นางแค้น ตอนที่ 22
พระสวดอภิธรรมจนเสร็จสิ้น
บุลินในชุดดำ เดินไปยังบริเวณลานจอดรถของวัด กําลังจะเปิดประตูขึ้นรถไป
เขาเหลือบมองเห็นคุณน้าแม่ชี ยืนอยู่มุมหนึ่ง
" คุณน้า"
คุณน้าแม่ชียิ้มเย็น แล้วหันเดินเข้าป่าไป
บุลินรีบวิ่งตามไป
"คุณน้า เดี๋ยวครับ"
บุลินวิ่งตาม คุณน้าแม่ชีที่ดูเหมือนเดินสบายๆ แต่บุลินก็วิ่งตามไม่ทันเสียที
"คุณน้า คุณน้ารอผมด้วย"
คุณน้าแม่ชีเดินเลี้ยวไปทางหนึ่ง
บุลินวิ่งตามไปแล้วเห็นบึงนํ้า บุลินวิ่งเข้ามาหยุดริมบึง มองไปไม่เห็นคุณน้าแม่ชีแม้แต่เงา
" คุณน้า อย่าทิ้งผมไปแบบนี้ คุณน้า"
ทุกอย่างสงัด ....เหลือเพียงสายตาเศร้าของบุลิน...สะเทือนใจ
บุลินเหลือบตามองไปในนํ้าแบบไม่ได้ตั้งใจ แล้วต้องตะลึงเพราะเห็นเงาตัวเองกลายเป็นซินดี้
"ไม่จริง"
เงาในนํ้า ขยับปากเหมือนที่บุลินพูด ในจังหวะเดียวกัน เป๊ะ ! "ไม่จริง"
"ไม่ใช่ความจริง"
เงาซินดี้ในนํ้าพูดจังหวะเดียวกับบุลินอีก "ไม่ใช่ความจริง"
บุลินตะลึง "ไม่ !"
บุลินยกมือไปตบนํ้าแบบไม่พอใจ
ปรากฏว่าจังหวะมือโดนนํ้า มือซินดี้ที่อยู่ในนํ้าก็ยื่นขึ้นมาจับมือบุลินแล้วดึงตัวขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้าบุลิน
"ฉันคือเงาสะท้อนของคุณ"
" ไม่"
"ยอมรับซะเถอะ เราต่างมีด้านมืดที่เหมือนกัน"
บุลินผลักซินดี้ออกไป แล้วลุกขึ้นหยิบปืนยิงเปรี้ยงๆๆๆ ใส่ซินดี้
ซินดี้หัวเราะ
"คุณทำอะไรฉันไม่ได้หรอก เราคือคนคนเดียวกัน"
" ได้สิ ทุกอย่างจะได้จบซะที"
แล้วบุลินจะยกปืนขึ้นหาตัวเอง
ปากกระบอกปืนลั่นไก... ปัง!
บุลินสะดุ้งเฮือกขึ้นมา เขานั่งพื้น พิงข้างรถอยู่
ตั้งโอ๋เดินเข้ามาเห็นพอดี
" หมวดบุลิน!"
ตั้งโอ๋รีบวิ่งเข้ามาหาบุลิน
"หมวดเป็นอะไร ทำไมมานอนหงายเก๋งอยู่แบบนี้ล่ะ"
ตั้งโอ๋แตะหน้าผากบุลิน ดูเป็นห่วง
" ไม่สบายหรือเปล่า ...."
บุลินเอามือตั้งโอ๋ออกมาจับไว้แล้วพูดขึ้น
" เปล่า ....ซินดี้ ฉันเห็นซินดี้ เขาต้องการให้ฉันไปอยู่กับเขา"
" เลวร้ายขึ้นทุกวัน"
เสียงข้อความเข้าจากมือถือบุลินดังขึ้น เขาหยิบมือถือออกมากดดู เป็นข้อความเสียงจากกานดาที่ค่อนข้างสั่งเครือ
"พี่หมวด ....รีบมา จ่ายอดกับจ่าโอ จากเราไปแล้ว"
บุลินตะลึง พร้อมกับตั้งโอ๋
ภายในโรงพัก
กานดารับซองพลาสติกที่ใส่ปอยผมยาวของผู้หญิง 5-6 เส้นมาดูแล้วหันไปยื่นให้สารวัตรดู
"เราพบเส้นผมผู้หญิงในมือจ่าโอ" กานดาสะอื้น
พูดได้แค่นั้นกานดาก็สะอื้นออกมา....อย่างกลั้นไม่อยู่
สารวัตรตบไหล่ปลอบ
"ทำใจนะหมวด"
กานดาพยายามเข้มแข็ง ตอบด้วยเสียงเครือๆ
"ค่ะ สารวัตร กานดาจะเข้มแข็ง จะไม่ยอมเป็นอะไรทั้งนั้น จนกว่าจะลากคอคนที่ทำกับจ่าโอ จ่ายอด มาลงโทษให้ได้"
ภาพบุลินวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น ตั้งโอ๋กับต้อมตามมา
บุลินเรียก
"สารวัตร กานดา .....จ่ายอด จ่าโอล่ะ"
กานดากับสารวัตรหันไปมอง
"ส่งนิติเวชไปแล้ว"
"ผมไม่นึกว่าจ่ายอด จ่าโอ จะจากไปแบบนี้....เขาเป็นตำรวจที่ดี ทำไม ถึงต้องมาตายอย่างโหดร้ายทรมาน พูดตรงๆไอ้ฆาตกรมันโหดเกินกว่าจะเป็นคน!"
บุลินปักใจคิดว่าเป็นซินดี้แน่
"ครับ ผมมั่นใจว่ามันไม่ใช่คน ไม่ใช่คนจริงๆ"
บุลินผลุนผลันวิ่งออกไป สารวัตรงง
"บุลิน"
ตั้งโอ๋รีบวิ่งตาม บุลินไป
สารวัตรหันมาถามกับกานดา
"เขาพูดอะไร"
กานดารู้แต่ไม่ตอบ ทำหน้างงๆ ใส่แทน
บุลินวิ่งเข้ามาตะโกนเรียกซินดี้
"มาสินางผีร้าย มาเอาชีวิตฉันไปเลย มาเลย"
ตั้งโอ๋ตามขึ้นมา
" หมวด จะบ้าเหรอ"
บุลินยังคลั่งต่อ
"ฆ่าฉันเลย แล้วเลิกยุ่งกับคนบริสุทธิ์ซะที"
บุลินหยิบปืนออกมา ...
"อ๊าย... อย่านะหมวด"
ตั้งโอ๋รีบวิ่งเข้าไปดึงแขนบุลิน กลัวบุลินจะยิงตัวเอง
"ปล่อย"
"จะบ้าหรือไง จะทำร้ายตัวเองทำไม"
"ฉันไม่อยากสูญเสียคนดีๆไปอีกแล้ว ถ้ามันอยากฆ่าฉันนักก็ให้มันฆ่าเลย"
" บ้า!"
