DIAMOND EYESตา-สัมผัส-ผี ตอนที่ 12
ตอน “คดีนักกีฬาเลือด 2”
ในพื้นที่เกิดเหตุ หลังมหาวิทยาลัย เวลากลางคืน มีเจ้าหน้าที่ DMI นั่งเฝ้าอยู่สองสามคน
หมวดสารินเดินมาที่ตำรวจ 2 นาย
"เดี๋ยวตรงนี้ ฉันจัดการเอง พวกนายไปพักเหอะ"
นายตำรวจ สองนายเดินออกไป สารินมานั่งเฝ้าแทน
สารินนั่งได้ไม่นานก็หลับ
ใครคนหนึ่ง ค่อยๆ ย่องเข้าใกล้ที่เกิดเหตุ เป็นจังหวะที่สารินทำท่าตบยุง ทำให้ผู้ที่ย่องอยู่นั้น ตกใจ
แล้วผู้นั้นก็ค่อยๆ ย่องเข้าไปในที่เกิดเหตุอย่างเงียบๆ ผ่านสารินไป
ในความมืด ผู้นั้นกำลังค้นหาอะไรบางอย่างอยู่
ผู้นั้นเปิดไฟฉายส่องบนพื้น เห็นสายหูฟัง ที่ขาดตกอยู่ จึงรีบเก็บ
ปรากฎว่า จู่ๆ มีไฟส่องเข้ามาในที่เกิดเหตุ ผู้นั้นตกใจ
"หยุดตรงนั้นแหละ"
ผู้นั้นรีบวิ่งหนีออกมา
หมวดสารินรีบวิ่งตาม
ผู้นั้นวิ่งหนีมาทางเดินของโรงเรียน หายใจหอบด้วยความเหนื่อย
ผู้นั้นหันมองกลับไป แต่ไม่เห็นใครวิ่งตามมา
แต่เมื่อหันหน้ากลับมา กลับเจอไฟส่องใส่หน้าเต็มๆ
ผู้กองเพชรและซินยืนดักรออยู่ก่อนแล้ว
"หนีไปไหนไม่รอดหรอก" ผู้กองบอก
แสงบริเวณนั้นสว่างขึ้น เห็นเป็นปรางอย่างชัดเจน
"ปราง เธอเองเหรอ" ชินว่า
ผู้กองเพชร หมวดสาริน ซิน ปราง นั่งล้อมวงกันอยู่หลังมหาวิทยาลัย
"เธอไปทำอะไรในนั้น"
ปรางไม่ตอบเพชร
"ทำไมต้องเอาหูฟังของธีไปด้วย"
"ไม่รู้ ก็แค่ไปเดินเล่น เห็นมันขาดอยู่ก็เลยเก็บไป"
"เรารู้ความจริงหมดแล้วนะ สารภาพมาดีกว่า ธีเป็นคนฆ่าโต้ใช่ไหม" สารินบอก
"ไม่ใช่ ธีไม่ใช่คนร้าย เค้าไม่ได้ทำอะไรผิด"
ผู้กองเพชรถาม"ทำไมเธอปกป้องธี ทั้งที่เค้าฆ่าแฟนเธอ"
ปรางนิ่งเงียบไปอีก
ธี เดินเข้ามา
"ผมจะบอกทุกอย่างเองครับ"
ซินโพล่ง "ธี!"
"ผม ….เป็นคนร้ายเอง เธอไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย"
"ไม่จริง ธีไม่ใช่คนร้าย วันนั้นปรางกับธีอยู่ด้วยกัน"
แอ๊บบี้สงสัย "แสดงว่า เธอสองคน"
"ความสัมพันธ์ของเราเริ่มจาก วันนึง" ปรางเริ่มต้นเล่า
โต้ฉุดลากปรางมาที่ห้อง ปรางพยายามขัดขืน
"วันนั้นหลังจากไปเที่ยวด้วยกันตอนดึกๆ โต้พยายยามจะไปส่งปรางที่ห้อง ตอนนั้นปรางพยายามขัดขืน แต่ปรางสู้แรงโต้ไม่ได้"
โต้ตบตีปรางและผลักปรางลงไปที่เตียง และถอดเสื้อนอกออก
ปรางร้องไห้พยายามขัดขืน แต่ทำอะไรไม่ได้
"ถึงเราจะเป็นแฟนกัน แต่ปรางก็ไม่เคยยอมอะไรโต้ง่ายๆ จนเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น"
ธีกุมมือปรางเอาไว้
เหตุการณ์นั้น ทำให้ปรางตัดสินใจที่จะกระโดดสะพานลอยเพื่อฆ่าตัวตาย
วันนั้น ธีเห็นเข้าก็รีบวิ่งเข้ามาพอดี
"ปรางคิดจะฆ่าตัวตาย แต่พอดีธีมาเห็นเข้า ปรางจึงเล่าเรื่องทุกอย่างให้ธีฟัง เค้าคอยรับฟังปรางทุกอย่าง ทำให้ปรางยอมเปิดใจให้ธี"
ทั้งหมดเดินคุยกันมา จนถึงหน้ามหาลัย
"พวกเธอก็เลยแอบคบกัน" ผู้กองเพชรว่า
ธี และ ปรางพยักหน้ายอมรับ
"แล้ววันที่เกิดเหตุ เป็นยังไง" ชินถาม
วันนั้น ... ธี แอบเดินมาที่หลังโรงเรียน เมื่อมาถึง ก็เจอ ปราง นั่งรออยู่ ทั้งคู่โผเข้ากอดกัน ครั้งนั้นเองที่หูฟังของธี โดนกิ่งไม้เกี่ยวจนขาดติดกิ่งไม้
" วันที่เกิดเหตุ เราต่างคนต่างนัดเจอกันโดยไม่บอกใครเหมือนทุกครั้ง ปรางรู้ว่าโต้จะต้องเล่นสกปรก เพื่อให้ได้ตำแหน่งนักกีฬาตัวจริง เราเลยนัดเจอกันเพื่อปรับทุกข์ที่เกิดขึ้น"
ปราง ธี จูบกัน
ปรางเล่าต่อเนื่อง
"จากนั้น พอค่ำเราก็แยกย้ายกันกลับ ไม่มีใครเจอโต้เลย"
แอ๊บบี้ถาม "ตอนนั้นเป็นเวลากี่โมงคะ"
"เราเจอกันราวๆ 6 โมง ราวๆ ชั่วโมงนึงก็แยกย้ายกันกลับ"
"ทั้งหมดเป็นความจริง เราไม่ได้เจอโต้เลย ตอนเช้ามาถึงรู้ว่าโต้ถูกฆ่าตายแถวๆนี้" ปรางว่า
"ทำไมนายไม่ยอมบอกฉันแต่แรก" ชินถาม
"จะทำให้ผู้หญิงที่นายรักเสียชื่อเสียงหรือไง อีกอย่าง ...ถ้าพ่อฉันรู้ล่ะก็"
แอ๊บบี้แอบหลบไปเปิดเอกสารที่เตรียมไว้ในกระเป๋า
หมวดสารินหยิบกุญแจมือ
"ยังไงนายก็ต้องถูกคุมตัวไว้ก่อน จนกว่าคดีจะสิ้นสุด"
ปรางหันมองธี และเข้าไปกอด
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ก็ออกมาไม่นานหรอก"
หมวดสารินพาธีที่ใส่กุญแจมือ เดินออกไป ...
