DIAMOND EYESตา-สัมผัส-ผี ตอนที่ 11
ตอน “คดีนักกีฬาเลือด 1”
เวลากลางคืน
โต้ ธี กำลังเล่นซ้อมบาสเก็ตบอลกันอยู่ที่สนาม
แม๊กซ์ กำลังเลี้ยงลูกบาสเกตบอล เพื่อเข้าชู้ตใต้แป้น ธีเข้ามาขวางไว้
แม๊กซ์ พยายามเลี้ยงหลอกหลายครั้ง แต่ธีกันไว้ได้ตลอด
แม๊กซ์รำคาญ ผลักธีกระเด็น แล้วเลี้ยงเข้ามาชู้ตใต้ห่วง ได้แต้มไป
ซินรีบเข้ามาช่วยธีที่ล้มลง สีหน้าเจ็บ
“สะดุดขาตัวเองล้มเหรอ ไอ้ธี” ชินถาม
“สะดุดเหี้ยอะไร มึงผลักชัดๆ”
“เอาน่า แค่ซ้อมๆ เอง” โต้ว่า
“จะซ้อมหรือจะเอาจริง มันก็ไม่ควรแรงขนาดนั้นหรือเปล่า”
“บาสมันก็ต้องมีกระแทกกระทั้นกันบ้าง ถ้าทนไม่ไหว ก็ไปเล่นโดดยางไป” แม๊กช์ว่า
ธีจะเข้าไปซัด ซินพยายามห้ามไว้ก่อน
“มะรืนนี้แข่งคัดตัว ถ้ามึงยังเล่นแบบนี้อีก กูเอามึงตายแน่ไอ้โต้ ไอ้แม๊กซ์”
อีกด้านหนึ่ง ปรางเดินมารอที่ขอบสนาม โบกมือเรียก
“โต้!! ทำอะไรน่ะ”
“เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะตาย ไปเว้ย”
โต้ แม๊กซ์ ทำหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อน เดินออกมาจากสนาม
เวลาต่อมา ด้านนอกสนาม แม๊กซ์ โต้ ปราง เดินด้วยกัน
“ไอ้ไก่อ่อนแบบนั้น มะรืนนี้แม่งไม่รอดแน่นอน” แม๊กซ์บอก
“อย่างมัน ถ้าไม่อาศัยบารมีพ่อ ไม่ได้เป็นหรอกนักกีฬา จริงมั้ยปราง”
โต้กอดปราง และหอมแก้มปราง
ปรางพยักหน้า แต่แอบแฝงสีหน้าไม่พอใจ
“เฮ้ยเดี๋ยวกูคงไปก่อนแล้วไม่อยู่ขวางพวกมึงหรอก”
แม๊กซ์ เดินแยกออกมา
“โต้ บอกแล้วไงว่าอย่าไปหาเรื่องกันอีก” ปรางบอก
“เรื่องของฉันน่ะ เธอไม่เกี่ยว”
“ปรางไม่อยากให้โต้มีปัญหากับใคร ทำได้ไหม”
“ไม่ต้องพูดมากหรอก เธอเป็นแม่ฉันเหรอไงห๊ะ”
โต้ใช้มือบีบหน้าปรางไว้ ปรางเจ็บ พยายามเบือนหน้า
โต้ปล่อยมือ หัวเราะชอบใจ
ปรางเดินคอตกตามโต้ไป
แม๊กซ์กำลังก้าวเท้าเดินในมหาวิทยาลัย เพื่อกลับบ้าน ท่ามกลางบรรยากาศดึกๆ
จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาสองเสียง
แม๊กซ์ตกใจ หันไปมองตามเสียง แต่ก็ไม่เห็นใคร พลางสงสัยว่าจะคิดไปเอง เขาเดินต่อมา คราวนี้มีเสียงลูกบาสเกตบอลกระแทกพื้นดังตึงๆ
แม๊กซ์ตกใจ หันไปตามเสียง
ลูกบาสเกตบอลเก่าๆ กลิ้งมาโดนเท้าของแม๊กซ์
“ของใครว๊ะ เฮ้ย!”
ด้านหลังแม๊กซ์ คนร้ายพุ่งเข้ามา เอาของแข็งฟาดใส่แม๊กซ์
แม๊กซ์ล้มลง หัวชุ่มไปด้วยเลือด
“มึง!”
ลูกบาสเกตบอลกลิ้งผ่านหน้า เปื้อนหยดเลือดของแม๊กซ์
วันรุ่งขึ้น ผู้กองเพชร ขับรถพาเอมิมาที่หน้าบ้านหมอเนตรดาว
หมอก้อย เฌอแตม ยืนรอรับเพชรอยู่แล้ว
“ช่วงนี้งานไม่ยุ่งเหรอคะ ถึงได้มีเวลามารับเฌอแตมด้วย”
“คุณเห็นผมเป็นคนยังไง ถึงจะงานยุ่ง แต่ผมก็แบ่งเวลาเป็นนะ”
“เมื่อคืนก็เบี้ยวนัดข้าวเย็นอยู่เลย” เอมิบอก
“เอมิ หายงอนน่า เดี๋ยวคืนนี้พ่อเลี้ยงเนื้อย่างนะ”
เฌอแตมดีใจ“เนื้อย่าง เย้”
หมอก้อยถาม“เค้าเลี้ยงเอมิ เราไปเกี่ยวอะไรด้วย”
“ไม่เป็นไรครับ ผมนัดคุณหมอด้วยเลยแล้วกัน ไม่ทราบว่าสะดวกไหมครับ”
“ดีเลยค่ะ ก้อยจะได้ตรวจตาคุณไปพร้อมกันเลย เผื่อว่านัดวันอาทิตย์นี้จะเบี้ยวอีก”
“ไม่เบี้ยวแล้วครับ”
เสียงโทรศัพท์ผ็กองเพชรดัง เขารับสาย ตกใจ
“ฮัลโหล ….อะไรนะ … เวลานี้เนี่ยนะ”
เอมิรู้ทัน“สงสัยมีคดี”
“เดี๋ยวผมค่อยไปได้มั้ย พวกคุณจัดการไปเลยก็ได้ ….แต่ว่า”
