DIAMOND EYESตา-สัมผัส-ผี ตอนที่ 14
ตอน “Serial Killer 2”
สถานเสริมความงามของนายแพทย์ดุสิตตั้งอยู่บนห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
พนักงานยืนอยู่ที่หน้าร้านแจกใบปลิวโฆษณาโปรโมชั่นทำศัลยกรรมให้กับนักเรียน/นักศึกษา
“ศัลยกรรมจากเกาหลีคะ ทำ1ฟรี1นะคะ”
เฌอแตมเดินผ่านมากับกลุ่มเพื่อนๆ
“ศัลยกรรมจากเกาหลีคะ ทำ1 ฟรี1 คะ ราคาเดียวคะ มาได้คะ”
เฌอแตมมองที่หน้าอกพนักงานสาว พร้อมกับสลับมามองที่หน้าอกตัวเอง
เอมิกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เก้าอี้ ตรงอาคารด้านล่างของโรงเรียนมัธยมนานาชาติ
“เอมิ นั่งอยู่นี่เอง ตามหาตั้งนาน”
“เฌอแตม”
เฌอแตมวิ่งเข้ามาหาพร้อมนั่งฃ้างเอมิ
“เนี่ย ว่าจะพาไปเสริมสวยซะหน่อย รู้ไหมว่าเป็นผู้หญิง...อย่าหยุดสวย”
“ นี่ พูดเรื่องอะไรเนี่ย”
“นี่ไง” เฌอแตมพูดพร้อมชูใบปลิวคลินิกแพทย์ดุสิตให้ดู “เราว่าเราจะไปทำจมูกเพิ่ม แล้วก็อัพไซส์หน้าอก แล้วก็อาจจะฉีดฟีลเลอร์นิดหน่อย จะได้เป็นที่หมายตาของหนุ่มๆในโรงเรียน”
“จะไปทำ ทำไมอะ ที่เป็นอยู่ก็ดีอยู่แล้วนี่”
“แต่ว่าตอนนี้ คลินิกหมอดุสิต พึ่งมาเปิดแถวนี้เอง เนี่ยตรงไปแล้วก็เลี้ยว ถึงเลย แล้วอีกอย่างตอนนี้มีโปรโมชั่น ทำ 1 แถม 1 ฟรีด้วย ว่าจะชวนเอมิไปด้วยอะ....ไปกันนะ”
“นี่ไม่กลัวคลินิกเถื่อนบ้างหรอ เดี๋ยวนี้คลินิกเถื่อนเปิดเยอะแยะ เลยถ้าไปทำแล้วเกิดเสียโฉมขึ้นมาละ” เอมิว่า
“ก็ถ้ากลัวเราโดนหลอกก็ไปเป็นเพื่อนเราดิ”
เอมิ ส่ายหัว
“นะ..นะ...ไปด้วยกันนะ”
เอมิ กับ เฌอแตม กำลังนั่งดื่มน้ำอยู่โต๊ะในอาคารสรรพสินค้า ใกล้สถานเสริมความงาม
“ เอ้า..มาทำไรกันที่นี่ ห๊ะ 2 สาว”
เฌอแตมบอก “พี่ซินดูนี่ดิ”
เฌอแตม ส่งใบปลิวโฆษณาโปรโมชั่นศัลยกรรมของนายแพทย์ดุสิตให้ซินดู
“ เฮ้ย..อย่าบอกนะว่า พวกเธอสองคน ไปจะเสริม เอ่อ...อึ๋มกันอะ ว้าว..”
“ ทะลึ่ง” เอมิโวย
“พี่ซินมาก็ดีเลย เรา สองคนจะไปปรึกษาแพทย์หน่อย แตมอยากทำจมูก”
“ แล้ว เอมิล่ะ อยากทำอะไร โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือว่าเสริม... โห้ย แต่ถ้าเอมินะ ... คงต้องทำหมดแคตตาล็อคเลยมั้ง”
เอมิมองหน้าซิน อย่างเคืองๆ
“ไม่ขำเลยหรอ” ชินถาม
“ตลกล่ะ” เอมิว่า
“เอมิ เขามาเป็นเพื่อนแตม เขากลัวว่าแตมจะโดนหลอก เขากลัวว่าที่นี่จะเป็นคลินิกเถื่อน”
“ งั้นพี่เข้าไปด้วยแล้วกัน เข้าไปหลายๆคน ไม่มีใครกล้าหลอกพวกเราหรอก”
เอมิกับเฌอแตมพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดนี้
ณ สถานเสริมความงามนายแพทย์ดุสิต
พนักงานบอกวุฒิ
“พี่วุฒิ พี่วุฒิคะ หนูอยากจะฝากเคาน์เตอร์แป๊บนึงได้ไหม หนูว่าจะออกไปทำธุระแป๊บเดียว”
วุฒิพยักหน้า
“ พี่จะเอาอะไรไหม”
“ไม่อ่ะ...ไปเหอะ”
“ โอเค..งั้นฝากแป๊ปนึงนะคะ”
เฌอแตม เอมิ ซิน เดินเข้ามาในร้านสถานเสริมความงาม เจอวุฒิที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์พอดี
“สวัสดีคะคุณหมอ”
“มาทำอะไรหรอครับ”
“คือ..หนูจะมาปรึกษาเรื่องทำจมูก เหลาคางอะไรพวกนี้อะคะ”
“คือเราแค่จะมาถามหมอก่อนเฉยๆคะ” เอมิบอก
“ งั้น...เชิญนั่งด้านนี้ก่อนครับ”
เฌอแตม เอมิ ซิน ตามวุฒิเข้าไปในห้อง
