xs
xsm
sm
md
lg

อ่านก่อนชม MONSTRUM

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อ่านก่อนชม MONSTRUM

ชื่อเรื่อง : MONSTRUM พันธุ์อสูรกลาย
ประเภท : Action/Thriller
กำหนดฉาย : 4 ตุลาคม
บริษัทจัดจำหน่าย : โมโนฟิล์ม
อำนวยการสร้าง : จง แท วอน (Operation Chromite)
ควบคุมงานสร้าง : ยาง ชาง ฮุน
กำกับ : โฮ จง ฮอ
เขียนบท : โฮ แดม, ฮู จอง โฮ
แสดงนำ : คิม มย็อง มิน (Detective K, A Day) , อี ฮเยรี , ชเว อู ชิก (Train to Busan, OKJA)

เรื่องย่อ
"อสูรร้ายในตำนานได้ทำให้ผู้คนบนเขาอินวังซานต้องหวาดผวา"
ในช่วงแห่งราชวงศ์โชซอน โรคระบาดได้แพร่กระจายเข้าสู่ผู้คน เกิดภาวะแร้นแค้นทั่วทั้งเมือง และผู้คนตื่นตระหนกเมื่อมีข่าวลือถึงอสูรร้ายแห่งบรรพกาลออกมาไล่ฆ่ามนุษย์บนภูเขาอินวังซาน
ชาวเมืองเริ่มต่อต้านองค์จักรพรรดิ เพราะคิดว่าพระองค์จะไม่สามารถปกป้องพวกตนได้ พระองค์จึงมอบหมายให้ ยุน กยอม อดีตองครักษ์ประจำราชวงศ์ ออกไปสืบหาความจริงและล่าอสูรร้ายตัวนั้นก่อนที่การต่อต้านจะรุนแรงเกินควบคุม แต่หารู้ไม่ว่าอสูรร้ายตัวนั้นอาจเป็นภัยอันตรายที่สามารถทำลายเมืองให้ย่อยยับ
และนี่คือ “เบื้องหลัง” ต่างๆของภาพยนตร์เรื่องนี้

คำแถลงการณ์จากผู้กำกับ
เรื่องราวทั้งหมดเกิดจากข้อความสั้นๆ ในพงศาวดารของราชวงศ์โชซอน พงศาวดารแสดงให้เห็นว่า ในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าจุนจง มีปรากฏการณ์ลึกลับ (หรือเหตุการณ์) ที่เรียกว่า “MUL GWE” - “mul” หมายถึง 'สิ่ง' และ 'gwe' หมายถึง "แปลก" ซึ่งรวมกันแล้วหมายถึงสิ่งแปลกประหลาดที่ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในพระราชวังและเป็นการบังคับให้องค์จักรพรรดิต้องละทิ้งที่พำนักของตน ซึ่งทำให้ผมสงสัยเกี่ยวกับ “สิ่งนั้น” ตลอดเวลา

หรือว่ามันจะเป็นสัตว์ประหลาดที่มีชีวิตอยู่จริง หรือเป็นเพียงคำเปรียบเปรยถึงความหายนะที่เกิดขึ้นภายในวังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือ มันอาจจะเป็นเพียงแค่เสือที่เดินลงไปยังพระราชวังจากเขาอินวังซาน ทำให้ผู้คนละแวกนั้น เรียกปรากฎการณ์นี้ว่า “mul gwe” หรือ “สิ่งแปลก” จากความกลัว หรืออาจจะเป็นโรคระบาดที่แพร่หลายมายังผู้คนหรือภัยธรรมชาติก็เป็นได้

ในขณะที่ผมกำลังจินตนาการถึงทฤษฎีต่างๆ ที่เกี่ยวกับ “mul gwe” ผมได้เรียนรู้ไปถึง ห้องโถงโจจุน ซึ่งถูกอำพรางอยู่ในพระราชวังในรัชสมัยของพระเจ้าย็อนซัน ตามพงศาวดารนั้น พระเจ้าย็อนซันเป็นคนชอบสะสมสัตว์ป่าหายาก และห้องโถงนี้เองที่สร้างขึ้นเพื่อเก็บกรงต่างๆ ของพวกสัตว์ประหลาดเหล่านั้น ผมก็เลยตั้งข้อสันนิษฐานว่าประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้และผสานเข้ากับจินตนาการเกี่ยวกับ “mul gwe” นั้นคือสัตว์ป่าในบรรพกาล ที่มีอยู่จริงในช่วงสมัยนั้น

ในจินตนาการของผม “mul gwe” ถือกำเนิดในห้องโถงลับนั้น เป็นลูกผสมของสัตว์ประหลาดที่ชั่วร้ายที่สุด ผมจินตนาการเห็นว่ามันสามารถคำรามบนจตุรัสควางฮวามุน ส่งสัญญาณให้เหล่าทหารต้องออกมาเตรียมพร้อมรับมือการรบกับสัตว์ประหลาดตัวนี้

