xs
xsm
sm
md
lg

พ่อปลาไหล ตอนที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พ่อปลาไหล ตอนที่ 3

บทประพันธ์ : กนกเรขา บทโทรทัศน์ : ปัทมา และ จอมใจ

เจตน์สฤษดิ์ซึ่งมาติดพันเอมิกาและรู้เรื่องจากมิ้นกับนาตาลี ขับรถตามเข้ามาจอดมุมหนึ่งของร้าน มองรถเอมิกาที่จอดอยู่หน้าร้านอย่างเป็นห่วง

ส่วนเอมมองหมั่นไส้เคน
“เลือกร้านซะหรู”
“มีเจ้ามือกลัวอะไร เปิดประตูรถให้ด้วย”
“ฉันไม่ใช่คนขับรถของนาย”
“ไม่คิดจะเอาใจคู่เดทเลยรึไง”
“แต่ฉันเป็นผู้หญิง”
“แล้วไง เปิดประตูรถให้ผู้ชายไม่ได้ว่างั้น... ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงต้องให้ผู้ชายเทคแคร์อยู่ฝ่ายเดียว ลองเปลี่ยนมาเทคแคร์ผู้ชายบ้างจะได้รู้ว่าการดูแลซึ่งกันและกันเป็นยังไง...จะเปิดไม่เปิด”
เอมมองเคนอย่างหงุดหงิด แล้วลงไปเปิดประตูรถ เคนยิ้มขำ
เจตน์นั่งมองเหตุการณ์จากในรถตกใจมาก
“ให้คุณน้าเนื้ออ่อนบังคับให้มาด้วยยังไม่พอ ยังให้เปิดประตูรถให้อีกไอ้ตุ๊ด ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ”
เจตน์มองเคน เอมที่เดินเข้าร้านไปด้วยกันอย่างไม่พอใจ

พนักงานเดินนำเคนกะเอมเข้ามายังโต๊ะเด่นสุดในร้านอาหาร
“โต๊ะที่คุณเคนจองไว้ครับ”
พนักงานขยับไปยืนห่างออกไป รอรับออเดอร์
เอมมองรายรอบโต๊ะ แล้วอึ้งนิ่งงันไป เมื่อเห็นมีดอกลิลลี่ที่เธอโปรดปรานจัดประดับแต่งอยู่ล้อมรอบโต๊ะ ในบรรยากาศสวยงามและโรแมนติกมาก
เคนยิ้มย่อง “สำหรับคุณ”
เอมฟังแล้วงง “สำหรับฉัน”
“ตอบแทนที่คุณเปิดประตูรถกับเลี้ยงข้าวผม” เคนเดินไปขยับเก้าอี้ให้ “เชิญครับ”
เอมมองเคนอย่างคาดไม่ถึง ลึกๆ ประทับใจ แต่พยายามเก็บอาการ
ขณะเดียวกันเจตน์ค่อยๆ ย่องเข้ามาด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ
พนักงานจะถาม เจตน์รีบเอามือปิดปากพนักงาน แล้วชี้ไปโต๊ะหนึ่งที่อยู่หลบมุมเข้าไป
เจตน์ค่อยๆ ย่องไปที่โต๊ะ แต่ตามองเคน กะ เอมที่นั่งโต๊ะหนึ่งอย่างระแวดระวัง

เคนเปิดเมนูแล้วพูดกับพนักงานที่รอรับออเดอร์ว่า
“เอาจานที่แพงที่สุดในร้านมา 10 จาน น้ำดื่มธรรมดาไม่เอานะกินแล้วระคายคอขอเป็นน้ำแร่ที่ส่งมาจากเทือกเขาสูงในฝรั่งเศส”
พนักงานรับออเดอร์แล้วเดินออกไป
เอมมองหมั่นไส้ “กินฟรี แล้วยังสั่งแต่ของหรูๆ แพงๆ ไม่ละอายใจบ้างเหรอ”
“ละอายก็อดน่ะสิคุณ ไม่มีคนเลี้ยงผมจะเอาปัญญาที่ไหนมากิน จะบอกอะไรให้นะว่าคุณยังโชคดีที่จ่ายแค่ค่าข้าว เป็นผู้หญิงอื่นผมคิดค่าสละเวลามากินด้วยไปแล้ว”
“ทุเรศ ไร้ยางอายไม่พอยังไร้ศักดิ์ศรีอีก”
“ศักดิ์ศรีมันทำให้กินดีอยู่ดีไม่ได้นี่คร้าบ”
เอมยิ่งหมั่นไส้ เช่นเดียวกับเจตน์ที่จับตามองเคนด้วยความหงุดหงิด

อีกฟากหนึ่ง นางแบบ และ นายแบบกำลังซ้อมแพทเทิร์นอยู่บนเวที มิ้น กะ นาตาลีนั่งอยู่มุมหนึ่งดูแอปติดตามในโทรศัพท์ ตามโทรศัพท์เอม และ เจตน์
“โทร.ปุ๊บ ทิ้งงานไปปั๊บ งานดี รักยัยเอมฝุดๆ แต่เชื่อมะว่า พอยัยเอมยอมคบด้วยก็เปลี่ยนเป็นคนละคน” มิ้นว่า
“คนที่รักมั่นคงเสมอต้นเสมอปลายก็มี แค่พวกเรายังไม่เจอ”
“เชิญมโนกับโลกสวยๆของคุณไปตามลำพังเลยค่ะ แต่ไม่ต้องชวนอิชั้นมโนด้วย ยังไงอิชั้นก็ไม่เชื่อค่ะว่ารักแท้มีจริง”
นาตาลีมองมิ้นยิ้มขำ
ระหว่างนี้กอล์ฟเดินเข้ามา โดยมีแดน กะป้อง เดินตาม กอล์ฟเห็นมิ้นยิ้มดีใจ ป้อง กะ แดนมองตามสายตา ประเมินเหตุการณ์
แดนยิ้มบอกว่า “คุณนาตาลีนี่หว่า เคยเห็นแต่ในทีวีตัวจริงสวยปังกว่าหลายเท่าตัว”
“จากระยะสายตา พี่กอล์ฟไม่ได้มองคุณนาตาลี แต่มองคนที่คุณนาตาลีคุยด้วย รู้จักเหรอพี่”
“คุณมิ้นเพื่อนคุณเอม คนนี้แหละที่พาฉันไปจับไอ้เคน”
“สายตางี้ยิ้มหวานงี้ มีแต่คนตาบอดเท่านั้นที่ดูไม่ออกว่ามึงอยากได้ ...อยากได้กูจัดให้”
แดนเดินพรวดไปหามิ้น “คุณมิ้นครับ”
“เฮ้ย ไอ้แดน”
กอล์ฟตกใจรีบเดินตามแดนไป

