พ่อปลาไหล ตอนที่ 2
บทประพันธ์ : กนกเรขา บทโทรทัศน์ : ปัทมา และ จอมใจ
เอมิกาเดินหงุดหงิดเข้ามาในห้องจัดงาน ด้วยสีหน้าท่าทางยังโกรธเคนไม่หาย เห็นบริกรถือถาดน้ำคอยบริการแขกจึงเรียกไว้
“น้องคะ ขอแอดไลน์หน่อย”
บริกรหยิบมือถือออกมาให้งงๆ
ส่วนเคนเดินยิ้มกริ่มมีความสุขเหลือเกินเข้าไปหาน้าสาว คุณเพ็ญเห็นรีบเข้ามาดึงมือ
“ตาเคน มาเร้ว น้าจะแนะนำให้รู้จักกับหนูเอม”
“ลูกสาวคุณนายเนื้ออ่อน คนที่คุณน้าอยากได้เป็นหลานสะใภ้ น่ะเหรอครับ”
“จ้ะ” เพ็ญมองหาจนเห็นเอมยืนคุยกับบริกรชี้ให้เคนดู “คนนั้นไง”
เคนมองตามเคนมองตาม พอเห็นเป็นเอมก็ยิ้มออกมา
“ชื่อเอมเหรอ...สวยดีครับ”
เพ็ญยิ้มดีใจคิดว่าคงฉลุย
แต่เคนกลับบอกต่อว่า “แต่สวยแค่แว้บแรกที่มองนะครับ พอพิจารณาโหงวเฮ้งให้ละเอียดแล้วเนี่ยรู้เลยว่ามองโลกในแง่ร้ายขี้หงุดหงิด อยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุขเอาเป็นว่าคนนี้ไม่ผ่านนะครับคุณน้าคนสวย”
“อย่ามองคนแต่ภายนอกสิ ไปคุยกับเค้าก่อนค่อยตัดสินใจ”
เพ็ญดึงมือเคน จะพาไป เคนมองไปทางหนึ่งแล้วร้องขึ้น
“อ้าว คุณพ่อ”
เพ็ญหันไปมอง แต่ไม่เจอณรงค์ เคนสบช่องรีบสะบัดมือวิ่งหนีไปเลย
“ตาเคนๆ กะล่อนจริงๆ คงต้องบอกคุณเนื้ออ่อนกับหนูเอมว่าหาตาเคนไม่เจอ”
พราวเดินดูสินค้าที่นำมาจัดโชว์ เคนเดินยิ้มเผล่เข้ามาหา
“มาแล้วคร้าบบบบ เอ๊ะ นี่เราไม่ได้เจอกัน 3 ชั่วโมงแล้วเหรอ”
พราวยิ้มขำ “ครึ่งชั่วโมงค่ะ”
“ทำไมผมรู้สึกว่าน้านนนนนานอย่างกับ 3 ชั่วโมง สงสัยจะคิดถึงคุณมาก”
พราวหยิกแก้มเคนอย่างเอ็นดู “ปากหวาน”
“งานจะเริ่มแล้วผมไปสแตนด์บายก่อนนะครับ” เขายื่นหน้ามากระซิบข้างหูพราว “ตัวอยู่ที่คอนโทรลแต่หัวใจอยู่ที่คุณนะ”
พราวยิ้มขำมีความสุข เคนเดินออกไป
เวลาผ่านไปอีกสักระยะหนึ่ง
เห็น ป้อง แดน ใส่เฮดโฟน สแตนด์บายข้างเวที จนเมื่อเสียงเพลงบนเวทีดังขึ้น แดนหันมาให้คิวณรงค์
ณรงค์เดินออกมาหน้าเวที โดยทีมงานติดไมค์เล็กๆ ไว้ข้างแก้ม
“สวัสดีครับ ขอต้อนรับเข้าสู่งานเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัทมีความสุข จำกัด วันนี้ผมมีนวัตกรรมที่จะทำให้ทุกท่านมีความสุขเหมือนชื่อบริษัทของผม เชิญพบกับความสุขที่ท่านสัมผัสได้ ณ บัดนี้”
เสียงเพลงเปิดตัวสินค้ายิ่งใหญ่อลังแกรนด์สุดๆ กระหึ่มไปทั้งฮอลล์ สโมก ดรายไอซ์ จัดเต็ม เมื่อควันจางลงเห็นอ่างอาบน้ำรุ่นใหม่ล่าสุดวางเด่นอยู่บนเวที พร้อมชาช่าในชุดสีเนื้อเกาะอก กางเกงขาสั้น โชว์แขนขาแต่ดูไม่โป๊ โพสท่าสวยงามแช่น้ำอยู่ในอ่าง โดยมีมีไมค์ติดข้างแก้ม้เช่นกัน
แขกในงานปรบมือเกรียวกราวต้อนรับ แจ๊ดยิ้มแก้มแตกถ่ายรูปชาช่าอย่างเป็นปลื้มชื่นชม
เคน ใส่เฮดโฟนอยู่ที่มุมคอนโทรล มองชาช่าตาหวานฉ่ำ
เอมยืนอยู่กับเพ็ญ และเนื้ออ่อน พอได้จังหวะ ก็หันไปพยักหน้าให้บริกรที่ขอแอดไลน์เชิงบอก
บนเวที ชาช่าเอามือผ่านก๊อกน้ำที่ติดอยู่น้ำไหลลงอ่าง
บริกรถือโทรศัพท์เดินมาหาพราวที่ยืนดูอยู่ข้างหน้าเวที
“คุณครับ มีคนให้ผมเอารูปมาให้ดูครับ”
บริกรยื่นโทรศัพท์ให้พราวรับมาดู เห็นรูปเคนจูบชาช่าก็โมโหหึงและโกรธจัด
เอมจับตามองพราว แล้วยิ้มสะใจออกมาเมื่อคิดว่าเคนจะเจออะไร
“นายตายแน่”
พราวหันมาไปมองเคนที่มุมคอนโทรล
“คุณมันปลายเหตุ” แล้วหันไปมองชาช่าบนเวที “นังนั่นต่างหากต้นเหตุ”
พราวโกรธจัดเดินฉับๆ ออกไป
อา...พราวนั้นรักเคนหัวปักหัวปำ ไม่เคยโทษเลยว่าเคนเป็นคนผิด
งานดำเนินไป ชาช่าอยู่ในอ่างอาบน้ำ ใช้ฟองน้ำชุบน้ำลูบไล้แขนอย่างเซ็กซี่
พริตตี้ยืนถือขวดครีมอาบน้ำแสตนด์บายรอขึ้นเวที พราวเดินมาเห็นแย่งขวดครีมแล้วเดินขึ้นเวทีอย่างรวดเร็ว
ป้อง แดน ตาเหลือก มองอย่างตกใจ
แดนรีบพูดใส่เฮดโฟน “ไอ้เคน คุณพราวกำลังจะขึ้นเวทีความแตกแล้วชัวร์”
ป้องร้อนรนพอกัน “ขึ้นสังเวียนโดยไม่ได้รับเชิญงานนี้มีเปิดศึก แผนพี่เคน แผน”
“มัวแต่ยุ่งเรื่องงานไม่ได้คิดโว้ย”
“ท่านเทพพลาดแระ” ป้องนึกสยอง
แดน และ ป้อง ถลาไปหาพราวแต่ไม่ทันแล้ว พราวถือขวดครีมขึ้นเวทีไปอย่างรวดเร็ว
“ตายๆๆ งานนี้กูตาย”
เคนถอดเฮดโฟนวิ่งออกไปทางหนึ่ง
แจ๊ดมองพราวอย่างแปลกใจ
“ในคิวเขียนว่าใช้พริตตี้นี่ ทำไมเปลี่ยนมาใช้ไฮโซระดับคุณพลอยพราว”
ฝั่ง เพ็ญ เนื้ออ่อน และเอม มองเหตุการณ์คนละอารมณ์
“ใช้ทั้งดาราดังทั้งเซเลบเจนใหม่มาช่วยกันพรีเซ้น ยอดขายพุ่งทะลุเพดานแน่ๆ เลยค่ะ”
เพ็ญยิ้มเจื่อนๆ สังหรณ์ใจว่ากำลังจะมีเรื่อง
“ขอตัวซักครู่นะคะ”
เพ็ญเดินออกไปอย่างรีบร้อน
“คุณพราวเป็นใครคะคุณแม่”
“ลูกสาวคุณสมศักดิ์เจ้าพ่อธุรกิจห้างสรรพสินค้า หัวนอกเอาแต่ใจ ไม่แคร์สื่อ ช่วงที่ลูกยังเรียนที่ฝรั่งเศสเค้าปิดกันให้แซ่ดว่าชอบควงผู้ชายอย่างว่ามางานไฮโซ”
“ผู้ชายอย่างว่า?”