ใครจะสามารถปกป้องราชวังให้รอดพ้นจากอสูรร้ายตัวนี้ สำหรับผมคำตอบมันชัดเจนอยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์ นั่นก็คือ ”ประชาชน” ตามประวัติศาสตร์แล้ว ประชาชนคือผู้ฟื้นฟูประเทศให้กลับมามีชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับความพินาศและความยากลำบากมากเพียงใดก็ตาม ประชาชนเท่านั้นที่สร้างประเทศขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่ผู้นำทหารใดๆ ทั้งนั้น

นี่เป็นเรื่องที่ผมอยากจะเล่าผ่าน “mul gwe” สัตว์ประหลาดร้ายในตำนานที่ผมได้ค้นเจอ ผมจะทำให้มันมีลมหายใจ สมจริงเฉกเช่นเดียวกับประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงมัน เรื่องราวของผู้คน..ที่ไม่ได้มียศถาบรรดาศักดิ์สูงส่ง แต่สามารถที่จะปกป้องบุคคลที่อยู่สูงกว่าตนได้

เรื่องราวที่เกิดขึ้น

“ศพผู้คนกองพะเนินเป็นร้อยท่ามกลางข่าวลือเกี่ยวกับอสูรร้ายในตำนาน”
ในช่วงปี 1519 ช่วงแห่งการครองราชบัลลังก์ในปีที่ 13 ขององค์จักรพรรดิ จุน จง การแพร่หลายของโรคระบาดแผ่กระจายไปทั่วเมืองหลวงจนไม่สามารถควบคุมได้ หลงเหลือไว้เพียงความหวาดกลัวและหวาดระแวงของประชาชน ผู้ที่ต้องสงสัยว่าได้รับเชื้อร้ายมาต้องถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมโดยเจ้าหน้าที่รัฐ จากนั้นก็มีการขุดหลุมฝังศพขนาดมหึมาขึ้นมาบนเขาอินวังซานและศพหลายร้อยถูกทิ้งไว้ที่นั่น คืนหนึ่งได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง พื้นหลุมศพได้แตกออกพร้อมเสียงคำรามที่น่าหวาดกลัว ศพจำนวนไม่น้อยที่ตกลงไปในรอยแยกนั้น และตรงกันข้ามกลับมีสิ่งมีชีวิตประหลาดได้ขึ้นมาจากหลุมมืดแห่งนั้น มันคือ "อสูรร้าย" ที่ปกคลุมด้วยเงามืดดำ เสียงคำรามของมันได้ทำให้ทหารที่ประจำการอยู่ที่นั่นต้องหวาดผวาไปทั้งคืน

“ภัยวิกฤติที่เป็นอันตรายต่อราชบัลลังก์ อสูร หรือ การสมคบคิดของกบฏ”
ข่าวลือได้แพร่หลายไปทั่วเมือง เกี่ยวกับอสูรร้ายจากบรรพกาลที่โผล่ออกมาจากเขาอินวังซาน เหล่าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายได้ตั้งชื่อให้ว่า “มอนสตรัม” หรือ “อสูรกลาย” ในพระราชวังเคนจอง องค์จักพรรดิ จุน จง ได้รวบรวมเหล่าทหารฝีมือดีออกมาเพื่อให้ไปค้นหาความจริงเกี่ยวกับข่าวลือบนเขาอินวังซาน
ความกดดันเริ่มทวีคูณเมื่อองค์เสนาบดีฝ่ายตรงข้าม ได้ชี้ว่ามูลเหตุเหล่านี้เป็นเพราะการไม่มีความสามารถในการปกครองบ้านเมืองที่ดี รวมทั้งยังได้นำเอาความโกลาหลของประชาชนมาเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะทำให้ราชบัลลังก์สั่นคลอน จึงเป็นเหตุให้องค์จักพรรดิต้องเร่งค้นหาความจริงเกี่ยวกับข่าวลือครั้งนี้ พร้อมทั้งปกป้องบัลลังก์ของตนเอง

