xs
xsm
sm
md
lg

DIAMOND EYESตา-สัมผัส-ผี ตอนที่ 9

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


DIAMOND EYESตา-สัมผัส-ผี ตอนที่ 9

ตอน “พยานปากเอก 2”

ซินเข้ามาด้อมๆมองๆที่หน้าตึกนิเทศศาสตร์
 
ตรงบริเวณจุดที่มีบอร์ดไว้อาลัยวนิดา เพื่อมาสืบหาข้อมูลบางอย่าง ซินเจอกับป้าแม่ค้าจากร้านอาหารตามสั่ง เดินถือข้าวกล่องเข้ามาแม่ค้าเดินเข้ามาหาซิน
“ขอโทษนะหนุ่ม ป้าจะเอาข้าวมาส่งอาจารย์บัณฑิต ไม่รู้แกอยู่ห้องไหน”
ซินมองข้าวกล่อง แล้วคิดอะไรได้
“ของอาจารย์บัณฑิตเหรอครับ ผมกำลังจะขึ้นไปหาแกอยู่พอดี ค่าข้าวเท่าไหร่ครับ เดี๋ยวผมจ่ายให้ก่อน แล้วผมไปเก็บกับอาจารย์ผมเอง”
“ดีเลย 2 กล่องนี่ร้อยนึงพอดี กล่องที่เขียนว่าไม่ใส่พริกนี่ ของแฟนอาจารย์แกนะ”
ซินควักเงินส่งให้ป้า
“ดูคุณป้าจะสนิทกับอาจารย์ที่นี่จังเลยนะครับ รู้ขนาดว่าใครกินอะไรยังไง”
แม่ค้าคันปากท่าทางเหมือนอยากจะเมาท์
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกแค่อาจารย์คนไหนแอบกิ๊กกับใคร ป้าก็พอรู้มาบ้าง ว่างๆไปกินข้าวร้านป้าสิ อยู่ติดรั้วมหาลัยนี่เอง ชื่อร้านป้าแดง ป้าไปก่อนนะ”
ซินมองตามป้าแม่ค้าเดินออกไป ก่อนยิ้มมองข้าวกล่องในมือ

ผู้กองเพชรเข้ามาตรวจสอบที่อพาร์ทเม้นท์วนิดากำลังยืนคุยกับรปภ.อยู่ที่ป้อมยาม
“ห้องคุณวนิดาอยู่ที่ชั้น 8ครับ ชั้นเดียวกับห้องคุณอ้อมแต่อยู่ตรงข้ามหรือเยื้องๆกันนี่แหล่ะ”
“ผมขอขึ้นไปดูหน่อยได้ไหม”
“ไม่ได้หรอกครับ มันผิดกฎของที่นี่ ทางผู้จัดการเขาก็ย้ำว่าอย่าพึ่งให้ใครเข้าไปยุ่งห้องนั้น”
เพชรหันซ้ายหันขวาก่อนจะวางแบ็งค์ห้าร้อยลงตรงหน้ารปภ.
“ลุงพอจะช่วยอะไรผมได้บ้างหรือยัง”
รปภ.รีบเก็บตังค์ยัดใส่กระเป๋าแล้วบอก
“ถือว่าเป็นการช่วยราชการก็แล้วกันครับนี่กุญแจสำรองครับ”
ผู้กองเพชรรับคีการ์ดสำรองมาถือไว้ก่อนจะเดินเข้าไปในตัวอาคาร

ภายในห้อง อ้อมยังนอนหลับอยู่ บรรยากาศในห้องดูน่ากลัวผีวนิดามายืนอยู่ข้างๆเตียง อ้อมลืมตาขึ้นมามอง ผีวนิดายกมือขึ้น เห็นมีเหล็กแหลม ผีวนิดาแทงเหล็กเข้าที่ท้องอ้อม เลือดสาดกระจาย อ้อมตกใจร้องกรี๊ดสุดชีวิต….

อ้อมสะดุ้งตื่นเอามือกุมที่ท้อง รู้ว่าตัวเองแค่ฝันร้าย! อยู่ๆอ้อมก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้สะอื้นลอยมาไกลๆ
อ้อมหันมองซ้ายขวา เริ่มมีอาการกลัวๆ และเพ้อ
“ฉันกลัวแล้ว…ดา ฉันกลัวแล้ว อย่าทำอะไรฉันเลยนะ”
อ้อมหันไปคว้าโทรศัพท์ รีบโทร.หาใครบางคน

เวลานั้น อาจารย์บัณฑิตนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องพักอาจารย์พิเศษ ตรงหน้ามีนักศึกษาสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ โทรศัพท์มือถือดังขึ้น อาจารย์บัณฑิตรีบรับสาย
“ว่าไงอ้อม”
อาจารย์บัณฑิตได้ยินน้ำเสียงของอ้อมฟังดูตื่นเต้นหวาดกลัว
“อาจารย์คะ ช่วยหนูด้วยค่ะ ช่วยหนูด้วยค่ะอาจารย์”
“เดี๋ยวอ้อม ใจเย็นๆบอกมาว่าเกิดอะไรขึ้น”

อ้อมนั่งขดตัวอยู่ที่มุมห้อง ท่าทางยังกลัวๆคุยโทรศัพท์
“ผีค่ะ ผีวนิดา”
“เหลวไหลน่าอ้อม ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหม ความกลัวของคุณ จะทำให้ทุกอย่างมันพังพินาศแค่นี้นะ ผมมีงานต้องทำ”
"เดี๋ยวสิคะอาจารย์ อาจารย์มาหาอ้อมหน่อยนะคะ นะคะ" อ้อมอ้วนวอน
"นี่อ้อม…ผมชักจะไม่ไหวกับคุณแล้วนะ นี่ยังไม่ถึงเวลาพักด้วย ผมจะไปหาคุณได้ไง ถ้าขืนเรายังคุยกันไม่รู้เรื่องผมกับคุณคงต้องจบกัน"
อ้อมอึ้งๆ ก่อนตัดสินใจพูดในเชิงข่มขู่
"ก็เอาสิคะ ถ้าอาจารย์ทิ้งหนู หนูจะบอกความจริงกับทุกคน ที่ผ่านมาหนูทำเพื่ออาจารย์มาตลอด ที่หนูต้องเสียเพื่อนรักของหนูไปก็เพราะว่าหนูรักอาจารย์นะคะ"
 
