xs
xsm
sm
md
lg

เงาเสน่หา ตอนที่ 21

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เงาเสน่หา ตอนที่ 21

ศิตางค์ยังคงยืนชมวิวรอเข้าห้องน้ำอยู่ที่ระเบียง โดยชาร์จมือถือไว้ที่โต๊ะหัวเตียงข้างกระเป๋าถือ แต่ยังไม่รู้ว่ามีไลน์จากพงศธรเข้ามาที่เครื่อง

สักครู่หนึ่งธีรภาพก็เดินเปลือยท่อนบนออกจากห้องน้ำนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ศิตางค์ตกใจ อุจาดตา ยกมือปิดแทบไม่ทัน
“นี่คุณ ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกมาจากห้องน้ำละ”
“ก็เสื้อของผมวางอยู่ข้างนอก ใจคอคุณจะให้ผมแก้ผ้าออกมาเอาเสื้อผ้า แล้วเข้าไปใส่ในห้องน้ำเหรอครับ นี่ผมสุภาพกับคุณที่สุดแล้วนะ”
ศิตางค์หยิบของในกระเป๋าถือใบเล็กที่ติดตัวมา วางกระเป๋าคืนโดยจงใจให้ตูดกระเป๋าชิดขอบโต๊ะด้านนอก เป็นการทำสัญลักษณ์ไว้เพื่อทดสอบบางอย่าง
ก่อนจะเดินผ่านธีรภาพที่ยืนเปลือยท่อนบนเช็ดหัวอยู่ เข้าห้องน้ำไป ธีรภาพมองตามไป แล้วรีบเดินมาดูกระเป๋าศิตางค์ มองกระเป๋าที มองประตูห้องน้ำทีอย่างชั่งใจ

ฝ่ายพงศธรพาตัวเองมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าผาสูง หลังบ้านพักตากอากาศ บรรยากาศเหมือนที่เกาหลีไม่ผิดเพี้ยน ในหัวของเขามีภาพนิสาแว่บเข้ามา
นิสาพลัดตกหน้าผาที่เกาหลี ร่างตกทะเลจมหายไป พงศธรร้องไห้คร่ำครวญ ตะโกนหาอย่างคนเป็นบ้า
ไม่มีใครรู้ว่าลึกๆ พงศธรรู้สึกผิดต่อนิสาจนทุกวันนี้ เขายืนเศร้าอยู่เพียงลำพัง บนหน้าผาสูงชันแห่งนี้

ศิตางค์ล้างหน้าตาออกจากห้องน้ำมา มองไปเห็นธีรภาพยืนอยู่ใกล้กระเป๋าของเธอ โดยที่เขามีท่าทีตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็น ศิตางค์มองหน้าธีรภาพอย่างจับสังเกต
ก่อนหน้านี้ ธีรภาพมองกระเป๋า แล้วมองไปทางห้องน้ำ ทำท่าจะหยิบให้ได้ อยากจะสืบค้นหาความจริงบางอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็ตัดใจ ไม่ยอมเสียความไว้วางใจที่เธอมีให้ ทิ้งตัวนั่งลงอย่างคนรู้สึกผิด
กระเป๋าถือศิตางค์จึงยังคงวางอยู่เหมือนเดิม ท่าเดิมที่เธอวางไว้ ศิตางค์มองดูกระเป๋าแล้วมองหน้าธีรภาพอย่างไว้วางใจเขา ระหว่างนี้มือถือธีรภาพดัง เขาเลี่ยงออกไปรับโทรศัพท์ที่ริมระเบียง

ธีรภาพออกมารับโทรศัพท์ที่ระเบียง เป็นสายจาก ยามสุนทร รปภ.ของบ้านคุณกรเกียรติ
“ว่าไงครับพี่สุนทร”
สุนทรอยู่ที่โถงบันไดคฤหาสน์ คุยสายกับธีรภาพ
โดยหลังจากที่สุนทรตรวจจนเจอว่า มีกล้องอีกตัวซ่อนอยู่บนต้นไม้นอกตัวบ้าน และถูกใบไม้ปิดบังอำพรางสายตาคนอื่นๆ ที่สำคัญกล้องตัวนี้จับภาพเหตุการณ์บริเวณบันไดคฤหาสน์ สุนทรปีนไปแกะซิมการ์ดจากกล้องออกมา
“คุณธีรภาพครับ ผมมีเรื่องจะแจ้งให้ทราบว่า นอกบ้านมันมีกล้องวงจรปิดอยู่อีกตัวครับ มันเป็นกล้องที่บันทึกในตัว ไม่ผ่านระบบใหญ่ ซึ่งผมก็ไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีกล้องตัวนี้อยู่ แล้วองศาของกล้องมันตรงมาที่บันไดพอดีเลยครับ ผมกำลังหาวิธีเอาไฟล์ภาพออกมา ถ้าได้ไฟล์ยังไงจะรีบส่งไปยังเมลของคุณธีรภาพทันทีเลยนะครับ”
“ขอบคุณมากครับ ยังไงผมรบกวนด่วนด้วยนะครับ”
ธีรภาพรู้สึกดีใจมากที่จะได้รู้ความจริงของเหตุการณ์ในคืนที่กรเกียรติตกบันได จนโคม่าถึงทุกวันนี้

