ตี๋ใหญ่ 2 ดับ เครื่อง ชน ตอนที่ 4
ชื่อภาษาอังกฤษ : THE LEGENDAEY OUTLAW
บทประพันธ์ : “ปีเตอร์” นพชัย ชัยนาม
พาสเวิร์ดว่า “k49 85798478 J51 54774474 G29 8447155”
มีปารเมศคนเดียวที่รู้สึกคุ้นๆกับตัวเลข เขารีบหันไปหาโน้ตบุ๊กแล้วเปิดหน้าจอขึ้น
ปารเมศหันมามองพาสเวิร์ดสลับกับหน้าจอด้วยสีหน้าประหลาดใจ
พาสเวิร์ด …ขณะตะโกนตัวเลขออกมา
“m72 54875414 n83 5872125”
“L77!” ปารเมศว่า
“4787888!!!”
ปารเมศมองพาสเวิร์ดยิ้มออกมาบางๆ ขณะตี๋ใหญ่สีหน้าเครียด
ต่อมา ตี๋ใหญ่เดินออกจากบ่อนของปารเมศ
พาสเวิร์ดวิ่งตามมาจับแขน
พาสเวิร์ด : “เดี๋ยวพี่ตี๋ พี่ตี๋จะไปไหนอะ พาผมไปด้วยสิ”
ตี๋ใหญ่มองพาสเวิร์ดอย่างสงสารและมองเลยหลังพาสเวิร์ด เห็นพวกปารเมศยืนอยู่
ตี๋ใหญ่บิดมือพาสเวิร์ดออก แล้วหันหลังเดินหนีไปอย่างทรมาน
พาสเวิร์ดพยายามวิ่งตามตี๋ใหญ่ แต่ถูกลูกน้องของปารเมศดึงตัวไว้
“พี่ตี๋พี่ตี๋อย่าทิ้งผม..”
ตี๋ใหญ่เดินจากมา...น้ำตาไหลออกมา เขารีบเช็ดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว แล้วเดินต่อไป
เรย์ไขประตูเข้ามาในห้อง ก้มลงถอดรองเท้า
เรย์ชะงักเมื่อเห็นเท้าของใครคนหนึ่งยืนอยู่ใกล้ๆเธอ
ตี๋ใหญ่พุ่งเข้าปิดปากเรย์ที่กำลังจะร้องกรี๊ด แล้วดันชิดประตูด้านหลัง
“คุณสัญญากับผมแล้วว่าจะดูแลพาสเวิร์ด แล้วทำไมเป็นแบบนี้”
เรย์จ้องหน้าตี๋ใหญ่ในระยะประชิด เห็นตี๋ใหญ่จ้องเธอด้วยสีหน้าโกรธจัด
เรย์มองตี๋ใหญ่ด้วยสายตาวิงวอนจนตี๋ใหญ่ค่อยๆคลายมือที่อุดปากเรย์ออก
เรย์เจอซองเอกสารอยู่ในห้อง ยื่นให้ตี๋ใหญ่ดู
“มีคนส่งเอกสารนี้มาให้พาสเวิร์ด”
“ใน heart attack ไม่มีใครสงสัยผม ไม่มีใครรู้จักพาสเวิร์ดว่าเกี่ยวข้องอะไรกับผม และถึงมีใครแอบรู้ก็ไม่น่ารู้ถึงขนาดว่า ตอนนี้พาสเวิร์ดมาพักอยู่กับตำรวจ”
“คนที่รู้ว่าพาสเวิร์ดมาพักอยู่กับชั้นก็มีแต่ตำรวจ!!”
ตี๋ใหญ่สีหน้าเครียด
“ข่าวรั่วน่าเป็นคนใกล้ตัวเผด็จ”
“ตอนจับกุมพวกขนยาที่แม่สอด ตอนบุกจับเอ็ดดี้ และก็ล่าสุด...ตอนจับแก๊งค์ขนยาที่ท่าเรือ ข่าวรั่วทุกครั้ง ถ้ามีสายอยู่ในกลุ่มพวกเราจริงๆแสดงว่าสายคนนั้นเนี่ยเป็นคนเดียวกับคนที่พยายามจะเปิดโปงคุณ โดยใช้พาสเวิร์ด กะให้คุณทำงานพลาด”
“บอกเผด็จหรือยัง ?”
“ยัง แต่คิดว่าหัวหน้าก็สงสัยอยู่เหมือนกัน”
“แล้วเค้าสงสัยใคร?”
เรย์เงียบไป
รองฯ เผด็จกับทองดีนั่งคุยกันอยู่บนโต๊ะ มีเอกสารของเรย์วางเรียงราย
“มันยังไงๆแล้วครับหัวหน้า คือเรย์เนี่ย... เปลี่ยนประวัติมาหมด เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุลย้ายภูมิลำเนามาหลายที่มาก”
“ผมสั่งเรย์ให้เฝ้าพาสเวิร์ดไว้และอย่าเพิ่งติดต่อกับธาวิน เพราะอยากแยกเค้าออกจากภารกิจแต่เขาขัดคำสั่งไปเจอธาวิน แถมทำพาสเวิร์ดหายไปอีก”
เสียงกริ่งดังขึ้น...
เผด็จเปิดทีวีดูภาพกล้องวงจรปิด และเห็นว่าตี๋ใหญ่มายืนรออยู่หน้าบ้าน
เผด็จมองหน้ากันกับทองดี จ่าทองดีรีบเดินหลบไป
ผ่านเวลา ... เผด็จนั่งอยู่ตรงข้ามตี๋ใหญ่
“ไอ้หัวทองที่บอกให้ผมไปมาจริงๆมันคือไซเรนเป็นลูกของดาบยุทธ”
“ใช่จริงๆด้วย !! ... ผมเคยสอนเค้าตอนอยู่ที่รรนายร้อย แล้วทำไมเค้าไปอยู่กับแรมได้”
“ผมยังไม่ทันได้รู้อะไรต้องรีบออกมาก่อน”
“ไม่แน่บัญชาอาจตั้งใจส่งเค้าเข้าไปในนั้น”
“ใครจะทำอะไรผมไม่สนใจ ตอนนี้สนแค่พาสเวิร์ดยังอยู่กับปารเมศ คุณจะจัดการเรื่องนี้ยังไง?”
รองฯ เผด็จสีหน้าลำบากใจและมองตี๋ใหญ่อย่างรู้สึกผิด
“ผมเข้าใจความรู้สึกคุณนะ แต่ผมเชื่อผมว่าปารเมศจะยังไม่ทำอะไรพาสเวิร์ด เดาว่าถ้ามันเก็บพาสเวิร์ดไว้แสดงว่ามันคิดจะใช้พาสเวิร์ดทำอะไรสักอย่าง”
“แต่น้องผมต้องไม่มาเกี่ยวกับเรื่องนี้”
“ครับ ... เค้าไม่ควรเกี่ยว ผมจะจัดการเอาเค้าออกมาให้เร็วที่สุด แต่ตอนนี้ขอให้ใจเย็นๆ ถ้าเราลุยเข้าไปตอนนี้มันจะเสียกันหมด”
“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพาสเวิร์ดจะไม่ใช่แค่สามแก๊งที่ต้องรับผิดชอบ!!”
ตี๋ใหญ่เดินออกไปจากห้องของเผด็จ
รองฯ เผด็จมองตามด้วยสีหน้ากังวลใจ ทองดีเดินออกมาจากที่ซ่อน
“ถ้าเราเอาเค้าไม่อยู่แล้วหัวหน้าจะทำไง”
เผด็จเลือกที่จะไม่ตอบทองดี ...สีหน้าลำบากใจ
ในเซฟเฮ้าส์ เรย์นั่งอยู่ในที่โต๊ะทำงานตรงข้ามกับเผด็จมีสีหน้าเคร่งเครียด
“แล้วพาสเวิร์ดรู้ได้ไงว่าจะไปหาธาวินที่ไหน”
เรย์โกหก
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะหัวหน้า แต่ตอนนี้พาสเวิร์ดถูกกักตัวไว้กับพวก 21”
รองฯ เผด็จลุกขึ้นแล้วครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“ตอนนี้ความลับเรื่องธาวินเป็นสายในแก๊งเอ็ดดี้ยังไม่ถูกเปิดเผย ก็แสดงว่าพาสเวิร์ดไม่รู้ข้อมูลเรื่องนี้”
“แล้วหัวหน้า..จะต้องทำยังไงต่อคะ”
“ผมคิดว่า ตอนนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือปล่อยให้พาสเวิร์ดอยู่กับ 21 ไปก่อน”
เรย์ลุกขึ้น
“แล้วถ้าเกิดมันทำอะไรพาสเวิร์ดขึ้นมาล่ะค๊ะ”
เรย์มองหน้าเผด็จ เผด็จมองเรย์กลับด้วยสีหน้าที่ไม่รู้สึกอะไร
“หัวหน้าจะยอมปล่อยคนที่ไม่รู้เรื่องตายเพราะแค่กลัวเสียแผนแค่นี้เหรอคะ ถ้าเราไม่รีบทำอะไรตอนนี้....”
เผด็จอธิบาย
“ทางเลือกที่หนึ่ง . ช่วยพาสเวิร์ดออกมาโดยทางลับ แต่ถ้าคนที่ไปช่วยถูกจับได้ก็จะตายไปพร้อมพาสเวิร์ด ทางเลือกที่สอง .เข้าไปแบบเปิดเผย แล้ว21 จะรู้ว่าพาสเวิร์ดเกี่ยวข้องกับตำรวจ
แล้วโยงไปถึงธาวินได้ ธาวินก็ไม่รอด ทางเลือกที่สาม. สืบให้แน่ใจก่อนว่า 21 มันกักตัวพาสเวิร์ดไว้ทำอะไร จากนั้นค่อยวางแผนให้เหมาะกับสถานการณ์นั้น ..." เผด็จมองหน้าเรย์ "คุณว่าผมควรใช้ทางเลือกไหน ?”
เรย์ทำหน้าไม่พอใจแล้วเงียบไป
“ความจริงผมไม่จำเป็นต้องอธิบายให้คุณฟังว่าทำไมถึงตัดสินใจแบบนี้ ผมขอให้คุณทำตามคำสั่งผมก็พอ !”
เรย์ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องโดยไม่พูดอะไร รองฯเผด็จกลับมามีสีหน้าเครียดอีกครั้ง
ประตูห้องทำงานของปารเมศถูกเปิดออก ลูกน้องพาพาสเวิร์ดเข้ามาในห้อง
พาสเวิร์ดเห็นปารเมศกำลังกินข้าวอยู่ที่โต๊ะทำงาน บนโต๊ะมีอาหารอีกชุดนึงวางอยู่ตรงข้าม
“อ้าว... มาพอดีขอโทษนะครับที่ต้องให้รอหิวข้าวรึยังครับ นั่งสิ... ชื่อพาสเวิร์ดใช่มั้ย”
พาสเวิร์ดเดินมองห้องรอบที่ถูกตกแต่งด้วยของประดับราคาแพง แล้วมานั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามปารเมศ
“พี่เป็นเจ้าของที่นี่เหรอ”
“ผมแค่ทำงานให้เจ้าของที่นี่เฉยๆครับ”
“อ๋อ …. แล้วพี่จะไล่ผมมั้ย”
ปารเมศหัวเราะเบาๆ “กินก่อนเถอะครับ
พาสเวิร์ดมองดูอาหารที่ดูแปลกตา แล้วหยิบส้อมตักเข้าปาก แต่อาหารคำใหญ่ทำให้พาสเวิร์ดกินลำบาก
"คุณพาสเวิร์ดตอนนี้อยู่กับใครเหรอครับ”
พาสเวิร์ดคิ้วขมวดนึกถึงตี๋ใหญ่
“อยู่คนเดียวครับ แม่กับพี่หลินขึ้นสวรรค์ไปแล้ว พี่ชายอีกคนก็ไม่สนใจผม”
“คุณพาสเวิร์ดอยากมาทำงานให้ผมมั้ย ได้เงินแล้วกินอาหารดีๆแบบนี้ทุกวัน”
พาสเวิร์ดพยายามใช้ส้อมจิ้มเนื้อคำโตเข้าปาก
“งานอะไรทำ... ทำด้วยนะ”
“ก็ไม่มีอะไรยากหรอกครับ เดี๋ยวผมจะให้คนสอนให้”
“แล้ว...ผมทำงานเสร็จผมก็กลับบ้านได้ใช่มั้ย?”
“ได้สิครับหรือคุณพาสเวิร์ดอยากจะพักอยู่ที่นี่ ผมก็มีห้องดีๆให้อยู่”
“แล้วได้เงินเยอะมั้ย ตอนผมอยู่บ้านขายของได้วันละหลายร้อยเลย”
ปารเมศหยิบมีดหั่นอาหารบนจานให้พาสเวิร์ด
ปารเมศยื่นมีดให้พาสเวิร์ด พาสเวิร์ดรับมีดไป
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับเรื่องนั้น คุณพาสเวิร์ดอยากได้อะไรก็ซื้อได้หมด ถ้าทำงานดี”
“จริงนะอยากได้แท็บแลตซื้อได้มั้ย?”
