xs
xsm
sm
md
lg

พ่อปลาไหล ตอนที่ 15

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พ่อปลาไหล ตอนที่ 15

บทประพันธ์ กนกเรขา บทโทรทัศน์ จอมใจ และ ปัทม์

ขณะเดียวกันเคนยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องแห่งนั้น ด้วยสีหน้าแววตาเจ้าเล่ห์ เหมือนเสือร้ายพร้อมจะขย้ำเหยื่อ

ประตูห้องเปิดออก เผยให้เห็นพราวยืนถือแก้วไวน์ท่าทางเซ็กซี่อยู่ที่ริมหน้าต่างห้อง ทำทีไม่หันมามอง ใครคนหนึ่งเดินเข้ามาในความมืดของห้องอย่างช้าๆ
พราวได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายลอยมาตามลม สูดกลิ่นนั้นเข้าไปเต็มๆ อย่างหื่นกระหาย
พราวหันมามองจากต้นคอของเจตน์ที่คิดว่าเป็นเคน ไล่มาที่แผงอกแกร่งกำยำ พลางขบริมฝีปากตัวเองเบาๆ
เจตน์เดินเข้ามาในห้องช้าๆ เห็นแก้วไวน์วางอยู่ พร้อมดอกกุหลาบสีแดง และกระดาษโน้ตเล็กๆ เขียนว่า “Welcome” อันเป็น Welcome drink จากพราว
ในแสงสลัว เจตน์ยกแก้วไวน์ดื่มช้าๆ พราวจ้องริมฝีปากของเจตน์ที่กำลังดื่มไวน์เข้าไปอย่างพึงพอใจ

โดยก่อนหน้าที่เจตน์จะมา พราวแอบเอายาปลุกเซ็กซ์ใส่ลงในไวน์ทั้งสองแก้ว
“คืนนี้คุณต้องเป็นของพราว”
พราวมองเจตน์ดื่มไวน์อย่างสาสมใจ พราวดื่มไวน์แก้วของตัวเอง
สักพักทั้งสองฝ่ายเริ่มเกิดอาการร้อนวูบวาบ แล้วเดินเข้าหากันช้า

อีกฝั่งหนึ่งเสียงกอล์ฟแหวดังขึ้น
“มึงมาทำไม”

ที่แท้เคนมาหากอล์ฟที่ห้อง ไม่ได้ไปหาพราว เคนลอยหน้าลอยตาตอบคำถามกอล์ฟ
“กูก็เป็นห่วงมึงไง เห็นมึงป่วยไข้ไม่สบายได้รับบาดเจ็บกูก็มาดูแล”
“ตอแหล กูรู้ มึงหนีพวกผู้หญิงของมึงมา ทำไม คราวนี้ใครทำอะไรอีก”
เคนยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อนึกถึงพราว เขาประเมนสถานการณ์อย่างรู้เท่าทันเกมของสาวไฮโซ เล่าได้เป็นฉากๆ จนเห็นเป็นภาพเลยทีเดียว

โดยตอนนี้ สีหน้าพราวร้อนรุ่ม เจ้าหล่อนกับเจตน์เดินเข้าหากันช้าๆ พราวกระชากคอเสื้อเจตน์เข้ามาหา ดูออกว่าตอนนี้ยาออกฤทธิ์เต็มสูบแล้ว พราวเหวี่ยงเจตน์ไปที่โซฟา
“คุณพราวเขาไลน์มาตามให้กูไปหาเขาที่ห้อง” เคนว่า
พราวกระโดดขึ้นคร่อมเจตน์
“ถ้าคุณพราวกับชาช่ากำลังร่วมมือกันเล่นงานคุณเอมอย่างที่มึงบอก กูมั่นใจว่า ทั้งสองคน จะต้องคอยหาโอกาสหักหลังกันเอง” เคนเสริม
พราวทำท่าทำทางแยกเขี้ยวเหมือนแม่เสือสาวคำราม “แง้ว” ออกมา
“และคืนนี้ พราวก็จะต้องนัดกูไปเพื่อเผด็จศึกรวบหัวรวบหางกู ก่อนที่ชาช่าจะทันลงมือ”
พราวโน้มตัวเข้าหาเจตน์ เสื้อผ้าของทั้งคู่ถูกเหวี่ยงทิ้งลงพื้น ก่อนจะได้ยินเสียงพราวกับเจตน์ร้องเหมือนแมวฟัดกันดังลั่นไปทั่วห้อง
“หรือไม่บางที...”
ชาช่ากับแจ๊ดเดินเข้าล็อบบีคอนโดมา สองคนหยุดยืนโพสท่าอยู่กลางทางเดิน เหมือนจะเข้ามาจู่โจมอะไรสักอย่าง
“ชาช่านั่นแหละ ที่กำลังซ้อนแผนของพราวอีกที” เคนวิเคราะห์อย่างภาคภูมิ
ชาช่ากับแจ๊ดสบตา ยิ้มร้ายอย่างรู้กัน

เคนมีสีหน้าภาคภูมิใจว่าตัวเองฉลาดล้ำ และประเมินสถานการณ์ตอนนี้ได้อย่างแม่นยำ
“นี่มึงคงคิดว่ามึงฉลาดมากสินะ” กอล์ฟโพล่งขึ้น
จากที่เก๊กหล่อภูมิใจอยู่ เคนถึงกับทรุดฮวบลง
“ความจริงคือ มึงขี้ขลาดมากต่างหาก ที่ไม่กล้าเลือกๆ ไปซักคน ปล่อยให้เขาตีกันแย่งมึงเป็นแมลงวันตอมขี้ไปได้ ไอ้คนมักมาก”
เคนเสียเซลฟ์สุดๆ ถูกกอล์ฟใส่เป็นชุด ทำหน้าไม่ถูก
“ดูมึงพูดเข้า มักมากอะไร กูแค่สแตนบายไว้ให้อุ่นใจ”
“แล้วมึงเคยอุ่นใจจริงๆ มั้ย ไอ้ที่มึงภูมิใจนัก ภูมิใจหนาว่าเขาตีกันแย่งมึง แต่มึงก็ต้องคอยเช็คตลอดว่าเขายังเห็นมึงสำคัญอยู่มั้ย”
โดนจี้จุดเข้าให้อีกดอก เคนหน้าเสียเหลือไม่ถึงขีด แต่ก็ทำเป็นระรื่นกลบเกลื่อน
“แหม กอล์ฟ เมียรัก มึงนี่รู้ใจกูจริงๆ มาให้กูจูบปากทีนึง”
เคนใช้มือดึงหน้ากอล์ฟมาใกล้ๆ ทำท่าจะจูบปาก แต่กอล์ฟนิ่งไม่เล่นด้วย เคนเลยเป็นฝ่ายจ๋อยซะเอง
“แต่วิธีของมึง กูว่าใช้ไม่ได้กับคุณเอม กูเชื่อว่า ถ้าต้องตกอยู่ในสมรภูมิบ้าบอของมึงบ่อยๆ คุณเอมพร้อมที่จะทิ้งระเบิดใส่มึง แล้วเดินจากไป” กอล์ฟชี้หน้าเคนคาดโทษ “นี่ยังไม่รวมที่มึงทำเลวกับพ่อเขาอีกนะ”
“อะ ไร ของ เมิง” เคนปากแข็งไม่ยอมรับ
กอล์ฟเอาภาพที่เซฟจากกล้องวงจรปิดที่ผับที่เคนพารอนไปเที่ยวทั้งสองครั้ง มาโยนลงตรงหน้าเคน
“มึงเอาภาพพวกนี้มาได้ยังไง”
“กูเป็นตำรวจเป็นอาชีพ ไม่ใช่งานอดิเรก เรื่องแค่นี้สบายมาก”
เคนเข้าไปเกาะแขนกอล์ฟประจบ “กอล์ฟเมียรัก มึงคงไม่ได้คิดจะส่งภาพพวกนี้ให้คุณเอมใช่มั้ย นี่เคนเองไง เพื่อนที่มึงรักและเมตตามาตลอด”
กอล์ฟบอกว่า “คิด” โดยไม่ต้องคิด
เคนหน้าเสีย
“แต่กูกลัวคุณเอมบ้านแตกเลยไม่ทำ”
เคนยิ้มร่าโล่งใจ “ถูก มึงคิดถูกแล้ว ศีลธรรม มโนธรรมมึงมาครบ”
“แต่...”
“น่านไง มีแต่... แต่อะไรของมึง”
“กูว่าฉลาดๆ อย่างคุณเอม บางทีเขาอาจจะรู้แล้วก็ได้”
กอล์ฟจ้องหน้าเคนยิ้มยั่ว จนเคนชักเริ่มคล้อยตาม

ในหัวเคนตอนนี้ เต็มไปด้วยสับสน หลอนประสาท
เขาเห็นเอมกำลังรวบรวมหลักฐาน ดูรูปถ่ายจากวงจรปิด อย่างเดียวกับที่กอล์ฟเอามาให้ดู ไม่เท่านั้นเอมยังตรวจหาความผิดปกติจากเสื้อผ้าของรอน และเจอหลักฐานคือโลชั่นที่เคนให้รอนไว้ทากลบกลิ่น
เอมเช็คเบอร์โทร.เข้าออกจากมือถือของรอน
กอล์ฟเสริมขึ้นว่า “แต่เขาแค่ไม่พูด”
ในหัวเคนเห็นเป็นภาพเอมจับเขามัดตรึ่งไว้กับเก้าอี้ แล้วหันไปลับมีดปังตอสีหน้านิ่ง
“แล้วที่มึง สแตนด์บายเขาไว้เป็นตัวเลือก หรือแม้แต่แผนหลอกให้รักแล้วเทของมึง คุณเอมเขาก็อาจจะรู้ และกำลังก็รอเวลาจัดการกับมึงอยู่ก็ได้”
เอมยกมีดขึ้น มีดคมปลาบ เป็นประกายวาบเข้าตาเคน เอมค่อยๆ หันมายิ้มเยือกเย็นให้เคนที่ถูกมัดอยู่

