เรื่องย่อ "หนึ่งด้าวฟ้าเดียว"
บทประพันธ์ : วรรณวรรธน์
บทโทรทัศน์ : เอกลิขิต
กำกับการแสดง : กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
แนวละคร : พีเรียด
ผลิต : บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ผู้จัด : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันพุธ - พฤหัสบดี เวลา 20.20 น.ทางไทยทีวีสีช่อง 3 และช่อง 3 HDและรับชมผ่านทาง Application 3 Live
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่มตอนแรก วันพุธที่ 25 เมษายน 2561
#หนึ่งด้าวฟ้าเดียว #Ch3Thailand#TVSCENE #lakornonlinefan #ลมหายใจคือละคร
“บทเรียนที่ผ่านมาของวันคืนที่สูญเสียมันจะต้องไม่หวนกลับมาอีกเราทุกคนที่ผ่านวันเวลาทุกข์ยากของแผ่นดิน มาถึงยามนี้เหมือนได้รับชีวิตใหม่ ภายใต้ท้องฟ้าผืนเดียวกัน”
เรื่องย่อ
ในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยา เป็นยุคสมัยที่สงบสุข ปราศจากศึกใหญ่มาหลายปี แต่ก็ยังมีภัยจากพวกขุนนางทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง ที่คอยรังแกประชาชนตาดำๆอยู่ แต่ก็ยังโชคดีที่มี เสือขุนทอง คอยช่วยเหลือพวกชาวบ้านจากเงื้อมมือขุนนางชั่ว และปล้นพวกเศรษฐีหน้าเลือดมาช่วยคนยากจน เป็นเหมือนวีรบุรุษของเหล่าคนยาก
ขุนทองมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว และได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านทำให้พ้นเงื้อมมือของทางการมาได้ตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง ขุนทองได้รู้ข่าวเกี่ยวกับ พระสมุทรวาณิช ขุนนางใหญ่ผู้ร่ำรวยซึ่งเป็นชาวโต้ระกี่ (ตุรกี) ขุนทองรอเวลาแก้แค้นมาตลอดเพราะพระสมุทรวาณิชเคยเป็นเพื่อนรักกับพ่อของตน แต่เกิดอิจฉาริษยา หักหลังพ่อของตนและฆ่าล้างครอบครัวอย่างเหี้ยมโหด ทำให้ชีวิตตนต้องพลิกผันมาเป็นจอมโจรขุนทองอย่างทุกวันนี้ เมื่อรู้ข่าวว่าพระสมุทรวาณิชจะจัดงานแต่งงานให้ลูกสาวคนสวยชื่อ สาลิกา กับ ขุนเผด็จ ขุนนางหนุ่มรูปงาม ขุนทองเลยคิดจะจับตัวสาลิกามาเพื่อแก้แค้น
แต่แผนการของขุนทองก็เกิดผิดพลาด สาลิกาโดนขุนเผด็จแทงบาดเจ็บสาหัส ขุนทองตกใจรีบพาสาลิกาหนีไปรักษาตัวในป่า ขุนทองดูแลสาลิกาจนเกิดเป็นความผูกพันกันขึ้นอย่างไม่รู้ตัว แต่ทั้งคู่ก็ต้องหักห้ามใจไว้ เพราะสาลิกามีขุนเผด็จแล้ว ส่วนขุนทองก็ท่องขึ้นใจตลอดเวลาว่าสาลิกาเป็นลูกสาวของศัตรูที่ฆ่าครอบครัวของตน
สาลิกาเป็นห่วงพ่อกับแม่มาก ด้วยความสงสารขุนทองจึงพาสาลิกากลับมาส่งบ้านอย่างปลอดภัย สาลิกาพยายามไม่คิดถึงขุนทองและคิดจะเป็นภรรยาที่ดีของขุนเผด็จ แต่ขุนเผด็จกลับรังเกียจสาลิกาเพราะสาลิกาหายไปกับโจรหลายวัน เป็นหญิงมีมลทินซะแล้ว สาลิกาเสียใจที่ขุนเผด็จไม่เชื่อในความบริสุทธิ์ของตน ขุนทองรู้ข่าวจึงบุกมาหาสาลิกาชวนหนีไปอยู่ด้วยกัน ทำให้สาลิกาเปิดใจและตกลงจะใช้ชีวิตร่วมกับขุนทอง
ขุนทองตัดสินใจใช้ชีวิตอย่างเงียบๆกับสาลิกาจนมีลูกด้วยกันคือ ขันทอง เวลาผ่านไปจนขันทอง 5 ขวบ พระสมุทรวาณิชก็ตามตัวเจอ และฉวยโอกาสที่ขุนทองพาลูกไปหาของป่า ก็บุกลักพาตัวลูกสาวกลับไป ขุนทองจะไปตามตัวสาลิกากลับมาแต่พระสมุทรได้ส่งสาลิกาเข้าวังไปเป็นคุณท้าวในวังแล้ว
ขุนทองไม่ละความพยายามโดยบุกไปชิงตัวสาลิการะหว่างติดตามขบวนเสด็จประพาสป่าแต่ก็ไม่สำเร็จ ต่อมาไม่นานก็รู้ข่าวร้ายว่าสาลิกากระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ขุนทองเสียใจถึงที่สุด แต่ไม่เชื่อว่าสาลิกาจะฆ่าตัวตาย เลยพาขันทองไปฝากพระภิกษุที่ตนนับถือให้ช่วยดูแลขันทองแทนตน ก่อนที่ตนเองจะหาทางสืบความจริงเกี่ยวกับการตายของสาลิกา โดยขุนทองได้เข้าอาสาร่วมรบในศึกพระเจ้าอลองพญาแต่กลับถูกคนไทยด้วยกันหลอกไปให้พวกอังวะฆ่าตาย ทำให้ขุนทองไม่ได้กลับไปหาลูกอีกเลย
กาลเวลาผ่านไป ....
