พ่อปลาไหล ตอนที่ 1
บทประพันธ์ : กนกเรขา บทโทรทัศน์ : ปัทมา และ จอมใจ
ยามเย็นวันนี้เสียงเพลงจังหวะตื๊ดๆ เร้าอารมณ์กระแทกหัวใจ ดังกระหึ่มไปทั้งบริเวณสระน้ำ ที่นี่มีงานโฟมปาร์ตี้ แสงไฟสีสันแสบทรวงกระทบฟองสบู่ที่พ่นออกจากเครื่อง บรรยากาศสนุกสนานคึกครื้นเหลือกำลัง
พริตตี้นุ่งน้อยห่มน้อยราว 20 คน อยู่ในสระบ้าง ริมสระบ้าง รุมล้อมบางอย่างในสระ และช่วยกันนับจับเวลาอย่างสนุกสนาน
“70...71...72...73...”
เคน หนุ่มรูปงามโผล่พรวดขึ้นมาเหนือน้ำ และเดินขึ้นจากสระมาดอย่างเท่
พริตตี้ทุกนางประสานเสียงหยุดเวลาที่ “74”
“นาทีกว่า เชื่อรึยังว่าพี่อึด” เคนว่า
พริตตี้1 ยังเกาะตัวเคนเต้นยั่วไปมา พลางว่า “จนกว่าจะได้พิสูจน์”
พริตตี้2 มองพริตตี้1อย่างหมั่นไส้ดึงสายบิกินี ร้องเรียกเคน
“พี่เคนขา”
เคนหันไปมองทางเสียง
พริตตี้2 โอบคอเคน ออดอ้อน “มือไม่ว่างช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อะ ช่วยหน่อยสิคะ”
เคนมองพริตตี้2 ยิ้มเจ้าชู้ลูบไล้มือไปตามตัวพริตตี้แล้วจับสายบิกินี
พริตตี้2 ครางซี๊ดดดด ครวญ อื้มมมมมม
เคนยื่นหน้าไปเหมือนจะไซร้คอแต่ เปล่า เขาใช้ปากกัดสายบิกินี ใช้อีกมือดึงให้แน่นแล้วยิ้มหวานให้พริตตี้2
“เสร็จแล้วจ้ะ”
“แค่ผูกสายบิกินียังฟิ้นฟิน” พริตตี้2 อ่อยสุดชีวิต อยากรู้จังว่าถ้าทำอย่างอื่น พี่เคนจะพาเจนนี่ไปถึงสวรรค์ชั้นไหน”
เคนยิ้มกรุ้มกริ่มดึงพริตตี้เข้ามาซุกไซร้ซอกคออย่างเมามัน
จู่ๆ เสียงกอล์ฟดังขึ้น “ปล่อยกู ปล่อย”
เสียงนั้นดังจนทำให้เคนกับเหล่าพริตตี้หันไปมองทางเสียง เห็น ป้อง และ แดน ลากกอล์ฟเข้ามาริมสระ ช่วยกันเหวี่ยงร่างกอล์ฟลงสระดังตูมใหญ่ สองหนุ่มหัวเราะลั่นชอบอกชอบใจ กอล์ฟเปียกปอนโผล่ขึ้นมาอย่างแค้นใจ
ป้องน้องเล็กของกลุ่ม หัวเราะชอบใจใหญ่ “ท่าสวยว่ะพี่”
“กูว่าไม่เท่าไหร่ จับมันขึ้นมาเทอีกรอบดีกว่า” แดนบอก
กอล์ฟตั้งการ์ด “แตะกูพวกมึงโดน”
แดนขำ “โอ๊ะๆๆ สายโหด”
“กลั๊วกลัว” ป้องว่า พร้อมกับหันไปทางแดน พากันหัวเราะขำกอล์ฟ
“ทำไมชอบแกล้งมันนักวะ” เคนกอดคอกอล์ฟ “กูจะปกป้องมึงเอง” ตะโกนบอกพริตตี้)หอมแก้มห้าร้อย จูบปากจุ๊บละพัน
พริตตี้ที่อยู่ในสระ ตะกายน้ำกรูเข้าใส่กอล์ฟ อนงค์นางที่อยู่ริมสระโดดลงมาแจมอย่างสนุกสนาน
“หนักกว่าพวกเราอี๊ก” ป้องหัวเราะร่า
กอล์ฟมองพริตตี้อย่างตกใจ รีบตะกายหนีจะขึ้นจากสระ ถูกป้อง แดน ช่วยกันผลักกอล์ฟลงมาแล้วโดดลงมาจับตัวกอล์ฟ กอล์ฟขัดขืนแต่ดิ้นไม่หลุด
แดนบอกสาวๆ ว่า “เพื่อนพี่เป็นโรคกลัวผู้หญิง ช่วยกันรักษามันหน่อย”
ป้อง กะ แดนผลักกอล์ฟเข้าไปหากลุ่มพริตตี้ พวกพริตตี้กอดกอล์ฟแล้วรุมหอม
กอล์ฟปัดป้องอย่างหวาดกลัว “อย่าทำผม อย่า”
เคน ป้อง และแดนหัวเราะร่าอย่างสะใจ
เสียงการ์ดร้องห้ามใครบางคนดังขึ้น “เข้าไม่ได้นะครับ”
เคน ป้อง และแดนหันไปทางเสียง พบว่าการ์ดกำลังขวาง พราว สาวสวยคู่ขาของเคน
“คุณพราว!”
ป้องตกใจ ส่วนเคนมองพราวยิ้มเยาะไม่กลัวสักน้อย
พริตตี้หลายคนยืนนั่งริมสระบ้าง ในสระบ้างทุกคนเต้นอย่างสนุกสนาน เคนกระดกเตกีล่าเต้นกับพริตตี้
“วู้.....”
