พ่อปลาไหล ตอนที่ 10
บทประพันธ์ : กนกเรขา บทโทรทัศน์ : ปัทม์ และ ใจดี
เจียดขับรถมาตามถนนในหมู่บ้านมุ่งหน้าออกถนนใหญ่ เพื่อไปร่วมงานเปิดตัวร้านเสื้อของเอมิกา
เพ็ญนั้นเป็นปลื้มเรื่องเคนร่วมเดินแบบวันนี้ “อุ้มมาตั้งแต่แบเบาะ ไม่คิดไม่ฝันว่าโตมาตาเคนจะได้เป็นนายแบบกับเค้า”
“เหมือนพี่ที่ไม่คิดไม่ฝันว่าโตมาจะตกหลุมรักคุณ” ณรงค์หยอดหวาน
เพ็ญค้อนให้วงพองาม “เข้าเรื่องตลอด”
เจียดหัวเราะคิก แล้วทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆ มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งพุ่งพรวดออกมาจากซอยตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด
“เฮ้ย”
เจียดเบรกตัวโก่งรถจอดนิ่ง มอเตอร์ไซค์คันนั้นล้มลง
ณรงค์ เพ็ญ เจียด ตกใจ รีบลงจากรถไปดู
รถมอเตอร์ไซค์ล้มเค้เก้อยู่ ส่วนชาย1 คนขับใส่หมวกกันน็อกนอนแน่นิ่งอยู่ข้างรถ เจียด ณรงค์ เพ็ญ วิ่งเข้ามาดูด้วยความตกใจ
เจียดเข้าไปเขย่าตัวชาย1เรียกสติ “คุณๆ”
ชาย1 ค่อยๆ ลืมตาฟื้นขึ้น ท่าทีงงๆ ทุกคนยิ้มโล่งใจ
“เจ็บตรงไหนบ้างคะ”
ชาย1 มองหน้าเพ็ญยิ้มดีใจรีบลุกขึ้นจับมือ
“ที่รัก”
เจียด ณรงค์ และเพ็ญ มองชาย 1 อย่างตกใจ
เพ็ญชักมือกลับ “คุณจำคนผิดแล้วค่ะ”
ชาย1ลุกขึ้นโวยวาย “นอนกอดกันมาตั้ง 8 ปี ใครจะจำผิด”
“ไม่หัวน็อคพื้นจนประสาทกลับก็สติไม่ดี” พร้อมกับว่าณรงค์จับแขนเพ็ญอย่างให้เกียรติ “ไปรอบนรถดีกว่า”
ณรงค์พาเพ็ญเดินไปที่รถ
“มีผัวใหม่แล้วใช่มั้ยถึงแกล้งจำผัวเก่าไม่ได้”
ชาย1โกรธจัดจะวิ่งไปหา เจียดเข้ามาขวาง ณรงค์รีบพาเพ็ญขึ้นรถไป
“คุณเพ็ญไม่ใช่เมียคุณหรอกครับ ผมไม่ได้ชนแล้วคุณก็ไม่ได้บาดเจ็บ คงไม่ต้องช่วยเหลืออะไรแล้วนะครับ”
เจียดขึ้นรถล็อคประตูจะออกรถไป แต่ชาย1วิ่งมาขวางหน้ารถ ตะโกนลั่น
“เอาเมียผมคืนมา”
ณรงค์ กะเพ็ญ มองชาย 1 อย่างหนักใจ
แดน กะป้องซุ่มดูเหตุการณ์อยู่จากมุมหนึ่ง ตั้งแต่ต้น อดทึ่งชาย1ไม่ได้
“แอ็คติ้งสุด”
ป้องการันตีว่า “จบการแสดงจากอังกฤษ งานสตั๊นรถล้มรถคว่ำทำได้ ค่าตัววันเป็นหมื่น ไม่สุดได้ไง”
“เจอคนบ้าขวางรถ คุณพ่อกับน้าเพ็ญไม่มีทางไปทัน”
แดนตีมือกับป้องหัวเราะคิกคักสมใจที่แผนสำเร็จ
ห้องจัดงานขนาดใหญ่ มีฉากกั้นเป็นห้องแต่งตัวนายแบบหญิง-ชาย โดยมีกระโจมสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งอยู่สองสามกระโจม ชาช่า นาตาลี และกลุ่มนางแบบ นั่งแต่งหน้าทำผมกันอยู่
เอมแต่งตัวสวยเก๋อย่างมีสไตล์ สมกับเป็นดีไซเนอร์ เดินออกมาจากกระโจมหนึ่ง มิ้นเปลี่ยนชุดสวยล้ำนั่งเล่นมือถือรออยู่เงยหน้ามองแล้วร้องกรี๊ด
“แอร๊ย”
ทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียว
มิ้นลุกวิ่งมาหาเอม “สวยๆเกร๋ๆ สมฐานะดีไซเนอร์”
นาตาลีเดินมาสมทบพร้อมยื่นป้ายแบรนด์เอมิก้าที่มีรูปเอมเป็นตัวการ์ตูนน่ารักมากๆ
มิ้นจับป้าย “ขอให้แบรนด์เอมิก้าของเธอดังปังๆ ไประดับโลกเลยนะคะคู้ณณณณณ”
“ดีใจด้วยที่ฝันของเธอเป็นจริง” นาตาลีอวยเพื่อนรัก
เอมมองเพื่อนรักทั้งสองอย่างซาบซึ้งใจ
“ไม่มีเธอสองคนฉันคงมาไม่ถึงจุดนี้”
เอมกอด มิ้น กะนาตาลีเชิงขอบคุณ
มิ้นปาดน้ำตา “ไม่นะคะ งานนี้ต้องเริงร่า งดดราม่าค่ะ เชิญคุณดีไซเนอร์สำรวจเสื้อผ้าหน้าผมนายแบบนางแบบเลยค่ะว่าได้อย่างใจรึเปล่า”
เอม กะนาตาลี ปาดน้ำตาเช่นกัน หัวเราะขำมิ้น
งานใกล้เริ่มแล้ว เคน กอล์ฟ และบรรดานายแบบหลายคนนั่งแต่งหน้าทำผมอยู่อีกห้อง เอมเดินเข้ามามองทุกคนอย่างภาคภูมิใจ
เคนขอตัวกับช่างหน้าหันไปแซวเอม “ขอเวลานอกแป๊บ มาขอบคุณผมใช่มั้ยครับ”
“ทำงาน”
เอมหมั่นไส้ไม่วอแวด้วย เดินหนีไปหาทีมช่างหน้า ช่างผม
ช่างหน้าบอกทันที “หน้าโทนแทนๆ เท่ๆ”
ส่วนช่างผมบอกเช่นกัน “ผมเซ็ตธรรมชาติ ตามที่คุณบรีฟ ภาพจริงตรงกับจินตนาการของคุณมั้ยคะ”
เอมยิ้มร่า “เป๊ะมากค่ะ ขอบคุณนะคะ”