ในรัชสมัยของพระเจ้าเอกทัศแห่งกรุงศรีอยุธยา ไม่กี่ปีหลังจากพระเจ้าอลองพญาแห่งกรุงอังวะทรงยกทัพมาล้อมอยุธยาแต่กลับสิ้นพระชนม์ไปก่อนจะทำสงครามจบ กรุงศรีอยุธยาก็กลับสู่ความสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง ประเทศต่างๆ พากันส่งเรือสำเภา บรรทุกเครื่องราชบรรณาการมายังกรุงศรีอยุธยา เช่นเดียวกับเรือสำเภาจากเมืองโต้ระกี่ (ตุรกี) ที่ส่งเครื่องราชบรรณาการมาพร้อมกับ สิขันทิน ขันทีคนใหม่ ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าไปทำหน้าที่อยู่ในฝ่ายในของวังหลวง
สามปีผ่านไป แมงเม่า ลูกสาวของเศรษฐี มิ่ง แห่งบ้านนางเลิง กำลังอยู่ในวัยแตกเนื้อสาว มีชายหนุ่มมากมายหมายปองสาวน้อยคนนี้ แต่ว่าแมงเม่าไม่เคยยอมตกลงปลงใจรับหมั้นผู้ชายคนใด เศรษฐีมิ่งก็ไม่สามารถบังคับแมงเม่าได้ เพราะแมงเม่ามีนิสัยแก่นแก้ว ดื้อรั้น เอาแต่ใจ ไม่ยอมคน อีกทั้ง กรมขุนวิมล (เม่า) เชื้อพระวงศ์ชั้นสูงผู้มีบุญคุณกับแมงเม่าและครอบครัว เคยขอร้องไว้ว่าอย่าบังคับใจแมงเม่า เศรษฐีมิ่งจึงไม่กล้าขัดพระทัย แมงเม่ามีความสามารถอ่านออกเขียนได้ผิดจากหญิงสาวทั่วไป เนื่องจากที่บ้านเศรษฐีมิ่งเป็นโรงทำกระดาษและซ่อมแซมสมุดหนังสือต่างๆ สิ่งที่แมงเม่าสนใจเป็นพิเศษก็คือกลอักษร แมงเม่ามักจะใช้เวลาว่างศึกษาหาความรู้เรื่องกลบทเหล่านั้นจาก ม่วง พี่ชายแท้ๆ อยู่เสมอ
ม่วงเป็นลูกชายคนโตของเศรษฐีมิ่ง เศรษฐีมิ่งจึงหวังจะให้ม่วงมีบุตรสืบสกุลและสืบทอดกิจการทำกระดาษของครอบครัว แต่ม่วงกับ อิน เมียสาว ไม่เคยมีความสัมพันธ์กันเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะทุกครั้งอินมักจะโวยวายว่าผีของอิ่ม พี่สาวแท้ๆ ของอินที่เป็นเมียคนแรกของม่วงจะมาหักคอเธอ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงไม่ค่อยราบรื่นนัก ม่วงจึงมักจะไปพักค้างคืนอยู่กับ สุ่น โสเภณีในโรงรับชำเราเป็นประจำ ม่วงมักจะมีเรื่องราวชกต่อยกับ กล้า นักเลงหัวไม้จากบ้านริมโรงฆ้อง แต่กล้าก็มักจะแพ้ม่วงเสมอ กล้าแค้นมากและคิดจะหยามม่วงด้วยการเอาแมงเม่าเป็นเมียให้ได้
ระหว่างเที่ยวเล่นอยู่ในเมือง แมงเม่าเห็นที่หน้าร้านขายเครื่องหอมมีทหารมายืนคุ้มกันใครบางคนอยู่ จึงหยุดรอดู แต่กลับถูกพวกทหารไล่ แมงเม่าไม่พอใจมาก จึงมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน หลวงศรีขันทิน ขันทีหนุ่มที่อยู่ในร้านเครื่องหอมได้ยินเสียงเอะอะ ก็ออกมาดูและกล่าวขอโทษแมงเม่าแทนทหารของตน แมงเม่ามองการแต่งกายที่ผิดแปลกไปจากขุนนางอื่นที่ตนเคยเห็น อีกทั้งใบหน้าที่งดงาม ตัวหอมฟุ้งราวกับนางในในวัง สร้างความแปลกใจแก่หญิงสาวเพราะหลวงศรีขันทินคนนี้จะเป็นหญิงก็ไม่ใช่เป็นชายก็ไม่เชิงแต่ความจริงแล้วหลวงศรีขันทินรูปงามก็คือ ขันทอง จารบุรุษที่จำเป็นต้องปลอมตัวเป็นนักเทศขันทีแทนสิขันทินที่เสียชีวิต และเข้าไปยังฝ่ายในเพื่อสืบหาสาเหตุการตายอย่างเป็นปริศนาของพ่อและแม่ของเขาในวังด้วย
แมงเม่าหนีการดูตัวออกมาเดินเล่นที่ตลาด แต่หญิงสาวกลับได้พบกับ ออกญาสีหราชเดชะ ที่ถูกทำร้ายจนปางตาย ก่อนตาย ออกญาสีหราชเดชะฝากกลักใบบอกที่สลักเสลาเป็นรูปปีกผีเสื้องดงามไว้กับแมงเม่า เมื่อแมงเม่าเปิดออกดูด้านในก็พบว่าใบบอกถูกเขียนเป็นรหัสลับที่อ่านไม่ออก แมงเม่าจึงฝากใบบอกไว้กับม่วงไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกัน กรมขุนวิมลก็ทรงให้ออกพระศรีขันทินไปรับตัวแมงเม่าเข้ามาในวังหลวงเพื่อช่วยแก้กลอักษรที่ฝ่ายตำหนักของ เจ้าจอมเพ็ญ ส่งมา แต่ไม่มีผู้ใดในตำหนักของกรมขุนวิมลสามารถแก้กลอักษรนั้นได้ กลอักษรที่เจ้าจอมเพ็ญส่งมาซึ่งมีความสลับซับซ้อนมาก แม้แต่แมงเม่าเองก็ยังจนปัญญา ขันทองเห็นกลอักษรนั้นก็ดูออกทันทีว่าเป็นกลอักษรที่ใช้วิธีการอ่านแบบตารางหมากรุก จึงช่วยสอนแมงเม่าโดยให้แมงเม่าสัญญาว่าจะเก็บเรื่องที่เขาเป็นคนสอนไว้เป็นความลับ ทำให้ขันทองกับแมงเม่าได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
