ฮือฮาลั่นพารากอน! เปิดตัว “ครุฑ มหายุทธ หิมพานต์”
เปิดตัวไปอย่างสวยงามจนฮือฮาลั่นพารากอนไปแล้วสำหรับภาพยนตร์แอนิเมชั่นแฟนตาซีที่กำลังจะมาโลดแล่นสู่สายตาคนไทยและคอหนังแอนิเมชั่น หลังจากมหาวิทยาลัยรังสิต, อาร์เอสยู แอนิเมชั่น และ เอ็ม พิคเจอร์สแถลงข่าวเปิดโลกแห่งจินตนาการกลางป่าหิมพานต์ กับภาพยนตร์แอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์เรื่องล่าสุดแห่งปี"ครุฑ มหายุทธ หิมพานต์"โดยผู้กำกับฝีมือคนไทยอย่าง “เอ็กซ์” ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอย่างภาพยนตร์เรื่อง“ยักษ์”มาก่อนหน้า
มารู้จัก ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ ผู้กำกับ
“เอ็กซ์” ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์แอนิเมชั่นแฟนตาซี "ครุฑ มหายุทธ หิมพานต์" ให้ฟังว่า
“...ก่อนที่จะมากำกับเรื่องนี้ ผมเป็นผู้กำกับร่วมแอนิเมชั่นเรื่องยักษ์ มาก่อน แล้วก็พอดีขณะที่ทำก็สอนอยู่ที่ม.รังสิต ด้วย เป็นหัวหน้าหลักสูตรปริญญาโทดิจิทัลอาร์ตอยู่ขณะเดียวกับที่ทำหนังไปด้วย เป็นอาจารย์มาสิบกว่าปีแล้วครับ วันหนึ่ง ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ท่านอธิการบดี ม.รังสิตก็อยากจะทำ CG เมืองอโยธยาขึ้นมาเฉย ๆ ผมก็มีความคิดว่าถ้าทำ CG อโยธยาขึ้นมาเนี่ย เราไปทำหนังใหญ่ดีกว่า ผมก็เลยคิดว่าเอาโครงการนั้นไปขยายต่อเป็นป่าหิมพานต์ รู้สึกว่ามันเป็นแฟนตาซี แล้วก็วันนั้นบังเอิญไปคุยกับพี่วิศิษฏ์(วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ) ก็เลยทาบทามพี่เค้าว่า เขียนบทให้ได้ไหม แกก็บอกว่า เออเอาสิ แต่พี่ไม่เขียนบทที่เป็นคนแสดงนะ พี่อยากเขียนเป็นนป่าหิมพานต์ ไหน ๆ ก็ทำ CG แล้ว อยากเห็นพญาครุฑ พญานาค ผมก็เลย รู้สึกว่ามันมีโครงเรื่องที่ทางรังสิตอยากจะทำก็คือ อโยธยา พี่วิศิษฏ์ก็เลยเอามาบวกกัน แล้วก็มี ครุฑ ยักษ์ พญานาค นรสิงห์ ขณะที่บทมันแข็งแรงแล้ว เราก็เริ่มมาพัฒนา character โดยผมที่ design character แล้วก็คุยกับพี่วิศิษฏ์ว่า พญาครุฑ ทำไม size มันถึงใกล้ๆ กัน เราไม่อยากให้มันใหญ่มากเหมือนขบวนการ 5 มนุษย์ไฟฟ้าสมัยก่อน เราก็เอามาเท่ากันเพราะว่ามันเป็นนักรบ นักสู้ นักฆ่า มันก็ต้องมีแบบฟอร์มบางอย่างที่มันเท่ากัน
หลังจากนั้นเราก็จะสร้าง พญานาค ที่ไม่เหมือนพญานาคทีเราเคยเห็น พญานาค ผมตีความโดยการ design ว่ามันมีเหงือกปลาด้วย เหมือนว่ามันหายใจในน้ำ ที่เราเห็นพญานาคมันจะมีความเป็นทองเป็นพญานาค แต่จริง ๆ พอเราแทรกไปว่ามันควรจะเป็นปลานะ มันควรจะหายใจทางเหงือก ยิ่งพญานาค 7 หัว แต่ละตัวมันจะไม่เหมือนกัน แต่ละหัวก็จะมีอิสระของมัน มันก็เลยเริ่มสนุก พอเราสร้าง CG ขึ้นมาก็ยิ่งสนุกเพราะว่าเรา set up การสร้างพญานาค การกางปีกของพญาครุฑ นรสิงห์เราตีความใหม่ แล้วก็คชสีห์เราก็ตีความใหม่ ผมตีความเองว่าคชสีห์มันคือสิงโตกับช้าง เราเห็นแต่หัวเป็นสิงโตตัวเป็นช้าง ผมก็เลยเอามากลับใหม่เพราะว่าชื่อมันถูกล็อคไว้แล้ว ผมก็เอาหัวเป็นช้างตัวเป็นสิงโตลองดู มันก็น่าสนุกขึ้น หลังจากนั้นพอคุยเสร็จก็เอาบทมาคุยกันที่ ม.รังสิต คุยกับ ดร.อาทิตย์ แล้วก็ทางคณะกรรมการบริหาร ก็เห็นด้วย ก็เลยให้งบประมาณมาโดยรวมประมาณ 80 ล้านบาท เราก็เลยมาสร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้ออกมา...”