“ผู้ชายขายตัวไงเค้าลือกันว่าสูง หล่อ ขาว ตี๋”
ภาพเคนวาบเข้ามาในหัวเอมทันที โดยเคนส่งยิ้มหวานมาให้ และจุ๊บเธอ
เนื้ออ่อนจ้อต่อ “หน้าตาคารมดี คุณพราวหลง หัวปักหัวปำ ควงไปโน่นมานี่ เปิดเผยไม่แคร์ชื่อเสียงคุณสมศักดิ์เลย”
เอมนึกรังเกียจเคนมากจนเผลอเช็ดปาก “อี๋”
เนื้ออ่อนงงท่าทางลูก “ยัยเอม เช็ดออกทำไม”
เอมได้สติ “เอ้อ ไม่ชอบสีค่ะ จะเปลี่ยนสีใหม่”
เอมรีบหยิบลิปสติก และ กระจกออกจากกระเป๋า แกล้งทาปากกลบเกลื่อนอาการ ในใจแค้นเคนสุดขีด
“เอาตัวแลกเงินนี่เอง ถึงหว่านเสน่ห์ใส่ผู้หญิงรวยๆ ไปทั่ว”
ณรงค์อยู่บนเวที มองพราวที่เดินมาที่อ่างอาบน้ำอย่างอึ้งๆ ทำอะไรไม่ถูก ชาช่านึกว่าพราวขึ้นมาตามคิว ยื่นมือไปจะรับขวดครีมจากพราว
พราวมองชาช่าอย่างโกรธเกลียด เทครีมราดหัวชาช่าทันที นางเอกสาวตกใจสุดขีด
“ว้าย”
ทุกคนในงานมองตกใจ
โดยเฉพาะแจ๊ด “ขุ่นน้อง”
นักข่าวรีบวิ่งกรูมาถ่ายรูป แขกหลายคนถ่ายคลิป
แจ๊ดวิ่งพล่านขวางทุกคนไว้ “อย่าถ่ายค่ะอย่าถ่าย”
เอมมองอึ้งๆ คิดไม่ถึงว่าพราวจะทำร้ายชาช่า และรู้สึกผิด
“ไปตบผู้ชายสิมาตบกันเองทำไม ขอโทษนะคุณชาช่า”
ป้อง กะ แดนวิ่งขึ้นไปจับพราวบนเวที พราวขัดขืนไม่ยอมให้จับ
ครีมเข้าตาชาช่า “แสบตา...แสบตา”
ป้องหยิบฟองน้ำในอ่างจะเช็ดหน้าให้ชาช่า เป็นจังหวะที่พราวสะบัดหลุดจากแดนพอดี
“แสบเหรอ ฉันเช็ดให้เอง”
พราวจิกหัวชาช่า กดจุ่มลงในอ่าง ชาช่าสำลักน้ำ เครื่องสำอางเลอะเทอะเต็มหน้า พราวนั่งลงข้างอ่างกระซิบขู่
“คุณเคนเป็นของฉัน ถ้าไม่เลิกยุ่งจะโดนหนักกว่านี้”
ชาช่าตั้งสติได้ มองพราวอย่างโกรธแค้น
“ของอย่างนี้ใครดีใครได้”
ชาช่ากระชากคอเสื้อพราวอย่างแรง ทำเอาพราวหน้าทิ่มลงไปในอ่างด้วยกัน ผู้คนมองเหตุการณ์ด้วยความตื่นตกใจ
ป้อง กะแดนพยายามจับพราว กับชาช่าแยกจากกัน
“อย่าครับ อย่าตีกันครับ”
พราว ชาช่าไม่สนยังตบกันนัว
เพ็ญวิ่งมาหน้าเวทีจะห้าม แต่ชะงักเมื่อเห็นเคนวิ่งขึ้นเวทีไปคั่นกลางระหว่างพราว และ ชาช่า
สองสาวเองก็ตกใจ เคนรีบเอาสคริปต์บังหน้าพูดใส่ไมค์
“ขอเสียงปรบมือให้กับการแสดงที่เพิ่งจบลงไปด้วยครับ”
พราว ชาช่า แดน ป้อง ณรงค์ เพ็ญ มองเคนอย่างอึ้งๆ
แขกในงานปรบมือโล่งใจ รวมทั้งเนื้ออ่อน
“เล่นซะตกอกตกใจ ที่แท้ก็การแสดง สมบทบาททั้งคู่”
เคนรีบจับมือพราว ชาช่า โค้งให้แขกในงาน
เคนยังคงก้มอยู่ บอกสองสาวว่า “อย่าเคลียร์กันเอง คาใจอะไรมาเคลียร์กับผม”
ทุกคนเงยหน้าขึ้น เคนเอาสคริปต์ปิดหน้ารีบลงจากเวทีไปโดยไว นักข่าวกับคนในงานไม่มีใครได้รูปเคนชัดๆ ซักคน
เอมมองเคนอย่างช็อกๆ ที่เขาสามารถแก้ไขสถานการณ์นี้ได้
ค่ำวันเดียวกันนั้น คุณณรงค์กดโทรศัพท์หาลูกชายด้วยความโมโห เจอแต่เสียง “กรุณาฝากข้อความ”
ณรงค์กดตัดสาย “โทร.ตั้งแต่บ่ายยันค่ำยังติดต่อไม่ได้”
เพ็ญนั่งอ่านนิตยสารอย่างสบายใจ อยู่ในโถงรับแขกด้วย
“รู้ว่าจะโดนพี่รงค์ดุก็ปิดเครื่องหนีทุกที พอพี่เย็นลงตาเคนก็กลับมาสารภาพบาปเอง”
ชูศรี สาวใช้ประจำบ้านในชุดสวยงามราวกับเป็นเจ้าของบ้าน ถือถาดน้ำหวานใส่น้ำแข็งเข้ามาเสิร์ฟ และเจียด คนขับรถ ในชุดทักซิโด้ยกอีกถาดที่มีน้ำหวานหลายแก้วเข้ามา
“ดื่มน้ำหวานเย็นๆ ก่อนค่ะ จะได้ใจเย็นๆ”
“แก้วเดียวกลัวไม่พอ เลยจัดเต็มมาเลยครับ” เจียดว่า
“ไม่ต้องแล้ว” ณรงค์ชี้ไปมุมหนึ่งมีแก้วน้ำหวานวางเป็นสิบ “ไปนับดูว่าฉันกินไปกี่แก้ว เดี๋ยวก็เบาหวานขึ้น ฉี่รดที่นอนกันพอดี”
ชูศรี กะเจียดยิ้มแหยๆ
ณรงค์หงุดหงิดไม่คลาย “ก่อเรื่องแล้วก็หายหัว เจอตัวที่ไหนจะเตะให้คว่ำที่นั่น”
“เลิกใช้ความรุนแรงซะทีเถอะค่ะ มีปัญหาอะไรตาเคนจะได้กล้ากลับบ้าน”
“ไม่อยากให้รุนแรงมันก็ไม่ควรสร้างปัญหาจนงานใหญ่ของบริษัทพี่ฉิบหายวายป่วง”
“ตาเคนใช้ไหวพริบปฏิภาณแก้ปัญหาให้แล้ว เพ็ญไม่เห็นว่างานพี่จะเสียหายตรงไหน ออกทีวีทุกช่อง ออกข่าวทุกช่วง เห็นอ่างอาบน้ำรุ่นใหม่ที่พี่อยากโปรโมทเต็มๆ โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา เพ็ญว่าต้องขอบคุณตาเคนด้วยซ้ำ”
“เออจริง คุณนี่ชี้ทางสว่างให้พี่ได้ทุกเรื่องเลย เพราะอย่างนี้ไงพี่ถึงได้อยาก...”