“ถ้าจำเป็นจริงๆ ก้อยพาเด็กๆ ไปส่งเองก็ได้คะ” หมอก้อยว่า
“แต่ว่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ ก็แค่เหมือนทุกๆ วัน”
เอมิลงจากรถ ผู้กองเพชรถอนหายใจ
ทางเดินมหาลัย ฝ่ายตำรวจกั้นเทปล้อมพื้นที่เกิดเหตุที่แม๊กซ์เสียชีวิตไว้ เจ้าหน้าที่ DEI กำลังปฏิบัติหน้าที่ รอบๆ มีไทยมุงเต็มไปหมด
แสนแสบบอก
“ดูจากสภาพการณ์แล้วคนร้ายน่าจะแค่ลักทรัพย์ อาจจะเป็นวัยรุ่นแย่งทรัพย์สินกันเอง”
“วิเคราะห์ได้ดี เคยมีใครบอกให้ไปสมัครตำรวจไหมแสนแสบ” หมวดสารินถาม
“ยังเลยครับ”
“ดีแล้ว สงสารตำรวจ เป็นนักข่าวไปแหละ”
“งานนี้ต้องถึงมือ DEI เลยเหรอครับ คดีลักทรัพย์ธรรมดาแท้ๆ”
“ฟังนะ ผู้ตายใช้มือถือเครื่องล่ะไม่กี่พัน รองเท้าก็เก่า กระเป๋าก็เยิน ถ้านายเป็นโจร จะเลือกฆ่าคนเอาเงินแค่ไม่กี่ร้อยจริงๆ เหรอ”
“แสดงว่า นี่ต้องเป็นการอำพรางคดี” แสนแสบจดๆรายละเอียด “วิเคราะห์ได้เยี่ยม”
“แน่นอน”
“แต่จะดีกว่านี้อีกนะ ถ้าไม่เผลอไปเปิดเผยรูปคดีให้นักข่าวแบบนี้”
“อ้าว ไอ้แสนแสบ หลอกถามกูเหรอเนี่ย”
แสนแสบยิ้ม “ขอบคุณสำหรับข่าวนะครับผู้หมวด”
เพชรส่ายหน้าหัวเราะ สารินเซ็ง
ผู้กองเพชรเดินมาอีกมุมของมหาวิทยาลัย
ลุงภารโรง สุรพล แต่งตัวมอซอ ท่าทางมีอายุพอประมาณ กำลังให้ปากคำกับแอ๊บบี้อยู่
“ตอนลุงเห็นศพครั้งแรก ลุงก็นึกว่าไอ้เด็กที่ไหนมันมาเมาในมหาลัย ที่ไหนได้ เป็นภารโรงมา 30 ปี เพิ่งเคยเจอศพเนี่ย”
“แล้วตอนนั้นเจอกี่โมงคะ”
“หลังตักบาตรเสร็จน่ะ กำลังจะพาลูกไปโรงเรียนเลย”
“แล้วลุงรู้จักกับคนตายมาก่อนไหมครับ”
“ถามว่าใครไม่รู้จักดีกว่า ไอ้แม๊กซ์ เนี่ยมันเกเร หาเรื่องเค้าไปทั่ว ใครๆ ก็อยากให้มันตาย ลูกลุงยังเคยโดนมันแกล้งเลย”
สารินถาม “พอจะรู้มั้ยว่า มีใครแค้นพอจะฆ่าตายบ้าง หรือมีคู่กรณีซักกี่คน”
สุรพลนั่งนับนิ้ว
“เยอะ นับไม่หมดหรอก ไปถามคนขายลูกชิ้นปิ้งโน้นก็ได้ ว่าเคยโดนมันกวนตีนไหม”
เพชร สาริน ยืนอยู่หน้าร้านขายลูกชิ้นข้างทาง คนขายกำลังเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
“คราวก่อนมันขี่มอเตอร์ไซค์มาปาดหน้าร้านลุง ลูกชิ้นกระจายหมด ไปเรียกให้มันชดใช้ มันดันเอาเพื่อนมันมากระทืบลุง ซี่โครงยังเขียวอยู่เลย”
“ลุงเลยแค้น จะไปฆ่าเค้า” สารินว่า
“โอ้ย แค่นี้ลุงไม่เอาตายหรอก จะเอาถ่ายยัดปากมัน ไปถามเด็กมหาลัยโน้นไป มีคนแค้นมันเยอะ”
สาวมหาวิทยาลัยนั่งตรงม้าหินอ่อน เพชร สาริน แอ๊บบี้ นั่งฟังคำให้การ
“ไม่โกรธได้ไง พี่คิดดูนะ พอหนูไม่ยอมเป็นแฟนมัน แม่งเอาFacebook หนูไปลงเว็ปขายตัว”
“แล้วได้แจ้งความไหมครับ” สารินถาม
“แจ้งทำไมอ่ะพี่ หนูก็กลัวมันดักฉุดหนูน่ะสิ พวกเยอะอยู่ด้วย”
“เว็ปไหนครับ”
แอ๊บบี้รู้ทัน “ฮึม”
“ก็เผื่อให้หน่วยอื่นไปปิดเว็บไงครับ ไม่ได้คิดอะไรเลย”
“หลังจากนั้นมาก็ไม่มีผู้ชายคนไหนมาจีบหนูอีกเลย ผู้กองเข้าใจความรู้สึกหนูมั้ยคะ”
สาวมหาวิทยาลัยเข้าไปจับมือสาริน พลางซบอก
“ฮึมอะไรล่ะ ไปซักพยานต่อ” แอ๊บบี้ว่า
ด้านผู้กองเพชรกับซิน เดินไปตามทางที่กำลังจะไปที่สนามบาสเกตบอล
“นายคิดว่าอาจเป็นการฆ่าล้างแค้น”
“แม๊กซ์เป็นอันธพาล ใครก็รู้ มีเรื่องชกต่อยจนเกือบจะโดนไล่ออกหลายครั้งแล้ว”
“แล้วนายคิดว่าใครมีความแค้นกับมันมากที่สุด”
“ไม่รู้สิ ผมมั้ง”
“หือ?”