ณเดชน์ คูกิมิยะ ให้เสียงพากย์แป็น พญาวัชรครุฑ
“เอ็กซ์” ชัยพร พานิชรุทติวงศ์สนใจณเดชน์ตั้งแต่แรก เพียงแต่ว่าตอนนั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ณเดชน์ก็มาดูโครงสร้างของเรื่อง ที่เป็นภาพ character หรือบางคลิป บางตอน หลังจากนั้น เมื่อทำเสร็จและทดลองไปฉายเพื่อให้ทางคณะกรรมการของ ม.รังสิตทั้งหมดดู ในวันนั้น ได้เชิญณเดชน์ไปด้วย หลังจากนั้นพอณเดชน์ดูเสร็จก็สนใจมาก มีประโยคหนึ่งที่ณเดชน์บอกกับ produce ของห้อง post ว่า ผมอยากจะพากย์ เพราะว่าถ้าหนังดีมากถ้าไม่ได้พากย์ ณเดชน์จะรู้สึกผิด ทางอาจารย์เอ็กซ์และทีมงาน ก็ดีใจที่ได้ยินคำนั้น หลังจากนั้นก็คุยกับณเดชน์ และเริ่มต้นพากย์เป็นตัวพญาวัชรครุฑ
ณเดชน์ คูกิมิยะ กล่าวว่า
“... ผมพากย์เป็น พญาวัชรครุฑครับ คาแร็คเตอร์เป็นายทหารเอก เหมือนหัวหน้ากองทัพเป็นหน่วยลาดตระเวนไปคอยดูตะเข็บชายแดนของอาณาจักอโยธยาว่ามีใครบุก พวกยักษ์รากษสเดินทางมาถึงไหนแล้วจะโจมตีเรายังไง เป็นเหมือนหัวหน้าของเหล่าทหารเอกคับผม”
“ผมเคยพากย์การ์ตูนมาเมื่อ 3 ปีที่แล้วของพี่แอน ทองประสม คนละฟีลกันเลย มาพากย์เป็นตัวนี้ต้องโปรเจ็คท์เสียงมาก เสียงแบบทหารเอก ต้องแบบตัวใหญ่ เป็นครุฑ ก็ยาก ยากมากกว่าเยอะ ให้ดูเราเป็นครุฑ ทหารเอก ที่น่าเชื่อถือ ค่อนข้างใช้เวลา แต่ก็มีการซ้อมและเวิร์คช๊อปกันก่อน โชคดีพี่ๆทีมงานเค้าทำงานกับต่างประเทศมาก่อน ก็เลยได้ซ้อมและค่อยๆไหลลื่นขึ้นในหลายๆครั้งที่มาพากย์”
“วันแรกที่มา ผมบอกเลยพี่ถ้าเสียงผมจะทำให้หนังเสียหายเนี่ย ผมขอถอนตัวดีกว่า ตอนมาวันแรกรู้สึกเราไม่เหมาะกับการนี้เลย เลยรอตอนเค้ามิกซ์เสียงว่ารอดเปล่า ถ้าไม่เหมาะผมคงต้องถอนตัว สุดท้ายพี่เค้าก็บอก รอดอยู่ และอีกอย่างเป็นงานของมหาวิทยาลัยด้วย อย่างน้อยงานคนไทย ผมก็อยากสนับสนุนงานคนไทยด้วยกันเอง และอีกอย่างก็เป็นมหาวิทยาลัยเราด้วย เลยมีกำลังใจสู้ต่อ พี่ๆก็ให้กำลังใจ จนมาครั้งที่สองก็ ดีขึ้นอาจารย์ชม เราก็ดีใจ”