สายแล้ว วิริยานอนอยู่บนเตียงนอนในบ้านพัก พงศธรนอนเคียงลูบไล้แขนเบาๆ อย่างรักใคร่ วิริยาหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข
“ผมทำคุณตื่นหรือเปล่า ที่รัก”
วิริยาสะลึมสะลือมองพงศธรตาหวานซึ้ง
“เปล่าคะ วิวนอนหลับสบายมาก”
พงศธรยิ้มให้ภรรยา

ธีรภาพยังคงอยู่ตรงระเบียง จนศิตางค์เดินเข้าไปหา
“ภารกิจของคุณใกล้จะจบแล้วสิคะ เพราะอีกไม่กี่นาที คุณก็จะพาฉันไปที่บ้านหลังนั้น ไปดูภาพบาดตาบาดใจ ที่ฉันอาจจะต้องวิ่งเสียใจร้องไห้ลงมาก็ได้”
“คุณพูดได้เหมือนเรื่องตลก คุณเอาชีวิตคนมาล้อเล่นไปกับอารมณ์ที่แปรปวนของคุณได้ยังไง”
ศิตางค์นิ่งงันไป ย้อนธีรภาพกลับ
“ชีวิตฉันมันตลกจนคุณคิดไม่ถึงทีเดียวละ”
ธีรภาพเป็นฝ่ายนิ่งอึ้งบ้าง ศิตางค์กดเปิดมือถือ หลังชาร์จแบตจนเต็มแล้ว เครื่องเปิดไปเรื่อยๆ
“ทุกอย่างมันพังเพียงเสี้ยววินาทีเดียว ชีวิตฉัน ครอบครัวของฉัน มันจบลงด้วยคนเพียงคนเดียว”
“คุณเลยเลือกที่จะทำลายครอบครัวของคนอื่น งั้นเหรอครับ”
ศิตางค์จ้องหน้าเขาพูดเป็นเลศนัย “คุณคิดผิด ฉันไม่ได้ทำลายครอบครัวคนอื่น แต่ฉันเลือกทำร้ายความรักต่างหาก และไม่ว่ามันจะเป็นความรักที่จริงแท้ หรือสุดแสนจอมปลอม มันก็พร้อมจะพังทลาย สร้างบาดแผลทิ้งไว้ให้จดจำได้ไม่แตกต่างกัน”
ธีรภาพงง
“คุณเลือดเย็นกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ ผมไม่อยากเชื่อเลย”
ศิตางค์เจ็บจี๊ดกับน้ำคำของเขา กำลังจะเดินหนีออกไป ธีรภาพตัดสินใจบอกความจริงออกไป เพื่อให้ศิตางค์ยอมรามือ และนี่คือไพ่ใบสุดท้ายที่เขามีในมือ
“เห็นแก่เด็กที่กำลังจะเกิดมาเถอะครับ คุณศิตางค์ แกไม่รู้เรื่องอะไรด้วย”
ศิตางค์หยุดกึกทันที หันกลับมาช้าๆ
“คุณว่าอะไรนะคะ”
“คุณวิริยากำลังจะมีลูก เธอท้องได้สองเดือนแล้วครับ”
ศิตางค์ไม่อาจยอมรับได้ “ไม่จริง...ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ คุณโกหกฉัน”
ธีรภาพจ้องหน้าเธอนิ่ง “ผมจะโกหกคุณทำไม มันไม่มีประโยชน์อะไร แล้วผมก็ไม่ชอบเอาชีวิตคนอื่นมาล้อเล่น”
คล้ายกับว่าโลกทั้งใบหยุดหมุน และร่างศิตางค์ถูกเหวี่ยงไปกระแทกผนังไปมา เธอทรุดลงกับพื้นอย่างคนหมดแรง ธีรภาพจะเข้าไปพยุง แต่เธอโบกมือห้ามไว้
“แน่มาก ใช้ไม้นี้กับฉัน”
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ”
ศิตางค์สะท้อนใจ รู้สึกเหมือนคนแพ้ยับเยิน ต้องยอมจบทุกเรื่อง ทุกความเกลียดชัง เพราะคำว่า “ลูก” คำเดียว
“ฉันแพ้ ทั้งที่ฉันกำลังจะชนะ แต่สุดท้าย ฉันก็แพ้แบบไม่มีทางสู้ได้เลย”
ศิตางค์ร้องไห้ออกมาให้กับความพ่ายแพ้ของเธอ ธีรภาพงุนงงสงสัย ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ขณะนั้นมือถือธีรภาพก็ดังขึ้น เป็นสายมาจากยามสุนทรโทร.มาหา เขากดรับทันที
“ครับ พี่สุนทร ส่งมาในเมลแล้วใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมรีบไปเปิดดูไฟล์ที่คอมด้านล่างครับ”
ธีรภาพหันมาทางศิตางค์
“คุณโอเคนะ ผมขอไปเปิดเมลข้างล่าง เดี๋ยวผมรีบกลับมานะครับ”
ธีรภาพวิ่งลงบันไดไปด้านล่าง เป็นจังหวะเดียวกับที่ไลน์จากพงศธรเด้งขึ้นมา หลังจากเปิดเครื่อง ศิตางค์กดอ่าน
“ผมกำลังจะทำให้ตัวเองเป็นอิสระ รอผมนะครับ”
ศิตางค์คิดถึงคำพูดธีรภาพเรื่องหน้าผาหลังบ้านพักตากอากาศ ลำดับเรื่องราวต่างๆ ในหัว จนพอเดาได้ว่าพงศธรอาจทำอะไรลงไป เธอตกใจรีบวิ่งออกจากห้องไปทันที

