พ่อปลาไหล ตอนที่ 4
บทประพันธ์ : กนกเรขา บทโทรทัศน์ : ปัทมา และ จอมใจ
เอมิกาจะเดินกลับกลับโต๊ะ แต่ถูกพลอยพราวกระชากให้หันกลับมาหาอย่างแรง
“บอกว่าไม่สนผู้ชายไฮโปรไฟล์ แต่แอบมาให้ท่าคุณเคนลับหลังฉัน นังคนปากว่าตาขยิบ”
เคนกระโจนตามมาเห็นพราวเงื้อมือก็พุ่งเข้าไปขวางโดยไว
“คุณพราว อย่า”
พราวตั้งใจตบเปรี้ยงใส่เอมเลยโดนแก้มเคนจังๆ
“คุณเคน”
“เข้าใจผิดอีกแล้ว”
เอมมองพราวอย่างเหนื่อยใจ มองเคนอย่างโกรธจัด
“ฉันจะทำให้คุณพราวเข้าใจถูกเอง”
เอมตบเคนจนหน้าหัน
“อู๊ย มือหนักเป็นบ้า นี่น่ะเหรอทำให้คุณพราวเข้าใจ”
เอมมองหน้าพราว “จบถึงเมืองนอกเมืองนาคงตีความออกนะคะว่า สิ่งที่ฉันกับแฟนคุณหมายความว่ายังไง”
เอมเดินเชิดออกไป
“เค้าไม่ได้สนคุณ”
“ก็ใช่น่ะสิคร้าบ เค้าเป็นลูกเพื่อนน้าเพ็ญ น้าเพ็ญเพิ่งแนะนำให้รู้จักกันวันงาน เค้าบังเอิญเห็นผมเลยแวะทักแค่นั้นคร้า” เคนจับแก้มร้องโอดโอย “อูย โอย”
พราวมองเคนอย่างรู้สึกผิด
อาหารเลิศรสวางเสิร์ฟเต็มโต๊ะ แต่เจตน์ยังไม่กิน เขารอทานพร้อมเอมิกา จนเห็นเอมเดินบ่นบ้าอย่างหัวเสียกลับมา
“เจอที่ไหนซวยที่นั่น ฉันเกลียดนาย”
เจตน์ได้ยินแค่ประโยคฉันเกลียดนายก็ตกใจมาก ร้องเสียงดังลั่น
“เกลียดผม! ความดังของผมทำให้คนมาวุ่นวายจนคุณเสียความเป็นส่วนตัวไปด้วยใช่มั้ยครับ”
เอมมองโต๊ะรอบๆ อย่างอายๆ บอกเจตน์เซ็งๆ
“ฉันไม่ได้หมายถึงคุณ”
เจตน์ลุกพรวดขึ้นอย่างเสียฟอร์ม เก๊กเสียงหล่อกลบเกลื่อน
“หมายถึงใครครับ”
“คนที่ตอนนี้ฉันเกลียดที่สุดในสิบโลก” เอมลงนั่ง “รมณ์เสียจริงๆ รีบกินรีบกลับเถอะค่ะ”
“ครับๆ รีบกินรีบกลับครับ ไม่ขัดใจ ตามใจทุกอย่างครับ”
เอมกินอาหารอย่างหงุดหงิดไม่หาย ส่วนเจตน์ไม่รู้เรื่องที่เอมมีเรื่องกับพราว
เวลาผ่านไป พราวเอาน้ำแข็งประคบแก้มเคนอย่างรู้สึกผิด
“โกรธรึเปล่าที่พราวหวงคุณจนมีเรื่องไปทั่ว”
เคนเขี่ยแก้มพราว มองเจ้าชู้กรุ้มกริ่ม
“ไม่หวงสิผมจะโกรธ ผมรู้ครับว่าคุณรักผมมากแค่ไหน แล้วคุณละรู้มั้ยว่าผมก็รักคุณมาก”
พราวยิ้มมีความสุข มองเคนอย่างหลงใหล
“ค่ะ แต่ถ้าน้าเพ็ญรู้ว่าพราวระรานลูกเพื่อนเค้า น้าเพ็ญไม่ปลื้มพราวแน่”
“ถ้าเรื่องถึงหูน้าเพ็ญผมจะเคลียร์ให้เอง”
“ทานเสร็จ ไปหาที่เงียบๆ ดื่มกันต่อนะคะ”
เคนพยักหน้ายิ้มตาหวานฉ่ำ
จู่ๆ แดน กะ ป้อง วิ่งหน้าตื่นพรวดพราดเข้ามาหา
“ไอ้เคน”
ป้องเล่นใหญ่มาก “พ่อพี่ พ่อพี่ พ่อพี๊”
เคน มองแดน กะป้องด้วยสีหน้าตื่นตกใจ
“พ่อกูทำไม”
“เครียดที่มึงทำงานเค้าพัง ความดันขึ้นจนฟุบไปเลย มึงปิดโทรศัพท์น้าเพ็ญติดต่อไม่ได้เลยโทรหาพวกกู พวกกูวัดดวงตระเวนหามึงตามร้านประจำเนี่ย” แดนสาธยาย
“ตอนนี้พ่อกูอยู่ที่ไหน”
“โรงพยาบาล” ป้องบอก
เคนหันมาบอกกับพราวว่า “ผมไปก่อนนะ”
“พราวไปด้วย”
“คุณพ่อกำลังป่วยคงไม่พร้อมเจอใคร ผมไปคนเดียวดีกว่า แล้วผมจะโทร.หานะครับ”
เคนวิ่งออกไปอย่างร้อนใจ พราวมองตามอย่างห่วงใย
เคนวิ่งออกมา หันไปมองไม่เห็นพราววิ่งตามมาก็ยิ้มดีใจ
“เยส” เขาหยิบมือถืออีกเครื่องมากดโทร.ออก “ของที่สั่งไว้ ส่งถึงคอนโดคุณชาช่ารึยัง”
สมกับเป็นปลาไหลตัวพ่อ เคนมีมือถือหลายเครื่องหลายเบอร์ เครื่องที่โทร.หาเอมคนละเครื่องกับที่โทร.หาพราว และ ชาช่า
ที่โถงคอนโด ค่ำนั้น มิ้นสไลด์ดูรูปกอล์ฟในมือถือตอนเขาเดินแบบอย่างอดทึ่งไม่ได้ นาตาลีเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ แล้วเดินออกมาสมทบ มิ้นยื่นรูปให้ดู
“ดี๊ดี องศาไหนก็เท่ อิชั้นไม่อยากเชื่อเลยว่าลุคเงียบๆ ขึ้นเวทีจะขโมยซีนเรียบอย่างเน้”
“เลยมาดักชิงตัวเค้าก่อนโมเดลลิ่งอื่น” นาตาลีดักคอ
“แหงสิคะคู๊ณ เจอเพชรเม็ดงามจะปล่อยให้คนอื่นชิงไปเจียรนัยได้ไง”
กอล์ฟเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกมาอย่างเขินๆ
“เซ็นสัญญาเข้าบริษัทฉันนะ ฉันจะทำให้คุณเป็นดารานายแบบที่ปังสุดๆ ไปเลย”
“เมื่อกี๊ผมตื่นเต้นจนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ยิงสู้กับโจรขายังไม่เคยสั่นเท่านี้ ครั้งเดียวก็เกินพอแล้วครับ”
