พ่อปลาไหล ตอนที่ 6
บทประพันธ์ : กนกเรขา บทโทรทัศน์ : ปัทมา และ จอมใจ
ขณะที่คุณเนื้ออ่อนมองหาโต๊ะคุณเพ็ญ กับ คุณณรงค์อยู่นั้น บริกรก็เดินเข้ามาถาม
“กี่ท่านครับ”
เนื้ออ่อนยกมือขึ้นห้ามเชิงบอกว่าไม่ต้อง แต่บริกรเข้าใจผิด
“5 นะครับ”
เนื้ออ่อนมองเห็นโต๊ะเพ็ญกะณรงค์ บุ้ยใบ้บอกสามี
“โต๊ะนั้น” ทุกคนมองตาม “คุณเพ็ญกับคุณณรงค์นี่ ไปทักทายพวกเค้าหน่อยดีกว่า”
โดยไม่รอความเห็นใคร เนื้ออ่อนเดินนำไป รอนรีบตาม เอม มิ้น นาตาลี มองไปที่โต๊ะ แปลกใจที่เห็นเคนนั่งอยู่ด้วย
“นายเคน”
มิ้นอึ้งคาดไม่ถึง “ช็อกแพร้พ”
“ร่วมโต๊ะกับคุณณรงค์เจ้าสัวระดับประเทศได้ยังไง” นาตาลไม่อยากเชื่อ
“ถามกันเองอย่างนี้เมื่อไหร่จะทราบละคะคู้ณณณ เคสนี้ต้องเผือก”
มิ้นรีบเดินตามเนื้ออ่อนไป เอม นาตาลีเดินตาม
ที่โต๊ะเคน ทุกคนกำลังกินอาหารอย่างมีความสุข
“ของโปรดพ่อ”
เคนตักกับข้าวให้ณรงค์ แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นเนื้ออ่อน กะ รอน เดินมา มิ้น เอม นาตาลีเข้ามา
เนื้ออ่อน กะ รอน มองเคนงงๆ เคนเห็นท่าไม่ดีรีบออกตัว
“ผมไปห้องน้ำนะครับ”
เคนรีบลุกออกไปทันที
เพ็ญคิดว่าเคนไม่อยากรู้จักเอม แต่รั้งไม่ทัน “ตาเคน”
เนื้ออ่อนเดินมาถึงพอดี “สวัสดีค่ะ”
เพ็ญแกล้งทำเป็นเพิ่งเจอกัน “อ้าว คุณเนื้ออ่อน คุณรอน”
ณรงค์กะรอนพูดขึ้นพร้อมกัน “บังเอิญจังที่มาร้านเดียวกัน”
สองคนมองหน้ากันอึ้งๆ ที่พูดเหมือนกัน มองพวกกอล์ฟอย่างกลัวถูกจับได้
มิ้น เอม นาตาลี เดินมาถึงไหว้เพ็ญ ณรงค์
“ไหนๆ ก็บังเอิญเจอกันแล้ว เชิญนั่งด้วยกันเลยนะคะ” เพ็ญยิ้มแย้ม
กอล์ฟ แดน และป้อง มองหน้ากันด้วยความตกใจ
บริกรจัดโต๊ะให้ทุกคนนั่งร่วมโต๊ะเดียวกัน คุณเนื้ออ่อนบอกเหตุผลว่า
“พาทีมที่ทำงานเปิดตัวสินค้ามาฉลองยอดขายน่ะค่ะ”
เอมกระซิบกระซาบกับมิ้น และนาตาลี
“น้าเพ็ญกับคุณลุงคงไม่รู้ว่านายเคนเป็นผู้ชายขายตัว”
คุณเนื้ออ่อนก็อ้างเหตุผลว่า “ส่วนฉัน เบื่อบ้านเลยชวนยัยเอมกับเพื่อนๆ มาหาอะไรทานกัน มิ้นกับนาตาลี เพื่อนยัยเอมค่ะ”
มิ้น กะนาตาลียิ้มให้ทุกคน
นาตาลีถามกอล์ฟเรื่องเคน “เมื่อกี๊เหมือนเห็น นาย เอ้อ คุณเคน ไปไหนแล้วล่ะคะ”
“ห้องน้ำครับ” แดนบอก
เพ็ญงง “รู้จักตาเคนด้วยเหรอ”
แดนรีบบอก “เคยเจอกันตามงานเลยรู้จักทั้งแก๊งเลยครับ”
เนื้ออ่อนสะดุดหู “คุณเคนก็เป็นทีมจัดงานเหรอคะ”
“ค่ะ แล้วก็เป็น...”
กอล์ฟ ป้อง และแดนมองเพ็ญอย่างตกใจ แดนรีบพูดกับมิ้นขัดจังหวะขึ้นโดยไวว่า
“ขอบคุณมากนะครับที่วันนั้นช่วยพาไอ้กอล์ฟไปดูงาน”
“ฉันช่วยเพื่อนคุณ แต่เค้าไม่ช่วยฉันเลย” มิ้นว่า
“พี่กอล์ฟอยากช่วยม้ากมาก แต่ขี้อายไม่กล้าแสดงออกน่ะครับ” ป้องบอก
“แต่วันนั้นเค้าเดินแบบ” นาตาลีว่า
ณรงค์ เพ็ญ แดน ป้อง มองกอล์ฟอย่างแปลกใจ หมวดรูปงามรีบอธิบาย
“นายแบบไม่มา ทีมงานเลยขอให้ช่วยน่ะ”
“ขี้อาย แต่ไปเป็นนายแบบ น้านึกภาพไม่ออกเลย” เพ็ญยิ้มขำ
มิ้นหยิบมือถือ มาเปิดรูปกอล์ฟตอนเดินแบบให้เพ็ญดู
“รูปวันนั้นค่ะ”
เพ็ญดูรูปแล้วอึ้งๆ คาดไม่ถึง “หล่อมาก”
“หนูถึงชวนเค้า...” มิ้นท์บอก
“ขออนุญาตขัดจังหวะนะครับ สั่งอาหารก่อนแล้วค่อยคุยกันต่อดีกว่าเดี๋ยวจะหิว”
พร้อมกับว่า ณรงค์หันไปเรียกบริกรเชิงบอก บริการนำเอาเมนูมาให้ เนื้ออ่อน รอน และพวกเอม
“ตามสบายเลยนะครับ มื้อนี้ผมเป็นเจ้ามือเอง”
“ขอบคุณค่ะ”
เนื้ออ่อนยิ้มแย้มเปิดเมนูชวน รอน เอม มิ้น นาตาลี ดู
เพ็ญมองทางห้องน้ำร้อนใจ “ขอตัวซักครู่นะคะ”
เพ็ญลุกเดินออกไป
เคนเดินพล่านอยู่ในห้องน้ำชาย ครุ่นคิดหาทางออก
“หนีกลับ น้าเพ็ญกับพ่อต้องสงสัยหนักมาก” จู่ๆ มือถือเคนดังขึ้นเขากดรับ “ครับน้าเพ็ญ”
“น้ารู้นะว่าหนีหน้าหนูเอม”
“ไม่อยากรู้จักแต่ไม่จำเป็นต้องหนีหน้าเค้านี่ครับ ผมปวดท้องเข้าห้องน้ำจริงๆ เสร็จแล้วจะรีบออกไปนะครับ”
“น้ารออยู่หน้าห้องน้ำ จะรอจนกว่าเคนจะออกมา”
เคนครุ่นคิดร้อนใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา หยิบมือถือมาพิมพ์ข้อความลงในไลน์กรุ๊ป
ฝ่ายคุณเนื้ออ่อนมองกอล์ฟ แดน และป้องอย่างพิจารณา
“เอ้อ หน้าพวกผมมีอะไรผิดปกติเหรอครับ” ป้องถามงงๆ
“ไม่จ้ะ น้าแค่จะดูว่าคนไหนมีเค้าหน้าคุณรงค์บ้าง จะลองเดาดูน่ะว่าคนไหนลูกชายคนเดียวของคุณรงค์”
ณรงค์เอ่ยขึ้น “ไม่เหมือนผมหรอกครับ เหมือนไปทางแม่เค้า”
“เหมือนคุณรินเหรอคะ” เนื้ออ่อนเพ่งสายตามองกอล์ฟ แดน และป้อง ไปมา สุดท้ายชี้ที่กอล์ฟ “คนนี้ใช่มั้ยคะ”
ณรงค์ยิ้มขำกำลังจะตอบ เพ็ญเดินยิ้มร่าออกมากับเคนพอดี แดนเห็นก่อนใคร
“น้าเพ็ญมาแล้ว”
ทุกคนหันไปมอง เคนยิ้มแฉ่งไหว้เนื้ออ่อน และรอน
“สวัสดีครับ ผมชื่อเคนครับ”
“รู้แล้ว” เนื้ออ่อนบอก
“เจอกันหน้าห้องน้ำเลยเดินกลับมาด้วยกัน คนนี้ล่ะค่ะ...”