เคนมองตามเอมไปด้วยสีหน้าสงสัย สุดท้ายลุกเดินไปหากอล์ฟ
“ของขวัญที่ให้ก็ปลื้ม มารยาทก็งาม เกลียดขี้หน้ากันยังไงก็ต้องมีขอบคุณกันบ้าง”
กอล์ฟหมั่นไส้ “คิดไปเองรึเปล่าเค้าปลื้มของที่มึงให้”
“งานนี้ไม่มีมโน สายตาพญาเสืออย่างกูมองอาการผู้หญิงไม่ผิดหรอก”
“หรือมึงไปทำอะไรให้เค้าไม่พอใจ”
“ให้ของเสร็จกูก็ออกมา ไม่ได้กวนประสาทอะไรเค้าเลย เป็นไร”
เคนไม่วายมองตามเอมด้วยแววตาสงสัย
แขกเริ่มทยอยเข้างานมาแล้ว แจ๊ดในชุดสุดเปรี้ยวเดินออกมาดูโถงหน้าห้องจัดงาน เห็นพราวแต่งตัวสวยล้ำเดินเข้ามาคนเดียวก็หยุดมอง ยิ้มมีแผน แล้วเดินไปหา
“ต๊าย มามือเปล่า ฉันช่วยหาน้ำแข็งมาสงเคราะห์ให้เอามั้ย”
พราวยิ้มเยาะ “แค่ผู้หญิงบ้านนอกที่มีอานิสงส์ พรีเซ็นเตอร์บริษัทคุณลุงคุ้มหัว ได้เดินแบบคู่กับคุณเคน ไม่ทำให้เซเลบมีชาติตระกูลอย่างฉันอิจจนตาร้อนขนาดนั้นหรอก เด็กในเล้าของเธอมันคนละระดับกับฉัน อย่าเอามาเทียบกันเพราะมันเทียบไม่ติด”
พราวสะบัดหน้า เดินเชิดๆ เริดๆ เข้างานไป
แจ๊ดคุมแค้นมองตามตาขวาง “ฮึ สูงส่งเหลือเกิ๊น คอยดูนะวันนี้ฉันจะทำให้แกอิจน้องชาช่าจนไม่ร้อนแค่ตา แต่จะให้ร้อนไปทั้งตัว”
เหตุการณ์ที่หมู่บ้าน เจียดจะออกรถไปทางขวา ชาย 1 ก็ขยับตัวขวาง แถมยังขย่มรถอีกด้วยไม่ยอมให้ไป โวยวายคำเดิม
“เอาเมียผมคืนมา”
“ขวางซ้ายขวางขวาอย่างนี้เราคงหลุดไปยาก เอาไงดีครับคุณท่าน” เจียดหารือเจ้านาย
ณรงค์ครุ่นคิดแล้วหยิบมือถือมากด
“ขอแจ้งเหตุด่วนครับ”
แดน กะ ป้อง ยังซุ่มดูอยู่มุมเดิม
“โทรศัพท์แล้วโว้ย สงสัยแจ้งตำรวจ” แดนว่า
ป้องยิ้มขำ “แจ้งไปก็เท่านั้น เราได้วางกำลังล้อมท่านไว้หมดแล้ว”
ตำรวจ 2 คนขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนกันแล่นรถเข้ามาในหมู่บ้าน ถูกชาย2 โบกให้จอด
“มาระงับเหตุชายสติไม่ดีขวางรถใช่มั้ยครับ
ตำรวจ1ที่ซ้อนหลังลงรถมาถามอย่างแปลกใจ “คุณรู้ได้ยังไง”
“เจ้านายผมแจ้งไปเองครับ คนบ้ามันไปแล้ว แล้วนายผมก็ต้องรีบไปงาน เลยให้ผมรอบอกคุณตำรวจครับ” ชาย2บอก
“ขอบคุณครับ”
ตำรวจ1ขึ้นรถ พากันขี่มอเตอร์ไซค์กลับออกไป
ชาย2 รีบกดโทรศัพท์หาแดนกะป้อง “พี่ป้อง ตำรวจไปแล้วครับ”
ที่นั่งด้านหน้าเวที มีแขกวีไอพีนั่งเต็มทุกที่นั่ง สื่อหลายสำนักมารอถ่ายรูป ทำข่าวอย่างคึกคัก
พราว กะแจ๊ด นั่งคนละฝั่ง ต่างคนต่างมองกันอย่างหมั่นไส้
เจตน์ถือช่อดอกไม้ในมือนั่งอยู่กับกลุ่ม มิ้น เนื้ออ่อน และรอน ซึ่งมีช่อดอกไม้มามอบให้ลูกสาวด้วย
เนื้ออ่อนอ่านไลน์จากเพ็ญแล้วหันมาพูดกับกับรอนอย่างร้อนใจ
“คุณณรงค์แจ้งตำรวจแล้ว คิดว่าน่าจะมาทัน”
รอนแปลกใจ “จู่ๆ ก็มีคนบ้าขวางทาง โชคร้ายจริงๆ”
เสียงดนตรีเร้าใจดังกระหึ่มขึ้นพร้อมแสงไฟสาดส่องบนแคทวอล์ค ทุกคนหันไปมองบนเวที
กอล์ฟ กับนาตาลี ในชุดสวยของเอมิก้า เดินออกมาหยุดโพสสวย เท่ หน้าเวที
เจตน์เห็นผลงานของเอมแล้วพูดอย่างตื่นเต้น
“โอ้โห คุณเอมออกแบบสวยสุดๆ ไปเลยครับ”
เนื้ออ่อน กะรอน ที่นั่งข้างเจตน์มองผลงานลูกสาวยิ้มชื่นสุขใจ
“แม่ช่างแต่งตัวลูกเลยรสนิยมดีน่ะจ้ะ”
“เห็นด้วยค่ะคุณแม่” มิ้นยิ้มกว้าง
เนื้ออ่อนชอบใจ “รักหนูก็ตรงที่เข้าข้างแม่นี่แหละ”
ทุกคนหัวเราะสนุกสนาน
เนื้ออ่อนหันมาทางรอน “ฉันภูมิใจในตัวลูกจริงๆ”
รอนจับแขนเนื้ออ่อนพูดเสียงนุ่มอ่อนโยนชวนซึ้ง
“แต่ผมภูมิใจในตัวคุณ อบรมดีลูกเลยโตมาเป็นเด็กดีมีความคิดทำตัวเองให้เจริญรุ่งเรือง”
“รู้ว่าเก่งเรื่องอบรมก็กรุณาเชื่อฟังฉันทุกอย่างด้วยนะคะ”
“ไม่เคยเล้ยที่จะไม่ฟัง”
“กว่าจะฟังก็ต้องขัดใจขัดอารมณ์ฉันก่อน จำความสำเร็จของลูกขึ้นใจแล้วอย่าเถียงฉันอีก”
“จ้ะ” รอนหันหนีไปทางหนึ่งบ่นงึมงำเซ็งๆ “เปิดช่องไม่ได้เลยเชียว”