พราวเดินเข้ามามองเคนอย่างโกรธจัด โดยไม่มีใครคาดคิดหล่อนคว้าเอาสวิงช้อนใบไม้ในสระ มาครอบหัวพริตตี้แล้วดึงให้ล้มอย่างโกรธจัด
“แอร๊ยย”
พริตตี้คนอื่นๆ ผวาตื่นตกใจ
แต่เคนกลับยิ้มขำ ก่อนจะแกล้งทำเป็นตกใจเข้าไปห้าม
“คุณพราว อย่าครับ”
พราวประกาศก้อง “อย่ายุ่งกับผู้ชายของฉัน”
ขาดคำพราวเอาสวิงครอบหัวพริตตี้อีกนาง เคนรีบขึ้นจากสระเข้าไปดึงสวิงออก
“คุณกำลังเข้าใจผิด”
“ค่ะ... เข้าใจผิดว่าคุณไปทำงาน”
“ผมก็ทำงานอยู่นี่ไงคร้าบ”
“กินเหล้าเคล้าพริตตี้เนี่ยเหรอ”
“บริษัทผมรับจัดอีเว้นท์นะคร้าบ ไม่ลองเล่นเป็นลูกค้าดูก่อนจะรู้ได้ยังไงว่างานจะสนุกอย่างที่คิดรึเปล่า”
“งั้นพราวลองเล่นเป็นแฟนลูกค้าที่มาเจอแฟนเค้าอยู่กับสาวอื่นให้นะคะ”
พราวไม่เชื่อ แย่งสวิงกลับมา
“ถ้าอยากช่วยงานผม ช่วยอย่างอื่นดีกว่าครับ”
เคนคว้าสวิงออกจากมือพราว แล้วดึงหล่อนไปทางหนึ่ง
ประตูห้องหนึ่ง ถูกเคนเปิดออกแล้วดึงพราวเข้าไปในนั้น
“นี่ครับ สุดยอดนักคิดที่จะมาช่วยทำให้งานของพวกเราสนุกขึ้น”
พราวมองตกใจ เมื่อเห็นว่าแดน กอล์ฟ ป้อง และพริตตี้กลุ่มที่เคนผูกบิกินี่ให้ใส่ชุดเป็นทางการนั่งประชุมกันหน้าเครียดกันอยู่
“ประชุมกันอยู่เหรอคะ”
แดนบอกว่า “กำลังเครียดเลย”
“คุณๆ เค้าเป็นเจ้าของสินค้าที่จะเปิดตัวครับ อยากได้ปาร์ตี้ที่สนุกสุดเหวี่ยง แขกที่มาเป็นผู้ชายล้วนๆ พวกผมกำลังตันเลยคุณช่วยออกไอเดียหน่อยสิครับ” เคนบอก
พราวบอกอย่างมั่นใจ “จ้างนางแบบดังๆ มาเดินแบบแล้วจ้างนักร้องสายแดนซ์มาเปิดคอนเสิร์ต งานสนุกสินค้าดูแพง ดีกว่าจ้างพริตตี้จมูกเชิดคางแหลมที่เหมือนใช้บล็อกแม่มดปั๊มหน้าทั้งฝูง มาเสิร์ฟเหล้าเยอะ”
พริตตี้1มองพราวอย่างโมโห ลุกพรวดขึ้น
“แม่มด” แต่ถูกแดนรีบเหยียบเท้าไว้จนร้องลั่น “โอ๊ย”
พราวมองสงสัย
พริตตี้1ได้สติ “โอ๊ย จัดแบบนั้นมาไม่รู้กี่งานต่อกี่งาน ไอเดียโบม๊าก”
พราวหน้าเจื่อน
พริตตี้ 2 เย้ยเอาว่า “ถ้าครีเอทีฟคุณคิดได้แค่นี้ก็ปิดบริษัทไปเถอะค่ะ”
“เอ้อ คุณพราวไม่ได้เป็นครีเอทีฟครับเค้าเป็นแฟนผม” เคนบอก
พริตตี้ 2ทำเป็นโกรธ “ประชุมสำคัญแต่พาแฟนมาด้วย ทำงานไม่มืออาชีพเลยไปจ้างบริษัทอื่นดีกว่า”
แดนกะป้องร้องห้ามเสียงหลง “โอ้ว ไม่นะ”
กอล์ฟมองพราวด้วยความสงสารที่ถูกเพื่อนๆ รุมหลอก แดนหันมาเห็นรีบเหยียบเท้าให้กอล์ฟมีอารมณ์ร่วม
ที่สุดกอล์ฟก็แกล้งตกใจเว่อร์ๆ เกินจริงจนส่อพิรุธ “ไม่นะ”
พราวรู้สึกผิดมาก แต่ยังรักษาฟอร์มสาวมั่น พูดเชิดๆ
“เค้าไม่ได้พาฉันมา ฉันบังเอิญผ่านแล้วเห็นรถคุณเคนเลยเข้ามาดู ทำงานต่อเถอะค่ะพราวไม่กวนแล้ว”
พราวเดินออกไป เคนชะโงกหน้าไปดูเห็นพราวเดินไปไกลแล้วรีบปิดประตูแล้วทำท่าสะใจมาก
“เยส! เชื่อสนิทใจ” เคนถลาเข้าไปหอมพริตตี้เรียงตัว “เล่นเนียนสุดๆเดี๋ยวพี่ทิปหนักๆ เลย...พร้อมมั้ย”ป้องกะแดนประสานเสียงทันที “พร้อมเฟร่อร์”
ฉับพลันนั้นเอง พริตตี้ก็ถอดเสื้อออกเผยให้เห็นชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่ที่ใส่ลงสระอยู่ข้างใน
เคนมองพริตตี้ด้วยสายตาเจ้าชู้
อีกฟากหนึ่ง ที่คอนโดนาตาลี ทิชชู่ใช้แล้วกองโตพร้อมเสียงสะอื้นของ เอมิกา หรือ เอม เจ้าของผลงานซึ่งนั่งจ้องจอดูหนังฝรั่งฉากพระเอกคุกเข่าขอนางเอกแต่งงานอยู่ อย่างซาบซึ้งเหลือแสน ยิ้มทั้งน้ำตา
นาตาลีนั่งดื่มไวน์ท่าทีชิลล์มากมองเอมแล้วยิ้มขำ ส่วนมิ้นถือแก้วไวน์มองเอมเซ็งๆ ก่อนจะหยิบรีโมทมากดปิดทีวี
“เย้ยยย ปิดไม”
“ดูแล้วโศกเศร้าน้ำตาท่วมขนาดนี้ก็ไม่ต้อง ชีวิตคนเราต้องมีความสุข” มิ้นว่า
“ตื้นตันหวานซึ้งไปกับความรักของพระเอกนางเอกนี่แหละความสุขของฉัน”
พร้อมกับว่าเอมแย่งรีโมทไปจากมิ้น แต่มิ้นแย่งคืน แถมแกะเอาถ่านออกปาทิ้งไป
“นั่งมโนถึงชายในฝัน จะสุขเท่าทำเรื่องหนุกๆ ในโลกความจริงได้ไง” มิ้นว่า
“พวกฉันปล่อยให้เธอดราม่าฟินอินซึ้งกับหนังมานานแล้ว เธอต้องตามใจพวกฉันบ้าง ฉันอยากดริ๊งแดรงค์ดรั๊งแอนแดนซ์” นาตาลีบอก
มิ้นดึงเอมขึ้น “ไปล้างหน้าแล้วทำตัวสวยๆ ออกไปกับพวกฉันเลย”
“ใช้ซี้ เสียงเดียวกะเทียมลีบจะสู้สองหัวสุมกันได้ยังไง”
เอมเดินออกไปอย่างเซ็งๆ มิ้น นาตาลีมองเพื่อนยิ้มขำ
ทางด้านพราวขับรถมาตามทางด้วยสีหน้าใคร่ครวญครุ่นคิด พยายามทบทวนปะติดปะต่อเรื่องราว
“เจ้าของสินค้าแต่ทำไม เสื้อผ้าหน้าผมดูโลว์อย่างนั้น กระเป๋าก็ของก็อป” จนเมื่อนึกได้ว่าถูกหลอกก็โกรธจัด “กล้าหลอกฉันเหรอคุณเคน”