“งั้นช่วยกรอกรายละเอียดแบบฟอร์มก่อนะครับ”
วุฒิยื่นเอกสารให้เฌอแตมกรอก พร้อมถาม
“ อ้าว..แล้วสองคนนี้ไม่ทำหรอครับ”
“ อ๋อ..ผมคิดว่าผมหล่ออยู่แล้วนะครับ ส่วนเอมิ..พอดีว่าพ่อเขาเป็นตำรวจ”
“ เกี่ยวอะไรเนี่ย” เอมิหันไปพูดเบาๆกับซิน
“พ่อเป็นตำรวจหรอครับ อยู่ สน.ไหน แล้วชื่ออะไร เผื่อหมอจะรู้จัก”
“ลุงเพชร พ่อของเอมิ อยู่กองปราบปรามพิเศษคะ คุณหมอรู้จักไหมคะ หน่วย DEI นะคะ” เฌอแตมบอก
“ ผู้กองเพชร ภูมิไท นายตำรวจที่มีดวงตาพิเศษนะหรอครับ”
“ รู้จักผู้กองด้วยหรอครับ” ชินถาม
“อ๋อ..เห็นในข่าวแล้วก็ตามหน้าหนังสือพิมพ์นะครับ....เขียนเสร็จหรือยังครับ”
“เสร็จเรียบร้อยแล้วคะ” เฌอแตมบอก
นอกร้านสถานเสริมความงาม เอมิถามชิน
“นี่...ทำไมเมื้อกี้อยู่ๆนายถึงพูดเรื่องพ่อฉันขึ้นมา”
“ พี่ยังไม่ค่อยแน่ใจไง ว่าไอ้หมอนั่น จะเป็นหมอจริงหรือเปล่า”
เฌอแตมบอก “ ถ้าเขาเป็นหมอเถื่อน..เขาก็จะไม่กล้าหลอกพวกเราใช่ปะคะ”
“คิดมากไปปะเนี่ย” เอมิถาม
“กันไว้ดีกว่าแก้ปะ”
เอมิดูนาฬิกา
“เฮ้ย..นี่มันใกล้เวลาที่พ่อจะมารับแล้วเนี่ย”
“วันนี้อาก็บอกว่าจะมารับเราเหมือนกันอะ...ไปกันเหอะ”
เอมิ กับเฌอแตม รีบวิ่งออกไป
“ อ้าว”
กองพิสูจน์หลักฐานหน่วย DEI ภาพถ่ายของเหยื่อแต่ละรายถูกนำมาวางตรงหน้าหมอเนตรดาว
“มองจากหลักฐานทางคดีที่ผู้กองฯบอก สภาพบาดแผลของเหยื่อเหมือนฆาตกรมีความรู้ด้านการผ่าตัดสรีระมนุษย์”
“ไม่รู้มันมีแรงจูงใจอะไร ถึงต้องฆ่าคนด้วยวิธีการที่โหดร้ายแบบนี้” ผู้กองเพชรว่า
“คงไม่ใช่คนที่มีสภาพจิตใจปกติ”
“คนบ้าหรอ”
ก้อยพยักหน้าช้าๆ
เพชรท่าทางเครียดๆ หันไปมองหน้ากับหมอก้อย
แอ๊บบี้เคาะประตูและเข้ามาในห้อง เห็นหมอก้อยกับผู้กองเพชรอยู่ด้วยกัน ก็หน้าเสีย
“ผู้กองคะ”
“ว่าไงแอ๊บบี้”
“เจ๊ดามารอพบผู้กองฯค่ะ บอกมีข้อมูลเกี่ยวกับฆาตกรจะมาบอก”
“งั้นผมขอตัวไปก่อนนะครับ ขอบคุณครับ”
ผู้กองเพชรบอกหมอก้อย
“คะ”
เพชรเดินออกไป ก้อยกับแอ๊บบี้มองหน้ากัน
“งั้นเดี๋ยวฉันไปก่อนนะ”
หมอก้อยเดินออกจากไป แอ๊บบี้วิ่งตาม
“ ก้อย”
“อ้าว...แอ๊บบี้”
“ผู้กองใช้แกมาทำอะไรที่นี่”
“ ก็ไม่มีอะไร...เขาแค่ให้ช่วยมาดูรูปเหยื่อที่โดนฆ่าตาย”
“ชวนมาดูรูปคนตาย หน้าที่ฉันเนี่ย..แล้วก่อนหน้านี้ไปทำอะไรกันมา”
“ ไปกินข้าว”
“ไปกินข้าว งานยุ่งขนาดนี้เนี่ย ยังจะมีเวลาชวนผู้หญิงกินข้าว”
“ แอ๊บบี้ ฉันรู้นะว่าเธออะ ชอบผู้กอง ....แต่ว่าผู้กองเขา”
“ ฉันเข้าใจ..เธอมันเป็นนางเอกนิ ส่วนฉันเป็นนางร้าย ที่จะต้องตบตีแย่งชิงผู้ชายคนเดียวกัน”
“ชีวิตจริงไม่ใช่ละครนะแอ๊บบี้”
“ถูก ชีวิตจริงไม่ใช่ละคร เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ยอมเป็นนางร้าย”
แอ๊บบี้ พูดจบแล้วเดินออกไป
เจ๊ดานั่งที่เก้าอี้ตรงหน้าผู้กองเพชรในห้องทำงาน สำนักงาน DEI
“ผู้กองฯรับปากฉันก่อนสิ ถ้าฉันให้ข้อมูลผู้กองต้องดูแลความปลอดภัยให้ฉัน แล้วก็กันตัวฉันไว้ในฐานะพยาน”
“ผมรับปาก บอกความจริงมาว่าเกิดอะไรขึ้น”
“เรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากที่ฉันไปทำศัลยกรรมใบหน้ากับหมอดุสิต”
ในอดีต .... วันหนึ่ง เมื่อหมอดุสิตถอดผ้าพันแผลออกมา เห็นใบหน้าเจ๊ดาเสียโฉม !