พวกผู้กองเพชร หมวดสาริน ธี กำลังจะเดินออกไป แต่จู่ๆ ซิน ก็เหมือนเห็นอะไรบางอย่างที่หางตา พอหันกลับไปก็เห็นโต้ ยึนจังก้าอยู่
ซินอาศัยจังหวะ เดินออกไป ตรงไปทางผีโต้
ซินเดินตามผีโต้ ที่ผลุบๆ โผล่ๆ มาเรื่อยๆ
เมื่อใดที่ซินไปผิดทาง จะมีลูกบาสปาอัดมาที่ตัวซิน
"โต้ นายต้องการอะไร"
ลูกบาสเกตบอลกระเด้งกระดอน ลอยมากระแทกตัวซินอีกครั้ง
ซินหันไปมองทิศทาง เป็นล๊อกเกอร์ในสนามบาส
ซินยังคงเดินตามมาเรื่อยๆ
ตู้ล๊อคเกอร์สั่นไหว ซินตกใจ ค่อยๆ เดินตามเสียงไป จนมาหยุดที่หน้าตู้ล๊อคเกอร์ของโต้ ที่มีแรงกระแทกจากด้านใน แต่ไม่ยอมเเปิดเพราะล๊อคอยู่
ซินพยายามแงะตู้ล๊อคเกอร์ด้วยเหล็ก จนเปิดตู้ได้สำเร็จ
ซินพยายามค้นหาของในนั้น และพบกับรูปถ่ายเป็นทีมนักบาสสมัยมัธยมปลายใบหนึ่ง ในภาพมี แม๊กซ์ โต้ ธี ยืนคู่กับคนอื่นๆ ท่าทางสนิทสนมกัน แต่ที่ด้านหลังมีรูปเด็กคนหนึ่ง โดนตัดภาพใบหน้าออกไป ...
บริเวณหน้าสำนักงาน DEI ตอนเช้า มีนักข่าวมารุมล้อมหน้าตึก แสนแสบ กำลังรายงานข่าว
"สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดคดีฆาตกรรมนักศึกษาในมหาลัยชื่อดังถึง 2 คดี มาวันนี้ ทางตำรวจได้ทำการจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นนักศึกษามหาลัยเดียวกัน เบื้องต้นทราบว่า เป็นลูกชายของผู้อำนวยการมหาลัยนะครับ ... อ่ะ นั่น ผู้กองเพชร มาแล้วครับ"
กล้องหันไปทางผู้กองเพชร ที่กำลังเดินเข้ามา
"ไม่ทราบว่า ผู้ต้องหามีมูลเหตุจูงใจอะไร ถึงได้ลงมือฆ่านักศึกษาสองคนครับ"
"เขายังเป็นแค่ผู้ต้องสงสัยครับ ทางเรายังไม่ฟันธงว่าเป็นคนร้ายนะครับ" ผู้กองเพชรบอก
"แต่ถึงขั้นคุมตัวแล้ว ก็น่าจะชัวร์แล้วไม่ใช่เหรอครับ"
"จนกว่าจะมีหลักฐานเพิ่มเติม เรายังตอบอะไรไม่ได้ครับ"
"อ้าว หรือว่านี้จะจับแพะหรือเปล่าครับผู้กอง"
ผู้กองเพชรชักโมโห
"ถ้ามีอะไรคืบหน้า พวกเราจะแถลงข่าวเองครับ ขอบคุณมากนะครับ"
เพชรเดินหลบนักข่าวมา หมวดสารินออกมารับ
"ใครเป็นคนปล่อยข่าวนักข่าว"
"เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ นายมีแขก"
"ใคร"
วัลลพ พ่อของธีฃเดินออกมา ท่าทางโกรธมาก
"ผมต้องการคุยกับลูกชาย เดี๋ยวนี้"
ธี กับพ่อพูดคุยกันในห้องสอบปากคำ
"พ่อเคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าคบกับใครก็คิดให้ดีๆ"
"แต่พ่อครับ"
"อย่าเถียง!"