นาตาลีประสานมือเงยหน้ามองบนบ่นพึมพำ
“ขอให้โชคชะตาช่วยส่งผู้ชายที่มีรักแท้มาให้ยัยมิ้นด้วยเถิด”
“อ้อนให้ท่านส่งมาให้เธอก่อนมะ จะได้ไม่ต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าอย่างที่แล้วๆมา”
นาตาลีหัวเราะขำ
แดนเดินมาหาสองสาว “คุณมิ้นครับ”
มิ้น กะนาตาลีหันไปมองแดนงงๆ
“เรารู้จักกันเหรอคะ” มิ้นถาม
“เราน่ะไม่ แต่...” แดนชี้ไปที่กอล์ฟที่มาถึงพอดี “ไอ้นี่รู้”
กอล์ฟยิ้มเจื่อนทั้งเขินทั้งอายบอกว่า
“ผมเป็นหุ้นส่วนบริษัทอีเว้นท์ด้วย เพื่อนเลยชวนมาศึกษางานน่ะครับ เห็นคุณแต่ไม่กล้าทักเพื่อนผมเลยมาทักแทน”
“เจอตัวก็ดีเลย รู้วีรกรรมที่เพื่อนคุณทำกับเพื่อนฉันรึยัง” มิ้นฮึดฮัด
“ไอ้เคนมันทำอะไรคุณเอมอีกเหรอครับ”
“บังคับให้เพื่อนฉันไปเดทด้วย”
“พี่เคนนะพี่เคน บังคับให้ผู้หญิงไปเดทด้วยได้ยังไง คุณมิ้นเอาคืนเลยครับ บังคับพี่กอล์ฟให้ไปเดทด้วยแก้แค้นพี่เคนเลย” ป้องออกไอเดีย
“ฉันไม่เดทกับใคร”
“งั้นเอาตัวไว้เป็นประกันดีมั้ยครับ ถ้าไอ้เคนทำมิดีมิร้ายคุณเอม คุณจะได้พาไอ้กอล์ฟ ไปช่วยคุณเอมได้ทันท่วงที” แดนบอก
“เริด” นาตาลีบอกกับกอล์ฟเชิงบังคับว่า “อยู่กับพวกเราจนกว่ายัยเอมจะแยกจากคุณเคน”
กอล์ฟอึ้งพูดไม่ออก
แดนบอกกับกอล์ฟว่า “ฝากด้วยนะครับ ลาละครับ”
แดนดึงป้องออกไปเลย กอล์ฟเรียกไว้ แต่พวกมันไม่หัน
“ไอ้แดน ไอ้ป้อง”
มิ้นกระซิบถามนาตาลี “เธอคิดจะทำอะไร”
“สืบประวัตินายเคนจากโซเชี่ยลไม่ได้ ก็ต้องสืบจากคนใกล้ตัว”
มิ้นยิ้มชอบใจเห็นด้วย “นอกจากสวยและรวยมาก ยังฉลาดเว่อร์วังด้วยอะ”

ที่กองละครช่อง88 แจ๊ดถามชาย1 ด้วยท่าทางดัดจริตเวอร์
“ใครให้เอามาอะ แฟนคลับ เศรษฐี เซเลบหรือไฮโซที่ไหน”
ชาย1ถือกล่อง ถือม้วนไวนีล กางออกแล้วประมาณสองช่วงแขนแบบราชสาส์นในหนังจีน
“คุณเคนครับ” ชาย1บอก
“อ๊าย คุณน้องต้องดีใจจนเนื้อเต้นระริก ขอบคุณค่ะ”
แจ๊ดกรี๊ดจะรับของมา แต่ชาย1 บอกว่า “คุณเคนสั่งมาว่าต้องให้กับมือคุณชาช่า แล้วก็ต้องให้คุณชาช่าถือของถ่ายรูปกับข้อความ ที่คุณเคนเขียนมาให้ด้วย”
“ขอดูหน่อยว่าเขียนว่าไง”
“คุณเคนสั่งมาว่าห้ามให้ใครดูก่อน คุณเคนอยากให้คุณชาช่าเห็นข้อความจากใจเป็นคนแรกน่ะครับ”
“หวานเว่อร์อะ ตามพี่แจ๊ดแจ๋มาทางนี้เลยค่ะ”
แจ๊ดเดินนำชาย1ไป

เมื่อชาช่าเปิดกล่องออก เห็นมีสตรอว์เบอร์รี่ลูกใหญ่อยู่เต็มกล่องก็แปลกใจ
“สตรอว์เบอร์รี่”
แจ๊ดก็อึ้ง “คุณน้องไปทำอะไรให้คุณเคนไม่พอใจ ทำไมเค้าถึงว่าคุณน้องสตรอว์เบอร์รี่”
ชาย1อธิบายว่า “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ คุณเคนบอกว่าสตรอว์เบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีรูปร่างคล้ายหัวใจ เลยอยากส่งมาให้คุณชาช่าครับ”
ชาช่ากรี๊ด “ว้ายยย สตรอว์เบอร์รี่แทนใจ โรแมนติก ดีต่อใจอะ”
“ส่วนนี่ข้อความจากใจที่คุณเคนฝากมา” ชาย1 ชูไวนีลขึ้นบอกกับแจ๊ดว่า “พี่ช่วยถือให้ผมถ่ายรูปก่อนแล้วค่อยให้คุณชาช่าอ่านได้มั้ยครับ ผมต้องไปส่งของอีกหลายที่เดี๋ยวไม่ทัน”
“ก็ด้ะ ถ้าไม่ใช่คนของคุณเคนไม่ยอมนะเนี่ย”
ชาย1ให้แจ๊ดนั่งย่อตัวหน้าชาช่า แล้วกางไวนีลให้แจ๊ดถือ ซึ่งชาช่ากะแจ๊ดเลยไม่เห็นข้อความที่เขียนว่า
“ในกล่องเรียกสตรอว์เบอร์รี่ แต่คนถือนี่เรียกสตรอว์เบอร์แหล”
ชาช่าถือกล่องสตรอว์เบอร์รี่ยิ้มหวาน แจ๊ดกางไวนีลยิ้มแฉ่ง ชาย1หยิบมือถือมาถ่ายรูปรัวๆ ชาช่า แจ๊ด เปลี่ยนท่าหลายแอ็คมากจนเป็นที่พอใจ
“เรียบร้อยครับ”
ชาย1 รีบเดินออกไปโยไว
ชาช่าตื่นเต้น “ดูซิว่าคุณเคนฝากข้อความมาว่าไง”
“ต้องประมาณรักมากหลงมากไรงี้” แจ๊ดยิ้มระรื่นหันข้อความมาอ่าน “ในกล่องเรียกสตรอว์เบอร์รี่แต่คนถือนี่เรียกสตรอเบอร์แหล”
ชาช่ากรี๊ดด “แอร๊ยยยย นังพราวส่งไอ้บ้านั่นมา ตามไปลบรูปเร็ว”
แจ๊ด และชาช่ารีบวิ่งตามชาย1 ไป

ชาช่า กะแจ๊ดวิ่งป่าราบออกมาเห็นชาย1 สตาร์ตมอเตอร์ไซค์แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว
แจ๊ดตะโกนเรียกไว้ “อย่าหนีนะ กลับมา.....”
ชาย1ขี่มอเตอร์ไซค์วิ่งหายลับตาไป แจ๊ดหยุดวิ่งหอบแฮ่กๆ
ชาช่าตามมาจนทัน บอกผู้จัดการอย่างร้อนรนใจ
“นังพราวต้องเอารูปช่าไปลงโซเชี่ยลทำให้ช่าอับอายแน่ๆ”

เหตุการณ์ทางฝั่งเคนและเอม อาหารเลิศรสราคาแพงวางเต็มโต๊ะ เคนตักอาหารเข้าปากหน้าตาฟินเฟร่อร์
“อืมม หอมนุ่มละมุนลิ้น”
“นี่ อย่ามัวแต่ละเลียดรีบกินให้หมดจะได้รีบไป”
“เร่งคนกิน ไม่มีสุนทรียในการกินเอาซะเลย อยากให้หมดเร็วๆ ก็ช่วยกันกินสิ”
“แค่เห็นหน้านายก็กินไม่ลง”
“หลับตา” เคนหยิบช้อนในจานเอมมาตัก “อะ อ้าปาก”
เอมมองหงุดหงิด “บอกว่า...”
เอมยังพูดไม่ทันจบคำ เคนก็เอาอาหารป้อนใส่ปากเข้าให้

