"อาโป" ทำการบ้านหนักเล่น “ไข่มุกมังกรไฟ”
ฝึกจริง "ทีมสยบไพรี"
"แดนไท" คือ มังกรหนุ่มห้าว ตำรวจน้ำดีที่อุทิศตัวเองเพื่อล้มล้างขบวนการค้ายา หน้าฉากฝังตัวเป็นศิลปินโลกส่วนตัวสูง ยอมสละทุกอย่างแม้กระทั่งหัวใจ รักเจนเนตร ต่อสู้กับพ่อค้ายาทุกรูปแบบ บทบาทนี้ แสดงโดย "อาโป" ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์
@ บทบาทที่ได้รับในเรื่องนี้
“แดนไทครับ แดนไทเป็นตัวละครที่มีแบล็คกราวน์ในชีวิตที่ดาร์กมากๆ เป็นตำรวจที่น้องสาวฆ่าตัวตายเพราะยาเสพติด เมื่อมาเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดก็อุทิศตัวเองเพื่อทำลายขบวนการผู้ค้ารายใหญ่ให้ได้ ก็จะมีเพื่อนร่วมทีมเป็น พี่แจ็ค (จักรพันธ์ จันโอ) พี่โบว์ (เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ ) แล้วก็พี่บอย (ภาสกร บุญวรเมธี) เป็นเพื่อนร่วมงานที่ขัดกันตลอด ภายใต้การดูแลของอาเชาว์ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) ที่เป็นผู้การครับ
อีกฝ่ายก็คือฝ่ายของเรย์ (คณิน ชอบประดิถ) กับเจนเนตร (ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด) ที่เราต้องเข้าไปสืบแล้วก็อาหลางคือพี่เดี่ยว (สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล) เรียกว่าเรื่องนี้มีตัวละครแวดล้อมเยอะมาก แดนไทเป็นตำรวจสายสืบที่ต้องเป็นปลอมตัวเป็นศิลปิน ตลก กะล่อน มันเป็นขั้วตรงข้ามกันบทแดนไท ยากมากตรงความรู้สึก มันลึกแล้วก็ดาร์ก มีความเป็นคนสูงมาก ฉะนั้น ทุกอย่างมันต้องกลม อ่านบทก็อ่านสักสองสามรอบ ก็ยังไม่เก็ท ด้วยความที่มันเป็นตัวหนังสือ เราก็ต้องไปหาข้อมูลว่าอาชีพตำรวจเค้าเป็นยังไง ศึกษาจากคนที่เป็นตำรวจ ไปนั่งคุยเรื่องการทำงาน คุยเรื่องประสบการณ์ว่ากว่าเค้าจะมาเป็นตำรวจทุกวันนี้ เค้าต้องฝึกผ่านอะไรมาบ้าง ซึ่งมันก็ตรงกับบทที่หาข้อมูลมาแล้วว่า ตำรวจที่ทำงานสืบ ทำงานทางลับ ต้องเสี่ยงมากแค่ไหน ถ้าเราเกิดถูกจับได้ เราต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เรารอดจากการถูกยิง ให้เค้าเชื่อใจเรา ซื้อใจเค้าให้ได้ ณ ตอนนั้น แล้วตัวแดนไทก็ทำอย่างนั้นกับเรื่องนี้ ซึ่งคนดูก็จะได้เห็นในความบ้าๆ บอๆ แดนไทจะมีความเป็นคน มีความจริงจัง ทุ่มเททำให้เรารู้ว่าตำรวจเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่น่าเคารพเพราะว่าตำรวจทำทุกอย่างเพื่อประชาชนจริงๆ เราไม่เคยรู้เลยว่าเค้าถูกฝึกหนักมาขนาดนี้ เพราะฉะนั้น การเตรียมตัวของเราที่จะมารับบทนี้ก็ต้องหนักมากเหมือนกันครับ
ไข่มุกมังกรไฟ เป็นละครที่ทำขึ้นมาเพื่อให้เห็นภาพจุดๆ หนึ่งที่เป็นปัญหาในสังคมชัดขึ้น แล้วก็เป็นสิ่งเตือนใจทุกๆ คนว่า ว่าอะไรคือสิ่งดี อะไรคือสิ่งไม่ดี อยากให้เห็นความสำคัญของตำรวจ ตัวผมเองมารับบทเป็นแดนไท ได้เห็นความเหนื่อยของตำรวจ ได้ไปฝึกกับทีมสยบไพรี ซึ่งเป็นทีมจับกุมยาเสพติดรายใหญ่รายสำคัญจริงๆ”
@ ถือเป็นตัวละครที่มีสีสันมาก