"ครับ"
"ต้องรอให้มันเกิดเรื่องก่อนใช่ไหม ถึงจะเชื่อฟังพ่อ ตั้งแต่ครั้งนั้นแล้ว"
"พ่อยังเอาเรื่องเก่ามาว่าผมไม่พออีกใช่ไหมครับ"
"ก็ถ้าแกยังก่อเรื่องซ้ำๆๆๆๆ จะให้พ่อนิ่งเงียบเหรอไง"
"แต่ผมไม่ได้ทำอะไร ผมเคยฆ่าใคร"
"พ่อรู้ พ่อเชื่อว่าแกไม่ได้ทำ …เดี๋ยวพ่อจะเอาแกออกมาเอง"
"ครับ"
"แต่แกต้องสัญญาว่า จะเลิกกับผู้หญิงคนนั้น"
ธีอึ้ง ไม่ยอมสบตาพ่อที่กำลังจ้องมาตาเขม็ง
ธีถอนหายใจ
ต่อมา ด้านหน้าสำนักงานตำรวจ วัลลพพาตัวลูกชายฝ่าฝูงนักข่าวออกมา
แสนแสบกำลังทำหน้าที่รายงานข่าว
"ขณะนี้ผู้ต้องสงสัยได้รับการประกันตัวไปด้วยเงินมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ซึ่งไม่ทราบว่าทำไมทางตำรวจถึงยินยอมให้มีการประกันตัว ทั้งที่เป็นคดีอุกฉกรรจ์ ร้ายแรง หรือมันอาจจะมีลับลมคมในอีกก็ได้ ผมแสนแสบ จะตามเกาะติดทุกฝีก้าว ไม่ปล่อยคดีนี้ให้ลอยนวลแน่นอนครับ"
ธีกับพ่อขึ้นรถ และขับออกไป
วันเดียวกัน ซินนอนอยู่ตรงม้านั่งแถวโรงเรียน พลางหยิบรูปถ่ายขึ้นมาดู พยายามพิจารณาว่า คนในรูปถ่ายเป็นใคร มันเกี่ยวอะไรกับคดี
จู่ๆ เฌอแตม ก็คว้าเอารูปถ่ายนั่นไปจากมือของซิน ซินตกใจ
"รูปอะไรน่ะ"
"เอามานะ นั่นเป็นหลักฐานสำคัญนะรู้เปล่า"
"ค่าๆๆ ทราบแล้วค่า"
เฌอแตมส่งรูปคืนให้
"รูปอะไรน่ะ"
"ฉันเจอมันในล๊อคเกอร์ของโต้ บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับคดีก็ได้"
"แล้วคนในภาพที่หายไปนี่ ใครอ่ะ"
"ถ้ารู้จะนั่งเครียดงี้เหรอ จะไปไหนก็ไปน่า ..." ชินบ่นๆ "มันรูปของโรงเรียนอะไรนะ"
"แต่เฌอแตมรู้นะว่าที่ไหน"
"เธอรู้เหรอ"
"มีข้อแม้ ต้องให้แตมไปสืบด้วย"
"ไม่"
"แน่ใจนะ รีบไม่ใช่เหรอ"
ซินคิดหนัก "ก็ได้ แต่ต้องสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเสียหาย"
"สัญญาคร้าบ" เฌอแตมบอก
"ตกลงมันที่ไหน"
"เป็นนักสืบ แต่ไม่ช่างสังเกตเลยนะ ว่าไอ้สัญลักษณ์ที่หน้าอกมันคือ โรงเรียนของเฌอแตมเอง"
เฌอแตมชี้ไปที่ในรูป ซินเซ็ง
"งั้นเราไปกันเลย"
"ไม่ได้ เป็นคนนอกจะมาป้วนเปี้ยนในโรงเรียนได้ไง อยู่ห่างๆ ไว้ เดี๋ยวแตมจัดการเอง"
เฌอแตมยิ้ม ซินทำหน้าเหมือนไม่เชื่อใจ
เอมิ เฌอแตม กำลังเดินอยู่ด้านในรั้วโรงเรียน
"ไม่คิดว่าเธอจะเอาจริงนะ เรื่องเล่นเป็นนักสืบเนี่ย"
"ฉันน่ะอยากเป็นนักสืบมาตั้งแต่เด็กๆเลย เอมิรู้เปล่า"
เฌอแตมทำท่าเลียนแบบโคนัน ไปยืนหลบหลังเอมิ
"ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เฌอแตมจะลากตัวคนร้ายมาให้ได้"
"โอตาคุ" เอมิว่า
"อะไรโอตาคุ"
"คำเรียกคนติดการ์ตูนแบบเธอไง"
"จ้า แม่ญี่ปุ่น"
ทั้งเอมิ เฌอแตม เดินเข้าไปในสนามกีฬาโรงเรียน
ที่สนามบาสเกตบอลโรงเรียนอาจารย์พละ กำลังหยิบภาพถ่ายนักกีฬาขึ้นมาดู
"ครูไม่รู้นะว่าเด็กในภาพเป็นใคร"
"อ้าว"
"ครูเพิ่งมาสอนได้ไม่กี่ปีเอง อาจารย์คนเก่าเค้าลาออกไปนานแล้วหนู"
"พอจะรู้เบอร์อาจารย์คนนั้นไหมคะ"
"ไม่รู้สิ เห็นว่าหลังจากลาออกไปก็ขาดการติดต่อไปเลย เบอร์อะไรก็ไม่มี"
"แล้วทีนี่มีบันทึกรายชื่อนักกีฬาอยู่หรือเปล่าคะ"
"มีสิ รอเดี๋ยวนะ"
ครู่หนึ่ง อาจารย์พละกลับมาพร้อมสมุดรายชื่อนักกีฬามาเล่มหนึ่ง
"อ่ะ นี่ แต่ว่าคงจะช่วยอะไรไม่ได้มากเท่าไร"
เอมิ เฌอแตมเปิดดู ปรากฎว่าด้านในมีแต่รายชื่อ ไม่มีรูป
"อ้าว แล้วแบบนี้จะไปเทียบชื่อกับในภาพยังไงล่ะ" เฌอแตมว่า
"หน้านี่ไง รายชื่อนักกีฬาของพวกธี"
เปิดดูสมุดด้านใน มีรายชื่ออยู่ 10 กว่าคน แต่มีอยู่บรรทัดนึง โดนปากกาลิกขวิดทับเอาไว้
"นี่หมายความว่ายังไงกัน" เอมิว่า
ต่อมา วัลลพเพิ่งลงจากรถ กำลังโทรศัพท์อยู่
