เรื่องย่อ “ประกาศิตกามเทพ”
บทประพันธ์ : รจเรข
บทโทรทัศน์ : กฤติญา สัมฤทธิ์ประสงค์
กำกับการแสดง : อนุวัฒน์ ถนอมรอด
ผลิต : บ. ดี วัน ทีวี จำกัด
ผู้จัด : พรสุดา ต่ายเนาว์คง
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.20-22.50 น. ทางช่อง 3,ช่อง 33 และรับชมผ่านทาง Application 3 Live
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรกวันอังคารที่ 25 กันยายน 2561
#ประกาศิตกามเทพ #ดีวันทีวี #Ch3Thailand #lakornonlinefan #ลมหายใจคือละคร
เรื่องย่อ
เหม บุญญาฉัตรพงษ์ (ตู่-นพพล โกมารชุน) อัครมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจผลิตรองเท้าบริษัท เหมทอง จำกัด ภายใต้แบรนด์ดัง "มนตรา" มีทายาทเพียงคนเดียวคือ เหมวัต(เอฟ-ธัญนพ ตระกูลโชคดี) จึงหวังจะมอบกิจการทุกอย่างให้สืบทอด แต่เหมวัตกลับไปรักใคร่ชอบพอกับอุษา(จุ๊กกู้-สลิตา กลิ่นจันทร์) ที่เป็นเพียงลูกกำพร้าที่ยากจน คุณเหมกีดกันทุกวิถีทางจนเหมวัตต้องพาอุษาหนีหายไป คุณเหมโกรธมากถึงขั้นตัดขาดเหมวัตจากตระกูลบุญญาฉัตรพงษ์ โดยไม่คิดตามหา และคิดจะยกมรดกพร้อมกิจการทั้งหมดให้แก่ลูกบุญธรรมที่ขอมาเลี้ยงก่อนเหมวัตเกิด 3 คน นั่นคือ...
ประกิต(เพชร-กรุณพล เทียนสุวรรณ) หรือ เสี่ยหนึ่ง ต่อมาแต่งงานกับผกา(ตุ๊ก-ชนกวนันท์ รักชีพ) มีลูกสาว 1 คน ชื่อ ผาณิตา หรือน้ำตาล (น้ำตาล-พิจักขณา วงศารัตนศิลป์)
ปราการ(แมน-ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์) หรือ เสี่ยสอง ต่อมาแต่งงานกับอรทัย(เสียชีวิต)
มีลูกสาว 1 คน ชื่อ ลาวัลย์ (แก๊ป-ชนกสุดา รักษนาเวศ)
ทัศนัย(เอ็ม-อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล) หรือ เสี่ยสาม ต่อมาแต่งงานกับสมร(เปิ้ล-ชไมพร สิทธิวรนันท์) มีลูกชาย 1 คน ชื่อ ทศนาถ (ณัฐ-ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง)
ทั้งสามครอบครัวต่างแก่งแย่งแข่งขันเพื่อช่วงชิงทรัพย์สมบัติของเหม แต่เหมก็เขี้ยวลากดินพอที่จะไม่ยกมรดกให้กับลูกบุญธรรมง่ายๆ ส่วน มนตรา(คาร่า พลสิทธิ์) ภรรยาของเหมก็มีอาการเลอะเลือนหลงๆลืมๆเพราะเสียใจที่เหมวัตหนีหายไป
เหมวัตกับอุษาใช้ชีวิตด้วยกันอย่างยากลำบากในชุมชนแออัด ในวันที่อุษาคลอดลูก เหมวัตรู้ข่าวด้วยความดีใจรีบขี่มอเตอร์ไซด์กลับบ้าน แต่โชคร้ายเกิดอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตก่อนจะได้พบหน้าลูกชาย ส่วนอุษาเลือดออกมากจนช็อกและเสียชีวิต ทิ้งลูกน้อยไว้กับ ชาญ(เมฆ-วินัย ไกรบุตร) หนุ่มพิการข้างบ้านที่นับถือกันเหมือนพี่น้อง ชาญตั้งชื่อเด็กน้อยคนนี้ว่า "เหมันต์" (เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์)
ชาญเคยมีชีวิตที่รุ่งโรจน์เป็นนักมวยอาชีพที่ผ่านสังเวียนชนะมาแล้วเกือบทุกเวที แต่โชคชะตาพลิกผันเพราะโดนคนเมาชนแล้วหนีจนพิการนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต แต่ชาญก็เป็นนักสู้ที่ไม่ยอมจำนนกับอุปสรรค เขาฝึกซ่อมรองเท้ากับช่างฝีมือดีจนสามารถนำมาประกอบอาชีพหาเลี้ยงชีวิตได้ แถมยังเป็นคนมีน้ำใจเผื่อแผ่ไปถึงคนในชุมชนสลัมจนเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนบ้าน ความดีมีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่นของชาญกลายเป็นต้นแบบที่ดีงามให้กับเหมันต์ ลูกชายต่างสายเลือดที่ชาญรักสุดหัวใจ !!
