xs
xsm
sm
md
lg

ล่องเรือหารักกับ “คังมินฮยอก” สนุก ฟิน จัดเต็มสองชั่วโมง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ล่องเรือหารักกับ “คังมินฮยอก”
สนุก ฟิน จัดเต็มสองชั่วโมง

ห่างหายจากงานแฟนมีตติ้งเดี่ยวไป 2 ปี กลับมาอีกทีหนุ่มน้อยหน้าใส คังมินฮยอก มือกลองแห่งวง CNBLUE ก็โตไวกลายเป็นหนุ่มหล่อละมุนที่แสนจะอบอุ่นแต่ยังคงมีรอยยิ้มน่ารักแถมซุกความทะเล้นไว้เพียบงานนี้ผู้จัดคนเดิม “อะชิ แอคทิเวชั่น” (A CHI ACTIVATION) จึงการันตีว่างานแฟนมีตติ้ง 2018 คังมินฮยอก 'โรแมนติก เซลลิง' แฟน มีตติ้ง อิน แบงคอก (2018 KANG MIN HYUK 'ROMANTIC SAILING' FAN MEETING IN BANGKOK) เหล่าบอยซ์ (Boiceชื่อแฟนคลับของ CNBLUE) จะได้สัมผัสเดอะโมเม้นท์ที่ต่างไปจากแฟนมีตติ้งในครั้งแรกแน่นอน และตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561 บ๊อยซ์ไทยก็ทยอยกันมาเพื่อจะไปล่องเรือพร้อมยื่นใบนัดตรวจสุขภาพหัวใจกันจนใกล้เวลาแสดงก็มากันย่างเนืองแน่น ณ เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์บางกะปิ

แล้วเวลาแห่งความสุขก็เริ่มขึ้นเปิดงานด้วยภาพ VCR ของหนุ่มหล่อคังมินฮยอก จากนั้นเสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นเมื่อหนุ่มมินฮยอกปรากฎตัวกับเปียโน และเมื่ออินโทนเพลงดังขึ้นเสียงกรี๊ดก็ยิ่งดังกว่าเดิม เพราะเป็นเพลง “รักเธอ” ของ โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เพลงรักหวานความหมายดีที่มินฮยอกร้องเป็นภาษาไทยได้ชัดเจนมาก แถมในช่วงคำว่า “รักเธอ” หนุ่มมินฮยอก ก็ยังมีลูกเล่นเว้นคำนี้ให้แฟนคลับร้องส่วนมินฮยอกหันมาส่งสายตาให้แทน จากนั้น มินฮยอกก็ร้องเพลงประกอบละคร I See You ต่อ ตลอดเพลงส่งรอยยิ้มหวานๆ กับท่ามินิฮาร์ท ทำเอาแฟนๆ เคลิ้มไปตามๆ กัน

พอเพลงจบ พิธีกรคนเก่ง มิกซ์-เจริญ แซ่จู พร้อมทั้งล่ามอารมณ์ดี ยูคอนยอง ก็ออกมาชวนมินฮยอกพูดคุยกันสักหน่อย “ตอนแรกคิดว่าเคยมีงานแฟนมีตติ้งแล้วก็ไม่น่าจะตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่พอได้เจอทุกคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า ผมรู้สึกตื่นเต้นมากเลยครับ” หนุ่มหล่อเผยความรู้สึก และยังบอกอีกว่า “ถึงแม้จะผ่านมา 2 ปีแล้ว แต่ยังรู้สึกเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานอยู่เลย ทั้งนี้ ก็เพราะความรักที่ทุกคนมอบให้ผมตลอดมา จำได้ว่าตอนนั้นที่เล่นเปียโนตื่นเต้นมาก ครั้งนี้เลยเตรียมตัวมาเต็มที่ ตอนซ้อมนี่หลับตาเล่นได้เลย แต่พอมาวันนี้ขนาดลืมตายังเล่นไม่ค่อยถูกเลย ถ้าเราคุยกันสนุกจนผมหายตื่นเต้นแล้ว จะขอแก้ตัวอีกครั้ง คราวนี้จะเล่นให้ดีกว่านี้อีกครับ” พิธีกรแซวว่า เมื่อเช้าเห็นลงอินสตาแกรมให้แฟนๆ ช่วยเลือกเสื้อ 2 ตัว ระหว่างสีเขียวกับสีฟ้า แต่ทำไมเสื้อที่ใส่วันนี้กลับผิดไปจากโพลที่แฟนๆ โหวตกันล่ะ? มินฮยอก อธิบายว่า “สงสัยผมคงดูตอนที่สีเขียวเยอะกว่ามั้งครับ งั้นเดี๋ยวคนที่เลือกสีเขียวจะได้ขึ้นมาเล่นเกมกับผมนะครับ” พูดแซวแฟนคลับอย่างขี้เล่น