เจียด กะชูศรี เสนอหน้าเข้ามาพูดราวกับเป็นคอรัส
“แต่งงานกับคุณ ฮู้ ฮู”
เพ็ญค้อนสองบ่าว แล้วหันไปพูดกับณรงค์อย่างหนักใจ
“แทนที่จะเอาแต่โมโห ช่วยเพ็ญคิดดีกว่าค่ะว่าทำยังไงคุณเนื้ออ่อนถึงจะยอมให้หนูเอมคบกับคนเจ้าชู้ควงสองควงสามอย่าตาเคน”
“ไม่มีใครอยากให้ลูกสาวคบคนเจ้าชู้หรอก พี่ว่ายาก”
“ไม่ช่วยคิดแล้วยังไม่ให้กำลังใจอีก เพ็ญถูกชะตากับหนูเอมมากแล้วก็มั่นใจด้วยว่าทำให้หนูเอมเป็นหลานสะใภ้ได้ คิดคนเดียวก็ได้”
เพ็ญงอนเดินออกไป
“อ้าวคุณเพ็ญ คุณเพ็ญ งอนไปซะแล้ว(แค้นเคน)แกทำให้คุณเพ็ญงอน ฉัน ฉันจะเตะแกไอ้เคน”
ณรงค์โมโหเคนไม่หาย
เคนมาหลบมุมอยู่ที่ห้องกอล์ฟ ที่แฟลตตำรวจ กำลังนั่งดูข่าวทีวี ที่ชาช่ากับพราวตบกันนัว กอล์ฟเพิ่งอาบน้ำเสร็จนุ่งผ้าเช็ดตัวเปลือยท่อนบนออกมา พูดอย่างระอาใจ
“กูไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเค้าต้องทำร้ายกันเพื่อแย่งคนเจ้าชู้อย่างมึงด้วย”
“กูไม่ได้เจ้าชู้ แค่ต้องการความยุติธรรม ถ้าผู้หญิงบอกว่าตัวเองสวยเลือกได้ ผู้ชายก็ต้องหล่อเลือกได้เหมือนกัน”
“ความแตกอย่างนี้มึงคงหมดสิทธิ์เลือกแล้วล่ะ”
เคนหมั่นไส้ “มึงนี่ช่างไม่รู้ใจผู้หญิงเอาซะเล้ย ถึงได้โสดตลอดชีพอยู่อย่างนี้ พวก ผู้หญิงสวยและรวยมากน่ะ ยิ่งยากเค้ายิ่งอยากได้ พรุ่งนี้กูแค่โทรไปทำเสียงเศร้าออดอ้อนนิดๆ หน่อยๆ ขี้คร้านจะรีบแจ้นกลับมาคืนดีกับกู”
“ทำผู้หญิงตบกันแต่พูดจาไม่สำนึกเลย”
“ทำไมต้องสำนึก เค้าไม่ได้ตบกันเพราะเสียใจเรื่องกูแต่ตบกันเพราะเสียฟอร์ม เพราะฉะนั้นกูต้องตามหารักแท้ต่อไป ผู้หญิงคนไหนยอมเสียน้ำตาให้ กูจะยอมถอดเขี้ยวเล็บแล้วศิโรราบแทบเท้าคนนั้น”
“แล้วคุณพราวรู้ได้ยังไงว่ามึงคบคุณชาช่าด้วย”
เคนครุ่นคิด
นึกถึงตอนเพ็ญมองหาเอม จนเห็นเอมยืนคุยกับบริกร และชี้ให้เคนดู
“คนนั้นไง”
เคนมองตาม เห็นเป็นเอมแล้วยิ้มดีใจออกมา
เขานึกออกว่างานนี้ต้องเป็นฝีมือของเอมแน่นอน
“ยัยตัวแสบ”
กอล์ฟงง “ใคร”
“ผู้หญิงที่น้าเพ็ญอยากจับคู่ให้กู”
กอล์ฟงงอยู่ดี “เฮ้ยยย ทำลายคู่แข่ง เค้าชอบมึงเหรอวะ”
“โคตรเกลียดกูเลย” เคนนึกสนุกอยากเอาชนะ “เกลียดนักใช่มั้ย ด๊ายยย”
“นี่มึงจะทำอะไรอีกเนี่ย”
เคนไม่ตอบ ยิ้มร้ายออกมา พร้อมแผนบางอย่างในใจ
ที่ร้านกาแฟแห่งนั้น หญิง1 นั่งกับเพื่อน ดูคลิปพราวตบกับชาช่า
“กระหน่ำตบไม่ปรานี วงในเม้ากันให้แซ่ดว่าแย่งผู้ชาย จิกจริงตบจริงไม่ใช่การแสดง
เอมที่นั่งอยู่มองหญิง 1 อย่างรู้สึกผิด ได้ยินเสียงหญิง 2 เม้าท์อีกโต๊ะก็หันไปมอง
“มือสัมผัสแก้มกันจะๆ อย่างนี้ใครเชื่อว่าแสดงก็โง่เต็มทน ยอมเอาชื่อเสียงตัวเองมาขายเพราะผู้ชายคนเดียว ไร้สมอง”
เอมถอนหายใจ รู้สึกผิดสุดๆ
มิ้น กะนาตาลี เดินรีบร้อนเข้ามาที่โต๊ะ
“กว่าจะฝ่าการจราจรมาได้ ต่อมความอยากรู้อยากเห็นแทบระเบิดกลางถนน พวกฉันดูคลิปแล้วตบกันยิ่งกว่านางเอกนางร้ายในละคร ตบจริงใช่มั้ย”
นาตาลีแปลกใจ “เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งตอบยัยมิ้น ตอบฉันมาก่อนว่าเธอไม่ใช่คนขี้เม้าท์แต่ทำไมงานนี้ถึงขั้นนอนไม่หลับถ้าพวกฉันไม่มาเม้าท์ด้วย”
“เรียกมาเม้าท์ที่ไหนล่ะ เรียกมาเพราะอึดอัด... ฉันเป็นต้นเหตุทำให้พวกเค้าตบกัน”
พอมิ้น กะนาตาลี ฟังเรื่องจบก็พากันหัวเราะลั่น
“โถๆๆ แค่นี้ก็รู้สึกผิดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ แม่นางฟ้ามาจุติ”
“ฉันเป็นเธอคงสมเพช 2 นางนั่นมากกว่า ที่ตบกันเพื่อผู้ชายเลวๆ” นาตาลีเสริม
“คุณคะ คุณทำด้วยเจตนาดีอย่าคิดมากให้บั่นทอนสุขภาพจิตเลยค่ะคู๊ณ” มิ้นว่า
นาตาลีโผกอดเอม “เอาไปหนึ่งกอด”