พราวเลี้ยวรถกลับอย่างเร็วและแรง
สี่หนุ่ม เคน ป้อง แดน กอล์ฟ ชนแก้วกับกลุ่มพริตตี้ที่สวมรอยเป็นเจ้าของสินค้าในประชุม หอมแก้มสาวๆ อย่างครึกครื้นมีพียงกอล์ฟที่เจื่อนๆ สงสารพราว
“ไปไหนกับใครก็ไม่รู้สึกปลอดภัยเท่าไปกับพี่เคน แผน A B C มีครบ สาวบุกมาต่อหน้า ลับหลังรับมือได้หมด ศึกษามาตั้งแต่ประถมยัน เป็นเจ้าของกิจการแต่วิทยายุทธยังไม่ได้ขี้ทีนพี่เลย” ป้องยิ้มร่า
“เชิงมึงไม่เท่าไอ้เคนหรอก เพราะมึงมันโง่” แดนด่า
“ว่ามันก็ไม่ถูก ของงี้มันเป็นความพลิ้วเฉพาะตัวก้อปกันไม่ได้ ถ้าก้อปได้กูคายตะขาบให้ไอ้แกะดำนี่ไปแล้วจะได้เลิกกลัวหญิง”
เคนมองเซ็งไปยังกอล์ฟที่ถือแก้วพิงขอบสระอย่างไม่สบายใจ
“น้องๆ เค้าแค่กอดจูบมึงยังไม่ได้พรากความเป็นชายไปซะหน่อย ไมซึมลึกเป็นผ้าอนามัยวันมามากอย่างนี้วะ”
ป้อง แดน และพริตตี้หัวเราะขำคิกคัก
“กูสงสารคุณพราวโว้ย” กอล์ฟบอก
“คุณพราวคิดว่าพี่เคนมาทำงาน เค้ากลับไปด้วยความสบายใจ น่าสงสารตรงไหน” ป้องว่า
“รักคนเจ้าชู้หลายใจจะไม่น่าสงสารได้ไง” กอล์ฟด่าเคน
แดนมองหมั่นไส้ “นี่ ไอ้พ่อพระ เชื่อกูเถอะว่าเป็นคนดีแล้วมันไม่มีใครเลวเต็มเหนี่ยวแบบไอ้เคนไปเล้ยหญิงตรึม”
“การเป็นคนเลวขั้นที่ 1 ไล่จูบสาวในสระนี้ให้ครบทุกคน ทำตามกูนะ”
พร้อมกับว่าเคนโผเข้าไปหาพริตตี้ แต่จู่ๆ พราวโดดเข้ามาขวางลำซะก่อน ทุกคนมองพราวอย่างตกใจ
“คุณพราว” เคนอึ้ง คาดไม่ถึง
“คนโกหก แต่ต้นเหตุที่ทำให้คุณต้องโกหกคือ พริตตี้ ชั้นต่ำอย่างพวกแก”
พราวโกรธสุดขีดกระโจนเข้าไปตบพริตตี้ไม่ยั้ง พริตตี้กรีดร้องวงแตกตะกายหนีอย่างตกใจ จนวุ่นวายโกลาหลไปหมด
พราวจิกผมพริตตี้คนหนึ่งแล้วตบคว่ำ
เคนรีบถลาเข้ามารวบตัวพราวเอาไว้
“หยุดครับหยุด”
พราวสะบัดหลุดหันมาเผชิญหน้ากับเคน
“จะแก้ตัวยังไงก็ว่ามา”
เคน กับ พราว ยังเคลียร์กันอยู่ในสระ เขาอธิบายด้วยสีหน้าจริงจังเครียดจัด
“พวกเค้าเป็นทายาทเจ้าของบริษัทจิวเวลรีที่รวยที่สุดในเอเชีย”
พวกกอล์ฟ ป้อง แดน และอีหนูพริตตี้ แอบดูอยู่มุมหนึ่ง
กอล์ฟมองสะใจ “โห ปูซะใหญ่คุณพราวไม่เชื่อหรอก งานนี้ไอ้เคนจนมุม”
“ไอ้เคนมันเหนือชั้นกว่าคุณพราวหลายสเตป ก่อนพูดมันต้องคิดแล้วว่ามีทางไป กูว่ายังไงก็รอด” แดนอ่านเกมขาด
“ผมก็ว่า ผม #ทีมพี่เคน…”
ฝ่ายพราวดูเหมือนจะไม่เชื่อ “ทายาทเจ้าของบริษัทจิวเวลรีที่รวยที่สุดในเอเชีย แต่ไม่มีของแบรนด์เนมติดตัวซักชิ้น แถมยังกลายร่างเป็นพริตตี้ชั้นต่ำเต้นยั่วผู้ชาย ถ้าเชื่อคุณพราวก็ควรไปกินหญ้า”
“คุณรู้ใช่มั้ยว่าทำไมผมต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อให้บริษัทผมอยู่รอด”
“คุณไม่อยากไปช่วยงานคุณลุง”
“พวกเค้าก็เหมือนผม อยากมีชีวิตของตัวเองเลยออกมาเปิดบริษัท แต่พวกเค้าโชคร้ายกว่าผมตรงที่ครอบครัวตัดหางปล่อยวัดไม่ให้ทรัพย์ สมบัติไม่ให้เงินซักบาท พวกเค้าต้องขายของมีค่าทุกอย่างเอาเงินมาทำธุรกิจแล้วจ้างผมจัดงานเปิดตัว”
“ชีวิตดราม่าใช้ได้ แล้วทำไมเจ้าของแบรนด์ต้องแต่งตัวเป็นพริตตี้มาเต้นยั่วคุณด้วย”
“ผมอยากให้งานไม่เหมือนใคร เลยเสนอไอเดียให้พวกเค้าแต่งตัวเป็นพริตตี้เสิร์ฟเหล้าสร้างความประทับใจให้ลูกค้า สร้างกระแสให้เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์จะได้ทำข่าวพีอาร์ได้”
พราวยังไม่เชื่ออยู่ดี “คุณกอล์ฟ คุณแดน คุณป้อง ก็อยู่ ทำไมต้องเต้นยั่วคุณคนเดียว พวกเค้าชอบคุณเลยจะรุมกินคุณใช่มั้ย”
“พวกเค้าเล่นไปตามบทที่ผมบอก ไม่ได้พิศวาสผมเลย”
“จ้องอย่างกับจะกลืนคุณเข้าไปทั้งตัวอย่างนั้นน่ะเหรอไม่พิศวาส” พราวตะโกนลั่น “อยากได้คุณเคนกันนักใช่มั้ย บอกเลยว่าไม่ให้คุณเคนเป็นของฉัน ของฉันคนเดียว ได้ยินมั้ย คุณเคนเป็นของฉัน...”
สาวสวยขี้หึงยังพูดไม่ทันจบคำ เคนก็ดึงพราวเข้ามาจูบปิดปาก พราวอึ้งไป แล้วอ่อนระทวยจูบตอบอย่างดูดดื่ม เคนผละออกมายิ้มอ่อนโยนให้
“ถ้าคุณอยากแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของผม สิ่งที่ผมทำคงทำให้พวกเค้ารู้แล้ว”
พราวยิ้มหวานเยิ้มย้วย “ค่ะ”
บรรดาเหล่ากองหนุนมองเหตุการณ์อย่างทึ่งสุดๆ
“บอกแล้วว่ามันรอด” แดนว่า
ป้องพนมมือ “โคตรเทพ”
กอล์ฟเองมองเคนอย่างอดทึ่งความกะล่อนของเพื่อนไม่ได้
เคน กะ พราว มองตากันหวานซึ้ง
ไม่นานนักเคนก็เดินกลับจากไปส่งพราวขึ้นรถ ป้อง แดน กอล์ฟ และพริตตี้ร้องเฮฮาอยู่ในสระ
