นางแค้น ตอนที่ 14
บุลินหันกลับมาทันพอดี เห็นกะเพราถือไม้ถูพื้น ยิ้มเผล่ ดูไม่มีพิษสงอะไร
" กะเพรา!!! เข้ามาตั้งแต่เมื่อไร"
"ก็เมื่อกี้นี่เองอ่ะคร้า ดูหมวดจะหมกมุ่น เอ๊ย ตั้งอกตั้งใจหาอะไรคะ ให้กะเพราช่วยหามั้ยคะ"
" ก็ดี .. ..เธอเข้ามาทำความสะอาดในห้องนี้เป็นประจำใช่มั้ย"
"งั้นสิคะ อะไรอยู่ตรงไหนกะเพรารู้หมดเลยค่ะ"
" งั้นเธอพอจะเคยเห็นไอ้นี่มั้ย" บุลินล้วงมือถือออกมาจะเปิดภาพให้ดู
ตั้งโอ๋เข้ามาแทรกพอดี
"พี่กะเพรา คุณแพรวาให้มาตามพี่ไปพบ ด่วนเลยนะ"
"อ่อ ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณตั้งโอ๋"
กะเพราแล้วหันไปทางบุลิน
"ไว้ค่อยคุยกันใหม่นะคะ หมวด กะเพราไปก่อนล่ะค่ะ"
กะเพราออกไป
ตั้งโอ๋มองบุลินสบตากันแล้ว บุลินหลบตา ทำเป็นพูดขึ้น
" เออ ..เธอเป็นช่างแต่งหน้า เธอรู้มั้ยว่า ลิปสติกที่ซินดี้ใช้ในวันที่ตายอยู่ไหน"
" มันตั้ง3 เดือนแล้วนะ หมวด ข้าวของพี่ซินดี้ส่วนใหญ่ก็เอาไปบริจาคหมดแล้ว แล้วของเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ ก็ทิ้งไปหมดแล้วล่ะ"
" หมดกัน มันไม่ใช่ของเล็กน้อยเลยนะ มันเป็นของโคตรสำคัญเลยล่ะ"
" อุ่ย หมวดจริงจังไปเปล่า"
" คดีฆาตกรรม มันทำเล่นๆกันได้เหรอ"
" ก็ไม่ได้ว่าไม่สำคัญ แต่ก็ไม่เห็นต้องเครียด เดี๋ยวแก่ๆไปเป็นมะเร็ง ฉันไม่รู้ด้วยนะ"
" ไม่ต้องมาเทศน์ฉันหรอก ถ้าเธอไม่รู้เรื่องก็แยกย้ายกันแค่นี้"
บุลินเดินออกจากห้องไป ตั้งโอ๋ย่นจมูกใส่ มองตามไป
"อีตาบ้า ...ไม่มีผลประโยชน์ก็ไม่เห็นหัวเลยนะ"
แล้วตั้งโอ๋ก็นึกขึ้นมาได้
เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ... ซินดี้ลุกขึ้นนั่งเปิดกระเป๋าใบเล็กหยิบลิปสติกตราผีเสื้อออกมาให้ตั้งโอ๋
"อะ นี่ตัวอย่างลิปสติกที่ฉันสั่งทำเป็นพิเศษ ไปรับให้ฉันทีนะ นางทาสของฉัน"
"ฮึ เฮ้ย ฉันนึกออกแล้ว หมวด เดี๋ยวก่อน"
ตั้งโอ๋วิ่งตามบุลินออกไป
บุลินกําลังเดินออกไป ตั้งโอ๋วิ่งตามหลังเข้ามาดึงแขน
"หมวดบุลิน เดี๋ยว"
บุลินชะงัก หันไป ตั้งโอ๋ค่อยปล่อยแขนออก
"มีอะไร"
"แหม ต้องมีเรื่องก่อนใช่มั้ยถึงคุยกับหมวดได้น่ะ"
"ฉันให้เวลา 10 วิ ถ้ายังเต็มไปด้วยคำพูดเพ้อเจ้อฉันจะไปจริงๆ"
" เออ...รู้แล้วๆ ..ฉันจะมาบอกว่า หมวดจะไปหาลิปสติกของพี่ซินดี้ได้ที่ไหน"
บุลินตาเป็นประกายขึ้นมา
ต่อมา รถบุลินแล่นเข้ามาจอดหน้าสถาบันเสริมความงามแห่งหนึ่งในพัทยา เปิดประตูรถลงมา
" ที่นี่เหรอ"
" ใช่ พี่ซินดี้เป็นคนแพ้ลิปสติก ก็เลยต้องสั่งซื้อลิปสติกจากที่ร้านนี้มาใช้เท่านั้น"
" น่าจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รีบเข้าไปดูเถอะ"
บุลินรีบเดินลิ่วเข้าไปทันที ตั้งโอ๋มองตามบ่นออกไป
" นี่หมวดสนใจแต่ประโยชน์ตัวเองนะ จะไม่ขอบใจฉันสักคำเลยหรือไง"
ภายในร้าน บุลินยกตราตำรวจให้พนักงานต้อนรับดู
"ผมเป็นตำรวจ"
ตั้งโอ๋เปิดประตูตามเข้ามาหา
พนักงานมองเห็นตั้งโอ๋ จำได้ " อ้าวน้องไม่เจอตั้งนาน"
" พอดีวันนี้หนูมากับหมวดบุลิน นาง...เอ๊ย เขาอยากจะรู้เรื่องลิปสติกของพี่ซินดี้น่ะจ๊ะ"
"อ่อ ลิปสติกบัตเตอร์ฟลายหรือคะ เป็นสูตรเฉพาะของทางบริษัทเราเลยนะคะ"
" ซินดี้สั่งลิปติกที่นี่มานานหรือยังครับ"
"ก็ประมาณ 3 ปีได้ค่ะ"
" งั้นผมขอดูบันทึกการสั่งซื้อของซินดี้หน่อยจะได้ไหมครับ"
"ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ"
พนักงานเดินเข้าไปข้างใน
ตั้งโอ๋ถามขึ้น
"หมวด หมวดจะเอาไปทำอะไรอ่ะ"
บุลินเหลือบมองไปที่กล้องวงจรปิดที่ติดไว้ แล้วเดินไปหาตั้งโอ๋ดึงตัวตั้งโอ๋มายืนให้ตรงกับตำแหน่งกล้อง
" เอ้ย...หมวดทำอะไรเนี่ย"
" อยู่เฉยๆ เถอะ ฉันไม่คิดอกุศลกับร่างทรงติ๊งต๊องอย่างเธอหรอก"
" หมวดจะมากไปมั้ย"
บุลินยกมือปราม "เงียบ ทำตัวให้เป็นประโยชน์กับราชการบ้าง"
บุลินผละไปที่เคาน์เตอร์พนักงานแล้วเริ่มลงมือรื้อค้นข้าวของต่างๆ
" อ่อ แผนล่อเสือออกจากถํ้านี่เอง"
บุลินเปิดลิ้นชักดูนั่นนี่อยู่ระยะหนึ่ง
แล้วตั้งโอ๋ตะโกนเข้ามาบอก
"มาแล้วๆ"
บุลินรีบกลับมายืนปกติ พนักงานหญิงคนเดิมเดินกลับเข้ามาพร้อมกระดาษในมือ ยื่นให้บุลิน
"นี่ค่ะคุณตำรวจ บันทึกการซื้อสินค้าของคุณซินดี้"
บุลินรีบเอกสารมา
บุลินกับตั้งโอ๋ผลักประตูออกมาจากสถานเสริมความงาม
" สุดท้ายก็เหลว ไม่เห็นจะได้เรื่องเลยหมวดเนี่ย"
บุลินหันมามองหน้า ตั้งโอ๋สะดุ้ง ทำเป็นยกมือบัง
"ว้าย... รังสีอำมหิต"
เสียงไลน์ของบุลินเด้งขึ้นมา บุลินเลยโยนกระดาษเอกสารให้ตั้งโอ๋ไปถือแล้วบุลินยกไลน์มาเปิดอ่าน .. ไลน์จากหมาป่า
"สวัสดีครับ หมวด ผมกลัวจะตกข่าวมีอะไรคืบหน้าบ้างไหมครับ"
บุลินกําลังจะเขียนตอบ แต่ตั้งโอ๋ดันโวยวายขึ้นมาเสียก่อน
บุลินพิมพ์ไปว่า " เราพบว่าซินดี้ตายเพราะ..." แล้วเสียงตั้งโอ๋ดังขึ้นขัดจังหวะ
" อ๊าย..."