เคนเริ่มหน้าเสียอยู่ในภวังค์คิดตามที่กอล์ฟบิ้วท์ แล้วจู่ๆ เคนก็ได้สติ
"พอเลยไอ้กอล์ฟ ไอ้มือปราบจิตวิทยา เจ้าแห่งการไซโคผู้ต้องหา"
“ขอบใจมาก ที่มึงยังจำฉายาของกูได้”
“แต่กูไม่ใช่ผู้ต้องหาของมึง กูรู้ มึงกำลังไซโคกูให้กูไปรับสารภาพกับคุณเอม กูไม่ได้จิตอ่อนอย่างที่มึงคิดนะ”
“งั้นมึงก็ลองนึกถึง หลักศีลธรรม และความกตัญญูรู้คุณ”
เสียงเพลงธรรมะ ดวงจิตผ่องแผ้วดังขึ้นในหัวเคน กอล์ฟบิ้วท์อีก
“คุณเอมผู้เปี่ยมล้นไปด้วยพรหมวิหาร เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา กับมึง ช่วยเหลือมึงทุกทาง เพราะคิดว่ามึงกำลังลำบาก แต่มึงกลับเนรคุณ” ถึงตรงนี้กอล์ฟชี้ที่หน้าอกเคน “นรก เกิดในใจมึงบ้างรึยังวะ มึงเร่าร้อนมั้ย ความรู้สึกผิดแผดเผาใจมึงบ้างมั้ย”
“กูร้อน เฮ้ย” เคนชักเคลิ้มแล้วนึกได้ “จะร้อนก็เพราะมึงนี่แหละ บิ้วท์กูจังกูไม่ฟังมึงแล้ว”
เคนตั้งท่าจะกลับกอล์ฟบิ้วท์ส่ง
“จะไปไหนก็เรื่องของมึง แต่...อย่าลืมนะ นรกจะติดตามมึงไปทุกๆ ที่”
“พอเลยมึง”
เคนเดินหน้าเสียออกไป กอล์ฟมองตามด้วยความสะใจ

เคนเดินออกมาจากห้องกอล์ฟอย่างหัวเสีย มือถือเขาดังขึ้น ชาช่าโทร.เข้ามา เคนชั่งใจจะรับดีมั้ย แล้วก็ตัดสินใจรับ แกล้งทำเสียงเป็นงัวเงียเหมือนนอนแล้ว
“ฮัลโหล มีอะไรครับชาช่า”
“นี่เคนอยู่ที่ไหนค่ะ เคนไม่ได้ไปหายายพราวเหรอ”
ชาช่าอยู่ที่คอนโด หันไปมองหน้าแจ๊ด
“งั้น...เคนรู้มั้ยคะว่าตอนนี้ยายพราว มันนัดผู้ชายคนอื่นไปหามันถึงห้อง”
ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากเคน แล้วก็มีเสียงกรนดังมา
“เคน เคนคะ”
เคนทำเป็นสะดุ้งตื่น “หะๆ ช่าครับ ผมง่วงมาก ผมนอนแล้วนะ”
เคนกดตัดสายชาช่า แล้วเดินออกไปอย่างไม่สนใจเรื่องที่ชาช่าพูดเลยสักนิด
ด้วยเวลานี้ในหัวของเคนมีแต่ความกังวลเรื่องเอม หลังจากที่ถูกกอล์ฟไซโคอย่างหนัก

ชาช่าขัดใจที่ถูกตัดสาย แต่พอคิดได้ก็ยิ้มดีใจ
“เคนหลับแล้ว แล้วก็ไม่ยอมฟังช่าเลย แต่เคนก็ไม่ได้มาหานังพราว”
“เดี๋ยวจัดเรื่องนังพราวเสร็จ พี่จะหาเวลาพาไปหาหมอรักษาอาการไบโพล่านะ” แจ๊ดหมั่นไส้
“พี่แจ๊ดอะ เอาไงต่อดี”
“ถึงคุณเคนจะไม่มา แต่ถ้าเราจับได้จังๆ ว่านังพราวอยู่กับไอ้คุณเจตน์แล้วส่งรูปให้คุณเคนดู มันก็เสร็จเรา”
ชาช่ากะแจ๊ด แท็กทีมเดินตรงไปที่ลิฟต์

ทางฝ่ายเคนเดินมาตามทางเดินหน้าห้องพักที่แฟลตกอล์ฟ ขณะกำลังเดินไปยังรถ เคนต้องฉากหลบแอบมองไปตรงหน้า เมื่อเห็นมิ้นกำลังเดินตรงมาทางห้องกอล์ฟ ในมือถือถุงโจ๊ก ผลไม้ นม มาด้วย
“คุณมิ้น แหมๆ ไอ้กอล์ฟ ทำเป็นพูดไล่กู ที่แท้ก็รอคุณมิ้น”
เคนยิ้มเจ้าเล่ห์ คิดแผนการชั่วขึ้นมาได้
“มึงเล่นกูก่อนนะไอ้กอล์ฟ”

โทรศัพท์มือถือกอล์ฟดัง กอล์ฟนุ่งผ้าเช็ดตัวเปลือยอกออกมาจากห้องน้ำกดรับสาย
“ว่าไงจ่า...ตกลงพวกมันเป็นแก๊งต่างชาติหลอกโอนเงินอย่างที่เราสงสัยใช่มั้ย เรียกกำลังเสริมเลย เดี๋ยวผมจะรีบตามไป”
กอล์ฟจะรีบแต่งตัว แต่ดันมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
เป็นมิ้นนั่นเองที่เคาะประตูเรียก ขณะยืนรอกอล์ฟมาเปิดประตูให้ สายตาของมิ้นเห็นรองเท้าผู้หญิงคู่หนึ่งวางอยู่ที่หน้าห้องกอล์ฟ ใบหน้ายิ้มละไมเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งไม่พอใจทันที
กอล์ฟนุ่งผ้าเช็ดตัว ถือมือถือออกมาเปิดประตู คิดว่าเคนย้อนกลับมา
“จะมาทำไมอีก กำลังยุ่งเห็นมั้ยเนี่ย”
พอเห็นว่าคนที่มาคือมิ้นไม่ใช่เคน กอล์ฟชะงัก
มิ้นมองสภาพกอล์ฟที่นุ่งผ้าขนหนูตัวเดียว และมองรองเท้าผู้หญิงที่อยู่หน้าห้องอีกครั้ง ก็ทำหน้าตึงใส่กอล์ฟโดยไม่รู้ตัว
“คุณมิ้น”
“คือ มิ้นเป็นห่วงคุณก็เลยแวะมาดูว่าคุณมีไข้อีกรึเปล่า แต่มิ้นคงไม่ต้องห่วงแล้วมั้งคะ”
มิ้นยัดถุงโจ๊ก ผลไม้ นม ใส่มือกอล์ฟ
“มิ้นซื้อโจ๊กมาถุงเดียว แบ่งกันกินก็แล้วกัน”
มิ้นเดินหุนหันออกไปด้วยท่าทีหงุดหงิด หมวดหนุ่มไม่ทันจะถามอะไรได้แต่มองตามงงๆ
“ให้แบ่งกับใครกินวะ”
สายตากอล์ฟไปสะดุดตารองเท้าผู้หญิงที่พื้นทางเดินหน้าห้อง
“มาอยู่ที่นี่ได้ไงวะ”

ทั้งหมดเป็นผลงานเอาคืนของเคนที่รีบวิ่งย้อนกลับมา แล้วหยิบเอารองเท้าส้นสูงของผู้หญิงที่อยู่หน้าห้องข้างๆ มาวางไว้หน้าห้องกอล์ฟแทนด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์เพทุบาย
เคนแนบหูฟังกับประตูหน้าห้องกอล์ฟ
“อาบน้ำอยู่สิมึง อย่างเหมาะเลย”
เคนยิ้มชั่วออกมาอย่างสมใจ ประเมินเหตุการณ์คิดว่ากอล์ฟน่าจะนุ่งผ้าขนหนูออกมาตอนที่มิ้นเคาะประตูเรียก ส่วนมิ้นเมื่อเห็นรองเท้าผู้หญิงอยู่หน้าห้องกอล์ฟ ก็จะได้เข้าใจผิดกอล์ฟโดยไม่ยากเย็น
ได้ยินเสียงฝีเท้าของมิ้นใกล้เข้ามา เคนรีบวิ่งไปหลบมุมอีกทาง รอดูผลงาน

กอล์ฟเดาออกทันทีว่าต้องเป็นฝีมือเคน
“ไอ้เคน”
กอล์ฟในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวเปลือยอกวิ่งตามมิ้นไปอย่างลืมตัว

กอล์ฟวิ่งตามมิ้นมาพร้อมกับตะโกนเรียกไว้
“คุณมิ้นครับ คุณมิ้น”
มิ้นได้ยินเสียงกอล์ฟเรียกก็ยิ่งเดินเร็วรี่ แต่กอล์ฟวิ่งมาดักหน้ามิ้นไว้
“ฟังผมก่อนสิครับ”
“มีอะไรคะ”
“คุณกำลังเข้าใจผิดนะครับ รองเท้านั่น”
เสียงหญิงสาวดังขึ้นมาจากข้างหลัง “พี่กอล์ฟขา”
มิ้นกะกอล์ฟหันไปทางเสียงพร้อมกัน เห็นหญิงสาววัยรุ่น หน้าตาน่ารักบ้องแบ๊ว ยืนถือรองเท้าอยู่
“ปิ๊งลืมรองไว้ห้องพี่กอล์ฟนี่เอง”
หญิงสาวทำเสียงแบ๊วชนิดที่มิ้นได้ยินแล้วอารมณ์เสียถึงขีดสุด โมโหหึงกอล์ฟหนักกว่าเดิม
กอล์ฟหันกลับมาเห็นมิ้นจ้องหน้าตาวาววับไม่พอใจก็หน้าจ๋อย
“ไม่ผิดมั้ง คุณไปจัดการธุระของคุณเถอะ”
มิ้นเดินหุนหันหนีไป กอล์ฟจะตาม แต่มือถือดังขัดขึ้น
“ฮัลโหลจ่า รู้แล้วๆ เดี๋ยวผมรีบไป”
กอล์ฟวางสาย หันมาเจอสาวข้างห้องทำหน้าแบ้วใส่อีก
“พี่กอล์ฟ หนูเอารองเท้าไปเลยน๊า”
“เอาไปเลย แล้วที่หลังเก็บในห้องด้วย”
กอล์ฟเดินเข้าห้องไปอย่างหัวเสีย