“ไอ้หมอเฮงซวยมันทำให้ฉันเสียโฉมจนหมดทางทำมาหากิน แถมยังถูกกระหรี่รุ่นน้อง แย่งลูกค้าประจำไปจนหมด”
และเมื่อเจ๊ดากลับมายืนเรียกแขก หลังไปทำศัลยกรรม เก๋ นัน จุ๋ม แป้ง เห็นก็พากันเข้ามาแซว
“แม่เจ้าโว้ย ดูสิใครมา” จุ๋มว่า
“สภาพนี้ยังกล้ามาทำงานอีกเหรอป้า” เก๋ถาม
นันบอก“ไปทำศัลยกรรมมา แต่เอ๊ะ..เขามีแต่ไปทำให้สวยไม่ใช่เหรอ แล้วนี่….555”
กลุ่มโสเภณีสาวๆพากันหัวเราะ เห็นเป็นเรื่องสนุกปาก เจ๊ดาเริ่มโกรธ
“อีนัน…นี่กูยังไม่ได้ล้างแค้นมึงเลยนะ ที่เอากูไปแฉในเฟชบุ๊กจนไอ้หมอบ้านั่นมันไม่รับผิดชอบชีวิตกู”
“แล้วจะทำไม คนอย่างมึงจะมีปัญญามาทำอะไรกู” นันท้าทาย
“งั้นมึงตาย”
เจ๊ดาพุ่งเข้าใส่นันเกิดการทะเลาะวิวาท กลายเป็นเรื่องสนุกของบรรดาโสเภณี
นันพลาดท่า คนอื่นๆเข้าไปช่วยรุมเจ๊ดา
ต่อมา เจ๊ดามองใบหน้าในกระจกเงาที่ห้องน้ำ ใบหน้าเธอมีบาดแผล ถูกตบถูกข่วนจนเละเลือดท่วม เธอมองกระจกเงาร้องไห้เสียใจ
มุมหนึ่ง บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เจ๊ดาในสภาพบอบช้ำเดินโซซัดโซเซมาตามทางเดิน เจอยอดกับสมุนขวางอยู่
“กลับมาทำงานได้แล้วนี่” ยอดว่า
ยอดแบมือเป็นเชิงขอเงิน
“ฉันยังไม่ได้แขกเลย ฉันไม่มีหรอกเงิน”
ยอดคว้ากระเป๋าสะพาย เจ๊ดามาเทๆ จนข้าวของเครื่องสำอางหล่นกระจายลงพื้น จนเจ๊ดาต้องรีบก้มลงไปเก็บของที่พื้น
“อย่านะ อย่า ก็บอกว่าฉันไม่มีไง”
“โธ่..อีกระจอก”
ยอดเตะเข้าที่ท้องเจ๊ดาจนตัวงอ ลงไปนอนกองกับพื้น ยอดกำลังจะซ้ำ
“เฮ้ย..หยุดนะ”
เจ๊ดา ยอดและสมุนหันไปมอง เห็นวุฒิเดินเข้ามา
เสียงเจ๊ดาเล่าบอกผู้กองเพชร “แต่แล้วก็มีสุภาพบุรุษรูปหล่อคนหนึ่งยื่นมือเข้ามาช่วย”
ยอดกับสมุนหันเป้าหมายมาที่วุฒิ วุฒิเก่งพอที่จะสู้แบบ 3 รุม 1 ได้
วุฒิอัดยอดกับสมุนกองกับพื้น
เจ๊ดาเล่าเรื่องราวของวุฒิให้เพชรฟังต่อเนื่อง
“เขาบอกฉันว่าเขาเป็นแพทย์ศัลยกรรม กำลังมีโครงการที่ได้เงินสนับสนุนจากเกาหลี อยากได้ผู้ช่วยเพิ่ม ถ้าโครงที่เขาทดลองประสบความสำเร็จ แล้วฉันอยากจะสวยแค่ไหนเขาก็จะทำให้ได้”
“เขาให้คุณทำอะไร”
“ให้ฉันหาอาสาสมัครเพื่อไปบริจาคอวัยวะค่ะ”
“ชิ้นส่วนมนุษย์”
เจ๊ดาพยักหน้ารับ
“เขาให้ฉันหาเหยื่อเพื่อให้ขึ้นรถไปกับเขา ได้ทั้งเงิน แถมยังได้แก้แค้นอีพวกนั้น ทำไมฉันจะไม่ทำ”
“แล้วมันเกี่ยวข้องกับนายแพทย์ดุสิตหายตัวไปด้วยหรือเปล่า”
“ฉันไม่รู้ ถ้าไอ้หมอนั่นมันจะตายๆไป ฉันก็ดีใจค่ะ”
“ทำไมคุณมาบอกข้อมูลนี้กับเรา”
“ฉันอยากช่วยพวกคุณจับตัวไอ้ฆาตกรให้ได้ เพื่อวิญญาณอีพวกนั้นจะให้อภัยฉัน”
“คุณมีแผนยังไง”
เจ๊ดามองหน้าเพชรเหมือนยังไม่แน่ใจในสิ่งที่จะบอก….