อ้อมบอก

อาจารย์บัณฑิตได้ยินดังนั้นก็ใช้ความคิด ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นลง

"โอเคๆ ผมขอโทษ ใจเย็นๆก่อนนะ รอผมอยู่ที่ห้อง ผมสั่งข้าวไว้เผื่อคุณด้วย ถ้าข้าวมาแล้วผมจะรีบไป แต่คุณต้องสัญญานะว่าจะไม่พูดเรื่องผีอะไรอีก ผมรักอ้อมนะ"
"อ้อมก็รักอาจารย์ค่ะ"
อาจารย์บัณฑิตวางสายด้วยความหัวเสีย เปิดลิ้นชักจะหยิบปืนพกขึ้นมา แต่หันไปเห็นชินเข้ามายืนอยู่ที่หน้าห้องก่อน อาจารย์บัณฑิตรีบปิดลิ้นชัก แล้วหันไปคุยกับซิน
"นายเป็นใคร แล้วมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ผมเรียนอยู่ที่นี่แหล่ะครับ เป็นหลานป้าแดง ป้าเขาให้ผมเอาข้าวมาส่ง"
อาจารย์บัณฑิตเดินเข้ามายื่นเงินให้ แล้วดึงถุงข้าวกล่องไป
"หมดธุระแล้วก็เชิญ"

ซินสังเกตว่าอาจารย์บัณฑิตเหมือนไม่เห็นนักศึกษาสาวที่นั่งอยู่ ก่อนที่นักศึกษาสาวคนนั้นจะค่อยๆหันมองซิน นักศึกษาคนนั้นก็คือผีวนิดา ซินพยามนิ่งไม่แสดงอาการใดๆ อาจารย์บัณฑิตมองๆ ว่าซินเห็นอะไร ก่อนจะหันมาพูดด้วยน้ำเสียงดุๆใส่
"นี่..ผมบอกให้ไปได้แล้วไง ยังยืนดื้ออยู่ทำไม"
"ขอโทษครับอาจารย์"
ผีวนิดาทำให้ซินรู้ว่าตนมาไม่ผิดห้อง ไม่ผิดคนแน่ๆ

บัณฑิตขับรถเข้ามาจอดที่ป้อมยาม รปภ.ออกมาตะเบ๊ะต้อนรับ รีบเปิดที่กั้นให้ ท่าทางคุ้นเคยกันดี เมื่อรถของอาจารย์บัณฑิตเข้าไปแล้ว ก็เห็นซินนั่งรถมอไซด์รับจ้างตามมา ซินตีเนียนจะเดินเข้าไปแต่ไม่รอดลุงรปภ.เข้ามาขวางไว้
"จะไปไหนไม่ทราบพ่อหนุ่ม"
ซินอ้ำๆอึ้งๆไม่รู้จะบอกว่ายังไง

ผู้กองเพชรกำลังเดินหาห้องอ้อมกับห้องวนิดาตามข้อมูลที่ รปภ.บอก ก่อนจะได้ยินเสียงประตูลิฟท์เปิด เขาหาที่ซ่อน บัณฑิตเดินถือข้าวกล่องออกมาจากลิฟท์ ก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องอ้อม ไขกุญแจเข้าไปอย่างคนคุ้นเคย เพชรขยับตัวออกจากที่ซ่อน ก่อนจะหันไปเห็นผีวนิดามาปรากฏตัวให้เห็นที่หน้าห้องของเธอ

อ้อมโผเข้ามากอดบัณฑิตทันทีที่เขาเข้ามาในห้อง
"อ้อมกลัว"
"ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ผมซื้อข้าวมาให้ ไปล้างหน้าล้างตาก่อนสิ เดี๋ยวมาทานข้าวกัน"
อ้อมพยักหน้า พยายามทำตัวเป็นเด็กดี

ทางด้านซินยังถูก ลุงรปภ.ขวางทางไว้ ซินพยายามหาทางหลอกล่อ
"โธ่ลุง..ผมเป็นสายให้หน่วย DEI จริง ตอนนี้ผมกำลังช่วยทำคดีอยู่"
"ถ้าหน้าอย่างเอ็งเป็นสายลับ ลุงก็เป็นไอร่อนแมนแล้วล่ะไอ้หนุ่ม ไปๆๆๆๆ ถ้าเอ็งไม่อยากจะโดนกระบองของไอร่อนยามอย่างลุง เอ็งออกไปจากที่นี่ดีกว่า"
ซินต้องถอยออกมาตั้งหลัก พยายามหาทาง

ที่ลานจอดรถ อพาร์ทเม้นท์ชาลี รถกระบะมูลนิธิฯของชาลีจอดอยู่ หมวดสารินกับหมู่จักรเดินเข้ามาด้อมๆมองๆก่อนทั้งคู่จะเดินเข้าไปที่รถของชาลี มองซ้ายมองขวาท่าทางเหมือนโจรขโมยรถ สารินลองใช้มือดึงๆประตูรถ แต่ประตูล็อก
"ไม่เป็นไรครับหมวด ผมมีวิธี"
จักรล้วงเอาลวดอันเล็กๆออกมาจากกระเป๋า ใช้เวลาไม่ถึงนาที หมู่จักรก็เปิดประตูรถได้
หมวดสารินอึ้งๆในความสามารถ
"นี่ก่อนจะมาสมัครเป็น DEI เป็นโจรขโมยรถมาก่อนหรือเปล่า"
ทั้งสองช่วยกันค้นหาหลักฐาน เจอห่อยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในรถหลายสิบเม็ด หมวดสารินเดินมาที่ส่วนท้ายของกระบะ พบคราบเลือดเปิดดูข้างใน จนสายตาไปสะดุดที่ต่างหูของวนิดาที่ตกอยู่ในรถ สารินหยิบขึ้นมาดูแล้วหันไปยิ้มๆ
"ผมว่า..มันเสร็จเราแล้วล่ะ"

จักรกับสารินมองต่างหูของวนิดาที่อยู่ในมือ

ในห้องที่พัก
 
ชาลีนั่งมองรูปถ่ายของตนกับอ้อมที่ใช้เป็นรูปหน้าจอมือถือ ชาลีท่าทางกระวนกระวายใจ ก่อนคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดๆ

โทรศัพท์อ้อมที่วางอยู่บนโต๊ะเล็กๆในห้องสั่นขึ้น ที่หน้าจอเห็นเป็นชื่อชาลี บัณฑิตกำลังเอาข้าวใส่จานอยู่ หยิบขึ้นมาดูๆ อ้อมยังอยู่ในห้องน้ำ บัณฑิตตัดสินใจเอาโทรศัพท์อ้อมไปกดรับที่ระเบียงด้านนอก
"ฮัลโหล…อ้อม"
"นี่นายยังไม่เลิกติดต่อกับอ้อมอีกเหรอ ชาลี"
"อาจารย์"
"ใช่ฉันเอง..โทร.มาหาอ้อม นายต้องการอะไร"
"ผมมีเรื่องต้องคุยกับอ้อม"
"ไม่จำเป็น…ถ้านายยังรักอ้อมอยู่ หน้าที่ของนายคือต้องไม่ทำให้อ้อมเขาเดือดร้อน"

ชาลียังคุยโทรศัพท์ต่อเนื่อง
"อาจารย์หมายความว่ายังไง"
"อ้อมเขาเล่าเรื่องที่นายช่วยเอาศพวนิดาไปทิ้งให้ฉันฟังตั้งแต่เช้าวันเกิดเรื่องแล้ว นายนี่มันโง่จริงๆ แทนที่จะเอาไปทิ้งไกลๆหรือไม่ก็เผาๆศพไปซะ…ดันปล่อยให้เรื่องแดงขึ้นมาได้ ตอนนี้ฉันเลยต้องกลายมาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไปด้วย นายรู้ตัวไหม"
"ก็สมควรแล้วนี่ครับ ถ้าคุณไม่แอบไปทำอะไรชั่วๆไว้กับดา ไม่หักหลังอ้อม เขาสองคนก็คงไม่ต้องทะเลาะกัน"
"ช่วยไม่ได้ เพื่อนแกสองคนดันโง่มาหลงรักฉันเอง"
"แก..ไอ้ชั่ว ฉันจะฆ่าแก"
"งั้นก็คงต้องรีบๆหน่อยแล้วล่ะ เพราะอีกซักพัก ผู้หญิงที่แกรักอาจจะหายสาบสูญไปอีกคน ส่วนแกก็ต้องติดคุกในฐานะฆ่าคนตาย อย่าลืมสิฉันเป็นใคร ระหว่างคำพูดของฉันกับไอ้ขี้ยาอย่างแกตำรวจเขาจะเชื่อใคร"
ชาลีโกรธจัด อาจารย์บัณฑิตตัดสายทิ้งไปแล้ว

สารินกับจักรยังช่วยกันตรวจค้นรถของชาลีเพิ่มเติม ก่อนจะมีเสียงใครบางคนดังขึ้น
"เฮ้ย..นั่นพวกแกทำอะไร"
รปภ.ถือไม้กระบองเดินเข้ามาท่าทางเอาเรื่อง
"ใจเย็นๆน่าพี่ชาย เข้าใจผิดกันมากกว่า"
"เข้าใจไม่ผิดหรอก ดูสภาพเอ็งสองคนข้าก็รู้แล้ว จะมาขโมยรถกันใช่ไหม? ... ยิ่งไอ้หนวดนี่ยิ่งใช่แน่ๆ ระดับนี้ดูไม่เคยพลาด"
ชาลีเดินลงมาจากตึกกำลังจะมาที่รถแต่ชะงัก เห็นสารินกับจักรยืนเถียงกับ รปภ.อยู่ ชาลีรู้ว่ารถถูกค้น เขาจำสารินกับจักรได้ว่าเป็นหน่วย DEI จึงรีบหนี สารินหันไปเห็นพอดี
"เฮ้ยจักรมันอยู่นั่น ... หยุดนะเว้ย"
ชาลีรีบวิ่งหนีออกไปทันที สารินยังตะโกน
"เฮ้ย..บอกให้หยุด"
รปภ.งงๆแต่ยังขวางไว้ หมู่จักรต้องเอาตรา DEI ให้ดู
"เราสองคนเป็นตำรวจ"
"ถ้าไม่อยากโดนข้อหาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็รีบหลีกไป…เร็ว"

"โหย... เกือบซวยซะแล้วกู"

ชาลีวิ่งหนีไปทางหนึ่ง สารินกับจักรที่วิ่งตามมา หยุด พยายามมองๆหา

"ไปทางไหนแล้ววะ"
"ผมว่าเราเรียกกำลังเสริมดีกว่าครับ"
"จะต้องเรียกมาทำไม คนร้ายแค่คนเดียว ยังไงผมก็เอาอยู่"
"ตอนไอ้บาสผู้หมวดก็พูดแบบนี้"
ผู้หมวดสารินสะอึก นึกขึ้นได้
"เอ้าๆๆๆเรียกมาก็ได้"
สารินรีบวิ่งตามชาลีออกไป จักรเอาโทรศัพท์ออกมากดๆ

ชาลีวิ่งหนีออกมาทางหนึ่ง สารินกับจักรกำลังวิ่งตามมา ชาลีหาที่กำบังชักปืนจากด้านหลังเตรียมสู้…หมวดสารินตามมาทัน มีการยิงต่อสู้กันหลายนัด สถานการณ์สองรุมหนึ่งอีกครั้ง แต่คราวนี้เป็นฝ่ายชาลีที่กระสุนหมด..
"โธ่เว้ย"
รถตำรวจที่จักรเรียกไปขับเข้ามา ชาลีไม่มีทางเลือก รีบชูมือขึ้นแล้วตะโกน
"ผมยอมแล้วครับผู้หมวด ผมยอมแล้ว"
"มอบลง มอบลง"

ชาลีรีบนอนลงไปกับพื้น สารินรีบเข้ามาล็อกตัวชาลีเอาไว้ก่อนจะหันไปพูดกับจักรที่ตามเข้ามา
"เป็นไง ก็บอกแล้วว่าผมเอาอยู่…."