พาสเวิร์ดมองปากกาของปราเมศ ปราเมศมองตาม หยิบให้
ในบ่อนกาสิโน 21 ผู้คนมาเล่นการพนัน ต่างดูภูมิฐาน นักการเมือง นักธุรกิจนั่งเล่นไพ่กันอยู่ตามโต๊ะต่างๆ
พาสเวิร์ดถูกจับแต่งตัวให้ดูกลมกลืนกับคนพวกนั้นนั่งอยู่ในวงไพ่โป๊กเกอร์
ปารเมศทักทายลูกค้าแล้วแอบหันมามองพาสเวิร์ดที่อยู่ไม่ไกล
ก่อนหน้านี้ ในห้องปารเมศ เขาบอกพาสเวิร์ดว่า
“งานง่ายๆครับ แค่เล่นเกมส์ตามกติกา แต่เกมส์นี้สำคัญตรงที่ต้องเล่นเงียบๆนะครับ
ห้ามพูดอะไรนอกเหนือจากเกมส์เลยระหว่างเล่น”
ไพ่สี่สำรับถูกรีดลงบนโต๊ะชิพเงินถูกเลื่อนไปทางฝั่งพาสเวิร์ดที่ตอนนี้แต่งตัวภูมิฐาน
พาสเวิร์ดมองดูไพ่ของคนที่อยู่รอบโต๊ะ เปิดใบหนึ่ง หงายใบหนึ่ง พาสเวิร์ดเห็นไพ่ 3 4 และ 2
พาสเวิร์ดเปิดไพ่ในมือเขาเองแต้มไพ่สองใบรวมกันได้ 3+2
ผู้เล่น1 บอก “stand”
ผู้เล่น2 บอก “หมอบ”
เฮียเซียมนั่งกุมขมับอยู่และถอดนาฬิกาโรเล็กซ์เป็นเดิมพัน
เฮียเซียมแยกไพ่เป็นสองชุดแล้วเรียกเพิ่ม
เฮียเซียมบอก “เรียก”
พาสเวิร์ดเรียกไพ่เพิ่ม
“ขอใบนึงครับ”
เฮียเซียมมองพาสเวิร์ดไม่สบอารมณ์แล้วหงายไพ่กองใหม่เห็นเลข 10 และอีกใบคว่ำอยู่
ทุกคนในโต๊ะมองลุ้นๆ
เฮียเซียมมองพาสเวิร์ดอย่างท้าทาย
พาสเวิร์ดยิ้ม
ผู้เล่นอีกคนบนโต๊ะเห็นไพ่เบอร์ 10 ของเฮียเซียมสีหน้าถอดใจ
ผู้เล่น3 บอก “หมอบ”
ผู้เล่น1 บอก “หมอบด้วย”
พาสเวิร์ดยิ้มแล้วแบไพ่ออก เห็นไพ่คู่ของพาสเวิร์ดรวมกันได้ 17
เฮียเซียมตาถลึงขึ้นมาอย่างรู้สึกตกใจ
ไพ่ของเฮียเซียมถูกกางออกและเห็นไพ่รวมกันได้แค่ 16 ถูกพาสเวิร์ดเชือดไปแค่คะแนนเดียว
ชิพเงินถูกรวบไปทางฝั่งพาสเวิร์ดหมด
พาสเวิร์ดกอบชิพเดินไปหลังร้าน เฮียเซียมมองตามอย่างรู้สึกแค้นๆ
ปารเมศเดินคุยทักทายลูกค้า พาสเวิร์ดเดินสวน มาปารเมศยิ้มให้พาสเวิร์ด
ภายใน Heart Attack
เฮียเซียมนั่งอยู่กับเอ็ดดี้ที่โต๊ะทำงาน บนโต๊ะเอ็ดดี้มีเงินวางอยู่เต็มไปหมด
เอ็ดดี้เหยากำลังใช้มีดอันใหญ่ตัดแอปเปิ้ลเข้าปาก ตี๋ใหญ่ยืนอยู่ไม่ไกลกำลังเอาเงินลงเครื่องนับแบงค์
“ไม่รู้ไอ้เด็กห่านั่นเป็นใครเล่นอั๊วซะหมดตัวเลย”
เอ็ดดี้เบื่อหน่าย “อาหะ”
ตี๋ใหญ่เริ่มสนใจฟังสิ่งที่เฮียเซียมคุย
“สงสัยแม่งจะโกงอะไรซักอย่าง แต่เฮียจับไม่ได้”
“นี่เฮียมาเล่าให้กูฟังแค่นี้ใช่มั้ย...”
เอ็ดดี้ส่งซิกให้ลูกน้องเชิญเฮียออกไป ลูกน้องกำลังจะเข้ามาหาเฮียเซียม
“เดี๋ยวๆๆอาเอ็ดดี้ เฮียขอความช่วยเหลือหน่อยได้มั้ย เห็นแก่เราเป็นญาติห่างๆกัน เฮียขอยืมเงินไปแก้มือกับมันหน่อยได้มั้ย”
เอ็ดดี้ทำหน้าเบื่อหน่ายแล้วโยนเงินหลายปึกบนโต๊ะให้เฮียเซียม
“ฮ่าๆๆขอบใจลื้อมากน้า แล้วฝากหวัดดีอาเจ๊ด้วย”
เฮียเซียมกำลังจะเดินออกไป
เอ็ดดี้ปอกแอปเปิ้ล ไม่มองเฮียเซียม
“ผมไม่คิดดอกเบี้ยละกัน แต่ถ้าเฮียไม่คืนผมในสามวัน ความเป็นญาติก็ช่วยไรเฮียไม่ได้นะ”
เฮียเซียมเหงื่อตก
“ได้ๆอั๊วไม่เบี้ยวหรอก ขอบใจอาเอ็ดดี้มากน้าาาาา”
เฮียเซียมออกไปจากห้อง
ตี๋ใหญ่มีสีหน้ากังวล
วันต่อมา เฮียเซียมนั่งยิ้มๆอยู่ที่โต๊ะพนันอีกครั้ง มองไปที่พาสเวิร์ดที่มองกลับมาด้วยแววตาใสซื่อ
“ตานี้ไม่เล่น ... ไม่ดีไม่ดี” พาสเวิร์ดว่า
แล้วคว่ำไพ่ลง)
ผู้เล่น1 บอก “หมอบด้วย”
ผู้เล่น2 บอก “หมอบ!”
ผู้เล่นคนที่ 3 ทิ้งไพ่อย่างอารมณ์เสีย เฮียเซียมเปิดไพ่เห็น king king
“ฮ่าๆๆวันนี้ดวงเฮง” เฮียเซียมบอก
ชิพถูกเลื่อนมาที่ฝั่งเฮียเซียมเป็นกองสูง
ปารเมศเดินยิ้มๆมาทักทายเฮียเซียม
“เฮียนี่สมเป็นเซียนไม่มีใครล้มแชมป์ได้เลยนะครับ” ปารเมศว่า
“เอาน่า… ช่วงนี้ต้นทุนผมสูงต้องกอบโกยเยอะหน่อย”
เฮียเซียมทำท่าเหมือนจะลุกเอาชิพไปแลก ปารเมศยั้งก่อน
“ท่านสุกิจเพิ่งมา อยากได้คนเก่งๆมาเล่น จะได้สนุก เฮียเป็นเจ้ามือให้หน่อยมั้ยครับตานี้”
ปารเมศผายมือไปทางนักการเมืองอาวุโสที่เพิ่งเดินมาถึงโต๊ะ
เฮียเซียมมองที่นักการเมืองคนนั้นอย่างเกรงใจ
ผ่านเวลา
ทุกคนลุกจากโต๊ะเหลือเฮียเซียมกับพาสเวิร์ดแค่สองคน
เฮียเซียมมองไพ่ตัวเองสลับกับมองพาสเวิร์ด
พาสเวิร์ดมองเฮียเซียมแบบเบื่อๆ
เฮียเซียมเริ่มมีเหงื่อผุดเต็มขมับ
เฮียเซียมบอก “เรียก!”
ดีลเลอร์วางไพ่ให้เฮียเซียม เฮียเซียมดึงไพ่ใบที่สามมาวางหลังไพ่สองใบแรกซึ่งเป็น king + 7
ไพ่ใบที่สามค่อยๆคลี่ออกมาจากด้านหลังไพ่สองใบแรกเป็นไพ่เลข 8 รวมไพ่สามใบคะแนนเกิน 21 ไป
เฮียเซียมตาเหลือกไพ่ร่วงผล็อยลงจากมือ
“ตาย!”
เฮียเซียมลุกขึ้นแล้วกระชากคอพาสเวิร์ด
“นี่มึงโกงใช่มั้ย”
พาสเวิร์ดเลิ่กลั่กไม่พูดอะไร
“มึงบอกมาว่ามึงโกงยังไง?!!”
การ์ดของคาสิโนเข้าไปแยกเฮียเซียมออกมาจากพาสเวิร์ด
“ใจเย็นนะครับ”
ตี๋ใหญ่เดินเข้าคาสิโนมาพร้อมมีผู้หญิงจาก Heart attack
พาสเวิร์ดบอก “ผมไม่ได้โกง จำได้ว่ามี king มีเลข 7 อยู่แล้ว แล้วก็ได้เลข 8 มา ... จำได้ไม่ลืม”
“นั่นไง!!! เห็นมั้ย" เฮียเซียมตะโกน "ทุกคนเห็นมั้ยมันจำไพ่ ไปเอาคนไม่ปกติจำไพ่ได้ทุกใบ มันก็เหมือนกับโกงนั่นแหละ มึงโกง !”
ผู้เล่นคนอื่นมองพาสเวิร์ด
“กูบอกให้เล่นใหม่เดี๋ยวนี้ตานี้ต้องเอาใหม่”เฮียเซียมบอก
“พักก่อนๆเล่นมาตั้งสามชั่วโมง... เมื่อยแล้วก็หิวด้วยครับ!!”
พาสเวิร์ดท่าทางกลัวหันไปกอบชิฟบนโต๊ะ
เฮียเซียมคว้าแก้วไวน์ที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆปาใส่พาสเวิร์ดทันที
เสื้อพาสเวิร์ดเปื้อนไวน์แดงเต็มไปหมด พาสเวิร์ดมองเห็นตี๋ใหญ่ที่อยู่ไกลๆ
ตี๋ใหญ่มองพาสเวิร์ดอยู่
ตี๋ใหญ่กำหมัดแน่นแต่ก็ไปเข้าช่วยพาสเวิร์ดตอนนี้ไม่ได้
เฮียเซียมสะบัดแขนการ์ดกำลังจะพุ่งเข้าไปหาพาสเวิร์ด แล้วปารเมศก็เข้ามาแตะบ่าเฮียเซียม
“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”
“คุณต้องจัดการให้ผมนะ คุณปล่อยให้คนโกงมาเล่นในบ่อนนี้ได้ยังไง มันเพิ่งยอมรับเมื่อกี้นี้ว่ามันจำไพ่ได้”
ปารเมศมองพาสเวิร์ดแบบไม่เคยรู้จักมาก่อน ปารเมศพยักหน้าส่งซิกให้การ์ด
“ได้ครับเรื่องนี้ผมจัดการให้นะครับ”
การ์ดสองคนเดินเข้ามาพาพาสเวิร์ดออกไปหลังบ่อน พาสเวิร์ดหันกลับมามองตี๋ใหญ่
ตี๋ใหญ่แสดงสีหน้าเป็นห่วง แต่พาสเวิร์ดก็หันหน้าหลบไป
“แล้วเงินที่ผมเสียให้มันจะทำยังไง ?!”