“ ด้านการแสดงละครไม่ได้มามีส่วนช่วยในการพากย์เลย วันแรกก็แทบไม่รอด วันที่สองต้องให้พี่เค้าพูดไกด์นำก่อนประโยคนึงและก็พูดตาม พูดตาม มีวันนี้ที่ได้พูดทั้งประโยคเอง ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ คือมันยาก เพราะเสียงมันต้องบอกทุกอย่าง และต้นฉบับที่เค้าอัดมา มันก็ระดับ พันธมิตร เลย ผมนี่พันธบัตรยังไม่ถึงเลย เรื่องพากย์ก่อนหน้านี้เคยมีโอกาสที่จะได้ทำ แต่ก็ไม่ได้ทำ และครั้งนี้ผมถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้มาลองทำดู ก็เหมือนกับน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ส่วนตัวก็ชอบครับ หวังว่ามันน่าจะออกมาดี อย่างน้อยถือเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ เพราะเราก็ทำเต็มที่แล้ว”
ทำไมคนไทยต้องดูครุฑ
“เอ็กซ์” ชัยพร พานิชรุทติวงศ์ ให้เหตุผลว่า
“อย่างแรกเลยนี่เป็นหนังแอนิเมชั่น ถูกสร้างโดยคนไทย ทีมงานไทย มีคนไทยล้วนๆเลย ผมรู้สึกว่าการที่เราได้เปิดให้โอกาสคนไทยได้มีพื้นที่ในการแสดงทางด้านสื่อ เป็นสื่อในยุคที่บางทีบ้านเราอาจจะขาดแคลนนะครับ ตอนนี้ ม.รังสิตได้เล็งเห็นในการพัฒนาสื่อด้านนี้ การที่พอครุฑออกไปและคนไทยได้รับรู้ถึงความยาก ระยะเวลาในการถ่ายทำ ระยะเวลาในการสรรสร้าง ขน เสื้อเกราะ มูฟเม้นท์ ต่างๆของตัวละคร ทำได้ขนาดนี้ ผมต้องปรบมือและยกนิ้วให้เลย เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ใช้เวลา งบประมาณสูงมากๆ ผมว่าตอนนี้มันเป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยด้วยกันเอง ได้แสดงพลังในการที่จะมีความคิดสร้างสรรค์ เรื่องราวดีๆและอีกอย่างเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยด้วย เด็กๆก็ดูได้ สนุกด้วย และตลกด้วย ผมพากย์ไปผมยังขำไปเลย เพราะคาแร็คเตอร์ตัวผมพากย์จริงจังมาก เอะอะไรเรื่องงาน เรื่องรบ จะมี พวกลูกน้องพวก ก๊วนกวน กวนประสาท มันสนุกมากคับ ฝากด้วยละกันสำหรับเรื่องนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้มีโอกาสมากพากย์เสียงเป็นตัวละคร แอนิเมชั่น ซึ่งเป็นงานที่หินมากๆเลย ก็ไปให้กำลังใจกัน ไปให้กำลังใจคนไทยด้วยกันกับเรื่องนี้"
เรื่องย่อและคาแร็กเตอร์
ชื่อเรื่อง : ครุฑ มหายุทธ หิมพานต์
อำนวยการสร้าง : มหาวิทยาลัยรังสิต
ดำเนินการผลิต : บริษัท อาร์เอสยู แอนิเมชั่น จำกัด
จัดจำหน่าย : บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด
ประเภทภาพยนตร์ : แอนิเมชั่นเรื่องยาว
แนวภาพยนตร์ : แอคชั่น ผจญภัย แฟนตาซี
กำหนดฉาย : 19 กรกฎาคม 2561
ผู้กำกับภาพยนตร์ : ชัยพร พานิชรุทติวงศ์
บทภาพยนตร์ : วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง
ให้เสียงพากย์โดย : ณเดชน์ คูกิมิยะ - พญาวัชรครุฑ
เรื่องย่อ
ในอดีตอันไกลโพ้น นานเกินกว่าจินตนาการจะเดินทางไปถึง ในสมัยที่โลกยังมิได้เป็นเช่นที่เห็นทุกวันนี้ และมนุษย์ก็ยังมิได้เป็นผู้ครอบครองพิภพทั้งหมด หากเป็นเพียงเผ่าพันธุ์เล็ก ๆ ที่เพิ่งเกิดใหม่ในหมู่สิ่งมีชีวิต อาทิคชสีห์ นรสิงห์ ครุฑ นาค รากษส กินนรี กินนร ที่ผลัดเปลี่ยนกันทำสงครามเพื่อแย่งชิงและยึดครองอาณาจักรของกันและกัน สมัยนั้นศูนย์กลางของโลกคือ เขาพระสุเมรุ แวดล้อมด้วย มหานทีสีทันดร อันกว้างใหญ่ไพศาลกินอาณาเขตไปจนเกือบจะถึงสุดขอบโลก ไกลโพ้นออกไปจากนั้นคือ ป่าหิมพานต์ อันเป็นที่อยู่ของบรรดาสิงสาราสัตว์แสนพิสดารทั้งหลาย รากษสเผ่าพันธุ์เร่ร่อนนิสัยดุร้ายป่าเถื่อน ที่รวบรวมไพร่พลบุกตะลุยตีอาณาจักรเล็กอาณาจักรน้อยจนพ่ายแพ้ราบคาบเรื่อยมาจนมาถึงชายแดน เมืองอโยธยาที่ปกครองโดยเหล่าครุฑ ในที่สุดทัพหน้าของพวกรากษสก็ยาตรามาถึงและทำการถล่มประตูเมืองอย่างหนัก
พญาวัชรครุฑทหารเอกแห่ง อโยธยา และเหล่าทหารครุฑเห็นทีว่าจะป้องกันเมืองไม่อยู่จึงตีฝ่าวงล้อมบินข้าม มหานทีสีทันดร ไปรวบรวมความช่วยเหลือจากสัตว์น้อยใหญ่ใน ป่าหิมพานต์ รวมถึง กินนร ผู้เคยเป็นปรปักษ์กันมา ก่อนมหาสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์เริ่มขึ้นแล้วกองกำลังผสมของเหล่าสัตว์หิมพานต์จะไปช่วยพวกครุฑชิงเมืองอโยธยากลับคืนมาจากพวกรากษส ได้หรือไม่ ติดตามได้ใน ครุฑ มหายุทธ หิมพานต์19 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
คาแร็กเตอร์
พญาครุฑทั้ง ๙
๑. วัชรครุฑ หัวหน้ากองทหารเดนตาย ๕๐ ครุฑ รูปร่างสูงใหญ่ แต่เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว มีนิสัยกล้าหาญ รักความเป็นธรรม มีความเป็นผู้นำสูง รักลูกน้องชนิดตายแทนได้ มีความฉลาดและไหวพริบเป็นเลิศ จุดเด่นคือ มีขนอ่อนสีเงินแซมอยู่ทั่วผิวกายสีแดง และรอยแผลเป็นจากคมดาบพาดผ่านใบหน้า สวมเกราะเหล็กสีแดง อาวุธประจำกายคือ ดาบใหญ่หัวตัด
๒. พิชัยครุฑ ทหารคู่ใจของพญาวัชรครุฑ ตำแหน่งหัวหมู่ทะลวงฟัน รูปร่างผอมสูง เชี่ยวชาญการรบทุกรูปแบบ มีนิสัยเงียบขรึม ดุดัน แต่กล้าบ้าบิ่น มักจะเป็นผู้นำหน้าออกรบเสมอ จุดเด่นคือเกราะสีดำ ที่มีร่องรอยจากการศึกปรากฏอยู่เต็มไปหมด อาวุธประจำกายคือ ดาบคู่ที่ไวที่สุดในแผ่นดิน