“ทางเดียวที่จะเข้าถึงตัวมันได้ คงต้องใช้เหยื่อล่อ”
เอมิเดินมาตามทางเดินเงียบๆ อยู่ๆก็มีใครคนหนึ่งเข้ามาจากด้านหลัง ใช้มือปิดปากแล้วดึงตัวเอมิไป
เอมิตกใจ พยายามดิ้นๆแล้วกระทืบเท้าคนที่จับตัวเธอ
“โอ้ย”
เอมิพลิกตัวแล้วหันกลับมาเตะที่หว่างขาของคนร้าย “เปรี้ยง”
ซินถึงกับหน้าเขียวตัวงอ
“อู๋ย”
“เฮ้ย..เดี๋ยวๆใจเย็นนี่พี่แสบเอง” แสนแสบบอก
“เฮ้ย…นาย”
ซินเหมือนจะยังจุก พูดอะไรไม่ออก…
มุมหนึ่งในโรงเรียนนานาชาติ ซินยังนั่งจุกที่หว่างขาอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่ง เอมิถือน้ำเข้ามาวางแล้วนั่งลงตรงหน้า
“สมน้ำหน้า เล่นกับใครไม่เล่น”
แสนแสบบอก “ก็แค่อยากจะรู้ ถ้าเจอสถานการณ์แบบที่ถูกภารโรงนั่นจับตัวไปอีก เอมิจะเอาตัวรอดได้หรือเปล่า”
“แล้ว..รู้หรือยัง”
“ รู้แล้วครับ” ชินบอกพยักหน้ารับช้าๆ
“แล้วนี่ พี่2คน มาทำอะไรกัน”
“อ๋อ..พี่แสบเขามีข้อมูลเกี่ยวกับนายแพทย์ดุสิต แพทย์ที่เราไปคุยด้วยเมื่อวาน”
แสนแสบหยิบข้อมูลอะไรบางอย่างออกมา
“เดี๋ยวนะ..แล้วทำไมพี่แสบมีข้อมูลพวกนี้ด้วยอะคะ...อย่าบอกนะว่าจะไปทำศัลยกรรม”
“ช่าย..พี่ว่าพี่จะไปเอาตาออกข้างหนึ่ง...เฮ้ย จะบ้าหรอ พอดีมันมีเรื่องเกี่ยวกับศัลยกรรมพวกนี้ พี่เลยไปสืบมา”
ซินบอก “เอมิดูในรูปนี่สิ หน้าตาก็ไม่เห็นจะเหมือนคนที่เราคุยด้วยเลย”
“สนใจเรื่องนี้ด้วยเหรอ”
“ต้องสนสิ เดี๋ยวนี้คลินิกเถื่อนเยอะแยะ เราไม่อยากให้เฌอแตมโดนหลอก หมอคนเมื่อวานก็ดูแปลกๆ เอมิอย่าพึ่งให้เฉอแตมไปทำอะไรที่นั่นนะ ขอเวลาหน่อย”
“คะ”
ซินทำหน้าตาทะเล้นๆใส่เอมิ
เฌอแตมเดินเข้ามา
“พี่ซินมาทำอะไรเนี่ย ว่าจะชวนไปเป็นเพื่อนหน่อย”
“จะไปไหน”
“ฉีดโบท็อก”
“พอเลย ทำไมไม่พอใจในสิ่งที่มีอยู่นะเฌอแตม”
เฌอแตมก็อยากมีคางเรียวแหลมวีเชฟเหมือนเอมินี่
“ก็กินให้มันน้อยๆหน่อยสิ”
ณ มุมภนนหนึ่ง ภายในรถ เพชรนั่งจับตาดูความเคลื่อนไหวอยู่กับเจ๊ดา
“จับตาดูแอ๊บบี้ไว้อย่าให้คลาดสายตา อย่าลืมว่ารถผู้ต้องสงสัยเป็นรถเก๋งสีดำ ติดฟิล์มดำสนิท”
ริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ตอนกลางคืน แอ๊บบี้แต่งตัวเป็นผู้หญิง สาริน ปลอมตัวเป็นวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างขับมาส่งแอ๊บบี้ และแฝงตัวอยู่ใกล้ๆ
“ระวังตัวด้วยนะคุณ” สารินบอก
“คุณก็ด้วย”
แอ๊บบี้เดินเข้าไปย่านผู้หญิงขายบริการ
แอ๊บบี้ปลอมตัวเป็นโสเภณีอยู่ เห็นใครเดินผ่านไปมาก็เรียก
“เที่ยวมั้ยคะพี่ เที่ยวไหม”
ชายชุดดำท่าทางแปลกๆเดินตรงเข้าไปหาแอ๊บบี้ แอ๊บบี้เห็นก็พยายามทำตัวเนียนๆ
“เที่ยวมั้ยคะพี่ เที่ยวมั้ย”
“ทะ ทะ เที่ยวครับ ว่าแต่เท่าไหร่จ๊ะ ไม่เคยเห็นหน้า”
แสนแสบเปิดแมสที่ใช้ปิดหน้า ก่อนจะเริ่มรู้สึกคุ้นๆ
แอ๊บบี้เองก็ตกใจ
“ไอ้แสนแสบ”
“อ้าวเฮ้ย…แอ๊บบี้ นี่อย่าบอกนะว่าแอบมารับจ๊อบ ... หรือว่าใช่ครับ ผม..เอ่อ ผมจะได้ขอประเดิม”
“ไอ้บ้า นี่ฉันกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ รีบออกไปเลย” แอ๊บบี้พูดใส่วิทยุที่ซ่อนอยู่ “ผู้กองฯคะ ผู้หมวด ใครก็ได้ช่วยมาเอาตัวไอ้บ้านี่ออกไปทีค่ะ”
“มากันครบเลยเหรอครับ”
ปิ้นๆ ...เสียงแตรมอเตอร์ไซค์ดังขึ้น
แสนแสบหันไปมอง เห็นสารินที่อยู่ในชุดมอไซค์รับจ้างขี่เข้ามาจอด
“เรียกมอไซค์ป่าวพี่ ขึ้นมาเลยครับ”
“หมวด”
สารินเอื้อมมือไปล็อคคอแสนแสบเข้ามากระซิบ
“ขึ้นรถมาถ้าไม่อยากโดนข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เร็วๆ”
“ครับ ครับ ... โอ้ย อดอีกแล้วกู”
แสนแสบจำใจต้องขึ้นรถมอไซค์รับจ้างที่ขับโดยสารินออกไป
เพชรที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่ในรถ ถอนใจเซ็งๆ
“ทุกคนเตรียมพร้อมแล้วรอต่อไป”
“มันมาแล้วค่ะผู้กอง” เจ๊ดาบอก
เพชรเห็นรถเก๋งสีดำขับเข้ามาช้าๆ
มีรถเก๋งสีดำคันเดียวกับที่วุฒิเคยใช้ขับเข้ามาจอด แอ๊บบี้รีบตามเข้าไปเสนอขาย
“เที่ยวไหมคะพี่ เที่ยวไหม”
แอ๊บบี้ขึ้นไปนั่งในรถโดยไม่ทันสังเกตว่าคนขับที่ใส่หมวกสวมแมสเป็นฆาตกรที่ต้องการหรือไม่
รถสีดำแล่นผ่านมอเตอร์ไซด์สารินกับแสนแสบ
สารินรีบหันไปไล่แสนแสบ
“แกลงไปได้แล้ว”
“ขอไปด้วยนะ”
สารินกระชากรถออกจนแสนแสบตกจากรถ
“ใจร้าย”
สารินรีบควบมอเตอร์ไซค์ตามออกไป
ภายในรถ เพชรพูดผ่านวิทยุสื่อสาร…
“ทุกคนรีบตามรถเป้าหมายไปเร็ว”
จู่ๆเจ๊ดากลายเป็นเสียงผู้ชาย ... เสียงวุฒิ “สวัสดีครับผู้กอง”
เพชรมองงงๆว่า เจ๊ดาเป็นใคร ?
