xs
xsm
sm
md
lg

พ่อปลาไหล ตอนที่ 8

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พ่อปลาไหล ตอนที่ 8

บทประพันธ์ : กนกเรขา บทโทรทัศน์ : ปัทมา และ จอมใจ

ทันทีที่เจอหน้า ชาช่า กะ แจ๊ด โผเข้ากอดกันอย่างดีใจ สองคนอยู่ที่คอนโดชาช่า

“ได้คืนทุกงาน เงินมหาศาลกลับมาแล้ว เราไม่อดตายแล้ว”
“เรารอดเพราะคุณเคน คืนนี้ช่าจะขอบคุณคุณเคนให้ถึงเช้า”
“ถึงเช้าถึงไหนก็อย่าลืมเร็คคอร์ดไว้ด้วย”
“ได้งานคืนแล้ว ไม่ต้องถ่ายไว้แล้วล่ะค่ะ ยกเลิกแผนปล่อยคลิป”
“ไม่ได้นะคะขุ่นน้อง ไม่รู้ว่านังพราวจะเล่นเรากลับยังไงที่ไหนเมื่อไหร่ วันนี้งานแน่นแต่พรุ่งนี้เราอาจจะโดนเทหมดทุกงานอีกก็ได้ ถ่ายไว้มีเหตุฉุกเฉินขึ้นมาจะได้เก็บไว้ใช้เป็นไม้ตายสุดท้าย”
ชาช่าคิดตาม “กันไว้ดีกว่าแกก็ดีเหมือนกัน...ว่าแต่ขุ่นพี่เริ่มแผนโต้กลับนังพราวรึยังคะ”
แจ๊ดกระดี๊กระด๊า “งานนี้นังพราวมีกรี๊ดสุดเสียง”

พราวอุทานอย่างตกใจ เมื่อรู้จากทิพย์
“อีเว้นท์ยกเลิกการเช่าพื้นที่ 30 งาน”
“ตอนนี้แค่ 30 ค่ะ แต่ที่จ้างชาช่าประมาณ 50 งาน คาดว่าเดี๋ยวคงโทร.มายกเลิกทั้งหมดเพราะชาช่าอ้างว่าห้างในเครือของเราเพิ่งถูกปาระเบิดไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยเลยขอให้ทุกบริษัทที่จ้างย้ายไปจัดงานที่ห้างอื่น”
พราวกรี๊ดลั่นห้อง โกรธถึงขีดสุด ทิพย์อุดหูมองพราวอย่างหวาดกลัว
พราวปาข้าวของใส่เลขาระบายอารมณ์ “แกทำให้เงินหลุดจากมือฉันเป็นสิบล้าน แกทำให้ฉันเครียดกับการไปตอบคำถามบอร์ดบริหาร ไม่แกก็ฉันต้องหายนะกันไปข้างนึง มันได้งานคืนเพราะคนอยากรู้ว่าเจ้าชายของมันเป็นใคร ถ้าทุกคนได้รู้ทุกอย่างก็จบรวมถึงชีวิตมันด้วย”
“คุณจะทำให้ทุกคนรู้ว่าเจ้าชายของมันคือคุณเคนเหรอคะ”
พราวยิ้มร้ายแทนคำตอบ

ทุกคนนั่งอยู่ในห้องประชุม กระเป๋าไอแพดเอมวางบนโต๊ะ เคน แดน ป้อง มองเอมอย่างร้อนใจ
“นี่หนูเอม ลูกคุณนายเนื้ออ่อนเพื่อนน้า ส่วนคนนี้ตา...”
เพ็ญยังพูดไม่ทันจบ ป้องก็ชักกระแด่วๆ ทุกคนมองตะลึงตกใจมาก
แดนร้องขึ้น “ไอ้ป้องอาการกำเริบอีกแล้ว”
“รีบพามันส่งโรงบาล” เคนบอกแดน
สองหนุ่มวิ่งเข้าไปประคองป้อง
“ฉันจะหาอะไรให้เค้ากัดจะได้ไม่กัดลิ้นตัวเอง”
เอมรื้อกระเป๋าหาของ ณรงค์ กะเพ็ญ มองหน้ากันอย่างรู้ทัน
เพ็ญเดินไปเปิดประตูห้องยื่นหน้าออกไปสั่ง “เข้ามา”
บุรุษพยาบาลพร้อมกระเป๋าพยาบาล เปลหามวิ่งเข้ามาอย่างร้อนใจ
เคน กะ แดน ตกใจ
ณรงค์บอกนิ่มๆว่า “เห็นวันนั้นอาการกำเริบแล้วเป็นห่วง วันนี้มาประชุมเลยเตรียมหมอกับรถพยาบาลไว้เผื่อฉุกเฉิน”
“แต่ก็ต้องมีคนนั่งไปกับรถพยาบาล”
“รบกวนแดนหน่อยนะ” เพ็ญตอกฝาโลง
แดนมองเคนอึ้งๆ เชิงหารือ
“ครับๆ”
แดนรีบออกไป ณรงค์เอ่ยขึ้นว่า
“อยู่ในมือหมอตาป้องคงไม่เป็นอะไรแล้ว พวกเราประชุมกันเถอะ”

เคนนั่งอยู่มองเอมอย่างร้อนใจ
“เมื่อกี๊ยังแนะนำไม่จบเลย คนนี้ตา...”
เคนหลับตากุมขมับอย่างทำใจ เพ็ญยังพูดไม่จบ เสียงเคาะประตูดังขึ้น เพ็ญชะงักถอนหายใจเซ็งๆ
ณรงค์ร้องบอก “เข้ามา”
เลขาเปิดประตูเข้ามาอย่างร้อนใจ “ขอประทานโทษค่ะ รถสี...ทะเบียน...ใช่รถคุณเอมิการึเปล่าคะ”
“ใช่ค่ะ มีอะไรเหรอคะ”
“สัญญาณกันขโมยดังค่ะ”
เอมตกใจมาก “รถฉันโดนงัดเหรอคะ”
“ไม่ใช่ค่ะไม่ใช่ เมื่อกี๊ให้ รปภ.ดูแล้ว ไม่มีใครงัดรถคุณค่ะ คิดว่าระบบกันขโมยอาจจะรวนสัญญาณเลยดังขึ้นมา เกรงว่ารอให้ประชุมเสร็จแบตรถอาจจะหมดเลยรีบมาบอกน่ะค่ะ”
ณรงค์เอ่ยขึ้น “หนู ไปดูรถก่อนเถอะ”
“ค่ะ”
เอมคว้ากระเป๋าออกไปอย่างร้อนใจ ไอแพดยังวางอยู่บนโต๊ะ
มือถือเคนสั่น เขารีบเปิดดูเห็นเป็นแดนส่งไลน์มาบอกว่า
“ตามคุณเอมไป”
“ผมไปดูคุณเอมนะครับ เผื่อมีอะไรให้ช่วย” เคนรีบตามออกไป
เคนออกไป เพ็ญบ่นอย่างหนักใจ
“ทำไมรู้จักกันยากนักหรือเค้าจะไม่ใช่คู่กันคะ”
“ถ้ามองอีกมุมก็อาจจะเป็นคู่แท้ หนูเอมอาจจะเป็นรักสุดท้ายของไอ้เคนก็ได้ แค่จะทำความรู้จักกันอุปสรรคถึงได้มากขนาดนี้” ณรงค์ว่า
เพ็ญยิ้มได้สบายใจขึ้น