“การกลับมาของนักรบผู้ซื่อสัตย์”
ในที่ชนบทอันห่างไกล ยุน กยอม ได้ใช้ชีวิตอย่างราบเรียบกับลูกสาวในวัย 20 ปีของเขา มยอง และอดีตมือขวาผู้จงรักภักดีของเขาอย่าง ซัง ฮาน ชีวิตของพวกเขาเรียบง่ายผ่านชีวิตไปแต่ละวันกับงานล่าสัตว์ เพื่อดำรงชีพ วันหนึ่ง เมื่อ มยองได้พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งมาทำลับๆ ล่อๆ อยู่หน้าบ้านของนาง หลังจากทริปล่าสัตว์ เธอเกือบที่จะยิงชายแปลกหน้าคนนี้ เธอมาทราบในภายหลังว่าเขาคือ พลทหารฮอ ที่รับหน้าที่เป็นผู้ส่งสารจากองค์จักพรรดิ จุน จง และเธอยิ่งตกใจยิ่งขึ้นไปอีกหลังจากการปรากฎตัวขององค์จักพรรดิ ที่เดินทางมายังกระท่อมของนาง นางแทบไม่เชื่อสายตาและไม่รู้ว่าพ่อของตนนั้น เคยเป็นทหารผู้ยิ่งใหญ่แห่งโชซอน อีกทั้งยังเคยเป็นองครักษ์ประจำราชวงศ์ มยอง ได้รู้ด้วยว่าพ่อของเธอถูนายพล จิน ยอง ทรยศ และใส่ร้าย ทำให้ต้องสละตำแหน่งในครั้งนั้น
องค์จักรพรรดิ ได้สั่งให้ ยุน กยอม กลับสู่เมืองหลวง แม้ว่าเขาไม่เต็มใจแต่สุดท้ายก็ไม่กล้าขัดคำสั่งองค์จักพรรดิ จากนั้นเขาได้เดินทางไปยังเมืองหลวงพร้อมกับ มยอง และ ซัง ฮาน เป็นเวลากว่า 10 ปื ที่เขาไม่ได้กลับสู่เมืองหลวง ตอนนี้เขาต้องกลับมาอีกครั้งพร้อมภาระหน้าที่อันใหญ่หลวง เมื่อเขากลับมาถึงเมืองเขาได้พบกับบ้านเมืองที่วุ่นวาย ความรุนแรง และความแร้นแค้นของประชาชนภายในเมือง..

“หลักฐาน คนหรืออสูรร้าย”
ในวันที่ฟ้าหม่น ฝนเทไม่ขาดสาย ยุน กยอม, มยอง, ซัง ฮาน และ พลทหารฮอ ได้ไปสืบคดีในที่ผู้คนถูกสังหารใกล้กับ ประตูท่าดอน อุย กลุ่มนักเวทย์ที่กำลังประกอบพิธีถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมเหมือนกับฉากที่หลุดมาจากฝันร้าย ร่างกายถูกฉีกขาดเป็นชิ้นๆ เลือดกระจายนองเต็มทุกที่ หลังจากที่ดูหลักฐานอย่างถี่ถ้วน ยุน กยอม ยืนยันว่านี่เป็นฝีมือของมนุษย์ ไม่ใช่อสูรที่ทำแบบนี้ แล้วใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังการสังหารโหดครั้งนี้
ในวันเดียวกัน กลุ่มทหารกองทัพหนึ่งได้ถูกโจมตีโดยอสูรร้าย และเหยื่อถูกขย้ำฉีกขาดเป็นชิ้นๆ ในขณะที่พวกเขากำลังเคลื่อนพลผ่านเขาอินวังซาน เหยื่อรายหนึ่งได้หนีรอดออกมาได้ และออกไปป่าวประกาศกลางเมืองว่า “อสูรกลาย!” ก่อนที่เขาจะล้มฟุบไปและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ยุน กยอม ได้เดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุนั้น แต่ครั้งนี้เขาพบว่ามันไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ แต่กลับพบหลักฐานอย่างเช่นเมือกของสัตว์ประหลาด กระจายไปทั่วพื้นที่ หรือว่านี่จะเป็น "อสูรกลาย" ที่ผู้คนกล่าวถึง

“การค้นหาได้เริ่มขึ้นที่เขาอินวังซาน”
องค์จักพรรดิได้เกณฑ์ทหารและประชาชนมาเพื่อค้นหาตัวสัตว์ประหลาด กลุ่มประชาชนนั้นนำโดย ยุน กยอม พร้อมด้วย มยอง และ ซัง ฮาน ส่วนหน่วยค้นหาของทหารนำโดนนายพล จิน ยอง ความกดดันได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากกลุ่มประชาชนและกลุ่มหทารที่ไม่ค่อยเข้ากันดีนัก เมื่อเข้าไปในป่าลึกขึ้นๆ ทั้ง 2 กลุ่มต้องผงะ กับกลิ่นคลุ้งโชย ยุน กยอม ได้พบเมือกอีกครั้ง มันคือสัตว์ร้าย หรือมันคือ อสูรกลาย กันแน่ เมื่อเดินลึกเข้าไป ลุงแก่คนหนึ่งได้พลัดหลงกับกลุ่ม ทุกคนจึงได้ร่วมกันออกค้นหาลุงคนนั้น แล้วพวกเขาก็ได้พบกับซากกระดูกของสัตว์มากมายหลายชนิด ยิ่งไปกว่านั้นคือการได้พบรอยเท้าอันมหึมาของอสูรร้าย
ขณะที่ ยุน กยอม กำลังศึกษาหลักฐานอยู่นั้นเขาก็ได้ตกกลายเป็นเป้านิ่งของกลุ่มทหารที่นำโดย ยิน จอง ที่พยายามจะผลักเหล่าประชาชนให้ตกไปยังหลุมมหึมาที่เต็มไปด้วยซากศพมนุษย์

