xs
xsm
sm
md
lg

พ่อปลาไหล ตอนที่ 5

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


พ่อปลาไหล ตอนที่ 5

บทประพันธ์ : กนกเรขา บทโทรทัศน์ : ปัทมา และ จอมใจ

รถที่แดนขับมาจอดติดไฟแดงอยู่ เคนเปิดโทรศัพท์มือถืออีกเครื่องอย่างสบายอารมณ์

“พวกมึงคิดร้านไว้เลย คืนนี้สายเปย์มาเอง”
“มีเจ้ามืออย่างนี้กูจะเรียกเด็ก 10 คนเลย จะระเริงชลให้สาแก่ใจ” แดนยิ้มร่า
“แค่คิดก็แบบ” ป้องกัดปาก “ฟินอ่ะ”
แดน ป้อง ระริกระรี้คึกเอามากๆ มีเสียงไลน์จากโทรศัพท์ของเคนดังรัวๆ
“โห ไลน์รัวๆ” ป้องชอบอกชอบใจ
“โทร.ไม่ติดเลยทิ้งข้อความไว้ ก็ข้อความซ้ำๆ คิดถึงนะ รักนะ” เคนยิ้มชอบใจเปิดอ่านไลน์พราวเห็นคลิปข่าวตบกับชาช่าที่โรงพักก็ตกใจ “เฮ้ย”
ป้องสนใจ “มีไดอะล็อกใหม่ๆ เหรอพี่”
เคนเปิดคลิปยื่นให้ป้องแดนดู สองหนุ่มประสานเสียง
“อีกแล้ว”
“ทำไมขยันตีกันนักวะ งานนี้คุณพราวเอาพี่แจ๊ดติดคุกยันแก่”
เคนบ่นกังวลนิดๆ คิดๆ แล้วกดโทรศัพท์

ชาช่าเปิดประตูเข้ามาในห้องพักคอนโด กดวางสายโทรศัพท์อย่างหงุดหงิดที่ติดต่อเคนไม่ได้ จนมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เห็นชื่อบนจอเป็นเคน ยิ้มกว้างดีใจกดรับสาย
“ที่รัก ช่าโทร.หาคุณเป็นสิบๆ ครั้งแต่ติดต่อคุณไม่ได้เลย หายไปไหนมาคะ”
“งานยุ่งนอนเกือบเช้าเลยเพิ่งตื่นน่ะครับ เห็นคลิป อ่านไลน์คุณก็เครียดหนักมากรีบโทร.หาคุณเลย พี่แจ๊ดทำทุกอย่างเพื่อคนที่ผมรัก ผมจะช่วยพี่แจ๊ดเอง”
ชาช่ายิ้มสมใจออดอ้อนอีกดอก “ขอบคุณค่ะ ตอนตำรวจบุกมาช่าตกใจม้ากมาก ยิ่งตอนถูกพาไปโรงพักช่าเสียขวัญจนแทบเป็นลม ยิ่งรู้ว่าพี่แจ๊ดต้องติดคุกใจช่านี่สั่นเหมือนหัวใจจะวาย ต้องโทร.ยกเลิกงานแล้วกลับมาพักที่คอนโด ช่าต้องการคุณ มาปลอบใจช่าหน่อยได้มั้ยคะ”
แดนขับรถแลนมาตามทาง ป้องเล่นโทรศัพท์ เคนยังคุยสายกับชาช่า
“โอ๋ๆ หายใจลึกๆ สตรองไว้นะครับ ผมอยากไปหาคุณใจจะขาดแต่มีประชุมสำคัญ ประชุมเสร็จจะรีบไปนะ ผมจะโทร.หาทนายให้รีบไปดูแลพี่แจ๊ดเดี๋ยวนี้เลย แค่นี้ก่อนนะครับ”
ก่อนที่เคนวางสายเขาหันมาสั่งการ
“ไอ้ป้อง โทร.หาทนายจรินทร์ให้ไปจัดการเรื่องพี่แจ๊ดให้ที”
“อ้าว บอกคุณช่าว่าจะโทร.เอง”
“ไม่บอกอย่างนั้นเค้าจะยอมวางสายมั้ย มึงก็รู้ว่ากูไม่ว่าง กูต้องโทร.หาคุณพราว”
ป้องสุดจะทึ่ง “ว่อออออ”
เคนเห็นโรงแรมหรูอยู่ข้างหน้า ก็คิดบางอย่างได้
“ไอ้แดน เลี้ยวเข้าไป”
“เข้าไปทำอะไรวะ” แดนเลี้ยวอย่างงงๆ

ที่ห้องทำงานอีกฝั่ง วิดีโอคอลไลน์ในมือถือพราว เห็นเป็นภาพเคนผมยุ่งเหมือนคนเพิ่งตื่น เปลือยไหล่เล็กน้อยประมาณว่าถอดเสื้อนอนอยู่บนเตียง
“ลืมตาขึ้นมาผมคิดถึงคุณ รีบเปิดโทรศัพท์จะโทรหาพอเห็นคลิปที่คุณไลน์มาทิ้งไว้ผมนี่ถึงกับน้ำตาคลอ”
พราวประชดอย่างหมั่นไส้ “น้ำตาคลอ สงสารที่นังชาช่าโดนตบเหรอคะ”

ที่แท้พ่อปลาไหลอยู่ในห้องพักโรงแรม เขาใส่เสื้อกล้ามนั่งบนเตียงพิงหมอนทำเหมือนเพิ่งตื่นนอนอยู่ที่บ้าน
เคนตีหน้ารู้สึกผิด “สงสารคุณที่มีแฟนไม่ได้เรื่อง เอาแต่นอนอย่างผมต่างหาก”
แดน ป้อง ที่ยืนดูอยู่ หันหน้ามาพูดใส่กันโดยไม่มีเสียง
“ตอแหล”
เคนอ้อล้อต่อ “ขอโทษนะครับที่ไม่ได้ช่วยคุณแก้ปัญหาเลย”
“พราวแก้ปัญหาทุกอย่างได้คะ ยกเว้นปัญหาเดียวคือให้มันเลิกยุ่งกับคุณ บอกคุณลุงให้ถอดมันจากพรีเซ็นเตอร์สิคะ มันจะได้ไม่มีข้ออ้างยุ่งกับคุณอีก”
“คุณพ่อเพิ่งอาการดีขึ้น ผมไม่อยากทำให้ท่านเครียดอีกน่ะครับ ผมมีประชุมต้องไปอาบน้ำเตรียมตัวแล้ว ประชุมเสร็จจะรีบไปหา รักนะ”
พราวยิ้มฟิน มีความสุขสุดๆกับคำหวาน “ค่ะ”
เคนวางสาย “จบไป Number One Number Two เคลียร์แล้ว อยู่กับคุณเอมจะได้ไม่มีใครโทร.มาขัดจังหวะ”
“นึกว่าแค่เปิดห้องเล่นละครตบตาคุณพราว ที่แท้มีแผนล้ำลึกกว่านั้นร้ายกาจ” ป้องว่า
เคนใส่เสื้อที่ถอดออกเข้าไปใหม่ ยักคิ้วให้ป้องกะแดนยิ้มยืดอย่างภูมิใจในตัวเอง