ทางด้านพราวนอนซบอยู่กับอกเจตน์ เริ่มได้สติ แต่ยังมีท่าทีอ่อนระโหยโรยแรงให้เห็นอยู่ เอานิ้วไล้ไปตามอกแกร่งของเจตน์ นึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป สยิวสะท้านไปทั้งตัว
“พราวไม่นึกเลยนะคะ ว่าคุณจะโหดร้ายขนาดเนี้ย พราวระบมไปทั้งตัวเลย”
“แหม คุณก็ป่าเถื่อนสิ้นดีเหมือนกันนั่นแหละ”
พราวชะงักเมื่อได้ยินเสียง และถึงกับผงะออกจากอกเจตน์โดยเร็ว
“ไอ้คุณเจตน์” พราวกระชับผ้าห่มมาคลุมตัวไว้แล้วใช้มือเช็ดตามเนื้อตัวเหมือนอยากจะให้ความน่าขยะแขยงหลุดไปจากตัว
เจตน์เห็นพราวทำท่ารังเกียจตนปานนี้ก็เลยกวนประสาทเล่น
“ผมเพิ่งรู้นะว่าคุณ ครางเรียกชื่อได้ด้วย แต่เสียดายมันผิดคน”
พราวทั้งโกรธทั้งอาย “ไอ้เจตน์ ไอ้ทุเรศ รู้ว่าผิดตัวแล้วทำไมแกไม่หยุด”
“หยุดได้ไงอ่ะคุณ บางอย่างผมก็สั่งไม่ได้นะ”
“ไอ้เจตน์ ไอ้ชั่ว ฉันขยะแขยงเหมือนโดนขี้ราดทั้งตัวแล้วเนี่ย”
“มันจะมากไปแล้วนะคุณพราว”
เจตน์ชักจะโกรธกระชากพราวเข้ามาหา บีบไหล่เธอแน่น
“ผมมีอะไรสู้ไอ้เคนไม่ได้ ถึงได้ชอบมันกันนัก หล่อผมก็หล่อกว่า รวยผมก็รวยกว่า และผมมั่นใจว่าผมเด็ดกว่า”
เจตน์บีบไหล่พราวแรงกว่าเดิม แทนที่จะเจ็บปวดและโกรธ สีหน้าพราวกลับบอกว่าฟินกับแรงบีบ กัดริมฝีปากแน่น
พราวกับเจตน์มองหน้ากันจังๆ เกิดสปาร์คขึ้นมาอีก ล้มตัวหายลงไปที่โซฟาอีกครั้ง แต่มีเสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะขึ้นก่อน
“ยายพราว เธออยู่รึเปล่า”
พราวกับเจตน์เด้งขึ้นมาจากโซฟาหน้าตาเลิ่กลั่ก
พราวเอะใจ “คุณมาที่นี่ได้ไง”
“คุณชาช่าไลน์นัดมาประชุมที่นี่”
พราวเข้าใจทันทีว่าทั้งหมดเป็นแผนชาช่า
“อิชาช่า อิงูพิษ”
พราวกับเจตน์หน้าตื่น ไม่รู้จะทำยังไง ไม่อยากให้ชาช่ากับแจ๊ดมาเจอในสภาพนี้

ทันทีที่พราวเปิดประตูห้องให้ ชาช่ากับแจ๊ดก็พุ่งเข้ามาอย่างจู่โจม
“หันหน้าชิดกำแพงไว้”
แจ๊ดจับพราวหน้าชิดกำแพง
“ทำบ้าอะไรของพวกแกเนี่ย”
ชาช่าเดินตรงไปที่ห้องนอนพราว เปิดประตูแล้วมองไปรอบๆ ห้อง แต่ไม่เจออะไร จึงเดินไปเปิดประตูห้องน้ำดู แต่ก็ไม่เห็นใครอีก
ที่แท้เจตน์ทำตัวลีบเล็กนอนหมอบคุดคู้อยู่ที่ข้างเตียงนั่นเอง ชาช่าหันหลังเดินออกมาจากห้อง เจตน์สบช่องวิ่งเข้าห้องน้ำไป ชาช่าชะงักกึกนึกได้ว่าควรดูที่ข้างเตียงจึงเดินกลับไปดู แต่ไม่เห็นมีใคร จึงออกไป
ชาช่าเดินกลับออกมาจ้องหน้าพราวคาดคั้น
“เธอเอาไอ้คุณเจตน์ไปซ่อนไว้ที่ไหน”
“ห้องฉันไม่ใช่กองขยะอ่อนนุช จะได้เอาขยะเปียกมาเก็บไว้”
เจตน์ย่องออกมาจากห้องน้ำ กะรอจังหวะหนีออกมาจากห้องนอนพราว ได้ยินคำพูดเปรียบเทียบตนกับขยะเปียกก็ไม่พอใจ
ชาช่ารุกไล่ “ฉันไม่เชื่อ”
พราวรุกกลับ “แล้วฉันจะเอามันมาซ่อนไว้ทำไม”
แจ๊ดไล่ดูทุกซอกมุมต่างๆ ในห้อง แต่ไม่เจอแม้เงาของเจตน์
“ไม่เจอ” แจ๊ดหันไปดูระเบียง “หรือว่า ที่ระเบียง”
พราวทำเป็นร้องห้ามมีพิรุธ “อย่านะ”
“ระเบียงแน่พี่แจ๊ด”
ชาช่ากับแจ๊ดพุ่งไปที่ระเบียง ช่วยกันสำรวจเลยไปถึงระเบียงห้องข้างๆ
เจตน์ฉวยโอกาสวิ่งออกจากห้องนอน พุ่งออกจากห้องพราวไป ปิดประตูลงเบาๆ
พราวมองจนแน่ใจจึงโพล่งขึ้นว่า “ไอ้เจ๊กตื่นไฟนั่น ไม่ใช่จิ้งจกมะ จะได้ไปเกาะอยู่ตามระเบียง”
“บอกมานะ ไอ้คุณเจตน์อยู่ที่ไหน”
เจตน์ทำเป็นเคาะแล้วเปิดประตูเข้ามา เจตน์สบตากับพราวทำทีเหมือนเพิ่งมาถึง
“มาแล้วๆ รอนานมั้ย” เจตน์หันไปจ้องชาช่า “คุณชาช่าเรียกผมมา ประชุมเรื่องอะไร ผมรีบมาแทบแย่ ดีนะรถยุโรปของผมเครื่องแรง เลยมาทัน”
พราวได้ทีเล่นงานชาช่ากลับ
“อ๋อ...” พราวลากเสียงสูงและยาวมาก “นี่แกนัดไอ้คุณเจตน์มาที่ห้องฉันโดยไม่บอกฉัน คิดจะลอบกัดฉันอีกใช่มั้ย”
“หนอย...” ชาช่าลากเสียงสูงและยาวมากไม่แพ้กัน “แกต่างหากที่ลอบกัด แกแอบนัดเคนมาที่นี่ นึกว่าฉันไม่รู้เหรอ”
“อ๋อ... แกก็เลยให้ไอ้คุณเจตน์มาที่ห้องฉัน จะให้เคนมาเจอ เคนจะได้คิดว่าฉันกินกับไอ้ขยะเปียกนี่”
“ก็ใครใช้ให้แกหักหลังฉันก่อนละ”
ชาช่ากับพราวเริ่มทะเลาะกันเสียงดัง
เจตน์พูดแทบเป็นตวาด “หยุด” สองสาวชะงักกึก “ผมไม่ใช่ขยะเปียก”
พราวกับชาช่าจ้องหน้ากันพร้อมจะฉีกเนื้ออีกฝ่ายเป็นชิ้นๆ เจตน์เบื่อหน่าย
“จะตบกันอีกแล้วใช่มั้ย แต่ก่อนจะตบกัน ฟังผมก่อน แล้วดูซิว่ายังอยากตบกันเองอีกมั้ย”
ชาช่ากะพราวหันมาแหวใส่เจตน์พร้อมกัน “อะไร”
“วันนี้ไอ้คุณเคนของพวกคุณ พาคุณเอมเข้าไปหาเจ้าสัวณรงค์”
“ไปหาเรื่องอะไร” สองสาวประสานเสียงอีก
“เรื่องอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่า ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี”
“ซึ่งต่างจากสองคนนี้ ที่สูงสุดทำได้แค่ตะกายรั้วบ้าน” แจ๊ดเสริมให้
ชาช่ากะพราวทบเต้นหันมาด่า “อิพี่แจ๊ด” / “อิแจ๊ด”
พราวพูดลอดไรฟันกระซิบเจตน์ “แล้วทำไมเมื่อกี้ไม่บอกฉันก่อน”
เจตน์พูดลอดไรฟันกระซิบตอบว่า “นัวซะขนาดนั้น จะบอกตอนไหนเล่า”
“กระซิบอะไรกัน วางแผนลอบกัดฉันอีกรึเปล่า”
ชาช่าจะเอาเรื่องพราวอีก แจ๊ดรีบห้ามไว้
“พอค่ะ ยังไม่เกทอีกเหรอค่ะ ว่ามันไม่ใช่เวลาที่คุณจะมาตบกัน หรือ ลอบกัดกันเอง ยายคุณเอม เข้าถึงบ้านคุณเคนแล้วนะ”
ชาช่ากับพราวมองหน้ากัน ก่อนจะสะบัดหน้าหันหลังให้กัน
เจตน์ขยับคอเสื้อของตัวเองในจังหวะนี้ แจ๊ดสังเกตเห็นรอยข่วนแดงๆ ที่คอเจตน์พอดี
แจ๊ดหรี่ตาจับผิด สงสัยว่าเจตน์กับพราวอาจจะมีอะไรกันก็ได้ แต่ยังไม่พูดอะไร

ออกจากแฟลตกอล์ฟ เคนพาตัวเองมานั่งจิบเครื่องดื่มสบายอารมณ์ที่แกล้งกอล์ฟได้ โดยมีแดนนั่งบ่นปนด่าอยู่ข้างๆ เมื่อรู้เรื่อง
“เมื่อวานมึงเพิ่งเป็นพ่อพระช่วยให้คุณมิ้นไปเฝ้าไข้ไอ้กอล์ฟ วันนี้มึงแกล้งให้คุณมิ้นเข้าใจผิดไอ้กอล์ฟ เป็นผู้ร้ายซะงั้น หลายอารมณ์เกินไปมั้ยมึง”
“เออ กูไบโพล่า มีอะไรมะ ใครใช้ให้มันมาไซโคกูเรื่องคุณเอม”
แดนยิ้มล้อรู้ทัน “แอ้ มึงกลัวคุณเอม”
“กูไม่ได้กลัว นี่ใครมึง เทพเคน ไม่เคยกลัวใครหน้าไหนอยู่แล้ว”
เคนทำเป็นหน้าระรื่นแต่ก็แอบกังวล เคนอดนึกถึงความดีมีน้ำใจของเอมไม่ได้
ตั้งแต่ตอนเอมพูดให้กำลังใจหลังจากที่พราวกับชาช่าทำงานเคนพัง ทั้งตอนที่เอมทำข้าวต้มให้กิน ทั้งที่รู้ว่าเคนถูกตัดจากกองมรดกก็ไม่สน และไม่นานมานี้เอมยังอาสาช่วยเขาเรื่องไปทำงานบริษัทนมของพ่อ
“หรือว่าคุณเริ่มอยากจะทำงานกับพ่อคุณ”
“ก็คุณบอกว่า ถ้าทำได้ มันก็เป็นการพิสูจน์ตัวเองใช่มั้ยล่ะ แต่ตอนนี้จะได้เหรอ ก็พ่อตัดผมออกจากกองมรดกแล้ว”
เอมมองเห็นใจ “ฉันจะช่วยพูดให้คุณเองดีมั้ย”
เคนพยักหน้ายิ้มให้ เอมเขินหลบตาวูบ พอเอมหลบตา เคนตาเจ้าเล่ห์ พอใจที่เอมไม่กล้าสู้ตา