" นี่เธอ ....อย่าเว่อร์ให้มันมากนักได้ไหม"
"ก่อนด่ามาดูนี่ก่อน ....เร็วหมวดมาดู"
บุลินผละจากการพิมพ์ไลน์เข้าไปหาที่ตั้งโอ๋ยื่นกระดาษที่บันทึกการซื้อสินค้าของซินดี้ พลิกไปด้านหลัง ซึ่งพนักงานเอากระดาษรีไซเคิลมาใช้ เห็นว่า เป็นภาพ Xerox สี เป็นรูปพนักงานหญิง กำลังถ่ายรูปกับหญิง1 แล้วภาวัชเดินผ่านมาข้างหลังหันหน้ามามองที่กล้องพอดี ทำให้เห็นหน้าภาวัชชัด
บุลินรับกระดาษไปดู แล้วตะลึง
"นายภาวัช"
" ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าคุณภาวัชเป็นลูกค้าที่นี่ด้วย"
" นั่นสิ ท่าทางจะไม่ใช่ลูกค้าธรรมดาๆ แล้วล่ะมั้ง"
บุลินดูรูปอีกครั้ง คิดสงสัยภาวัชขึ้นมา แล้วบอกกับตั้งโอ๋
" ตั้งโอ๋เธอไปคนละทางกับฉัน เรียกมอเตอร์ไซค์กลับเองนะ ฉันจะรีบไปตามคดีต่อ"
บุลินรีบเดินไปขึ้นรถ ตั้งโอ๋เรียกตามไม่ทัน
" อ้าว หมวดทำไมนิสัยอย่างนี้ล่ะ บ้าบอที่สุดเลย"
ภายในห้อง โอ๋หยิบเสื้อแจ็คเก็ตของบุลิน ซึ่งซักรีดเรียบร้อยพับอยู่ในตู้ออกมาดู ตั้งโอ๋นึกถึงวันที่ฝนตก
บุลินแบกตั้งโอ๋ขึ้นหลัง ตั้งโอ๋กางเสื้อกันฝนแทนร่ม
ตั้งโอ๋ลูบเสื้อเบาๆ แล้วความคิดสับสนค้านใจตัวเองขึ้นมา
" นี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย หยุดคิดบ้าๆ แบบนี้เสียที"
กานดาเปิดประตูห้องเข้ามาพอดี ตั้งโอ๋รีบเก็บเสื้อยัดใส่ตู้ไป
"ทำอะไรอยู่เหรอตั้งโอ๋"
" เปล่าๆ ฉันกําลังเก็บของน่ะ ว่าจะลงไปช่วยพี่ต้อมทำกับข้าว แล้วหมวดอ่ะเป็นไงบ้างได้พักผ่อนเต็มที่ไหม"
กานดายังไม่ทันเปิดปากพูด
เข้มเปิดประตูเข้ามาชี้หน้ากานดา
"นั่นไง คิดแล้วไม่มีผิด นางมารร้ายทำลายบ้านมาอยู่นี่เอง!"
"อะไร มีอะไร"
"ยังจะมาถาม หมวดทำอะไรเอาไว้ไปดูเลย"
เข้มลากแขนกานดาออกไป ตั้งโอ๋ตาม
เข้มลากกานดาออกมาดูพื้นเปียกๆ รอยเท้ากานดาที่ยํ่าออกมาจากห้องนํ้า
"นี่ มาดูๆ ซะให้เต็มตา ใครใช้ให้ยํ่าเท้าเปียกๆ ออกมาจากห้องนํ้า แล้วนั่น รอยนํ้าหยดจากผมที่เช็ดไม่แห้งของหมวดใช่มั้ย ดูสิ ลากยาวเป็นทางเลย"
กานดาสะบัดแขนจากเข้ม
"โอ้ย...โวยวายลั่นบ้าน เพราะเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ ทำยังกับฉันไปฆ่าคนตายงั้นแหละ"
"ถ้าเรื่องแค่นี้ แล้วทำไมปล่อยให้เลอะเทอะแบบนี้ล่ะหมวด ฮอร์โมนเพศหญิงหมวดไม่ทำงานเลยหรือไง ถึงหาความเป็นกุลสตรีไม่ได้เลย"
"โอ้ย....เปียกก็เช็ดสิคับบ่นทำไม ไหน ไม้ถูกบ้านน่ะอยู่ไหน ไปเอามาดิ เดี๋ยวเช็ดให้ก็ได้ เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องบ่นเป็นชะนีแปลงเพศเลยนี่"
เข้มอึ้ง
"อ้าวๆ ยังมองหน้าให้เสียเวลาทำไม ไปหยิบมาดิ"
เข้มสะดุ้งแล้วรีบออกไปหยิบโดยดี
"เออ อย่าหนีนะ รออยู่นี่ล่ะ"
"นี่มันเป็นที่มาของคำว่า เกทับ ...เราต้องชิงเล่นใหญ่กว่าสองเท่า แล้วเดี๋ยวนายเข้มเดินมา เราก็ใช้ให้มันเช็ด แล้วเราก็ชนะ ฮ่าฮ่าฮ่า"
ตั้งโอ๋ยิ้มๆ
"หมวดกับเข้มนี่ทะเลาะกันเป็นเด็กๆ แต่ก็มีความเข้ากั๊นเข้ากันนะคะ"
"นี่พูดเล่นใช่มั้ย ฉันเป็นชะนีแล้วนายเข้มก็แฟนเธอนะ"
ตั้งโอ๋ตั้งใจจะบอกกานดาว่าเข้มไม่ได้เป็นเกย์
" เออ อ๋อ คืองี้ค่ะหมวด คือตั้งโอ๋ว่าหมวดควรรู้ความจริงอะไรบางอย่าง คือว่า เข้มเขาไม่ได้เป็น ...."
กานดายกมือห้าม "ไม่ต้อง ฉันเข้าใจ ..."
ตั้งโอ๋ถลึงตา
" คะ? หมวดรู้"
กานดาพยักหน้ารับ
"อือ ฉันมองปร๊าดเดียวก็รู้ตอนนี้เธอเป็นฝ่ายรุก นายเข้มไม่ได้เป็นสามี แต่เป็นเมียของเธอใช่มั้ยล่ะตั้งโอ๋ เฮ้อ เธอเลยผิดหวังจนอยากยกให้คนอื่น"
ตั้งโอ๋อึ้ง
"อะไรนะ หมวด"
"ถ้าจะลองปรับบทบาทอย่างที่เธอต้องการก็อาจจะต้องไปปรึกษาแพทย์นะ อย่าทิ้งไว้จนนายเข้มแต่งหญิงเข้าจริงๆ เดี๋ยวจะได้เลิกกันในที่สุด" กานดาตบไหล่ตั้งโอ๋ "เอาล่ะ ฉันไปตามนายเข้มก่อนนะไม่รู้ไปเอาไม้ถูพื้นที่ทวีปไหน"
กานดาเดินออกไป ตั้งโอ๋ยังอยากบอกความจริง
" เออ หมวด คือ เดี๋ยว ว้า....มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ ฮึย จะพูดไงดีเนี่ย หมวดเขา ก็อินเกิ๊น"
ภาวัชเดินเข้ามาหา บุลินยืนหันหลังมองวิวที่ริมหน้าต่างรออยู่
ภาวัชท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรกับบุลินนัก
" ไม่ทราบว่าหมวดมาหาเรื่อง เอ๊ย ไม่ใช่สิ หมวดมีเรื่องอะไรเหรอครับ ถึงต้องมาหาผมที่นี่"
" ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่อยากจะถามคำถามซักสองสามข้อ"
" มีอะไรก็รีบๆ พูดมาเถอะครับ ผมไม่มีเวลา งานยุ่ง"
"ผมอยากทราบว่าคุณภาวัชเคยไปซื้อลิปสติกแบบนี้บ้างมั้ยครับ"
บุลินหยิบลิปสติกตราผีเสื้อที่เอามาจากทางร้านโชว์ให้ภาวัชดู
ภาวัชอึ้ง ชักสีหน้าเล็กน้อย
ภาวัชทำเป็นไม่รู้เรื่อง
"ถามอะไร ลิปสติกอะไรไม่เคยเห็น"
" แน่ใจนะว่าคุณไม่เคยเห็น"
" จะเซ้าซี้อะไรอีกไม่เห็นก็ไม่เห็นสิ"
" งั้นผมจะบอกให้คุณฟังก็แล้วกัน ว่ามันเป็นลิปสติกแบบที่ซินดี้ใช้เป็นประจำ เพราะเธอแพ้ลิปสติกเลยสั่งแบรนด์พิเศษที่ร้านนี้ทำขายเท่านั้น"
" แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมล่ะ"
" เป็นคำถามที่ดีมากครับ ....เพราะผลการชันสูตรศพซินดี้ ที่แท้จริงบอกว่าซินดี้ตาย เพราะโดนวางยาพิษ ซึ่งผมมั่นใจว่ามันต้องปลอมปนอยู่ในลิปสติก!"
ภาวัชเครียดขึ้นมา
ในคืนวันนั้น....