ที่ร้านกาแฟ เอม มิ้น นั่งฟังนาตาลีเล่าแผน
มิ้นตื่นเต้นกว่าใคร “แผนเด็ดมากค่ะคู้ณณณณ งานนี้นายเคนมีความเดือดร้อน”
“เดือดร้อนซะบ้าง จะได้ไม่มายุ่งกับฉันอีก” เอมบอก
นาตาลีมองไปนอกร้าน เห็นเคนเดินเอามือไพล่หลังเดินมา รีบร้องบอกเพื่อน
“มาแล้ว”
มิ้น กะนาตาลีรีบวิ่งไปซุ่มแอบดูอยู่มุมหนึ่ง
เคนเดินเข้ามา เอมทำเป็นลุกพรวดเดินไปหาอย่างเอาเรื่อง อ้าปากจะต่อว่า เคนรีบยื่นช่อดอกลิลลี่ให้ดม
“หอมเนอะ สวยด้วย ช่วยให้คุณอารมณ์ดีขึ้นได้บ้างมั้ย”
เอมมองดอกไม้อดยิ้มดีใจไม่ได้ แต่รีบแกล้งทำหน้าเข้มกลบเกลื่อน
“คิดเหรอว่าดอกไม้แค่นี้จะทำให้ฉันหายหงุดหงิดที่คุณมาสาย”
“อย่างน้อยก็ทำให้คุณยิ้ม”
“นอนดึกจนตาพร่าปะ ฉันยังไม่ได้ยิ้มเลย จะไปช็อปปิ้งก็รีบไปนายจะได้คืนไฟล์งานให้ฉันซะที”
เคนลงนั่งยิ้มแฉ่ง
“มาเลตชั่วโมงนึง อย่าบอกนะว่าต้องละเลียดกาแฟอีกชั่วโมง”
“ไม่รับของที่ผมให้ ผมไม่ไป”
เอมคว้าช่อดอกไม้จากเคนอย่างหงุดหงิด
“พอใจรึยัง”
“สตาร์ตรถเลยน้อง พี่พร้อม”
เอมมองค้อนเคนแล้วเดินนำออกไป เคนยิ้มกริ่มเดินตามติดๆ
มิ้น กะนาตาลีแอบดูอยู่ มิ้นนิ่งนึกตรึกตรอง
“เมื่อวานก็ให้ที่ร้านอาหารจัดไว้ วันนี้ก็เอามาให้ นายเคนรู้ได้ยังไงว่ายัยเอมชอบดอกลิลลี่”
“หรือเค้าแอบสืบประวัติยัยเอมจากใคร” นาตาลีเองก็ยิ่งแปลกใจ

ด้านสมบูรณ์ว่างจากงานก็หลบมุมมาพิมพ์ข้อความในไลน์ส่งหาเคนอย่างมีความสุข
“พี่เคนกินข้าวรึยังจ๊ะ วันนี้ยุ่งมั้ย ทำงานเสร็จแล้ว ไลน์มานะ”
สมบูรณ์ส่งข้อความและสติกเกอร์น่ารักๆแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ฉวีเดินเข้ามามองอย่างหมั่นไส้
“นังสมบูรณ์”
สมบูรณ์สะดุ้งเฮือกรีบเก็บมือถือ
“นึกว่าหายไปไหน มานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่นี่เอง ไหนดูซิคุยกับใคร”
ฉวีไปดึงมือถือจากสมบูรณ์มาดู
สมบูรณ์บ่น “ดูรู้เรื่องมั้ยนั่น”
“กดไม่เป็นจะรู้เรื่องได้ไง เปิดให้ดูซิ”
สมบูรณ์เฉไฉกดเปิดหน้าเพจข่าวดารา
“ไม่ได้คุยกับใครหรอกแม่ อ่านข่าว”
“แล้วไป อย่าเที่ยวคุยกับใครทางไอ้เฟซๆ ไลน์ๆ นั่นส่งเดชล่ะ ฉลาดน้อยอย่างแกเดี๋ยวจะโดนหลอกไปฆ่า”
“ฉันไม่คุยกับคนไม่รู้จักหรอกจ้ะ”
“เออดี เลิกอ่านแล้วก็มาช่วยกันทำงานได้แล้ว”
ฉวีเดินออกไป สมบูรณ์ยิ้มขำที่โกหกฉวีสำเร็จ

เคนเข็นรถเข็นใส่สินค้าเดินนำเอมเข้าไปซุปเปอร์มาร์เก็ตห้างดัง
“คุณผู้ชายจะช้อปแล้ว” เขากระดิกนิ้วเรียก “Come On”
เอมมองเคนอย่างแค้นใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ เข็นรถตามไป
มิ้น กะนาตาลี ตามมาติดๆ สองสาวสวมมาดสายลับย่องมาจากมุมหนึ่ง นาตาลีชี้นิ้วสั่งการ ชี้ที่ตัวเอง ว่าจะไปทางหนึ่ง แล้วชี้บอกมิ้นให้ไปอีกทาง มิ้นพยักหน้าเข้าใจ
นักสืบจำเป็น ย่องออกไปสังเกตการณ์คนละทาง

เคนโกยขนมเอย ช็อคโกแล็ต เยลลี่ กวาดมาทั้งเชลฟ์ ใส่ในรถเข็น เอมพยายามมองหานาตาลี กะมิ้น จนเห็นเพื่อนอยู่คนละมุม จึงหันมามองเคนยิ้มเจ้าเล่ห์มีแผน
“นี่นายซื้อไปตุนไว้กินถึงปีหน้าเลยปะ”
“กะว่าจะตุนไว้ถึงชาติหน้าเลย วันนี้มีนายทุน”
เอมมองหมั่นไส้ แล้วชี้ไปที่มุมหนึ่ง
“นั่นก็อร่อยนะ”
เคนหันไปมอง
จังหวะนี้นาตาลี กะมิ้น แอบใช้มือถือถ่ายรูปเคนรัวๆ แล้วรีบฉากหลบ
เคนหยิบมาฉีกกินหน้าตาเฉย “จริงด้วย”
เอมตกใจ “นายเคน เค้าให้จ่ายเงินก่อนแล้วค่อยแกะ”
“ไม่ชิมก่อนจะตัดสินใจถูกได้ยังไงว่าจะซื้อมั้ย เค้าไม่ว่าหรอก เพราะผม” เขาหอบขนมลงรถเข็นทั้งแผง “เหมาหมด”
“จะเหมาอะไรก็เรื่องของนาย แต่บอกไว้ก่อนว่าฉันมีงบให้แค่ 2หมื่น”
“5 หมื่นขนหน้าแข้งคุณก็ไม่ร่วง แล้วรับรองเลยว่าจะเป็น 5 หมื่นที่ทำให้คุณปลื้มปริ่มจนน้ำตาไหล” เคนยิ้มเจ้าเล่ห์เป็นนัย
“ฉันน้ำตาไหลแน่ ตอนจ่ายค่าบัตรเครดิต” เอมหมั่นไส้
เคนยื่นห่อขนมให้เอม “เติมน้ำตาลในเลือดหน่อย สดชื่นขึ้นจะได้หายเศร้า”
เอมอ้าปากจะปฏิเสธ เคนเอาขนมที่อยู่ในมือยัดใส่ปากเอมแล้วหัวเราะลั่น เอมเคี้ยวขนมมองเคนอย่างแค้นใจ