“ยอมรับเลยว่า เป็นบทที่โต มีสีสัน มีทั้งเลิฟซีน มีทั้งดราม่า มีทั้งคอเมดี้ มีทั้งแอ็กชั่น เป็นละครเรื่องแรกที่ผมเล่นโรแมนติกเยอะขนาดนี้ครับ เป็นการจูบในละครครั้งแรกของผม ก็อยากให้ติดตามว่าจะละมุนแค่ไหน (หัวเราะ) มีคิสซีน แล้วก็เลิฟซีนแบบต่างๆ เป็นผู้ชายที่มีความรักกับผู้หญิงที่ไม่ควรรัก เราเคยคิดว่าตำรวจคงไม่ใจอ่อน คงแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว แต่พอไปคุยจริงๆ ตำรวจก็เป็นคน ทุกอย่างมันไหลไปตามความรู้สึกได้ มันก็เลยกลับมาที่ตัวละครแดนไทว่า หลงรักเจนเนตรได้ เพราะแดนไทมีรัก โลภ โกรธ หลง ซึ่งเรื่องนี้จะมีความเป็นคนสูง รักมากก็โกรธมาก มีความเห็นแก่ตัว อยากให้เค้าเป็นของเรา อยากให้เค้าออกจากการค้ายา”
@ ทุกซีนถือว่าสุดๆ มั้ย
“ดราม่าซีนก็สุดเหมือนกัน เป็นความเศร้าที่ผสมความโกรธ โกรธจนน้ำตาไหล ซึ่งตัวผมไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกที่โกรธใครแล้วถึงกับตะโกนออกมา ไม่เคยรู้สึกขนาดนี้มาก่อน เหมือนเปิดอีกโลกของผมว่าผมก็สามารถทำมุมนี้ได้ขนาดนี้เลยเหรอ ส่วนคอเมดี้เล่นค่อนข้างยาก มันเป็นการรับส่งกันหมดเลย คือเราไม่สามารถตีปิงปองแล้วให้ลูกปิงปองกลับมาได้ ถ้าไม่มีใครตีกลับมา มันไม่สามารถทำได้ ซึ่งทุกคนก็รับส่งกันได้ดี มันก็เลยทำให้มีความสนุกครับ
แอ็กชั่น เรื่องนี้บู๊เต็มที่ เล่นเรื่องนี้ได้กำไรชีวิตจริงๆ คือได้สัมผัสหมดทุกด้านของคน เราได้หัวเราะ ได้รัก ได้โกรธ ได้เศร้า ได้เกลียดคนคนนึงมากซึ่งมันก็เป็นความน่าสนใจของละครเรื่องนี้
ผมเป็นคนไม่ค่อยโกรธใคร เลยไม่เคยสัมผัสความรู้สึกต้องโกรธ แต่เราต้องมีประสบการณ์ในการแสดง ผมก็ต้องเรียนรู้จากอาตู่ อาตู่จะสอนในเรื่องของความเข้าใจสิ่งต่างๆ พอมันกลายเป็นความคิด มันลงไปเป็นความรู้สึก อาตู่พาเราไปถึงจุดนั้น แล้วเราเลยรู้สึก เพราะว่าผมก็ยังเด็กมากที่จะจินตนาการอะไรต่างๆ จากประสบการณ์ของผม ขอบคุณอาตู่ครับที่ทำให้ผมรู้สึกกับสิ่งต่างๆ จนแสดงได้ออกมาจริงๆ ต้องขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ นักแสดงเรื่องนี้ด้วย อย่างในฉากเราต้องโกรธก่อนเข้าฉาก เรามีความโกรธกำมือนึง พอเข้าฉากกับพี่เดี่ยว พี่เพื่อน กับวาววา หรือตัวละครแวดล้อมอื่นๆ ความโกรธมันมากขึ้นเป็นสองกำมือ มันเป็นการรับส่งขึ้นมา โมเมนต์นั้นคือ ความรู้สึกมันมาอย่างนั้นเอง เราไม่เคยสัมผัสมาก่อน”
@ มีฉากยากหรือประทับใจเป็นพิเศษมั้ย
“ฉากยากคือฉากที่เรย์ เจนเนตร แดนไท สามคนรู้ความจริงว่า ต่างคนต่างทำอาชีพอะไร เป็นใครกันแน่ ผมไม่เคยโดนยิง ผมไม่เคยถูกแขวน ไม่เคยถูกทรมานนานขนาดนั้นแล้วก็เสียคนรักไปอีก ทรมานทั้งกายและใจไปพร้อมๆ กัน เป็นแอ็กชั่นและดราม่าในซีนเดียวกัน มันยาก แต่ทุกคนก็พากันไปได้
ผมประทับใจทุกฉากครับ เพราะไม่เคยเล่นเรื่องไหนที่ยากขนาดนี้มาก่อน แล้วไม่เคยเล่นเรื่องไหนที่ได้ท้าทายศักยภาพตัวเองได้มากขนาดนี้ ทั้งด้านความรู้สึก ด้านกายภาพเ เราไม่เคยคิดว่าเราจะทำได้ขนาดนี้ ถึงจะเหนื่อยขนาดไหน แต่เราเห็นคนอื่นเหนื่อยกว่า เราเห็นผู้กำกับเหนื่อย เราเห็นนักแสดงคนอื่นเหนื่อย เราก็รู้สึกว่าเราทำได้ต่อ เราไม่เคยรู้สึกว่าขีดจำกัดในร่างกายมันจะได้ขนาดนี้