“ผมขอสอบสวนก่อนนะครับว่าคุณคนนั้นโกงจริงรึป่าว เราจะจัดการให้ครับ ไม่ต้องห่วง”
“ไม่ได้!!! ต้องได้เงินผมคืนเดี๋ยวนี้ มึงรู้มั้ยว่ากูยืมใครมา”
“เรื่องนั้นผมไม่ทราบครับ แต่ผมจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ขอบคุณที่มาใช้บริการนะครับ”
การ์ดสองคนลากเฮียเซียมที่ยังโวยวายไม่หยุดออกไป
ตี๋ใหญ่หันไปพูดกับผู้หญิง
“ไปรอที่รถก่อน”
ในห้องหนึ่งของโรงแรม 21
พาสเวิร์ดนั่งอยู่ที่เตียงเอากระดาษทิชชู่เช็ดคราบไวน์ที่เสื้อ
“น้ำอะไรอ่ะครับไม่อร่อยครับ”พาสเวิร์ดบอก
แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ปารเมศเปิดประตูเข้ามา
ปารเมศเข้ามานั่งที่เตียงกับพาสเวิร์ด
“ลุงคนนั้นเค้าเป็นอะไรอ่ะครับ โวยวายเสียงดัง ...ผมได้เหรียญพลาสติกของเค้ามาหมดเลย ผมชนะ ผมชนะ”
“เค้าบอกว่าคุณโกงเค้าน่ะ”
“ไม่ได้โกง..จำได้จำแล้วไม่ลืม... แล้วก็ทำตามที่พี่บอกงัย ... แล้วต้องให้ทำไงต่อ .. สนุกดีอยากเล่นอีก”
“คุณทำพลาด ! ผมคงให้คุณทำงานต่อไม่ได้แล้ว”
“ไม่ได้ทำพลาด จำแล้วไม่ลืม.. ไม่ไป… ขออยู่ที่นี่นะ…พี่นะ ยังไม่อยากกลับบ้านเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมมีอะไรจะให้คุณพาสเวิร์ดเพื่อเป็นการตอบแทนแล้วกันครับ”
ปารเมศล้วงมือเข้าไปในเสื้อนอกเหมือนจะหยิบปืน
พาสเวิร์ดยิ้มแบบไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ครู่ต่อมา พาสเวิร์ดเปลี่ยนเสื้อใหม่เรียบร้อยแล้วถูกเดินประกบด้วยการ์ด 2 คน
ตี๋ใหญ่แอบตามมาจากด้านหลัง
“พาไปหาพี่เรย์ก็ได้ ยังไม่อยากกลับบ้าน พาสเวิร์ดเอาเช็คขึ้นมาให้การ์ดดู ถาม
"แล้วไอ้กระดาษแบบนี้มันใช้แทนเงินได้จริงเหรอ” พาสเวิร์ดชูเช็คขึ้นมา
การ์ด1 รำคาญ
“แล้วพี่เรย์ไรเนี่ยอยู่ที่ไหนบอกมา จะได้ไปส่ง”
“ไปได้....ไปบ้านพี่เรย์”
การ์ดเปิดประตูให้พาสเวิร์ดออกไป
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
รองฯ เผด็จนั่งดูเอกสารอยู่ที่ห้องกลาง มีตำรวจคนอื่นทำงานอยู่ประปราย
จ่าทองดีเดินมาพร้อมแฟ้มเอกสารในมือ
“หัวหน้าครับผมขอคุยด้วยหน่อย”
“ว่ามา”
ทองดีมองไปรอบๆเห็นตำรวจคนอื่นทำงานอยู่ใกล้ๆ
“ข้างนอกดีกว่าครับ”
รองฯ เผด็จนำจ่าทองดีเดินไปมุมห้องที่ไกลจากคนอื่น
“หัวหน้าครับผมไปได้ข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับประวัติเรย์ครับ”
ทองดียื่นแฟ้มให้เผด็จ เผด็จเปิดดู ทองดีชี้ให้เผด็จดูที่นึงในเอกสาร
ทองดีพลิกไปอีกแผ่น
“นามสกุลเดียวกันแล้วก็เคยอยู่ที่เดียวกันด้วย มันไม่น่าบังเอิญขนาดนั้นนะหัวหน้า”
รองฯ เผด็จมีสีหน้าตกใจ
ผ่านเวลา ...
ตำรวจคนอื่นๆกลับบ้านหมดแล้ว เรย์ไปนั่งหน้าคอมพิวเตอร์กำลังค้นหาประวัติเฮียเซียม
เรย์ตกใจหันไปเห็นเผด็จที่ยืนอยู่ในเงามืด
“คุณไปทำอะไรที่สโมสร”
เรย์เงียบไม่ตอบ
“ดูเหมือนตำรวจพวกนั้นไม่รู้ว่าข้างในโรงแรม 21 มีอะไร แค่อ้างว่าไปเพื่อหาที่ประชุม
ตอนแรกผมก็ไม่สนใจอะไร แต่ติดตรงที่ว่า ตำรวจที่ไปโรงแรมนั้นเป็นเพื่อน...”
เรย์พูดขัด “ชั้นจะไปดูว่าพาสเวิร์ดอยู่ที่นั่นรึเปล่า”
“ผมไม่ได้สั่งให้คุณตามเรื่องนี้”
“แต่เป็นความผิดพลาดของชั้น ชั้นต้องรับผิดชอบ”
รองฯ เผด็จยื่นแฟ้มให้เรย์เรย์เปิดดู
“ทำไมคุณต้องปกปิดประวัติเดิมของคุณ” เผด็จถาม
“หัวหน้าสืบประวัติชั้นทำไมคะ”
“ประวัติคุณมันยังไงกันแน่”
เรย์ถือแฟ้มด้วยมือที่สั่นเทา พยายามไม่ร้องไห้
“การที่ชั้นเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลก็ไม่ได้เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ และชั้นก็ไม่น่าจะต้องมาบอกกับทุกๆคนว่าชั้นเป็นใครมาจากไหน… ใช่มั้ยคะ”
“ระหว่างนี้ผมขอพักงานคุณไว้ก่อน คุณทำเรื่องชี้แจงเหตุผลของคุณมาให้ผมทราบ ผมคงไว้ใจมอบหมายงานให้คุณทำไม่ได้ หน่วยงานของเราต้องไม่มีใครเป็นหนอน”
เผด็จเครียดไม่ตอบ เรย์เดินออกไป
ในเวลากลางคืน
รองฯ เผด็จขับรถเข้ามาจอด ตี๋ใหญ่เปิดประตูรถเข้ามานั่ง แล้วเผด็จก็ขับรถออกไป
“มีเรื่องอะไรสำคัญรึเปล่าคุณยังไม่ควรออกมา” เผด็จถาม
“เรื่องพาสเวิร์ดไปถึงไหนแล้ว ทำไมตอนเค้ามาหาคุณ คุณไม่บอกผม”
เผด็จนิ่ง “ผมแค่ไม่อยากให้คุณเสียสมาธิ”
“เสียสมาธิแล้วเป็นไง มันต้องมีใครซักคนในหน่วยคุณแกล้งให้พาสเวิร์ดไปหาผม คุณเคยคิดจะหาตัวไอ้คนนี้บ้างมั้ย”
เผด็จเงียบไป
“คุณเรียกผมออกมาเพื่อบอกเรื่องนี้เหรอ”
“เรื่องแค่นี้เหรอ! น้องผมตายได้! แต่งานคุณต้องสำเร็จใช่มั้ย !? คุณตอบผมได้มั้ยว่ามันเป็นใครหรือคุณไม่เชื่อว่าฝั่งคุณมันมีหนอน แล้วพาสเวิร์ดไปหาผมถูกได้ยังไง แล้วคุณบอกจะตามให้...เจอรึยัง ?”
“ผมให้ลูกน้องตามอยู่.... คุณใจเย็นๆก่อน และถ้าหน่วยผมมีหนอนจริงผมจัดการแน่!!”
“ผมรู้ว่าคุณรักลูกน้องของคุณ แต่ลูกน้องคุณไว้ใจได้ทุกคนเลยเหรอ ?”
รองฯ เผด็จโกรธแต่พยายามเก็บ
ผมบอกว่าผมกำลังสืบอยู่ไง!!”
“แล้วใครล่ะ??”
“ผมยังบอกคุณไม่ได้ ผมยังไม่แน่ใจ”
“ไม่แน่ใจ!!! พาสเวิร์ดหายตัวไป ... คุณมีส่วนต้องรับผิดชอบ! เพราะมันต้องเป็นลูกน้องของคุณแน่นอน! ที่หลอกพาสเวิร์ดไปเจอผม ได้โอกาสที่ผมจะเจอเค้ามันยังมีไง”
ตี๋ใหญ่ลงจากรถไป
เผด็จสีหน้าเครียดมาก
เอ็ดดี้ใส่เสื้อกล้ามเหงื่อท่วมกำลังชกกระสอบทรายอยู่
ตี๋ใหญ่เดินเข้ามาพร้อมกับเช็คในมือหลายใบแล้วมาวางที่โต๊ะ
“เช็คค่าเด็กที่ไปบ่อน 21 ครับ”
ตี๋ใหญ่กำลังจะเดินไป เอ็ดดี้หยุดชกกระสอบ
“ตี๋ใหญ่...”
ตี๋ใหญ่ชะงัก
ก่อนที่ตี๋ใหญ่จะตอบก็มีลูกน้องคนนึงเอาโทรศัพท์มือถือมาให้เอ็ดดี้
ลูกน้องบอก “เฮียเซียมครับ”
เอ็ดดี้กดสปีกเกอร์โฟนแล้ววางบนโต๊ะ “ว่า...?”
“อาเอ็ดดี้เหรอสบายดีมั้ย”
เอ็ดดี้ดึงมีดออกมาจากโต๊ะแล้วปอกแอปเปิ้ลกินต่อโดยไม่ตอบอะไร
“คืองี้ เงินที่อั๊วยืมลื้อไปอ่ะ พอดีมันมีปัญหานิดหน่อย อั๊วขอผลัดไปซักสามวันได้มั้ย”
“กูบอกแล้วไง ถ้าเฮียไม่คืนในสามวันความเป็นญาติก็ช่วยไรเฮียไม่ได้!!”
“อาเอ็ดดี้ต้องเห็นใจเฮียนะ ไอ้เด็กที่เฮียเล่าให้ฟังมันโกงอย่างที่ลื้อบอกจริงๆ แถมยังทำงานให้กับ21อีก เนี่ยอั๊วจับมันมาเค้นความจริงอยู่”
ตี๋ใหญ่สนใจกับสิ่งที่เฮียเซียมพูด
เอ็ดดี้กดวางโทรศัพท์แล้วโยนโทรศัพท์ให้โจแล้วชกกระสอบทรายต่อ
“โจ มึงรู้จักบ้านไอ้เฮียใช่มั้ย!!??”
“ครับพี่” โจบอก
“ให้ผมไปด้วยมั้ย”
เอ็ดดี้พูดกับโจ “มึงพาคนไปอีกสองไปอย่าทำให้ถึงตายล่ะ”
เอ็ดดี้เดินเข้าไปคว้าคอตี๋ใหญ่ไปพิงกับกระสอบทรายแล้วชกไปที่ท้องตี๋ใหญ่
เอ็ดดี้โกรธ “นี่กูยังไม่เอาเรื่องที่มึงหายไปเมื่อคืนเลยนะ อย่ากวนกูให้มาก Bitc”
ตี๋ใหญ่ลุกขึ้นมาแล้วมองหน้าเอ็ดดี้
เอ็ดดี้สงสัยว่าตี๋ใหญ่จะทำอะไร
แต่แล้วตี๋ใหญ่ก็เดินออกไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
รถตู้ที่พาสเวิร์ดถูกจับขึ้นมา จอดบนถนนเปลี่ยว รอบๆมีแต่ทุ่งหญ้าสูงเหนือหัวไฟท้ายรถยังคงติดอยู่
เมื่ออ้อมไปด้านหน้าเห็นพาสเวิร์ดนอนอยู่กับพื้น หัวพาสเวิร์ดอยู่แนบใต้ล้อหน้า ลำตัวและขาถูกชายสองคนกดไว้ ไม่ให้หนีไปไหน
เฮียเซียมก้มมองหน้าพาสเวิร์ด
พาสเวิร์ดงง “จับมาทำไมพาไปไหนเนี่ย… จะไปหาพี่เรย์ …ปล่อยปล่อยผม” พาสเวิร์ดดิ้น
“เอาเงินกูคืนมา ?”
“ไม่รู้ไม่ได้เงิน... พี่คนนั้นบอกให้เล่นแล้วจะได้แท็บเล็ต ..”
“ไม่ต้องมาหลอกกู เอาเงินกูคืนมา”
เฮียเซียมส่งสัญญาณให้คนที่ขับรถอยู่
เสียงรถตู้เร่งเครื่องล้อรถขยับๆพร้อมที่จะบดหน้าพาสเวิร์ด
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้เงินไม่ได้เงิน ได้แต่กระดาษมา. ได้แต่กระดาษ.”
เฮียเซียมส่งสัญญาณบอกให้คนขับรถหยุดเร่งเครื่อง
“ไหน??.... กระดาษอะไรของมึง”
พาสเวิร์ดล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบเช็คออกมา
เฮียเซียมดูเช็คเงินสด 100,000 บาทแล้วก็เห็นลายเซ็นของปารเมศ
“นี่มึงทำงานให้บ่อนเหรอเนี่ย ไอ้เหี้ยแม่งโกงกู !!!”
เฮียเซียมขยำแล้วโยนเช็คทิ้ง
เฮียเซียมบอกกับลูกน้อง “พามันขึ้นรถ!!”
ลูกน้องสองคนพยุงตัวพาสเวิร์ดขึ้นมา
พาสเวิร์ดล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วเอาปากกาออกมาแล้วแทงเข้าไปที่หน้าขาของลูกน้องเฮียเซียม มันปล่อยมือด้วยความเจ็บปวด พาสเวิร์ดสะบัดมือหนีลูกน้องอีกคนแล้ววิ่งเข้าไปในทุ่งหญ้าสูง
เฮียเซียมสั่ง "เฮ้ย!! ตามมันไป.... อย่าให้มันหนี !"
ลูกน้องที่ไม่โดนแทงรีบวิ่งเข้าไปในพงหญ้า อีกคนลงมาจากรถรีบวิ่งตามไป
เช็คของปารเมศที่ยับยู่ยี่กลิ้งอยู่บนพื้นตามแรงลม
ภายใน Last Day Pub
ไผ่หวานกำลังคุยสนุกอยู่กับลูกค้าที่โต๊ะ ไซเรนนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ บาร์ แอบมองอยู่ไกลๆ
เจ๋เด็กบาร์อีกคนเดินมายืนข้างไซเรน
“ติดใจอีหวานเหรอพี่เรน”
“อะไรของมึง?”
