DIAMOND EYES ตา-สัมผัส-ผี ตอนที่ 2
ตอน “ฆาตกรรมโบกปูน 2”
ผู้กองเพชรวิ่งไล่ตามมือปืนพร้อมยิงปืนต่อสู้
เขาหยุดวิ่ง กวาดสายตามองหามือปืน แต่ไม่พบ
ที่ดวงตาด้านซ้ายของเขามีสีแดงเข้มเพราะในดวงตามีเลือดออกมา เขารู้สึกแสบตาจนน้ำตาไหลจากตาซ้าย
ภายในห้องตรวจแผนกจักษุแพทย์ ในโรงพยาบาล หมอก้อยกำลังส่องไฟตรวจดวงตาด้านซ้ายของ ร.ต.อ.เพชร ภูมิไทที่มีเลือดไหลออกมา
“อาการตาแดงน่าจะเกิดจากเส้นเลือดที่เยื่อบุตามีเลือดซึมออกมา คุณไปทำอะไรมาเหรอคะ”
“วิ่งไล่จับมือปืนที่มายิงผม”
หมอก้อยมองหน้าผู้กองเพชร พูดด้วยน้ำเสียงดุ
“ดิฉันบอกให้คุณอยู่เฉยๆก่อนจนกว่าดวงตาจะหายเป็นปกติ ไม่ใช่เหรอค่ะ”
“แต่ผมต้องทำงานนะครับ”
“แล้วเกิดตาบอดขึ้นมาล่ะ คุณจะเสี่ยงเหรอ”
“โอเค นับจากวันนี้ไปผมจะอยู่นิ่งๆ ผมสัญญา”
“เอ่อ คุณยังมองเห็นผีอยู่อีกรึเปล่า”
ผู้กองเพชรเงยหน้ามองเพดาน
“เห็นสิ บนเพดานก็มี”
“คุณโกหกฉันใช่มั๊ย”
“ถ้าไม่เชื่อแล้วคุณหมอจะถามทำไม”
หมอก้อยมองเพชรแล้วก้มหน้าก้มตาเขียนใบสั่งยาส่งให้เขา
“ใบสั่งยาค่ะ”
เขารับใบสั่งยามาจากก้อย
“ขอบคุณครับหมอ”
“ถ้าดวงตามีอะไรผิดปกติต้องรีบมาหาหมอให้เร็วที่สุดนะคะ”
“ครับ”
ผู้กองเพชรลุกขึ้น ออกไปจากห้อง สวนกับพยาบาลที่เอาแฟ้มคนไข้มาให้หมอก้อย
พยาบาลหันมองเพชรตาเยิ้ม
“พยาบาลเรียกคนไข้คนต่อไปได้แล้ว”
“ค่ะ”
ต่อมา หมอก้อยเดินเหม่อลอย คิดถึงเคสผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุทางดวงตา แล้วผู้ป่วยรายนั้นตาบอด
ในอดีต ... ผู้ป่วยถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน โดยมีหมอเวร และพยาบาลตามเข้าไปด้วย
หมอก้อยวิ่งตามมา พยาบาลรายงานอาการของผู้ป่วย
“คนไข้ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา ต้องผ่าตัดค่ะ”
“เตรียมเซ็ตผ่าตัดด่วน”
ก้อยรีบเข้าไปในห้องผ่าตัดทันที
ผ่านเวลา จนวันหนึ่งที่หมอก้อยเปิดผ้าปิดตาของผู้ป่วยออก …
ผู้ป่วยค่อยๆ ลืมตาช้าๆ ยังมีอาการแสบเคือง
“รู้สึกยังไงบ้าง มองเห็นชัดมั้ยคะ”
“มองชัดแล้วครับ แต่เคืองๆอยู่บ้าง ขอบคุณนะครับหมอ”
“ด้วยความยินดีค่ะ แต่ถึงอาการจะดีขึ้นแล้วก็อย่าลืมกินยาให้หมดตามหมอสั่ง พักผ่อนให้มากๆ ดูแลดวงตาดีๆ มาตามวันที่หมอนัดด้วยนะคะ”
“ครับ”
ผ่านเวลา .... ผู้ป่วยคนเดิมมายืนโวยวายกลางโรงพยาบาล ผู้คนต่างมุงดู พยาบาลวิ่งวุ่น
“หมอเนตรดาวอยู่ไหน แกออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ แกทำให้ฉันตาบอด ฉันจะเอาเรื่องแกให้ถึงที่สุด”
หมอก้อยวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้นคะ”
พยาบาลบอก
“แย่แล้วค่ะหมอก้อย คนไข้รายนี้เค้าโวยวายจะเอาเรื่องหมอก้อยที่ทำให้เค้าตาบอดค่ะ”
“ตาบอดเหรอ!”