ก็มีฉากใหญ่ ฉากสำคัญ ถ่ายไป 24 ชั่วโมง ทำงานกันไม่หยุด มันคือการที่ผมแบกชุดคอมมานโดอยู่บนตัวผมยี่สิบกิโลไว้ทั้งวันตั้งแต่ตีห้าจนถึงตีห้าอีกวัน 1 วันเต็มๆ ผมเห็นสิ่งทุกคนทำ เห็นขีดความสามารถที่ทุกคนมี เห็นกำลังใจ เห็นแรงกายแรงใจที่ทุกคนตั้งใจทำงานนี้ รู้สึกเลยว่ามันเป็นสิ่งที่น่าจดจำ เพราะไม่รู้ว่าจะมีงานไหนที่ได้ทำท้าทายความสามารถตัวเองขนาดนี้”
@ ประทับใจกับเพื่อนร่วมงานคนไหนเป็นพิเศษ
“วาววาเป็นเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจได้ สามารถพาเราไปถึงจุดที่ผู้กำกับอยากได้ อย่างบางฉากที่เรารู้สึกไม่มั่นใจ แต่พอมีวาววาก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น รู้สึกมั่นใจมากขึ้น ว่าเราจะพาไปถึงเป้าหมายของซีนได้ ส่วนพี่เพื่อน เรื่องนี้ต่างคนก็ต่างพัฒนาครับ พี่เพื่อนมีชั่วโมงบินมากกว่า มีอะไรเราก็จะคอยสังเกตเค้า คอยเก็บประสบการณ์จากเค้า เข้าฉากกับพี่เดี่ยวก็น่าสนใจมาก เพราะว่าผมไม่เคยเล่นเรื่องไหนที่เข้มข้นขนาดนี้มาก่อน เวลาอ่านบทมันก็อย่างนึง แต่การที่ได้ไปสัมผัสตัวละครนี้ มันก็เป็นอีกความรู้สึกหนึ่ง ขับเคลื่อนไปได้ถึงจุดที่เป็นความน่าสนใจของนักแสดงอีกอย่างหนึ่ง หรือเจอนักแสดงรุ่นพี่อย่าง พี่อั๋น พี่อู๋ เราก็คอยสังเกตเค้าครับ พี่ๆ เค้ามีประสบการณ์เยอะกว่า”
@ เจอพี่ๆ แกล้งในกองบ้างมั้ย
“ทุกคนในกองก็แกล้งผมหมดแหละ (หัวเราะ) ผมดูน่าแกล้งมั้ง ผมดูไม่สู้คนมั้ง (หัวเราะ) ผมก็ยอมๆ เค้าหมดครับ ไม่รู้ว่าจะแกล้งอะไรกลับ สมองส่วนนั้นผมทำงานไม่ทันจริงๆ แบบกับเค้าแกล้งมาแล้วเราก็ต้องหาวิธีแกล้งกลับ คิดไม่ทันจริงๆ ก็เออๆ ได้ๆ โอเคๆ ยอมๆ ยอมไป ทุกคนก็น่ารักครับ ในกอง ผมจะเป็นผู้นำในการเล่นเกมส์ครับ ผมเอาเกมส์มาเล่นในกอง แล้วทุกคนก็ติดกันงอมแงม (หัวเราะ)”
@ มีอะไรอยากฝากถึงผู้ชม
“ก็อยากฝากถึงวัยรุ่นด้วยกันว่า ในวัยเราคือวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ก็อยากให้ใช้ความนึกคิดให้มากขึ้น เวลาที่เราจะทำอะไรลงไป เราอยากลอง เราอยากได้ความสนุก เราอยากได้อะไร ขอให้คิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมาให้มากยิ่งขึ้น และอยากให้คิดนึกถึงหน้าคนที่เรารักมากยิ่งขึ้น รับผิดชอบต่อสิ่งที่เราทำ ถึงแม้ว่าคุณอยากลองยาเสพติด แต่มันก็เป็นความสนุกแค่ชั่วคราวเท่านั้นเอง ผลที่ตามมาคือมันเสียทั้งสุขภาพ เสียเงิน เสียความรู้สึก เสียคนรัก เสียครอบครัว ธรรมะช่วยแก้ปัญหายาเสพติดได้ด้วยนะครับ เพราะพอเรามีสติ เราก็จะรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ รู้ว่าอะไรถูก อะไรควร เวลาเราทำอะไร เราก็รู้ รู้ตัวก่อน เราไม่ได้เอา ความสนุก มาเป็นสิ่งนำหน้า ฝากละครเรื่องไข่มุกมังกรไฟด้วยนะครับ อยากให้ทุกคนสนุกกับเนื้อเรื่องและการแสดงของนักแสดงทุกคนครับ”
ติดตามชม “ไข่มุกมังกรไฟ” ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 33HD