xs
xsm
sm
md
lg

นางแค้น ตอนที่ 13

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นางแค้นตอนที่13

ซินดี้มองออกไปอย่างสะใจ

รถสิบล้อแล่นเข้ามาแล้วหักหลบรถบุลินไปได้อย่างเฉียดฉิว
ซินดี้ชักสีหน้าไม่พอใจ
"ออกไปซะไปให้พ้น"
ซินดี้โมโหเข้าไปยื้อพวงมาลัยรถพุ่งออกข้างทาง
"ปล่อยอย่า! "

รถบุลินกําลังไถลเข้าไปที่ต้นไม้
กายทิพย์ร่างโปร่งใสของแม่ชีปรากฏร่างขึ้นมาแล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาประมาณปางห้ามญาติ
รถบุลินหยุดกึกตรงหน้าแม่ชี
ซินดี้เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วทะลุรถออกมายืนตรงหน้าแม่ชี
"มายุ่งทำไม"
"อย่าก่อกรรมอีกเลย" น้ำเสียงสงบ เย็นของแม่ชีกล่าว
ซินดี้โมโหปุดขึ้นมา
"แส่นักหรือ"
ซินดี้ยกมือขึ้นทำท่าจะตบแม่ชี
แม่ชีโยนสร้อยประคำสีขาวในมือออกไปใส่ซินดี้
สร้อยประคำเข้าไปคล้องคอซินดี้กรี๊ดลั่นแล้วหงายหลังตึง
สร้อยประคำกลายเป็นเชือกสีขาวมัดร่างซินดี้
ซินดี้ยิ่งร้องยิ่งดิ้นเชือกก็ยิ่งมัดตัวซินดี้แน่นจนแทบขยับไม่ได้
"ปล่อยฉันแม่ชีบ้าปล่อยฉันเดี๋ยวนี้"
บุลินลงจากรถมามองดูหน้าตาตื่นแล้วเหลียวไปมองแม่ชี
"คุณน้าแม่ชี"
แม่ชียกมือขึ้นพนมแล้วท่องคาถาขมุบขมิบ
แล้วปรากฏว่าร่างของซินดี้กลายเป็นตุ๊กตาดินที่โดนมัดด้วยด้ายสายสิญจน์ตกอยู่กับพื้น
บุลินมองอย่างไม่เชื่อสายตา
แม่ชีลืมตาขึ้นแล้วพูดกับบุลิน
"บุลินหยิบตุ๊กตาไปฝังดิน!"

ใต้โคนต้นไม้บุลินขุดดินลึกลงไปประมาณนึงเสร็จพอดี
บุลินหยิบตุ๊กตาดินนั้นวางลงไปในหลุมแล้วกลบดินเสร็จแล้วหันมาทางแม่ชี
"เรียบร้อยแล้วครับคุณน้าแม่ชี"
แม่ชีพยักหน้ารับแล้วพูดขึ้น
"น้าสะกดวิญญาณซินดี้ไว้ในตุ๊กตาดินต่อไปนี้วิญญาณซินดี้ก็จะสิ้นฤทธิ์ไปฆ่าใครไม่ได้แล้ว"
"จริงหรือครับ"
"ตราบใดที่ตุ๊กตาดินยังอยู่ซินดี้ก็ไม่สามารถไปอาละวาดที่ไหนได้"

ในดิน
ซินดี้นอนอยู่ในหลุมโดนมัดเหมือนที่ตุ๊กตาโดนมัดร้องตะโกนขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด
"นังแม่ชีบ้าอย่าให้ฉันหลุดออกไปนะฉันจะฆ่าแก"

แม่ชีพูดตอบซินดี้
"เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรนะซินดี้ที่ฉันยังไม่ทำลายวิญญาณของเธอเพราะฉันอยากจะให้โอกาสให้เธอกลับตัวกลับใจเธอสำนึกผิดได้เมื่อไรฉันจะมาปลดปล่อยเธอ"

ซินดี้เข่นเขี้ยวเหวี่ยงด้วยความไม่พอใจอย่างแรง
"เกินไปแล้วแกนึกว่าแกเป็นใครถึงมาสั่งสอนฉันแบบนี้"

บุลินมองทางหลุมอยู่ได้ยินที่ซินดี้พูดเลยพูดขึ้นมา
"ผมว่าคุณน้าคงไม่มีทางได้มาปลดปล่อยวิญญาณแถวนี้แล้วล่ะครับ" บุลินหันกลับมาหาแม่ชียกมือไหว้ "ผมขอบคุณคุณน้าแม่ชีมากๆนะครับที่มาช่วยผม"
"ไม่เป็นไรที่น้ามาช่วยได้ก็เพราะบุลินยังไม่ถึงฆาตเอาล่ะน้าคงต้องกลับแล้วน้าใช้พลังกายทิพย์ไปมากแล้ว"
"ครับขอบคุณคุณน้าอีกครั้งครับที่เมตตา" บุลินยกมือไหว้อีกครั้ง
น้าแม่ชียิ้มอ่อนแล้วค่อยหายตัวออกไป
เสียงซินดี้ดังแทรกเข้ามา
"บุลินปล่อยฉันเถอะ....บุลินในนี้มันทั้งหนาวทั้งเจ็บปวด"
บุลินมองที่หลุมตอบโต้ซินดี้
"อยู่ในนั้นก็ดีแล้วเธอจะได้เลิกทำบาปเสียที"
สีหน้าบุลินจริงจัง

อพาร์ทเม้นท์เพลินพิมานเช้าตรู่วันใหม่
มดแดงใส่ชุดวอร์มเดินลงบันไดมาจากชั้นบน
"อีลิฟต์หอยหลอดหอยกาบนึกจะเสียก็เสียซะงั้น" มดแดงมองไปรอบๆกลัวๆ "นี่คง
ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็นนะอู้ยขนหัวลุกวูบๆมะไม่ใช่วะวิญวิญญาณนังซินดี้หรอกนะ"
มดแดงเหลือบมองไปเห็นกะเพราเปิดประตูออกมาจากห้องโกกิพอดี
มดแดงตกใจนึกว่าผีหลอก
"อ๊ายผีหลอก"
กะเพราก็สะดุ้งร้องตกใจเหมือนกัน
แล้วมดแดงค่อยมองใหม่อีกทีเห็นว่าไม่ใช่
"อ๊ายนังกะเพราหล่อนโผล่มาทำไมแต่เช้าหล่อนมาทำอะไรยะ"
"เปล่าๆค่า" กระเพราจะเดินหนี
มดแดงขวางไม่ให้ไป "เดี๋ยวๆฉันเห็นนะว่าแกออกมาจากห้องนังโกกิแกไปขโมยของใช่มั้ยนังหัวขโมยจับได้แล้ว"
"เปล่านะเจ๊หนูเปล่า"
"ยังมาแก้ตัวอีกนังกะเพราฉันไม่นึกเลยนะว่าหล่อนจะเป็นคนแบบนี้หนอยมาตีหน้าใสซื่อให้ตายใจใช่มั้ยแกเข้าไปจกอะไรในห้องนังโกกิสารภาพมาเดี๋ยวนี้เลยนะ"
โกกิเปิดประตูห้องออกมาอย่างงัวเงีย
"โอ้ยเปรตสูงวัยที่ไหนมาตะโกนโหวกเหวกอยู่ได้"
"นังปลาม้านี่ฉันอุตส่าห์มาช่วยหล่อนจับขโมยนะยะ"
"ขมงขโมยอะไรเพ้อแต่เช้านะอีเจ๊"
"ก็นังกะเพรานี่ไงฉันเห็นมันย่องออกมาจากห้องหล่อนรีบเข้าไปเช็คเลยว่ามีอะไรหายบ้าง"
"โอ้ยมโนนพรัตน์ราชธานีมากเลยนะเจ๊นี่" โกกิชี้ปากตัวเอง "ดูปากนะฉันเป็นคนให้พี่กะเพรามานอนเป็นเพื่อนฉันเองแหละ"
"อะไรนะ"
"เจ๊มดแดงหูตึงหรือคะ"
"อีปากเป็ด...ฉันตะลึงย่ะ ...นี่หล่อนคิดยังไงถึงเอานังกะเพรามานอนนี่หล่อนคงไม่ได้...อ๊าย..อาเพศ...หล่อนไม่ได้กินกันเองหรอกนะ"
โกกิทำเป็นแก้ตัว
"บ้า...ใครจะไปทำอะไรแบบนั้น" โกกิจับมือกะเพรา "ฉันกับพี่กะเพรารักกันแบบพี่น้อง"
"ใช่ค่ะพอดีคุณโกกิกลัวผีน่ะค่ะเจ๊...ก็เลยให้หนูมานอนเป็นเพื่อน"
มดแดงจิกพูดสำทับอีกที
"แน่นะ ..อย่าลืมนะว่ากฎของที่นี่ห้ามเอาผู้ชายมานอนด้วย"
"ฉันรู้ไม่งั้นฉันจะเอาพี่กะเพรามานอนทำไมล่ะไปดีกว่าขี้เกียจคุยเรื่องไร้สาระ"
โกกิปิดประตูปังเข้าไปมดแดงสะดุ้งด่าต่อ
"ดู๊ดูมันทำนังไก่ฟาร์มเปิดฉันอุตส่าห์เตือนหล่อนด้วยความหวังดีนะยะ"

