xs
xsm
sm
md
lg

เงาเสน่หา ตอนที่ 23

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เงาเสน่หา ตอนที่ 23

ธีรภาพเปิดประตูเข้าห้องนอนมาด้วยท่าทีเหนื่อยล้า วันนี้มันช่างยาวนานเหลือเกินสำหรับเขา ชายหนุ่มเดินมาลงนั่งที่โต๊ะทำงาน

ค่อยๆ เปิดโน้ตบุ๊ก นิ่งคิดคล้ายทำใจอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดกล่องเก็บไฟล์วิดีโอจากกล้องวงจรปิดกดเล่นวิดีโอ
ภาพบนจอเป็นนาทีชีวิต กรเกียรติคว้ามือพงศธรไว้ได้ในจังหวะที่กำลังพลัดตกจากหัวบันได แต่แล้วพงศธรกลับปล่อยมือทำให้ร่างกรเกียรติตกลงอย่างรุนแรง
ธีรภาพใจหายใจคว่ำ ไม่อยากดูต่อ รีบปิดจอโน้ตบุ๊กลงทันที ด้วยสีหน้าโกรธแค้น
“ผมจะจัดการกับไอ้คนที่ทำกับพ่อให้เร็วที่สุด ผมให้สัญญาครับ”
ธีรภาพครุ่นคิดตรึกตรอง คิดหาหนทางที่จะจัดการเรื่องนี้ อย่างรอบคอบ

ทางด้านพงศธรล้มตัวลงนอนบนเตียงข้างๆ วิริยาที่หลับไปแล้ว แต่เขาไม่ได้ใส่ใจเลย ทำเหมือนวิริยาไม่มีตัวตนในห้อง ในหัวหมกมุ่นคิดแต่เรื่องของศิตางค์ ว่าจะทำยังไงเพื่อดึงเธอกลับมา

ฟากศิตางค์อยู่ในห้องพักที่คอนโด นั่งจิบกาแฟ ตรวจจำนวนหุ้นที่อยู่ในพอร์ตจากโน้ตบุ๊ก และข้างๆ ยังมีเอกสารสำคัญมากมาย ทั้งเอกสารกระทรวงต่างประเทศ เอกสารรับรองจากโรงพยาบาลเกาเหลี และไพ่ใบสำคัญ ศิตางค์มองใบจดทะเบียนสมรสในมือ พลางจิบกาแฟอย่างใจเย็น สีหน้ามุ่งมั่นมาดหมายว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยในวันพรุ่ง
“พงศธร เวลาของแกมันเหลือน้อยลงน้อยลงทุกวัน สูดอากาศข้างนอกไว้เยอะๆ นะ เพราะคงอีกไม่นาน”
ศิตางค์ลุกเดินไปที่ริมหน้าต่างเพื่อทอดอารมณ์ตัวเอง แหงนมองไปยังพระจันทร์เต็มดวงบนท้องฟ้าค่ำคืนนี้ แล้วคิดถึงธีรภาพขึ้นมา
ค่ำคืนนั้น ธีรภาพลุกเดินมาผูกผ้าเช็ดหน้ากับกิ่งไม้เดียวกับที่เธอผูกไว้ ในคืนจันทร์เต็มดวง และบอกว่าขอเป็นเพื่อนกับเธอ
ศิตางค์ยังนึกถึงตอนธีรภาพระบายความในใจที่มีต่อนิสาให้ฟัง และฉากสุดท้ายที่เธอนึกถึงเขา เป็นตอนที่ทายาทำแผลให้ธีรภาพ
เช่นเดียวกับฝั่งธีรภาพ เขานั่งคิดถึงอดีต วันเวลาเดียวกันกับศิตางค์เปี๊ยบ คิดไปอมยิ้มไป มองจันทร์เพ็ญดวงเดียวกัน ยิ้มให้ตัวเองอย่างสุขใจ อย่างน้อยๆ ศิตางค์ก็เป็นที่พักพิงใจให้กับเขาในยามวิกฤตชีวิตแบบนี้

รุ่งเช้า วิริยานั่งบนรถเข็นคันใหม่ จอดนิ่งอยู่ตรงระเบียงหน้าประตูเข้าคฤหาสน์เพียงลำพัง คิดถึงเหตุการณ์ที่หน้าผา
รถเข็นที่วิริยานั่ง ค่อยๆ ขยับเลื่อนไหลตกลงเขาไป จนธีรภาพเข้ามาช่วยศิตางค์จับดึงมือวิริยาไว้ช่วยขึ้นจากหน้าผาสำเร็จ
วิริยายังดูหวาดผวา ตื่นตกใจทุกครั้งเมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์เฉียดตายครั้งนั้น พงศธรเดินลงบันไดมาจะไปทำงาน เห็นสภาพวิริยา ลึกๆ ก็อดสงสารไม่ได้
“ทำไมมานั่งตากลมอยู่ตรงนี้ละ”
“วิวอยากได้อากาศสบายๆ บ้างนะคะอยู่แต่ในห้องอุดอู้”
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า มีอะไรบอกผมนะ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พงศ์รีบไปทำงานเถอะคะ”
“โอเค งั้นผมไปทำงานก่อนนะ แล้วคืนนี้เจอกัน”
พงศธรก้มลงหอมหน้าผากแล้วขึ้นรถขับออกไป วิริยามองตามสามี แล้วถอนหายใจออกมาในสีหน้าเครียดเคร่ง

พงศธรออกจากลิฟต์เดินเข้าออฟฟิศชั้นผู้บริหารมาพร้อมกับสมภพที่รีบเร่งเดินมาประกบ สองคนคุยกันมาตามทางเดิน ด้วยสีหน้าอันเคร่งเครียดเอามากๆ
“ตั้งแต่เปิดตลาดมีการข่าวการเคลื่อนหุ้นของรอยัลแอร์ไลน์ก้อนใหญ่ ไปที่กลุ่ม เคที กรุ๊ป โดยไม่มีการเทรดหุ้น เป็นไปได้ยังไง” สมภพบอก
“จะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อหุ้นที่เหลือทั้งหมดอยู่ที่ผม”
“นั่นสิ ผมก็มองไม่เห็นทางว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง”
“คุณช่วยเช็ครายละเอียดทั้งหมดด่วนที่สุด ผมต้องการรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
“ครับ ผมจะรีบจัดการ”
“แล้วเรื่องการประชุมบอร์ดบริหารวาระพิเศษช่วงบ่าย คุณสมภพพร้อมหรือยัง”
“คุณพงศธรไม่ต้องเป็นห่วง คุณมีผมคนเดียว ก็เหมือนมีบอร์ดบริหารทั้งบอร์ดอยู่ข้างตัว”
“หวังว่าทุกอย่างจะเป็นอย่างที่คุณพูด”
สมภพแยกตัวไป พงศธรเข้าห้องทำงาน กดโทรศัพท์สายภายในเรียกอรชุมา
“วันนี้ผมไม่รับนัดใดๆ ยกเว้นบอร์ดบริหารตอนบ่ายสาม อ้อ แล้วคุณอรช่วยส่งดอกไม้ให้ผมด้วย”
อรชุมายิ้มเรี่ยราด “แหม หวานจังเลย คุณวิริยาเธอคงดีใจนะคะ”
พงศธรนิ่งไป