“ไม่รู้หรอกครับ แต่เชื่อเถอะ มันตายไปมีแต่คนดีใจ”
“หน้าที่ฉันคือหาตัวคนร้าย ถ้านายไม่มีเบาะแส ก็อย่ามากวน”
“ผมแค่จะบอกว่าถามทีละคนมันเสียเวลา สู้ถามตรงประเด็นคนเดียวเลยดีกว่า”
“ถามใคร”
“เพื่อนสนิทมัน โน้น”
ซินชี้ไปในสนาม เห็นโต้กำลังเลี้ยงบาสเกตบอลกับพวกเพื่อนๆในแก๊งอยู่
“มันชื่อไอ้โต้ เวลามันทำอะไรเลวๆ มันไปพร้อมกันตลอด มันต้องรู้แน่ๆ ว่าใครที่แค้นพอจะฆ่าไอ้แม๊กซ์บ้าง”
ผู้กองเพชร และ ซิน เดินลงมาที่กลางสนาม โต้กำลังชู้ตบาสเกตบอลอยู่ ไม่สนใจทั้งคู่
“โต้หรือเปล่า อาขอคุยด้วยหน่อยสิ” ผู้กองเพชรถาม
โต้กวนตีนใส่ “ไม่ว่าง”
เพชรเอาตราตำรวจมาโชว์
“ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่หน่อยน่า เป็นเพื่อนกับแม๊กซ์ที่ตายไปใช่ไหม”
“ใช่ครับ”
“เสียใจด้วยนะ พอจะรู้ไหมว่ามีใครแค้นแม๊กซ์มากๆ บ้าง”
“มีครับ ….มัน” โต้ชี้ไปที่ซิน
“อ้าว ! เฮ้ย”
“หรือไม่จริง วันก่อนมึงก็เกือบจะต่อยกับมันแล้ว มึงอาจจะแค้นจนอยากจะฆ่าก็ได้”
“ถ้าเป็นมึงน่ะไม่แน่”
“เฮ้ยๆๆๆ นี่ต่อหน้าตำรวจนะ แล้วมีใครอีกบ้างไหม”
โต้ใส่ทันที “อีกคนก็เพื่อนมันน่ะ ไอ้ธี มันยังพูดว่าจะฆ่าพวกกูเลย ใครก็ได้ยิน จริงมั้ย”
เพื่อนๆ ต่างพยักหน้า
“ธีไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก มึงอย่าหาเรื่อง” ชินว่า
“มึงพูดเหมือนไอ้ธีเป็นคนดีนักหนา มึงไม่รู้หรอกว่า ก่อนหน้านี่มันทำเหี้ยไรมาบ้าง พรุ่งนี้มีคัดตัวนักกีฬาด้วย ไอ้ธีมันอาจจะอยากได้โควตามากจนฆ่าไอ้แม๊กซ์ก็ได้”
“พวกเล่นสกปรกอย่างพวกมึง ไม่ได้โควตาหรอก”
“ใครกันแน่ที่จะเล่นสกปรก ถามไอ้ธีเหอะว่าคราวนี้พ่อมันจะยัดใต้โต๊ะกี่บาท”
“มึง!”
“พอๆ กลับ”
ผู้กองเพชรดึงซินออกมา
ทั้งสองเดินออกมา
“อย่างที่เห็น ใครก็อยากฆ่ามันทั้งนั้น”
“พอเข้าใจ ว่าแต่ใครคือธี” เพชรถาม
“เพื่อนผมเอง ใครๆ ก็คิดว่ามันเป็นคนไม่ดี แต่นิสัยมันดี ผมรู้จักมันดี”
“แล้วเรื่องยัดเงินอะไรนั่นล่ะ”
“พ่อธีเค้าเป็นผู้อำนวยการของมหาลัยนี้ เลยมีข่าวว่ามันอาศัยเส้นพ่อให้ได้เรียนที่นี่”
“ดี งั้นพาไปคุยด้วยหน่อยสิ”
“อย่าบอกนะว่าสงสัยธี มันไม่ทำอะไรแบบนี้หรอก”
“แต่ก็มีเรื่องชิงตำแหน่งผู้เล่นตัวจริงกันใช่ไหม”
“ก็ใช่ แต่มันไม่มีอะไรหรอก”
“ถ้าไม่มีอะไรก็พาไป อย่าใช้อคติในการสืบสวน จำไว้” ผู้กองเพชรสอนชินในที
ธีนั่งรถมากับพ่อ ธีกำลังสวมหูฟังเพลงอยู่
“พรุ่งนี้จะมีคัดเลือกนักกีฬาบาสแล้วใช่ไหม พร้อมหรือเปล่า”
“ครับพ่อ”
“เมื่อเช้าพ่อได้ข่าวว่าแม๊กซ์ โดนฆ่าชิงทรัพย์ ลูกได้ยินข่าวมั้ย”
“ไม่ครับพ่อ”
“นอกจากเรื่องบาสก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับพวกมันแล้วใช่มั้ย”
“ครับพ่อ ตั้งแต่เรื่องเมื่อตอนนั้น”
“เอาเถอะ อย่าไปพูดถึงมันเลย ถ้านักข่าวหรือตำรวจมาถามอะไร ก็บอกไม่รู้ไม่เห็นไปแล้วกัน”
“ครับพ่อ”
พ่อธี ขับรถจอดที่หน้ามหาวิทยาลัย แล้วขับออกไป
ธีลงจากรถ
เพชกับซิน เดินมารับ
“ไงธี เออ… รู้เรื่องไอ้แม๊กซ์แล้วใช่ป่ะ”
“อือ ตกใจเหมือนกัน ว่าแต่ นี่?”
เพชรชูตราตำรวจพร้อมบอก
“ตำรวจ สังกัดหน่วย DEI พี่ขอถามอะไรหน่อย”
ทั้งสามเดินคุยกันมาในบริเวณทางเดินในมหาวิทยาลัย
“ผมกับพวกแม๊กซ์ รู้จักกันตั้งแต่มัธยมครับ ตอนนั้นก็ยังสนิทๆ กันอยู่ แต่พอแม๊กซ์กับโต้ เริ่มเกเร ผมก็ออกจากแก๊งค์มา เพราะไม่อยากยุ่งด้วย”
“เคยมีเรื่องอะไรผิดใจกันมากๆ ไหม”
“คนเราเจอกันก็ต้องทะเลาะกันน่ะครับ แต่ถึงต้องฆ่ามั้ยคงไม่ครับ”
“ใช่ครับ อย่างผู้กองกับผมก็ทะเลาะกันบ่อยๆ ไม่เห็นแปลก”