พงศธรเข็นรถให้วิริยานั่ง คุยกันมาระหว่างทาง
“เป็นไงครับวิว อากาศดีไหม”
“ค่ะ วิวชอบ ลมเย็นๆ อากาศเหมือนเกาะเจจูที่เกาหลีเลยนะคะ วิวเคยไปเที่ยวกับคุณพ่อตอนซัมเมอร์ตอนอยู่ไฮสกูล”
“วิวมีความทรงจำดีๆ ที่เกาหลีเหมือนกันนะครับ”
พงศธรหลุดปากพูดออกไปถึงคิดได้
“พงศ์ก็เคยมีความทรงจำที่นั่นไม่ใช่เหรอคะ”
พงศธรเลือกที่จะไม่ตอบ ต่างคนต่างเงียบ จนบรรยากาศชักเริ่มอึดอัด
“พงศ์” วิริยาทำลายความเงียบขึ้น
“หือ”
“วิวไม่เคยถามคุณ ว่าที่เกาหลีวันนั้น ระหว่างคุณกับ...นิสา มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
พงศธรช็อกกับคำถามที่เขาอยากจะลืมมัน แต่กลับถูกวิริยาตอกย้ำบาดแผลในใจขึ้นมา ความเงียบเข้ามาเยือนสองสามีภรรยาอีกครั้ง ต่างคนต่างมองไปไกลลิบ พร้อมภาพในหัวของใครมัน
พงศธรทำลายความเงียบโดยชวนวิริยาไปที่ริมหน้าผา
“วิว เดี๋ยวเราไปตรงริมหน้าผาด้านโน้นดีกว่า”
วิริยาใจหายวาบ กับคำว่าหน้าผา หล่อนมีลางสังหรณ์ขึ้นมาโดยประหลาด แม้ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
พงศธรค่อยๆ เข็นรถให้กับวิริยานั่งมาจนถึงริมหน้าผาสูง พงศธรยืนมองดูบรรยากาศนิ่ง ไม่พูดไม่จา วิริยามีสีหน้าหวาดกลัวเล็กน้อยจนพงศธรสังเกตุเห็น
“วิว ทำไมคุณดูสั่นๆ จัง เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ค่ะ วิวใจคอไม่ค่อยดีเลย มันดูน่ากลัวนะคะพงศ์”
“นี่ คุณมีกัปตันดีๆ เก่งๆ อยู่ทั้งคน คุณจะกลัวอะไรละหือ”
วิริยารู้สึกตามัวขึ้นมา คอแห้งผาก ใจสั่น
“วิวคอแห้ง อยากได้น้ำค่ะพงศ์”
“งั้นเดี๋ยวผมจัดการไปเอาน้ำให้คุณเอง คุณรอตรงนี้ก่อนนะ”
พงศธรยิ้มให้วิริยา แล้วหันหลังเดินจากไป
วิริยารอคอยด้วยสีหน้าหวาดหวั่น
พงศธรเดินไปช้าๆ นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เขาจัดการปลดเบรกรถเข็นด้วยสีหน้าอำมหิต พงศธรเดินไปเรื่อยๆ สีหน้าเรียบเฉย
วิริยาใจคอไม่ดี รู้สึกผวากลัว หันซ้ายหันขวา จนทำให้รถขยับ ล้อรถเริ่มเขยื้อนไหล
พงศธรเดินไปลุ้นไปว่าแผนการจะสำเร็จหรือไม่
ล้อรถค่อยๆ ไหลลงเนินไปเรื่อยๆ
วิริยาตกใจสุดขีด ทำอะไรไม่ถูก
พงศธรลุ้นให้มันเป็นไปตามแผนที่คิด
รถเข็นไหลลงไปอย่างเร็วและแรง วิริยาลนลานตกใจสุดขีด
พงศธรหลับตาลงช้าๆ จบสิ้นกันซะที
เสียงรถเข็นตกลงไปในน้ำทะเลใต้หน้าผาตูมใหญ่
พงศธรรีบวิ่งกลับมาที่หน้าผาอีกครั้ง แต่ไม่เห็นอะไร หายไปทั้งรถทั้งคน พงศธรลุ้นๆ เดินมาที่หน้าผา เห็นทุกอย่างเงียบไป ก็ย่ามใจว่าสำเร็จแล้ว เปลี่ยนสีหน้าเป็นเหี้ยมเกรียมขึ้นมา แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่างจากข้างล่าง เมื่อเดินไปที่ปลายหน้าผาจึงเห็นศิตางค์กำลังดึงช่วยวิริยาอยู่ที่ปากเหว
พงศธรยืนนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้น ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะกลับตาลปัตรเช่นนี้ ไม่ยอมเข้าช่วย ไม่ยอมทำอะไร จนศิตางค์อ่อนแรง มือที่เกาะหินยึดไว้กำลังจะหลุดอยู่รอมร่อ
จู่ๆ กลับมีมือของธีรภาพยื่นเข้ามาจับมือศิตางค์ไว้ทันท่วงที สองคนช่วยกันดึง และเป็นจังหวะที่พงศธรได้สติ รีบมาช่วยสองคนอีกแรง จนช่วยวิริยาขึ้นมาได้สำเร็จา เมื่อขึ้นมาได้วิริยาก็โผเข้ากอดพงศธรยึดเป็นหลักชัย ร้องไห้อย่างคนขวัญเสียสุดจะประมาณ
“พงศ์คะ พงศ์ ขอบคุณมากนะคะ”
“วิว คุณไม่เป็นไรใช่ไหม มันเกิดขึ้นได้ยังไง”
“ค่ะ วิวไม่เป็นไรแล้ว”