“แต่คนดูกรี๊ดคุณหนักมากเลยนะคะ เอาดีทางนี้คุณรุ่งแน่” นาตาลีบอก
“ผมไม่ถนัดงานแบบนี้จริงๆ ครับ”
มิ้นแบมือออกมา “โทรศัพท์”
กอล์ฟยื่นมือถือให้งงๆ มิ้นเซฟเบอร์ แอดไลน์กอล์ฟอย่างรวดเร็ว
“ฉันจะกระหน่ำโทร. ไลน์หาวันละร้อยข้อความจนกว่าคุณจะยอมเซ็นสัญญากับฉัน”
กอล์ฟดีใจมาก ยิ้มเขิน
“ไว้เจอกันใหม่นะครับ”
กอล์ฟเดินออกไปอย่างเขินๆ
นาตาลียิ้มเจ้าเล่ห์ “เห็นสายตาที่เค้ามองเธอปะ”
มิ้นรู้ทันมองหมั่นไส้เพื่อน “เหมือนที่เค้ามองหล่อนนั่นละย่ะ สุภาพเป็นมิตรกับทุกคน หยั่มมาชงเรี่ยราดยังไงฉันก็ขอโสดจนแก่เฒ่า”
นาตาลีหัวเราะขำ “เอาที่สบายใจเถอะย่ะ แต่ฉันมั่นใจว่าเค้ามีใจให้เธอ แล้วเธอก็ต้องใช้สิ่งนี้ ตีสนิทจนกว่ายอมเล่าเรื่องนายเคน”
ค่ำวันเดียวกัน คุณเนื้ออ่อน กะคุณรอน ดูทีวีอยู่ที่โถงบ้าน จนเอมเดินเข้ามา
เนื้ออ่อนยิ้มกริ่มทักถาม “ไปดินเนอร์กับคุณเจตน์เป็นไงบ้าง ดีต่อใจมั้ยจ๊ะ”
“เหนื่อยใจมากกว่าค่ะ ตอนไม่ดังว่าพูดมากแล้ว ตอนนี้พูดหนักกว่าเดิม”
“ว่าแล้ว...ไปด้วยแล้วไม่มีความสุข คราวหน้าก็...” รอนพูดไม่ทันจบเนื้ออ่อนก็แย่งพูดว่า
“ไปอีก คนเราต้องปรับตัวเข้าหากัน เค้าตามใจลูกจะตาย ถ้ารู้ว่าไม่ปลื้มแม่ว่าเค้าต้องรีบปรับปรุงตัว”
รอนเหนื่อยใจ “จ้ะ พ่อก็จะพูดอย่างที่แม่เค้าพูดนี่แหละ”
เอมถอนหายใจเซ็งๆ เสียงวิดีโอคอลไลน์ดังขึ้น
“มิ้น นาตาลี คงทำงานเสร็จแล้วเลยโทร.มาอัพเดทชีวิตประจำวัน เอมไปคุยกับเพื่อนก่อนนะคะ”
เอมเดินออกไป
เนื้ออ่อนหันมาทางสามี “ดีมากที่ช่วยสนับสนุนความคิดฉัน”
“ไม่ขัดใจตามใจทุกอย่างจ้ะ”
อีกฟาก ชาช่าเดินโทรศัพท์เข้ามาในล็อบบี้คอนโดอย่างหงุดหงิด เพราะได้ยินเสียงแต่ตอบรับ
“หมายเลขที่ท่านเรียก” ชาช่ากดวางสาย “ยังไม่เปิดเครื่องอีก ไปตายที่ไหนนะ”
แต่แล้วชาช่าก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นลูกโป่งสวยงามเขียนว่า sorry I love Chacha เต็มล็อบบี้
รปภ. บอกว่า “มีคนส่งมาให้คุณครับ”
ชาช่ารีบถาม “ชื่อเคนใช่มั้ย”
“ไม่ใช่ครับ”
ชาช่าหันไปทางเสียง เห็นเคนเดินหล่อเท่ออกมาจากมุมหนึ่งก็ยิ้มแฉ่งดีใจ
“ผมชื่อนายสำนึกผิด...ขอโทษ”
เคนยังพูดไม่ทันจบ ชาช่าก็เอานิ้วแตะปากเคนให้หยุดพูด
“ไม่ใช่ความผิดคุณ ช่าไม่เคยโกรธคุณ”
เคนมองชาช่าด้วยสายตาเจ้าชู้หวานฉ่ำ พลางจับมือเธอมากุม
“ทั้งๆ ที่ผมเป็นต้นเหตุให้คุณโดนคุณพราวทำร้ายจนอับอายคนทั้งประเทศน่ะเหรอครับ
ชาช่าตีหน้านางเอกแสนดี “คุณแม่สอนช่าว่ารู้จักให้อภัยใจจะเป็นสุข ตอนนี้จิตใจช่าสุขอย่างที่คุณแม่สอน ช่าไม่โกรธคุณแม้แต่คุณพราวช่าก็ไม่โกรธค่ะ”
เคนจับแก้มชาช่าไล้เบาๆ อย่างอ่อนโยน “นางเอกของผม”
ชาช่ายิ้มหวานยั่วยวน “ติดต่อไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวานช่าห่วงคุณมากนะคะ ช่าอยากรู้ว่าคุณหายไปไหนมา ขึ้นไปเล่าให้ช่าฟังบนห้องนะคะ”
เคนมองชาช่าด้วยสายตาเจ้าชู้
ทันทีที่ประตูห้องปิดปุ๊บ ชาช่าก็โผเข้ากอดเคนทันที
“ขอบคุณที่มาหา ขอบคุณที่ทำให้ช่ารู้ว่าเป็นคนสำคัญของคุณ”
เคนมองชาช่าอย่างรู้ทัน เชยคางขึ้น
“คุณไม่สำคัญแล้วใครล่ะจะสำคัญ”
เคนจูบนุ่มนวล ชาช่ายิ้มตาหวานเยิ้ม ปลดกระดุมเสื้อเขา เคนเหมือนนึกอะไรได้ผละออกมา
“คุณเพิ่งกลับจากทำงานพักดื่มอะไรให้หายเหนื่อยก่อนดีกว่าแล้วค่อย (มีนัยยะ)คุยกันต่อ เดี๋ยวผมผสมเครื่องดื่มให้”
“ช่าไปอาบน้ำนะคะ ตัวหอมแล้วจะมาคุยด้วย”
ชาช่าเดินออกไป เคนยิ้มเจ้าเล่ห์มองตาม
เคนทำทีเป็นผสมเครื่องดื่มอยู่ตรงมินิบาร์ คอยชะเง้อมองประตูห้องชาช่าที่ปิดอยู่ บางจังหวะวิ่งเอาหูไปแนบประตูห้อง ได้ยินเสียงเปิดน้ำ และเสียงชาช่าฮัมเพลง อย่างมีความสุข
เคนยังเอาหูแนบประตูจนแน่ใจ หยิบมือถือมาเปิดเครื่อง กดโทร.หาพราว ได้ยินเสียงแหวดังออกมา
“ทำไมพราวติดต่อคุณไม่ได้เลย”
เคนรีบวิ่งไปที่ระเบียง คุยโทรศัพท์แต่ตายังมองประตูห้องชาช่าตลอดเวลา