“แน่ใจนะว่ารอบนี้จะไม่ย้อนมาอีก” แดนยิ้มร่า
เคนบอกอย่างมั่นใจ “ยิ่งกว่าแน่ เจอจุมพิตพิฆาตของกูเข้าไปจะเชื่อกูรักกูหลงกูไปอีก 3 วัน 3 คืน”
ป้องถลามาแตะเคน “ขอแบ่งพลังเทพหน่อย”
“ถามจริง ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จอย่างนี้ไม่กลัวบาปบ้างเหรอวะ” กอล์ฟกัด
“บุญบาปมันอยู่ที่เจตนา กูโกหกให้เค้าสบายใจ” เคนลอยหน้าลอยตาพูดชัดว่า “ไม่บาป”
“ไม่บาปก็ไม่ต้องลงนรก” แดนผสมโรง
“ไม่ต้องลงนรกก็ได้ขึ้นสวรรค์ อัญเชิญท่านเทพไปขึ้นสวรรค์กับน้องๆ เลยครับ”
“หมดเวลาแล้ว” เคนยิ้มกรุ้มกริ่ม “ท่านเทพมีนัดไปขึ้นสวรรค์ที่อื่น”
คืนวันเดียวกัน เสียงเพลงแดนซ์จังหวะสนุกสนานดังกระหึ่มไปทั้งผับแห่งนี้ หญิงชายหลายคนนั่งดื่ม หลายคนเต้นกระจาย
สามสาว เอม มิ้น นาตาลี เดินเข้ามาในนั้น มิ้นหยิบมือถือมาเปิดเฟสบุ๊คไลฟ์ พูดกับกล้องว่า
“ไฮ ใครดูอยู่บ้างแสดงตัวหน่อยย”
พริบตามีเสียงเม้นต์ในเฟสดังรัวๆ
“โว้ว เป็นร้อย...วันนี้มิ้นมีเพื่อนมาแนะนำให้รู้จักค่ะ เค้ากำลังจะเป็นดีไซเนอร์ชื่อดังระดับประเทศ พวกเราเลยมาฉลองล่วงหน้ากัน มารู้จักเพื่อนมิ้นกันนะคะ เอม...เอมิกา”
มิ้นหันกล้องไปทางเอมกับนาตาลี นาตาลีปรบมือให้เอมเอาแต่เขิน
“ไม่เอา ฉันเขิน”
นาตาลีกระซิบเอมว่า “ถ้าอยากให้แบรนด์เธอดังเธอก็ต้องทำตัวเป็นให้เป็นที่รู้จักตั้งแต่ตอนนี้ พูดอะไรก็ได้ เร็ว”
เอมมองกล้องยิ้มหวานตามน้ำไป “เอมเองค่ะ เร็วๆ นี้เอมจะมีงานแฟชั่นเสื้อผ้าฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
กล้องมือถือถูกหันไปทางนาตาลี “งานนี้นาตาลีเดินชุดฟินาเล่ มาให้กำลังใจพวกเราด้วยนะคะ”
มิ้นเสนอหน้ามาร่วมเฟรมด้วย
“แก๊งเราสวยทั้ง 3 คนเลยชะ ถ้าเห็นด้วยส่งข้อความมาชม ถ้าไม่เห็นด้วยกรุณานอนค่ะนอน ไม่ต้องส่งมาด่ามาว่าอะไรทั้งนั้น บัย”
มิ้นปิดเฟสบุ๊คไลฟ์ เอมบ่นให้ว่า
“จะออกสื่อทำไมไม่บอกก่อน”
“บอกก่อนมันก็ไม่ไลฟ์ไม่สดไม่ได้ฟีลสิคะคู้ณณณณ”
3 สาว หัวเราะขำอย่างสนุกสนาน
ระหว่างนี้ ดิว อาร์ต และปาล์มนั่งอยู่มุมหนึ่ง สามหนุ่มเล็งแลมองมาที่กลุ่มเอมด้วยสายตาเจ้าชู้
ไม่นานต่อ เอม มิ้น นาตาลี เต้นไปดื่มไปอย่างสนุกสนาน ดิว อาร์ต ปาล์ม ล้อมวงเต้นเบียดสามสาวเข้ามาเหมือนต้อนให้พวกเธอจนมุม เอม มิ้น นาตาลีมองพวกดิวอย่างหงุดหงิด
ดิว อาร์ต ปาล์ม หยิบแก้วเหล้ามาป้อนให้ 3 สาว ดิวป้อนเอม
“ไอป้อน”
“ฉันไม่อยากกิน” เอมขัดขืนสุดกำลัง
“แต่ไออยากป้อน”
ดิวเอาแก้วเข้าไปที่ปากเอม
เอมมองไม่พอใจ ปัดแก้วกระเด็น
“บอกว่าไม่กินไง” เจ้ากรรมเครื่องดื่มกระฉอกหกใส่เสื้อเอม “ว้าย”
มิ้นตะโกนไปทางหน้าประตู “การ์ดๆ”
การ์ดวิ่งเข้ามา
“เอาพวกมันออกไป”
ดิวมองการ์ดอย่างกลัวๆ “โอเค๊”
พวกดิวเดินออกไปอย่างหงุดหงิด
“ผู้ชายทำไมชอบทำตัวน่ารำคาญ” มิ้นโมโห
“บางคนเท่านั้นน่า” นาตาลีว่า
“ไม่หนุกแล้ว กลับเถอะ” เอมอารมณ์เสีย
นาตาลีหันไปทางบริกรใกล้ๆ “เช็คบิล”
เอมมองเสื้อเซ็งๆ “ไปห้องน้ำแป๊บ”
จากนั้นก็เดินออกไปทางห้องน้ำของร้าน
ขณะที่เคนเดินออกจากห้องน้ำด็ได้ยินเสียงตะโกนด่าดังลั่น
“ไอ้คนหลายใจ”
เคนสะดุ้งเฮือก เมื่อหันไปมองก็โล่งใจ เพราะไม่ใช่คู่ขา แต่เป็นสาว1 ในสภาพเมาปลิ้น น้ำตานองหน้า ผมยุ่งหัวกระเซิง
“ไม่ใช่โจทก์”
สาว1ทุบกำแพง “ฉันเกลียดแก ฉันเกลียดแก ฉันขอสาปแช่งให้แกเจ็บยิ่งกว่าที่ฉันเจ็บ”
เคนจะเข้าไปห้าม แต่เอมถลาเข้ามาจับมือสาว 1 ไว้ซะก่อน
“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ”
สาว1 มองเอมงงงัน เคนมองเอม แล้วปิ๊งทันที
“คนอื่นทำให้เจ็บใจแล้วอย่าซ้ำเติมด้วยการทำให้ตัวเองเจ็บตัวอีกเลย” เอมปลอบ
สาว1 ร้องไห้โฮ “มันนอกใจฉัน มันทิ้งฉัน”
เอมประคองสาวคนนั้น ไปนั่งโซฟารับรองแถวนั้น
“สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ เค้าทิ้งคุณวันนี้เพื่อให้คุณได้เจอคนดีๆ ที่จะทำให้คุณมีความสุขมากกว่าเค้า รักษาใจดูแลตัวเองให้ดี เพื่อรอคนที่คู่ควรกับคุณนะคะ เชื่อฉัน รักแท้มีจริง”
“รักแท้มีจริง หน้าสวยแล้วยังโลกสวยอีก”
เคนครุ่นคิดอยู่ในใจ ยิ้มเจ้าชู้กรุ้มกริ่มออกมา
“ขอบคุณนะคะที่ให้กำลังใจ”
สาว1 ลุกเดินร้องไห้สะอึกสะอื้นออกไป เคนจะเดินเข้าไปหาเอม แต่ดิวดันเข้ามาซะก่อน
“ไอไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอกนะ”