“อะไรอยู่ข้างล่าง”
เมื่อประชาชนถูกล้อมหน้าล้อมหลังด้วยทหาร พวกเขาถูกผลักให้ตกลงไปยังหลุมมหึมานั้น ยุน กยอม และ ซัง ฮาน ได้ปีนลงไปเพื่อช่วยเหลือประชาชน ขณะนั้นเอง พวกเขาจึงได้เจอกับเงามืดที่โผล่ออกมาจากถ้ำ แต่มันไม่ใช่อสูรกลาย มันคือลุงแก่ที่หายไป เขาบอกว่าตอนนี้เราอยู่ในถ้ำของอสูรกลาย ปีศาจร้ายมีอยู่จริง เขาเร่งให้ทุกคนรวมไปถึง ยุน กยอม อำพรางตนเองด้วยการทำให้ตัวเองนั้นเปรอะเปื้อนไปกับเมือกข้นของปีศาจร้ายเพื่อที่จะอำพรางพวกเขาไปจากมัน อสูรกลายมีสายตาที่ย่ำแย่ ดังนั้นมันจะอาศัยกลิ่นของมนุษย์เพื่อโจมตี
ไม่นาน อสูรกลาย ได้ปรากฏตัวขึ้นครั้งแรก มยองได้ประชันหน้ากับอสูรร้ายนี้เป็นครั้งแรก เธอแทบจะกลั้นหายใจไว้ไม่อยู่ ทันใดนั้น ยุน กยอม ได้รู้สึกถึงลมเล็กๆ ผ่านหน้าเขาไป ทำให้เขาได้เห็นช่องว่างเพื่อที่จะหนีรอดออกไปจากถ้ำแห่งนี้

“ความลับของลุงแก่”
ผู้คนได้หนีเข้ามายังทางระบายน้ำเก่า ที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ ไม่มีใครในกลุ่มรู้เลยว่าที่นี่คือที่ไหน เว้นแต่ลุงแก่คนนั้น ที่เหมือนกับว่าเขารู้จักกับที่นี่ดี เขาเดินนำ ยุน กยอม ไปตามทางระบายน้ำ เพื่อไปพบกับห้องโถงโบราณ ขนาดใหญ่โต “ที่นี่คือห้องโถงโจจุน” ลุงแก่พูด เขาเผยว่าอดีตพระเจ้าย็อนซัน เป็นผู้สร้างสถานที่แห่งนี้ เพื่อเก็บสัตว์ประหลาดเอาไว้ เมื่อพระเจ้าย็อนซัน ได้ถูกก่อกบฏ สัตว์ทั้งหลายได้ถูกสังหารไปจนสิ้น เหลือเพียงตัวเดียวที่หลุดรอดไปได้ นั่นคือ อสูรกลายตนนี้ และเขาได้บอกเส้นทางลับที่จะนำไปสู่ราชวัง โจ จุน

“อสูรออกจากถ้ำแล้ว”
ลุงแก่ได้หลอกล่อให้อสูรกลาย กลับมาสู่กรงขังเก่าของมัน แต่มันได้ทำลายกรงอย่างย่อยยับและปีนออกไปยังราชวังผ่านทางเส้นทางลับ มันเริ่มทำลายทุกสิ่งต่อหน้า ทำให้ทหารในราชวังต้องขวัญผวา ไม่นานราชวังได้ถูกทำลายและรายล้อมไปด้วยเปลวเพลิง ความโกลาหลเกิดขึ้นทุกจุดของราชวัง ทหารกรีดร้องและวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ยุน กยอม รู้ว่าราชวังคือหัวใจของประเทศชาติ เขาจำต้องรักษามันไว้ ในขณะเดียวกันนายพล ชิม อุน ได้เห็นความโกลาหลของบ้านเมือง เขาจึงได้อาศัยจังหวะนี้ในการพยายามที่จะโค่นราชบัลลังก์

“การปะทะที่พร้อมพลิกหน้าประวัติศาสตร์”
เมื่อ ยุน กยอม ได้เข้าไปในราชวังเพื่อปกป้ององค์จักพรรดิ เขาต้องปะทะกับนายพล ชิม อุน ที่ก่อกบฏและจับองค์จักรพรรดิเป็นตัวประกัน เขาอ้างว่าตนมีสิทธิอย่างชอบธรรมที่จะขึ้นครองบัลลังก์ แต่ทันใดนั้น อสูรกลาย ได้เข้าใกล้พวกเขาเข้าไปทุกที ยุน กยอม จะสามารถช่วยเหลือองค์จักพรรดิ ได้หรือไม่ แล้ว มยอง, ซัง ฮาน และ พลทหารฮอจะปกป้องประชาชนจากอสูรร้ายได้มากแค่ไหน