เหมันต์เป็นเด็กที่ขยันขันแข็ง เอาเวลาหลังเลิกเรียนไปรับจ้างทำงานสารพัด ทำให้เขาได้รับความรู้มากมายจากวิชาชีพเหล่านั้นตั้งแต่ยังเยาว์วัย เหมันต์อยากเรียนให้จบมหาวิทยาลัยเพื่อออกมาเป็นนักกิจกรรมบำบัด แต่ความฝันนั้นต้องสะดุดลงเมื่อชาญรับเด็กทารกที่ถูกแม่ใจร้ายทิ้งไว้หน้าบ้านมาอุปการะ เหมันต์เกิดความสงสารจึงเต็มใจเลี้ยงเด็กคนนี้เสมือนน้องชายร่วมสายโลหิต และช่วยพ่อตั้งชื่อว่า "หริทธ์" (อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์)
เหมันต์เรียนจบม.ปลาย ก็เสียสละไม่เรียนต่อ ออกไปเป็นวินมอเตอร์ไซด์ ต่อมาถูกชักชวนให้ไปทำงานที่บริษัทรับจ้างส่งของทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล หลังเลิกงานเหมันต์ก็ยังไปรับจ๊อบอีกหลายอย่างทั้งรับจ้างเก็บเงินค่าจอดรถที่ตลาดนัด , เป็นเด็กเสิร์ฟในคาราโอเกะ , ล้างเล้าหมู และอีกมากมาย เหมันต์ไม่เคยเกี่ยงงาน ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้พ่อได้กินอิ่มนอนหลับ และน้องชายได้เรียนจบปริญญาตรี แต่หริทธ์กลับเป็นเด็กไม่รักเรียน ชอบต่อยตี และหาเรื่องมาให้เหมันต์ปวดหัวอยู่บ่อยๆ
วันหนึ่ง เหมันต์ไปช่วยพ่อซ่อมรองเท้าและได้พบกับผาณิตา หรือน้ำตาล หญิงสาวที่จะนำพาให้เขาได้ไปพบกับครอบครัวที่แท้จริง น้ำตาล(ลูกเสี่ยหนึ่ง)หกล้มส้นรองเท้าพลิก เหมันต์จึงซ่อมให้ด้วยวิธีเย็บมือ และด้วยเทคนิคการเย็บรองเท้าที่หาคนทำได้น้อยมากนี้เอง ทำให้เหมต้องการตัวเหมันต์มาทำงานให้บริษัทเหมทอง แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงคือ อยากให้เหมันต์ซ่อมรองเท้าคู่หนึ่งที่เหมเก็บไว้เสมือนเป็นตัวแทนของลูกชายที่หายสาบสูญไป เหมจึงให้น้ำตาลไปชักชวนเหมันต์มาทำงาน แต่เพราะทศนาถไปก่อเรื่องทำร้ายชาญและหริทธ์ ทำให้สองครอบครัวเกิดความบางหมางอย่างรุนแรง
เหมันต์ต้องเจอกับอุปสรรคครั้งใหญ่ เมื่อชาญป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง ต้องรอคิวบริจาคไต หนำซ้ำหริทธ์ยังก่อเรื่องไปช่วยลาวัลย์จากแก๊งขนของหนีภาษี เป็นเหตุให้สินค้าที่ลักลอบมาโดนตำรวจยึดไปหมด
มิตร(เอ-พศิน เรื่องวุฒิ)หัวหน้าแก๊ง โกรธแค้นหริทธ์เลยไล่ล่าหริทธ์ถึงบ้าน และขู่จะเอาชีวิตถ้าหริทธ์ไม่ชดใช้เงิน เหมันต์ยอมเซ็นชื่อเป็นลูกหนี้และรับปากจะหาเงินมาคืนให้ ถ้าเหมันต์เบี้ยว หริทธ์จะกลายเป็นศพทันที เมื่อหัวหน้าแก๊งไปแล้ว เหมันต์เจอลาวัลย์หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน ลาวัลย์ได้เห็นความเสียสละของเหมันต์จึงหลงรักเหมันต์จับใจ ขณะที่หริทธ์ก็แอบชอบลาวัลย์เช่นกัน
น้ำตาลเมื่อรู้ว่าเหมันต์ติดหนี้นักเลง จึงยื่นข้อเสนอใช้หนี้ให้ แต่เหมันต์ปฏิเสธเพราะไม่ชอบน้ำตาลและครอบครัวที่ชอบทำตัวเหนือกฎหมายและใช้เงินฟาดหัวคนอื่น น้ำตาลเหม็นขี้หน้าความเป็นคนโลกสวยของเหมันต์จึงเลิกง้อ โชคชะตาทำให้เหมันต์ได้พบกับน้ำตาลอีกหลายครั้ง ยิ่งพบก็ยิ่งทำให้น้ำตาลได้สัมผัสกับความเป็นคนดีมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคนอื่นของเหมันต์ ซึ่งตรงกันข้ามกับทศนาถที่น้ำตาลแอบหลงรักอยู่ ส่วนเหมันต์ก็เริ่มมองเห็นว่า ท่าทางที่เย็นชาและนิสัยแล้งน้ำใจของน้ำตาลเป็นเพียงภาพมายาที่ฉาบไว้ แท้จริงน้ำตาลก็เป็นคนจิตใจดี แต่ถูกอบรมมาอย่างผิดๆ เหมันต์จึงสงสารอยากช่วยเหลือน้ำตาล
ในงานเลี้ยงอายุครบหกรอบของคุณเหม น้ำตาลได้ขอให้เหมันต์มาช่วยงานฝ่ายจัดสถานที่ซึ่งเหมันต์ทำได้ดีมาก ที่นี่เหมันต์ได้พบกับคุณเหมเป็นครั้งแรก คุณเหมรู้สึกถูกชะตาเหมันต์ในทันที แต่ยังไม่ทันได้ทำความรู้จักกันดีนัก ก็เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน นั่นคือ หริทธ์ได้มาร่วมงานกับแก๊งเพื่อนของลาวัลย์ เหมันต์ไม่รู้ว่าหริทธ์ปกปิดฐานะจึงทักทายหริทธ์ ทำให้เพื่อนไฮโซของลาวัลย์ดูถูกหริทธ์จนอับอายออกจากงานไป เหมันต์ต้องรีบตามไปปลอบน้องชาย