หมอก้อยอึ้งสุดขีด รู้สึกเป็นความผิดของตัวเองขึ้นมาทันที
ที่ช่องจ่ายยา ผู้กองเพชรกำลังรับยาจากเภสัชกร
หมอก้อยเดินผ่านมาพอดีเธอเข้าไปหาผู้กอง
“ผู้กองต้องกินยาตรงตามเวลานะคะ” หมอก้อยย้ำ
“คร๊าบ”
จังหวะนั้น สตีฟ เพื่อนร่วมงาน เดินเข้ามาทักหมอก้อย
“หมอก้อย”
“คะ ด็อกเตอร์”
“เย็นนี้ไปดินเนอร์เป็นเพื่อนผมหน่อยนะ”
“โอเคค่ะ” หมอก้อยหันไปพูดกับเพชรท่าทางจริงจัง กำชับ “ขอตัวก่อนนะค่ะ แล้วห้ามลืมกินยาเด็ดขาดนะคะ”
หมอก้อยกับสตีฟเดินคุยกันไป
ผู้กองเพชรมองตามทั้งสองคน เข้าใจผิดคิดว่าสตีฟเป็นแฟนหมอก้อย
ภายในห้องพัก เวลากลางคืน แจ๊คกำลังเก็บเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นใส่กระเป๋า เขาสะพายเป้เดินออกมาที่ประตู ขณะที่เขากำลังล็อคประตู มือใครคนหนึ่งเอื้อมมาจับไหล่เชา แจ๊คหันมามองหน้าผู้มาเยือนยามวิกาลก็ตกใจสุดขีด
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ บริเวณคอนโดฯ ชั้นล่าง เหล่าตำรวจประกอบด้วย ร้อยตำรวจเอกเพชร ภูมิไท รองผู้บังคับบัญชากองพิสูจน์หลักฐานหน่วยDiamond eyes , ร้อยตำรวจเอกสาริน ฝ่ายป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และร้อยตำรวจโทดนัย หรือ หมวดดอน ตำรวจสายสืบประจำหน่วย และตำรวจคนอื่นๆ ตลอดจนเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ต่างอยู่ในที่เกิดเหตุ
ศพของแจ๊คนอนคว่ำหน้าอยู่ที่สระน้ำร้าง เลือดไหลนองพื้น เจ้าหน้าที่กำลังชันสูตรศพผู้ตาย
หมวดดอนพลิกหน้าศพขึ้นมา พบว่า แจ๊คหน้าตาเละ เป็นร่องรอยที่กระแทกกับพื้น !
“น่าจะโดดลงมาจากดาดฟ้าครับ มีประวัติเคยโดนคดีเสพยาเสพติด”
ผู้กองเพชรก้าวเข้ามา
“ผู้ตายเป็นสายของผมเอง”
แสนแสบ นักข่าวอาชญากรรมเดินแหวกผู้คนตามเข้ามา
“ช่วงนี้สายของผู้กองนี่ชะตาขาดทุกคนเลยนะครับ แล้วต่อไปใครจะกล้าเป็นสายให้ผู้กองเนี่ย”
ผู้กองเพชรมองหน้าแสนแสบจะเอาเรื่อง สารินขยับเข้ามา
“นายไปไกลๆ ดีกว่า ก่อนที่จะมีศพเพิ่มอีกศพ”
“ถือว่าเป็นตำรวจแล้วจะรังแกประชาชนได้เหรอ ถึงขู่ได้ขู่เอา”
ผู้กองเพชรโพล่ง “ไม่ได้ขู่”
แสนแสบเดินเลี่ยงไป แต่ลีลายังกร่างเหมือนเดิม
ผู้กองเพชรกำลังสำรวจและเก็บหลักฐานอยู่ในห้องของแจ๊ค ผีแจ๊คอยู่ใกล้ๆบริเวณนั้น
ร้อยตำรวจเอกเพชร ภูมิไทเดินมาที่ดาดฟ้ามองเห็นแสนแสบกำลังถ่ายภาพรอยเท้าที่ถูกลากไปที่ระเบียงดาดฟ้า
“ดูจากรอยเท้าที่โดนลากมาบนดาดฟ้า ผู้ตายน่าจะสลบหรือไม่ก็เสียชีวิตก่อนจะถูกโยนลงไปนะครับ”
“นอกจากจมูกดีแล้วยังแสนรู้อีก พันธุ์อะไร” เพชรบอก