“คุณพ่อปลอดภัยแล้วเพิ่งพากลับบ้าน ผมต้องนอนเป็นเพื่อนคุณพ่อ ต้องปิดเสียงโทรศัพท์แล้วผมจะส่งข่าวเรื่อยๆ นะครับ รักคุณนะ”
เคนวางสาย ปิดเครื่องทันที ยิ้มภูมิใจในความกะล่อนของตัวเอง
เคน กะ ชาช่านั่งอิงแอบอยู่ที่โซฟาชนแก้วไวน์กันท่ามกลางแสงไฟโรแมนติก
สองคนยกแก้วขึ้นจิบแล้วจ้องตาอย่างรู้กัน
ชาช่าวางแก้วกระซิบข้างหูเคนอย่างยั่วยวน
“เล่าให้ฟังหน่อยสิคะว่าหายไปไหนมา”
ตอนท้ายชาช่าเม้มปากที่ติ่งหู เคนฟูฟ่อง อารมณ์กระเจิง
“ไม่อยากเล่าแล้ว อยากทำอย่างอื่น”
“อยากทำอะไรก็ทำเลยค่ะ คุณก็รู้ว่าช่าตามใจคุณทุกอย่าง”
เคนดึงชาช่ามาจูบอย่างดื่มด่ำ ชาช่าปลดกระดุมเสื้อเคน
เคนอารมณ์กระเจิดกระเจิงถอดเสื้อออก ผลักชาช่าให้นอนลงบนโซฟา แล้วโถมตัวเข้ากอดจูบเร่าร้อน
ชาช่ายิ้มสมใจ อารมณ์กระเจิดกระเจิงไม่แพ้กัน เธอพลิกตัวขึ้นทับตัวเคน จะจูบเคน แต่แล้วเคนกลับต้องชะงักเมื่อเห็นหน้าชาช่าเป็นหน้าเอมิกา
“เฮ้ย”
เคนพลิกตัวกลับขึ้นมาอยู่ด้านบน มองชาช่าที่นอนอยู่ยังเห็นเป็นหน้าเอมเช่นเดิม
“เฮ้ย”
ชาช่ามองเคนอย่างแปลกใจ
“เป็นอะไรคะ”
เคนยังนิ่งอึ้งจ้องหน้าชาช่างงๆ
“คุณเคนคะ คุณเคน”
เคนได้สติ เห็นหน้าชาช่าเหมือนเดิม
“คะ ครับ”
“เป็นอะไรไปคะ”
“เพิ่งนึกได้ว่ามีธุระด่วนอีกแล้วไปนะครับ”
เคนหมดอารมณ์แล้ว ลุกหยิบเสื้อแล้วออกจากห้องไป
“คุณเคน...คุณเคน” ชาช่าค้างเติ่ง หงุดหงิดเอามากๆ “ปลุกอารมณ์ซะกระเจิงแล้วทิ้งไปดื้อๆ ไอ้บ้าเอ๊ย”
เคนเดินใส่กระดุมเสื้อมาตามโถงทางเดิน บ่นกับตัวเองอย่างงงๆ
“เห็นหน้าชาช่าเป็นหน้าคุณเอมได้ไง หรือจะคิดถึงเค้ามาก จีบเล่นๆ จะคิดถึงได้ไง งงโว๊ย”
ที่แฟลตตำรวจ กอล์ฟใส่ชุดนอนจัดหมอนไปคิดถึงมิ้นไป ยิ้มหน้าบานมีความสุข นั่งลงเตรียมสวดมนต์เข้านอน จู่ๆ เคนก็เปิดประตูพรวดเข้ามา
“ไอ้กอล์ฟ”
กอล์ฟสะดุ้งตกใจ หันไปเห็นเป็นเคนมองอย่างเอือมระอา
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เคาะประตูก่อน สมองมึงจำพฤติกรรมดีๆ ที่ควรทำไม่ได้เลยใช่มั้ย”
“กำลังงงจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น กูเจอเรื่องประหลาด คืองี้ กูกำลังจะฟิชเจอริ่งกับคุณช่า แต่ดันเห็นหน้าคุณช่าเป็นคุณเอมว่ะ”
กอล์ฟร้องขึ้นด้วยความตกใจ “มึงตกหลุมรักคุณเอม”
“พูดไม่คิด” เคนชี้หน้าตัวเอง “กูน่ะเสือผู้หญิงนะโว้ย ผ่านผู้หญิงมาเป็นร้อยมีแฟนมาหลายสิบ กูรู้ว่าความรักเป็นยังไง ถ้าตกหลุมรักคุณเอมก็ต้องรู้ใจตัวเอง ไม่มานั่งมึนอึนเหวอแดรกอย่างนี้หรอก”
“ไม่แน่ บางทีที่ผ่านมามึงอาจจะไม่เคยรู้จักความรักเลยก็ได้ เหมือนเพื่อนตำรวจที่โรงพักกู พากิ๊กเข้าโรงแรมพอจะมีอะไรกันก็เห็นหน้ากิ๊กเป็นหน้าเมียจนหมดอารมณ์ทุกครั้ง มันไปหาจิตแพทย์ หมอบอกมันรักเมียมากพอจะนอกใจเลยรู้สึกผิดเห็นกิ๊กเป็นเมีย กูว่ามึงเหมือนเคสนี้มึงกำลังตกหลุมรักคุณเอม”
“ไม่เหมือน ไม่รัก เป็นไปไม่ได้” เคนว่า
“กูว่าเป็นไปแล้ว” กอล์ฟหัวเราะเยาะเย้ย “โถๆๆ บอกว่าเป็นเสือผู้หญิงแต่ไม่รู้จักความรัก ไอ้ขี้โม้ ฮะๆๆ”
เคนมองกอล์ฟอย่างหงุดหงิด แต่ยังไม่ทันพูดอะไรเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นซะก่อน
“คงมีเหตุด่วน”
เคนรีบไปเปิดประตู เห็นชูศรี กะเจียดยืนอยู่หน้าห้องก็ตกใจ
“เหตุด่วนจริงๆ ด้วย”
เจียด กะ ชูศรีวิ่งเข้ามาจะจับตัว แต่เคนหลบวูบ รอดเจียดไปได้อย่างหวุดหวิด วิ่งหนีออกนอกห้องไป
เจียด กะ ชูศรีรีบวิ่งตาม กอล์ฟตกใจรีบวิ่งตามไปอีกคน
เคนวิ่งหน้าเริ่ดหนีมาตามระเบียง มีเจียด ชูศรี กอล์ฟวิ่งตามมา
“หยุดนะนาย”
เคนไม่หยุดวิ่งตรงไปที่บันได แต่ก่อนจะถึง ณรงค์ก็ก้าวมาขวาง พร้อมการ์ด 4 คน ยืนเป็นแผงขวางทางไว้
“แกหนีฉันไม่พ้นหรอก ไอ้ลูกทรพี”
เคนมองณรงค์ตกใจแป๊บเดียวสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นยิ้มเยาะ
“แค่ทำให้ผู้หญิงตบกันถึงขั้นด่าว่าทรพีเลยเหรอ ต้องด่าว่าไอ้เชื้อไม่ทิ้งแถวถึงจะถูก”
“แกด่าฉันเลวเหมือนแกเหรอ”