เพ็ญยังพูดแนะนำเคนไม่ทันจบ ก็ได้ยินเสียงแก้ว จาน ช้อน หล่นโครมคราม เมื่อหันไปมองก็เห็นป้องชักกระแด่วๆ มือกวาดของบนโต๊ะหล่นกระจาย แก้วน้ำล้มระเนระนาด หกใส่เนื้ออ่อน เต็มๆ
“ว้าย”
เพ็ญงงพอๆกับตกใจ “ตาป้อง”
ทุกคนตื่นตะลึงมองป้องอย่างตกใจ
“ลมชักกำเริบ” เคนร้องขึ้น
ไวเท่าความคิด เอมรีบเอาช้อนตรงหน้า ยัดใส่ปากป้องทันที
“กัดนี่ไว้นะคะจะได้ไม่กัดลิ้นตัวเอง”
เคนมองเอม อดยิ้มขำไม่ได้
แดนรีบบอก “รีบพามันไปโรงพยาบาล”
กอล์ฟ กะ แดน ช่วยกันหามป้องออกไป
“ฉันขับรถให้เอง พวกแกจะได้คอยจับมัน”
เคนรีบวิ่งนำออกไป
เพ็ญตะโกนตามหลัง “ส่งข่าวด้วยนะ”
เอม มิ้น นาตาลี เนื้ออ่อน รอน เพ็ญ และ ณรงค์ รวมทั้งคนในร้านมองอย่างตกใจ
เพ็ญมองเนื้ออ่อนอย่างรู้สึกแย่ๆ “เสื้อผ้าคุณเลอะหมดแล้ว ฉันพาไปห้องน้ำนะคะ”
เนื้ออ่อนเซ็งบอกว่า “กลับบ้านเลยดีกว่าค่ะ ทิ้งไว้นานจะซักไม่ออก ชุดนี้แพง เอ้อ รักมากน่ะค่ะ”
“แต่พวกเราเพิ่งกินไปนิดเดียว ยังไม่อิ่มเลย” รอนทัก
“ห่อกลับไปทานต่อที่บ้านสิคะจะได้ไม่เสียของ” เนื้ออ่อนบุ้ยใบ้กับเพ็ญ และ ณรงค์ “ใช่มั้ยคะ”
เพ็ญยิ้มขำเออออตามไป “ค่ะ”
ณรงค์ตามน้ำขำๆ “ตามสบายเลยครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
เนื้ออ่อนเรียกพนักงาน รอนมองเมียรักอย่างเหนื่อยใจ
เอม มิ้น นาตาลีมองเนื้ออ่อนพากันยิ้มขำในความงก
รอนถือถุงอาหาร ตามเนื้ออ่อนที่เดินบ่นบ้า เสียดายที่นัดบอดพังไม่เป็นท่า
“ทำไมโรคต้องมากำเริบตอนนี้ด้วยก็ไม่รู้”
“โรคอย่างนี้มันบอกไม่ได้หรอกว่าจะกำเริบตอนไหน”
“วันหลังชวนคุณกอล์ฟมาทานข้าวบ้านเราบ้างนะลูก” เนื้ออ่อนหันมาทางเอมิกา
เอมสงสัย “ทำไมต้องคุณกอล์ฟด้วยคะ”
“เค้าเป็นลูกคุณรงค์ หลานคุณเพ็ญ แม่กับคุณเพ็ญเป็นเพื่อนกัน ก็อยากให้รุ่นลูกเป็นเพื่อนกันด้วย”
รอนตั้งข้อสังเกต “คุณรงค์ยังไม่ได้บอกเลยว่าคุณกอล์ฟเป็นลูก”
“ในกลุ่มนั้นคุณกอล์ฟหน้าเหมือนคุณรินที่สุด ไม่ต้องบอก สายตาอันเฉียบคมของฉันก็รู้ว่าใช่ หน้าเป๊ะหุ่นเป๊ะที้สุด” เนื้ออ่อนเป็นปลื้มกอล์ฟเอามากๆ คิดว่าเขาเป็นลูกชายคุณณรงค์
เอม มิ้น นาตาลี ลอบมองอย่างรู้กัน
“แต่แม่ไม่เข้าใจ ลูกผู้ดีมีสกุลอย่างคุณกอล์ฟ ทำไมถึงไปเป็นเพื่อนกับผู้ชายขายตัวอย่างนายเคนได้”
“คุณกอล์ฟเพิ่งรู้ไม่นานนี้เองค่ะว่านายเคนเป็นขายตัว” นาตาลีบอก
เนื้ออ่อนโมโห “ฮึ หลอกลวงคนทั้งโลก หลอกกระทั่งเพื่อนตัวเอง เลวจริงๆ”
รอนบอกด้วยท่าทีเกรงใจว่า “คุณครับ ไปคุยต่อในรถเถอะครับ ลูกๆ หิวกันแย่แล้ว”
“ไปๆ”
เนื้ออ่อนรีบเดินไปที่รถ รอนส่ายหัวระอาเมีย แล้วเดินตามไป
เอมบอกกับเพื่อนๆ ว่า “คุณแม่หลอกให้ฉันมาเจอคุณกอล์ฟ”
“งานนี้เธอไม่ต้องตามใจคุณแม่ แต่ต้องตามใจฉัน คบกับเค้าเลยแล้วหลอกล่อให้เค้ามาเป็นเด็กในสังกัดฉันให้ได้” มิ้นบอก
“ก็ดูดีอะนะ แต่ฉันไม่มีฟีลลิ่งกับเค้าเลย เฉยสุด”
นาตาลีทักท้วงว่า “อาจจะไม่ใช่เธอคนเดียวก็ได้ที่ไม่ฟีล”
“หมายความว่าคุณกอล์ฟ ก็ไม่ฟีลกับยัยเอมเหรอ” มิ้นงง
“อือหือ เพราะเค้าฟีลกับเธอ” นาตาลีบอก
“เพ้อเจ้อแระ” มิ้นเถียง
“จริงจัง”
เอมนึกสนุก “หนุกๆ สตอรี่นี้หนุก กินข้าวเสร็จนอนบ้านฉัน คืนนี้เราจะถกประเด็นนี้กัน ฉันรับหน้าที่พิพากษาให้เอง”
มิ้น กะนาตาลี จ้องตากันอย่างไม่ใครยอมใคร
สามสาวอยู่ในชุดนอน มิ้น กับ นาตาลี นั่งข้างเตียงคนละฝั่ง เอมอยู่บนเตียงนั่งกลางถือค้อนการ์ตูนน่ารักๆ ทุบที่นอนชี้ที่นาตาลี
“เธอเป็นคนเปิดประเด็น ว่าก่อน”
“ตอนฉันสอนเดินแบบ เค้าไม่ฟังฉัน แต่มิ้นพูดไรเชื่อหมดฟังมิ้นทุกสิ่งอย่าง”
“ฉันแค่โน้มน้าวเก่ง เธอยังไม่รอดจนยอมมาเป็นแบบในสังกัดฉัน”
เอมทุบที่นอนตัดสิน “เห็นด้วย เหตุผลนี้ตกไป”
มิ้นมองนาตาลียิ้มเยาะให้
“เคร้ งั้นสายตา สายตาที่เค้ามองเธอ ไม่เหมือนที่มองฉันกับเอม”
“คิดไปเองรึเปล่าคะคู้ณณณณ อยากให้เพื่อนมีแฟน เห็นคุณกอล์ฟขาวตี๋มีออร่า เลยอยากส่งเสริม ความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ”
เอมทุบที่นอนตัดสินว่า “เป็นไปได้ ประเด็นนี้ไม่ผ่าน”
นาตาลีมองมิ้นอย่างแค้นใจรีบพูดต่อ
“นายเคนชวนคุณกอล์ฟมาบ้านเด็กกำพร้า แต่ไม่บอกว่าพวกเราไป ด้วยเพราะอยากเซอร์ไพร้ส์คุณกอล์ฟ นายเคนรู้ว่าคุณกอล์ฟชอบเธอ”
มิ้นสวนทันควัน “แล้วก็เป็นไปได้ที่จะเป็นเธอหรือ” และชี้ที่เอม “เธอ”
“แต่เค้าคุยกับเธอมากสุด” นาตาลีว่า
“เค้าขี้อาย ชอบคนไหนอาจจะไม่กล้าคุยกับคนนั้นก็ได้”
เอมทุบที่นอนอีก “เป็นไปได้”
“ไม่เข้าข้างฉันซักประเด็นเลยเหรอเนี่ย” นาตาลีมองค้อนเอม
“อยากให้เข้าข้างก็หาหลักฐานมาให้ศาลพิจารณาใหม่”
“เคร้ ฉันจะทำให้พวกเธอรู้ว่าฉันพูดจริง ไม่ได้ฟีลไปตามลำพัง”
“แต่ถ้าเธอฟีลลำพัง ฉันจะลงโทษเธอด้วยการจัดนัดบอด” มิ้นว่า
นาตาลีสวนกลับ “แต่ถ้าฉันถูก คนที่ต้องนัดบอดคือเธอ”
“จัดมา”