เอมวิ่งมาที่ลานจอดรถอย่างร้อนใจ มี เคน กับ เลขาวิ่งตามมา
เอมกดรีโมทสัญญากันขโมยหยุดดัง แล้วเปิดประตูเข้าไปสำรวจในรถ อย่างแปลกใจ
“ในรถก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จู่ๆ ดังได้ยังไง”
แดน และ ป้อง แอบดูอยู่มุมหนึ่งยิ้มขำ
“ผมสองคนช่วยกันขย่มจนรถแทบยางแตกสัญญาณจะไม่ดังได้ยังไงละค้าบ”
เคนวิ่งมาหาเอม เลขาดูแลอยู่ห่างๆ
“ระบบไฟอาจจะรวนเอาไปให้ช่างดูดีกว่าครับ”
“ประชุมเสร็จก่อนแล้วค่อยไป”
เอมปิดประตูรถแล้วกดรีโมทล็อกจะเดินไปที่ตึก มีเสียงมือถือเรียกเข้าดังขึ้น เป็นเบอร์ที่ไม่รู้จักโทร.มา
“ฮัลโหล อะไรนะ”
เป็นแดนที่โทร.มา บอกว่า
“คุณพ่อคุณล้มหัวฟาดพื้นอาการสาหัสตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลครับ”
“ค่ะๆ ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
เอมวางสายอย่างร้อนใจ
“เกิดอะไรขึ้นครับ”
“พ่อฉันล้มเข้าโรงพยาบาลต้องรีบไปดู”
เคนคิดตาม แล้วรู้ว่าเป็นแผนของแดน จึงหันมาบอกกับเลขาว่า
“ไปบอกน้าเพ็ญกับท่านประธาน ขอให้พวกท่านยกเลิกการประชุมไปก่อน”
“ค่ะฎ”
เอมรีบเปิดประตูจะขึ้นรถ เคนแย่งกุญแจ
“คุณกำลังใจคอไม่ดีขับเองอาจจะไม่ปลอดภัย ผมขับให้” เอมจะเถียง เคนรีบแทรกว่า “ตอนนี้เวลาของคุณมีค่าเกินกว่าจะเถียงกับผมนะครับ”
เอมรีบวิ่งไปขึ้นรถด้านคนนั่ง เคนขึ้นรถแล้วขับออกไป

เคนขับรถมาตามทาง เอมนั่งข้างๆ ร้อนใจมาก รีบกดโทรศัพท์หาเนื้ออ่อน
“คุณแม่คะ คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง” เอมฟังแล้วชักงง “สบายดี ตอนนี้รดน้ำต้นไม้อยู่ เจ้าหน้าที่โทร.มาบอกว่าคุณพ่อล้มเข้าโรงพยาบาล เอมเลยรีบโทร.หาคุณแม่นี่ละค่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ” เอมวางสายจากแม่หันมาทางเคน “ไม่ต้องไปโรงพยาบาลแล้วกลับไปออฟฟิศคุณลุง”
เคนมองเอมครุ่นคิด เอมกดกลับไปเบอร์แดน
“คุณใช่มั้ยคะที่โทร.มาบอกว่าพ่อดิฉันล้มหัวฟาดพื้นอาการสาหัส พ่อดิฉันสบายดีค่ะคุณโทรผิด...ลองตรวจสอบเบอร์ดูอีกทีนะคะจะได้รีบโทร.หาลูกของคุณลุงคนนั้นเค้าจะได้รีบมาให้กำลังใจพ่อเค้า”
เคนลอบมองเอม อดยิ้มชื่นชมไม่ได้
“ผมนึกว่าคุณจะต่อว่าเจ้าหน้าที่ๆ โทร.หาคุณ ที่ทำให้คุณตกใจ”
“ของอย่างนี้มันผิดกันได้ เรื่องคอขาดบาดตายอย่างนี้เค้าคงไม่ได้ตั้งใจหรอก แค่โทร.ผิดฉันยังตกใจแทบช็อก ถ้าลูกคุณลุงคนนั้นรู้ว่าพ่อเค้าเจ็บหนัก ไม่รู้จะตกใจแค่ไหน น่าสงสาร”
“ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณเป็นคนขี้สงสาร”
“กับคนที่ควรสงสาร อย่างคุณไม่มีวัน”
เคนยิ้มลอยหน้าลอยตากวนประสาท ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปในหน้าร้านกาแฟเบื้องหน้า

เคนจอดรถหน้าร้าน เอมบ่นอย่างเอือมระอา
“บอกให้ไปออฟฟิศคุณลุง”
“ถ้าคิดจะกลับไปประชุมละก็ไม่ทันแระ น้าเพ็ญกับท่านประธานงานยุ่งสุดๆ ยกเลิกประชุมนี้ก็เอาประชุมอื่นมาแทนทันที ไม่มีเวลาประชุมกับคุณแล้วล่ะ”
“ยังไงฉันก็ต้องกลับไปเอาไอแพด”
“ลืมของไว้บริษัทนี้ไม่ต้องห่วงน้าเพ็ญให้คนส่งคืนคุณถึงบ้าน”
“ทำไมนายรู้เรื่องน้าเพ็ญกับคุณลุงเยอะนัก”
“ผมเป็นเพื่อนสนิทกับลูกเค้า กินนอนบ้านเค้าบ่อยๆ จะไม่รู้ได้ยังไงละครับ” เคนอ้าง
เอมมองหน้าเคนพยักหน้าให้ คิดอยู่ในใจ
“รู้ลึกอย่างนี้นี่เองถึงเอาโปรไฟล์คุณกอล์ฟไปหลอกผู้หญิง”
“รถนายจอดที่นั่นไม่ใช่เหรอ ยังไงฉันก็ต้องไปส่งนาย”
“รีบไปเอารถก็ต้องรีบกลับไปทำงาน ขอนั่งกินกาแฟชิลๆ ซักแก้วแล้วค่อยไป สนใจจะดื่มกับผมมั้ย”
“ไม่สนแม้แต่นิดเดียว ไม่อยากมีเรื่องปวดหัว แยกย้ายกันตรงนี้เลยละกัน”
เอมลงจากรถเดินไปฝั่งคนขับ เคนมองเอมยิ้มเจ้าเล่ห์มีแผน