ฝ่ายเจตน์ที่แอบดูอยู่มุมหนึ่งหึงมากมองตาขวาง ไม่พอใจสุดขีดจะลุกไปเอาเรื่อง แล้วคิดได้
“วู่วามไปคุณน้าเนื้ออ่อนจะโกรธเพราะมันเป็นลูกชายเพื่อนคุณน้า”
เจตน์ได้แต่มองเคนอย่างหงุดหงิด

เอมฮึดฮัดทำอะไรไม่ได้ มองเคนที่ยิ้มแย้มเบิกบาน ก็ยิ่งโมโห
“อร่อยเนอะ”
“รู้...ฉันมากินร้านนี้ประจำ”
“แต่ไม่เคยมากับผม ครั้งหน้าไม่มีผมมาด้วยกินไม่อร่อยเท่านี้แล้วนะ”
เอมมองหมั่นไส้ “นายนี่หลงตัวเองตั้งแต่เกิดเลยปะ”
“เรียกว่าตั้งแต่อยู่ในท้องแม่จะถูกต้องกว่า” เคนตักอาหารใส่จานเอม “ช่วยผมกินเถอะน่า อาหารหมดไวจะได้ไปที่อื่น มีเรื่องดีๆ รอคุณอยู่อีกเพียบ”

เรื่องที่ว่าหลังอาหารมื้อแอร่ม คือเคน ให้ เอม พามาซื้อของในห้าง โดยมีเจตน์แอบสะกดรอยตามมาห่างๆ
“เสียเงินให้นายช้อปเนี่ยนะ เรื่องดีๆ ที่รอฉันอยู่”
“รับรองว่าคุณไม่เสียเงินเปล่า เงินที่คุณเสียวันนี้จะพาความสุขใจมาให้คุณมากมายมหาศาล”
“ตรงไหนเหรอ”
“เดี๋ยวก็รู้”
ระหว่างนี้ มีโจรกอดกระเป๋าที่วิ่งราวหนีมาทางนี้ เป็นชายอายุราว 30 ปี รปภ.ห้างวิ่งตามส่งเสียงโหวกเหวก
“มันปล้นทอง ช่วยกันจับมัน”
เจตน์มองโจรแล้วยิ้มมีแผน
“จับโจรได้ คุณเอมต้องปลาบปลื้ม”
โจรวิ่งเลยเคนกะเอมไป เจตน์สบช่องกระโจนออกมาขวางโจรไว้
“หยุด ถ้าจะหนีไปจากที่นี่ แกต้องข้ามศพฉันไปก่อน”
โจรชักปืนออกมาเล็งใส่เจตน์
เคน กะ เอม ตกใจ ผู้คนกรีดร้องแตกตื่น เจตน์ยืนมือสั่น ขาสั่น โจรหันไปมอง รปภ.ที่วิ่งกระชั้นเข้ามาแล้วคว้าตัวเจตน์ เอาปืนจ่อจับเป็นตัวประกัน
เจตน์กลัวสุดขีด “ช่วยด้วย ช่วยด้วย ผมยังไม่อยากตาย ช่วยด้วย”
โจรเอาปืนชี้กราดไปรอบๆ แล้วลากเจตน์ออกไป
เอมได้สติ หันไปทาง รปภ. “แจ้งตำรวจรึยัง”
“ยังครับ”
รปภ.ตามโจรกับเจตน์ไป เอมหยิบมือถือมากดโทร.แจ้งตำรวจ เคนมองตามโจรด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“รอตำรวจ นายนั่นอาจจะเป็นศพไปซะก่อน ผมจะไปช่วยเค้าเอง”
เคนเดินตามไป เอมมองเคนทึ่งๆ แจ้งความตำรวจทางปลายสายแล้วเดินตามเขาไป
“โจรปล้นร้านทองจับเพื่อนฉันเป็นตัวประกันค่ะ”

โจรลากเจตน์มาอีกมุม ผู้คนแถวนั้นแตกตื่นรีบหลีกทางวุ่นวาย แต่มีคนถ่ายรูปบ้าง ถ่ายคลิปบ้างจากที่ไกลๆ รปภ. เคน และ เอม ตามมาอย่างระแวดระวัง
เจตน์ร้องขึ้น “คุณเอม ช่วยผมด้วย”
“รู้จักเหรอ” เคนแปลกใจ
“เพื่อนฉันเอง”
“ยิ่งต้องช่วยเป็นกรณีพิเศษ”
ขาดคำเคนวิ่งเข้าไปหาโจรอย่างกล้าหาญ โจรชี้ปืนขู่มาทางเคน แต่เคนยกมือโชว์ว่าไม่มีอาวุธ
“โว้วๆๆ เย็นไว้ลูกพี่ ผมแค่มาเจรจา ผมชื่อเคน บ้านผมรวยมากถ้าจับผมไปแทนเค้า นอกจากทองนั่นพี่จะได้เงินค่าไถ่จากพ่อผมอีกหลายล้าน”
เอมมองเคน ทึ่งสุดๆ
“มีคนอยากเป็นตัวประกัน คงชอบความตื่นเต้น ปล่อยฉันแล้วจับมันเลย” เจตน์เสริม
โจรมองเคนอย่างไม่ไว้ใจ “คนดีๆ ที่ไหนจะเอาตัวเองมาเสี่ยงชีวิตแทนคนอื่น ไม่ใช่ตำรวจแกก็ต้องบ้า ฉันไม่เชื่อแกหรอก”
โจรมองหาทางออกแล้วลากเจตน์ออกไปอีกทางหนึ่ง
เจตน์กลัวจับใจร้องโหวกเหวก “ช่วยด้วยๆ”
รปภ.รีบตาม
เอมบอกกับเคนอย่างหมั่นไส้ “คิดว่าตัวเองเป็นซุปเปอร์ฮีโร่รึไงถึงทำแบบนี้ ถ้ามันยอมแลกแล้วคุณไม่มีเงินค่าไถ่ให้มันต้องฆ่าคุณ”
“น่านไง อยู่กับผมไม่กี่ชั่วโมงเป็นห่วงผมแล้ว อยู่ทั้งวันคงหลงรักผมจนถอนตัวไม่ขึ้น”
เอมเสียฟอร์มรีบแก้ตัว “ก็แค่กลัวไม่ได้ไฟล์งานคืน”
“แก้ตัวยังไงผมก็ไม่เชื่อ ผมมันคนหลงตัวเอง ผมเหมาเอาเองแล้วว่าคุณห่วงผม แต่ห่วงยังไงคนคุณธรรมสูงส่งอย่างผมก็ต้องช่วยเพื่อนคุณ แล้วผมก็คิดแผนใหม่ออกแล้วว่าจะช่วยเค้าได้ยังไง”
พร้อมกับว่าเขาดึงมือเอมให้ตามไป “มานี่
เอมตกใจ “นายจะทำอะไร”
เคนไม่ตอบดึงเอมออกไป