“ก็เห็นมันไปขลุกอยู่กับพี่ตั้งหลายวันไม่ได้หลับได้นอนเลยนะ ชั้นว่ามันต้องชอบพี่แน่เลยฮิๆ”
“พี่แรมใช้มันไปต่างหาก ”
ที่โต๊ะ ไผ่หวานยื่นซองยาไอซ์ให้ลูกค้า ลูกค้าส่ายหัวทำท่าไม่อยากได้
ไผ่หวานเลยเอาซองยาไอซ์ใส่ในกางเกงใน
ลูกค้าควักเงินปึกนึงแล้วล้วงเข้าไปในกางเกงไผ่หวานแล้วหยิบซองยาไอซ์ออกไป
อีกมุมหนึ่ง ไผ่หวานล้วงเงินออกมาจากกางเกงอย่างไม่รู้สึกอะไร พลางดูดยาไอซ์ไปด้วย เธอหันไปเจอไซเรน
ไผ่หวานมีอาการเคลิ้มยา
“ว่าไงพี่เรน”
“เธอ...”
ไผ่หวานรอว่าไซเรนจะพูดอะไรต่อ แต่ไซเรนก็เดินจากไป แต่แล้วเขาก็หันกลับมา
“จริงๆเธอมีค่ามากกว่าที่เธอคิดนะ”
แล้วไซเรนก็เดินจากไปปล่อยให้ไผ่หวานครุ่นคิดถึงคำพูดของไซเรน
บริเวณหน้าบ้านเฮียเซียมเวลากลางคืน
ลูกน้องสามคนของเฮียเซียมยืนอยู่ใกล้ๆรถตู้ ทั้งสามคนกำลังถูกเฮียเซียมดุด่า
“ก็พวกมึงทำงานไม่ได้เรื่องเอง คราวหน้าค่อยมาเอาตังค์กลับไปได้แล้ว!!”
ลูกน้องทั้งสามคนขึ้นรถแล้วขับรถออกไปผ่านประตูบ้านที่เปิดอยู่
เฮียเซียมกดรีโมทเพื่อปิดประตูบ้านแล้วกำลังจะเดินเข้าบ้านไป
รถแต่งซิ่งสีฉูดฉาดเปิดเพลงแร๊พเสียงดังวิ่งเข้ามาจอด
ลูกน้องเอ็ดดี้ 4 คนลงมาจากรถ
ชาย 1 โบกมือให้เฮียเซียมพร้อมชูท่อแป๊บเหล็ก
เฮียเซียมเห็นพวกนี้ที่หน้ารั้วบ้านก็กลัวรีบวิ่งหนีเข้าบ้านไป
ภายในบ้าน
เฮียเซียมกำลังกดโทรศัพท์ด้วยมือที่สั่นระรัวด้วยความกลัว
แล้วก็ได้ยินเสียงทุบกระจกดังมาจากหน้าบ้าน
เฮียเซียมเข้าไปหลบหลังโซฟา เฮียเซียมเอาโทรศัพท์มาแนบหู
“อาเอ็ดดี้อาเอ็ดดี้ฟังเฮียก่อนนะ”
แล้วก็มีเสียงแจกันแตก เฮียเซียมลุกขึ้นไปดู ก็เห็นชายทั้งสี่คนอยู่ในห้อง แล้วทุกคนมีอาวุธในมือ
“พวกมึงใจเย็นๆก่อน กูคุยกับเอ็ดดี้แล้ว”
เฮียเซียมกดเปิดสปีกเกอร์โฟนแล้วหันออกหาทั้งสี่คน
“เฮียเจอลูกน้องผมรึยัง” เอ็ดดี้ถาม
“เจอเลี้ยวๆ บอกให้มันกลับไปก่อน เฮียไม่เบี้ยวแน่นอน เห็นแก่เฮียเถอะน้าา”
“เฮีย!! ยืมผมไปเท่าไหร่”
ลูกน้องทั้งสี่เดินล้อมวงเข้าใกล้เฮียมากขึ้น เฮียเซียมก็ค่อยๆถอยไปเรื่อย
“ก็ประมาณห้าล้าน แต่เฮียมีเงินในแบงค์สามล้าน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะกดไปคืนให้”
“โอเค....โอเค”
ลูกน้องทั้งสี่คนหยุดเดินแล้วมองหน้ากัน
“งั้นคืนนี้ผมจะแค่เตือนเฮียไม่ให้ลืมเอาเงินสองล้านมาใช้ผมก็แล้วกัน”
เฮียเซียมมองลูกน้องทั้งสี่คนที่พุ่งเข้ามา ชาย 1 เอาแป๊บเหล็กพาดหน้าเฮียเซียม...
เฮียเซียมค่อยๆลืมตาขึ้นพบว่า ตัวเองถูกมัดอยู่กับเก้าอี้ที่มีล้อเลื่อน
เฮียมองตรงไปตามทางเดินยาวของบ้าน เห็นลูกน้องสี่คนของเอ็ดดี้ยืนเรียงอยู่
แต่ละคนถืออาวุธไม่มีคมในมือตัวเอง ทั้งแป๊บเหล็ก สนับมือ ประแจตัวใหญ่และโซ่เหล็ก
ชาย 1 เห็นเฮียเซียมได้สติ ก็กดโทรศัพท์แล้ววางไว้ที่พื้นตรงสุดปลายทางเดินในโทรศัพท์เห็นภาพเอ็ดดี้ในจอวีดีโอคอลอยู่ปลายสาย
เอ็ดดี้ถาม “มึงรู้ใช่มั้ยว่า…ธรรมเนียมของเรา คนที่ทำผิดกฎของแก๊งจะเกิดอะไรขึ้น....”
“อาเอ็ดดี้อย่าทำเฮียเลย” เฮียเซียมอ้อนวอน
เอ็ดดี้โกรธ “อย่าเสือกขัดจังหวะสิว๊ะ !”
ชาย 1 เข้าไปเอาประแจทุบเข่าเฮียเซียม เฮียร้องด้วยความเจ็บปวด แต่เฮีย 1 เอามือปิดปากเฮีย
“คนที่ทำผิดกฎจะต้องเดินผ่านสมาชิกแก๊งทุกคนไปให้ได้ จนกว่าจะไปถึงหัวหน้าแก๊งแล้วขอขมาเค้าแล้วหัวหน้าแก๊งก็จะให้อภัย”
เฮียเซียมร้องไห้ “อาเอ็ดดี้ เฮียอั๊วขอโทษ.. ไอ้พวกสโมสรมันโกงเฮีย ไม่งั้นเฮียก็ไม่เสียขนาดนี้หรอกเฮียสัญญา....”
เอ็ดดี้พูดขัด
“เฮีย..ถ้ามึงไม่เริ่มเดินมาหากู ... กูนับถึง 1 เมื่อไหร่ ... กูจะให้ไอ้พวกนี้เข้าไปหาเฮียละนะ... 10 9 8”
เฮียเซียมมองอาวุธในมือของแต่ละคนในขณะที่ฟังเอ็ดดี้นับถอยหลังไปเรื่อยๆ
เฮียเซียมรวบรวมความกล้า ไถตัวเองที่ติดกับเก้าอี้เข้าไปแล้วก็โดนชาย 1 ฟาดหน้ากระเด็น
ชาย 1 ถีบเฮียเซียมไปที่จุดตั้งต้น
“เร็วหน่อยเฮียกูไม่มีเวลาทั้งคืนนะ”
เฮียเซียมพุ่งเข้าไปอีกครั้งแต่ก็หมุนตัวหันหลังก่อนที่จะถึง ชาย 1 ฟาดโดนพนักชาย 3
ชาย 3 ใช้โซ่ฟาดที่ตัวเฮียเซียม เฮียเซียมร้องด้วยความเจ็บปวดจนขยับต่อไปไม่ได้
ชาย 4 เลื่อนเฮียเซียมไปที่จุดตั้งต้นใหม่
“You bored me the fuck out เฮียใกล้แล้วพยายามหน่อยสิว๊ะ”
เฮียเซียมเลือดเต็มหน้าปนกับน้ำตาและน้ำลาย
“พอแล้วๆปล่อยเฮียไปเหอะ แล้วไปช่วยเฮียตามหาไอ้เด็กนั่น”
เอ็ดดี้ตะคอก “พูดเหี้ยไรว๊ะรำคาญจัดการให้แม่งจบๆไป”
ทั้งสี่คนจะเข้าไปหาเฮียเซียม แต่แล้วก็มีเสียงเพลงแร๊พดังกระหึ่มมาจากข้างนอก
เอ็ดดี้ถาม “เสียงเหี้ยไรว๊ะ!!”
“มาจากข้างนอกพี่" ชาย 1 บอก แล้วหันไปบอกกับชาย 4 " มึงไปดูที่รถดิ๊น่าจะเป็นลูกน้องแม่งกลับมา” ชาย 1 บอก
ชาย 4 ควักปืนออกมาแล้ววิ่งออกไป คนที่เหลือเริ่มควักปืนออกมาแล้วขึ้นลำ
ชาย 1 เอาปืนจี้เฮียเซียม
“มึงโทรเรียกมันมาใช่มั้ย”
“อั๊วไม่ได้เรียก… อั๊วไม่รู้”
ชาย 1 ส่งซิกให้ชาย 2 - 3 ไปดูรอบๆ ทั้งสองค่อยเดินออกไป
ในห้องครัว
ชาย 2 มือหนึ่งถือปืน มือหนึ่งถือโทรศัพท์เพื่อส่องสว่าง
ความสว่างของไปมือถือส่องไปข้างหน้าเขาไม่กี่เมตรแล้วเขาก็เห็นเก้าอี้โยกตัวโยกตัวนึงโยกอยู่
ชาย 2 กระชับปืนในมือเดินเขาไปหาเก้าอี้ตัวนั้น
บริเวณหน้าบ้าน
ชาย 4 เห็นรถที่พวกตัวเอง ประตูรถถูกเปิดไว้เสียงเพลงดังออกมาจากรถ ชาย 4 กวาดปืนมองไปทั่ว แล้วเดินไปที่รถ
ชาย 4 มองเข้าไปในรถก็ไม่มีอะไร ก่อนจะเอื้อมมือเข้าไปจะกดปิดเครื่องเสียง
ในห้องครัว
ชาย 2 อ้อมไปดูหน้าเก้าอี้ก็เห็นแต่เก้าอี้ที่ว่างเปล่า
ที่รถ
ชาย 4 กำลังกดสวิทซ์เครื่องเสียง เเต่ก็มีปืนมาจ่อที่หัว
เรย์ที่ใส่หมวกปิดบังใบหน้าโผล่มาจากเบาะหลัง
“ทิ้งปืน!! เเล้วเอามือจับไว้ที่พวงมาลัย”
ที่ครัว ... ชาย 2 กำลังจะเดินออกไปแต่ก็คนโผล่จากเงามืด เอามือมาปิดปากชาย 2 แล้วกระชากตัวไปแนบกับปืนจ่อที่แนวไขสันหลัง ชายคนนั้นคือตี๋ใหญ่ที่ใส่หน้ากาก
“วางปืนลง”
ชาย 2 กำลังจะวางปืน
แต่ชาย 3 ก็เข้ามาในห้อง เห็นตี๋ใหญ่จี้ชาย 2 อยู่
ชาย 3 เอาปืนเล็งที่ตี๋ใหญ่
“เฮ้ยๆอย่ายิงนะเว้ย !” ชาย 2 บอก
ตี๋ใหญ่รีบหลบหลังชาย 2 โผล่มาแค่ดวงตากับหน้าผากเพื่อให้เป็นเป้าเล็กที่สุด
ชาย 3 บอก “ไอ้สัดมึงปล่อยเพื่อนกูนะเว้ย! มึงไม่รอดหรอก พี่เอ็ดดี้เรียกคนมาเพิ่มแล้ว”
ตี๋ใหญ่ดันชาย 2 ออกมาเข้าใกล้ชาย 3เรื่อยๆ
ชาย 3 พยายามจะเบี่ยงตัวหามุมยิง
แต่ตี๋ใหญ่ก็หันตัวชาย 2 เป็นโล่ห์กำบังแล้วเดินเข้าใกล้เรื่อยๆจนถึงระยะห่างไม่กี่เมตร
ชาย 3 “เฮ้ย ! มึง....หยุด !”