“ใครจะกล้าด่าพ่อตัวเองเล่า ผมจะบอกว่าผมนิสัยเหมือนพ่อต่างหาก...แล้วคิดเหรอว่าดักหน้าดักหลังจะจับตัวผมได้ พ่อกับผมกระดูกมันคนละเบอร์”
เคนปีนหนีระเบียงลงไปอย่างรวดเร็ว ณรงค์รีบยื่นหน้าไปดูสั่งเสียงเข้ม
“จับมันมาให้ได้”
ทุกคนรีบวิ่งกรูตามลงไป
เคนปีนลงมาถึงชั้นหนึ่ง ตะโกนเย้ยณรงค์
“ผมถึงชั้น1 แล้ว พ่อวิ่งช้าอย่างนี้ผมไม่รอละนะ See You ไว้เจอกัน”
เคนหันไปจะวิ่งหนี แล้วต้องชะงักกึกเมื่อเพ็ญยืนขวางสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“อีกก้าวเดียว ไม่ต้องมาเรียกน้าว่าน้า”
เคนเงยหน้าตะโกนบอกฟ้า
“พ่อ ผมยังไม่กลัว ทำไมต้องให้ผมกลัวน้าเพ็ญด้วย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำไมถึงใจร้ายกับผมอย่างนี้”
เพ็ญมองเคนอดยิ้มขำกับความขี้ประจบของเขาไม่ได้
เคนนั่งคุกเข่าอยู่กลางวงล้อมในสนามหญ้าหน้าแฟลตตำรวจ ณรงค์นั่งเก้าอี้ม้าหิน มองเคนอย่างโมโห
เพ็ญนั่งข้างๆ ณรงค์ เจียด ชูศรี และกอล์ฟ ยืนอยู่ ทุกคนมองเคนอย่างเหนื่อยใจ มีการ์ดล้อมไว้กันเคนหนี
“บรรยากาศอย่างกับอยู่ในศาลไคฟง” เคนหันมาทางณรงค์ตีหน้าเศร้า “จะพิพากษายังไงก็ว่ามาเลย คุกเข่านานแล้ว เจ็บอ่ะ”
“เจ็บแค่นี้ยังน้อยไป คนที่ดีแต่สร้างความหายนะให้คนอื่นต้องเจ็บหนักกว่านี้”
ณรงค์ลุกพรวดจะเตะ เคนรู้ทางกอดขาพ่อหมับ
“ปล่อย”
“ตำรวจยืนหัวโด่จะปล่อยให้พ่อทำความผิดซึ่งหน้าได้ไง ที่ผมจับไว้เนี่ยไม่ได้กลัวโดนเตะหรอกนะแต่กลัวพ่อติดคุก”
ณรงค์ยิ่งโมโห “หนอย พูดจาหัวหมอ คิดว่าคนอื่นไม่รู้กฎหมายรึไง เตะแกทีสองทีเสียตังค์น้อยกว่าเตะหมาอีกโว๊ย”
กอล์ฟผสมโนงว่า “เอาเลยครับคุณพ่อ ดึกแล้วตำรวจหลับไม่รู้ไม่เห็น”
“อ้าว ไอ้กอล์ฟ ไหงพูดงี้”
“จี๊ดนักใช่มั้ย โดนซะบ้างจะได้หายจี๊ด”
“เพื่อนรักยังไม่เข้าข้าง แกเจ็บ” ณรงค์สะบัดขาหนี “ปล่อย”
“พี่รงค์คะ เพ็ญขอแล้วไงว่าอย่าใช้ความรุนแรง”
ณรงค์มองเพ็ญอย่างเกรงใจ เคนชอบใจ
“โดนดุเลย สมน้ำหน้า”
“หยุดยั่วโมโหพ่อ แล้วรับปากน้าได้มั้ยว่าต่อไปนี้จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครอีก”
เคนปล่อยขาณรงค์แล้วคลานไปหาเพ็ญอย่างออดอ้อน
“ได้สิคร้าบบบบบ สำหรับน้าเพ็ญผมยอมทุกอย่าง” เขาเอาหัวซบตักเพ็ญ “รักน้าหลงน้า”
เพ็ญทั้งโกรธทั้งเอ็นดู “รักน้าหลงน้า ก็กลับบ้านกับน้านะ”
“ผมก็อยากกลับ แต่ผมกลัวโดนพ่อตื้บ”
“หูหนวกรึไง ถึงไม่ได้ยินที่คุณเพ็ญบอกว่าฉันจะไม่ใช้ความรุนแรง”
“อยากได้ยินจากปากปะป๊า ปะป๊าพูดหน่อย”
ณรงค์ตะโกนอย่างรำคาญ “ฉันจะไม่ใช้ความรุนแรงกับแก ได้ยินรึยัง”
เคนโผไปกอดอ้อนณรงค์ “พ่อใจดี รักพ่ออ่ะ”
ณรงค์ที่กำลังหงุดหงิดพอโดนเคนกอดก็ยิ้มขำ เพ็ญ เจียด ชูศรี และกอล์ฟ มองเคนกอดณรงค์พลอยยิ้มขำไปด้วย
เป็นภาพครอบครัวที่รักและเข้าใจกันมาก ความกะล่อนของเคนทำให้เขาเป็นคนน่ารักของทุกคนในบ้านและเพื่อนฝูงไปด้วย
เคนในชุดนอน นอนหลับตาอยู่บนเตียง จู่ๆ ภาพจูบกับเอมิกาแว่บเข้ามาหลอกหลอน เคนลืมตาโพลง พลิกตัวไปมาอย่างหัวเสีย
“เป็นไรนักหนาวะไอ้เคน อ๋อ มีภารกิจค้างคา”
เคนหยิบมือถือมากดโทร.หาเอมิกา
ฝ่ายเอมก็นอนไม่หลับ เดินไปเดินมาอย่างร้อนใจอยู่ในห้อง
“ป่านนี้ยังไม่โทร.มา แล้วเมื่อไหร่จะได้คืน โทร.ไปเองดีกว่า”
พอหยิบมือถือขึ้นมาโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพอดีเอมสะดุ้งตกใจ ระคนดีใจ
“ว้าย นายเคน” เธอรีบกดเก็กเสียงรับสาย “ไม่รู้จักคำว่าเกรงใจเลยใช่มั้ยถึงโทร.มาดึกดื่นป่านนี้”
เคนคุยสายอยู่ในห้องนอน
“ว่าจะโทร.มานัดคืนของซะหน่อย ได้ยินวาจาแบบนี้หมดรมณ์ แค่นี้นะ”
“เดี๋ยวๆ ที่ไหน ยังไง”
“พรุ่งนี้ร้านกาแฟที่เดิมกับข้อตกลงที่เหลือ”
“เคร”
เอม กะ เคน วางสายไป ต่างคนต่างยิ้มมีความสุขโดยไม่รู้ตัว
รุ่งเช้า รถณรงค์จอดหน้าบ้าน ขณะรถพราววิ่งเข้ามาจอด พราวถือกระเช้าของเยี่ยมลงรถจะเข้าบ้าน เห็นเจียดถือกระเป๋าเดินมา ตามด้วย ณรงค์ และเพ็ญ ก็แปลกใจ
“คุณลุงหายป่วยแล้วเหรอคะ”
ณรงค์ กะ เพ็ญ มองหน้าอย่างรู้กัน
“ไอ้เคนบอกหนูเหรอว่าลุงป่วย”
