xs
xsm
sm
md
lg

“ท็อป” ประกบคู่ “ณิชา” ครั้งแรก ประชันฝีมือเต็มเหนี่ยวใน “ลมไพรผูกรัก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ท็อป” ประกบคู่ “ณิชา” ครั้งแรก ประชันฝีมือเต็มเหนี่ยวใน “ลมไพรผูกรัก”

“ท็อป-จรณ” ประกบคู่ “ณิชา-ณัฏฐณิชา” ประชันฝีมือเต็มเหนี่ยว ในละคร “ลมไพรผูกรัก” สานต่อความสนุกจากซีรีส์ชุดใหญ่ “My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก”

เป็นการโคจรมาเจอกันครั้งแรกกับพระเอกหนุ่มหน้าคม มาดเข้ม “ท็อป-จรณ โสรัตน์” ประกบคู่กับนางเอกสาวน้อยหน้าหวานอย่าง “ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” เป็นครั้งแรกในละครเรื่อง “ลมไพรผูกรัก” ละครแนวโรแมนติก แอ็กชั่น จากนวนิยายชื่อดังของอุธิยา และเป็นละครหนึ่งในละครชุดซีรีส์ My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก

งานนี้ได้ “ตระกูล อรุณสวัสดิ์” ผู้กำกับฝีมือดีที่ฝากผลงานมาแล้วมากมายอย่างบุษบาเร่ฝัน และThe Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ งานนี้ได้พระเอกสุดหล่อ ท็อป-จรณ โสรัตน์ มารับบทอิสระ หรือ อิสร์ เจ้าหน้าที่หน่วยจัดการต้นน้ำทำงานในกรมป่าไม้ ที่จะต้องจากคนที่เขารักไปทำภารกิจอันยิ่งใหญ่ผู้มีฮีโร่ คือ สืบ นาคะเสถียร มาประกบคู่กันครั้งแรกกับ ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ สาวสวย น่ารัก ขี้หึง ขี้ระแวง ทำงานแผนกแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ พร้อมนักแสดงสมทบที่มาร่วมสร้างสีสันให้กับละครเรื่องนี้อีกคับคั่ง อย่าง ธนากร โปษยานนท์, เกียรติกมล ล่าทา, รณเดช วงศาโรจน์, สรวิชญ์ สุบุญ,วิชยุตม์ ลิ่มรัตนะมงคล, กันตพัฒน์ เพิ่มพูนพัชรสุข, ศุภชัย สุวรรณอ่อน, หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์, นิภาภรณ์ ฐิติธนการ, นลินธารา โฮเลอร์ เรื่องราวจะสนุกสนานเข้มข้นอย่างไร โดยพระนางได้ให้สัมภาษณ์ว่า

ท็อป-จรณ เผยว่า “ผมเป็นคนนิ่งๆ จริงจังกับงานกับความรักเหมือนเป็นคนที่มีมุมมองการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายมีโลกส่วนตัวสูงทุ่มเทกับการทำงานทุกๆอย่างยึดมั่นในความถูกต้องครับ ละครเรื่องลมไพรผูกรักดูแล้วเหมือนเป็นละครแอ็กชั่นแต่จริงๆ แล้วโรแมนติกเลยด้วยซ้ำ หลักๆคือชีวิตคู่กับหน้าที่เรื่องก็จะมีการสอดแทรกเรื่องของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่มีอุดมการณ์บอกเล่าถึงความเสียสละของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ทุกๆคนอาจจะไม่รู้ว่าเค้ามีความสำคัญกับประเทศชาติขนาดไหนก็จะได้เห็นครับ รวมทั้งสะท้อนไปถึงครอบครัวเราด้วยและก็มีเรื่องครอบครัวเรามาเกี่ยวข้อง ก็คือกับนางเอก ซึ่งเป็นแฟนเก่าตั้งแต่สมัยเรียนรักกันมากแต่ด้วยความที่ไม่เข้าใจกันด้วยวุฒิภาวะในวัยเด็กอาจจะสื่อสารกันไม่เข้าใจด้วยก็เลยทำให้เลิกกันไป แต่พอวันนึงมีเหตุการณ์ให้เราต้องเจอกัน แบบเค้าก็เล่นเกมส์เราก็เล่นเกมส์โดยการที่ถ้าผมช่วยคุณคุณต้องแต่งงานกับผมนะ มันก็เลยให้เราต้องแต่งงานกันก็เป็นเหตุการณ์ที่สนุกสนานครับจะป็นยังไงก็อยากให้ติดตาม”