มดแดงมองเข่นเขี้ยว

ในห้องคนไข้ในโรงพยาบาล กานดาคุยface time กับจ่ายอดจ่าโอ

"จ่าว่าอะไรนะพี่หมวดสั่งให้จ่าไปรื้อผลชันสูตรศพซินดี้อีกครั้งว่าตายเพราะอะไรกันแน่อย่างนั้นเหรอ"
จ่าโอเฟซไทม์ตอบ
"ครับผมแต่ไม่ต้องห่วงถ้าถึงมือจ่าโอแล้วไม่มีพลาด"
จ่ายอดไถลเข้ามาแจม
"แมงโม้บินว่อนเลยว่ะ ... หมวดจะฝากงานใครก็ดูหนังหน้าหน่อยนะครับสุดยอดมือสืบสวนมันผมเพราะผมไม่เคยกลัวผู้มีอิทธิพลหน้าไหนทั้งนั้น"
"สุดยอดไม่กลัวผู้มีอิทธิพลแต่กลัวผีจนจับไข้ไปนอนโรงบาลใช่มั้ยจ่า"
อู้ยยหงายเงิบ"

บุลินเดินเข้ามาในห้องกานดาเหลือบมองเห็น
"แค่นี้ก่อนนะจ่า" กานดาวางสายแล้วทักทายบุลิน "พี่หมวด"
บุลินเดินเข้ามาหา"นี่เธอป่วยอยู่ไม่ใช่เหรอยังทำงานอีก"
"ก็ฉันน้องพี่หมวดนี่ขืนให้พี่หมวดนอนอยู่เฉยๆคงเป็นโรคประสาทแน่ๆ"
"นี่แน่ใจนะว่าชม"
"ฮ่าฮ่าขำๆน่าพี่" กานดาหยิบไอแพดขึ้นมาถือ "อะไปสูดอากาศข้างนอกกันดีกว่าฉันมีอะไรมาอวดพี่ด้วย"
"เรื่องอะไร"
บุลินถาม

กานดานั่งบนรถเข็นยื่นไอแพดให้บุลินที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้สวนหย่อมตรงหน้า
"นี่เป็นข้อมูลที่จัดเก็บสถิติระยะเวลาที่เกิดเหตุฆาตกรรมในคดีที่เกี่ยวข้องกับซินดี้"
บุลินรับไปสไลด์ดูแล้วอ่านข้อมูล
"ทุกคดีจะเกิดเหตุในวันก่อนวันพระ 1 วัน"
"ใช่พี่หมวดไม่ว่าจะเป็นคดีนายอ้วนนายสุทินอดีตสปอนเซอร์รายใหญ่ป้ามี่นายหรั่งทุกคนตายในวันก่อนวันพระเหมือนกัน"
"หมายความว่าซินดี้ออกฆ่าคนก่อนวันพระ1วัน"
"ความน่าจะเป็นคืออย่างนั้นนะพี่หมวด"
"แต่ตอนนี้มันจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว"
"อ้าวเกิดอะไรขึ้น"
"คุณน้าแม่ชีสะกดวิญญาณซินดี้แล้วเอาไปฝังดินเพื่อไม่ให้ออกมาอาละวาดทำร้ายคนอีก"
"จริงหรือพี่หมวดแบบนี้ก็เยี่ยมไปเลยคนที่ไม่ได้เป็นฆาตกรจะได้ปลอดภัย"
"แต่ถึงยังไงเราก็จะวางใจร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ ....สัญชาตญาณของตำรวจสอนให้เรามีแผนสำรองเสมอ"
"พี่หมวดหมายความว่าไงพี่หมวดจะทำอะไร"
"ไว้พรุ่งนี้พี่จะไปจัดการกับบุคคลที่อาจจะเป็นแขนขาให้ซินดี้น่ะสิ"
บุลินมีไอเดียในใจ

ตั้งโอ๋กําลังแต่งหน้าให้มดแดงที่โดนต่อยจนเบ้าตาชํ้า
"โอ้ยเบาๆฉันเจ็บนะนังตั้งโอ๋"
"เจ๊นะเจ๊ ...ก็รู้อยู่ว่าไอ้นั่นมันมาปอกลอกเจ๊ไปยอมให้ผู้ชายมันหลอกมันซ้อมอย่างนี้ได้ไง"
"แกไม่ต้องมาซํ้าเติมฉันได้มั้ย"
"ไม่ได้ซํ้าเติมฉันแค่ไม่อยากเห็นเจ๊เจ็บตัวโดยไม่จำเป็นแบบนี้"
"เอาไว้แกโดนเองบ้างเถอะแล้วแกจะรู้ว่ากะเทยไม่ได้โง่แค่เรารักผู้ชาย"
บุลินเดินเข้ามานางโชว์1 แถวนั้นทักขึ้น
"อุ้ยผู้หมวดสุดหล่อมาทำอะไรคะ"
บุลินไม่ตอบอะไรเข้าไปดึงแขนตั้งโอ๋ให้ออกไปข้างนอก
"อะไรอ่ะหมวดนี่หมวดจะทำอะไรฉันทำงานอยู่นะ"
"ไปฉันมีเรื่องจะพูดด้วย"
บุลินดึงตั้งโอ๋ไปเลยมดแดงมองตามหมั่นไส้แกมสงสัย

"ตายแล้วนังตั้งโอ๋นังสลิดดกมีผัวแล้วไม่พอนี่อย่าบอกนะว่าแกกิ๊กกับหมวดบุลินอีกคน!"

