DIAMOND EYESตา-สัมผัส-ผี ตอนที่ 10
ตอน “เด็กวัด”
ณ วัดแห่งหนึ่ง 2 สามีภรรยาที่มาทำบุญ ทั้งคู่กำลังไหว้พระ
“ นมัสการค่ะหลวงตา”
“เจริญพร”
“พอดีพวกเราว่าจะทำบุญให้ครบ 9 วัดนะคะ วัดนี้ก็วัดที่ 8 แล้ว”
ฝ่ายสามีบอก “นี่ทำเป็นคุยนะครับหลวงตา แค่วัดที่ 5 ก็บ่นเมื่อยแล้ว นี่เป็นปัจจัยเล็กๆน้อยๆ
ครับ เราอยากบำรุงพระพุทธศาสนาครับ”
“งั้นโยมก็รับพรนะ อายุ วรรณโณ สุขัง พะลัง”
“สาธุ” ภรรยาบอก
“เจริญพรนะโยมนะ”
“งั้นเดี๋ยวพวกเราขอตัวไปไหว้พระในโบสถ์ก่อนนะเจ้าคะ”
นักข่าวอาชญากรรม แสนแสบเอากล้องติดตัวมาด้วยเพื่อถ่ายรูปบรรยากาศในวัด
“ไหว้พระเถอะไอ้แสบเอ้ย” หลวงตาบอก
“ก็หลวงตาเป็นพระนี่ครับ จะให้ไปไหว้แพะที่ไหนละครับ”
“เข้ามาใกล้ๆซิ”
“คิดถึงหรอ” แสบแสบขยับเข้าไปใกล้ๆหลวงตา
“นี่แน่ะ” หลวงตาเอามือเขกหัวแสนแสบ
“นี่ครับหลวงตา ผมเอาส้มมาฝากครับ”
“ตั้งแต่เอ็งเป็นนักข่าว หายหัวไปเลยนะ”
“จะลืมได้ยังไงละครับหลวงตา ถ้าไม่มีวัดนี้ ก็ไม่มีแสนแสบคนนี้หรอกครับ...เอ่อว่า แต่เด็กวัดคนอื่นๆไปไหนกันหมดละครับ เด็กวัดคนอื่นๆด้วยเนี่ยะ ไม่มาปฎิบัติดูแลหลวงตาเลย... งั้นผมลาเลยนะครับ”
“ไปดีมาดีนะ”
“เอ่อคือ..ผมคงไปดีมาดีแน่ครับ ถ้าหลวงตาพอจะแบบว่า...เงินเดือนผมยังไม่ออกนะครับ”
“ข้าสังหรณ์ตั้งแต่เห็นหน้าเอ็งแล้ว ..เลี้ยงไม่โตซักที”
หลวงตาพูดพร้อมกับหยิบเงินในซองให้
“หลวงตาครับหลวงตา ไอ้ป๋องโดนกระทืบครับ” เด็กวัดคนหนึ่งวิ่งมาบอก
“ห๊ะ”
“ไป เราไปดูซิ”
บริเวณหลังวัดที่เกิดเหตุ เด็กวัดกลุ่มหนึ่งกำลังรุมทำร้ายร่างกายป๋อง
“พี่จอร์จ หลวงตามา”
“วิ่งหนี”
“พี่แสบ”
ป๋องโผเข้ากอดแสนแสบ
ก่อนหน้านี้ ที่ร้านขายของชำ
จอร์จและเด็กวัดคนอื่นๆ กำลังขโมยของในร้านขายของชำ
ป๋องตะโกน “อาแปะ อาแปะ โจรโจร”
อาแปะร้านขายของชำ จับจอร์จได้ เลยเรียกตำรวจมาจัดการ จอร์จแค้นป๋อง กำมือแน่น
ต่อมา ภายในรถแท็กซี่ เสียงโทรศัพท์ของแสนแสบ ดังขึ้น
“ครับ ครับ เดี๋ยวผมจะรีบไปครับ”
แสนแสบวางโทรศัพท์
“พี่ครับกลับไปที่วัดเมื้อกี้ด่วนเลยครับ”
ที่หน่วยงาน DEI หมวดสารินถาม
“แอ๊บบี้ คนสวยทำอะไรอยู่จ๊ะ ดูซีรีส์เกาหลีปะเนี่ย”
“ กำลังนั่งอ่านข่าวอยู่คะ คนเราสมัยนี้ถูกหลอกกันง่ายเนอะ ขนาดใส่สร้อยทองอยู่กับคอ แท้ๆ ยังถูกหลอกให้ไปแลกกับลอตเตอรี่ปลอม”
“คนเราอะนะ ถ้ามันไม่โลภเนี่ยะ ไม่เดือดร้อนหรอก แล้วผู้กองเพชร ไปรับลูกสาวที่โรงเรียนแล้วหรอ”
“อืม ไปซักพักแล้วละ นี่แอ๊บบี้ว่าจะแอบแว๊บอยู่เหมือนกัน”
“หรอ ไปส่งไหม”
“ไม่เอาอะ แอ๊บบี้กลัวหมวด”
“โอ๊ะ กลัวอะไรละ”
“หมวดไม่รู้ตัวหรอ หมวดนี่สายหื่นเลยนะ”
โทรศัพท์แอ๊บบี้ดังขึ้น
“ฮัลโหลคะ...ได้คะ”
แอ๊บบี้วางโทรศัทพ์
“มีคนโทร.มาว่า พบศพเด็กวัดถูกฆ่าตาย อยากจะให้เราไปตรวจสอบ”
“ก็ไปซิ กำลังเบื่อๆอยู่พอดี ป่ะ...จักร”
“ ครับ”