ส่วนศิตางค์ถึงกับหอบเหนื่อย มองหน้าพงศธรอย่างคาดไม่ถึง มันทำให้เธอทบทวนอดีต ที่หน้าผาหลังประภาคารฮาโจแดสลับกับก่อนหน้านี้ ตอนเห็นพงศธรเดินมาที่หน้าผา ด้วยหน้าตาอันเหี้ยมเกรียม ศิตางค์เกาะหน้าผาอยู่มองเห็นแววตานั้นพอดิบพอดี
ศิตางค์ดึงตัวเองกลับมามองหน้าพงศธรนิ่งๆ ประมวลความคิด ทบทวนเหตุการณ์ที่เกาหลีตอนนิสาตกหน้าผาร่างจมหายไปในทะเล
นิสาในชุดเจ้าสาวถ่ายรูปอยู่กับเจ้าบ่าวพงศธรที่บ้าระห่ำถ่ายอยู่ริมหน้าผา ชวนเสียวไส้ ในที่สุดนิสาก็ลื่นหินแถวนั้นพลัดตกหน้าผาไป พงศธรพยายามดึงช่วยไว้ แต่ไม่สำเร็จ

ธีรภาพเรียกสติศิตางค์ ที่เอาแต่เหม่อลอยอยู่เป็นนานสองนาน
“คุณศิตางค์ คุณศิตางค์”
ศิตางค์ได้สติกลับมา
“คะ”
“คุณไม่เป็นไรนะครับ”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ”
ธีรภาพโล่งใจ “ครับ”
พงศธรหันมามองศิตางค์แว่บหนึ่ง จึงหันไปทางภรรยา
“คุณโอเคแล้วนะ”
“ค่ะๆ”
“เราไปจากที่นี่เถอะ”
วิริยาหันไปมองศิตางค์ด้วยแววตาที่อ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด ยิ้มบางๆ เชิงขอบคุณที่อีกฝ่ายเสี่ยงชีวิตช่วยไว้ ศิตางค์มองยิ้มตอบด้วยไมตรีเช่นกัน ทั้งสองคนยิ้มให้กันผ่านความรู้สึกลึกๆ ภายในใจ โดยไม่มีใครเห็น
พงศธรประคองวิริยาเดินไปช้าๆ แต่ไม่วายเหลียวหลังมามองศิตางค์ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
ธีรภาพประคองศิตางค์ลุกขึ้น เห็นเธอมองตามพงศธรไปอย่างไม่ละสายตา โดยไม่รู้เหตุผลที่แท้ว่าศิตางค์ประหลาดใจ ในความบังเอิญเหมือนของเหตุการณ์ตกหน้าผาของเธอและวิริยาเป็นที่สุด
สองเหตการณ์มีผู้ชายคนเดียวกัน คือ พงศธร อยู่ด้วย

ศิตางค์กลับถึงคอนโด เที่ยวเปิดลิ้นชักตู้หัวเตียง ลิ้นชักตู้เสื้อผ้า เดินหาบางอย่างไปทั่วห้อง จนเจอกล่องนามบัตรที่ค่อนข้างเก่าเนื่องโดนน้ำทะเล เธอหยิบนามบัตรของริเวอร์ไกด์หนุ่มที่เจอกันในฮาโจแดพาวิลเลี่ยน
ริเวอร์พูดคุยทักทายกับนิสาอย่างคุ้นเคย ในฐานะไกด์ด้วยกัน
“งั้นไปก่อนนะครับ เออ ถ้ามีไรให้ช่วยบอกนะ นี่นามบัตรผม”
ริเวอร์ส่งนามบัตรให้ นิสารับมาดูแล้วลากัน นิสามองดูริเวอร์ถ่ายวิดีโอให้ลูกทัวร์โดยไม่รู้เหนื่อย โดยเขาบอกกับบรรดาลูกทัวร์ว่า
“อันนี้ผมจะถ่ายเป็นภาพวิดีโอให้นะครับ จะได้เก็บบรรยากาศครบถ้วน ทุกคน ยิ้มๆ สวยครับ”
ศิตางค์นึกแล้วหยิบนามบัตรมาดูเบอร์ กดโทร.หาเขาทันที รอจนอีกฝั่งรับสาย
“Hi ริเวอร์”
“นั่นใครครับ” เสียงจากปลายสายถามขึ้น
“นิสาจาก แฮปปี้โคเรีย ค่ะ” นิสาในคราบศิตางค์บอก
ริเวอร์คิดจนจำได้
“อ๋อ นิสา จำได้ครับ มีอะไรให้ผมช่วยครับ”
“คุณจำวันที่เราเจอกันที่ฮาโจเดได้มั้ยคะ ฉันอยากให้คุณช่วยฉันสักหน่อย มันสำคัญต่อฉันมาก”
ศิตางค์ฟังปลายสายด้วยสีหน้ามีความหวัง