เอมมองดิวอย่างเซ็งๆ แล้วจะเดินหนี เข้าห้องน้ำไป
แต่ดิวไม่ยอมจับแขนเอมไว้ “คุยกันก่อนดิ”
เอมมองไม่พอใจสะบัดแขนแต่ดิวจับแน่นขึ้น
“ปล่อยนะ”
ดิวไม่ปล่อยดึงร่างเอมมากอดแถมจะหอมแก้ม เอมเอามือยันหน้าดิวไว้ เคนมองตกใจแล้วรีบเข้ามากระชากดิวออกจากเอม
“บังคับผู้หญิงแบบนี้ไม่แมนเลย”
ดิวโมโหที่ถูกขัดจังหวะ “อย่าเสือก”
“ไม่เสือกได้ไง คนนี้แฟนผม”
เอมมองเคนด้วยความตกใจ
ดิวยิ้มเยาะ ไม่เชื่อ “กูเห็นมึงนั่งคนเดียวตั้งแต่ก่อนเค้ามา อย่ามามั่ว”
เคนมองดิวคิดนิดนึง แล้วดึงเอมมาจุ๊บปาก ก่อนจะละตัวออก สองหน้าคนมองหน้ากัน ต่างคนต่างอึ้ง รู้สึกพิเศษอย่างบอกไม่ถูก
“เค๊ แฟนมึง”
ดิวเซ็งยอมเดินจากไป
เอมได้สติผลักเคนออกแล้วตบหน้าอย่างแรง
“คนเลว”
“เฮ้ยยยย ผมทำเพื่อช่วยคุณนะ”
“ลวนลามฉันแทนไอ้หมอนั่นไม่เรียกช่วยหรอก เรียกว่าฉวยโอกาส”
เอมิกาโกรธจัดเดินหุนหันจากไป เคนเดินตามอย่างเคืองๆ
เอมเดินกลับโต๊ะ เคนตามไม่ลดละ พยายามอธิบาย
“ไม่ทำอย่างนั้นไอ้หมอนั่นจะเชื่อได้ยังไงว่าเราเป็นแฟนกัน ผมช่วยคุณด้วยความบริสุทธิ์ใจสุดๆ เลยนะ”
เอมปิดหู “ไม่ต้องพูดฉันไม่อยากฟังคำแก้ตัว”
เคนดักหน้าเอมเอามือเอมออกจากหู
“แต่ผมอยากได้ยินคำขอโทษจากคุณ เพราะคุณตบหน้าผม”
“มันเป็นสิ่งที่คนเลวอย่างคุณสมควรจะได้รับ”
เคนชักยัวะ “ทำไมไม่มีเหตุผลได้ขนาดนี้นะ ถ้ารู้ว่ามองโลกแง่ร้ายอย่างนี้จะไม่ช่วยให้เสียแรงเลย ทำคุณบูชาโทษ โปรดคุณได้บาป”
มิ้น นาตาลีเดินเข้ามาสมทบอย่างร้อนใจ
“มาวุ่นวายอะไรเพื่อนฉัน” มิ้นมองหน้าไม่ยอม
เอมรีบตัดบทไม่อยากให้เพื่อนรู้ว่าโดนจุ๊บ
“อย่าไปพูดกับเค้าให้มากความเลย ที่นี่มีแต่คนทำให้ของขึ้น ฉันอยากกลับบ้านเต็มทีแล้ว รีบไปเถอะ”
พร้อมกับว่าเอมดึงมิ้น และนาตาลีออกไป
เคนมองเอมยิ้มมีแผนเดินตาม
เอม ดึง มิ้น นาตาลีมาที่โต๊ะ
นาตาลีถามด้วยความแปลกใจเรื่องเคน “เค้าตามจีบเหรอ”
เอมกะเคนซึ่งตามมาทันประสานเสียงขึ้น
เคนบอกว่า “ใช่” ส่วนเอมบอกว่า “ไม่ใช่”
มิ้น กับนาตาลีงงใหญ่
“ยังไงกันแน่”
เคนยังไม่ทันพูดอะไรต่อ เสียงใครบางคนก็ดังขัดจังหวะขึ้นซะก่อน
“คุณเคนขา”
เคนหันไปทางเสียง เอม มิ้น นาตาลีมองตาม เห็นเป็นชาช่านางเอกคนดังแต่งตังสวยเซ็กซี่เดินนวยนาดเข้ามา
“อ้าว มิ้น นาตาลี”
ชาช่าทักมิ้นและนาตาลี เพราะรู้จักกัน พร้อมกับคล้องแขนเคนโชว์ แสดงความเป็นเจ้าของ
เอมมองเคนยิ้มมีแผนในใจ “แฟนคุณเหรอ”
ชาช่ายิ้มเขิน “ให้คุณเคนตอบเองดีกว่า”
“อย่าให้ผมตอบเลย เดี๋ยวนางเอกอันดับหนึ่งของวงการจะเสียหาย” เคนบ่ายเบี่ยง
“ช่าเป็นข่าวเรื่องดีๆ มาเยอะแล้ว เป็นข่าวเรื่องผู้ชายบ้างก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อีกอย่าง” ชาช่าลูบแผงอกเคนอย่างยั่วยวน “ช่าเต็มใจเป็นข่าวกับคุณ”
เคนขำๆ “แต่ผมไม่อยากโดนแฟนคลับคุณเกลียดขี้หน้า”
“ไม่ต้องให้ถึงแฟนคลับหรอกให้แฟนคุณเกลียดก่อนเลย” เอมหันมาทางชาช่าบอกโต้งๆ “เมื่อกี๊เค้าตามจีบฉัน”
มิ้นเสริมว่า “ตามจีบแต่ไม่ยอมรับ ไม่แมนเลย”
“อบรมแฟนคุณด้วย” เอมพูดจริงจัง
แต่ชาช่ากลับยิ้มขำ “คุณเคนไม่ได้จีบคุณหรอก เค้าแค่มนุษย์สัมพันธ์ดีเลิศชอบคุยกับผู้คน ผู้หญิงเลยเข้าใจผิดบ่อยๆ ว่าเค้าจีบ ฉันชินแล้วละค่ะ ขอตัวนะคะ”
เคนเดินควงไปกับชาช่า เอมมองตามอย่างแค้นใจ
เอมเดินออกมาอย่างหงุดหงิดสุดๆ มิ้น นาตาลีเดินมาด้วยกัน ยิ่งคิดเอมก็ยิ่งโมโห
“แค่มนุษย์สัมพันธ์ดี ฮึ่ย นายนั่นมีดีอะไร ทำไมคนสวย รวย ดัง อย่างคุณชาช่าถึงยอมให้นายนั่นทำเจ้าชู้กับผู้หญิงอื่นได้”
“ไม่รวยมาก ก็ต้องลีลาเด็ดมาก...อยากรู้แล้วสิว่านายเคนเป็นใคร” นาตาลีว่า
“เดี๋ยวนี้เข้าอากู๋แป๊บเดียว รู้เรื่องคนทั้งโลก ฉันสืบเอง” มิ้นอาสา
“รู้แล้วไม่ต้องบอกฉันนะ ไม่อยากรู้จักไม่อยากรับรู้ เกลียดผู้ชายเห็นแก่ตัว” เอมบอก
“อย่าค่ะอย่า อย่าเที่ยวเกลียดเค้าค่ะคู๊ณณณ โบราณว่าเกลียดอะไรได้อย่างนั้นเดี๋ยวจะได้” มิ้นสัพยอก
“ฉันไม่เชื่อคำโบราณหลอกเด็ก”
“แต่ฉันเชื่อโชคชะตา ถ้าโชคชะตากำหนดมายังไงเธอก็หนีไม่พ้น” นาตาลีว่า
เอมบอกอย่างมั่นใจ “ถ้าโชคชะตากำหนดให้ฉันต้องเจอกับนายนั่นจริงๆ ฉันจะเอาชนะโชคชะตาให้เธอดู”
ฝั่งทางเคน และชาช่าชนแก้วไวน์อย่างมีความสุขอยู่ที่โต๊ะวีไอพีของร้าน
“ขอบคุณคนบนฟ้า ที่ส่งคนที่เข้าใจผมที่สุดในโลกมาให้”
เคน ยิ้มหวานชนแก้วอีก ชาช่าจิบไวน์อย่างอารมณ์ดี