บุลินดึงตั้งโอ๋มาที่ถนนด้านหลังโรงละคร

"มานี่..."
"หมวดเรื่องอะไรกันเนี่ยพูดมาเลยดีกว่า"
"ฉันมีอะไรจะให้เธอ"
"ฮึอ๋อฉันรู้แล้วจะมายัดใบสั่งชั้นใช่มั้ย"
บุลินกรอกตา "อย่ามาปัญญาอ่อนดีกว่า"
ตั้งโอ๋ขยับจะเถียง"อะไรนี่ว่าฉันเหรอ"
"พอ....ยืนเฉยๆไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นจะน่ารักที่สุด"
ตั้งโอ๋อึ้งๆไม่กล้าเถียงเวลาบุลินเอาจริง
บุลินค่อยถอดสร้อยพระที่คอออกมา
"พระของฉัน ...ฉันให้เธอ"
บุลินค่อยๆสวมสร้อยพระลงที่คอตั้งโอ๋
ตั้งโอ๋อึ้งไปรู้สึกเขิน
"หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์มาก...เก็บรักษาให้ดีๆ"
"หมวดให้พระฉันทำไมนี่หมวดคิดอะไรกับฉันหรือเปล่าเนี่ย"
"คิด"
"ฮะ!"
"คิดว่าเธอจะได้ไม่โดนผีซินดี้สะกดจิตให้ทำอะไรแปลกๆอีกน่ะสิ"
"โธ่ ...ก็นึกว่า"
"นึกว่าอะไร"
"เปล่า ...เปล่าไม่มีอะไรหรอกฉันไปทำงานล่ะ"
ตั้งโอ๋หันจะเดินออกไปบุลินเรียกไว้อีก
"เดี๋ยว"
ตั้งโอ๋ชะงักกึกทำท่าแบบหวั่นๆใจมีแอบหวัง
"อะไรหมวด"
บุลินเดินเข้ามาตรงหน้าตั้งโอ๋แล้ววางมือบนไหล่ทั้งสองข้างก้มลงมาจ้องตา
"ฉันขอยํ้านะฉันไม่อยากให้เธอเป็นเครื่องมือของซินดี้เพราะฉะนั้นอย่าถอดสร้อยพระออกจากคอเด็ดขาด"
บุลินสีหน้าจริงจัง

เข้มเปิดประตูเข้ามาในห้องกานดาพร้อมกล่องอาหาร
"หมวดผมซื้อผลไม้มาฝาก"
เข้มมองไม่เห็นกานดา
"อ้าว ....ไปไหน"
เข้มหันรีหันขวางมองหาแล้วพนักงานทำความสะอาดห้องเข้ามา
"คนไข้ห้องนี้ไปไหนแล้วทราบมั้ยครับ"
"เดี๋ยวนะคะ...คุณตำรวจใช่มั้ยคะ"
"ครับ"
"อ่อกลับบ้านไปแล้วล่ะค่ะ"
"ฮึออกจากโรงพยาบาลแล้วเหรอ!"

เข้มเดินออกมาที่ลานจอดรถบ่นๆ
"หมวดนะหมวดจะกลับก็ไม่บอกกันเลยสักคำ"
เข้มเหลียวมองซ้ายขวาจะข้ามไปอีกฝั่งแล้วปรากฏว่าเห็นกานดาฟุบหน้าอยู่กับพวงมาลัยรถ
เข้มตกใจแล้วรีบวิ่งเข้าไปหา
"ฮึหมวดกานดา"

เข้มวิ่งเข้ามาหากานดาเรียก
"หมวดๆเป็นอะไรหมวดเปิดประตู"
เข้มลองขยับประตูปรากฏว่าเปิดได้เลย จึงเข้าไปเขย่าตัวกานดา
"หมวดๆๆ"
กานดาค่อยรู้สึกตัวขึ้นลืมตาเห็นเข้มพูดแผ่วๆท่าทางเหมือนอ่อนแรง
"นาย..."
"ท่าทางหมวดยังไม่ค่อยดีเลยนะกลับเข้าโรงบาลดีกว่า"
กานดาปฏิเสธ "ไม่ต้องฉันไม่ได้เป็นอะไร"
“นั่งคอพับคออ่อนแบบนี้ยังจะเถียงอีกไปเร็วเข้า” เข้มจะดึงไป
กานดาขืนไว้
“ไม่เอาอ่ะฉันไม่อยากนอนโรงพยาบาลแล้ว ....น่าเบื่อจะตาย”
“ก็โรงบาลไม่ใช่สนามเด็กเล่นนี่คุณเขาให้ไปรักษาตัวไม่ใช่ไปสนุก”
“แต่ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆนะแค่แบบง่วงนอน”
“ง่วงนอน”
“เออดิเมื่อคืนมัวแต่อ่านแฟ้มคดีจนปวดตาไปหมดแล้วเนี่ย” กานดาหาวๆแล้วขยับ
ลุกออกมาดึงให้เข้มขึ้นไปนั่งที่คนขับแทน “อะอย่ามัวแต่อึ้งไปๆขับรถไปส่งฉันที่บ้านทีง่วงเป็นบ้าเลยเนี่ย”
กานดาเดินไปนั่งด้านข้างคนขับแล้วก็หลับไปอย่างง่ายๆไม่แคร์
“ขับดีๆล่ะฉันจะนอน”
เข้มได้แต่มองกานดาแบบเชื่อเขาเลย

“โฮหมวดเล่นง่ายดีเนอะ”

ต่อมา เข้มวางกานดานอนลงบนเตียง

“หลับให้สบายนะครับ”
เข้มค่อยเดินออกจากห้องไปกานดานอนอยู่บนเตียงตั้งโอ๋...หลับสนิท

เข้มเดินออกมาที่ครัว ตั้งโอ๋กําลังช่วยต้อมทำอาหารกันอยู่
ต้อมบอก“เข้ม ....ฉันทำซุปไว้นะเผื่อหมวดกานดาตื่นขึ้นมาจะได้ทาน”
“ขอบคุณครับพี่ต้อม”
“เอาอกเอาใจเทคแคร์หมวดกานดาเป็นพิเศษแบบนั้ยมันแปลว่าอะไรอ่ะเข้ม”
“แปลว่าถ้าแกยังเอาตัวเองไม่รอดก็ไม่ต้องมาสาระแนเรื่องชาวบ้าน”
เข้มหยิบสมุดบัญชีที่วางบนโต๊ะขึ้นมา “ผมไปดูบัญชีก่อนนะพี่ต้อม”
เข้มถือสมุดเดินออกไปตั้งโอ๋ตะโกนต่อว่าตามหลัง
“แซวเล่นแค่นี้ทำเป็นจริงจังแกปิ๊งหมวดกานดาหรือไง”

บ้านตั้งโอ๋ตอนหัวค่ำ ในห้องนอนตั้งโอ๋
อะไรบางอย่างเคลื่อนมาหากานดาเข้ามาใกล้เข้ามาจนมาหยุดมองกานดาอยู่หน้าเตียง
กานดานอนอยู่แล้วมีเศษผงเศษดินตกโปรยลงมาที่หน้ากานดาจนกานดาสำลัก
แล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมาแต่กานดาก็มองไม่เห็นอะไร
กานดามองเช็คดูไปรอบๆจับหน้าตัวเองก็ปกติไม่มีเศษฝุ่นผงอะไรทั้งนั้น
กานดาเอนตัวนอนลงไปใหม่หลับตาลงแล้วลืมขึ้นทันที....ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น
กานดาผ่อนคลายแล้วหลับตาลงอีกครั้ง
เศษผงดินไหลลงมาใส่หน้ากานดาอีกครั้ง
กานดาสะดุ้งตื่นขึ้นมาใหม่แล้วมองออกไปตรงหน้าเห็นซินดี้นั่งทับอยู่บนอกกานดาจ้องเขม็งพร้อมกับที่มีเศษดินเศษผงไหลออกมาจากเนื้อตัวซินดี้ร่วงลงมาใส่กานดา
กานดากรี๊ดลั่นขึ้นมาอย่างหวาดกลัวสุดขีด

เสียงกานดากรี๊ดดังเข้ามาเข้มนั่งทำบัญชีอยู่ขณะที่ตั้งโอ๋กับต้อมกําลังช่วยกันพับผ้า
ทั้งสามคนชะงักแล้วหันมองไปทางต้นเสียงเป็นตาเดียว