อีกฟาก เลขาวางดอกไม้ช่อสวยไว้บนโต๊ะทำงาน ในจังหวะเดียวกับที่ศิตางค์เดินเข้ามาพอดี
“ดอกไม้ของใคร”
“คุณพงศธรค่ะ”
“ขอบใจจ้ะ”
เลขาขยับจะเดินออกไป ศิตางค์นึกได้ เรียกไว้
“เชิญคุณภาสกร ทนายความของบริษัทมาพบฉันด่วนด้วย”
“ได้ค่ะ”
เลขาออกไป พร้อมกับปิดประตูลง ศิตางค์มองดอกไม้บนโต๊ะแล้วยิ้มพราย
“ขอบใจสำหรับดอกไม้ที่เตรียมฉลองให้กับชัยชนะของฉัน บนความพ่ายแพ้อย่างสาสมของคนอย่างแก”

ไม่นานต่อมา ศิตางค์รับสายโทรศัพท์จากยุนฮีที่เลขาโอนสายมาให้
“ยุนฮีเหรอคะ ทุกอย่างที่นี่เรียบร้อยดี ขอบคุณมาก ยังเหลือขั้นตอนสุดท้ายแค่นั้น ทุกอย่างก็จะจบ ม่านก็จะปิดตัวลงได้อย่างสวยงาม”
“นิสา ทำทุกอย่างอย่างมีสติ และรอบคอบที่สุดนะ” ยุนฮีบอก
“ค่ะ ฉันรู้”
“ดูแลตัวเองนะ”
“ขอบคุณมากนะคะ ยุนฮี”
ศิตางค์วางสายลง ยิ้มกับตัวเองด้วยความสะใจ ในการเดินหน้าแผนล้มพงศธร!

ส่วนธีรภาพยืนคิดถึงก้าวต่อไปของตนในรอยัลแอร์ไลน์ ด้วยความหนักใจ จนเอนกเดินเข้ามารายงานงานประจำวัน
“วันนี้ สิบเอ็ดโมง คุณธีรภาพมีประชุมกับทีมวิศวกร เกี่ยวกับเครื่องบินตัวใหม่ที่เราจะเตรียมสั่งเข้ามาแทนเครื่องเก่าที่ปลดไป”
ธีรภาพพยักหน้ารับเอาคำ
“ส่วนบ่ายสามโมงก็ประชุมบอร์ดวาระพิเศษ”
“ทำไมถึงมีวาระเร่งด่วนขนาดนั้นด้วยละ”
“เรื่องวาระไม่ได้แจ้งไว้ คงชี้แจงในที่ประชุมเลยครับ”
“ครับ”
ธีรภาพคิดหนักหลายเรื่อง ทั้งเรื่องพงศธร และเรื่องศิตางค์

ศิตางค์ประชุมหนักและเข้มข้นกับทีมทนายความทั้งสามคน นำเอกสารต่างๆ มาอธิบาย วิเคราะห์ พูดคุยกันอย่างออกรสชาติ
“คุณภาสกรก็รู้นะคะ ว่าเดิมพันครั้งนี้ ทางเราพลาดไม่ได้เลย” ศิตางค์บอก
“ครับ ผมกับทีมทนายของผมจะทำสุดความสามารถคุณศิตาค์ไม่ต้องห่วงเลยครับ”
“เอกสารสำคัญทุกอย่างที่ฉันมี ตามที่เคยส่งสำเนาไปให้ อยู่ในซองนี้หมดแล้ว”
ศิตางค์ส่งซองเอกสารสำคัญทั้งปึกให้ทีมทนายไป ทีมทนายเปิดดูแล้วเอาออกมาพิจารณาร่วมกัน
ศิตางค์มองอย่างมั่นใจว่าเธอมีประตูเดียวให้เดิน คือ ต้องชนะ

ส่วนที่ห้องประชุมทีมวิศวกรและช่าง ในรอยัลแอร์ไลน์ มีการประชุมเกี่ยวกับเครื่องบินรุ่นใหม่ โดยเจนไวย์กำลังนำเสนอข้อมูลของเครื่องบินตัวใหม่ให้ที่ประชุมฟัง มีนานั่งอยู่แถวหลังกับทีมหัวหน้าช่าง คอยทำหน้าที่จดวาระการประชุม ธีรภาพลอบมองมีนาหลายครั้ง มีนารู้ตัวต้องคอยหลบ ไม่อย่างมองกลับ ธีรภาพซักถามเจนไวย์
“ฟังจากข้อมูลทางเทคนิคของเครื่องบินใหม่ เหมือนเราต้องเปลี่ยนซอฟแวร์ใหม่เลย เพราะซอฟต์แวร์ตัวเดิมไม่น่าจะซิงค์กันได้ไหมครับ”
“ครับ ในส่วนของซอฟแวร์ เดี๋ยวผมจะให้คุณมีนาเธอช่วยอธิบายการอัพเกรดซอฟแวร์ให้ฟังครับ เชิญครับคุณมีนา”
เจนไวย์ส่งงานต่อให้มีนา แต่มีนากลับอิดออดเพราะไม่อยากคุยกับธีรภาพ แม้จะเป็นเรื่องงาน จนเจนไวย์ต้องแซะอีกรอบ
“คุณมีนา เชิญครับ”
มีนารายงานหน้าง้ำ
“ค่ะ ก็สำหรับในส่วนซอฟแวร์เราคงต้องสั่งเป็นซอฟแวร์ตัวใหม่ทั้งหมดที่เป็นของปี 2017 เพราะของปีเก่าไม่รองรับแล้ว และบริษัทโรลสลอยส์ก็แจ้งส่วนลดพิเศษของซอฟต์แวร์ตัวนี้มาพร้อมกับเอกสารการันตีตัวอะไหล่ทั้งหมดค่ะ”
“งั้น ผมขอดูเอกสารลิขสิทธิ์ที่ชัดเจนด้วยนะครับ ว่าครอบคลุมการซ่อมนอกเขตของประเทศไทยไหม กรณีที่เราต้องออกไปเซอร์วิสที่สิงค์โปร์ สิทธิ์มันยังครอบคลุมไหม งั้นเดี๋ยวคุณมีนาช่วยเอาเอกสารสิทธิ์นี้มาให้ผมหลังการประชุมด้วยนะครับ”
มีนาสะดุ้ง รับเอาคำด้วยหน้าตาบูดบึ้งอย่างจำนน
“ค่ะ ได้ค่ะ”
ธีรภาพนั่งมองอย่างอึดอัด อยากเคลียร์กันให้จบลงดีๆ