“ช่ารักคุณ แล้วก็พร้อมจะใช้ชีวิตกับคุณค่ะ”
“เหมือนกำลังถูกขอแต่งงาน”
“แต่งมั้ยละคะ”
“เพิ่ง 3 เดือนเองนะครับ กำลังสวยหรูอยู่ในช่วงโปรโมชั่น ผมกลัวว่าหมดโปรแล้วคุณจะทนนิสัยแย่ๆของผมไม่ไหว ดูกันไปเรื่อยๆ ก่อนดีกว่า”
“กี่ปีก็ได้ค่ะ ช่าตามใจคุณ รอคุณได้เสมอ”
“น่ารักอะ”
เคนก้มลงจะจูบ ชาช่าหลับตาพริ้มเผยอปากรอ พร้อมรับจุมพิตพิฆาต แต่แล้วเคนก็ชะงักเมื่อภาพหนึ่งแว่บเข้ามาในหัว ชาช่าลืมตามองเคนอย่างงงๆ
“ผมกลัวปาปาราซซี่น่ะ”
เคนยิ้มหวานให้ชาช่า แต่อดแปลกใจตัวเองไม่ได้ที่คิดถึงตอนจูบกับเอมิกา
อีกฟากหนึ่งที่ห้องพักผ่อนบ้านเอมิกา คุณรอนนั่งดูทีวีอยู่ ส่วนคุณเนื้ออ่อนนั่งเล่นไอแพดอยู่ใกล้กัน เล่นไปบ่นไป
“มีแต่รูปคุณณรงค์กับคุณเพ็ญ ทำไมไม่มีรูปหลานชายคุณเพ็ญเลย”
รอนมองรู้ทัน “จะจับคู่ให้ลูกอีกแล้วเหรอ”
เนื้ออ่อน “ก็แค่แนะนำให้รู้จักคนดีที่คู่ควร”
“ยังไม่ทันเจอเลยรู้ได้ยังไงว่าเป็นคนดี”
“ลูกชายคนเดียวของมหาเศรษฐีกับผู้ดีเก่า ถึงแม่จะตายตั้งแต่เด็กแต่ก็ได้คุณเพ็ญที่เป็นผู้ดีทุกกระเบียดเลี้ยงดูมา ยังไงเชื้อดีก็มาเต็ม”
“ลูกโตแล้วนะคุณ ปล่อยให้เค้าเลือกของเค้าเองเถอะ”
“ถ้าลูกเลือกผิดจะทำยังไง นี่คุณจะขัดใจฉันเหรอ ท่องซิว่าก่อนแต่งงานสัญญากับฉันว่าไง” เนื้ออ่อนว่า
รอนจ๋อย “ไม่ขัดใจตามใจทุกอย่างจ้ะ”
เนื้ออ่อนยิ้มเหนือ อย่างผู้ชนะ
เอมเดินเข้าบ้านมาในจังหวะนี้
“คุยอะไรกันอยู่คะ”
เนื้ออ่อนรีบปิดไอแพดไม่อยากให้ลูกสาวรู้ว่าจะพาไปดูตัว
“หลายเรื่องจ้ะ มีปาร์ตี้ไม่ใช่เหรอ ทำไมกลับเร็วจัง”
“ผู้ชายมาจีบเยอะ เลยเบื่อน่ะค่ะ”
เนื้ออ่อนยิ้มพอใจ “ดีมากลูกแม่ ผู้ชายที่เจอตามผับตามบาร์น่ะไว้ใจไม่ได้หรอก พวกมันออกล่าเหยื่อเพื่อเก็บแต้มทั้งนั้น แม่ดีใจนะที่ลูกไม่เข้าใกล้พวกมัน”
“คราวหน้าเวลาเอมไปปาร์ตี้พ่อแช่งให้ผู้ชายมาจีบเยอะๆ ดีกว่า ลูกจะได้ไม่กลับบ้านดึก” รอนสัพยอก
เอมกอดรอนและเนื้ออ่อนด้วยความรัก “ไม่ต้องแช่งหรอกค่ะ สัญญาว่าจะดูแลตัวเองอย่างดีจะไม่ให้คุณพ่อแม่ต้องกังวลเลย”
รอน กับเนื้ออ่อนยิ้มสุขใจ
“อย่ามัวแต่อ้อน รีบไปนอน พรุ่งนี้ตื่นมาหน้าจะได้ไบร้ท์ ไปออกงานกับแม่จะได้สวยๆ ออร่าแร็งง”
“เอมงานยุ่งมากเลย ไม่ไปไม่ได้เหรอคะ”
เนื้ออ่อนไม่ได้จ้ะ เกรงใจคุณเพ็ญเค้ายังไงเอมก็ต้องไป
เอมถอนหายใจเซ็งๆ รอนมองสงสารลูก
เอมนั่งอยู่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอนแล้ว เช็ดเครื่องสำอางออก และกำลังจะเช็ดลิปสติก
จู่ๆ มีภาพแว่บเข้ามาในหัว ตอนเคนยื่นหน้ามาจุ๊บปากหน้าห้องน้ำ สองคนมองหน้ากันต่างคนต่างอึ้ง รู้สึกพิเศษอย่างบอกไม่ถูก
เอมิกาดึงความคิดตัวเองกลับมาด้วยความโมโหเคน
“อุตส่าห์เก็บจูบแรกไว้ให้ชายในฝัน แต่ดันโดนปีศาจมาขโมยไป ฉันเกลียดนายๆๆ”
เอมิกาทำเหมือนรังเกียจจูบของเคนสุดๆ เช็ดปากอย่างแรง
ขณะเดียวกัน ประตูห้องพักคอนโดหรูของชาช่าถูกเปิดออก ชาช่าดึงเคนเข้ามาอย่างยั่วยวนแล้วปิดประตู
ชาช่ายื่นหน้าให้เคน “ที่นี่ไม่มีปาปาราซซี่”
เคนมองชาช่าด้วยสายตาเจ้าชู้ ก้มลงจะจูบแล้วชะงัก นึกถึงตอนเขายื่นหน้าไปจุ๊บปากเอม เขาและเธอมองหน้ากัน ต่างคนต่างอึ้ง รู้สึกพิเศษอย่างบอกไม่ถูก
เคนออกจากความคิด หมดอารมณ์สวีท ตะโกนอย่างหงุดหงิด
“โธ่โว้ย”
ชาช่าตกใจมาก “ช่าทำอะไรไม่ถูกใจเหรอคะ”
“ปละ เปล่าครับ ผมเพิ่งนึกได้ว่าพรุ่งนี้มีงานเช้าเลยต้องรีบกลับน่ะครับ”
เคนมองสงสารหอมแก้มชาช่าไปฟอด ชาช่ายิ้มออก
“เจอกันพรุ่งนี้นะครับ”
เคนออกห้องไป ชาช่าถอนหายใจอย่างเสียดาย
เคนเดินหงุดหงิดมาตามโถงทางเดิน
“ทำไมหน้ายัยนั่นต้องคอยมาทำให้หมดอารมณ์ด้วยวะ” หนุ่มจอมกะล่อนขยี้หัวตัวเองอย่างโมโห “ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจ”
วันรุ่งขึ้น ตู้อาบน้ำ อ่างอาบน้ำ และอ่างล้างหน้า รุ่นใหม่สวยงามวางโชว์หลายจุด บนเวทีของห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมหรู
มุมหนึ่งมีอาหารบุฟเฟต์หรูหราสำหรับแขก ทีมงานออแกไนซ์ของเคน กำลังสาละวน เซ็ตเวที เซ็ตเครื่องเสียงอย่างขันแข็ง
ป้อง แดน แต่งตัวเนี้ยบ แต่นั่งหลับอ้าปากหวออย่างหมดสภาพอยู่ข้างเวที ลูกน้องลากตู้ลำโพงมาตั้งข้างๆ ป้อง แดน
เคนพยักหน้าให้คอนโทรล เปิดเสียงเพลงดังลั่น ป้อง กะ แดน ลุกพรวด สะดุ้งโหยง
“เฮ้ยยยย”
เคน กะ ทีมงานหัวเราะลั่น ป้อง กะ แดน มองเคนโกรธๆ ทีเล่นทีจริง