ด้านหลังเวทีวุ่นวายได้ที่ นางแบบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างไวว่อง ทีมงานวิ่งขวักไขว่ เอมสำรวจความเรียบร้อยของชุดสวยที่ชาช่าใส่ ยิ้มปลื้มชื่นชม
“คุณเป็นแบบที่เพอร์เฟ็กต์จริงๆ ขอบคุณนะคะที่ให้เกียรติมาร่วมงาน”
“ฉันมาเพราะคุณเคน”
“ฉันรู้ค่ะ แต่ก็ยังอยากขอบคุณๆอยู่ดี” เอมไม่ถือสาหันไปบอกกับทีมงาน “โอเค”
ทีมงานแบ็คสเตจตะโกนบอกกับชาช่าว่า “สแตนด์บายค่ะ”
ทีมงานอีกคนเดินนำไปชาช่าเดินตาม
เอมเปิดม่านเดินมาฝั่งนายแบบ เห็นผู้ช่วยกำลังแต่งตัวให้เคนอดทึ่งไม่ได้
“นี่นายหลุดออกมาจากสมุดภาพสเก๊ตฉันรึเปล่าเนี่ย”
เคนหันมา เห็นเอมมองตนอยู่ก็ปากดีใส่
“ถึงกับยืนอึ้ง ผมหล่อสมใจคุณละสิ”
เอมมองหมั่นไส้ “ผ้าพันคอนายผิดเซ็ตต่างหาก”
ทีมงานไปดูรูปสเก๊ตช์ที่ติดไว้
“จริงด้วย ขอโทษค่ะ”
เคนมองเอมอย่างจับสังเกต ดูออกว่าอีกฝ่ายปั้นปึ่งใส่ตน
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เอมหันไปมองหาเห็นผ้าพันคอผืนนึงแขวนอยู่ จึงรีบหยิบมาพันให้เคนเอง เคนมองเอมที่ผูกผ้าพันคอให้ตนยิ้มกริ่ม
เมื่อ เคน กับ ชาช่า เดินออกมาหยุดโพสคู่กันหน้าเวที ช่างภาพตากล้องกระหน่ำถ่ายรูปรัวๆ พราวมองเคนอย่างชื่นชม และมองชาช่าอย่างเคืองขุ่น
“จะว่าไปนายเคนนี่ก็หล่อไม่เบา” รอนเอ่ยขึ้น
“รูปงามแต่ใจทราม ยังไงก็คบไม่ได้” เนื้ออ่อนว่า
“จริงครับ” เจตน์มองเคนยิ้มร้าย
ชาช่า กับแจ๊ดสบตากัน แจ๊ดพยักหน้าให้สัญญาณ
ชาช่ามองพราวยิ้มเยาะให้ เดินไปคู่กับเคนแล้วแกล้งทำเป็นเสียหลักจะล้ม
“ว้าย”
เคนประคองไว้ทัน ชาช่ากอดเคนไว้ คนดูตกใจ สื่อถ่ายรูปรัวๆ
“เจ็บเท้า เดินไม่ไหวค่ะ” ชาช่าบอก
เคนยิ้มหวานแล้วอุ้มชาช่าไปโพสหน้าเวที เรียกเสียงฮือฮาจากคนดู
มิ้นมองเคนที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีอย่างชื่นชม ชาช่ามองจิกมายังพราวพลางยิ้มเยาะ
พราวแค้นแทบกระอัก
เคนอุ้มชาช่าเข้ามาหลังเวที กอล์ฟกะนาตาลีเปลี่ยนชุดใหม่เดินสวนออกไป เอม กับทีมงานตกใจเรื่องชาช่า
“คุณช่าเท้าพลิกครับ”
เคนบอกพลางวางชาช่าลงบนเก้าอี้
เอมตกใจและเป็นห่วง “เป็นยังไงบ้างคะ”
“ดีขึ้นแล้วค่ะ ทำงานต่อได้” ชาช่าลองขยับเท้าแล้วลุกเดินไปหาเคน “ขอบคุณนะคะที่ช่วยช่าไม่ให้เสียหน้าบนเวที”
ชาช่าหอมแก้มเคนฟอดหนึ่ง แล้วเดินออกไปอย่างอารมณ์ดีไม่มีวี่แววของคนเท้าพลิกสักนิด
เคนยิ้มหวาน เอมมองหมั่นไส้
“เข้าใจอะนะว่ารักกัน แต่ก็ไม่ควรแสดงความรักในที่สาธารณะ ให้มันประเจิดประเจ้อนัก”
“นี่พูดเพราะอะไร ห่วงภาพพจน์ชาช่า หรือหึงผม” เคนเย้า
“หึงนาย คิดได้เนอะ ที่พูดเนี่ยเพราะเหตุผลแรกกลัวคุณชาช่าเสียหาย”
“คุณช่าเค้ายังไม่กลัวเลย คุณจะกลัวแทนเค้าทำไม”
“ลืมไปว่าเค้าเป็นผู้หญิงใจกล้า ไม่งั้นคงไม่จูบกับคุณแบบไม่แคร์ว่าใครจะมาเห็น”
เคนอึ้งไป “คุณเห็น”
“เป็นความซวยของฉันเอง”
เอมเดินหงุดหงิดออกไป เคนมองตามด้วยสีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด
อีกฟาก ชาย1 ยังคงยืนขย่มกระโปรงรถ และดูคลุ้มคลั่งน่ากลัวมากขึ้น
“เอาเมียผมคืนมา เอาเมียผมคืนมา”
เจียด ณรงค์ และเพ็ญ มองชาย1อย่างกังวลใจ
“แจ้งไปตั้งนานแล้วทำไมยังไม่มาซักที” ณรงค์บ่นเรื่องตำรวจ
“โทร.ไปอีกทีสิคะ”
ณรงค์จะกดโทรศัพท์แล้วสายตามองไปเห็นแท็กซี่ว่างวิ่งเข้ามาพอดี คิดบางอย่างได้
“พี่ไม่รอตำรวจดีกว่า”
เพ็ญมองฉงน
แท็กซี่ขึ้นไฟว่างวิ่งใกล้เข้ามา ชาย1ยังขย่มรถตะโกนโหวกเหวกคำเดิม
“เอาเมียผมมา เอาเมียผมมา”
ณรงค์ให้สัญญาณเจียดวิ่งลงจากรถมารวบตัวชาย 1 ไว้ แดน กะป้อง มองเห็นก็ตกใจ
ณรงค์ กับ เพ็ญสบช่องรีบลงจากรถ ณรงค์จูงมือเพ็ญวิ่งไปโบกแท็กซี่
“คนบ้าขวางรถผม ช่วยด้วยครับ”
คนขับจอดรถรับ ณรงค์ กะเพ็ญ รีบขึ้นรถไป สั่งให้แท็กซี่ออกรถโดยไว
ชาย1 ผลักเจียดออก แล้ววิ่งตามแท็กซี่ไป
“อย่าพาเมียผมไป เอาเมียผมคืนมา”
เจียดรีบขึ้นรถขับตามออกไป แท็กซี่วิ่งไปไกลลิบจนชาย1 ตามไม่ทัน