กอล์ฟนั่งทำงานอยู่บนสน. เห็นมิ้นเดินเข้ามาก็ยิ้มดีใจ
“คุณมิ้น มีธุระอะไรโทร.มาก็ได้นี่ครับ ไม่เห็นต้องมาเองเลย”
“ไม่มาเองแล้วจะใครเอาอาหารมาให้คุณ”
“อาหาร นี่คุณซื้อข้าวกลางวันมาให้ผมเหรอ”
มิ้นชูถุงอาหารในมือ “อาหารคลีนเพื่อสุขภาพ”
กอล์ฟยิ้มกว้าง ดีใจมาก
“ฉันดูแลเด็กในสังกัดของฉันดีอย่างนี้ทุกคนแหละ”
กอล์ฟหน้าเจื่อนทันที
มิ้นดูนาฬิกา “เพื่อสุขภาพที่ดีต้องกินอาหารให้ตรงเวลา ไปกินได้แล้ว”

กอล์ฟ กะ มิ้นนั่งอยู่ด้วยกันตรงม้าหินอ่อนมุมหนึ่งหน้าสน.
กอล์ฟหยิบกล่องอาหารคลีนออกมาวางให้มิ้นกับตัวเอง มองหน้ามิ้นยิ้มสุขใจ
“คุณจะมาทานกลางวันกับผมอย่างนี้ทุกวันเลยรึเปล่าครับ”
“จนกว่าคุณจะจัดระบบการกินได้ตามที่ฉันกำหนดให้”
กอล์ฟอยากให้มิ้นมาทุกวันรีบออกตัว
“ผมกินข้าวไม่เป็นเวลามานาน กว่าจะจัดระบบได้คงต้องใช้เวลาหน่อย”
“ฉันเจอเคสแบบนี้มานับไม่ถ้วนแล้ว ฉันมีวิธีทำให้เข้าระบบในเวลาอันรวดเร็ว ฉันใจร้อนไม่ชอบเสียเวลากับปัญหานานๆ น่ะ”
กอล์ฟจ๋อยผิดหวังที่มิ้นมาพบตนเพราะงานตลอด “ครับ
“คุณกับเพื่อนเจอกันทุกวันรึเปล่า”
“เกือบครับ”
“ส่วนใหญ่นัดเจอกันที่ไหน”
“ออฟฟิศบ้าง ตามร้านอาหารบ้าง”
“แล้ววันนี้ล่ะ นัดกันรึเปล่า”
“พวกมันไปประชุมถ้าไม่เหนื่อยก็คงนัดครับ เอ้อ ถามทำไมเหรอครับ”
“บอกแล้วไงว่าฉันต้องรู้จักชีวิตคุณ เอาเป็นว่าถ้าคุณนัดเพื่อนก็บอกด้วย เผื่อฉันจะไปจอย เราจะได้รู้จักกันมากขึ้นแล้วทำงานด้วยกันง่ายขึ้น”
กอล์ฟมองมิ้น ไม่ไว้ใจนัก “ครับ”

ที่ห้องแต่งตัวงานอีเว้นท์ ชาช่านั่งอ่านสคริปต์อยู่ในนั้น ส่วนแจ๊ด นั่งเล่นมือถือ มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทีมงาน 1 เข้ามา แจ๊ดหันไปหา
“ตามแล้วใช่มั้ยคะ น้องช่าพร้อมมากค่ะ ใช่มั้ยคะขุ่นน้อง”
“ใช่ค่ะขุ่นพี่ นี่ก็ทวนสคริปต์รอบที่ร้อยจำได้ขึ้นใจทุกบรรทัดแล้วค่ะ ได้ยินว่านักข่าวมาเป็นร้อย วันนี้ต้องออกทีวีทุกช่อง ขอเช็คหน้ารอบสุดท้ายแพร้พ”
ชาช่าไปเช็คหน้าที่กระจก แจ๊ดสะพายกระเป๋าตัวเอง และหยิบกระเป๋าชาช่า
“ของไว้นี่ได้นะคะ เราจ้าง รปภ.มาดูแลความปลอดภัยของนักแสดงและทีมงานทุกคนเป็นพิเศษ หน้าห้องมี รปภ.เฝ้าจนกว่างานจะเลิกค่ะ” ทีมงานบอก
“เริด จะได้ไม่ต้องห่วง”
แจ๊ดวางกระเป๋าไว้ที่เดิม เอาแต่มือถือตัวเองไป
“พร้อม”
ทีมงานเปิดประตูเดินนำชาช่าออกไป แจ๊ดเดินตาม

รปภ.ที่เฝ้าหน้าห้องตะเบ๊ะทีมงาน1 ชาช่า แจ๊ด เดินผ่านมา ระหว่างนี้ทิพย์แอบดูอยู่มุมหนึ่ง มองรปภ.ด้วยสีหน้าครุ่นคิด แล้วรีบเดินออกไปทางหนึ่ง

พราวนั่งซุ่มรอในมุมหนึ่งของร้านกาแฟ มองชาช่าที่เดินผ่านไป พอเห็นนักข่าววิ่งกรูเข้าหาชาช่าก็มองด้วยความหมั่นไส้ ทีมงาน1 แจ๊ดช่วยกันกันนักข่าว ให้ชาช่าเดินไปที่เวที
“คุณพราวคะ” เสียงทิพย์ดังขึ้น
พราวสะดุ้งเฮือกหันไปมองตาขวาง
“เรียกซะตกอกตกใจ ได้มามั้ย”
ทิพย์กลัว “ยังค่ะ นังแจ๊ดเอามือถือไป แต่ชาช่าไม่...ทิพย์ว่ามือถือชาช่าน่าจะอยู่ในห้องแต่งตัว แต่ รปภ. เฝ้า ทิพย์เข้าไปไม่ได้เลยจะมาถามคุณพราวว่าจะทำยังไงต่อดีคะ”
“แค่ รปภ. ก็คิดหาวิธีจัดการเองไม่ได้ ไม่มีสมองอย่างเธอนี่เกิดมาเพื่อเป็นขี้ข้ารอรับคำสั่งจริงๆ พาฉันไป”
ทิพย์เดินนำออกไป พราวรีบตาม

รปภ.ยืนเวรอยู่หน้าห้องแต่งตัว ทิพย์วิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“คุณ รปภ.คะ มีโจรโรคจิตซุ่มอยู่ตรงโน้นค่ะ ฉันได้ยินมันพูดว่าจะดักรอจับหน้าอกคุณชาช่าค่ะ”
รปภ.ตกใจ “มันยังอยู่มั้ยครับ”
“อยู่ค่ะ ฉันจะพาคุณไปจับมันเอง”
ทิพย์วิ่งจู๊ดนำไป รปภ.รีบวิ่งตาม
พราวออกมาจากมุมหนึ่ง ยิ้มสมใจ แล้วเปิดประตูเข้าห้องแต่งตัวไป