“ผมไม่ใช่หมาครับผู้กอง”
เพชรหันไปมองที่ระเบียงตึก เขาเห็นแจ๊คยืนมองแล้วโดดลงไปเบื้องล่าง ผู้กองเพชรวิ่งไปเจอหมากฝรั่งที่ถูกเคี้ยวแล้วตกอยู่ที่พื้น พอดีกับแสนแสบวิ่งมาเหยียบหมากฝรั่งไว้ใต้รองเท้า
ผู้กองเพชรโมโห
ภายใน ห้องพิสูจน์หลักฐานเวลาต่อมา
แอ๊บบี้กำลังแกะหมากฝรั่งออกมาจากรองเท้าของแสนแสบ
เธอนำชิ้นหมากฝรั่งเก็บใส่ถุงพลาสติก เข้าแล็บ
วันใหม่ ... แอ๊บบี้เดินเข้ามาส่งเอกสารการตรวจ DNAให้ผู้กองเพชร
“ผลการตรวจ DNA จากน้ำลายในหมากฝรั่งมาแล้วค่ะ”
“ผลเป็นไง”
“หมากฝรั่งมาจากคนเดียวกันกับที่เจอในตึกที่ริต้าถูกฆ่าตาย”
เพชรนึกถึงตอนที่คุยกับซิน เห็นซินเคี้ยวหมากฝรั่งอยู่ขณะสนทนา
เวลาต่อมา ชินกำลังเดินเคี้ยวหมากฝรั่งเข้ามาในห้องสอบสวนของหน่วย Diamond eyes
“นายไปได้แล้ว DNA ของนายไม่ตรงกับคนร้าย” ผู้กองเพชรบอก
“นี่ผู้กองยังไม่เลิกสงสัยผมอีกเหรอ”
“ถ้ายังจับคนร้ายไม่ได้ ฉันก็ต้องสงสัยทุกคนที่เกี่ยวข้องกับริต้า”
“รวมถึงผู้กองด้วย” ชินดักคอ
“กลับไปได้แล้ว”
“ผมเข้าไปดูข้อมูลจากมือถือของริต้า เลยรู้ว่าริต้าเคยเป็นคนเดินยาให้แก๊งค้ายาที่ถูกคุณวิสามัญไปเมื่อเดือนก่อน ผมเชื่อว่าริต้าถูกฆ่าปิดปาก”
ผู้กองเพชรพูดกับซิน
“ต่อไปนี้นายไม่ต้องมายุ่งกับคดีนี้อีก”
“ยังไงผมก็ไม่เลิก”
“เชื่อฉัน เลิกยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ซะ”
“แต่คนร้ายมันยังลอยนวล แล้วคุณก็ทำอะไรไม่ได้”
“มันไม่ใช่หน้าที่ของนาย”
“ถามจริงๆ รับส่วยใครมารึเปล่า ถึงจะให้ผมเลิกขุดคุ้ยคดีนี้ ผู้กองกลัวเจอตอรึไง”
ผู้กองเพชรโมโห
“ออกไป”
ซินเดินไปที่ประตู ก่อนพูดขึ้น
“ยังไงผมก็จะลากคอไอ้ฆาตกรที่ฆ่าริต้ามารับโทษให้ได้”
ซินรีบเดินออกไป
คืนวันเดียวกัน ซินเข้ามาหยุดยืนหน้าผับแห่งหนึ่ง ส่ายสายตามองไปรอบๆอย่างสังเกตการณ์ เห็นนักเที่ยวหญิงชายจำนวนหนึ่งเดินกำลังเข้าไปภายใน
ซินก้าวเข้ามาในผับที่กำลังเปิดเพลงในจังหวะเร่งเร้า นักเที่ยวภายในนั้นเต้นเหมือนคนเมายา
ซินเห็นผีริต้ายืนอยู่มุมหนึ่ง ซินขยับจะเข้าไป ริต้าหายไป หมวดดอนก้าวเข้ามาในผับคุยกับพนักงานคนหนึ่ง
ซินยกโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพของหมวดดอน
ผู้กองเพชรพาแอ๊บบี้และหมวดสารินมานั่งทานอาหาร เพชรรวบช้อนกินอิ่มแล้ว
“ผู้กองอย่าลืมกินยานะคะ”
“สั่งยังกะเป็นเมียผู้กองแน่ะ” สารินบอก
“เพื่อนชั้นเค้าฝากให้ดูแลผู้กองย่ะ”
“หมอก้อย” ผู้กองเพชรว่า
“ค่ะ มันเป็นห่วงกลัวว่าผู้กองจะไม่กินยาตามกำหนด” แอ๊บบี้บอก
“นี่ๆ หมอเค้าชอบผู้กองรึเปล่า” หมวดสารินถาม