เวลาผ่านไป ขนมนมเนยเต็มรถเข็น เอมชี้ไปทางหนึ่ง
“นั่นก็อร่อย”
เคนหันไปมองตาม นาตาลีแอบอยู่รีบถ่ายรูป
เอมชี้ไปอีกทาง “โน่นด้วย”
เคนหันไปมองตาม มิ้นที่แอบอยู่รีบถ่ายรูป
เคนมองหน้าเอมจ้องตาจังๆ “นี่ด้วย”
เอมชะงักเขินหนัก มองเคนอย่างประดักประเดิด ทำเป็นโวยวายกลบ
“ไม่ต้องปากหวานกับฉัน ฉันไม่หลงคารมเป็นเหยื่อรายต่อไปของนายหรอก”
“ไม่ใช่คุณ” เคนยื่นมือไปหยิบขนมด้านหลังเอมิกา “นี่”
เอมเสียหน้า
“ว่าแต่ผมหลงตัวเอง คุณก็หลงตัวเองไม่แพ้ผม”
เอมโมโหเสียฟอร์ม “จะซื้ออะไรก็รีบซื้อ แล้วเอาไฟล์งานฉันคืนมาเลย”
เคนยิ้มขำ เดินลอยหน้าลอยตาเข็นรถออกไป เอมมองหมั่นไส้แล้วตามไป

อีกฟากหนึ่ง ชาช่า กะ แจ๊ด เดินจูงมือยิ้มร่าออกมาจากโรงพัก มีนขจผ.นักข่าวจอมเผือกรออยู่ พากันวิ่งกรูไปสัมภาษณ์
นข.1 ถามขึ้นว่า “คุณพราวให้ข่าวว่าพี่แจ๊ดต้องติดคุกหลายปี ทำไมถึงได้ประกันตัวออกมาคะ”
“พี่แจ๊ดไม่ได้ทำผิดร้ายแรง ไม่มีประวัติเสื่อมเสีย เลยได้ประกันตัวน่ะค่ะ”
ชาช่า กะ แจ๊ดสบตาอย่างรู้กัน แจ๊ดไหว้กล้องนักข่าวพูดเป็นนัย
“ขอบพระคุณเจ้าชายใจดีที่ส่งทนายมาช่วยนะคะ”
นักข่าวงงทั้งแถบ ได้ประเด็นใหม่ นขจผ.2 ถามทันที “เจ้าชายใจดี ใครเหรอคะ”
“พี่ก็ไม่รู้หรอกค่ะ ต้องถามน้องชาช่า” แจ๊ดยิ้มเจ้าเล่ห์
นักข่าวจอมเผือกเอาไมค์ไปรุมจ่อชาช่า
“ใครคะๆๆ”
“ความลับค่ะ เค้าไม่ชอบออกสื่อ แต่ถ้าพวกพี่อยากรู้จริงๆ ก็...” ชาช่ามองกล้องตั้งใจพูดกับพราวโดยเฉพาะ “ลองถามคุณพราวดูสิคะ คุณพราวอาจจะยอมบอกก็ได้ว่าเจ้าชายของช่าคือใคร”

พราวนั่งดูข่าวนั้นในไอแพด โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ รู้ทันทีว่าหมายถึงใคร
“คุณเคนส่งทนายไปช่วยมัน”
พราวหยิบมือถือมากดหาเคน โทรจิกยิกๆ แต่เขาก็ไม่รับสาย ได้แต่วางสายไปอย่างโมโห ทิพย์เคาะประตูแล้วเปิดเข้ามา
“นักข่าวโทร.มากันใหญ่เลยค่ะจะขอสัมภาษณ์ว่าเจ้าชายของชาช่าเป็นใคร”
พราวยิ่งโกรธ “บอกไปว่าฉันไม่รู้ แล้วก็ไม่ให้สัมภาษณ์อะไรทั้งนั้น”
“ค่ะ” ทิพย์สยองมองพราวอย่างกลัวๆ แล้วรีบออกไป
พราวโกรธจัด ขว้างเอกสารที่อยู่บนโต๊ะระบายอารมณ์

เสร็จจากซุปเปอร์มาร์เก็ต เคนพาเอมเดินมาที่แผนกของเล่น มิ้น กะนาตาลี ยังย่องตามมาห่างๆ
เคนหยิบหุ่นยนต์ รถแข่ง ตุ๊กตา ส่งให้เอมช่วยถือ
“เดี๋ยวนะ ช้อปของกินพอเข้าใจ แต่ช้อปของเล่นงี้ฉันงง” เอมนึกได้ บอกอย่างตกใจ “นายซื้อไปให้ลูก”
เคนไม่ปฏิเสธ “เดี๋ยวไปดูเอง”
เอมยิ่งตกใจ “จะพาฉันไปบ้านนายเหรอ ไม่มีทาง”
เคนหันมาจ้องหน้าเอมซึ้งพูดอย่างอ่อนโยนอบอุ่น
“บอกแล้วไงว่าคุณจะปลอดภัยเมื่ออยู่กับผม”
เอมอึ้ง รู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
“เอางี้ เพื่อเพิ่มความมั่นใจผมยอมให้คุณชวนเพื่อนๆ ไปด้วย”
“พวกเค้าทำงานไม่มีใครว่างไปกับฉันหรอก” เอมว่า
เคนประชดเสียงยาววว “เหรอออออออออ”
แล้วเดินไปมุมที่มิ้น กะนาตาลีซ่อนตัวอยู่
“ตามแอบถ่ายรูปผม ยุ่งมากมั้ยครับ”
เอม มิ้น นาตาลี มองเคนอย่างตกใจ
“นายรู้ได้ยังไง” มิ้นประหลาดใจ
เคนชี้มือไปที่เอม
“ฉัน” เอมงงใหญ่
“คุณเกลียดผม ไม่น่าจะอยากให้ได้ขนมดีๆ อร่อยๆ กลับไปกิน ตอนคุณทำเป็นชี้ให้ดูขนมตรงโน้นทีตรงนี้ทีผมเอะใจเลยแอบสังเกต แล้วก็เห็น...”
เคนชี้มือไปที่สองสาว มิ้น กะนาตาลี ขึงตามองเอมอย่างเซ็งๆ ที่ทำแผนแตก
“เก๊าก๋อโต้ด” เอมจ๋อย
“ถ้าพวกคุณคิดจะเอารูปผมไปลงโซเชี่ยลสืบประวัติ ลืมได้เลย เพราะถ้าลง ผมจะฟ้องพวกคุณข้อหาละเมิดสิทธิส่วนบุคคล”
นาตาลีเซ็งคอดๆ “จบกัน”
“ยังไม่อยากให้จบก็ไปด้วยกัน พวกคุณจะได้รู้จักผมมากขึ้น”
เอม มิ้น และ นาตาลี มองหน้าเคน แล้วมองหน้ากันเชิงตัดสินใจ