ภาพจำลองเหตุการณ์ตามที่บุลินคิดและพูด
ซินดี้กําลังแต่งหน้า แล้วกําลังจะหยิบหลอดลิปสติกขึ้นมาทา
มีเสียงมือถือดังขึ้นมา ซินดี้หยิบมือถือออกมาพูดแล้วเดินออกไปจากห้อง
พอซินดี้ลับออกไป กลายเป็นชายในชุดดำ สวมหวกหลบหน้า เข้ามาในห้อง หยิบลิปสติกตราผีเสื้อ ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วจัดการสลับเปลี่ยนกับลิปสติกตราผีเสื้อของซินดี้ แล้วเดินออกไป
" น่าจะมีใครสักคน ...แอบเข้าไปสับเปลี่ยนลิปสติกยาพิษกับลิปสติกของซินดี้ ด้วยคุณสมบัติที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นของยาพิษชนิดนี้ จึงทำให้ซินดี้ไม่รู้ตัวเลยว่าโดนวางยา แล้วจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา"
ภาวัชหน้าเจื่อนรีบปฏิเสธ
"ผมไม่รู้เรื่องนะ ไม่ใช่ผมแน่ๆ"
ภาวัชรีบหันเดินหนีออกไป
บุลินรีบวิ่งตามเข้าไปดึงไหล่ภาวัช
ภาวัชหันกลับมาอย่างโมโห ปล่อยหมัดออกไปต่อยหน้าบุลิน บุลินหลบอย่างคล่องแคล่วแล้วหมุนตัวกลับมาเตะอกกับท้องภาวัชจนตัวงอ แล้วเตะข้อพับภาวัชจนล้มลงไป
บุลินเข้าไปล็อกคอภาวัช ตะคอกถาม
" โอ้ย ปล่อยกู กูไม่ได้ทำอะไรนะโว้ย"
" คุณภาวัชคุณฟังให้ดี ผมมีหลักฐานว่าคุณเคยไปซื้อลิปสติกจากร้านเดียวกับซินดี้
คุณตอบมาสิว่า คุณซื้อไปทำไม ถ้าไม่ใช่ซื้อไปเพื่อวางยาฆ่าซินดี้!"
แพรวาวิ่งเข้ามาได้ยินพอดี
" ไม่จริงค่ะ คุณภาวัชไปซื้อลิปสติกมาให้ฉันเอง"
ภาวัชกับบุลินเงยหน้ามองแพรวา ตะลึง
ภาวัชไม่นึกว่าแพรวาจะออกรับให้ บุลินรู้สึกผิดคาด
ต่อมา ... แพรวากับภาวัชเดินออกมาส่งบุลิน
" จริงๆแล้วก็อย่างที่บอกหมวดไปแล้วน่ะค่ะ ...ญาติของดิฉันมีปัญหาเรื่องภูมิแพ้เหมือนกัน ดิฉันก็เลยบอกให้คุณภาวัชเขาช่วยไปซื้อให้"
"ถ้าคุณภาวัชบอกซะแต่แรก ก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ"
" ใครจะไปรู้ล่ะครับว่าหมวดจะมาไม้ไหน ผมก็ต้องปฏิเสธไว้ก่อน เกิดผมบอกไปว่าผมไปซื้อตามที่คุณแพรบอก คุณเกิดยัดข้อหาให้คุณแพรขึ้นมาจะทำยังไง"
" ภาวัชอย่าพูดอย่างนั้นสิ หมวดเขาก็ทำตามหน้าที่ หมวดคงไม่ถือนะคะ ภาวัชเขาพูดเพราะเป็นห่วงฉันมาก"
" ครับผมเข้าใจ..ไว้ผมจะมาขอข้อมูลใหม่นะครับ" บุลินโค้งศีรษะให้แพรวาเล็กน้อย
บุลินเหลือบมองไปทางภาวัชเล็กน้อย แล้วเดินออกไป
ภาวัชมองตามหมั่นไส้
"ไอ้ขี้เก๊กนึกว่าจะเล่นงานฉันได้ง่ายๆ งั้นเหรอ"
แพรวามองภาวัชด้วยสายตาเย็นชา ภาวัชเหลือบมาสบตารู้สึกเลยว่างานเข้าแน่นอน
แพรวาสะบัดหน้าพรืดเดินกลับเข้าไปข้างใน ภาวัชรีบตาม
" คุณแพร เดี๋ยวครับ คุณแพร"
แพรวาเดินเข้ามาในห้องทำงานเงียบๆ สีหน้าเย็นชา เจ็บปวดอยู่ภายใน ภาวัชตามหลังเข้ามาติดๆ
" คุณแพร ฟังผมก่อนนะครับ"
แพรวาพูดขึ้น ทั้งหันหลังไม่ยอมมองหน้า
"ออกไปเถอะ ฉันไม่อยากฟังคำพูดโกหกพกลมของคุณอีก"
" คุณแพรครับ ทุกคำที่ผมจะพูดต่อไปนี้เป็นความจริง ผมพูดจากใจผมเลยนะครับ
ผมขอบคุณคุณแพรมากที่เข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ให้ผม ...ไม่อย่างนั้นหมวดบุลิน คงคิดว่าผมเป็นฆาตกรไปแล้ว"
แพรวาหันมาหาภาวัชอย่างกลัวว่าภาวัชจะฆ่าซินดี้จริงๆ
" แล้วมันใช่ไหมล่ะ ...คุณทำอะไรซินดี้หรือเปล่า"
" โธ่ผมจะไปฆ่ามันทำไม นังซินดี้มันก็แค่อาหารข้างทางผมกินทีเดียวก็เบื่อแล้ว"
" แล้วลิปสติกล่ะซื้อไปให้ใคร"
ภาวัชอึ้ง แพรวาพูดขึ้นอีก
" ฉันไม่มีแรงจะทำอะไรคุณหรอกภาวัช ตอบฉันมาเถอะว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร
ฉันจะได้ไปทำบุญแผ่กุศลให้...."
ภาวัชไม่กล้าบอกความจริงว่าซื้อให้ใคร โบ้ยไปให้ซินดี้ที่ตายไปแล้วแทน
" ก็ ...แบบ...ซิน..ซินดี้นั่นแหละครับ ....แต่ผมไม่ได้ฆ่ามันจริงๆ นะ ผมแบบแค่ซื้อไปให้แบบ...ผมโดนนังซินดี้มันต้มตุ๋น ตบทรัพย์"
แพรวาตบหน้าภาวัชฉาดทันที
" อย่าไปโยนบาปให้คนตายเลยดีกว่า ฉันรู้สันดานคุณดี ว่าทุ่มแค่ไหนเวลาที่หื่นขึ้นมา"
แพรวาเดินออกจากห้องไปเลย ภาวัชหน้าจ๋อยมองตาม...
แพรวาเดินเข้ามาที่กลางลานดาดฟ้า นํ้าตาไหลรินอย่างเจ็บปวดเหมือนจะสงสารซินดี้ที่โดนชะตากรรมกลั่นแกล้งได้เพียงนี้
" ซินดี้ ...ฉันเสียใจ ...ฉันเสียใจจริงๆ"
ทางด้านกานดาเดินลงบันไดเข้ามาที่ห้องนั่งเล่น เห็นเข้มกําลังจัดกล่องอาหารใส่ถุงอยู่
"อ้าวหมวด จะไปไหน"
"ถามได้ ก็กลับบ้านชั้นสิ เดี๋ยวจะไปเปลี่ยนชุดใหม่แล้วก็จะเลยไปทำงานเลย"
เข้มผละจากงานที่ทำอยู่เข้ามาต่อว่ากานดา
"คุณยังพักผ่อนไม่เพียงพอเลยนะ พักอีกสักวันเถอะ งานมันไม่หนีคุณไปไหนหรอก"
"คิดแบบคนขี้เกียจ เอ่อระเหยลอยชายแบบนี้ไง ประเทศชาติถึงไม่เจริญน่ะ"
"ขยันมันก็ดี แต่ถ้าขยันผิดเวลาเขาเรียกว่า โง่"
"ฮะ เดี๋ยวนี้กล้าว่าฉันโง่เหรอ"
กานดาเงื้อหมัดจะต่อย เข้มจับข้อมือไว้ทัน
"เอะอะก็ใช้กําลัง" เข้มชี้หัวตัวเอง "นี่ มีสมองบ้างเปล่าหมวด"
"อะ ไอ้เข้ม"
กานดาดึงแขนแรงจนผงะออกไป แล้วเท้าไปสะดุดกล่องใส่ของที่ตั้งไว้แถวนั้นจนล้มลงไป
"โอ้ย"
เข้มตกใจ "หมวด"
เข้มเข้าไปทำท่าจะจับตัวกานดา
"หมวดอย่าเพิ่งรีบลุกนะ ค่อยๆ ..."