มีนาเดินถือเอกสารสิทธิ์มาให้ธีรภาพที่ยืนหันหลังรออยู่คนเดียวในอู่ซ่อม จนธีรภาพหันมา มีนาอึกอักทำตัวไม่ถูก ธีรภาพยิ้มให้
“เข้ามาสิ” มีนาอิดออดไม่ยอมเดินมาหา จนธีรภาพบอกซ้ำ “ยืนซะไกลขนาดนั้น จะให้กันถึงเหรอ”
มีนายอมเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น ยื่นเอกสารให้ชนิดแขนตึงเลยทีเดียว เสร็จแล้วรีบจะเดินหนีไป ถูกธีรภาพเรียกไว้
“เดี๋ยวสิ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
“ในเวลางาน ฉันคุยแต่เรื่องงาน”
มีนาวางท่าปั้นปึ่ง จนธีรภาพนึกหมั่นไส้ เป็นฝ่ายเดินมาหาใกล้ๆ
“มีอะไรเหรอ หมู่นี้ถึงคอยหลบหน้าฉัน”
มีนาผินหน้าหนีไปทางอื่น
“ฉันเนี่ยนะคอยหลบหน้า เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”
“งั้นก็หันหน้ามาคุยกันดีๆ”
มีนายอมฝืนหันหน้ามาคุย เพื่อไม่ยอมเสียฟอร์ม
“อ่ะ แล้วไง มีไรล่ะ”
“ฉันแค่อยากอธิบาย เรื่องบางเรื่องให้เข้าใจ”
“ช่วยอธิบายเฉพาะเรื่องงาน”
ธีรภาพก็โพล่งคำพูดที่มีนาไม่คาดคิดว่าจะได้ยินออกมา
“มีนา...พี่รักเธอ”
มีนาอึ้ง นิ่งงันไป
“ตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ พี่ก็ยังย้ำเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เธอเป็นน้องสาวที่ดีของพี่ ที่พี่ต้องรักและคอยดูแลไปตลอด”
มีนาอึ้งหนักเข้าไปอีก เสียงเริ่มสั่นเครือ
“เฉพาะเรื่องงาน”
“ความรู้สึกแบบนี้ มันเปลี่ยนแปลงกันไม่ได้ มันเป็นอย่างไงมันก็จะคงเป็นอย่างนั้น”
มีนาน้ำตาร่วง เสียงสั่นสะท้าน “ขอแค่งานค่ะ”
“ตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่รู้ถึงความรู้สึกดีๆ ที่เธอมีให้มาตลอด แล้วก็เฝ้าบอกตัวเองว่า สักวันเธอคงเข้าใจ ว่าพี่รู้สึกกับเธอยังไง”
เหมือนโลกหมุนอย่างรุนแรง ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจ และเตรียมใจมาแล้ว แต่เมื่อได้ยินมันก็ยากจะทำใจ
“พี่ก็จะต้องมีชีวิตของพี่ ต้องมีคนที่พี่รัก คนที่พี่จะปกป้องดูแลเธอในฐานะคนรัก แล้ววันนี้ พี่ก็คิดว่าพี่เจอเธอแล้ว”
มีนาสะเทือนใจอย่างหนักหน่วง ร่างสะท้านไปทั้งกาย แต่ฝืนยืนนิ่งต่อไป
“เจอแล้วไง ลูกพี่รู้สึกยังไง ฉันไม่เคยสนใจนี่ หัวใจฉันมันจะรู้สึกยังไงกับลูกพี่มันก็เรื่องของฉันเหมือนกัน”
“วันนี้เราหนีความจริงไม่ได้แล้ว ทุกคนต้องเดินต่อ พี่จะยอมให้เรื่องแบบนี้ทำร้ายเธออีกไม่ได้...เธอเป็นน้องสาวของพี่ จงรักพี่ในแบบที่มันต้องเป็นเถอะนะ”
มีนารู้ตัวว่ากำลังจนมุม มองจ้องหน้าธีรภาพแน่วนิ่ง ธีรภาพเดินเข้าไปหาในระยะประชิด มีนาซบลงกับอกเขาแล้วระเบิดร้องไห้ออกมาเสียงดัง อย่างไม่อายใครอีกแล้ว ธีรภาพปลอบประโลม
“ร้องออกมาเลย ร้องออกมา น้องรัก”
มีนาซบอกธีรภาพร้องไห้อยู่อย่างนั้น เจนไวย์ที่เกาะติดสถานการณ์มาโดยตลอด พอเห็นสองคนเข้าใจกันแล้ว ก็โล่งใจ