ผีวนิดาเดินนำผู้กองเพชรเข้ามาในห้อง ที่มีเส้นเหลืองกั้นไว้ ผู้กองเพชรเริ่มค้นหาหลักฐาน จนเจอของ 2-3 ชิ้นที่พอประติดประต่อได้ว่า วนิดามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชายอีกคน ที่ไม่ใช่บาส เพชรเจอที่ตรวจครรภ์ ที่แสดงผลว่าวนิดากำลังตั้งท้องอ่อนๆกับผู้ชายคนนั้น เพชรเจอโทรศัพท์ของวนิดาตกอยู่ หยิบขึ้นมากดๆดู เห็นมีข้อความทางไลน์ที่วนิดาคุยกับผู้ชายคนนั้น ข้อความที่วนิดาคุยกับอ้อม “เลิกยุ่งกับพี่เขาซะ” ในโทรศัพท์มือถือวนิดา ยังมีรูปถ่ายของเธอกับผู้ชายคนนั้น ตอนที่มานอนค้างห้องเธอด้วย และผู้ชายคนนั้นคือ บัณฑิต…

ในห้องอ้อม บัณฑิตนั่งมองอ้อมที่กำลังทานข้าว อ้อมเห็นบัณฑิตไม่ยอมตักข้าวซักคำ
"ร้านประจำของอาจารย์ไม่ใช่เหรอคะ หรือว่าเบื่อ ไม่เห็นอาจารย์ทานซักคำ"
"ผมว่าจะชวนอ้อมออกไปข้างนอกต่างหาก"
อ้อมได้ยินน้ำเสียงและท่าทีที่ดูเย็นชาของบัณฑิตแล้ว เริ่มระแวง
"มีอะไรหรือเปล่าคะ"
"ผมไม่ชอบเลยที่อ้อมบอกจะเอาเรื่องของเราไปบอกคนอื่น ในเมื่อเราก็เคยคุยกันแล้ว"
"อ้อมขอโทษค่ะอาจารย์"
"ไม่..ผมเริ่มไม่ไว้ใจอ้อมแล้ว อ้อมต้องเข้าใจนะ ทั้งหน้าที่การงานของผม ผมคงไม่ยอมเสียมันไปง่ายๆ"
บัณฑิตจ้องหน้าอ้อมนิ่งๆ อ้อมวางช้อนช้าๆเหมือนจะรู้ตัวแล้ว

ทางด้านชาลี ถูกจับใส่กุญแจมือเรียบร้อยแล้ว นั่งอยู่ท้ายรถกระบะของตำรวจ หมวดสารินเอาต่างหูวนิดายื่นให้ดูตรงหน้า
"ตกลงนายพร้อมจะยอมรับสารภาพหรือยัง ว่านายเป็นคนลงมือฆ่าวนิดา"
"ผมไม่ได้ทำ ผมไม่ได้ฆ่าใครทั้งนั้น"
"แล้วใครทำ"
ชาลีเริ่มกลัวๆ สถานการณ์เหมือนไม่อยากพูด หมวดสารินขู่
"จากหลักฐานที่มี รวมทั้งยาบ้าในรถนาย ก็มากพอที่จะทำให้นายเข้าไปนอนในคุกได้นะ ถ้านายไม่ได้ทำจริงๆ แล้วนายมีเหตุผลอะไรที่จะต้องปกป้องคนที่ทำด้วย นายทำไปเพื่ออะไร"
ชาลีนิ่งคิด เริ่มร้องไห้ออกมาด้วยความสับสน
"เพราะว่าผมรักเธอสิครับ"
หมวดสารินกับหมู่จักรหันมองหน้ากันนิ่งๆ ชาลีเริ่มร้องไห้ออกมา
"ก็ได้..ผมจะยอมพูดความจริง ถ้าผู้หมวดสัญญาว่าจะปกป้องชีวิตเธอ"
"รีบบอกมาสิ"

ชาลีตัดสินใจสารภาพ

"เรื่องทั้งหมด เกิดขึ้นก็เพราะไอ้ผู้ชายเลวๆคนเดียว"

สถานที่แห่งหนึ่งเงียบๆผู้คนไม่พลุกพล่าน
 
อ้อม วนิดา สองเพื่อนสาวกำลังเคลียร์ปัญหาคาใจกันอยู่
"อ้อม…ฉันมีอะไรกับพี่เขาไปแล้ว"
"ทั้งๆที่เธอก็รู้อยู่แก่ใจ ว่าอาจารย์เขารักฉันเนี่ยนะ เธอทำได้ยังไง"
"อ้อมเลิกกับเขาได้ไหม เขาจะได้มาหาเรา มาอยู่กับลูกของเขาที่กำลังจะเกิดในอีกไม่นานนี้ ดาท้องกับพี่เขานะอ้อม"
อ้อมเหมือนจะยังไม่เชื่อในสิ่งที่วนิดาพูด
"เราไม่เชื่อ ดา..นี่เธอต้องการอะไรกันแน่"
อ้อมพยายามสงบสติอารมณ์ไว้ ทั้งๆที่โกรธวนิดามาก
"ก็ต้องการพี่เขาไง อ้อม..เธอลืมพี่เขาได้ไหม อย่างน้อยๆเธอก็ยังมีชาลีอีกคนที่ยังรักเธอ เธอลืมพี่เขาได้ไหม เธอลืมพี่เขาได้ไหมอ้อม"
วนิดาจับแขนอ้อมเขย่าๆอ้อมไม่สามารถระงับอารมณ์โกรธได้อีก
เสียงชาลีเล่าว่า"คืนนั้นอ้อมกับดาทะเลาะกันอย่างรุนแรง ถึงขั้นมีลงไม้ลงมือกันเป็นครั้งแรก"
อ้อมยื้อกันไปยื้อกันมากับวนิดา แล้ววนิดาก็พลาดท่า โดนอ้อมเหวี่ยงลงพื้นจนล้มลงไป วนิดานอนนิ่งสนิทไป อ้อมเหมือนจะได้สติ ค่อยๆไปจับตัววนิดาเขย่า
"ดา"
อ้อมค่อยๆจับร่างวนิดาพลิกขึ้น จึงรู้ว่าวนิดาโดนเหล็กแหลมที่โผล่ออกมาจากพื้นเสียบเข้าที่ร่างเกือบทะลุ
อ้อมตกใจมากๆ รีบกดโทรศัพท์หาใครบางคน

ผ่านเวลา ...อ้อมนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆศพวนิดา ปากก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ รถมูลนิธิฯขับเข้ามาจอด ชาลีกับบาสลงมาจากรถด้วยกัน ทั้งสองอยู่ในชุดมูลนิธิฯ ชาลีรีบเข้ามาประคองอ้อม
"กว่าผมจะไปถึง ดาเขาก็ตายไปแล้ว"
ชาลีบอก "อ้อมรีบไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า เรื่องศพเดี๋ยวเราจัดการไห้เอง"
"อ้อมไม่ได้ตั้งใจ อ้อมไม่ได้ตั้งใจ"
อ้อมโผเข้ากอดชาลี ชาลีสวมกอดอ้อม