กานดาปัดมือเข้มออก
"ไม่ต้อง ฉันดูแลตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องพึ่งนาย"
กานดาขยับจะลุก แล้วลุกไม่ไหวเจ็บที่ข้อเท้า
"โอ้ย"
"ว่าแล้วทำเป็นเก่ง แล้วเป็นไง มา ไหนผมดูสิ" เข้มจับๆดูที่ข้อเท้า "ท่าทางข้อเท้า
จะแพลงนะ"
เข้มมองสบตากานดาที่ทำหน้ามุ่ยใส่
กานดานั่งบนเตียง เข้มเอาผ้าพันข้อเท้าให้กานดาอย่างเบามือ
กานดาแอบมองหน้าอึ้งๆ แล้วพอเข้มมองเงยขึ้นมาถาม กานดาทำเป็นเก๊กหน้านิ่ง
"เจ็บอยู่มั้ย"
"แค่นี้หมาเหยียบเท้ายังเจ็บกว่า"
"ดู พูดจาให้มันเป็นผู้หญิงบ้างได้ไหม"
"เรื่องของฉัน นี่ปากฉัน ...ใครทนไม่ได้ก็ไปสิ"
"เฮ้อ..อะ เอาที่หมวดสบายใจล่ะกัน" เข้มเก็บอุปกรณ์พันแผลต่างๆ แล้วพูดไปด้วย "หมวดพักอยู่ที่นี่อีกสัก 2-3 วันนะ ไม่ต้องกลับบ้านหรอก"
"นายเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน"
"ผมรู้ ...ผมไม่ได้เป็นใคร แค่เป็นคนที่เป็นห่วงคุณ"
เข้มมองตาแป๋วแล้วผละเดินออกไปเลย
กานดาอึ้ง งงไปเลย
กานดาทวน
"แค่เป็นคนที่เป็นห่วงคุณ" กานดาทำขนลุกขึ้นมาปิดบังความรู้สึกไป "อึย... นังเก้งเข้ม นึกว่าฉันจะเป็นเหมือนชะนีอื่นงั้นสิ เสียใจด้วยนะ ฉันไม่มีทางเคลิ้ม ไปกับเกย์แอ๊บเนียนอย่างนายหรอก"
กานดาล้มตัวลงไปนอนกับเตียง ปากบอกอย่าง แต่ตาแอบปลื้มซะงั้น
บนโต๊ะทำงานบุลิน โทรศัพท์มีไลน์ข้อความจากหมาป่าเด้งขึ้นมา บุลินหยิบมากดอ่าน
"ผมได้ยินคนที่โรงละครพูดกันว่า ซินดี้ตายเพราะลิปสติกมียาพิษ จริงหรือเปล่าครับ"
บุลินพิมพ์ตอบกลับไป
" ใช่ครับ"
บุลินอ่านที่หมาป่าเขียนแล้ว พิมพ์ตอบ
"ไม่เห็นหมวดบอกผมก่อนเลยว่ามีการเปลี่ยนแปลงผลการชันสูตร"
บุลินพิมพ์ข้อความตอบ
"พอดีผมยุ่งๆ อยู่น่ะครับ เอางี้ เรานัดเจอกันเลยดีกว่า ผมอยากจะพบตัวคุณเป็นๆ อยู่เหมือนกัน"
ไลน์หมาป่าเด้งเข้ามา
" ด้วยความยินดีครับหมวด"
บุลินพิมพ์ตอบ
" งั้น 6 โมงเย็นวันนี้ที่ร้านตามโลเคชั่นที่ผมส่งไปให้นะครับ"
กานดาเปิดตู้เสื้อผ้าตั้งโอ๋แล้วมองๆ หาชุดใส่
"ตั้งโอ๋ ขอยืมเสื้อสักตัวนะ" กานดามองๆที่เสื้อบนราวแขวนมีแต่แบบหญิงๆ "โห มีแต่แบบหญิงจ๋าทั้งนั้นเลยอ่ะ ไม่มีเสื้อยืดเบาๆ เหลือสักตัวเลยเหรอ"
กานดาก้มลงไปมองหาเสื้อผ้าที่ชั้นล่าง ผ้าพับๆ แล้วบังเอิญดึงเสื้อแจ็คเก็ตของบุลินออกมาได้
กานดามองจำได้ว่าเป็นเสื้อบุลิน
"นี่มันเสื้อพี่หมวดนี่นา ทำไมมาอยู่กับตั้งโอ๋ล่ะ.... ฮึ...หรือว่า.... พี่หมวดคือสาเหตุที่ทำให้ตั้งโอ๋มีอาการเบื่อนายเข้ม"
กานดาคิดเองเออเองแล้วตะลึง ...
บ้านหลังหนึ่งในซอยที่จอดรถไม่ได้ เวลาพลบค่ำ
ต้อมกับตั้งโอ๋กําลังยืนคุยกับชาย1 เจ้าของบ้านอยู่หน้าบ้าน
"ขอโทษนะครับที่มารบกวน ผมอยากจะทราบว่า คุณรู้จักคนในรูปนี้ไหมครับ"
ต้อมยื่นรูปถ่ายของซินดี้ไปให้ชาย1 ดู
" โอ้โฮ สวยจัง ...ไม่รู้จักหรอก"
"ดูให้ดีๆ นะฮะ ...เนี่ยนามสกุลเดียวกับที่บ้านคุณเลยนะ"
ต้อมบุ้ยใบ้ไปที่ป้ายหน้าบ้านเขียนว่า “ บ้านนายถนอม อิสรภาพ”
"ซินดี้ อิสรภาพ เออจริงด้วย นามสกุลเหมือนกัน แต่ผมไม่รู้จักหรอกไม่ใช่ญาติผมแน่ๆ"
ชาย1ส่งรูปคืนให้ ต้อมสีหน้าผิดหวัง
โอ๋กับต้อมเดินคุยกันออกมาที่จอดรถ
"เอ ทำไมนามสกุลเหมือนกันถึงไม่รู้จักกันล่ะ"
" อาจจะญาติคนละสายก็ได้พี่ต้อม"
" เออนั่นสิ เดี๋ยวต้องลองตามคนอื่นๆ ดูจนกว่าจะรู้ว่าเป็นญาติใคร"
ต้อมเก็บรูป เก็บสมุดโน้ตเล็กๆ ที่จดชื่อ ที่อยู่ต่างๆ เข้ากระเป๋าสะพาย
" นี่พี่ต้อมต้องจริงจังกับการตามหาญาติพี่ซินดี้ขนาดนี้เลยเหรอ"
"ถ้าเราไม่รู้อนาคต เราก็ต้องกลับไปหาอดีตก่อน พี่เชื่อว่า ถ้าเรารู้ปูมหลังของซินดี้
อย่างถ่องแท้ มันจะช่วยให้เราหาวิธียับยั้งซินดี้ได้อย่างแน่นอน"
" ลึกซึ้งอ่ะพี่ต้อม"
ซินดี้อยู่ในหลุมโดนมัดมือเอาไว้ ขมุบขมิบปากท่องมนต์ขึ้นมา แลดูหลอน
ตั้งโอ๋รู้สึกร้อนบริเวณคอ คันคะเยอขึ้นมา เกาใหญ่
" โอ้ย อยู่ๆ ทำไมถึงได้คันงี้ล่ะ คันๆๆ"
"เฮ้ย คอขึ้นตุ่มแดงไปหมดเลยนี่ ภูมิแพ้กําเริบหรือเปล่า"
" ไม่ไหวแล้ว" ตั้งโอ๋ถอดสร้อยออกมาใส่มือต้อม "พี่ต้อมฝากด้วยนะ ตั้งโอ๋ไปซื้อยาแก้แพ้ก่อน"
ตั้งโอ๋วิ่งปรื๊ดออกไปเลย
ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตอนพลบคํ่า
บุลินนั่งรอหมาป่าตามที่นัดหมาย ดูนาฬิกา เวลาเลยที่นัดหมายไปครึ่งชั่วโมงแล้ว
" ทำไมป่านนี้ยังไม่มาอีก"
บุลินหยิบมือถือขึ้นมาจะพิมพ์ ไลน์ของหมาป่าเด้งขึ้นมาก่อน
"ขอโทษนะครับผมมาไม่ได้แล้ว รถเสียกะทันหัน ไว้โอกาสหน้านะครับหมวด"
บุลินเซ็งไป
ตั้งโอ๋ยืนอยู่หน้าร้าน กินยา แล้วต้อมส่งขวดนํ้าเปล่าให้ดื่ม
"เป็นไง ตั้งโอ๋"
" กินยาแล้วเดี๋ยวคงดีขึ้น"
"ดีแล้ว" ต้อมก้มลงค้นสร้อยพระในกระเป๋า "อะ เดี๋ยวนะเอาพระของเธอคืนไป"
ซินดี้ ขมุบขมิบปาก ท่องมนตรา อย่างต่อเนื่อง
ต้อมจะยื่นพระให้ ตั้งโอ๋เปลี่ยนท่าทีแข็งกร้าวขึ้นปัดมือต้อมออกจนต้อมเซถลา
แล้วตั้งโอ๋วิ่งหนีออกไป ต้อมตกใจรีบวิ่งตาม
"ตั้งโอ๋ หยุดนะ ตั้งโอ๋จะไปไหน"
ตั้งโอ๋วิ่งออกไปตามทาง มุ่งหน้าหาหนทางไปปลดปล่อยซินดี้ที่ถูกมัดฝังไว้ในหลุม
ต้อมวิ่งตามหลังมา ร้องเรียก ด้วยความเป็นห่วง
ซินดี้ว่าคาถา ขมุบปากแรงขึ้น เร่งจังหวะ
ตั้งโอ๋กําลังจะวิ่งข้ามถนน
รถบุลินแล่นเลี้ยวเข้ามาพอดี เบิ่งตาโตเกือบชน
ตั้งโอ๋ยืนแข็งทื่อกลางถนน
บุลินเบรกรถเอี๊ยดทันเวลา
ตั้งโอ๋ยืนนิ่งกลางถนน บุลินเปิดประตูรถลงมาเรียก
" ตั้งโอ๋!"