มาถามเรื่องเพลงที่ร้องไปเมื่อกี้กันบ้าง สำหรับเพลงไทย “รักเธอ” ของโต๋-ศักดิ์สิทธิ์ ที่มินฮยอกยกให้เป็นเพลงรักประจำชาติของไทย “ตอนแรกอยากมีอะไรมาฝากแฟนๆ ชาวไทย ผมก็ไปถามทีมงานว่ามีเพลงไทยความหมายดีๆ บ้างมั้ย พอได้ฟังเพลงนี้ อื้อหืม ใช่เลย ผมจึงเลือกเพลงนี้และเตรียมมาอย่างดี ส่วนเพลง I See You เป็นเพลงประกอบซีรีส์ ซึ่งผมก็มีอยู่แค่ 2 เพลงเท่านั้นแหละ ก็เลยเลือกเพลงนี้ครับ” อธิบายเสร็จก็ย้ำเป็นภาษาไทยอีกว่า “สวัสดีครับ ผมมินฮยอก ตีกลองครับ” ช็อตนี้เรียกเสียงหัวเราะดังลั่นในความขี้เล่นของหนุ่มคนนี้

เข้าสู่ช่วง Dramatic Memories ตามไปดูผลงานซีรีส์ที่ตรงกับธีมงานในวันนี้ Romantic Sailing ทันใดนั้นฉากเด็ดสุดฟินของซีรีส์ดัง Hospital Ship ก็ปรากฏขึ้นบนจอ ทว่าฉากที่เรียกเสียงกรี๊ดกระจายกลับไม่ใช่ฉากจุ๊บกันของพระนาง แต่เป็นฉาก “อาบน้ำ” ที่เจ้าตัวถึงกับหันมาชี้ให้แฟนคลับดูอย่างพราวลี่พรีเซ้นต์มาก! เมื่อโดนถามว่ามินฮยอกตัวจริงกับคุณหมอกวักฮยอนเหมือนกันมั้ย? หนุ่มมินฮยอกตอบว่า “ในบทบางครั้งก็เป็นตัวตนของผม บางครั้งก็ไม่ใช่ตัวผม แต่ว่าฉากอาบน้ำเนี่ย เป็นผมแน่นอนครับ” แล้วก่อนถ่ายฉากนี้ได้ออกกำลังกายเยอะมั้ย? มินฮยอกสวนทันควัน “ผมยุ่งมากจนไม่ได้ออกกำลังกายเลย ฉากนั้นถ่ายตอนประมาณตี 5 เรื่องออกกำลังกายนี่ไม่ต้องคิดเลย ถ่ายเสร็จก็หลับแล้วครับ” (จะบอกว่าตัวเองหุ่นดีอยู่แล้วล่ะสิ555)