เอมทุบที่นอนอย่างร่าเริง “ปิดคดี”
ส่วนมิ้น กะนาตาลีมองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
---ตัด---
ฉาก8บ้านเคน/ในกลางคืนต่อเนื่อง
ตัวละครเพ็ญ/ณรงค์
ณรงค์นั่งดูข่าวช่อง8 เพ็ญคุยสายกับเคน
“อย่ามัวแต่ดูแลเพื่อนจนลืมดูแลตัวเองล่ะ” พอวางสายจึงหันมารายงานณรงค์ “ตาป้องปลอดภัยแล้วค่ะ หมอฉีดยาแล้วให้กลับบ้านได้ ตาเคนกำลังไปส่ง แล้วคืนนี้จะนอนเป็นเพื่อนป้องที่คอนโดค่ะ โชคดีจริงๆ ที่ถึงมือหมอทันเวลา”
“คุณเชื่อจริงๆ เหรอว่าป้องไม่สบาย”
“พี่รงค์คิดว่าเค้าแกล้งเหรอคะ”
“แก๊งนั้นมีกอล์ฟคนเดียวที่เชื่อถือได้ อีกสองคนนั่นน่ะกะล่อนปลาไหลไม่แพ้ตัวพ่ออย่างไอ้เคน ไม่งั้นหลอกศรีแล้วพาไอ้เคนออกจากบ้านไม่ได้หรอก”
เนื้ออ่อนยังไม่เชื่อนัก “แต่ป้องชักรุนแรงมากนะคะ ถ้าเล่นละครก็ถือว่าเก่งมาก”
“ระดับดาราออสการ์ยังต้องยอมพวกมัน คนกะล่อนทำได้ทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอด” ณรงค์บอก
“ตาเคนคนเดียวก็จับไม่ได้ไล่ไม่ทันแล้ว มีผู้ช่วยอีกตั้ง 3 งั้นเพ็ญคงไม่มีทางได้หนูเอมเป็นหลานสะใภ้” เพ็ญใจเสีย
“อย่าเพิ่งสิ้นหวังสิคุณ ไอ้เคนน่ะปลาไหลตัวพ่อแต่อย่าลืมว่าพี่เป็นพ่อของพ่อปลาไหล พี่จะช่วยคุณเอง เตรียมของขวัญไว้รับหนูเอมเป็นหลานสะใภ้ได้เลย”
คำปลอบของคุณณรงค์ทำให้คุณเพ็ญยิ้มได้
จริงดังที่คุณรรงค์ว่า เคน แดน และป้องชนแก้วเฮฮาสุดๆ อยู่ในผับประจำ ยกเว้นกอล์ฟที่รู้สึกผิดกับเพ็ญไม่หาย
“หมดแก้ว”
สามหนุ่มกระดกเหล้าหมดแก้ว เห็นกอล์ฟทำท่าเซ็งไม่มีอารมณ์ดื่ม เคนมองหมั่นไส้
“ไอ้แกะดำอีกแล้วนะมึง คนอื่นหนุกมึงเจื่อน เป็นระ”
“ไม่สบายใจที่โกหกคุณพ่อกับน้าเพ็ญ”
“มึงไม่ได้พูดอะไรซ้ากกกคำ จะรู้สึกผิดไปทำไม” แดนว่า
“อย่าซีเรียสนักเลยหลวงพี่ พวกเราชิ่งออกมาคุณพ่อกับน้าเพ็ญก็ไม่ได้เดือดร้อนซะหน่อย” ป้องบอก
“แต่ถ้าอยู่กูนี่แหละเดือดร้อน ร้านตั้งเยอะดั๊นมาป๊ะกันได้”
“น้าเพ็ญตั้งท่าจะแนะนำมึงให้พวกเค้ารู้จัก ป่านนี้พวกเค้าอาจจะรู้ความจริงจากน้าเพ็ญแล้วก็ได้” กอล์ฟว่า
“ถ้ารู้คุณเอมต้องโทร.มาด่ากูแล้วที่หลอกเค้า จะว่าไปคุณเอมก็สติดีสุดนะ พอมึงชักเอาช้อนมาให้คาบเลย”
“ไม่ใช่หมานะพี่ เรียกว่าเอามาให้กัดมั้ย”
เคน กะแดน หัวเราะขำ
กอล์ฟยังรู้สึกผิดไม่คลาย เคนไม่อยากให้เพื่อนเครียดบอกว่า “ถ้ามึงยังไม่เลิกเศร้าแล้ว กินเหล้ากับกู กูไม่ช่วยเรื่องคุณมิ้นนะ”
“ไม่ช่วยก็อย่าช่วย กูคิดออกแล้วว่ากูจะใกล้ชิดเค้าได้ยังไง กูจะเป็นนายแบบในสังกัดเค้า”
เคนด่า “สิ้นคิด”
สามหนุ่ม มองเคนงงๆ
“มึงบอกเค้าเองว่าจะช่วยพูดกับกู”
“ต่อหน้าเค้ากูก็ต้องบอกอย่างนั้นดิ”
“อยากเห็นหน้าก็หาเรื่องเจอ ไอ้กอล์ฟมันก็คิดถูกแล้วนี่หว่า” แดนว่า
“ราคาถูกดิไม่ว่า ของที่ได้มาง่ายเค้าจะเห็นค่าได้ไง ทำให้ตัวเองดูแพงเข้าไว้ ได้ยากๆ เค้าจะได้เห็นคุณค่ารักษาไว้นานๆ กูบอกเลยว่าถ้ายอมง่ายๆ มึงก็จบแค่เป็นเพื่อนร่วมงาน ไปไม่ถึงแฟน” พ่อปลาไหลสาธยาย
“แล้วกูต้องทำยังไง”
“กินเหล้ากับกูแล้วกูจะบอก”
กอล์ฟชูแก้วเรองร่าเวอร์ “หมดแก้ว”
“มันต้องอย่างนี้ เอ้า โช้นนนนน”
สี่หนุ่มชนแก้วกระดกรวดเดียวหมด แดนนึกสงสัยเรื่องแผนเคน
“แล้วมึงล่ะ ผ่านสเต็ป 1 หลอกให้ออกเดทไปแล้ว สเต็ป 2 ยังไงต่อ”
“เข้าให้ถึงพ่อแม่”
เคนยิ้มเจ้าเล่ห์มีแผนเรียบร้อย
เช้าวันใหม่ เอม เนื้ออ่อน รอน นั่งดื่มกาแฟรับอรุณอยู่ด้วยกัน
“ไม่ได้ไปบ้านสวนกันนานแล้ว หาเวลาไปกันหน่อยดีมั้ย ตื่นเช้ามาจะได้กินกาแฟมองวิวสวยๆ สูดอากาศบริสุทธิ์กันบ้าง” รอนปรารภขึ้น
“แบบเสื้อผ้าของเอมใกล้เสร็จแล้ว วันนี้จะส่งแบบให้ช่าง ถ้าไม่มีปัญหาเอมจะมีเวลาว่างสามสี่วันค่ะ”
“บ้านสวนมีแต่ต้นไม้กับคนงาน ตะวันตกดินก็เงียบอย่างกับป่าช้า ไปกัน 3 คนเหงาตาย ชวนมิ้นกับนาตาลีไปด้วยสิจ๊ะ สองคนนั้นคุยสนุกพวกเราจะได้ไม่เหงา” เนื้ออ่อนออกไอเดีย
“จะลองชวนดูนะคะ”
แล้วสามคนพ่อแม่ลูกก็ต้องตกใจ เมื่อได้ยินเสียงดังโครมใหญ่ที่หน้ารั้วบ้าน ทุกคนหันไปมองเห็นรถยนต์เก่าๆ คันหนึ่งติดอยู่ที่รั้ว เอม เนื้ออ่อน รอน รีบวิ่งออกไปดู
เป็นวิชัยที่เปิดประตูรถลงมาในท่าทีมึนงง สมบูรณ์ ฉวี ชั้น วิ่งหน้าตื่นตามมาสมทบ รอนรีบเปิดประตูเล็กไปดูวิชัย
“เป็นอะไรมากรึเปล่าคุณ”
“หัวกระแทกพวงมาลัยนิดหน่อย ไม่เป็นไรครับ” วิชัยบอก
“แต่รั้วฉันเป็น เป็นมากด้วย คุณต้องชดใช้ค่าเสียหาย เรียกประกันมา” เนื้ออ่อนโวยวาย
“ไม่มีครับ แต่มีเงิน” วิชัยหยิบเงินมา 500 บาท ยื่นให้ “นี่ครับ ค่าเสียหาย
เนื้ออ่อนยิ่งโมโห “500 เนี่ยนะ คิดได้ยังไง ประตูคด สีถลอก ค่าซ่อมอย่างต่ำก็ต้อง 20,000”
วิชัยร้องเสียงหลง “20,000 คนจนๆ ไม่มีงานทำอย่างผมไม่มีหรอกครับ”
“เงินก็ไม่มี ประกันก็ไม่มี งั้นฉันก็คงไม่มีอะไรต้องตกลงกับคุณ ชั้น สมบูรณ์ จับตัวไว้ ฉวี ไปโทร.แจ้งตำรวจ”