มิ้นกอดด้วย “เอาไปอีกกอด หายนะแม่นางฟ้า โอ๋ๆ”
เอมพยักหน้าอย่างทำใจ
“ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมคุณพราวคุณช่าถึงรักตานั่นนักหนาจนยอมตีกันเอง”
“เค้าถึงบอกไงว่าความรักไม่มีเหตุผล” นาตาลีว่า
มิ้นนึกได้ “เออนี่ วันนี้ฉันค้นอากู๋ตั้งแต่เช้าจรดเย็นแต่ไม่เจอรูป ไม่เจอประวัตินายเคนเลย เฟสบุ๊คไม่มี อินสตาแกรมไม่เล่น เหมือนพวกไม่อยากให้โลกรู้จักตัวตนของเค้า”
“จะอยากให้รู้จักได้ยังไง ในเมื่อนายนั่นเป็นผู้ชายขายตัว” เอมบอก
มิ้น กะนาตาลีตกใจ
“นายเคนนี่เองเหรอผู้ชายขายตัวที่คุณพราวควงอยู่”
นาตาลีไม่เชื่อนัก “สาวมั่นอย่างคุณพราวควงผู้ชายขายตัวน่ะไม่แปลก แต่นางเอกอันดับหนึ่งอย่างชาช่าทำไมถึงเอาชื่อเสียงมาเสี่ยงเปิดตัวว่าเป็นแฟนนายเคน”
“ไม่เลวจริงคงทำอาชีพนี้ไม่ได้หรอก ฉันว่านายเคนต้องล่อหลอกให้คุณชาช่าหลงจนขาดสติ”
มิ้น กะนาตาลี ครุ่นคิดตามเพื่อน
เอมตัดบท “แต่ก็ช่างเถอะ สบายใจละ จบเรื่องชาวบ้านมาพูดเรื่องงานของฉันดีกว่า”
“โธ่ นึกว่าจะได้ฟังปากคำคนอยู่ในเหตุการณ์ไม่หนุกเลย” มิ้นเซ็ง
“ก็เหมือนที่ออกข่าวนั่นแหละ แบบชุดฟินาเล่ใกล้เสร็จแล้วนะ” เอมชูไอแพดให้ดู “อยู่ในนี้”
นาตาลีโพสท่า “นางแบบชุดฟินาเล่ก็ฟิตแอนเฟิร์มพร้อมมาก”
“โมเดลลิ่งมือหนึ่งก็เตรียมนายแบบนางแบบในสังกัดไว้ให้ครบแล้วย่ะ” มิ้นกับเอมว่า “ขอดูแบบหน่อย”
“ดูตอนนี้ก็ไม่ตื่นเต้นน่ะสิ เสร็จเมื่อไหร่ค่อยดู จะได้...เซอร์ไพร้ส์”
ที่ผับหรูคืนเดียวกันนั้น กอล์ฟ ป้อง และแดน อุทานออกมาพร้อมๆ กันด้วยความตกใจ
“หลอกให้เค้าหลงรัก”
เคนยิ้มร่า “เยส! พอเค้าหลงรักกูก็เท”
ป้องว่า “เลือดเย็น”
แดนชอบใจ “โหดเหี้ยมเหมือนพระเอกตบจูบ”
ป้องเสริมว่า “ต้องมีฉากอุ้มนางเอกโยนน้ำ”
แดนบอกอีกว่า “ต้องมีฉากข่มขืน”
กอล์ฟสุดจะทน “หยุดๆๆ กูทนฟังความเลวของมันต่อไปไม่ไหวแล้ว”
เคนเซ็งกอล์ฟ “โห่ แค่มุกเข้าใจมั้ย มุกตลกล้อเล่นไม่ใช่เรื่องจริง”
“ล้อเล่นกับความรู้สึก คนโดนล้อเค้าไม่สนุกด้วยนะโว้ย...มึงก็โม้เองว่ายังไงคุณชาช่ากับคุณพราวก็ให้อภัย มึงจะไปแก้แค้นคุณเอมนั่นให้มันเป็นเวรเป็นกรรมต่อกันทำไมวะ”
“กูอยากให้เค้าลิ้มรสความเจ็บปวดของการเสียคนรัก ต่อไปเค้าจะได้ไม่กล้าทำลายความรักของใครอีก” เคนว่า
ป้องหันมาทางกอล์ฟ “แค่ให้บทเรียนนิดๆหน่อยๆ ผู้หญิงคนนั้นเค้าไม่เป็นไรหรอกพี่”
“ใช่ๆ อกหักจากไอ้เคนไม่นานเดี๋ยวเค้าก็มีคนใหม่ ผู้หญิงสมัยนี้หยิ่งยโสจะตาย เจ็บไม่หนักอกหักไม่นาน”
“พวกมึงไม่คิดจะห้ามมันเลยใช่มั้ย” กอล์ฟเซ็ง
“เรื่องสนุกๆอย่างนี้จะห้ามทำไม อยากทำอะไรก็ทำเลยเพื่อน” แดนเชียร์สุดลิ่ม
ป้องยกแก้วเหล้าขึ้นมา
“เอ้า โช้นนน”
เคน กะแดน ยกแก้วขึ้นชนอย่างเบิกบานใจ
“ระวังเวรกรรมจะตามสนอง คนที่ต้องเสียใจกับเรื่องนี้อาจจะเป็นมึง”
“ไม่ มี ทาง” เคนเน้นคำอย่างมั่นใจ “ปฏิบัติการลวงให้รักจะเริ่มต้นในวันพรุ่งนี้”
วันรุ่งขึ้นเคนในชุดช่างเคเบิ้ลมาดอย่างหล่อเท่ พาตัวเองมายืนกดออดรออยู่หน้าบ้านเอมิกา
สมบูรณ์เดินมาดูเห็นเคนก็อึ้งตะลึงในความหล่อ ร้องเพลงลูกทุ่งจีบทันที เคนยิ้มมองขำๆ
“ยิ่งยิ้มยิ่งหล่อ...มีธุระอะไรเหรอคะพี่หล่อ”
“มาเช็คจานดาวเทียมครับ”
“อ๋อ คุณนายสั่งไว้แล้วค่ะว่าจะมีช่างมา แต่ไม่ได้บอกว่าช่างจะหล่อเหลาเสาไฟฟ้าขนาดนี้ เชิญค่ะ”
สมบูรณ์เปิดประตูให้เคน แล้วกดโทรศัพท์เข้าเฟซบุ๊ค ไลฟ์อย่างตื่นเต้น
“สวัสดีชาวโซเชี่ยว วันนี้สมบูรณ์ได้เจอสิ่งมหัศจรรย์ของโลกค่ะ” สมบูรณ์หันกล้องไปทางเคน “นี่ค่ะพี่หล่อเจ้าหน้าที่บริษัทจานดาวเทียม”