ในเวลาต่อมา ธีรภาพพาตัวเองมาอยู่ในห้องตรวจกับหมอเดชา พี่เขยเจนไวย์ ซึ่งเดชานำผลตรวจดีเอ็นเอ ของนิสา และศิตางค์ มาอธิบายให้ธีรภาพฟังอย่างละเอียด ผ่านจอคอมพิวเตอร์ที่เอาดีเอ็นเอของสองคนมาทาบกันจนสนิท เหมือนเป็นคนๆ เดียวกัน
“ผลตรวจนี้จริงๆ เป็นความลับของคนไข้ แต่หากใช้เป็นการช่วยรูปคดีต่อไป ก็จำเป็นต้องขออำนาจคำสั่งศาลเพื่อนำผลออกเผยแพร่สู่สาธารณชนได้”
“ครับ เมื่อถึงขั้นตอนนั้น ผมจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกระบวนการทางกฎหมาย อาหมอไม่ต้องกังวล”
“ครับ ข้อมูลทั้งหมดที่ธีจะเห็นต่อไป ขอให้มันอยู่แต่ในห้องนี้เท่านั้น”
หมอเดชาชี้ไปที่จอคอม ที่ปรากฏโครงสร้างดีเอ็นเอของคนสองคนอยู่ในนั้น
“นี่เป็นดีเอ็นเอของคุณนิสา ที่เธอมีประวัติการตรวจเลือด และการเก็บตัวอย่างเลือดจากการทำประกันกลุ่มของบริษัทแฮปปี้ โคเรีย ที่เธอเคยทำอยู่ แล้วโชคดีที่ประวัติได้อยู่ที่โรงพยาบาลนี้พอดี และนี่เป็นผลตรวจดีเอ็นเอของคุณศิตางค์ ที่ได้จากเลือดที่ธีเก็บมาให้ แล้วนี่เป็นผลการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่เชื่อถือได้ 99.99%”
ภาพบนจอคอมพบว่าดีเอ็นเอทั้งสองคน รวมตัวกันแนบสนิทจนเหมือนเป็นคนๆ เดียว
“มันหมายความว่า...”
“คุณนิสา และคุณศิตางค์ เป็นคนๆ เดียวกัน”
แม้ว่าจะมั่นใจอยู่แล้วว่าต้องใช่ แต่ธีรภาพก็ถึงกับอึ้งไป เมื่อได้เห็นผลพิสูจน์ดีเอ็นเอต่อหน้าต่อตา และมันทำให้เขารู้สึกโล่งใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

ออกจากห้องหมอเดชามา ธีรภาพรีบกดโทรศัพท์หาเจนไวย์ทันที
“มันเป็นไปแล้ว ข้าเองยังไม่อยากเชื่อเลยความรู้สึกลึกๆ ก็บอกว่าต้องเป็นคนเดียวกัน แต่มาตอนนี้ดีเอ็นเอคนเดียวกัน มันจบเลยวะ ทุกเรื่องที่สงสัย”
เจนไวย์ตื่นเต้นเอามากๆ “ขนหัวลุกวะ ตอนแกให้สืบตามหา ข้าก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ใครจะคิดวะว่านิสา กับศิตางค์ คือคนๆเดียวกัน ข้านึกว่าเรื่องนี้มีแต่ในหนัง กับซีรีส์เกาหลี แม่งมีในชีวิตจริงด้วยเหรอวะ”
“นั่นอะดิ ตอนนี้ข้ามึนตึบไปหมดแล้ว”
“ยัยศิตางค์ เอ๊ย นิสา มีเหตุผลอะไรถึงต้องยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองขนาดนั้น มันจะมีเหตุผลอะไรวะ ที่ทำให้ผู้หญิงสักคนนึงลุกขึ้นมาทำเรื่องบ้าบออะไรแบบนี้ได้”
คำพูดของเจนไวย์ปลุกให้ธีรภาพฉุกคิด ว่าอะไรทำให้นิสาต้องทำถึงขนาดนี้ และเธอจะทำอะไรต่อไปกันแน่ จู่ๆ ธีรภาพก็ต้องชะงัก ทิ้งสายโทรศัพท์ของเจนไวย์ไปดื้อๆ เสียงเจนไวย์ยังคงเรียกดังลอดออกมาได้ยินอยู่
ธีรภาพทิ้งมือลงข้างตัวท่าทีช็อกๆ ปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ ที่ประเดประดังเข้ามาในหัวดั่งพายุ
ตั้งแต่เขาเจอศิตางค์ที่เลือกปรากฏตัวในงานเลี้ยงฉลองแต่งงานของพงศธรกับวิริยา และศิตางค์จงใจยั่วยวนพงศธรในงานคืนนั้น ต่อมาศิตางค์แอบนัดพบพงศธรเพื่อคุยงานกัน นอกจากนี้เขายังเห็นศิตางค์แอบไปกินข้าวกับพงศธรสองต่อสองที่ภูเก็ต จนกระทั่งศิตางค์ได้ทำการเซ็นสัญญาการร่วมธุรกิจเครื่องบินเช่าเหมาลำ บริษัทแม่ที่เกาหลีเข้ามาซื้อหุ้นรอยัลแอร์ไลน์ในตลาดหลักทรัพย์
ธีรภาพสรุปเอาเองว่า นิสากลายมาเป็นศิตางค์เพื่ออะไร และเธอคิดจะทำอะไรต่อ โดยยังคิดไปไกลว่าเป้าหมายของเธอคือร่วมมือกับพงศธร เพื่อยึดรอยัลแอร์ไลน์ที่กรเกียรติสร้างมากับมือ
คิดได้ดังนี้ ธีรภาพรีบร้อนออกจากโรงพยาบาล บึ่งไปหาศิตางค์ที่ออฟฟิศทันที