เมื่อนึกถึงความดีงามของเอม เคนถึงกับถอนหายใจเบาๆ จู่ๆ เสียงเอมดังขึ้น
“มารู้สึกผิดอะไรตอนนี้”
เคนหันไปทางเสียง เห็นภาพหลอนรว่าเอมนั่งอยู่แทนที่แดนซะงั้น
“เห็นฉันเป็นตัวเลือก หลอกให้รักแล้วเททิ้งงั้นเหรอ กล้าทำกับฉันแบบนี้งั้นเหรอ นายตาย”
เอมจับหัวเคนโขกลงกับโต๊ะเต็มแรงชนิดไม่ยั้ง
เคนร้องลั่น “กลัวแล้วคุณเอม ผมกลัวแล้ว”
แดนงงถามเสียงดัง “กลัวอะไรมึง”
เคนหลุดจากภวังค์ พบว่าแดนก็นั่งอยู่ที่เดิมเอมไม่ได้อยู่ที่นี่แต่อย่างใด
“นี่มึงเมารึเปล่า”
เคนมองไปรอบๆ อย่างระแวง
“ไม่มีอะไร กูไม่ได้เมา กูไปห้องน้ำแป๊บ”
เคนลุกเดินออกไป แดนมองตามงงๆ

เคนยืนฉี่อยู่ที่โถปัสสาวะ เสียงเอมดังขึ้นมาหลอกหลอนอีก
“มักมากคนเดียวยังไม่พอ ยังจะชวนพ่อฉันเสียคนอีก”
เคนหันไปมองโถปัสสาวะข้างๆ พบว่าเอมยืนถือกรรไกรอยู่ ถึงกับสะดุ้ง
“คนอย่างแก มันต้องตัด”
เอมยกกรรไกรขึ้นมาขู่
“อย่านะคุณเอม”
เคนจับมือเอมจะแย่งกรรไกร แต่เอมไม่ยอมให้ สองคนยื้อยุดกันไปมา จนเสียงชายคนหนึ่งดังขึ้น
“เฮ้ย อะไรของมึงเนี่ย”
เคนได้สติ พบว่าตัวเองกำลังจับมือผู้ชายมาดนักเลงคนหนึ่ง ยื้อไปยื้อมาอยู่
“เมารึเปล่ามึง”
“ขอโทษครับ”
“งั้นก็ถอยไป กูจะเยี่ยว”
เคนถอยไปที่อ่างล้างหน้า
“ตามมาถึงในนี้เลยเหรอคุณเอม หลอนวะ หรือว่ากูเมาจริงๆ วะ”
เคนล้างหน้าล้างตาให้สร่างเมา

เคนเดินออกมาจากห้องน้ำชาย แดนรออยู่เดินเข้ามาหา
“กูเห็นมึงเมาๆ นึกว่าตกส้วมตาย”
“ไอ้บ้า คนอย่างกูไม่ดับอนาถอย่างนั้นหรอกมึง”
เคนเหลือบไปเห็นม่อนเดินมาทางห้องน้ำชาย จึงลากแดนหาที่หลบดูทั้งคู่อยู่ใกล้พอที่จะเห็นอะไรเป็นอะไร และได้ยินหากม่อนคุยกับคนอื่น
ม่อนยืนเล่นมือถือรอใครอยู่หน้าห้องน้ำ พิมพ์ไลน์ส่งข้อความหารอนนั่นเอง
“เงียบกริบ...ปีศาจน้อยหายไปไหน”
ม่อนอ่านข้อความด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ สะบัดๆ ผมตัวเองให้ยุ่งๆ แล้วไปยืนพิงผนังหน้าห้องน้ำ ทำหน้าเหมือนคนป่วย แล้วเซลฟี่ตัวเอง ส่งไปพร้อมข้อความ “ป่วยจุง”
เคนกะแดนมองตาไม่กะพริบ
“แล้วนางมากับใครวะ”
ชายคนที่เคนเห็นเป็นเอมซึ่งคือผัวของม่อนเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ม่อน”
แดนคาดไม่ถึง “เชรด มากับหลัว”
เคนหรี่ตามอง ดูว่าม่อนจะรีบเก็บมือถือรึเปล่า แต่ม่อนกลับพิมพ์ต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ติดมะ” ผัวม่อนถาม
“อยู่แล้ว รวยด้วยเหอะมันอ่ะ จะสูบให้หมดเลยมึง”
ม่อนกับผัวหัวเราะอย่างพึงพอใจแล้วเดินเกี่ยวแขนกันออกไป เคนออกจากที่ซ่อน มองตามม่อนกับผัวไปอย่างเข้าใจและรู้เท่าทัน
“ว่าแล้ว นางต้องมีหลัว” แดนก็ดูออก
“ดูทรงแล้ว น่าจะเป็นคนเลี้ยงหลัวด้วยสิมึง” เคนว่า
“ดีนะที่น้องรอนรอดนางมาได้”
เคนมีสีหน้าเป็นกังวล ระแวงว่ารอนอาจจะแอบติดต่อกับม่อน
“กลับมั้ยมึง พรุ่งนี้คุณหนูเคนต้องไปเริ่มงานที่บริษัทคุณพ่อนะครับเดี๋ยวจะม่ายหวายนะครับ”
“อ๋าวไอ้นี่ ลืมอยู่เรื่อย นี่ใคร เทพเคนยันเช้านะมึง เมื่อกี้กูเห็นตัวเด็ดๆ เพิ่งมา จัดซะหน่อยมั้ยมึง”
เคนไม่ยี่หระ เดินนำเข้าร้านไป แดนยิ้มย่องเดินตามติดๆ

เคนชนแก้วกับแดน มีสาวแซบ แอบเล็งแลมายังเคนตลอดๆ ไม่นานนักสองหนุ่มก็ออกสเตปเต้นกับสาวๆ ที่แอบเล็งเคนอยู่เมื่อครู่
เคนชนแก้วครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยหน้าตาเริงร่าสนุกสุดเหวี่ยง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา

สีหน้าอันเริงร่าสนุกสุดเหวี่ยงของเคน กลายเป็นใบหน้าหลับไร้สติ ดูทรุดโทรมจากการดื่มหนักเมื่อคืน เคนนอนหลับอุตุอยู่บนเตียงในห้องนอนที่บ้าน
“คุณเคน คุณเคนคะ”
เคนค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นเอมนั่งอยู่ข้างๆ เตียง ยิ้มหวาน เคนยิ้มหวานตอบเอม
“คุณเอม”
“ตื่นได้แล้วนะคะ ต้องไปทำงานแล้วน๊า”
“ไม่เอาอะ ผมอยากนอนต่อ แล้วก็ไม่อยากนอนคนเดียวด้วย”
เคนมองมาตาเยิ้มจนเอมเขินอาย “มองเอมแบบนี้ทำไมคะ”
“ก็ผมอยากนอนต่อกับคุณนี่นา”
เคนดึงตัวเอมมากอดแล้วจับพลิกลงไปที่เตียง เคนก้มลงซุกไซ้เอม
“อย่าคะคุณเคน”
เคนไม่ฟังก้มลงจูบเอม จนมีเสียงเจียดดังขึ้น
“ถ้าได้เจียดแล้วห้ามทิ้งกันนะครับ”
เคนชะงัก ลืมตาโพลง พบว่าคนที่นอนอยู่ไม่ใช่เอมแต่เป็นเจียด
“ไอ้เจียด” เคนเช็ดปากเช็ดเช็ดหน้าตัวเองอย่างแรง
“ก็เจียดน่ะสิครับ เจียดก็บอกแล้วว่านี่เจียดเอง เจียดเอง คุณเคนก็ไซ้อยู่ได้ เจียดเลยคิดว่าเอาวะ ถือซะว่าตอบแทนบุญคุณที่ชุบเลี้ยงมา”
“ไอ้บ้า จะอ้วก ใครจะไปทำอะไรแก นี่กี่โมงแล้ววะไอ้เจียด”
“จะสิบโมงแล้วครับ”
“สิบโมง” เคนตกใจ
เสียงมือถือเคนดัง เป็นเอมโทร.มา เคนหน้าเสียรีบรับสาย ยินเสียงเอมดังแหวออกมาจากมือถือ
“คุณเคน คุณอยู่ที่ไหน ไหนบอกจะตั้งใจทำงานไง วันนี้คุณต้องนำแขกของคุณพ่อคุณเยี่ยมชมโรงงานนะ”
เคนตกใจหลุดปากอุทานลั่น “เชรด”
“ว่าอะไรนะ”
“เปล่าครับ เดี๋ยวผมรีบไปเดี๋ยวนี้”
ในเวลาไม่กี่นาที เคนโยนมือถือทิ้งกระโจนลงจากเตียงพุ่งเข้าห้องนิออกมาแต่งตัว อย่างเร่งรีบ วุ่นวายไปหมด สุดท้ายผูกเนคไทเสร็จสิ้น

ที่โรงงานนมข้นหวาน เลขาของณรงค์กำลังแนะนำเอมให้รู้จักกับชินชายสูงวัยหัวหน้าคนงาน
“นี่น้าชิน หัวหน้าคนงาน ขุนพลคู่ใจของท่านผู้อำนวยการค่ะ”
เอมไหว้ทักนอบน้อม “สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เอมนะคะคุณน้าชิน คุณลุงณรงค์ให้มาช่วยดูเรื่องปรับปรุงเครื่องแบบของพนักงานค่ะ”
เอมแนะนำตัวกับชินอย่างอ่อนน้อมถ่อมตัว ชินมองเอมอย่างชื่นชม
เลขากระซิบกับชินว่า “แล้วก็ ดูแลคุณเคนด้วยค่ะ”
“อ๋อครับ”
ชินยิ้มสุภาพ พลางดูนาฬิกา เอมมองเข้าใจ
“เอมโทร.ตามคุณเคนแล้วล่ะค่ะ คงกำลังรีบมา”
“ครับ แขกจะมาถึงตอน 11 โมง ยังพอมีเวลาครับ”
เลขาหันไปเห็น “มาแล้วค่ะ”
ทุกคนหันไปเห็นเจียดแต่งตัวหล่อใส่แว่นดำยังกับเป็นผู้บริหารเสียเอง เดินเข้ามา โรจน์ผู้ช่วยและเลขาของชินและพนักงานที่ไม่เคยเจอเจียดพากันมองอึ้งๆ ไม่คิดว่าเคนจะหน้าตาขี้เหร่หัวโล้นแบบนี้
โรจน์กระซิบถามชิน “คนนี้เหรอพี่คุณเคน ไหนเขาบอกว่าหล่อไงพี่พวกสาวๆ มันอุตส่าห์มารอต้อนรับ”
“นี่มันไอ้เจียด คนขับรถของคุณท่าน” ชินบอก
เคนเดินหล่อเท่ตามหลังเจียดมา และใส่แว่นดำเหมือนกัน
“คนนั้นต่างหากค่ะ คุณเคน”
ชินหันไปมองตามที่เลขาบอก พนักงานสาวๆ แค่เห็นเคนเดินหล่อเข้ามาก็พากันกรี๊ดกร๊าดในความเท่ของเขา
เอมมองแว่นตาดำที่เคนใส่อยู่อย่างจับผิด
“สวัสดีครับทุกคน”
เคนยิ้มให้ทุกคน แต่ไม่ยอมถอดแว่น