ตี๋ใหญ่ยิงชาย 2 แบบเผาขนหลายนัด กระสุนทะลุจากตัวชาย 2 ไปโดนชาย 3
ที่รถ เรย์จับส้มมัดไว้กับพวงมาลัยด้วยกุญแจมือพลาสติก เรย์ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากในบ้าน
โถงทางเดินในบ้าน
ชาย 1 ที่อยู่กับเฮียเซียมก็ได้ยินเสียงปืนเช่นกัน
เอ็ดดี้ที่ยังไม่ได้วางวีดีโอคอลก็มองเหตุการณ์สดๆที่เกิดขึ้น
เห็นเป็นภาพจากกล้องโทรศัพท์
ชาย 1 ตะโกนถามชาย 2-3 “เฮ้ย!!! เกิดไรขึ้นว๊ะ”
แล้วก็มีเงาคนเข้ามาแย่งปืนชาย 1 ทั้งสองแย่งปืนต่อสู้กันไปมา
เฮียเซียมดูการต่อสู้อยู่อย่างตื่นเต้น
เอ็ดดี้ที่อยู่ในโทรศัพท์ก็ลุ้นว่าเกิดอะไรขึ้น สักพักก็มีเสียงปืนดังขึ้นมา เลือดสาดเต็มหน้าชาย 1
ศพชาย 1 ล้มลงที่หน้ากล้อง แน่นิ่งไม่ไหวตึง
ตี๋ใหญ่ที่ใส่หน้ากากเข้าไปแกะมัดเฮียเซียม
“เฮ้ยเฮ้ย!!! มึงอ่ะ”
ตี๋ใหญ่หันมามองโทรศัพท์เอ็ดดี้ที่พื้น
“กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงเป็นใคร แต่วันนี้มึงฆ่าลูกน้องกู มึงจะพาลูกพี่มึงหนีไปไหนก็ได้ แต่กูรับรองว่ากูจะหามึงเจอแล้วมึงจะได้...”
ตี๋ใหญ่ยิงโทรศัพท์ที่มีเอ็ดดี้อยู่ในจอ พัง !
เรย์ที่ใส่หน้ากากวิ่งเข้ามาหาตี๋ใหญ่แล้วมองสภาพรอบๆ
“ไหนบอกว่าจะไม่ฆ่าใครไง”
ตี๋ใหญ่ไม่สนใจรีบแกะเชือกที่มัดเฮียเซียมอยู่
“ขอบคุณมากๆที่ช่วยอั๊วไว้”
ตี๋ใหญ่แกะเชือกไปด้วย
“เด็กคนที่คุณลักพาตัวไปตอนนี้อยู่ไหน”
“เด็กไหนเหรอ ช่วยกูออกไปก่อน”
ตี๋ใหญ่ต่อยท้องเฮียเซียม
“ก็คนที่มึงมาเอาตัวขึ้นรถตู้ไปหลังคาสิโนไง”
“มันหนีไปแล้ว รีบพากูไปจากที่นี่ก่อนเหอะ ไม่รู้พวกมันจะตามมาเมื่อไหร่”
เรย์บอกกับตี๋ใหญ่
“ไปจากที่นี่กันก่อนเถอะค่ะ”
ตี๋ใหญ่เข็นเฮียเซียมออกไปโดยไม่ได้แกะเชือก
ตี๋ใหญ่กับเรย์ช่วยกันเข็นเฮียเซียมออกไปที่ประตูหน้าแล้วก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามา
รถตู้คันหนึ่งวิ่งเข้ามาจอด ประตูรถเปิดออกกลายเป็นสมุนเอ็ดดี้ 10 คนกรูกันลงมา
ตี๋ใหญ่เรย์และเฮียเซียมนั่งแอบอยู่ที่หลังโซฟาข้างนอกเห็นลำไฟฉาย นับสิบอันส่องเข้ามาในบ้าน
เรย์กลัวหายใจถี่
“น่าจะมีเกินสิบคน”
ตี๋ใหญ่เอาแม็กกาซีนออกมาเช็ค
“8 คนรวมคนที่คุณไม่ได้ฆ่าตอนแรก”
เรย์ถามตี๋ใหญ่ “เอาไง”
ตี๋ใหญ่ถามเฮียเซียม “มีที่ให้ซ่อนมั้ย”
เฮียเซียมเริ่มร้องไห้และสวดมนต์อีกครั้ง สติแตก
ตี๋ใหญ่เห็นอาการเฮียเซียมก็ถอดใจ
ตี๋ใหญ่ชี้ให้เรย์หลบอยู่หลังโซฟา... เรย์พยักหน้ารับ
ตี๋ใหญ่บอกเฮียเซียม
“ถ้ามึงอยากรอด มึงทำตามที่กูบอก”
แล้วทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงถีบประตูเข้ามา
ลูกน้องเอ็ดดี้ค่อยๆทยอยกันเข้ามา
แล้วตี๋ใหญ่ก็ออกมาพร้อมเฮียเซียม ปืนทุกกระบอกเล็งไปที่ตี๋ใหญ่
ตี๋ใหญ่ไม่ใส่หน้ากาก “กูเอง!!”
ลูกน้องเอ็ดดี้งง
เฮียเซียมนั่งอยู่เก้าอี้ตรงข้ามเอ็ดดี้ เลือดยังเปรอะตามตัวอยู่ โดยมีตี๋ใหญ่ยืนอยู่ข้างเฮียเซียม
เอ็ดดี้มองตี๋ใหญ่
“สรุปคือลูกน้องเฮียเซียมกลับมาช่วยเฮียแล้วฆ่าไอ้พวกนั้น แต่มึงตามมาแล้วสู้กับลูกน้องเฮียจนลูกน้องไอ้เฮียหนีไป!?”
เอ็ดดี้มองตี๋ใหญ่
“แล้วมึงตามพวกนั้นไปทำเหี้ยไรว๊ะ !”
“ก็ผมรู้อยู่แล้วว่า เฮียแม่งก็มีลูกน้องอยู่เหมือนกัน ผมเห็นมันกับลูกน้องที่บ่อน21 บ่อยๆพี่ส่งไปแค่ 4 คน ผมก็เลยตามไปสมทบ”
“กูไม่ได้สั่งให้มึงไป !...”
“ถ้าผมไม่ตามไป ป่านนี้เฮียมันก็หนีไปแล้ว”
เอ็ดดี้กระโดดข้ามโต๊ะแล้วพุ่งมากระชากคอตี๋ใหญ่
“มึงต่อปากต่อคำกะกูเหรอ คนที่ทำยังงี้กะ กูแม่งโดนตัดลิ้นมาหลายคนแล้ว มึงรู้มั้ย ?!”
“ถ้าพี่คิดว่าผมทำไม่ถูก พี่จะทำอะไร ผมก็เชิญเลย..”
เอ็ดดี้มองหน้าตี๋ใหญ่ที่มองกลับมาโดยไม่สะทกสะท้านอะไร
“ไอ้เฮีย... กูบอกแล้วว่า ให้รีบมาขอขมากู มึงกลับให้ลูกน้องมึงเล่นงานลูกน้องกู !”
เฮียเซียมเหงื่อแตกแล้วมองไปทางตี๋ใหญ่แล้วมองกลับมาทางเอ็ดดี้
“ถ้าเฮียบอกความลับลื้อเรื่องนึง มันสำคัญมาก ลื้อจะให้อภัยอั๊วมั้ย”
ตี๋ใหญ่มองเฮียเซียมอย่างกังวล
“ความลับเหี้ยอะไร !” เอ็ดดี้ถาม
เฮียเซียมมองตี๋ใหญ่อีกครั้ง
เฮียเซียมบอก
“มันเป็นคนฆ่าลูกน้องอาเอ็ดดี้เอง”
เฮียเซียมเล่าต่อ
“เฮียไม่รู้มันทำทำไม แต่มันถามหาไอ้เด็กที่โกงไพ่ อั๊วสงสัยมันจะเป็นพวกเดียวกันแน่ๆ”
ตี๋ใหญ่มองแบบไม่แคร์
ชาย 4 ก้าวออกมา
“เออ... ผมก็ว่าแม่งแปลกๆ ผมไม่เห็นพี่ตี๋ใหญ่เข้าบ้านไปเลย”
เอ็ดดี้มองตี๋ใหญ่แบบโกรธจัด
ในป่าตอนกลางคืน
เฮียเซียมนั่งคุกเข่าอยู่กับตี๋ใหญ่ ทั้งสองถูกมัดมือไพล่หลัง
ข้างหน้าของทั้งสองเป็นหลุมลึกขนาดพอดีสองคน
รอบๆมีลูกน้องเอ็ดดี้พร้อมพลั่วในมือ บางคนถือปืน
เฮียเซียมบอก
“อั๊วอุตส่าห์ช่วยลื้อจับหนอนบ่อนไส้แล้ว ปล่อยอั๊วไปเหอะ”
“ถ้ามึงไม่เบี้ยวเงินอั๊ว ลูกน้องอั๊วจะตายมั้ย”เอ็ดดี้ถาม
เอ็ดดี้เอาปืนฟาดหัว เฮียเซียมเซไปแล้วพยายามฝืนตัวไม่ให้ล้มลงหลุม
เอ็ดดี้เอาปืนมาจ่อหัวตี๋ใหญ่
“มึงทำงานให้ใครกันแน่”
ตี๋ใหญ่มองไปในหลุมที่อยู่ตรงหน้า เขาก็เห็นหลินนั่งอยู่ที่ขอบหลุมฝั่งตรงข้ามแล้วยิ้มให้เขา
“มึงจะทำอะไรก็รีบทำกูรำคาญ !”
เอ็ดดี้เอาปืนฟาดตี๋ใหญ่ ตี๋ใหญ่เซจะล้มลงหลุม แต่เอ็ดดี้คว้าคอเสื้อตี๋ใหญ่ไว้แล้วกระชากกลับมา
แล้วซ้อมตี๋ใหญ่เป็นการใหญ่
“มึงทำงานให้ใคร ?! บอกกูมา....กูจะให้มึงตายเร็วขึ้น! สโมสร หรือไอ้เหี้ยแรม ?”
ตี๋ใหญ่เหมือนจะพูดอะไรบางอย่างเบาๆ
เอ็ดดี้จิกหัวตี๋ใหญ่ขึ้นมาแล้วฟังใกล้ๆตี๋ใหญ่พ่นเลือดใส่หน้าเอ็ดดี้
“Mother Fucker !”
เอ็ดดี้จ่อปืนไปที่หัวตี๋ใหญ่
“ถ้าอาเอ็ดดี้ปล่อยเฮียไปนะ เฮียจะช่วยสืบว่ามันเป็นใคร เชื่อเฮีย...เฮียมีเส้นสายเยอะ....”
เอ็ดดี้หันปืนไปยิงเฮียเซียมแสกหน้า เฮียเซียมล้มตกลงหลุมไป
“พูดมากชิบหาย Annoy as fuck" เอ็ดดี้พูดกับตี๋ใหญ่ " มึงอยากตามมันไปใช่มั้ย ?”
เอ็ดดี้เอาปืนจ่อหันไปทางตี๋ใหญ่
ตี๋ใหญ่หลับตา
เอ็ดดี้ยิงใส่ตี๋ใหญ่ไม่ยั้งจนหมดแม็ก
แต่เอ็ดดี้เล็งปืนเบี่ยงจากหัวตี๋ใหญ่ไปไกล
“คนทรยศกูกูไม่ให้ตายง่ายๆหรอก...Fuck !”
เอ็ดดี้ถีบตี๋ใหญ่ลงหลุม
เอ็ดดี้พูดกับลูกน้อง “ฝังมัน !”
ลูกน้องเอ็ดดี้ช่วยกันเอาพลั่วโกยดินกลบตี๋ใหญ่
ตี๋ใหญ่มองเห็นหลินนั่งอยู่ที่ปากหลุม ...
ตี๋ใหญ่มองขึ้นไปก็เห็นลูกน้องเอ็ดดี้โกยดินใส่ตัวเองแล้วก็มีเอ็ดดี้ที่ตะโกนอะไรบางอย่างลงมาที่เขา
แต่เพราะเสียงปืนที่ดังระยะใกล้ทำให้หูเขาอื้อจนเขาฟังไม่รู้เรื่องแล้ว
ตี๋ใหญ่ล้มลงนอนหันไปอีกข้างนึงของหลุมก็เห็หลินล้มตัวลงนอนสบตากัน
ตอนแรกตี๋ใหญ่เหมือนจะยอมตายรับชะตากรรม แต่ก็เปลี่ยนเป็นดุดันแค้นในที่สุด
ตี๋ใหญ่สังเกตเห็นสีหน้าของหลินเปลี่ยนไป ทั้งสองสบตากันเป็นครั้งแรก
ภายนอกตึกเห็นเเรงระเบิดขนาดใหญ่พุ่งออกมานอกตึก
ตี๋ใหญ่เห็นคนคล้ายเอ็ดดี้ไล่ล่าผ่านหน้าเค้าไป ...
ตี๋ใหญ่กัดฟันด้วยความโกรธมองไปที่เอ็ดดี้
ตี๋ใหญ่กัดฟันตะโกน “เอ็ดดี้ เอ็ดดี้ !”
เอ็ดดี้ทำมือให้ลูกน้องหยุดโกยดิน
ตี๋ใหญ่บอก “ครั้งหน้าถ้ากูเจอมึง! สิ่งสุดท้ายที่มึงจะเห็นก่อนตายคือหน้ากู !”
