราะจะไม่มีอิจฉา ริษยาอะไรกันมากมาย จะมีแต่ความสุข ความอบอุ่น และรอยยิ้มที่จะให้กับท่านผู้ชม ชมแล้วจะมีความรู้สึกว่า นี่แหละคือเวลาสำคัญที่เราจะต้องกลับไปหาครอบครัว กลับไปหาความสุขกับผู้ใหญ่บ้าง ไปกอดท่าน ไปให้ความรักกับท่าน แล้วเราเองเราก็จะมีความสุขทางใจ เพราะฉะนั้นอยากจะให้ดูนะครับ นานๆทีเราจะมีละครที่เพิ่มความอบอุ่นให้กับครอบครัว รับรองว่าทุกครั้งที่ชมจะมีรอยยิ้มอย่างแน่นอน ขอบคุณมากครับ”







กำลังโหลดความคิดเห็น