ที่งานแฟชั่นโชว์ นายแบบนางแบบยังซ้อมคิวกันอยู่ กอล์ฟนั่งเขินดูการทำงานของทีมงานอย่างตั้งใจ
นาตาลีซ้อมบนเวที ส่งซิกให้มิ้นที่นั่งข้างกอล์ฟค้นข้อมูลของเคนจากเขา
“ประสบการณ์งานอีเว้นฉันโชกโชนมาก ไม่เข้าใจถามได้นะ”
“ขอบคุณครับ”
“บริษัทคุณหุ้นกันกี่คน”
“4 ผม ไอ้แดน ไอ้ป้อง ที่คุณเจอเมื่อกี๊แล้วก็ไอ้เคน”
“คุณไม่รู้จริงๆ เหรอว่าคุณเคนเป็นผู้ชายขายตัว”
กอล์ฟมองมิ้นรู้ทันว่าโดนหลอกถามเรื่องเคน
“ไม่รู้ครับ”
“เป็นหุ้นบริษัทอีเว้นท์ ขายตัว แล้วคุณเคนทำอะไรอีก”
“ไม่รู้ครับ”
“แล้วบ้านคุณเคนอยู่ที่ไหน”
“คุณจะอยากรู้ไปทำไม”
“อ้าว เกิดเค้าหลอกพายัยเอมไปบ้านจะได้ตามถูกไง”
“ไอ้เคนแค่กะล่อนแต่ไม่เลว ผมเอาหัวเป็นประกันเลยครับว่ามันจะไม่ทำให้คุณเอมเสื่อมเสีย”
“เอาหัวเป็นประกันให้เพื่อน แสดงว่า คุณรักเพื่อนมาก ฉันก็รักเพื่อนฉันมากเหมือนกัน แล้วถ้าเพื่อนคุณทำอะไรเพื่อนฉัน คุณตาย”
“คุณไม่ได้ฆ่าผมหรอกครับ”
กอล์ฟยิ้มขำตาหยี มองมิ้นอย่างมีความสุข

โจรลากเจตน์มาจนใกล้ทางออกห้าง ผู้คนแตกตื่นรีบหลบโกลากล
เจตน์แหกปากลั่น “ช่วยด้วยๆ”
รปภ.ยังตามมาอย่างระวัง เคนดึงเอมเข้ามาใกล้ๆ โจร
“ลูกพี่ ไม่ไว้ใจผมก็เอาผู้หญิงคนนี้ไปแทน”
เอมตกใจสุดขีด “นายเคน”
“บ้านเค้านะหลังใหญ่โต อาจจะรวยกว่าผมด้วยซ้ำ พ่อแม่เค้ายอมจ่ายค่าไถ่ชัวร์”
โจรมองเอมอย่างลังเล เอมมองผวากลัวโจรมาก
เจตน์โชว์แมนทันที “ฉันไม่แลก ฉันไม่ยอมให้แกจับผู้หญิงที่ฉันรักไปต่อหน้าต่อตาหรอก”
เคนกระซิบถามเอม “ไหนว่าเพื่อน”
“ฉันคิดกับเค้าแค่เพื่อน ส่วนเค้าคิดยังไงฉันไม่สน”
“ไม่ยอมแลกตัวกับคุณ รักจริงหวังแต่งชัดๆ” เคนหมั่นไส้
“ฉันรวยกว่าคุณเอม มีเงินเป็นหมื่นๆล้าน แกอยากได้เท่าไหร่บอกมาฉันจะให้ที่บ้านเอามาให้”
โจรมองเคน เอม เจตน์ สลับกันไปมาอย่างไม่ไว้ใจ และเริ่มสติแตก
“มีแต่คนอยากเป็นตัวประกันแล้วเอาเงินมาให้ บ้ากันไปหมดแล้วรึไง” มันกราดปืนส่ายไปรอบๆ “ฉันไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ถ้าตามามาอีก” สุดท้ายจ่อปืนไปที่เจตน์ “ไอ้นี่ตาย”
จากนั้นโจรก็ลากเจตน์ออกไป
เอมบ่นที่ตำรวจไม่มาสักที
“เครียดจนสติแตกแล้ว เมื่อไหร่ตำรวจจะมาซะที”
“ปล่อยให้ออกไปข้างนอกจะควบคุมสถานการณ์ลำบาก” เคนคิดปราดเดียวแล้วบอกเอมว่า “เจรจาไม่สำเร็จก็ต้องลองใช้วิธีอื่น คุณรอนี่นะ”
จากนั้นเขาก็วิ่งออกไปทางหนึ่ง
เอมมองตามเคน ก่อนจะหันมาทางเจตน์อย่างร้อนใจ สุดท้ายตัดสินใจตามเคนไป

เคนวิ่งอ้อมมาอีกทาง โผล่หน้าเห็นโจรกำลังลากเจตน์มา
เคนมองรอบๆ เห็นร้านขายกระเป๋าถุงพลาสติกสีรุ้งใบใหญ่ๆ คิดปราด แล้วหยิบมาใบหนึ่ง
“เมืองนอกกำลังฮิตเลย”
เอมวิ่งตามมามองเคนด้วยความสงสัย ส่วนโจรลากเจตน์ผ่านมา เคนอยู่ด้านข้างกระโจนเอาถุงพลาสติกครอบหัวโจรจังๆ โจรร้องลั่นตกใจมาก
“เฮ้ย”
เคนแย่งปืนจากโจรมาได้ตะโกนบอกเจตน์
“จับมันเร็ว”
เจตน์เห็นปืนอยู่ที่เคนก็รวบตัวโจรทันทีตะโกนลั่น
“ผมจับโจรได้แล้ว ผม จับ โจร ฮ่าๆๆๆ”
รปภ.มาช่วยจับโจร คนมารุมถ่ายรูป ถ่ายคลิปจ้าละหวั่น
เจตน์ยิ้มแฉ่งโชว์ที่จับโจรได้ เคนถือปืนถอนหายใจโล่งอก
“ทำไมบ้าระห่ำอย่างนี้ ถ้าโจรมันเหนี่ยวไกแล้วคุณเจตน์ตายขึ้นมาจะทำยังไง” เอมบ่น
“ผมไม่เอาชีวิตใครมาเสี่ยงหรอกคร้าบบบบ ที่ผมกล้าแย่งปืนจากเค้าเพราะ” เคนชูปืนให้เอมดู “เค้าไม่ได้ปลดเซฟปืน”
เอมทึ่ง “รู้เรื่องปืนด้วยเหรอ”
เคนสะบัดมือในท่าทีอันดัดจริตของเก้ง “ผู้ชายนะยะ กีฬาแมนๆ ผมเล่นทุกอย่าง พูดแล้วไม่อยากจะคุยผมยิงปืนแม่นอย่างกับจับวาง”
ระหว่างนี้ตำรวจ กะ นักข่าว วิ่งกรูเข้ามา เคนหันไปเห็นก็ตกใจ
“นักข่าว” เขารีบบอกและยัดปืนใส่มือเอม “เพิ่งนึกได้ว่ามีธุระด่วน ฝากให้ตำรวจด้วย”
เคนวิ่งออกไปทันที
เอมร้องถามตามหลังไป “จะไปไหน ไฟล์งานฉันล่ะ”
“แล้วผมจะโทร.หา”
“นายเคน...นายเคน”
เคนไม่สนวิ่งจู๊ดหายหัวไปเลย
ตำรวจ กะนักข่าวมาถึง เจตน์รีบพูดอวดผลงานทันที
“ผมเองครับ ที่จับโจรได้ ผมชื่อเจตน์สฤษดิ์ครับ”
เอมมองเจตน์อย่างรังเกียจ
“พูดเต็มปากเต็มคำว่าเป็นคนจับโจร ไม่อายปากเลยรึไง”
เอมเดินออกไปอย่างหงุดหงิด เจตน์ยิ้มแฉ่งให้นักข่าวถ่ายรูปอย่างภาคภูมิใจ