“เดี๋ยวเดี๋ยวรอด้วยหมวด”
ภายในโบสถ์ ศพป๋องนอนอยู่ที่พื้น ในสภาพเลือดอาบ
ที่ใบหน้าด้านขวา ตั้งแต่ขมับจนถึงกราม มีรอยถูกตีด้วยของแข็ง
“แต่ว่าไม่พบร่องรอยการต่อสู้” หมวดสารินบอก
“หมวดครับ หลวงตายืนยันว่าไม่มีอะไรหายไปครับ เงินในตู้บริจาคก็อยู่ครบ”
“งั้นก็ตัดประเด็นฆ่าชิงทรัพย์ไปได้เลย” หมวดสารินบอก
“ถ้าอย่างงั้นฆาตกร จะทำไปเพื่ออะไร” แอ๊บบี้ว่า
หมวดสารินสงสัย “นั่นนะซิ”
แสนแสบวิ่งเขามา เพื่อขอไปดูศพ
“ศพอยู่ไหนครับ ขอผมเข้าไปดูหน่อยครับ ผมเป็นนักข่าวครับ”
“เรากำลังเก็บหลักฐานอยู่ นายเข้ามาไม่ได้” สารินบอก
“ผมรู้จักกับผู้ตายครับ”
“นายรู้จักกับผู้ตายด้วยหรอ”
บริเวณนอกโบสถ์ แสนแสบคุยกับหมวดสาริน
“ป๋อง เป็นเด็กกพร้าครับ หลวงตาเอามาเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆ สมัยผมเรียนหนังสือผมก็อยู่ที่นี่”
“นายพอจะรู้ไหม ว่า ป๋องพอจะมีเรื่องกับใครบ้าง”
“จอร์จครับ”
ต่อมา ตำรวจจับกุมตัว จอร์จ
“ปล่อยผม ผมไม่ได้ทำ จับผมทำไมเนี่ย”
หมู่จักรบอก “เราพบยาบ้าอยู่ในห้องมันครับ”
“ของเอ็งใช่ไหม”
“ผู้หมวดครับ ไอ้เรื่องยา สมัยผมเป็นเด็กวัดผมก็เคยลองนะครับ เรื่องต่อยตี ผมก็เคยทำนะครับ ผมไม่เชื่อว่าไอ้จอร์จจะเลวถึงขั้นฆ่าคนนะครับ”
“นี่แสบ ตำรวจเขาทำไปตามหน้าที่ หลักฐานพยาน แวดล้อมก็มัดตัวเด็กซะขนาดนี้”
แอ๊บบี้สงสัย “ทะเลาะกันเรื่องนิดเดียว ทำไมต้องฆ่ากันด้วยหมวด”
ในร้านอาหารข้างทาง แสนแสบนั่งกินข้าวอยู่
“เอาน้ำแข็งใส 1 ครับ”
ซินเดินเข้ามา
“โทษทีนะพี่ มาสาย”
“ไม่เป็นไร นั่งก่อนๆ พี่มีไรให้ดู”
แสนแสบหยิบกล้องมาเปิดรูปให้ซินดู
“ ใครอ่ะพี่”
“มันชื่อป๋อง วันนี้มันพึ่งตาย”
“แล้วตำรวจจับคนร้ายได้ไหม”
“คนร้ายมันชื่อจอร์จ เป็นเด็กวัดด้วยกันนี่ละ แต่พี่ไม่เชื่อนะว่าไอจอร์จมันจะฆ่าไอ้ป๋อง”
“ถ้าพี่เชื่ออย่างงั้น พี่ก็หาทางช่วยเด็กที่ชื่อจอร์จซิ”
“ช่วยยังไงอะ”
“ก็หาหลักฐานซิพี่ ตามหาฆาตกรตัวจริงให้เจอ”
“อืมม”
“นึกออกแล้วพี่ ว่าใครจะช่วยพี่ได้ ....ก็ผู้กองเพชรไงพี่”
“โห้ย ไปให้เขากระทืบอะดิ ไปกวนตีนเขาไว้เยอะเลย ไม่เอาอ่ะ”
ผีป๋องกำลังเลีย น้ำแข็งใสของแสนแสบอย่างเอร็ดอร่อย
“เฮ้ย...พี่ผู้กองเพชร เขาแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวนะพี่ พี่ไม่ได้ขอให้เขาช่วยพี่ซักหน่อย แต่พี่กำลังขอให้เขาช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่งเลยนะ ถ้าพี่ไปผมไปด้วย จะได้ไปช่วยพี่พูด อีกแรงไง”
“ตกลงจะไปช่วยพูดหรือไป หรือจะไปหาลูกสาวเขากันแน่”
“เฮ้ย..พี่ผมอะอยากช่วยพี่จริงๆ”
“ หรา”
แสนแสบหยิบน้ำแข็งใสมากิน
“เฮ้ย...พี่” ชินท้วง
“ อะไร”
“เด็กที่ชื่อป๋องเนี่ยะ มันเลียไปหมดแล้วนะพี่”
“ โธ่..ไอ้เวรป๋อง อยากกินก็มาขอดีดีดิ จะได้ทำบุญไปให้”
ต่อมา ซินกำลังกดกริ่งหน้าบ้านผู้กองเพชร