ต่อมา ชาลีกับบาสช่วยกันเอาศพวนิดาลงจากรถ ก่อนจะเอามาโยนทิ้งลงข้างทาง ก่อนที่ชาลีจะเอาเงินสดปึกหนึ่งให้บาส
"ผมใช้เงินที่ขายยาได้ จ้างให้ไอ้บาสเป็นแพะรับบาป"
บาสท่าทางเหมือนคนเมายา รีบรับเงินไป

ชาลียังเล่าความจริงให้สารินกับจักรฟังอยู่
"ผมไม่คิดเลย..ว่าไอ้บาสมันจะต้องไปตายในคุก ก่อนที่ผมจะไปประกันตัวมันออกมา ทั้งหมดมันก็มีแค่นี้"
"สรุป..ที่นายทำไป ก็เพื่อช่วยผู้หญิงที่นายรักสินะ"
ชาลีพยักหน้ารับช้าๆ
"แต่ผู้หญิงเขาก็ไม่รักนาย แล้วที่นายบอกว่า เธอกำลังตกอยู่ในอันตราย หมายความว่าไง"
ชาลีเหมือนจะนึกขึ้นมาได้ อยู่ๆก็ลุกขึ้นโวยวาย
"ผู้หมวด ผู้หมวดรีบไปช่วยอ้อมด้วยนะครับ ตอนนี้ไอ้บัณฑิตมันอยู่กับอ้อม อ้อมกลัวว่ามันจะทิ้ง ก็เลยขู่มันว่าจะเอาเรื่องที่มันทำวนิดาท้องไปบอกคนอื่น ตอนนี้ไอ้บัณฑิตมันกำลังจะฆ่าปิดปากอ้อม แล้วโยนความผิดให้ผม ผู้หมวดรีบไปช่วยอ้อมด้วยนะครับ"
สารินกับจักรหันไปมองหน้านิ่งๆ หมวดสารินรีบโทรศัพท์หาผู้กองเพชรทันที

ด้านผู้กองเพชร รับโทรศัพท์จากสาริน
"ผู้กองครับ ตอนนี้ผู้กองยังอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์คุณอ้อมหรือเปล่า"
"ใช่…ผมพึ่งพบหลักฐานหลายอย่างที่น่าสนใจ คนที่ลงมือฆ่าวนิดาอาจไม่ใช่นายชาลีอย่างที่ผมคิด อาจเป็นเพื่อนสนิทที่ชื่ออ้อม"
"ผู้กองเข้าใจถูกแล้วครับ ตอนนี้นายชาลีอยู่กับผมแล้วก็ยอมรับสารภาพแล้วด้วย ว่าเป็นคนช่วยคุณอ้อมเอาศพของคุณวนิดาไปทิ้งเพื่ออำพรางคดี คุณอ้อมเป็นคนฆ่าวนิดาจริงๆครับ"
เพชรยิ้มๆ
"งั้นเราก็สรุปคดีนี้ได้แล้วสิ ที่โทร. มา อย่าบอกนะว่าจะให้ผมบุกจับตัวคุณอ้อมไปเข้าคุกเลย"
"มันยังไม่จบแค่นั้นสิครับผู้กอง ตอนนี้คุณอ้อมเธออยู่กับนายบัณฑิตอาจารย์สอนพิเศษของเธอ นายบัณฑิตมีแผนจะฆ่าปิดปากคุณอ้อม แล้วโยนความผิดให้นายชาลี"
"เขาจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร"
"นายบัณฑิตโกรธคุณอ้อมที่ไปขู่ว่าเธอจะแฉพฤติกรรมเลวๆของเขา ตอนนี้นายบัณฑิตก็อยู่กับคุณอ้อมที่อพาร์เมนท์ ผมถึงรีบโทรมาบอกผู้กองฯ ผมกลัวว่าจะมีคนตายเพิ่มขึ้นอีก คุณอ้อมอาจจะกำลังตกอยู่ในอันตรายครับ"
เพชรได้ยินเสียงดังมาจากห้องข้างๆ
เพชรรีบเดินไปแง้มๆประตูออกดูเห็นบัณฑิตกำลังพาตัวอ้อมเดินออกไปจากห้องจริงๆ
"แค่นี้ก่อนนะหมวด นายบัณฑิตอยู่กับคุณอ้อมจริงๆ"

เพชรรีบวางสายแล้วเดินออกไป

บัณฑิตพาอ้อมเดินเข้ามากดลิฟท์ ท่าทางร้อนใจ อ้อมพยายามขัดขืน

"อาจารย์จะพาหนูไปไหน อ้อมไม่อยากไป"

บัณฑิตท่าทางเครียดๆ
"เธอทำให้ฉันไม่มีทางเลือก ฉันไว้ใจเธอไม่ได้อีกแล้ว แม้แต่เพื่อนเธอ เธอยังลงมือฆ่าได้ ฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้ให้กลับมาทำลายชีวิตฉันได้หรอก"
อ้อมเหมือนจะรู้ตัวแล้ว ขยับจะหนี บัณฑิตคว้าแขนเธอเอาไว้ อ้อมพยายามทำใจดีสู้เสือ
"อาจารย์..อ้อมรักอาจารย์นะคะ ที่อ้อมทำไปทุกอย่างก็เพราะอ้อมรักอาจารย์"
ประตูลิฟท์เปิดพอดี อ้อมถูกบัณฑิตดึงเข้าไปในลิฟท์
ประตูลิฟท์กำลังจะปิด เพชรวิ่งเข้ามาทันพอดี อ้อมจึงตะโกนขอให้ช่วย บัณฑิตรีบกดปิดลิฟท์ทันที เพชรวิ่งตามมากดๆ แต่ไม่ทัน ลิฟท์ลงไปแล้ว ผู้กองเพชรตัดสินใจวิ่งตามลงไปทางบันไดหนีไฟทันที…