“โดนจับทางบ้านผมก็ไม่มีเงินประกันตัว อย่าให้ผมต้องติดคุกเลยครับ”
“ฉวีไม่ต้อง” รอนห้ามไว้ แล้วหันมาทางเนื้ออ่อนเชิงหารือ “ตกลงกันเองก็ได้มั้งคุณ”
“ถ้าจะแนะนำให้ฉันต้องขาดทุนละก็ หยุดเลย”
“เค้าติดคุก เราก็ต้องเสียค่าซ่อมเองทั้งหมดนะคะ” เอมทักท้วง
“ถึงจะจนแต่ผมก็มีความรับผิดชอบ ผมจะเรียกหลานผมมาซ่อมให้ มันเป็นช่างฝีมือดี รั้วคุณจะกลับมาสวยเหมือนเดิม” วิชัยบอก
เนื้ออ่อนชั่งใจ “ก็ได้ แต่ถ้าซ่อมไม่เหมือนเดิม ฉันจะเอาคุณเข้าคุก”
วิชัยไหว้ “ขอบคุณครับคุณนาย”
วิชัยมองเนื้ออ่อนท่าทีหวาดๆ แล้วรีบกดโทรศัพท์พูดสายกับใครบางคนแป๊บเดียวก็วางสาย
“หลานผมมาทำงานแถวนี้พอดีไม่เกิน 5 นาทีถึงครับ”
เนื้ออ่อนมองวิชัยอย่างอารมณ์เสีย
เวลาผ่านไปเล็กน้อย เอม เนื้ออ่อน และรอน นั่งรออยู่ที่โต๊ะสนาม พวกสมบูรณ์ ชั้น ฉวี คอยดูแล ช่วยกันกางร่มกันแดดให้ วิชัยนั่งแหมะกับพื้นที่หน้ารั้ว
สักครู่หนึ่ง มีวินมอเตอร์ไซค์วิ่งมาจอดเทียบอย่างรวดเร็ว ชายคนหนึ่งในชุดช่างถือกล่องอุปกรณ์ช่างสวมหมวกกันน็อคนั่งซ้อนท้ายมาด้วยก้าวลงมามาดอย่างเท่
เมื่อถอดหมวกกันน็อกออกจึงเห็นว่าเป็นเคน
“สวัสดีคร้าบ”
สมบูรณ์ยิ้มแก้มแตกดีใจมาก “พี่เคน”
ทุกคนมองเคนอย่างตกใจ เคนยิ้มแฉ่งมาหยุดที่เอมิกา อีกฝ่ายมองค้อนด้วยความหมั่นไส้
เคนเดินมามองประตูรั้วอย่างพิจารณา
“เคาะให้ตรงแล้ว ขัดแล้วทาสี แค่นี้ก็จบ มันกล้วยมาก”
เอม เนื้ออ่อน และรอน มองเคนในมาดช่างซ่อมรั้วอย่างแปลกใจ
เนื้ออ่อนงงสุดๆ “ขายตัว ซ่อมเคเบิ้ล เป็นหุ้นบริษัทอีเว้นท์ เป็นเพื่อนคุณกอล์ฟ เป็นช่างก่อสร้าง นายทำทุกอาชีพเลยเหรอ”
“อะไรที่ได้เงินผมทำทุกอย่าง”
สมบูรณ์ยิ้มแต้ “ขยันทำมาหากิน รักเลย”
ฉวีหมั่นไส้ “อย่าออกนอกหน้าให้มากนัก”
“สมัยนี้ไม่รักนะ แต่ไม่แสดงออกก็อดสิแม่” สมบูรณ์เถียง
“จริงครับ” เคนยิ้มให้
ถูกเนื้ออ่อนเอ็ดเอา “อย่าทะลึ่งกับคนในบ้านฉัน”
ชั้นมองเคนอย่างไม่พอใจ
“ให้มันรีบซ่อมเถอะครับ จะได้รีบๆ ไป”
“งั้นผมไปซื้อของก่อนจะได้รีบซ่อมรีบไป อย่างที่ใจคุณชั้นต้องการ”
“นายต้องใช้ของอะไรบ้าง” เนื้ออ่อนถามขึ้น
ไม่นานต่อมา ชั้นเอากระป๋องสีวางลงตามคำสั่งเนื้ออ่อน
“สี”
ทุกคนยืนมุงอยู่หน้าห้องเก็บของหลังบ้าน สมบูรณ์ยื่นกล่องใส่แปรง กระดาษทราย ปูน ไปตรงหน้าเคน
มีเนื้ออ่อนคอยสาธยาย “กระดาษทราย แปรงทาสี ปูน ของทุกอย่างที่นายต้องใช้”
สมบูรณ์เสริมว่า “เหลือจากที่ซ่อมบ้านเมื่อปีที่แล้วจ้ะ”
“เอาของมาให้ด้วย น้ำใจงามจริงๆ” เคนยิ้มย่อง ไหว้เนื้ออ่อน “ขอบคุณครับ”
ขณะที่เคนรับกล่องมาจากสมบูรณ์ เนื้ออ่อนบอกขึ้นว่า
“ทั้งหมด 1 พันบาทถ้วน”
เคนสะดุ้ง ปล่อยกล่องของหลุดจากมือ
“หา เอามาขายต่อเหรอ”
“เก็บไว้ไม่มีประโยชน์ ก็ต้องเอามาทำให้เกิดมูลค่า จ่ายมาพันนึง” เนื้ออ่อนบอก
“ของหมดนี่ผมไปซื้อใหม่อย่างมากก็ไม่เกิน 400 ของเก่าๆ จะเอาตั้งพันโหดไปนะครับคุณนาย”
“รถไม่ได้เติมน้ำนะยะ ฉันก็ต้องบวกค่าน้ำมันบ้าง” เนื้ออ่อนว่า
“ของเก่าของเก็บ อย่าไปคิดเค้าแพงนักเลย” รอนบอก
เนื้ออ่อนขึงตาใส่ “ทำตัวเป็นทนายหน้าหอเข้าข้างมัน อยากเดือดร้อนใช่มั้ย”
รอนจ๋อยสนิท “ไม่จ้ะ”
เคนเห็นรอนทำท่ากลัวเมียก็ยิ้มขำ หันมากระซิบกับเอมว่า
“ช่วยพูดกับคุณนายให้ลดราคาหน่อยสิครับ”
“ฉันไม่จำเป็นต้องช่วยนาย”
ชั้นหัวเราะคิกคักสะใจ
“เฮ้อ แล้งน้ำใจ” เคนต่อราคากับเนื้ออ่อนว่า “เต็มที่ 500”
“ต่อครึ่งนึงเลยเหรอ”
“ไม่ได้ ผมจะออกไปซื้อที่ร้านได้ของใหม่ด้วย”
“550” เนื้ออ่อนบอก
สมบูรณ์กระซิบกับแม่ “50 บาทก็ยังจะเอา”
ฉวีตบหัวลูกแล้วกระซิบตอบ
“ก็รู้อยู่แล้วว่าคุณนายน่ะทะเลเรียกแม่ บาทนึงยังไม่กระเด็น จะพูดให้โดนด่ารึไง”
“ที่แม่พูดเนี่ย ยิ่งกว่าฉันอีก”
ฉวีได้สติรีบปิดปากสนิท
“โอเค จัด” เคนหยิบเงินให้ เนื้ออ่อนรับเงินมายิ้มแฉ่ง
รอน กะ เอม มองเนื้ออ่อนอย่างระอาใจในความงก
เนื้ออ่อนกำชับชั้นว่า “เฝ้าไว้ ทำงานเสร็จแล้วบอกด้วย ฉันจะมาตรวจงานไม่เรียบร้อยจะให้ทำใหม่”
จากนั้น เนื้ออ่อน ก็เดินเข้าบ้านไป พร้อมเอม และ รอน
เคนมองตามเอมยิ้มเบิกบานมีความสุข
ฟากมิ้น กะนาตาลี นั่งดื่มกาแฟ เช็คข่าวโซเชี่ยล อยู่ที่คอนโด
“วันนี้ฉันว่าง ไปไหนกันดี” นาตาลีเอ่ยขึ้นในจังหวะหนึ่ง
“แล้วแต่คุณเลยค่ะ เพราะดิฉันไม่ว่าง ต้องไปตามตื๊อผู้ชาย”
“ไปหาคุณกอล์ฟเหรอ”
“โทร.คุยหลายรอบแล้วไม่ยอมซะที ต้องไปเป่าคาถาใส่ต่อหน้าจะได้ยอม”
“ไปด้วย”
“จะหาหลักฐานมาเอาชนะฉันเหรอ”
“ชัวร์ ฉันไม่ใช่พวกยอมแพ้ง่ายๆ”
มือถือมิ้นดังขึ้น เธอกดรับ คุยสายอย่างหนิดหนม
“ไฮ้ พี่ต่อ มีอะไรให้มิ้นรับใช้คะ นาตาลีเหรอคะ ว่างพอดีเลยค่ะ ได้ค่ะ พี่ไลน์รายละเอียดมาเลย อ้อ เงื่อนไขเดิมนะคะรับเงินสดไม่หักภาษี”
มิ้นวางสาย ยิ้มบอกนาตาลีว่า “เธอไปไม่ได้แล้วล่ะ มีงานด่วนเงินดีรับให้แล้ว