เจ๊ดาในน้ำเสียงหญิงปกติ“ ฉันขอโทษนะคะผู้กองฯ ฉันจะแนะนำให้รู้จักกับหมอวุฒิค่ะ”
เจ๊ดายกปืนขึ้นมาจ่อที่อกผู้กองเพชร
เจ๊ดาเปลี่ยนเสียงเป็นวุฒิอีกครั้ง “อยากจับผม ผมก็มาให้จับแล้วไงครับ”
เพชรรู้สึกอึ้ง เมื่อรู้ความจริงว่าเจ๊ดากับวุฒิ คือคนเดียวกัน
“แกคือ...”
“ ใช่...ผมคือวุฒิ หมอศัลยกรรมที่มาช่วยอีกะหรี่แก่ไง”
“แล้วใครที่ไปกับแอ๊บบี้”
“ก็ไอ้ยอดลูกน้องผมเอง”
“เรื่องที่แกสารภาพมา มันเป็นเรื่องโกหก”
“ผมไม่ได้โกหก แต่ผู้กองคิดไม่ถึงเองต่างหาก”
“แกเป็นใครกันแน่”
“คนที่ผู้กองอยากเจอไง”
“เราไปคุยกันที่อื่นดีกว่า ขับไปตามที่ผมบอกละกันครับ”
ผู้กองเพชรมองปืนที่จ่ออยู่ตรงหน้า ไม่มีทางเลือก จึงต้องยอมขับรถออกไป
ภายในรถ... แอ๊บบี้หันไปมองที่คนขับ พยายามสวมบทบาทโสเภณี
“เราจะไปที่ไหนกันดีคะ”
ยอด คนขับรถยังนิ่ง
“ไม่สบายหรือเปล่าคะ ทำไมต้องปิดหน้าด้วย”
ยอดคนขับรถยังนิ่ง - แอ๊บบี้เห็นกล่องเครื่องมือวางอยู่บนตักคนขับ
“กล่องอะไร”
ยอดคนขับรถหันมองๆแอ๊บบี้ แล้วเปิดกล่องแล้วหยิบปืนออกมาจ่อ
“นั่งเฉยๆครับ คุณตำรวจ”
แอ๊บบี้ตกใจกลัว
แสนแสบมองตามรถเพชรที่พึ่งผ่านหน้าไปแบบงงๆ
“แล้วผู้กองเพชรไปไหนเนี่ย”
แสนแสบเห็นมอเตอร์ไซค์รับจ้างผ่านมาพอดี รีบเรียกให้จอดรับ
“ตามรถคันนั้นไปเร็วๆ”
มอเตอร์ไซด์รับจ้างขับตามไป
ผู้กองเพชรขับรถเข้ามาจอดหน้าคอนโดฯร้างแห่งหนึ่ง
ผู้กองเพชรเห็นผีเก๋ ผีนัน ผีจุ๋ม ยืนอยู่ในมุมมืด
เจ๊ดาในเสียงวุฒิ
“กว่าลูกน้องผู้กองฯจะรู้ตัวว่าโดนหลอก ผมกับผู้กองฯคงจัดการธุระกันเรียบร้อยพอดี”
“นี่พวกนายต้องการอะไรกันแน่”
“ใจเย็นๆครับ เกมส์มันเพิ่งเริ่มต้น”
เจ๊ดาหยิบเข็มฉีดยาสลบแทงไปที่ต้นคอเพชรจนหมดสติไป
แสนแสบโทร. หาหมวดสาริน
“หมวดอยู่ไหน...รีบมาช่วยผู้กองด่วนเลยนะครับ”
ภายในรถสีดำ
แอ๊บบี้อาศัยจังหวะยอดเผลอขณะหันมองทาง คว้าข้อมือข้างที่ถือปืนอยู่แล้วยื้อกันจนรถสะบัด
สารินขับมอเตอร์ไซด์ตามมาได้ยินเสียงปืนลั่น “ปัง” รถสะบัดอีกครั้ง
“เฮ้ย…แอ๊บบี้”
แอ๊บบี้ยังยื้อยุดขัดขืนอยู่ในรถ ในที่สุดก็มีจังหวะหักพวงมาลัยรถให้ตกลงข้างทางได้
รถสีดำเสียหลักลงข้างทาง “โครม”ทุกอย่างนิ่ง
เพชรนอนหมดสติอยู่บนเตียง ทั้งมือและเท้าถูกมัดไว้อย่างแน่นหนา
เจ๊ดาหายเข้าไปมุมหนึ่งก่อนดึงรถวิลแชร์ที่หมอดุสิตถูกจับมัดปิดปากไว้ออกมา
เจ๊ดาหันไปพูดกับหมอ
เจ๊ดาเสียงวุฒิ “หมอต้องขอบคุณผมนะที่ผมอุตส่าห์ให้เกียรติเชิญมานั่งชมการผ่าตัดควักเอาดวงตาวิเศษของคนไข้ออกมา อีกซักพักผมกับหมอก็จะได้รู้แล้ว ในดวงตาคู่นี้มันมีอะไรวิเศษกว่าคนอื่น”
หมอดุสิตหันไปมองๆเจ๊ดา แววตาขอร้อง ก่อนจะพยามดิ้นๆ
เจ๊ดาพูดต่อ เหมือนจะเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้
“ แล้วหมอก็ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะทำสุดฝีมือ เพราะตอนตำรวจมาถึงที่นี่ จะได้ไม่มีใครสงสัยว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของหมอคนเดียว”