เอ็ดดี้อึ้งไปแล้วหัวเราะออกมา
อีกนาน !... กว่ามึงจะเจอกูอีกก็ในนรก”
เอ็ดดี้ตักดินก้อนใหญ่มากลบหน้าตี๋ใหญ่
ตี๋ใหญ่พลิกตัวคว่ำลงงอเข่าเข้าหาตัวแล้วพยายามกดหน้าผากให้ติดพื้น และยกจมูกให้ห่างพื้นมากที่สุด เพื่อเวลาดินกลบจะได้มีช่องว่างให้มีอากาศหายใจ
ตี๋ใหญ่พยายามหายใจออกทางปาก
แต่ลูกน้องเอ็ดดี้ก็โกยดินถาโถมเข้ามามากขึ้น
ดินกลบตัวตี๋ใหญ่มิด
ผ่านเวลา
ดินที่เพิ่งถูกฝังกลบใหม่ๆถูกน้ำจากสายยางรดจนชุ่ม คนที่ถือสายยางนั้นคือ เรย์
เรย์ทิ้งสายยางแล้วเริ่มใช้พลั่วขุด
เรย์ขุดไปเรื่อยๆก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอตี๋ใหญ่พอเจอดินแข็งอีก เรย์ก็ใช้สายยางรดน้ำเพิ่มอีก
“ธาวินธาวินได้ยินชั้นมั้ย ! ธาวิน !”
เรย์ขุดต่อไป แต่ก่อนที่เรย์จะปักพลั่วลงไป เรย์ก็เห็นนิ้วมือคนโผล่ขึ้นมา
เรย์ใช้มือเปล่าตะกุยดินรอบๆจนมือโผล่แล้วดึงมือนั้นขึ้นมาเป็นมือเฮียเซียม .... เรย์ตกใจ
แต่ยังไม่หยุดหาเธอคิดว่าตี๋ใหญ่ต้องอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนี้แน่ๆ ... เรย์ย้ายที่ขุด....
แล้วสุดท้ายเธอก็เจอตี๋ใหญ่ .... ช่วยตี๋ใหญ่ขึ้นมาได้
ตี๋ใหญ่ตัวเปื้อนดินทั้งตัวถูกดึงขึ้นมาสำเร็จ
ตี๋ใหญ่หายใจเอาอากาศเข้าไปอย่างทุลักทุเล
“ค่อยๆหายใจ ... คุณไม่เป็นไรแล้ว”
เรย์มองไปที่หลุมก็เห็นเฮียเซียมนอนอยู่ในนั้น
ตี๋ใหญ่กับเรย์อยู่ด้วยกันตี๋ใหญ่หน้าไม่เปื้อนดินแล้วแต่ตัวยังเปื้อนอยู่
“เจอพาสเวิร์ดมั้ย??”
เรย์ส่ายหน้าสีหน้าเศร้ารู้สึกผิด
“เอางัยกันต่อดี ...ตอนนี้เอ็ดดี้รู้แล้วว่าคุณเป็นสาย ส่วนชั้นก็โดนพักงานเพราะมีบางคนบอกหัวหน้าว่าชั้นปลอมประวัติ”
ตี๋ใหญ่เสียงเครียด
“ไม่เป็นไรผมจะทำตามวิธีของผมเอง”
"คุณช่วยชั้นหน่อยได้มั้ย"
ตี๋ใหญ่มองเรย์
ในสำนักงานที่ตำรวจทำงานกันขวักไขว่ รองฯเผด็จกับทองดีก็อยู่ในนั้นด้วย ตี๋ใหญ่เปิดประตูเข้าไป
เผด็จและทุกคนหันมามองสภาพตี๋ใหญ่ก็อึ้งๆ
ก่อนหน้านี้เรย์บอกว่า
“คุณไปบอกกับหัวหน้าว่าคุณถูกเอ็ดดี้จับได้ว่าเป็นสาย”
ตี๋ใหญ่พูดอะไรบางอย่างกับเผด็จ ...
“หัวหน้าก็คงให้คุณหลบไปเซฟเฮ้าส์ที่ไหนสักแห่งก่อน”
ตี๋ใหญ่เจ็บใจ
“คุณอาจจะเจอคนเป็นคนที่กล่าวหาว่าชั้นสร้างประวัติปลอม ถ้าหาได้คนๆนั้นแหละที่เป็นคนปล่อยข้อมูลให้พาสเวิร์ดไปหาคุณ เราอาจจะเจอพาสเวิร์ดได้ง่ายขึ้น”
ตี๋ใหญ่มองตำรวจทุกคนที่อยู่ในห้อง
“แล้วคุณสงสัยใครเป็นพิเศษรึป่าว”
“ก็คงเป็นคนที่หัวหน้าเชื่อใจที่สุด”
ตี๋ใหญ่หันไปมองหน้าทองดี
“ผมมีที่นึงที่พอจะใช้ได้ครับหัวหน้า” ทองดีบอก
ภายในคุก
สัวกำลังนอนหันหลังอยู่แล้วผู้คุมก็เดินเข้ามาที่หน้าประตูเขาเอากระบองเคาะลูกกรง
“ได้เวลาแล้ว”
สัวลุกขึ้นอย่างใจเย็นแล้วเดินมายืนตรงหน้าประตู เขาชูมือขึ้นสองข้าง แสดงให้เห็นว่าไม่มีอะไรแล้วประตูก็เปิดออก
สัวยืนอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์แล้วถุงทรัพย์สินของสัวถุงถูเปิดออก เห็นสูทและนาฬิกาแพงๆแว่นกันแดด
สัวเดินยาวๆ มีผู้คุมประกบจั๊มป์ๆไปจนไปออกประตูเรือนจำ
มีรถมาจอดเทียบ แรมลงมาส่งยิ้ม เปิดประตูให้เข้าไป
ตี๋ใหญ่เดินกลับเข้ามาในห้องจ่าทองดี เขามองไปรอบๆห้อง มีขวดอินซูลินเปล่าๆ
กับเข็มฉีดยาใช้แล้ววางอยู่ ใกล้ๆนั้นมีขวดเหล้าเปล่าๆวางอยู่แล้ว ตี๋ใหญ่เริ่มค้นห้อง
ตี๋ใหญ่เปิดลิ้นชัก เปิดตู้ค้นของอย่างระวัง เปิดสมุดบันทึกอ่านอย่างละเอียด แล้ววางกลับที่เดิม
เขาค้นจนทั่วแต่ก็ไม่เจออะไรน่าสงสัย
จนหันมาเห็นตู้หนังสือมันเต็มไปด้วยหนังสือกำลังภายใน
ตี๋ใหญ่มองไล่ไปจนไปสะดุดที่มังกรหยกภาค 2 ที่ขอบชั้นหนังสือตรงหนังสือนั้นไม่มีฝุ่นทั้งที่ข้างๆมี ตี๋ใหญ่หยิบมันออกมาดู
ในหนังสือนั้นมีหน้าหนึ่งถูกขั้นอยู่ ตี๋ใหญ่เปิดมันออกดูแล้วก็เห็นว่ามีสมุดบัญชีอยู่ข้างใน
ในสมุดบัญชีนั้นมีเงินโอนเข้าเดือนละหลายแสนและเบิกออกไปเป็นประจำ เสียงคนเดินคุยกัน
ก็ดังใกล้เข้ามา
เสียงทองดีว่า “ก็อยากให้นะ.. แต่เงินมันไม่พอแล้วน่ะสิ”
ตี๋ใหญ่ถ่ายรูปสมุดบัญชีและรีบเก็บสมุดบัญชีเข้าที่เหมือนเดิมแล้วเดินมาแอบฟังที่ประตู
ตำรวจเริ่มอารมณ์เสีย
“แล้วเอ็งจะตั้งกองทุนขึ้นมาทำไมว๊ะ ถ้าจะให้แค่คนไม่กี่คน"
“ใจเย็นๆน่า นี่ก็กำลังรีบหาอยู่ เอาเป็นว่าให้เบอร์ผมไว้ก่อน..”ทองดีว่า
“ข้าไปหาวิธีอื่นก็ได้ ...ยังไงก็ไม่มีใครเห็นค่าอยู่แล้ว”
เสียงตำรวจเดินออกไปอย่างอารมณ์เสีย
ตี๋ใหญ่ก็มองไปที่หนังสือมังกรหยกที่อยู่ที่ชั้น
ตอนกลางคืน บนดาดฟ้า บ้านพัก กรมตำรวจ
ตี๋ใหญ่ยืนอยู่ เขากำลังโทรศัพท์คุยกับเรย์
เรย์ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่บ้าน
“เรื่องกองทุนของพี่ทองดีเป็นกองทุนให้ตำรวจเกษียณ และบาดเจ็บพิการจากการปฏิบัติหน้าที่น่ะ”
“เป็นของใครแล้วทำไมต้องมีด้วย”
“ก็หลายๆคนร่วมมือกัน แต่หลักๆก็พี่ทองเป็นตัวตั้งตัวตี เรี่ยรายเงินมาช่วยตำรวจ.. คุณสงสัยอะไรหรอ..?”
“อืม...มีเงินเข้ามาทุกเดือนเดือนละหลายแสน”
“ก็เงินบริจาคไง..”
“ใครล่ะที่บริจาคเข้ามาเป็นก้อนใหญ่ๆไม่ใช่ทีละร้อยทีละพัน แล้วกองทุนก็ไม่ได้ดังอะไร ทำไมถึงมีคนให้เรื่อยๆ..”
เรย์คิดตาม
“แล้วคุณคิดว่าพี่ทองเอาเงินนอกกฏหมายมาให้ตำรวจเนี่ยนะ”
“ผมก็ยังไม่แน่ใจจะลองตามดู”
“ระวังตัวนะ
" ได้ข่าวเหวิ่ดบ้างมั้ย"
“อืม...ยังเลย …..”
ตี๋ใหญ่นิ่งๆไป
เรย์รู้สึกผิด
แรมเดินตามหลังสัวมาตามทางเข้า Last Day Pub มันค่อนข้างมืด มีเพียงแสงไฟสลัวๆ ลูกน้องเดินตามสัวมา 2 คน พอเปิดเข้าไปอีกห้องก็มีพระหนึ่งรูปรออยู่แล้ว
“หลวงพี่มารอแล้ว .. ตามที่สั่งให้นิมนต์มา”แรมบอก
สัวเดินไปลงนั่ง ไซเรนส่งชุดสังฆทานให้สัว หันมองสบตาแบบจำได้
พระสวดสัวรับพร พระรดน้ำมนต์เสื้อเปียกสัวกราบ แรมนั่งมองเบื่อๆ ไซเรนส่งชุดใหม่ให้สัว
สัวเดินลงมานั่งชี้ไปที่ไซเรน
“มึงมาทำไรที่นี่”
“ไซเรน!! เราให้มันมาช่วยงานน่ะ”
“กูรู้มันเคยเจอกูข้างใน ไม่เข็ดรึไงมึง?”
แรมพูดกับไซเรน “โอ้..”
สัวเดินสำรวจไปรอบๆจนมาจบที่บาร์
“เนี่ยนะบาร์! ที่มึงใช้เงินกูสร้าง" สัวมองไปรอบๆ "นี่มันร้านเหี้ยอะไรว๊ะ!!”
“ลาสเดย์มันมีตีมนะ... คือให้ที่นี่มันเป็นวันสุดท้ายไง”
สัวมองแบบสมเพส แรมกวักมือให้สาวเอ็กซ์สองคนมาบริการสัว รินเหล้าให้สัวจิบ
แรมรายงาน
“ตอนนี้เอ็ดดี้กับปารเมศมันจับมือกันแน่เลย อีกนิดคงจูบปากกันแล้วก็…”
แรมยังพูดไม่จบสัวก็แทรกขึ้น
“กำลังคิดจะเขี่ยเราออก กูรู้ กูบอกแล้วถึงอยู่ข้างใน กูก็ยังรู้มากกว่ามึง..”
แรมยิ้มให้สัวอย่างกวนตีน สัวมองกลับท่าทางเคร่งเครียด
“มึงอย่าลืม..ว่ากูเป็นคนเริ่มธุรกิจนี้มาตั้งแต่มึงยังเป็นไอ้ขี้ยาข้างถนน”
“เราว่า..อย่าพึ่งคุยเรื่องงานกันเลย ปาร์ตี้กันดีกว่า... สนุกๆกัน”
เพลงดังขึ้น หญิงสาวแต่งตัวเซ็กซี่ 2 คนมาหาสัว พวกเธอนัวเนียสัวทันที แต่ตาของสัวยังจ้องแรมอยู่
“นัดปารเมศเร็วที่สุด”
สัวมองไปที่แรม แรมยิ้มกว้างให้สัว
เด็กส่งเหล้าให้สัว สัวรับไว้แล้วกระดกหมดแก้ว เขาทิ้งตัวลงที่โซฟา หญิงสาวคนหนึ่งนั่งตัก
อีกคนนั่งข้างๆทั้งสามนัวเนียกัน
ตี๋ใหญ่นอนอยู่ที่โซฟา
ทองดีเดินออกมาจากห้องนํ้า เขาแต่งตัวเสร็จแล้วแล้ว เดินมาที่ชั้นหนังสือ
ทองดีหันไปมองตี๋ใหญ่ที่ยังนอนหลับสนิทอยู่
ทองดีออกไปจากห้อง ทันทีที่ประตูปิดลงตี๋ใหญ่ก็ลืมตาขึ้นทันที
ตี๋ใหญ่เดินมาที่ชั้นหนังสือหยิบมังกรหยกออกมาแล้วเปิดออกดูสมุดบัญชีไม่อยู่ในนั้น
ตี๋ใหญ่เดินตามทองดีห่างๆจนเห็นเข้าแบงค์ไป
สัวนั่งอยู่ที่โต๊ะ รอบๆเป็นดีเลอร์ 4-5 คน เก้าอี้ตัวหนึ่งว่างอยู่ ไซเรนยืนห่างๆ
สัวบอก “เอาเป็นว่าทำตามนี้”
ลูกน้องเก่า1 “เอื่อมมมม…พี่แล้วแรมจะยอมหรอ”
ลูกน้องฺเก่า2 “ช่ายพี่พี่แรมไม่ให้ส่งของแบบนี้”
“โอเคออกไป!!”