“สกัดคู่ต่อสู้เหรอ”
“ไม่เคยกลัวต้องสกัดทำไม เลือกมาเลยว่าฉันหรือเงิน”
“ไม่ต้องคิดเลย เงิน”
สองสาวหัวเราะขำ
ขณะที่หมวดกอล์ฟนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะบนโรงพัก มิ้นก็เดินตรงเข้ามาหา ทักทายด้วยน้ำเสียงอันร่าเริง
“เฮลโล่ คุณตำรวจ”
“คุณมิ้น” กอล์ฟยิ้มกว้างดีใจมาก แต่พอฉุกคิดบางอย่างได้ ก็ตกใจ “มีอะไรรึเปล่า หรือโดนกระชากกระเป๋าอีก”
“ครั้งเดียวก็เกินพอมะ ผ่านมาเลยเอาเอกสารมาให้เซ็นน่ะ”
กอล์ฟงง “เอกสาร”
มิ้นยื่นสัญญาให้
“สัญญาเข้าเป็นเด็กในสังกัด”กอล์ฟยิ้มขำรับมา แล้วยื่นคืนมิ้น “ผมไม่สนใจจริงๆ ครับ”
“ฉันรู้ว่าระดับลูกชายเจ้าสัวณรงค์อย่างคุณไม่สนใจเงินทองหรอก แต่คุณน่าจะสนใจชื่อเสียงนะ มันช่วยต่อยอดธุรกิจให้คุณได้”
“นี่คุณคิดว่า” กอล์ฟนึกได้ เลยรับสมอ้างไป “ใช่ครับ ผมไม่เคยสนใจเรื่องเงิน แล้วก็ไม่เคยสนใจชื่อเสียงด้วย”
“เพราะงี้คุณถึงไม่ยอมออกสื่อ ถึงไม่มีใครเคยเห็นรูปคุณในงานสังคมไหนเลย”
“ครับ”
“ถามตรงๆ เลยนะ ฉันต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมเข้าสังกัดฉัน”
กอล์ฟมองมิ้นยิ้มเขินๆ ครุ่นคิดถึงคำพูดเคนในผับเมื่อคืน
“ผู้หญิงทุกคนชอบเอาชนะ สเตป 1 หาเกมให้เล่นให้ชีวิตเค้ามีสีสัน เค้าจะได้ประทับใจในตัวแก”
“เหมือนที่มึงแกล้งขโมยไฟล์งานคุณเอมน่ะเหรอ”
“ประมาณนั้น”
กอล์ฟดึงความคิดกลับมาโพล่งขึ้นว่า “เอาชนะผมให้ได้”
มิ้นมองแปลกใจ
สองคนอยู่ที่สนามยิงปืนด้วยกัน กอล์ฟใส่แว่นตาที่ครอบหู ยิงปืนรัวๆ มาดเท่มากๆ เป้ายิงถูกดึงเข้ามา
มิ้นใส่ที่ครอบหูยื่นหน้าเข้ามาดู เห็นเข้าเป้าทุกนัด กอล์ฟยิ้มพอใจ
มิ้นถอดที่ครอบหูแล้วพูดกับกอล์ฟอย่างหงุดหงิด
“แม่นอย่างนี้ฉันจะชนะได้ยังไงละคะคู้ณณณ”
“คุณว่าไงนะ”
มิ้นถอดที่ครอบหูของกอล์ฟออก กอล์ฟมองมิ้นที่เข้ามาใกล้ๆ ด้วยหัวใจระทึก ตื่นเต้นมีความสุข
“ฉันบอกว่าแม่นอย่างนี้ฉันจะชนะได้ยังไงละคะคู้ณณณ”
“ตอนผมบอกว่าแข่งยิงปืนคุณบอกกล้วยมาก”
“ไม่คิดว่าคุณจะแม่นหนักมาก”
“เป็นตำรวจไม่แม่นจะยิงผู้ร้ายโดนได้ยังไง”
“ก็ไม่ใช่ตำรวจทุกคนนี่ที่ยิงแม่น”
กอล์ฟยิ้มขำ “ยอมแพ้ตอนนี้เลยมั้ย”
“ไม่มีทาง”
“งั้นก็...”
กอล์ฟผายมือไปที่แท่นยิง
เวลาผ่านไปอีกหน่อย มิ้นยิงปืนด้วยท่าทางมั่นใจ 3 นัดซ้อน ปัง ปัง ปัง
พอดึงเป้าเข้ามาดู กระสุนไม่เข้าเป้าซักนัด กอล์ฟยื่นหน้าเข้ามามองเป้า แล้วหัวเราะขำ ถอดที่ครอบหูมิ้นถอดตาม
“คุณแพ้แล้ว”
“ยังเหลืออีกหลายนัด ถ้าเข้าจุดสำคัญฉันก็มีโอกาสชนะคุณ”
“3นัดแรก ไม่เข้าซักนัด ถ้ามั่นใจว่าที่เหลือจะเข้าทุกนัดก็เชิญต่อเลย”
มิ้นมองกอล์ฟยิ้มๆ กดปุ่มให้เป้าเลื่อนเข้าที่ สวมที่ครอบหูเล็งปืนยิงรวดเดียวหมดแม็ก แล้วดึงเป้าเข้ามาหยิบยื่นให้กอล์ฟ คราวนี้กระสุนเข้าหัวทุกนัด
กอล์ฟคาดไม่ถึง “เฮ้ย ทำไมจู่ๆ แม่นขึ้นมาได้”
“แม่นมาตลอด แค่หลอกให้คุณดีใจว่าจะชนะ ฉันจะไปหยิบสัญญาที่ล็อกเกอร์ ไปรอที่ร้านกาแฟแล้วเตรียมปากกาไว้ด้วย”
มิ้นเดินหัวเราะออกไป กอล์ฟมองมิ้นที มองเป้าในมือที อึ้งสุดขีด ยิ่งประทับใจในตัวมิ้นเป็นทวีคูณ
ฟากเคนใช้อุปกรณ์ดัดซี่รั้วให้ตรง ใส่หูฟัง ฟังเพลงจากโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดีแอบมองรอนที่ดูแลต้นไม้อย่างสังเกต ชั้นที่นั่งเฝ้าอยู่มองหมั่นไส้เดินไปหาดึงหูฟังออก
“น้องสมบูรณ์เป็นแฟนฉัน” ชั้นเอ่ยขึ้น
“แต่น้องเค้าบอกว่าไม่ใช่”
ชั้นหัวร้อนขึ้นทันที “แกคุยกับน้องสมบูรณ์เหรอ ที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง”
เคนหลอกถามข้อมูลรอน “คุณผู้ชาย ชอบต้นไม้เหรอ”
“เกี่ยวอะไรกับแก” ชั้นพาล
“งั้นเรื่องผมกับสมบูรณ์ก็ไม่เกี่ยวกับคุณ”
ชั้นหงุดหงิด ตอบอย่างรำคาญๆ “เออ คุณผู้ชายชอบต้นไม้ อยู่กับต้นไม้ได้ตั้งแต่เช้ายันเย็น”
“ต้นไม้แบบไหน”
“ไม้ดอก ไม้ผล ชอบหมด ตอบคำถามฉันได้แล้ว”
“คุยกับสมบูรณ์ที่ไหน ทุกที่ เมื่อไหร่เช้า สาย บ่าย ค่ำ ทุกเวลา ยังไง ก็ไลน์คุยกัน จบข่าว พอใจรึยัง”
ชั้นหูผึ่ง “แล้วคุยอะไรกันบ้าง”
“ผมเป็นสุภาพบุรุษ คุยกับผู้หญิงแล้วมาเล่าต่อมันไม่แมน อยากรู้มากกว่านี้คุณไปถามน้องเค้าเองดีกว่า”
เคนตัดบทไม่อยากตอบ เสียบหูฟังฟังเพลงต่อ ชั้นมองตาขวางไม่พอใจ กลับไปนั่งเฝ้าต่อ
เคนลอบมองรอนอย่างจับสังเกต
เอมนั่งทำงานบนไอแพดอยู่ในโถงบ้าน คุณเนื้ออ่อนหาข้อมูลกอล์ฟในกูเกิ้ลแต่ต้องแปลกใจ
“แปลก ไม่มีประวัติคุณกอล์ฟให้อ่านเลย”
“หลอกให้ไปเจอ เช็คประวัติ คุณเจตน์คนเดียวยังไม่พออีกเหรอคะถึงจะให้เอมไปเดทกับคุณกอล์ฟอีก”
“แหม รู้ทันตลอดๆ ฟังแม่นะ เอมน่ะเพียบพร้อมทุกอย่างหน้าตา การศึกษา ฐานะ เกิดมาสวยเลือกได้ก็ต้องใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ เหนื่อยตอนเลือกดีกว่าเลือกแล้วเหนื่อยทีหลังนะลูก”