ป้องมองแท็กซี่ที่ขับผ่านไปอย่างร้อนใจ
“หลุดไปแล้ว ทำไงดีอ่ะพี่”
“กลับออฟฟิศ”
ป้องงง “หือ”
แดนดูนาฬิกาประเมินสถานการณ์ “งานเริ่มไปเป็นชั่วโมงแล้ว กว่าจะฝ่ารถติดไปถึง งานก็เลิก ไอ้เคนก็คงแรดๆๆไปกับผู้หญิงคนไหนซักคนแล้ว”
“mission บรรลุ” ป้องถูมือหน้าตาหื่น “เตรียมมือไว้รับค่าเหล้าเคล้าหญิงจากพี่เคนเลย”
แดน ป้อง หัวเราะคิกคักสมใจ
ที่งานแฟชั่นโชว์ของเอม
กอล์ฟ นาตาลี นางแบบ นายแบบเดินแบบสุดท้าย แล้วพากันไปโพสเท่สวยตรงจุดมาร์คใครมัน
เคน และชาช่า ในชุดฟินาเล่เดินออกมา ชาช่าคอยส่งสายตายิ้มเยาะมาทางพราวทุกขณะ พราวได้คุมแค้นไปมา
เคน และชาช่าหยุดหน้าเวที แล้วหันไปผายมือ เอมเดินกระฉับกระเฉงออกมายิ้มกว้าง
ทุกคนปรบมือให้ เอมหยุดหน้าเวที เนื้ออ่อน รอน เอาดอกไม้ไปให้หอมแก้มเอม เจตน์หอบดอกไม้ช่อโตไปยื่นให้เอม
เคนจับมือเอมไว้ ถูกเอมมองตาขวาง เจตน์เองก็ไม่พอใจ เอมจะสะบัดมือออก แต่ชาช่าจับมืออีกข้างไว้ จึงได้สติ จับมือเคนกับ ชาช่าคนละข้างแล้วโค้งให้แขกในงาน ทุกคนปรบมือเกรียวกราว
เจตน์ยิ้มร้าย “เวลาแห่งความสุขของแก จบแล้ว”
จู่ๆ มีหญิง 1 เดินฝ่าผู้คนเข้ามาหยุดหน้าเวที ชี้หน้าด่าเคน
“ไอ้คนหลอกลวง”
ทุกคนในงานมองอย่างตกใจ
“นายแบบคนนี้ เป็นผู้ชายขายตัว” หญิง1ใส่อีกดอก
เห็นคนในงานมองเคนเป็นตาเดียว เจตน์ลอบยิ้มสะใจ
“มันหลอกเงินฉันไปตั้งหลายล้าน พอฉันหมดตัวมันก็ทิ้งไปหาผู้หญิงใหม่ เอาเงินฉันคืนมานะไอ้แมงดา”
เอมโกรธจัดกระซิบด่าเคน “คุณบอกคู่ขากี่คนเนี่ยว่ามาเดินแบบงานฉัน”
เคนกระซิบกลับว่า “บอกแค่คุณพราว ส่วนคนนี้ผมไม่รู้จัก ไม่ต้องกลัว ผมไม่ยอมให้งานคุณพังหรอก”
พร้อมกับว่าเคนกระโดดลงจากเวทีไปจับข้อมือหญิง1จะพาออกไป
“ไปเคลียร์กันข้างนอกดีกว่าครับ”
หญิง1สะบัดมือออก “ฉันจะเคลียร์ตรงนี้ วันนี้คนทั้งโลกต้องได้รู้ธาตุแท้ของแก”
เคนมองหญิง1อย่างหนักใจ
เจตน์มองสะใจ ลุ้นหนัก
“มันต้องอย่างนั้น ไล่มันให้จนมุม”
“ผู้ชายคนนี้ชื่อไอ้เคน มันปอกลอกฉันจนหมดตัว” หญิง1หันมาหากับนักข่าว “ถ่ายรูปมันไปลงข่าวเลยค่ะ คนอื่นจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อมันอีก”
เคนพยายามพูดดีๆ ด้วย “ผมขอร้อง ไปเคลียร์กันข้างนอกเถอะครับ”
“ไม่”
พราวไม่พอใจเดินเข้ามาหา “พูดจาไม่รู้เรื่องอย่างนี้ พราวจัดการให้ดีกว่าค่ะ”
เคนร้อนใจกลัวเรื่องลุกลามบานปลาย “ผมเคลียร์เองดีกว่าครับ”
พราวสบช่องประกาศก้อง “พราวอยากเคลียร์ให้ พราวเป็นแฟนคุณนะคะ”
ทุกคนมองพราวฮือฮา ส่วนใหญ่ตกใจ พราวมองชาช่ายิ้มเยาะ
หญิง1เล่นละครต่อ “อ๋อ แกเองเหรอผู้หญิงคนใหม่ของมัน”
ชาช่าได้ทีแทรกขึ้น “ไม่ใช่ค่ะ ฉันรู้นะคะว่าคุณอยากช่วยคุณเคน แต่การกุเรื่องโกหกประชาชนไม่ใช่ทางออกที่ดีนะคะ”
“คนระดับฉันไม่ต้องโกหกสร้างภาพ” พราวโต้ ประกาศกับสื่อว่า “ฉันกับคุณเคนคบกันมา 3 เดือนแล้ว”
หญิง1 แหวขึ้นอีก “แกนี่เองที่มันเอาเงินฉันไปปรนเปรอ”
“ไม่ต้องอาศัยเงินคุณเค้าก็มีเงินปรนเปรอฉันไปถึงชาติหน้า”
เนื้ออ่อน กับรอน มองเคนอย่างไม่พอใจ
“ว่าแล้วว่าเอาแกมาเดินต้องมีเรื่องอื้อฉาว งานนี้เป็นความฝันของลูกฉัน อย่าทำให้ฝันดีกลายเป็นฝันร้าย ออกไปจากงานลูกฉันเดี๋ยวนี้ ออกไป” เนื้ออ่อนไล่ตะเพิด
เคนจะออกไป แต่พราวคว้าตัวรั้งไว้
“ทำไมยอมแพ้ง่ายๆ อย่างนี้คะ ทำไมไม่บอกพวกเค้าว่าคุณเป็นใคร”
“น้องเค้าเปิดตัวผมแรงขนาดนี้ บอกไปก็ไม่มีใครเชื่อแล้วละครับ ใครจะเข้าใจว่าไงก็ช่างเค้าเถอะ”
“พราวให้ใครเข้าใจว่าแฟนพราวเป็นผู้ชายขายตัวไม่ได้ ผู้ชายคนนี้ชื่อจริงชื่อ กวิน สิทธิ์ศักดิ์”
ทุกคนในงานฮือฮา
เนื้ออ่อนสะดุดหู “สิทธิศักดิ์ นามสกุลเจ้าสัวณรงค์”
เสียงณรงค์ดังขึ้น “ครับ นามสกุลผมเอง”
ทุกคนหันไปมองเห็นณรงค์ เพ็ญเดินเข้ามา