“มีคนบอกว่าเธอพูดว่าจะฆ่าโต้”
“ก็อารมณ์พาไปครับ”
“ตอนอยู่ร่วมแก๊งกัน เคยทำอะไรไม่ดีบ้างไหม”
“ผู้กอง ธีมันไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกครับ” ชินว่า
“คุณคงคิดว่าผมเป็นคนเลวเหมือนกันใช่มั้ย”
“ฉันแค่ถาม”
“ผมไม่รู้ว่าคุณได้ยินอะไรมา แต่ก่อนผมอาจจะเคยทำอะไร..บ้าๆ แกล้งคนนั่นคนนี้กับพวกมัน แต่ตั้งแต่ผมออกมา ผมก็ไม่เคยทำอะไรอย่างนั้นอีก”
“ฉันเข้าใจ งั้นขออีกคำถาม เมื่อวานหลังเลิกเรียน นายอยู่ไหน”
“ติวหนังสือครับ ช่วงนี้ผมใกล้สอบ”
“โอเค ขอบใจที่ให้ความร่วมมือนะ”
ธีเดินออกไป หยิบหูฟังในกระเป๋าออกมาสวมสองข้าง
“คุณยังสงสัยธีอยู่ไหม” ชินถาม
“ตราบเท่าที่ไม่มีหลักฐานเพิ่มเติม ทุกคนก็ดูหน้าสงสัยหมดแหละ”
เพชร เดินออกไปอีกทาง
ซินท่าทางเซ็ง ที่ผู้กองเพชรยังสงสัยในตัวธี เพื่อนของเขา
ในห้องพักนักกีฬา โต้กำลังเตรียมตัวแข่งกับเพื่อนๆ
ปรางมายืนรอให้กำลังใจข้างๆ
“เดี๋ยวพวกมึงไปก่อนนะ เดี๋ยวกูตามไป” โต้บอก
เพื่อนๆ เดินออกไป โต้เดินมาทางปราง
“พยายามเข้านะ”
“ถึงไม่พูดฉันก็ทำเต็มที่อยู่แล้วน่า”
“แล้วก็...อย่าทำอะไรรุนแรงเข้าใจไหม” ปรางว่า
“เลิกพูดแบบนี้ได้แล้ว หรือว่าเธอเป็นห่วงใครในนั้นหรือเปล่า”
“ไม่ใช่นะ ปรางเป็นห่วงโต้นั่นแหละ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่ะ เดี๋ยวจะเอาตำแหน่งตัวจริงมาฝาก”
โต้ กำลังจะเดินออกมา แต่นึกอะไรได้ หันกลับมาพูดกับปราง
“วันนี้พี่คงไปฉลองกัน เธอกลับไปก่อนได้เลยนะ”
โต้ยิ้ม เดินออกไป ปรางทำหน้าครุ่นคิด
ต่อมา ... บรรยากาศในสนามกำลังแข่งบาสเกตบอล ซิน ธี อยู่ทีมเดียวกัน โต้ กับเพื่อนๆ อยู่คนละทีม
ก้อย เอมิ เฌอแตม นั่งเชียร์อยู่บนอัฒจันทร์ เฌอแตมเอามือถือขึ้นมาบันทึกภาพด้วย
“พี่ซิน สู้เค้านะคะ” เฌอแตมบอก
“พี่ซิน สู้ๆ” เอมิว่า
ซินกำลังเลี้ยงลูกบาสเกตบอลอยู่ หันมาส่งยิ้มให้เอมิ
โต้ อาศัยจังหวะ แย่งลูกจากมือซิน บุกกลับ
“ตั้งใจหน่อยดิ” ธีเตือน
ซินทำมือขอโทษ กลับไปเล่นต่อ
ธีเข้าไปป้องกัน โต้บุกเข้ามา โต้พยายามบุกหลายครั้ง แต่ก็สลัดธีไม่หลุด
“เอาสิ คราวนี้มึงจะเล่นไม้ไหนอีก”
โต้อาศัยจังหวะกรรมการเผลอ อัดศอกเข้าไปที่ท้องของธีเข้าเต็มๆ
โต้ วิ่งเข้าไปชู้ตลง
ธีล้มลงไป
“ไอ้ธี” ชินเรียก ตกใจ
บนอัฒจันทร์ พวกก้อย เอมิ เฌอแตม ตกใจ
“เกิดอะไรขึ้นน่ะ”เอมิพูดขึ้น
“บาสเค้าเล่นกันแรงขนาดนี้เลยเหรอ” หมอก้อยว่า
ภายในสนาม ธีท่าทางไม่พอใจ
“มึงศอกกู”
“เปล่านะเว้ย กูก็แค่เหวี่ยงตัว มึงเอาพุงมาโดนศอกกูเอง”
“ใจเย็นๆ เว้ยธี”
“กูไม่ทนแล้วเว้ย”
ธีจะพุ่งเข้าไปต่อย กรรมการมาเป่านกหวีด
“พอๆ ไม่งั้นอาจารย์ไล่ออกทุกคนนะ”
ข้ามเวลามา แต้มสกอร์บอร์ดฝั่งโต้ ได้แต้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ในสนาม ธีทำท่าเลี้ยงบาสเกตบอล กำลังจะชู้ต โต้เข้ามาเหยียบเท้า ทำให้ธีสะดุด
โต้คว้าลูก บุกลับมาชู้ต ได้แต้ม
ธีสีหน้าเครียดขึ้น
พวกเอมิที่ดูอยู่บนอัฒจันทร์ ดูกระวนกระวายใจ
พวกนักกีฬา มายืนเข้าแถวรอเรียกชื่อนักกีฬาตัวจริง กรรมการยืนเรียกชื่อทีละคน
“รายชื่อต่อไปนี้ คือคนที่จะได้เป็นนักกีฬาตัวจริง คนแรก บรรพต คนที่สอง ธเนศ คนที่สาม …”
โต้ ยิ้มเยาะเย้ยธี
“คนสุดท้าย โตมร”
โต้ดีใจ “เย้ ขอบคุณครับอาจารย์”
“อาจารย์ มันเล่นขี้โกงใครก็รู้” ชินว่า
“อาจารย์เห็นแต่ว่าเค้าเล่นดีกว่า ส่วนพวกเธอไม่ต้องเสียใจ อาจารย์จะให้เป็นตัวสำรองนะ”
“นั่งอุ่นที่นั่งรอไปแล้วกันนะ”
โต้ยิ้มสบายใจ
ธี และ ซิน ดูเจ็บแค้นมาก
ธีทุบกับกำแพงห้องพักนักกีฬาอย่างเจ็บแค้น