ที่บ้านคุณกรเกียรติ พงศธรจับมือภรรยาขึ้นมากุมลูบเบาๆ อย่างรักใคร่ วิริยาดูอ่อนแรงมากๆ หลังกลับจากโรงพยาบาลมาถึงบ้าน
“โชคดีนะที่หมอบอกว่าลูกของเราปลอดภัยดี”
“พงศ์คะ” วิริยาอยากจะถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่หน้าผา แต่พงศธรตัดบทห้ามไว้
“อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย คุณต้องพักผ่อนแล้ว หมอกำชับหนักหนา นอนพักผ่อนซะนะครับ”
วิริยายอมจำนน ด้วยร่างกายของหล่อนเวลานี้อ่อนแอเกินจะคิดเรื่องอื่น พงศธรมองจนแน่ใจว่าวิริยาผล็อยหลับไปแล้ว สีหน้าเปลี่ยนเป็นอำมหิต นึกเจ็บใจไม่หายที่แผนชั่วไม่สำเร็จตามที่หวัง
พงศธรลุกเดินมาหยุดที่หน้าต่าง มองไปไกลลิบตา คิดถึงเหตุการณ์ที่เกาหลี
“วิว” เขาเหลียวไปมองวิริยาบนเตียงนอน “คุณอยากรู้ใช่ไหม ว่าที่เกาหลีครั้งนั้น เกิดอะไรขึ้น”

พงศธรพาความคิดตัวเองกลับไปยังเกาหลีอีกครั้ง เริ่มจากตอนที่เขาและนิสา คล้องกุญแจที่โซลทาวเวอร์ เหมือนสองคนโยนกุญแจทิ้งตามเคล็ดรักของที่นี่ แท้จริงแล้ว ในเครื่องบินที่พาเขากลับกรุงเทพฯ พงศธรหยิบกุญแจอันนั้นออกมาดู เขาไม่ได้โยนมันทิ้งตามที่นิสาเข้าใจ

ศิตางค์เสมือนมองเห็นพงศธรอยู่ในเครื่องบิน เธอเอะใจกับการกระทำที่เขาจงใจไม่ปากุญแจทิ้งไปในวันนั้น และเริ่มตกใจเหมือนกัน เมื่อรู้ว่าว่าพงศธรทรยศต่อความรักของเธอ

เธอนึกไปถึงอดีต พงศธรกลับจากจัดวางหินที่หน้าผา ทำเป็นว่าออกไปซื้อขนมมาให้นิสา พอถูกนิสาทักเรื่องชุดเลอะดินและบอกจะซักให้ พงศธรรีบปฏิเสธ

ศิตางค์ในชุดกางเกงขายาวยืนหันหลังอยู่ เสมือนรับรู้ทุกเรื่องราวจากการเล่าเรื่องของพงศธร เธอค่อยๆ หันหน้ามา

ศิตางค์พาตัวเองดำดิ่งเข้าไปอยู่ในอดีตเพื่อทบทวนเรื่องราวและเหตุการณ์วันนั้น เห็นตัวเองเป็นนิสาทักพงศธรเรื่องเสื้อเลอะ
จนศิตางค์เห็นเหตุการณ์ที่พงศธรออกไปจัดวางหิน แล้วลื่นล้ม เมื่อเห็นชุดเลอะในห้องนอน ศิตางค์เลยรู้ทันที ว่าพงศธรหายไปไหนแต่เช้า และไปทำอะไรมา
พงศธรหันมา คล้ายกับยิ้มเยาะศิตางค์ที่เพิ่งจะรู้ความจริง

ทางด้านธีรภาพลงรถเดินเข้าบ้านมา เจอสุนทรมาดักรออยู่แล้ว พงศธรออกจากห้องพอดี ก้มลงมาเห็นทั้งสองคนยืนคุยกันท่าทีลับๆล่อๆ และเห็นทั้งสองรีบเดินไปด้วยกันที่ห้องทีวีวงจรปิด พงศธรสงสัยว่าสองคนทำอะไรกัน

ส่วนริเวอร์ค้นหาไฟล์จากโน้ตบุ๊กที่เขาได้บันทึกภาพไว้ ขณะถ่ายภาพให้กับลูกทัวร์ชาวจีนที่ฮาโจแด พาวิลเลี่ยน เมื่อหาเจอ เขาทำการส่งไฟล์ไปให้ศิตางค์ทางอีเมลทันที และแจ้งทางไลน์ เมื่อส่งเสร็จ
ศิตางค์อ่านไลน์ แล้วรีบเปิดเมล โหลดไฟล์วิดีโออย่างตื่นเต้น ด้วยสีหน้าลุ้นระทึก