เคนกุมขมับคาดไม่ถึงว่าพ่อและน้าจะมาทัน “งานเข้าแล้วไง”
กอล์ฟมองณรงค์ กับเพ็ญ อย่างร้อนใจ
“คุณมิ้นเลิกคบแน่”
ณรงค์ และเพ็ญ เดินมาหาเนื้ออ่อนกะรอน
เนื้ออ่อนยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่ “ไอ้ผู้ชายขายตัวคนนี้เอานามสกุลคุณไปแอบอ้าง แจ้งตำรวจจับมันเลยค่ะ”
เพ็ญมองเนื้ออ่อนด้วยสีหน้าตกใจ อุทานลั่น
“ผู้ชายขายตัว”
ณรงค์นึกออก ด่าเคนไม่ไว้หน้า “ไปหลอกอะไรพวกเค้าไว้ ไอ้ลูกเวร”
รอนตะลึง “ลูก”
“มันเป็นลูกชายคนเดียวของผม” ณรงค์บอก
ทุกคนมองเคนอย่างตกใจคาดไม่ถึง ยกเว้นพราว ชาช่า และแจ๊ด
เนื้ออ่อนนั่งหน้าซีดดมยาดมอยู่มุมหนึ่ง
เพ็ญแปลกใจ “แค่รู้ว่าตาเคนเป็นลูกพี่ณรงค์ ตกใจมากจนจะเป็นลมเลยเหรอคะ”
“ฉันเสียมารยาทกับเค้าไว้มากน่ะค่ะ” เนื้ออ่อนว่า
“เสียมารยาทไว้มาก พูดเหมือนพวกคุณรู้จักไอ้เคนมานาน” ณรงค์งง
เนื้ออ่อนบอกว่า “ซักพักค่ะ เค้าไปซ่อมเคเบิ้ล ซ่อมรั้วให้ที่บ้าน เลยรู้จักกัน”
เพ็ญประหลาดใจมาก “ซ่อมเคเบิ้ล ซ่อมรั้ว”
“ค่ะ ฉันเลยคิดว่าเป็นช่าง พอยัยเอมบอกว่าควงอยู่กับคุณพราว เลยพาลเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชายขาย เอ้อ ผู้ชายอย่างว่า เลยแสดงทีท่าไม่ดีกับคุณเคนหลายครั้ง ขอโทษด้วยนะคะ”
“อย่ารู้สึกผิดไปเลยครับ เด็กพิเรนอย่างมันก็ควรแล้วที่จะโดนสั่งสอนซะบ้าง”
“ผมไม่เข้าใจ ทำไมคุณเคนถึงปล่อยให้พวกผมเข้าใจผิด ทำไมไม่บอกว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร” รอนถาม
“ก็คงจะคิดเล่นอะไรแผลงๆ ตามประสามันละครับ รอมันให้สัมภาษณ์เสร็จผมจะไล่บี้หาเหตุผลจากมันเอง” ณรงค์โมโหกรุ่นๆ
เนื้ออ่อนกะรอน โล่งใจ ณรงค์ และเพ็ญ ครุ่นคิด ไม่เข้าใจว่าเคนทำด้วยเหตุผลอะไร
เคน เอม ชาช่า พราว นาตาลี ยืนที่แบ็คดรอป แจ๊ด กะเจตน์ยืนดูอยู่คนละมุม สองคนไม่รู้จักกัน นักข่าวรุมล้อม ถามเซ็งแซ่ หนึ่งในนั้นคือคำถามนี้
“เป็นลูกนักธุรกิจใหญ่ที่คนรู้จักทั้งประเทศ ทำไมถึงมีคนเข้าใจว่าคุณเป็นผู้ชายขายตัวคะ”
เอม นาตาลีมองเคนอย่างรอคำตอบ เคนมองไปทางเอมยิ้มขำ
“เท่าที่ผมทราบ เพราะคุณเอม...”
เอมมองเคนด้วยสีหน้าตกใจ กลัวว่าเขาจะบอกนักข่าวว่าเธอเป็นตัวต้นเหตุที่ปล่อยข่าวนี้
“ชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็ก เลยมีความฝันอยากเป็นดีไซเนอร์น่ะครับ”
เอมอึ้งไป พราว ชาช่า มองเคนอย่างแปลกใจ นาตาลีมองเคนอย่างชื่นชมที่เขาเบี่ยงประเด็นมาที่เอมอีก
“วันนี้ทุกคนมาร่วมยินดีกับคุณเอม คุยเรื่องแบรนด์เสื้อผ้าคุณเอมดีกว่าครับ”
นักข่าว2 ไม่ยอม “คุยเรื่องคุณก่อน แล้วคุยเรื่องงานคุณเอมทีหลังก็ได้ค่ะ”
“อย่าให้ผมขโมยซีนคุณเอมเลยครับ” เคนบอก
นักข่าว1หันมาถามพราวว่า “ยังยืนยันมั้ยคะว่าที่พูดว่าคบกับคุณเคนมา 3 เดือน คบจริง ไม่ได้หาเหตุผลมาช่วยคุณเคนจากผู้หญิงคนนั้น”
ชาช่าสอดขึ้น “เป็นผู้หญิงพูดเองเออเองมีแต่เสียกับเสีย เรื่องสำคัญแบบนี้ให้ฝ่ายชายตอบแทนคุณพราวดีกว่านะคะ”
เคนบอกกับพราวเสียงนุ่ม “รอตอบพร้อมกันตอนผมจัดแถลงข่าวดีกว่านะครับ”
“เมื่อไหร่คะ” พราวถาม
“เมื่อทุกอย่างพร้อม”
พราวมองเคนยิ้มกว้างดีใจคิดว่าเคนจะแถลงข่าวหมั้นแล้วแต่งภายหลัง ชาช่ามองหมั่นไส้
เคนหันมาทางเอมว่า “เล่าที่มาที่ไปของแบรนด์คุณให้น้องๆ ฟังหน่อยสิครับ”
เอมมองนักข่าวอย่างงงๆ นาตาลีกระซิบบอก “คุณเคนเปิดช่องให้โปรโมทแบรนด์ขนาดนี้แล้ว เล่าเลย”
“ฉันรักผ้าไทยค่ะ อยากให้ผ้าไทยเป็นแฟชั่นที่นิยมไปทั่วโลก” เอมบอก
เคนมองเอมยิ้มชื่น เจตน์มองเคนพลางถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะเดินออกไปทางหนึ่ง
เจตน์เดินมามุมหนึ่ง มองซ้ายมองขวาเห็นว่าปลอดคนก็หยิบมือถือมากด