"ทางโน้นเป็นไงบ้าง คุมตัวไว้ให้ดีๆ อย่าให้ออกไปไหนเพ่นพ่านล่ะ ...ดี"
ด้านหลังพ่อธี ผู้กองเพชรปลอมตัว แอบสะกดรอยตามพ่อธีไป
วัลลพเดินต่อมาอีกหน่อย แล้วหยุดเลี้ยวเข้าไปในตัวอาคาร
วัลลพเดินโทรศัพท์มาตามทาง เพชรพยายามเดินเข้าใกล้ เพื่อดักฟัง
"ช่วงนี้นักข่าวมันเยอะ ยังไงฉันก็จะไม่ยอมให้มันเกิดเรื่องอะไรกับธีอีกแน่นอน"
วัลลพเดินต่อเรื่อยๆ เพชรพยายามเกาะติดทุกฝีก้าว
"เรื่องนักข่าวกับตำรวจไม่ต้องห่วง ผมจะใช้วิธีเดิม ส่วนเรื่องผู้หญิง ….คิดว่าคงไม่เป็นไรมาก น่าจะจัดการได้เหมือนกัน แค่นี้ก่อนนะ"
พ่อธีเดินเลี้ยวหัวมุม เพชรเดินเลี้ยวตามเข้าไป
เพชรเลี้ยวมา เจอวัลลพหยุดเดิน เก็บโทรศัพท์ เพชรก็หยุดตาม
พ่อธีหันกลับมา เพชรรีบหลบหลังกำแพง
"ไม่ต้องหลบหรอกผู้กอง"
"รู้ด้วยเหรอครับ"
"ผมมีนิสัย ชอบมองกระจกระหว่างเดิน ก็เลยเห็นใครไม่รู้เดินตามมาตลอด"
"ขออภัยครับ"
"ไม่ต้องหรอก ผมเองก็คิดอยากเจอคุณอยู่เหมือนกัน"
"ทำไมครับ"
"เพราะผมไม่อยากให้คุณเข้าใจอะไรผิดๆ ไปมากกว่านี้ไง"
วัลลพผายมือเชื้อเชิญ
"ตามผมมาทางนี้ครับ"
ภายในห้องทำงานในมหาวิทยาลัย
วัลลพส่งน้ำชาให้ผู้กองเพชร ที่นั่งอยู่ตรงข้าม แล้วจึงกลับมานั่งประจำตำแหน่ง
"คุณคงมีหลายคำถาม เช่นว่า ธีมีความแค้นอะไรกับโต้และแม๊กซ์หรือเปล่า"
"แล้วมีหรือเปล่าครับ"
"ถ้ามีจริง โต้คงตายตั้งแต่ม.5 ม.6 แล้ว"
"คุณรู้จักโต้มานานแล้วเหรอ"
"โต้กับธี เคยเป็นนักกีฬาโรงเรียนเดียวกันมาก่อน เค้าเลยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ตอนนั้น"
พ่อธี ดื่มชาแล้วพูดต่อ
"สมัยนั้น ธีไม่ค่อยมีเพื่อนมาก ผมเองก็คิดว่าลูกคงโตแล้วเลยปล่อยให้เค้าลองหาเพื่อนเองดู"
"คุณคุมเรื่องเพื่อนตั้งแต่เด็กๆ"
"ยุคสมัยนี้คุณไว้ใจอะไรไม่ได้หรอก เหมือนเวลาปลูกดอกไม้ ถ้าอยากให้ดอกสวยแข็งแรง ก็ต้องปลูกในเรื่อนเพาะชำ ใส่ปุ๋ยเอง ใครจะคิดว่าวันนึงเมื่อดอกไม้โตแล้ว เราเอาออกจากเรือนเพาะชำ ก็เจอหนอนไชเลย"
"ยังไงครับ"
"ตอนนั้นธีเองไม่ค่อยรู้ประสีประสาเท่าไร เค้าก็ไม่เคยเล่าว่าเวลาพวกโต้กับแม๊กซ์ไปไหนมาไหน หรือทำอะไร จนผมแอบสืบได้ว่ามันเป็นพวกอันธพาล"
"มีเรื่องอะไรร้ายแรงไหมครับ"
"มีเด็กคนนึงในกลุ่มนักบาส ที่โดนพวกโต้รังแกหนักๆ"
"เช่น ?"
"แรกๆ ก็เป็นการแกล้งตามภาษาเด็ก ขโมยของบ้าง ฉีกสมุดบ้าง ...แต่อีกฝ่ายไม่ยอมลาออกจากทีม เรื่องก็เลยหนักข้อขึ้น ทำร้ายร่างกาย ทุบตี จนกระทั่ง วันนึง เด็กคนนั้นกระโดดตึกลงมา"
"ลูกชายคุณก็ทำด้วย"
"เปล่าๆ เค้าไม่ทำหรอก ลูกผมไม่ได้เลวขนาดนั้น"
"ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงไม่มีเรื่องแบบนี้ในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือในประวัติแฟ้มอาชญากรรมล่ะครับ"
เพชรหยิบแฟ้มคดีขึ้นมาวาง
"ผมสืบค้นดูแล้ว ไม่มีชื่อลูกชายคุณ หรือชื่อโต้และแม๊กซ์ในประวัติคดีไหนๆ เลย ถ้าคุณคิดว่าลูกคุณไม่เกี่ยว ทำไมต้องปิดข่าวครับ"
พ่อธีนิ่งไป นั่งกลืนน้ำลาย
"เด็กมันไม่ติดเพื่อน ใครเค้าพาไปไหนเค้าก็ไป คุณไม่เคยเป็นเด็กเหรอ"
"ผมเคยทำไม่ดี แต่ก็รับโทษตามที่ควรจะเป็น"
"เค้าได้รับแล้ว ผมจัดการไปแล้ว และมันไม่ควรขุดขึ้นมาอีก"
"ผมก็ไม่อยากขุด แต่เรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับการล้างแค้น ...คุณมีชื่อของญาติของคนที่ฆ่าตัวตายไหมครับ"
"ถ้าสัญญาว่าลูกผมจะไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้อีก"
"ได้" เพชรรับปาก
ในห้องสมุด พวกเฌอแตม เอมิ เดินเข้ามาหาอาจารย์ที่ดูอาวุโสท่านหนึ่ง
"รุ่น 105 เหรอ อ่อ ที่มีเรื่องตอนนั้นสินะ"
เอมิถามอยากรู้ "เรื่องอะไรเหรอคะ"