พราวนั่งทำงานอย่างตั้งใจ จนเสียงเคาะประตูดังขึ้น เลขาทิพย์ เปิดประตูวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“คนร้ายปล้นร้านทองในสาขารามอินทราค่ะ จับคนร้ายได้แล้ว”
“เตรียมกระเช้า ฉันจะเอาไปให้กำลังใจเจ้าของร้านทองที่เช่าพื้นที่ห้าง”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ โทร.ตามนายทองให้เอารถมารอหน้าตึกแล้วด้วยค่ะ”
พราวมองทิพย์อย่างพอใจ “รู้ใจฉันจริงๆ แล้วนังชาช่าล่ะ”
“คนของทิพย์เพิ่งส่งรูปมาให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
ทิพย์เปิดรูปชาช่าจากมือถือให้นายดู พราวยิ้มร้ายสะใจ
“เดี๋ยวแกจะเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ จนข่าวปล้นร้านทองจับตัวประกันในห้างฉัน กลายเป็นข่าวเล็กไปเลย”

ทุกถิ่นที่ ไม่ว่าจะเป็น ในตลาด บรรดาพ่อค้าแม่ค้าดูเฟซบุ๊คแล้วหัวเราะขำ บางคนบอกว่าน่าสงสาร
ที่มหาวิทยาลัย พวกนักศึกษาชาย หญิง ดูเฟซบุ๊คแล้วหัวเราะลั่น
ส่วนในออฟฟิศ พนักงานชายหญิงดูเฟซบุ๊คแล้วหัวเราะ บางคนลุกจากโต๊ะเอามือถือให้เพื่อนดู ทุกคนหัวเราะขำ

มิ้นยังคงสืบข้อมูลของเคนจากกอล์ฟอยู่ข้างเวที
“คุณยังไม่ได้ตอบฉันเลยว่าบ้านคุณเคนอยู่ไหน”
กอล์ฟบอกคำเดิมว่า “ไม่รู้ครับ”
“โป้ปดมดเท็จ เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะไม่รู้จักบ้านเพื่อนสนิท”
กอล์ฟหน้าเจื่อน เริ่มติดอ่าง “เอ้อ คือ เอ้อ เอ้อ ครอบครัวไอ้เคนมีปัญหามันย้ายที่อยู่บ่อย ผมเลยไม่ค่อยถามมันน่ะครับ”
“ครอบครัวมีปัญหานี่เองถึงมาขายตัว”
นาตาลีซ้อมแพทเทิร์นเสร็จเดินเข้ามา
มิ้นรีบบอกอย่างมีนัยยะ “คุณกอล์ฟได้ข้อมูลงานอีเว้นท์เยอะเลย”
“ดีเลยค่ะที่ได้คุณกอล์ฟมาคุยเป็นเพื่อนไม่งั้นยัยมิ้นเหงาแย่ ฉันต้องไปแต่งหน้าทำผมแล้ว”
“เคร”
ทีมงาน1 วิ่งหน้าตื่นเข้ามาหากอล์ฟแล้วหันไปบอกทีมงานอีกคน
“ทางนี้ๆ”
มิ้น นาตาลี และ กอล์ฟ มองทีมงาน งงๆ
ทีมงาน2 วิ่งเข้ามา “นายแบบเบี้ยวไม่มา คุณช่วยเป็นนายแบบแทนให้หน่อยนะคะ”
กอล์ฟบอกทันที “ผมเดินแบบไม่เป็น”
นาตาลีบอกว่า “ฉันเทรนให้ได้”
กอล์ฟจะปฏิเสธ มิ้นรีบพูดแทรกขึ้น
“เค้าคงหาใครไม่ได้แล้วจริงๆ ช่วยพวกเค้าเถอะคุณ จะได้เรียนรู้ด้วยว่าหลังเวทีอีเว้นท์เค้าทำงานกันยังไง”
กอล์ฟยิ้มชื่นชมความคิดมิ้น “เหตุผลคุณดี เดินก็เดินครับ”

ฟากเอมขับรถมาตามทางอย่างสุดเซ็งที่สุดท้ายไม่ได้ไฟล์งานคืน สักครู่เสียงมือถือดังหน้าจอขึ้นชื่อเจตน์ เอมไม่อยากรับสาย แต่คิดอะไรได้บางอย่างเลยเปลี่ยนใจ
“ค่ะคุณเจตน์ ...ออกมาแล้วค่ะ กำลังจะกลับบ้าน คนเดียวค่ะ”

เจตน์ยังอยู่ที่ห้าง คุยสายดังลั่น เล่นใหญ่มาก “อะไรนะ มาด้วยกันแต่ปล่อยให้คุณกลับคนเดียว เลว! เลวที่สุด พฤติกรรมเลวร้ายแบบนี้ผมจะรายงานคุณน้าให้หมดเลยว่าเค้าทำอะไรกับคุณบ้าง”
เอมร้อนใจแต่พยายามสงบอารมณ์ “มิ้น นาตาลีไลน์มาบอกเรื่องคุณแล้ว ขอบคุณนะคะที่ตามมาดูแล แต่อย่าบอกอะไรคุณแม่นะคะ ฉันไม่อยากให้คุณแม่ไม่สบายใจ เอาเป็นว่าวันนี้เราไม่ได้เจอกัน”
“ครับ คุณน้าเนื้ออ่อนสอนว่า ไม่ให้ขัดใจตามใจคุณทุกอย่างครับ”
เอมถอนหายใจโล่งอก

เอมเดินเข้ามาในบ้านอย่างเซ็งๆ เนื้ออ่อน กะ รอน นั่งดูทีวีอยู่ในโถงรับแขก ในจอกำลังเสนอข่าวเจตน์จับโจรปล้นทอง เนื้ออ่อนตื่นเต้นสุดๆ
“ยัยเอม มาดูนี่เร้ว คุณเจตน์จับโจรปล้นทองได้”
“ท่าทางแหยๆ ไม่คิดเลยว่าจะกล้าหาญ” รอนไม่ค่อยเชื่อนัก
เอมลงนั่ง ประชดส่ง “ค่ะ กล้าหาญมาก”
เสียงมือถือดังขึ้น เนื้ออ่อนกดรับ คุยสายจากเจตน์หน้าบาน
“สวัสดีจ้ะ น้าเห็นข่าวคุณแล้ว มือเปล่าสู้กับปืนคุณนี่แมนสุดๆ ไปเลย ยัยเอมเหรอ อยู่จ้ะอยู่ ได้เลยจ้ะ น้าจะบอกให้ รีบมานะจ๊ะ น้าจะได้เซลฟี่กับฮีโร่ชื่อดัง”
รอจนเนื้ออ่อนวางสายเอมจึงถาม
“คุณเจตน์เหรอคะ”
“จ้ะ บอกว่าปลื้มใจมากที่ได้ช่วยจับโจร เลยอยากฉลองความปลื้มด้วยการพาลูกไปดินเนอร์น่ะ”
“ไม่นะ”
“ห้ามปฏิเสธ ไม่หล่อแต่รวยมากศึกษาดูใจกันไว้ไม่เสียหาย ยิ่งตอนนี้กลายเป็นฮีโร่ที่คนชื่นชมทั้งประเทศ ไม่ไปเดทกับเค้าจะไปกับใคร ไปแต่งตัวนะลูกนะ เชื่อแม่นะ”
“ไฟล์งานก็ไม่ได้คืน แถมต้องไปกินข้าวกับตาพล่ามอีก วันนี้เป็นวันซวยของเธอรึไงเอมิกา”
เอมเซ็งสุดๆ เดินบ่นบ้าออกไป
เนื้ออ่อนยิ้มขำรอนมองสงสารลูกสาว