แล้วก็มาถึงเข้าช่วงของเกม โดยเกมแรกจะเป็นการหาผู้โชคดี 3 คนมารับบทนางเอกในซีรีส์ดัง Hospital Ship ก่อนจะเริ่มเล่นกัน มินฮยอกบอกว่า “ผมจะตั้งใจนะครับ จะพยายามนึกถึงตอนที่ถ่ายเรื่องนี้ให้ได้ จะรื้อฟื้นมันขึ้นมา แต่ผมหวังว่าจะไม่มีฉากนั้น...นะครับ” สำหรับผู้โชคดีคนแรก ได้ฟินกับคุณหมอในฉากภาษามือ ที่มีทั้งจ้องตาและสอนภาษาเกาหลี กับคำถาม “คุณชอบฤดูไหน?”พอผู้โชคดีตอบว่า “ชอบฤดูหนาว” มินฮยอกก็จะส่งภาษามือที่แปลได้ว่า “ผมรักคุณ” ให้ แค่คนแรกก็เรียกเสียงกรี๊ดลั่นฮอลล์ไปซะแล้ว พอมาผู้โชคดีคนที่สอง กับฉากง้องอนด้วยการถ่ายรูปจากด้านหลัง งานนี้ผู้โชคดีเดินไวมากจนคุณหมอขายาวยังแทบจะก้าวตามไม่ทัน ไม่ว่าจะเทคกี่ครั้งทั้งนักแสดงทั้งคนดูก็ฮาสนั่นได้ทุกที แต่มันคุ้มตรงที่เทคยับจนได้รับ แบ็คฮัก จากมินฮยอกไปไม่รู้กี่รอบนี่แหละ มาถึงผู้โชคดีคนที่สาม มาในซีนที่สาวๆ พร้อมใจกันกรี๊ดมากกว่าเดิมแถมอาการตาร้อนผ่าวด้วย เพราะมันคือ “ฉากฟังเสียงหัวใจ” ว่าแล้วเสื้อกาวน์กับหูฟังแพทย์ก็มาในทันใด มินฮยอก สวมวิญญาณคุณหมอทันที แต่ก่อนจะเริ่มคุณหมอมินก็กลับออกอาการเขินวัดการเต้นของหัวใจตัวเองก่อน แล้วค่อยยื่นมือมาวัดหัวใจสาวผู้โชคดีที่นั่งอยู่ตรงหน้า ซึ่งฉากนี้นางเอกต้องมีสีหน้านิ่งแต่มาเจอคุณหมอหล่อแบบนี้คนไข้ก็ออกอาการเขินไปตามระเบียบ แม้จะมีการเทคก็ยังอาการเหมือนเดิม ยิ่งพอคุณหมอเอ่ยปากว่า “เรามารักกันมั้ย?” สาวผู้โชคดีก็ยิ่งเขินจัด คุณหมอมินก็เลยโผล่เข้ากอด...ทำเอาสาวๆ กรี๊ดสนั่นอยากจะเป็นคนไข้กันทั้งฮออล์

ต่อมาเป็นเกมทายใจผ่านโทรจิต เกมนี้ มินฮยอก เริ่มเผยภาษาไทยที่เรียนมาอีกคำ นั่นคือ “อะไรนะ?” และจะใช้คำนี้ทุกครั้งที่แหย่พิธีกร ซึ่งเมื่อมาถึงเมืองไทยมินฮยอก ได้ไปเที่ยวเอเชียทีคมา ก็มีการถ่าย VTR เพื่อมาเป็นเกมทายใจว่าแฟนคลับรู้ใจ มินฮยอก มากขนาดไหน ซึ่งเกมนี้แฟนๆ ทั้งฮออล์จะได้ร่วมเล่นเกมใช้ชูป้าย O หรือ X ใครตอบถูกได้ไปต่อ ส่วนใครผิดให้นั่งลง โดยคำถามแรกถามว่า“มาถึงเมืองไทยวันแรกคิดว่าจะทำอะไรก่อนระหว่าง ชมวิว กับ เข้าห้องน้ำ?” แล้วคำตอบที่ถูกก็คือ “เข้าห้องน้ำ” ก็ทำเอาฮากันไป จากนั้นก็มีอีกหลายคำถามทั้งไปซื้อของและอาหารที่ชอบแต่แฟนคลับก็ยังทายถูกเหลือเกินจำนวนจนมีเกมมาเสริมอีกหลายเกม แต่ที่ฮาจนแทบตกเก้าอี้ก็เป็นเกมให้มินฮยอกเดาะลูกขนไก่แบบเกาหลีว่าจะได้ถึง 10 ครั้งหรือไม่? งานนี้แฟนคลับยืนกรานหนักแน่นว่าไม่ถึงชัวร์ ขนาด มินฮยอก โน้มน้าวว่าถ้าแพ้หมดคือจบเกมเลยนะ “ไม่เชื่อโอป้าเหรอ?” ก็ไม่มีใครเปลี่ยนใจ สุดท้าย มินฮยอก ทำได้เกิน 10 ครั้งจริงๆ แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่าตัวเองแพ้เพราะตอนเดาะครั้งแรกทำได้ไม่ถึง...น่ารักเหลือเกินพ่อคุณ