เคนตกใจรีบเอามือปิดหน้ากล้องจับมือสมบูรณ์ไว้
“ผมขี้อาย ไม่ชอบออกสื่อครับ”
สมบูรณ์มองมือเคนยิ้มเขิน
“ชอบผู้ชายขี้อายอะ ปิดก็ด้ะแต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน...ขอไอดีไลน์ได้ป่ะ”
เคนมองสมบูรณ์ครุ่นคิดแล้วยิ้มหวาน “ปิดเฟสไลฟ์ปุ๊บ ผมให้แอดไลน์ปั๊บ”
สมบูรณ์ยิ้มดีใจ
รอนกำลังดูคลิปพราว กะชาช่าตบกันอยู่ในโถงบ้าน
“ตอนแรกฉันก็เชื่อว่าเล่นละคร แต่พอดูคลิปชัดๆ เลยรู้ว่าที่เค้าเม้ากันน่ะจริง ทำอะไรไม่คิดถึงหน้าพ่อหน้าแม่กันบ้างเลย เดชะบุญที่ลูกสาวเราไม่บ้าผู้ชายจนทำให้พ่อแม่อับอายแบบนี้ ไม่งั้นไปไหนคงต้องเอาปี๊บคลุมหัว”
“แล้วคนที่ขึ้นไปห้ามนี่ใคร”
“ทีมงาน”
“ทีมงานคนอื่นก็ห้าม แต่ทำไมสองคนนั้นถึงเชื่อทีมงานคนนี้ ผมว่าคนนี้แหละน่าสงสัยที่สุด” รอนว่า
เนื้ออ่อนคิดตาม “จริงด้วย คุณนี่ช่างสังเกตสมกับเป็นนายตำรวจเก่า ขอดูหน้าผู้ต้องสงสัยหน่อย”เนื้ออ่อนหยิบไอแพดมาดูคลิป “เห็นหน้าไม่ชัดซักมุม เลยไม่รู้กันว่าเป็นใคร”
สมบูรณ์เดินนำเคนในคราบช่างเข้ามา
“ช่างมาแล้วค่ะ”
เคนไหว้เนื้ออ่อน กะ รอน
“โทรไปเมื่อกี้นี้เอง มาเร็วดีนี่” รอนเปิดทีวีไม่มีสัญญาณ “เมื่อเช้ายังดูได้แต่จู่ๆ ก็ไม่มีสัญญาณซักช่อง”
“ฉันเช็คกับบริษัทแล้วค่าช่างฟรี อะไหล่ฟรี ถ้าคิดจะหลอกให้ฉันจ่ายเงินลืมไปได้เลย” เนื้ออ่อนบอก
“ผมไม่กล้าหลอกคุณนายหรอกครับ”
สมบูรณ์บอกกับเคนว่า “จานอยู่ข้างบ้านค่ะสมบูรณ์เตรียมบันไดไว้ให้แล้ว ตามสมบูรณ์มาเลยค่ะ”
ระหว่างนี้ เอมถือกระเป๋าสะพาย กระเป๋าไอแพด เดินมาพอดี เห็นเคนก็ตกใจ
“นาย”
เนื้ออ่อนแปลกใจ “รู้จักเค้าเหรอ”
“คนนี้ละค่ะ ผู้ชายขายตัวที่ทำให้คุณพราวกับคุณชาช่าตบกัน”
เคนงง “ผู้ชายขายตัว?”
สมบูรณ์เอ่ยขึ้น “เท่าไหร่”
ฉวีเดินออกมาพอดีตบหัวสมบูรณ์ “นี่แน่ะเท่าไหร่”
สมบูรณ์หันไปเห็นฉวี ยกถาดกาแฟมา ส่วนชั้นยกถาดข้าวต้ม
สมบูรณ์เซ็ง “หนูล้อเล่นน่ะแม่”
“แล้วไป ถ้าซื้อจริงๆ พี่จะฆ่ามัน พี่หึง พี่หวง” ชั้นว่า
ฉวีตบหัวชั้นเปรี้ยง “ตบเรียกสติ”
“อู๊ย”
“ลูกฉันยังไม่ตกลงปลงใจรับรักแก แกไม่มีสิทธ์หึง”
เนื้ออ่อนบ่น “มั่วกับผู้หญิงไปทั่ว มีโรคติดตัวมารึเปล่าก็ไม่รู้”
เอมสะดุ้งจับปากตัวเองอย่างกลัวๆ
“ถ้าเป็นพาหะนำโรคเข้าบ้านฉันจะทำยังไง รีบทำงานของแกให้เสร็จแล้วรีบออกไปจากบ้านฉันเลย”
เคนมองเนื้ออ่อน เอม ครุ่นคิด แต่กลับไม่แก้ตัวใดๆ
“ครับ”
เคนเดินไป สมบูรณ์จะตาม แต่เอมเรียกไว้
“สมบูรณ์ นายคนนี้ไว้ใจไม่ได้ เพื่อความปลอดภัยของเธอ อยู่ห่างๆ เค้าไว้ดีกว่า...เค้ารู้แล้วว่าต้องไปซ่อมตรงไหนให้เค้าไปเอง”
ฉวี กะ ชั้น มองเอม ยิ้มพอใจ
“เอาของไปใส่รถ”
เอมส่งของให้สมบูรณ์ เคนมองกระเป๋าไอแพดด้วยสีหน้าครุ่นคิด
สมบูรณ์เอาของใส่รถแล้วเดินออกไป เคนย่องตามมามองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง แล้วย่องไปที่รถเอมหยิบไอแพดออกจากกระเป๋าซุกไว้ในเสื้อแล้วกดโทรศัพท์
“ไอ้ป้อง ให้ช่างที่แกจ้างเปิดสัญญาณบ้านคุณนายเนื้ออ่อนได้”
ในขณะที่มิ้นกำลังเลือกซื้อผลไม้อยู่ที่ตลาด เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น นางรับด้วยสำเนียงดัดจิรตมาก
“ไฮ นาต้าลี ซื้อผลไม้ไปให้เพื่อนรักบำรุงร่างอยู่น่ะ”
จู่ๆ มีโจรวิ่งพรวดมากระชากกระเป๋ามิ้นอย่างรวดเร็ว
“ว้าย”
แม่ค้าตะโกนลั่น “วิ่งราว โจรวิ่งราวช่วยจับที”
มิ้นมองโจรอย่างโมโหแล้ววิ่งตามไป
“เอากระเป๋าฉันคืนมานะ”
กอล์ฟในชุดนายตำรวจยืนอยู่หน้าร้านกาแฟที่ตลาดแห่งเดียวกันนี้ ขณะกำลังหยิบกาแฟจากที่เคาน์เตอร์ก็ได้ยินเสียงร้องดังเข้ามา
“เอากระเป๋าฉันคืนมา...”