คุณเหมสนใจประวัติของเหมันต์มาก ขอให้น้ำตาลตามเหมันต์มาพบ แต่ชาญเกิดป่วยหนัก เหมันต์จึงพลาดนัด จนกระทั่งคุณเหมรอไม่ไหวขอให้น้ำตาลพาไปหาเหมันต์ที่บ้าน และได้เห็นรูปของแม่เหมันต์ คุณเหมจำได้ว่าเป็นเมียจนๆของเหมวัตถึงกับช็อก คุณเหมรีบกลับทันทีโดยอ้างกับน้ำตาลว่าไม่สบายกะทันหัน หลังจากนั้นคุณเหมก็หาทางคุยกับชาญ ตอนแรกชาญยืนยันว่าเหมันต์เป็นลูกตน แต่เมื่อรู้ตัวว่าโรคไตที่เป็นอยู่ ทำให้มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก จึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวในอดีตให้เหมฟัง และมอบกำไลข้อเท้าของเหมวัตคืนให้กับเหม เหมเห็นกำไลซึ่งตนเคยซื้อให้เหมวัตตอนเป็นเด็ก จึงเชื่อว่าเหมันต์คือลูกชายของเหมวัตจริงๆ
ขณะเดียวกัน เสี่ยสองกับเสี่ยสามก็มีปากเสียงกันรุนแรงเรื่องผลประโยชน์ในบริษัท ส่วนเสี่ยหนึ่งก็ถูกภรรยาครอบงำทุกอย่างจนเบื่อหน่าย แอบไปมีเมียน้อย น้ำตาลต้องช่วยปกปิดเพื่อไม่ให้ผกาและเหมรู้ ปัญหาความแตกแยกในครอบครัวทำให้คุณเหมตัดสินใจจะรับเอาเหมันต์กลับเข้ามาในตระกูลบุญญาฉัตรพงษ์ แต่เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยของเหมันต์ คุณเหมจึงขอให้กมล(อ๋อง-พัฒนะ พันธุ์เทวะ)เก็บเรื่องชาติกำเนิดของเหมันต์เป็นความลับ ที่สำคัญคุณเหมต้องการจะทดสอบเหมันต์ว่าเป็นคนดี คู่ควรกับการเป็นทายาทของบุญญาฉัตรพงษ์หรือไม่
แผนการทดสอบเริ่มขึ้น โดยมีน้ำตาลเป็นผู้ดำเนินการร่วมกับทนายกมล โดยสร้างสถานการณ์คับขันต่างๆเพื่อให้เหมันต์แก้ปัญหา ขณะเดียวกันคุณเหมก็พยายามเสนอความช่วยเหลือมากมายให้เหมันต์ ซึ่งเหมันต์ก็ไม่ยอมรับข้อเสนอง่ายๆ จนในที่สุด หริทธ์เกิดอยากเข้าไปฝึกงานในบริษัทของคุณเหม เหมันต์จึงต้องยอมเข้าไปทำงานกับคุณเหม เพื่อตามไปดูแลหริทธ์ และที่สำคัญได้ใกล้ชิดกับน้ำตาล ผู้หญิงที่เขารู้สึกห่วงใยโดยไม่รู้ตัวว่าได้รักน้ำตาลไปแล้วอย่างเต็มเปา
เหมไม่อยากให้เหมันต์เกี่ยวข้องกับชาญอีก เพราะอยากล้างอดีตที่ต่ำต้อยของเหมันต์ เหมจึงแอบไปพบชาญและมอบเงินก้อนโตให้แลกกับการให้ชาญไปเสียจากเหมันต์ ชาญไล่เหมออกจากบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่โรคไตของชาญกำเริบหนักขึ้น ชาญไม่อยากเป็นตัวถ่วงของลูก จึงหนีหายไป และทิ้งจดหมายไว้ว่า วันที่เหมันต์ทำงานประสบความสำเร็จ พ่อจะกลับมา
เหมันต์จึงทำงานในบริษัทของปู่อย่างแข็งขัน เพื่อรอวันที่จะได้พบกับพ่อ ขณะที่หริทธ์ก็ประจบหัวหน้าแผนกไปทั่ว โดยเฉพาะกับคุณเหมที่หริทธ์หาทางเข้าใกล้ทุกครั้งที่มีโอกาส ซึ่งคุณเหมก็ทำเป็นเมตตาเอ็นดู ทำให้หริทธ์เข้าใจผิดคิดว่า คุณเหมชื่นชมตนแต่จริงๆ แล้วคุณเหมต้องการหลอกถามถึงเหมันต์ ที่นับวันคุณเหมจะรู้สึกรักและผูกพันกับหลานชายมากขึ้นทุกที จนในที่สุด คุณเหมขอให้เหมันต์มาเป็นเลขาส่วนตัว โดยให้เข้าพักในคฤหาสน์บุญญาฉัตรพงษ์ หริทธ์อิจฉาพี่ชายมาก อยากเข้าไปอยู่ด้วยแต่ก็ไม่ได้รับอนุญาต
เหมันต์ได้พบกับมนตราผู้เป็นย่าที่มีอาการเลอะเลือน มนตราทักเหมันต์ว่าเป็นเหมวัตลูกชาย ซึ่งคุณเหมก็ขอให้เหมันต์ช่วยเออออไป เพื่อความสุขของมนตราที่เฝ้าคิดถึงลูกชายตั้งแต่จากกันไป เหมพยายามสอนเทคนิคทำธุรกิจแบบมีเล่ห์เหลี่ยม เอาชนะคู่แข่งด้วยวิธีสกปรก แต่เหมันต์กลับไม่เห็นด้วยยังคงยึดมั่นทำธุรกิจแบบมีคุณธรรม ไม่ยอมทำผิดเพื่อผลประโยชน์ ทำให้เหมขัดใจ แต่เหมก็ค่อยๆซึมซับความดีของหลานชายอย่างไม่รู้ตัว
ความผูกพันของคุณเหมกับเหมันต์ทำให้ เสี่ยสองรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก และยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่า เหมประกาศให้น้ำตาลหมั้นกับทศนาถ เพราะเสี่ยสองต้องการให้ลาวัลย์ลูกสาวลงเอยกับทศนาถมากกว่า เสี่ยสองจึงคิดแผนการที่จะทำให้น้ำตาลเสื่อมเสียโดยการล่อลวงไป แล้วจัดฉากว่าน้ำตาลตกเป็นเมียของผู้ร้ายแล้ว (เสี่ยสองไม่ได้ต้องการให้ข่มขืนจริง) เมื่อแผนการเริ่มขึ้น....