กานดาร้องกรี๊ดๆแบบยังอินกับฝันร้ายอยู่เข้มตั้งโอ๋ต้อมหน้าตาตื่นวิ่งเข้ามาหา
เข้มเรียก “หมวด”
ตั้งโอ๋ชิงเข้าไปจับตัวกานดาเขย่า “หมวดกานดาๆ”
กานดาค่อยรู้สึกตัวขึ้นเห็นตั้งโอ๋ “ตั้งโอ๋” กานดามองไปรอบๆ“นี่ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“หมวดหลับสนิทเลยเข้มเลยพาหมวดมาที่นี่ค่ะ”
เข้มบอก“เห็นโก๊ะๆอยู่ผมเลยไม่ไว้ใจให้หมวดอยู่บ้านคนเดียวแล้วมันก็จริงๆนี่อยู่ๆหมวดกรี๊ดลั่นห้องทำไม”
“ฉันฝันเห็นซินดี้”
ทุกคนตะลึง
“หมวดพูดจริงๆไม่ได้เมายากันยุงอะไรอย่างนั้นหรอกนะ”
“ไม่ต้องตลกเลย ....ฉันเห็นจริงๆเนื้อตัวซินดี้มีแต่ดินเปื้อนเต็มไปหมด”
ตั้งโอ๋อุทาน “คุณพระช่วย”
ต้อมบอก “แปลกๆนะไมนางถึงมาแบบนี้”
“ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า....ซินดี้โดนสะกดวิญญาณอยู่”กานดาบอก
“อะไรนะ !”
“พี่หมวดบุลินบอกฉันว่าคุณน้าแม่ชีสะกดวิญญาณซินดี้แล้วก็เอาไปฝังไว้ในดิน”
“อู้ย ...ขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย”
“แล้วทำไมเป็นหมวดกานดาล่ะปกติมือวางอันดับหนึ่งในการสื่อถึงผีซินดี้เนี่ยต้องเป็นยายตั้งโอ๋นะ”
ตั้งโอ๋อึ้งทุกคนมองที่ตั้งโอ๋เป็นตาเดียวแล้วตั้งโอ๋ค่อยนึกได้แล้วพูดขึ้น
“อ่อสงสัยจะเป็น...” ตั้งโอ๋ควักสร้อยพระที่ห้อยคอออกมาให้ดู “หลวงพ่อช่วยไว้แน่ๆพี่ซินดี้ถึงเข้าใกล้ฉันไม่ได้เหมือนแต่ก่อน”
“ฮึ ...นี่มันพระของพี่หมวดบุลินนี่ฉันจำได้พี่หมวดเอาพระมาให้เธอใส่เหรอตั้งโอ๋”
ตั้งโอ๋อึกอักๆ
“เออก็แบบอะไรแบบนั้นแหละแต่ว่าไม่มีอะไรหรอกนะหมวดเขาไม่เคยเห็นฉันเป็นผู้หญิงอยู่แล้ว ...เดี๋ยวไปจัดโต๊ะกินข้าวก่อนนะ”
ตั้งโอ๋รีบเดินออกไปกานดามองตามจับพิรุธ

ตั้งโอ๋เดินเข้ามาแบบตื่นๆกังวลถอนหายใจเฮือกแล้วยกสร้อยพระขึ้นมาดูคิดถึงบุลิน
“คิดอะไรบ้าๆน่า ...คนอย่างหมวดบุลินเขาไม่มีทางสนใจเราหรอก”

ที่โรงพัก บุลินนั่งลงตรงหน้าโกกิโกกิตีหน้าแบ๊วใส่จ่ายอดเดินตามบุลินมาด้วย
“หมวดบุลินเรียกโกกิมาทำอะไรคะนี่คงไม่ได้คิดว่าโกกิเป็นฆาตกรฆ่าพี่ซินดี้หรอกนะคะ”
“ถ้าไม่มีหลักฐานเพียงพอผมไม่สามารถปรักปรำใครได้หรอกครับ”
“หมวดมีหลักการและเหตุผลดีมากเลยนะคะงั้นโกกิคงไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกเพราะโกกิไม่ได้ทำอะไรพี่ซินดี้เลย” โกกิลุกจะกลับ
โกกิลุกขึ้นยืนบุลินลุกขึ้นยืนตาม
“แต่ก่อนที่นายหรั่งจะตายนายหรั่งได้ให้การว่าคุณเคยมีเรื่องกับซินดี้จนถึงขั้นจ้างคนมาลวนลามซินดี้ต่อหน้าสาธารณชน”
โกกิอึ้งไปนิดแล้วคลี่ยิ้มออกมาเหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
“โกกิก็แค่แกล้งแหย่พี่ซินดี้เล่นเท่านั้นแหละค่ะแต่แบบกะเทยอ่ะมันก็ต้องจัดใหญ่ให้เว่อวังอลังการจะมาเล่นเรียบๆพื้นๆได้ยังไงล่ะคะ”
“แต่มันก็อาจจะเป็นชนวนให้คุณก่อเหตุร้ายในครั้งต่อไปก็ได้”
“ไม่จริงค่ะโกกิจะฆ่าพี่ซินดี้ไปทำไม”
“แหมใครๆในโรงละครเขาก็รู้ว่าถ้าไม่มีซินดี้สักคนคุณก็ต้องได้เลื่อนขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งแทนซินดี้ไงล่ะ”
“หึ หึ มันตื้นเขินไปไหมจ่า โกกิไม่โง่ทำอะไรแบบนั้นหรอกเพราะมันไม่คุ้มกับชื่อเสียงที่โกกิสะสมมา”
"ดูคุณมั่นใจมากนะโกกิ แต่ว่าเราต้องคุยกันด้วยหลักฐานไม่ใช่คำพูดลอยๆ คุณมีหลักฐานอะไรจะพิสูจน์ตัวเองมั้ย"
"เฮ่อ..." โกกินั่งลงอีกครั้ง "จริงๆแล้ว โกกิไม่อยากจะพูดเรื่องนี้เลยนะคะ เพราะมันเป็นความลับโกกิไม่อยากให้มันกระเทือนไปถึงบุคคลอื่น"
"แต่ถ้าคุณไม่ยอมพูด ....ผมก็จะถือว่าคุณปิดบังเจ้าหน้าที่มีความผิดตามกฎหมาย"
"แม่เจ้า โกกิลำบากใจจริงๆเลย ...อย่างนี้โกกิก็ต้องพูดแล้วสิเนี่ย ....เฮ่ออ ...ก็ได้ค่ะ โกกิจะเล่าให้ฟัง ...คือเรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อ3เดือนก่อนที่พี่ซินดี้จะตายคืนนั้น หลังจากโชว์เสร็จแล้วโกกิก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆกลับมาก็เกือบจะตีสอง"

ซินดี้เล่าไป

เหตุการณ์ในอดีตเมื่อ 3 เดือนก่อน

โกกิกลับจากไปผับ โงนเงนอยู่ในลิฟต์จนถึงชั้นซินดี้ แล้วลิฟต์เปิดออกมา
โกกิออกจากลิฟต์แล้วซินดี้ ถือกล่องพลาสติกใส่ผลไม้เดินสวนเข้าลิฟต์ไป ซินดี้ใส่เสื้อสายเดี่ยวกางเกงขาสั้น
โกกิเดินออกจากลิฟต์ไปแล้วสองสามก้าวแล้วชะงักแบบนึกได้ว่ามาผิดชั้น หันเหลียวกลับไปดู
ที่ลิฟต์เห็นว่าลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนสุดซึ่งเป็นชั้นของภาวัชและแพรวา
โกกิมอง หน้าตึงด้วยความสงสัย หายเมาเป็นปลิดทิ้ง
"โกกิแบบดื่มมากรึ่มๆก็เลยกดลิฟต์ผิดชั้นไปชั้นของพี่ซินดี้เข้า เจอพี่ซินดี้สวนเข้าลิฟต์ไป พอโกกินึกได้ว่ามาผิดชั้น โกกิหันจะกดลิฟต์กลับลงไป แต่โกกิก็ต้องแปลกใจเพราะพี่ซินดี้ขึ้นไปชั้นบนสุดที่เป็นชั้นของคุณแพรวากับคุณภาวัชอยู่"