เจ้าจอมเพ็ญเป็นเจ้าจอมคนโปรดของพระเจ้าเอกทัศ แต่นางกลับไม่พอใจอยู่แค่นั้น เพราะนางต้องการเป็นแม่หยั่วเมืองผู้มีอำนาจสูงที่สุดในแผ่นดิน นางจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มีพระหน่อกับพระเจ้าเอกทัศ แม้กระทั่งจ่ายเงินให้ขรัวเถื่อนจากพม่าใช้วิธีการทางไสยศาสตร์เพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จ โดยมี จมื่นศรีสรรักษ์ ญาติผู้น้องของเจ้าจอมเพ็ญ และ เลื่อน ข้าหลวงคนสนิท คอยปกปิดความผิดให้
ทางด้าน พระยาพลเทพ ผู้อยู่เบื้องหลังการส่งใบบอกที่เป็นความลับราชการไปให้ฝ่ายอังวะและเป็นผู้ที่ทำร้ายออกญาสีหะราชเดชะจนถึงแก่ความตาย ก็สั่งให้ ขุนแผลงฤทธิ์ สืบหากลักใบบอกจากแมงเม่าและลอบทำร้ายแมงเม่าระหว่างที่ตามกรมขุนฯเสด็จประพาสป่าแต่ขันทองก็ช่วยไว้ได้ทัน จากเหตุการณ์โกลาหลครั้งนี้ทำให้พระราชาข่านเสียชีวิต จำต้องเลือกหัวหน้าขันทีคนใหม่โดยเจ้าจอมเพ็ญเสนอให้หลวงศรีขันทินได้รับตำแหน่งนี้ ขันทองจึงได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็น พระศรีขันทิน สร้างความคับแค้นใจให้กับ ศรีมะโนราช ขันทีคู่อริของขันทองเป็นอย่างมาก
พระยาพลเทพให้คนไปเผาเรือนแมงเม่าเพื่อชิงกลักใบบอก แต่ใบบอกที่ได้มากลับเป็นเพียงเพลงยาวที่ขันทองเขียนเป็นรหัสลับให้แมงเม่า หลังจากที่บ้านถูกไฟไหม้จนหมดเนื้อหมดตัว เศรษฐีมิ่งจึงตัดสินใจจะให้แมงเม่าไปอยู่ในความดูแลของกรมขุนวิมลในวังหลวงเพื่อจะได้ปลอดภัยจากคนที่ไม่หวังดี แมงเม่าจำเป็นต้องยอมเพราะไม่อยากให้ทุกคนเดือดร้อน เมื่อเข้าไปอยู่ในวังแล้ว ขันทองกับแมงเม่าก็ยิ่งได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นจากการรับใช้กรมขุนวิมล ทำให้ทั้งสองยอมรับหัวใจตัวเองว่ามีความรักให้กัน แต่ขันทองก็ยังไม่ได้สารภาพความจริงกับแมงเม่าว่าที่จริงเขาคือใคร เพราะหน้าที่ของจารบุรุษที่ยังค้ำคออยู่ ขณะที่แมงเม่าก็สับสนว่าตนเองไปรักใคร่ชอบพอกับชายที่เป็นขันทีได้อย่างไร
ในวังเกิดเหตุมีจารบุรุษปลอมตัวเข้ามาในวัง พอดีกับที่ เยื้อน ทาสสาวในเรือนขันทองรู้ความลับว่าขันทองไม่ใช่ขันทีแต่เป็นชายแท้ เยื้อนรีบหนีและขอความช่วยเหลือจากศรีมะโนราช ขันทองกังวลว่าเยื้อนจะนำความเดือดร้อนมาให้จึงลักพาตัวเยื้อนไปไว้ที่ค่าย พระยาตาก ให้ช่วยคุมตัวไว้ ทางด้านศรีมะโนราชก็เอาข้อมูลจากเยื้อนไปบอก พระยากำแหง หรือ ออกญาวัง ทำให้ขันทองตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นจารบุรุษ แต่ แน่น ก็ช่วยโกหกจนขันทองรอดตัวไปได้ แต่พระยากำแหงก็ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะเขาสงสัยท่าทางของออกพระศรีฯ ที่ดูเฉลียวฉลาด ไม่เหมือนขันทีทั่วไป จึงคอยจับตาดูออกพระศรีฯ ไม่ให้คลาดสายตา
ขันทองได้ช่วยแมงเม่าถอดรหัสจากใบบอกของออกญาสีหราชเดชะ และได้พบว่าเนื้อหาในใบบอกนั้นเป็นข้อมูลทางการทหารของอยุธยา และรายชื่อขุนนางที่ต้องการสวามิภักดิ์กับทางอังวะ แมงเม่าบอกขันทองว่าใบบอกนี้มาพร้อมกับกลักใบบอกที่มีลวดลายปีกผีเสื้อ ขันทองเอะใจเพราะว่าลายปีกผีเสื้อนั้นเป็นลายประจำตัวของเจ้าจอมเพ็ญ ทั้งคู่จึงสงสัยว่าเจ้าจอมเพ็ญจะมีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ ขันทองแค้นใจมาก เพราะนั่นเท่ากับว่าเจ้าจอมเพ็ญเกี่ยวข้องกับการตายของเสือขุนทองด้วย