เมื่อเข้ามา พราวพุ่งไปรื้อกระเป๋าแจ๊ดแต่ไม่เจอมือถือ จึงรื้อกระเป๋าอีกใบเจอมือถือชาช่าก็ยิ้มสมใจ พราวหยิบมือถือชาช่าออกมาเปิดดูไลน์ ไล่อ่านจนเจอข้อความของเคน ก็ยิ่งโมโห
“บอกว่าไม่รัก แต่ไลน์บอกรักมันทุกวัน ร้ายนักนะคุณเคน แล้วคุณจะได้รู้ว่าระหว่างคุณกับพราว ใครจะร้ายกว่ากัน”
พราวหยิบมือถือตัวเองมาถ่ายรูปข้อความไลน์มือถือชาช่า

ฟาก ณรงค์ กับ เพ็ญ นั่งดื่มกาแฟกันอยู่ตรงมุมรับรองในห้องทำงาน
“ตาเคนบอกว่าหนูเอมไม่ต่อว่าเจ้าหน้าที่ที่โทร.มาส่งข่าวผิดซักคำ ถ้าเป็นพราวกับชาช่าละก็เป็นเรื่องใหญ่ไปแล้ว” เพ็ญปรารภขึ้น
“จิตใจดีมีสติกว่าสองคนนั้นเยอะ แต่สติดีขนาดนี้ พี่กลัวว่าหนูเอมจะไม่รักคนกะล่อนอย่างไอ้เคนน่ะสิ”
เคนยิ้มแฉ่งเข้ามาได้ยินพอดี “ของงี้มันไม่แน่หรอกครับคุณพ่อ”
“คุยโวอย่างนี้อย่าบอกนะว่า ไอ้ที่ไปด้วยกันมาไม่ถึงชั่วโมง แกทำให้เค้าเปิดใจให้แกได้แล้ว”
“ไม่อยากจะเล่าให้มโนไปไกล เอาเป็นว่าไว้คุณพ่อกับน้าเพ็ญรอดูตอนต่อไปเองดีกว่า”
เพ็ญได้ฟังก็ตื่นเต้น “รอดูต่อไป นี่เคนมีใจให้หนูเอมจะจีบหนูเอมแล้วใช่มั้ย”
“ก็แค่อยากลองทำความรู้จักดูก่อน”
“แค่นั้นน้าก็ดีใจแล้วจ้ะ”
“น้าเพ็ญให้ใครเอาไอแพดไปคืนคุณเอมรึยังครับ”
“ยังเลยจ้ะ กะว่าดื่มกาแฟเสร็จจะให้คนเอาไปส่ง”
“ไม่ต้องให้ใครเอาไปหรอกครับ ผมจะเอาไปคืนคุณเอมด้วยตัวเอง”
เพ็ญ กับณรงค์มองหน้าเคนยิ้มดีใจ
ส่วนเคนยิ้มสุขใจที่จะได้เจอเอมโดยไม่รู้ตัว

ชาช่ายืนอยู่ที่แบล็คดร็อปของงานเปิดตัวสินค้า บรรดานักข่าวจอมเผือกรุมล้อมจ่อไมค์รวมสมเป็นซุปตาร์ดัง
นักข่าว1 ยิ่งคำถามแรกว่า “ยอมให้เห็นด้านหลังแล้ว เมื่อไหร่จะยอมให้เห็นหน้าคะ”
“เจ้าชายของช่ายังไม่พร้อมค่ะ”
นักข่าว2 ซักต่อ “เจ้าชายยังไม่พร้อม ยังไงวันนี้คุณช่าก็คงไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร งั้นขอชื่อย่อได้มั้ยคะ”
“ML ค่ะ” ชาช่ากะให้นักข่าวเดาไปเรื่อยๆ สุดท้ายค่อยรับงานใหม่มาเฉลยว่าย่อมาจาก My Love
“ML ไมเคิล เอ๊ะหรือจะเป็นมาร์ค” นักข่าว2 ซักอีก
“บอกใบ้ให้แล้ว ไปตามต่อกันเองละกันนะคะ ช่ามีงานต่อขออนุญาตนะคะ”
ชาช่าไหว้นักข่าว แจ๊ดฝ่าวงล้อมมาพาตัวชาช่าออกไป
“ขอโทษนะคะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ ตามไปถามงานต่อไปนะคะ”
นักข่าวพยายามซักถามต่อ
“เป็นคนไทยหรือต่างชาติคะ” / “แล้วเมื่อไหร่จะพร้อมเปิดตัวคะ” / “เป็นคนในวงการหรือนอกวงการครับ”
ชาช่าไม่ตอบยิ้มสมใจ

ชั้นกำลังตัดหญ้าอยู่ จนเห็นรถเจตน์ และรถเคน แล่นมาจอดพร้อมกันหน้าประตูบ้าน จึงรีบวิ่งไปเปิดประตูให้
เจตน์มองเขม่นเคนอย่างไม่พอใจ เคนยิ้มหวานโบกมือให้เจตน์เข้าบ้านไปก่อน
“ให้ฉันเข้าก่อน เสียสละเอาหน้ากับคุณเอมน่ะสิ”
เจตน์ขับรถเข้าบ้านไป เคนจะขับตาม แต่ชั้นรีบเอาตัวขวางไม่ให้เข้า เคนลงจากรถยิ้มแฉ่ง
“คุณชั้นครับ ผมมาหาคุณเอม ขออนุญาตเข้าไปหน่อยนะครับ”
“คุณนายสั่งไว้ว่าห้ามให้แกเหยียบเข้ามาในบ้านนี้อีก”
ชั้นปิดประตูรั้วทันที เจตน์มองชั้นที่ปิดประตูใส่เคนอย่างแปลกใจ
“เล่นกันงี้เลยเหรอคุณนาย”
เคนยิ้มขำ พลางมองเข้าไปในบ้านเอมด้วยสีหน้าครุ่นคิด