เอมลากเคนหลบมุมมาคุยกัน
“อะไรเนี่ยคุณเอม ลากผมมาทำไม หรือว่าจะมอร์นิ่งคิส เป็นกำลังใจให้ผมก่อนเริ่มงาน”
เอมดึงแว่นตาดำที่เคนใส่ออก พบว่าตาเคนบวมคล้ำเพราะแฮงค์อยู่
“เมื่อคืนคุณหนีเที่ยวใช่มั้ย” เอมจ้องเคนคาดคั้น “แฮ้งค์ด้วยใช่มั้ยเนี่ยแล้วแบบนี้คุณจะนำแขกของคุณพ่อคุณ เดินดูงานในโรงงานได้ยังไง”
“แขกของพ่อ เดินดูงาน”
เคนทวนคำด้วยอาการตกใจจริงๆ เพิ่งรู้ว่าตัวเองจะต้องพาแขกของณรงค์ดูงาน
“อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้”
“ก็ไม่รู้หนะสิคุณ พ่อนะพ่อเล่นกันจนได้”
“คุณไม่เคยสนใจศึกษาอะไรไว้บ้างเลยเหรอ นี่มันโรงงานของพ่อคุณนะ”
“แหมคุณผมมันสายหล่อ จะให้มาเดินไปเดินมาศึกษางานในโรงงานมันก็ไม่ใช่ไง”
“แต่ตอนนี้มันต้องใช่แล้วละ”

สุดท้าย เคนขึ้นกล่าวต้อนรับแขกของณรงค์แบบเนียนๆ ทั้งที่ไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย
“ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่โรงงานที่ทันสมัยของเราครับ”
เจียดมองทึ่งเจ้านาย “เนียน ไม่มีที่ติ ยังกับเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี”
เอมหันมาดุเจียดที่ชมเคนมั่วซั่ว “มั่วนิ่มอย่างหน้าด้านๆ มากกว่า”
เจียดจ๋อย “แล้วแต่คุณเอมเลยครับ”
เอมหันไปมองหน้าชินเชิงขอร้อง ชินพยักหน้ารับเชิงบอกกลับว่าพร้อมจะช่วยเคน

เคนเจื้อยแจ้วราวลื่นไหลราวกับเตรียมข้อมูลมาอย่างดี “โรงงานของเรา ดำเนินการผลิต นมข้นหวาน นมจืด นมสเตอรีไลซ์ ครีมสเตอรีไลซ์ เนยสดแท้ และเนยผสมครับ”
แขก1ถามขึ้นว่า “แล้วกุญแจแห่งความสำเร็จของโรงงานคืออะไรครับ”
เคนอึกอัก “คือ...”
เอมลุ้นว่าเคนจะสามารถเอาตัวรอดได้มั้ย
“คือ...”
ชินพูดแทรกขึ้นอย่างมีมารยาทว่า “สำหรับโรงงานของเรา พนักงานคือสินทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราเราจึงมีจุดมุ่งหมายคือ การดึงดูดและรักษาคนที่ดีที่สุดไว้กับบริษัทครับ”
เคนเสริมทันที “นี่แหละครับ กุญแจแห่งความสำคัญของเรา ที่พนักงานทุกคนจดจำขึ้นใจ”
เอมส่ายหัวเอือมระอาที่เคนแถไปได้หน้าด้านๆ
“เดี๋ยวผมจะให้คุณชิน หัวหน้าคนงานของผม นำทุกท่านเดินชมขั้นตอนการผลิตของโรงงานเรา นะครับคุณชิน”
เคนมองหน้าชินเชิงวางอำนาจใส่ ชินไม่ค่อยพอใจนัก เอมลุ้นว่าชินจะว่ายังไง
“ครับ เชิญทางนี้ครับ”
ชินพาแขกของณรงค์เดินไปชมโรงงาน มีโรจน์ เลขาของณรงค์ตามไปด้วย
เหลือแต่เอม เคน เจียด ยืนอยู่
“เห็นมั้ยว่าคุณเกือบทำเสียเรื่องแล้ว ถ้าคุณชินไม่ช่วยคุณจะทำยังไง”
เคนได้ยินเอมชมชินก็เคือง
“นี่คุณเอม คุณควรจะชื่นชมผมต่างหากนะ พ่อผมแกล้งผมขนาดนี้ ผมยังเอาตัวรอดได้ แล้วมันก็เป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้วน่าคุณเอม พ่อผมจ้างมาทำงาน เขาก็ต้องทำงานให้ผมสิคุณ”
“ถ้าคุณคิดได้แค่นี้ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด มีอะไรคุณก็จัดการเองแล้วกัน”
เอมผิดหวัง จะเดินออกไป
“คุณเอม จะไปไหน”
“ฉันมีหน้าที่ดูแลให้คุณมาทำงาน ตามที่คุณพ่อคุณขอ” เอมเน้นคำว่า “หน้าที่ฉันมีแต่นี้ หมดหน้าที่ฉันก็จะกลับ จัดการชีวิตคุณเองก็แล้วกัน”
เอมหุนหันออกไป ทั้งโกรธและผิดหวังในตัวเคน
เคนเองก็ชักเริ่มหงุดหงิด แฮงค์ก็แฮงค์ เลยพาลพาโล หันมาหาเจียด
“อะไรวะ”
“ไม่ต้องมามองผมครับ ผมมันก็แค่คนขับรถ คุณพ่อคุณจ้างผมมาขับรถ หน้าที่ผมก็มีอยู่เท่านั้นแหละครับ”
เคนยิ่งโมโห “ไอ้เจียด เดี๋ยวจะโดนเตะ”
“ล้อเล่นครับ ถ้าสายตาอันแหลมคมของผม มองไม่ผิด ผมรู้สึก คุณเคน ไม่พอใจที่คุณเอมชมน้าชินใช่มั้ยครับ”
“เออ ไม่ชอบ ได้ยินแล้วหงุดหงิด”
“หึงเหรอครับ”
“หึงอะไรวะ แก่ซะขนาดนั้น”
“อ๊ะๆๆๆ ไม่อยากจิเม้าท์ เห็นน้าชินแกเงียบๆ กวาดเรตติ้งเรียบนะครับ สาวเล็กสาวใหญ่ในโรงงานมีแต่คนปลื้มน้าชินทั้งนั้น”
เคนคิดตาม “แสดงว่าเรด้าฉันถูกต้อง ยายคุณเอมก็ดูสนใจเขาซะด้วย”
เจียดตบเข่าฉาดใหญ่ “น่านไง หึงจริงๆ ด้วย”
“ไม่ได้หึงโว้ย”
เคนเดินฮึดฮัดออกไป เจียดมองตามเจ้านายขำๆ

อีกฝั่งหนึ่ง มีข้อความไลน์ในมือถือความว่า “ไม่สบาย หายรึยัง” ถูกส่งไป
เป็นรอนนั่นเองที่มาหลบในเรือนกล้วยไม้ ทำลับๆ ล่อๆ คุยไลน์กับม่อน สักครู่ม่อนส่งไอคอนหน้าเศร้ามา
รอนพิมพ์กลับไปว่า “ไปหาหมอยัง”
ม่อนพิมพ์ตอบกลับมา “ไม่ไป ไม่มีเงิน”
รอนอ่านข้อความของม่อนแล้วครุ่นคิด
“ให้พี่รอนพาไปหามั้ย”
ม่อนพิมพ์ตอบกลับมาว่า “เด๋ว มีเงิน จิไปเอง”
รอนอ่านข้อความม่อนแล้วใช้ความคิด
“ต้องใช้เงินเท่าไหร่ เด๋วเอาไปก่อน”
รอนพิมพ์ไป แล้วรอฟังคำตอบจนม่อนพิมพ์กลับมาว่า
“หมอบอกว่า 3 หมื่น”
“3 หมื่น ป่วย หรือ ทำนมวะ”
รอนได้ยินว่าใช้เงินตั้ง 3 หมื่นก็บ่นงึม เหงื่อแตกเหมือนกัน
ม่อนเห็นรอนเงียบไปจึงส่งรูปหน้าตาป่วยแต่แอบอ่อยและเซ็กซี่มาก พร้อมข้อความว่า
“ป่วยจัง ดูแลหนูหน่อย”
แค่เห็นรูปม่อน รอนก็เบิกตาโพลง ฟิน จินตนาการไปถึงไหนต่อไหน
“คุณคะ”
รอนกำลังจินตนาการถึงม่อน พอหันมาเจอเนื้ออ่อนก็ตกใจ
“หืยยย”
เนื้ออ่อนแปลกใจท่าทีสามี “ตกใจอะไรคุณ นี่เมียเองนะ แหม หรือว่าเห็นเป็นนางฟ้า”
รอนเซ็งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เนื้ออ่อนหน้าเจื่อนที่รอนไม่รับมุก
“อาหารกลางวันเสร็จแล้วค่ะ”
“ผมไม่ค่อยหิว” รอนจะออกไป
“แล้วคุณจะไปไหนคะ”
“ขึ้นห้องพระ สวดมนต์”
รอนเดินเซ็งออกไปที่ถูกดับความฟิน เนื้ออ่อนมองตามอย่างแปลกใจ