นาตาลีเดินแบบอย่างมืออาชีพให้หมวดกอล์ฟดู
“ตามองตรง เดินตรง พอถึงมาร์ค โพส หมุน มอง เดินกลับ”
กอล์ฟท้วงพาซื่อว่า “ตามองตรงแล้วจะเห็นจุดมาร์คได้ยังไงละครับ”
“ตอนซ้อมดูมาร์คนับก้าวจากจุดเดินถึงจุดมาร์ค ตอนเดินก็นับก้าวเอา ลองดูค่ะ”
กอล์ฟเดินตามที่นาตาลีสอนอย่างเขินๆ
“นายแบบหรือจิ้งเหลน มั่นใจหน่อยค่ะคุณผู้หมวด มั่นใจหน่อย” มิ้นเดินตามคอยเชยคางกอล์ฟให้ “หน้าเชิดไว้ เดินให้เท้ามีน้ำหนัก สตรองค่ะ สตรอง”
กอล์ฟมองมิ้นที่เชยคางยิ้มฟินสุดสุข

เวลาผ่านไป กอล์ฟเดินแบบด้วยท่าทีมั่นใจ ทุกคนมองกอล์ฟอย่างชื่นชม
“ดีงามค่ะ มองตรงไว้”
กอล์ฟเดินเลยจุดมาร์คไป มิ้นท้วง
“เลยมาร์คแล้วค่ะคุณผู้หมวด”
“อ้าว ผมลืมนับก้าว”
“ใหม่ๆ ฉันก็ลืมค่ะ สมาธิดีๆ นะคะ ลองใหม่ค่ะ” นาตาลีว่า
ทีมงาน1 ร้องขึ้น “ลองไม่ได้แล้วค่ะหมดเวลาเรียนแล้ว เชิญคุณนาตาลี คุณกอล์ฟ แต่งหน้าทำผมเตรียมขึ้นเวทีค่ะ”
กอล์ฟตกใจ “เฮ้ย”
นาตาลีบอกว่า “ฉันคงช่วยคุณได้แค่นี้ คุณต้องดูแลตัวเองแล้วล่ะ”
กอล์ฟกังวลหนัก “ผมจะรอดมั้ยเนี่ย”
“รอดสิคะคู้ณณณณ” มิ้นตบอกกอล์ฟ “มั่นใจหน่อย ฉันยังมั่นใจเลยว่าคุณทำได้”
กอล์ฟมองมิ้นกำลังใจมาเพียบ
“ถ้าคุณมั่นใจผมก็มั่นใจครับ”
นาตาลีมองกอล์ฟอย่างจับสังเกต และเริ่มเอะใจนิดๆ ว่ากอล์ฟชอบมิ้น

พราวเดินเข้ามาในตึก ทิพย์เดินตามต้อยๆ
“คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าอีตาเจตน์สฤษดิ์ นั่นจะเป็นคนจับโจร”
ทิพย์งง “รู้จักเหรอคะ”
“เศรษฐีใหม่ เมื่อก่อนชื่อ ประสาท อยากเป็นผู้ดีเลยเปลี่ยนชื่อเป็นเจตน์สฤษดิ์ แต่สันดานเดิมเปลี่ยนไม่ได้กริยามารยาทยังเหมือนเจ๊กตื่นไฟไม่มีจริตผู้ดีซักนิด”
รปภ.ตะเบ๊ะ “มีคนฝากของไว้ให้คุณครับ ใช้เครื่องสแกนตรวจแล้วปลอดภัยครับ”
“ระวังหน่อยนะคะ นังชาช่าอาจจะเอาคืน” ทิพย์ว่า
“ฉันไม่กลัวมันหรอก ฉันกลัวว่าจะเป็นของที่คุณเคนส่งมาจริงๆมากกว่า มีความผิดติดตัวอาจจะเป็นบิ๊กเซอร์ไพร้ส์เพื่อให้ฉันหายโกรธก็ได้” พราวกับกับ รปภ.ว่า “เอาของมา”

พราวเปิดกล่องเห็นเป็นพวงหรีดสีดำพร้อมข้อความ “แด่คนที่กำลังจะตายเพราะโดนผู้ชายทิ้ง”
พราวโกรธถึงขีดสุดหยิบพวงหรีดออกมาทุ่มแล้วกระทืบๆๆ อย่างรุนแรง
“นังชาช่า แกนั่นแหละที่ต้องตายเพราะถูกคุณเคนทิ้ง”
โดยไม่รู้ว่าชาย 1 ใช้มือถือถ่ายวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ไว้จนหมด

ฝ่ายทางแจ๊ดคุยโทรศัพท์กับนักข่าวบันเทิงจอมเผือกสายแล้วสายเล่า
“น้องชาช่าติดงานอยู่ค่ะ ไว้สะดวกแล้วจะรีบให้คิวสัมภาษณ์นะคะ” พอวางสายเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก “ว้ายๆๆไม่ไหวแล้วไม่ไหวจะเคลียร์”
แจ๊ดตัดสายอย่างหงุดหงิด ชาช่าบีบสตรอว์เบอร์รี่เละคามืออย่างแค้นใจ
ระหว่างนี้โปรดิวเซอร์ เดินเข้ามาหาทั้งคู่ พยายามที่จะไม่ขำ
“ซีนต่อไปต้องกินสตรอว์เบอร์รี่ เอ้ย น้องช่าต้องเข้าฉากแล้วสแตนบายด้วยนะคะ”
โปรดิวซ์เดินออกไปทันที ชาช่าปาสตรอว์เบอร์รี่ในมือทิ้งอย่างเคียดแค้น
“ตั้งสมาธิดีๆ แล้วทำงานให้เสร็จก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน”
เสียงไลน์มือถือแจ๊ดดังขึ้น แจ๊ดรีบเปิดดูเห็นคลิปพราวกำลังกระทืบพวงหรีด รีบร้องบอกชาช่า
“ว้ายๆๆๆๆ มาแล้วค่ะ คลิปเด็ดคลิปดังประจำวันนี้”
แจ๊ดยื่นโทรศัพท์ให้ดู ชาช่าดูคลิปแล้วยิ้มร้าย สะใจมาก
“ถึงเวลาเอาคืน”

ไม่นานนัก พราวนั่งดูคลิปกระทืบพวงหรีดของตัวเองอย่างกราดเกรี้ยว โกรธจัดจนปาโทรศัพท์ไปที่ประตู
“นังชาช่า”
ทิพย์เปิดประตูเข้ามาพอดีรับโทรศัพท์ไว้ได้ทัน
พราวตวาดลั่น “ทำไมไม่เคาะประตู”
ทิพย์กลัวจนหงอ “เคาะแล้ว แต่คุณไม่ได้ยินค่ะ”
“ก็เคาะให้มันดังกว่าเดิมสิฉันจะได้ได้ยิน ไม่ใช่ถือวิสาสะเข้ามาแบบนี้ สั่งให้ฝ่ายไอทีลบคลิปฉันให้หมดแล้วล่าตัวคนปล่อยคลิปมาเข้าคุกให้ได้ แล้วตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะรับฟังหรือทำงานอะไรทั้งนั้น ออกไป”
ทิพย์ทำใจดีสู้เสือ “ใจเย็นๆ ก่อนค่ะ”
“ฉันไม่ใช่คนโนเนมอย่างเธอนะ มีคลิปทุเรศๆ ออกสื่อจะได้ใจเย็นได้”