เสี่ยสองให้สมุนโทรไปขู่น้ำตาลว่าจะทำร้ายคุณเหม และขอให้น้ำตาลไปเจรจาที่ที่นัดหมายโดยห้ามแจ้งความ แต่เหมันต์รู้เรื่องเข้า จึงขอตามไปคุ้มกันน้ำตาล สมุนเห็นว่าผิดแผนจึงทำร้ายเหมันต์จนสลบก่อนจะหนีไป
เสี่ยสองรีบพาทศนาถตามไปตามแผน และก็ได้พบว่าน้ำตาลกำลังกอดอยู่กับเหมันต์ ทศนาถ
เสียหน้าและโกรธมาก ส่วนเสี่ยหนึ่งกับคุณผกาก็ต้องการแจ้งความเหมันต์ข้อหาล่อลวง แต่คุณเหมกลับปกป้องเหมันต์ และเอาตัวเองเข้ารับรองว่าเหมันต์ไม่มีวันทำเรื่องเช่นนี้ ซึ่งยิ่งทำให้เสี่ยทั้งสามโกรธมาก เหมันต์ขอไปจากบ้านบุญญาฉัตรพงษ์ ระหว่างโต้เถียงกันมนตราเข้ามาร้องไห้ ไม่ยอมให้เหมันต์ไป คุณเหมจึงได้ทีอ้างความจำเป็นที่จะให้เหมันต์ได้อยู่ในบ้านต่อไป
แม่ที่แท้จริงของหริทธ์ ปรากฏตัวขึ้นต้องการมาทวงลูกคืน ทำให้หริทธ์รู้ความจริงว่าตนไม่ใช่ลูกชาญ ไม่ใช่น้องชายของเหมันต์ หริทธ์เสียใจหนักโกรธเกลียดทุกคนบนโลก เสี่ยสองต้องการหลอกใช้หริทธ์จึงทำเป็นห่วงใยคอยช่วยเหลือหริทธ์ ทำให้หริทธ์หลงเชื่อ จนถูกเสี่ยสองหลอกใช้ให้คุมขนส่งยาเสพติดที่ซ่อนปะปนไปกับสินค้า หริทธ์ถูกจับ เหมช่วยประกันตัวออกมา เหมันต์เดาออกว่าเป็นฝีมือคุณเหม จึงขอปฎิเสธความช่วยเหลือ แต่คุณเหมให้เหมันต์เซ็นเป็นลูกหนี้โดยให้ทำงานชดใช้แทน และมอบตำแหน่งระดับหัวหน้าให้กับเหมันต์ ทำให้เสี่ยสองกับเสี่ยสามยิ่งเกลียดเหมันต์ และคิดหาทางกำจัดเหมันต์ไปจากตระกูลบุญญาฉัตรพงษ์ โดยเฉพาะเสี่ยสองที่จ้างคนมาดักทำร้ายเหมันต์ แต่เหมันต์ก็หลุดรอดไปได้ทุกครั้งจากความช่วยเหลือของมิตรหัวหน้าแก๊งนักเลง
เหมันต์พยายามดึงน้องออกห่างจากเสี่ยสอง แต่หริทธ์เข้าใจผิดคิดว่าเหมันต์แย่งลาวัลย์ไป หริทธ์แค้นใจขอนัดพบเสี่ยสองเพื่อขอแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องชาติกำเนิดของเหมันต์กับเงินก้อนใหญ่ เสี่ยสองไม่เชื่อขอให้หริทธ์หาหลักฐานมา ขณะเดียวกันก็ค้นหาหลักฐานในบ้านบุญญาฉัตรพงษ์ไปด้วย จนเสี่ยสองแน่ใจว่า เหมันต์คือหลานชายของคุณเหม
เสี่ยสองคิดใช้ไม้ตายจัดการกับเหมันต์ โดยใช้น้ำตาลเป็นเครื่องมือ เพราะรู้ว่าเหมันต์หลงรักน้ำตาล เริ่มจากการที่เสี่ยสองเกลี้ยกล่อมผกาแม่ของน้ำตาลให้ร่วมมือด้วย ผกากลัวมรดกจะตกไปที่เหมันต์หมดจึงตกลง หารู้ไม่ว่า แท้จริงเสี่ยสองต้องการจะกำจัดทั้งคู่ แถมทศนาถอีกหนึ่ง เพื่อจะให้ลาวัลย์กลายเป็นทายาทเพียงคนเดียว
แผนการคือสร้างฉากให้เหมือนกับเป็นเรื่องฆ่ากันเพราะการหึงหวง โดยมีหริทธ์เป็นตัวช่วยด้วย แต่ก่อนหน้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง หริทธ์ก็ถูกคุณเหมเรียกไปพบ เพื่อทำเรื่องรับหริทธ์เป็นบุตรบุญธรรม โดยบอกหริทธ์ว่า เหมันต์เคยขอไว้ว่า ถ้าคุณเหมจะให้อะไรกับเหมันต์ ขอให้มอบให้หริทธ์เท่ากัน และไม่นานนี้ เหมันต์จะได้รับสิทธิ์บางอย่างจากคุณเหม หริทธ์รู้ทันทีว่าคุณเหมกำลังจะเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของเหมันต์ หริทธ์เกิดความละอายใจขึ้นมาทันที และรีบตามไปช่วยพี่ชาย หริทธ์เกือบโดนยิงตายแต่เหมันต์เอาชีวิตตัวเองเข้า ทศนาถบาดเจ็บสาหัส เหมันต์และน้ำตาลหายตัวไป ทำให้พวกเสี่ยสองคิดว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว
เหมันต์ที่หนีไปกับน้ำตาล มาเจอกับชาญที่นอนป่วยอาการหนักอยู่ในรพ. เหมันต์เสียใจมาก