การศึกเริ่มประชิดใกล้เข้ากรุงศรีอยุธยาขึ้นทุกที แต่คราวนี้ฝ่ายอังวะไม่ได้ยกทัพใหญ่มาอย่างคราวก่อน หากมาเป็นแบบกองโจรกลุ่มเล็ก ค่อยๆ บุกตามหัวเมืองทีละแห่ง เมืองต่างๆ พากันร้องขออาวุธสนับสนุนจากกรุงศรีอยุธยา ทว่าเหล่าขุนนางใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ต่างคาดการณ์ผิด จึงไม่ยอมมอบอาวุธให้ตามที่มีการร้องขอ เพราะกลัวว่าหัวเมืองต่างๆ จะนำอาวุธเหล่านั้นกลับมาโจมตีกรุงศรีอยุธยาเสียเอง เหล่าทหารกองโจรจากกรุงอังวะจึงยิ่งรุกคืบเข้ามาใกล้ขึ้นๆ สถานการณ์ในพระนครจึงเลวร้ายลงทุกที
ในที่สุด ขันทองก็ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับการตายของพ่อและแม่ของตน ภารกิจจารบุรุษของตนก็น่าจะเสร็จสิ้นแล้ว ถ้าไม่ติดว่าเป็นห่วงแมงเม่า ด้วยเพราะพระยากำแหงเองก็มีใจให้แมงเม่าเหมือนกับตน ซ้ำยังชิงสารภาพรักตัดหน้าตนเสียอีก ขันทองจึงตัดสินใจเล่าทุกอย่างให้แมงเม่าฟังอย่างไม่ปิดบังอีกต่อไป ขันทองบอกว่าตนไม่ใช่ขันที แต่เป็นจารบุรุษที่แฝงตัวมาสืบหาข่าวที่ฝ่ายใน แมงเม่ารู้สึกขัดเขินขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าออกพระศรีฯ ไม่ได้เป็นขันทีอย่างที่คิด แต่เป็นชายหนุ่มเต็มตัว ขันทองยังคงปฏิบัติหน้าที่ออกพระศรีขันทินไปพร้อมๆ กับพยายามข่มความโกรธแค้นชิงชังเจ้าจอมเพ็ญ ผู้ที่เป็นสาเหตุการตายของมารดาของตน โดยมีแมงเม่าคอยให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง
สถานการณ์ในอโยธยาเลวร้ายขึ้นทุกวันเมื่อฝ่ายอังวะบุกมาล้อมเมืองไว้ทุกทิศทาง ผู้คนในวังหลวงต่างก็ตระเตรียมหาทางหนีทีไล่กันหากเกิดศึกสงครามขึ้น ในที่สุด ฝ่ายอังวะก็ใช้วิธีจุดไฟเผาฐานกำแพงเมืองจนกำแพงเมืองถล่มแล้วบุกเข้ามาในเมือง ผู้คนในวังหลวงต่างวิ่งหนีเอาตัวรอดกันอลหม่าน ขันทองกับแมงเม่าหนีจากวังไปสมทบกับชุมนุมพระยาตากที่ระยอง ที่นั่น แมงเม่าได้พบกับม่วง อิน เศรษฐีมิ่งและครอบครัวที่เหลืออีกครั้ง
ขันทองตัดสินใจร่วมทัพพระยาตากเพื่อ โดยศึกครั้งสำคัญศึกหนึ่ง ก็คือการตีเมืองจันทบูรณ์ ศึกนี้ทัพพระยาตากมีกำลังน้อยกว่าศัตรูมากนัก แต่จำเป็นต้องบุกเข้าตี ทำให้พระยาตากทรงใช้กลยุทธ “ทุบหม้อข้าว” ด้วยการให้ทหารกินให้อิ่ม แล้วทุบหม้อข้าวหม้อแกงให้แตกทั้งหมด ซึ่งถ้าชนะศึกก็จะได้กินข้าวกันที่จันทบูรณ์ แต่ถ้าแพ้ ก็ให้อดตายกันทั้งกองทัพไปซะเลย ทัพของพระยาตากมีกำลังใจถึงที่สุด เลยสามารถยึดเมืองจันทบูรณ์ได้สำเร็จ และเป็นฐานที่มั่นที่สำคัญในการกู้กรุงในเวลาต่อมา
หลังจากขับไล่พวกอังวะไปได้แล้ว พระยาตากก็ยกทัพลงมายังเมืองธนบุรีศรีมหาสมุทรเพื่อสร้างเป็นพระมหานครแห่งใหม่แทนกรุงศรีอยุธยาที่เหลือเพียงซากปรักหักพัง และเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ขณะที่ขันทองก็เข้ารับราชการเป็นพระศรีสัจจา มีหน้าที่ดูแลด้านการปรับปรุงเส้นทางคมนาคมต่างๆให้สะดวกยิ่งขึ้น ขันทองกับแมงเม่าเริ่มต้นสร้างครอบครัวไปพร้อมๆ กับไพร่ฟ้าอาณาประชาราษฎร์ที่ฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้งภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่แห่งกรุงธนบุรี
จบบริบูรณ์
คาแร็กเตอร์ตัวละคร
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช : อธิชาติ ชุมนานนท์