"โดดตึกฆ่าตัวตาย"
"เป็นเด็กในรูปนี้หรือเปล่าคะ"
เฌอแตมยื่นรูปให้ดู
"ครูจำทุกคนในนี้ได้หมด แต่คนที่ไม่เห็นหน้าครูนึกไม่ออกหรอกนะ"
อาจารย์ส่งรูปกลับไป แล้วเดินไปที่ชั้นหนังสือรุ่น
"ที่นี่มีหนังสือรุ่นเด็กๆ เก็บไว้ทุกรุ่นแหละ บางทีครูก็จะมาเปิดอ่านรำลึกความหลัง เด็กบางคนก็น่ารัก บางคนก็น่ารำคาญ อย่างโต้กับแม๊กซ์ ป่านนี้ไม่รู้ยังทำตัวเกเรอยู่อีกหรือเปล่า"
"อาจารย์รู้จักเหรอ"
"ก็บอกแล้วไงว่า จำได้ทุกคน"
อาจารย์ส่งหนังสือรุ่นให้
"มีเด็กคนนึงฆ่าตัวตายไป แต่หนังสือรุ่นทำเสร็จก่อน เลยมีชื่ออยู่ในนี้ด้วย"
อาจารย์ชี้ในสมุด
สาริน เพชรกำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่ในสำนักงาน แอ๊บบี้เดินเข้ามาท่าทางตกใจ
"ผู้กองคะ ผลการชันสูตรศพโดยละเอียดของโต้ โต้น่าจะเสียชีวิตตั้งแต่ 5 โมงเย็นค่ะ"
"แปลกมาก"
"แล้วมันยังไงเหรอ"
"ธีบอกว่า นัดเจอกับปรางตอน 6 โมง ถ้าเป็นความจริง แสดงว่าหลังจากฆาตกรรมแล้วแปลว่า พวกเค้านั่งจู้จี๋กันขณะที่มีศพอยู่ใกล้ๆ ตรงนั้น"
สารินบอก "แปลว่า…..พวกนี้มีรสนิยมประหลาด"
"ไม่มีใครเค้าทำกันหรอกค่ะแบบนั้น"แอ๊บบี้บอก
"ไม่พวกเค้าก็อาจร่วมมือกันฆ่า" สารินบอก
"ยังมีบางอย่างไม่เคลียร์ พี่ว่าพี่ลองถามปรางเพิ่มเติมดีกว่า" ผู้กองบอก
เพชรหยิบโทรศัพท์ออกมา เพื่อกดโทรหาปราง
ปรางกำลังเดินอยู่ในมหาวิทยาลัย ได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็กดรับ
"ผู้กองเพชร พอดีเลยค่ะ ปรางเพิ่งเจออะไรบางอย่างน่าสงสัย"
"ยังไงเหรอ นี่เธออยู่ไหนเนี่ย"
"ที่มหาลัยค่ะ ซักครู่นะคะ คือวันก่อน ปรางสงสัยใครบางคน แต่ปรางไม่มีหลักฐาน"
"เธอสงสัยใคร บอกมาซิ"
จู่ๆ ด้านหลังปราง มีใครพุ่งเข้ามาล๊อกตัวปรางเอาไว้ ปรางตกใจ
เพชร ได้ยินเสียงปรางร้องครวญคราง ก็ตกใจมาก
"ปราง เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น"
เสียงปรางยังคงดังลอดผ่านมือถือ
"ช่วยด้วย ..ปล่อยฉัน แก!! ...อ๊ะ"
เสียงสัญญาณโทรศัพท์ตัดไป เพชรตกใจ
"ไปที่มหาลัย ด่วนเลย"
ทุกคนรีบพุ่งออกไปจากห้อง
เอมิ เฌอแตม เดินออกมาที่หน้าโรงเรียน มีซินยืนรออยู่ตรงมอเตอร์ไซค์
"ว่าไง แม่นักสืบกำมะลอ"
"เรียบร้อยค่ะ" เอมิบอก
"ไม่ได้เรื่องอะไรเลยอ่ะ"
"ห๊ะ"
"ว่าแล้วว่าอย่างพวกเธอต้องไม่ได้เรื่อง"
"เฌอแตม แต่…"
เฌอแตมส่งซิกว่าไม่มีอะไร
"ไม่มีใครรู้ว่าเด็กคนนี้คือใคร อาจจะไม่ใช่คนที่โรงเรียนนี้ก็ได้"
"ไม่มีเบาะแสอะไรเพิ่มเลยใช่ไหม"
"ขอโทษน้า เอานี่ รูป ไปหาเอาเองแล้วกัน"
ซินรับรูปถ่ายคืนจากเฌอแตม แล้วขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปเลย
เอมิถามเพื่อน
"ทำไมเธอไม่บอกความจริงกับซินล่ะ"
"เอ้า ก็เธอไม่อยากลองเล่นเป็นนักสืบดูหรือไง ไม่แน่นะว่าคราวนี้เราอาจจะจับตัวคนร้ายได้เลยก็ได้"
"แต่มันอันตรายนะ"
"เอาน่า เธอไม่อยากช่วยคุณพ่อเหรอ ไว้ให้เราเจอหลักฐานแล้วเรียกเค้ามาทีเดียวเลย ทีเดียวปิดคดี แล้วเราสองคนจะกลายเป็นนักสืบมัธยมปลายดังเลยนะ"
เสียงก้อยดังมาจากข้างหลัง
"ไม่ได้"
"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ"
"เพราะอาไม่อนุญาตไง"
ที่มหาลัย เพชร สาริน แอ๊บบี้ และตำรวจหลายนาย กำลังค้นหาบริเวณต่างๆ รอบมหาลัย
ทุกคนมีสีหน้าเคร่งเครียด เพราะไม่เจอใครเลย
เพชร สาริน เดินมาเจอกันที่ด้านหน้ามหาลัย
"เจออะไรบางไหม"
เพชรส่ายหน้า
"ครั้งนี้คนร้ายใช้วิธีลักพาตัว ไม่ได้ลงมือฆ่า ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์หรือพยานเลย"
"ฉันไปดูกล้องวงจรปิดมา ไม่เจอเหมือนกัน บางทีอาจจะเกิดเรื่องนอกมหาลัยก็ได้"