เอมิ เฌอแตม ซิน นั่งหน้าจ๋อยกัน
“ไม่เป็นไรนะ แค่นี้เองเราทำเต็มที่แล้ว”
“เราเต็มที่ตามกติกา แต่มันเล่นนอกกติกา อาจารย์ก็เห็น แต่ไม่ทำอะไร”
เฌอแตมบอก“นั่นน่ะสิ เฌอแตมอัดคลิปเอาไว้ด้วย เดี๋ยวจะอัพขึ้นเฟสแฉให้หมดเลย”
เอมิบอก“ไกลขนาดนั้นจะไปเห็นอะไรได้ มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก”
ธีทุบเข้าไปที่ล๊อคเกอร์ดังปั๊ก ทุกคนตกใจ
“ใจเย็นๆ ธี พอได้แล้ว” ชินว่า
“ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ว๊ะ คอยดูนะ จะฆ่าให้ตายให้หมดเลย”
“เพื่อนพี่น่ากลัวจัง” เฌอแตมบอก
“ไม่หรอก มันแค่ปากร้ายไปงั้นแหละ จริงๆมันเป็นคนดีมากนะ”
“เอางี้ เราไปหาอะไรกินดีกว่า เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” หมอก้อยบอก
เอมิ เฌอแตมดีใจ“เย้ๆๆๆ”
“ผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีมีธุระต้องไปติวกับเพื่อนต่อ”
“เวลานี่เหรอ”
ธีพยักหน้า เก็บ ใส่หูฟังเพลง แล้วเดินออกไป
ด้านนอก สนามกีฬา โต้กับคนในทีมยิ้มเฮฮา
“เอาเว้ยไปฉลองกันดีกว่า ร้านเดิมไหม”
“ไว้ก่อนว๊ะ พอดีมีธุระ” โต้ว่า
“ไปฉลองกับแฟนอ่ะเด้ ฮ่าๆ”
โต้ยิ้ม
เพื่อนๆโต้เดินออกไป
โต้ทำหน้าจริงจัง เก็บข้าวของไปอีกทาง
บรรยากาศตอนเช้า ภารโรงเดินร้องเพลงมาที่ด้านหลังของมหาวิทยาลัย
ระหว่างที่เดินอยู่ ภารโรงมองเห็นลูกบาสเก่าๆ กลิ้งมา เลยเก็บเอาไว้
ภารโรงมองตามไปที่พุ่มไม้ที่ลูกบาสกลิ้งมา ก็เดินตรงเข้าไป
เมื่อแหวกพุ่มไม้เข้ามา เห็นโต้นอนฟุบอยู่ ที่หัวมีรอยเลือดน่าสยดสยอง
“อ๊าก”
วันเดียวกัน ผู้กองเพชร ขับรถมาพร้อมกับเอมิเหมือนเคย
“พนันกันไหมว่า วันนี้คุณจะได้ไปส่งเอมิหรือเปล่า”
“ได้แน่นอน พนันด้วยข้าวเย็นมื้อนี้เลย”
“จะเรียกว่าพนันยังไง ในเมื่อคุณก็ต้องเลี้ยงอยู่แล้วนิ”
ก้อย เฌอแตม ยืนรอหน้าบ้าน
“คราวนี้ไม่มีพลาดแน่นอนครับ” ผู้กองว่า
“ค่า”
“ว่าแต่ คดีที่มหาลัยเรียบร้อยดีมั้ยคะ” เฌอแตมถาม
“ไปได้ยินมาจากไหน”
“จากพี่ซินค่ะ”
“ก็เรื่อยๆ จ้ะ คงจะปิดคดีได้ไม่ยาก ถ้าไม่มีอะไรวุ่นวายอีกนะ”
เสียงโทรศัพท์เพชรดัง
“สงสัยจะเป็นเสียงความวุ่นวายนะคะ” หมอก้อยพูดดักคอ
เพชรทำหน้าบึ้ง กดรับ
“ฮัลโหล….อีกคดีแล้วเหรอ แต่ว่า…”
เพชรหันไปที่ลูกสาว
เอมิ เฌอแตมพยักหน้าอย่างเข้าใจ ทั้งสองลงจากรถ
หมอก้อยหยิบกระเป๋า แล้วหันมองหน้าเพชร
“รบกวนด้วยนะครับ”
“อย่าลืมนัดที่โรงพยาบาลแล้วกันนะคะ”
เอมิ ชูสองนิ้ว
“สู้ๆ จ้ะ” เพชรบอก
“เปล่า คุณติดหนู 2 มื้อแล้วต่างหาก”
ผู้กองเพชรทำหน้าเซ็ง ขับรถออกไป
ที่ด้านหลังโรงเรียน ตอนนี้มีเทปล้อมรอบที่เกิดเหตุไว้ ตำรวจและไทยมุงเต็มไปหมด
ศพของโต้ นอนซุกอยู่ในพุ่มไม้ แอ๊บบี้กำลังเก็บหลักฐาน หมวดสาริน ผู้กองเพชรกำลังยืนถกเครียด แสนแสบรัวชัตเตอร์ถ่ายรูป
“ศพที่สองแล้วนะครับ หรือว่านี่จะเป็น ฆาตกรต่อเนื่อง”
“ถ้าใช่แล้วไง กลัวเหรอ” สารินถาม
“ถ้าใช่ก็เด็ดเลยน่ะสิครับ หนังสือพิมพ์ผมรวยเละแน่นอน” แสนแสบบอก
“จะทำอะไรก็เห็นแก่ผู้ตายหน่อย” ผู้กองเพชรเตือน
“ครับผม ว่าแต่ผู้กองมีเบาะแสะหรือยังครับ”
แอ๊บบี้บอก
“ประมาณเวลาเสียชีวิต น่าจะช่วงเย็นเมื่อวาน แต่ยังระบุเวลาชัดเจนไม่ได้ เพราะว่าศพแข็งตัวเร็วมาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร”
“คงเพราะเพิ่งตายหลังออกกำลังกายมา” เพชรบอก
“นายรู้ได้ไง หรือว่า ...ผีมาบอก” สารินถาม
“ดูชุดเอาก็รู้ ยังไม่เปลี่ยนเสื้อเลย”
“ผู้กองครับ พยานรอสอบปากคำอยู่ด้านโน้นครับ” เจ้าหน้าที่บอก