“ค่ะ บอกว่าป่วยหนักมาก ชาไปครึ่งตัว”
ณรงค์แค้นลูกแสบ
“ปากเบี้ยว” พราวบอกอาการอีก
ณรงค์สุดทนโพล่งขึ้น “ลุงไม่ได้”
เพ็ญรีบแทรกขัดขึ้น “ไม่ได้เป็นอะไรมาก ดีขึ้นมากแล้วจ้ะ”
เพ็ญส่งสายตามองณรงค์เชิงปรามๆ ไม่ให้บอกว่าเคนโกหก ณรงค์ถอนหายใจหงุดหงิด
“คุณเคนพยาบาลดีมากเลยใช่มั้ยคะ คุณลุงถึงหายป่วยในชั่วข้ามคืน”
ณรงค์ประชดส่ง “ใช่ มันดูแลลุงทั้งคืนเลย มันเป็นลูกที่กตัญญูมากกกกก”
“พราวกำลังจะเข้าออฟฟิศแวะมาเยี่ยมน่ะค่ะ ขอให้คุณลุงสุขภาพแข็งแรงนะคะ”
พราวยื่นกระเช้าให้ณรงค์รับมา “ขอบใจ”
เจียดมารับกระเช้าจากณรงค์
“ทานอะไรมารึยังจ๊ะ ถ้ายังเดี๋ยวน้าให้ชูศรีตั้งโต๊ะให้ แต่น้ากับพี่รงค์อยู่ทานด้วยไม่ได้ มีประชุมน่ะ”
พราวไหว้ขอบคุณเพ็ญ “ขอบพระคุณค่ะ พราวเรียบร้อยมาแล้ว เพิ่งหายป่วยทำไมไม่พักอีกซักวันสองวันละคะ”
“งานด่วนรอไม่ได้น่ะ” ณรงค์ว่า
“คุณเคนละคะ”
“น่าจะยังไม่ตื่น” เพ็ญบอก
“มิน่าโทร.ติดต่อไม่ได้เลย ดูแลคุณลุงทั้งคืนคงเหนื่อยมาก ไว้พราวค่อยโทร.หาก็ได้ค่ะ คุณลุงกับน้าเพ็ญต้องรีบไปประชุมงั้นพราวไม่รบกวนแล้วค่ะ”
พราวไหว้ลาณรงค์ กับ เพ็ญ ขึ้นรถขับออกไปเลย ณรงค์มองเข้าไปในบ้านบ่นพึมพำอย่างแค้นใจ
“หาข้ออ้างหนีหญิงที่ดีกว่านี้ไม่ได้แล้วใช่มั้ย ถึงแช่งให้ฉันพิการ...ไอ้ลูกเวร”
ฝ่ายเคนแต่งตัวไปร้องเพลงเต้นเกาหลีไปอย่างมีความสุข จะเดินออกจากห้อง แต่ประตูถูกล็อกจากข้างนอกเปิดไม่ได้ เคนตะโกนลั่น
“ทำไมเปิดไม่ได้ ใครอยู่ข้างนอก เปิดให้ที”
เงียบกริบไม่มีเสียงตอบ เคนเคาะประตู
“ไอ้เจียด พี่ศรี พ่อ น้าเพ็ญ ใครได้ยินบ้าง เปิดประตู”
“พี่ศรีมาแล้วค่ะ”
ชูศรียืนรออยู่ที่หน้าห้อง
“ตื่นแล้วเหรอคะ หิวมั้ย พี่ศรีจะเอาอาหารมาเสิร์ฟให้”
“ไม่หิว จะไปข้างนอก ผมเปิดประตูไม่ได้ เปิดให้หน่อย”
“เปิดเอาอาหารเข้าไปให้ได้ค่ะ แค่เปิดให้ออกไปข้างนอกไม่ได้ คุณท่านกักบริเวณคุณข้อหาแช่งท่านค่ะ”
เคนหงุดหงิด “กักบริเวณเหรอ” พ่อปลาไหลครุ่นคิดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์มีแผน ตะโกนคุยกับชูศรี
“พ่อนะพ่อทำกับลูกชายสุดที่รักได้ลงคอ ไม่ออกก็ไม่ออก งั้นเอาขอกินมาให้หน่อยหิวแล้ว”
“ไปยกมาเดี๋ยวนี้เลยค่า”
เคนยิ้มร้ายมีแผนในใจ
ไม่นานนัก มีเสียงไขกุญแจดังกุกกักๆ จากหน้าห้อง เคนตั้งท่าเตรียมพร้อม ชูศรีเปิดประตูยกถามอาหารเข้ามา เคนพุ่งออกไปนอกห้องอย่างรวดเร็ว
ชูศรีตกใจ “คุณเคน”
แต่ไม่นานก็มีเสียงเคนร้องลั่น “ปล่อย ปล่อยฉัน”
เห็นการ์ด 4 คน หามเคนเข้ามา
ชูศรีขำ “โถๆๆ ไม่ฟังกันบ้างเลย อุตส่าห์เรียกไว้จะบอกว่าอย่าคิดหนี เพราะหนียังไงก็ไม่พ้น คุณท่านเตรียมการไว้อย่างดีค่ะ”
การ์ดเอาเคนไปทิ้งลงบนเตียง ชูศรีเดินออกไป การ์ดเดินตาม
ประตูห้องปิดลงเคนได้ยินเสียงล็อกรีบวิ่งไปเขย่าประตู ยื่นข้อเสนอ
“พี่ศรี หมื่นนึง”
ชูศรีสวนกลับไปว่า “ไม่รับสินบนค่ะ”
เคนหงุดหงิด “คิดเหรอว่าอุปสรรคแค่นี้จะสกัดดาวรุ่งอย่างนายเคนได้ เมื่อพระเจ้าปิดประตู พระองค์จะเปิดหน้าต่างเสมอ”
เคนวิ่งไปที่หน้าต่าง มองลงไปเห็นการ์ด 2 คนยืนคุมมาดเข้ม
“วางยามไว้ทุกจุดเลยนะคุณพ๊อ” เคนครุ่นคิดหยิบมือถือมากดโทร.หาตัวช่วย “ไอ้แดน ช่วยกูด้วย”
เอมเดินฮัมเพลงมีความสุขจะออกไปเจอเคนตามนัด สมบูรณ์กำลังยกกาแฟไปให้คุณเนื้ออ่อน กะ คุณรอนที่หน้าบ้านผ่านมาพอดี
“อุ๊ตะ ฮัมเพลง ใครน้าทำให้คุณเอมมีความสุขแต่เช้า”
“ฉันมีความสุขได้ด้วยตัวเองไม่ต้องพึ่งคนอื่นจ้ะ”
“มันต้องอย่างง้านสิคะ ไอด้อลของสมบูรณ์ สวย สตรอง”
เอมหัวเราะขำ
“คุณพ่อคุณแม่ล่ะ”
“เดินชมนกชมไม้อยู่ที่สนามหน้าบ้านค่ะ สมบูรณ์กำลังจะเอากาแฟไปเสิร์ฟให้”
เนื้ออ่อน กะ รอน เดินเข้ามาพอดี
“ไม่ต้องแล้ว ข้างนอกแดดออกแล้วฉันเปลี่ยนใจกินในบ้านดีกว่า เมื่อกี๊แม่ได้ยินหัวเราะกันร่วนเชียว คุยอะไรกัน”
รอนมองสงสารเอม “คุยอะไรก็ช่าง รีบๆ หัวเราะเข้า ความสุขของลูกใกล้หมดแล้ว”
“ความสุขของหนูใกล้หมด คุณพ่อหมายความว่า...”