ต้อมวิ่งตามตั้งโอ๋ มามองเห็นร้องเรียก
"หมวดจับตัวไว้"
ตั้งโอ๋หันจะวิ่งออกไปอีก บุลินเข้าไปล็อกตัว ตั้งโอ๋สะบัดแรง จนบุลินกระเด็นออกไป
ต้อมตามเข้ามาไปขวางตั้งโอ๋
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ ตั้งโอ๋"
ตั้งโอ๋ยกมือขึ้นบีบคอต้อม
"โอ้ย แก แกไม่ใช่ตั้งโอ๋แล้ว" ต้อมบอกบุลิน "หมวด พระ หยิบพระในกระเป๋าให้ที"
บุลินวิ่งเข้ามาล้วงพระจากกระเป๋าสะพายของต้อมออกมาสวมคอให้ตั้งโอ๋
ตั้งโอ๋ตัวกระตุกขึ้นแล้วสลบเป็นลมพับลงไปเลย
เวลาเดียวกัน ซินดี้ที่อยู่ในดินร้องกรี๊ดออกมาอย่างเจ็บปวด
"ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันไม่มีทางยอมแพ้ ฉันจะออกไปให้ได้!"
เวลาต่อเนื่องมา ที่ห้องนั่งเล่น
กานดารมยาดมให้ตั้งโอ๋ที่จมูก สักครู่ตั้งโอ๋ค่อยฟื้นลืมตาขึ้นมา
"เป็นไงบ้างตั้งโอ๋"
"นี่ฉันกลับมาอยู่บ้านตั้งแต่เมื่อไร"
"แต่ก็ยังจำได้ใช่มั้ยว่านี่เป็นบ้านของเรา" ต้อมถาม
"จำได้สิพี่ต้อม ก็ตั้งโอ๋ไปเดินตามหาญาติพี่ซินดี้กับพี่ต้อม แล้วอยู่ๆ ตั้งโอ๋ก็รู้สึก
วูบไปเลย"
"นั่นสิ อยู่ๆ ก็บ่นว่าคันคอเลยถอดสร้อยพระออก เท่านั้นแหละ แกก็ตาขวางขึ้นมาเชียว เรี่ยวแรงก็ไม่รู้มาจากไหนทำเอาฉันกับหมวดบุลินแทบเดี้ยงไปเลย"
"แสดงว่าซินดี้ต้องการใช้ตั้งโอ๋ไปทำอะไรแน่ๆ" เข้มบอก
" เป็นไปได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะตอนนี้เขาถูกขังอยู่ในดิน เพราะฉะนั้นเขาก็คง ต้องการแขนขาไปทำงานแทน ...ขอความร่วมมือจากทุกคนด้วยนะ ครับ ช่วยดูแลตั้งโอ๋อย่าให้ถอดสร้อยพระออกจากคออีกนะครับ"
กานดาเหลือบมองเห็นตั้งโอ๋มองบุลินแบบแอบปลื้มอยู่แว่บนึงพอดี
กานดามองหนักใจ
บุลินกําลังจะเปิดประตูรถขึ้นไป กานดาออกมาจากบ้านเรียก
"พี่หมวด"
บุลินหันมาหา
"อ่อ กานดา มีอะไร"
"ฉันว่าตั้งโอ๋ชอบพี่หมวดนะ"
บุลินอึ้งหันไปหา
"ฮึ ว่าไงนะ"
"จริงๆ"
บุลินมึนๆ "เดี๋ยว...เอาอะไรมาพูด"
"อะ พี่หมวดจะรู้หรือทำเป็นไม่รู้ก็แล้วแต่ ฉันแค่อยากจะบอกว่า ...ฉันไม่ได้ว่า อะไรถ้าพี่หมวดจะคบสาวประเภทสอง แต่ถ้าไม่ได้ชอบเขาจริงพี่ก็อย่าไปทำให้เขารัก เขาหลง อย่าไปเล่นกับความรู้สึกของใครเลยนะ มันจะเป็นบาปเปล่าๆ"
กานดาเดินกลับเข้าไป
บุลินอึ้งพูดไม่ออก
วันใหม่ แพรวาเข้ามานั่งที่โต๊ะเตรียมจะทำงาน
แพรวาเปิดแฟ้มเอกสารขึ้นดูแล้วแปลกใจมีการ์ดวางแทรกอยู่ในแฟ้ม หยิบขึ้นมาเปิดอ่าน
ข้อความในการ์ด เขียนว่า “ผมขอโทษ” ... ภาวัช
แพรวาอึ้ง แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ถังขยะทิ้งการ์ดลงไป
" คุณนี่มันเคยตัวจริงๆ ...กี่ครั้งแล้วที่ทำตัวไม่รู้จักคิด"
ทิพย์เปิดประตูห้องเข้ามาหาหน้าตาตื่น
"คุณแพรวาคะ เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ"
" อะไรทิพย์"
"คุณภาวัชค่ะ คุณภาวัชตกนํ้า"
" อะไรนะ"
แพรวาวิ่งเข้ามาหาภาวัชที่สระน้ำบนดาดฟ้า หน้าตาตื่น
" ภาวัช ๆ คุณอย่าเป็นอะไรนะ ภาวัช !"
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ทุกอย่างสงัด แพรวาเหลียวมองอีกไปทั่ว กังวล ไม่สบายใจ เป็นห่วง
" ภาวัช คุณอยู่ไหน ....ภาวัช ภาวัช"
มุมหนึ่งภาวัชถือช่อดอกไม้เดินเข้ามา
" ผมอยู่นี่ครับ"
แพรวาหันไปมอง อึ้ง ภาวัชเดินเข้ามาใกล้แพรวา
" ผมผิดไปแล้ว ผมขอโทษ ให้อภัยผมด้วยนะครับ"
" นึกว่าทำแบบนี้แล้วฉันจะยกโทษให้ง่ายๆ เหรอ"
" ก็แล้วแต่คุณ แต่ขอให้ผมได้พูดสิ่งที่ผมรู้สึกจากใจว่าผมเสียใจ คุณจะทุบตีด่าทอผมยังไงก็ได้ แต่ได้โปรดรับดอกไม้ช่อนี้แทนคำขอโทษของผมด้วยนะครับ"
ภาวัชคุกเข่าลง แพรวาอึ้ง
" คุณยังเป็นห่วงผม คุณถึงได้มาหาผมไม่ใช่เหรอ ผมสัญญาว่าผมจะไม่นอกใจคุณ
อีกแล้ว ยกโทษให้ผมนะครับคุณแพร"
ภาวัชอ้อนสุดฤทธิ์ แพรวาใจอ่อนจนได้
" ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ" แพรวายื่นมือออกไปรับช่อดอกไม้
ภาวัชยิ้มดีใจเข้าไปสวมกอดแพรวา
ทิพย์กับเหล่าแม่บ้านออกมาจากที่ซ่อนแล้วดึงเปเปอร์ชู้ทเฉลิมฉลองยินดี
"เย้ๆ ดีใจด้วยค่ะ"
แพรวามองทุกคนแล้วอึ้ง งงๆ ยิ้มๆ
" นี่เตี๊ยมกันมาก่อนใช่มั้ย ... นี่เธอก็ด้วยหรือทิพย์"
" ครับ ทิพย์เขาเป็นคนตัวตั้งตัวตี จัดข้าวของ วางแผนให้ผมทุกอย่างเลยนะครับ"
" เธอไม่กลัวผิดศีลข้อมุสาแล้วเหรอทิพย์ ถึงได้มาต้มฉันเสียเปื่อย คำเดียวก็ไม่
ปริปากบอกเลยนะ"
ทิพย์พูดกับแพรวาอย่างแสนดี
"ค่ะ ถ้าบาปนั้นทำให้คุณแพรวากับคุณภาวัชคืนดีกันได้ ทิพย์ยอมไปใช้กรรมในนรกค่ะ....ขอให้คุณแพรกับคุณภาวัชมีความสุขมากๆ นะคะ"
ทุกคนยิงเปเปอร์ชู้ทให้ภาวัช แพรวา ฟิ้วฟ้าวมีความสุข ทิพย์ยิ้มมองมีความสุขด้วยอีก
คืนนั้น การแสดงของโกกิบนเวที จนกระทั่งการแสดงจบ
ทุกคนแยกย้ายกลับบ้าน
มดแดงยืนตบแป้งอยู่มุมหนึ่ง แบบยืนรอตั้งโอ๋ จะขอกลับด้วย
มดแดงตบแป้งไปด้วย
"นังตั้งโอ๋มัวทำอะไรอยู่ไม่ออกมาเสียที"
มดแดงเหลือบมองไปเห็นโกกิควงแขนออกมากับกะเพราที่ช่วยถือกระเป๋าสะพายให้ เดินไปที่ลานจอดรถ อย่างหยอกล้อสนิทสนม มดแดงมองทะแม่งๆ
" อุ้ย นังคู่ขาอาเพศ ตัวติดกันเป็นรัก-ยมเชียวนะ"
ตั้งโอ๋วิ่งเข้ามาหา มดแดงเรียกขึ้น
" เจ๊ รอนานมั้ย"
มดแดงตกใจ
"ว้าย แม่เจ้ากะเพราไก่ นี่แกแหกปากทำไม ฉันตกใจหมด"
" เอ้า ใครจะไปรู้ล่ะเจ๊เหม่ออะไร"
มดแดงจับหน้าตั้งโอ๋หันไปมอง
"ดูนั่นที่ 9 นาฬิกา แกเห็นนางชะนีเทียมสองตนนั้นซิ ระริกระรี้ยังกับปลาบู่ฤดูผสมพันธุ์มั้ย"
" บ้าน่า เจ๊ ....โกกิเขาบอกแล้วว่าเขาสนิทกันเหมือนพี่น้อง"
" แหมตอบแบบดาราเลยนะยะ..แต่ฉันไม่เชื่อหรอก สองคนเนี่ยมันต้องมีอะไรแน่ๆ..นี่นังตั้งโอ๋คืนนี้หลังจากที่แกไปซื้อเครื่องสำอางที่ห้องฉันแล้ว แกต้องไปกับฉันนะ"
" ไปไหนเจ๊"
" ไปจับโกหกนังโกกิกับนังกะเพรานะสิ ว่ามันเป็นพี่น้องท้องติดกันหรือเปล่า"
นาฬิกาบนผนังตีบอกเวลาเที่ยงคืน
มดแดงกับตั้งโอ๋ย่องมาที่หน้าห้องโกกิ มดแดงชูพวงกุญแจสำรองออกมา
มดแดงยื่นให้ตั้งโอ๋
"อะ ฉันแอบปั๊มกุญแจสำรองจากแม่บ้านไว้นานแล้ว แกเป็นคนไขกุญแจ ฉันจะถ่ายคลิปเอง โอเค๊"
ตั้งโอ๋รับกุญแจไป "จะดีเหรอเจ๊"
เสียงผู้หญิงร้องคราง ชวนให้เข้าใจผิดดังออกมาจากห้องโกกิ
" ซี้ดดด อู้ยยย ..."