ที่โถงบ้าน เจตน์ยื่นกล่องขนมสวยหรูให้เนื้ออ่อน
“ทราบว่าคุณน้าเนื้ออ่อนชอบทานขนมเจ้านี้มาก เลยแวะซื้อมาฝากครับ”
“ขอบใจมากจ้ะ คุณเจตน์รู้ใจน้าจริงๆ”
รอนหมั่นไส้เหน็บเอาว่า “ถ้าคุณรู้ใจยัยเอมเหมือนที่รู้ใจคุณเนื้ออ่อนผมคงดีใจมาก”
“คุณน้ารอนไม่ต้องห่วงครับ ที่ผมทำทุกวันนี้ก็เพื่อให้รู้ใจคุณเอมนี่ละครับ” เขาหันไปยิ้มหวานกับเอม “คุณน้าเนื้ออ่อนบอกว่าวันนี้คุณว่าง”
เอมมองแม่เซ็งๆ เนื้ออ่อนลอยหน้าลอยตาแกล้งไม่รับรู้ความรู้สึกเอม
“ผมเลยจะมาชวน”
เสียงเคนแหลมเข้ามา “คุณเอม คุณเอม”
“นายเคน”
เอมยิ้มดีใจออกมาโดยไม่รู้ตัว วิ่งไปดูที่หน้าต่าง เนื้ออ่อน รอน เจตน์รีบวิ่งไปดูด้วย
ทุกคนเห็นเคนยืนตะโกนอยู่หน้ารั้วบ้าน ชูไอแพด โดยมีชั้นมองเคนอยู่อย่างไม่พอใจ
“คุณเอม คุณเอม”
“ตะโกนโหวกเหวกเป็นเจ๊กตื่นไฟ ไร้มารยาทจริงๆ” เนื้ออ่อนโมโหบอกกับรอนว่า “คุณ ไปไล่ซิ
“จ้ะ”
“ไม่ต้องค่ะคุณพ่อ เค้าเอาไอแพดเอมมาด้วย น้าเพ็ญคงให้เค้าเอามาคืนให้เอม แค่เอมออกไปรับของคืนเค้าก็ไปแล้วค่ะ”
เนื้ออ่อนงงๆ “ไอแพดเอม คุณเพ็ญ เกี่ยวอะไรกับนายเคนด้วย”
“เรื่องมันยาว เดี๋ยวเอมมาเล่าให้ฟังนะคะ”
เอมตัดบทแล้วเดินออกไป
เนื้ออ่อน กับรอน มองหน้ากันอย่างแปลกใจ
เจตน์เองก็สงสัยไม่น้อย

เคนยังตะโกนเรียกเอม
“คุณเอม คุณเอม”
ชั้นโมโหเปิดประตูเล็กออกไป จะไปตะบันหน้า เคนเอาไอแพดเอมบังหน้าไว้
“ต่อยผมแล้วไอแพดคุณเอมพังผมโทษคุณนะ”
ชั้นชะงักมองเคนอย่างโมโห สมบูรณ์ กับ ฉวี วิ่งออกมาพอดี
สมบูรณ์ดี๊ด๊า “พี่เคนจริงๆ ด้วย”
ชั้นมองสมบูรณ์อย่างไม่พอใจ สมบูรณ์รีบวิ่งมาขวางชั้นกางแขนปกป้องเคนไว้
“ถ้าจะทำร้ายพี่เคนอีกละก็ บอกเลยว่าข้ามศพฉันไปก่อน”
ฉวีมองสมบูรณ์อย่างระอา รีบไปดึงตัวออกมา
“เก็บชีวิตแกไว้เลี้ยงดูแม่บังเกิดเกล้าอย่างฉันเถอะ” ฉวีบอกชั้นว่า “คุณเอมสั่งไว้ว่าไม่ให้ใช้ความรุนแรง เข้าบ้าน” แล้วบอกกับเคนต่อว่า “ส่วนคุณมีธุระอะไรกับคุณเอมก็บอกมา ฉันจะไปบอกคุณเอมให้”
เคนยิ้มหน้าเป็น “คุณพี่คนสวยใจดีที่สุดเลยครับ”
ฉวีบ้ายอยิ้มแฉ่ง “คะ คะ คุณ เรียกฉันว่าอะไรนะ”
“คุณพี่คนสวยครับ เคยมีใครบอกมั้ยครับว่าน้องสมบูรณ์ได้ความสวยจากคุณมาเต็มๆ”
ฉวีเขินหนักตีแขนเคนเผียะ “คุณคนแรกเลยที่พูด ตาถึงนะคุณเนี่ย”
เอมเดินตามออกมา เห็นท่าทีของฉวีก็ประเมินออก มองเคนเซ็งๆ
“หลอกลูกคนเดียวไม่พอ หลอกไปถึงแม่เลยเหรอ”
“สวยก็ต้องบอกว่าสวย พูดความจริงก็หาว่าหลอก คุณนี่ชอบใส่ร้ายผมจัง”
เอมบอกกับพวกฉวีว่า “เข้าบ้านไปให้หมด ฉันคุยกับเค้าเอง”

เคน กะ เอมยืนคุยกันหน้ารั้ว
“ไหนคุณว่าปกติน้าเพ็ญจะให้มอเตอร์ไซค์ของบริษัทเอามาส่ง”
“ผมกลับไปเอารถ น้าเพ็ญเห็นว่าจะผ่านมาแถวนี้เลยฝากมา”
“แล้วเอาให้ดีๆ ไม่ได้รึไง ทำไมต้องตะโกนโหวกเหวกลั่นซอยให้ฉันอายคนอย่างนี้ด้วย”
“ก็คนของคุณไม่ให้ผมเข้า แล้วคุณก็บล็อกเบอร์ บล็อกไลน์ ผมเหลือทางเดียว คือ” เขาตะโกนใส่เอมอีกว่า “คุณเอมครับ คุณเอม”
เอมหมั่นไส้ “สรุป โทษว่าเป็นเพราะฉันที่ทำให้คุณต้องเสียกริยา”
“หรือไม่จริง”
“เอาของฉันคืนมาแล้วก็ไปได้แล้ว”
เคนยื่นไอแพดให้ เอมยื่นมือจะหยิบ เคนชักกลับ
“อะไรอีกล่ะ”

พอได้ฟังเนื้ออ่อนถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจ
“ต้องออกไปประชุมงานกับนายเคน”
“น้าเพ็ญกับคุณลุงสั่งนายเคนมาอย่างนั้นค่ะ” เอมบอก
“แม่ไปด้วย”
รอนปราม “ไม่งามมั้งคุณ”
“ฉันไม่อยากให้ลูกไปกับนายเคนตามลำพัง”
เอมรู้สึกผิด “ไม่ได้ไปลำพังค่ะ ประชุมที่ร้านอาหาร คุณแดน คุณป้อง คุณกอล์ฟก็มาด้วย”
“คุณกอล์ฟมาด้วย งั้นไปเถอะจ้ะ” เนื้ออ่อนหันมาหาเจตน์ “งานสำคัญกว่าเที่ยวเล่นคุณเจตน์เข้าใจยัยเอมนะคะ”
“เข้าใจครับ ผมพาคุณเอมไปเที่ยววันหลังก็ได้ ผมลาเลยนะครับ” เจตน์ไหว้ลาผู้ใหญ่ บอกลากับเอมว่า “เจอกันพรุ่งนี้นะครับ”
เอมรีบออกตัว “ถ้าว่างนะคะ”
เจตน์ยิ้มแฉ่งเดินออกไป เขาตามใจเอมทุกอย่างไม่คิดอะไรมาก
“พอรู้ว่าคุณกอล์ฟไปด้วย รีบเปลี่ยนแผนเลยนะ” รอนเหน็บเมีย
“คุณกอล์ฟเจอตัวง่ายแบบคุณเจตน์ที่ไหนล่ะ เราก็ต้องไปคุยกับคนที่เจอตัวยากก่อนใช่มั้ยลูก”
เอมรู้สึกผิดไม่หาย “ค่ะ”
เนื้ออ่อนยิ้มแต้สุขใจสุดๆ