ที่สกาย เจ็ต ศิตางค์ยังคงประชุมเข้มกับทีมทนาย จนมาถึงวาระสุดท้ายใกล้จะเสร็จพอดี
“เกือบห้าชั่วโมง หวังว่าเราจะไม่เสียเปล่าไปกับมันนะคะ”
“คุณวิริยามั่นใจได้ครับ เรามีหลักฐานที่แข็งแรงมาก” ภาสกรบอก
“ขอให้เป็นอย่างนั้นนะคะ”
จู่ๆ ธีรภาพก็เปิดประตูพรวดพราดเข้ามาในห้องประชุม มีเลขาศิตางค์วิ่งตามมาห้ามไว้
“เข้าไม่ได้นะคะคุณ”
ศิตางค์พยักหน้าเชิงบอกให้เลขาออกไปก่อน คนอื่นเลิกประชุมพอดี ทยอยออกไป ศิตางค์หันมาประจันหน้ากับธีรภาพ
“มีอะไรถึงเร่งด่วน ขนาดรอฉันประชุมธุระสำคัญให้เสร็จก่อนไม่ได้เลยเหรอคะ”
ธีรภาพเดินมาหยุดจ้องหน้าศิตางค์ตรงๆ
“นิสา”
ศิตางค์ตกใจมาก ทำไมธีรภาพถึงมั่นใจขนาดเรียกชื่อเธอว่า นิสา ออกมา
“ผมรู้ว่าคุณคิดทำอะไร และคิดจะทำอะไรต่อไป”
ศิตางค์หันหน้าหนี “คุณพูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ”
“ทำไมผมจะไม่รู้”
“รู้ว่าอะไร”
ธีรภาพพูดบนความมั่นใจสูงลิ่ว
“คุณกับพงศธร ร่วมกันวางแผนเพื่อที่จะฮุบรอยัลแอร์ไลน์”
ศิตางค์หันขวับไปมองหน้าธีรภาพอย่างงุนงง
“ฉันกับพงศธร”
“ก็ตั้งแต่วันแรกที่คุณปรากฏตัวที่งานแต่งงานของพงศธรกับวิริยา ที่ผมเห็นมาตลอดคือคุณสองคนร่วมมือกัน พยายามเอารอยัลแอร์ไลน์ของพ่อผม ไปเป็นของพวกคุณ”
ศิตางค์ปะติดปะต่อเรื่องจนเริ่มเข้าใจ เพราะธีรภาพเห็นเธอกับพงศธรอยู่ด้วยกัน ทำอะไรด้วยกัน ทำธุรกิจร่วมกัน จึงไม่แปลกที่เขาจะสรุปภาพในหัวออกมาแบบนั้น
“คุณสรุปเรื่องของฉัน จากสิ่งที่คุณเห็น เพียงแค่นั้นเหรอ” เธออดน้อยใจไม่ได้
“สิ่งที่ผมเห็นและการกระทำของคุณทั้งสองคน มันทำให้ผมคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้จริงๆ”
ศิตางค์มองค้อน “ฮึ ฉันก็ยังเป็นยัยปีศาจร้ายในสายตาคุณอยู่ดี ฉันนึกเสมอว่าคุณจะมองตัวฉันได้ต่างจากคนอื่นๆ แต่ปล่าวเลย คุณก็เหมือนทุกๆ คน”
ธีรภาพอึ้งไป แต่ก็ยังคงยืนยันความคิดเดิมของตน
“ไม่ว่าคุณจะพูดยังไง จะว่าผมยังไง มันก็ไม่ทำให้ความคิดของผมเปลี่ยนแปลงไปได้”
“แล้วคุณจะเอายังไงต่อละคะ คุณธีรภาพ”
“ผมจะขัดขวางทุกวิถีทาง จะปกป้องทุกตารางนิ้วของรอยัลแอร์ไลน์ ไม่ยอมให้ใครมาใช้วิธีการสกปรกๆ ขโมยมันไป และไม่มีวันที่ใครหน้าไหนจะเอามันไปจากผมได้” ธีรภาพประกาศกร้าว
ศิตางค์เจ็บช้ำกับน้ำคำนั้น ยิ่งเมื่อเธอมองเห็นแววตาแข็งกร้าวคู่นั้นของเขาที่มองมา มันเหมือนคนบ้าดีเดือดพร้อมจะสู้ตายได้ทุกขณะจิต
“อีกไม่นาน เราคงได้รู้กัน ว่าคุณหรือฉัน จะเป็นผู้ชนะ แต่ฉันบอกไว้ก่อน สนามรบเนี่ย คุณยังห่างไกลอีกเยอะ”
“แล้วเราจะได้เห็นกัน”
“ไม่ส่งนะคะ”
ธีรภาพเดินออกไปอย่างฉุนเฉียว
ศิตางค์ทรุดตัวนั่งลงอย่างคนหมดแรง เสียใจที่ธีรภาพมองเธอเป็นคนร้ายกาจขนาดนั้น และยังประกาศศึกกับเธออีกด้วย
ธีรภาพเองก็ไม่ต่างกัน เขาปิดประตูห้องประชุมลงอย่างโรยแรง ขนาดต้องพิงประตูช่วยพยุงร่าง แข้งขาอ่อนล้า ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาต้องระเบิดคำพูดเหล่านั้นออกไป และมันย้อนกลับมาทำร้ายความรู้สึกเขาเป็นอย่างมาก

ส่วนในห้องประชุมบอร์ดกรรมการบริหาร ที่รอยัลแอร์ไลน์ พงศธรนั่งหัวโต๊ะ มีสมภพนั่งอยู่ด้านขวา และบอร์ดทุกคนมาครบ ขาดแต่เพียงธีรภาพเท่านั้น พงศธรไม่ยอมรอเวลา เปิดประชุมทันที
“วันนี้คุณสมภพ เป็นคนขอนัดประชุมบอร์ดพิเศษ ไม่ทราบมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”
ทั้งสองคนทำเป็นว่า ต่างคนต่างไม่รู้เรื่อง ชงกันเอง
“วันนี้ก็อย่างที่ทุกๆ ท่านทราบ สถานภาพของรอยัลแอร์ไลน์ในตลาดไม่ค่อยสู้ดีนัก ประกอบกับมีการซื้อขายหุ้นที่มีโวลลุมสูงมาก จนมีการตรวจสอบว่าทางฝ่ายบริหารมีการปั่นหุ้นหรือเปล่า”
ธีรภาพเพิ่งเดินเข้ามาลงนั่ง พงศธรมองหน้าเชิงตำหนิแว่บหนึ่ง
“แล้วการแก้ปัญหานี้ก็ต้องการท่านประธานกรเกียรติมาจัดการซะด้วย” บอร์ด2 ว่า
“แต่ท่านปราโมทย์ก็รู้ดีนี่ว่า ท่านกรเกียรติยังไม่มีวี่แววที่จะ...” บอร์ด3 ท้วง
สมภพรีบตัดบทและชี้ช่องทันที “เอาเถอะครับ วันนี้ผมถึงขอนัดบอร์ดเป็นวาระพิเศษ เพื่อขอความเห็นชอบในการแต่งตั้งท่านประธานคนใหม่ ไม่ใช่ประธานรักษาการณ์แทน เพราะเราต้องแถลงต่อสาธารณะเร็วสุด เพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นทุกคน”
ธีรภาพรู้สึกว่าทุอย่างเข้าทางตีนพงศธรไปหมด เลยต้องรีบออกตัวคัดค้าน
“เรื่องการแต่งตั้งท่านประธานคนใหม่ ผมมองว่าน่าจะยังรอได้นะครับ เราสร้างความเชื่อมั่นให้ตลาดด้วยการสร้างผลประกอบการไตรมาสสองให้ออกมาดี มันก็สร้างแรงบวกในสถานการณ์ที่เราเผชิญอยู่ได้”
พงศธรฟังแล้วหงุดหงิดทันที พยักหน้าเชิงบอกให้สมภพปัดประเด็น
“พ่อหนุ่มน้อย ฉันกลัวว่ารอยัลแอร์ไลน์จะไม่ผ่านไตรมาสหนึ่งนี้ซะก่อนละมั้ง เราให้โอกาสกันเองได้ แต่นักลงทุน เขาไม่คิดให้โอกาสเราหรอกนะ”
ธีรภาพเองก็ชักเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง รีบดันไอเดียต่อ
“เราคงต้องใช้แผนการตลาดและการประชาสัมพันธ์เข้าช่วยสร้างความมั่นใจอีกทาง”
“มันจะไปทันกินอะไร วันนี้เราต้องการ ลีดเดอร์ชิพ เท่านั้น” สมภพท้วงติงแล้วหันไปหากองหนุน “บอร์ดทุกท่านในที่นี้เห็นด้วยใช่ไหมครับ”
“ก็จริงนะ” บอร์ด2 บอก
“เห็นด้วย” บอร์ด3 ว่า
บอร์ด4 เห็นดีด้วย “ผมก็เห็นด้วยเหมือนกัน”
สมภพมองหน้าพงศธรอย่างรู้กัน
“ถ้าอย่างนั้น ผมเสนอชื่อเลยดีกว่า ผมเสนอชื่อคุณพงศธร ดำรองตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารรอยัลแอร์ไลน์ แทนคุณกรเกียรติที่ไม่สามารถทำงานได้ในขณะนี้”
“เอ่อ คือ...” ธีรภาพจะทักท้วง
แต่สมภพแทรกขึ้นทันที “ใครเห็นด้วยยกมือแทนการโหวตด้วยครับ”
บอร์ดทุกคนยกมือ รวมทั้งสมภพด้วย ธีรภาพผิดหวัง ที่ทำอะไรไม่ได้ และแผนของพงศธรก็สำเร็จผลไปอีกขั้นแล้ว
“เอาเป็นว่าเราได้ท่านประธานคนใหม่แน่นอนแล้ว ถ้างั้นเดี๋ยวผมจะจัดการทำหนังสือแถลงการณ์ออกไปภายในวันพรุ่งนี้เช้าเลยว่าคุณพงศธรจะบริหารรอยัลแอร์ไลน์ รับรองพรุ่งนี้ตลาดหุ้นคึกคักแน่นอน”
บอร์ดลุกมาแสดงความยินดีกับพงศธร ยกเว้นแต่ธีรภาพที่นั่งนิ่งคุมแค้นอยู่อย่างนั้น
โดยไม่รู้ว่าการเข้ามาถือตำแหน่งประธานของพงศธร ทำให้เขาถือครองบริษัทแต่เพียงผู้เดียว และมันจะยิ่งทำให้นิสาในคราบศิตางค์ทวงสิทธิ์ของเธอได้มากยิ่งขึ้น