สมบูรณ์กับฉวี เปิดฟังวิทยุไปทำงานครัวกันไปมีชั้นอยู่ด้วย เป็นรายการตอบปัญหาผัวเมีย ดีเจเจื้อยแจ้วความว่า
“คุณนายป้อมนครปฐม ปรึกษาเข้ามาว่า ทำไงดีคะ สามีบ่นว่าป้อมแก่เห็นหน้าแล้วอยากจะลาบวช”
เนื้ออ่อนเดินเข้ามาได้ยิน ชะงักกึก ยืนฟัง
“ฉันว่านะ ยายคุณนายป้อมนี่ ต้องเป็นพวกคุณนายแก่ๆ พังๆ งกๆ ผัวเจอทุกวันถึงได้ปลงอนิจจัง อยากจะลาบวช”
เนื้ออ่อนหน้าเสีย โดนจี้ใจดำจังๆ เสียงดีเจเจื้อยแจ้วอีกว่า
“เวลาจะชวนกุ๊กกิ๊ก ทำการบ้าน ก็อ้างว่าจะสวดมนต์ เก็บตัวอยู่แต่ในห้องพระ”
สมบูรณ์หัวเราะคิกคัก “ยายคุณนายนี่คงต้องหย่อน ต้องยานไปหมดแน่ๆ”
คำพูดนั้นกระแทกเข้าหน้าเนื้ออ่อนจังๆ อีกยก เนื้ออ่อนยกแขนขึ้นมาดีดแขนที่หย่อนตกท้องช้างของตัวเอง ดีดเหนียงที่คอ แล้วหน้าเสีย
“พ่อเอ็งก็เคยคิดจะหนีไปบวชนะนังสมบูรณ์ แต่ว่าข้าเอาอยู่” ฉวีว่า
“เหรอ แล้วแม่ทำยังไง”
“ข้าก็มีวิธีสิวะ ในเมื่อมันคิดจะลาขาดจากทางโลก ข้าก็ต้องกระตุ้นให้มันเห็นว่า โลกนี้มันยังซู่ซ่า ซู่ซ่า ถ้ามันไม่ดีด ข้าก็ทำตัวให้ดีดเอง”
“งั้นที่เขาลือกันว่า ผัวน้าตายช็อกตายคาอก ก็เรื่องจริงสิ” ชั้นถาม
“ก็ทำนองนั้นแหละวะ”
“น้านี่ฆาตกรชัดๆ ฆ่าคนด้วยความซู่ซ่า”
สมบูรณ์ขึงตาใส่ “พี่ชั้น ที่พูดอยู่น่ะ พ่อฉันนะ แต่จะว่าไปแม่มีสูตรอะไรก็ส่งไปให้ยายคุณนายป้อม นครปฐมแกหน่อยสิ เอาบุญ”
“ก็ได้อยู่น๊า”
ฉวีทำท่าสะบัดสะบิ้งไปด้วย สามคนหัวเราะคิกคัก
เนื้ออ่อนนิ่งฟังคนใช้คุยกันด้วยสีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด

อีกฝั่งหนึ่ง เจตน์ยืนมองไปนอกหน้าต่างห้องทำงานที่ออฟฟิศ รู้สึกเจ็บๆ ที่คอ จึงเปิดคอเสื้อส่องดูกับกระจก พบว่าที่คอของเขามีรอยแผลที่เกิดจากการข่วน เจตน์นึกถึงเรื่องเมื่อคืนระหว่างเขากับพราว
พราวทำท่าทำทางแยกเขี้ยวเหมือนแม่เสือสาวคำราม “แง้ว” แล้วโน้มตัวเข้าหาเจตน์
เจตน์ยิ้มเมื่อนึกถึง ลึกๆพอใจพราวไม่น้อย
“คุณพราว สวย แซบ อย่างที่เขาว่าจริงด้วย”
แต่แล้วสายตาเจตน์ก็เปลี่ยนเป็นเคียดแค้น เมื่อนึกถึงคำด่าสารพัดจากปากพราว
“ไอ้เจตน์ ไอ้ทุเรศ รู้ว่าผิดตัวแล้วทำไมแกไม่หยุด”
“หยุดได้ไงอ่ะคุณ บางอย่างผมก็สั่งไม่ได้นะ”
“ไอ้เจตน์ ไอ้ชั่ว ฉันขยะแขยงเหมือนโดนขี้ราดทั้งตัวแล้วเนี่ย”
ยิ่งคิดเจตน์ยิ่งแค้นพราว
“ผมก็ไม่อยากได้ผู้หญิงอย่างคุณเป็นเมียเหมือนกัน”
เลขาเจตน์เคาะประตูห้องแล้วเปิดเดินเข้ามา
“เอกสารงบประมาณค่ะคุณเจตน์”
“วางไว้บนโต๊ะนั่นแหละ เดี๋ยวจะเซ็นให้”
“ค่ะ”
เห็นเลขาอึกอักๆ ยังไม่ออกไป จนเจตน์แปลกใจหันมาถาม
“มีอะไร”
“คือ... คุณเจตน์ดูเองดีกว่าค่ะ”
เลขาส่งมือถือให้เจตน์ดู เห็นภาพเจตน์นอนอยู่ข้างกองขยะ พร้อมแคปชั่น
“จุดจบสายเปร์ ถูกหลอกรูดทรัพย์”
เจตน์เงยหน้าขึ้นมา เห็นเลขามองอยู่เลยพาลใส่
“มองอะไร วางเอกสารไว้แล้วก็ออกไปสิ”
“มือถือค่ะ” เลขายื่นมือไปขอมือถือคืน
เจตน์ส่งให้คุยโตตามประสา “ก็เอาไปสิ นึกว่าผมอยากได้หรือไง ผมรวยนะคุณ”
เลขารับโทรศัทพ์แล้วรีบเผ่นออกไป เจตน์หงุดหงิด อารมณ์เสียสุดขีด
“ไอ้เคน นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่แกทำให้ฉันเสียหน้า เพราะต่อไป แกจะต้องเป็นฝ่ายเสียหน้า และ ต่อหน้า คุณเอมด้วย”
เจตน์แค้นเคนเต็มประดา

ที่คอนโดชาช่าเย็นวันเดียวกัน แจ๊ดนั่งใช้ความคิดอยู่ในห้องรับแขก ชาช่าเดินออกมาเห็น
“คิดจะจกเด็กใครอีกล่ะพี่แจ๊ด”
“ไม่ได้คิดเรื่องเด็กค่ะ คิดเรื่องคุณเจตน์”
“จะดีเหรอคะ ที่พี่จะไปจกอีตานั่น อดอยากอย่างไร ก็ไม่ควรปะคะ”
“คือ ถ้าไม่นับนิสัย โฟกัสที่ ความล่ำ และ ความรวย พี่ก็จะถือว่าได้รสชาติที่แปลกออกไป”
“จริงดิ”
“ล้อเล่นค่ะ แต่ถ้าได้ก็ไม่รังเกียจ พี่กำลังนึกถึง เมื่อคืน พี่เห็นรอยข่วนที่คอไอ้คุณเจตน์ เหมือนรอยเล็บผู้หญิง”
ชาช่าหันมองหน้าผู้จัดการใจสาว
“หรือว่า...”
“อาจจะมีการฟีชเจอริ่ง แบทเทิ่ล เดบิ้วท์กัน ระหว่างยายพราวกับไอ้คุณเจตน์ แต่สองคนนั่นวางแผนตบตาเรา”
“ให้มันจริง ก็ดีนะ ขอแช่งให้มันได้กันจริงๆ เถ๊อะ”
มือถือชาช่าดัง ชาช่าหยิบมาดู แล้วตกใจ
“ว้าย หลอนอะ พูดถึงก็โทร.มาเลย ทำไงๆ พี่แจ๊ด ทำไง ได้ยินที่เราคุยกันรึเปล่าก็ไม่รู้”
แจ๊ดเซ็ง “มันจะไปได้ยินได้ยังไงเล่า”
“แล้วเอาไงๆ” ชาชาลนลานใหญ่
“ก็รับซิคะ จะได้รู้ว่ามันโทร.มาทำไม เฟซออฟด้วย อย่าให้มันจับน้ำเสียงได้ว่าเราเม้าท์มัน”
ชาช่าลูบหน้าตัวเอง ปรับโหมดอารมณ์จากที่ตกใจกลายเป็นยิ้มแย้ม รับสาย และกดสปีคเกอร์ให้แจ๊ดได้ยินด้วย
“ฮัลโหล คุณเจตน์ โทร.มามีอะไรค่ะ”

เจตน์คุยโทรศัพท์ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์มีแผนการ
“พอดีสปาที่ผมเพิ่งไปเทคโอเวอร์มา ใหญ่มาก หรูหรามาก ก็แบบผมมันรวยมากอะนะ อยากซื้ออะไรไว้ทำเล่นๆ ก็ทำได้เลย”
“แล้วไงคะ คือบับ โทร.มาอวดไรเงี้ยเหรอ”
“อ้าว เรื่องเล็กๆ แบบนี้มันอวดกันได้ด้วยเหรอ”
ชาช่ากับแจ๊ด มองหน้ากันด่าโดยไม่มีเสียงว่า “อีเสล่อ”
“ผมไม่ได้จะอวดนะ แต่มันก็มีบริการนวดสปาคู่รัก เป็นแบบนวดน้ำมันอ่ะคุณ”
ชาช่ากับแจ๊ดหูผึ่งตาวาว
“เสื้อผ้าก็ไม่ใส่”
แจ๊ดลืมตัวยกมือปิดปาก “ไม่ใส่เสื้อผ้า”
“แล้วก็มีพักเบรกให้อยู่กันสองต่อสอง จะนวดกันเองก็ได้น๊า”
แจ๊ดคิดตามปาดน้ำลายไหล ชาช่าสะกิดเชิงบอกว่าต้องเป็นนางที่ปาดปาก
“คุณคิดว่าไง ถ้าคุณกับไอ้คุณเคนของคุณ จะได้ผลัดกันนวด”
ชาช่าตาวาว สายตากระหาย

จากสายตาวาววับของชาช่า กลายมาเป็นสายตาที่ไม่ค่อยไว้วางใจเจตน์ของพราวเมื่อคุยสายกับเจตน์
“แล้วทำไมคุณต้องมาช่วยฉัน ไม่ใช่ว่าจะมาทวงบุญคุณทีหลังนะ”
“ผมช่วยตัวผมเองต่างหาก ผมควรจะให้คุณได้อยู่กับไอ้คุณเคนของคุณ เพราะถ้าเกิดคุณเกิดหลงผม ตามมานัวเนียกับผม ผมก็แย่น่ะสิ”
“อย่าพูดได้มะ ฉันจะอ้วก”
“คืนนั้นไม่พูดแบบนั้นนะ”
พราวตัดรำคาญ “พอแล้วๆ ก็ได้...”
พราวกับชาช่าเจตน์โทร.หาทั้งคู่พร้อมๆ กัน
ชาช่ากะพราวประสานเสียงกันว่า “ฉันจะนัดเคน”
เจตน์ยิ้มชั่วสมใจ