เพชร สารินกำลังจะเดินไป แต่ปรากฎ จู่ๆ เพชรหันไปเห็นโต้ ยืนจังงังอยู่ตรงด้านหนึ่ง
“เดี๋ยวนายไปสอบปากคำก่อนนะ เดี๋ยวฉันตามไป”
ภารโรงสุรพลนั่งรอให้ปากคำอยู่อีกด้าน ในมือถือลูกบาสเกตบอลอยู่
“ลุงอีกแล้วเหรอ” สารินว่า
“คนมันจะดวงซวยน่ะผู้กอง เมื่อวานเล่าให้ลูกชาย ลูกบอกผมน่าจะไปซื้อหวย อาจจะถูกก็ได้”
“ตอนเจอศพมีอะไรผิดสังเกตไหมคะ” แอ๊บบี้บอก
“อย่างอะไรล่ะ... ผู้กอง” ภารโรงงงกับคำถาม
“แบบ อะไรที่มันไม่ควรจะอยู่ตรงนั้นน่ะ”
“มันก็ผิดไปหมดแหละ หลังโรงเรียนมันก็มีเด็กมาแอบสูบบุหรี่บ้าง มาจีบกันบ้าง ขยะก็เต็มไปหมด ที่ดูผิดปรกติที่สุดก็ ... มี ก็ศพไง”
“โว้ย เหนื่อย” สารินบอก
“แล้วลูกบาสนั่นของลุงเหรอ” แอ๊บบี้ถาม
“เปล่า เก็บได้ตรงที่เจอศพน่ะ ว่าจะเอาไปฝากลูกชาย ลูกมันชอบเล่นบาส แต่เก่าขนาดนี้ไม่รู้ลูกมันจะเอาไหม”
“เอาไปทำไม นี่มันหลักฐาน โอ้ย”
สุรพลยื่นให้สาริน หมวดสารินเอาถุงพลาสติกใสห่อ
ผู้กองเพชร เดินตามผีโต้มาเรื่อยๆ …
ระหว่างทางมีเสียงเดาะบาสสลับเป็นระยะๆ
เพชรเดินมาจนถึงสนาม
ลูกบาสเกตบอลเด้งมา เพชรหลบ
ลูกบาสเด้งมาต่อเนื่องไม่หยุด เพชรหลบได้หมด
“นายต้องการอะไร…. ใครเป็นคนฆ่านาย”
ผีโต้ยืนอยู่ที่ริมผนัง ในมือถือลูกบาส
ผีโต้ปาลูกบาสใส่เพชร เพชรหลบ ลูกบาสเด้งไปโดนตู้ล๊อคเกอร์ ตู้ล๊อคเกอร์เปิด
ด้านในตู้มีภาพบอกว่า เป็นล๊อคเกอร์ของ ธี
ธี กำลังเดินอยู่ที่มหาลัย ใส่หูฟังข้างเดียว
ซินเดินเข้ามาทัก
“ธี รู้ข่าวเรื่องที่โต้เสียแล้วใช่มั้ย”
“อือ แกสนิทกับตำรวจ รู้มั้ยว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“ไม่รู้ แต่เค้าจะมาถามเรื่องนี้กับมึงแน่ มึงเตรียมตัวไว้นะ”
ผู้กองเพชรดักรออยู่ด้านนอก
“นั่นไง”
“ผู้กอง” ธีพึมพำ
“ว่างไหม ขอคุยด้วยหน่อยสิ”
“ผู้กองจะมาถามเรื่องไอ้โต้ใช่ไหม ผมบอกแล้วไงว่าใครก็อยากฆ่ามันทั้งนั้น”
“ฉันไม่ได้ถามนาย ธีเมื่อวานหลังแข่งบาสเสร็จ ไปอยู่ที่ไหน”
ธีนิ่งไปพักนึง “เมื่อวานผมไปติวหนังสือกับเพื่อนมา”
“ที่ไหนเหรอ ? พอจะบอกได้ไหมว่ามีใครไปบ้าง”
“เพื่อนผมบอกว่าไปติวก็ไปติวสิ ไม่เชื่อเหรอ”
“ถ้าไม่มีอะไรก็ตอบความจริงก็ได้”
“ครับ คือเมื่อวานนี้” ธีเริ่มต้นพูด
“ลูกไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” พี่ธีเข้ามาขัด
“คุณ”
“ผมวัลลพ เป็นพ่อของธี แล้วก็เป็นผู้อำนวยการของมหาวิทยาลัยนี้ คุณ”
“เพชร ภูมิไท เจ้าหน้าที่หน่วย DMI ครับ”
“เมื่อวานลูกผมไปติวหนังสือมา ผมเป็นพยานได้” วัลลพบอก
“ก็ดีครับ”
“คุณดูตั้งใจทำงานดี แต่จะดีกว่านี้ ถ้ารู้จักขอบเขตบ้างว่า อะไรแตะต้องได้ อะไรไม่ควร เข้าใจไหมครับ”
“ทราบครับ”
“ธี ตามพ่อมา”
วัลลพกับลูกเดินแยกตัวออกมา
“เมื่อวานลูกไปติวหนังสือมาจริงใช่ไหม”
“ครับพ่อ”
“ถ้างั้นก็ดี พ่อได้ยินเรื่องที่แม๊กซ์กับโต้เสียแล้ว ไม่ได้คบอะไรกับพวกมันแล้วใช่ไหม”
“ครับพ่อ ตั้งแต่วันนั้นมา”
“ก็ดี ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปกลับบ้านพร้อมพ่อ อย่าไปให้ข่าวหรือไปคุยกับตำรวจคนไหนทั้งนั้น เข้าใจไหม”
“ครับพ่อ”
วัลลพกับธี เดินออกมา
ฝ่ายซินกับเพชร เดินไปอีกทาง
“ผมบอกแล้วไงว่า เพื่อนผมมันไม่ใช่คนที่จะฆ่าใครได้”
“80 เปอร์เซ็นของฆาตกรที่ฉันจับมา ดูไม่น่าจะฆ่าใครได้ทั้งนั้นแหละ”
“แน่ใจนะว่าไม่ได้จับแพะมั่ว”
“อยากลองไหมล่ะ” เพชรหยิบกุญแจมือออกมา
“ล้อเล่นน่า เอางี้ ผมเชื่อว่าเพื่อนผมบริสุทธิ์” ชินยืนยัน
“งั้นก็หาหลักฐานมา ถ้านายหาไม่ได้ นายวางมือจากคดีนี้ซะ ถ้าหาได้”
ซินบอก “ผมขอไปเที่ยวกับเอมิ”
“ได้….เฮ้ย!”