ตั้งโอ๋ผลักบุลินสุดแรง จนบุลินกระเด็นออกไป
" นึกว่าทำแบบนี้แล้วมันจะแก้ปัญหาได้เหรอ"
" แล้วเธอนึกเหรอว่าเราจะหาคนร้ายเจอ ซินดี้จะรักษาสัญญา"
" ก็นั่นไง แล้วหมวดนึกว่าถ้าหมวดตายแล้ว พี่ซินดี้จะจบเหรอ"
บุลินอึ้ง
" หมวด กลับมาอยู่บนหนทางที่ถูกต้องเถอะ ...เพราะต่อให้พี่ซินดี้ผิดสัญญา ฆ่าเราทั้งหมด แต่พี่ซินดี้จะไม่มีทางฆ่าความถูกต้องของเราได้"
บุลินสงบลง ตั้งโอ๋เข้ามาใกล้บุลิน
"ฉันรู้ว่าเรากำลังต่อสู้กับอำนาจที่มองไม่เห็น ....แล้วฉันก็กลัวมากด้วย" ตั้งโอ๋จับมือบุลินขึ้นมา "แต่ถ้าเรามีกันและกัน ...ต่อให้หนทางมืดมิดแค่ไหน โลกนี้ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวอีกแล้ว"
บุลินซึ้งใจ บีบมือตั้งโอ๋แน่น มีกําลังใจขึ้น
"ขอบใจ แสงของใจเธอ ...มันสว่างแล้วก็มีค่ามากๆ ขอบใจมากๆ"
ตั้งโอ๋ยิ้ม "เราจะไปด้วยกัน"
แล้วอยู่ๆ ปืนในมือบุลินก็ลอยวืดเข้าไปอยู่ในมือตั้งโอ๋
ตั้งโอ๋ผงะจากบุลิน แล้วยกปืนเล็ง เหมือนบังคับตัวเองไม่ได้
" ตั้งโอ๋"
" ช่วยด้วย ฉันบังคับตัวเองไม่ได้"
บุลินพุ่งเข้าไปยื้อปืนกับตั้งโอ๋ ตั้งโอ๋พยายามจะหันกระบอกปืนใส่บุลิน บุลินดึงมือตั้งโอ๋ขึ้นเหนือศีรษะ
ตั้งโอ๋ลั่นไกยิงเปรี้ยงๆ จนหมดกระสุน
สารวัตร กานดา เงยหน้าขึ้นไปข้างบน ประมาณได้ยินเสียงปืน
เข้มวิ่งเข้ามาพอดี ถามขึ้นหน้าตื่น
"เสียงปืนนี่ครับ เกิดอะไรขึ้น"
กานดาบอกกับสารวัตร "กานดาไปดูเองค่ะ"
กานดาวิ่งออกไป
"อ้าว หมวดจะไปไหน รอผมก่อน"
เข้มรีบวิ่งตาม
บนดาดฟ้า บุลินยืนประคองตั้งโอ๋อยู่ ตะโกนลั่น
" ไม่ต้องยืมมือคนอื่นมาฆ่าฉันหรอก แน่จริงออกมาสิ นางปีศาจ"
มุมหนึ่ง ซินดี้ปรากฏตัวขึ้น ยืนอยู่บนสแตนที่สูงกว่าหรือขอบตึก
"หึหึหึ ...รักกันมากเลยเหรอ"
" ใช่ พี่ยิ่งเลวเท่าไร มันยิ่งทำให้เรารักกันมากขึ้น รู้ไว้ด้วย"
"นังทรยศ"
ซินดี้ฟาดมือออกไปในอากาศ ตั้งโอ๋โดนตบกระเด็น
บุลินจะเข้าไปช่วย ซินดี้สะบัดมืออีก บุลินโดนกระชากแรงเหวี่ยงไปอีกมุม ล้มหงายลงไปจุก
ซินดี้กํามือ ตั้งโอ๋เหมือนโดนบีบคอ ร้องหายใจไม่ออก
กานดาวิ่งเข้ามาที่ดาดฟ้า มองเห็นตกตะลึง
"หยุดนะ"
กานดารีบหยิบปืนออกมา ยิงเปรี้ยงๆ ไปที่ซินดี้
ซินดี้หันขวับไปมองจิก
แล้วกานดาเหมือนโดนต่อยหน้าคะมำ เซกระเด็นไปล้ม เลือดซึมมุมปาก
ซินดี้หายตัวแว่บเข้ามาที่กานดา แล้วบีบคอหมับ
เข้มตามเข้ามาเห็นเข้า รีบวิ่งเข้าไปกระโดดถีบซินดี้
ซินดี้หันมองเข้มขวับ
เข้มเหมือนโดนถีบแรงกว่า กระเด็นถอยหลังไปชนกับกองกระป๋องนํ้าอัดลมกระจาย เข้มจุกตัวงอ
ซินดี้หายตัวแว้บมาตรงหน้าเข้มจะเล่นงาน
บุลินลุกขึ้นจะเข้ามาช่วย ซินดี้สะบัดมือไป
บุลินจุก ล้มตึงลงไปกองอีก
ซินดี้จ้องเข้มดุ เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ
เข้มยังจุกแต่ลนลานจะหนี แต่แบบว่ามันติดฝาแล้วไปไหนไม่ได้ พูดถ่วงเวลาไปมือก็ล้วงกระเป๋าพยายามหาอาวุธ
"โอ้ย... มีอะไรบ้าง อาวุธ มีมั้ย" เข้มล้วงออกมาเป็นทิชชู่ ที่ตัดเล็บ โยนทิ้ง
ซินดี้ค่อยๆ ก้าวเข้ามา
"นี่ อย่า ...อย่าเข้ามา เมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจนะ.... เธอไม่ควรทำร้ายหมวดกานดา หมวดกานดาเป็นแฟนฉันรู้เปล่า"
ซินดี้ไม่สน พุ่งแรงเข้ามาบีบคอ
"อ๊าก"
เป็นจังหวะเดียวกับที่เข้มล้วงไฟฉายแบล๊กไลท์จากกระเป๋าเสื้อออกมา แล้วเปิดขึ้นแบบกลัวยกไว้ชิดหน้า แต่แสงไฟมันสาดไปที่หน้าซินดี้
ซินดี้โดนแสงแบล๊กไลท์แล้ว กรีดร้องเหมือนโดนไฟไหม้ ร้องลั่นแล้วร่างจางหายไปทันที
ทุกคนมองเห็นตะลึงตกใจ นึกไม่ถึง
"เฮ้ย ซินดี้กลัวแสงแบล็กไลท์ด้วยว่ะ" เข้มหันถามคนอื่น
"ทุกคนเห็นเหมือนกันใช่มั้ย !"
ทุกคนอึ้งๆ กันไป
ซินดี้โผเข้ามาที่ศาลา แบบเหมือนคนบาดเจ็บ แล้วทรุดนั่งลงที่มุมหนึ่ง
ทันทีที่นั่ง ใบหน้าที่สวยงามนั้น กลายเป็นหน้าผีเพิ่มมากขึ้นจากเดิม มือไม้ก็พุพอง เป็นแผลนํ้าหนองไหลมากกว่าคราวที่แล้ว ผมก็ร่วงไปกองที่พื้นเองเป็นหย่อมๆ
ซินดี้มองเห็นสภาพร่างกายตัวเอง แล้วกรีดร้องอย่างรับไม่ได้
พระจันทร์เกือบๆครึ่งดวง ลอยผ่านศาลา
ซินดี้เงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์ แล้วพูดออกมาด้วยความมุ่งมั่นแก้แค้น
"อีก 9วัน จะเป็นวันขึ้นสิบห้าคํ่า ...เหลืออีก 9 วันเท่านั้น ฉันต้องฆ่าพวกมันให้หมด!"
บ้านตั้งโอ๋ ทุกคนยืนกุมมือล้อมวงกัน ข้างหน้าจุดเทียนหอมไว้ 1 เล่ม ไว้อาลัยให้ จ่าโอ จ่ายอด
" ผมและเพื่อนๆ ทุกคนขอระลึกถึงจ่ายอดและจ่าโอ ซึ่งเป็นผู้ร่วมงาน ที่ดีที่สุดของเรา" บุลินบอก
"ไม่ว่าจ่ายอดกับจ่าโอจะอยู่ที่ไหน ก็ขอให้รู้ว่า พวกเรารักและตั้งใจ จะรักษาเจตนารมณ์ของการเป็นตำรวจ รักษาความยุติธรรมนำคนผิด มาลงโทษให้ได้" กานดาว่า
" ไม่ว่ามันจะเป็นคนหรือผี!"
ทุกคนลืมตาขึ้นมองบุลินเป็นตาเดียว บุลินหาแคร์ไม่สั่งงานต่อเลย
" ประชุมได้"
เวลาผ่านไปเล็กน้อย
เข้มวางไฟฉายแบล๊กไลท์ลงกลางโต๊ะที่ทุกคนล้อมวงประชุมกันอยู่
"อย่างที่ทุกคนเห็น แสงแบล๊กไลท์ไล่ผีซินดี้ไปได้"
กานดาถาม "บังเอิญหรือเปล่า"
"นั่นสิ แกเก็บไว้ตรวจแบงก์ปลอมเหมือนเดิมเถอะเข้ม" ต้อมว่า
" แต่ตั้งโอ๋เชื่อเข้มนะ หมวดจำครั้งก่อนที่พี่ซินดี้เล่นงานหมวดได้มั้ยล่ะ"
บุลิน นึกไปในอดีต
ท้องฟ้ามีแสงอาทิตย์ทอแสงออกมาในยามเช้า
ซินดี้รู้สึกร้อนหันไปมองข้างนอก เห็นแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามา
มือซินดี้ที่จับเหล็กอยู่ มีควันไฟพวยพุ่งขึ้นมาเหมือนโ ดนไหม้ ซินดี้มือสั่นริกๆ
ซินดี้ตกใจรู้สึกร้อนมากขึ้นจนลำแขนมีรอยไหม้ดำๆขึ้นพรึ่บๆ ซินดี้รู้แล้วว่าโดนแสงแดดไม่ได้
ซินดี้กรีดร้องลั่น แล้วกระโจนร่างหายลงไปในนํ้า ตูม !
บุลินพูดขึ้น
"แสงอาทิตย์!! ซินดี้แพ้แสงอาทิตย์"
"อะไรนะหมวด"
" ในแสงอาทิตย์มีรังสียูวีเหมือนที่มีในแบล็กไลท์ ทำให้เกิดอาการเหมือนกัน"
" เห็นมั้ยในที่สุดเราก็รู้จุดอ่อนของพี่ซินดี้ เรามีหวังแล้ว!"
"ดีมาก เดี๋ยวฉันจะซื้อมาเปิดทุกจุดในบ้าน เปิดมันทั้งวันไปเลย" ต้อมบอก
เข้มว่า "ไม่ต้องเว่อพี่ต้อม พกติดตัวไว้เวลากลางคืนก็พอ"
"แต่ถึงยังไงเราก็ทิ้งประเด็นฆาตกรที่เป็นคนไม่ได้ ผู้ร้ายตัวจริง มันยังคงลอยนวลอยู่ แล้วอาจจะใช้สถานการณ์นี้อำพรางคดี" กานดาว่า
" ฉันเห็นด้วย แต่ฉันต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อน"
"เรื่องอะไรอีกพี่หมวด"
" ฉันอยากให้ตั้งโอ๋กับพี่ต้อมย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัยจนกว่าเราจะทำคดีเสร็จ"
" ไม่นะหมวด ฉันจะอยู่ที่นี่"
" ตั้งโอ๋ฉันไม่อยากห่วงหน้าห่วงหลัง"
"ฉันไม่ใช่ภาระของใครนะ"
ตั้งโอ๋ลุกเดินหนีออกไปอย่างแสนงอน
บุลินลุกตามไป
" ตั้งโอ๋"
เข้ม ต้อม กานดามองตาม เข้มแซวตามหลัง
"งอนแล้วไง ผู้หญิง" เข้มหันไปเจอ กานดาจ้องหน้าพอดี รีบแก้ตัว
"เป็นเพศที่น่าเคารพครับ" เข้มยกมือไหว้หนึ่งที
โอ๋เดินออกมา บุลินตามเข้ามาหา
"ตั้งโอ๋"
ตั้งโอ๋หันไปต่อว่า
" หมวดเป็นไร เอะอะก็ไล่ ทำไมถึงชอบบังคับฉันนัก ฉันไม่ใช่ลูกน้องหมวดนะ"
" ก็ถูกเธอไม่ใช่ลูกน้อง แต่เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตฉันตอนนี้"
ตั้งโอ๋อึ้งๆ "หมวด"
" ฉันไม่เหลือใครแล้วนะ นอกจากเธอ..."