ไม่นานต่อมา สามสาว ตามเคน ลงรถมายืนหน้าบ้านหลังหนึ่ง เอม มิ้น และนาตาลี มองป้ายชื่อบ้านอุทานพร้อมๆ กัน อย่างแปลกใจ
“บ้านเด็กกำพร้าครูเอี้ยง”
“ของที่นายซื้อมาทั้งหมด เอามาให้ที่นี่เหรอ”
เคนยิ้มแฉ่ง “คับโผม”
“นายเป็นเด็กกำพร้า โตมาอย่างยากลำบากเลยต้องขายตัวหาเงิน” นาตาลีประเมิน
มิ้นเสริมว่า “ที่คุณกอล์ฟบอกว่านายมีปัญหากับพ่อแม่เลยย้ายที่อยู่บ่อยๆ เป็นพ่อแม่อุปถัมภ์ของนายงั้นเหรอ”
เคนขำก๊าก “ไอ้กอล์ฟว่าไงก็ตามนั้นละครับ”
ขาดคำหมวดกอล์ฟก็ขับรถแล่นมาจอดพอดิบพอดี เคนหันไปทางรถ
“พูดถึงก็มาพอดี ตายยากอย่างนี้มิน่ายิงกับผู้ร้ายทีไรรอดมาได้ทุกที...อยากให้มันร่วมบุญด้วยเลยไลน์ชวนมาน่ะ”
กอล์ฟลงจากรถมองมิ้นอย่างเขินๆ
“สวัสดีทุกคนครับ ไม่เห็นบอกเลยว่าคุณเอม คุณมิ้น คุณนาตาลี มาด้วย”
“ก็อยาก” เคนตะโกนร่าเริง “เซอร์ไพร้ส์”
กอล์ฟมองมิ้นยิ้มเขินเรี่ยราด นาตาลีมองกอล์ฟอย่างจับสังเกต
“ทำไมนายต้องอยากเซอร์ไพร้ส์คุณกอล์ฟด้วย”
“ก็มัน...”
กอล์ฟตาโตมองเคนอย่างตกใจ พอดีครูเอี้ยงเดินออกมาช่วยไว้ทัน
“คุณเคน”
กอล์ฟถอนหายใจโล่งอก ทุกคนไหว้ครูเอี้ยง
เคนแนะนำครูเอี้ยงกับสามสาว “ครูเอี้ยงครับ ครูเกษียณ สาวโสดหัวใจทองคำ ที่เอาเงินบำนาญมาดูแลเด็กๆ ที่ถูกพ่อแม่ทิ้ง”
ครูเอี้ยงยิ้มอารมณ์ดี “ยอครูมากไปแล้ว รู้ว่าคุณเคนจะมา เด็กๆ ดีใจกันใหญ่เลยนะคะ เชิญค่ะ”

ครูเอี้ยงเดินนำ เคน กอล์ฟ เอม มิ้น นาตาลี ที่ช่วยกันถือถุงของตามเข้ามาในห้องอาคารอเนกประสงค์ เด็กชายเด็กหญิงหน้าตาน่ารัก ราว 20 คน แต่งตัวสะอาดสะอ้าน ดูมีระเบียบ ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ดีอกดีใจมากมาย เด็กชาย1 หัวหน้ากลุ่ม ร้องขึ้น
“พี่เคนมาแล้ว”
เด็กๆ พากันไหว้กลุ่มเคนอย่างมีมารยาท
“สวัสดีครับ” / “สวัสดีค่ะ”
เด็กหญิงวัยราว5ขวบในกลุ่มถามขึ้น “มีช็อกกาแลตมั้ยคะ”
“มีอยู่แล้ว ใครอยากได้ขนมกับของเล่น เข้าแถว ขอสามแถวนะแจ๊ะ”
สิ้นคำของเคน เด็กๆ วิ่งไปเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ
“ของที่มาให้วันนี้ไม่ใช่ของพี่เคนนะครับ แต่เป็นของพี่เอมกับเพื่อนๆ”
สามสาว มองเด็กๆ ยิ้มชื่นสุขใจ
“พวกคุณช่วยกันแจกนะ”
เอมมองเคนอย่างประทับใจ เคนยิ้มหวานตอบ
เอมได้สติ รีบเดินไปทางหนึ่ง เคนมองตามเอมยิ้มขำเบิกบานสุดๆ

เวลาผ่านไปอีกหน่อย บรรดาเด็กๆ เข้าแถวรับของอย่างตื่นเต้น เอม มิ้น นาตาลี นั่งแจกของมองสายตาเด็กๆ อย่างมีความสุข
เคนมองเอม กอล์ฟมองมิ้น ครูเอี้ยงมองเด็กๆ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขและแสนอบอุ่น
เด็กชาย1รับหุ่นยนต์จากเอม โผเข้ากอดเอมเชิงขอบคุณ
เอมกอดเด็ก ตื้นตันใจน้ำตาคลอ เคนมองเอมยิ้มมีความสุขมาก
เด็กหญิง5ขวบคนเดิมชมนาตาลีว่า “พี่สวยจัง โตขึ้นหนูอยากสวยเหมือนพี่”
นาตาลีชอบใจใหญ่ “ตาถึงนะเรา เอาไปสองตัวเลย”
“บ้ายอนะคะคู้ณณณณ” มิ้นแซว
ทุกคนหัวเราะสนุกสนาน เอมมองเคนที่ยืนดูเด็กๆ อยู่อย่างประทับใจ เคนยิ้มหวานมาให้ เอมกลัวเคนรู้ว่าตนออกอาการชื่นชม รีบหันไปแจกของต่อ
เคนคุยโวกับกอล์ฟว่า “คุณเอมไม่กล้าสบตาฉัน เริ่มมีใจให้ฉันแล้ว”
กอล์ฟมัวแต่มองมิ้นเพลิน ไม่ได้ยินที่เขาพูดจนเคนหมั่นไส้
“ไอ้กอล์ไม่ได้ฟังที่กูพูดเล้ยยยย ละสายตาจากเค้าบ้างก็ได้”
“มองได้ทั้งวันทั้งคืน”
“รู้ แต่จ้องอย่างนั้นมันจะทำให้เค้าคิดว่ามึงโรคจิต”
“เหรอ กูมองมึงก็ได้” กอล์ฟหันมามองหน้าเคน “คุณมิ้นน่ารักมากเลย ขอบใจนะที่ชวนมา”
“มองกูแต่ไม่สนใจเรื่องกู พูดเรื่องมึงก็ด้ายย...อยากให้เค้าหลงรักมึงก็ชวนคุย สังเกตว่าเค้าชอบหรือไม่ชอบอะไร แล้วเอาใจเค้า ร้อยทั้งร้อยไม่รอด”
“โอเค”
ครูเอี้ยงเดินมาหา “แจกของเสร็จแล้วอย่าเพิ่งกลับนะคะ เด็กๆ เตรียมการแสดงไว้ขอบคุณพวกคุณด้วย”