“ไอ้เคนไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเลย มันคงเข้าใจว่าคนที่เราจ้างมาจำคนผิด แต่เพื่อความปลอดภัยแกเพิ่มเงินไปอีกเท่านึงแล้วให้ไปกบดานต่างจังหวัด รอจนกว่าฉันจะแน่ใจว่าไอ้เคนไม่ติดใจแล้วจริงๆ ค่อยกลับมา”
เจตน์วางสายไป
ด้านกอล์ฟเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว สะพายเป้เดินมาตามทางอย่างรีบร้อน แต่จู่ๆ มิ้นเดินมาดักหน้าไว้ กอล์ฟตกใจ
“คุณพ่อกับคุณน้าของอุตส่าห์มาหาถึงนี่ จะรีบหนีไปไหนละคะคู้ณณณ”
กอล์ฟหน้าเจื่อน “ผมไม่ได้ตั้งใจหลอกพวกคุณนะครับ เหตุการณ์มันพาไป ผมขอโทษครับ”
มิ้นชูสำเนาบัตรปลอมใส่หน้า “ลงทุนทำบัตรปลอมส่งมาให้ นี่น่ะเหรอไม่ได้ตั้งใจ...หลงชื่นชมว่าเป็นคนดี ที่แท้ก็หน้าซื่อใจคด ไม่ต่างจากเพื่อนของคุณ”
“ผมขอโทษครับ”
“ฉันไม่รับคำขอโทษ ฉันเกลียดคนโกหก ฉันไล่คุณออก คุณไม่ใช่เด็กในสังกัดฉันอีกแล้ว”
“ไม่รุนแรงไปเหรอครับ”
“ยังแรงได้กว่านี้อีก เจอกันที่ไหนไม่ต้องทัก ให้เราวนกลับไปจุดเดิมที่เคยอยู่ คือไม่รู้จักกัน”
มิ้นโกรธจัดเดินหุนหันหนีไป
กอล์ฟใจเสีย “คุณมิ้นๆ”
เอมิกาให้สัมภาษณ์อยู่ตรงแบ็คดรอปจนงานเสร็จแล้ว เธอไหว้ขอบคุณสื่อมวลชนที่มาทำข่าว
“ขอบคุณมากนะคะที่มาร่วมงาน”
เคน ชาช่า พราว นาตาลีไหว้นักข่าว เคนแอบกระซิบบอกชาช่า และพราวว่า
“ผมไม่อยากมีประเด็นให้โดนตามอีก แยกย้ายกันตรงนี้เลยนะครับ ไว้ค่อยคุยกัน”
จากนั้นเคนก็เดินออกไป
พราว กะชาช่า มองค้อนกันอย่างหงุดหงิดแล้วต่างคนต่างเดินไปคนละทางกับเคน แจ๊ดรีบถลามาหาชาช่า
“ตีหน้ามึนไม่ยอมตอบเรื่องตัวเอง กะล้อน กะล่อน เอาตัวรอดเก๊งเก่ง”
“นังพราวจะรู้ตัวมั้ยว่า ที่คุณเคนไม่ยอมประกาศความสัมพันธ์ เพราะเค้าไม่ได้รักมัน”
“คุณเคนบ่ายเบี่ยงชัดเจนขนาดนี้ ถ้าสำนึกไม่ได้ว่าเค้าคบเพราะธุรกิจก็ปล่อยให้มันเสวยกรรมไปเถอะค่ะ ส่วนขุ่นน้องก็รอเสวยบุญที่คุณเคนคบเพราะรัก”
ชาช่า กะแจ๊ดหัวเราะคิกคัก
เอม กะนาตาลีเดินมาทางหนึ่ง มิ้นที่รออยู่รีบเข้าไปหา
“ให้สัมดีมาก”
“เพื่อนซ้อมให้หนักมาก จะพลาดได้ไง” เอมยิ้มกริ่ม
“หยุดๆ อย่าเพิ่งเม้าท์กัน ไปคุยเรื่องคุณเคนก่อน ฉันอยากรู้จนอกจะระเบิดแล้วว่าทำไมเค้าต้องโกหกพวกเรา”
อีกมุมหนึ่งของโรงแรม เอมย้อนถามขึ้นอย่างแปลกใจ
“ไม่อยากผิดใจกับฉัน”
ทุกคนนั่งอยู่ด้วยกันครบถ้วน
“อธิบายไปคุณก็คงไม่ฟัง จะพาลทะเลาะกันเปล่าๆ น้าเพ็ญกับคุณนายเป็นเพื่อนกัน ผิดใจกับคุณคงไม่ดี” เคนบอก
“เหตุผลนี้จะฟังขึ้น ถ้าแกไม่ปลอมตัวเป็นช่างไปซ่อมเคเบิ้ล ซ่อมรั้วบ้านเค้า แกทำอย่างนั้นทำไม” ณรงค์ถามเสียงเข้ม
เคนแก้ตัวว่า “เอ้อ ผมอยากรู้ว่าถ้าคนๆ นึง เป็นคนดี ขยันทำมาหากินทำหลายๆ อาชีพ แต่มีข้อเสียอย่างเดียวคือขายตัว สังคมจะรังเกียจมั้ย”
“ทำอาชีพที่ไม่มีใครยอมรับ ใครจะไม่รังเกียจ” รอนว่า
“คุณผู้ชายไงครับ ท่านเมตตาผมมาก” เคนมองรอนสีหน้าซาบซึ้งใจ
“ผมก็แค่คิดว่าคนเราเลือกเกิดไม่ได้ มีโอกาสทางหน้าที่การงานไม่เท่ากัน แต่ถ้าเป็นคนดีผมก็พอคบได้” รอนว่า
“อยากรู้อะไรบ้าๆ ถึงมีผู้หญิงมาฉีกหน้ากลางงาน ดีนะที่ฉันมาพอดี ไม่งั้นความอยากรู้ของแกคงทำให้งานหนูเอมพังพินาศ” ณรงค์ด่า
เคนไหว้เนื้ออ่อนและรอน “ผมขอโทษนะครับที่ทำให้วุ่นวาย” แล้วหันมาทางพวกเอม “ขอโทษไม่บอกความจริงกับพวกคุณ”
“รู้ว่าผิดแล้วยอมรับผิดนี่สิสุภาพบุรุษตัวจริง เรื่องที่แล้วก็ให้แล้วกันไปนะจ๊ะ แล้วเราก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เลิกเรียกคุณนายแล้วเรียกคุณน้าดีกว่าค่ะ”
“ครับคุณน้า”
เพ็ญหันมาทางเอม “หนูเอมยกโทษให้ตาเคนนะจ๊ะ”
เอมหมั่นไส้ไม่หาย แต่ก็เกรงใจเพ็ญ
“ค่ะ”
เคนยิ้มแฉ่ง “ขอบคุณครับ”
เจตน์ลอบมองหมั่นไส้เคน
มิ้น กะนาตาลีมองเคน แล้วมองหน้ากันอย่างไม่เชื่อ
ที่บ้านเอมิกา ฉวีนอนให้ชั้นนวดอย่างสบายอารมณ์ สมบูรณ์นั่งดูข่าวในมือถือแล้วกรีดร้องอย่างตื่นตกใจ
“แอร๊ย....”