ส่วนด้าน นางเอกสาว ณิชา-ณัฏฐณิชาเผยว่า “ เล่นเป็นปอนด์ค่ะ เป็นแฟนกับพี่อิฐ ก็คือในเรื่องมันเริ่มด้วยการเป็นสามีภรรยากันเลย ตัวปอนด์จะเป็นผู้หญิงแบบ คิดมาก ขี้น้อยใจ ขี้งอน นิสัยผู้หญิงเลยค่ะ จะเป็นเหมือนผู้หญิงที่ต้องการให้ผู้ชายดูแล เราต้องเป็นที่หนึ่งในสายตาของผู้ชายคนนั้น เหมือนตอนที่คบกับพี่อิฐตั้งแต่สมัยเรียน แล้วเค้าไม่ ค่อยสนใจ ไม่ค่อยใส่ใจเราเลย ให้คนอื่นสำคัญกว่าเราเสมอ เมื่อก่อนที่ทะเลาะกันแล้วเลิก เราก็พูดไปเลยว่าถ้าฉันจะคบคนต่อไป จะต้องเห็นฉันเป็นคนที่หนึ่งเท่านั้นไม่ใช่เห็นต่คนอื่น เพราะพี่อิฐเค้าเป็นพวกดูแลสังคม เค้าก็จะเห็นคนอื่นสำคัญกว่าเรา เราก็มีปมตรงนี้ แล้วพอกลับมาต้องแต่งงานกัน ทำไมเค้ายังเป็นแบบเดิม ทำไมเค้าไม่ดูแลเราเลย มันก็จะมีความคิดมาก จากที่เคยมีปมเล็กๆอยู่แล้วก็มีเรื่องใหญ่ๆเข้ามาอีกค่ะ เรื่องราวของคู่ชีวิตมีปัญหาไม่เข้าใจกัน ด้วยความที่เราทำงานป่าไม้ ต้องเข้าป่าตลอด เราก็ไม่เข้าใจว่า ขนาดแต่งงานแล้วก็ยังไม่อยู่บ้าน แล้วก็มีผู้หญิงมาตามตื้อเค้าตลอด ก็อยากให้ติดตามกันนะคะว่างคู่เราจะลงเอยอย่างไรค่ะ”

เรื่องย่อสั้น “ลมไพรผูกรัก” บทประพันธ์ อุธิยา ปภาพินธ์ (รับบทโดย ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์) หรือ ปอนด์ เดินทางไปที่หน่วยจัดการต้นน้ำอุทยานแห่งชาติแม่วงศ์เพื่อตามหา ปิยวัช (รับบทโดย วิชยุตม์ ลิ่มรัตนะมงคล) หรือ ปิ๊ก น้องชายที่ทะเลาะกับเธอจนเตลิดหนีเข้าป่าเพื่อตามหาอดีตคนรักในวัยเรียนที่เลิกรากันไปอย่างไม่ดีนักอย่าง อิสระ (รับบทโดย จรณ โสรัตน์) หรือ อิสร์ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ สาเหตุเพราะปิ๊กมองอิสร์เป็นไอดอลไม่เคยเปลี่ยนแม้ปอนด์กับอิสร์จะเลิกรากันไปแล้ว ปอนด์มาขอให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ตามหาตัวน้องชาย พนัส (ธนากร โปษยานนท์) หัวหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำมอบหมายให้อิสร์ช่วยค้นหา แต่สิ่งที่ทำให้อิสร์ไม่คาดคิดคือ เขาจะได้พบกับหญิงสาวที่ยึดครองหัวใจเขามาอย่างยาวนานแม้จนกระทั่งปัจจุบัน ปภาพินธ์ หญิงสาวที่หักอกเขาอย่างยับเยินเมื่อ 5 ปีก่อนนั่นเอง

เขาจะทำอย่างไรเมื่อต้องรับผิดชอบหน้าที่และความรักไปพร้อมๆ กัน เรื่องราวความรักของอิสร์กับปอนด์จะลงเอยอย่างไร ติดตามชมได้ในละคร “ลมไพรผูกรัก” ออกอากาศในวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน 2561 เสนอเป็นตอนแรกทางไทยทีวีสีช่อง 3






















กำลังโหลดความคิดเห็น