บุลินดึงตั้งโอ๋เข้ามากอด
" ตั้งโอ๋ ฉันคงอยู่ไม่ได้แน่ๆ ถ้าเธอเป็นอะไรไปอีกคน..ถือว่าฉันขอร้องก็แล้วกันนะ"
ตั้งโอ๋อึ้ง ใจอ่อนลง
เข้มกับต้อมถือกระเป๋าเดินทางมาที่รถ บุลินกับตั้งโอ๋กําลังจัดของใส่ท้ายรถตั้งโอ๋กันอยู่
"โอ้ย นี่ไปชั่วคราวหรือย้ายบ้าน" เข้มถาม
"อย่าบ่น รีบๆ ยกไป"
" หมดแล้วนะพี่ต้อม"
"จ้ะ ...อะ รีบๆออกเถอะ กว่าจะถึงบ้านยายสาที่เชียงใหม่จะได้ไม่ดึกมาก"
เดินทางปลอดภัย ฝากตั้งโอ๋ด้วยนะครับ"
ฉันรู้น่า" ต้อมยกมือเหมือนกระซิบกับบุลิน "รับรองฉันไม่ปล่อยให้มันหลุดมาก่อเรื่องทางนี้อีกแน่นอน"
"ได้ยินนะ อ่อ อย่างนี้เอง ส่งพี่ต้อมไปคุมฉันนี่เองเหรอ"
"เคลียร์กันเองนะ พี่ไม่เกี่ยว"
ต้อมเดินไปขึ้นรถข้างคนขับ เข้มตามเอากระเป๋าใบเล็กไปส่งให้
บุลินหันมาจับมือตั้งโอ๋
"ขอบใจที่เชื่อใจฉัน"
"เอาใจช่วยนะหมวด ฉันจะรอฟังข่าวดี"
ตั้งโอ๋เขย่งเท้าหอมแก้มบุลิน แล้วเดินไปขึ้นรถขับออกไป
บุลินกับเข้มยืนส่งรถตั้งโอ๋ที่เคลื่อนออกไป
เข้มหันมาหาบุลิน
"หมวดจะไปไหนต่อครับ"
เข้มถาม
บุลินเดินเข้ามาในโรงพยาบาล เห็นกานดากําลังสอบปากคำแพรวาอยู่
"คุณแพรวาคิดว่าอะไรเป็นสาเหตุให้คุณภาวัชฆ่าตัวตายหรือคะ"
" ก็เรื่อง...ความพิการของเขานั่นแหละค่ะ คนเคยเดินไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง กลับต้องมานั่งรถเข็น เขาคง...ทำใจไม่ได้"
บุลินเข้ามาพอดี
"คุณภาวัชฟื้นหรือยัง"
"ยังเลยค่ะ....หมอบอกว่าอาการสาหัสมาก"
แพรวานํ้าตาซึมออกมาอีก
" ฉันไม่น่าปล่อยเขาไว้คนเดียวเลย"
" ทำใจดีๆ ก่อนนะครับ"
" ฉันเสียใจ ฉันดูแลเขาไม่ดีเอง ..." แพรวาสุดกลั้นนํ้าตานองจนพูดต่อไม่ได้ "
ขอโทษนะคะ"
แพรวารีบเดินหนีออกไป
บุลินกับกานดามองหน้ากันแบบจับตามองต่อไป
แพรวาเดินเข้าประตูห้องนํ้ามาแบบนํ้าตานอง แล้วหยุดยืนนิ่งหน้ากระจกมองสบตาเงาตัวเอง
ในกระจก ยิ้มกระหยิ่มมุมปากขึ้นมาพึงพอใจต่อการแสดงของตัวเอง
โกกิเปิดประตูห้องนํ้าตามเข้ามา ปิดประตูล๊อก มองแพรวาชื่นชม
" ตีบทแตก ...ขั้นเทพเลยค่ะคุณแพรวา"
โกกิเข้าไปยื่นทิชชู่จากกระเป๋าให้แพรวาซับนํ้าตา
แพรวาซับนํ้าตาแล้วเหลือบตามองโกกิจากกระจก แล้วถามขึ้น
" งานไปถึงไหนแล้ว"
ที่บ้านเภา เขาเดินมาที่โต๊ะสนทนาที่แพรวากับโกกินั่งอยู่แล้ว
"ผมกําลังใช้การเป็นสายตำรวจให้เป็นประโยชน์ ตีซี้กับหมวดบุลินแล้วก็นังตั้งโอ๋"
" ตีซี้หมวดบุลิน โกกิพอเข้าใจได้ แต่ตีซี้นังตั้งโอ๋เนี้ย เพื่อ?"
"อย่ามาหึงไม่เข้าเรื่องหน่อยเลยน่า"
" หึงอะไร โกกิกลัวว่างานเราจะพังเพราะความหม้อของพี่น่ะสิ"
"จะมากไปแล้ว" เภาจะตบโกกิ
"มันใช่เวลาทะเลาะกันมั้ย"
"ก็ดูโกกิมันพูดสิครับ หาเรื่องชัดๆ"
" ก็มันจริงมั้ยล่ะ จุ๊กจิ๊กกันเหลือเกินนี่กับนังตั้งโอ๋น่ะ มิน่าคราวที่โรงเรียนร้าง ถึงได้ปล่อยให้มันรอดไปได้"
"ฉันไม่ได้ปล่อย มันเหตุสุดวิสัยจริงๆ"
" พอ ไม่ต้องเถียงกันแล้ว ....รู้ๆอยู่ว่าหมวดบุลินกับนังตั้งโอ๋มันตัวป่วน ถ้าไม่มีสองคนนี้ก็ไม่มีใครขุดคุ้ยเรื่องของเรา"
" แล้วผีนังซินดี้" โกกิว่า
แพรวาถาม "ผีกับคุก เลือกอะไรล่ะ"
โกกินิ่งอึ้ง
แพรวาหันไปหาเภ
"ฉันจะให้นายแก้มืออีกครั้ง รีบฆ่าพวกมันซะ"
"ครับคุณแพรวา คราวนี้ไม่มีคำว่าพลาดอีก"
เภาหน้าเข้ม
บุลินเดินเข้ามาในโรงเรียนพร้อมพูดมือถือไปด้วย
"ฉันแน่ใจว่าคนร้ายที่ทำร้ายฉันกับตั้งโอ๋ ต้องเกี่ยวข้องกับคดีซินดี้แน่นอน ...ใช่...ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงเรียนร้าง มาดูอะไรเพิ่มเติมนิดหน่อย รีบตามตัวมดแดงให้เจอด้วย" บุลินสั่ง
เงาอะไรวูบวาบผ่านข้างหน้าบุลิน
"แค่นี้ก่อน"
บุลินวางสายแล้วรีบวิ่งไป
บุลินวิ่งเข้าไปดู
เห็นเป็นเพียงเงาต้นไม้ข้างนอกที่ลมพัด บุลินคลายเครียดลง แล้วหันกลับมา
จะเดินออกแต่สะดุดตาที่ท่อนไม้ที่วางหล่นอยู่กับพื้น
บุลินนึกไปถึงตอนที่โดนตีศีรษะ
บุลินโดนเภาตีศีรษะล้มลงไป
บุลินสวมถุงมือแล้วก้มลงไปหยิบไม้ขึ้นมาดู
ที่โรงพัก บุลินยื่นไม้ที่เก็บมาจากโรงเรียนร้าง ส่งให้ตำรวจ1
"ช่วยตรวจให้ด้วย มีดีเอ็นเอของคนร้ายอยู่หรือเปล่า ขอด่วนเลยนะ"
" ครับ" ตำรวจ 1 รับคำ
สารวัตรเดินเข้ามาพอดี
"บุลิน"
"ครับสารวัตร"
ตำรวจทั้งสองนายยืนมองไปบนท้องฟ้าคุยกันอยู่
สารวัตรบอก "ไม่ว่าจะดีหรือเลว ท้องฟ้าก็ยังเป็นสีฟ้าอยู่เสมอนะ"
" ครับ สารวัตร"
"ผมรู้ดีว่าคุณรู้สึกยังไง แต่ไม่ว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายแค่ไหน ทุกอย่างต้องผ่านไป"
"ผมทราบดีครับ ผมเชื่อว่าจ่าโอ จ่ายอด คงอยากเห็นผมสานต่อคดีที่ทำค้างเอาไว้
ให้สำเร็จมากกว่านั่งจมอยู่กับความเศร้า"
"ถูกต้อง คุณคิดได้แบบนี้ก็ดี ....ผมค่อยเบาใจหน่อย" สารวัตรถอนใจนิดนึง "แต่ผมก็
ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมปีนี้ โรงพักของเราถึงได้สูญเสียบุคลากรไปมากมายเหลือเกิน"
" สารวัตรหมายถึง...."