“นี่ตกลงฉันต้องใช้ภาษาอะไรพูดกับแกว่ะ ว่าอย่ามาที่นี่อีก” ผู้กองเพชรเปิดฉาก
“ เดี๋ยวซิผู้กอง ผมก็ไม่อยากมาที่นี่เท่าไหร่หรอก แต่มีคนอยากจะคุยกับผู้กอง”
“ไม่ต้อนรับเว้ย ไม่ว่าจะคนหรือผี”
“ แล้วถ้าเป็นนักข่าวกระจอกๆ อยากจะคุยกับผู้กองละครับ” แสนแสบบอก
บริเวณสระว่ายน้ำในบ้านผู้กองเพชร
เอมิกำลังเก็บเศษใบไม้บริเวณสระว่ายน้ำ กับ น้อย ซินแอบมองอยู่ภายในบ้าน
“เอาตรงนั้นด้วยนะคะ ..ป้าน้อยระวังเปียกนะคะ”
ภายในบ้าน ทุกคนคุยกัน
“ มีเรื่องอะไร เร็วๆต้องไปส่งลูกที่โรงเรียน”
ซินอาสา “ถ้าผู้กองไม่ว่าง ผมไปส่งให้ก็ได้นะครับ”
“ใกล้ตายแล้วนะเรา”
“เออ..พี่แสบ เห็นพี่บอกว่าธุระของพี่สำคัญมากเลยไม่ใช่หรอ งั้นคุยกับผู้กองตัวต่อตัว
เลยนะครับ เดี๋ยวผมออกไปเดินเล่นรอ ตามสบายเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจนะครับ”
“แก ต่างหากมั้งที่ต้องเกรงใจฉัน”
“เดี๋ยวก่อนครับผู้กอง เรื่องที่ผมจะพูดมันสำคัญมากนะครับผู้กอง”
“ เออ มีไรก็ว่ามาเร็วๆ”
ระหว่างนั้น ซินรีบวิ่งไปหาเอมิ ที่อยู่นอกบ้าน
บริเวณสระว่ายน้ำ
“นี่...นายเข้ามาในบ้านฉันได้ไงเนี่ย ใครเปิดประตูให้เข้ามา”
“ก็พ่อเธอไง”
“พ่อฉันเนี่ยะนะ”
“ เราแค่บอกกับพ่อเธอว่า พ่อครับผมขอเข้าไปเจอเอมิหน่อยนะครับ แค่นี้ พ่อเธอก็เปิด
ให้เข้ามาล่ะ”
“พาพี่แสบมาด้วย พี่แสบมีธุระอะไรกับพ่ออ่ะ”
“อยากรู้จริงหรอ”
ซินและเอมิ ยืนคุยกันขณะที่ตาทั้งคู่จับจ้องไปที่ภายในบ้านที่ผู้กองเพชรและแสนแสบกำลังคุยกันอยู่
ภายในบ้าน ทั้งคู่ยังคุยกัน
“เรื่องที่เด็กวัดฆ่ากันตาย มันเกี่ยวอะไรกับฉันว่ะ”
“ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผู้กองหรอกครับ”
“แล้วถ้าไม่เกี่ยว ทำไมมาขอให้ฉันช่วย แล้วทำไมฉันต้องช่วยแก”
“ ผมไม่ได้มาขอให้ผู้กองมาช่วยผมหรอกครับ ผมมาขอให้ผู้กองช่วยเด็กวัดคนหนึ่งเท่านั้นแระครับ”
“แสบ... ถ้าเรื่องนี้ที่แกเชื่อ มันกลับไม่ได้เป็นในสิ่งที่แกคิด แกจะรับผิดชอบยังไงว่ะ ในเมื่อหลักฐานก็ชี้ชัดอยู่แล้วว่า ยังไงจอร์จเป็นคนฆ่า แถมเท่าที่ฟังดูแล้ว เด็กจอร์จก็ไม่ใช่เด็กที่ดี ไม่ได้มีอนาคตเลยด้วยซ้ำ แกมั่นใจได้ยังไงว่ามันไม่ได้เป็นคนฆ่า”
“ ผมก็เป็นเด็กวัดนะครับ เคยลองเสพยา เคยทะเลาะกับเด็กวัดด้วยกัน แต่เรื่องของเด็ก ๆมันแค่ต่อยกันมันก็จบ แต่ก็คงจริงอย่างผู้กองว่า ผมคงไม่มีปัญญาไปรับผิดชอบ ถ้าเกิดสิ่งที่ผมเชื่อไม่เป็นอย่างที่ผมคิด แต่ที่ผมมาที่นี่วันนี้ ผมแค่ทำตามความเชื่อของผมเท่านั้นละครับ ยังไงก็ขอบคุณผู้กองมากนะครับ ที่ให้ผมเข้ามา ขอตัวก่อนนะครับ”
แสนแสบว่า
เอมิกับชินคุยกันอยู่ที่บริเวณสระว่ายน้ำ
“ถ้าเป็นจริงอย่างที่พี่แสบคิด ก็น่าเห็นใจเหมือนกันเนอะ”
“ เราถึงได้อยากช่วยไง แต่ว่าจะให้เด็กวัยรุ่นหล่อๆใสๆ อย่างเรา ไปคุยกับตำรวจ เพื่อให้รื้อคดีเด็กวัดมาใหม่เนี่ยะ มันก็ไม่ใช่ไง ก็มีแต่ผู้กองเพชรนี่ละ”