“โอเคนะครับ เดี๋ยวผมรีบมา”
ซินรีบวิ่งออกไป ผู้กองเพชรมัวแต่อึ้ง
แอ๊บบี้ หมวดสาริน พยายามค้นหาหลักฐานหลังมหาวิทยาลัย ด้วยท่าคลานเข่า
ทั้งคู่ค่อยๆ ถอยหลังมาจนหลังชนกัน
“ผู้กอง ตั้งใจหาหน่อยสิคะ”
“ก็ตั้งใจหาอยู่เนี่ย เธอนั่นแหละ อย่ามากวนฉัน”
“แอ๊บบี้ก็ไม่ได้กวนซักหน่อย ไหงต้องมาล้มลุกคลุกคลาน ชีวิตเปื้อนฝุ่นแบบนี้ทุกวันก็ไม่รู้”
“ถ้าไม่มีคนมานั่งคลุกฝุ่น หลักฐานมันจะลอยไปห้องแล๊ปเองไหม”
“เฮ้อ เลอะหมดแล้ว รอผู้กองเพชรมาดีว่า จะได้ถามเค้าทีเดียวเลย จะได้เร็วๆ”
“ถามใคร” สารินถาม
“ก็ผีไง”
“เฮ้ย เป็นฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน ดันมาเชื่อเรื่องเห็นผี ไร้สาระ งมงายทั้งหน่วยแล้ว”
เสียงพุ่มไม้ดัง สารินสะดุ้ง
“อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย”
“ไม่งมงายเลยนะผู้กอง”
ใครบางคนแอบขยับตัวไหวๆ ทำให้ทั้งสองคนตกใจอีก
“ใครน่ะ”
“อย่าไปทักสิ เดี๋ยวมาหลอกมาหลอนกันทำไง”
สาริน แอ๊บบี้ เงียบ พยายามมองรอบๆ อย่างระมัดระวัง ใครบางคนอาศัยจังหวะ รีบวิ่งผ่านหลังสารินหนีไปได้
ที่บริเวณโต๊ะหิน เหล่านักศึกษา เพื่อนธี กำลังจับกลุ่มนั่งอ่านหนังสือกันอยู่ 3 คน
ซินเดินเข้ามาพร้อมกับเพชร
“เฮ้ย พวกนาย เป็นเพื่อนเรียนพิเศษกับไอ้ธีมันใช่ไหม”
นักศึกษา 1บอก “ใช่ๆ”
“เมื่อวาน ธีก็ไปเรียนกับพวกนายมาหรือเปล่า”
นักศึกษา 2 บอก “แน่นอน”
ซินพูดกับเพชร
“เท่านี้ผมก็ได้ไปเดทกับเอมิแล้ว”
“มันก็ไม่แน่หรอก” เพชรพูดกับพวกนักศึกษ “พี่เป็นตำรวจนะ” พร้อมโชว์ตราให้ดู “พอดีจะมาสอบถามอะไรน้องๆ หน่อย เมื่อวานไปติวกันมาใช่ไหม”
นักศึกษา 1 บอก “ครับผม”
“ไหนบอกพี่พร้อมกันซิว่าติววิชาอะไร”
นักศึกษากำลังจะตอบ เพชรยกมือห้าม ทุกคนชะงัก
“เดี๋ยว!! เขียนใส่กระดาษมา แล้วหงายมาพร้อมๆ กัน”
พวกนักศึกษาชะงัก
ทุกคนเขียนคำตอบ แล้วนับ 1 2 3 หงายออกมา
คนหนึ่งเขียน ฟิสิกส์ อีกคนหนึ่งเขียน ภาษาอังกฤษ คนสุดท้ายเขียน การตลาด ต่างไปกันคนละทิศละทาง
“ตกลงไปติวอะไรกันมาแน่”
นักศึกษา 1บอก “คือ เราไปติวฟิสิกส์ก่อน แล้วค่อยติวภาษาอังกฤษ แล้วก็ต่อด้วยการตลาดครับ”
เพชรยิ้ม ขู่เบาๆ “ พี่เป็นตำรวจนะ รู้ใช่ไหมว่าให้การเท็จการโดนจับได้นะ”
“เออ ...จริงๆ คือเมื่อวานไม่มีติวครับ แต่ธีบอกให้บอกอย่างนี้ ถ้าพ่อมาถาม เราไม่ได้เจตนานะครับ”
เพชรยิ้ม แต่ซินหน้าเครียด
ทั้งคู่เดินออกมา
“มันต้องมีสาเหตุถึงต้องโกหกแน่ๆ” ชินบอก
“แต่เรารู้แล้วว่าธีปิดบังบางอย่างอยู่”
“ผมจะหาความจริงให้เอง”
“เดี๋ยว นายลืมแล้วเหรอว่า สัญญาอะไรกับฉันไว้”
“แต่ธีไม่ใช่คนร้าย”
“นายจะสืบคดีโดยใช้ความรู้สึกส่วนตัวไม่ได้ เพราะมันจะทำให้นายมองไม่เห็นความจริง”
“ผู้กองก็เหมือนคนอื่นๆ อคติ ตัดสินคนแค่ด้านเดียว”
“นายนั่นแหละที่อคติ ยึดถือแต่ด้านที่ตัวเองต้องการ …. วางมือซะ ก่อนที่อะไรมันจะแย่ไปกว่านี้”
เพชรเดินจากมา แต่ซินยืนเครียดอยู่
ซินตามข้อมูลต่อ เขาซักถามนักศึกษาที่กำลังเดินอยู่ ในมือถือสมุดจดบันทึกคดี
“เมื่อวันก่อนหลังแข่งบาสเสร็จ นายเห็นธีหรือเปล่า”
“ไม่เห็นนะ”
ที่ร้านขายค้า ซินกำลังถามคนขายลูกชิ้นปิ้ง
“ตอนราวๆ 5 โมงเย็น เห็นใครผิดสังเกตแถวๆ นี้ไหมครับ”
“ไม่รู้หรอก”
ต่อมา ซินคอยดักถามคนเดินผ่านไปมา
ทุกคนเอาแต่สายหัว ไม่ตอบคำถาม
ซินท่าทางกลุ้มใจ
ซิน กำลังเดินพกสมุดจดบันทึกคำให้การของพวกคนอื่นๆ เขาเดินผ่านเฌอแตมที่นั่งใส่แว่นดำเก๊กหน้า
“พ่อหนุ่มคนนั้นน่ะ ทำหน้ากลุ้มใจ มีอะไรหรือเปล่า”
“ทำอะไรของเธอ”
“ได้ข่าวว่าที่นี่มีคดีฆาตกรรมถึงสองคดี ยอดนักสืบอย่างเฌอแตมเลยอยากจะช่วย”
“กลับบ้านไปกินนมนอนไป”
ซินเดินผ่านไม่สนใจ
“เดี๋ยวสิ อยากช่วยจริงๆ นะเนี่ย ไม่เชื่อเหรอว่าทำได้”
“มันไม่ใช่ในหนังนะ ที่จะให้ใครหน้าไหนไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาสืบน่ะ”
“เห็นเป็นผู้หญิงแล้วจะมาดูถูกกันไม่ได้นะ”
ซินเดินไป ไม่สนใจ
“นี่ บอกว่าจะช่วยไง”
เฌอแตมน้อยใจ ที่โดนเมินใส่
ผู้กองเพชร นั่งลงบนเก้าอี้ภายในห้องทำงาน ท่าทางเหน็ดเหนื่อย