ที่ห้องคอนโทรลกล้องวงจรปิด ธีรภาพเอา เอสดี การ์ด ออกจากกล้อง เสียบใส่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก รอลุ้นระทึก มองหน้าจอที่ไฟล์ถูกย้ายจากการ์ดไปสู่โน้ตบุ๊กทีละนิดๆ
ทางฝ่ายศิตางค์เปิดดูไฟล์วิดีโอ ที่ริเวอร์ถ่ายบันทึกเหตุการณ์ที่ประภาคารฮาโจแดและรอบๆ ในวันนั้น
ธีรภาพคลิกเปิดไฟล์ภาพเหตุการณ์ในวันที่กรเกียรติตกบันได ไปเรื่อยๆ เป็นภาพเหตุการณ์ทั่วไปในคฤหาสน์ เห็นสาวใช้เดินไปมา รวมทั้งพงศธรบ้าง เห็นวิริยาบ้าง
ศิตางค์เปิดดูทีละไฟล์ๆ จนกระทั่งเห็นภาพไกลๆ เป็นนิสากับพงศธรในชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวกำลังถ่ายรูปกัน ศิตางค์หน้าเศร้าลงทันทีที่เห็นภาพเหล่านั้น
ธีรภาพเปิดไฟล์ภาพจนถึงช่วงที่เห็นพงศธรออกจากห้องวิริยา แล้วกรเกียรติเข็นรถออกมาพูดคุยเกิดการโต้เถียงกัน ธีรภาพตกใจที่เห็นว่าคืนนั้นพงศธรอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยโดยที่เจ้าตัวไม่เคยกล่าวถึงเลย
ศิตางค์ดูภาพจนมาถึงช่วงที่นิสาพลัดตกหน้าผา เธอตกใจมากที่เห็นตัวเองตกลงไปอย่างรุนแรง
ธีรภาพกดเปิดไฟล์วิดีโอดู จนมาถึงเหตุการณ์ที่เขารอลุ้น จังหวะที่กรเกียติกำลังจะตกลงบันไดไป โดยมีพงศธรช่วยจับแขนไว้ได้ทัน
เช่นเดียวกับศิตางค์เล่นกลับไปตอนที่นิสาจับมือพงศธรยึดเอาไว้จนแน่น ก่อนจะร่วงตกลงไป เธอมองสีหน้าพงศธรมีพิรุธชอบกล จึงย้อนไฟล์ถอยหลังเล่นใหม่ดูอีกรอบ
ธีรภาพเพ่งดูจังหวะที่กรเกียรติจะตกบันไดกลับไปมา ซูมภาพแคบให้เห็นมือของพงศธร พ่อพยายามจับมือพงศธร แต่ก็จับได้แค่กระดุมหลุดติดมือออกมา และสุดท้ายพงศธรปล่อยให้พ่อตกบันไดลงมา
ศิตางค์ซูมหน้าพงศธรชัดๆ เห็นแววตาของเขา และยังเห็นด้วยว่าพงศธรจงใจปล่อยมือนิสา ให้เธอตกลงไป ศิตางค์อึ้งเมื่อรู้ความจริงว่าตนตกลงไปไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการฆาตกรรม
ศิตางค์น้ำตาร่วงพรู เจ็บใจแค้นใจ ไม่เคยคิดเลยว่าพงศธรจะวางแผนฆ่าเธอ

ทางฝ่ายธีรภาพดูภาพที่กรเกียรติตกบันไดลงไปด้วยความสงสาร จนร่างนิ่งไป พงศธรจึงค่อยๆ เร้นกายหายไป จนมีคนใช้ออกมาเห็นร้องกรี้ด เรียกเปรมจิต และวิริยาออกมาดู ทุกคนกระโจนลงไปดูอาการด้วยความตกใจสุดขีด
ธีรภาพน้ำตาไหล ทั้งเจ็บใจ แค้นใจ ที่พงศธรทำกับพ่อของเขาได้ลงคอ

ด้านพงศธรยืนคิดเหตุการณ์ที่เกาหลีต่อ เขานั่งร้องไห้อยู่ที่โขดหิน จนมีตำรวจน้ำมาบอกว่าหาศพนิสาไม่เจอ พงศธรร้องไห้โฮ แต่แล้วเมื่อไม่มีใครแล้ว พงศธรก็ค่อยๆ แสดงสีหน้าเจ้าเล่ห์สะใจสมใจออกมา
ศิตางค์เห็นสีหน้านั้นของพงศธรก็ยิ่งแค้นหนัก

พงศธรยืนใช้ความคิดอยู่ตรงหัวบันได สายตาเหลือบไปเห็นกล้องวงจรปิดนอกบ้านตัวนั้นเข้าโดยบังเอิญ และพบว่ามุมดังกล่าวสามารถมองเห็นเหตุการณ์อย่างชัดเจน พงศธรตกใจรีบลงบันได โลดแล่นไปที่ห้องคอนโทรลทีวีวงจรปิดข้างล่างทันที