ในลิฟต์ บัณฑิตยังคงจับแขนอ้อมไว้ อ้อมพยายามดิ้นรนขัดขืน บัณฑิตโกรธอ้อมมากใช้กำลังกับอ้อม อ้อมพยายามต่อสู้แต่ก็สู้ไม่ไหว เมื่อบัณฑิตตัดสินใจเอาปืนพกที่ซ่อนไว้ออกมาจ่อ
"เลิกบ้าได้แล้ว…เดี๋ยวก็ได้ไปอยู่กับเพื่อนเธอแล้ว"
อ้อมต้องยอมสงบลง

เพชรพยายามวิ่งลงจากตึกให้เร็วที่สุดเพราะกลัวไม่ทันการ อยู่ๆก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามา ผู้กองเพชรดูเบอร์ที่โทร.เข้ามา แล้วรีบกดรับแบบเลี่ยงไม่ได้…
"ว่าไงเอมิ"

ฝ่ายเอมิกำลังยืนกินไอติมอยู่ที่โรงเรียน ดูท่าทางสบายใจสุดๆ
"พ่อ…หนูจะเลิกเรียนแล้ว ตกลงเย็นนี้พ่อจะมารับหนูหรือเปล่า"

เพชรวิ่งลงบันไดไปด้วย พร้อมๆกับคุยโทรศัพท์กับเอมิไปด้วย
"เดี๋ยวค่อยคุยกันได้ไหมเอมิพ่อกำลังทำงานอยู่"
"พ่อก็อ้างงานทุกที"
"แต่คราวนี้พ่อกำลังทำงานอยู่จริงๆ"
"ไม่รู้ล่ะ ถ้าพ่อไม่มารับแล้วมีคนอื่นมารับแทน หนูจะไปกับเขา"
เพชรถึงกับหยุดกึก..
"ไม่นะเอมิ…หนูห้ามกลับบ้านกับไอ้บ้านั่นเด็ดขาด"
"เอ้า..ก็ถ้าพ่อไม่มารับจะให้หนูกลับยังไงล่ะคะ ไม่รู้ล่ะ หนูให้เวลาพ่อถึง 4 โมงเย็น ถ้าพ่อไม่มาหนูก็จะไปกับไอ้บ้านั่นของพ่อ"
เอมิ พูดเสร็จก็ตัดสายทิ้งทันที ก่อนจะยิ้มๆที่แกล้งพ่อได้เ พชรยังเหนื่อยหอบอยู่ พยายามเรียก
"เดี๋ยว…เอมิ เอมิเดี๋ยว"

เพชรส่ายหัวเซ็งๆแต่ทำอะไรไม่ได้ รีบวิ่งลงบันไดไปต่อ

ประตูลิฟท์เปิดออก บัณฑิตลากตัวอ้อมออกมาแล้วพาเดินไปที่ลานจอดรถ อ้อมพยายามจะเจรจา
"อาจารย์คะ อาจารย์ปล่อยอ้อมไปเถอะนะคะ อ้อมสัญญาว่าอ้อมจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น อ้อมรักอาจารย์นะคะ"
"มันสายไปแล้ว ทุกอย่างจะพังป่นปี้ก็เพราะเธอ ฉันไม่น่ามายุ่งกับพวกเธอเลย ไป..ไปขึ้นรถ"
บัณฑิตลากอ้อมเดินตรงไปที่รถ

ผู้กองเพชรวิ่งตามเข้ามาที่ลานจอดรถ ด้วยอาการเหนื่อยหอบ เพชรพยายามมองๆหาว่าบัณฑิตพาอ้อมหนีไปทางไหน
"ปล่อยนะ"

เพชรมองไปในทิศทางเสียงที่ได้ยินแล้ววิ่งตามไป

บัณฑิตลากอ้อมมาที่รถ

"ปล่อยฉัน ฉันไม่ไป"
บัณฑิตพยายามบังคับให้อ้อมเข้าไปในรถ แต่อ้อมฮึดสู้ เตะเข้าที่หว่างขาบัณฑิต ก่อนจะวิ่งหนีออกไป
บัณฑิตตะโกน
"หยุดนะ ไม่อย่างนั้น ฉันยิงเธอจริงๆด้วย คิดว่าจะหนีพ้นเหรอ"
บัณฑิตยกปืนเล็งไปที่อ้อม อ้อมไม่หยุดวิ่ง
บัณฑิตตัดสินใจยิง เปรี้ยง !
อ้อมล้มลง บัณฑิตเดินเข้าไปหาอ้อมที่พยายามคลานหนี บัณฑิตกำลังจะยิงซ้ำ อยู่ๆ ซินก็พุ่งออกมาจากอีกทาง เข้าชาร์ตบัณฑิต พยายามจับปืนชูขึ้นฟ้า ปืนลั่น ปั้งปั้งปั้ง !
บัณฑิตเหวี่ยงซินล้มลงไปกองกับพื้น บัณฑิตหันปืนเล็งไปที่ซิน
"เสือกนักนะมึง อย่าอยู่เลย"
เปรี้ยง ! เสียงปืนดังขึ้นอีกนัด พร้อมๆกับปืนในมือของบัณฑิตหล่นลงที่พื้น ซินหันไปมอง
"ผู้กอง"
ผู้กองเพชรถือปืนเดินเข้ามาหาบัณฑิต ซินรีบคว้าปืนของบัณฑิตมาถือแล้วจ่อไปที่บัณฑิต
"อาจารย์ครับ ผมว่าอาจารย์ยอมมอบตัวจะดีกว่า"
"นายเป็นใครกันแน่"
ผ็กองเพชรถือปืนเดินเข้ามาจ่อที่บัณฑิตอีกคน เพชรหันไปมองๆซิน
"มาที่นี่ได้ยังไง"
"วนิดากับอ้อมเป็นรุ่นพี่ผมที่มหาวิทยาลัยครับผู้กอง พี่วนิดาเขามาให้ผมเห็น"

ซินหันไปยิ้มๆกับผู้กองเพชร ผู้กองเพชรเข้ารวบตัวบัณฑิตไว้ได้ ก่อนจะหันไปสั่งซิน
"นายไปดูเธอ"
ซินรีบวิ่งเข้าไปประคองอ้อม ที่กำลังค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เธอแค่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
เพชรบอกกับอาจารย์บัณฑิต
"อย่าให้มีใครต้องตายอีกเลยนะครับอาจารย์ มอบตัวซะเถอะ"