เขานึกย้อน ... เขาเจอผีโต้ ปาลูกบาสใส่ล๊อคเกอร์ของธี
เพชร พลางหยิบยามาหยอดตา
หมวดสาริน แอ๊บบี้ เดินเข้ามาพร้อมเอกสาร
“อ่ะ นี่สรุปคดีที่มหาลัย”
“ได้อะไรมาบ้าง”
“ได้คนหนีผีมาค่ะ”
“นี่เธอ”
เพชรถามย้ำ“ยังไงนะ”
“ก็ไม่ใช่อะไร พอดีว่าเจอ ...พลังงานบางอย่างแถวที่เกิดเหตุ”
“มีคนแอบเข้าไปในที่เกิดเหตุหรือเปล่า” ผู้กองถาม
“อ้าวเฮ้ย ทีก่อนหน้าบอกเห็นผีๆ ทีฉันพูดทำไมไม่เชื่อวะ”
“แล้วผู้กองเพชรเจอไหมคะ”
เพชรพยักหน้า “ก็ ...เกือบโดนลูกบาสอัดหน้า”
“แน่ใจนะว่าไม่ใช่เด็กที่ไหนมาแกล้ง” สารินถาม
“ก็ไม่รู้เหมือนกัน” ผู้กองหัวเราะ
“จะว่าไปแล้ว นี่ผลการตรวจสอบลูกบาสที่เก็บได้ที่เกิดเหตุ เป็นลูกบาสเก่าไม่ได้ล้างมาหลายปี ส่วนรอยนิ้วมือก็ เพียบเลยค่ะ”
“ของใครบ้าง”
“ของลุงภารโรง เต็มเลยค่ะ แต่ว่าสำคัญคือ มันมีรอยเลือดของแม๊กซ์ด้วยค่ะ”
“แสดงว่าคนร้ายสองคดีนี้ ต้องเป็นคนเดียวกัน” สารินบอก
“ฆาตกรต่อเนื่อง” เพชรว่า
ซินก้มหน้าก้มตา ค้นหาอะไรหลักฐาน ด้วยการพลิกกองขยะที่รกๆ คอยดูว่าจะเจออะไรบาง แต่ไม่เจออะไรเลย
ซินท่าทางกระวนกระวาย
เฌอแตมแกล้งตะโกน “ขโมย”
“อะไรของเธอ ตกใจหมด”
“ช่วยด้วยค่ะ ขโมย กำลังทำอะไรอยู่ในที่เกิดเหตุก็ไม่รู้”
“ถ้าไม่มีอะไร จะไปไหนก็ไปป่ะ พี่กำลังหาหลักฐานอยู่”
“ให้ช่วยมั้ย”
“งั้นช่วย...ไปไกลๆ หน่อย ขอร้อง”
“เล่นด้วยก็ไม่เล่นด้วย จะเครียดไปไหนล่ะพี่ซิน”
“เพราะเธอคิดว่าเป็นการเล่นไง แต่ที่ฉันทำอยู่มันเกี่ยวกับชีวิตคนนะ”
ซินก้มหน้าก้มตาหาหลักฐานอื่นๆ ต่อไป
“เฌอแตมรู้ว่าพี่ซินกำลังเครียด แต่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาหาหลักฐานไม่พักผ่อนเลยไม่ได้หรอกนะ เงยหน้าขึ้นมาดูอะไรบ้าง อาจจะเห็นอะไรดีๆ ก็ได้”
เฌอแตมชี้ไปที่ต้นไม้
“นั่นดูสิ มีอะไรข้างบนนี้ด้วย”
ซินมองตาม แต่ไม่เห็นอะไร
“อะไร”
เฌอแตมชี้ที่ตัวเอง “นางฟ้า”
ซินทำหน้าไม่สบอารมณ์ แต่เหมือนเอะใจอะไรบางอย่าง
ซินค่อยๆ ลุกขึ้น ใบหน้าค่อยๆ เข้าใกล้เฌอแตมช้าๆ
เฌอแตมยิ้ม หันมาเห็นซินเงยหน้าจ้องมองตัวเอง ก็ตกใจ นึกว่ากำลังจะโดนจูบ
ซินมองเลยไปที่กิ่งไม้ ส่วนเฌอแตมหลับตาปี๋
“ไอ้นี่มัน ….”
เฌอแตมลืมตา ซินเอื้อมมือไปคว้าอะไรที่กิ่งไม้บนหัว
“ตกใจหมด”
ซินหยิบหูฟังส่วนที่ขาดเกี่ยวติดกับกิ่งไม้มา พลางนึกย้อนไป
วันก่อนวันแข่งขัน ธีใส่หูฟังสองข้าง
หลังวันเกิดเหตุ ที่ผู้กองเพชรไปสอบถาม แล้วเห็น ธี ใส่หูฟังข้างเดียว
ซินสีหน้าครุ่นคิด
เฌอแตมมองซินอย่างงงๆ
“เป็นไปไม่ได้”
ซินเดินออกมา
ที่สนามบาสเกตบอล ธี กำลังซ้อมบาสอยู่คนเดียว
ธีชู้ตบาสพลาด
ซินเดินเข้ามา หยิบลูกบาสที่ธีชู้ตไม่ลง
“ไม่มีสมาธิหรือไง แค่นี้ก็พลาด”
“เรียนหนักน่ะ หัวคิดแต่เรื่องสอบปลายภาค”
“ถึงได้ไปติวช่วงเย็นบ่อยๆ ใช่ไหม”
“อือ”
ซินตั้งท่าเล่น 1 to 1 กับธี ธียอมเล่นด้วย
ซินเบียดเข้ามา ธีขวางทางไว้ แต่สุดท้าย ซินก็ฝ่ากำแพงของธี เข้ามาชู้ตใต้บาสได้
“เล่นแบบนี้ระวังฉันแซงเป็นตัวจริงนะเว้ย”
“เอาสิ ฉันอาจจะเลิกเล่นบาสแล้วก็ได้”
“ทำไม”
“มันมีความทรงจำแย่ๆ มากเกินไป”
ธีเลิกเล่นบาส เดินไปเก็บของ หยิบหูฟังอันใหม่ออกมาจากกระเป๋า
“อันใหม่เหรอ”
“อือ ...อันเก่าเสียงมันไม่ดีน่ะ โยนทิ้งไปแล้ว”
“นายมีอะไรกลุ้มใจก็บอกกันตรงๆ ก็ได้นะ”
“อือ….. ขอบใจ”
ธีเดินจากไป เหลือไว้แต่ซินที่ยืนกลุ้มใจลำพัง
พวกผู้กองเพชร แอ๊บบี้ สาริน นั่งกันอยู่ในห้องสอบสวน
ซินเดินเข้ามา พร้อมโยนหูฟังขาดที่เป็นหลักฐานลงบนโต๊ะ
“หลักฐาน ….ว่าธีอยู่ในที่เกิดเหตุ”
“ฉันบอกแล้วไงให้นายวางมือ”
“คุณบอกผมเลิกอคติ ตอนนี้ผมไม่มีแล้ว คุณก็เลิกอคติกับผมด้วย”
“ถ้าลายนิ้วมือตรงกับธี เราก็ออกหมายจับธีได้” สารินบอก
“แอ๊บบี้จะรีบจัดการเดียวนี้ค่ะ”
“ธีบอกว่าหูฟังอีกข้างทิ้งไปแล้ว อาจมีใครแอบเอาไปวางไว้ในที่เกิดเหตุ ธีจะอ้างเรื่องนั้นได้”
“ไหนว่าไม่มีอคติ ทำไมยังเข้าข้างเพื่อนอีก”
“ผมไม่ได้เข้าข้าง ผมมีแผน”
เพชร ซิน ยิ้ม
“แผนอะไรของพวกนาย” สารินถาม
“จับผีที่พวกนายเจอวันก่อนไง”
อ่านต่อตอนที่ 12