ธีรภาพเสียบทรัมไดรฟ์ก๊อปปี้วิดีโอจากคอม ไฟล์ถ่ายโอนข้อมูลได้ราว 10 % แล้ว ในขณะที่พงศธรเดินลงบันไดอย่างรวดเร็ว
ในห้องคอนโทรล ไฟล์วิดีโอกำลังถ่ายโอนข้อมูลได้ราว 60 % ธีรภาพและสุนทรร้อนรนใจ ลุ้นระทึก รับรู้ได้ว่ามีคนเดินใกล้เข้ามามากทุกทีๆ
พงศธรรีบรุดมุ่งหน้าไปยังห้องคอนโทรลอย่างร้อนใจ

ทรัมไดรฟ์ก๊อปปี้ภาพได้ 90% แล้ว ธีรภาพลุ้นจนเหงื่อแตก คอยมองไปนอกห้องตลอดๆ สุนทรก็เช่นกัน
ไม่นานนัก พงศธรเปิดประตูห้องคอนโทรลกล้องวงจรปิดอย่างแรง พบว่าทั้งห้องว่างเปล่า ไม่เจอใครอยู่ เห็นแต่จอทีวีวงจรปิด ไม่มีอะไรผิดปกติ ไร้เงาของธีรภาพและสุนทร พงศธรยังคลางแคลงใจอยู่ว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ เพียงแต่เขายังจับไม่ได้ไล่ไม่ทันเท่านั้น

ฟากศิตางค์เดินออกจากห้องมา เคียดแค้นพงศธรสุดจะประมาณ
“พงศธรแกคิดจะฆ่าฉัน คอยดู ฉันจะทำลายแก ทำลายทุกสิ่งที่เป็นของแก ฉันจะทำให้แกก้มลงคุกเข่า ร้องขอชีวิตต่อหน้าฉัน”
น้ำตาแห่งความชิงชังไหลรินออกมา

ธีรภาพมาเยี่ยมกรเกียรติที่ห้องไอซียูในโรงพยาบาล ยืนจับมือมองพ่อด้วยความสงสาร
“พ่อครับ ผมรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น ผมจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับพ่อให้ได้”
ธีรภาพจับมือพ่อน้ำตาร่วง

ศิตางค์ใส่แว่นดำเหลียวมองไปรอบๆ กำลังจะเดินเข้าไปในตึกรอยัลแอร์ไลน์ เจอกับธีรภาพที่ยืนรออยู่แล้วที่ตรงประตูทางเข้าโถงล็อบบี้
“บังเอิญเจอกันอีกแล้วนะครับ”
“แต่สำหรับฉัน ไม่ใช่ความบังเอิญ ฉันตั้งใจมา”
“คุณรู้ใช่ไหมครับ ว่ารอยัลแอร์ไลน์เป็นของพ่อผม”
“ค่ะ”
“หน้าที่ของผม คือ ปกป้อง ถกลเกียรติดำรง และรอยัลแอร์ไลน์”
ทั้งสองคนยืนประจันหน้ากันคนละฟากฝั่ง ธีรภาพอยู่ด้านใน ศิตางค์อยู่ด้านนอก
“งั้น ตั้งแต่วันนี้ เราคงอยู่กันคนละฝั่งแล้วล่ะค่ะ”
ธีรภาพคิดอยู่ในใจแล้วว่า ศิตางค์ต้องรุกหนักคราวนี้แน่ แค่เขาไม่รู้ว่าเธอจะทำอย่างนั้นทำไม
“ฉันทำสิ่งที่ฉันต้องทำ คุณก็ควรทำในสิ่งที่คุณควรทำ”
“ผมไม่อยากให้เราต้องเจอกันด้วยสถานการณ์แบบนี้”
“ถ้าเลือกได้ ไม่มีใครต้องการตกอยู่ในสภาพแบบนี้กันหรอกค่ะ ขอให้คุณโชคดีนะคะ”
ธีรภาพฝืนตอบศิตางค์ไปว่า “เช่นกันครับ”
ศิตางค์เดินออกจากรอยัลแอร์ไลน์ ขึ้นรถไป ธีรภาพมองตาม ด้วยอารมณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างแท้จริง