“งั้นเราจะช่วยพูดกับพ่อให้อีกทีนะ”
ซิน และเอมิ ยิ้มให้กัน
“มองอะไรอ่ะ”
“อ๋อ..คือ เราว่าเราจะขอแอดเฟสบุ๊คเอมิตั้งนานแล้วอะ แต่กลัวเธอจะเข้าใจผิด”
“เข้าใจผิดเรื่องไรอะ”
“เราไม่ได้อยากเป็นเพื่อน..เราอยากเป็นแฟนอะ”
“บ้าป่ะเนี่ย”
“ ได้ไปแอดกันในโลงแน่ ไปโรงเรียนได้แล้ว”
ผู้กองเพชร พรวดเข้ามาพอดี
เอมิ รีบเดินตามเพชร เพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน
ภายในรถ เอมิถามพ่อ
“คุณรู้ตัวตอนไหนหรอคะ ว่าคุณเป็นผู้ใหญ่”
“หืม”
“ก็บางครั้งผู้ใหญ่ชอบทำตัวเหมือนเด็ก แล้วเด็กชอบทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ หนูก็เลยอยากรู้ว่า เราจะรู้ตอนไหนหรอคะ ว่าเราควรจะเป็นผู้ใหญ่และเลิกเป็นเด็กได้ซะที”
“เป็นไรมากปะเนี่ย ทำไมคำถามเหมือนผู้ใหญ่จัง เมื่อวานยังปัญญาอ่อนอยู่เลย”
“โอเค..หนูถามคุณใหม่ก็ได้ ถ้าวันหนึ่งคุณเห็นคนกำลังจะจมน้ำ แล้วคุณก็อยู่ในสถานะที่ช่วยเขาได้ แต่คุณได้ยินมาว่า คนคนนั้นเป็นคนไม่ดี คุณยังจะยินดีที่จะเสี่ยงชีวิตลงไปช่วยเขาไหมคะ”
“นี่บ้านนั่นเล่าเรื่องเด็กวัดที่ฆ่ากันตายให้ฟังละซิ”
“ค่ะ”
“ ถ้าเป็นเรา เราจะทำยังไง”
“คุณยังไม่ต้องตอบหนูตอนนี้ก็ได้คะ ถ้าเป็นหนู หนูก็คงจะคิดหนักเหมือนกัน”
ภายในห้องประชุม กองพิสูจน์หลักฐานหน่วย “DEI” (Diamond Eyes Investigation)
หมวดสารินถาม “ผู้กองเรียกประชุมด่วน มีอะไรหรอครับ”
ร.ต.อ.เพชร ภูมิไท รองผู้บังคับบัญชาการบอก
“ผมอยากจะรื้อคดีเด็กวัดฆ่ากันตายเมื่อวานนี้ขึ้นมาใหม่”
แอ๊บบี้ถาม “ทำไมคะ”
“แสนแสบมันไปหาผมที่บ้าน”
“นี่อย่าบอกนะครับ ว่ามันเอาเรื่องที่มันแอบเชื่ออยู่ลึกๆว่า นายจอร์จไม่ได้เป็นคนฆ่านายป๋องไปคุยกับผู้กองครับ เมื่อวานผมก็อยู่นะครับ หลักฐานก็ชี้ชัดซะขนาดนั้น”
“นี่อย่าบอกนะคะ ผีนายป๋องไปหาผู้กองที่บ้าน”
“เอาเป็นว่าถ้าคุณอยากรู้นะ แอ๊บบี้ คุณก็ช่วยผมได้ไหม ไปเก็บข้อมูล เกี่ยวกับมิจฉาชีพ ที่เข้าไปหากินกับวัดกับพระให้ได้มากที่สุด ส่วนสารินกับจักร ผมขอให้ลงพื้นที่อีกครั้งสอบปากคำทุกคนในวัด ว่ามีใครอีกที่เข้าไปในโบสถ์ แล้วงานนี้ผมขอให้ทุกคนทำงานให้เงียบที่สุด โดยเฉพาะแสนแสบ อย่าให้มันรู้เด็ดขาด เดี๋ยวข่าวจะรั่วไหล ไปถึงตำรวจเจ้าของคดีได้ เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราไปปักปรำว่าเขาไปจับแพะมารับโทษ ตามนี้นะ.... ฝากด้วย”
“ครับ”
ผู้กองเพชรเดินออกจากห้องประชุม
หมวดสารินบอก
“เฮ้อ งานนี้ถ้าสิ่งที่ไอ้แสนแสบมันเชื่อไม่เป็นความเชื่อ งานนี้ DEIได้หน้าแหกกันบ้าง”
“แต่ถ้าเป็นความจริง เท่ากับเราได้ช่วยชีวิตเด็กวัดไว้ได้อีกคนเลยนะครับ” จักรบอก
“งั้นก็ขอให้สิ่งที่แสนแสบมันเชื่อ เป็นความจริงแล้วกันเนอะ ไปพวกเรา...เข้าวัดเข้าวา