เกี่ยวกับภาพยนตร์
หลังความสำเร็จของภาพยนตร์ Train to Busan ได้เป็นจุดเริ่มต้นมิติใหม่ของภาพยนตร์เกาหลี จากภาพยนตร์โรแมนติก คอมเมดี้ หรือภาพยนตร์ย้อนยุคที่พูดถึงการแย่งชิงบัลลังก์ ได้กลายมาเป็นภาพยนตร์ที่เน้นงานคอมพิวเตอร์กราฟฟิกที่โดดเด่น ในปีที่ผ่านมา Along with the Gods ก็สามารถสร้างสถิติใหม่ของรายได้ภายในประเทศได้อย่างมากมาย ดังนั้นแล้วจึงเป็นงานที่หนักหน่วงของเหล่าโปรดิวเซอร์ทั้งหลาย จง แท วอน คือหนึ่งใน โปรดิวเซอร์ไฟแรงแห่งยุคนี้ เขาเพิ่งผ่านงาน ภาพยนตร์ที่ไปคว้าดาราฮอลลีวูดมาร่วมแสดงอย่าง เลียม นีสัน ในเรื่อง Operation Chromite ในปี 2016 และมองหาแนวทางใหม่ๆ ในการทำงาน จนกระทั่งเขาได้พบกับ โฮ จง ฮอ ผู้กำกับที่ผ่านงานอย่าง Countdown และ The Advocate: A Missing Body มาแล้ว

โฮ จง ฮอ เป็นนักอ่านที่ชอบค้นคว้าประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ชาติของเขาเอง “มันเป็นเรื่องที่เล่า
ยังไงก็ไม่มีวันหมด ว่าชาติของเราได้ล้มและกลับมาสู่ความรุ่งเรืองได้กี่ครั้งแล้ว และแต่ละครั้งสิ่งที่ทำให้ชาติเรากลับคืนมาอีกครั้งคือประชาชน” ฮอ ได้กล่าว เขามีไอเดียและได้ไปสะดุดกับคำๆ หนึ่งในพงศาวดาร “MUL GWE” ซึ่งเป็นคำสองคำที่ ‘MUL’ หมายถึง 'สิ่ง' และ 'gwe' หมายถึง ‘แปลก’ ซึ่งรวมกันแล้วหมายถึง “สิ่งแปลกประหลาด” ที่อธิบายอยู่ในพงศาวดาร มันไม่ได้ใส่รายละเอียดที่ชัดเจนว่าสิ่งนี้คืออะไรกันแน่ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้กับ ฮอ ว่าหรือที่จริงแล้วมันคือบางสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ แล้วผนวกเข้ากับจิตนาการของ ฮอ ว่าหรือที่แท้จริงแล้วมันคืออสูรปีศาจที่น่ากลัว ที่สามารถล้มล้างราชวงศ์และทำลายบ้านเมืองครั้งนี้ได้หรือไม่

จินตนาการของ ฮอ ไม่ได้เจาะจงว่ามันคือตัวอะไรกันแน่ในตอนแรก เขารู้แค่ว่ามันจะต้องน่าเกรงขาม มีร่างกายที่ดำทมิฬ และเป็นที่ขยะแขยงของคนทั่วไป ที่เมื่อได้เจอกับมันตัวต่อตัวแล้วจะต้องยืนแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว แต่สิ่งที่ทำให้ปีศาจเรื่องนี้แตกต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ก็คือ การที่หนังเรื่องนี้จะเป็นการเล่าเรื่องของสัตว์ประหลาดผสมผสานไปกับเรื่องจริงทางประวัติศาสตร์ มันเป็นเรื่องที่เกิดในยุคราชวงศ์โชซอน บ้านเมืองกำลังเกิดกลียุค มีเรื่องของการพยายามแย่งชิงอำนาจการปกครอง และมันจะยิ่งเพิ่มความตรึงเครียดมากแค่ไหนถ้าหากมันมีสัตว์ประหลาดที่พร้อมจะมาทำลายบ้านเมืองให้สิ้นซาก จงแทวอน มองเห็นถึงความเป็นไปได้และความแปลกใหม่ของภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาจึงไม่ลังเลที่จะร่วมงานในภาพยนตร์เรื่องนี้เลย “มันคือความแปลกใหม่ เราไม่เคยเจอหนังแฟนตาซี โดยเฉพาะการที่มีอสูรกายในเรื่อง แล้วไปอ้างอิงกับประวัติศาสตร์ มันจึงน่าดูเข้าไปใหญ่ แฟนหนังที่อยากดูหนังประวัติศาสตร์ก็ต้องหันมาดูว่ามันเป็นไปได้ด้วยเหรอ แฟนหนังไซไฟก็จะไม่บ่นถึงความน่าเบื่อของเรื่องราวที่พูดเรื่องประวัติศาสตร์ ผมมองว่ามันน่าสนใจมากเลยล่ะ” ฮอ ยังกล่าวอีกว่า “ผมชอบหนังเรื่อง The Host มันเป็นหนังไซไฟที่ผมรักมากที่สุดในหนังยุคนี้ ตอนนั้นที่เข้าฉาย มันล้ำมาก งานซีจีที่ดีมากๆ มันทำให้หนังเรื่องนั้นประสบความสำเร็จไปทั่วโลก แต่หนังเรื่องนั้นฉากหลังมันคือโลกในยุคปัจจุบัน ผมเลยคิดว่าถ้ามันเกิดในยุคอดีตล่ะ มันจะน่าสนใจมากแค่ ผมแค่คิดเล่นๆ ในตอนนั้น แต่สุดท้ายผมกลับได้มาทำมันจริงๆ มันเลยกลายเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ”