จู่ๆ เคนในชุดหล่อฝุดๆ เดินยิ้มหวานถือดอกไม้ช่อใหญ่เข้ามาในสมรภูมิความหึงหวงดังกล่าว
“คุณทิพย์ทำให้คุณเย็นลงไม่ได้ แล้วผมละครับ พอจะทำให้คุณเย็นลงได้มั้ย
พราวดีใจที่เคนมาแต่ยังโมโห
“ผู้หญิงที่คุณจูบด้วยไม่ได้อยู่ที่นี่นะคะ มาทำไม”
“มาหาผู้หญิงที่ผมคิดถึงสุดหัวใจเพื่ออธิบายว่าสิ่งที่คุณเห็นไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด...ขอเวลาแค่ 10 นาที ถ้าเหตุผลของผมไม่ดีพอที่จะทำให้คุณอภัยผมจะออกไปจากชีวิตคุณทันที”
พราวจ้องหน้าเอาเรื่อง “พราวก็อยากรู้เหมือนกันว่าหลักฐานแน่นหนาขนาดนี้คุณจะแก้ตัวยังไง”

สองคนอยู่ด้วยกันลำพัง เคนยื่นช่อดอกไม้สวยให้พราว
“ขอโทษที่ความประมาทของผมทำให้คุณเสียใจ”
พราวเง็ง “ประมาท จูบกับนังชาช่านี่เหรอคะประมาท”
“รับคำขอโทษจากผมก่อนแล้วผมจะอธิบายให้ฟัง นะครับ”
คำตอนท้ายอ้อนเบอร์สิบ จนพราวยอมรับช่อดอกไม้อย่างสะบัดสะบิ้ง
เคนยิ้มสมใจ “คุณก็รู้ว่าคุณชาช่าเป็นพรีเซ็นเตอร์บริษัทคุณพ่อผม ชื่อเสียงของเค้ามีอิทธิพลกับลูกค้ามากคุณพ่ออยากให้ผมเอาใจเค้าเลยสั่งให้เอาดอกไม้ไปให้กำลังใจก่อนเค้าขึ้นเวที”
“ไม่อยากรู้ที่มาที่ไป บอกมาเลยทำไมถึงจูบ”
“ผมไม่ได้จูบเค้า เค้าจูบผม คุยๆ กันอยู่เค้าก็ดึงผมไปจูบอย่างเนี้ยะ”
เคนดึงพราวมาจูบ พราวอึ้งไปนิดแล้วเคลิ้มตาม เคนผละออกมามองพราวด้วยสายตาเจ้าชู้
“เวลาไม่ได้ระวังตัวเราไม่รู้หรอกว่าใครจะทำอะไรเรา” เขายื่นหน้าไปใกล้ๆ “ใช่มั้ยครับ”
พราวกำลังเคลิ้มได้ที่ “ค่ะ”
“เข้าใจผมรึยัง”
พราวพยักหน้าเคลิ้มๆ
“หายโกรธผมนะ” พราวพยักหน้า “ไปดินเนอร์กับผมนะครับ”
พราวพยักหน้ารับ เคนยิ้มสมใจ

นาตาลีแต่งหน้าทำผมสวยงามเดินแบบอย่างมั่นใจ นางแบบอีกคนเดินออกมาโพส
นาตาลีเดินกลับ สวนกับนางแบบอีกคน นาตาลีเดินเข้าไป
กอล์ฟออกมายืนโพสยิ้มแหย มิ้นโบกมือพูดไม่มีเสียงพร้อมกับทำท่าเบ่งกล้าม
“มั่นใจ...สตรอง”
กอล์ฟมองมิ้นอย่างมีกำลังใจพยักหน้า นางแบบเดินกลับ
กอล์ฟเดินสวนออกไปอย่างมั่นใจ หล่อมากๆ สาวๆ กรี๊ดลั่น มิ้นยิ้มพอใจ
กอล์ฟเดินสวนกับนางแบบ นางแบบเสียหลักเซจะล้ม มือคว้าเสื้อกอล์ฟขาดแคว่ก เห็นซิกซ์แพ็กแน่นๆ
กอล์ฟประคองนางแบบให้ยืน นางแบบเดินไป
กอล์ฟเดินต่อไปโพสท่า เห็นซิกซ์แพ็กตามรอยเสื้อที่ขาด
สาว1ตะโกนขึ้น “หุ่นดีไม่ต้องอายค่ะ ถอดเลย”
เสียงเชียร์ส่งเสียงตาม “ถอดเลยๆๆๆ”
กอล์ฟมองคนดูอย่างเขินๆ หันไปมองมิ้นอย่างขอความเห็น
มิ้นนึกสนุกไปด้วย พยักหน้าให้ กอล์ฟฉีกเสื้อออกเห็นว่าหุ่นเป๊ะปังดีมาก ไม่เท่านั้นเขายังปาเสื้อใส่กลุ่มสาวๆ อีกด้วย สาวๆ กรี๊ดลั่น
มิ้นเองก็ยังอึ้ง “หุ่นเซียะเว่อร์”

เจตน์ กะ เอมเดินเข้ามาในร้านอาหาร คนที่นั่งอยู่ในร้านหันมามอง พอเห็นว่าเป็นเจตน์ก็ตื่นเต้น
“ฮีโร่ที่จับโจรปล้นร้านทองนี่” หญิง1 วิ่งเข้ามาหา “ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยนะคะ”
คนในร้านหันมามอง ชี้ชวนกันดูเจตน์อย่างตื่นเต้น พากันกรูมารุมขอถ่ายรูป
เจตน์ยิ้มยืดภูมิใจ “ไม่ต้องรีบครับ ได้ถ่ายกับฮีโร่เจตน์ทุกคนครับ”
เอมทั้งหงุดหงิดทั้งเซ็ง “ฮีโร่เสิ่นเจิ้น”

เจตน์เลื่อนเก้าอี้ให้เอมนั่ง
“ถ้าความดังของผมทำให้คุณเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้าง ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ” เขาเดินมานั่ง “ทำไงได้ละครับชั่วโมงนี้ใครๆ ก็อยากถ่ายรูปกับพระเอกนอกจอทั้งนั้น”
เอมประชดส่ง “เข้าใจค่ะ”
“คราวที่แล้วที่ไปดูงานผมคิดถึ้งคิดถึงคุณ คิดถึ้งคิดถึงทุกที่ อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี ไปประเทศไหนก็คิดถึงแต่คุณ เดือนหน้าผมจะไปดูงานที่อเมริกา ไปด้วยกันนะครับผมจะชวนคุณน้าเนื้ออ่อนกับคุณน้ารอนแล้วก็คุณพ่อคุณแม่ผมไปด้วย ครอบครัวเราสองคนจะได้เที่ยวด้วยกัน”
เอมรีบบอก “ไม่นะ เอ้อ ไม่ค่ะฉันไม่ว่าง คุณก็รู้ว่าฉันกำลังจะจัดแฟชั่นเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นแรกในชีวิต”
“รอให้งานแฟชั่นของคุณเสร็จก่อนค่อยไปก็ได้ครับ ผมจะดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด จะพาไปกินหรูๆอยู่สบายๆ ยุงไม่ให้ไต่ไรตอมคุณแม้แต่นี๊ดเดียวครับ”
“หลังงานแฟชั่นฉันก็ไม่ว่าง ต้องดูแลการผลิตเสื้อผ้าออกวางตลาด ต้องทำมาร์เก็ตติ้ง ต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ไปเที่ยวไหนไม่ได้หรอกค่ะ”
“คุณเคลียร์งานเสร็จเมื่อไหร่ค่อยไปตอนนั้น กี่ปีผมก็รอได้ครับ”
เอมถอนหายใจเซ็งๆ หยิบเมนูมาปิดหน้า
“จะสั่งอาหารใช่มั้ยครับ” เจตน์ตะโกนลั่น “บริกร บริกร โต๊ะนี้ต้องการบริกร”
คนในร้านหันมามองเป็นตาเดียว เอมมองรอบๆ อย่างอับอาย
บริกรเดินเข้ามา เจตน์ยิ้มพอใจ