กันบ้าง”
“จักรนายพาหมวดเข้าวัด ดูแลหมวดด้วยนะ ระวังหมวดร้อน” แอ๊บบี้บอก
“ว่าไงนะ”
“ ก็เห็นหมวดบ่นทุกทีเวลาเข้าวัด ว่า หมวดร้อน หมวดร้อน”
“ก็ให้หลวงพี่เปิดพัดลมดิ จะยากอะไร”
ที่สถานีตำรวจ ท้องที่เกิดเหตุ
แสนแสบบอก
“นี่ไอ้จอร์จ ถ้าเอ็งอยากรอดจากคดีฆ่าคนตายเนี่ย เอ็งต้องช่วยพวกเรานะเว้ย”
“ผมต้องทำไงพี่ พี่ต้องช่วยผมนะ”
“ก็เริ่มจากนายต้องพูดความจริง” ชินบอก
“ทุกเรื่อง” แสนแสบบอก
“ยาบ้าอ่ะพี่ เป็นของผม ผมขโมยเงินของหลวงตาไปซื้อมา”
“ กูบอกกี่ทีแล้ว เรื่องยาเนี่ยะ แล้ววันนั้นเข้าไปทำอะไรในโบสถ์”
“ก็พอวันนั้นพี่กลับไป ผมก็ถูกหลวงตาลงโทษให้ไปกวาดศาลาวัด แล้วตอนผมกวาดอยู่ ผมแอบเห็นซองที่ชาวบ้านถวายหลวงตา ผมกะเอาไปซ่อนที่โบสถ์ ตอนผมเข้าไปในโบสถ์ ผมไม่เห็นใครเลยนะพี่ ไอ้ป๋องผมก็ไม่เห็น”
“ แล้วเอ็งเอาเงินไปซ่อนไว้ที่ไหน”
“ ใต้องค์พระพี่”
ภายในวัด หมวดสารินกับหมู่จักรเริ่มถามเด็กวัดกลุ่มหนึ่ง
“สรุปแล้ว ไอ้จอร์จมันเป็นคนยังไงเนี่ยะ ห๊ะ” สารินถาม
เด็กวัด 1บอก “โห่..พี่จอร์จอะนะ เกเร ชอบแกล้งคนอื่น”
“แต่พี่จอร์จขาก็เป็นคนมีน้ำใจนะครับ” เด็กวัด 2 บอก
เด็กวัด 3 บอก “ใช่ครับ ก็วันนั้นเป็นวันเกิดของไอ้แดงมัน พวกผมเลยขโมยของร้านอาแปะ เพื่อเอามากินเลี้ยงกันในวัดนะครับ”
“ หาของโดยการขโมยเนี่ยนะ” จักรว่า
“ ใช่ครับ ก็วันนั้นพี่จอร์จขโมยเงินหลวงตาไม่ได้อะครับ” เด็กวัด 2 บอก
“มึงจะบอกทำไมวะ”
“อ่ะอ่ะ ไม่ต้องทะเลาะกันนะ วันนั้นมีคนแปลกหน้า หรือใครที่เราไม่ค่อยคุ้นเคย เข้ามาในวัดบ้างไหม” จักรถาม
“ โห้ย..ลุงก็พูดไปเรื่อย วัดนะ มันก็ต้องมีคนเข้าๆออกๆบ้าง ใครจะไปจำได้ละ”
ซิน กับ แสนแสบ กำลังเดินเข้าโบสถ์
“เข้ามาดิ”
“ก็เข้ามาแล้วนี่ไง”
“มองไปที่ประตูโบสถ์”
“ อย่าบอกนะ ว่าไอ้ป๋อง บอกมันไม่ต้องเข้ามาหรอก อยู่ข้างนอกนั้นละ”
ซินและ แสนแสบ เดินสำรวจ หาซองเงินที่จอร์จบอก อยู่ๆแจกันดอกไม้ในวัดก็ล่วงตกลงมา
“แกตายด้วยนี่หรอว่ะ”
หมวดสาริน ถามหลวงตา
“ในวันเกิดเหตุ มีใครน่าสงสัย เข้ามาในวัดบ้างไหมครับ”
“ ไม่มีหรอกโยม มีแต่โยมที่เค้าใจบุญ 2 - 3 คนที่เขามาทำบุญกัน แล้วก็มีเจ้าแสบ”
“ หมวดครับ”
“ว่าไงจักร ได้เรื่องไหม”
“ไม่ครับ แถวนี้ไม่มีกล้องวงจรปิดเลยครับ”
“หลวงตาครับ งั้นผมขอลากลับเลยแล้วกันนะครับ”
“เจริญพร”
ภายในโบสถ์ แสนแสบบอกชิน
“ถ้าไม่ใช่ไอ้จอร์จ จะเป็นใครได้”
“ ป๋อง น่าจะถูกตีหัวจากจุดนี้ แล้วก็ถูกเอาศพไปซ่อนไว้หลังองค์พระ” ชินว่า
“หรือว่าอาจจะมีคนอื่นเข้ามาก่อนที่ไอ้จอร์จจะเข้ามา”
แสนแสบเห็นเงาในกำแพง
“ไอ้ป๋อง ไอ้ป๋อง”
“ฉันเอง เอ่อ..ฉันมาไหว้พระ เมื่อวาน มาแล้วลืมไหว้พระ ใช่ไหม จักร” สารินบอก
“ครับๆ”
“คู่นี้มันยังไง ยังไง นะ ใช่ ใช่ไหม” แสนแสบว่า
“ใช่ไรพี่”
“คู่เกย์ไง”
“ไหว้พระเสร็จแล้ว งั้นฉันไปก่อนแล้วกันนะ”