ที่รู้ความจริงจาก อู๋(สมจิตร จงจอหอ)พ่อของเอม(เบสท์-ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์) ว่าชาญหนีไปเพื่ออนาคตของเหมันต์ ความลับเรื่องเหมันต์เป็นหลานของเหม จึงถูกเปิดเผย เหมันต์เฝ้าดูแลชาญ สองพ่อลูกอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขในเวลาสั้นๆที่เหลืออยู่ก่อนชาญจะตายจากไป
ขณะที่คุณเหมไม่ปักใจเชื่อว่า เหมันต์กับน้ำตาลตายแล้ว และสงสัยว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของเสี่ยสองจึงแกล้งประกาศจะยกทรัพย์สมบัติให้สาธารณะกุศล เสี่ยสองโกรธมาก จับเอาตัวคุณเหมไป ข่มขู่ให้ทำพินัยกรรมยกสมบัติให้ตนและลาวัลย์ โดยหารู้ไม่ว่า หริทธ์ที่ยังแฝงตัวอยู่กับเสี่ยสองแอบติดต่อกับเหมันต์และน้ำตาลอยู่อย่างลับๆ และก่อนที่เสี่ยสองจะฆ่าคุณเหม เหมันต์จึงพานักมวยในค่ายของอู๋พร้อมกับมิตรหัวหน้าแก๊งนักเลง เข้ามาช่วยคุณเหมได้ทัน
เสี่ยสองถูกจับดำเนินคดี ขณะที่พฤติกรรมการฉ้อโกงของเสี่ยสามก็เปิดเผย คุณเหมขอให้เหมันต์เป็นผู้ตัดสินว่า ควรจะแจ้งความหรือลงโทษบรรดาลูกบุญธรรมยังไง เหมันต์ขอให้คุณเหมให้โอกาสเสี่ยทั้งสองแก้ตัว เหมก็สำนึกผิดที่ตัวเองหลอกใช้พวกเสี่ยให้ห่ำหั่นกันเองเพื่อมรดก จึงลดตำแหน่งพวกเสี่ยลงและทำงานหนักเป็นสองเท่า เพื่อให้บริษัทได้กำไรคืนมาชดเชยกับที่ยักยอกไป ทำให้เสี่ยทั้งสองซาบซึ้งใจและยอมรับในตัวเหมันต์ อย่างไรก็ตาม ระหว่างการลงโทษ คุณเหมก็ขอให้ทั้งสองครอบครัว ย้ายออกไปอยู่ข้างนอก โดยให้ทรัพย์สินติดตัวไปน้อยนิด เพื่อเป็นการดัดนิสัย
หริทธ์กลับมาเป็นน้องชายที่ดีของเหมันต์ และยอมเรียนต่อ ส่วนลาวัลย์ก็ตัดใจจากเหมันต์
ได้ย้ายมาอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับหริทธ์ หริทธ์เริ่มตามจีบลาวัลย์อีกครั้ง แต่คราวนี้ลาวัลย์เปิดใจให้หริทธ์เข้ามานั่งในหัวใจ แทนที่เหมันต์
เหมันต์ตามช่วยเหลือน้ำตาล แต่น้ำตาลก็ไม่ยอมรับเนื่องจากละอายใจที่แม่มีส่วนทำ ร้ายเหมันต์และครอบครัว แต่เหมันต์ก็เข้าใจผิดว่าน้ำตาลยังรักทศนาถอยู่ ร้อนถึงคุณเหมที่ต้องออกโรงแกล้งปล่อยข่าวว่า ทะเลาะกับเหมันต์อย่างรุนแรงจนตัดขาดกันด้วยเรื่องที่เหมันต์ไปชอบพอกับหญิงสาวที่คุณเหมไม่ชอบหน้า เมื่อน้ำตาลรู้ข่าวก็ร้อนใจมาก รีบไปเจรจาขอร้องคุณเหมให้ยกโทษให้เหมันต์ คุณเหมเลยยื่นคำขาดว่า จะยอมยกโทษให้ก็ต่อเมื่อเหมันต์เลือกหลานสะใภ้ที่คุณเหมยอมรับเท่านั้น น้ำตาลกลุ้มใจมาก ออกติดตามหาเหมันต์จนพบด้วยความเข้าใจว่าเหมันต์คงไปใช้ชีวิตอยู่กับเอมหญิงสาวข้างบ้านที่หลงรักเหมันต์อยู่ แต่กลับพบว่าเหมันต์รอน้ำตาลอยู่ที่บ้านพักชายทะเลเพียงคนเดียว เพื่อจะบอกหญิงสาวว่า น้ำตาลคือผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่ในหัวใจของเขา เพราะนับตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกันเขาก็ถูกกามเทพประกาศิตให้รักแต่เพียงน้ำตาลเท่านั้น
ในที่สุดอุปสรรคความรักของทั้งคู่ก็จบลง เหมันต์ได้กลับบ้านบุญญาฉัตรพงษ์ในฐานะทายาทตัวจริงอย่างสง่างามและจับมือกับน้ำตาลบริหารบริษัทเหมทองด้วยนโยบาลใหม่ "คุณธรรมนำธุรกิจ" ส่วนเหมก็วางมือจากตำแหน่งและก่อตั้งมูลนิธิชาญช่วยเพื่อน เพื่อช่วยเหลือคนพิการ เป็นการระลึกถึงชาญที่ล่วงลับไป