หน้าตาเหมือนคนจีน พระนามเดิมคือ เจิ้งจ้าว (แต้ซิน ตามสำเนียงแต้จิ๋ว) แต่คนไทยเรียกว่า “สิน” เป็นพ่อค้าเกวียน ค้าขายแถวเมืองตากและภาคเหนือ ทำให้ต้องสู้กับโจรผู้ร้าย จึงมีความเชี่ยวชาญในพิชัยสงคราม ต่อมาถวายเงินให้ราชการ จึงได้เป็นหลวงยกกระบัตรเมืองตากและเป็นพระยาตากในเวลาต่อมา ก่อนจะหนีออกจากกรุงศรีอยุธยาก่อนกรุงแตก และรวมกำลังกลับมากู้กรุงศรี และปราบดาภิเษกเป็นกษัตริย์ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระบรมราชาที่4” หรือ “พระเจ้ากรุงธนบุรี”เป็นคนเฉลียวฉลาด กล้าหาญ มีวิสัยทัศน์กว้างไกลมาก แต่ในขณะเดียวกันก็เด็ดขาด ยุติธรรม มีความเป็นผู้นำสูง ทำให้มีคนจงรักภักดีมากมาย
พระเจ้ามังระ : เอกพงศ์ จงเกษกรณ์ (เฟิร์ส) มีความองอาจเป็นนักรบ
กษัตริย์หนุ่มแห่งเมืองอังวะและราชอาณาจักรพุกาม เป็นโอรสองค์ที่ 2 ของ พระเจ้าอลองพญา ผู้สถาปนาราชวงศ์คองบอง พระเจ้าอลองพญาเป็นพรานป่า หัวหน้าหมู่บ้านมาก่อน ภายหลังรวบรวมผู้คนล้มราชวงศ์ของมอญ เลยปราบดาภิเษกเป็นกษัตริย์ พระเจ้ามังระเลยได้กลายเป็นพระราชบุตร ซึ่งพระเจ้าอลองพญามีพระราชพินัยกรรม ให้ลูกทั้ง 6 องค์ ขึ้นเป็นกษัตริย์ตามกันไป พระเจ้ามังลอกราชบุตรองค์โตจึงขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากพระเจ้าอลองพญา พอพระเจ้ามังลอกสวรรคต พระเจ้ามังระจึงขึ้นแทน เป็นกษัตริย์องค์ที่ 3 ของราชวงศ์คองบองมีพระนิสัยกล้าหาญ เป็นนักรบ แต่ก็ไม่ใช่คนบุ่มบ่าม ทรงเปลี่ยนวิธีคิดที่ต้องตีเมืองเพื่อปกครอง แผ่ขยายอาณาเขตเหมือนในอดีต เป็นการตีเมืองเพื่อเอาทรัพยากรแทน ทำให้ภายหลังที่รบชนะอยุธยา จึงเป็นเหตุอยุธยาเสียหายอย่างหนักและถูกกวาดต้อนทรัพย์สินผู้คน กลับไปอังวะจำนวนมาก
ขันทอง(ออกพระศรีขันทิน) : จิรายุ ตั้งศรีสุข
บิดาของขันทองคือเสือขุนทอง จอมโจรชื่อดังในอยุธยา ส่วนมารดาของขันทองคือ สาลิกา หญิงลูกครึ่งไทยกับโต้ระกี่ (ตุรกี) ทั้งพ่อและแม่ของขันทองตายอย่างเป็นปริศนา ซึ่งสาเหตุการตายของทั้งคู่อยู่ในพระราชวังหลวง ขันทองจึงลาสิกขาบทและปลอมตัวเป็นนักเทศขันทีเข้าไปสืบหาความจริงในพระบรมมหาราชวัง อีกทั้งรับหน้าที่จารบุรุษสืบหาคนทรยศ ที่นำความลับของบ้านเมืองไปบอกกับฝ่ายอังวะ ขันทองได้รับตำแหน่งออกพระศรีขันทิน และทำงานอยู่กับฝ่ายในที่มีแต่เจ้าจอมหม่อมห้ามอยู่มากมาย จึงต้องใช้ธรรมะมาข่มใจไม่ให้หลงใหลไปกับความสวยงามจนเสียการใหญ่ ชายหนุ่มตั้งใจไว้ว่าหากสืบพบผู้ที่ทำให้พ่อกับแม่ตายและเสร็จสิ้นภารกิจจารบุรุษเมื่อใด ก็จะกลับไปบวชเหมือนเดิม แต่ความตั้งใจก็เริ่มคลอนแคลนไปเมื่อเจอกับแมงเม่า สาวน้อยนัยน์ตาคม ขันทองมีความสามารถในเชิงดาบและการต่อสู้ที่ได้รับถ่ายทอดมา อีกทั้งยังมีความรู้ในเรื่องกลทัพกลศึกอย่างเจนจัดอีกด้วย
แมงเม่า: ณฐพร เตมีรักษ์
บุตรสาวของเศรษฐีมิ่ง เจ้าของกิจการทำกระดาษรายใหญ่แห่งบ้านนางเลิง เมื่อเล็กๆ แมงเม่ามีชื่อว่า “หลง” เพราะเป็นลูกหลงที่เกิดมาเมื่อพี่ๆ โตกันหมดแล้ว แต่เมื่ออายุราวสิบปี หลงเป็นไข้อย่างหนักจนทุกคนคิดว่าจะไม่รอด แต่โชคดีที่ได้แม่ขาวเม่า แม่ชีที่วัดนำตัวไปรักษาจนหายดี แม่ขาวเม่าที่เป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงจึงแก้เคล็ดด้วยการเปลี่ยนชื่อของหลง เป็น “แมงเม่า” ตามชื่อของท่าน แมงเม่าเป็นเด็กสาวที่แก่นแก้วและสู้คน มีความสนใจในเรื่องกลอักษรทั้งหลายเป็นอย่างมาก
พระยากำแหง (ออกญาวัง) : สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล (เดี่ยว)
เป็นทหารที่ดูแลอยู่ทางฝ่ายหน้า เป็นคนดี ซื่อสัตย์สุจริต คอยทัดทานเรื่องทุจริตของขุนนางหน้าใหม่ๆ แต่ด้วยความที่เป็นเสียงส่วนน้อย จึงมักแพ้เสมอ ออกญาวังสงสัยขันทองหรือออกพระศรีขันทินว่าเป็นคนฉลาดเฉลียว และมีความรู้มาก ผิดจากขันทีทั่วไป จึงมักจะคอยจับผิด แต่ก็จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน เพราะขันทองรู้ทัน