เสียงโทรศัพท์ดัง สารินกดรับ
"แอ๊บบี้เหรอ มีอะไร"
" เจอหลักฐานแล้วก็พยานแล้วค่ะ"
ที่ด้านข้างของมหาลัย ผู้กองเพชร หมวดสาริน วิ่งมาเจอแอ๊บบี้ นั่งอยู่กับสุรพล
"ลุงอีกแล้วเหรอ"
"คนมันดวงดี แม่หนูเจอไอ้นี่น่ะ"
แอ๊บบี้ โชว์รองเท้าปรางที่หล่นอยู่ 1 ข้าง
"กำลังจะตรวจสอบค่ะว่าใช่ของปรางไหม"
"ลุงเห็นปรางโดนลักพาตัวไปเหรอ"
"ไม่เห็นหรอก ถ้าเห็น ลุงคงโวยวายไปแล้ว"
"ลุงภารโรงบอกว่า เห็นรถตู้จอดอยู่บริเวณนี้ค่ะ"
"จำทะเบียนรถได้ไหม"
"ใครจะไปจำเล่า โอ้ย จำได้แค่รถสีขาวๆ มันจอดอยู่ตั้งแต่เช้าแล้ว พอ 9 โมงมันก็ออกไปแล้ว"
"ไปขอกล้องวงจรปิด แล้วสั่งให้ตำรวจตรวจรถตู้สีขาวทุกคัน ด่วนเลย"
"ได้เลย"
"เดี๋ยวก่อนๆ ถ้าได้ป้ายทะเบียนแล้วบอกลุงด้วยล่ะ"
"ทำไมครับ"
"วันนี้วันที่ 16 เอ็งก็รู้ว่าจะเอาไปทำไม หึหึหึ"
แอ๊บบี้ สาริน อยู่ในห้องของ DEI เสียงโทรศัพท์โทรศัพท์ดัง
"ค่ะผู้กอง"
"แอ๊บบี้ ลองเสิร์ชข้อมูลของ สุรพล ธนารัตน์ หน่อย มีชื่อนี้ในฐานข้อมูลไหม"
"สุรพล ธนารัตน์นะคะ เดี๋ยวแอ๊บบี้หาให้แป๊บค่ะ"
"จะหาทำไม ไม่คุ้นชือนี้อีกเหรอ" สารินว่า
"ผู้หมวดสารินรู้จักเหรอคะ"
"ก็ลุงภารโรงคนที่เจอศพที่มหาลัยไง"
เพชร ทำหน้าตกใจ
"ว่าไงนะ ….แอ๊บบี้ รีบส่งที่อยู่ของภารโรงมาให้ผมเดี๋ยวนี้ แล้วรีบส่งกำลังตำรวจไปที่บ้านภารโรงเดี๋ยวนี้เลย"
"ค่ะผู้กอง"
แอ๊บบี้ สารินตกใจ รีบออกไปทันที
เอมิ เฌอแตม หมอก้อย เดินมาด้วยกัน มุ่งหน้าไปบ้านลุงภารโรง สุรพล
"เหลือเกินเลย คิดยังไงถึงจะมาสืบคดีเอง"
"เอาน่าคะอา อย่างน้อย อาก็ยอมมาด้วย" เฌอแตมบอก
"อาไม่อยากยอมหรอกนะ ถ้าเธอไม่ตื้อขนาดนั้น ยังไงก็ตาม แค่ถึงหน้าบ้านก็พอนะ ห้ามเข้าไป"
"หลังนี้แหละค่ะ ตามที่อยู่ที่โรงเรียนให้มา"
ด้านหน้าบ้าน เป็นบ้านดูโทรมๆ ยากจน เหมือนไม่มีใครอยู่
เฌอแตมพยายามดันประตูเข้าไป แต่ไม่สำเร็จ
"ล๊อคอยู่"
"ก็แหง ใครเค้าจะเปิดบ้านไว้ล่ะ" เอมิบอก
"ปีนไหม"
"อย่านะ สัญญากับอาก้อยว่าไง เห็นบ้านแล้วก็กลับได้แล้ว"
" อะไรน่ะหนูๆ"
เอมิ เฌอแตม ก้อย ตกใจ หันไปตามเสียง
"เพื่อนของลูกลุงเหรอ"
เฌอแตมบอก "ใช่ค่ะ"
เอมิ ก้อย มองหน้าเฌอแตมพร้อมกัน
"ดีเลย ไม่มีเพื่อนสาวๆ มาเยี่ยมลูกชายลุงนานแล้ว มาๆ เข้ามาในบ้านก่อน"
สุรพลเชิญทั้งสามเข้าบ้าน
เอมิ ก้อย ทำท่ากล้าๆ กลัวๆ แต่เห็นเฌอแตมเดินเข้าไปแล้วก็จำใจต้องเดินตามไป
พอทั้งสามคนเข้าไปหมด สุรพลก็ทำการล๊อคบ้าน
สุรพลยิ้มอย่างน่าสงสัย
สุรพลเชิญสาวๆ นั่งลง
"เชิญก่อนๆ สวยๆ ทั้งนั้นเลย เพิ่งรู้ว่าลูกชายมีเพื่อนสวยๆ กันขนาดนี้ เค้ายังไม่กลับมา สงสัยไปเล่นบาสกับเพื่อนๆ น่ะ รอไปก่อนนะ เดี๋ยวเอาน้ำมาให้"
สุรพล เดินไปด้านหลัง
ทุกคนหันมองรอบๆบ้าน เห็นบรรยากาศว่ามีชุดกีฬาบาส และภาพลูกชายที่เล่นบาสอยู่ เต็มไปหมด ทั้งสามคนเริ่มผวา
"ลูกชายคุณลุงเค้าเสียไปแล้วไม่ใช่เหรอ" ก้อยว่า
"ก็น่าจะนะคะ ถ้ายังจะอยู่แถวนี้ก็แปลว่า"
"ผีน่ะเหรอ" เฌอแตมว่า
"คุยอะไรกันเหรอ"
ทั้งสามสะดุ้ง จู่ๆ คุณลุงก็โผล่เข้ามาพร้อมน้ำ
"ไม่มีอะไรค่ะ ถ้าน้องเค้ายังไม่กลับมา พวกหนูออกไปก่อนดีไหมคะ" หมอก้อยบอก
ทั้งสามทำท่าจะลุก ลุงภารโรงรีบห้าม
" ไม่ต้องรีบๆ แป๊บเดียว รู้มั้ยว่าลูกลุงเก่งมากนะ ตอนอยู่โรงเรียนเกือบจะได้โควต้านักกีฬาบาสแล้ว เสียดาย ไอ้หมาบางตัวมันไปแกล้งลูกลุง ทำให้ลูกลุงไม่ได้โค้วต้า เฮ้อ"
เอมิว่า"ค่ะ"
"อาว่าเค้าดูหลงๆ ลืมๆ แกจะเป็นฆาตกรหรือเปล่า" ก้อยว่า
"ไม่รู้หรอกค่ะ แต่เฌอแตมอยากออกจากที่นี่แล้ว"
"เอมิขอไปห้องน้ำก่อนนะ"
เอมิลุกเดินออกไปทางด้านหลัง
เฌอแตม แอบหยิบโทรศัพท์มากดโทร.