หมอดุสิตส่ายหน้า…พยายามบอกว่าอย่าทำเลย
ด้านหน้าคอนโดฯ
แสนแสบพยายามหาทางเบนความสนใจของลูกน้องเจ๊ดา ด้วยการโยนกระป๋องให้กลิ้งไปตามทาง เพื่อหลอกล่อให้เจ๊ดาออกจากหน้าประตูห้อง ลูกน้องเจ๊ดาเดินมายังพื้นที่ตรงแสนแสบแอบอยู่ และต่อสู้กัน
ลูกน้องเจ๊ดาอีกคน หยิบปืนขึ้นมายิง แสนแสบวิ่งหนี ลูกน้องเจ๊ดาทั้ง 2 คน วิ่งตามไป
เจ๊ดาได้ยินเสียงปืนจากด้านนอกห้อง จึงรีบออกไปดู
“เฮ้ย..อะไรกันวะ”
เจ๊ดารีบวิ่งกลับไปในห้อง แต่ไม่เห็นผู้กองเพชร นอนอยู่ที่เตียงแล้ว
แสนแสบวิ่งหนีและหาที่หลบซ่อน
ลูกน้องเจ๊ดา 1 “เฮ้ย...มันหายไปไหนวะ”
ลูกน้องเจ๊ดา 2 คนวิ่งตามหาแสนแสบ
หลักจากแอ๊บบี้ยื้อแย่งพวกมาลัยรถกับยอด ทำให้รถเสียหลักชนระเบียงซึ่งกั้นที่จอดรถบนอาคาร ทำให้รถห้อยโหนอยู่บนตัวอาคารจอดรถซึ่งแอ๊บบี้ ยอดและลูกน้อง ติดอยู่บนรถ
“เฮ้ยแกเห็นอะไรปะ”
“พี่ยอด!”
ยอดพยายามเอาตัวเองออกมาจากรถ โดยไม่ทุกคนขยับ เพราะเกรงว่ารถจะเสียดุล และไหลตกอาคารไป
ขณะที่ลูกน้องยอดก็กำลังออกจากตัวรถเช่น ส่วนแอ๊บบี้ พยายามจะหาทางออก แต่เกิดอาการช็อกอยู่ ยอดและลูกน้องรีบวิ่งหนีเอาตัวรอด
เจ๊ดาวิ่งตามเพชร ซึ่งหนีไปบนดาดฟ้า ในสภาพที่ร่างกายไม่พร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ มีเพียงใจเท่านั้นที่ยังสู้ ทุกอย่างเงียบสนิท เพชรพยายามตั้งสติเพื่อฟังความเคลื่อนไหว เจ๊ดาพุ่งออกมาจากมุมหนึ่ง และเกิดการต่อสู้กัน
สุดท้ายเพชรกับเจ๊ดาพลาดท่า ร่วงตกลงมาจากชั้นบนทั้งคู่ เจ๊ดา กำลังจะเข้าทำร้ายผู้กองเพชรอีกครั้ง เพชร รีบตั้งหลักลุกขึ้นต่อสู้กับเจ๊ดาอีกครั้ง และเตะเจ๊ดาจนสลบไป แสนแสบเข้าไปช่วยพยุงผู้กองเพชรออกจากที่เกิดเหตุ
สารินขับรถมอเตอร์ไซด์เข้ามาจอด รีบวิ่งไปที่รถที่แอ๊บบี้เกิดอุบัติเหตุ
สารินวิ่งเข้ามาเห็นแอ๊บบี้…
“แอ๊บบี้…แอ๊บบี้ คุณเป็นอะไรไหม คุณอยู่นิ่งๆนะเดี๋ยวผมจะช่วยคุณเอง”
“หมวด...หมวดเบาๆ”
สารินค่อยๆปืนเข้าไปที่รถ จากด้านหลัง และช่วยแอ๊บบี้ เพื่อให้ออกจากตัวรถ
“หมวด หมวดออกไปเถอะ”
“ผมทิ้งคุณไม่ได้”
แอ๊บบี้มองหน้าสาริน อย่างซึ้งใจ
“เดี๋ยวคุณก้าวออกมานะ ผมจะถ่วงน้ำหนักไว้ก่อน”
แอ๊บบี้ค่อยๆทำตามคำสั่งของสาริน ค่อยๆขยับตัวเพื่อให้ไปยังประตู
“ผม นับ 1 ถึง 3 นะ คุณรีบออกไปเลยนะ”
แอ๊บบี้พยักหน้า
“1 2 3”
แอ๊บบี้ รีบออกจากตัวรถ และรถก็ตกลงไปด้านล่าง แอ๊บบี้รีบหันไปดูรถที่ตกลงไปด้านล่างด้วยความเป็นห่วง
“หมวด!...หมวด! แอบบี้ ขอโทษ”
แอ๊บบี้ร้องไห้เสียใจ ตะโกนเรียก หมวดสาริน
“แอ๊บบี้”
แอ๊บบี้ หันไปตามเสียงเรียก และสวมกอดสาริน ทั้งสองกอดกัน
ณ คอนโดฯร้าง เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย รถพยาบาล รถตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ
ผู้กองเพชรได้รับการปฐมพยาบาล แสนแสบมาถ่ายภาพที่เกิดเหตุ
เจ๊ดาถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปที่รถตำรวจ จิตใจกลับมาเป็นเจ๊ดาเหมือนเดิม
เสียงเจ๊ดา