โกกิออกมาจากลิฟต์แล้วมองสอดส่องไป
"โกกิก็เลยตัดสินใจตามพี่ซินดี้ขึ้นไปดู ... แล้วก็ได้เห็นว่าพี่ซินดี้มาอ่อยคุณภาวัชถึงห้องแบบหน้าด้านไม่มียางอายเลยจริงๆ"
หน้าห้อง ภาวัชเปิดประตูออกมาหาซินดี้ซึ่งถือกล่องใส่ผลไม้ในมือ
ซินดี้ยิ้มโปรยเสน่ห์ ภาวัชมองพึงใจแล้วเชิญซินดี้เข้าไปในห้อง
พอทั้งสองคนลับหายเข้าห้องไปแล้ว โกกิรีบตามเข้ามาแล้วหาช่องทางมองเข้าไปในห้อง แล้วโชคก็เข้าข้าง ภาวัชปิดประตูไม่สนิท โกกิก็เลยแอบมองลอดตามช่องประตูเข้าไป

ซินดี้นั่งอยู่ที่โซฟายื่นกล่องผลไม้ให้ภาวัชนั่งข้างๆถัดออกไป
"พอดีซินดี้ไปตลาดมาน่ะค่ะ ก็เลยแวะซื้อผลไม้มาฝากคุณแพรวากับคุณภาวัช"
ภาวัชยื่นมือไปรับแล้ว ซินดี้ถือโอกาสจับมือภาวัชเนียนๆ มองส่งสายตาอ่อยเต็มที่
ภาวัชยิ้มรับกรุ้มกริ่มจนซินดี้หน้าแดงกํ่าแล้วค่อยเลื่อนมือของตัวเองออกไป
"อุ๊ย ขอโทษค่ะ ซินดี้ไม่ได้ตั้งใจ"
"ขอทงขอโทษอะไรกันไม่เห็นจะมีอะไรเลย"
"ก็แบบซินดี้เกรงใจคุณภาวัชอ่ะค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ ซินดี้กลับล่ะ"
ซินดี้ทำเป็นหันจะไป ภาวัชรีบจับแขนซินดี้ดึงให้นั่งอยู่ต่อ
"จะรีบกลับทำไม เอาผลไม้มาให้ฉันทานแล้วก็อยู่ทานเป็นเพื่อนกันก่อนสิ"
"มันดึกแล้วนะคะ คุณภาวัช"
"ไม่ต้องห่วงหรอกจ้า คุณแพรวาเขาไม่อยู่หรอก มีแต่เราแค่สองคน" ภาวัชขยับเข้ามา
ใกล้ซินดี้ "เผื่อว่าเราจะได้คุยกันเรื่องรูปแบบโชว์ใหม่ๆกันไงจ๊ะ"
ซินดี้ช้อนตามองภาวัชแล้วยอมนั่งต่อ
"ก็ได้ค่ะ ...ซินดี้ก็อยากจะคุยกับคุณภาวัชอยู่เหมือนกันค่ะ"
ภาวัชยิ่งขยับมาจนชิด มองจ้องหน้าซินดี้แทบกลืนกิน
ซินดี้ทำเขิน
"ซินดี้เขินนะ มองอะไรคะ คุณภาวัช"
"มองซินดี้นั่นแหละ คนอะไรสวยจริงๆ นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นผู้ชายมาก่อน ฉันไม่เชื่อเลยนะ ดูผิวสิละเอียดขาวเนียนยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก"
ภาวัชมองโลมเลียไปทั่วร่างซินดี้
ซินดี้ดึงสายเสื้อข้างหนึ่งลงไปเพื่อให้เห็นชัดเจน ยั่วยวนภาวัชให้หลงเสน่ห์
"ขาวจริงหรือคะคุณภาวัช ซินดี้ว่าช่วงนี้ซินดี้หมองๆไม่ค่อยมีเวลาไปสปาเลย"
"ขาวสิ ท่าทางจะนุ่มด้วย"
"ไม่จับแล้วจะรู้หรือคะ"
ซินดี้ยกมือไปจับมือภาวัชขึ้นมาแล้วมาวางที่ตรงเนินอกตัวเอง
ภาวัชมองคลั่งไคล้
อีกมุม เสื้อสายเดี่ยวของซินดี้โดนโยนลงไปกับพื้น
โกกิแอบมองอยู่ที่ประตู ตาโต ตื่นตะลึง
โกกิเห็นด้านหลังซินดี้ด้านเปลือยเปล่า ภาวัชซุกไซ้อยู่
โกกิรีบยกมือปิดปากไม่ให้มีเสียงร้องเล็ดลอดออกมา

ในห้องสอบสวน จ่ายอดยกมือห้ามไม่ให้โกกิเล่าต่อ
"พอๆช่วงอิโรติกนี่ข้ามๆไปบ้างก็ได้ไม่ต้องลงรายละเอียดหรอกคุณ"
"อุ้ย ขอโทษค่ะ โกกิก็นึกว่าจ่าชอบอะไรแนวๆนี้อยู่แล้ว"
บุลินสรุป "เอาล่ะ สรุปก็คือเธอจะบอกว่า ซินดี้กับภาวัชมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว"
"ใช่ค่ะ โกกิเห็นแล้วก็ต้องเบ้ปากมองบน พี่ซินดี้ไม่น่าสวมเขาให้คุณแพรวาอย่างนี้เลยค่ะ คุณแพรวาน่ะดีกับพี่ซินดี้มากมายขนาดไหนใครๆก็รู้"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะโกกิ ทำไมมันถึงเป็นข้อพิสูจน์ว่า คุณไม่ได้ฆ่าซินดี้ได้ล่ะ"
"โธ่หมวดก็ ....ในเมื่อโกกิรู้เรื่องเน่าๆของพี่ซินดี้แบบนี้ สู้โกกิเอาเรื่องนี้ไปฟ้องคุณแพรวาให้คุณแพรวาไล่พี่ซินดี้ออก แค่นี้โกกิก็ได้เป็นดาวคณะแทนพี่ซินดี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปฆ่าแกงให้เสียแรงหรอกค่ะ"
จ่ายอดบอก "คุณนี่หัวหมอไม่ใช่น้อยเลยนะ"
"แปลว่าคุณไม่ได้เอาเรื่องนี้ไปฟ้องคุณแพรวา ...ทำไมคุณถึงไม่ทำล่ะ โอกาสที่คุณจะได้เป็นดาวเด่นของคณะมาถึงแล้ว ไม่ใช่เหรอ"
"โกกิจะพูดแบบไม่มีแอ๊บเลยนะหมวด จริงๆแล้วโกกิตั้งใจจะไปบอกคุณแพรวาอยู่แล้ว ....แต่ว่าดันมีคนที่เกลียดพี่ซินดี้แค้นพี่ซินดี้มากกว่าโกกิ ชิงวางยาฆ่าพี่ซินดี้ไปซะก่อนน่ะสิคะ"
บุลินอึ้ง จ่ายอดมองหน้า
"คุณแน่ใจนะว่า ...มันเป็นความจริง"
"สาบานให้ก็ได้ค่ะ .. แต่เรื่องนี้ขอให้รู้กันแค่นี้ หมวดห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกคุณแพรวานะคะ ...เรื่องมันแล้วไปแล้ว โกกิไม่อยากเห็นคุณแพรวาเสียใจเจ็บปวดอีก"