ไม่ทันขาดคำ เจตน์หอบดอกไม้ช่อเบิ้มเข้ามา
“กุดม้อนิ้งครับ ผมเอาดอกไม้มาให้เอาหัวใจมาฝากครับ”
เอมเซ็ง “ขอบคุณค่ะ ไม่มีเวลาคุยด้วยนะคะ มีธุระ”
“ไม่เป็นไรมิได้ครับ ผมแค่แวะมามองหน้าคุณให้มีกำลังใจก่อนไปทำงานแค่นั้นครับ กุดบาย ลาก่อนครับ”
เจตน์ไหว้เนื้ออ่อน รอน แล้วเดินออกไป
“เทียวเช้าเทียวเย็น นัลร้ากก” เนื้ออ่อนปลื้ม
เอม กะรอนมองหน้ากันเซ็งๆ
พราวเดินเข้ามาที่ห้องทำงาน ทิพย์กำลังคุยโทรศัพท์อยู่รีบวางสายมารายงาน
“คุณพราวมาพอดี ฉันจะรายงานคุณพราวเดี๋ยวนี้เลย”
“มีอะไร”
“ฝ่ายไอทีได้ไอพีแอดเดรสคนปล่อยคลิปคุณแล้วค่ะ ตอนนี้รู้แล้วว่ามันเป็นใคร”
พราวตาวาวโรจน์ “เอาตำรวจไปลากคอมันเดี๋ยวนี้”
ที่คอนโดหรู ชาช่าแต่งตัวสวยงามเดินออกมาจากห้องนอน หยุดโพสท่าสวย แจ๊ดแต่งหน้าอยู่เห็นแล้วกรี๊ดแตก
“แอร๊ยยยย งดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์...ขอพี่ปัดขนตาอีกนี๊สสสส
“ช่าหรือพี่กันแน่ที่ออกงาน แต่งเต็มกว่าช่าอี๊ก”
“เป็นผู้จัดการซุปตาร์น้อยกว่านี้มันไม่สมฐานะค่ะ”
เสียงกริ่งดังขึ้น ชาช่า กะ แจ๊ดมองหน้ากันกรี๊ดกร๊าดกัน
“คนที่น้องชาช่าอนุญาตให้ขึ้นมามีแค่พี่กับคุณเคน...อ๊ายยย คุณเคนเซอร์ไพร้สมารับน้องชาช่าไปทำงาน”
ชาช่ารีบวิ่งไปเปิดประตูแล้วต้องตกใจแทบช็อก เมื่อเห็นกอล์ฟ พร้อมกำลังตำรวจหลายคน และพราว ยืนอยู่หน้าห้อง แจ๊ดที่วิ่งตามมาชะงักกึก
กอล์ฟบอกด้วยท่าทีเกรงใจ “ขอเชิญพวกคุณไปโรงพักด้วยครับ
ชาช่า กะแจ๊ดมองกอล์ฟอย่างตกใจ พราวยิ้มเยาะบอกเสียงดังลั่น
“พวกแกโดนจับข้อหาว่าจ้างปล่อยคลิปทำลายชื่อเสียงฉัน”
“เราเช็คบัญชีธนาคารของพวกคุณ พบว่ามีการโอนเงินจากบัญชีคุณแจ๊ดให้คนร้ายที่ปล่อยคลิปคุณพราวครับ”
ชาช่า แจ๊ดมองหน้ากันอย่างตกใจ พราวมองชาช่า ยิ้มร้ายสะใจสมใจ
ชาช่า กะแจ๊ด ถูกตำรวจคุมตัวลงลิฟต์มา กอล์ฟมองชาช่าด้วยความสงสาร พราวมองชาช่ายิ้มสะใจ
ลิฟต์เปิดออกทิพย์อยู่กับนักข่าว นักข่าวรุมถ่ายรูปรัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง
ชาช่า กะ แจ๊ดรีบเอากระเป๋าบังหน้า
ชาช่าคุมแค้นมองพราวอย่างโกรธจัด “พานักข่าวมาด้วยเหรอ”
“แกจะได้ดังกว่าเดิมไง” พราวยิ้มเยาะ
ตำรวจอื่นหนึ่ง เคลียร์ทางให้ตำรวจคุมตัวชาช่า และแจ๊ดออกจากลิฟต์
ทิพย์รายงานกับพราวว่า “วิทยุ ทีวี สื่อออนไลน์ทุกสำนักมาหมดค่ะ”
“ทำดีมาก”
ทิพย์ถอนหายใจโล่งอก นักข่าวยิงคำถามใส่ชาช่าไม่หยุด
นักข่าว1 เปิดประเด็นว่า “คนร้ายที่ถูกจับได้ซัดทอดว่าคุณชาช่าเป็นผู้ว่าจ้าง คุณมีอะไรจะพูดมั้ยครับ”
ชาช่าไม่ตอบ
นักข่าว2 ซักไซ้ว่า “คุณโกรธคุณพราวที่ฉีกหน้าคุณในงานเปิดตัวอ่างอาบน้ำใช่มั้ยคะ เลยสร้างสถานการณ์ถ่ายคลิปแก้แค้น”
แจ๊ดคิดปราดเดียว เอากระเป๋าที่บังหน้าลงพูดกับนักข่าวเสียงดังฟังชัด
“น้องชาช่าถูกใส่ร้ายค่ะ น้องชาช่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้เลย ทั้งหมดเป็นฝีมือพี่แจ๊ดเอง”
พราว และทิพย์ มองแจ๊ดอย่างแปลกใจ ชาช่ายิ้มในสีหน้ามองเย้ยพราวอย่างเป็นต่อ
อีกฟาก แดน กะป้อง ยืนอยู่หน้าบ้านเคน ชูศรีเดินมามองอย่างแปลกใจ เปิดประตูไปคุยไป
“คุณแดน คุณป้อง มาหาคุณเคนเหรอคะ”
“เปล่า รถเสีย แต่ต้องไปประชุมกับลูกค้าเลยโทร.หาไอ้เคนว่าจะไปกับมันเลยได้ฟังมันโอดครวญว่าคุณพ่อกักบริเวณ ไปประชุมด้วยไม่ได้ แต่มันให้ยืมรถ เลยมาเอา”
“อ๋อ เรื่องเป็นงี้นี่เอง พี่ไปหยิบกุญแจรถให้นะคะ”
ชูศรีจะเดินไป จู่ๆ ป้องตะโกนลั่น
“ใครน่ะ”
ชูศรี กะ แดน หันไปมองด้วยความตื่นตกใจ
“ไหนคะ ใครที่นั่น”
“วิ่งไปทางหลังบ้าน ใส่ชุดไอ้โม่ง ขโมยชัวร์ รีบไปดูเร็ว” ป้องเล่นใหญ่ตกใจเว่อร์