เอมิ เดินเลี้ยวไป แต่ก่อนจะถึงห้องน้ำก็ได้ยินเสียงอะไรดังกุกกักมาจากด้านในห้องอีกห้องหนึ่ง
เอมิตกใจ พยายามลองเปิดประตูแง้มออกดู ก็เห็นปรางโดนมัด ท่าทางสลืมสลือ พยายามดิ้นอย่างเบาๆ
เอมิจะกรี๊ด แต่จู่ๆ ก็โดนสุรพลเข้าล๊อคตัวจากด้านหลัง พร้อมมีดด้วย
"ห้องน้ำมันอยู่อีกทางนะหนู"
ทางด้านเฌอแตมกดโทรศัพท์
"ฮัลโหล พี่ซิน รีบมาด่วนเลย"
กองกำลังตำรวจมุ่งตรงมาที่หน้าบ้านภารโรง
อีกด้าน ซินขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาด้วย รีบตรงไปหาผู้กองเพชร
"ผู้กอง เอมิ โดนลุงภารโรงจับเป็นตัวประกันอยู่"
"มันเป็นไปได้ยังไง เอมิมาเกี่ยวอะไรด้วย"
"เอมิเฌอแตม กับอาก้อยมาสืบกันเอง ตอนนี้อยู่ข้างใน"
พวกตำรวจเริ่มแตกตื่น สาริน รีบสั่งตำรวจ ทำวงล้อม
ภารโรงจับเอมิเป็นตัวประกัน ก้อย เฌอแตมดูแตกตื่น ด้านนอกมีเสียงไซเรนดัง
"พวกแกเรียกตำรวจมาเหรอ" สุรพลถาม
เพชร สาริน ถีบประตูเข้ามา
"อย่าเข้ามานะเว้ย"
"ปล่อยมือจากผู้หญิง แล้วคุยกันดีๆ"สารินบอก
"เดี๋ยวลูกชายคุณก็กลับมาแล้วนะคะ" หมอก้อยบอก
"ลูกกูตายไปแล้ว มันจะกลับมาได้ยังไง"
"อ้าว ลุงไม่ได้บ้านิ" เฌอแตมว่า
"ถ้ากูสติดี พ่อไอ้ธีมันจะยอมจ้างกูเหรอ มันคงคิดว่า ที่กูเลอะๆ เลือนๆ เพราะเสียลูกมันเลยสงสารยอมรับกูมาทำงานเป็นภารโรงที่นี่"
"แสดงว่าลุงวางแผนแก้แค้นพวกแม๊กซ์ โต้ มานานแล้ว"
"มีไอ้ธีอีกคนที่กูจะฆ่าด้วย พวกมันทำให้ลูกกูฆ่าตัวตาย"
ในอดีตสนามบาสเกตบอลของโรงเรียน สุรพจน์ ลูกชายของสุรพล กำลังซ้อมบาส กับพวกเด็กๆ ในโรงเรียน
" ลูกกูมีแววเรื่องบาสมาตั้งแต่เด็ก แต่เพราะพวกมันหมั่นไส้ลูกกู เลยโดนกลั่นแกล้งสารพัด"
สุรพจน์ โดน โต้ แม๊กซ์ ขัดขาล้มขณะเลี้ยงบาส
ที่หน้าล๊อคเกอร์ สุรพจน์เปิดตู้ล๊อคเกอร์ เจอเสื้อผ้านักกีฬาของตัวเองโดนฉีกขาด
สุรพจน์ นั่งที่ริบขอบสนามกับพวกคนอื่นๆ ธีแม๊กซ์ โต้กำลังเล่นกันไม่สนใจ
ธี ทำท่าจะเข้ามาเล่นด้วยกับสุรพจน์ แต่โต้ กวักมือเรียกก่อน
สุรพจน์ ร้องไห้
"ลูกชายกูกลับบ้านมา ร้องไห้กับกูทุกวัน จนวันนึง …"
สุรพจน์ กระโดดตึกฆ่าตัวตายในโรงเรียน
สุรพลเล่าต่อ
"แต่เรื่องของลูกกูกลับไม่เคยเป็นข่าว ไม่มีตำรวจหรือหมาซักตัวลงโทษไอ้พวกเหี้ยนั่่นเลย"
เพชรถาม "แกเลยลงมือฆ่าโต้และแม๊กซ์ โดยใส่ความว่าธีเป็นคนร้าย"
"กูวางแผนมานานมาก กูแกล้งเป็นบ้ามาสมัครงานที่มหาลัยนี้ พ่อมันคงคิดว่ากูป้ำๆ เป๋อ เพราะเสียลูกไป เลยสงสาร รับกูมาทำที่นี่ จนกระทั่ง...W
วันหนึ่ง ที่หลังมหาวิทยาลัย ปราง ธี แอบมาพบกัน
"กูแอบรู้เรื่องที่ อีปรางมันนอกใจไอ้โต้ และนัดพบกับธีที่หลังมหาลัยทุกวัน"
ลุงสุรพล กำลังแอบเล่าเรื่องให้ โต้ ฟัง ท่าทีมีลับลมคมใน
"กูเอาเรื่องไปบอกไอ้โต้ ให้มาดักรอที่หลังมหาลัยตามที่กูบอก"
โต้กับสุรพล มาที่หลังมหาวิทยาลัย เพื่อรอซุ่มดูปรางกับธี แล้วเอาหินที่เตรียมมา กระแทกไปที่หัวของโต้จนเสียชีวิต