ในห้องทำงานผู้กองเพชร
“ผู้กอง แอ๊บบี้ไปหาข้อมูลที่ผู้กองอยากได้มา เป็นคดีเก่าๆ ซึ่งแอ๊บบี้ว่าน่าสนใจ และน่าจะเกี่ยวข้องมากที่สุด เป็นคดีของ 2 ผัวเมีย ที่สร้างภาพว่าเป็นคนใจบุญ เอาเงินปลอมไปบริจาคให้วัด แล้วอาศัยจังหวะเผลอขโมยเงินในตู้บริจาค ล่าสุดเพิ่งเกิดมาไม่นานนี้เอง แอ๊บบี้ว่ามันน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเด็กวัดฆ่ากันตาย”
“ ก็อาจจะเป็นได้นะ”
“ยังไงอะคะ”
“ลองสมุตินะแอ๊บบี้ ว่าถ้าเกิด 2 ผัวเมีย เขาเข้าไปขโมยเงินตู้บริจาค แล้วอยู่ดีดี นาย
ป๋องก็เข้าไปเห็นเข้า คุณว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น”
“ก็อาจจะถูกลักพาตัว หรือ ไม่ก็ ถูกฆ่าปิดปาก!”
ในร้านข้าวแห่งหนึ่ง
หมวดสารินรับสาย “ครับผู้กอง”
เพชรเสียงในโทรศัพท์ถาม “คุณยังอยู่ที่วัดไหม”
“อยู่ครับ ผู้กองมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“คุณว่ามันจะเป็นไปได้ไหม คดีนี่น่าจะเป็นฆ่าชิงทรัพย์”
“ฆ่าชิงทรัพย์เด็กวัดเนี่ยนะครับผู้กอง”
“ก็อาจจะเป็นการฆ่า เพื่อหวังอื่นๆในวัด แต่เรื่องที่เอาศพไปวัดในโบสถ์ มันเป็นการอำพรางคดี”
“ แต่ว่าของทุกอย่างไม่ได้หายไปไหนนะครับ เงินในตู้บริจาคยังอยู่นะครับ ผู้กอง”
“อ่าหะ..ตอนนี้ผมกำลังสงสัย คู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง เดี๋ยวผมจะส่งรูปไปให้คุณดูแล้วกัน แล้วคุณช่วยเฝ้าดูอยู่ในวัดนะว่าพวกเขากลับมาหรือเปล่า แล้วถ้าเกิดพวกเขากลับมา ไอ้สิ่งที่ผมคิดอยู่มันอาจจะเป็นจริงก็ได้”
“ผู้กองหมายความว่าไง”
“ก็หมายความว่าถ้าเกิดพวกเขาเนี่ย ยังไม่ได้อะไรจากในวัดไปจริงๆ ยังไงเขาก็ต้องกลับมา หรือไม่แน่ บางทีเขาก็อาจกำลังแฝงตัวอยู่ในวัดแล้วก็ได้”
“โอเคครับ”
หมู่จักรยื่นโทรศัพท์ให้หมวดสาริน ดูรูปที่ทางผู้กองเพชรส่งมา
ภายในวัด สองสามี -ภรรยากลับมา รับทราบเรื่องป๋องจากหลวงตา
“น่าสงสารนะคะ ยังเด็กอยู่แท้ๆเลยอ่ะ” ฝ่ายภรรยาบอก
“ คนเราสมัยนี้ จิตใจมันช่างอํามหิต ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ แม้แต่เด็กที่อยู่ในวัดแท้ๆ มันก็ยังทำกันได้ แล้วนี่โยมผ่านมาแถวนี้ หรือว่าลืมอะไรถึงได้กลับมาเนี่ยโยม”
“เปล่าครับหลวงตา จริงๆเราสองคนตั้งใจมาขอหลวงตา เป็นเจ้าภาพสวดศพซักคืนครับ สงสารเด็กมัน”
2สามีภรรยาพูดพร้อมกับยื่นซองเงินให้หลวงตา
“ เจริญพรนะโยม ญาติพี่น้องก็ไม่ใช่ น่าดีใจแทนไอ้ป๋องมัน ตามสบายเลยนะโยม”
ในศาลาวัด หลวงตาถามแสนแสบ
“แล้วจะเอายังไงกันต่อละเนี่ย”
“ผมก็ยังไม่รู้เลยครับหลวงตา ผมก็แค่นักข่าวกระจอกกระจอก คงช่วยอะไรได้ไม่ได้มากหรอกครับ”
“พี่แสบ อย่าลืมซิ พี่ยังมีผมช่วยอีกแรงนะ เดี๋ยวผมจะช่วยพี่ไขคดีเอง”
“ แล้วถ้าสิ่งที่พี่เชื่อ ไม่ได้เป็นอย่างที่พี่คิดละ เอ็งจะทำยังไง”