ชูศรีร้องลั่น “ขโมยๆ ช่วยกันจับขโมยเร็ว” การ์ด 6 คนวิ่งกรูออกมาสมทบ ชูศรีสั่งการ “หลังบ้าน”
การ์ดวิ่งไปทางหลังบ้าน ชูศรี แดน ป้อง วิ่งตาม
แดน กะ ป้องอาศัยจังหวะชุลมุน เลี้ยวไปข้างบ้านอย่างเนียนๆ
เคนแอบมองลงมาจากหน้าต่าง เห็นแดน กะ ป้องช่วยกันยกบันไดมาก็ยิ้มดีใจรีบเปิดหน้าต่างให้
“เร็ว”
“มึงเห็นพวกกูเดินทอดน่องกันอยู่รึไง” แดนด่าเอา
“ไม่ต้องเร่งพวกผมก็รีบเต็มสปีดแล้วพี่”
แดน กะป้อง เอาบันไดพาดให้เคนปีนหน้าต่างออกมา
แดน ป้อง เคน ค่อยๆ ยื่นหน้าออกมาจากมุมหนึ่ง ชูศรีเดินมาการ์ดเดินตาม
“หาจนทั่วไม่มีแม้แต่เงา หรือคุณป้องจะตาฝาด เห็นเงาต้นไม้แล้วคิดว่าเป็นคน” ชูศรีนึกได้ “คุณแดน คุณป้อง หายไปไหน ขุ่นพระ” ชูศรีบอกกับการ์ดว่า “รีบขึ้นไปห้องคุณเคนเร็ว”
เคน แดน ป้อง ยิ้มร่าดีใจ ชูศรีกับการ์ดจะเข้าบ้าน แต่เสียงมือถือเคนดังขึ้นซะก่อน
สามหนุ่มตกใจ มองหน้ากัน
“ทางนั้น”
ชูศรีชี้ไปทางเสียงโทรศัพท์ การ์ดวิ่งกรูมาทางที่สามหนุ่มซ่อนตัวอยู่
“ฝ่าวงล้อม” เคนร้องบอก
เคน แดน ป้อง วิ่งฝ่าวงล้อมชูศรี กับการ์ด
เสียงโทรศัพท์ยังดังต่อเนื่อง ชูศรี และการ์ด ไล่จับ เคนอย่างชุลมุนวุ่นวาย แดน กะ ป้อง ช่วยกันผลักการ์ด คอยเปิดทางให้เคน
เคนลอดแขนการ์ดถอดเสื้อกางเกงออกเหลือแค่บ๊อกเซอร์กับเสื้อกล้ามหมุนตัววิ่งหนีได้สุดเท่ สามหนุ่มวิ่งออกจากบ้านไปได้ในที่สุด
“ลาก่อนนะพี่ศรี”
เคนยิ้มทะเล้น โบกมือให้ชูศรีก่อนจะกระโจนตัวลอยออกบ้านไป
ชูศรีหน้าเจื่อนจ๋อย “ประตูก็ล็อก การ์ดก็แยะ แต่ยังปล่อยคุณเคนหลุดไปได้...โดนคุณท่านเล่นหนักแน่นังศรี”
เคน แดน และป้อง พากันมาขึ้นรถของแดนที่จอดอยู่อย่างรีบร้อน แดนรีบสตาร์ตขับรถออกไป เคน แดน ป้อง ตีมือไฮไฟว์กันอย่างเฮฮาสนุกสนาน
“วู้ว สุดยอดลอดท้องช้าง พวกแกสุดว่ะ สุรา นารี 3ราตรีรวด พี่สมนาคุณให้”
“พวกกูสุดแต่มึงอะ ทำให้เกือบซวย งานหนีไมไม่ปิดเสียงโทสับวะ” แดนว่า
“ไม่คิดว่าจะมีคนโทร.มานี่หว่า”
“โทรไม่เลิกด้วย รับสายก่อนมะ”
เคนหยิบมือถือออกมายิ้มมีความสุขเมื่อเห็นชื่อคนโทร.มา
“คุณเอม...ฮาโล้ว ออนเดอะเวย์ เมื่อคืนรับลูกค้าหนักเลยตื่นสาย รอแพร้พ แต่ถ้ารอไม่ไหวยกเลิกนัดก็ได้นะ เอาที่คุณสบายใจ”
เอมคุยสายอยู่ที่ร้านกาแฟด้วยความหงุดหงิด
“ถือไพ่เหนือกว่าจะทำยังไงกับฉันก็ได้ใช่มั้ย รีบเลยฉันรออยู่”
เอมวางสายหันมาบอกเพื่อนๆ มิ้น นาตาลีอยู่ด้วย
“บอกว่าเมื่อคืนรับลูกค้าหนักเลยตื่นสาย”
“แกล้ง เชื่อดิ เค้าตั้งใจยั่วประสาทเธอ” มิ้นว่า
“ใจร่มๆ ได้ของคืนเมื่อไหร่พวกเราจะจัดหนักนายนั่นชุดใหญ่เลย” นาตาลีบอก
“มีแผนเด็ดเหรอคะคู๊ณ”
นาตาลียิ้มร้ายแทนคำตอบ
อีกฟากที่ล็อบบี้คอนโด แจ๊ดโชว์โทรศัพท์ให้นักข่าวทุกคนดู
“หลักฐานการโทร.หาคนร้าย หลักฐานการโอนเงินอยู่ในนี้ พี่แจ๊ดทำเรื่องนี้คนเดียว น้องชาช่าไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น”
พราว กับ ทิพย์ ดูเหตุการณ์อยู่มุมหนึ่ง ชาช่ายืนมองแจ๊ดอย่างโล่งใจ
ทิพย์ฟังแล้วร้อนใจ “รับคนเดียวก็เอาผิดนังชาช่าไม่ได้น่ะสิคะ”
พราวอดทึ่งไม่ได้ “ไม่คิดเลยว่าผู้จัดการมันจะเล่นละครเก่งกว่ามันซะอีก”
แจ๊ดบีบน้ำตาดราม่าต่อ “ถึงจะไม่ใช่พี่น้องคลานตามกันมา แต่พี่ก็รักน้องชาช่าเหมือนน้องสาวในไส้ พี่เห็นคนจิตใจดีราวกับแม่พระโดนรังแกไม่ได้ คุณพราวคะ คุณมีเหนือน้องชาช่าทุกอย่าง น้องชาช่าสู้รบปรบมือกับคุณไม่ไหวหรอกค่ะ” พร้อมกับว่าแจ๊ดยกมือไหว้พราวอย่างน่าสงสาร “พี่แจ๊ดขอร้อง อย่ารังแกน้องชาช่าอีกเลยนะคะ”
นักข่าวถ่ายรูปแจ๊ดไหว้พราวรัวๆ พราวคุมแค้นที่สถานการณ์พลิก