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด มาจับฉันทำไม”
“ตอนนี้คุณคือใคร”
“เจ๊ดาไงค่ะ จำไม่ได้เหรอ ผู้กองเพชรช่วยฉันด้วยค่ะ”
เจ้าหน้าที่นำตัวเจ๊ดาไปขึ้นรถตำรวจ
นพ.ดุสิตเข้ามาขอบคุณเพชร
“ขอบคุณผู้กองที่มาช่วยชีวิตผม ผมจะมีรางวัลให้หน่วยของคุณอย่างงามทุกๆคน พร้อมโล่เชิดชูเกียรติอีก”
“เก็บเงินของคุณไว้ทำบุญให้พวกผู้หญิงที่ถูกฆ่าเถอะครับ” เพชรบอก
“คุณพูดยังกับว่าผมทำอะไรผิด”
“คุณทำให้เกิดฆาตกรต่อเนื่องคนนี้ขึ้นมา”
“เกี่ยวอะไรกับผม”
“เจ๊ดาเป็นผลงานที่เกิดจากของความผิดพลาดของคุณครับ”
นพ.ดุสิตเดินออกไปด้วยความไม่พอใจ
อีกมุมหนึ่ง สารินเห็นแอ๊บบี้ไม่ได้ใส่เสื้อคลุมของตัวเองก็ตกใจ
“แอ๊บบี้คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไรคะ”
“แล้วเสื้อผมอยู่ไหน”
“อ๋อเสื้อหมวด แอ๊บบี้ก็เลยทิ้งไปแล้วค่ะ”
“ทิ้ง แล้วคุณเอาไปทิ้งตรงไหน”
แอ๊บบี้สีหน้าแปลกใจ
“แหม..หมวดแค่เสื้อตัวเดียวเดี๋ยวให้คุณแอ๊บบี้เขาซื้อคืนให้ใหม่ก็ได้” แสนแสบบอก
“ทำไม หรือในเสื้อมีอะไร”
“มันเป็นของสำคัญ ครับ” หมู่จักรโพล่ง
“เฮ้ยจักร”
สารินรีบโดดเข้าไปใช้มือปิดปากจักร ท่าทางมีพิรุธสุดๆ
“อะไรคะ แล้วสำคัญยังไงสำคัญกับใครคะ”
“มาถึงขั้นนี้น่าหมวด คือผู้หมวดเขาเตรียมของขวัญไว้ให้แอ๊บบี้ ตั้งแต่วันเกิดแล้วครับ แค่ยังไม่มีโอกาสจะให้” จักรบอก
หมวดสารินถึงกับเขิน
“คือ..ผมไม่กล้าให้ กลัวแอ๊บบี้จะไม่ชอบ ไว้วันหลังจะซื้อให้ใหม่ละกัน”
แอ๊บบี้ยิ้มๆ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“อ้าว ทำไมล่ะ ผมอยากให้จริงๆ”
“ก็แอ๊บบี้….ได้มาแล้ว”
แอ๊บบี้ชูกล่องของขวัญที่สารินพยายามจะให้
“อันนี้หรือเปล่าคะ พึ่งรู้ว่าที่แท้มันก็เป็นของแอ๊บบี้นี่เอง ขอบคุณนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่างที่ผ่านมา”
หมวดสารินยิ้มๆขณะที่คนอื่นๆก็เลยพลอยมีความสุขไปด้วย
แสนแสบกับผู้กองเพชรเดินเข้ามาสมทบ
“เอ่อ..เดี๋ยวนะครับ ทุกๆคนครับ คือ..ที่ผมทำในวันนี้ ทาง DEI จะไม่มีรางวัลอะไรให้ผมบ้างเลยเหรอครับ”
“นั่นสิ แล้วอยากได้อะไร ยังไงฉันก็ขอบใจนะ ถ้าไม่ได้ความจุ้นจ้านของนายช่วยไว้ ฉันก็คงแย่”
“ผมจะถือว่าเป็นคำชมแล้วกันนะครับ”
แสนแสบส่ายหัวเซ็งๆ คนอื่นๆพากันขำ
ห้องพิทักษ์ ในสำนักงานสืบสวน DEI
ผู้กองเพชรนั่งคุยอยู่กับหัวหน้าพิทักษ์ หัวหน้าพิทักษ์อ่านรายงานแล้วยิ้มๆ
“เยี่ยมมาก ผู้กองเพชร ในที่สุดคุณก็ช่วยทางตำรวจเขาปิดคดีฆาตกรต่อเนื่องได้”
“แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าฆาตกรนั่นจะต้องการดวงตาผมไปทำไม ที่สำคัญมันรู้ข้อมูลส่วนตัวหลายๆอย่างของผมได้ยังไง”
พิทักษ์มองเพชรนิ่งๆพยายามอ่านความคิด
“คนดังอย่างคุณ ใครๆเขาก็ต้องสนใจเป็นธรรมดา อย่าลืมสิว่า อาชีพของเรา เข้าไปทำให้ใครต่อใครเขาเสียผลประโยชน์ ไปทำให้ใครเดือดร้อนไม่รู้เท่าไหร่ มีคนรัก ก็ต้องมีคนเกลียดเป็นธรรมดาน่าผู้กองฯ”
“แต่เราก็ทำทุกอย่าง เพื่อความถูกต้องไม่ใช่เหรอครับ”