บุลินอึ้งคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา

คืนเดียวกัน ... บุลินวิ่งเข้มาเรียกซินดี้หน้าหลุม

"ซินดี้ ซินดี้"
เงียบสงัด ไม่มีเสียงตอบรับ
"ซินดี้ฉันรู้นะว่าเธออยู่ที่นี่ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ"
ทุกอย่างก็ยังเงียบอยู่ บุลินเลยตัดสินใจพูดเปรี้ยงออกไป
"ซินดี้ฉันรู้เรื่องเธอกับนายภาวัชแล้ว!! เธอมีอะไรจะพูดบ้างมั้ย"
อยู่ๆฟ้าก็ผ่าเปรี้ยงลงมา
แผ่นดินตรงที่บุลินยืนก็สั่นไหวแล้วแตกแยกออกเป็นเสี่ยง
ร่างบุลินหล่นตุ๊บไปตามรอยแยกนั้นลงไปใต้ดิน
"อ๊าก"

บุลินเดินออกมาจากความมืด บุลินมองงุนงง ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน
แต่ก็เดินไปตามทางเป็นอิฐสีเข้มตลอดทาง ด้วยความตื่นแปลกใจกังวลจนลับตาไป

บุลินเดินเข้ามาเห็นประตูคุกขวางอยู่ข้างหน้า ในความฝัน ประตูคุกเลื่อนเปิดอัตโนมัติ
บุลินเดินผ่านเข้าไปอย่างงงๆ ที่กรงแรกบุลินก็ต้องตกใจที่มองเห็น นายอ้วนกําลังนั่งลับมีดอยู่ในนั้น
"นายอ้วน!"
นายอ้วนแสยะยิ้มโรคจิต ถือมีดโต้วิ่งเข้ามาชิดลูกกรงทำท่าจะฟันบุลิน
บุลินผงะถอยหลังไปชนกับอีกห้องขังอีกฝั่งพร้อมๆกับมือหรั่งยื่นออกมาล็อกคอบุลิน
หรั่งรัดแน่นเข้าจนบุลินหายใจไม่ออก
แล้วอยู่ๆหรั่งก็ตัวกระตุกขึ้นเฮือก หรั่งปล่อยคอบุลินแล้วหันไปข้างหลัง
ป้ามี่ถือหัวใจของหรั่งที่ยังเต้นตุบๆอยู่บนฝ่ามือ ป้ามี่หัวเราะชอบใจ
หรั่งยกมือออกไปฟาดศีรษะป้ามี่จนหัวยุบไปข้าง
ป้ามี่โกรธตีกลับทุบกันนัวเลือดสาดพร้อมเสียงร้องโหยหวน
บุลินมองด้วยความหดหู่สังเวชใจแล้วรีบผละเดินหนีออกไป

บุลินเดินต่อเนื่องเข้ามาที่ห้องขังกรงสุดท้าย
ซินดี้ในชุดแดงนั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วโดนมัดตัวด้วยเชือกสีขาวโดยแขนวางทาบกับพนักเก้าอี้ทั้ง 2ข้างกระดิกไปไหนไม่ได้ จ้องมาที่บุลินยิ้มอย่างนางพญา มั่น เสน่ห์กระจาย สวยสุดๆ
บุลินมองตะลึง
"สวัสดีหมวดบุลิน ....ขอต้อนรับสู่จิตใต้สำนึกของฉัน"
"ภาพพลวงตาไม่ใช่ความจริง" บุลินบอกกับตัวเอง
"ทุกอย่างในโลกนี้เป็นไปตามความรู้สึกที่เราเชื่อสูงสุด ถึงแม่ชีของคุณจะขังวิญญาณของฉันได้ แต่ขังจิตใต้สำนึกของฉันไม่ได้"
"เอาล่ะ คุณตอบผมมาดีกว่าคุณกับนายภาวัชเป็นชู้กันจริงๆอย่างที่โกกิบอกมั้ย"
ซินดี้อึ้งไปนิด แปลบใจ แล้วหัวเราะๆ เดินเข้ามาใกล้บุลินยิ่งขึ้น
"ฉันอยากรู้...คุณชอบผู้หญิงแบบไหน"
"มันไม่เกี่ยวกับคดีผมคงไม่จำเป็นต้องตอบ"
"เกี่ยวสิ ...เพราะถ้าคุณชอบผู้หญิงอย่างฉัน คุณจะไม่ถามฉันแบบนี้"
บุลินอึ้งไปแล้วตอบขึ้น
"คุณพูดถูก ผมไม่ได้ชอบคุณไม่โดยสิ้นเชิง"
ซินดี้เจ็บแต่หัวเราะๆออกมา ปกป้องความเปราะบางในใจ
"ฉันนึกอยู่แล้วว่าคุณต้องตอบแบบนี้ ...ก็เข้าใจได้นะ ผู้ชายที่โดนทิ้งซํ้าซากอย่างคุณ คงชอบตัดปัญหาด้วยการฉีดยาชาให้หัวใจว่า มันไม่จำเป็นต้องมีความรักก็ได้"
"ผมว่าคุณแต่งเรื่องได้ออกทะเลไกลมาก ถ้าคุณไม่ให้ความร่วมมือ ผมก็ขอตัว"
บุลินหันหลังจะเดินกลับออกไป ซินดี้พูดขึ้น
"พ่อแม่ของคุณถูกโจรฆ่าตายในวันเกิดของคุณ!"