“ไม่หรอก เค้ามีแฟนแล้วเป็นหมอฝรั่งที่อยู่โรงบาลเดียวกัน”
“จริงเหรอ ไม่เห็นมันเล่าให้ฟังเลย”
“หมอก็ต้องคู่กับหมอ จะมาคู่กับตำรวจมันคงไม่แม็ท”
“แล้วตำรวจต้องคู่กับใคร” ผู้กองเพชรถาม
หมวดสารินมองหน้าแอ๊บบี้ เพราะชอบอยู่
“ตำรวจก็ต้องคู่กับนิติเวชสิครับ”
“แหวะ”
ผู้กองเพชรหยิบกล่องยาขึ้นมาเปิด เสียงสัญญานไลน์ดังขึ้นมาพอดี
เขาหยิบโทรศัพท์มาเปิดดู
จอโทรศัพท์เห็นเป็นภาพถ่ายหมวดดอนที่อยู่ในผับ มีข้อความตามมาว่า “ผู้ชายในภาพนี้เป็นคนของผู้กองใช่มั๊ย”
เขาพิมพ์ตอบกลับไป “ใช่ มีอะไร”
ข้อความจากซินส่งมา “มันน่าจะเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าริต้า”
เท่านั้น ผู้กองเพชรบอกกับเพื่อนร่วมงานว่า “ฉันมีธุระด่วน ต้องไปก่อน”
ผู้กองเพชรลุกจากเก้าอี้เดินออกไป
“อ้าว อยู่ๆก็ไป” หมวดสารินบอก
แอ๊บบี้หยิบกล่องใส่ยาของเพชรขึ้นมา
“ยาก็ลืมไว้อีก”
ซินก้าวขึ้นบันไดชั้นบนของผับ มาหยุดยืนหน้าห้องๆหนึ่งที่ปิดสนิท ถือโทรศัพท์ถ่ายคลิปวิดีโอไปด้วย มือของชายฉกรรจ์คนหนึ่งเข้ามาจับแขนด้านหลังซินไว้
“มึงขึ้นมาทำไม”
“เอ่อ...”
ซินตัดสินใจถีบชายคนนั้นจนกระเด็นไปแล้วหันหลังจะวิ่งหนี
ประตูห้องเปิดออกมาเห็นดอนถือปืนเล็งไปที่ซิน
ซินหยุดชะงักยืนนิ่ง
ดอนเคี้ยวหมากฝรั่งเดินเข้ามาหาซินคว้าโทรศัพท์มือถือจากซินขึ้นมาดู
หน้าจอโทรศัพท์มือถือเป็นภาพและข้อความไลน์ที่ส่งไปหาผู้กองเพชร
เพชรขับรถเข้ามาจอดที่หน้าผับ เพชรนั่งในรถมองหาซิน
เขาได้ยินเสียงสัญญาณไลน์ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์มาอ่านข้อความในไลน์
“ตอนนี้ผมตามพวกมันมาอยู่ในโกดังหลังผับ“
ผู้กองเพชรเปิดประตูลงจากรถเดินไปหลังผับทันที
คืนเดียวกัน หมอก้อยกับหมอสตีฟดินเนอร์กันในร้านอาหาร เสียงโทรศัพท์มือถือของหมอก้อยดังขึ้น
“ฮัลโหล แอ๊บบี้”
รถของหมวดสารินวิ่งบนถนน ... เขากำลังขับรถ มีแอ๊บบี้นั่งข้างๆ กำลังโทรศัพท์หาหมอก้อย
“นี่แก ผู้กองเค้าลืมยาไว้กับชั้น ยังไม่ได้กินด้วย เป็นอะไรป่ะวะ”
หมอก้อยกำลังโทรศัพท์
“เฮ้ย ไม่ได้นะ ต้องให้กินด่วนเลย เดี๋ยวตาอักเสบขึ้นมาอีก”
“โอเคๆเดี๋ยวฉันโทร. หาผู้กองก่อนว่าอยู่ไหน... แค่นี้นะ”
ผู้กองเพชรเดินเข้าไปในช่องทางเดินแคบๆระหว่างโกดัง
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือเพชรดังขึ้นมา เพชรหยิบโทรศัพท์มารับสาย
“ฮัลโหล”
แอ๊บบี้อยู่ในรถของสาริน
“ผู้กองอยู่ไหน”
“ไม่ต้องรู้สักเรื่องได้มั๊ย”
“ไม่ได้ค่ะ นี่เรื่องสำคัญ”
“มีอะไร”