เมื่อภาพยนตร์ได้รับไฟเขียวจากสตูดิโอ สิ่งที่พวกเขาต้องการคือตัวละคร “พวกเขายอมลงทุนในงานของเราด้วยไอเดียแรก แต่การที่จะทำให้หนังดีได้นั้น เราต้องอาศัยบทภาพยนตร์ที่ดี การอ้างอิงประวัติศาสตร์อย่างเดียวมันไม่เพียงพอ มันจำเป็นที่จะต้องมีตัวละครที่โดดเด่นไม่แพ้กัน เราจึงคิดถึงทีมนักล่า”

เมื่อมันมีปีศาจ มันจำเป็นที่จะต้องมีนักล่า และการฟอร์มทีมนักล่านั้นจะต้องมีตัวละครแบบไหนบ้าง ในโลกของภาพยนตร์ แน่นอนเราต้องมีพระเอกที่เฉลียวฉลาด วางแผนได้เก่งกาจ ไหวพริบดี เป็นผู้นำได้ ในตอนแรกที่เขียนบทพวกเขาต้องการให้ จุง วู ซุง มารับหน้าที่เป็นนักแสดงนำ เพราะเขามีความเพียบพร้อมทั้งบุคลิก และหน้าตา แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องปฏิเสธไปเพราะคิวงานไม่ตรงกัน พวกเขาจึงหันไปหานักแสดง คิม มยอง มิน ที่กำลังโด่งดังสุดขีดจากภาพยนตร์เรื่อง Detective K ภาพยนตร์ว่าด้วยการสืบคดีต่างๆ และมันเป็นภาพยนตร์ย้อนยุคเช่นเดียวกับ Monstrum ทำให้ โฮ จง ฮอ จินตนาการ ถึงตัวละครที่เขาอยากให้เป็นได้ไม่ยากนัก แต่งานใหญ่คือการทำให้ คิม มยอง มิน ปรับตัวให้เข้ากับบทที่จริงจังมากกว่าเดิม

แต่ทีมจะสมบูรณ์ได้อย่างไรถ้าขาดตัวละครอื่น ตัวละครที่เป็นลูกสาวของยุน กยอม อย่าง "มยอง" จะต้องมีความปราดเปรียวว่องไว และสามารถชี้เป้ายิงธนูได้อย่างแม่นยำ เพราะเธอนั้นเติบโตมาท่ามกลางการใช้ชีวิตกลางป่าเขาที่ห่างไกล สิ่งที่เรียนรู้มาตั้งแต่เด็กคือการเป็นนักล่า การยิงธนูที่แม่นยำจึงเป็นความสามารถที่ยอดเยี่ยมของเธอ พวกเขาโชคดีมากที่ได้ อี ฮเยรี นักร้องวง เคป๊อบ จากเกาหลีที่โด่งดังอย่างวง Girl's Day เธอผ่านงานการแสดงละครมาแล้วหลายเรื่องและครั้งนี้จะเป็นการแสดงในภาพยนตร์ครั้งแรกของเธอ "เราโชคดีที่ได้เธอมารับบทในเรื่องนี้ ด้วยประสบการณ์การแสดงที่ไม่ได้เยอะมาก แต่เมื่อเธออยู่ต่อหน้ากล้องแล้วมันดูเป็นธรรมชาติมากๆ เราแทบจะไม่ต้องโค้ชอะไรเธอมากมายเลย" โฮ จง ฮอ กล่าว