ฉวี กะ ชั้นสะดุ้งเฮือก
“นังสมบูรณ์เป็นอะไร”
สมบูรณ์วิ่งเอามือถือมาให้ฉวี และชั้นดูอย่างตื่นเต้น
“พี่เคน พี่เคน”
ชั้นไม่ทันดูก็ด่าก่อน “มันเดินแบบแล้วตกเวทีตายเหรอ”
สมบูรณ์ยื่นมือถือให้สองคนดูข่าว
“เฮ้ย” ชั้นตาเหลือก
ฉวีลุกพรวด “เป็นลูกมหาเศรษฐี”
“เห็นแว้บแรกก็รู้แล้วว่าพี่เคนไม่ใช่บุคคลธรรมดา เห็นความตาถึงของฉันรึยังล่ะแม่”
“ตาถึงแล้วบุญวาสนาถึงมั้ย เค้าจะเอาแกเป็นเมียเหรอ” ฉวีด่า
“ของงี้มันไม่แน่ ชีวิตฉันอาจจะเหมือนซินเดอเรล่า เป็นคนใช้ที่ได้ผัวเป็นเจ้าชาย” สมบูรณ์เพ้อไม่เลิก
“สาธุ ถ้าแกมีบุญถึงขั้นนั้นฉันก็ดีใจ ชีวิตแกจะได้สบาย” ฉวีประชด
“ฉันผูกมิตรกับพี่เคนเอาไว้ยังไงก็สบายอยู่แล้ว” สมบูรณ์มองสมน้ำหน้าชั้น “คนที่ด่าทอต่อว่าต่อยตีพี่เคนจนเลือดท่วมสิกำลังจะลำบาก ถ้าเค้าเอาตำรวจมาจับ...คนจนมีเหรอจะสู้บารมีคนรวยได้”
ชั้นครุ่นคิดสีหน้าเครียด
ที่มุมรับแขกออฟฟิศเคน บนโต๊ะกลางมีจานใส่ขนมปังและนมมะลิชนิดหลอดบีบวางอยู่ แดน ป้อง นั่งกินขนมปังราดนมอย่างเอร็ดอร่อย กอล์ฟนั่งหน้าเครียด เคนเดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดี
“โอ้โห มีความสุข ทำงานพลาดแล้วยังไม่สำนึก” เคนคว้าเอาหลอดนมบีบใส่แดนกะป้อง
แดน กะ ป้อง โดดหนีแหกปากร้องลั่น “เฮ้ยๆ”
“เหนียวหมดแล้ว กูควบคุมการจราจรไม่ได้นี่หว่า ใครจะรู้ว่ารถไม่ติดแล้วคุณลุงจะไปทัน มันเป็นเหตุสุดวิสัย” แดนว่า
“โกรธพวกผมไปก็ไม่มีประโยชน์ ความลับแตกดังโพละ คนรู้กันทั้งประเทศแล้วว่าพี่เป็นลูกคุณลุง คุณเอมหน้าเหวออย่างที่พี่คิดไว้ปะ” ป้องถาม
เคนหยิบขนมปัง หยิบนมมะลิมาบีบใส่กินขนมปังอย่างอารมณ์ดี
“ถูกเฉลยความลับตอนยังไม่พร้อม คนที่เหวอน่ะกู”
แดนถามขึ้นว่า “มึงจะเอาไงต่อ”
“ตอนแรกก็ว่าจะหยุด แต่พอนึกออกว่าเค้าทำท่าหึงที่กูจูบกับคุณช่ากูเลยเปลี่ยนใจ กูว่าเค้ามีใจว่ะ”
“กูนี่ดิ นอกจากไม่มีใจ คุณมิ้นยังหมดใจอีก เค้าโกรธกูมาก บอกว่าอย่าไปยุ่งกับเค้าเด็ดขาด”
เคนตบไหล่กอล์ฟปลอบใจ
“คนกำลังโมโหพูดอะไรก็ได้ ผู้หญิงน่ะชอบให้ง้อ พวกกูจะช่วยมึงเอง”
“ช่วยพี่กอล์ฟอะได้ แต่พี่จะช่วยตัวเองยังไง คุณพราวประกาศลั่นว่าเป็นแฟนพี่ คุณเอมจะยอมคบคนมีเจ้าของเหรอ” ป้องเป็นห่วงท่านเทพ
“ยังไม่ได้แต่งกับใครก็เท่ากับว่าไม่มีใครเป็นเจ้าของกู ปัญหาแค่นี้กูเคลียร์ได้”
เคนยิ้มมั่นหน้ามาก
ค่ำเดียวกันนี้เอมนั่งดูข่าวงานเปิดตัวร้านเสื้อของตัวเองในไอแพดแล้วยิ้มปลื้ม โดยเป็นภาพเคนอุ้มชาช่าประกอบข่าว เอมมองหมั่นไส้
จังหวะนี้เสียงไลน์จากมือถือดัง เอมเปิดดู เห็นว่าเคนส่งข้อความมา
“หายเหนื่อยรึยังครับ”
เอมพิมพ์ตอบไปว่า “เรื่องของฉัน”
“เป็นห่วง”
“ไม่ต้องห่วง อย่ายุ่งกับฉันเลย ฉันไม่อยากมีปัญหากับสาวๆ ของคุณ”
เคนนั่งพิมพ์ข้อความยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“แค่เป็นเพื่อนกันไม่มีปัญหากับใครหรอกครับ”
เอมส่งสติกเกอร์บ๊ายบาย
เคนส่งข้อความ “ฝันดีครับ” มาให้
เอมอ่านข้อความอย่างหมั่นไส้ วางมือถือแล้วหยิบสมุดภาพที่เคนให้มาดู ยิ้มชื่นสุขใจ
วันต่อมา เคนจอดรถรอหน้ารั้วบ้าน ชั้นเปิดประตูให้มองเคนอย่างหวั่นกลัว เคนขับรถเข้ามากดกระจกพูดกับชั้น กะอำเล่นพอขำๆ
“วันนี้ใจดีจัง ยอมเปิดประตูให้ด้วย”
ชั้นคุกเข่าไหว้เคนปลกๆ ถลามาเกาะประตูรถ “ผมขอโทษ ผมนึกว่าคุณเป็น 18 มงกุฎเลยเกลียดคุณ อย่าเอาเรื่องผมเลยนะครับ”
“แต่คุณทำร้ายร่างกายผม”
“ต่อยผมคืนเลยครับ จัดหนักๆ หลายๆ ทีจนกว่าคุณจะพอใจ ขออย่างเดียวอย่าเอาเรื่องผม ถ้าถึงโรงถึงศาลผมคงต้องติดคุกเพราะไม่มีเงินสู้คดี”
“ไม่อยากติดคุกก็ต้องเชื่อฟังผม” เคนว่า
“เชื่อทุกอย่างเลยครับ”