ไม่นานต่อมา แฟ้มงานถูกวางลงบนโต๊ะอย่างแรง ธีรภาพโมโหที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้เลย ในที่ประชุมเมื่อครู่ เอนกยืนอยู่หน้าโต๊ะ พลอยกลุ้มไปด้วย
“มันเข้าแผนพงศธรจนได้ คราวนี้จะทำอะไร ก็ไม่ฟังใครทั้งสิ้น”
“แต่ยังไงบอร์ดก็ต้องลงนามร่วมอยู่ดี”
“จะมีประโยชน์อะไรละ ก็พงศธรถือเสียงบอร์ดไปเกือบหมดแล้ว”
ธีรภาพเครียดจัด แต่ก็ยังมีทางออกที่เขาเตรียมการเอาไว้แล้ว
“แต่ไม่ต้องห่วง ตำแหน่งประธานของคุณพ่อ พงศธรจะแขวนป้ายอยู่ได้ไม่นานหรอก”
เอนกมองฉงน ว่าเหตุใดนายน้อยจึงมั่นใจขนาดนั้น
ธีรภาพมีท่าทีผ่อนคลายลง แค่เขาต้องขออนุญาตใครบางคน ที่จะทำให้ไพ่ใบสุดท้ายของเขาสัมฤทธิ์ผล ธีรภาพหันมาสนใจงานสำคัญที่รออยู่ตรงหน้า
“เดี๋ยวคุณช่วยเอาเอกสารที่ผมขอดูด่วนให้ด้วยนะ”
“อ๋อ ได้ครับ ผมเตรียมไว้ให้คุณธีรภาพแล้ว สักครู่นะครับ”
เอนกเดินออกจากห้องไป
ธีรภาพนิ่งคิดทีละอย่างๆ วันนี้ มีแต่งานเครียดๆ ที่รอให้เขาสะสาง

ด้านหนึ่ง พงศธรยังอารมณ์เสียที่ธีรภาพมาทำตัวคอยขวางลำการเปลี่ยนตำแหน่งของเขา
“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน คิดจะเอาไม้ซีกมางัดกับไม้ซุงเหรอ”
“อย่าไปสนใจพวกไม้ซีกเลยน่า คุณพงศธร เรามีงานใหญ่กว่ารอเราอยู่ข้างหน้า” สมภพปลอบ
“งั้นพรุ่งนี้ ผมอยากจะทำ press conference กับสื่อหน้าเศรษฐกิจโดยเฉพาะ เพื่อประกาศให้ทุกคนรู้ว่า ใครคือผู้บริหารรุ่นต่อไปของรอยัลแอร์ไลน์”
สมภพยิ้มอวยสุดลิ่ม “ผมชอบคุณตรงนี้แหละ ไว คิดไกล”
พงศธรยิ้มกว้าง ชอบอกชอบใจ
“ผมถือเป็นคำชมละกันนะครับ”
ทั้งสองคนหัวเราะให้กันอย่างมีความสุข