มดแดงตาลุก
"นั่นไง มันกําลังจํ้าจี้มะเขือเปราะกันอยู่เลย เร็วนังตั้งโอ๋เปิดประตูเดี๋ยวนี้"
ตั้งโอ๋ไขกุญแจแล้ว มดแดงรีบพรวดเข้าไปในห้อง ตั้งโอ๋ตาม
มดแดงพรวดพราดเข้ามาพร้อมเอามือถือถ่ายคลิป ตั้งโอ๋ตามหลัง
"เสร็จล่ะ นังเลสเบี้ยนลวงโลก" แต่พอมองเห็นแพรวายืนอยู่กับกะเพรา โกกิ แล้วตกใจ
"ว้าย คุณแพรวา!"
แพรวา กะเพรา โกกิกําลังยืนคุยกันอยู่ แล้วมีทีวีเปิดไว้ เป็นภาพหญิงชายกําลังกินส้มตำกันซี้ดซ้าดด ดังเข้ามา
"พวกเธอเข้ามาทำไม" แพรวงาถาม
"คือ หนู หนูนึกว่าโกกิกับกะเพรากําลังฟิชเจอริ่งกันค่ะ ที่แท้เสียงทีวีเองเหรอ"
"พูดบ้าๆคุณแพรวาเข้ามาคุยเรื่องตบแต่งห้องให้โกกิใหม่ พี่กะเพราก็มีญาติเป็นผู้รับเหมาที่จะจ้างมาทำห้องให้ ไม่มีใครเขาทำอะไรอุบาทว์ๆอย่างที่เจ๊คิดหรอก"
"นั่นสิคะ หัวสมองเจ๊มดแดงอ่ะคิดแต่เรื่องลามกสกปรกจริงๆ เลยนะคะ" กะเพราบอก
" หุบปากเลยนังกะเพรา ฉันน่ะกินฮอร์โมนมาตั้งแต่หล่อนยังเป็นหัวโปกอยู่นะ ให้ความเคารพรุ่นพี่บ้างค่ะ"
" เอาล่ะอย่าทะเลาะกัน ถ้าเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ให้มันแล้วๆไปเถอะ แยกย้ายกันไปได้"
แพรวาพูด มดแดงกับตั้งโอ๋เจื่อน
ตั้งโอ๋กับมดแดงอยู่ในลิฟต์
" ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าลางสังหรณ์ของฉันจะผิดพลาดได้ขนาดนี้"
" พอเถอะเจ๊ แค่นี้ก็หน้าแตกละเอียดหมอไม่รับเย็บแล้ว"
"เออๆ ไม่ต้องซํ้าเติมและ ขอฉันไปซัดพาราสัก10เม็ดก่อนนะ"
ลิฟต์ถึงชั้นที่มดแดงอยู่ มดแดงออกไป เหลือตั้งโอ๋กดลิฟต์ลงไปข้างล่าง
ลิฟต์เปิดออกมา ตั้งโอ๋ก้าวออกมาแล้วเจอกับภาวัชที่กําลังจะสวนขึ้นไป ชนกันเบาๆ
ภาวัชจับตัวตั้งโอ๋ไว้
" ขอโทษค่ะคุณภาวัช ตั้งโอ๋ซุ่มซ่ามเอง"
ตั้งโอ๋รีบเดินออกไป ภาวัชมองตามมีความหื่น
ตั้งโอ๋กําลังยืนอยู่หน้าอพาร์ทเม้นท์มองหารถรับจ้างอยู่ ภาวัชขับรถออกมาเทียบข้างหน้า แล้วลงจากรถมาหา
" ตั้งโอ๋ ไปด้วยกันสิเดี๋ยวฉันไปส่ง"
" อุ้ย ไม่ต้องหรอกค่ะคุณภาวัช อย่าลำบากเลย"
" ลำบากอะไรกัน ...ฉันว่ามันเป็นโอกาสอันดีนะที่เราจะได้คุยเรื่องซินดี้กันเสียที ฉันน่ะอยากเรียกร้องความยุติธรรมให้ซินดี้เขาจริงๆเลยนะ"
ตั้งโอ๋หูผึ่งขึ้นมา
"เรื่องพี่ซินดี้หรือคะ"
" ใช่ เธอไม่อยากรู้ข้อมูลของคนที่ฆ่าซินดี้เหรอ"
" อยากรู้สิคะ พูดอย่างนี้แสดงว่าคุณภาวัชต้องรู้อะไรมาแน่ๆ เลย"
ภาวัชยิ้มรับ "ฉันว่าเราไปหาที่นั่งคุยกันสักหน่อยดีมั้ย"
ตั้งโอ๋มองอย่างอยากรู้อยากเห็น
ในห้องทิพย์ เวลาเดียวกัน
ทิพย์ถือหนังสือสวดมนต์ แล้วสวดมนต์ตามซีดีที่เปิดคลอไป ช่วงสุดท้ายก่อนกดปิดซีดี
ทิพย์วางหนังสือสวดมนต์ลง แล้วเดินเข้าไปที่โต๊ะเครื่องแป้งมองหน้าตัวเองแตะริมฝีปากรู้สึกแห้งๆ
ทิพย์เปิดลิ้นชักหากระเป๋าเครื่องสำอางใบเล็กแล้วหาไม่เจอ ทิพย์กังวลใจขึ้นมาอย่างหนัก
"ฮี กระเป๋าเครื่องสำอางหายไปไหน ไปลืมไว้ที่ไหนเนี่ย"
หน้าทิพย์นึกคิดหา วุ่นวายใจ
ร้านอาหาร รีสอร์ทริมทะเล
ภาวัชตักอาหารให้ตั้งโอ๋
"อะ นี่เมนูเด็ดของที่นี่เลยนะ"
" ขอบคุณค่ะ แต่มันก็ดึกมากแล้ว คุณภาวัชเล่าเรื่องพี่ซินดี้ดีกว่าว่าใครเป็นฆาตกร"
" เธอนี่ใจร้อนจริง กินเป็นเพื่อนฉันหน่อยน่าฉันหิวข้าวจะแย่แล้ว"
" คุณภาวัชบอกตั้งโอ๋เองไม่ใช่หรือคะว่าอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้พี่ซินดี้ เราต้องรีบลงมือแล้วนะคะ ไม่อย่างนั้นไอ้ฆาตกรจะรู้ตัวเสียก่อน"
พนักงานชาย1 แอบเอายาใส่ในแก้วนํ้าส้ม คนแก้วให้ยาละลายดี
บนโต๊ะอาหาร ภาวัชทำเป็นอินไปกับตั้งโอ๋ด้วย
" นั่นสิ ป่านนี้ไอ้คนร้ายมันอาจกําลังคิดฆ่าปิดปากคนที่รู้ความลับของมัน"
ตั้งโอ๋อึ้ง ตาโตอินไปด้วย "ความลับอะไรคะ"
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน"
" โธ่คุณภาวัช ไอ้เราก็ตั้งใจฟังนึกว่าจะรู้เรื่อง"
" ฉันก็พูดไปตามความน่าจะเป็นนั่นแหละ แล้วเธอสงสัยใครอะ อย่าบอกนะว่าสงสัยฉัน"
" หนูจะไปสงสัยคุณทำไมล่ะคะ คุณภาวัชไม่เคยมีเรื่องกับพี่ซินดี้นี่คะ"
พนักงานเสิร์ฟเข้ามาเสิร์ฟนํ้าส้มให้ตั้งโอ๋ แล้วของภาวัชเป็นเบียร์
ภาวัชเหลือบสบตาพนักงานเสิร์ฟนิดนึงแบบรู้กัน แล้วพนักงานเสิร์ฟโค้งให้ออกไป
ภาวัชหยิบแก้วนํ้าส้มขึ้นมาชวนดื่ม