2 สามี ภรรยา เดินเข้ามาเคารพศพป๋อง พร้อมฟังสวดบนศาลาวัด
ที่ร้านอาหาร ซินหยิบกล้องถ่ายรูปของแสนแสบมาดู
“ว่าแต่ทำไมพี่ถึงมาเป็นนักข่าวอะ”
“อืม..ไม่รู้ดิ รู้แต่ว่าชอบถ่ายรูป”
“โธ่พี่..เอางี้ผมถามใหม่ดีกว่า พี่ชอบถ่ายรูปเพราะอะไร”
“ เพราะอะไรหรอ เพราะเวลาเราถ่ายรูปใช่ไหม พอเราถือกล้องที่ใคร เราก็จะได้รอยยิ้ม
กลับมา ไม่เหมือนเวลาที่เราถือปืน หันไปที่ใครเนี่ยนะ ก็มีแต่ความสูญเสีย”
“มีความคมนะพี่”
“แน่นอน”
“เฮ้ยพี่ 2 ผัวเมีย คนนี้ใครอะ”
ซินส่งกล้องให้แสนแสบดู
“วันนี้ผมเห็นพวกเขาที่งานศพป๋องด้วยอ่ะ”
“ไม่รู้ดิ ไม่น่าเกี่ยวอะไรกับป๋องมั้ง เขามาทำบุญ และเราเนี่ยนะ กำลังจะได้รับผลบุญกับพวกเขาด้วย นี่ เงินที่ยืมหลวงตามา ได้จากที่เขาทำบุญมานี่ละ”
แสนแสบบอกกเจ้าของร้าน
“แปะ เก็บตังเลย”
“อ่ะได้ได้.. กาแฟ 2 ถ้วย จ่ายแบงค์พันเลย”
“คนมีเงิน” แสนแสบบอก
“ลื้อ เล่นตลกอะไรกันวะ”
“ตลกอะไร”
“นี่คงอยากติดคุกมากใช่ไหม ถึงได้เอาแบงค์ปลอมมาจ่ายให้อั๊ว ลื้อไม่เชื่อ ลองส่องดู”
ทั้งคู่โพล่ง “แบงค์ปลอม”
“ ลื้อเคยศึกษาไหม วิธีการดูแบงค์ปลอม หรืออยากไปศึกษาที่โรงพัก”
“ งั้นไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจ่ายให้พี่เขาแล้วกันครับ ส่วนแบงค์นี้ผมขอคืนนะครับ” ชินว่า
“ แล้วแต่ลื้อ”
“คนประเภทไหนวะพี่ เอาแบงค์ปลอมมาทำบุญ ถ้าเขาไม่ใช่...”
แสนแสบโพล่ง “โจร!”
ภายในบ้านผู้กอง
“ไข่อีกแระ”เอมิบ่นฮุบ
“ไข่เจียวไงไม่ใช่ไข่ดาว”
โทรศัพท์ของผู้กองเพชร ดังขึ้น
“ว่าไง สาริน”
“ตอนนี้พวกผม ยังอยู่ที่วัดกันอยู่เลยครับ แล้วก็เจอ2 คนนั้นจริงๆด้วยครับ ถ้าเป็นผู้กอง ผู้กองคิดว่า 2 คนนั้นกำลังต้องการอะไร”
“จะอะไรละ ถ้าไม่ใช่เงิน แต่ปัญหาคือว่า เงินส่วนไหนที่มันต้องการ”
“ผมนึกออกแล้วครับ แค่นี้ก่อนนะครับ”
2 สามีภรรยา กำลังขโมยเงินจากตู้บริจาค ภายในโบสถ์
“ไม่เสียแรงที่แฝงตัวมาเป็นอาทิตย์” สามีบอก
“เฮ้ยหยุด .....คุณ2คนถูกจับแล้ว ลุกขึ้น” สารินบอก
“หมวดๆใจเย็นนะครับ ผมยอมแล้วครับ”
สามีคว้าปืน มาล็อกคอภรรยา แล้วผลักออกไปชนกับตร. ส่วนตัวเองวิ่งหนีออกไปตรงศาลาสวดศพป๋อง
ที่ศาลาวัด แสนแสบและซิน วิ่งตามมาจับตัวสามี ซินกระโดดเตะ จนสามีโจรเสียหลัก ผีป๋องผลักโลงศพ ตัวเอง ทำให้สามีโจรคนนั้นโดนโลงทับอยู่
ในวันเกิดเหตุ 2 สามีภรรยา แอบย่องเข้าไปในโบสถ์
ภรรยาเล่าว่า
“ฉันกับสามี วางแผนกันจะมาขโมยเงินตู้บริจาคของวัด แต่ไอ้เด็กวัดมันก็มาเห็นซะก่อน”
“ทำอะไรกันหรอ” ป๋องว่า
“หลวงตาใช้ ให้ฉัน 2 คน มาเอาเงินไปนับนะ”
“หลวงตาหรอ ไปบอกหลวงตาดีกว่า”
“ไม่ได้นะ ห้ามพูดอะไรเลย เรื่องนี้ต้องเงียบห้ามบอกใคร”
ฝ่ายสามีเอาแจกันดอกไม้ ฟาดไปที่หัวและใบหน้าเด็กวัดหลายที จนแน่นิ่งไป
จากนั้น ทั้งคู่ช่วยกันยกศพป๋องไปไว้หลังองค์พระ
ที่โรงพักท้องที่