“ไอ้เฮีย ถ้าพวกกูหัวใจวายตายไปจะทำยังไง”
“ทำศพ” เคนบอกด้วยสีหน้าจริงจัง
“พวกมึงก็รู้ว่างานนี้กูพลาดไม่ได้” เขาตวาดลั่น “ทำไมถึงอยู่สภาพนี้ตรงนี้”
ป้อง กะแดนจ๋อยมองเคนอย่างรู้สึกผิด
“ก็เมื่อคืนพี่แดนอะดิจัดหนักทั้งสุรานารี ผมงี้ชวนกลับก็ไม่กลับ อยู่กันยันเช้า”
แดนตบหัวป้อง “นี่ ให้เลี้ยงแล้วยังโยนขี้”
“ไปเลย พวกมึงรีบไปปรับปรุงสารรูปให้ดีแล้วมาสแตนบายเลย เดี๋ยวลูกค้ามาแขกมาเห็นสภาพเจ้าของบริษัทเยินกลิ่นเหล้าหึ่ง งานหน้าเค้าจะไม่จ้าง กูจะลงไปรับคุณพราว”
เคนเดินออกไป
“ปลุกขึ้นมาก็สั่งๆๆ แล้วก็จากไป” ป้องบ่น
“แล้วต้องทำตามที่มันสั่งมั้ย” แดนว่าหน้าเจ้าเล่ห์
“ไม่ทำตามคำสั่งหุ้นใหญ่เดี๋ยวเค้าถอนหุ้นพวกเราก็ซวยดิ ไป ผมพาไปปรับปรุงสารรูป”
ป้อง กอดคอแดนเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี
เคนเดินมาจากทางหนึ่งของล็อบบี เห็นเอมในชุดสวยงามทันสมัย ดูดีมาก กำลังเดินเข้าประตูมา
“เจอกันอีกแล้ว เนื้อคู่ชัวร์ วันนี้ต้องได้เบอร์”
เคนจะเดินไปหาเอม พราวที่นั่งรออยู่มองเคนหมั่นไส้ มองเอมอย่างไม่พอใจแล้วลุกพรวดออกไปอย่างรวดเร็ว
เอมไม่รู้ว่าเคนเดินมาหาจะเดินไปขึ้นลิฟต์ พราวทำทีเดินสวนมาแล้วแกล้งชนเอมอย่างแรง
“ว้าย”
เอมจะล้มอยู่รอมร่อ แต่เคนรีบเข้ามาช้อนรับตัวไว้ได้ก่อน
เอมมองใบหน้าอันหล่อเหลาของเคนอึ้งๆ รู้สึกหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก
“นาย”
เคนยิ้มหล่อกวนประสาท “ใช่ ผมเอง”
“พยุงฉันขึ้นไปสิ มองอะไรอยู่เล่า”
“มองปาก เอ้ย ไม่ใช่”
พราวหมั่นไส้ มาดึงเอมออกจากอ้อมแขนของเคน
“อย่าสำออยนักเลย”
เอมงงอยู่ๆ โดนด่า “สำออย”
“แค่บังเอิญโดนฉันชนเบาๆ ทำเป็นล้มใส่แฟนฉัน ไม่เรียกสำออยแล้ว จะให้เรียกว่าอะไร”
เอมงง “แฟนคุณ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
เคนเสียวสันหลังวาบ กลัวเอมพูดถึงชาช่ารีบตัดบท
“ผมขอโทษ แทนคุณพราวด้วยนะครับ” เขาหันมาทางพราว “ไปกันเถอะ”
พราวมองเคนอย่างเกรงใจ แต่ไม่วายหันมามองค้อนเอมอย่างไม่พอใจอีกครั้ง แล้วเกาะแขนเคนอย่างเป็นเจ้าของ พาเดินออกไป
เอมมองเคนอย่างรังเกียจ
“กลางคืนคนกลางวันคน หลอกผู้หญิงไปทั่ว นายนี่มันเลวได้โล่จริงๆ”
หน้าห้องจัดเลี้ยง มีโปสเตอร์รูปชาช่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเครื่องสุขภัณฑ์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ แขกเริ่มทยอยเข้างานมา
เคนเดินมากับพราว ชายหนุ่มยิ้มมีความสุขที่ได้เจอเอมโดยไม่คาดฝัน
พราวมองเคนไม่พอใจ “รู้จักผู้หญิงคนนั้นเหรอคะ”
เคนรีบตอบ “ไม่รู้จักครับ”
“แล้วทำไมคุณต้องขอโทษมันด้วย”
เคนยิ้มหวาน “คุณก็รู้ว่าผมเป็นมิตรกับทุกคน ไม่ชอบมีเรื่อง ไม่อยากให้ คุณมู้ดดี้ไปมากกว่านี้ด้วย ผมอยากให้คุณมีแต่ความสุข”
“ขอบคุณนะคะ”
พราว กะ เคน จ้องมองกันด้วยแววตาหวานฉ่ำ
เอมเดินมาเห็นซีนหวานนี้พอดี ยิ่งเซ็งหนัก
“มางานเดียวกันด้วย ซวยจริงๆ” สายตาของเอมหันไปเห็นรูปโปสเตอร์ชาช่าเข้า เธอพูดกับภาพว่า
“เพราะคุณยอมไงเค้าถึงกล้าควงสาวอื่นคนมางานเดียวกับคุณ
คุณเนื้ออ่อนเดินเข้ามามองลูกสาวยิ้มปลื้มในความงดงาม
“สวยสง่า สมกับที่เป็นลูกสาวคุณนายเนื้ออ่อน ไป แม่จะพาไปกราบคุณเพ็ญ”
เอมเดินเข้างานไปกับเนื้ออ่อน แต่ตายังมองเคนอย่างรังเกียจสุดๆ
บริกรถือถาดเครื่องดื่มผ่านมาเคนหยิบเครื่องดื่มให้พราวอย่างเอาใจ
“ว้อดก้ามะนาวของโปรดคุณ งานนี้ผมสั่งเพิ่มเพื่อคุณโดยเฉพาะ”
พราวยิ้มหวานฟินสุดสุข
เสียงไลน์มือถือเคนดังขึ้น เคนหยิบมาอ่านเห็นข้อความจากเจียด “ของพร้อมแล้วครับนาย”
“โดนตามตัวไปทำงานแล้ว คุณเดินเล่นก่อนนะครับ ผมจะรีบมาให้เร็วที่สุด” เขาส่งสายตาเจ้าชู้ออดอ้อน “คิดถึง”
เคนเดินออกไป พราวมองตามอย่างหลงใหล
เจียดในชุดทักซิโด้ ดูไม่ออกว่าเป็นคนขับรถ ถือดอกไม้ช่อใหญ่ยื่นไปข้างหน้า
“สำหรับคุณครับ”
เคนมองหมั่นไส้ “ซื้อให้แฟนเหรอ”
“เออ” เจียดเคลิ้ม พอหันมาเห็นเคนแล้วสะดุ้งตกใจยิ้มแหยๆ “อุ้ย นาย กำลังมโน ว่าเป็นพระเอกมอบดอกไม้ให้นางเอกเลยเผลอตัวพูดจาไม่เพราะไปนี้ด” คนรถกะล่อนยื่นดอกไม้ให้ “นี่ครับที่นายสั่งไว้”
เคนรับช่อดอกไม้มาจากเจียด แล้วหยิบมือถือมาส่งไลน์หาใครคนหนึ่ง
ในห้องแต่งตัวชาช่านั่งเล่นอินสตาแกรม เสียงไลน์ดังขึ้น ชาช่ากดอ่านยิ้มดีใจรีบวิ่งไปหาแจ๊ด หญิงในร่างชาย ผู้จัดการส่วนตัวที่นั่งเล่นเฟสอยู่