ภายในบ้าน สุรพลยังจี้ตัวประกันอยู่
"ตอนนี้เหลือแค่ไอ้ธี มันก็เป็นอีกคนที่ต้องลงไปขอโทษลูกกู"
เพชรบอก "การล้างแค้นมันไม่ได้แก้ปัญหาอะไรหรอกนะ"
"แล้วตำรวจมันช่วยอะไรได้เหรอ สุดท้ายไอ้ผอ.นั่นก็ยัดเงินทั้งตำรวจ ทั้งนักข่าว ไม่ให้คุ้ยคดี ปล่อยให้คนเลวๆ ใช้ชีวิตสุขสบาย"
สุรพลชี้ไปที่รูปลูกชายในชุดนักกีฬาบาส
"มันมีอนาคต ได้เป็นนักกีฬาอย่างที่ลูกกูไฝ่ฝัน มันยุติธรรมกับกูใช่ไหม มันพรากลูกไปจากกู กูก็จะฆ่ามัน นี่แหละเรียกว่ายุติธรรม"
"แต่เด็กที่คุณจับตัวไว้อยู่เป็นลูกผม คุณจะฆ่าลูกสาวผมทั้งที่ไมมีความผิด มันก็ไม่ยุติธรรมเหมือนกัน"
สุรพลอึ้งไป
สุรพลยกมีดชี้เพชร
"งั้นมึงไปพาไอ้ธีมาหากู ไม่งั้นกูจะฆ่าลูกมึง"
"ได้ ….ตอนนี้แหละ"
"ตอนนี้"
จู่ๆ ชินก็ปรากฎตัวจากข้างหลัง เข้าจับแขนข้างที่มีมีดของสุรพล กระแทกที่มือแรงๆ จนมีดกระเด็น
ขณะที่สุรพลร้องอย่างเจ็บปวด ซินก็บิดข้อมือสุรพล ล๊อคหลัง เอมิ หลุดรอดจากสุรพลสำเร็จ เอมิโผเข้ากอดเพชร
ซินกดสุรพลลงกับพื้น
หมวดสาริน รีบวิ่งเข้าไปช่วยปราง ที่โดนมัดอยู่ในห้องต่างหาก
"ปล่อยกู มึงปล่อยกูกูจะฆ่ามัน"
ที่สนามกีฬา วันต่อมา ซิน ธี กำลังแข่งบาส พวกเพชร เฌอแตม เอมิ ปราง นั่งอยู่บนอัฒจันทร์
"พี่ซิน สู้ๆ" เฌอแตมบอก
"คดีจบแล้ว ฉันยังไม่รู้เลยว่า ทำไมเธอถึงโดนจับตัวไป"
"หนูเห็นลุงสุรพลกำลังค้นล๊อคเกอร์ของโต้ เลยสะกดรอยตามไป ก็เลยโดนทำร้าย" ปรางบอก
"แล้วทำไมลุงภารโรงต้องค้นของโต้ด้วยค่ะ"
" เพราะรูปถ่ายที่พวกเธอเห็นนั่นแหละ ลุงสุรพลส่งมันไปให้โต้ เพื่อบอกว่าจะล้างแค้นเรื่องในอดีต แต่รู้ว่าถ้ารูปถ่ายถึงมือตำรวจเมื่อไร เรื่องอาจสาวมาถึงตัวได้ เลยต้องไปทำลายหลักฐาน"
"ทั้งหมดเป็นเพราะฝีมือพี่ซิน และนักสืบมือหนึ่งอย่างเฌอแตมแท้ๆ"
เพชรบอก "หยุดเลยเรา เกือบทำให้เอมิตกอยู่ในอันตรายแล้วยังจะพูดอีก"
"รู้แล้วค่า หนูโดนพี่ซินว่าจนไม่กล้าไปคุยกับเค้าแล้ว"
"แต่ว่าคุณลุงดูน่าสงสารนะคะ ต้องมีชีวิตอยู่กับความแค้นตั้งหลายปี" เอมิบอก
" เพราะเค้าปล่อยให้ความแค้นสิงอยู่ในจิตใจ ไม่ยอมปล่อยวางน่ะสิ สุดท้ายชีวิตก็จะจมอยู่กับความแค้น ไม่ไหนไม่ได้ ไม่ต่างอะไรกับผีที่ไม่ได้ผุดได้เกิด"
"อาเพชรพูดเปรียบเทียบซะขนลุกเลย"
ธีวิ่งเข้าไปชู้ตบาสทำแต้มอย่างสวยงาม ทุกคนเฮดีใจ
ปรางยืนเชียร์อยู่ขอบสนาม โบกไม้โบกมือให้
ธีหันกลับมาโบกมือให้ปรางตอบ
จู่ๆ ผีโต้ ก็ปรากฎตัวในชุดกีฬาบาส พร้อมลูกบาส ธีตกใจมาก
โต้ปาลูกบาสใส่ธี ธีรับไว้ได้ทัน
ธีหันกลับไป โต้ก็หายไปแล้ว ทำให้ธีต้องขยี้ตามองใหม่
"เป็นอะไร ยืนงงอยู่นั่นแหละ ไปเล่นต่อไป" ชินว่า
ธีนึกว่าตัวเองคงเบลอ กลับไปเล่นบาสต่อ
ซินหันกลับมามองที่ขอบสนาม เห็นผีโต้ยืนจังงังอยู่
ซินยกมือห้าม พลางส่ายหน้าให้ไป
โต้ค่อยๆ สลายหายไป
ซินกลับไปเล่นบาสต่อ
อ่านต่อตอนที่ 13