“ผู้กองลืมกินยา แถมยังลืมยาไว้ด้วย”
“เรื่องแค่เนี้ยนะ สำคัญ”
“สำคัญสิ ยัยก้อยบอกว่าถ้าไม่กินยาตามกำหนด ตาผู้กองจะอักเสบจนถึงขั้นตาบอดได้”
“ถ้างั้นรอให้ผมทำธุระเสร็จก่อนแล้วจะโทร.ไป”
ผู้กองเพชรปิดโทรศัพท์มือถือขยับจะก้าวเดิน
หมวดดอนเดินออกมาจากมุมมืดยกปืนเล็งปืนมาที่ผู้กองเพชร
แอ๊บบี้วางสายโทรศัพท์สีหน้าครุ่นคิด
“มีธุระอะไรป่านนี้วะ”
“ผู้กองว่าไง”
“บอกให้สแตนบายเสร็จธุระจะโทร.หา”
“พี่ว่าเอาไปให้เลยดีกว่า เสียเวลารอ ว่าแต่ เค้าอยู่ไหนกันละเนี่ย”
บริเวณช่องทางเดินระหว่างโกดัง
ผู้กองเพชรพูดกับหมวดดอนที่เล็งปืนตรงมา
“แกทำแบบนี้ทำไมดอนเป็นผู้รักษากฎหมาย แต่มาทำผิดกฎหมายซะเอง”
“ผู้กองฆ่าน้องชายผม”
“น้องชายนาย”
“ใช่ คนที่ถูกผู้กองฆ่าตาย มันเป็นน้องชายผม”
เหตุการณ์ย้อนอดีต ผู้กองเพชรยิงน้องชายดอนที่เป็นแก๊งค้ายาตาย
“ไม่ว่าจะเป็นน้องชาย หรือว่านาย ถ้าทำผิดกฎหมาย ก็ต้องได้รับโทษ”
ดอนเดินถือปืนเข้ามาใกล้ผู้กองเพชร
“ผู้กองไม่เคยมีครอบครัว เลยไม่รู้ว่าการที่ต้องสูญเสียคนในครอบครัวไป มันรู้สึกยังไง”
“นายก็เลยแก้แค้นฉัน ด้วยการลอบฆ่าฉัน แล้วก็สายของฉันทุกคนงั้นเหรอ”
“ใช่”
ผู้กองเพชรนึกขึ้นได้ “ซิน!”
“ยังไม่ถึงเวลาของมัน ขอเล่นอะไรสนุกๆก่อน”
หมวดดอนยกปืนขึ้นฟาดไป
ภายในโกดัง ดอนใส่ถุงมือ ใช้ปืนจี้ซินที่ถูกมัดมือเดินเข้ามาตรงหน้าผู้กองเพชร
“ผู้กอง!”
“ขอโทษด้วยนะผู้กองที่ต้องทำรุนแรง แต่เดี๋ยวเรื่องมันก็จบแล้ว”
“ปล่อยเด็กมันไปเถอะ มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้”
“เกี่ยวสิ เพราะมันจะเป็นคนยิงผู้กองจนตายและฆ่าตัวตายตามผู้กองไป ส่วนสาเหตุก็เรื่องเดิมๆ คดีชู้สาว”
ดอนหันไปพูดกับซิน
“แกนี่มันรนหาที่เหมือนแฟนแกจริงๆ อยากรู้มั๊ยว่าก่อนตายเธอโดนอะไรบ้าง ...มีความสุขมากแค่ไหน”
“ไอ้ชั่ว ฉันจะฆ่าแก”
หมวดดอนตบปืนไปที่ซินจนเลือดกลบปาก
ดอนหันปลายกระบอกปืนเล็งไปที่เพชรเตรียมหนี่ยวไก
เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด
ดอนถูกยิงเข้าที่หัวไหล่จนล้มลง ปืนตกไปที่พื้น
หมวดสารินถือปืนอยู่หลังดอน แอ๊บบี้ก้าวตามเข้ามาหยุดยืนข้างสาริน
ผู้กองเพชรหันไปมองสารินยิ้มพอใจ
ซินก้มลงใช้มือทั้งสองที่ถูกมัดหยิบปืนของดอนขึ้นมาเล็งไปที่ดอน
“อย่าซิน ปล่อยให้กฎหมายจัดการดีกว่า” ผู้กองเพชรบอก
ซินเงยหน้า เห็นริต้ามองหน้าเหมือนจะห้าม
ซินตัดสินใจยิงปืนหลายนัด แต่กระสุนปืนถูกยิงไปที่พื้นข้างตัวดอน
ซินมองริต้าที่ยิ้มให้
เวลาต่อมา
ดอนถูกตำรวจจับ นักข่าวรายงานข่าวสรุปคดี หมวดสารินเข้าไปจับดอนใส่กุญแจมือ