ในห้องอเนกประสงค์มีเวทีเล็กๆ อยู่มุมห้อง เด็กชาย เด็กหญิงน่ารักกลุ่มหนึ่งรำวงมาตรฐาน เด็กอื่นๆ นั่งปรบมือ
เอม มิ้น และ นาตาลี มองอย่างประทับใจ เคน กอล์ฟนั่งข้างๆ
“ครูเอี้ยงสอนนาฏศิลป์น่ะครับ อยากให้เด็กรู้จักวัฒนธรรมไทย เลยเน้นสอนการแสดงไทยๆ”
กอล์ฟถามมิ้นว่า “เบื่อมั้ยครับ”
“นัลร้ากกกก อย่างนี้ใครจะเบื่อได้ลงคอ”
เคนส่งซิกให้เด็กชาย เด็กหญิงคู่หนึ่ง เด็กคู่นั้นเดินมาดึงกอล์ฟ มิ้น ชวนไปรำ
กอล์ฟเขิน “พี่รำไม่เป็น”
มิ้นก็รำไม่เป็นเหมือนกัน “เอ้อ พี่”
เคนกระซิบบิ้วท์มิ้นว่า “อย่าทำให้น้องๆ เสียหน้านะครับ”
“พี่สอนได้ค่ะ พี่เก่ง พี่เริ่ด พี่มิ้นทำได้ทุกอย่าง”
มิ้นลุกขึ้น กอล์ฟยังนั่งเขินไปไม่เป็น
“เร็วสิคุณ”
มิ้นรำเฉิบๆ กอล์ฟเข้ารำคู่ เก้ๆกังๆ เหยียบเท้ามิ้นเป็นว่าเล่น
“โอ๊ย”
“ขอโทษครับ”
เด็กๆ เคน เอม นาตาลี ครูเอี้ยง หัวเราะขำ นาตาลีมองเคนอย่างจับสังเกต แล้วแอบถามครูเอี้ยง
“คุณเคนเคยอยู่ที่นี่เหรอคะ”
“ไม่เคยหรอกค่ะ แต่มาทุกเดือน ยิ่งช่วงที่ครูไม่มีเงินดูแลเด็กจนเกือบต้องปิดบ้านนี้ คุณเคนมาทุกวัน เอาของกินของใช้มาให้ แล้ววันนึงก็เอาเงินก้อนใหญ่มาบริจาคบอกว่าเรี่ยไรมาจากคนรวย ครูกับเด็กๆถึงอยู่ได้จนวันนี้”
นาตาลีมองเคนสงสัยหนัก

ในเวลาต่อมา ทุกคนร่ำลาครูเอี้ยงและเด็กๆ พากันเดินออกมาหน้าออฟฟิศบ้านเด็กกำพร้า ด้วยสีหน้าแช่มชื่น อิ่มบุญมีความสุขถ้วนหน้า
กอล์ฟใจเสีย มองหน้ามิ้น ถามอย่างกังวล
“หายเจ็บเท้ารึยังครับ”
“ยัง แต่ถ้าคุณยอมเข้าสังกัด ฉันหายทันที”
เคนทำคะแนนกับมิ้นว่า “มันเล่าแล้วว่าคุณชวน ผมจะทำให้มันไปเป็นเด็กคุณเอง”
“พูดจาน่าฟังก็วันนี้”
เคนแซวนาตาลี “ไงครับ มาด้วยกันแล้ว รู้จักผมมากขึ้นมั้ย”
“ก็ นิดหน่อย”
“อยากรู้มากกว่านี้ต้องไปด้วยกันบ่อยๆ”
เอมตัดบท “พอเถอะ ฉันไม่อยากเดือดร้อนเพราะนายอีก”
“เงิน 5 หมื่นที่คุณเสียไป จะทำให้คุณปลื้มปริ่มจนน้ำตาไหลอย่างที่ผมบอกเลยปะ ขอบคุณนะครับที่เป็นนายทุนให้เด็กๆ” เคนยิ้มกระหยิ่ม
“ฉันอิ่มบุญนะ ฉันก็ยังเกลียดที่นายขโมยของฉันอยู่ดี ฉันทำครบทุกเงื่อนไขแล้ว” เอมแบมือทวงงาน “ไฟล์งานฉัน”
เคนหยิบทรัมไดรฟ์ใส่มือเอมยิ้มหน้าเป็น เอมมองค้อนหมั่นไส้
“ถ้าในนี้ไม่มีไฟล์งานฉันนายตาย”

เอมหยิบโน้ตบุ๊กจากรถออกมาเช็คไฟล์งานดีไซน์ตรงโต๊ะสนามแถวนั้น มีมิ้น นาตาลีช่วยดู กอล์ฟมองลุ้นว่าเคนจะก่อเรื่องอีกมั้ย เคนมองเอมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มีความสุข
นาตาลีตื่นเต้น “นี่เหรอชุดฟินาเล่ที่ฉันจะได้ใส่ เริดสุด”
“สวย มีสไตล์ เกร๋ๆ” มิ้นก็ชอบ
เอมหันมาเฉ่งเคน “อุตส่าห์เก็บแบบไว้เซอร์ไพร้ส์เพื่อน นายทำฉันหมดสนุก”
“ไม่บอกกันก่อนจะได้นัดคืนกันสองต่อสอง”
เอมมองหมั่นไส้ ปิดจอคอมลง
“หมดเวรหมดกรรมกันซะที หวังว่าเราจะไม่เจอกันอีก”
เอม มิ้น นาตาลีลุกขึ้น เดินไปที่รถ เคน และกอล์ฟ เดินไปที่รถ
เสียงมือถือ เอม และ เคนดังขึ้นพร้อมๆ กัน
เอมเปิดรถขึ้นไปนั่ง รับสาย “ค่ะ คุณแม่”

เคนขึ้นนั่งรถกอล์ฟรับสายคุณเพ็ญ “สวัสดีคร้าบคุณน้าคนสวย”

เนื้ออ่อนโทร.หาลูกสาวจากที่บ้าน
“แม่เหงา อยากไปกินอะไรอร่อยๆ เลยอยากชวนลูกกับเพื่อนๆ ไปกินข้าวเย็นกัน”

เคนคุยสายกับคุณเพ็ญซึ่งอยู่ที่ออฟฟิศคุณณรงค์
“อยากเลี้ยงขอบคุณผมกับชาวแก๊งที่ทำงานเปิดตัวสินค้า”
“จ้ะ เพราะงานนั้นตอนนี้ออเดอร์เลยพุ่งจนโรงงานผลิตไม่ทัน พี่รงค์ยิ้มแก้มปริหายโกรธเคนแล้วนะ”
“พ่ออารมณ์ดีต้องไปอ้อนขอรถสปอร์ตซักคัน เย็นนี้เจอกันนะครับคนสวย”

เอมรับปากแม่ไปว่า “เจอกันค่ะ”
เนื้ออ่อนวางสายจากเอม เพ็ญก็วางสายจากเคน พร้อมกัน และทั้งคู่ยิ้มดีใจที่แผนสำเร็จ