“มันถูกต้องสำหรับใครล่ะ”
เพชรมองหน้าพิทักษ์นิ่งๆ รู้สึกวันนี้หัวหน้าตนพูดจาแปลกๆ
พิทักษ์ยิ้มๆ
“เอาเหอะ..ผมว่า คุณไปพักผ่อนดีกว่า เรื่องคดีความต่างๆต่อไปนี้ เดี๋ยวผมกับทางตำรวจจะประสานกันเอง ฝากชื่นชมลูกน้องคุณทุกคนด้วยนะ ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจกันทุกคน”
“ครับหัวหน้า ขอตัวครับ”
ผู้กองเพชรเดินออกไป
พิทักษ์มองตามนิ่งๆ
“ผมล่ะเสียดายคนอย่างคุณจริงๆ”
พิทักษ์หันมองหน้าจอโน๊ตบุ๊กที่เปิดคาไว้อยู่ เห็นโลโก้ขององค์กรลับแห่งหนึ่งเปิดอยู่
เช้าวันใหม่ แอ๊บบี้เดินเข้ามาทำงาน ท่าทางสดชื่นแจ่มใส เจอใครก็ยิ้มทักทาย แอ๊บบี้เดินเข้าตึกมาจนถึงโต๊ะ รปภ.ที่ตั้งอยู่ตรงประตูทางเข้าหน้าตึก ลุง รปภ.รีบลุกขึ้นตะเบ๊ะ แล้วพูด
“สวัสดีครับคุณแอ๊บบี้ โอ้ว... สร้อยใหม่เสียด้วย สวยจังเลยนะครับ พึ่งซื้อมาใหม่เหรอครับ”
แอ๊บบี้จับที่สร้อยคอแล้วยิ้มเขินๆ
“มีคนซื้อให้ค่ะลุง”
“อาการแบบนี้ สงสัยต้องเป็นของขวัญจากคนพิเศษแน่ๆ แฟนเหรอครับ”
แอ๊บบี้เขินหนักมาก “โอ้ย ยังไม่ใช่หรอกค่ะ แต่อนาคตไม่แน่ แอ๊บบี้ไปก่อนจะคะ เขิ๊น…”
แอ๊บบี้พูดเสร็จก็เดินยิ้มออกไป
หมู่จักรกับหมวดสารินยืนมองตามแอ๊บบี้ที่พึ่งเดินออกไปแบบไม่รู้ว่าทั้งคู่ยืนอยู่ โดยเฉพาะหมวดสารินถึงกับอึ้งๆในสิ่งที่พึ่งได้ยิน
“ไงครับหมวด ถึงกับอึ้งไปเลยเหรอครับ”
“เมื่อกี๊ ผมไม่ได้ฝันไปเองใช่ไหมจักร”
“เรื่องจริงครับหมวด ไปครับ”
สารินยังคงอยู่ในอาการช็อค
มุมหนึ่งในโรงเรียน หมอก้อยเดินคุยมากับเฌอแตม เอมิ
“นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เอมิยังขนลุกไม่หายเลยนะคะ”
“ผู้ใหญ่เขาถึงพูดกันไงว่า คนเรา..รู้หน้าไม่รู้ใจ แล้วทีนี้ ยังคิดที่จะไปเสริมนั่น เสริมนี่ อีกหรือเปล่าเฌอแตม”
“ไม่แล้วค่ะ”
“เป็นผู้หญิงสวยตามธรรมชาติแบบนี้ก็ดีแล้ว ปลอดภัยกว่า แถมไม่เปลืองตังค์ด้วย”
ผู้กองเพชรเดินยิ้มเข้ามา
“ผมเห็นด้วยครับ”
“วันนี้ทำไมคุณมารับหนูได้เนี่ย” เอมิถาม
“ใครบอกว่าฉันมารับหนูล่ะ”
“อ้าว งั้นมาทำไม หนูให้พี่ซินมารับก็ได้”
“ทะลึ่นะ...อย่าให้รู้ล่ะกัน”
เฌอแตมถาม “ลุงนัดอาก้อยไปดินเนอร์ใช่มั๊ย”
“รู้มากอีกแล้วนะเรา” ก้อยบอก
“จริงดิ แล้วเราสองคนล่ะ”
“ก็ต้องตามไปกินของฟรีไง” เฌอแตมบอก
“ดีๆ กำลังหิวพอดีเลย ไปๆๆ”
เอมิ เฌอแตม เดินนำหน้าไป
“ถามจริงๆคุณได้ไปทำศัลยกรรมอะไรมาบ้างรึเปล่า”
“ทำไม มีส่วนไหนที่คิดว่าฉันไปทำมาเหรอ” ก้อยถาม
เพชรยิ้ม
“เปล่าแต่ผมคิดว่าคุณดูสวยเกินจริงไปหน่อย”
ก้อยยิ้มเขินๆ
แล้วจู่ๆ เสียงโทรศัพท์ผู้กองเพชรดังขึ้น เพชรรับโทรศัพท์
“ว่าไง..สาริน...โอเค งั้นเดี๋ยวฉันไปเดี๋ยวนี้”
เพชรวางโทรศัพท์
“ขอโทษนะเด็กๆ..พอดี..ฉันมี”
เอมิรู้ทัน“งานด่วน”
เฌอแตมบอก “งานกร่อยเลย”
“ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวก้อยพาเด็กๆกลับบ้านเอง...คุณไปเถอะ”
“ขอบคุณครับ ขอโทษนะ”
“ป่ะ..เด็กๆกลับบ้านกัน” หมอก้อยบอก
อ่านต่อตอนที่ 15