แอ๊บบี้เข้ามาช่วยแก้มัดเพชร และซิน
นักข่าวรายงานในภาคสนาม
“หลังจากที่ตามคดีกันอยู่นาน ในที่สุดก็สามารถจับกุมผู้ต้องหา ในคดีฆ่าอำพรางศพ ในหลายคดีที่เกิดขึ้นตลอดเกือบสองเดือนที่ผ่านมา ซึ่งคนร้าย เป็นหนึ่งในทีมสอบสวนพิเศษ ที่แฝงตัวเพื่อแก้แค้นให้น้องชาย และเพื่อนร่วมแก๊งค้ายาเสพติด”
เสียงนักข่าวค่อยๆเฟดไป
ในมุมเดิม ... แอ๊บบี้ส่งยาพร้อมขวดน้ำเปล่าให้ผู้กองเพชร
“รีบกินยาเลยค่ะผู้กอง เลยเวลามาเป็นชั่วโมงแล้ว”
เพชรรับยามาเข้าปากดื่มน้ำแล้วคุยกับแอ๊บบี้
“ขอบคุณมากนะ ที่ตามมาช่วย”
“ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะคะ ใจหายหมด”
ผู้กองเพชรยิ้มๆ
“แล้วตามมาถูกได้ยังไงเนี่ย”
“ก็เช็คจาก GPS ของผู้กองน่ะสิคะ ไม่เห็นจะยากเลย”
“เรื่องเช็ค เรื่องตาม สอดส่องเรื่องชาวบ้านเนี่ย แอ๊บบี้เค้าถนัดครับ” สารินบอก
“แอ๊บบี้ทำตามหน้าที่ย่ะ”
แสนแสบ นักข่าวอาชญากรรมเดินเข้ามา
“ตามเก่งแบบเนี้ย ถ้าใครได้เป็นเมีย ไม่ต้องกระดิกไปไหนเลยนะครับ”
แอ๊บบี้โพล่ง “ไอ้แสบ”
“ยินดีด้วยนะครับผู้กองที่ปิดคดีลงได้ ไม่น่าเชื่อว่าคนร้ายจะเป็นคนกันเองแท้ๆ เค้าถึงว่ารู้หน้าไม่รู้ใจ เออ..แล้วผู้กองจะทำคดีอะไรต่อครับ”
“ว่าจะลาพักร้อนสักระยะนึง” ผู้กองเพชรบอก
“โธ่ ยังงี้ผมก็หมดเรื่องสนุกๆ ไปโพสต์ลงเน็ตสิครับ”
หมวดสารินบอก “แต่ฉันมีอีกคดีนึงที่กำลังตามอยู่”
“คดีอะไรครับ”
“พวกโรคจิตที่ชอบตัดต่อภาพไปโพสต์ลงในเน็ตเอายอดไลค์ ฉันกำลังสืบหาอยู่ว่ามันเป็นใคร”
แสนแสบหน้าเสียรีบพูดกลบเกลื่อน
“ถ้ารู้ว่ามันเป็นใครก็บอกด้วยนะครับ ผมไปก่อนนะ”
แสนแสบเดินออกไป
คืนนั้น .... ต่อมา
ซินยืนเหม่อลอยมองบรรยากาศยามค่ำคืนของตึกสูงระฟ้า น้ำตาคลอ คิดถึงเหตุการณ์ ที่เคยคุยกับริต้า เรื่องอยากซื้อคอนโดสูงๆ
“ขอโทษนะริต้า ที่เค้าทำตามความฝันให้ตัวเองไม่ได้ ขอโทษที่เค้าปล่อยให้ตัวเองต้องเผชิญเรื่องร้ายๆเพียงลำพัง ขอโทษที่เค้าปกป้องตัวเองไม่ได้ เค้ามันไม่เอาไหน เค้ามันไอ้กระจอก!”
ริต้าปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าซิน
“อย่าโทษตัวเองอย่างงั้นสิ ตัวเองเก่งที่สุดเลยนะ เค้ามีความสุขมากที่มีตัวเองเป็นแฟน ขอบคุณที่ทำให้เค้ายิ้ม ขอบคุณที่ทำให้เค้าหัวเราะ ขอบคุณที่ดูแลเค้ามาตลอด ดูแลตัวเองดีๆ เค้ารักตัวเองนะ”
ซินโผเข้ากอดริต้า จากนั้น ริต้าค่อยๆหายไปจากอ้อมกอดของซิน ซินค่อยๆทรุดลงนอนกอดเข่าตัวเองที่พื้น
ซินพูดเบาๆกับตัวเอง “เค้าก็รักตัวเองนะ”
ซินนอนเดียวดายบนดาดฟ้า...