เจตน์เดินออกมาเห็นชั้นยังตัดหญ้าอยู่ เจตน์มองรอบๆ แล้วเดินไปหาชั้นอย่างระแวดระวัง ชั้นเห็นเจตน์เดินมารีบถามอย่างนอบน้อม
“คุณเจตน์ จะให้ผมรับใช้อะไรเหรอครับ”
“ทำไมถึงไม่ให้คุณเคนเข้าบ้าน”
“มันเป็นนักต้มตุ๋นครับ คุณนายกลัวมันมาหลอกคนในบ้านเลยสั่งว่าห้ามให้มันเหยียบเข้ามาเด็ดขาด”
เจตน์ตกใจ “นักต้มตุ๋น ฉันนึกว่ามันเป็นลูกเพื่อนคุณน้าเนื้ออ่อนซะอีก”
“โดนมันหลอกแล้วละครับ แต่ก็ไม่แปลกเพราะมันหลอกคนไปทั่ว กุเรื่องไม่ซ้ำกันซักเรื่อง ทุกวันนี้ยังไม่มีใครรู้เลยครับว่าตัวตนที่แท้จริงของมันเป็นใคร”
“ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า แล้วทำไมคุณน้าเนื้ออ่อนถึงยอมให้คุณเอมออกไปประชุมกับมัน” เจตน์แปลกใจ
ชั้นตกใจ “คุณเอมจะออกไปกับมัน เมื่อกี๊คุณเอมคุยกับมันตามลำพัง มันต้องกุเรื่องโกหกอะไรอีกแน่ๆ ไม่อย่างนั้นคุณนายคงไม่ให้ลูกสาวสุดรักสุดหวง ออกไปกับคนเลวอย่างมันหรอก”
“ฉลาดอย่างคุณเอมยังตามมันไม่ทัน มันเป็นบุคคลอันตราย ฉันปล่อยให้คุณเอมตกอยู่ในอันตรายอย่างนี้ไม่ได้”
“คุณจะทำอะไรเหรอครับ”
เจตน์ใคร่ครวญครุ่นคิด

เอมขับรถออกจากบ้าน เจตน์จอดรถซุ่มดูอยู่มุมหนึ่ง รีบขับตามไปห่างๆ

ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือบ้านๆ ไม่ไกลนัก เคนนั่งดื่มน้ำรออยู่ที่โต๊ะอย่างสบายอารมณ์ เอมเดินเข้ามากระแทกตัวลงนั่งอย่างไม่พอใจ
“นายทำให้ฉันต้องกลายเป็นคนโกหก”
“ถ้าคุณใจกล้าๆ บอกพวกท่านไปว่าออกมากินข้าวกับผมแลกกับไอแพด คุณก็ไม่ต้องโกหก”
“ขืนบอกความจริงคุณแม่ฉันได้โทร.หาน้าเพ็ญ แล้วจากแค่ไอแพดเครื่องเดียวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ราวกับโลกจะถล่มน่ะสิ” เอมมองสภาพร้าน “ไม่คิดว่าคนติดหรูอย่างนายจะกินร้านบ้านๆ ธรรมดาๆ อย่างนี้ด้วย”
“ร้านธรรมดาแต่รสชาติไม่ธรรมดา ลูกคุณหนูอย่างคุณกินร้านธรรมดาอย่างนี้ได้รึเปล่า”
“ถ้าอร่อยอย่างที่นายร่ำลือก็ไม่มีปัญหา”
“แสดงว่าเรารสนิยมเดียวกัน กินร้านไหนก็ได้ที่อร่อย”
“ใครๆ ก็ชอบของอร่อยทั้งนั้น อย่ามาเหมาว่าฉันกับนายมีรสนิยมเดียวกัน รีบสั่งเลยจะได้รีบกินรีบกลับ”
“ไม่มีศิลปะในการกินก๋วยเตี๋ยวเรือเลยนะคุณเนี่ย”
“บอกมาซิว่าศิลปะในการกินก๋วยเตี๋ยวเรือของนายคืออะไร”

ก๋วยเตี๋ยวหลายชามวางบนโต๊ะ
“ตัวเท่าลูกแมว คิดเหรอว่าจะเอาชนะกระเพาะผู้ชายกล้ามใหญ่ๆ อย่างผมได้”
“นายไม่รู้หรอกว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร ฉันเคยทำลายสถิติกินก๋วยเตี๋ยวเรือชนะผู้ชายทั้งร้านมาแล้ว เริ่ม”
เคน กะเอมจะกินก๋วยเตี๋ยวเรือแข่งกัน เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้น
“หยุด”
เคน เอมหันไปมองเห็นเจตน์ยืนจังก้าอยู่
เอมแปลกใจ “คุณเจตน์ มาได้ยังไงคะเนี่ย”
“เอ้อ ผมหิวน่ะครับ ตั้งใจจะมากินร้านนี้พอดี ไม่คิดว่าจะเจอคุณกับคุณเคน ไหนว่าจะไปประชุมไงครับ”
เอมหน้าเสีย “เปลี่ยนแพลนนิดหน่อยน่ะค่ะ เลยแวะหาอะไรทานกันก่อน”
“ผมมาคนเดียวของร่วมวงด้วย แล้วก็ขอลงแข่งด้วยเลยนะครับ”
เคน กะ เอมยังไม่ทันตอบ เจตน์ก็นั่งลงแล้วสั่งก๋วยเตี๋ยวทันที
“น้องๆ เอาแบบนี้มา 10 ชามเลย คนชนะได้อะไรเป็นรางวัลเหรอครับ”
“ถ้าผมชนะคุณเอมจะเลิกบล็อกเบอร์ บล็อกไลน์ผม คือผมพูดจาไม่เข้าหูนิดหน่อยคุณเอมเลยงอนน่ะครับ” เคนว่า
“ถ้าฉันชนะ เค้าจะเลิกยุ่งกับฉัน” เอมบอก
“เป็นข้อเสนอที่ดีงามมากเลยครับ” เจตน์หันมาหาเคน “ถ้าผมชนะคุณ ผมขอเงื่อนไขเดียวกับคุณเอม คุณห้ามยุ่งกับคุณเอมอีก” แล้วบอกเอมว่า “แต่ถ้าผมชนะคุณ คุณต้องไปทานข้าวดูหนังกับผมทุกวัน”
เอมรับคำท้า “ดีล แต่ถ้าคุณแพ้ฉันห้ามยุ่งกับฉันอีก”
“ถ้าผมชนะ ผมก็ขอเงื่อนไขเดียวกับคุณเหมือนกัน คุณห้ามยุ่งกับคุณเอมอีก” เคนท้า
“ตกลง” เจตน์รับคำท้า

ชามก๋วยเตี๋ยววางเป็นตั้ง เคน เอม เจตน์ แข่งกันกินก๋วยเตี๋ยวอย่างไม่มีใครยอมใคร
เจตน์นำลิ่ว เคน เอม มองเจตน์อย่างร้อนใจ รีบเร่งสปีด
บรรดาคนในร้านมามุงเชียร์อย่างสนุกสนาน