บังเอิญอะไรเบอร์นี้ เคนควงพราวเข้ามาอีกมุมหนึ่งของร้านเดียวกัน
“พราวไปห้องน้ำแป๊บนึงนะคะ”
พราวเดินไปทางห้องน้ำ เคนตรงไปนั่งที่โต๊ะๆ หนึ่ง

ขณะจะเดินไปห้องน้ำ พราวชะงักเมื่อเห็นเอมนั่งกับเจตน์
“นังคนที่อ่อยคุณเคนนี่ มากับตาเจ๊กตื่นไฟ หรือจะเป็นแฟนกัน” สาวไฮโซคิดปราดแล้วเดินไปทักสองคน “สวัสดีค่ะคุณเจตน์”
เอม กะเจตน์หันมามอง เห็นพราวก็แปลกใจ
“อ้าว คุณพราวมากับใครครับ”
“แฟนค่ะ”
“ได้ข่าวว่าแฟนคุณหล่อมาก”
“ค่ะ หน้าตาดี ดีกรีนักเรียนนอก ลูกนักธุรกิจใหญ่ที่มีเชื้อสายผู้ดีเก่า ครบสูตรที่” พราวมองเอมอย่างดูถูก “ผู้หญิงคนไหนเห็นก็ต้องอยากได้”
เอมรู้ตัวชักไม่พอใจ “ผู้หญิงไม่ได้เหมือนกันทุกคนหรอกนะคะ บางคนมีแฟนไว้เป็นเครื่องประดับเพื่อขับความโดดเด่นให้กับตัวเองก็มักจะเลือกผู้ชายไฮโปรไฟล์ แต่บางคนก็เลือกผู้ชายที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุขไม่ว่าเค้าจะโลว์โปรไฟล์แค่ไหนก็ตาม”
“แล้วคุณเป็นผู้หญิงแบบไหน”
“แบบที่ไม่เหมือนคุณ”
เจตน์ไม่รู้ว่าเขาจะแดกหัวกันแล้ว “ยังไม่ทันแนะนำก็คุยกันถูกคอซะแล้ว ขอแนะนำอย่างเป็นทางการก่อนแล้วค่อยคุยกันต่อละกันนะครับ...นี่คุณเอมแฟนผม”
เอมติง “พูดให้ดีๆนะคุณเจตน์ เราเป็นแค่เพื่อนกัน”
เจตน์บอกกับพราวขำๆ “ผมเป็นแฟนคุณเอม แต่คุณเอมยังไม่ยอมเป็นแฟนผมน่ะครับ”
“ออกเดทด้วยแต่ยังไม่ยอมรับเป็นแฟน อาจจะมีตัวเลือกอื่นอยู่ในใจก็ได้” พราวจงใจพูดประชด “ใช่มั้ยคะคุณเอม”
“บอกแล้วไงคะว่าฉันไม่เหมือนคุณ ฉันไม่เคยรักเผื่อเลือก แต่ที่ยังไม่ยอมรับคุณเจตน์เป็นแฟนเพราะตอนนี้ฉันคิดกับเค้าแค่เพื่อนจริงๆ”
“แต่อีกไม่นานผมจะทำให้คุณเอมคิดกับผมเกินเพื่อน”
“ขอให้สมหวังเร็วๆ นะคะ” พราวบอกเจตน์แล้วหันมาเหน็บเอมว่า “ส่วนคุณก็ขอให้พบผู้ชายที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุขเร็วๆ และหวังว่าผู้ชายคนนั้นคงจะไม่ใช่ผู้ชายของฉัน...ขอตัวก่อนนะคะ”
พราวยิ้มเยาะส่งท้ายแล้วเดินไปทางห้องน้ำ
“ทำไมคุณพราวพูดจาแปลกๆ มีอะไรกันรึเปล่าครับ”
“ไม่มี เดี๋ยวฉันมานะ”
เอมลุกเดินออกไปทางหนึ่ง

ฝ่ายเคนนั่งดูเมนูอยู่ เอมเดินเข้ามาทัก
“ว่าไง พ่อหนุ่มนักเรียนนอก”
“อ้าว คุณ แฟนคุณดังใหญ่แล้วนะ” เคนแซวกลับ
“เค้าไม่ใช่แฟนฉัน”
“ผู้หญิงที่ชอบก่อเรื่องอย่างคุณ มีคนมาจีบก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว รับรักเค้าไปเถอะจะได้ไม่ต้องขึ้นคาน ว่าแต่ที่เรียกว่าพ่อหนุ่มนักเรียนนอกนี่ทักผมเหรอ”
“ถ้านายเป็นแฟนคุณพราวก็ใช่ เค้าไปโฆษณาสรรพคุณใหญ่โตว่าแฟนเค้าหน้าตาดี ดีกรีนักเรียนนอก ลูกนักธุรกิจใหญ่ที่มีเชื้อสายผู้ดีเก่า”
“ธรรมด๊า ผู้หญิงที่ไหนจะกล้าบอกว่าควงมากับไอ้ตัว อย่าบอกนะว่าคุณสละเวลาเดินมาตรงนี้เพื่อพูดจาจิกกัดผม”
“ฉันไม่ใช่นกใช่หมา จะได้เที่ยวมาจิกกัดใคร แค่อยากมาดูหน้าหนุ่มนักเรียนนอกที่คุณพราวโฆษณาเท่านั้นว่าใช่นายรึเปล่า ไหนๆ ก็เจอกันแล้วเอาไฟล์งานฉันคืนมา”
เคนเฉไฉ“ผมมาหาความสำราญกับสตรีนะครับจะพกตัวประกันมาให้เป็นภาระทำไม ผมจะคืนให้คุณพรุ่งนี้ แล้วจะโทร.ไปว่าเจอที่ไหนยังไง”
เคนกลัวเอมเจอพราว แล้วจะรู้ความจริงว่าตนเป็นใคร จึงหาทางไล่
“แต่ตอนนี้กรุณากลับไปที่โต๊ะคุณซะ ความวัวยังไม่ทันหายผมยังไม่อยากให้ความควายเข้ามาแทรก ถ้าคุณพราวมาเห็นคุณคุยกับผมแล้วลมเพชรหึงขึ้นหน้าจะมีเรื่องมีราวกันซะเปล่าๆ”
“ไม่ต้องไล่ฉันก็ไปอยู่แล้วล่ะย่ะ ไม่อยากให้ชีวิตวุ่นวายเพราะมีเรื่องกับแฟนนายเหมือนกัน”
เอมเดินกลับโต๊ะไป พราวเดินมาจากมุมหนึ่งเห็นเข้าพอดี
“นังเอม...คิดเหรอว่ามากับคุณเจตน์แล้วฉันจะไว้หน้า”

พราวเดินตามเอม เคนมองเห็นรีบตามไปทันที

อ่านต่อ ตอนที่ 4


กำลังโหลดความคิดเห็น