กอล์ฟคนแถวนั้นหันไปมองเห็นโจรวิ่งผ่านไป กอล์ฟรีบวิ่งออกไปดักอีกทาง
โจรถือกระเป๋ามิ้นวิ่งหน้าตั้งหนีมา มิ้นวิ่งตามไม่ลดละ ผู้คนแถวนั้นแตกตื่น
กอล์ฟวิ่งมาจากอีกทางดักหน้าโจรอย่างรวดเร็ว โจรเห็นตำรวจก็เบรกเอี๊ยด จะวิ่งหนีไปอีกทางแต่กอล์ฟวิ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อไว้ได้ก่อน กระเป๋ามิ้นตกไปกองที่พื้น
โจรต่อยสู้ กอล์ฟหลบทันแล้วต่อยสวนเท่ๆ มิ้น และ คนแถวนั้นมองเหตุการณ์อย่างตกใจ กอล์ฟต่อยโจรหน้าหงาย โจรแค้นกระชากมีดออกมาแทง กอล์ฟหลบจับมือโจรบิดข้อมือมีดหล่นจากมือ แล้วจับมือโจรไพล่หลังแล้วจับมืออีกข้างมาใส่กุญแจมืออย่างรวดเร็ว
กอล์ฟล็อกตัวโจรแล้วหยิบกระเป๋าขึ้นมา
มิ้นเดินเข้ามาเหนื่อยหอบ “ฉันเป็นเจ้าทุกข์ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
กอล์ฟหันเห็นก็ถึงกับอึ้ง ตกหลุมรักทันที มองมิ้นใจเต้นรัวๆ พูดอะไรไม่ออก
มิ้นมองกอล์ฟงงๆ “เอ้อ ฉันเอากระเป๋าคืนได้ใช่มั้ยคะ”
กอล์ฟติดอ่างไปแล้ว “ดะ ได้ครับ ชะ ชะเชิญไปให้ปากคำ ทะ ที่ สน. ด้วยครับ สะ สะ สน. อยู่เลยตลาดไปหน่อย ตะ ตะตามไปเลยนะครับ”
กอล์ฟรีบคุมตัวโจรเดินนำไป
มิ้นงงๆ “เดี๋ยวนี้เค้ารับคนติดอ่างเป็นตำรวจแล้วเหรอ”
บนโรงพัก กอล์ฟนั่งที่โต๊ะมีโน้ตบุ๊คตั้งอยู่ มิ้นนั่งตรงข้าม เห็นตำรวจอื่นๆ นั่งทำงานกันอยู่ตามหน้าที่ใครมัน
กอล์ฟเขินหนักมาก พยายามไม่มองหน้ามิ้น
“ชะ ชะชื่ออะไรครับ”
“มาริสา ภมรวงศ์ค่ะ”
กอล์ฟมือไม้สั่นพิมพ์ไม่ถูก พยายามตั้งสติจิ้มแป้นพิมพ์ทีละตัว มิ้นมองอย่างรำคาญแต่พยายามใจเย็น
“ตำรวจหรือหอยทาก ยืดยาดอย่างนี้ ถ้าเป็นพนักงานบริษัทฉันโดนฉันเหวี่ยงตาย ฉันพิมพ์เอง”
มิ้นหมุนโน้ตบุ๊คมาพิมพ์ชื่อนามสกุลอย่างรวดเร็ว
“ชื่อนามสกุล อายุ ที่อยู่ เบอร์โทร อาชีพ เวลาเกิดเหตุ ลักษณะคนร้าย รายละเอียดการเกิดเหตุใช่มั้ย”
“ครับ”
มิ้นพิมพ์เสร็จเร็วมาก “สั่งปริ้นให้แล้ว เอามาเลยฉันจะเซ็นชื่อให้”
กอล์ฟรีบหยิบสำนวนที่ปริ้นออกมายื่นให้มิ้นอย่างรนๆ มิ้นเซ็นชื่อแล้วลุกขึ้น
“ฉันต้องรีบไป ถ้าต้องการสอบปากคำเพิ่มเติมก็โทร.มาละกันนะคะ”
มิ้นลุกเดินออกไป กอล์ฟตบปากตัวเองอย่างหงุดหงิด
“เจอคนถูกใจทีไรทำไมต้องติดอ่างทุกที อย่างนี้เมื่อไหร่จะมีเมียวะ”
รถติดยาวเป็นแพ เอมนั่งเบาะคนขับเอาสำลีชุบแอลกอฮอลเช็ดปาก
“ถ้าติดโรคจากนายนั่นจะทำยังไง สติ เอมสติ เลิกมโนหาอย่างอื่นทำ”
เอมหยิบกระเป๋าไอแพดขึ้นมากระเป๋าเบาหวิวใจหายวาบรีบเปิด ไอแพดไม่อยู่มีเพียงกระดาษใบหนึ่ง
เอมรีบหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาอ่าน มีข้อความและเบอร์โทร.เคน
“ไอแพดของคุณอยู่ในกำมือผมแล้ว ถ้าไม่อยากให้ข้อมูลในเครื่องเสียชีวิตเพราะโดนลบก็โทร.มา”
เอมโกรธจัด “นายเคน”
เคนเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดช่างแล้ว พาตัวเองมานั่งดื่มกาแฟอย่างสบายอารมณ์ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเคนหยิบขึ้นมาดูเห็นเป็นเบอร์ที่ไม่ได้เมมก็ยิ้มดีใจ
“สวัสดีครับคุณเอม”
เอมขับรถมาคุยโทรศัพท์กับเคนอย่างโกรธจัด
“ฉันจะแจ้งตำรวจจับนายข้อหาลักทรัพย์”
“ผมจะไม่พูดอะไรทั้งนั้นจนกว่าเราจะเจอกัน” เสียงเคนดังลอดออกมา
“ได้ มาเจอฉันที่ร้าน” เอมบอกชื่อร้านไป “ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ”
เอมวางสายอย่างหงุดหงิด “ฉันไม่ยอมเสียทีนายง่ายๆหรอก” ว่าแล้วก็พิมพ์ในไลน์กรุ๊ปเพื่อนรักไปว่า
“s.o.s ต้องการความช่วยเหลือด่วนๆ”
ไม่นานต่อมา เอมนั่งรออยู่ตรงโซนเอาท์ดอร์ร้านกาแฟอย่างร้อนใจ เคนแต่งตัวหล่อเดินเข้ามาทำปากจู๋ประมาณจูจุ๊บยั่วประสาทเล่น เอมมองเคนอย่างแค้นใจลุกไปหา
“ของฉันล่ะ”
เคนไม่ตอบ แต่ปลดกระดุมเสื้อ เอมตกใจ
“นายจะทำอะไร”
เคนปลดกระดุมเสื้อเห็นว่ามีเสื้อกล้ามอยู่ข้างใน
“ก็คุณอยากเห็นตัวประกัน” เขาหยิบไอแพดออกมา “ผมก็หยิบให้คุณดูนี่ไง”
เอมมองเคนยิ้มเยาะสะใจ จู่ๆ ตำรวจ 2 นายก็วิ่งกรูมาจับตัวเคน
กอล์ฟ มิ้น นาตาลี วิ่งตามมาสมทบ เคนและคนในร้านมองอย่างตื่นตกใจ
“หลักฐานคามือ นายติดคุกหัวโตแน่”
กอล์ฟเห็นว่าเป็นเคนก็ตกใจมาก
“ไอ้เคน”
“ก่อคดีมานับไม่ถ้วนเลยละซี้ ตำรวจถึงจำได้ขึ้นใจ” มิ้นว่า
“จะไม่ขึ้นใจได้ยังไงในเมื่อผมเป็นเพื่อนมัน ทุกวันนี้ก็อาศัยกินนอนอยู่ที่แฟลตมันนี่แหละ” เคนบอก