ม่วง: ดนัย จารุจินดา
เป็นพี่ชายแท้ๆ ของแมงเม่า ม่วงมีนิสัยสู้คน ใจนักเลง แต่ไม่เคยหาเรื่องใครก่อน ม่วงกับอิน เมียของม่วงมีปัญหาไม่เข้าใจกัน ทำให้ม่วงกับอินไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยากัน ม่วงจึงมักออกไปที่โรงรับชำเราในเมืองเป็นประจำ หลังจากที่ม่วงไปมีเรื่องกับคนที่โรงรับชำเราและฆ่าคนตายด้วยความบังเอิญ ม่วงจึงต้องหลบหนีการไล่ล่าหัวซุกหัวซุนไปสมทบกับกองกำลังของพระยาตาก และเข้าร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่เพื่อกอบกู้อยุธยาให้คืนมา
กรมขุนวิมลภักดี(เม่า): จินตหรา สุขพัฒน์
เป็นพระอัครชายาฝ่ายใน กรมขุนวิมลมีบุญคุณกับแมงเม่ามาก เพราะเคยช่วยดูแลรักษาแมงเม่าเมื่อครั้งที่ยังเป็นแม่ขาว (แม่ชี) อยู่ที่วัด หลังจากกลับไปเป็นเจ้าจอมแล้ว ก็ยังทรงเรียกหาแมงเม่าให้ไปสนทนาด้วยเป็นประจำ กรมขุนวิมลทรงยึดมั่นศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ทรงมีพระทัยดี ไม่ค่อยอยากมีเรื่องกับใคร ไม่เด็ดขาด จึงทำให้คนชั่วได้ใจ กระทำการหยามพระเกียรติอยู่เนืองๆ
เจ้าจอมเพ็ญ: ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์
เจ้าจอมคนสวย แม้จะมีอายุราวสามสิบปีแล้ว แต่ก็ยังคงความงดงามอยู่ ทว่าในจิตใจของเจ้าจอมเพ็ญนั้นมีแต่ความอิจฉาริษยา อยากจะมีอำนาจบารมีเป็นแม่หยั่วเมืองผู้เป็นใหญ่เหนือใคร จึงทำทุกวิถีทางแม้กระทั่งการพึ่งคุณไสย เจ้าจอมเพ็ญปรารถนาความเป็นใหญ่จนตกเป็นเครื่องมือของผู้ที่ไม่หวังดีกับประเทศชาติ ถึงขั้นยอมทำเรื่องชั่วช้าเพื่อความสำเร็จของตน ในที่สุดผลของการกระทำชั่วก็ย้อนกลับเข้าไปที่ตัว จนเจ้าจอมเพ็ญกลายเป็นคนสติไม่สมประกอบไป
พระยาพลเทพ: จักรกฤษณ์ อำมรัตน์
ขุนนางชั่วในราชสำนัก เป็นพวกที่คิดแต่การได้ของตน ไม่สนว่าใครจะเดือดร้อนแค่ไหน เป็นคนติดต่อกับทางฝ่ายอังวะเพื่อบอกข้อมูลลับทางการทหาร เพื่อที่อังวะจะได้เข้าโจมตีอยุธยาได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ต้องการกุมอำนาจไว้ในมือให้นานที่สุด พระยาพลเทพเป็นสาเหตุการตายของพ่อของขันทอง
พระยาพิชัยดาบหัก : จิรายุ ตันตระกูล
กำยำล่ำสันแต่ตัวไม่ใหญ่เป็นทหารเอกคู่พระทัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เดิมชื่อ “จ้อย” หรือ “ทองดี” เรียนมวยไทยจนช่ำชองจากอาจารย์หลายคน ก่อนจะมาเรียนเพลงดาบ หลังจากนั้นได้เจอครูมวยจีนจึงฝากตัวเป็นศิษย์ ทั้งเพลงมวย เพลงดาบ จึงประยุกต์เอากังฟูจีนเข้าไปใส่ด้วย ทำให้มีวิชามวย วิชาดาบ โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ต่อมาเข้ารับราชการเป็นทหารอาสาของพระยาตาก ภายหลังพระยาตากได้ปราบดาภิเษกเป็นกษัตริย์ จึงได้เลื่อนขั้นเป็นพระยาพิชัย แต่มีเครื่องทรงและศักดินาเทียบเท่า “เจ้าพระยา” แสดงให้เห็นว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงโปรดและไว้วางพระราชหฤทัยมากเป็นคนซื่อสัตย์ จงรักภักดี เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ แต่ก็มองโลกในแง่ดี ไม่เคร่งเครียด
หลวงศรีมะโนราช : ภาสกร บุญวรเมธี (บอย)
หน้าตาหล่อเหลาเป็นขันทีอยู่ในวัง เป็นชาวตุรกีที่ถูกซื้อตัวมาโดยกรุงศรีอยุธยาเพื่อทำหน้าที่ขันทีรับใช้ในวังเป็นคนขี้อิจฉา นิสัยเจ้าเล่ห์ เกลียดพระศรีขันทินมาก เพราะตัวเองเข้ามาอยู่ก่อน แต่พอพระราชาข่านหัวหน้าขันทีตาย ตนก็หวังจะได้ขึ้นเป็นหัวหน้าแทน แต่พระศรีขันทินกลับขึ้นแทน ทำให้จงเกลียดจงชังและคอยหาเรื่องมาตั้งแต่นั้น