"ก็ทีมเอ ที่ทำคดีซินดี้ก่อนที่คุณจะมารื้อคดีนั่นไง ...ทุกคนในทีมตายเรียบจากอุบัติเหตุรถชน เหลือใครนะที่เป็นสายสืบน่ะอยู่คนเดียว"
" หมาป่า เอ่อ นายเภาที่ย้ายมาช่วยสืบคดีต่อครับ"
"เออนั่นแหละ ....นี่ผมกําลังให้ชุดพิเศษเขาสอบเรื่องผลคดีซินดี้ที่ทีมเอทำไว้อยู่ ...คิดว่าอีกไม่นานคงรู้เรื่องแล้ว"
" ดีครับ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมทีมเอถึงได้วินิจฉัยคดีได้หละหลวม ผิดพลาดได้ขนาดนั้น"
บุลินมองออกไปสงสัย
ต่อมา ... บุลินเดินมาขึ้นรถตัวเองแล้วขับออกไปเหมือนปกติ
รถที่ลื่อนตัวออกไป นํ้ามันเบรกรั่ว ไหลออกมาจากล้อข้างขวา
รถบุลินแล่นมาตามทาง ... นํ้ามันเบรกหยดตามทางเป็นระยะ
ภายในรถ บุลินแตะเบรกแล้วรู้สึกแปลกๆ เบรกไม่อยู่
รถมอเตอไซค์1 แซงขึ้นหน้ามาปาดให้บุลินเสียหลัก
บุลินหักรถเข้าข้างทาง บังคับพวงมาลัยไม่ให้ตกไหล่ทางได้ทัน แล้วดึงเบรกมือ
รถจอดสงบนิ่ง บุลินถอดหายใจเฮือก
บริเวณซอกตึกแห่งหนึ่ง เภาต่อยหน้ามอเตอร์ไซค์1 กระเด็น
"ห่วย ทำงานไงวะ แค่นี้ก็พลาด"
"เต็มที่แล้วพี่ ...ให้ผมไปยิงมันเลยมั้ย"
"ไอ้เซ่อ มึงอยากให้ตำรวจมาตามล่าตัวมึงเหรอ ให้มันตายเนียนๆ เหมือนตำรวจชุดที่แล้วสิโว้ย"
"แล้วพี่เอาไง"
"มึงอยู่เฉยๆ เหอะ กูจะไปดูท่าทีมันก่อนแล้วค่อยลงมืออีกที"
เภามองออกไป คิดวางแผน
บุลินนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้ามาที่หน้าบ้าน กําลังจะเข้าบ้านแล้ว เห็นเภาขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามา
บุลินหันไปมอง
"ได้ข่าวว่าเกิดอุบัติเหตุหรือครับ"
เภาถาม บุลินยังไม่ทันตอบอะไร
มุมเครื่องดื่มในบ้าน บุลินหยิบขวดนํ้าส้มออกมาจากตู้เย็นแล้วเทใส่แก้วสองใบ คุยไปด้วย
" ท่อนํ้ามันเบรกมันรั่วน่ะครับ ...เบรกไม่อยู่ พอมีมอเตอร์ไซค์มาปาดหน้า ก็เกือบลาโลกไปแล้วล่ะฮะ"
บุลินเอาแก้วนํ้าส้มมายื่นให้เภาที่นั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์พอดี
"หมวดดวงแข็งนะ" เภาชูแก้วนํ้าส้มขึ้นชู... "สาธุ"
แล้วเภาดื่มนํ้าส้มอักๆ ประมาณครึ่งแก้ว
"คุณคิดว่าจะมีใครวางยาผมมั้ย"
เภาอึ้งไปจังหวะหนึ่ง แล้วค่อยตอบขึ้นเนียนๆ หน้าตาย
"หมวดสงสัยใครล่ะครับ"
" ผลพิสูจน์หลักฐานยังไม่ออก ก็ยังไม่แน่ใจนะว่ามันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ หรือว่ามีคนต้องการชีวิตผม...."
"ระวังตัวไว้บ้างก็ดีครับ คดีที่หมวดกําลังสืบอยู่นี้ มันไม่ธรรมดาจริงๆ"
" มีข่าวอะไรบ้าง"
"ก็อย่างที่ทราบนะครับ คุณภาวัชเข้าโรงพยาบาลยังไม่ฟื้น คุณแพรวาเจอมรสุมอย่างหนักก็เลยสั่งปิดโรงละครหนึ่งอาทิตย์ วันนี้ผมถึงออกมาหาคุณได้"
"มีอะไรอีกมั้ย"
"อืม ผมก็ยังไม่แน่ใจนะ แต่หลังจากที่คุณภาวัชเข้าโรงพยาบาล ทิพย์เลขาฯของคุณแพรวาก็หายตัวไปเลย"
เภาตอบบุลิน
บุลินเดินออกมาส่งเภาที่หน้าบ้าน
" ขอบคุณมากที่มาส่งข่าว อย่าลืมจัดการตามที่เราคุยกันด้วย"
"ครับ ผมจะรีบตามข่าวทิพย์มาให้ได้"
เภาหันจะไปแล้วนึกได้หันกลับมาหาบุลินอีกที
"อ่อ ผมขอแสดงความเสียใจด้วยกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาด้วย....ทั้งเรื่องคุณแม่ชี จ่าโอ จ่ายอด....มันคงเป็นอะไรที่หนักมากสำหรับหมวด"
" ครับ เป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ ทั้งคนที่ผมเคารพรัก แล้วก็ผู้ร่วมงานที่ดีที่สุด ถึง 2 คน..." บุลินหันถามเภา "คุณเองก็เพิ่งผ่านเหตุการณ์สูญเสียแบบนี้มาเหมือนกัน ใช่มั้ย"
เภางง แบบอะไรเหรอ "ฮ่ะ"
" ก็เรื่องที่ทีมเก่าที่คุณทำงานให้เกิดอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตยกชุดน่ะครับ"
"อ่อ ครับ ...ใช่ ...ก่อนที่หมวดจะกลับมารื้อคดีซินดี้ไม่นานนี้เอง น่าเสียดายนะครับ นายตำรวจมือดีทั้งนั้น"
" ทุกคนไปกันหมด แล้วทำไมคุณถึงไม่ได้ไปกับทีมล่ะ"
"พอดีผม...เป็นภูมิแพ้ ....แพ้เกสรดอกไม้อย่างหนัก แบบโดนละอองเข้าไปหน่อย ก็ไข้ขึ้นไม่ได้สติเลยอ่ะครับก็เลยไม่ได้ไปกับเขา"
บุลินรู้สึกแปร่งๆหูเพราะรู้ว่า ในนํ้าส้มที่กินมีส่วนผสมของนํ้าผึ้งอยู่ แต่ทำยิ้มเนียนๆ ไป
" เหรอครับ"
"สู้ต่อไปครับหมวด โชคดีครับ"
เภาเดินออกไปขึ้นรถขับออกไป
บุลินมองลับตาแล้วรีบหันเดินเข้าบ้านไป
บุลินรีบเดินเข้ามาเปิดตู้เย็นหยิบขวดนํ้าส้มออกมาดูที่ฉลาก
ที่ฉลากบอกส่วนผสมมีเขียนว่า นํ้าผึ้ง 5% อยู่ด้วย
บุลินอึ้ง แล้วเสียงความคิดของบุลินดังขึ้น
" นํ้าผึ้งมาจากนํ้าหวานของเกสรดอกไม้ ... ถ้าคนที่เป็นภูมิแพ้กินเข้าไป ก็น่าจะมีอาการบ้างนะ หรือว่า ...นายเภาไม่ได้แพ้เกสรดอกไม้จริงๆ"
บุลินรู้สึกแล้วว่าเภาต้องโกหกแล้วล่ะ หันไปหยิบถุงมือจากเคาน์เตอร์ที่วางไว้ขึ้นมาใส่ข้างเดียว แล้วเข้าไปหยิบแก้วนํ้าส้มที่เภากินยกดูขึ้น ...
เขาคิดสงสัย
ตอนโพล้เพล้ ....
ตั้งโอ๋ขับรถมาตามทาง ต้อมนั่งมาข้างๆ ท่าทางงงๆ กัน
ในรถ ตั้งโอ๋หันมาบ่นกับต้อม
" โอ้ย... นี่หลงมาที่ไหนอีกเนี่ย วันนี้หลงทางทั้งวันแล้วนะ"
"นั่นสิ จอดก่อนมั้ย พี่จะเป็นลม"
ตั้งโอ๋เข้าจอดรถอีกฝั่งของบ้านซินดี้ แล้วเปิดประตูรถลงไปกัน
" ประสาทจะกิน .... พี่ต้อม นี่มันเกิดอะไรขึ้น จะไปเชียงใหม่ แล้วทำไมมันถึงวนกลับไปกลับมา แล้วมาโผล่พัทยาเหมือนเดิมอย่างนี้ล่ะ"
ต้อมมองไปที่บ้านซินดี้แล้วงง กวักมือเรียกตั้งโอ๋ให้ดู
"หญิงเล็ก เธอดูนี่สิ" ต้อมชี้ไปที่บ้านซินดี้
"อะไรคะพี่หญิงใหญ่ ... เอ๊ะ คุ้นๆ นะ บ้านใครเหรอ"
"ก็บ้านหม่อมแม่ไงล่ะ นี่เราหลงทางมาถึงบ้านหม่อมแม่ได้ไง"
" จริงด้วย ตั้งโอ๋จำได้แล้ว.....นี่มันบ้านหม่อมแม่จริงๆ ด้วย แต่พี่ต้อมเคยบอกว่า บ้านหม่อมแม่ไฟไหม้ไปแล้วไม่ใช่เหรอ"
"เออ ฉันได้ยินข่าวมาอย่างนั้น แต่นี่บ้านยังเหมือนเดิมเลยนี่"
" งั้นตั้งโอ๋ ลองกดออดดูนะเผื่อเราจะได้ข่าวหม่อมแม่"
ตั้งโอ๋เดินไปกดออด แล้วเห็นว่ามีคนเดินออกมาจากบ้านมาเปิดประตู
ตั้งโอ๋กับต้อมมองลุ้นว่าใครจะเดินออกมา
ประตูเปิดออก เห็นว่าเป็นชายในลุ๊คเกย์ยืนอยู่
"มาหาใครครับ"
"คือแบบ ตั้งโอ๋อยากรู้ว่าที่นี่เป็นบ้านของ...."
ศิวัชยิ้มๆ "หญิงเล็ก....หญิงใหญ่ ใช่มั้ย"
ต้อมชี้ไปที่ศิวัช "หม่อมแม่! แอร๊ย ! "
ทั้งสามกรี๊ดดีใจกัน กระโดดเข้าไปกอดกัน
"หม่อมแม่ ดีใจจังเลยอ่ะ"
"อ๊าย ... หม่อมแม่จริงๆ ด้วย"
หม่อมแม่พาตั้งโอ๋กับต้อมเข้ามาในบ้าน ....