จอร์จบอก “ขอบคุณนะครับหลวงตา ที่หลวงตาเชื่อว่าผมไม่ได้ฆ่าไอ้ป๋อง”
“ข้าว่าเอ็ง ควรจะไปขอบคุณพี่แสบเขามากกว่านะไอ้จอร์จ”
“แทนที่เอ็งจะขอบคุณพี่ เอ็งรับปากกับพี่ดีกว่าว่าเข้าไปอยู่สถานพินิจแล้วเนี่ย เอ็งต้อง
เลิกยาให้ได้ พ้นโทษออกมาต้องกลับตัวเป็นคนดี เข้าใจหรือเปล่า”
“ ผมสัญญาครับพี่ สัญญาครับหลวงตา ว่าผมจะเป็นคนดี”
“ดีแล้วละ คนเราอะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกทางเดินของชีวิตได้”
ตำรวจพาจอร์จออกไป วิญญาณป๋องโผล่มายืนเพื่อบอกลา
“ ไปผุดไปเกิดเถอะไอ้ป๋อง” หลวงตาบอก
“หลวงตาเห็นด้วยหรอครับ” ชินถาม
หลวงตาบอกแค่ว่า “พวกเรากลับกันเถอะ”
“ เห็นตรงไหน ใช่ใช่ไหม หลวงตายังเผ่นอยู่ทำไมละ ไปกันซิ” แสนแสบบอก
เอมิ และ ผู้กองเพชร กำลังรับประทานอาหารเช้าพร้อมดูข่าว
“ คดีเด็กวัดฆ่ากันตายพลิกล็อกนะครับ เมื่อหน่วย DEI ภายใต้การนำของ ผู้กองเพชร ภูมิไท ตัดสินใจรื้อคดีขึ้นมาใหม่ จนนำไปสู่การจับกุมตัวฆาตกรตัวจริงได้ ซึ่งก็คือ 2 สามีภรรยาที่ก่อคดีมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งทางตำรวจเองก็ได้ออกมายอมรับนะครับ ว่า ด่วนสรุปสำนานคดีเร็วเกินไป และต้องขอขอบคุณหน่วย DEI ที่กัดไม่ปล่อย จนสามารถนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้
เอมิบอก “ขอบคุณนะคะ”
“ก็แค่ส่งคนไปช่วย”
“ แล้วทำไมคุณถึงตัดสินใจลงไปช่วยละคะ ทั้งที่คนอื่นก็บอกเขาเป็นคนไม่ดี”
“ก็เรายังไม่ได้พิสูจน์ด้วยตัวเองไม่ใช่หรอ แต่ถ้าเกิดเขากลับเป็นคนเลว อย่างมากเราก็แค่
รู้สึกเหนื่อยที่ช่วยไว้ แต่ถ้าเกิดเขาเป็นคนดี เราก็จะรู้สึกผิดที่เราไม่ได้ช่วยเขา”
“คุณกำลังจะบอกหนูว่า เราควรให้โอกาสทุกคนอย่างเท่าเทียมกันใช่ไหมคะ”
“อย่างน้อยทุกคนก็มีสิทธิที่จะพิสูจน์เพื่อปกป้องตัวเองกันทั้งนั้น”
“ขอบคุณนะคะ”
เอมิหยิบโทรศัทพ์มือถือมากดพิมพ์ข้อความพร้อมกับอมยิ้ม
“ เราพูดเรื่องเดียวกันอยู่แล้วใช่ไหม”
“คะ”
เฌอแตมและเอมิ กำลังยืนคุนกันอยู่ที่สะพานลอยของห้างแห่งหนึ่ง
“เฮ้ย...จ๊ะเอ๋”
“พี่ซินมาได้ไงเนี่ย” เฌอแตมว่า
“พี่ก็มาหาซื้อรองเท้าบาสอะ”
“นี่อย่าบอกนะพี่ซินเป็นนักบาส”
“เฮ้ย...ไม่ขนาดนั้นหรอก พี่ก็ซ้อมเล่นกับเพื่อนที่มหาลัยอะ”
“เท่ห์เหมือนสแลมดั๊งค์เลยอะ”
“ รู้จักด้วยหรอ”
“ชอบมากเลยล่ะ”
“แล้วเอมิล่ะ ชอบดูบาสไหม”
“ ก็เคยดูนะ แต่นักบาสเขาเอาแต่คนสูงๆไม่ใช่หรอ ทำไมเขาเอาลูกกรอกมาเล่นล่ะ”
“อ้าว หาว่าพี่เตี้ยหรอ”
“เปล่า ไม่ได้ว่าซะหน่อย”
“พี่จะมีแข่งคัดตัวนักบาสที่มหาลัยอะ ไปให้กำลังใจพี่หน่อยดิ”
เฌอแตมบอก “ได้เลยคะ”
“ คิดดูก่อน” เอมิว่า
“ตอนนี้พี่มีลูกบาสแล้วนะ แต่พี่ยังขาด”
“ขาดอะไร”
“ก็ขาดคนที่มาเป็นห่วงพี่ไง”
“อื้ม...”
“สรุปไปนะ” เฌอแตมว่า
“นะ นะ นะ ไปนะ”
“ก็ได้”
เอมิ พูดจบพร้อมยิ้มให้ซิน
อ่านต่อตอนที่ 11