นาตาลีมองหน้ากอล์ฟ “หวังว่าคุณจะทำงานด้วยความยุติธรรม”
“ผมทำงานไม่เคยเห็นแก่พวกพ้อง ผมจะทำคดีนี้อย่างยุติธรรมที่สุด”
“เดี๋ยวนะ นี่คุณไม่ติดอ่างเหรอ” มิ้นงงที่เห็นกอล์ฟพูดเป็นปกติ
“เอ้อ มะ ไม่ครับ”
เคนยิ้มขำมองกอล์ฟอย่างรู้ทัน
“แต่เมื่อเช้าคุณพูดติดอ่าง”
“เอ้อ ผมคงยังเมาขี้ตาอยู่ สมองเลยทำงานช้าน่ะครับ” กอล์ฟแก้ตัว
“สมองตื่นเต็มที่แล้วก็ขอความกรุณาพาเพื่อนขี้ขโมยของคุณไปเข้าคุกซะ”
“ก่อนไป ฉันขอสอบปากคำก่อน”
เคนนั่งแปะอยู่กับเก้าอี้ คนอื่นๆ ยืนจ้องหน้าราวกับเคนก่อคดีใหญ่โตระดับชาติ
“ขโมยของฉันทำไม”
“ก็คุณทำให้ชีวิตผมวุ่นวายทำไม”
“อ๋อ สงบศึกต่อหน้าสาธารณะชน แต่พอลงเวทีก็โดนสองสาวนั่นเทใช่มั้ย เลยมาแก้แค้นที่ฉันทำให้บ่อเงินบ่อทองของนายหลุดมือ”
กอล์ฟงง “บ่อเงินบ่อทอง”
นาตาลีมองหน้ากอล์ฟ “อยู่ด้วยกันทุกวัน อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้ว่าเพื่อนคุณเป็นผู้ชายขายตัว”
“หรือจริงๆ แล้วคุณก็เป็นหนึ่งในลูกค้า” มิ้นว่าไปโน่น
กอล์ฟตาเหลือก “เฮ้ยยยย ไม่ใช่นะครับ พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว ไอ้เคนน่ะ”
แต่แล้วทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงเคนร้องโอดโอยดังลั่น เอามือกุมหัว
“โอ๊ย ปวดหัว ปวดเหมือนหัวจะระเบิด” เขาหันมาทางเอม “ลักทรัพย์เป็นคดีอาญาแต่ศาลก็ดูที่เจตนาด้วย กระดาษที่เขียนเบอร์โทร.ของผมเป็นหลักฐานอย่างดีว่าผมแค่แกล้งคุณยังไงผมก็ไม่ติดคุก ผมคืนของให้คุณไปแล้วเรื่องของเราเป็นอันจบ”
เอมหมั่นไส้ “รู้ทางหนีทีไล่ทะลุปรุโปร่งนี่เองถึงกล้าทำความผิด”
“โอ๊ย ปวด” เคนเกาะแขนกอล์ฟเหมือนคนกำลังจะตาย “กูไม่ไหวแล้ว กูเครียด พากูกลับเถอะ”
กอล์ฟหันมาหาเอม “เจ้าทุกข์ว่าไงครับ”
“เตรียมตัวมาดีอย่างนี้ฉันคงเอาเค้าเข้าคุกไม่ได้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณละกัน”
เคนมองเอมยิ้มแฉ่ง เอมมองหมั่นไส้
“นายเคนนี่ร้ายกาจจริงๆ ถ้าไม่ได้พวกเธอ ฉันคงไม่ได้ของคืนง่ายๆ”
นาตาลียังไม่อยากจะเชื่อนัก “หล่อ ฉลาด พูดจาดีดูมีการศึกษา นี่ถ้าไม่ได้ยินจากปากเธอฉันคงไม่เชื่อว่าเค้าเป็นผู้ชายขายตัว”
“คนเดี๋ยวนี้สร้างภาพเก่งจะตาย” มิ้นดูนาฬิกาแล้วนึกได้ “ตายๆๆ ถ้ามัวเม้าอีก 5 นาที นางแบบของฉันไปซ้อมสายแน่”
“เคๆ เลิกงานแล้วค่อยเม้าท์กัน”
“บาย”
มิ้น กะนาตาลี ลุกเดินออกไป
เอมมองไอแพดอย่างโล่งอก แต่พอเปิดดูไฟล์แบบเสื้อผ้าแล้วต้องตกใจ
“ไฟล์แบบเสื้อหายไปหมดเลย...นายเคน”
เอมกดโทรศัพท์อย่างโกรธจัด
เคนเกาะแขนกอล์ฟเดินโซเซออกมาหน้าร้าน เหมือนคนป่วยหนักปางตาย กอล์ฟหันไปมองเห็นว่าพ้นสายตาพวกเอมแล้วก็ผลักเคนไปมุมหนึ่ง
“ขโมยของ เนี่ยเหรอวิธีทำให้เค้าหลงรัก”
“เข้าใจคำว่าสานต่อมั้”
“แล้วไอ้ที่ปล่อยให้เค้าเข้าใจผิดว่าเป็นผู้ชายขายตัวล่ะ”
“ก็แค่อยากเห็นหน้าหวานๆ หดเหลือแค่ 2 นิ้วในวันที่รู้ความจริง”
“เค้าเกลียดมึงอยู่แล้ว ปล่อยให้เข้าใจแบบนี้เค้ายิ่งเกลียดหนักกว่าเดิม กูมองไม่เห็นทางจริงๆว่ามึงจะทำให้เค้าหลงรักได้ยังไง”
“มึงไม่เห็นแต่กูเห็น”
“เออ ไอ้มั่นหน้า จีบไม่ติดขึ้นมาจะหัวเราะให้ฟันหัก”
“แล้วถ้าติด”
“กูจะยกพานกราบยกให้มึงเป็นครูในการจีบหญิง”
“กลับไปเตรียมพานไว้ได้เลย อีกไม่นานมึงได้เป็นศิษย์กูแน่ รอดูเลยไม่เกิน 5 นาทีคุณเอมจะต้องโทร.มาง้อกู”
เสียงมือถือเคนดังขึ้น เคนยื่นหน้าจอที่เมมชื่อเอมให้กอล์ฟดู
กอล์ฟอึ้งไม่อยากเชื่อ “โทร.มาจริงๆ ด้วย”
เคนยักคิ้วกวนๆ ให้ “ไปทำงานไป๊ ไอ้ไก่อ่อน”
เคนหัวเราะลั่นแล้วเดินเข้าร้านไป กอล์ฟมองเคนอึ้งๆ
เอมนั่งหน้าหงิกรอสายด้วยความหงุดหงิด เสียงโทรศัพท์ดังอยู่ด้านหลังเลยหันไปมองเห็นเคนยืนยิ้มแต้ เอมวางสายแล้วพูดกับเคนอย่างโมโห
“ยังกล้าโผล่หน้ามาอีกเหรอ รู้มั้ยว่าฉันทุ่มเทเวลาทุ่มเทแรงกายแรงใจไปมากแค่ไหนในการออกแบบเสื้อผ้าทั้งหมดนั่น ลบไฟล์งานของฉันทำไม”
“ใครว่าลบ แค่ย้ายมาอยู่” เขาหยิบทัมป์ไดร์ฟออกมาโชว์ “ในนี้”
เอมจะแย่งทรัมไดร์ฟเคนหลบ เอมพยายามแย่ง
“อ๊ะๆ เข้ามาใกล้ระวังโดน” เขาทำปากจู๋ยั่วประสาท “จ๊วบบบบ”
เอมมองเคนตาคว่ำโกรธเหลือแสน
“นายต้องการเท่าไหร่”
“เงิน แก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้นะแจ๊ะ”
“งั้นนายต้องการอะไร”
“เดทกับคุณ”
“ไม่มีวัน”
“งั้นลาก่อน”