"ฉันไม่นึกเลยว่าจะได้เจอเธออีก ...นี่บ้านยังเหมือนเดิมเลยนะ"
ศิวัชนั่งลงที่โซฟาแล้วหันมาตอบ
" อืมม ก็อยากรักษาไว้ให้นานที่สุด ...เพราะบ้านที่มีความรักความเข้าใจ เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตฉัน"
ต้อมมองหน้ากับตั้งโอ๋ สะดุดใจแล้วเลยถามขึ้น
"ที่เธอพูดแบบนี้ แปลว่าเธอปรับความเข้าใจกับคุณพ่อคุณแม่ได้แล้วใช่มั้ย"
" งั้นสิต้อม จริงๆ แล้วก็ดีเหมือนกันนะ ที่หนีออกจากบ้านไปตอนนั้นทำให้ฉันรู้ว่าพ่อแม่รักฉันแค่ไหน....ท่านไปตามหาฉันจนเจอ แล้วส่งฉันไปเรียนต่อที่อเมริกา ก็เรียนไปทำงานไปด้วย พอเรียนจบก็เปิดร้านอาหารไทยอยู่ที่โน่นหลายปีแล้วล่ะ"
"โฮ ตอนนี้ก็สบายแล้วสิ"
" อือ ก็แฮปปี้มาก งาน เงิน ที่สำคัญครอบครัว พ่อแม่ท่านเข้าใจและยอมรับในสิ่งที่ฉันเป็น...มันเป็นอะไรที่ฉันมีความสุขที่สุดแล้วล่ะ"
" ตั้งโอ๋ดีใจด้วยนะคะ แล้วนี่พี่กลับมาเที่ยวเหรอคะ"
" ก็มาเยี่ยมพ่อกับแม่น่ะ แล้วก็จะมาตามเรื่องร้านอาหารที่พี่อยากจะเปิดใหม่ที่พัทยา นี่แหละ"
"เหรอคะ ร้านอะไรอ่ะ"
" เดี๋ยวนะ" ศิวัชหันไปหยิบอัลบั้มรูปออกมาจากโต๊ะให้ตั้งโอ๋กับต้อมดู "นี่จ้า ...ร้านนี้ พี่บินมาดูรอบนึงแล้วเมื่อ 3-4 เดือนก่อน"
ตั้งโอ๋รีบอัลบั้มไปดู เปิดดูภาพรูปร้านภายนอก ภายใน ไปเรื่อยๆ
ตั้งโอ๋ดูรูปไป
"เริ่ดอยู่นะ ....เก๋ ดีงามมาก"
"ทำเลร้านก็เกิดนะเธอ"
แล้วตั้งโอ๋เปิดมาถึงหน้าที่มีรูปถ่ายซินดี้นั่งอยู่ในร้านคนเดียว
ตั้งโอ๋มองตะลึง
" พี่ซินดี้" ตั้งโอ๋เงยถามหม่อมแม่ตื่นเต้น "พี่รู้จักพี่ซินดี้ด้วยเหรอ"
" อ่อ ซินดี้อ่ะเหรอ ก็รู้จักนะแต่ไม่สนิทน่ะ เขาเป็นแฟนกับนักดนตรีในร้านนี้แหละ"
ตั้งโอ๋ตาโต ตะลึง
"อะไรนะ พี่พูดจริงเหรอ แฟนพี่ซินดี้ชื่ออะไร หน้าตาแบบไหน พี่มีรูปไหม"
หม่อมแม่หัวเราะๆ
"ไม่มีหรอกจ้า ชื่ออะไรพี่ก็จำไม่ได้ด้วยสิ"
" โอเค แค่นี้ก็ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง"
ตั้งโอ๋รีบลุกขึ้นวิ่งออกไปเลย ต้อมรีบลุกวิ่งตาม
"เดี๋ยวๆ แม่คุณจะไปไหน"
ตั้งโอ๋วิ่งออกมาแล้วโบกเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขับผ่านมาพอดี
ต้อมกับศิวัชตามออกมา
"ตั้งโอ๋ นี่ หยุดก่อน"
ตั้งโอ๋ล้วงกุญแจแล้วยัดใส่มือต้อม
"พี่ต้อมกลับบ้านไปก่อนนะ ตั้งโอ๋ขอไปหาข้อมูลแพร๊บ....รับรองกลับมาทันไปเชียงใหม่พรุ่งนี้เช้า"
ตั้งโอ๋โดดขึ้นมอเตอร์ไซค์ออกตัวไป ต้อมมองตามไปขัดใจ
"เด็กบ้า อย่างนี้อีกแล้ว นี่แล้วเดี๋ยวหมวดบุลินได้มาถอนหงอกฉันแน่"
หม่อมแม่แอบเหล่ต้อมนิดนึง ยิ้มๆ เดาไม่ถูกอารมณ์ไหน เพื่อนก็ไม่ใช่ เย้ยก็ไม่เชิง
บรรยากาศในผับ ที่มีคนกินดื่มกันอยู่พอประมาณ
ตั้งโอ๋เปิดประตูเข้ามาในร้าน มองหาไปรอบๆ แล้วตรงไปหาพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งหมายจะถาม
"สวัสดีค่ะน้อง น้องพอจะรู้จักนักดนตรี...."
เภาเข้าเฟรมมาทางด้านหลังของตั้งโอ๋ ...
"ตั้งโอ๋"
ตั้งโอ๋หันไปมองเภาที่แต่งตัวเป็นผู้ชายปกติ
"พี่กะเพรา ...เอ๊ยไม่ใช่ .."
เภารีบดึงแขนตั้งโอ๋ไปอีกทางหนึ่ง
"มาทางนี้ดีกว่า"
เภาดึงตั้งโอ๋เข้ามามุมหนึ่งที่ปลอดคนในผับ
"ตั้งโอ๋มาทำอะไรที่นี่ ...มีนัดเหรอ"
" เปล่าค่ะ คือพอดีตั้งโอ๋ได้ข้อมูลเด็ดมาว่า แฟนของพี่ซินดี้เป็นนักดนตรีอยู่ที่นี่ค่ะ"
เภาอึ้งไปหนึ่งจังหวะ แล้วทำเนียนตื่นเต้นไปด้วย
"จริงดิ"
ตั้งโอ๋เหลียวมองชะเง้อดู
"พี่เภาเห็นมั้ยคะ นักดนตรีขึ้นเล่นหรือยัง"
"วันนี้ไม่มีวงเล่นหรอก"
" พี่เภามาเที่ยวที่นี่บ่อยเหรอ"
"เปล่าหรอกครับ คือพูดจริงๆนะ คุณตั้งโอ๋กับผมใจตรงกันจริงๆ ผมก็มาสืบเรื่องซินดี้ที่นี่เหมือนกัน"
" งั้นหรือคะ แล้วพี่รู้หรือยังว่านักดนตรีคนไหนเป็นแฟนพี่ซินดี้"
"รู้แล้วครับ"
" เยส ใครอ่ะ พาตั้งโอ๋ไปดูหน้าหน่อยได้มั้ย"
"เขาลาออกไปแล้ว"
" อ้าว ...แล้วพอจะมีรูป ที่อยู่อะไรมั้ย เราจะได้ไปตามถูก"
"ก็....อยู่ที่บ้าน พี่ไม่ได้พกรูปนายคนนั้นมาด้วยสิ"
" โธ่ น่าเสียดาย ...เอาไงดี ตั้งโอ๋ไม่มีเวลามากด้วยสิ พรุ่งนี้ก็ต้องไปเชียงใหม่ งั้นเดี๋ยวตั้งโอ๋ขอแวะไปดูรูปที่บ้านพี่เลยได้มั้ยคะ"
"ด้วยความยินดีครับ พี่ยังมีหลักฐานเด็ดๆ ให้คุณตั้งโอ๋ดูอีกเพียบ"
" เยี่ยมเลย งั้นเรารีบไปกันเถอะค่ะ"
ตั้งโอ๋หันเดินออกไป
เภามองตามยิ้มกริ่มที่ตั้งโอ๋ตกหลุมพราง แล้วลุกเดินตามไป
ต่อมา .... เภาพาตั้งโอ๋เข้ามาในบ้าน
"เชิญครับ ...ตามสบายนะ จะดื่มอะไร ชา กาแฟ ไวน์"
"ไม่เป็นไรค่ะ อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะ แบบ...มาดูรูปกันเลยดีกว่า อยู่ไหนคะ"
"วัยรุ่นใจร้อนจริง ....รูปมันไม่หนีไปไหนหรอกน่า ให้พี่เป็นเจ้าบ้านที่ดีสักนิดนะ"
เภาเดินออกไปเลย ตั้งโอ๋เรียกตามแต่ไม่เป็นผล
" พี่เภา ...ไม่ต้องหรอก แล้วกัน"
มุมเครื่องดื่ม เภาหยิบผงกาแฟมาใส่เครื่องต้มกาแฟ ...เสียงมือถือเภาดังขึ้น เป็นเบอร์โกกิขึ้นมาเฟซไทม์
เภาแอบทำหน้าเซ็งเล็กน้อยแล้วกดรับสาย
"มีไร"
มุมหนึ่งสถานบันเทิง ที่กรุงเทพฯ ตอน กลางคืน
โกกิแต่งตัวสวยงามพูดมือถือกับเภา
" ก็อยากรู้ว่าตอนนี้โกกิมาโชว์ตัวที่กรุงเทพ พี่เอาใครมากกหรือเปล่า"
"ว่างเหรอ"
"เปล๊า ...ถามแค่นี้ ทำไมต้องโกรธด้วย"
เภาทำเป็นหมุนกล้องโชว์บริเวณรอบๆ