เพชรเข้าไปกดร่างบัณฑิตให้มอบลงกับพื้น
"ปล่อย โอ้ย..ปล่อยผมผมเจ็บนะ"
"ไว้ไปสู้กันด้วยหลักฐานนะครับ ใครผิดก็ว่ากันไปตามผิด ใครไม่ผิดกฎหมายก็ไม่สามารถลงโทษอะไรคุณได้อยู่แล้ว"
เพชรล๊อกตัวบัณฑิตไว้ได้ ขณะที่ซินเองก็ค่อยๆประคองอ้อมให้ลุกขึ้น
ลุง รปภ.วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
"อยู่นี่เองนะไอ้ตัวแสบ ไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว บุกรุกเข้ามาจนได้" รปภ. หันไปเห็นเพชร "อ้าวคุณ"
"เขาเป็นสายให้ผมเอง"
ลุง รปภ.หันไปมองซินงงๆ ซินได้โอกาสยืดๆ
"เงิบดิ..ลุง"
"ลุงช่วยโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ผมหน่อย ขอรถพยาบาลมาที่เกิดเหตุด้วย"
"ครับ ครับ ได้ครับ"
ลุง รปภ. รีบเดินออกไป ซินหันมายิ้มๆกับผู้กองฯ ผู้กองทำหน้านิ่งไม่ยิ้มตอบ

ผ่านเวลา รถตำรวจ รถพยาบาลจอดอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ลุง รปภ.กำลังให้การกับตำรวจอยู่ที่มุมหนึ่ง อ้อมกำลังได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยมีหมวดสารินกับหมู่จักรและตำรวจท้องที่คุมตัวอยู่ เมื่อทำแผลเสร็จสารินก็เชิญตัวอ้อมไปที่โรงพัก
"เชิญครับคุณอ้อม"
อ้อมยอมทำตามแต่โดยดี ก่อนจะหันไปมองผู้กองเพชรที่นั่งอยู่กับซินอีกมุม
"ขอตัวซักครู่ได้ไหมคะ"
สาริน จักร และตำรวจควบคุมตัวอ้อมเดินเข้ามาหาผู้กองเพชร ที่อยู่กับซิน
"หนูได้ยินตำรวจเขาพูดกันว่าผู้กองมองเห็นวิญญาณได้ " อ้อมหันมองไปรอบๆ "ถ้าวิญญาณของดาเขาอยู่แถวๆนี้ หนูฝากผู้กองบอกกับเพื่อนหนูด้วยนะคะ ว่าหนูขอโทษ หนูไม่ได้ตั้งใจ"
เพชรพยักหน้ารับ
"ฉันสัญญาถ้าเขามาหาอีก ฉันจะบอกให้"

"ไปจ่า..เอาตัวไป"

ตำรวจพาตัวอ้อมไป
 
สาริน เพชร จักร มองตาม ผู้กองเพชรหันมามองซินที่ยืนอยู่เหมือนจะนึกขึ้นได้
เพชรขยับเข้าพูดเหมือนกระซิบ
เพชรขู่ด้วยเสียงเบาๆ
"นายโชคดีนะที่ตอนนี้มีคนอื่นอยู่ด้วย ไม่งั้นฉันกระทืบนายแน่ กับสิ่งที่นายทำเมื่อเช้า"
สารินกับจักรหันมามองๆ สองคนนี้มีอะไรกัน เพชรพูดเสียงดังกลบเกลื่อน
"ทำไมนายยังมาอยู่ตรงนี้ ทุกอย่างจบแล้วนิ ไปสิกลับบ้านได้แล้ว หรือมีเรียนก็รีบๆไปเรียน"
"โธ่ผู้กองฯ ใจคอจะไม่ขอบคุณกันผมซักคำเลยหรือครับ"
ผู้กองเพชรเสียงจริงจัง
"ที่จริง ฉันเอาตัวนายเข้าคุกด้วยก็ได้นะ โทษฐานที่เข้ามาขัดขวางการทำงานของเจ้าพนักงาน"
ซินนอกจากจะไม่กลัวแล้ว ยังพูดยิ้มๆท่าทางกวน
"ก็ได้งั้นผมว่าผมรีบไปดีกว่า" ชินดูนาฬิกาข้อมือ "ผมพึ่งนึกขึ้นได้เย็นนี้ผมมีนัดกับสาวไว้ด้วยงั้น…ผมลานะครับผู้กอง"
ซินตะเบ๊ะแล้วหันหลังเดินจ้ำๆออกไป สารินมองตามยิ้มๆ
"จะว่าไปคู่หูผู้กองนี่ก็หน่วยก้านไม่เลวนะครับใจกล้าดี ขนาดกับผู้กองยังไม่กลัว"
"คู่หูอะไร คู่กัดสิไม่ว่า" เพชรว่า
ผู้กองเพชรหันไปมองๆซิน ก่อนที่ผู้กองเพชรจะนึกอะไรขึ้นมาได้
"เดี๋ยวนะ..เมื่อกี๊มันบอกว่าอะไรนะ"
"มันบอกว่ามันนัดสาวไว้ครับ" สารินบอก
เพชรพึมพำ "เอมิ.." เขาถามสาริน "ตอนนี้กี่โมงแล้วผู้หมวด"
"กำลังจะบ่าย 4 โมงแล้วครับผู้กอง ทำไมเหรอครับ หรือว่าผู้กองก็มีนัดกับใครไว้อีกคน"
ผู้กองเพชรรีบเดินจ้ำๆออกไป ผู้หมวดสารินตะโกนถาม
"อ้าว…เดี๋ยวสิครับผู้กองฯ นั่นผู้กองจะรีบไปไหนครับ"
"ผมต้องไปรับลูกสาวที่โรงเรียน"
สารินกับจักรมองตามผู้กองขำๆ

ซินเดินออกมาเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
"ไปโรงเรียนนานาชาติ PPJ ครับพี่"
มอไซด์รับจ้างส่งหมวกกันน๊อคให้ ซินขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายแล้วบอก
"ซิ่งเลยนะลูกพี่"

รถของผู้กองเพชรที่จอดอยู่ ผู้กองเพชรรีบวิ่งมาขึ้นรถ ก่อนจะรีบขับออกไป เพราะต้องแข่งกับซินที่กำลังจะไปรับเอมิที่โรงเรียนด้วยเหมือนกัน