เคนจะเดินไป เอมมองตามโกรธแทบกระอัก อยากกรี๊ดมาก แต่ต้องสงบอารมณ์ไว้
“ขอดูข้อมูลในทรัมไดร์ฟ ถ้ามีไฟล์งานฉันจริงก็บอกเงื่อนไขของนายมา”
เคนยิ้มสะใจ
อีกฟากบรรยากาศในกองถ่ายดูวุ่นวายได้ที่ ทีมงานกำลังจัดเซ็ต จัดไฟ ส่วนที่ศาลาสวยงาม ชาช่าแต่งหน้าทำผมใส่ชุดไทยนั่งกดโทรศัพท์หาเคน
“ไปซุกหัวอยู่ที่ไหน ทำไมไม่เปิดเครื่องซะที”
ชาช่ากดวางสายอย่างหงุดหงิด
แจ๊ดวิ่งเข้ามา “น้องชาช่าขา”
ชาช่าหันไปเห็นแจ๊ดถือโทรศัพท์วิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“นักข่าวกระหน่ำโทร.หาพี่จนพี่คิดว่าคงต้องเปลี่ยนอาชีพเป็นโอเปอเรเตอร์สาวแล้วค่ะ คงอยากสัมฯคุณน้องที่กลายร่างจากพรีเซนเตอร์เป็นมือตบวอลเล่ย์บอล แต่พี่บอกไปแล้วว่าทุกอย่างเป็นการแสดงแต่ก็ไม่มีใครเชื่อ”
ชาช่าหงุดหงิด “คลิปชัดขนาดนั้นเป็นช่าๆก็ไม่เชื่อ แต่ช่าไม่สนนักข่าวหรอกค่ะ ตอนนี้ช่าสนแต่ว่าเมื่อไหร่จะหาตัวคุณเคนเจอ มีแฟนคลับโทร.มาบอกข่าวคุณเคนบ้างรึยัง”
“กริบค่ะ ไม่มีซักราย เค้าตั้งใจซ่อนตัวจากทุกคนคงไม่ยอมให้ใครเจอตัวง่ายๆ อีกอย่างโซเชียลก็ไม่เล่น สื่อก็ไม่เคยออก หารูปหาข้อมูลจากเว็บไหนก็ไม่มี มีแค่รูปถ่ายเบลอๆ ที่เค้าไลน์ส่งให้คุณน้องแค่รูปเดียวเบาะแสแค่น้อยนิด ยากแท้หยั่งถึงอย่างนี้เหล่าแฟนคลับอาจถอดใจเลิกตามหาไปแล้วก็ได้ค่ะ”
“งั้นก็ต้องกระตุ้นต่อมดราม่ากันหน่อยจะได้เป็นแรงผลักให้ช่วยกันหา”
ชาช่าเอาน้ำในแก้วมาหยอดเป็นน้ำตาตีหน้าเศร้า แล้วใช้มือถือเซลฟี่ตัวเอง เซลฟี่เสร็จก็โพสต์ลงอินสตาแกรมทันที
แจ๊ดรีบเปิดดูอินสตาแกรมของชาช่า เห็นรูปชาช่าเศร้าน้ำตาไหลพร้อมขึ้นสเตตัสว่า
“โศกเศร้าเฝ้าตามหา เริ่ดมากค่ะคุณน้อง แฟนคลับเห็นต้องเข้าใจทันทีว่าคุณน้องหมายถึงอะไร...ว้ายๆๆ ดูสิคะยอดไลค์พุ่งพรวดยิ่งกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ ว้ายๆๆ เม้นกันใหญ่ว่าจะช่วยตามหาให้ได้ อุต้ะ เรื่องตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จคุณน้องนี่ตัวแม่เลยนะคะ อย่างนี้คุณน้องเจอตัวคุณเคนก่อนนังพราวแน่ๆ ค่ะ”
ชาช่ามองอินสตาแกรมยิ้มสมใจ
ด้านพราวเดินพล่านโทร.หาเคนไม่ติด อาการหงุดหงิดไม่แพ้ชาช่า โทร.ไหร่ก็มีแต่เสียงคอลเซ็นเตอร์
“หมายเลขที่ท่านเรียก”
พราวกดตัดสายแล้วกดโทร.หานักสืบ “ได้เรื่องรึยัง ยัง เป็นนักสืบประสาอะไรจ้างตั้ง 2 ชั่วโมงแล้ว ป่านนี้ยังหาไม่เจอ รีบหาต่อไปรู้ที่อยู่คุณเคนแล้วรีบโทร.บอกฉันทันที”
พราววางสายแล้วกระแทกตัวนั่งโซฟาอย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน เปิดอินสตาแกรมดูแก้เซ็ง เห็นอินสตาแกรมชาช่า
“โศกเศร้าเฝ้าตามหางั้นเหรอ ตอแหล สร้างภาพ ดาราอย่างหล่อนใครๆ ก็รู้ว่าสตรอว์เบอร์รี่เรียก แม่”
พราวคิดบางอย่างได้ เดินไปกดโทรศัพท์สายภายในบนโต๊ะทำงานหาทิพย์เลขา
“เช็คซิว่าตอนนี้นังชาช่าอยู่ไหน”
พราววางสายยิ้มร้าย
เวลาผ่านไป โน้ตบุ๊คตัวหนึ่งตั้งวางอยู่หน้าสองคน มีทรัมไดร์ฟเสียบอยู่ เคนกดภาพให้เอมดูจนครบ
“ข้อมูลครบ อยากได้คืนก็ต้องยอมเดท”
“ไอ้ที่คุณเรียกว่าเดทเนี่ย ต้องทำอะไรบ้าง”
“ก็เหมือนเวลาผู้ชายที่จีบคุณพาคุณไปเดท เลี้ยงข้าวแล้วก็พาไปช้อปปิ้ง”
เอมหงุดหงิด “ฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่าไปกับนายแล้วจะปลอดภัย”
เคนพูดจริงจัง “ด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย คุณจะปลอดภัยเสมอเมื่ออยู่กับผมเอมอึ้งไปรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก พอได้สติก็รีบพูดเสียงเข้มกลบเกลื่อน”
“ฮึ ฉันไม่มีสิทธิ์เลือกอยู่แล้วนี่”
ตอนสาย นาตาลีกำลังซ้อมเดินแบบอยู่กับนางแบบอื่นๆ มิ้นนั่งดูอยู่ข้างเวทีมองนาตาลีอย่างชื่นชม เสียงไลน์ดังขึ้นมิ้นหยิบมือถือมาอ่าน ด้วยสีหน้าตกใจ นาตาลีซ้อมคิวเสร็จพอดีลงมาหา
“ทำไมหน้าตาตื่นอย่างนี้ มีอะไรเหรอมิ้น”
มิ้นยื่นมือถือให้นาตาลีอ่าน
“ฉันต้องไปกับนายเคน ฉันจะเปิดจีพีเอสในโทรศัพท์ไว้ จะติดต่อเป็นระยะ ขาดการติดต่อเกิน 2 ชั่วโมง แจ้งตำรวจเลย” นาตาลีร้อนใจ “นายนั่นต้องวางแผนหลอกให้ยายเอมไปด้วยแน่ๆ”
“ทำไมยัยเอมต้องไปกับนายนั่นวันที่พวกเราติดงานใหญ่ทั้งคู่ด้วยนะ ถ้านายนั่นพายัยเอมไปทำมิดีมิร้ายจะทำยังไง”
นาตาลีครุ่นคิดแล้วนึกออก “มีอีกคนที่จะไปคุ้มกันเอมแทนพวกเราได้”
“ใคร” มิ้นถามอย่างตื่นเต้นระคนดีใจ
อ่านต่อตอนที่ 3