วันใหม่ ภายในห้องจักษุแพทย์
เพชรกำลังให้หมอก้อยตรวจดวงตาข้างซ้าย หมอก้อยส่องไฟไปที่ดวงตาซ้ายเพชรแล้วเงยหน้าขึ้นพูด
“การอักเสบลดลงจนเกือบหายเป็นปกติแล้ว”
“ผมก็ไม่ต้องกินยาแล้วสิ”
“ยังคะ ต้องกินยาต่อเนื่องไประยะหนึ่งก่อน และห้ามทำงานหนัก”
ผู้กองเพชรทำหน้าเบื่อๆ
หมอก้อยเขียนใบสั่งยาส่งให้เพชร
“ห้ามลืมกินยานะคะ”
“ผมขี้ลืม คุณหมอช่วยโทร.เตือนผมทุกวันได้มั๊ย”
พยาบาลหันไปมองผู้กองเพชรยิ้มๆรู้ทัน
ก้อยทำหน้านิ่งหันไปพูดกับพยาบาล
“เรียกคนไข้คนต่อไปเข้ามาเลย”
เขารีบลุกขึ้นเดินออกไป หมอก้อยยิ้มเขินๆ
ต่อมา ผู้กองเพชรนั่งรอบนเก้าอี้ที่หน้าห้องรับยา หมอสตีฟเดินถือดอกไม้ช่อใหญ่ผ่านไป
เพชรมองตาม แล้วหันมานั่งนิ่งนึกถึงคำพูดของหมวดสาริน
“หมอก็ต้องคู่กับหมอ จะมาคู่กับตำรวจมันคงไม่แม็ต”
เสียงเภสัชกรเรียก “หมายเลขสิบสามเชิญรับยาค่ะ”
ผู้กองเพชรลุกขึ้นไปที่ช่องจ่ายยา
คืนนั้น ...ผู้กองเพชรขับรถเข้ามาจอดที่บ้าน เขาลงจากรถเดินเข้าไปในบ้าน
ใครคนหนึ่งแอบมองเขาอยู่
ในบ้าน ผู้กองเพชรนั่งบนอาร์มแชร์ เสียงสัญญาณไลน์จากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความ ไลน์ของหมอก้อยที่ส่งมา “ได้เวลาทานยาแล้วค่ะ”
เขายิ้มดีใจ หยิบยาออกมาใส่มือยกเข้าปากแล้วดื่มน้ำตาม จากนั้นหยิบยาหยอดตาขึ้นมาหยอดตาข้างซ้าย
ลมพัดตุ๊กตาขอฝนของญี่ปุ่นแกว่งไปมา เงาใครคนหนึ่งผ่านหน้าผู้กองเพชรไป เขาเงยหน้ามองสงสัย ลุกขึ้นมองไปรอบๆบ้าน
ทันใดนั้น เสียงกริ่งดังขึ้น
เขาหันไปมองที่ประตูบ้าน เคลื่อนตัวเดินเข้าไปใกล้ประตู
ผู้กองเพชรเปิดประตูบ้าน เอมิยืนสะพายเป้อยู่หน้าประตู
“สวัสดีค่ะ” เอมิทักทาย
“เธอมาขายอะไร”
“หนูไม่ได้มาขายของ แต่จะมาหาพ่อค่ะ”
“พ่อใครเป็นพ่อเธอ”
“ถ้าคุณชื่อเพชร ภูมิไท คุณก็คือพ่อของหนู”
เอมิชี้ไปที่เขา
“ฉัน เฮ้ย ล้อเล่นรึเปล่า”
เอมิยื่นซองเอกสารส่งให้เพชร
“ดูเอกสารนี่ก่อนค่ะ”
ในห้องรับแขก
ผู้กองเพชรอ่านเอกสารสูจิบัตรแล้ววางลงมองกองเอกสารตรงหน้าและภาพถ่ายของซาเอโกะกับเอมิวัยเด็ก
เพชรเงยหน้ามองเอมิ
“เอางี้นะ เธอก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว เพราะงั้น…”
เพชรหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ออกมายื่นให้
“เอาเงินนี่เก็บไว้ใช้ก่อน ฉันต้องรีบไปทำงาน”
เพชรพูดจบก็รีบลุกขึ้น
“เดี๋ยวค่ะ…หนูไม่ได้ต้องการเงินจากคุณ หนูทำตามความต้องการของแม่ที่ต้องการให้หนูได้เจอกับพ่อ แต่ถ้ารู้ว่าเจอกันแล้วรู้สึกแบบนี้ ไม่ต้องเจอจะดีกว่า”