ฝ่ายพงศธรยืนกดโทรศัพท์หาศิตางค์อยู่ที่ริมหน้าต่างห้องทำงาน สายติดแต่ศิตางค์ยังไม่ยอมรับสายตั้งแต่เช้าแล้ว พงศธรวางสายอย่างหงุดหงิด อรชุมาเคาะประตูเดินเข้ามาบอก
“ท่านคะ ท่านสมภพขอพบค่ะ เรียนว่ามีเรื่องด่วน”
“เชิญเข้ามา”
พงศธรเดินกลับไปที่โต๊ะ ขณะสมภพเดินเข้ามา
“มีเรื่องด่วนอะไรหรือครับ”
สมภพถามทันที “คุณพงศธรทำอะไรกับหุ้นของรอยัลแอร์ไลน์หรือเปล่าครับ”
“ไม่มีนี่ครับ เปิดตลาดมาเมื่อเช้า ผมยังไม่ได้ขยับพอร์ตตัวเองเลย”
สมภพให้ความคิด
“มีการซื้อหุ้นของเราขึ้นมาค่อนข้างมาก ทำให้มูลค่าดีดขึ้นจนน่าแปลกใจการซื้อโวลลุมใหญ่ๆ ก็มาจากนักลงทุนต่างชาติ ที่ซื้อมาจากต่างประเทศโดยตรง”
“อาจเป็นได้ว่า ช่วงนี้เป็นไฮซีซันลูกค้าใช้บริการเครื่องบินเพื่อเดินทางพักผ่อน อีกอย่างธุรกิจเครื่องบินเช่าเหมาลำที่เราทำกับทาง สกาย เจ็ต ก็กำลังไปได้อย่างสวยงาม อาจเป็นไปได้ว่า นักลงทุนต่างชาติ มองเห็นการเติบโตในทิศทางบวก มันก็เป็นผลดีกับเราไม่ใช่หรือครับ” พงศธรย่ามใจ
“ผมก็ขอให้มันเป็นในแบบที่คุณพงศธรพูด”
“ผมต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วครับ มองในแง่ดี มูลค่าหุ้นขึ้น ที่ในกระเป๋าคุณถือไว้มากเท่าไร ก็ดีเท่านั้นจริงไหมครับ จะมีธุรกิจอะไรที่นอนหลับตื่นขึ้นมา เงินพอกพูนเป็นร้อยล้านเพียงข้ามคืน จริงไหมครับ”
สมภพยิ้ม พยักหน้ารับ แต่ก็ยังไม่คลายกังวล พงศธรยังดีใจกับความสำเร็จของตนอยู่ไม่ติดใจอะไรเลย

ด้านศิตางค์กำลังเช็คดูการซื้อขายหุ้นด้วยโน้ตบุ๊กอยู่ในออฟฟิศ และคุยสายทางไกลอยู่กับยุนฮี
“การกว้านช้อนซื้อหุ้นของวันนี้พอก่อน ฉันไม่อยากให้พวกมันสงสัยว่าทำไมบริษัทที่เกาหลีถึงสนใจในการลงทุนกับรอยัลแอร์ไลน์มากขนาดนี้”
จากห้องทำงานบนตึกสูงที่เกาหลีริมแม่น้ำฮัน ยุนฮีหมุนเก้าอี้ออกมา พบว่าเธอกำลังคุยโทรศัพท์กับศิตางค์ที่กรุงเทพฯ เมืองไทย
“พรุ่งนี้ เคที กรุ๊ป จะเคลื่อนเงินทุนก้อนที่สอง ในการซื้อหุ้นรอยัลแอร์ไลน์ที่คงเหลือในตลาดทั้งหมด” ยุนฮีบอก
“ในตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้ จะต้องหันมาสนใจว่าเกิดอะไรขึ้น ขอบคุณมากนะยุนฮีที่ช่วยฉันมาตลอด ขอบคุณมากจริงๆ”
“ฉันยินดีทำเพื่อความถูกต้อง นิสาต้องระวังให้มากๆ ทำทุกอย่างอย่างมีสติ ฉันเป็นห่วงหนูนะ”
“ขอบคุณมากค่ะ ยุนฮี ฉันจะทำอย่างรอบคอบ เพราะเดิมพันครั้งนี้ ฉันเดิมพันมันด้วยชีวิตของฉัน แล้วคุยกันค่ะ”
ศิตางค์วางสายไป สีหน้าแววตายังคงมุ่งมั่นที่จะเอาชนะศึกครั้งนี้ให้จงได้

เช้าวันต่อมา ภาพข่าวในจอทีวีเห็นผู้ประกาศข่าวเศรษฐกิจของ ช่อง 8 รายงานการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นไทย
“วันนี้หุ้นที่น่าสนใจและจับตามองเป็นอันดับ 1 ของตลาดหุ้นในบ้านเราคงจะหนีไม่พ้น หุ้นของรอยัลแอร์ไลน์ค่ะที่วันนี้คึกคักที่สุดในรอบปี เพราะมีการเทขายออกมาอย่างต่อเนื่องและมีการซื้อกลับในทันทีจากนักลงทุนต่างชาติ วันนี้เลยปิดไปอย่างสวยงาม ถือเป็นวันของรอยัลแอร์ไลน์จริงๆ ค่ะ”

ธีรภาพดูรายงานข่าวนี้อยู่ในออฟฟิศ เขาอดแปลกใจไม่ได้ หันมาทางคุณเอนกซึ่งดูอยู่ด้วยกัน
“น่าแปลก ที่จู่ๆ ก็มีนักลงทุนต่างชาติสนใจหุ้นของเรา”
“ผมว่าเรื่องนี้ มันต้องมีอะไรสักอย่าง คุณธีรภาพจับตาดูไว้ให้ดีละกันครับ”
“คุณเอนก คิดว่ามันจะมันมีอะไรมากกว่าการเทรดขายหุ้นธรรมดางั้นเหรอครับ”

สีหน้าท่าทางธีรภาพเองก็ดูกังวลใจไม่น้อยกับเรื่องแปลกๆ นี้

อ่านต่อ ตอนที่ 22
กำลังโหลดความคิดเห็น