สุดท้ายเหลือผู้ชนะ 4 คนก็ถูกเชิญขึ้นมาบนเวที ซึ่งก่อนจะคัดเหลือผู้โชคดีหนึ่งคน มินฮยอกก็ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการเต้นเพลงสุดฮิต “คุกกี้เสี่ยงทาย” ของ BNK48 ไปพร้อมๆ กับผู้โชคดี “ผมได้ยินมาว่าเพลงนี้กำลังฮิตที่เมืองไทย สนุกดีครับ ถึงผมจะเต้นไม่เก่งแต่ก็เต้นง่ายมาก” เลยเรียกเสียงกรี๊ดกันอีก จากนั้นก็มาคัดสาวผู้โชคดีให้เหลือเพียงคนเดียว มินฮยอก ก็ได้โชว์ทักษะภาษาไทยอีกคำ นั่นคือ “ไม่เป็นไร” ไม่ว่าแฟนคลับจะทำท่าตีเบสบอลผิด หรือไม่รู้จักท่าไอรอนแมน หนุ่มหล่อก็จะปลอบใจว่า “ไม่เป็นไร” เสมอ แล้วผู้ชนะในเกมนี้ก็ได้รับซองใส่พาสปอร์ต เทียนหอม ที่หนุ่มมินฮยอกเลือกซื้อเองพร้อมลายเซ็นเป็นของรางวัลไป

มาถึงช่วง Star Watching ให้ มินฮยอก เลือกคำถามที่แฟนๆ เขียนติดไว้บนบอร์ด 2 คำถาม ซึ่งก็มีเขียนทั้งภาษาไทย อังกฤษ และเกาหลี แล้วคำถามแรกที่พ่อหนุ่มเลือกคือ “คิดว่าตัวเองน่ารักมั้ย?” พอได้ยินคำถามทำเอามินฮยอก ออกอาการเขินตอบไม่ถูก พิธีกรเลยช่วยเสริม เวลาตื่นเช้ามาส่องกระจกคิดว่าตัวเองน่ารักรึเปล่า? คราวนี้ มินฮยอก ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า “ตอนเช้าเนี่ย... เท่ครับ!” ทำเอาฮากันครืน ส่วนอีกคำถามที่เลือกก็คือ “แตงโมปั่นอร่อยมั้ย?” ก็ได้รับคำตอบว่า“ถ้ามาเมืองไทยจะขาดแตงโมปั่นไม่ได้เลย ผมชอบแตงโม คิดว่าแตงโมไทยอร่อยเป็นพิเศษ มันหวานแล้วก็เย็นชื่นใจครับ”