เนื้ออ่อนยกกาแฟมาให้รอนที่อ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในห้องโถงรับแจก โดยเห็นว่าสามีหน้าเครียด แต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดไม่ตกเรื่องที่ม่อนขอเงิน
“กาแฟค่ะคุณ”
รอนนั่งนิ่งเหมือนไม่ได้สนใจเนื้ออ่อนเลย
“คุณรอน พักนี้ทำหน้าเบื่อหน่ายใส่ฉันบ่อยมากเลยนะ”
“อะไรคุณ ผมเนี่ยนะเบื่อคุณ ไม่เอาน่าอย่ามาหาเรื่องกันดีกว่า”
รอนลุกเดินออกไป
“แล้วคุณจะไปไหน”
“ไปสวดมนต์ ผมต้องการปลง” รอนเดินขึ้นชั้นบนไป
สมบูรณ์กับฉวีเข้ามา
“คุณผู้หญิงให้นังสมบูรณ์ไปตามฉวีมา มีอะไรเหรอคะ”
“คือ... คือ...”
“แหมคุณผู้หญิงทำหน้าอย่างกับผัวเบื่อจะลาบวช”
ทันทีที่สมบูรณ์พูดจบ เนื้ออ่อนก็ร้องไห้โฮออกมา จนสมบูรณ์กับฉวี ตกใจ
“คุณผู้หญิงเป็นอะไรคะ”
“มันโดน มันโดนเต็มๆ”
“อย่าบอกนะคะว่าคุณผู้หญิงกำลังกลัวว่าคุณผู้ชายจะเบื่อแล้วหนีไปบวช”
“ช่าย คุณรอนเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องพระทั้งวันเลย เห็นหน้าฉัน ก็เอาแต่ถอนหายใจใส่”
“คงปลงอสุภะ ว่าสังขารมันไม่เที่ยง ความแก่ ความเหี่ยวซิเที่ยงมาแน่ มาโดยไม่ต้องเชิญมั้งคะ”
เนื้ออ่อน ยิ่งร้องไห้หนัก “ผัวฉันจะหนีไปบวชจริงๆ เหรอเนี่ย”
“ไม่ต้องกลัวค่ะคุณผู้หญิง คุณผู้หญิงปรึกษาถูกคนแล้ว ฉวีนี่แหละค่ะตัวจริง เสียงจริง ที่ยับยั้งการบวชของผัวมาแล้ว ฉวีจะช่วยคุณผู้หญิงเองนะคะ”

รอนคุยอยู่กับใครสักคนในห้องพระ
“ผมสัญญานะครับว่าถ้าท่านช่วยผมสักครั้ง ผมจะไม่ลืมพระคุณเลยไม่มากหรอกครับ ขอแค่รางวัลที่ 1 สักคู่ก็พอ”
รอนนั่งพนมมือแต้อยู่หน้าพระพุทธรูปในห้องพระ ขอให้ตัวเองถูกหวย รอนจ้องพระเหมือนรอคำตอบ
“แม้แต่ท่านก็เงียบกริบ แบบนี้ผมจะไปเอาเงิน 3 หมื่นมาจากที่ไหน”
รอนถอนหายใจเหี่ยวเฉา

เนื้ออ่อนนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร ฉวีอยู่ด้วย จนเห็นสมบูรณ์เดินลงมาจากชั้นบนคนเดียว
“คุณรอนล่ะ”
“บอกว่าวันนี้ไม่ทานข้าวเย็นค่ะ ถือศีล 8”
“ศีล8! งั้นก็ถือพรหมจรรย์ด้วยสิ”
“คุณผู้ชายถือ แต่คุณผู้หญิงไม่ได้ถือนี่คะ ฮึกเหิมไว้ค่ะ แล้วทะลวงฟันเข้าไป อย่าได้ย่อหย่อนต่อศึกครั้งนี้ค่ะ” สมบูรณ์ว่า
“แล้วทานข้าวให้เยอะๆ เพราะวันนี้คุณผู้หญิงต้องเสียพลังงานอีกมาก” ฉวีหลิ่วตาให้เนื้ออ่อน
“เชื่อหวีสิคะ จัดว่าเด็ดเลยล่ะค่ะ”
เอมเดินเข้าบ้านมา กลับจากโรงงานมีเคนเดินตามมาด้วย เนื้ออ่อนดีใจ
“เอม คุณเคน มาทานข้าวกันเร็ว”
เอมมานั่งที่โต๊ะนิ่งๆ เคนมานั่งข้างๆ เอม ทั้งสองคนเงียบ
“มีปัญหาอะไรกันรึเปล่า”
สองคนตอบคนละอย่าง เอมบอกว่า “มี” ส่วนเคนบอกว่า “เปล่า”
“อ๋อ คุณเห็นว่าที่คุณทำวันนี้มันไม่ใช่ปัญหาเหรอ” เอมหงุดหงิดใส่
“อ้าวคุณ เรื่องมันเล็กน้อยมั้ย ทำไมต้องทำให้มันเป็นปัญหาด้วย”
“ทุกคนมีปัญหากันหมด คงไม่มีใครสนใจปัญหาของแม่สินะ”
เนื้ออ่อนเดินหน้าเศร้าออกไปเลย เอมกับเคนหันขวับไปหาสมบูรณ์กับฉวีเชิงถาม

สมบูรณ์กับฉวีเล่าให้เคนกับเอมฟังเรื่องที่เนื้ออ่อนระแวงว่ารอนจะหนีไปบวช
“คุณพ่อไม่ทำอย่างนั้นหรอก”
“ว่าไม่ได้นะคะคุณเอม คุณผู้ชายเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องพระจริงๆ นะคะ” สมบูรณ์ว่า
เคนนิ่งฟังเก็บข้อมูล เริ่มสงสัยรอน ว่าเก็บตัวอยู่ในห้องพระทำอะไรกันแน่

หลังทานมื้อค่ำเสร็จ เอมเดินออกมาส่งเคนที่รถหน้าเรือน
“คุณกลับไปได้แล้ว”
“หูยคุณ เพิ่งจะกินอิ่มๆ ก็มาไล่ซะแล้ว เดินเล่นให้อาหารมันย่อยก่อนดีมั้ย”
“คนโกรธกัน เขาไม่เดินเล่นด้วยกันหรอก”
“ไม่เป็นไร คุณโกรธผม แต่ผมไม่ได้โกรธคุณนิ”
“คุณอย่าเล่นได้มั้ย ไหนคุณบอกว่าจะตั้งใจทำงานไง อุตส่าห์ดึงคุณขึ้นมาจากปลักโคลนได้ คุณก็ยังไม่ได้เรื่องอยู่เหมือนเดิม”
“พูดเหมือนผมเป็นวัวเป็นควายเลยนะ”
“วัวควายมันไม่ได้ผิดอะไร ฉันไม่อยากเอามาเปรียบกับคุณ”
“ปากจัดแบบนี้ เดี๋ยวก็จูบซะหรอก”
“จูบฉันจะตบให้คว่ำเลย ลองดูสิ ยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่นะ”
เห็นเอมเอาจริงเคนก็เลยหงอ
“ก็ได้ๆ ผมสัญญาว่าผมจะตั้งใจทำงาน ไม่สร้างปัญหา”
“แล้วก็ไม่หนีเที่ยวด้วย”
“คร๊าบบบ”
“รู้มั้ย ผู้ชายที่คร๊าบบบบ ยาวๆ แบบเนี้ย มักจะเชื่อไม่ได้”
“ลองเชื่อผมอีกสักครั้งนะคุณเอม”
เคนมองเอมด้วยสายตาออดอ้อนเว้าวอน
“เออๆ อย่าให้ฉันเสียความรู้สึกกับคุณอีกล่ะ”
เอมเดินเข้าบ้านไป เคนมองตามเอมยิ้มๆ รอนออกมาจากที่ซ่อน
“พี่เคนคร๊าบบ เมื่อไหร่เราจะไปเที่ยวเล่นศึกษาธรรมชาติกันอีกล่ะคร๊าบ”
เคนหันไปเจอรอน มองหน้าว่าที่พ่อตาอย่างเอาเรื่อง
“น้องรอน พี่เคนมีเรื่องจะคุยกับน้องรอนอยู่พอดี”

ฉวีกับสมบูรณ์ย่องเข้ามาหาเนื้ออ่อนในห้อง
"เรียบร้อยมั้ยคะคุณผู้หญิง"
"เรียบร้อย แต่ว่ายาดองของแก มันแรงมากเลยนะ ตอนนี้ฉันมึนหัวไปหมดแล้วเนี่ย"
“หา นี่คุณผู้หญิงกินเองเหรอคะ ฉวีให้เอาให้คุณผู้ชายกินค่ะ”
“อ้าว แล้วทำไงล่ะ ฉันกินหมดแล้วด้วย”
ฉวีตาเหลือก “กินหมดเลย เขากินแค่เป๊กเดียวก็พอแล้วค่ะ ดีดทั้งคืนแน่ค่ะคุณผู้หญิง”
“แล้วให้ทำไงล่ะ” เนื้ออ่อนร้อนใจ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ สมบูรณ์ว่าใครกินก็เหมือนกัน ถ้าผลลัพธ์คือความฟินในค่ำคืนนี้ ดีซะอีกค่ะ คุณผู้หญิงจะได้เป็นคนคุมเกม คืนนี้เหนื่อยนะแม่เสือสาว"
สมบูรณ์ยิ้มล้อขำๆ แล้วออกไปกับฉวี

เนื้ออ่อนนั่งรออยู่ในห้องยาดองเริ่มออกฤทธิ์ เนื้ออ่อนสะท้านไปทั้งตัว สักครู่หนึ่งเห็นรอนกลับเข้ามาในห้อง เนื้ออ่อนสะบัดผมจัดเสื้อผ้าให้ดูเซ็กซี่สุดชีวิต รอนแปลกใจ
“ไม่สบายเหรอคุณเนื้ออ่อน”
“ค่ะ รู้สึกร้อนๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว” เนื้ออ่อนเดินเข้าหารอน “คุณช่วยฉันหน่อยได้มั้ยคะ”
“ได้สิคุณ”
เนื้ออ่อนยิ้มกริ่ม รอนกดรีโมทเปิดพัดลมให้
“อย่าเปิดแอร์เลยเนอะ มันเปลือง”
“ไม่ใช่แบบนี้คร้า”
เนื้ออ่อนมองหน้ารอน ทำตาหวานซึ้ง รอนจ้องหน้าตอบ เหมือนว่าจะเคลิ้มตาม
“คุณเนื้ออ่อน”
เนื้ออ่อน เสยผมด้วยท่วงท่าอันเซ็กซี่แต่แลดูน่าขัน “คะคุณ”
“นี่มันเพิ่งจะทุ่มเดียวกว่าเองนะ ทำอะไรให้มันอายผีสางนางไม้ เทวดาฟ้าดินบ้าง”
“ผมจะไปสวดมนต์ไหว้พระ อุทิศบุญให้นะ”
รอนผลักเนื้ออ่อนให้ลุกขึ้นนั่ง แล้วออกไป เนื้ออ่อนเรียกก็ไม่หัน
“เดี๋ยวคุณรอน ฉันไม่ได้ต้องการบุญ ฉันต้องการ...หืยยยย”
เนื้ออ่อนทิ้งตัวลงนั่งอย่างอารมณ์เสีย