เคนนับชามก๋วยเตี๋ยว
“25, 26, 27, 28, 29, 30 ตอนนี้ 30 เท่ากันทุกคน” เขาบอกกับเอมว่า “ผมเชื่อแล้วว่าคุณเคยกินชนะผู้ชายทั้งร้าน แต่โทษนะคงไม่ใช่ผม ชามที่ 31 เริ่ม”
เจ้าของร้านยกชามก๋วยเตี๋ยวมาวางหน้า เคน เอม และเจตน์
เคน กินอย่างเอร็ดอร่อย เจตน์เริ่มไม่ไหว กินช้าลงมาก เคนมองเจตน์ยิ้มเยาะมั่นใจว่าตรูชนะแน่
เอมจะกินแต่อิ่มจัดกินไม่ลง มองก๋วยเตี๋ยวอย่างผะอืดผะอม แล้วผลักชามออกไป
“ไม่ไหวแล้วใช่มั้ย” เคนถาม ทั้งที่ก๋วยเตี๋ยวเต็มปาก
“อีกคำเดียว ฉันอ้วกแน่”
“คุณแพ้” เคนประกาศลั่นร้าน “คุณเอมแพ้แล้ว”
“แต่ผมยัง” เจตน์บอกเอมว่า “ผมจะสู้เพื่อคุณเอมครับ”
เจตน์มองหน้าเอม สูดลมหายใจเข้าปอดเพิ่มกำลังใจ แล้วโซ้ยก๋วยเตี๋ยวต่อราวกับหิวโหยมาแต่ชาติปางก่อน
เคนตาเหลือก รีบกินแข่งกับเจตน์

สุดท้ายเคนวางตะเกียบวางชามก๋วยเตี๋ยวที่กินไม่หมดในสภาพอิ่มแปล้ เจตน์ที่กำลังกินรีบโซ้ยจนหมดชามแล้ววางชามอย่างผู้ชนะ
“ผมชนะแล้ว ผมชนะแล้ว”
เจตน์เรอเอิ้กอ้ากอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
“ขอโทษครับ”
เอมมองเจตน์อดสงสารไม่ได้ที่เห็นเขาทำเพื่อตัวเองขนาดนี้
“ผมว่าผมเจ๋งแล้ว คุณเจ๋งกว่าอีก คุณนี่สุดยอดจริงๆ” เคนอวย
เจตน์มองเอมตาหวานฉ่ำ “ความรักเป็นพลังให้ผมเอาชนะคุณได้ หวังว่าคุณจะรักษาสัญญา”
“เค ต่อไปนี้ผมจะไม่ยุ่งกับคุณเอมอีก การเจอกันของเราวันนี้ถือเป็นการจากลานะครับ ลาก่อน”
เคนเดินออกไป เอมมองตาม รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก
“ถ้าเค้ายังยุ่งกับคุณบอกผมนะครับ ผมจะจัดการให้เอง”
เอมใจหาย “ค่ะ”

เอมนั่งกุมท้องบิดตัวไปมาอย่างอึดอัด
“โอ๊ย แน่นไปหมด ตอนนี้ใครเอาเข็มมาจิ้มท้องฉันแตกแน่”
มิ้นยื่นยาให้ “ยาช่วยย่อย”
เอมกินยาช่วยย่อยด้วยสีหน้าผะอืดผะอม
“ดีนะท้องไม่แตกตายคาร้าน กินเข้าไปได้ยังไง 20 30 ชาม” นาตาลีบ่น
“ก็ฉันอยากเอาชนะนายเคน”
“แล้วชนะมั้ยคะคู้ณ”
“ไม่” เอมบอก
“ดีนะได้คุณเจตน์ ไม่งั้นนายเคนอาจจะตามตอแยหลอกล่อเธอ ให้เป็นเหยื่อรายต่อไปของเค้าก็ได้ ฉันแอบไปซุ่มที่แฟลตคุณกอล์ฟตั้งหลายครั้ง แต่ไม่เคยเจอนายเคนเลย” นาตาลีว่า
“หลอกถามคุณกอล์ฟก็แทบไม่ปริปากบอกอะไรเลย ไม่รู้ซะทีว่าตัวตนที่แท้จริงของนายเคนเป็นใคร เปิดโปงคนชั่วทำไมถึงย้ากยาก” มิ้นบ่น
“ยากแค่ไหนฉันก็มั่นใจว่าพวกเธอทำได้ เพราะพวกเธอคือซุปเปอร์วู้เม่น ทำได้ทุกอย่างในโลกนี้ แต่ตอนนี้พักเรื่องนายเคนไว้ก่อน ตอนขับรถมาหาเธอช่างตัดเสื้อเพิ่งโทร.มาบอกว่า ลองตัดเสื้อผ้าตามแบบที่ฉันส่งไปแล้ว ทุกแบบสวยมาก ให้นัดนายแบบนางแบบมาวัดตัวแล้วส่งไซส์ให้เค้าได้เลย” เอมบอก
มิ้น กะนาตาลี ร้อง “เย้”
“เพื่อนฉันจะได้เปิดตัวแบรน์เสื้อผ้าแล้ว วู้ว”
สามสาวกอดกันกลมด้วยความดีใจ