ธีรภาพอ่านแฟ้มข้อมูลที่เอนกจัดเตรียมไว้ให้ และคอยอธิบายรายละเอียดทางธุรกิจอันแสนซับซ้อนของ สกาย เจ็ต และ เคที กรุ๊ป
“สกาย เจ็ต มีบริษัท ฮันวา ที่เป็นบริษัทแม่ที่เกาหลีถืออยู่ก็จริง แต่ประธานของฮันวา คือคุณคิม ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อ 8 เดือนก่อน ยังไม่มีการแต่งตั้งใครเป็นประธานคนใหม่ขึ้นมาแทน แต่ที่สำคัญกว่านั้น คุณคิมมีภรรยาถูกต้องตามกฎหมายคือ คุณยุนฮี เจ้าของ เคที กรุ๊ป ที่กว้านซื้อหุ้นของเราไป 25.5 % อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ สกาย เจ็ต ถือหุ้นโดย เคที กรุ๊ป ที่เกาหลี 100%”
ธีรภาพตกใจมากกับข้อมูลใหม่ชิ้นนี้
“มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง มิน่า ทำไมเราถึงเชื่อมโยงอะไรไม่ได้เลยระหว่าง สกาย เจ็ต กับ เคทีกรุ๊ป”
“ผมว่างานนี้ไม่ธรรมดาแล้วละครับ ทุกอย่างเหมือนมีการวางแผนจัดฉากมาอย่างดี อุดทุกรอยรั่ว จนเราสืบเข้าไปไม่ถึง”
“ก็แน่ละ เราอยู่ในที่แจ้ง พวกเขาอยู่ในมุมมืด เราก็ย่อมเสียเปรียบเป็นธรรมดา”
ธีรภาพเครียดหนัก ไปแทบไม่เป็น
“ปัญหาระดับนี้ มีท่านกรเกียรติคนเดียวเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาใหญ่แบบนี้ได้ มีท่านคนเดียวจริงๆ”
เอนกเดินเครียดออกไป ธีรภาพนึกถึงศิตางค์
“ฮึ นี่เหรอที่บอกว่าผมดูคุณผิดไป ผมอยากรู้จริงว่าคุณจะตอบคำถามนี้ของผมยังไงศิตางค์”
ธีรภาพนึกน้อยใจในสิ่งที่ศิตางค์ทำกับเขา จนสมองตื้อไปหมดคิดอะไรไม่ออก

เย็นนั้น วิริยานั่งบนรถเข็นข้างริมสระว่ายน้ำอยู่เหงาๆ คนเดียว คิดแต่เรื่องพงศธร ที่เวลานี้อาจจะกำลังวางแผนทำทุกอย่างที่หล่อนกังวลใจมาตลอด สักครู่หนึ่งจึงเห็นธีรภาพเดินเข้ามาหาเอ่ยทัก
“คุณวิริยาสบายดีนะครับ”
วิริยาเหลียวมามองหน้ายิ้มทักถามธีรภาพด้วยแววตาที่เป็นมิตรอย่างชัดแจ้ง
“สบายดี?”
“ครับ”
“ฉันยังไม่ได้ขอบใจเธอ กับ ศิตางค์ ที่ช่วยชีวิตฉันที่หน้าผาวันนั้น”
“ไม่เป็นไรครับ แค่คุณสบายดี ผมก็สบายใจ”
วิริยามองธีรภาพอย่างซาบซึ้งใจจริงๆ
“เด็กในท้อง แข็งแรงดีใช่ไหมครับ”
วิริยาอึ้ง แปลกใจที่ธีรภาพรู้เรื่องนี้
“เธอรู้ด้วยเหรอ”
“ครับ”
“เธอรู้ไหม พ่อของเขา ยังไม่เคยถามสักคำ ว่าลูกแข็งแรงดีไหม”
วิริยาน้ำตาร่วง ธีรภาพเห็นแล้วสงสาร เดินเข้าไปใกล้คุกเข่าลงข้างๆ รถเข็น
“ผมรู้ว่าคุณวิริยารักเขามาก แต่ถ้าวันนึงคุณได้รับรู้ว่า เขาไม่ได้รู้สึกกับคุณ อย่างที่คุณรู้สึกกับเขา หรือเขา...”
ธีรภาพเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อดีกว่า แต่วิริยาต่อคำพดให้เอง
“ทรยศรอยัลแอร์ไลน์”
ธีรภาพอึ้งไปที่วิริยาพูดคำนี้ออกมา
“คุณรู้”
“ฉันแค่เลือกที่จะไม่มองมัน แล้วใจก็แกล้งไม่เห็นมัน ก็แค่นั้น รอยัลแอร์ไลน์มันไม่ได้เล็กขนาดที่เราจะทำเป็นมองไม่เห็นอะไรได้”
ธีรภาพพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่วิริยาพูด
“ที่ผมมาหาคุณวันนี้ ก็เพราะผมมีเรื่องสำคัญที่อยากขอความเห็นจากคุณก่อน เพราะเรื่องนี้มันสำคัญมาก มันเกี่ยวข้องกับคุณ แล้วก็ลูกของคุณ”
วิริยาเงียบไปสักครู่หนึ่ง จึงพูดออกมาว่า
“ฉันภาวนาขออย่าให้ใครรู้ว่า คืนนั้น เกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อ”

ที่แท้หลังเกิดอุบัติเหตุกรเกียรติตกบันได วิริยาเป็นคนรีบร้อนไปดูกล้องวงจรปิดเป็นคนแรก และคนเดียว และต้องตกใจแทบช็อกที่ได้เห็นกับตาว่าพงศธรเป็นคนปล่อยมือกรเกียรติจนตกบันไดลงมา วิริยาน้ำตาไหลรินออกมา โชคดีที่มีกล้องตัวเดียวเท่านั้นที่จับเหตุการณ์มุมนี้ไว้ได้ วิริยายื่นมืออันสั่นสะท้าน ไปกดลบไฟล์ในกล้องนี้ทิ้งทันที
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมธีรภาพซึ่งเดินดูกล้องวงจรปิดแถวบันไดจึงไม่พบภาพใดๆ นอกจากนี้วิริยายังตามแอบดูพฤติกรรมของธีรภาพอยู่ที่มุมหนึ่ง
หลังจากนั้นวิริยาแวะไปที่ห้องไอซียู กรเกียรติยังคงนอนนิ่งอยู่ในนั้น หล่อนลงนั่งข้างๆ เตียง มองพ่อด้วยความคิดถึง
“พ่อคะ พ่อรู้อะไรไหมคะ ว่าวันนี้เป็นวันที่วิวคิดถึงพ่อ อยากเจอพ่อ อยากคุยกะพ่อมากที่สุดเพราะอะไรนะเหรอคะ ก็เพราะวันนี้วิวรู้แล้วว่า พ่อรักวิวมากแค่ไหน”
วิริยาร้องไห้อย่างน่าสงสาร
“พ่อคะ พ่อต้องรีบตื่นมาดูหน้าหลานคนแรกของถกลเกียรติดำรงด้วยตาของพ่อเองนะคะ พ่อต้องรีบตื่นนะคะ พ่อ พ่อ...วิวรักพ่อคะ”
วิริยาซบลงกับมือของกรเกียรติร้องไห้สะอึกสะอื้นขอโทษพ่อด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจ
“พ่อคะ วิวขอโทษ ยกโทษให้วิวด้วย วิวขอโทษ ฮือๆๆๆ”
และวันนั้นธีรภาพแวะมาเยี่ยมพ่อเช่นกัน เขายืนอยู่หน้าห้อง ได้ยินทุกอย่าง รู้สึกสงสารวิริยาที่ขาดพ่อ ในขณะที่กำลังจะมีลูกออกมาลืมตาดูโลก ท่ามกลางชีวิตครอบครัวที่สั่นคลอน