“พี่แจ๊ดๆ”
แจ๊ดเงยหน้ามา ชาช่าอ้าปากพ่นลมใส่
“ได้กลิ่นไรปะ”
“เปปเปอร์มิ้น จู่ๆ ให้พี่พิสูจน์กลิ่นปากทำไมคะ” แจ๊ดงง
“คุณเคนให้ออกไปหา” ชาช่าว่า
“จับให้อยู่หมัดเลยนะคนเนี้ย”
ชาช่าพยักหน้าเดินออกไปอย่างมีความสุข
คุณณรงค์ กับ คุณเพ็ญ พ่อและน้าของเคนยืนสวยหล่ออยู่มุมหนึ่งหน้าห้องจัดเลี้ยง เพ็ญคอยมองไปที่ทางเดินอย่างใจจดใจจ่อ ณรงค์มองท่าทีของภริยาแล้วยิ้มขำ
“ตั้งหน้าตั้งตารอว่าที่หลานสะใภ้ไม่สนใจพี่เลยนะ”
“เพ็ญอยากให้หนูเอมเจอตาเคนเร็วๆ นี่คะ”
“พี่ว่าก่อนจับคู่ให้หลานมาเป็นคู่กับพ่อหลานก่อนดีกว่า” ณรงค์บอก
เพ็ญยิ้มอ่อนโยนมองณรงค์ “เพ็ญบอกรอบที่พันแล้วนะคะว่านับถือพี่รงค์เหมือนพี่ชาย”
“แต่พี่จุดธูปบอกคุณรินแล้วว่า ต้องเอาน้องเมียมาเป็นเมียแทนคุณรินให้ได้ ยังไงพี่ก็จะพยายามต่อไป”
“ยังไงเพ็ญก็ไม่ใจอ่อน” เพ็ญหันไปเห็นเอมกับเนื้ออ่อนเดินเข้ามาพอดี “คุณเนื้ออ่อนกับหนูเอมมาแล้ว”
ณรงค์มองเอมอย่างพิจารณา
“สวย สง่า กริยามีสกุล พี่ไม่แปลกใจเลยที่คุณจะถูกชะตามากกว่าผู้หญิงอื่นที่ตาเคนจีบๆ อยู่”
เนื้ออ่อน และ เอมเดินเข้ามาหา
เอมไหว้ณรงค์ และเพ็ญอย่างชดช้อม ทั้ง ณรงค์ และ เพ็ญรับไหว้ มองเอมแล้วยิ้มอย่างพึงพอใจ
“ขอบคุณนะคะที่ให้เกียรติมาร่วมงาน”
“คุณเพ็ญเชิญมาดู สินค้ารุ่นพิเศษทั้งทีจะไม่มาได้ยังไงละคะ” เนื้ออ่อนพูดมีนัย
“รอตรงนี้นะคะฉันไปเอามาให้ดู” เพ็ญหันมาทางณรงค์ “ไปค่ะคุณพี่”
ณรงค์ และ เพ็ญเดินออกไปช่วยกันมองหาเคน
“สินค้ารุ่นพิเศษอะไรเหรอคะ” เอมแปลกใจ
“เดี๋ยวก็รู้จ้ะ” เนื้ออ่อนว่า
“เอมขอไปห้องน้ำก่อนนะคะ”
เอมเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เนื้ออ่อนร้องตามหลังไป “รอคุณเพ็ญมาก่อนไม่ได้รึไง...รีบไปรีบมานะยัยเอม”
ด้านเคนถือช่อดอกไม้เดินมาหน้าหยุดที่ห้องแต่งตัวของโรงแรม ชาช่าเปิดประตูออกมา พอเห็นเคนก็ชะงัก รีบโพสท่าสวยงามยืนพิงประตู เคนยิ้มทักพลางยื่นช่อดอกไม้ให้
“แวะมาส่งกำลังใจให้ก่อนงานเริ่มครับ”
“ที่ไลน์บอกว่ามีเรื่องด่วนให้รีบออกมาหา คุณหลอกชาช่าเหรอคะ”
“อยากเซอร์ไพรส์น่ะครับ”
“ขอบคุณค่ะ” ชาช่ารับช่อดอกไม้ หล่อนนึกสนุกอยากยั่วเขา “อุ๊ย อะไรเข้าตาก็ไม่รู้ช่วยดูให้หน่อยสิคะ”
พร้อมกับว่าชาช่ายื่นหน้าเข้าไปใกล้หลับตาพริ้มเหมือนรอให้เคนจูบ
เคนมองรู้ทันยิ้มเจ้าชู้กรุ้มกริ่ม แต่ขณะจะจูบชาช่า เขากลับนึกถึงตอนยื่นหน้าไปจูบปากเอมโดยบังเอิญ สองคนมองหน้ากันต่างคนต่างอึ้ง รู้สึกพิเศษอย่างบอกไม่ถูก
เคนดึงความคิดตัวเองกลับมา มองชาช่าอึ้งๆ
ระหว่างนี้ เอมเดินผ่านมาพอดี คิดๆ แล้วเซลฟี่เป็นจังหวะที่เคนหอมแก้มชาช่าพอดี
เอมจะส่งรูปเข้าไลน์กรุ๊ปแล้วชะงักเมื่อเห็นเคน ชาช่าอยู่ด้านหลังก็มองอย่างตกใจหันไปดูเห็นเคนหอมชาช่า แต่มุมทำให้เหมือนเคนจูบชาช่าอยู่
“ควงเข้างานคนแต่แอบมาจูบกับอีกคน นายนี่มันเลวยิ่งกว่าเลว ทำไมต้องมาเห็นช็อตเด็ดให้ซวยลูกกะตาอย่างนี้ด้วยนะ”
เอมเดินหงุดหงิดออกไป
เคนหันมาเห็นเอมพอดี รีบออกตัวกับชาช่าที่ยังยืนงงอยู่
“ผมไปทำงานก่อนนะครับ”
เคนเดินออกไปอย่างรีบร้อน ชาช่าพ่นลมใส่มือเช็คกลิ่นปากท่าทีงงๆ
“ก็หอมนี่ สองวันนี้ทำไมคุณเคนดูแปลกๆ”
เอมเดินหนีมาตามทาง เคนวิ่งตามมาจนทันดักหน้าเธอไว้
“เมื่อกี๊ยังไม่มีโอกาสได้ทักทายคุณเลย สวัสดีครับ”
เอมมองหมั่นไส้เคน ทำท่าจะเดินหนีไป
“เรื่องมันผ่านไปตั้งหลายชั่วโมงแล้ว หายโกรธผมได้แล้วคุณ”
“เป็นเดือนเป็นปี ผู้หญิงก็ไม่มีวันหายโกรธคนที่ลวนลามเค้าได้หรอก”
“บอกแล้วว่าไม่ได้เจตนาลวนลาม”
“งั้นแบบนี้ก็เรียกว่าไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคุณเหมือนกัน”
ขาดคำเอมตบหน้าเคนฉาดใหญ่ เคนมองหมั่นไส้ แล้วดึงร่างเอมเข้ามาจูบปากบดขยี้ปากอย่างสะใจ
เอมคาดไม่ถึง อึ้ง ตกใจสุดขีด เคนผละออกบอกว่า
“นี่...ลวนลามเค้าทำกันอย่างนี้ หวังว่าจะแยกแยะได้แล้วนะ ว่าเจตนากับไม่เจตนามันต่างกันยังไง”
เคนหัวเราะสะใจแล้วเดินจากไป เอมมองตามอย่างโกรธสุดขีด
“นายเคน ไอ้คนชั่ว ไอ้คนสารเลว ไอ้...” สาวเจ้าแค้นจนคิดคำด่าไม่ออก “นายต้องตกนรกหมกไหม้”
เอมิกาคิดบางอย่างได้ เปิดรูปในมือถือขึ้นดู แล้วยิ้มร้ายออกมาเต็มใบหน้างามๆ นั้น
“นายจะต้องได้รับกรรมอย่างสาสม”
อ่านต่อตอนที่ 2