คืนนั้น 4 หนุ่มนั่งโต๊ะเก่าในผับประจำ
เคนย้อนถามกอล์ฟว่า “ไปวัดตัว กูไปด้วย”
“นี่มึงจะกลืนน้ำลายตัวเองเหรอ มึงสัญญาแล้วว่าจะไม่ยุ่งกับคุณเอม”
“กูก็ไม่ได้จะยุ่งกับเค้า”
แดนแทรกว่า “ไม่ได้ยุ่งกับเค้า แต่คิดว่าจะมีปฏิสัมพันธ์กับเค้าได้มีแผนอะไรคายมา”
“คายไปพวกมึงก็ไม่ได้ลุ้นอะดิ” เคนยิ้มเจ้าเล่ห์
“โห่ มีเก็บงำ แต่ข้าน้อยสงสัยหนักมากอ่ะท่านเทพว่า ทำไมคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ยอมวางตะเกียบให้คู่แข่งได้ยังไง” ป้องถาม
“ตอนนั้นยอดพุ่งไป 40 กว่าชามแล้ว สารภาพแบบแมนๆ เลยว่าถ้าโมเม้นต์นั้นกูกินต่ออีกแค่คำเดียวมีอ้วกพุ่ง คุณเจตน์ทุ่มเทกับคุณเอมมากจริงๆ กูว่าให้กินจนจุกตายคาร้านเค้าก็ยอมว่ะ”
“เค้ามีคนดีๆ อยู่ข้างๆ แล้ว มึงก็ล้มเลิกแผนที่หลอกให้เค้ารักแล้วเทบ้าๆ บอๆ ของมึงเถอะ อย่าไปรบกวนให้พวกเค้าร้อนใจเลย” กอล์ฟว่า
“ไม่มีกูแทรกกลางคุณเอมก็ไม่ได้มีความสุข คุณเอมเค้าไม่ได้รักคุณเจตน์ แต่ที่ต้องไปไหนมาไหนด้วยเพราะแม่เค้าบังคับ อยู่กับกูที่เค้าบอกว่าเกลียดนักเกลียดหนาหน้าตายังมีความสุขมากกว่าเวลาไปกับคุณเจตน์หลายเท่า”
“หลงตัวเองอีกแล้วนะมึง” กอล์ฟหมั่นไส้
“พูดจริงโว้ย กูแอบสังเกตเวลาคุณเอมอยู่กับกู กูเชื่อเต็มร้อยเลยว่าเค้ามีใจให้กูแต่ปากแข็ง”
“งั้นก็เอาที่มึงสบายใจละกัน แต่ตอนนี้กูไม่สบายใจ คุณเอมสนิทกับคุณพ่อ น้าเพ็ญ วันงานคุณพ่อกับน้าเพ็ญก็ต้องมา คราวนี้แหละมึง ความแตกแน่ว่ากูไม่ใช่ลูกพ่อมึง”
“อย่าให้เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ เป็นอุปสรรคขวางทางรักของมึงกับคุณมิ้นสิวะ มึงมีกูไอ้แดนไอ้ป้องนะโว้ย รับรองว่าความลับของพวกเราจะเป็นความลับต่อไป จนกว่าคุณมิ้นจะหลงรักมึง”
“ใช่พี่ เชื่อมือพวกผมเถอะจะได้นอนตาหลับ” ป้องว่า
“กูไม่ได้ลาตาย”
เคน แดน ป้อง พากันหัวเราะขำ
พราวเดินหน้าบึ้งเข้ามา “คุณเคนคะ”
เคนแปลกใจ “คุณพราว”
แดนกระซิบป้อง “หน้างอยิ่งกว่าปลาทู แถมบุกมาถึงร้านแบบไม่แจ้งล่วงหน้า กูว่าไอ้เคนมีความงานเข้าว่ะ”
เคนมองพราวปั้นหน้ายิ้มแฉ่ง รู้ว่ามีเรื่องแต่ทำใจดีสู้เสือ

อีกมุมของผับ เคนมองข้อความที่พราวแคปจากข้อความที่ไลน์กับชาช่าอย่างตกใจ แล้วตีหน้าเศร้า
“ผมขอโทษ”
น้ำเสียงพราวเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ยอมรับแล้วใช่มั้ยคะว่านอกใจพราว”
เคนดราม่าหนักมาก “แค่คิดผมยังไม่เคย”
พราวเจ็บปวดนัก “คิดยังไม่เคย แล้วที่บอกรักผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่พราวอย่างนี้ละคะ”
“คุณก็รู้ว่าคุณพ่อพยายามหาเรื่องให้ผมไปช่วยงานที่บริษัท ถ้าผมแสดงความรู้สึกที่แท้จริงแล้วชาช่าโกรธจนถอนตัวจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ คุณพ่อก็ต้องโทษผมแล้วเอามาเป็นข้ออ้างลากผมไปช่วยงาน”
“แต่พราวยอมให้แฟนบอกรักผู้หญิงอื่นทุกวันอย่างนี้ไม่ได้”
เคนจับมือพราวมากุม “คุณพราวครับถึงเราจะไม่เคยออกสื่อด้วยกันแต่ผมก็ไม่เคยปิดบังใครว่าคบคุณ คุณไม่รู้หรอกครับว่าผมทุกข์แค่ไหนที่ต้องฝืนใจกับชาช่า แต่ถ้าปัญหาของผมกับคุณพ่อทำให้คุณไม่มีความสุขผมก็ยินดีเดินออกไปจากชีวิตคุณ ผมรักคุณ คนเดียวนะครับ”
เคนเน้นคำตอนท้ายแล้วเดินคอตกออกไป พราวเดินไปดักหน้าเคนอย่างโกรธจัด
“พราวมาเพื่อให้คุณออกจากชีวิตมันนะคะ ไม่ใช่ออกจากชีวิตพราว”
“ผมไม่อยากไปทำงานกับคุณพ่อ แต่ผมก็ทนเห็นคนที่ผมรักทุกข์ใจไม่ได้ ผมไม่มีทางเลือก”
“พราวจะเลือกให้คุณเอง พราวจะเขี่ยนังชาช่าออกจากชีวิตคุณ คุณลุงจะได้โทษคุณไม่ได้”
เคนไม่อยากให้พราวยุ่งกับชาช่า “อย่างนั้นผมยิ่งรู้สึกแย่ ที่โตป่านนี้แล้วแก้ปัญหาเองไม่ได้ ถ้าคุณไม่อยากไปจากชีวิตผมงั้นให้เวลาผมแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้มั้ย”
“อาทิตย์นึง”
“อาทิตย์นึงผมยังคิดอะไรไม่ออกหรอกครับ เดือนนึง ตกลงมั้ย”
พราวมองเคนด้วยสีหน้าครุ่นคิด

เพียงไม่นานต่อมา เคนชนแก้วกับก๊วนเพื่อน อย่างร่าเริง
“วู้ววววววว ไอ้เคนไม่เคยมีคำว่าไม่รอด”
“ขอคารวะท่านเทพ” ป้องชน
“ยอมให้เรียกท่านเทพอีกแค่วันเดียวนะ” เคนว่า
“ทำไม พรุ่งนี้มึงจะถอดเขี้ยวเล็บ เสด็จลงจากสวรรค์ไปเป็นคนธรรมดารึไง” แดนแปลกใจ
“ใครว่า กูจะเลื่อนขั้นเป็นมหาเทพต่างหาก”
แดนกะป้องประสานเสียง “หมาเทพ”
เคนเน้นเสียงบอก “มหาเทพ”
แก๊งพ่อปลาไหลหัวเราะสนุกสนาน
“กูจะแสดงอิทธิฤทธิ์ให้พวกมึงดู ว่าในภาวะที่กูมีสัญญาลูกผู้ชายค้ำคอว่าจะไม่ยุ่งกับคุณเอม กูจะยุ่งกับคุณเอมได้ยังไง แล้วพวกมึงจะต้องตะลึงอึ้งไปกับแผนการอันเหนือชั้นของมหาเทพอย่างกู ฮะๆๆ”

เคนหัวเราะร่าสะใจสมใจ

อ่านต่อ ตอนที่ 9

#พ่อปลาไหล #thaich8 #โชคดีมีสุข #ฟิล์มยีน #ยีนฟิล์ม #ทีมพ่อปลาไหล #ทีมเอม #lakornonlinefan #ละครออนไลน์ #ลมหายใจคือละคร


กำลังโหลดความคิดเห็น