และผู้ที่ขาดไม่ได้เลยคือนักสู้ที่แข็งแรงกำยำพร้อมที่จะปะทะกับศัตรูซึ่งหน้าได้ อย่างบท ซัง ฮาน มือขวา และเพื่อนที่จงรักภักดีต่อ ยุน กยอม "ในหนัง เราขาดตัวละครนี้ไม่ได้ เช่นเดียวกับชีวิตจริง เราต้องการให้มีคนประเภทนี้รวมอยู่ด้วย และในที่สุดพวกเขาจึงได้ทั้ง 3 คนนี้ลงตัวอยู่ในบทที่มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ยุน กยอม คือ อดีตผู้พิทักษ์ราชวงศ์ แต่วันหนึ่งเขาถูกทรยศจากหนึ่งในข้าราชการ จึงทำให้เขาจำเป็นต้องเลือกเส้นทางสันโดษและไปอยู่ในหุบเขาอันห่างไกล เขามีลูกสาวที่ชื่อว่า มยอง เธอถูกฝึกให้เป็นนายพรานมาตั้งแต่เด็ก เพราะอาชีพหลักของพวกเขาคือการล่าสัตว์ป่ามาเพื่อยังชีพ ซัง ฮาน คือมือขวาและเพื่อนที่ซื่อสัตย์ต่อ ยุน กยอม เขามักจะออกตัวลุยปะทะกับคนอื่นแทนยุน กยอม ทั้ง 3 อยู่กันอย่างสันโดษ จนกระทั่งวันหนึ่ง องค์จักพรรดิได้มีคำสั่งให้ยุน กยอม ต้องกลับเข้าสู่เมืองหลวงอีกครั้งเพราะข่าวลือถึงเรื่องสัตว์ประหลาดที่ออกมาฆ่าผู้คน เขาสั่งให้ ยุน กยอม สืบหาความจริงก่อนที่เรื่องทั้งหมดจะบานปลายจนเกินควบคุม ยุน กยอมลังเลที่จะเข้าเมืองในตอนแรกแต่ยังภักดีต่อองค์จักพรรดิอยู่จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามคำสั่งเพื่อสืบค้นเรื่องราวและเขาจะต้องผงะเมื่อต้องเจอกับความจริง

โดยปกติแล้ว เราจะได้เห็นภัยอันตรายจากหนังประวัติศาสตร์ในเรื่องการแก่งแย่งชิงอำนาจ ซึ่งเป็นความขัดแย้งภายในที่รุนแรงของบุคคลเสียมากกว่า แต่กับภาพยนตร์เรื่องนี้ มันยังได้สร้างความตึงเครียดจากภัยอันตรายจากภายนอกวังด้วยอสูรร้าย เมื่อความขัดแย้งทั้งสองต่างรวมกัน ภัยอันตรายที่ไม่คาดคิดได้เพิ่มขึ้นทวีคูณ ยุน กยอม จำเป็นที่จะต้องล่า ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องปกป้องราชบัลลังก์ไปพร้อมกัน นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีก

เมื่อพูดถึงงานด้านคอมพิวเตอร์กราฟฟิก จงแทวอน กล่าวว่า “ด้วยความที่เราต้องการความสมจริง และความยิ่งใหญ่อลังการ เราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาทีมงานชั้นนำของโลกภาพยนตร์ เราเฟ้นหามาหลายที่แต่สุดท้ายเรากลับประทับใจการร่างโครงอสูรที่บริษัท MOFAC มาก เราให้พวกเขาทำในสิ่งที่ถนัดก่อน เราให้เขาดราฟท์ตัวละครอสูรร้าย เป็นภาพสเก๊ตช์ โดยคำบอกเล่าของ ฮอ ว่ามันจะต้องเป็นแบบไหน” ฮอ เพียงแค่พูดว่ามันเป็นสัตว์โบราณ น่ากลัว ดำทมิฬ ไม่ว่าใครก็ตามที่เผชิญหน้ากับมันจะต้องขนลุกขนพอง เพียงเท่านั้น MOFAC ก็สร้างตัวสเก๊ตช์ นั้นจนเสร็จสมบูรณ์ ทั้งจงแทวอน และ ฮอ ชอบมันมาก พวกเขาจึงตกลงที่เชื่อใจบริษัทนี้ในการทำงานภาพยนตร์เรื่องนี้

เกี่ยวกับทีมสร้างสเปเชี่ยลเอฟเฟกซ์
MOFAC - บริษัทที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล บริหารโดยผู้เชี่ยวชาญกว่า 200 คน ทุ่มเทให้กับงานด้านนวัตกรรมศิลปะ MOFAC เป็นผู้สร้างงาน สเปเชี่ยลเอฟเฟกซ์ คอมพิวเตอร์กราฟฟิก ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 และได้ก้าวเป็น 1 ใน 5 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชีย จนกระทั่งได้ขยายสาขาไปอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ในสหรัฐฯ ปัจจุบันมีผลงานทั้งในภาพยนตร์เกาหลี จีน และ ภาพยนตร์ฮอลลีวูด หลายเรื่อง ผลงานที่โดดเด่นจากประเทศเกาหลีคือภาพยนตร์เรื่อง Roaring Current, Sector 7 และที่โด่งดังและได้รับรางวัลสาขาสเปเชี่ยลเอฟเฟกซ์มากที่สุดจากภาพยนตร์เรื่อง Haeundae