ลูกน้องฺเก่า2 “ไป……. ยังไงพี่”
“กูบอกให้ออกไปไง !!”
ลูกน้องทุกคนสีหน้ากังวล
ลูกน้องเก่า1 : “ถ้าพี่ว่าอย่างงั้นพวกผมก็ตามพี่”
สัวคว้าฆ้อน ถีบเก้าอี้คนหนึ่งหงายล้ม ทุบอีกคนร่วงไปแล้วตามไปซ้ำอย่างโหด
หน้าลูกน้องโดนเลือดกระเด็นใส่ เหวอๆ
ไซเรนอึ้งไป
“ไซเรน …มึงไปกับกู”
ภายในสโมสร
“สวัสดีครับคุณสัว”
ปารเมศยืนมือมาจับ
สัวมองยิ้มตอบมอบเหล้าแพงๆให้
“สวัสดีครับ”
“ยินดีที่คุณสัวกลับมานะครับ”
“ที่ผ่านอาจจะมีความคลาดเคลื่อนบางอย่าง ต่อจากนี้ไปจะมีแต่ความร่วมมือที่ดีต่อกันนะครับ”
ปารเมศพยักหน้าให้ลูกน้องมารับของ
“ยินดีครับ”
แรมเดินเข้ามาในห้อง
“พี่สัวไม่บอกว่าจะมาที่นี่ ...เราจะได้ขับรถให้” แรมว่า
แรมเดินเข้ามาแบบยิ้มๆพร้อมกับมุ้ย
บรรยากาศเงียบลง
“อ้าว...หมดสนุกเลย เราคงมาขัดจังหวะโทษทีๆ”
แรมหันหลังเดินออกไปแล้ววนกลับ เดินกลับมานั่งที่เก้าอี้อีกด้านหนึ่งของโต๊ะ
“ทางเรามีของขวัญให้คุณสัวด้วยนะครับ อินทรีย์คาบข่าวมาบอกว่า คนที่ทำคุณสัวเข้าไปพักร้อน .... เค้ายังมีชีวิตอยู่นะครับ และนี่ครับเผื่อคุณสัวอยากจะเจอเค้า”
ปารเมศยื่นกระดาษก่อนจะเดินออกไประหว่างผ่านแรม
“นายพูดเรื่องอะไรกันครับ ตำรวจนั่นตายโหงไปตั้งนานแล้ว”
สัวเดินผ่านแรมซัดกระดาษใส่หน้าแรม
“มึง!! ไปเช็คดูว่าจริงมั้ย!! แล้วจัดการให้เรียบร้อย”
ปารเมศเดินออกไป สัวอึ้งไป
แรมไม่เชื่อมองเซ็งๆ
ไซเรนช็อกดีใจแต่เก็บอาการไว้
ภายใน มุมกินข้าวอเวนิวแห่งหนึ่ง เวลากลางวัน
พนักงานธนาคารชาย 2 คนคุยกัน
ชาย 1 “เมื่อคืนมึงแทงไรว๊ะแม่ง!!เล่นกูแสบอีกแล้ว”
ชาย 2 “ห่า!! มึงติดโต๊ะขนาดนั้นเค้ายังให้มึงเล่นอีก”
“ก็เปลี่ยนชื่อดิ เด็กเดินโพยก็รู้จักกันลูกค้าเก่าแก่นะโว้ย!!”
“ถามจิงมึงค้างเท่าไหร่ ?”
“ห้า..”
“ห้าพัน!”ชาย 2 ว่า
“หมื่น!!!” ชาย 1 ตอบ
“เชี้ยยย!!! มึงเลิกได้แล้ว”
ตี๋ใหญ่นั่งแอบมองอยู่
ใกล้บัตรที่พนักงานแบงค์ที่ห้อยคออยู่ เป็นธนาคารเดียวกับที่ทองดีเข้าไป
ตี๋ใหญ่ใช้โทรศัพท์อัดวิดีโอไว้
ตี๋ใหญ่เดินตามพนักงานชายเข้าห้องน้ำก่อนดันเข้าส้วมไป
“ผมไม่ได้ง่ายนะ….”
ตี๋ใหญ่ทำสัญญานไม่ให้พูด ชักปืน เปิดคลิปช่วงติดเงินห้าหมื่น
“ผมคิดว่าแบ็งค์คงไม่โอเค ถ้าฝ่ายสินเชื่อติดพนันบอล”
พนักงานหน้าเสีย ตี๋ใหญ่ส่งเศษกระดาษให้
“ขอรายชื่อคนที่โอนเข้าบัญชีนี้ทั้งหมด…..”
ในมือของตี๋ใหญ่มีไลน์เข้า เค้าส่งต่อให้เรย์ มันเป็นบัญชีเงินที่ส่งเข้าบัญชีทองดี
ตี๋ใหญ่บอก “รายชื่อคนที่โอนเงินเข้าบัญชีทองดีนะ”
“คุณได้มายังไง”
“คุณลองเช็คประวัติดู ถ้าเรารู้ที่มาของเงิน อาจเป็นหลักฐานสำคัญ”
ตี๋ใหญ่จะวางสาย
“คุณกลับเถอะมันเสี่ยงไป”
“ไม่ต้องห่วงผม… ผมน่าจะได้ข้อมูลที่มากกว่านี้”
ภายในห้องแรม ใน Last Day Pub
แรมใส่หูฟังกำลังอินกับเพลง เผลอน้ำตาไหลออกมา
ขณะที่ไผ่หวานเสื้อผ้าหลุดลุ่ยเมายาแทบเดินไม่ได้ แรมโยนยาให้ ไผ่หวานงับเป็นหมาเลย
ไซเรนกับมุ๊ยเดินเข้ามาในห้อง ไซเรนตกใจมากทันทีเพราะเห็นภาพไผ่หวาน ไซเรนหันหน้าหนี
แรมมองหน้าไซเรน
แรมยื่นกระดาษให้มุ้ย
“มุ้ย... นายไปดูหน่อยว่าไอ้ตำรวจนี่มันยังมีชีวิตอยู่ใช่มั้ย? ถ้าอยู่ก็ฝากจัดการด้วยนะ”
ไซเรนตกใจมากทันทีที่ได้ยิน มุ้ยพยักหน้า
“เราขอภาพยืนยันการตายของมันด้วยนะ เอาให้ตายชัวร์ๆ เทวดาคุ้มครองมันเยอะ”
แรมดึงมือไผ่หวานอาจเล่นเกมส์ปักมีด ไผ่หวานกลัวสุดๆ ไซเรนเป็นห่วงบัญชา
ไซเรนรีบพูดแทรกขึ้นทันที
“งั้นผมไปด้วยละกันพี่”
“นายมาทำอะไรที่นี่ว๊ะ ทำไมไม่ไปดูแลพี่สัว”
แรมกับมุ้ยหันมามองไซเรน
“ยังไงก็ต้องมีคนช่วยดูต้นทางน่ะพี่..”
แรมมองหน้าไซเรนแรม ปักมีดพลาดโดนมือไผ่หวาน แล้วมุ้ยก็หันหลังแล้วเดินออกไป
ไซเรนหันกลับมามองไผ่หวาน ทั้งคู่จ้องตากันก่อนที่ไซเรนจะเดินออกไป
ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ตี๋ใหญ่เข้ามาในห้อง มองไปที่เตียง แต่มีม่านบังอยู่ ตี๋ใหญ่ค่อยๆเดินเข้าไป
แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นคือสารวัตรบัญชา
ตี๋ใหญ่มองไปรอบๆ บัญชายังไม่ตาย
ทันใดนั้นประตูห้องก็เปิดเข้ามา ตี๋ใหญ่ตกใจ แต่ซ่อนตัวไม่ทันแล้ว เขาเลยยืนอยู่ตรงนั้น
ธิชาเดินเข้ามาในห้องเธออยู่ในชุดผู้ช่วยพยาบาลพร้อมอุปกรณ์วัดความดัน ตี๋ใหญ่ยืนอึ้งขณะที่
ธิชายิ้มให้ตี๋ใหญ่อย่างสดใส
ตี๋ใหญ่เจอน้ำผึ้งเป็นตำรวจอยู่ในกลุ่มเดียวกับบัญชา
ตี๋ใหญ่มองธิชาอย่างอึ้งๆเพราะบุคลิกของน้ำผึ้งเปลี่ยนไปทุกอย่าง ทั้งทรงผม สีหน้าแววตาดูอ่อนแอผิดกับน้ำผึ้งมือขวาบัญชาคนเดิม
“เอ่อ...คุณนํ้าผึ้งคุณ…”
ธิชาหันมามองตี๋ใหญ่อย่างงงๆ
“ชั้นชื่อธิชาคะ เป็นผู้ช่วยพยาบาลที่นี่”
ตี๋ใหญ่ยังมองธิชาอย่างงงๆ ไม่แน่ใจ
ตี๋ใหญ่มองดูบัตรที่ติดหน้าอกก็เป็นหน้าน้ำผึ้ง แต่ชื่อธิชาจริงๆ
ธิชาวัดความดันไปด้วย
“คุณเป็นอะไรกับคนป่วยหรอคะ”
ตี๋ใหญ่ได้สติ
“ผมเป็นเพื่อนกับ...บัญชานะครับ”
“ไม่ทราบว่าคุณบัญชาเค้ามีเพื่อนคนอื่นด้วย ปกติเห็นมากันแค่ 2 คน”
“ผมพึ่งทราบข่าวนะครับ…..เค้าอยู่ที่นี่มานานรึยังครับ”
“ก็หลายเดือนแล้วนะคะ”
ธิชาตรวจความดันเสร็จแล้วเก็บเครื่อง ธิชายิ้มให้ตี๋ใหญ่
“ขอตัวนะคะ”
“ครับ”
แล้วธิชาก็เดินออกจากห้องไป ตี๋ใหญ่มองตามไปสีหน้าสงสัย
มุมหนึ่ง ตี๋ใหญ่กำลังคุยโทรศัพท์กับเรย์
เรย์มีสีหน้าช๊อกมาก
“คุณแน่ใจนะ”
เรย์อึ้ง
“คุณไม่รู้เรื่องหรอ”
“ไม่ค่ะ”
“งั้นก็แปลว่า มีไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้”
“ถ้าพี่ทองรู้ บางทีอาจจะเป็นแผนของหัวหน้า เราควรทำไง”
มีเสียงบางอย่างดังขึ้น ตี๋ใหญ่วางสาย
ไซเรนกับมุ้ยเดินตรงมาที่ห้องของบัญชา ไซเรนมองผ่านกระจกเข้าไปในห้องเห็นบัญชานอนอยู่บนเตียง
มุ้ยจับลูกบิดประตูเตรียมเปิดเข้าไป
ไซเรนรีบเอามือคว้ามือมุ้ยไว้
“คนนี้กูขอแม่งทำกับกูไว้เยอะ”
ไซเรนมองมุ้ยอย่างจริงจัง มุ้ยพยักหน้าแล้วปล่อยมือจากลูกบิดประตู
ไซเรนมองเข้าไปในห้องแล้วเปิดประตูเข้าไป
ไซเรนเดินไปเดินมาอย่างกลุ้มใจ เขาหันไปมองบัญชาอีกครั้ง แล้วไซเรนก็รีบเดินไปที่ประตู
มองมุ้ยที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ด้านนอกแล้วเดินกลับมาหาบัญชา ไซเรนเครียดมาก
“พี่ผมจะทำไงดีวะพี่ตื่นดิ”
ไซเรนเขย่าตัวบัญชา แต่บัญชาก็ไม่ได้สติ ไซเรนเครียดจัด มีแว๊บนึงที่เค้าคิดที่จะฆ่าบัญชาจริง
เพราะมีบัญชารู้เพียงคนเดียวว่าเค้าเป็นสาย
ไซเรนเดินไปใกล้
บัญชาเริ่มเอาสายออกซิเจนออก
ตี๋ใหญ่จ้องเขม็ง
ไซเรนสับสนมาก เค้าเอื้อมมือหยิบหมอนจะกดใส่หน้าบัญชา
ตี๋ใหญ่เตรียมจะออกมา
ธิชาพรวดเข้าไปในห้องของบัญชาเจอไซเรนสะดุ้ง
“คุณจะทำอะไรน่ะ!!!”