รอนตัดแต่ต้นไม้ใบไม้อยู่ในสวนหน้าบ้าน เนื้ออ่อนถือโทรศัพท์เดินแกมวิ่งมาหาอย่างตื่นเต้น
“คุณ สำเร็จแล้ว เย็นนี้ยัยเอมกับหลานคุณเพ็ญจะได้รู้จักกันแล้ว”
รอนเซ็งๆ “จ้ะ ดีใจด้วยจ้ะ”
“คุณต้องเล่นให้เนียนนะ อย่าให้ยัยเอมรู้เด็ดขาดว่าฉันนัดบอด”
รอนแกล้งทำเป็นตื่นเต้น “สวัสดีครับคุณเพ็ญ คุณณรงค์ บังเอิญจังเลยที่มาร้านเดียวกัน ใช้ได้มั้ย”
เนื้ออ่อนชอบใจ “เริ่ดค่า”
มีรถยนต์หรูแล่นมาจอดหน้าบ้าน เจตน์หอบข้าวของพะรุงพะรังลงจากรถไหว้ทะลักทะเล
“สวัสดีครับคุณน้า ผมผ่านมาเลยแวะเอาผลไม้มาให้น่ะครับ”
รอนต่อให้คล่องปรื๋อ “โทร.หายัยเอมไม่รับสาย เลยมาดูว่าอยู่บ้านมั้ย แล้วก็จะชวนไปดินเนอร์”
“โอ้โห คุณน้ารอนรู้ใจผมทุกอย่าง”
“ก็เป็นงี้ทุกวัน” รอนประชด
“ยัยเอมไม่อยู่จ้ะ ไปคุยงานกับเพื่อนๆ แล้วเย็นนี้ก็ไม่ว่างไปกินข้าวกับเพื่อนๆ เป็นพรุ่งนี้นะจ๊ะ เดี๋ยวน้าจะจัดคิว เอ๊ย จะบอกให้ยัยเอมเคลียงานรอ”
“ว้า งั้นวันนี้ผมก็ไม่ได้เห็นหน้าคุณเอมน่ะสิครับ ไม่เป็นไรดูรูปก็ได้ ผมลาเลยนะครับ”
เจตน์ดูรูปเอมในมือถือเดินชนรถ
“อุ๊ย”
เจตน์หันไปยิ้มแหยๆ กับเนื้ออ่อน และ รอน แล้วขึ้นรถไป
“ป้ำเป๋ออย่างนี้จะดูแลยัยเอมได้ยังไง” รอนส่ายหัว
“เพราะอย่างนี้ไงฉันถึงต้องให้ยัยเอมมีทางเลือก” เนื้ออ่อนลั้นลามีความสุขมาก “เย็นนี้ยัยเอมจะพบทางเลือกใหม่”

ชาช่ากระแทกตัวลงนั่งตรงโซฟาที่คอนโดอย่างหงุดหงิด
“โอ้ย ร้อน เหนื่อย เทียวไปเทียวมาโรงพักกับคอนโดทั้งวัน แถมยังเสียรายได้เป็นแสน”
“พี่ก็ต้องเข้าไปอยู่ในคุกตั้งหลายชั่วโมงให้ชีวิตแปดเปื้อน”
“เราต้องแก้แค้นนังพราวนะคะ”
“แน่นอนค่ะ พี่คิดไว้ตั้งแต่ยังไม่ได้ออกมาจากคุก”
“ให้มันรอบคอบหน่อยนะ ไม่ใช่ความวัวไม่ทันหายแล้วเอาความควายมาแทรก” ชาช่าดักคอ
“รอบคอบที้สุด ตรวจสอบยังไงก็ไม่มีทางรู้ว่าเป็นพวกเรา”
ชาช่ายิ้มร้ายสะใจ “แล้วจะมัวรออะไร จัดการเลย”

ที่บริเวณหน้าห้างดังแต่ละสาขาของครอบครัวพลอยพราว มีชายขับขี่มอเตอร์ไซค์ พร้อมชายนั่งซ้อนท้ายอีกคน ทั้งสองสวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้าอย่าง
มอไซค์ขี่เข้ามาที่ลานหน้าห้าง ชายคนที่ซ้อนท้าย ขว้างระเบิดปิงปองไปที่กลางลาน ระเบิดตูมควันคลุ้งไปทั่ว รปภ.วิ่งหลบให้วุ่น ผู้คนแตกตื่น
ในเวลาไล่เลี่ยกันที่ห้างอีกสาขา
มีชายขับขี่มอเตอร์ไซค์ พร้อมชายนั่งซ้อนท้ายอีกคนชายที่ซ้อนท้าย ขว้างระเบิดปิงปองไปยังสวนหย่อมหน้าห้าง ระเบิดตูมควันคลุ้งไปทั่วบริเวณ
ห้างอีกสาขา ถูกชายสองคนขี่มอไซค์ไปโยนระเบิดปิงปองขว้างใส่ลานน้ำพุหน้าห้าง ระเบิดตูมน้ำกระจาย
ห้างอีกสาขา เกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กัน มีระเบิดปิงปองถูกปาไปที่ถังขยะหน้าห้าง ระเบิดตูม

พราวอุทานด้วยความตกใจ
“ปาระเบิดห้างเราทุกสาขา”
ทิพย์ยื่นไปแพดให้ดู พราวคลิกดูภาพคนร้ายใส่หมวกกันน็อคแน่นหนาปาระเบิดอย่างร้อนใจ
“ภาพจากกล้องวงจรปิดค่ะ ลูกค้าตกใจมากวิ่งเบียดเสียดแย่งกันออกจากห้างจนแทบเกิดจลาจล ผู้เช่าก็กลัว ปิดร้านกันเกือบหมด แทบจะเหลือแต่รปภ. ตอนนี้ทุกสาขาเหมือนเป็นห้างร้างเลยค่ะ” ทิพย์รายงาน
พราวแค้นจัด “นังชาช่าแน่ๆ เล่นแรงอย่างนี้ ฉันจะทำให้แกไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย”

ชาช่า กะแจ๊ด นั่งอ่านข่าวระเบิดห้างจากโทรศัพท์ พากันหัวเราะร่าสะใจ
“กระหน่ำบึ้ม! ปิดห้างดังทุกสาขา เสียหายหลายร้อยล้าน”
ชาช่า กะ แจ๊ดหัวเราะลั่นตีมือกันสะใจ
“เล่นกับใครไม่เล่น เล่นกับน้องช้ะช่า”
“นังพราวคงรู้แล้ว ว่าช่าไม่ใช่หมูที่จะยอมให้มันเชือดง่ายๆ”

พราวโกรธถึงขีดสุดปาแฟ้มลงพื้นอย่างหัวเสีย หยิบอีกปึกปาไปที่ประตู อันเป็นจังหวะเดียวกับที่คุณสมศักดิ์เปิดเข้ามาพอดี เลยโดนแฟ้มไปเต็มๆ แต่ทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สา มองธิดาสุดสวาทด้วยสายตาเอือมระอา
“คุณพ่อ”
“บ้าพอรึยัง”
พราวกระแทกตัวลงนั่งอย่างหงุดหงิดสมศักดิ์เดินไปหาพราวอย่างระอา
“พ่อต้องทำยังไงถึงจะทำให้พราวโตเป็นผู้ใหญ่ได้”
“แล้วพราวต้องทำยังไงคุณพ่อถึงจะเลิกมองว่าพราวเป็นเด็กอมมือ”
“เหตุผลไง...หัดมีเหตุผล คิดถึงชื่อเสียงตัวเอง ชื่อเสียงพ่อ ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลจะได้เลิกทำเรื่องไร้สติ จะได้ไม่สร้างศัตรูมาราวีให้ธุรกิจเราเสียหาย”
“พราวจะเอาทุกอย่างที่เสียไปคืนมาให้เร็วที่สุด”
“ด้วยการอาละวาดขว้างปาข้าวของนี่น่ะเหรอ”
“ก็แค่ระบายอารมณ์...อย่าลืมสิคะว่าพราวเป็นลูกคุณพ่อ ลูกเสือยังไงก็เป็นเสือ จบเรื่องนี้พราวจะลดราคาสินค้า 50 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มการดูแลความปลอดภัย จัดอีเว้นท์สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า ดึงลูกค้าจากต่างประเทศมาช้อปแบรนด์เนมในห้างเรา อาทิตย์เดียวก็ได้รายได้ที่เสียไปคืนแล้วค่ะ”
สมศักดิ์มองลูกสาวยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
เขาเป็นพ่อที่ทั้งรักและตามใจลูกสาวคนนี้ แม้จะระอากับความเจ้าอารมณ์ แต่รู้ว่าพราวมีมุมเก่งยังไงก็เชื่อมือ