รอนหนีเนื้ออ่อนออกมาหน้าห้อง แล้วหวนคิดถึงเรื่องที่ได้คุยกับเคน
“น้องรอนกำลังทำตัวมีพิรุธรู้มั้ย ถ้าน้องรอนรักจะหนีเที่ยวโดยสวัสดิภาพ น้องรอนต้องจัดทำการบ้านให้มันเรียบร้อย”
รอนเดินกลับเข้าห้องมาเห็นเนื้ออ่อนที่นั่งสะบัดร้อนสะบัดหนาวอยู่
“เมื่อคุณน้าเนื้ออ่อนแฮปปี้ซะอย่าง ไม่ว่าเราจะทำอะไร คุณน้าเนื้ออ่อนก็จะไม่สงสัย จะเคลิ้ม จะฟินกับเราไปหมด”
“คุณเนื้ออ่อน”
เนื้ออ่อนเงยหน้าขึ้นมามองรอน
“คุณรอน”
“คุณเนื้ออ่อน”
สมบูรณ์กับฉวีมองไปยังหน้าต่างห้องนอนของคุณเนื้ออ่อน พบว่าห้องยังเปิดไฟอยู่ สักครู่ไฟในห้องดับลง สมบูรณ์กับฉวีมองหน้ากัน หัวเราะคิกคัก ดีใจที่เจ้านายสมปรารถนา
“คุณรอน” / “คุณเนื้ออ่อน”
ได้ยินแต่เสียงรอนกับเนื้ออ่อนเรียกชื่อกันด้วยน้ำเสียงซาบซ่านไปมาดังออกมาจากห้องนั้น

เช้านี้ เคนเดินคุยโทรศัพท์กับเอมเข้ามาในโรงงานพร้อมกับเจียด
“คุณไม่มาวันนี้ ผมเป็นไงบ้างหนะเหรอ ผมก็เป็นเด็กดี มาทำงานตรงเวลาไง ผมโตแล้วทำงานเองได้ คุณมีงานก็ไปทำเถอะ ผมไม่เกเรหรอก”
เคนวางสายจากเอม
“ตั้ลลักอ่ะ”
เจียดกระดี๊กระด๊า มองตามพนักงานสาวๆ หน้าตาดี เดินผ่านไป เคนอดมองตามไม่ได้
เจียดเอ่ยขึ้นว่า “คุณเอมไม่มา การจราจรมันก็โล่งตลอดแบบนี้นี่เองนะครับ”
“ทำไมวะ แกพูดยังกับฉันกลัวคุณเอม”
“บอกให้นะครับ ถ้าคนไม่รู้มองมาก็ต้องคิดว่าคุณสองคนเป็นคนรักกันและคุณก็เกรงกลัวคุณเอมมาก”
“เกรงใจรึเปล่า”
“เจียดว่าเกรงกลัวน่าจะเหมาะกว่า”
เคนตัดบท “ไม่ต้องมาพูดมาก ฉันจะไปทำงาน”
เคนจะเดินเข้าโรงงาน มือถือเคนดัง เห็นชาช่าโทรเข้ามา
เคนรับสาย "ครับชาช่า ตอนนี้ผมไม่ว่างนะ ผมกำลังจะเข้าไปทำงาน"
"นี่มันต้องอย่างนี้"
"ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปหา"
"อ้าว ทำไมล่ะครับคุณเคน"
"ชาช่าบอกว่าจะปรีกษาเรื่องขอถอนตัวจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์สุขภัณฑ์ของพ่อ"
มือถือเคนอีกเครื่องดัง คราวนี้พราวโทร.มา
"ครับพราว ก็ได้ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้"
"อะไรอีกล่ะครับ"
“พราวบอกว่า คณะกรรมการของห้าง คัดค้านเรื่องที่สินค้าของเราจะไปเปิดบูทขายลดราคาช่วยผู้บริโภค”
"แปลกนะครับ ทำไมงานเข้าพร้อมกัน 2 คน" เจียดตั้งข้อสังเกต
"แปลกกว่านั้นคือ นัดที่เดียวกันด้วย" 
"เป็นเจียด เจียดจะไม่ไป"
"แต่ฉันจะไป ฉันอยากจะรู้ว่า สองคนนั้นจะมาไม้ไหน"
เคนออกไป เจียดตามไป ชินกับโรจน์เดินออกมาจากโรงงานเห็นเคน ชินเรียกไว้
"คุณเคนครับ คุณเคน"
เคนไม่ได้ยินไม่หันกลับมาหา
"งานแจกของผู้ประสบภัยวันนี้เอาไงดีพี่ ถ้าคุณเคนไม่อยู่" โรจน์ถาม
"ก็ทำกันไปก่อนก็แล้วกัน เรื่องแค่นี้ คุณเคนอาจจะเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ก็ได้"
ชินพยายามพูดให้สถานการณ์มันดีขึ้น แต่จริงๆ ก็กังวลใจไม่คลายกับทายาทหนุ่มของเจ้านาย

ฟากเคนนอนหลับตาพริ้มอยู่
“คุณนี่ร้ายมากนะครับพราว เอาเรื่องงานมาขู่ผมเฉยเลย”
ที่แท้พราวนอนนวดอยู่ใกล้ๆ
“ไม่ขู่แบบนี้แล้วคุณจะยอมมาหาพราวเหรอคะ”
พราวเอื้อมไปจับมือเคน
“พราวรู้ว่าช่วงนี้เคนทำงานหนัก ก็อยากจะรีแล็กซ์”
พราวมองเคนตาหวานฉ่ำ เคนมองตอบ มือถือของเคนที่วางไว้ข้างๆ สั่น
“เอ่อพราวครับ ผมขอไปห้องน้ำแป๊บนะ สงสัยพี่เขาจะนวดเปิดกระบังลม มีผลทันทีเลยเนี่ย”
พราวเสียอารมณ์ “ค่ะ”
เคนลุกออกไป พราวให้พนักงานนวดนวดต่ออย่างสบายอารมณ์

เคนเข้ามาหาชาช่าที่นอนให้พนักงานนวดอยู่ก่อนแล้วที่อีกห้องหนึ่ง
“ทำไมเปลี่ยนชุดนานจังคะเคน”
“ผมแวะเข้าห้องน้ำก่อนหนะ วันนี้ท้องไม่ค่อยดี”
เคนนอนให้พนักงานนวด
“ตกลงเรื่องพรีเซ็นเตอร์สุขภัณฑ์ของพ่อผม...”
“ช่าก็กำลังคิดอยู่เนี่ยค่ะ ว่าเอาไงดี”
ชาช่ายักท่าพลางทิ้งตัวลงนอนให้พนักงานนวด ปล่อยให้เคนรอคำตอบไป

สองสาวเดินเข้ามาในสปาคอมเพล็กซ์ของเจตน์ มิ้นมองสำรวจไปรอบๆ อดทึ่งไม่ได้
“ก็ใหญ่โตดีนะ อีตาเจตน์นี่ทำบุญด้วยอะไรนะ ถึงรวยขนาดนี้ แต่ว่ารวย แต่สติไม่ดี ขี้โม้ ขี้โวยวาย ก็ไม่ไหวนะ”
“ใครจะไปสู้คุณกอล์ฟได้ล่ะ ทั้งแมน ทั้งสุภาพ”
“เขาอาจจะไม่ได้แมนอย่างที่คุณคิดก็ได้นะคะคูณณ”
“ทำไมล่ะ มีเรื่องอะไรรึเปล่า”
“เมื่อวานฉันไปเยี่ยมเขา มีผู้หญิงมาลืมรองเท้าไว้ที่ห้องเขาด้วย”
“แล้ว...”
“ลืมรองเท้าไว้ในห้องนะเฮ้ย คือ มาทำอะไรกันล่ะคูณณ”
“มโนไปเองรึเปล่าคะคูณณ”
มิ้นยังไม่ทันได้พูดโต้อะไรต่อ เจตน์ก็เดินยิ้มเผล่เข้ามาหา
“คุณเอม อ้าวคุณมิ้นก็มาด้วย”
“เอมชวนมิ้นมาช่วยคิดน่ะค่ะ มิ้นเขาไอเดียดี”
มิ้นกระซิบเอมกันขำๆ “เรียกว่าไม้กันหมาก็ได้ค่ะคู๊ณณ”
เอมหยิกมิ้นหมับ
“ดีครับ คือผมเป็นคนชอบนวดครับ พนักงานที่นี่ก็นวดดีจนผมติดใจ ก็เลยเทคโอเวอร์มาซะเลย” เจตน์คุย
“อ๋อค่ะ”
“แต่ถ้าทำแล้วเบื่อ ก็เลิก ไม่คิดมาก”
เอมหมั่นไส้ “งั้นก็ไม่จำเป็นต้องปรับลุค เสื้อผ้าการแต่งกายอะไรก็ได้นี่คะ”
“จำเป็นสิครับ แหม มันจะสักเท่าไหร่เชียว ถือว่าซื้อเสื้อผ้าให้พนักงานใส่เล่น”
สองสาวฟังแล้วก็เบื่อความขี้โม้ของเจตน์ แต่ต้องเก็บอาการ
“เราไปดูด้านในกันดีกว่าครับ”
เจียดนั่งอ่านหนังสือพิมพ์รอเคนอยู่อีกมุมหนึ่ง หันมาเห็นพอดี 
“คุณเอมและเพื่อน เหมือนกรรมเก่ากลั่นแกล้งจริงๆ คุณเคนเอ๊ย”
เจียดลดหนังสือพิมพ์ลงมองตามเอมกะมิ้นไป ด้วยความเป็นห่วงเคน

อ่านต่อ ตอนที่ 16

#พ่อปลาไหล #thaich8 #โชคดีมีสุข #ฟิล์มยีน #ยีนฟิล์ม #ทีมพ่อปลาไหล #ทีมเอม #lakornonlinefan #ละครออนไลน์ #ลมหายใจคือละคร


กำลังโหลดความคิดเห็น