คาแร็กเตอร์นักแสดง
เหมันต์: พงศกร เมตตาริกานนท์ (เต้ย)
เหมันต์ยอมทำงานหนักสารพัดเพื่อเลี้ยงน้องและดูแลพ่อที่พิการ แม้จะรู้ว่าเป็นแค่น้องคนละสายเลือด และไม่ใช่พ่อที่แท้จริง เป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนที่ตัวเองจะได้รับ เหมันต์มีความเชื่อว่า "การให้ ทำให้ได้ความรัก" ไม่ว่าใครจะร้ายกับเขามากแค่ไหน เหมันต์ก็ใช้การให้เอาชนะ จนคนเหล่านั้นกลับตัวเป็นคนดี มีปมในชีวิตคือพ่อแม่ตายไปในวันที่เขาเกิด และไม่เคยรู้ประวัติของพ่อแม่ตัวเองเลย แต่เขาก็ไม่เคยเอาปมนี้มาสร้างปัญหาให้กับตนเอง มุ่งทำงานเพื่อตอบแทนพระคุณของพ่อต่างสายเลือด
ผาณิตา (น้ำตาล) : พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ (น้ำตาล)
น้ำตาลเป็นลูกของเสี่ยหนึ่งกับผกา ฉลาด เรียนเก่ง เป็นคนคล่องแคล่ว บ้างาน นิสัยเย็นชาเลยทำให้เดียวดายไร้เพื่อน น้ำตาลถูกกดดันจากแม่ต้องเป็นที่หนึ่งและเอาชนะทุกคนในตระกูลบุญญาฉัตรพงษ์ เพื่อช่วงชิงบริษัทเหมทองและมรดกของปู่เหมให้ได้ เพราะทั้งตัวครอบครัวน้ำตาล และครอบครัวของเสี่ยสองและเสี่ยสามต่างก็ไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของปู่เหม น้ำตาลแอบหลงรักทศนาถ จึงทำให้โดนทศนาถหลอกใช้
ทศนาถ: ณัฐรัฐ โมริส เลอกรอง (ณัฐ)
ลูกชายของเสี่ยสามกับสมร รูปหล่อ สำอาง เจ้าชู้ ฉลาดมีเล่ห์เหลี่ยม ถูกเสี่ยสามเลี้ยงแบบตามใจเกินไป จึงทำให้ขาดความรับผิดชอบ เที่ยวสนุกจีบหญิงไปวันๆ เป็นคนขี้อิจฉา แม้จะไม่ได้รักน้ำตาลแต่เมื่อรู้ว่าเหมันต์แอบชอบน้ำตาลอยู่ ก็เกิดหวงก้างแกล้งจีบน้ำตาลเพื่อกีดกันเหมันต์ในทุกทาง
เหม : นพพล โกมารชุน (ตู่)
ปู่ของเหมันต์ เจ้าของบริษัทเหมทองจำกัด ในวัยหนุ่มยากจนจึงต้องปากกัดตีนถีบเพื่อสร้างฐานะ เหมมีความมุ่งมั่นซื่อตรง ตั้งใจทำธุรกิจด้วยความใสสะอาด แต่ด้วยกลไกการแข่งขันและโดนคู่แข่งเล่นงานด้วยวิธีสกปรกทำให้เขาค่อยๆเรียนรู้ว่า "ถ้าซื่อก็พัง" เหมทองจึงเริ่มใช้เล่ห์เหลี่ยม เงิน และอำนาจสร้างแบรนด์รองเท้าชื่อมนตราจนมีชื่อเสียงและครองตลาดอันดับหนึ่งของประเทศ ตั้งแต่ลูกชายเหมวัต หนีจากไป เหมรับลูกบุญธรรม 3 คนมาเลี้ยง
หริทธ์ : ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ (อาโป)
น้องชายคนละสายเลือดของเหมันต์ เป็นคนพูดจากวนๆ สนุกสนานเหมือนชาญ แต่อารมณ์ร้อนชอบใช้กำลัง มีความฝันอยากเป็นนักมวยเหมือนชาญ หริทธ์รักเหมันต์และชาญสุดหัวใจ เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ใช่น้องของเหมันต์และไม่ใช่ลูกของชาญ แต่เป็นลูกของผู้หญิงขายตัวในร้านคาราโอเกะ หริทธ์ก็ผิดหวังกับชีวิต และยิ่งลาวัลย์(ลูกเสี่ยสอง)ไปหลงรักเหมันต์พี่ชาย ยิ่งทำให้หริทธ์เสียใจไม่อยากข้องเกี่ยวกับเหมันต์และชาญอีกต่อไป
ลาวัลย์: ชนกสุดา รักษนาเวศ (แก๊ป)
ลูกสาวเสี่ยสอง มีความฝันอยากเป็นนักเขียนนิยาย แต่โดนพ่อบังคับให้เรียนด้านธุรกิจเ พื่อแข่งกับน้ำตาล ลาวัลย์ก็กลายเป็นเด็กเก็บกด แยกตัวเองออกจากคนอื่น ขี้กลัว พูดเงอะๆงะ จนคนอื่นรำคาญคิดว่าลาวัลย์เป็นคนโง่ ทำให้เสี่ยสองยิ่งกดดันให้ลาวัลย์เรียนพิเศษหนักขึ้น จนเด็กสาวต้องหนีออกจากบ้าน หนีเรียนอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อได้พบกับเหมันต์ ลาวัลย์กลับสบายใจและมีความสุขขึ้นเหมือนน้ำเย็นที่มาปลอบประโลมใจลาวัลย์ เด็กสาวจึงหลงรักเหมันต์แบบทุ่มเทหมดหัวใจ