ไซเรนตกใจและตกใจขึ้นอีกเมื่อหันมาเห็นธิชา เขาคิดว่าธิชาคือน้ำผึ้ง
ไซเรนพุ่งเข้าไปหาธิชาทันที
“ทำไมไม่บอกว่าบัญชายังไม่ตาย คุณหายไปไหนมา?!”
ธิชาตกใจดิ้นจะร้องกรี๊ด แต่ไซเรนรีบเอามือปิดปากไว้
“เงียบ... เงียบก่อน!!”
ไซเรนถอดหน้ากากอนามัยออก
ตี๋ใหญ่ที่เห็นเหตุการณ์ในห้องน้ำเกือบพุ่งออกมา แต่ก็ชะงักเมื่อรู้ว่าเป็นไซเรน
“ผม...ไซเรนไงจำได้มั้ย??”
ธิชาไม่สนใจดิ้นอย่างหนัก
“นํ้าผึ้งดูดีๆ ผมไซเรนไง จำได้มั้ย”
ธิชาไม่สนใจเธอดิ้นอย่างหนัก เธอสะบัดหน้าออกจากมือไซเรน
“ชั้นไม่รู้จัก”
“ผมไซเรนไง”
“ปล่อย... ปล่อยนะชั้นไม่รู้จักคุณ”
“ผมไม่ปล่อย คุณต้องจำให้ได้ คุณเป็นความหวังสุดท้ายของผมแล้ว น้ำผึ้งคุณเป็นอะไรของคุณเนี่ย!!”
ธิชาจะตะโกนให้คนช่วย แต่ไซเรนรีบเอามือปิดปากไว้
มุ้ยเปิดประตูเข้ามาแบบนิ่งๆเดินตรงมาทุบน้ำผึ้งทรุดไป
“ยังไงมึง!!! ยังไม่ลงมืออีก!! มึงอยากทำเองไม่ใช่เหรอ” มุ้ยว่า
มุ้ยเดินไปเอามืออุดปากบัญชา ไซเรนยึกยัก ตี๋ใหญ่พรวดออกมา
มุ้ยตอกกลับใส่โดนตี๋ใหญ่หงายไปก่อน
มุ้ยคว้าปืนแล้วหันไปจะยิงตี๋ใหญ่
ตี๋ใหญ่คว้าข้อมือมุ้ยแล้วบิดปืนร่วงจากมือมุ้ยทันที
มุ้ยหันมาศอกตี๋ใหญ่กลับแล้วเท้าถีบมุ้ยกระเด็นเข้าไปในห้องน้ำผู้ป่วย
ตี๋ใหญ่หลบเข้าพุ่งเข้าต่อยมุ้ย แต่มุ้ยหันมาถืบตี๋ใหญ่กระเด็นออกไป
ตี๋ใหญ่พุ่งจะไปคว้าปืน แต่มุ้ยจับขาแล้วลากเข้ามาหาตัว
ตี๋ใหญ่พลิกตัวกลับมา
ตี๋ใหญ่ลุกขึ้นแล้วเดินตามเข้าไป
มุ้ยหงายหลังออกไป
ระหว่างสู้กันตี๋ใหญ่บอกให้ไซเรนพาบัญชาไปก่อน ไซเรนไปเอารถเข็นมา
พอดีกับที่ตี๋ใหญ่จัดการมุ้ยจนนิ่งไป
ไซเรนเย่าตัวน้ำผึ้ง
“น้ำผึ้งๆ”
“รีบช่วยผมพาบัญชาออกจากที่นี่ก่อน”ตี๋ใหญ่บอก
ตี๋ใหญ่มองไซเรนระหว่างเอาบัญชาขึ้นรถ ทั้งคู่พูดกัน
“เธอไม่ใช่นํ้าผึ้งที่คุณรู้จักหรอก”
ไซเรนมองตี๋ใหญ่อย่างสงสัย
“เธอบอกว่าเป็นแค่พยาบาลที่ดูแลบัญชาอยู่เท่านั้น”
“ผมไม่เข้าใจ”
ตี๋ใหญ่มองดูไซเรนที่กำลังเครียดมากทั้งคู่เข็นบัญชาไป
ตี๋ใหญ่กับไซเรนเข็นเตียงที่มีบัญชานอนอยู่ไปมาตามทางเดิน ทั้งสองใส่ผ้าปิดปาก
ทั้งคู่เข็นผ่านพยาบาลที่เหมือนได้ยินเสียงตึงตังมุ่งหน้าไปที่ห้องบัญชาแล้วเข็นเลี้ยวเข้าไปโซนปิดปรับปรุง
“คุณมาที่นี่ทำไม ?”ตี๋ใหญ่ถาม
“แรมสั่งให้ผมมาฆ่าบัญชา จริงๆแล้วผมเป็นสายให้ตำรวจ คนที่รู้เรื่องนี้มีแค่บัญชากับนํ้าผึ้ง”
“แล้วแรมรู้ได้ไงว่าบัญชาอยู่ที่นี่”
ทั้งคู่หยุดที่หัวมุมให้ยามวิ่งผ่านไป
“ผมไม่รู้แล้วคุณล่ะมาทำไม ผมจะไว้ใจคุณใช่มั้ย?”
“คุณรอถามรองฯเผด็จก็ได้”
ไซเรนยังมองตี๋ใหญ่อย่างไม่มั่นใจ
พยาบาลและยามมาช่วยพยุงธิชา
“คนไข้ … คุณบัญชา… คุณบัญชา…”
หน้าห้องประตูเปิดออก
ยามสองคนวิ่งออกมาพูด ว.
ทองดีโทร.มาหาเผด็จ เผด็จรับโทรศัพท์
“โรงพยาบาลโทร. มาบอกว่ามีคนมาเอาตัวบัญชาไปครับ”
“อะไรนะ!!!”
รองฯ เผด็จผลุนผลันออกไป
ระหว่างเข็นเตียง
“แรมรู้ว่าบัญชาอยู่ที่นี่ได้ยังไง??”
“ปารเมศบอกมาอีกที แต่ผมไม่รู้ว่าปารเมศรู้ได้ไง มันบอกแค่ว่ามีอินทรีย์คาบข่าวมาบอก”
ตี๋ใหญ่ครุ่นคิด
“ถ้าพวกมันรู้ว่า บัญชายังไม่ตาย เดี๋ยวมันก็ส่งคนมาฆ่าอีก”
ไซเรนพูดไม่ทันขาดคำ มุ้ยที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้แท็กตี๋ใหญ่ล้มไป ปืนกระเด็นไปไกล
ตี๋ใหญ่ไล่ให้ไซเรนพาบัญชาไปก่อนเกิดการต่อสู้อีกหนึ่งชุด
ทองดียืนรอรายงานเผด็จ เผด็จเข้ามา ทั้งคู่ไปเจอธิชาที่กำลังทำแผลออยู่
“มีคนบุกเข้ามาครับไม่รู้มันเข้ามาได้ไง”
ทองดีเดินเข้ามาในห้องของบัญชา ทองดีมองไปรอบๆห้องอย่างซีเรียส
“มีศพคนร้ายด้วยครับ อยู่ด้านหลัง”
“คุณไปเช็คดูหน่อย”
เผด็จเข้าไปคุยกับธิชาเพื่อสืบคดี
ท่าทางธิชายังคงหวาดกลัวจากเหตุการณ์
เผด็จค่อยๆถามธิชาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“คุณอยู่ในเหตุการณ์ใช่มั้ยครับ …. มีคนร้ายกี่คนครับ”
“มีผู้ชายคนที่มาเยี่ยมบัญชาตอนแรก แต่ไม่ได้เป็นพวกเดียวกันกันกับอีกสองที่ตามมา คนนึงผมทอง”
ธิชามีอาการตื่นตระหนกสั่นกลัว
เผด็จเข้ามาปลอบ ธิชาเริ่มสงบลง
“คุณได้ยินเค้าพูดอะไรกันบ้างมั้ยครับ”
ธิชาหยุดคิดเล็กน้อย
“เค้าเรียกชั้นว่าน้ำผึ้ง และก็บอกว่าเค้าชื่อ…..เอ่อ...จำไม่ได้แล้วคะขอโทษนะคะ”
พอพูดเสร็จธิชาก็มีอาการหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรๆคุณพยายามค่อยๆนึกรูปพรรณคนที่มาอีกคน แล้วบอกกับลูกน้องผมด้วยนะครับ”
เผด็จชี้ไปที่ลูกน้องคนหนึ่งที่ถือแลปท็อปมา
“อีกคนที่ตาย”
“ตัวท๊อปประวัติฆ่าหนีคดียาวเหยียด แต่ไม่มีใครเจอมาหลายปี ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่กับใครครับ”
เผด็จหนักใจ
ไซเรนเดินมาตามทางเดินจะออกไป แต่ทันใดนั้นเขาก็เจอเข้ากับแรมที่เดินมากับสัว
“เรียบร้อยมั้ย?” แรมถาม
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“นายแน่ใจนะ?”
“ผมจัดการเองกับมือครับ”
สัวประชด
“ถ้ามึงไม่โง่ก็ไม่ยุ่งยากขนาดนี้หรอก”
“แต่ตอนนี้เราก็ฆ่ามันตายแล้ว..”
“งั้นผมไปนะ”
สัวบอก “เออ.. มึงจะไปไหนก็ไป”
ไซเรนจะเดินออกไป แต่แรมเรียกเอาไว้ก่อน
“แล้ว..ไอ้มุ้ยล่ะ?”
ไซเรนตกใจแต่รีบเก็บอาการไว้ก่อนจะหันมาตอบแรม
“กำลังจัดการศพอยู่ครับ”
“เออ...ทำดี .. เก็บกวาดอย่าให้สืบมาถึงกูล่ะ”
“ครับ”
แล้วไซเรนก็เดินออกไป
แรมมองตามไซเรนยิ้มๆอย่างสงสัย
ทองดีเดินกลับเข้ามานั่งในรถ ยังมีไฟรถตำรวจคันอื่นแว่บๆอยู่
ทองดีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองก่อนตัดสินใจกดเบอร์เผด็จ ทันใดนั้นก็มีปืนมาจ่อที่ทองดี
ตี๋ใหญ่โผล่มาที่เบาะหลัง
ทองทำอารมณ์เสีย
“เป็นบ้าอะไรเนี่ยอยู่ดีๆเอาปืนมาจ่อผมทำไมว๊ะ แล้วคุณมาอยู่ที่นี่ได้ไง”
“มีใครรู้บ้างว่าบัญชาอยู่ที่นี่”
ทองดีตกใจ
“รู้ได้ไง? …ก็มีแค่ผมกับรองเผด็จ”
“ถ้ารู้แค่สองคนคนที่บอก...”
ทองดีอึ้งไปนิดนึง
“ถ้าจะมีใครซักคนที่หักหลัง….ก็น่าจะเป็นเรย์” ทองดีว่า
“ไหนว่ารู้กันแค่สองคน?”
“คนระดับนั้นคงหาทางรู้ได้ไม่ยากหรอกม้างงง หรืออาจแอบตามผมมาก็ได้”
ทองดียังตะแบง
ตี๋ใหญ่สับสนว่าทองดีพูดอะไร
“ถ้าเรย์ไม่มีอะไร... ทำไมต้องเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลด้วยล่ะ เดี๋ยวผมเอาหลักฐานให้ดูอยู่ตรงนั้น..”
ทองดีชี้ไปที่ลิ้นชักหน้ารถ
นอกรถ เห็นทั้งคู่คุยกันแต่ไม่ได้ยินเสียง
ในรถ
“อ่ะ!!! เป็นไง!! พูดไม่ออกเลยรู้หน้าไม่รู้ใจเห็นสวยๆแต่กัดเจ็บยิ่งกว่ายุงลาย”
ตี๋ใหญ่สับสนตาจ้องอยู่ที่เอกสารนั้น
ทันใดนั้นทองดีก็คว้ามือตี๋ใหญ่ไปกระแทกกับเพดานรถจนปืนหลุดมือร่วงไปที่เบาะหน้า
ทองดีเอื้อมมือต่อยตี๋ใหญ่รัวๆแล้วก้มลงจะเก็บปืน
นอกรถเห็นทองดีโดนจับหัวโขกกระจกข้างรถจนสลบไป
เรย์กำลังจะเดินไปขึ้นรถ มีรถตู้มาจอดประกบ สัวเดินลงมาทั้งคู่สบตากัน
“สบายดีนะ”
เรย์นิ่งไม่ตอบทุกอย่างเงียบกริบ
ในเอกสารเรย์เห็นว่า นามสกุลเดียวกับสัวแล้วมีเอกสารเปลี่ยนชื่อและอื่นๆ
ตี๋ใหญ่ผิดหวัง
ทองดีบอกว่า
“ไม่รู้ว่าสองคนนี้เกี่ยวข้องกันยังไงนะ แต่เมื่อก่อนน่ะใช้นามสกุลเดียวกัน”
ตี๋ใหญ่แอบมองเรย์คุยกับสัว ตี๋ใหญ่สีหน้าแค้นผิดหวัง เขาแน่ใจว่าเรย์โกหกเขามาตลอด
รถของสัวแล่นออกไป
อ่านต่อตอนที่ 5