สามสาวนั่งอยู่ในรถแล้ว เอมปรารภขึ้นอย่างแปลกใจ
“เอาเงินจากคนรวยมาช่วยคนจน”
“โรบินฮู้ดชัดๆ” มิ้นว่า
“นี่คงเป็นเหตุผลที่นายเคนทำความรู้จักกับแต่กับผู้หญิงรวยๆ” นาตาลีบอก
“แล้วที่ผู้หญิงพวกนั้นก็ชื่นชมว่านายเคนเป็นคนดี เพราะเค้าเอาเงินมาช่วยสังคม”
“คำว่าผู้หญิงพวกนั้นรวมเธอด้วย” นาตาลีมองหน้าเพื่อน
เอมโวย “เพี้ยนป่ะ ฉันเกลียดนายนั่น จะไปชื่นชมเค้าทำไม”
“ไม่รู้ตัวเหรอเนี่ย งั้นก็ดูนี่”
นาตาลีเปิดรูปที่แอบถ่ายเคน มีเอมติดด้วย หลายรูปเอมมองเคนด้วยสายตาชื่นชม
“สายตา รอยยิ้ม ปลื้มปริ่ม แบบชัดเว่อร์” มิ้นแซว
เอมตกใจที่เห็นภาพตัวเองแบบนั้น หาข้อแก้ตัว
“หน้าบูดหน้าบึ้งเดี๋ยวนายนั่นก็ยิ่งแกล้งยั่วโมโหฉันน่ะสิ”
“เล่นละครว่างั้น”
“เรียกว่าเก็บความรู้สึกมะ ประกาศ ณ จุดนี้เลยนะ ว่าไม่เคยชื่นชม ฉันเกลียดนายนั่นที่สุดในสิบโลก”
“รู้สึกยังไงก็ไม่สำคัญแล้วล่ะคู้ณณณ เพราะเธอกับเค้าคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว”
“กลับถึงบ้านเปิดแชมเปญฉลองเลย”
“บิ้วท์ ณ บัดนาว”
มิ้นเปิดเพลงจังหวะสนุกๆ เอม กะ มิ้น โยกตัวตามเพลง นาตาลีมองเพื่อนยิ้มขำๆ

ในรถกอล์ฟที่แล่นมาตามทาง เคนกำลังคุยโทรศัพท์กับชาช่า
“ประชุมเสร็จแล้วครับ กำลังพุ่งไปปลอบใจคุณ”
มีเสียงสายเรียกซ้อน เคนดูหน้าจอเห็นชื่อพราว แต่บอกชาช่าว่าณรงค์โทร.มา
“คุณพ่อโทร.มา ขอรับสายคุณพ่อก่อนนะครับ เดี๋ยวเจอกัน” พอวางสายจากชาช่าก็กดรับสายพราวต่อ “คนรักกันใจตรงกันอย่างนี้นี่เอง คอฟฟี่เบรคน่ะครับ กำลังจะโทร.หา คุณก็โทรมาพอดี ทำไมต้องช่วยพี่แจ๊ด” เคนยิ้มกรุ้มกริ่ม “เดี๋ยวจะไปอธิบายให้ฟังอย่างใกล้ชิดเลย” เคนฟังเรื่องห้างถูกวางระเบิดก็ตกใจ “อะไรนะ ผมจะรีบไปหาคุณเดี๋ยวนี้เลยครับ”
รอจนเคนวางสาย กอล์ฟจึงถามขึ้น “ตกลงจะไปหาใครก่อนจะได้ไปส่งถูก”
“ห้างคุณพราวโดนปาระเบิด คุณพราวโจทก์ใหญ่กว่า ไปหาคุณพราวก่อน”
“ฝีมือคุณชาช่าใช่มั้ย”
“คุณพราวคิดอย่างนั้น”
กอล์ฟเหนื่อยใจ
“ปล่อยผู้หญิง 2 คนตีกันแล้วมาลั้นลากับคุณเอม จิตใจทำด้วยอะไรวะ”
“คนเรามันต้องรู้จักปล่อยวางชีวิตถึงจะมีความสุข อีกอย่างถึงกูห้ามพวกเค้าก็ไม่ฟัง กูก็ได้แต่ตามล้างตามเช็ดเป็นช็อตๆ ไป”
“ต้นเหตุคือมึง แก้ต้นเหตุก็จบ”
“ยังแก้ไม่ตก จนกว่าจะหาแม่ของลูกได้”
กอล์ฟส่ายหัว มองเคนอย่างเอือมระอา

พราวนั่งหงุดหงิดทำงานอย่างไม่มีสมาธิ มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่เคนจะเปิดเข้ามา วิ่งเข้ามาสวมกอดพราว
“ผมเป็นกำลังใจให้คุณเสมอนะครับ”
“นึกว่าสนแต่ปัญหาของชาช่า สนปัญหาของพราวด้วยเหรอคะ”
“สนน่ะสิครับ ถึงประกันพี่แจ๊ดออกมา เอาคนเข้าคุกมีแต่จะสร้างศัตรูนะครับ เกิดญาติพี่น้องเค้าโกรธขึ้นมาแล้วทำร้ายคุณจะทำยังไง”
“จ้างการ์ดมาคุ้มกันก็ได้ พราวไม่กลัวพวกมันหรอก”
“แต่ผมกลัว สี่ตีนยังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ถ้าพลาดขึ้นมาแล้วคุณเป็นอะไรไปผมจะมีชีวิตอยู่ยังไง” เคนสวมกอดพราวอีก “ผมห่วงคุณ”
พราวใจอ่อนยิ้มสุขใจ
“คุณมองการณ์ไกลกว่าพราวเยอะเลย คิดไม่ผิดจริงๆ ที่รักคุณ”
เคนยิ้มมีสมใจ รอดตัวอีกคราครั้ง