๓. บวรครุฑ ทหารคู่ใจอีกคนของพญาวัชรครุฑ เป็นหัวหมู่กองอาทมาทหรือทหารสอดแนม ฉลาด และใจเย็น เป็นที่ไว้วางใจให้ทำภารกิจสำคัญอยู่เสมอ รูปร่างค่อนข้างเล็ก แต่คล่องแคล่วเคลื่อนไหวเร็ว อาวุธประจำกายคือดาบวงพระจันทร์ที่แยกออกได้เป็นสองเล่ม
๔. วายุครุฑ เป็นครุฑที่บินเร็วประดุจลมพัด จุดเด่นคือปีกที่ใหญ่กว่าคนอื่น อาวุธประจำกาย โซ่เหล็กติดลูกตุ้ม
๕. วารีครุฑ เป็นครุฑตัวเดียวที่ว่ายน้ำได้ หน้าตาตลกๆ และมีอารมณ์ขัน ชอบพูดจาประชดเหน็บแนม อาวุธที่ใช้คือมีดสั้นสำหรับขว้าง
๖. พิรุณครุฑ มีคาถาเรียกลมฝนได้ เป็นจอมขมังเวทย์ประจำกอง อาวุธคือไม้เท้าหัวนกที่แปลงเป็นง้าวได้
๗. อสุนีครุฑ เป็นครุฑที่ผิวกายดำแดง ใบหน้าถมึงทึงน่ากลัว และโหดเหี้ยมอำมหิตที่สุด สวมเกราะเหล็กบนใบหน้า อาวุธประจำกายคือ สายฟ้า และกงจักรเหล็ก
๘. อัคคีครุฑ สีแดงเพลิงทั้งร่าง ใช้ธนูไฟเป็นอาวุธ
๙. โตมรครุฑ รูปร่างสูงใหญ่บึกบึน ใช้หอกยาวเป็นอาวุธ
พระเจ้าสุบรรณพร อดีตราชาแห่งครุฑ เป็นพี่ชายของพระเจ้าสุริยอินทรา รูปร่างสมส่วน แววตาสีเขียวอ่อนโยน ปากและขนเป็นสีทองอร่าม อุปนิสัยรักสงบ ใจเย็น พูดน้อย แต่แท้จริงเป็นพวกคมในฝัก เก่งกาจการรบพุ่ง ปกตินุ่งห่มด้วยหนังราชสีห์และถือไม้เท้าหัวครุฑเหมือนพวกฤๅษีดาบส แต่ยามออกรบใส่เกราะสีทองตลอดร่าง อาวุธที่ใช้คือ พระแสงดาบคู่บารมีที่สลักเสลาอย่างวิจิตร
พระเจ้าสุริยอินทรา ราชาแห่งครุฑองค์ปัจจุบัน รูปร่างค่อนข้างท้วม ดวงตาสีแดงเพลิง และมีเพียงข้างเดียว เนื่องจากสูญเสียจากการต่อสู้กับนาคเพื่อปกป้องพี่ชายในวัยเด็ก มีจงอยปากและขนสีน้ำตาลเข้ม อุปนิสัยโผงผาง ค่อนข้างหูเบา ไม่ฉลาดนัก แต่ก็มีความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ยามที่ภัยมาถึงก็ยอมตายเพื่อปกป้องแผ่นดิน ปกติสวมเสื้อคลุมยาวปักเพชรนิลจินดาและศิราภรณ์แบบกษัตริย์ แต่ยามออกรบสวมเกราะเหล็กสีเงินยวงทั้งตัว อาวุธประจำกายคือ พระแสงของ้าวเล่มใหญ่สีเงินสลักลวดลายอย่างวิจิตร