แน่น/ขุนจิตใจภักดิ์ :ฐกฤต ตวันพงค์
หน้าตาหล่อเหลาเป็นเพื่อนสนิทกับพระศรีขันทิน หรือ “ขันทอง” ปลอมตัวมาเป็นขันทีในวังด้วยกันเป็นคนรักเพื่อน นิสัยร่าเริง กตัญญูรู้คุณ ขันทองเคยช่วยชีวิตตนไว้ ครั้งที่ตนเป็นทาส พอขันทองต้องปลอมตัวเข้าวังมาก็เลยมาด้วย ภายหลังเกิดเหตุผิดพลาด จึงรับผิดถูกประหารชีวิตแทนพระศรีขันทิน
พันหาญ: วัชรชัย สุนทรศิริ (แอ๊นท์)
นายทหารสังกัดพระยาตาก เคยเป็นสมุนโจรของเสือขุนทอง พ่อของขันทอง พันหาญลักลอบแฝงตัวเข้ามาในอยุธยาเพื่อคอยรับข่าวที่ขันทองสืบได้ไปส่งต่อให้พระยาตาก และคอยให้ความช่วยเหลือขันทองเสมอ
จมื่นศรีสรรักษ์: โกสินทร์ ราชกรม
ญาติผู้น้องของเจ้าจอมเพ็ญ เป็นขุนนางหน้าใหม่ที่เพิ่งได้รับยศตำแหน่งมาได้ไม่นานจากการสนับสนุนของเจ้าจอมเพ็ญ จมื่นศรีสรรักษ์จึงไม่มีความรู้ความสามารถในเรื่องบ้านเมืองแต่อย่างใด คิดแต่จะเข้ามากอบโกยผลประโยชน์จากการทำราชการ และรับใช้เจ้าจอมเพ็ญเพื่อความเจริญก้าวหน้าเท่านั้น แต่เมื่อกรุงศรีอยุธยาพบกับวิกฤติ จมื่นศรีสรรักษ์ก็เริ่มคิดได้และกลับตัวกลับใจ อาสาออกไปรบกับอังวะจนถึงแก่ชีวิตในการรบ
ขุนทอง: สมชาย เข็มกลัด
พ่อของขันทอง เป็นจอมโจรชื่อดังที่ทุกคนพากันขยาด ขุนทองอาสาเข้าไปเป็นทหารเพื่อต้องการสืบหาสาเหตุการตายของสาลิกา เมียสาวที่ถูกส่งตัวเข้าไปในพระบรมมหาราชวัง แต่เสือขุนทองกลับไปรู้เรื่องที่พระยาพลเทพร่วมมือกับฝ่ายอังวะ เสือขุนทองจึงถูกสั่งฆ่าปิดปากด้วย แต่เสือขุนทองเป็นผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า
คุณท้าวสาลิกา: ฐรินดา กรรณสูต
แม่ของขันทอง เมียของเสือขุนทอง เป็นลูกครึ่งไทย-ตุรกี แม้จะถูกลักพาตัวไปเป็นเมียเสือขุนทอง แต่ทั้งคู่ก็รักกันมาก หลังจากขุนทองอายุได้ห้าขวบ สาลิกาก็ถูกพ่อกับแม่มาชิงตัวกลับไปและส่งตัวไปเป็นคุณท้าวในวังหลวง คุมเครื่องต้นในพระบรมมหาราชวัง สาลิกาถูกเจ้าจอมเพ็ญบังคับให้วางยาเสน่ห์ในเครื่องต้น เมื่อถูกจับได้ สาลิกาจึงฆ่าตัวตายในสระน้ำในพระบรมมหาราชวัง
กล้า : วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์
นักเลงหัวไม้จากบ้านริมโรงฆ้อง เป็นไม้เบื่อไม้เมากับม่วง และมักจะคอยหาเรื่องม่วงเสมอ กล้าตั้งใจจะเอาแมงเม่าไปเป็นเมียเพื่อหยามน้ำหน้าม่วง แต่ไม่สำเร็จ เพราะแมงเม่าเกลียดกล้ามาก กล้าเป็นคนพาทหารไปเผาบ้านเศรษฐีมิ่งจนวอดไปทั้งหลัง แต่ในที่สุด ขันทองกับพันหาญก็พากันไปล้างแค้นกล้าแทนแมงเม่ากับม่วงอย่างสาสม
เยื้อน: อัฐมา ชีวนิชพันธ์ (โบวี่)
นางทาสในเรือนของออกพระศรีขันทิน เดิมเยื้อนเคยเป็นลูกสาวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่มาก่อน แต่หลังจากขุนนางผู้นั้นถูกประหารชีวิต เยื้อนก็ถูกลดตัวลงมาเป็นทาส เยื้อนต้องผ่านการบำเรอนายผู้ชายมาหลายคน จนในที่สุดเยื้อนก็มาขอร้องให้กรมขุนวิมลช่วยไถ่ตัวให้ และได้เข้ามารับใช้ภายในวัง เยื้อนหลงรักออกพระศรีขันทินรูปงาม เพราะความทะเยอะทะยาน อยากหลุดพ้นจากสภาพทาส แต่ออกพระศรีฯ ไม่เล่นด้วยเพราะรักแมงเม่า เยื้อนจึงหาทางทำลายออกพระศรีฯ ด้วยความแค้น
ขุนแผลงฤทธิ์: นิรุติ สาวสุดชาติ
ลูกสมุนของพระยาพลเทพ เป็นขุนนางชั่ว คิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตน
เจ้าจอมอำพัน: ขวัญฤดี กลมกล่อม
เจ้าจอมอีกคนในฝ่ายใน สนิทกับกรมขุนวิมล รักและเอ็นดูแมงเม่ามากเช่นกัน ช่างพูด ช่างเสียดสีเหน็บแนม แต่ก็นับเป็นคนดีคนหนึ่ง
เลื่อน : คัคกิ่งรักส์ คิคคิคสะระณัง