"อะ ดู มีใครที่ไหน พอใจยัง"
ทางด้านตั้งโอ๋ชะเง้อมองเห็นเภา... ไม่มาเสียที เลยลุกขึ้นเดินเล่นดูไปดูเรื่อยๆ
ตั้งโอ๋เดินดูนั่นดูนี่ด้วยความตื่นตาตื่นใจ
" บ้านสวยอ่ะ"
แล้วตั้งโอ๋เห็นบันไดลงไปข้างล่าง .... ตั้งโอ๋เลยเดินลงบันไดไป
ตั้งโอ๋เดินเข้ามาตรงมุมโหลสัตว์ดอง ตั้งโอ๋เห็นแล้วตกใจ
" ว้าย ตกใจหมดเลยอ่ะ....นี่พี่เขาสะสมของอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ น่ากลัวจัง"
ตั้งโอ๋ เข้าไปดูใกล้ๆ มองไล่ไปตามโหลต่างๆ
ซินดี้หน้าผี โผล่พรึ่บขึ้นมาตรงช่องระหว่างโหล หน้าใกล้มองจิก
ตั้งโอ๋ร้องผงะตกใจ กระโดดถอยหลังจนไปชนกับโอ่งเพ้นท์ลายกะโหลก จนโอ่งล้มลงไปกระทบกับพื้น -โอ่งแตก ...ส่วนศีรษะและคอของมดแดงทะลักออกมาจากโอ่งพร้อมนํ้าดองศพ
ที่ศีรษะโดนถลก หนังหัว
ตั้งโอ๋หันมามอง แล้วตะลึงร้องกรี๊ดออกมา
แล้วตั้งโอ๋ก็มองเห็นศพมดแดง แล้วก็มองเห็นตัวหนังสือผุดขึ้นมาจากหยดที่นองพื้น เขียนว่า ” Pass 1234”
ตั้งโอ๋มองเห็นจะกรี๊ดอีก แต่นึกได้ รีบปิดปากตัวเองไม่ให้มีเสียง แล้วรีบถอยหลังจะวิ่งหนีขึ้นบันได
แต่ปรากฏว่าเภาเดินลงบันไดมาขวางข้างหน้า ตั้งโอ๋ตะลึงสุดๆ
"น้องไม่น่า...มาซนแถวนี้เลยนะ"
ตั้งโอ๋ถอยหลังไป
"รู้มั้ยว่าทำไมนังมดแดงมันถึงตาย ก็เพราะมันชอบสาระแนเรื่องชาวบ้านเหมือนน้องไง"
เภาเข้ามาจะจับตัว ตั้งโอ๋หลบ แล้วหยิบของแต่งบ้านที่วางไว้โชว์ขึ้นมาทุบหัวเภา
เภาเสียหลัก เซไปมุมหนึ่ง
ตั้งโอ๋รีบวิ่งหนีสุดชีวิต ตั้งโอ๋วิ่งหน้าตั้งหนีขึ้นบันไดไป
เภาตั้งตัวขึ้นมาได้รีบวิ่งตามตั้งโอ๋ไป
ตั้งโอ๋วิ่งออกมากําลังจะออกประตู
เภาวิ่งตามมาได้ทัน กระชากไหล่ตั้งโอ๋ไปแล้วตบควํ่า
ตั้งโอ๋กระเด็นไปล้มลงกับพื้น
เภาตามเข้ามากระชากผมตั้งโอ๋ขึ้น
"กล้าตีหัวกูเหรอ เดี๋ยวกูจะลากมึงไปตัดกะโหลกแล้วดองใส่โหล เป็นเพื่อนอีมดแดงซะอีกคน"
เภาลากตัวตั้งโอ๋ไป
ตั้งโอ๋ขืนตัวไว้สุดชีวิต ทั้งข่วนแขนแล้วกระชากเสื้อเภาจนขาดติดมือออกมา
"ไม่!"
"โอ้ย"
ตั้งโอ๋มองเห็นรอยสักรูปผีเสื้อที่บั้นเอวของเภา
ภาพรอยสักผีเสื้อที่บั้นเอวซินดี้ผ่านเข้ามา
ตั้งโอ๋ชี้หน้าเภามือสั่น
" แก แกนี่เองแฟนพี่ซินดี้"
"หึหึ ใช่แล้วจ๊ะที่รัก ....กูนี่แหละ อดีตผัวนังซินดี้"
" แกหลอกฉัน ไอ้เลว"
"ฮ่าฮ่าฮ่า น้อยไปว่ะ กูอ่ะชั่วโคตร แต่มึงอ่ะโชคดีรอดตายมาได้ทุกครั้ง"
" อะไรนะ"
"จำได้มั้ยครับที่รัก ที่ฉากหล่นทับมึงอ่ะ"
ฉากจะล้มมาทับตั้งโอ๋ แล้วกะเพรามาช่วยไว้
"กูเนี่ยแหละที่เป็นคนตัดสายสลิงให้ฉากมันล้มลงมา"
" งั้นเรื่องที่โรงเรียนร้าง ก็เป็นฝีมือแกด้วยใช่มั้ย"
เภาหัวเราะๆ แบบยอมรับอยู่ในทีว่าใช่กูนี่แหละ
อดีตที่โรงเรียนร้าง เภาตีศีรษะบุลิน , เภาโปะยาสลบตั้งโอ๋
เภาพูดขึ้น
"รู้แล้วมันคงทำให้แกตายได้อย่างสงบสินะ ...หึหึหึ"
เภาหัวเราะอย่างน่ากลัว แล้วหยิบมีดออกมาชูขึ้น แล้วย่างสามขุมเข้าไปหาตั้งโอ๋
ตั้งโอ๋กรี๊ดถอยหลังไปจนติดผนังข้างหลัง เภาเข้ามาประชิดตัว ชูมีดขู่
"พี่เภาอย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันสัญญาฉันจะปิดปากให้สนิท ฉันจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้อีก"
"เหรอ"
" ฉันยอมแล้ว ฉันยอมทุกอย่าง"
" จริงๆ อ่ะ ยอมทุกอย่างเลยเหรอ"
เภามองหื่นแล้วก้มไปซุกซอกคอตั้งโอ๋
ตั้งโอ๋หันหน้าหนีขยะแขยง แต่พอเภาเงยหน้าขึ้นมาจะมาจูบปากก็ต้องเหวอเพราะคนที่ปลํ้าอยู่นั้นกลายเป็นผีซินดี้เวอร์ชั่นหน้าเละ
เภาตะลึงร้องลั่น ผละจากผีซินดี้ออกไป
ตั้งโอ๋มองงงนิดนึงที่เภาถอยออกไป แล้วรีบวิ่งหนีออกไปเลยแบบไม่สนใจอะไรแล้ว
พอเภาตั้งตัวได้ก็เห็นตั้งโอ๋วิ่งออกประตูไปแล้ว เภาจะวิ่งตามตั้งโอ๋
ผีซินดี้หน้าเละก็ปรากฏตัวขึ้นอีกขวางหน้าประตู มองจิก ผมปลิว
เภาผงะอีก แล้วถอยหลังเข้าไปในบ้าน
ผีซินดี้หน้าเละมองนิ่ง ซินดี้หัวเราะก้องๆ หลอนๆ
ตั้งโอ๋วิ่งหนีออกมาจากบ้านเภา วิ่งไปตามทางถนนหน้าตาตื่น
รถยนต์คันหนึ่งแล่นเข้ามา ตั้งโอ๋รีบโบกอย่างต้องการความช่วยเหลือ
"ช่วยด้วยๆๆ ช่วยด้วยค่ะ"
รถยนต์จอด ตั้งโอ๋รีบเข้าไปที่ประตูข้างคนขับ
" ช่วยด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วย"
กระจกรถเลื่อนลงมา เป็นแพรวามองแบบห่วงใยตั้งโอ๋
" ตั้งโอ๋ เธอมาทำอะไรแถวนี้"
ตั้งโอ๋บอกแพรวาไปด้วยอารามตื่นตกใจและมั่นใจว่าแพรวาไม่มีทางเป็นผู้ร้าย
" คุณแพรวา!! ตั้งโอ๋รู้แล้วค่ะว่าใครเป็นฆาตกร"
แพรวาอึ้ง มองตั้งโอ๋.....ยากที่จะรู้ว่า ชะตากรรมของตั้งโอ๋จะเป็นอย่างไรต่อไป!
บุลินเดินเข้ามาในห้องทำงาน กานดายืนดูเอกสารที่โต๊ะตัวเอง
ตำรวจ1 ถือซองผลการตรวจในมือตามหลังบุลินเข้ามาเรียก
" หมวดครับ ผลดีเอ็นเอออกแล้วนะครับ"
ตำรวจมายื่นให้ บุลินรับไป
" ขอบใจ"
บุลินแกะซองอ่าน
กานดาสนใจตามเข้ามาดูด้วย
"เป็นไงบ้าง"
บุลินหน้าเครียดขึ้นมา คาดการณ์ไว้ไม่ผิด
"พบดีเอ็นเอคนร้ายบนไม้ที่ใช้เป็นอาวุธจริงๆ"
"งั้นเอาไปเทียบกับแฟ้มประวัติอาชญากรที่อยู่ละแวกนี้มั้ย น่าจะได้เรื่องนะพี่หมวด"
" ไม่ต้อง"
"อ้าว..."
" รู้แล้วล่ะว่ามันเป็นใคร"
"เฮ้ย ....พี่รู้ได้ไง"
บุลินชูกระดาษขึ้นอีกที
"พี่ไม่ได้ส่งไปตรวจแค่ชิ้นเดียว แต่ส่งแก้วนํ้าส้มที่นายเภาดื่มไปด้วย"
"อะไรนะ!"