“แต่เอมอยากเลือกเอง”
“แม่ให้เอมเลือกเองอยู่แล้ว แต่ต้องเลือกคนที่แม่หาให้...งานแฟชั่นของลูกแม่อยากให้ลูกเชิญคุณกอล์ฟมาเป็นนายแบบกิตติมศักดิ์ด้วย”
“เค้าก็บอกแล้วว่าขี้อาย ไม่มาหรอกค่ะ”
“งั้นแม่เอง แม่เป็นเพื่อนคุณเพ็ญเค้าต้องเกรงใจแม่”
“ถ้าเค้าไม่มา น้าเพ็ญก็ต้องลำบากใจ อย่าไปรบกวนน้าเพ็ญเลยค่ะ เอมจะชวนเค้าเอง”
“แม่นัดให้นะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ มิ้นกำลังตื๊อคุณกอล์ฟมาเป็นนายแบบ ต้องไปเจอบ่อยๆ เอมไปหาคุณกอล์ฟพร้อมมิ้นก็ได้ค่ะ”
“ได้ยินว่าจะไปหาก็ชื่นใจแล้ว รายงานผลด้วยนะ”
“ค่า”
เนื้ออ่อนยิ้มร่าสมใจ
เคนซ่อมรั้วไปแอบจับสังเกตรอนไป จนรอนรู้สึกตัวเหมือนมีคนมองจึงหันไปดู แต่เคนรีบหันไปมองรั้วชั้นมองเคนอย่างหมั่นไส้ไม่ชอบขี้หน้า สมบูรณ์เดินเข้ามาหา
“พี่ชั้น แม่เรียก”
“มันยอมรับแล้วว่าคุยกับสมบูรณ์ คุยอะไรกัน”
“ไม่ใช่เรื่องของพี่ปะ ยุ่งเรื่องส่วนตัวฉันมากๆ ฉันจะไม่พูดกับพี่อีกเลย”
ชั้นไม่กล้าถามต่อ “แล้วน้าฉวีเรียกพี่ทำไม”
“ให้ช่วยยกของมั้ง ไปเถอะฉันเฝ้าให้เอง”
“อย่าคุยกับมันมากนักล่ะ เดี๋ยวจะโดนมันหลอก”
ชั้นเดินหน้าบูดออกไป สมบูรณ์ยิ้มสมใจรีบวิ่งไปหาเคน
“พี่เคน ไปทางโน้นกับฉันหน่อย”
“ไปทำอะไรจ๊ะ”
“แค่ได้ยินคำพูดหวานๆก็สะท้านไปถึงหัวใจ...ไปเถอะน่า”
สมบูรณ์เดินลากเคนไปทางหนึ่ง
เนื้ออ่อนออกมา เห็นเคนเดินตามสมบูรณ์ไปพอดี
“นายเคนเดินตามสมบูรณ์ไป”
“หรือนายนั่นจะหลอกอะไรสมบูรณ์”
เอมลุกเดินออกไป เนื้ออ่อนรีบตาม
ฉวีนั่งทำงานอยู่ในครัว จนชั้นเดินเข้ามาหา
“น้าหวี จะให้ช่วยยกอะไร”
“นั่นน่ะสิ ให้ช่วยยกอะไร” ฉวีย้อนเอา
ชั้นงง “อ้าว สมบูรณ์ไปตามฉันบอกว่าน้าให้มาช่วยยกของ”
“มันโกหกแกแล้วล่ะ”
ชั้นหัวร้อนโมโหเคน “ไอ้หน้าขาวนั่นแน่ๆ ที่สอนให้น้องสมบูรณ์โกหก”
“ไอ้หน้าขาวไหน”
“ไอ้เคนไงน้า มันบอกฉันเองว่าไลน์คุยกับสมบูรณ์วันละสี่เวลา ฉันหวั่นใจจริงๆ ว่าน้องสมบูรณ์จะเสียท่าเสียเงินเสียตัวให้มัน ท่าทางจะหลงมันมากไม่งั้นคงหลอกให้ฉันมาหาน้าเพื่อจะได้มีเวลาคุยกับสองต่อสองหรอก”
ฉวีขึ้นเลย “เห็นคนหล่อ นองอกขึ้นมาเลย...คุณเอมห้ามนักห้ามหนาว่าไม่ให้ยุ่งก็ยังจะยุ่ง ฉันจะไปลากคอมันเข้ามาเอง”
ฉวีวางงานแล้วรีบออกไป ชั้นรีบตาม
สมบูรณ์เดินนำเคนมามุมหนึ่ง มองรอบๆ อย่างระแวดระวังแล้วหยิบแก้วน้ำหวานส่งให้
“ฉันชงมาให้”
“ขอบคุณครับ พี่เพิ่งเจอคนสวยน้ำใจงามตัวเป็นๆ ก็วันนี้” เคนหว่านเสน่ห์
“รีบกินก่อนที่จะมีใครมาเห็นเถอะจ้ะ”
เคนยิ้มกรุ้มกริ่ม “ใส่ยาเสน่ห์รึไง ถึงอยากให้รีบกินจะได้หลงเสน่ห์สมบูรณ์เร็วๆ ใช่ปะ”
“ฉันมียาเสน่ห์แบบนั้นจริงๆ ก็ดีน่ะสิ จะ” สมบูรณ์กอดแขนเคน “จับตัวพี่ไว้ไม่ให้ไปไหนเลย”
ฉวี กะชั้นเดินเข้ามาเห็นสมบูรณ์กอดแขนเคน
“ตายแล้วนังสมบูรณ์”
เคน กะสมบูรณ์มองฉวีอย่างตกใจ
“แกลวนลามน้องสมบูรณ์ของฉัน”
ขาดคำ ชั้นกระโจนเข้าต่อยเคนจนหน้าหงายเลือดกำเดาไหล
“โอ๊ย”
“พี่เคน” สมบูรณ์โมโหต่อว่าชั้นอย่างโกรธจัด “เห็นชัดๆ ว่าฉันเป็นฝ่ายจับแขนพี่เคน ยังกล่าวหาว่าเค้าลวนลามฉัน พี่หาเรื่องทำร้ายพี่เคน พี่มันไอ้อันธพาล”
ชั้นชักโมโห “หลงมันมากจนกล้าว่าพี่แรงๆ อย่างนี้เลยเหรอ”
“ก็พี่เป็นอันพาลจริงมั้ยล่ะ”
เอม เนื้ออ่อน และรอน เดินเข้ามาสมทบ
“มีเรื่องอะไรกัน”
รอนเห็นสภาพเคนก็ตกใจ “เฮ้ย ทำไมเลือดท่วมอย่างนั้น”
“พี่ชั้นต่อยพี่เคนค่ะ” สมบูรณ์ฟ้อง
“มันหลอกให้สมบูรณ์เอาน้ำหวานมาให้มันกินครับ” ชั้นฟ้องกลับ
“ไม่ได้ให้กินนะคะ สมบูรณ์มากรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรค่ะ”
เนื้ออ่อนดักคอ “กรวดด้วยน้ำหวานเลยเหรอ”
“หมอดูบอกว่าใช้น้ำหวานกรวดเจ้ากรรมนายเวร จะรับเร็วกว่าน้ำธรรมดาน่ะค่ะ”
เนื้ออ่อนแบมือ “จ่ายมา”
สมบูรณ์ควักเงินออกมา 20 บาท “น้ำเปล่าแก้วละ10 น้ำหวาน 20”
แล้วยื่นเงินให้เนื้ออ่อน “สมบูรณ์สงสารที่พี่เคน ตากแดดออกแรงทำงานเลยเอามาให้น่ะค่ะ สมบูรณ์เลี้ยงพี่เคนเองค่ะ
“กินน้ำก็คิดเงินเหรอ” เคนอึ้งปนทึ่ง
“เฉพาะคนที่ใม่ใช่แขกของบ้าน” เนื้ออ่อนบอก
“เดือนๆ เงินแทบไม่พอใช้ แต่หน้าใหญ่ใจโตเลี้ยงน้ำผู้ชาย แกคิดอะไรของแก” ฉวีโมโห
“สมบูรณ์คงไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่คงโดนตานี่พูดจาหลอกล่อให้เอามาให้” เอมมองหมั่นไส้เคน
“ผมยังไม่ได้คุยกับสมบูรณ์เลย แล้วจะคุยกันอีกนานมั้ย จะปล่อยให้เลือดผมไหลหมดตัวจนตายตรงนี้รึไง ห้ามเลือดให้ผมก่อนมั้ย”
“สมบูรณ์...” สมบูรณ์จะอาสา เอมห้ามไว้
“ไม่ต้อง ผู้หญิงเข้าใกล้นายนี่แล้วอันตรายให้ผู้ชายทำ”
เคนบ่น “คุณชั้นได้ฆ่าผมให้ตายคามือ”
“ฉันเอง” รอนบอก
เคนนั่งอยู่ที่เก้าอี้สนาม รอนใส่ถุงมือ ถือสำลีจะเช็ดเลือดให้เคน แต่กลัวเลือดมือไม้สั่น
เคนอดทักไม่ได้ “เอ้อ ไหวนะครับ”
“เรื่องเล็ก”