ชาช่าเปิดประตูห้องให้ เคนโผเข้ากอดทันที
“โอ๋ๆ นะครับ ไม่ต้องกลัวนะผมมาแล้ว”
ชาช่าบีบน้ำตา “คุณมาช้า”
“ลูกค้าเรียกกลับไปบรีฟเพิ่ม ผมยุ่งจนไม่มีเวลาแม้แต่จะไลน์บอกคุณ”
เคนหยิบกล่องกำมะหยี่ออกมายื่นให้ชาช่า
“นี่พอจะทำให้หายน้อยใจได้มั้ย”
ชาช่าเปิดกล่องออกดู เห็นเป็นต่างหูแบรนด์เนมราคาแพงก็ยิ้มกว้าง เป็นปลื้ม
“คู่นี้เกือบแสน ที่ช่าอยากได้”
“หายน้อยใจรึยัง”
“ไม่ต้องมีของแพงๆ มาให้ ช่าก็หายค่ะ ช่าไม่ได้คบคุณหวังผล ช่ารักคุณที่เป็นคุณ”
เคนลูบแก้มชาช่าอย่างนุ่มนวล “รักผมที่เป็นผม คุณคือคนที่ผมหามาทั้งชีวิต”
“ใช้ชีวิตด้วยกันเลยมั้ยคะ”
เคนยิ้มขำ “ขอแต่งงานอีกแล้ว”
“ช่าอยากใช้ชีวิตกับคุณ”
“คุณเป็นคนของประชาชนนะครับ ชื่อเสียง เงินทอง ความสามารถของคุณอาจจะทำให้คุณไปไกลถึงฮอลิวูด ผมคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตถ้าต้องให้คุณเสียสละอนาคตอันสวยงามเพื่อมาใช้ชีวิตกับคนโนเนมผม”
“แค่ได้อยู่กับคุณช่าก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว”
“แต่ผมเห็นแก่ตัวไม่ได้ คนดูเบื่อคุณเมื่อไหร่วันนั้นผมจะดูแลคุณ”
ชาช่ามองซึ้งใจจูบเคนอย่างดูดดื่ม มือถือเคนดังขึ้น เขาหยิบมือถือขึ้นมาดู
“ไม่รับไม่ได้เหรอคะ”
เคนเอามือถือให้ชาช่าดูชื่อคนโทร.มา
“น้าเพ็ญ รีบรับเลยค่ะ”
“นัดกันน่ะครับ คงโทร.มาตาม ผมไปก่อนนะ” เขากดรับสายขณะเดินออก “กำลังไปครับ รับรองตรงเวลาเป๊ะ”
ชาช่ามองตามเคนอย่างเสียดาย

เคนเซลฟี่กับ ณรงค์ เพ็ญ
“อะ ยิ้มแฉ่ง”
เคน ณรงค์ เพ็ญ ยิ้มแต้ เคนถ่ายรูปครอบครัวสวยสมใจ
“สวยงาม”
“ถ่ายส่งให้สองสาวสินะ เค้าจะได้เชื่อว่าแกมากับฉันกับคุณเพ็ญ ไอ้กะล่อน” ณรงค์รู้ทัน
“อ๊ะๆ วันนี้วันดี มีออเดอร์หลายสิบล้าน อย่าด่าลูกให้เสียฤกษ์สิครับ”
“ไอ้กะล่อน” กอล์ฟด่า
“เออจริง แกมันกะล่อน” แดนผสมโรง
“ใช่พี่ บางทีผมก็ไม่เข้าใจว่าพี่จะกะล่อนไปถึงไหน” ป้องเอาด้วย
จากนั้น กอล์ฟ แดน และป้อง ประสานเสียงบอกณรงค์
“พวกผมทีมพ่อครับ”
“ทีมพ่อ แต่ไปช่วยมันออกจากบ้าน”
“ผมกลัวมันถอนหุ้น” แดนว่า
ป้องอ้างว่า “ผมโดนพี่แดนบังคับ”
กอล์ฟบอก “ผมไม่เกี่ยว”
เคนหมั่นไส้ “เอาตัวรอดกันนักนะ กูไม่แคร์พวกมึงหรอก กูมีน้าเพ็ญคนเดียวก็พอแล้ว น้าเพ็ญทีมผมใช่มั้ยครับ”
“ดื้อมากน้าก็อาจจะเปลี่ยนทีม”
“ไม่ดื้อไม่ซนครับ ในโลกนี้เชื่อฟังน้าเพ็ญคนเดียวเลย”
เพ็ญพูดเป็นนัย ทีเล่นทีจริง “งั้นวันนี้น้าบอกอะไรต้องทำตามทุกอย่างนะ”
“ไม่งอแงแม้แต่นี้ดเดียว”
เพ็ญมองเคนยิ้มมีแผน แล้วละสายตามองไปทางประตูร้าน เหมือนรอคอยใครบางคน

เอมิกา มิ้น นาตาลี เนื้ออ่อน และ รอน เดินมาถึงหน้าร้าน
“อยากกินอะไรสั่งเลยนะ วันนี้แม่จัดเต็ม” เนื้ออ่อนบอกกับสาวๆ
“เรื่องกินหนูไม่เคยเกรงใจอยู่แล้วค่ะ” มิ้นว่า
นาตาลีบอก “ทานข้าวเสร็จแล้วไปหาอะไรดื่มกันดีมั้ยคะ หนูพาไปเปิดหูเปิดตาเอง”
“ไปๆ พ่อก็อยากรู้ว่าวัยรุ่นสมัยนี้เค้าเที่ยวที่ไหนยังไงบ้าง อยู่แต่บ้านกับสวนไม่ค่อยได้เห็นอะไรเจริญหูเจริญตา”
เนื้ออ่อนเหน็บ “ฉันแต่งตัวสวยทุกวัน ไม่ช่วยให้คุณเจริญหูเจริญตาเลยใช่มั้ย”
“เอ้อ ช่วยจ้ะ ช่วยมากเลย” รอนจ๋อย
“ช่วยได้ก็ไม่ต้องไปไหน กลับบ้านไปนั่งมองหน้าฉัน”
“จ้ะ”
เอมสงสารพ่อ “จบ อวสาน อด”
สามสาวหัวเราะขำรอน
“แม่หิ้วหิว รีบเข้าไปเถอะจ้ะ”
เนื้ออ่อน รีบเดินนำทุกคนเข้าไปข้างใน คนอื่นๆ รีบตาม

ที่โต๊ะเคน อาหารเต็มโต๊ะบรรยากาศเต็มอิ่มไปด้วยความสุข เคนตักอาหารให้เอาใจเพ็ญ
“กินเยอะๆ นะครับ จะได้แข็งแรง”
“ให้กินเยอะๆ หุ่นเสีย น้าก็หมดสวยพอดี”
“อ้วนก็ไม่เป็นไรยังไงคุณพ่อก็รัก” แดนว่า
ณรงค์หัวเราะลั่น “ถูกใจ เอามรดกไปครึ่งนึง”
“อีกครึ่งเตรียมให้ผมได้เลย” ป้องหันมาอ้อนเพ็ญ “คุณพ่อรอน้าเพ็ญมาหลายปีแล้วนะครับ รักมั่นคง น้าเพ็ญใจอ่อนเถอะนะครับ”
ณรงค์ถูกใจหัวเราะลั่น “ฮ่าๆๆ เอาอีกครึ่งนึงไปเลย”
แดน กะ ป้อง ตีมือกัน
“พวกเรารวยแล้ว”
ทุกคนหัวเราะเฮฮา
“มากินข้าวกับผู้ชาย ผู้หญิงมีแต่เสียเปรียบ”
เพ็ญบ่นพลางยิ้มขำ ก่อนจะมองไปที่ทางเข้า พอเห็นคุณเนื้ออ่อน คุณรอน เอมิกา มิ้น พากันเดินเข้ามา ก็ยิ้มดีใจ แต่แกล้งทำเป็นไม่เห็น กินข้าวไป
กลุ่มของเนื้ออ่อน รอน เอม มิ้น ยืนรออยู่มุมหนึ่ง เนื้ออ่อนมองหาเพ็ญ

เอม กะ เคน อยู่ในร้านเดียวกันแล้วโดยฝีมือคุณเพ็ญกะคุณนายเนื้ออ่อน แต่ทั้งคู่ยังไม่เห็นกัน

อ่านต่อ ตอนที่ 6


กำลังโหลดความคิดเห็น