" งั้นเรามาฉลองกันหน่อยนะตั้งโอ๋ แด่มิตรภาพและความถูกต้อง"
" ค่ะ มิตรภาพและความถูกต้อง"
ตั้งโอ๋ชนแก้วกับภาวัชแล้วยกแก้วนํ้าส้มขึ้นจะดื่ม
ภาวัชมองลุ้นให้ตั้งโอ๋ดื่ม
ตั้งโอ๋เกือบจะดื่มแล้วปรากฏว่ามีหญิง1 เดินเมาเซเข้ามาแล้วล้มแปะใส่ตั้งโอ๋ แก้วนํ้าส้มหกหมด
ทั้งหมดวุ่นวายโกลาหลเล็กๆ
" ว้าย คุณ คุณเป็นไรไหมคะ"
ภาวัชมองเซ็งผิดแผนไม่ได้อย่างใจ
ต่อมา ตั้งโอ๋แบบเดินปัดๆ เสื้อที่โดนนํ้าส้มกระเซ็นหกใส่ออกมาจากห้องนํ้า แล้วเดินผ่าน
ซอกมุมหนึ่ง ภาวัชโผล่ออกมา
ตั้งโอ๋ตกใจ
"อุ๊ยคุณภาวัช ตั้งโอ๋กําลังว่าจะไปลาคุณอยู่พอดี"
" อะไรกันคุยกันก่อนสิ"
" เดี๋ยวไว้วันหลังดีกว่าค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้วคุณภาวัชไม่ต้องส่งหรอกนะคะ เดี๋ยวตั้งโอ๋โทรบอกแฟนตั้งโอ๋ให้มารับก็ได้"
ตั้งโอ๋หันเดินออกไป ภาวัชหน้าเปลี่ยนเป็นเข้มโหด เรียก
"ตั้งโอ๋"
ตั้งโอ๋หันมา ภาวัชต่อยท้องตั้งโอ๋แรงจนจุกหมดสติไป
ตั้งโอ๋นอนอยู่บนเตียง ภาวัชเดินเข้ามามองด้วยความหื่น แล้วนั่งลงข้างๆ
" เล่นตัวเหมือนนังซินดี้อีกคนแล้ว เดี๋ยวต้องจัดให้หนัก"
ภาวัชหัวเราะหึหึ ภาวัชยกมือมือลูบไล้ใบหน้าตั้งโอ๋ แล้วเห็นสร้อยพระที่แล่บออกมาจากเสื้อ
ภาวัชถอดสร้อยตั้งโอ๋ไปวางไว้บนหัวเตียง แล้วแกะกระดุมเสื้อตัวเองมองตั้งโอ๋จะกลืนกิน
ซินดี้ที่อยู่ในหลุมลืมตาขึ้น ขมุบขมิบปากท่องมนต์อีกอย่างมีหวัง
ภาวัชโยนเสื้อทิ้งแล้วก้มลงไปจะซุกไซ้ตั้งโอ๋
ตั้งโอ๋ลืมตาปัง!! แล้วผลักภาวัชกระเด็นตกเตียงไป
" นังตั้งโอ๋ แก!!! อยากเจ็บตัวใช่มั้ย"
ภาวัชพุ่งเข้าไปจะทำร้ายตั้งโอ๋
ตั้งโอ๋ตบเปรี้ยง ภาวัชเหมือนโดนช้างถีบ กระเด็นวืดไปผนังด้านหลังรูดลงไปกองกับพื้น
" โอ้ย"
ตั้งโอ๋ เดินไปที่ประตูเปิดออกไป
ภาวัชร้องตาม ลุกตามออกไป
" อีตั้งโอ๋!"
ตั้งโอ๋ไปไกลแล้ว ภาวัชยังไล่ตาม
"ตั้งโอ๋ แกนึกว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ หยุดนะเว้ย"
ทิพย์ถือร่มสีขาวเหมือนไม้เท้าจิกๆมากับพื้น เข้ามาขวางหน้า ภาวัชตาเหลือกตกใจ
" ทิพย์!"
ทิพย์ไม่พูดอะไรสักคำ มองภาวัชหน้าเรียบเฉย แล้วเดินพรวดเข้าไปในห้อง จนภาวัชต้องหลีก แล้วตามเข้าไปในห้องอีกที
" ทิพย์ เดี๋ยว ทิพย์ ฟังผมก่อนนะ"
ทิพย์วางร่มสีขาวแล้วเปิดลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางใบเล็กๆออกมา เปิดออกแล้วหยิบลิปสติก ตราผีเสื้อออกมาดู ที่แท้ ภาวัชไปซื้อลิปสติกให้ทิพย์นั่นเอง
"ลืมไว้ที่นี่จริงๆ ด้วย"
ภาวัชตามเข้ามาหน้าตาตื่น กลัวทิพย์จะไปแฉให้คนอื่นรู้
"ทิพย์ เรื่องตั้งโอ๋มันไม่ใช่อย่างที่คุณเข้าใจหรอกนะ ผมอธิบายได้"
ทิพย์ทำเป็นไม่ได้ยิน หมุนลิปสติกขึ้นมาแล้วทาปากตัวเองที่หน้ากระจก ทาไปแล้วก็พูดไปด้วย
"คุณแพรวานี่หลอกง่ายจังเลยนะคะ เชื่อไปได้ว่าคุณซื้อลิปสติกให้ซินดี้ แต่จริงๆ แล้วคนที่คุณซื้อให้ก็คือ ทิพย์ ...." เมื่อทาเสร็จแล้ว หันไปหาภาวัช "ทิพย์ชอบลิปสติกที่คุณซื้อให้จัง ทาแล้วทิพย์ก็ไม่แพ้ แล้วก็...น่าจูบมั้ยคะ"
ทิพย์เท้าสะเอวทำหน้าทำปากยั่วยวน เซ็กซี่ ผิดกับที่ท่าทีปกติที่เงียบหงิม
ภาวัชยิ้มออกมาแบบโล่งอก นึกว่าเคลียร์ได้ง่ายๆ
" เซ็กซี่ที่สุดเลยล่ะ ทูนหัว"
ทิพย์ทำเป็นกระดิกนิ้วเรียกภาวัชให้เข้าไปหา
ภาวัชเข้าไป โอบเอวทิพย์มากอด
" ผมนึกว่าคุณจะเหวี่ยงใส่ผมแล้ว คุณนี่สุดยอดจะเข้าใจผมจริงๆ เลยนะทิพย์"
ทิพย์ทำยิ้มๆ ให้ภาวัช
ภาวัชโน้มหน้าลงมาจะจูบปากทิพย์
ทิพย์จัดการหยิบร่มสีขาวฟาดใส่ภาวัช ภาวัชตะลึงได้แต่หลบหลีกหนี
" เฮ้ย โอ้ย ๆๆ ทิพย์ อย่า"
"มักมาก สํ่าส่อน!! ทิพย์จะไม่ทนเป็นเมียเก็บคุณอีกแล้ว ทิพย์จะไปบอกคุณแพรวา"
ทิพย์ปาร่มใส่ภาวัชแล้วรีบวิ่งออกจากห้องไปเลย
" บรรลัยแล้วว" ภาวัชหยิบเสื้อเดินไป ใส่แล้วออกไป "ทิพย์ ไม่เอาน่า ทิพย์ๆ"
ภาวัชรีบตามทิพย์ออกไป
ภาวัช วิ่งตามทิพย์ที่เดินออกมาริมถนน
" ทิพย์อย่าทำแบบนี้สิ มาคุยกันดีๆ ก่อน"
"ปล่อยนะ"
" ทิพย์ ผมยังไม่ได้มีอะไรกับตั้งโอ๋เลยนะ"
"ไม่ต้องมาแก้ตัว ทิพย์ไม่มีอะไรจะพูดกับผู้ชายหน้าหม้ออย่างคุณอีกแล้ว"
ทิพย์หันเดินจะวิ่งข้ามถนนไปอีกฝั่ง
ปรากฏแสงไฟจากรถคันหนึ่งสาดเข้ามา
ทิพย์ตกใจ
รถแล่นเข้ามาระยะกระชั้นชิด
ภาวัชมองตะลึง เป็นห่วง
" ทิพย์!"