วิริยาเล่าทุกอย่างให้ธีรภาพฟังจนจบแล้ว ธีรภาพตกใจคาดไม่ถึง
“คุณ”
“ฉันแทบไม่มีหน้าไปหาคุณพ่อด้วยซ้ำ ฉันละอายใจกับท่าน” วิริยาจ้องหน้าธีรภาพ “เธอเจอภาพนั้น”
ธีรภาพพยักหน้าแทนคำตอบ วิริยาถอนหายใจเฮือกใหญ่ อย่างยอมจำนน
“เธอมาหาฉัน ก็เพื่อจะมาขอให้ฉันยอม”
“แต่ผมอยากถามคุณก่อน”
“ฉันทำพลาดมาครั้งหนึ่งแล้ว อย่าให้ฉันต้องพลาดเป็นครั้งที่สอง จงทำในสิ่งที่เธอคิดว่ามันถูกต้องที่สุด ไม่ต้องคิดห่วงใคร ห่วงฉัน หรือห่วง...“
วิริยาลูบท้องเบาๆ น้ำตาร่วงริน
“ผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด”
ธีรภาพค่อยๆ วางมือบนมือพี่สาวต่างมารดา วิริยาวางมืออีกข้างทับ สองพี่น้องกุมมือให้แรงใจกันและกัน สักครู่ธีรภาพจึงลุกเดินออกไป วิริยาเอ่ยขึ้นว่า
“เหมือนที่พ่อเคยบอก สายเลือดของถกลเกียรติดำรงจะลุกขึ้นมาปกป้องทุกอย่างของเรา”
ธีรภาพหยุด หันมาพยักหน้ารับเอาคำของวิริยา
“ช่วยรักษารอยัลแอร์ไลน์ด้วย เพื่อทุกคนและก็เพื่อ...พี่”
“ครับ...พี่”
ธีรภาพตาแดง ตื้นตันใจที่วิริยายอมเปิดใจรับเขาเข้ามาเป็นคนในตระกูลแล้ว

ธีรภาพเดินออกมาหน้าคฤหาสน์ พร้อมกับโทร.หาตำรวจที่สน.ทองหล่อ
“สวัสดีครับ สถานีตำรวจทองหล่อ ใช่ไหมครับ ผมมาตามเรื่องคดีของคุณกรเกียรติ ถกลเกียรติดำรง ครับ”
“ได้ครับ เดี๋ยวจะโอนเรื่องให้ร้อยเวรที่รับผิดชอบนะครับ กรุณารอสักครู่”
“ขอบคุณครับ”
ระหว่างรอสาย ธีรภาพคิดในใจว่า เรื่องทุกอย่างกำลังจะปิดฉากลงแล้ว
“ผมร้อยเอกสุชาติ พ่วงทรัพย์ ผู้รับผิดชอบคดีครับ”
“สวัสดีครับ ผมธีรภาพ ครับ ท่านได้รับไฟล์จากกล้องวงจรปิดที่ผมส่งไปให้แล้วใช่ไหมครับ”

ฝ่างศิตางค์นั่งนิ่งขึงอยู่ที่ห้องรับแขกในคอนโด
“พงศธรคืนนี้แกจงหลับให้สบายบนเตียงอันแสนอบอุ่น ที่แกจะไม่มีโอกาสสัมผัสมันอีกตลอดชีวิต”
ศิตางค์มีสีหน้าสะใจกับสิ่งที่จะจบลงในวันพรุ่ง

พงศธรนอนหลับอยู่ที่เตียง วิริยายังไม่นอนหลับ มองดูพงศธรหลับหน้ายังเครียด วิริยาเอามือไปลูบลบรอยเครียดออกจากใบหน้าพงศธร
พงศธรสะดุ้งตื่นขึ้นมา
“วิวยังไม่นอนเหรอ”
“วิวยังนอนไม่หลับ”
วิริยาเอาแต่จ้องหน้าอยู่อย่างนั้น จนพงศธรต้องถาม
“มีอะไรหรือ ทำไมคืนนี้วิวมองจ้องหน้าผม ทำอย่างกับคุณจะไม่ได้เห็นผมอีกแล้ว งั้นแหละ”
“วิวก็แค่อยากเห็นคุณนานที่สุด เท่าที่จะนานได้”
“อืม นอนเถอะ”
“พงศ์”
พงศธรจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ “หือ”
“ฉันรักคุณค่ะ”
“ผมรู้ นอนเถอะ นอนๆ”
พงศธรหลับไปแล้ว แต่วิริยายังหลับไม่ลง น้ำตาไหลรินออกมาเป็นสายที่หางตา

รุ่งเช้า ศิตางค์ในอาภรณ์ หรู และโก้ ออกจากห้องนอนมา พร้อมกระเป๋าเอกสารสำคัญประดามี เดินออกไปจากห้องด้วยสีหน้ามาดหมาย ต้องกำชัยชนะในวันนี้

ฝ่ายพงศธรลงบันไดมายังโถงชั้นล่าง เดินไปขึ้นรถหน้าคฤหาสน์อย่างมั่นอกมั่นใจ ว่าวันนี้เขาจะผงาดในรอยัลแอร์ไลน์
วิริยาเข็นรถออกจากห้องมาหยุดมองดูสามีตรงระเบียงชั้นบน ด้วยสีหน้าอมทุกข์ แต่สุดท้ายตัดใจว่าหล่อนได้เลือกทำสิ่งที่ถูกต้องที่สุดในชีวิตแล้ว

อีกฟาก ธีรภาพเดินออกจากบ้านมา พร้อมเอกสารและหลักฐานสำคัญในการต่อกรกับพงศธรและศิตางค์
บิ๊กไบค์คันโปรดพาเขาทะยานออกไป มุ่งหน้าสู่รอยัลแอร์ไลน์ เพื่อหยุดทุกอย่างให้จบลงในวันนี้

อ่านต่อ ตอนที่ 24
กำลังโหลดความคิดเห็น