ในอดีต ภาพที่บุลินเทนํ้าส้มยื่นให้เภา เภายกแก้วนํ้าส้มขึ้นดื่ม
"นายเภาบอกว่าแพ้เกสรดอกไม้อย่างรุนแรง แต่ดื่มนํ้าส้มที่ใส่นํ้าผึ้งได้ปกติ ไม่ได้เป็นอะไรเลย พี่เลยรู้สึกว่าคนๆ นี้น่าสงสัย ... พี่ก็เลยส่งแก้วนํ้าส้มไปตรวจหาข้อมูล ...แล้วผลออกมาว่าดีเอ็นเอบนไม้
กับดีเอ็นเอที่แก้วนํ้าส้มเป็นคนๆ เดียวกัน"
"นี่หมายความว่า นายเภา สายสืบของเราเนี่ยนะที่เป็นคนลอบทำร้ายพี่หมวด!"
" หาตัวนายเภาให้เจอด่วนที่สุด"
บุลินสั่ง
ทางด้านเภาวิ่งหนีมาตามซอกๆ ในบ้านแลดู ตื่นเต้น น่ากลัว
ประตูห้องหนึ่งเปิดอ้าอยู่ พอเภาจะวิ่งไป ประตูก็ปิดใส่หน้า
เภาหันไปที่หน้าต่าง หน้าต่างก็ปิดปังอีก เภาอึ้ง หันหลังกลับก็เห็นซินดี้ยืนอยู่ข้างหน้า
"อีซินดี้"
เภาถอยๆ แล้วรีบวิ่งหนีไปอีกทาง
เภาวิ่งเข้ามาค้นเอาปืนสั้นจากลิ้นชัก
"เดี๋ยวกูจัดให้มึงแน่"
เภาล้วงมือเข้าไปในลิ้นชักแล้วเหมือนจับปืนได้ดึงออกมา แต่กลับจับมือผีของซินดี้ออกมา
เภาตะลึง ร้องลั่น
มือซินดี้ดึงมือเภาเข้าไปในเก๊ะ เภายื้อแล้วหยิบเชิงเทียนมาทุบๆ ที่มือผีซินดี้ ดึงมือตัวเองปล่อยออกมา
เภาร้องจะวิ่งหนี แล้วปรากฏซินดี้นั่งอยู่เหนือประตูห้อยเท้าลงมา
เภาผงะ
ซินดี้ยกมือไปในอากาศ
เภาเหมือนโดนบีบคอจนเจ็บปวดไปหมด
"ปล่อย โอ้ย ซินดี้ พี่รู้ว่าซินดี้ทำแบบนี้เพราะหึงพี่ใช่มั้ย พี่ก็รักซินดี้นะ แต่เพราะอีโกกิมันเสี้ยมพี่ พี่ก็เลยหลงผิดไปชั่ววูบ"
เสียงซินดี้ดังขึ้นแบบหลอนๆ โดยที่ไม่ได้ขยับปาก
" ไอ้เภา ไอ้ตอแหล"
ซินดี้เหวี่ยงมือออกไป ร่างเภากระเด็นถอยหลังไปชนฝาผนังจนหัวแตกเลือดอาบลงมาหยดติ๋งๆ
" ก่อนกูจะตาย มึงทำกับกูไว้ยังไงมึงจำได้มั้ย"
ในอดีต เมื่อ 3 เดือนก่อน คืนที่ซินดี้โชว์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย
ที่ช่องฉลุลายผีเสื้อจากเฟอร์นิเจอร์ไม้ในห้อง เห็นซินดี้นั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะแต่งหน้า สวย เศร้า อึมครึม ลึกลับเก็บซ่อนไม่เปิดเผย ซินดี้นั่งนิ่ง มีเสียงสัญญาณมือถือ ดังออกมา ...บ่งบอกว่าโทร.ติดแต่ไม่มีใครรับสายจนเครื่องตัดเข้าระบบอัตโนมัติ
" สวัสดีครับ กรุณาฝากข้อความหลังสัญญาณครับ"
ซินดี้ผิดหวังที่บุลินสัญญาว่าจะมาดูโชว์แต่ก็ไม่มา แล้วซินดี้ก็กดตัดสายไป
ซินดี้นึกถึงบุลินเคยพูดไว้
"ขอให้คุณแจ้งความเท่านั้น แล้วผมจะใช้กฎหมายจัดการกับทุกคนที่ทำร้ายคุณ"
"คุณพูดจริงเหรอ กฎหมายจะจัดการพวกมันได้จริงๆ เหรอ"
" เชื่อผมสักครั้งไหมล่ะ" บุลินยื่นมือออกไป "ลุกขึ้นมาสิซินดี้ ผมจะช่วยคุณ"
ซินดี้ยิ่งนึกยิ่งเจ็บปวด
ซินดี้ยกนิ้วก้อยขึ้นมา
"สัญญานะบุลิน ....พรุ่งนี้คุณต้องมาดูโชว์ของฉัน แล้วฉันจะแจ้งความกับคุณ"
" ตกลง ผมสัญญา"
ซินดี้ยิ่งเจ็บใจ ผิดหวัง เสียใจหนัก
"คนโกหก....ในที่สุดคุณก็ไม่มา คุณก็เหมือนกับคนอื่น ไม่เคยจริงใจ ไม่เคยรักษาสัญญา"
ซินดี้นํ้าตาคลอขึ้นมา แล้วพยายามกรอกตาไม่ให้น้ำตาไหล
เภาในชุดดำ หมวกไอ้โม่ง หลุบหน้าหลุบตาดูอำพราง พร้อมกระเป๋าสะพายใบพองาม เหลียวซ้ายแลขวาไม่มีใครแล้วก็เปิดประตูเข้าไปในห้องซินดี้
ซินดี้ยังนั่งร้องไห้อยู่
เภาเปิดประตูเข้ามามองเห็นซินดี้ร้องไห้ก็เดินเข้ามาใกล้ แล้ววางมือลงที่ไหล่ซินดี้ปลอบ
ซินดี้อึ้งเงยหน้ามองที่กระจกเห็นเงาของเภาสะท้อนมองสบตากัน แววตาซินดี้เจ็บปวดขึ้นไปอีก
"อย่าร้องไห้เพราะผมอีกเลยนะ"
ซินดี้เอือมใจสะบัดมือเภาออก ลุกขึ้นแล้วผลักเภาผงะออกไป
"ออกไป นํ้าตาของฉันไม่ได้มีไว้ให้แกอีกแล้ว"
เภายังนึกว่าซินดี้งอนตัวเอง เภาเข้ามาจับไหล่ทั้งสองข้างของซินดี้
"ซินดี้ ผมรู้ว่าผมไม่มีค่าอะไรเลย แต่ที่ผมมานี่เพราะผมอยากให้คุณรู้ว่า คุณเป็นคนที่มีค่าที่สุดในชีวิตผม"
"แกนึกว่าฉันจะซึ้งกับไอ้คำโกหกของแกเหรอ ไปหานังสะตอโกกิโน่นไป"
ซินดี้ผลักเภาอย่างแรงจนเภากระเด็นออกไป 2-3ก้าว
เภาจ้องหน้าซินดี้แรง เจ็บปวด อ้อนสุดชีวิต
"ซินดี้ โกกิมันหลอกผม มันใช้ผมเป็นเครื่องมือแก้แค้นคุณ!"
ซินดี้อึ้ง
เภาหยิบมือถือออกมาเปิดขึ้นแล้วชูหน้าจอที่แคปไลน์ที่โกกิคุยกับบอยออกมาให้ซินดี้ดู
หน้าจอมือถือ เป็นภาพข้อความที่โกกิแชทกับผู้ชายชื่อ Boy...