ชาญ : วินัย ไกรบุตร (เมฆ)
อดีตนักมวยที่มีชีวิตรุ่งเรืองแต่อนาคตเขาต้องจบสิ้นลงเพราะคนเมาแล้วขับ ชนแล้งหนี ทำให้ชาญต้องพิการเดินแทบไม่ได้ แต่ด้วยความเป็นคนมองโลกในแง่ดี ชาญจึงไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา เมื่อแม่ของเหมันต์คลอดลูกแล้วตาย ชาญก็เลี้ยงดูทารกน้อยจนเติบใหญ่อย่างยากลำบาก ชาญมีนิสัยเฮฮาสนุกสนาน ไม่เครียดกับชีวิต เกลียดคนโกหก ชาญชอบสอนเหมันต์ด้วยการทำให้เห็น จนเหมันต์ซึมซับความเป็นคนมีน้ำใจและชอบให้ผู้อื่นเหมือนกับชาญ
ประกิต(เสี่ยหนึ่ง) : กรุณพล เทียนสุวรรณ (เพชร)
ลูกบุญธรรมของเหม เป็นคนทำงานไม่เก่ง ไม่มั่นใจตัวเอง ฉลาด สู้เสี่ยอีกสองคนไม่ได้ ทำให้โดนเหมตำหนิบ่อยๆ แถมยังโดนผกา(เมีย) ดูถูกว่าไม่เอาไหน เสี่ยหนึ่งจึงชอบหนีปัญหา หลบงาน หลบเมียไปกินเหล้า เที่ยวผู้หญิง และแอบเลี้ยงเมียน้อย ให้น้ำตาล(ลูกสาว)คอยทำงานแทนทั้งหมด
ปราการ (เสี่ยสอง) : ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์ (แมน)
เป็นคนฉลาดลึก นิ่งๆไม่แสดงความรู้สึกให้ใครจับได้ ทะเยอทะยานอยากได้บริษัทเหมทองและมรดกของเหมมาเป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว คิดจะใช้วิธีทุ่มเททำงานสุดชีวิตเพื่อบริษัท แต่เมื่อรู้ว่าเหมไม่ได้คิดจะมอบกิจการให้ลูกบุญธรรมคนไหนทั้งนั้น จึงหันมาใช้วิธีสกปรกทุกรูปแบบ เพื่อเอาชนะเสี่ยสาม น้ำตาล และเหมันต์
ทัศนัย(เสี่ยสาม) : อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล (เอ็ม)
ฉลาด ทันคน แต่แสดงออกตรงๆ พูดจาโผงผาง เลี้ยงนักเลงไว้เพื่อทำงานสกปรกให้เหม รักลูก รักเมีย พยายามแย่งชิงบริษัทและมรดกก็เพื่อครอบครัว แต่ความจริงแล้ว เสี่ยสามเป็นคนเดียวที่รักเหมเสมือนพ่อที่แท้จริง
เอม : แสดงโดย ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์ (เบสท์)
ลูกสาวอู๋ แก่กว่าหริทธ์ เป็นผู้หญิงห้าวๆเพราะพ่อเป็นนักมวย เอมเลยโตมากับผู้ชายที่มาเรียนมวยกับพ่อ เอมต่อสู้เก่ง แอบหลงรักเหมันต์ตั้งแต่เด็ก ไม่กล้าบอกเหมันต์ตรงๆ แต่ชอบทำเป็นพูดเล่นขำๆฮาๆไป เอมชอบมีปากเสียงทะเลาะกับหริทธ์เหมือนเป็นคู่กัดกันตลอดเวลา
มนตรา: คาร่า พลสิทธิ์
ย่าเหมันต์ เป็นคนสวย เคยประกวดนางงาม ได้พบรักกับเหม จนมีลูกคือเหมวัต เมื่อเหมวัตหนีไปกับอุษา และเหมไม่ยอมออกติดตามแถมยังใจร้ายตัดขาดกับเหมวัต ทำให้มนตราโกรธเหม และช้ำใจจนล้มป่วย มีอาการหลงๆลืมๆ นั่งเหม่อๆไม่พูดจา
ผกา : ชนกวนันท์ รักชีพ (ตุ๊ก)
เมียเสี่ยหนึ่ง แม่น้ำตาล เป็นลูกนักธุรกิจแต่ล้มละลาย มาแต่งงานกับเสี่ยหนึ่งเพราะความร่ำรวย คิดว่าเสี่ยหนึ่งจะเป็นผู้สืบทอดกิจการในฐานะลูกชายคนโต แต่เสี่ยหนึ่งกลับไม่เอาไหน จึงผิดหวังและเหม็นขี้หน้าสามี ขวางหูขวางตาไม่เคยพูดจาดีๆด้วย และหันไปฝากความหวังกับน้ำตาล ให้แข่งขันกับลูกบุญธรรมคนอื่นของเหม เป็นคนฟุ้งเฟ้อจนไม่ลง หน้าใหญ่ เห็นแก่ตัว
สมร : ชไมพร สิทธิวรนันท์ (เปิ้ล)
เมียเสี่ยสาม เป็นอดีตผู้ช่วยพยาบาลที่คอยมาดูแลมนตราตอนป่วย เหมจึงจับให้แต่งงานกับเสี่ยสาม เป็นเด็กต่างจังหวัด ซื่อ เรียบร้อย พูดน้อย หัวอ่อน คอยทำตามสามีสั่ง ไม่มีปากเสียง คอยเป็นคนไปปรนนิบัติมนตรา และช่วยดูแลงานในบ้านให้กับตึกใหญ่ที่เหมอยู่