รอนมองเลือดแล้วเวียนหัว วิ่งไปอ้วก เคน เอม และเนื้ออ่อนตกใจ
“คุณพ่อ เห็นเลือดเยอะๆ คงขยะแขยงจนคลื่นไส้ คุณแม่ไปดูคุณพ่อเถอะค่ะ ทางนี้เอมจัดการเอง”
เนื้ออ่อนรีบไปดูรอน เอมหยิบถุงมือมาใส่
เคนยิ้มร่าดีใจ “คุณจะทำแผลให้ผมเหรอ”
“ในบ้านนี้คงมีฉันคนเดียวที่ทำได้ หรือนายจะทำเอง”
เคนยิ้มเจ้าชู้กรุ้มกริ่ม “คุณทำให้แผลผมจะหายเร็วกว่านะครับ”
เอมมองเคนหมั่นไส้
เอมทำแผลให้เคนด้วยความหมั่นไส้ จงใจเช็ดแผลแรงๆ
“โอ๊ยยยย เบาๆ สิคุณ”
“ฉันมือหนัก ช่วยไม่ได้ นายชั้นเอาเลือดชั่วออกจากตัวนายแล้ว หวังว่านิสัยจะดีขึ้นแล้วเลิกหลอกสมบูรณ์ซะทีนะ”
“เฮ้อ ทำไมถึงชอบใส่ร้ายว่าผมหลอกใครต่อใครอยู่เรื่อย”
“สมบูรณ์กลัวคุณแม่จะตาย ไม่โดนนายหลอกคงไม่กล้าเอาน้ำมาให้”
“เค้าก็แค่สงสาร กลัวผมหิวน้ำ แล้วคุณล่ะ ผมโดนคนของคุณต่อย สงสารผมบ้างมั้ย”
เอมแกล้งกดแผลแรงๆ “สงสารมาก”
“โอ๊ย”
เคนจับมือเอมไว้ เอมมองเคนอย่างไม่พอใจ
“แต๊ะอั๋งฉันเหรอ”
“เลือดอุดจมูกจนแทบหายใจไม่ออกคงมีอารมณ์หรอก แค่จะให้คุณหยุด ผมเจ็บ”
“ทนไม่ได้ก็ทำเอง”
“ทนได้ครับทนได้ ทำต่อนะ” เคนประสานมืออ้อนวอน “ได้โปรด”
เอมมองหมั่นไส้ แล้วทำแผลให้เคนต่อ
ระหว่างนี้เจตน์ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านพอดี มองมาเห็นเอมทำแผลให้เคนก็มองไม่พอใจ
เอมกำลังทำแผลให้เคน เจตน์เดินเข้ามาไม่พอใจ แกล้งตีสีหน้าสงสัย
“อ้าว คุณนี่เอง”
“คนที่ช่วยชีวิตคุณ” เคนประชดกลายๆ
“ผมเป็นคนจับตัวมัน ผมต่างหากที่ช่วยชีวิตคุณ”
เคนไม่อยากมีเรื่อง “เคร้ คุณเป็นฮีโร่”
เอมมองเจตน์อย่างเบื่อหน่าย
“แล้วนี่เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมคุณต้องทำแผลให้เค้าด้วย”
“อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะค่ะ” เอมบอกเคนว่า “เลือดหยุดแล้ว นายไปทำงานต่อได้”
“ขอบคุณมากนะครับ” เคนหันไปทางเจตน์ “แฟนคุณมือคุณนุ้มนุ่ม เอ๊ย มือเบ๊าเบา ทำแผลให้ผมงี้เคลิ้ม”
เจตน์มองเคนตาขวาง เอมหมั่นไส้
“ถ้ายังไม่หยุดปากมาก ฉันจะเรียกนายชั้นมาซ้ำนาย”
“ว้าย ไม่เอานะครับ ผมไม่ชอบความรุนแรง ไปทำงานต่อก็ได้”
เคนลุกเดินออกไป เอม กะ เจตน์มองตามด้วยึวามหมั่นไส้
“ผมจะมาชวนคุณออกไปดูหนัง ทานข้าวกันน่ะครับ”
“ฉันไม่ว่างค่ะ” เอมปฏิเสธทันควัน
เสียงเนื้ออ่อนปรามขึ้น “ยัยเอม”
เอม กะเจตน์หันไปเห็นเนื้ออ่อน ประคองรอนเข้ามา เจตน์ไหว้สองท่าน
“เอมไม่ว่างจริงๆ นี่คะ คุณแม่ก็รู้ว่าเอม เอ้อ ต้องคุมช่างซ่อมรั้ว”
เจตน์รีบอาสาทันทีหวังทำคะแนน “เอาอย่างนี้นะครับ ในฐานะที่ผมเป็นเจ้าของโรงงานใหญ่โต คุมลูกน้องหลายร้อยคน ผมจะไปเร่งช่างให้เอง รับรองครับว่าแป๊บเดียวเสร็จ” เจตน์ไหว้สองท่านอีก “กราบประทานขอตัวซักครู่นะครับ”
พอเจตน์เดินพ้นตัวไปเนื้ออ่อนก็เฉ่งเอมทันที
“ทำไมทำอะไรไม่ไว้หน้าแม่บ้างเลย”
“ก็เอมไม่อยากไปกับเค้าจริงๆ นี่คะ”
“ทำให้อะไรมันดูยากๆ ขึ้นบ้างก็ดี จะได้พิสูจน์ความอดทนของคุณเจตน์ด้วย” รอนว่า
เนื้ออ่อนยิ้มถูกใจมาก “ตั้งแต่เป็นผัวเมียกันมาก็คุณเพิ่งพูดจามีเหตุผลก็วันนี้แหละ ว่าไปฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าคนนายคนอย่างคุณเจตน์จะเร่งนายเคนจอมลวงโลกให้ทำงานเร็วขึ้นได้มั้ย”
เจตน์เดินกร่างเข้ามามองเคนที่กำลังซ่อมรั้วอย่างแปลกใจ
“เป็นช่างด้วยเหรอ”
“เป็นทุกอย่าง แล้วแต่สถานการณ์”
“มาซ่อมรั้วหวังทำคะแนนสินะ ทำเร็วๆ หน่อย ถ้างานไม่เสร็จ คุณเอมจะไม่ออกไปกับผม”
เคนมองเจตน์ ยิ้มเจ้าเล่ห์นึกสนุก “ต้องขัดสี ทาสีใหม่ ทำเร็วแค่ไหนวันนี้ก็ไม่เสร็จหรอก อีก 3 วันคุณค่อยมาชวนคุณเอมละกัน”
“3 วันฉันรอไม่ไหว ฉันต้องการพาคุณเอมออกไปวันนี้”
เคนคิดปราดเดียว “ถ้ายอมให้ความร่วมมือ วันนี้คุณจะได้พาคุณเอมออกไป”
“ยังไง
เคนมองเจตน์ยิ้มแทนคำตอบ
ที่โต๊ะบริเวณมุมเครื่องดื่มของสนามยิงปืน เห็นกอล์ฟทำท่าจะเซ็นสัญญา มิ้นยิ้มดีใจ
“เตรียมพร้อมสำหรับการมีชื่อเสียงไว้ได้เลยนะ คุณปังแน่”
“ทำไมคุณยิงปืนเก่งจัง”
“เซ็นชื่อก่อนเดี๋ยวบอก”
กอล์ฟขำ “ไม่ยอมเสียเวลาซักนาทีเลยนะ”
“เวลาเป็นเงินเป็นทองนะคะคู๊ณณณณ”
กอล์ฟยิ้มขำเซ็นชื่อตรงจุดที่มิ้นมาร์กไว้ให้
“บอกได้รึยัง”
“ฉันเป็นลูกสาวคนเดียว คุณพ่อคุณแม่เลยส่งไปเรียนยิงปืนไว้ป้องกันตัว”
“แม่นขนาดนี้ครูที่สอนไม่ชวนไปเป็นทีมชาติเหรอครับ”
“ชวน แต่ใจไม่รักเลยมาเอาดีสายบันเทิง” มิ้นมองสัญญายิ้มดีใจ “คุณเป็นของฉันแล้ว ต่อไปนี้คุณต้องเชื่อฟังฉัน”
“เป็นเด็กคุณนี่ต้องทำอะไรบ้าง”
“เข้ายิม ควบคุมอาหาร เสื้อผ้าหน้าผมต้องดูดี 24 ชั่วโมง ฉันจะจัดให้คุณเอง ดูแลคุณคือหน้าที่ของฉัน” มิ้นเก็บสัญญา “ปิดจ็อบ
กอล์ฟมองมิ้น ยิ้มตาหยีมีฟามสุขจินๆ
นาตาลีเสร็จงานแล้ว เดินเข้ามาในร้านกาแฟภายในห้างของพราว สวนกับชาช่า แจ๊ดที่เพิ่งเดินออกมา