บุลินชะงักกึก ตัวชาวูบ ตั้งแต่หัวจรดเท้า

ตอนนั้น ... บุลินยังเด็ก อายุแค่ 5ขวบ

พ่อแม่บุลินรํ่าลาบ๊ายบายให้บุลิน ที่พี่เลี้ยงอุ้มอยู่ไปขึ้นรถ
พ่อแม่โดนคนร้ายดักปล้นในที่จอดรถแล้วแทงพ่อแม่ตายเพราะสู้
คุณน้าแม่ชีมารับบุลินไปเลี้ยงที่วัด
ต่อมา เมื่อโตขึ้น แฟนเก่าเอาแหวนมาคืนให้บุลินบอกเลิก
บุลินนั่งดื่มในผับดูแหวนแล้วทิ้งใส่แก้วเหล้าแล้วเดินออกไป
บุลินวิ่งไปตามลู่วิ่งยกมือทักทายคนดูดีปกติ
"คุณเฝ้าโทษตัวเองว่า เป็นเพราะคุณ ถ้าพ่อแม่ไม่ออกไปซื้อของขวัญมาให้คุณ พ่อแม่คงไม่ตายคุณรู้สึกว่าคุณเป็นตัวซวยไม่มีค่า คุณไม่เก่ง คุณไม่ดีสมควรแล้วที่จะถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว คุณลงโทษตัวเองมาโดยตลอด เวลามีใครเข้ามาคุณก็จะพูดกับตัวเองเสมอว่า เดี๋ยวเขาก็ไป เดี๋ยวเขาก็ทิ้ง ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก คุณสร้างเกราะขึ้นมากันตัวเองไม่ให้รักใคร ...คุณทำตัวเหมือนปกติ
ทุกอย่างแต่แท้ที่จริงแล้วหัวใจของคุณได้ตายไปแล้ว"
บุลินสุดกลั้นหันกลับไปพรั่งพรู
"แล้วคุณล่ะ ...คงมีความรักที่อบอุ่นมาโดยตลอดสินะ ถึงได้ตายอย่างโดดเดี่ยวแบบนี้"
ซินดี้สะเทือน "บุลิน!"
"เราก็มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้นแหละ มันอยู่ที่เราจะจัดการปัญหายังไง ให้มันสร้างสรรค์ไม่ต้องทำร้ายคนอื่นหรือตัวเอง"
"เหมือนอย่างที่คุณโกรธโจรชั่วพวกนั้นที่ฆ่าพ่อแม่คุณคุณก็เลยมาสมัครเป็นตำรวจ เพราะมันเป็นอาชีพเดียวที่จะสามารถฆ่าโจรได้อย่างถูกกฏหมาย!"
"ไม่...มันไม่จริง"
"เลิกหลอกตัวเองได้แล้วบุลิน คุณกับฉันมีอะไรที่เหมือนกันมาก เราต่างเป็นเศษคนที่ถูกโลกนี้โยนทิ้งเป็นคนเหงาที่ต้องการความรักมาเติมเต็มเหมือนกัน"
บุลินอึ้งมองตาซินดี้ลึกซึ้ง ส่วนลึกของจิตใจมีอะไรบางอย่างที่ถ่ายทอดต่อกันได้จริงๆ
ซินดี้นํ้าตาไหลเป็นเลือด แล้วโวยวายขึ้น
"โอ้ว...ฉันจะร้องไห้ทำไม ฉันต้องโหดสิฉันจะอ่อนไหวไม่ได้"
ซินดี้สะอื้นหนักมาก ร้องโฮๆเลยทีนี้
บุลินมองใจอ่อนลืมตัวและเกินกว่าที่ซินดี้จะคาดคิด บุลินเดินเข้าไปปลดล็อกประตูตะรางแล้วเข้าไปในห้องขังของซินดี้ บุลินหยิบผ้าเช็ดหน้าที่กระเป๋าออกมาซับเลือดให้ซินดี้ ซับไปพูดไป ซินดี้อึ้งไปเลย
"ไม่ต้องคิดมากไหนๆเราก็อยู่ในที่ที่ผมไม่รู้ว่ามันเป็นที่ไหนกันแน่ อาจจะเป็นส่วนที่ลึกที่สุดในจิตใจของคุณ ผมจะให้เวลา 5 นาทีจากนี้ไปเราไม่ต้องเป็นตำรวจและคนร้ายไม่ต้องเป็นคนหรือปีศาจแต่เป็นแค่ผมกับคุณ"
ซินดี้จ้องบุลินอึ้งลึกซึ้งมีอะไรบางอย่างในใจที่จะทะลักอยู่แล้ว
"มองหน้าผมทำไม"
"ฉันอยากทาลิปสติกสีแดง ....ทาให้ฉันหน่อยสิ"
บุลินอึ้งไปนิดแล้วมองเลยข้างหลังซินดี้ไป มีโต๊ะเล็กๆตัวหนึ่ง หลอดลิปสติกตราผีเสื้อของซินดี้วางอยู่
บุลินไปหยิบลิปสติกขึ้นมาดูแล้วหันไปมองซินดี้ตัดสินใจ
บุลินหมุนลิปสติกขึ้นมาแล้วทาปากให้ซินดี้
ซินดี้มองบุลินหลงเข้าไปทุกที
บุลินทาลิปให้ซินดี้เสร็จพอดีเหลือบตาขึ้นมองจังหวะเดียวกับที่ซินดี้มองมาพอดี ทั้งสองสบตาหน้าใกล้
บุลินเคลิ้มใกล้เข้าไปจมูกชิดจนเกือบจูบ
แล้วสติมา.... บุลินชะงักแล้วขยับตัวออกมา ซินดี้อึ้ง
"ครบ 5 นาทีพอดีผมต้องกลับไปสู่โลกความจริงแล้ว"
บุลินหันจะไปจริงๆ
"บุลิน"
บุลินก้มลงมองที่มือตัวเองเห็นว่าซินดี้ยกมือจับที่นิ้วก้อยบุลินได้แค่นิ้วเดียว เพราะยังโดนมัดอยู่
"บอกว่ารักฉันหน่อยได้ไหม แล้วฉันจะยอมลืมความแค้นทั้งหมด ฉันจะบอกคุณว่าใครเป็นฆาตกร"
บุลินอึ้ง
"โกหกฉันหลอกฉันก็ได้....ฉันอยากได้ยิน บอกฉันมาสิบุลิน แล้วคุณจะได้ทุกอย่างที่คุณอยากได้ ฉันจะให้คุณทั้งหมดนะบุลินง่ายๆแค่นี้เองฉันต้องการแค่นี้"
บุลินรู้สึกเศร้าขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ...
"ซินดี้"
"คุณยอมบอกรักฉันแล้วใช่มั้ย พูดดังๆนะให้ดังไปถึงฟ้าเลย"
"พอได้แล้ว ไม่รักก็คือไม่รัก ผมโกหกไม่ได้"
ซินดี้ชะงักเหมือนโดนไฟช๊อต
บุลินดึงนิ้วก้อยออกจากมือซินดี้หันก้าวออกไป
ซินดี้กรีดร้องขึ้นมาอย่างปวดใจจนทั้งห้องเกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ข้าวของหล่นแตกหมด พร้อมๆกับที่ร่างของบุลินเหมือนโดนดูดอย่างแรง กระเด็นหวืดลอยขึ้นไปทะลุเพดานห้องออกไปเลย

กองดินระเบิดแล้วเห็นร่างบุลินทะลุขึ้นมาจากดินนั้นมานอนแผ่อยู่มุมหนึ่ง หายใจหอบเหน็ดเหนื่อยพ้นอันตรายมา

เช้าวันใหม่ กานดาเปิดประตูออกจากห้องตั้งโอ๋ หาวๆ สะลึมสะลือ จะเดินไปห้องนํ้าแต่ไปเปิดประตูผิดกลายเป็นห้องของเข้ม

กานดาเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วตกใจเห็นเข้มนอนอยู่ที่พื้นแล้วตั้งโอ๋นอนอยู่บนเตียง
"เฮ้ย ...อะไรกันเนี่ย"
เข้มตกใจตื่นขึ้นมา
"ฮึ หมวดเข้ามาทำไม" เข้มขยับไปเขย่าตั้งโอ๋ เฮ้ย ตื่นๆ ตั้งโอ๋บรรลัยแล้ว"
ตั้งโอ๋งัวเงียตื่นขึ้นมาแล้วเห็นกานดาตกใจ
"อะไรอ่ะเข้ม" ตั้งโอ๋คืนสติ "หมวดกานดา!"
"ขอโทษนะ พอดีฉันจะเข้าห้องนํ้า แต่มาผิดห้องฉันก็เลยได้เห็นอะไรเป็นอะไร"
ตั้งโอ๋ลุกขึ้นมาหา
"หมวดเดี๋ยวก่อนสิ อย่าเพิ่งคิดเยอะ"
"เธอไม่ต้องแก้ตัวแล้ว ตั้งโอ๋ฉันจับได้แล้ว"
ตั้งโอ๋กับเข้มอึ้ง
"จับจับอะไรอ่ะหมวด" ตั้งโอ๋ถาม
"ฉันสงสัยตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่เธอยกห้องเธอให้ฉันนอนแล้ว เธอบอกจะมานอนห้องเข้มเอง พวกเธอเป็นแฟนประสาอะไรถึงแยกห้องนอนกัน"
"ก็บอกแล้วไงว่าแบบคือเราสลับกันนอนห้องฉันที ห้องเข้มทีแบบ..มันจะได้ไม่ซํ้าซากจำเจไงจริงมั้ยเข้ม"
"ใช่ๆเชื่อตั้งโอ๋เหอะ"
"แล้วที่ฉันเห็นเมื่อกี้ล่ะ ทำไมนายถึงต้องนอนพื้น ทำไมไม่นอนบนเตียงด้วยกัน"
เข้มบอก "ก็ผมกลัวว่าหมวดเปิดประตูเข้ามาตาจะเป็นกุ้งยิงน่ะสิครับ"
"อย่ามาลับลวงพรางกับฉัน ...จริงๆแล้วพวกเธอทั้งสองคนไม่ได้เป็นแฟนกันใช่มั้ย"