ทิม : ภาสกร เครือโสภณ (ปอม)
เลขาของน้ำตาล เป็นเกย์หล่อเหลา แต่ภายนอกดูแมนๆไม่แต๋ว พูดจาปกติเหมือนชายแท้แต่สุภาพอ่อนโยน จึงไม่มีใครรู้ว่าทิมเป็นเกย์ มีปมด้อยคือพ่อไม่ยอมรับและตัดขาด มีเพียงน้ำตาลที่คอยให้กำลังใจ(สมัยเป็นนักศึกษา) เมื่อเรียนจบ น้ำตาลจึงชวนมาทำงานด้วย ทิมแอบหลงรักเหมันต์ แต่ก็ไม่แสดงออก มีแต่มิตรภาพที่จริงใจให้เหมันต์
มิตร : พศิน เรื่องวุฒิ (เอ)
หัวหน้าแก๊งขนของหนีภาษี ไม่เคยมีพ่อแม่ ไม่เคยมีครอบครัว จิตใจจึงโหยหาแต่ไม่รู้ตัว เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย ยึดมั่นในบุญคุณความแค้น ดูภายนอกเป็นคนโหดเหี้ยม แต่จิตใจกลับอ่อนโยน เมื่อเหมันต์ช่วยให้มิตรรอดชีวิตจากศัตรู ทำให้มิตรแพ้ความดีของเหมันต์ และคอยโผล่มาช่วยเหลือในยามที่เหมันต์อยู่ในสถานการณ์เฉียดตายเสมอ มิตรชอบไปบ้านเหมันต์ เพราะดูอบอุ่นจริงใจ แต่ชอบกลบเกลื่อนทำเป็นมาทวงหนี้บ้าง มาก่อกวนบ้าง
รุ่งอรุณ: วิชุดา พินดั้ม (แหม่ม)
เจ้าของคาราโอเกะ เป็นคนสวย ใครมาจีบก็ด่าเปิง เพราะหลงรักเสี่ยหนึ่งสมัยที่เสี่ยยังโสดอยู่ เป็นรักแรกที่รุ่งอรุณไม่เคยลืม รุ่งอรุณรู้ความลับของเสี่ยหนึ่งแต่ช่วยปกปิดไว้นานนับหลายสิบปี ซึ่งเป็นความผิดในใจ จึงชอบดื่มเหล้าดับทุกข์ เวลาเมาก็ชอบเดินสะเปะสะปะไปทั่วแล้วไปนอนหลับในที่ต่างๆ เหมันต์จะเป็นคนที่คอยไปแบกกลับมาคาราโอเกะอยู่เสมอ
ดาบหลง : สุรินทร คารวุตม์ (วุตม์)
ตำรวจเพื่อนบ้านของเหมันต์ วัยหนุ่มอายุมากกว่าเหมันต์ เป็นตำรวจน้ำดี ตรงฉิน ยึดมั่นในตัวบทกฎหมาย ขยันทำงานรับใช้ประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่แบ่งแยกรวยจน ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน เป็นแบบอย่างที่ดีของตำรวจ
กมล : พัฒนะ พันธุ์เทวะ (อ๋อง)
เลขาหนุ่มของเหม เป็นลูกของเลขาคนเก่าที่เหมไว้ใจมาก การรับกมลมาทำงานก็เพราะต้องการตอบแทนพ่อของกมลที่รับใช้เหมมาอย่างซื่อสัตย์ แต่มาป่วยตายไปก่อนที่กมลจะเรียนจบ กมลเป็นคนสุภาพ ใจเย็น ไม่พูดเรื่องเจ้านาย ซื่อสัตย์กับเหม เพราะเหมช่วยส่งเสียให้เรียนจนจบทนาย กมลรู้ว่าเหมเป็นคนทำธุรกิจแบบไม่ซื่อตรง แต่ก็ไม่เคยฆ่าใคร
อู๋ : สมจิต จงจอหอ
เพื่อนนักมวยที่สนิทที่สุดของชาญ เปิดค่ายสอนมวยในชุมชนเดียวกับชาญ นิสัยใจเย็นคอยช่วยเหลือและให้กำลังใจชาญมาตลอด ตอนเหมันต์ยังเล็ก ก็ได้อู๋มาคอยช่วยเลี้ยง อู๋เป็นอีกคนที่เหมันต์จะมาปรึกษาเสมอเวลามีเรื่องไม่สบายใจ
เหมวัต: ธัญนพ ตระกูลโชคดี (เอฟ)
พ่อเหมันต์ วัยหนุ่ม เป็นคนจิตใจดี ขี้สงสาร ไม่ชอบธุรกิจ แต่หลงใหลการทำรองเท้า จึงชอบไปคลุกคลีกับคนเก่าแก่ของบริษัทเหมทอง จนได้วิชาทำรองเท้าและซ่อมรองเท้ามา เหมวัตทำรองเท้าคัทชูให้กับพ่อโดยเย็บด้วยมือทั้งหมด และรองเท้าคู่นี้กลายเป็นตัวชักนำเหมันต์ลูกชายให้ได้กับมาพบกับปู่เหมและมนตรา
อุษา : สลิตา กลิ่นจันทร์ (จุ๊กกู้)
แม่เหมันต์ วัยสาว เป็นครูอาสาที่สอนเด็กๆอยู่ในสลัม เป็นเด็กกำพร้าอยู่ตัวคนเดียว รู้จักกับชาญสมัยเป็นนักมวย จึงรักใคร่กันเหมือนพี่น้อง เมื่อเหมวัตต้องหนีพ่อ อุษาจึงพาไปใช้ชีวิตด้วยกันที่ข้างบ้านชาญในอีกชุมชมหนึ่ง