“งั้นไปตามน้าฉวีกับสมบูรณ์ให้หน่อย”
“ไปเดี๋ยวนี้เลยครับ”
ชั้นวิ่งจู๊ดหายไปทางหลังเรือนอย่างรวดเร็ว เคนมองตามยิ้มขำๆ ไม่ถือสา
เคนถือข้าวของเข้าโถงบ้านมาหลายกล่อง เนื้ออ่อนเห็นรีบเข้ามาต้อนรับ
“เชิญค่ะ เชิญ”
“เมื่อวานขอโทษปากเปล่าเลยไม่ค่อยสบายใจ วันนี้เลยอยากเอาของมากราบขอโทษคุณน้าอย่างเป็นทางการน่ะครับ”
“โถ พ่อคุณ คิดมากไปได้ พวกเราเข้าใจคุณหมดแล้วค่ะ”
เคนยื่นกล่องหรูใบหนึ่งให้เนื้ออ่อน
“ของคุณน้าครับ”
เนื้ออ่อนรับมายิ้มแต้ “ขอบใจจ้ะ”
เคนยื่นกล่องกำมะหยี่เล็กๆ ให้รอน “ของคุณน้า”
“ขอบใจ”
เคนยื่นกล่องต่างหูให้เอมิกา “ของคุณ”
เอมยังหมั่นไส้ไม่หาย “ขอบคุณ”
ชั้น สมบูรณ์ และฉวีพากันเข้ามา
“มาแล้วครับ”
“ไอ้ชั้นบอกว่าคุณให้ไปตาม มีอะไรให้ฉันกับนังสมบูรณ์รับใช้เหรอคะ” ฉวีถาม
“อยากให้รับใช้ด้วยการช่วยกัน” เคนว่าพร้อมกับยื่นกล่องผลไม้ราคาแพงกล่องใหญ่เบิ้มให้สามคน “กินนี่ให้หมด”
สมบูรณ์ตื่นเต้นดีใจ “พี่ เอ้ย คุณซื้อมาฝากพวกเราเหรอคะ”
“แทนคำขอโทษที่โกหกสมบูรณ์น่ะจ้ะ”
สมบูรณ์รับกล่องมา “ขอบคุณค่ะ หล่อ รวย แล้วยังจิตใจดีเฟร่อร์”
ทุกคนมองเคนด้วยสายตาเปลี่ยนเป็นชื่นชม
“วันนี้ผมว่างขออนุญาตพาคุณเอมออกไปข้างนอกได้มั้ยครับ” เคนโพล่งขึ้น
ทุกคนมองเคนอึ้งๆ รู้ว่าเขาจีบเอม
เนื้ออ่อนเยื้อนยิ้มดีใจ “ได้สิจ๊ะ”
เอมิกาปฏิเสธทันที “ไม่ได้ค่ะ คุณหมอนัดตรวจคุณแม่ฉันต้องพาคุณแม่ไปหาหมอ”
เนื้ออ่อนอ้างว่า “ให้พ่อพาไปก็ได้”
“เอมอยากไปฟังผลตรวจเองค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ คุณเอมไม่ว่าง ผมไปกับคุณน้าผู้ชายก็ได้” เคนอาสา
“ไปกับน้า” รอนงงๆ
“ผมมาที่นี่ทีไรเห็นคุณน้าอ่านหนังสือพระทุกที เพื่อนผมเป็นเซียนพระเปิดร้านอยู่แถวนี้ ผมเลยอยากพาคุณน้าไปดูแก้เหงาน่ะครับ”
“ดูพระ” รอนดีใจหันไปทางกับเนื้ออ่อน “ผมขอ...”
เนื้ออ่อนตอบทันที “กับคุณเคน ไม่ต้องขอฉันก็อนุญาต”
รอนยิ้มกว้าง ดีใจมาก เคนยิ้มหวานให้เอม เจอเอมมองค้อนหมั่นไส้มาให้
เวลาผ่านไป เอมขับรถมาตามทาง เนื้ออ่อนนั่งข้างๆ ด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“จู่ๆ ก็มาชวนไปเที่ยว แม่ว่าคุณเคนเค้าจีบลูกนะ”
“คบทั้งคุณพราว คุณชาช่า เจ้าชู้ตัวพ่ออย่างนี้บ้านไหนมีผู้หญิงก็คงจีบไปทุกบ้านแหละค่ะ”
“มีพร้อมทุกอย่าง เค้าก็คงอยากได้ผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดมาแต่งด้วย เลยศึกษาดูใจหลายคน”
“เอมไม่อยากเป็นตัวเลือกของใคร”
“อย่าคิดอย่างนั้นสิจ๊ะ คิดซะว่าสวยหล่อมาเจอกันต่างคนก็ต่างมีสิทธิ์เลือก”
“เอมเลือกแล้วค่ะ เลือกที่จะไม่ยุ่งกับเค้า เอมเกลียดคนเจ้าชู้”
เนื้ออ่อนมองเอมยิ้มมีแผน
ทางฝ่ายเคนขับรถมาตามทาง โดยมีรอนนั่งมาข้างๆ
“ไม่ยักรู้ว่าคุณสนใจเรื่องเดียวกับน้า”
“สนใจแต่ไม่เคยศึกษาจริงจังครับ ถ้าคุณน้าไม่ว่า ผมขอฝากตัวเป็นศิษย์สอนผมดูพระหน่อยได้มั้ยครับ”
“ได้ซี้ อยู่แต่บ้านอ่านแต่หนังสือมันเหงา มีเพื่อนคุยเรื่องเดียวกันชีวิตจะได้มีสีสันมันขึ้นบ้าง”
“วันนี้ชีวิตคุณน้ามีสีสันแน่ ฉูดฉาดระรานตาเลยละครับ”
“ที่ร้านพระเยอะจนระรานตาไปหมดเลยหรอ”
“ไปดูกับตาตัวเองดีกว่าครับ”
เคนเลี้ยวเข้าอาบอบนวด รอนตกใจ
“เฮ้ย เพื่อนคุณเปิดร้านเช่าพระในนี้เลยเหรอ”
เคนยิ้มๆ ไม่ยอมตอบเลี้ยวรถเข้าไป เอมขับรถมาทันเห็นพอดี เนื้ออ่อนตกใจ
“นั่นรถคุณเคนนี่”
“ไหนว่าจะพาคุณพ่อไปดูพระ”
“เดี๋ยวก็รู้ว่าคุณเคนคุณรอนมาดูอะไร...ตามเข้าไป”
เนื้ออ่อนมองตามรถเคนไป อย่างงงๆ ปนไม่พอใจ
อ่านต่อ ตอนที่ 11
#พ่อปลาไหล #thaich8 #โชคดีมีสุข #ฟิล์มยีน #ยีนฟิล์ม #ทีมพ่อปลาไหล #ทีมเอม #lakornonlinefan #ละครออนไลน์ #ลมหายใจคือละคร