“อ้าว นาตาลี มาช็อปเหรอ”
“ทำงานน่ะ”
“น้องมิ้นไปไหนล่ะคะ ทำไมปล่อยให้แบบมาคนเดียว” แจ๊ดจ๊ะจ๋า
“ไปดูแลอีกคน เดี๋ยวตามมาค่ะ”
“มีแต่ตัวท็อปๆ ตัวปังๆ น้องมิ้นหาแบบเก่งจริงๆ เจอกันต้องขอคำแนะนำบ้างแล้ว” แจ๊ดว่า
“ที่คุณพี่มีอยู่ก็ดังระดับประเทศทุกคน คุณพี่ต้องแนะนำยัยมิ้นมากกว่าค่ะ”
แจ๊ดถูกใจคำชม หัวเราะคิกคัก
“ขุ่นน้องก็พูดเกินจริงไป”
นาตาลีคิดบางอย่างได้ กระซิบถามชาช่า “เจ้าชายใจดีที่ช่วยพี่แจ๊ด ใช่คุณเคนรึเปล่า”
ชาช่าทำเป็นไม่พอใจ “คือแบบ เค้าไม่ให้บอกอะ เธอไปคิดเอาเองได้ป่ะ”
นาตาลียิ้ม “มีพิรุธอย่างนี้ใช่ชัวร์”
ชาช่าอมยิ้ม ใจจริงอยากประกาศให้โลกรู้แทบตาย
“เธอแน่ใจนะว่าเค้าเป็นเจ้าชายไม่ใช่ปีศาจ”
“คุณเคนเป็นคนรักขอน้องชาช่านะคะ ทำไมขุ่นน้องถามอย่างนี้” แจ๊ดมองฉงน
สามคนนั่งคุยกันตรมุมหนึ่งของร้านกาแฟ แจ๊ด กะ ชาช่า อุทานอย่างตกใจ
“มีคนลือว่าคุณเคนเป็นผู้ชายขายตัว”
นาตาลีพยักหน้า “อือหือ”
“ใครลือ” ชาช่าไม่พอใจ
“มากมาย”
“ปากหอยปากปูปากเน่าปากหนอนกันจริงๆ” แจ๊ดโมโหหันมาทางชาช่า “บอกคุณเคนให้สืบหาตัวแล้วฟ้องหมิ่นประมาทเลยค่ะ
“อย่าฟ้องน้องนะคะ เพราะน้องไม่เชื่อ เจอพี่กับช่าถึงต้องถามความจริงนี่ไงคะจะได้ช่วยแก้ข่าว” นาตาลียิ้ม เข้าทางจ้องหน้าชาช่า “คุณเคนเป็นใคร”
“ลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวณรงค์”
นาตาลีมองชาช่าอย่างตกใจในคำตอบ
“ถ้าเจอใครที่พูดไม่ดีเกี่ยวกับคุณเคนอีก ช่วยบอกฐานะที่แท้จริงของคุณเคนให้เค้ารู้ด้วย จะได้เลิกลือกันผิดซะที” ชาช่ากำชับ
นาตาลีรับคำอึ้งๆ “เคร”
“ช่าต้องไปเตรียมตัวทำงาน ไปก่อนนะคะ” แจ๊ดบอก
“บาย” ชาช่าลุกขึ้นโบกมือลา
“บาย” นาตาลีโบกมือตอบ
แจ๊ด กะ ชาช่าเดินออกไป
นาตาลีบ่นงึมงำไม่อยากเชื่อ “ลูกคุณลุงณรงค์งั้นเหรอ”
ชาช่ากะแจ๊ดเดินคุยกันมาตามทางเดินในห้างด้วยอาการหงุดหงิด
“บ้าจริง ใครนะที่เอาคุณเคนไปเม้าท์ทุเรศๆ อย่างนั้น”
“แฟนคลับที่หวงขุ่นน้องยิ่งกว่าจงอางหวงไข่” แจ๊ดว่า
“ไม่เคยมีแฟนคลับคนไหนเม้นต์คุณเคนแรงๆ เลย”
“งั้นก็พวกอิจฉาอยากให้ขุ่นน้องเสียชื่อเสียง”
เสียงพราวแหลมเข้ามาว่า “ยังเหลือชื่อเสียงอยู่อีกเหรอ”
แจ๊ด กะชาช่า หันไปมองตาขุ่น ไม่พอใจ เห็นพราวยืนอยู่กับทิพย์
“ยังเป็นนางเอกอันดับหนึ่งของประเทศ” ชาช่าว่า
แจ๊ดเสริมทันที “ละครจ่อคิวรออีก 5 เรื่อง อีเว้นท์ทุกวัน เช้า สาย บ่าย เย็น”
“แต่ห้างเธอตั้งแต่ถูกปาระเบิด ลูกค้าดูน้อยลงไปเยอะนะ” ชาช่ายิ้มหยัน
แจ๊ดผสมโรงตามเคย “ช่วงนี้อย่าช็อปให้หนักมือนักนะคะ ล้มละลายขึ้นมาจะได้มีเงินไว้ยาไส้”
พราวไม่สะทกสะท้าน “สมบัติเก่าจากต้นตระกูลฉันล้นฟ้า ต่อให้ธุรกิจนี้พังฉันก็ล้มบนฟูก แต่พวกแกไม่มีงานขึ้นมาต้องกลับไปทำไร่ไถนาอยู่กับวัวกับควายที่บ้านนอก”
แจ๊ดกดโทรศัพท์โชว์คิวงานชาช่า
“งานเต็มไปอีก 3 ปี” คุยไม่ทันจบดี มือถือแจ๊ดก็มีสายเรียกเข้าดังขึ้น ผู้จัดการคนดังรีบจ๊ะจ๋าโชว์
“สวัสดีค่าน้องต่อ น้องชาช่ามาถึงแล้วกำลังจะไปที่ห้องแต่งตัวค่ะ” ตกใจ “อะไรนะ ยกเลิก ยอมให้ยึดเงินมัดจำ เดี๋ยวค่ะน้องต่อๆ”
แจ๊ดวางสายอย่างร้อนใจ
พราวยิ้มเยาะอย่างเหนือกว่า “เหมือนจะโดนเทงาน”
ชาช่าตกใจ “จริงเหรอพี่แจ๊ด”
แจ๊ดพยักหน้าหงึกๆ
พราวยิ้มเยาะทั้งคู่แล้วเดินออกไป ทิพย์มองแจ๊ด กะ ชาช่า อย่างกลัวๆ รีบจ้ำเดินตามพราวไป
ชาช่ามองพราวด้วยความแค้นใจ รู้ทันทีว่าเป็นฝีมือของนาง คิดปราดแล้วรีบเดินตามไป แจ๊ดวิ่งแจ้นตามไปด้วย
พราว กะทิพย์เดินมาตามทางเดินในห้าง ชาช่าวิ่งตามมาทันกระชากพราวให้หันกลับมา
“แกใช้วิธีสกปรกล็อบบี้คนที่จ้างฉันใช่มั้ย”
“ไม่ใช่แค่งานนี้นะ ทุกงานเดี๋ยวพวกเค้าคงกระหน่ำเทแก”
ชาช่ากะแจ๊ด ตกใจ
พราวยิ้มเยาะ “กราบขอโทษฉันต่อหน้าสื่อ แล้วฉันจะยกโทษให้”
“ให้ฉันตายซะดีกว่า”
“แกตายสมใจแน่ อดตายไง”
พราวจะเดินหนีไป ชาช่าไม่ยอม ขัดขาจนพราวเสียหลักล้มลง
“ว้าย”
ทิพย์ตกใจ “คุณพราว”
พราวลุกพรวดขึ้นจะเข้าไปตบชาช่า อีกฝ่ายเชิดหน้าเงื้อมือพร้อมตบตอบ ทิพย์รีบดึงนายสาวไว้
“คุณต้องไปประชุมบอร์ดผู้ถือหุ้น ชี้แจงเรื่องปาระเบิดนะคะ”
พราวลดมือลง มองชาช่าอย่างโกรธจัด ขู่เสียงเข้มว่า
“แกจะไม่มีวันรู้จักคำว่าความสุขอีกเลย”
“ถ้าฉันไม่มีความสุขแกก็อย่าหวังว่าจะมี”
พราวเดินหุนหันออกไป ทิพย์รีบตาม
“มันเป็นคนมีอิทธิพล ไม่จบกับมัน ไม่กลัวว่าจะถูกยกเลิกงานหมดแล้วอดตายอย่างที่มันบอกเหรอคะ” แจ๊ดอดกังวลไม่ได้
“ช่าไม่ยอมตกอับหรอกค่ะ ไม่มีงานช่าก็ต้องมีกินไปทั้งชาติ แต่ต้องมีตัวช่วย”
แจ๊ดยิ้มกระหยิ่ม “คุณเคน”
ชาช่าพยักหน้าแทนคำตอบ นางมีแผนบางอย่างในใจชัวร์
อ่านต่อ ตอนที่ 7
#พ่อปลาไหล #thaich8 #โชคดีมีสุข #ฟิล์มยีน #ยีนฟิล์ม #ทีมพ่อปลาไหล #ทีมเอม #lakornonlinefan #ละครออนไลน์ #ลมหายใจคือละคร