" บอยก็รู้นี่ ผู้ชายโง่ๆ อย่างไอ้เภามีไว้หลอกแก้แค้นพี่ซินดี้เท่านั้นแหละ หึหึ เดี๋ยวมันโอนคอนโดฯ มาให้โกกิเมื่อไหร่ มันก็กระเด็นไปจากชีวิตโกกิทันที"
"ผมแคปไลน์มันมาได้ ..มันมีผัวใหม่ แล้วมันก็บอกว่าผมโง่ มันหลอกใช้ผมแล้วจะปอกลอกผมด้วย"
เภาเดินเข้ามาตรงหน้าซินดี้ คุกเข่าลงไป
"ซินดี้ ผมได้รับกรรมตามสนองแล้ว"
"มาบอกฉันทำซากอะไร....นึกว่าฉันจะกลับไปคืนดีกับแกเหรอ"
"ผมไม่คิดอาจเอื้อมแบบนั้น ...ซินดี้ ผมหวังแค่ให้คุณยกโทษให้ผมเท่านั้นเอง"
เภาปล่อยมือออก แล้วหยิบกล่องลิปสติกผีเสื้อ ออกมาจากกระเป๋ากางเกง
เภาลุกขึ้นยืนชูกล่องลิปสติกให้ซินดี้ดู
"นี่...ลิปสติกสีที่คุณโปรด เป็นแบรนด์ที่คุณชอบ"
เภาจับมือซินดี้ขึ้นมาแล้ววางลิปสติกลงไป
"ได้โปรดรับมันไว้แทนคำขอโทษของผม ....วันไหนที่คุณแกะมันออกมาทา ผมจะถือว่าคุณได้ยกโทษให้ผมแล้ว ...หวังว่าจะมีวันนั้นนะครับ"
เภาจับมือซินดี้บีบเบาๆ มองซินดี้อย่างเว้าวอน แล้วค่อยหันเดินออกจากห้องไป
ซินดี้หันดูกล่องลิปสติก เห็นว่าเป็นสีเดียวเบอร์เดียวกับที่ทาอยู่แล้ว
ซินดี้ทำท่าจะโยนลิปสติกที่เภาให้เข้าไปในลิ้นชัก แล้วเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ ซินดี้ชะงักแล้วแกะกล่องลิปสติกที่เภาให้หมุนลิปสติกขึ้นมาดู ....สายตาครุ่นคิด ระแวง
ซินดี้ตัดสินใจหยิบแก้วนํ้าใบเล็กๆ แล้วหยิบเข็มหมุดในลิ้นชักออกมาจิ้มนิ้วตัวเองให้เลือดหยด
ลงไปในแก้วนํ้า จนมีนํ้าเลือดก้นแก้วพอแกว่งๆ ได้
แล้วซินดี้จัดการหยิบคัตเตอร์จากลิ้นชักออกมา ใช้คัตเตอร์ตัดผิวลิปสติกนิดนึงใส่ลงไปในแก้วเลือดนั้น ซินดี้แกว่งๆ ให้เลือดโดนลิปสติก แล้วสักครู่หนึ่งเลือดที่เป็นของเหลวกลับกลายเป็นวุ้นเยลลี่แข็งเป็นก้อน
ซึ่งแสดงว่า ลิปสติกนั้นมีพิษ
ซินดี้คลี่ยิ้มอย่างขื่นขมมองดูลิปสติที่เภาให้
"คิดไม่ผิดจริงๆ ไอ้เภามันเอาลิปสติกใส่ยาพิษมาให้ฉัน" ซินดี้หัวเราะ อย่างบ้าคลั่งเหมือนเป็นเรื่องตลกมากกก แต่จริงๆ คือมันเศร้ามาก
ซินดี้ลุกขึ้นไปหัวเราะหมุนตัวไปมาอย่างแบบสติหลุดแล้ว
ตั้งโอ๋วิ่งเข้ามาที่หน้าห้องเคาะประตู
" พี่ซินดี้ๆ เสร็จหรือยังค่ะ" ตั้งโอ๋เอียงหูฟัง ได้ยินเสียงหัวเราะซินดี้ "จะได้เวลาแล้วนะคะ พี่ซินดี้เล่นอะไรอยู่น่ะ"
ซินดี้หัวเราะตัวโยก แต่นํ้าตาคลอเบ้า ตะโกนตอบตั้งโอ๋ไป
"เล่นตลกกับชีวิตล่ะมั้ง ...ฮ่าฮ่าฮ่า ชีวิตอีซินดี้นี่มันน่าขำจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า ขำจนปวดท้องไปหมดแล้ว"
ตั้งโอ๋สำทับอีกครั้ง
" เออ ๆๆ พี่จะขำอะไรก็เอาเถอะ แต่ถ้าอีก15นาทีพี่ซินดี้ยังไม่ออกไปอีก ตั้งโอ๋จะมาอุ้มพี่ออกไปเองนะคะ"
ตั้งโอ๋เดินกลับออกไป
ซินดี้ที่ขำจนตัวงออยู่จนนํ้าตาไหลออกมา แล้วเปลี่ยนโหมดเป็นร้องไห้ทันที ... ฮือ ฮือ ฮืออ
ซินดี้สะอื้นจนเสียงหาย แล้วนิ่งไปหนึ่งจังหวะ แล้วนางค่อยๆหันมองไปที่หน้ากระจกมองลิปสติก
ที่เภาให้มา ซินดี้ค่อยเดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมาดูอีกครั้ง พูดด้วยความแค้นแน่นอก ประหนึ่งคำสาปก็ไม่ปาน
"ถ้าพวกแกอยากเห็นฉันตายนัก ...ได้....ฉันจะตายให้ดู .... ความตายของฉันคือ คำสาปแช่งพวกแก
พวกแกทุกคนจะต้องมีอันเป็นไป จะไม่มีใครตายดี ....วิญญาณของฉันจะมาเอาคืน!"
ซินดี้นั่งลงที่หน้ากระจก หยิบลิปสติกที่เภาให้ขึ้นมาหมุน มองด้วยความใจเด็ด แม้รู้ตัวว่าจะตาย ก็ยังทาทับลงไป นางค่อยจรดลิปสติกลงที่ริมฝีปาก วาดทาอย่างทระนง บดเม้ม ริมฝีปากจนลิปสติกติดทั่วปาก ฉํ่า สวยงาม แล้วซินดี้ยิ้มให้ตัวเองมาดมั่นแต่เศร้า วางลิปสติกลงที่โต๊ะ ปึง!
บนเวที ไฮดรอลิกเลื่อนขึ้นมา ซินดี้ยืนอย่างสง่า แสงไฟฟอลโล่จับที่ซินดี้ยิ่งจับให้เธอโดดเด่น
เพลงประจำตัวซินดี้ดังขึ้นมา
ซินดี้ลิปซิงค์ไปอย่างอินในอารมณ์เพลงที่ตรงกับชีวิตของตัวเอง ..ที่มีแต่ความเจ็บปวดไม่สมหวัง
ไม่มีใครสนใจที่จะฟังเสียงแห่งความเสียใจ...
ซินดี้ลิปซิงค์ไปอย่างอินท่อนหนึ่ง
เสียงเพลงจากซินดี้ยังดังคลอมาในห้องแต่งตัว
เภาใช้มือที่สวมถุงมือยางแล้ว ...แล้วหยิบลิปสติกผีเสื้อขึ้นมาจับหมุนขึ้นมาดู เห็นว่ามีร่องรอยการใช้ไปแล้วนิดนึง เภายิ้มมุกปากพึงพอใจที่ได้ผลเร็วมาก
เภารีบเปิดกระเป๋า หยิบขวดน้ำยาล้างห้องน้ำไปวางไว้ที่มุมหนึ่งในห้อง แล้วหยิบจดหมายลาตายของซินดี้วางบนโต๊ะ หยิบลิปสติกยาพิษ ลิปสติกปกติ กล่องลิปสติก และแก้วเลือดที่วางไว้ใส่กระเป๋าจนหมด
ซินดี้ร้องประโยคสุดท้ายแล้วนํ้าลายฟูมปาก ล้มลงไปตายกับพื้น
ห้องเลื่อยไฟฟ้า ในบ้านเภา กลางคืน ปัจจุบัน
ซินดี้หน้าผีมองจ้องเภากินเลือดกินเนื้อ พูดได้โดยไม่ต้องขยับปาก
" กูตายเพราะมึง ไอ้เภา"
"ไม่จริง ...กูแค่เอาลิปสติกมาให้มึง แต่มึงเป็นคนหยิบมันไปทาเอง ทั้งๆที่มึงก็รู้ว่ามียาพิษ"
ซินดี้หัวเราะ
"อีผีบ้า มึงอย่ามาโทษว่ากูฆ่ามึง ไม่มีใครฆ่ามึง มึงฆ่าตัวตายเอง"
"ที่มึงฆ่าไม่ใช่ร่างกาย แต่เป็นหัวใจกู!!! หัวใจของกูที่พวกมึงเหยียบยํ่า ซํ้าแล้วซํ้าเล่าจนย่อยยับไม่มีชิ้นดี มึงจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยเหรอ"
ซินดี้จ้องจิกไปที่เภา
ร่างของเภาเหมือนบังคับตัวเองไม่ได้ ลุกเดินพรวดๆ เข้ามา ล้มควํ่าหน้าบนโต๊ะตัวหนึ่ง ที่วางเลื่อยไฟฟ้าเอาไว้ แล้วเห็นว่าเลื่อยไฟฟ้าไฟติดขึ้นมาได้เอง
เภาร้องจ๊ากลัวตาย
"อย่า"
ซินดี้มองด้วยความสะใจ
"มึงชอบนักไม่ใช่เหรอ ถลกหนังหัวน่ะ"
เลื่อยไฟฟ้าค่อยเลื่อนเข้ามาเรื่อยๆ
เภามองลุ้นระทึกนํ้าหูนํ้าตาไหลกลัวตาย
ซินดี้มองด้วยความสะใจ
ซินดี้หัวเราะหลอน ...ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
ใบเลื่อยใกล้เข้ามา เภามองตาเหลือก ...
รถตำรวจจอด... บุลิน กานดา ตำรวจ1 เปิดประตูออกมา แล้วพากันวิ่งเข้าไปในบ้านเภา และสำรวจในบ้าน
" แยกกันค้นให้ทั่ว จับเป็นเท่านั้นนะ" บุลินบอก
กานดา กับ ตำรวจ แยกไปทางหนึ่ง
บุลินไปอีกทาง แล้วสะดุดตาเห็นกระเป๋าข้าวของของตั้งโอ๋
บุลินหยิบกระเป๋า มือถือมาดูจำได้ แปลกใจ "ตั้งโอ๋"
แต่ยังไม่ทันได้อะไรเสียงกานดาร้องดังขึ้นมาแบบเห็นสิ่งน่ากลัว
บุลินรีบตามไปดู
บุลินวิ่งเข้ามาเห็นสภาพศพของเจ๊มดแดงแล้วอึ้ง
กานดามองอยู่อย่างสังเวชใจ นึกไม่ถึง
" ใครทำเจ๊มดแดงได้ขนาดนี้ มันเลวร้ายมาก"
ตำรวจ1 วิ่งเข้ามาตามหน้าตาตื่น
" หมวดครับ มาทางนี้เร็วครับ"
บุลินกับกานดารีบวิ่งตามไป
บุลินกับกานดารีบวิ่งเข้ามาแล้วเห็น ศพของเภานอนตายแบบหน้าข้างหนึ่งโดนถลกหนัง
นอนตายอยู่บนโต๊ะ ตาเหลือก เบิกโพลง ตายตาไม่หลับ
" นายเภา!"
บุลิน กานดา ตำรวจ1 รีบวิ่งเข้ามาดู
" เสียชีวิตไม่เกินชั่วโมง คนร้ายอาจจะยังอยู่แถวนี้ก็ได้ แยกกันค้นให้ทั่ว"
ตำรวจ1 รับคำ แล้วออกไป "ครับผม"
" กานดา แจ้งขอกําลังเสริมแล้วเรียกพิสูจน์หลักฐานมาด่วน"
"ค่ะ"
กานดาออกไป เหลือบุลินมองสภาพเภาด้วยความยุ่งยากใจ
อ่านต่อตอนที่ 23