นางกนกนารี ธิดาของราชาแห่งกินนร มีใบหน้าและรูปร่างเป็นหญิงสาวสวย สะโอดสะอง ผมยาวเกล้ามวยและสวมรัดเกล้าทำจากใบไม้ เป็นผู้มีความเฉลียวฉลาดเป็นเลิศ อุปนิสัยรักสงบตามเผ่าพันธุ์กินนร แต่ก็มีความอยากรู้อยากเห็น ซุกซน เชี่ยวชาญการใช้ธนู ชอบแหกกฏและท้าทายคำสั่งในบางเรื่อง เคยเป็นเพื่อนเล่นในวัยเด็กกับ พญาวัชรครุฑสมัยที่ยังอาศัยอยู่ในอโยธยา แต่อพยพตามบิดามาอยู่ป่าหิมพานต์ เมื่อเติบโตเป็นสาวและได้พบพญาวัชรครุฑอีกครั้ง มิตรภาพในวัยเด็กก็แปรเปลี่ยนเป็นความรักต่างเผ่าพันธุ์
กินนราชันย์ ราชาแห่งกินนร เดิมเผ่าพันธุ์กินนรตกเป็นทาสของครุฑตั้งแต่เสียเมืองอโยธยามาเกือบร้อยปี เขาเป็นผู้นำเหล่ากินนรอพยพข้ามมหานทีสีทันดรไปสร้างอาณาจักรใหม่ในป่าหิมพานต์ และอยู่อย่างสงบใกล้ชิดธรรมชาติ ปราศจากภัยสงคราม กินนราชันย์ เป็นนักประดิษฐ์ที่เก่งกาจ สามารถสร้างปีกกลที่ทำให้บินได้รวดเร็วราวกับเครื่องบินรบ และสามารถถอดออกได้ อุปนิสัยเยือกเย็น รักสงบ แต่ก็มีความเป็นผู้นำในการปกป้องเผ่าพันธุ์และธรรมชาติ มีใบหน้าเป็นชายวัยกลางคน ผมและหนวดเคราหงอกขาว แต่มีดวงตาสีเขียวที่เปี่ยมด้วยความอารี สวมเครื่องประดับที่ทำด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ
เจ้าพระยาครุฑกลาโหม สมุหนายกของเมืองอโยธยา เป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบายและบ้าอำนาจ ประจบสอพลอพระเจ้าสุริยอินทราจนวางใจ ปล่อยให้บริหารบ้านเมืองจนอ่อนแอและเพลี่ยงพล้ำแก่ข้าศึก เพราะแท้จริงแล้วคือรากษสที่ปลอมตัวมาเป็นไส้ศึกนั่นเอง มีใบหน้าเหมือนนกแร้งมากกว่าครุฑ รูปร่างอ้วนเตี้ย แววตาหลุกหลิกชั่วร้าย คิ้วดกดำแสดงความกังฉินอย่างเห็นได้ชัด สวมเครื่องประดับเพชรนิลจินดาที่รกรุงรังเกินงาม พูดจาเสียงดังโผงผาง และชอบหัวเราะเสียงแหลมเล็กเหมือนเสียงปีศาจ
อสูรทมิฬ แม่ทัพใหญ่ฝ่ายรากษสผู้เหี้ยมโหดอำมหิตที่สุดในปฐพี รูปกายสูงใหญ่ราวภูเขาเลากา มีผิวกายสีดำสนิทเหมือนสีผิวของพระกาฬ ดวงตาแดงก่ำประหนึ่งเลือดสดๆ กินเปลวไฟเป็นภักษาหาร พูดจาด้วยภาษาอสูรที่ฟังเหมือนเสียงคำรามของสัตว์ร้าย มีเขี้ยวเล็บที่คมเหมือนขวาน และรอยสักเต็มตัว อุปนิสัยชั่วร้าย มุทะลุดุดัน เรี่ยวแรงราวกับช้างสาร และทนต่อศาสตราวุธทั้งปวง อาวุธคือดาบกึ่งง้าวเล่มใหญ่ และโล่ห์หนังพญานาค สามารถพ่นไฟออกจากจมูกและปากได้
นรสิงห์
สัตว์ครึ่งมนุษย์ครึ่งสิงห์ที่แข็งแกร่งและเชี่ยวชาญการรบพุ่งที่สุด
คชสีห์
สัตว์ครึ่งช้างครึ่งสิงห์ที่มีนิสัยรักสงบและหวงถิ่น
พญาอนันตนาคราช
พญานาค7หัวผู้ซึ่งหัวหน้าฝูงนาคในทะเลมหานทีสีทันดร