ภาวัชรีบวิ่งออกไปดึงตัวทิพย์กลับเข้ามา แล้วล้มกลิ้งไปด้วยกัน
รถแล่นผ่านออกไป ภาวัชเหลียวมามองทิพย์
" คุณไม่เป็นไรแล้วนะทิพย์"
"คุณภาวัช"
ทั้งคู่ลุกขึ้นมานั่งมองหน้ากัน
" ผมยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อคุณ รู้หรือยังว่าคุณมีค่ากับผมแค่ไหน"
ทิพย์อึ้ง ความรู้สึกสับสน
" ถ้าคุณจะเลิกกับผมเพราะเรื่องกะเทยๆ นี่ก็ตามใจคุณนะ"
ภาวัชมองสบตาทิพย์ทำเป็นจริงจังจริงใจ
ทิพย์ยกมือขึ้นไปทุบอกภาวัชแล้วค่อยแรงขึ้นจนตัวเองปล่อยโฮ สะอื้นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด เก็บกด
"คนบ้า คนเลว คนชั่ว ฮือ ฮือ ฮือ ทำไม ...ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ทำไมทิพย์ห้ามตัวเองไม่ได้ ....ทำไมทิพย์ต้องทรยศคุณแพรวาแล้วมารักผู้ชายอย่างคุณ"
ทิพย์โผเข้าไปกอดภาวัช ร้องไห้
ภาวัชลูบผมทิพย์ ยิ้มกริ่มเข้าทาง
ฝ่ายตั้งโอ๋เดินหน้าตึง ไม่กระพริบตาเข้ามาที่หลุมของซินดี้ แล้วลงมือขุดดินด้วยมือเปล่า
ซินดี้อยู่ใต้ดินมองขึ้นไป เห็นตั้งโอ๋กําลังขุดลงมา
ตั้งโอ๋ขุดลงไปในดินจนเหงื่อท่วมหน้า
หลุมดินที่ลึกลงไป จนเห็นตุ๊กตาที่โดนมัดด้วยสายสิญจน์
ตั้งโอ๋หยิบตุ๊กตาขึ้นมาดึงด้ายที่พันไว้รอบออกจนหมด แล้วบีบตุ๊กตาด้วยมือเดียว ดินที่ปั้นมาก็แตกเป็นเสี่ยงไปกับตา พอดินตุ๊กตาร่วงไปกับพื้นก็บังเกิดควันระเบิดบึ้มขึ้น ควันคลุ้ง
กลุ่มควันจางหายแล้วเห็นร่างซินดี้ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้ามองจิกตั้งโอ๋
ตั้งโอ๋ตะลึง
"ทำงานได้ดีมาก ทาสที่ซื่อสัตย์ของฉัน"
ตั้งโอ๋ท่าทางเบลอๆ มองมือตัวเองดู เห็นเนื้อตัวมอมแมม เศษดินเต็มไปหมด
" นี่มัน ความฝันหรือความจริง"
"แกโชคดีแค่ไหนแล้ว ถ้าฉันไม่สะกดจิตแก แกโดนไอ้ภาวัชข่มขืนไปแล้ว"
" นายภาวัช!!! จะข่มขืนฉัน....พี่ซินดี้ช่วยฉัน"
ตั้งโอ๋ปรือตาเบลอๆ แบบจะไร้สติแล้ว แล้วเป็นลมสลบพับไปกองกับพื้น ด้วยความเหนื่อยล้าที่เผชิญมา
ซินดี้หัวเราะเยาะน้อยๆ แล้วพูดขึ้น
"ไม่ต้องห่วงนะนังตั้งโอ๋ ฉันจะช่วยแกแก้แค้นเอง"
ซินดี้เดินไปทางหนึ่ง ตั้งโอ๋นอนสลบอยู่ไม่รู้เรื่องรู้ราว
รถภาวัชจอดอยู่กลางสะพานปลา ทุกอย่างมืดสงัดมาก
ภาวัชกับทิพย์นั่งอยู่ในรถ หลังเคลียร์ปัญหากันแล้ว
"ทิพย์ต้องระวังตัวไว้บ้างนะ นังตั้งโอ๋เนี่ยมันหายใจเข้าหายใจออกเป็นเรื่องซินดี้จริงๆ ผมไม่อยากให้เรื่องของผมกับซินดี้หลุดออกไป"
"คุณก็เลยคิดจะจับตั้งโอ๋ทำเมียเหมือนที่คุณทำกับทิพย์ ตอนที่ทิพย์รู้ว่าคุณยักยอก
สมบัติของคุณแพรวาใช่มั้ย"
" ใครบอกคุณล่ะ มันไม่เหมือนกันซักหน่อย สำหรับคุณมันคือความรักนะ"
"ทั้งๆที่คุณนอนกับคุณแพรทุกวัน แล้วยังบอกมันว่าจะไม่ยอมเลิกกับมันเนี่ยนะ คุณโกหกไม่เนียนเลยนะคะคุณภาวัช!"
" ไม่เอาน่าทิพย์ อย่างอนสิ"
ภาวัชจะแตะตัวทิพย์ ทิพย์สะบัด แล้วค้อนขวับ
" โธ่ ผมก็เคยบอกคุณแล้วไงว่าทุกอย่างที่ผมทำกับคุณแพรมันเป็นแค่ละครฉากนึง
ผมล่ะเบื่อยายแก่นั่นจนจะอ้วกอยู่แล้ว" ภาวัชจับไหล่ทิพย์หันมา "พอผมได้สมบัติทั้งหมดของคุณแพร คุณก็รู้ดีนี่ว่าผมจะไปอยู่กับใคร"
ภาวัชเชยคางทิพย์ขึ้นเบาๆ แบบให้รู้ว่าไปอยู่กับเธอนั่นแหละ
"ทุกวันนี้ทิพย์ก็อยู่ได้เพราะคำสัญญานี้ ทิพย์ฝันทุกวันว่าทิพย์จะได้อยู่กินกับคุณอย่างเปิดเผย ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้"
ภาวัชมองทิพย์ตาเชื่อม ทำปลื้ม
" ทิพย์ คุณเป็นคนเดียวที่เข้าใจแล้วก็ดีกับผมมากที่สุด ผมต้องให้รางวัลคุณสักทีแล้ว"
ภาวัชตบหน้าทิพย์โครม เลือดไหลแค่ซิบๆ มุมปาก แล้วทิพย์ค่อยหันมา เลียเลือดซิบ
" ชอบใช่มั้ยล่ะ"
ภาวัชค่อยเข้าไปซุกไซ้ ปลํ้ากับทิพย์อย่างร้อนแรง
ด้านนอกรถ เงาของทั้งสองคนที่กําลังกอดรัดกันอยู่
บางอย่างเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วพุ่งเข้าไปที่รถ
ทิพย์หน้าแนบกระจกรถด้านข้างอยู่ ภาวัชปลํ้าอยู่ข้างหลัง แล้วทิพย์ลืมตาขึ้นเห็นหน้าซินดี้
ระยะใกล้แค่กระจกกัน แสยะยิ้มให้
ทิพย์ตกใจตาเหลือก ร้องกรี๊ดดออกมาสุดเสียง
ภาวัชตกใจ "เป็นไรทิพย์"
"ซินดี้!!! ทิพย์เห็นซินดี้"
" บ้าน่า ภาพหลอนมากกว่า"
"ทิพย์เห็นจริงๆ นะ ไม่เอาแล้ว ทิพย์ไม่อยู่แล้ว"
ทิพย์จะเปิดประตูรถออกไป แต่ปรากฏว่ารถล็อก เปิดไม่ออก
"ปลดล็อกสิคุณภาวัช เปิดประตู"
" มันล็อกที่ไหนล่ะ ผมไม่ได้ล็อก"
"แล้วทำไมมันเปิดไม่ได้ล่ะ"
ทิพย์หวาดกลัวตวาดลั่น ภาวัชพยายามจะเปิดประตูแต่เปิดไม่ออก
ภาวัชขยับประตูดู เปิดไม่ได้
"เปิดไม่ได้ เฮ้ย ใครเล่นตลกวะ เปิดประตู" ภาวัชทุบๆๆ
ทิพย์พนมมือสวดมนต์สั่นๆ กลัว
"นะโมตัสสะ ภะคะวะโต นะโมตัสสะภะคะวะโต"
ซินดี้เข้ามานั่งอยู่ที่เบาะหลังในรถ
"อีคนบาปหนา มึงอย่าสวดให้พระให้เจ้าลำบากใจเลย ...กูรำคาญ"
ทิพย์ ภาวัช เห็นซินดี้จะจะ ต่างร้องกรี๊ดกันลั่น พยายามจะออกไปแต่ก็ไม่สามารถออกไปได้
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
รถภาวัชขับออกไปได้เอง โดยที่ภาวัชไม่ได้ทำอะไรเลย
ทั้งภาวัชกับทิพย์ยิ่งตกใจกลัว
"ช่วยด้วย"
ด้านนอก รถภาวัชขับเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาพุ่งออกไปทางปลายสะพานที่เป็นทะเล
ในรถ ทิพย์พยายามต่อรอง
"อย่าทำอะไรพวกเราเลยนะซินดี้ ปล่อยเราไปเถอะ"
" ซินดี้ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะข่มขืนเธอหรอกนะ ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ"
"หึหึ ไอ้คำขอโทษมักง่ายแบบนี้ กูเกลียดนัก"
ซินดี้ยื่นมือออกไปบีบคอภาวัช ทิพย์ร้องลั่น
"ไม่นะซินดี้ อย่าจองเวรให้เป็นบาปเลย สงสารพวกเราเถอะ"
"สงสาร? ตอนกูยังไม่ตาย พวกมึงเคยสงสารกูมั้ย พวกมึงเคยเห็นกูเป็นคนเท่ากับพวกมึงมั้ย"
รถแล่นเร็วขึ้นจนทั้งทิพย์ ภาวัช ร้องกรี๊ดด้วยความกลัว
"ถึงเวลาที่พวกมึงต้องใช้หนี้ที่ทำไว้กับกูแล้ว"
รถแล่นเร็วขึ้น
ภาวัชกับทิพย์ร้องลั่นไม่เป็นประสา
รถใกล้จะตกทะเล ความตายอยู่แค่เอื้อม
อ่านต่อตอนที่ 15