เอมิยื่นกระดาษใบเล็กๆมาให้
“นี่เบอร์มือถือหนู ถ้าพ่อสำนึกได้ว่าควรทำยังไงกับหนู ก็โทร. มาแล้วกัน และคราวหน้าก็ช่วยต้อนรับหนูให้ดีกว่านี้ด้วย”
เอมิพูดจบก็เดินออกไปเอง เพชรมองตาม
วันใหม่ เพชรเดินหน้าเครียดเข้ามาในสำนักงานหน่วย Diamond eyes ไปคุยกับแอบบี้
“คุณช่วยค้นข้อมูลแก็งค้ามนุษย์ที่สระแก้วให้ผมที”
“ไหนบอกว่าจะลาพักร้อนไงคะ”
“ผมเปลี่ยนใจแล้ว”
“ยัยก้อยบอกว่าผู้กองมีสิทธิ์จะตาบอดถ้าไม่ดูแลตัวเองนะคะ”
ผู้กองเพชรเดินเลี่ยงออกไป
ในห้องทำงาน ผู้กองเพชรเดินเข้ามากดเปิดคอมฯตัวเอง ก่อนจะรู้สึกว่า ดวงตาซ้ายพร่ามัว ก่อนจะหลับตาตั้งสติ เขากำลังจะกดเปิดเข้ารหัสหน่วย ก็เห็นที่มุมซ้ายล่างมีข้อความแชททักขึ้น
เขากดเปิดก่อนถอนหายใจออกมาอย่างแรง
เขาค้นหากระดาษจดเบอร์โทร.ของเอมิออกมาแล้วหยิบโทรศัพท์กดโทรออกฯ
“ฮัลโหล เธออยู่ที่ไหน”
ต่อมา ... เพชรขับรถมาจอดในที่จอดรถ เห็นเอมิยืนรออยู่ เพชรบีบแตรเรียกเอมิเข้ามนั่งในรถ
เอมิเปิดประตูรถนั่งนิ่งในรถ
เขานั่งมองพฤติกรรมของเอมิอย่างพิจารณา
“เธอรู้มั้ยว่าการแฮกข้อมูลของคนอื่นมันผิดกฎหมาย ฉันจับเธอเข้าคุกได้นะ”
“อุตส่าห์มาหาพ่อแท้ๆที่เมืองไทยกลับจะโดนจับเข้าคุกซะงั้น”
“ถามจริงๆ ทำแบบนี้ทำไม”
“หนูแค่จะส่องดูประวัติคุณนิดๆหน่อยๆ”
“ฉันไม่เคยเล่นโซเชี่ยลอะไรพวกนี้”
“ถึงคุณไม่เล่นแต่คนในหน่วยคุณเขาก็เล่นกัน คุณมีกิ๊กกี่คนหนูก็รู้”
“เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว เออ ถามหน่อยสิ ซาเอโกะเป็นอะไรตาย”
“แม่ป่วยเป็นโรคSLE รักษาตัวอยู่นานแล้ว แต่อยู่ๆอาการก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว หมอบอกว่าติดเชื้อในกระแสเลือด”
“ทำไมไม่มีใครบอกฉันเลย”
“ทำไมต้องบอกล่ะ”
เขารู้สึกผิด
รถเข้ามาจอดในบ้าน แม่บ้านชื่อน้อยเปิดประตูให้ เอมิเดินตามเพชรเข้ามา
เพชรสั่งแม่บ้าน
“น้อย จัดห้องนอนแขกให้ด้วยนะ เธอจะมาอยู่ที่นี่ชั่วคราว”
“ค่ะ”
แม่บ้านเดินไปอย่างงงๆ
เอมิวางของก่อนถือวิสาสะเดินชมทั่วบ้าน
เพชรเดินตามอย่างไม่ค่อยไว้ใจ เอมิเดินดูซักพักก็เดินมานั่งลงโซฟา
“หนูขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย”
“ถามอะไร”
เพชรพูดก่อนนั่งลงตาม
“พ่อกับแม่เลิกกันทำไม”
ผู้กองเพชรเหมือนจะพูดต่อแต่ก็ไม่ไม่พูด
“เรื่องส่วนตัวของฉัน ไม่ขอตอบได้มั๊ย”
“แต่หนูเป็นลูก หนูมีสิทธิจะรู้ได้สิ”
“ถ้าอยากได้อะไรก็บอกแม่บ้านเค้านะ”
เพชรเดินออกไปเลยทิ้งความสงสัยเรื่องความรักของพ่อแม่ไว้ให้เอมิคิดตาม
อ่านต่อตอนที่ 3