หลังจากนั้นก็มาถึงช่วง Present for You กับการมอบของขวัญที่เป็นของใช้ส่วนตัวของ มินฮยอก ด้วยการสุ่มเบอร์โทรศัพท์ ใครได้รับโทรศัพท์จาก มินฮยอก คนนั้นจะได้รับ รองเท้าผ้าใบที่เจ้าตัวใส่เล่นกีฬา และเสื้อยืดแขนกุดที่เจ้าตัวใส่ตอนฟิตหุ่น (มินฮยอกบอกซักแล้วนะครับ) นอกจากนี้อีกชิ้นที่เรียกเสียงฮือฮาเป็นกล้องถ่ายรูป ที่เจ้าตัวใช้ถ่ายรูปเป็นประจำ ซึ่งงานนี้ มินฮยอก บอกว่าขอถอดเมมโมรี่นะและในช่วงนี้หนุ่มหล่อคนนี้ก็ได้โชว์ภาษาไทยอีกหลายคำคือ “ชื่ออะไรครับ, มาเร็วๆ ครับ, ยินดีด้วยครับ” แต่ที่เรียกเสียงฮาจนน้ำตาเล็ดไปตามกันก็ตรงความพยายามที่จะเรียกชื่อแฟนคลับที่ฟังผ่านโทรศัพท์จนพิธีกรถึงกับแซวว่าไม่ถูกหรอกแล้วก็เป็นแบบนั้นจริงๆ แต่สุดท้าย มินฮยอก ก็เอาชนะเรียกชื่อถูกเป๊ะในคนสุดท้าย...เก่งจริงๆ เนอะ และดูจะยังแจกไม่หนำใจ มินฮยอกเลยขอแจกของที่ไปช้อปปิ้งมาอีก 4 รางวัลให้กับผู้โชคดีซึ่งแต่ละคนที่ขึ้นมารับรางวัลเหมือนได้รับรางวัล 2 ชิ้นเพราะหนุ่มหล่อแถมกอดให้กับทุกคนดับเบิ้ลฟินกันไปจ้า

และก็มาถึงเวลาที่แฟนคลับมอบของขวัญให้ มินฮยอก บ้าง เริ่มจากเปิด Sweet OPV : รักแค่ไหน...ก็บอกเค้าไปเจ้าตัวตั้งใจดูและฮัมเพลงตามจนจบ ก่อนจะหันมาเจอกับป้ายโปรเจกต์ที่เขียนเป็นภาษาเกาหลี แปลได้ว่า “จับมือแล้วเดินไปด้วยกันจนสุดทางนะ” วินาทีนั้นต่างก็ประทับใจกันทั้ง มินฮยอกและบ๊อยซ์ไทย พิธีกรจึงถามว่า “รู้สึกยังไงกับของขวัญที่แฟนๆ มอบให้บ้าง?” มินฮยอกได้เผยความในใจค่อนข้างยาวแถมแอบมีน้ำตาคลอในบางคำพูด“สองปีที่ผ่านมาเราผ่านอะไรมาเยอะมาก การที่ผมได้มายืนอยู่ตรงนี้ก็เพราะความรักของแฟนๆ ความรักและกำลังใจที่ให้ผมมานั้นมีความหมายมากๆ ตอนแรกผมตั้งใจมาที่นี่เพื่อมอบพลังบวกให้กับทุกคน แต่กลับกลายเป็นผมที่ได้รับพลังนั้นมาเสียเอง ผมอาจจะพูดยาวไปนิด แต่สัญญาว่าเดี๋ยวเราจะได้พบกันอีกเร็วๆ นี้แน่นอนครับ ตอนเตรียมเพลงไทย มีท่อนหนึ่งอยากบอกให้ทุกคนได้ฟัง ภาษาไทยผมอาจไม่แข็งแรงนัก แต่อยากบอกว่า ‘และจะเป็นอย่างนี้กับเธอ ไม่ว่านานสักเท่าไหร่’”ทำเอาซึ้งไปตามๆ กัน

และแล้วเรือก็ล่องมาใกล้จะเทียบฝั่งเสียงเพลงสุดท้าย Star ดังขึ้น มันคือเพลงแรกที่ทำให้ทุกคนได้รู้จัก คังมินฮยอก มากขึ้นในฐานะนักแสดง จากนั้นแสงไฟจากโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องในฮอลล์ก็พร้อมใจเป็นแสงดาวที่จะพร่างพราวให้กับหนุ่มหล่อละมุนคนนี้ และเหมือนเป็นการสัญญาว่า ...ไม่ว่าจะนานสักเท่าไหร่เขาก็จะอยู่ในใจของบ๊อยซ์ไทยตลอดไป นับเป็นการปิดฉากการล่องเรือรำใหญ่ที่สุดแสนโรแมนติกซึ่งต่างเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นแฟนมีตติ้งที่มีครบทุกอรรถรสทั้งความอบอุ่น ความสนุก และเสียงฮา แถมฟินแล้วฟินอีกตลอดสองชั่วโมงเต็ม สุดคุ้มกับการรอคอย...
















กำลังโหลดความคิดเห็น