“ทำให้ฉันดูเป็นนางมารในสายตาสื่อ...ร้ายกาจ”
แจ๊ดไหว้กราด พร้อมกับร้องไห้โฮๆ “กราบขอโทษคุณตำรวจและทุกท่านที่ต้องวุ่นวายกับการกระทำของพี่แจ๊ด พี่แจ๊ดยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา พี่แจ๊ดยอมก้มหน้ารับกรรมที่ทำลงไปค่ะ”
แจ๊ดลุกขึ้นโผเข้ามากอดชาช่ารีบกระซิบบอก “ทำยังไงก็ได้ให้พี่ออกจากคุกเร็วที่สุด”
จากนั้นผู้จัดการดาราคนดังก็ร้องไห้โฮๆ ชาช่าบีบน้ำตาร้องไห้ตามกันอย่างน่าสงสาร
นักข่าวถ่ายรูปชาช่า แจ๊ด กอดกันกลมร้องไห้เป็นที่น่าเวทนา
พราวมองชาช่าอย่างแค้นใจ
หลังจากนั้นไม่นาน ชาช่าเดินออกมาจากโถงโรงพัก ยิ้มสะใจ
“จบงานนี้ ต้องจัดทริปยุโรปพร้อมผู้ชายกล้ามใหญ่ๆให้ดีต่อใจพี่แจ๊ดซักหน่อย”
เสียงพราวดังขึ้น “นังชาช่า”
ชาช่าหันมองพราวยิ้มหยัน “ยังเสียชื่อไม่พอเหรอ ถึงตามมา”
“แค่ดูเป็นนางร้ายในสายตาสื่อไม่เห็นเสียชื่อตรงไหน มันทำให้คนชื่นชมฉันกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะคนสมัยนี้ชอบนางร้ายมากกว่านางเอก...ที่ฉันตามมาก็แค่อยากบอกว่าถ้ากฎหมายทำอะไรแกไม่ได้ฉันก็จะใช้กฎของฉัน”
ขาดคำ พราวตบชาช่าเปรี้ยง
ชาช่าโกรธจัดตบเอาคืนเต็มแรง จนพราวเสียหลักล้มลง ชาช่าตามไปขึ้นคร่อมตบกระหน่ำไม่ยั้ง
“อยากดังในฐานะนางร้ายมากใช่มั้ย ด้ายยยย นางเอกอย่างฉันจะเป็นเจ๊ดันให้แกเอง” จู่ๆ ชาช่าก็ร้องตะโกนขึ้น “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยช่าด้วย”
ชาช่ากระชากพราวให้ขึ้นมาคร่อมตัวเองแทน ในจังหวะที่ นักข่าว ทิพย์ กอล์ฟ และตำรวจหลายนายวิ่งออกมาดู พราวกำลังโกรธจัดไม่สนอะไรทั้งนั้น ตบชาช่ากระหน่ำ
ทิพย์กุมขมับอยากจะบ้าตาย “มีปัญหามาให้แก้อีกแล้วนายกรู”
นักข่าวกรูเข้ามาถ่ายรูปช็อตเด็ด ทิพย์รีบเข้าห้าม กางแขนบังนายสาว
“อย่าค่ะ อย่า”
พราวผลักทิพย์กระเด็นไปจะตบอีก กอล์ฟรีบเข้ามาดึงพราวออก
“พอครับคุณพราว”
ตำรวจอีกคนรีบมาประคองชาช่าให้ลุกขึ้น ชาช่าแกล้งสำออยเจ็บจนจะยืนไม่ไหว
“โอ๊ย”
กอล์ฟมองพราวที มองชาช่าที สงสารทั้งคู่ ถามอย่างห่วงใย
“เป็นอะไรมากมั้ยครับ”
“ช่าทนได้ค่ะ” ชาช่าจ้องหน้าพราว “ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าทำอะไรให้ คุณถึงเกลียดชังฉันขนาดนี้ แต่ถ้าเราเคยมีกรรมต่อกันตั้งแต่ชาติปางก่อน ฉันก็ขออโหสิกรรมนะคะ และสิ่งที่คุณทำกับฉันฉันก็อโหสิให้คุณค่ะ”
ชาช่าน้ำตาหยดแหมะ เดินออกไปด้วยมาดนางเอกแสนดีผู้น่าสงสาร พราวโกรธจัดโวยวายลั่น
“นังตอแหล มันเล่นละครหลอกทุกคน มันหลอกพวกคุณ”
พอพ้นตัวไปชาช่ายิ้มเยาะออกมาทั้งที่น้ำตานองอาบแก้ม
ฝ่ายคุณณรงค์ครุ่นคิดวางแผนจัดการลูกชายแสบอยู่ในออฟฟิศ
“คราวหน้าฉันจะจับแกขังห้องที่ไม่มีหน้าต่าง ดูซิจะออกมาได้อีกมั้ย”
มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ประตูเปิดออกพร้อมเพ็ญถือไอแพดเดินมาหาณรงค์อย่างร้อนใจ
“คิดถึงพี่ใช่ม้า เลยมาหา”
“ไม่มีอารมณ์ล้อเล่นค่ะ กำลังซีเรียส”
“งานที่ประชุมไปก็เรียบร้อยดี ซีเรียสอะไรจ๊ะ”
เพ็ญเปิดคลิปพราว กะ ชาช่าตบกันบนโรงพักให้ดู ณรงค์เหนื่อยใจ
“อีกแล้วเหรอ”
“แกล้งกันไปแกล้งกันมา รุนแรงขึ้นทุกวัน เพ็ญทนให้ตาเคนสร้างบาปกับผู้หญิงต่อไปไม่ไหวแล้ว เพ็ญจะทำให้ตาเคนแต่งงานให้เร็วที่สุด เป็นฝั่งเป็นฝา ความคิดจะได้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น”
“พ่อปลาไหลอย่างมันจะยอมแต่งกับใคร หนูเอมสวยเพียบพร้อม แค่ทำความรู้จักมันยังไม่ยอม”
“ครั้งนี้ต้องยอม เพ็ญจะทำให้ตาเคนต้องทำความรู้กับหนูเอมแบบเลี่ยงไม่ได้”
เพ็ญยิ้มเจ้าเล่ห์ มีแผนปราบพ่อปลาไหลอยู่หมัด
อ่านต่อ ตอนที่ 5