เพชรกำลังเหยียบคันเร่งมาด้วยความเร็ว เพื่อแข่งกับเวลาที่ใกล้จะ 4 โมงเย็นเต็มทีแล้ว เพชรนึกถึงคำพูดของเอมิที่บอกว่า “ถ้าพ่อไม่มา หนูก็จะไปกับนายนั่น” เพชรนึกถึงภาพเอมินั่งรถไปกับซินแล้วรับไม่ได้
เขาพึมพำ "อย่าหวังจะได้แอ้มลูกสาวฉันเลย"
เพชรรีบขับรถไปด้วยความเร็ว

บรรยากาศหลังเลิกเรียน เอมิกับเพื่อนคนอื่นๆทยอยกันเดินกันออกมา ก่อนจะได้ยินเสียงเพื่อนๆกรี๊ดกร๊าด ชี้ชวนกันให้ดูอะไรบางอย่าง เพื่อนๆบางคนรีบพากันวิ่งออกไปเอมิมองตาม ก่อนจะรีบออกไปดู

ฝ่ายเพชรจอดรถให้คนแก่เดินข้ามถนนอยู่ คนแก่ก็ใจเย็นเหลือเกินค่อยๆเดินกระย่องกระแย่งไป เพชรเห็นสภาพแล้วแอบบ่นๆ
"ก่อนฟ้ามืด ยายจะข้ามพ้นมั้ยเนี่ย"
คุณยายเดินมาถึงกลางถนนก็หยุดเดิน หันมายิ้มๆ
"ขอบคุณนะคะ"
เพชรดูนาฬิกาแล้วทนไม่ไหว
เพชรลงจากรถ มาอุ้มคุณยายไปส่งอีกฟากของถนนก่อนกลับมาขึ้นรถแล้วขับออกไป

ซินยืนถือตุ๊กตาหมีตัวใหย่มายืนรอรับเอมิอยู่ พอซินเห็นเอมิเดินเข้ามาดูอยู่ในกลุ่มเพื่อนด้วย ก็ยิ่งทำท่าทะเล้นๆ เช่นประมาณว่า ส่งหัวใจให้เอมิ สาวๆก็ยิ่งกรี๊ด
เอมิเดินออกมาหาซิน แต่สายตายังมองๆหาพ่ออยู่ว่าจะมาหรือไม่มา
"นี่นายกำลังทำบ้าอะไรเนี่ย"
"เอ้า..เราก็มารับเอมิไง ทำตามที่พูดไว้ ไม่เหมือนกับใครบางคน"
ซินยื่นตุ๊กตาหมีให้เอมิ
"สำหรับเอมิครับ เอาไว้นอนกอด"
บรรดาสาวๆที่มุงอยู่ส่งเสียงกรี๊ดดดดๆๆๆๆ ด้วยความอิจฉา
"ด้วยเกียรติของลูกเสือสำรอง ข้าพเจ้าขอสัญญาว่า ต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะมีแค่เอมิแค่คนเดียว"
"แหว่ะอย่ามาบ้า"
"ด้วยเกียรติของลูกเสือสามัญ ฉันก็ขอปฏิญาณตนเหมือนกันว่า ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้กระทืบคน ฉันจะไม่ยอมกลับบ้านเด็ดขาด" ผู้กองเพชรมาพอดี
เอมิกับซินหันไปมองๆ เสียงกรี๊ดทุกอย่างเงียบกริบ เพชรยืนจ้องชินนิ่งๆท่าทางเอาจริง
"เอมิ…กลับบ้าน"
เอมิบอกกับซิน "ขอบใจนะ สำหรับตุ๊กตา"

เอมิอุ้มตุ๊กตาหมีตัวใหญ่เดินไปแอบด้านหลังเพชร เพชรยังจ้องมองซินอยู่
ซินค่อยๆยกมือไหว้ยิ้มๆ
"ผม..ลาละครับผู้กอง"

ซินรีบวิ่งหนีออกไป ท่ามกลางเสียงกรี๊ดที่ดังขึ้นมาอีกครั้ง
เพชรวิ่งตามซิน เอมิกับเพื่อนๆขยับมองตามลุ้นๆว่าซินจะโดนจับได้หรือไม่ เพชรยังคงวิ่งไล่ ซินพยายามหลบหลีก…

ผู้กองเพชรขับรถกลับบ้านด้วยสีหน้านิ่งๆก่อนจะหันมองที่เบาะข้างๆ เห็นเป็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ของซินที่พึ่งให้เอมิมา เอมิยื่นหน้ามาจากเบาะหลังยิ้มๆ
"ขอบคุณนะคะ ที่วันนี้มาได้"
"ดีใจ..หรือว่าเสียใจกันแน่ ที่ไม่ได้กลับกับไอ้บ้านั่น"
"ดีใจสิคะ ใครจะไม่ดีใจ มีคุณพ่อที่ดีมารอรับกลับบ้านแบบนี้ ว่าแต่ ใครเคยรับปากไว้น้า ว่าจะพาไปหาอะไรอร่อยๆกิน แล้วก็ยังไม่ได้พาหนูไป"
เพชรเริ่มยิ้มออก ก่อนจะหันไปบอกกับเอมิ
"ไปสิ..วันนี้อยากกินอะไร อยากทำอะไร พ่อตามใจทุกอย่าง"
"เย้ๆๆๆ"
"แต่พ่อขออะไรอย่างนึงได้มั้ย"
"อะไรคะ"
"หนูช่วยเอาไอ้ตุ๊กตายักษ์นี่ ไปไว้เบาะหลังได้ไหม พ่อเห็นแล้วทำให้นึกถึงหน้าใครบางคน ซึ่งมันทำให้พ่อหงุดหงิดทุกที"
เอมิหันไปมองตุ๊กตาหมียิ้มๆ
"ไว้ถึงบ้าน…หนูจะเก็บไว้ในห้องนอนหนูเลยค่ะ"
เพชรหันขวับไปมองเอมิ ที่ยังยิ้มกวนๆ
เพชรพึมพำ
"หนักกว่าเดิมอีกทีนี้ ไอ้คนให้มามันคงดีใจแย่"

เพชรกับเอมิขับรถกลับบ้านกันอย่างมีความสุข โดยมีตุ๊กตาหมีนั่งมาข้างๆ

อ่านต่อตอนที่ 10
กำลังโหลดความคิดเห็น