นางข้าหลวงคนสนิทของเจ้าจอมเพ็ญ หยิ่งยโสเพราะคิดว่าเป็นคนโปรดของเจ้าจอมเพ็ญ แต่ผลสุดท้ายก็ต้องตายเพราะเลือกภักดีกับเจ้านายผิดคน
พระยาสีหะราชเดชะ: เวนซ์ ฟอลโคเนอร์
ขุนนางชั้นผู้ใหญ่อีกคน รู้เห็นเรื่องการเสียชีวิตของเสือขุนทอง เป็นผู้เก็บใบบอกคุยหรหัสย์ที่สามารถเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องได้ เมื่อคิดจะพูดความจริง ก็กลับถูกฆ่าปิดปาก ใบบอกคุยหรหัสย์จึงตกมาอยู่ในมือของแมงเม่าด้วยความบังเอิญ
เป้า: อมลรดา ไชยเดช (โมนา)
นางข้าหลวงของกรมขุนวิมล เพื่อนสนิทของแมงเม่าในช่วงเวลาที่ลี้ภัยไปอยู่ในพระบรมมหาราชวัง
อะแซหวุ่นกี้ : ศานติ สันติเวชชกุล
องอาจ ดูสุขุมรอบคอบ“อะแซหวุ่นกี้” เป็นตำแหน่งไม่ใช่ชื่อคน ถ้าเทียบกับของไทยก็ประมาณ “มหาเสนาบดี” มีศักดิ์เป็นพระญาติข้างพระราชมารดาของพระเจ้ามังระ เป็นคนสุขุมรอบคอบ สุภาพอ่อนโยน แม้จะถือกำเนิดจากสามัญชน แต่เป็นคนมีความรู้มาก ชำนาญการศึก และวิสัยทัศน์กว้างไกล
มังมหานรธา : ชัชวาล เพชรวิศิษฐ์ (เก่ง)
เป็นหนึ่งในแม่ทัพที่เข้าตีกรุงศรีอยุธยา โดยเข้าตีจากทางด้านใต้ เป็นหนึ่งใน 60 ทหารเอกของพระเจ้าอลองพญา เป็นคนสุขุม รอบคอบ ใจเย็น เจ้าแผนการ มีนโยบายในการรบคือถ้าใครอ่อนน้อมจะดูแลอย่างดี ไม่ทำร้าย ไม่ริบทรัพย์ เพียงแต่เอาเสบียงและแรงงานเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถ้าใครขัดขืนจะฆ่าทิ้งทั้งหมด ทำให้ช่วงตีกรุงศรีอยุธยา มีชาวบ้านมาสวามิภักดิ์จำนวนมาก ทำให้เคลื่อนทัพได้เร็วและมาล้อมกรุงศรีอยุธยาได้ก่อนเป็นทัพแรก
เนเมียวสีหบดี: วิศรุต หิรัญบุศย์
เป็นหนึ่งในแม่ทัพที่เข้าตีกรุงศรีอยุธยา โดยเข้าตีจากทางด้านเหนือ เป็นหนึ่งใน 60 ทหารเอกของพระเจ้าอลองพญา ได้รับสมญานามว่า “ผู้พิชิตสามแผ่นดิน” คือรบชนะ ล้านนา ล้านช้าง กรุงศรีอยุธยา โดยมีพ่อเป็นชาวอังวะ แต่มีแม่เป็นชาวล้านนา ทำให้ถูกดูถูกจากพวกอังวะด้วยกัน จึงพยายามพิสูจน์ตัวเองเป็นคนโหดเหี้ยม แต่ก็เฉลียวฉลาด ชำนาญการศึก มีนิสัยขี้ระแวง แต่ก็จงรักภักดีต่อพระเจ้ามังระมาก
มิ่ง: มนตรี เจนอักษร
พ่อของแมงเม่าและม่วง มีอาชีพทำกระดาษชนิดต่างๆ มีฐานะร่ำรวยถึงขั้นเศรษฐีแห่งบ้านนางเลิง เป็นพ่อที่รักลูกๆ ทุกคน ถึงแม้ว่ามิ่งดูเหมือนจะดุ แต่พอเจอแมงเม่าออดอ้อนเข้าหน่อย ก็ใจอ่อน โดยเฉพาะเรื่องคู่ครองของแมงเม่าที่เศรษฐีมิ่งไม่เคยบังคับแมงเม่าให้ดูตัวได้สำเร็จเสียที
ชื่น: เพชรลดา เทียมเพ็ชร
แม่เลี้ยงของแมงเม่าและม่วง เป็นน้องแท้ๆ ของแม่ของแมงเม่าและม่วง เป็นคนใจดี อ่อนโยน และมักตามใจแมงเม่าเสมอ
อิน: มรกต หทัยวสีวงศ์ (ไหม)
เมียคนที่สองของม่วง อินไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยากับม่วง เพราะอินกลัวผีของอิ่ม พี่สาวของเธอที่เป็นเมียแรกของม่วงจะมาทำร้าย จึงทำให้ม่วงกับอินจึงไม่มีลูกด้วยกันเสียที แต่อินเป็นคนขยัน เอาการเอางาน ช่วยงานในโรงทำกระดาษได้เป็นอย่างดี จึงเป็นที่พอใจของเศรษฐีมิ่งมาก เมื่ออินกับม่วงกลับมาพบกันอีกครั้ง หลังจากม่วงต้องหนีไปเพราะฆ่าคนตาย ความสัมพันธ์ของผัวเมียก็ค่อยๆ ดีขึ้น
ติ่น: อรรถพล เทศทะวงศ์
คนสนิทของแมงเม่าที่บ้านเศรษฐีมิ่ง
ผล: อนุวัฒน์ คำมูล
คนสนิทอีกคนของแมงเม่าที่บ้านเศรษฐีมิ่ง
ยี่สุ่น : จุฬาลักษณ์ อิสมาโลน (หญิง)
นางโสเภณีที่โรงรับชำเราที่ม่วงไปใช้บริการเป็นประจำ
คุณท้าวโสภา : ปรารถนา บรรจงสร้าง
พระราชาข่าน: สุเชาว์ พงษ์วิไล
ขุนเทพชำนาญ : ธนพล พีชะพัฒน์
ขุนเทพรักษา : ณัฐพล วิริยะชัย
ขุนรักษ์เทวา : นิพัธ เจริญผล
พระองค์เจ้าเชษฐ์: วิธวัฒน์ สิงห์ลำพอง