นอกจากนั้นยังรับงานของฝั่งจีนและฮ่องกงอย่าง Detective Dee: Rise of the Sea Dragon, The Monkey King 2, The Taking of Tiger Mountain, The Crossing และผลงานภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Last Knights

เกี่ยวกับนักแสดง
คิม มย็อง มิน รับบท ยุน กยอม
นายทหารผู้จงรักภักดีขององค์จักรพรรดิจุน จง หนึ่งในนักรบที่ดีที่สุดของราชวงศ์โชซอนเท่าที่เคยมีมา ก่อนหน้านี้เขาคือองครักษ์ประจำราชวงศ์ แต่กลับรู้สึกผิดหวังเมื่อทราบว่าองค์จักพรรดิถูกใช้เป็นเครื่องมือเพียงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง เขาจากราชวังและไปอาศัยอยู่บนหุบเขาพร้อมกับลูกสาว นามว่า มยอง และมือขวาของเขาชื่อ ซัง ฮาน เพื่อไปใช้ชีวิตเงียบสงบด้วยการเป็นนายพราน แต่แล้วสิบปีให้หลัง เมื่อเกิดข่าวลือเกี่ยวกับอสูรร้ายที่มาทำให้ประชาชนหวาดผวา องค์จักพรรดิ จุน จง จึงได้ขอความช่วยเหลือจาก ยุน กยอม เพื่อยุติเหตุการณ์ที่ไม่สงบครั้งนี้ ยุน กยอม จึงตัดสินใจกลับไปที่เมืองหลวงเพื่อค้นหาความจริงของสัตว์ประหลาดลึกลับตัวนั้น และนั่นเป็นเสมือนบททดสอบความภักดีของเขาต่อการปกป้องราชบัลลังก์ จุน จง เพื่อไม่ให้ถูกโค่นล้ม
ผลงานที่ผ่านมา
ปี 2018 DETECTIVE K: SECRET OF THE LIVING DEAD (Dir. KIM Sok-yun)
ปี 2017 V.I.P. (Dir. PARK Hoon-jung)
ปี 2017 A DAY (Dir. CHO Sun-ho)
ปี 2012 DERANGED (Dir. PARK Jung-woo)

อี ฮเยรี รับบท มยอง
บุตรสาวของ ยุน กยอม ผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ รวมทั้งมีความชำนาญทั้งด้านการยิงธนูและการใช้ดาบ นอกจากนี้เธอยังเรียนรู้ด้านการแพทย์ด้วยตัวเองจนเชี่ยวชาญ ถูกเลี้ยงและเติบโตในเทือกเขาที่ห่างไกล มยอง กระตือรือร้นที่จะสำรวจโลกและตื่นเต้นจนออกหน้าเมื่อมีข่าวการปรากฏตัวของสัตว์ประหลาด ซึ่งจะเป็นการนำพ่อของเธอกลับไปสู่เมืองหลวงอีกครั้ง เธอยังร่วมการสืบค้นหาความจริงเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดร่วมกับพ่ออีกด้วย
ผลงานที่ผ่านมา
ปี 2018 TWO COPS (TV) (Dir. OH Hyun-jong)
ปี 2016REPLY 1988 (TV) (Dir. SHIN Won-ho)

ชเว อู ชิก รับบท เจ้าหน้าที่ฮอ
เจ้าหน้าที่ราชสำนักและเป็นผู้ส่งสารของกษัตริย์ ยุน กยอม ฮอทำให้ ยุน กยอม นึกถึงตัวเขาเองในอดีต นายทหารหนุ่มผู้แข็งแกร่งและทุ่มเทให้กับความยุติธรรม ฮอเป็นนักรบที่เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้และเป็นหนึ่งในนักต่อสู้ที่ ยุน กยอม ให้ความเชื่อใจที่สุด ถึงแม้จะมีความกล้าหาญในการต่อสู้ แต่เขาก็ไม่กล้าหาญพอที่จะแสดงออกถึงความรักที่มีต่อ มยอง คนที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น แต่อย่างไรก็ตาม เขากำลังจะเข้าสู่ช่วงเวลาที่สำคัญเพื่อที่จะปกป้อง ยุน กยอม และมยอง ให้พ้นจากอันตราย
ผลงานที่ผ่านมา
ปี 2017 OKJA (Dir. BONG Joon-ho)
ปี 2016 TRAIN TO BUSAN (Dir. YEON Sang-ho)













กำลังโหลดความคิดเห็น