ตั้งโอ๋กับเข้มอึ้ง ใจหายวาบ คิดว่าความลับเปิดเผย

กานดาเดินเข้ามาตรงหน้าเข้มแล้วยกมือขึ้นไปตบไหล่เข้มเบาๆ แบบเข้าใจ

"เข้ม....ฉันเข้าใจนะเกย์บางคนพอคบกับแฟนไปนานๆเข้าก็เกิดทรานฟอร์ม อยากแต่งหญิงเหมือนกันซะงั้น ....นายไม่ต้องสร้างภาพกับฉันแล้วนะ ฉันรับได้หมดแหละไม่ว่านายจะเป็นเพศไหน"
กานดายิ้มอ่อนให้เข้มแบบเป็นคนดีมาก แล้วหันหลังเดินออกไป
เข้มหันมามองหน้ากับตั้งโอ๋เซ็งหนัก
ตั้งโอ๋เสียงอ่อน
"เข้ม...แกคงต้องพิจารณาตัวแล้วนะ ขนาดหมวดเค้าว่าเค้าจับได้แล้ว ว่าเราไม่ใช่แฟนกัน เขายังไม่เห็นแกเป็นผู้ชายเลยเนอะ"
"แกไม่ต้องพูดเลยตั้งโอ๋ เพราะแกคนเดียวเลยฉันอยากจะบ้าตาย"
เข้มทุบมุ้งหมอนระบายอารมณ์หงุดหงิด ไม่ได้ดั่งใจ

สายวันเดียวกัน บุลินกําลังเดินเข้ามาในโรงพัก จ่าโอเดินสวนออกมาเจอกัน
"หมวดบุลิน ....ผมกําลังจะไปหาหมวดอยู่พอดี"
"มีเรื่องอะไรหรือจ่า"
"การชันสูตรศพซินดี้ที่หมวดให้ไปเช็คมาใหม่ผลออกมาแล้วครับ"
จ่าโอตอบ

จ่าโอยกแฟ้มเอกสารมาให้บุลินดู
"อะหมวดดูเอา มันเหลือเชื่อจริงๆ พับผ่าเถอะ"
บุลินเปิดแฟ้มอ่านที่หน้าหนึ่ง
"ผลการตรวจพบว่าผู้ตายเสียชีวิตเพราะระบบประสาทสั่งการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ...สาเหตุจากการได้รับสารพิษที่ชื่อว่า Batrachotoxin คือสารพิษประเภท Neurotoxin ที่มีพิษมากกว่าสตริกนินถึง250เท่า"
บุลินหยุดอ่าน
"ซึ่งพิษชนิดนี้เราจะพบมันอยู่ในกบ แต่ไม่ใช่กบในบ้านเราด้วยนะครับ" จ่าโอบอก
จ่าโอหยิบไอแพดที่เสิร์ชหารูป “กบลูกศรพิษ” (poison arrow frog) มาให้บุลินดูพร้อมอธิบายต่อ
"มันเป็นกบชื่อ “กบลูกศรพิษ” หรือ poison arrow frog เป็นกบแถวป่าดิบชื้น ในอเมริกากลางและอเมริกาใต้"
"นี่มันหนังคนละม้วนคนละเรื่องกับผลการชันสูตรชุดก่อนหน้านี้เลยนะ"
"มันไม่ได้คนละม้วนหรอกครับหมวด"
"หมายความว่าไงจ่า"
"ก็...คืองี้ครับ จริงๆแล้วผลชันสูตรมันมีแค่ชุดนี้ชุดเดียวนี่แหละครับ" จ่าโอยกฉบับ
ล่าสุดขึ้นชู "แต่ผลการตรวจในชุดก่อนที่บอกว่าซินดี้กินยาล้างห้องนํ้าน่ะ มีใครบางคนในทีมสืบสวนชุดที่แล้ว ปลอมแปลงเอกสารแน่นอน"
"อะไรนะ !"

ในห้องสารวัตร กลางวันต่อเนื่อง
สารวัตรนั่งลงที่โซฟา บุลินกับจ่าโอนั่งอยู่ตรงข้าม
"ทำไมถึงได้เกิดเรื่องร้ายแรงแบบนี้หมวด เช็คทุกอย่างแน่แล้วนะ"
"ครับหลักฐานทุกอย่างชัดเจนว่า ต้องมีหนอนบ่อนไส้อยู่ในทีมสืบสวนเอแน่ครับ"
"แต่ก็อย่างที่สารวัตรทราบแล้วนะครับ หลังจากทีมสืบสวนเอปิดคดีซินดี้ ทีมเอทั้งทีมก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตยกทีม"
"ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ....มันน่าละอายนักที่ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์กลายเป็นผู้กระทำผิดเสียเอง"
บุลินบอก "เราจะต้องกู้เกียรติภูมิของตำรวจที่ดีกลับคืนมา ผมกับทีมจะรีบสืบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดครับสารวัตร"
บุลินจริงจัง

บุลินกับจ่าโอเดินเลี้ยวออกมาจากมุม คุยกันมา
"ทางฝ่ายชันสูตรเขาบอกมาหรือเปล่าว่าซินดี้ได้รับพิษจากทางไหน"
"หมอเขาบอกว่ามันสามารถอยู่ได้ทุกที่แหละครับ แล้วแต่ว่าคนที่ใส่เขาจงใจอยากจะให้อยู่ตรงไหน อาจจะเป็นแก้ว นํ้า ช้อน อาหาร ลูกอม อะไรก็ได้เลยครับ"
"ในเคสของซินดี้พิษน่าจะเข้ามาทางปากเพราะปากด้านในเหมือนมีรอยแตกจากการถูกกัดหรือโดนกระแทกมาก่อน เมื่อปากเป็นแผลบวกกับได้รับสารพิษเข้าเลยถูกดูดซึมได้ง่ายแล้วก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา"
บุลินนึกไปถึงซินดี้ขึ้นมา

"ฉันอยากทาลิปสติกสีแดงทาให้ฉันหน่อยสิ"
บุลินไปหยิบลิปสติกขึ้นมาดูแล้วหันไปมองซินดี้ตัดสินใจ

จ่าโอยังพล่ามอยู่ แต่บุลินเก็ทได้ความคิดแล้ว
"จะให้ฟันธงลงไปมันก็พูดยากแต่จะให้เริ่มต้นจากอะไรนี่สิยากกว่า"
บุลินนึกได้แล้วพูดขึ้น "ลิปสติก"
จ่าโอชะงักงง "ฮึ ลิปสติกอะไรหมวด"
"ฉันอยากจะได้ลิปสติกที่ซินดี้ทาในวันนั้น"
บุลินรีบวิ่งออกไป จ่าโอมองตาม งง
"ทำไมต้องเป็นลิปสติกล่ะ อายชาโดว์ที่เขียนคิ้วเขียนตามีอีกเยอะแยะนะหมวด"

บุลินเข้าไปหากล่องเก็บหลักฐานคดีของซินดี้จนไปเจอที่ชั้นในมุมหนึ่ง บุลินหยิบกล่องที่ใส่หลักฐานต่างๆ ที่ห่ออยู่ในซองพลาสติกขึ้นมาดูเช่น ขวดนํ้ายาล้างห้องนํ้า ซองจดหมายลาตาย ต่างหูซินดี้ เอกสารฯลฯ
แต่หายังไงก็ไม่เจอลิปสติก
บุลินเซ็งรีบเก็บของคืนแล้วออกไป

ต่อมา ... บุลินเข้ามาค้นหาลิปสติกในห้องซินดี้ที่โรงละคร รื้อลิ้นชัก ค้นตู้อยู่อย่างขะมักเขม้น
ประตูห้องเปิดออกแล้ว ใครบางคนย่องเข้ามาหาบุลิน

เมื่อเดินเข้ามาใกล้บุลิน แล้วยกไม้ขึ้นเหมือนจะฟาดศีรษะบุลิน

อ่านต่อตอนที่ 14
กำลังโหลดความคิดเห็น