นางแค้นตอนที่12
บุลินเดินลิ่วๆเพื่อไปที่จอดรถตั้งโอ๋วิ่งตามหลังมา
“หมวดรอด้วยดิ”
บุลินหันมาหา
“ให้ไวหน่อยฉันมีงานต้องทำ”
บุลินจะเดินต่อแล้วปรากฏว่าฝนตกลงมา
“อ้าวฝนตกซะงั้นว้าหมดกัน”
บุลินจะวิ่งฝ่าฝนออกไปตั้งโอ๋ดึงตัวไว้
“เฮ้ยหมวดอย่าไปลุยฝนอย่างนั้นสิเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”
“เวลามีค่านะจะให้มาติดฝนอยู่แบบนี้ได้ไง”
บุลินมองออกไปที่สายฝนคิดๆแล้วได้ไอเดียจัดการถอดเสื้อแจ็คเก็ตที่ตัวเองใส่อยู่ออกมา
“อะถือไว้” บุลินโยนแจ็คเก็ตให้ตั้งโอ๋ถืองงๆ
“อะไรอ่ะหมวดหมวดจะทำอะไร”
ตั้งโอ๋มองงง
ในตรอกอีกมุมฝนยังตกต่อเนื่อง
บุลินแบกตั้งโอ๋ขึ้นหลังตั้งโอ๋กางแจ็คเก็ตของบุลินบังฝนให้ทั้งสองคนจะได้ไม่เปียกตั้งโอ๋แอบมองบุลินประทับใจ
ทั้งสองเข้าไปนั่งในรถเนื้อตัวเปียกๆเล็กน้อยตั้งโอ๋ถือแจ็คเก็ตบุลินที่เปียกไว้ปัดๆนํ้าฝนที่เนื้อตัว
พึมพำไปด้วย
“มิชชั่นคอมพลีท” แล้วจามออกมา .... “ฮัดๆเช้ย”
บุลินหันมาดูตั้งโอ๋แล้วอดหัวเราะไม่ได้เพราะเห็นขนตาปลอมของตั้งโอ๋ข้างหนึ่งหลุดกระเด็น
ลงมาแปะอยู่บนจมูกตั้งโอ๋
บุลินหัวเราะขำ
“ขำอะไรมีอะไรน่าขำนักเหรอหมวด”
“เดี๋ยวใจเย็นน้อง ...ไม่ได้ตั้งใจจะขำเลยนะ”
บุลินค่อยยกมือออกไปหยิบขนตาปลอมออกมาให้ตั้งโอ๋ดู
“อะจะจามอะไรพลังช้างสารซะขนาดปขนตาปลอมหลุดนี่ดูสิใส่กี่ชั้นเนี่ย”
บุลินหัวเราะๆ
ตั้งโอ๋อาย "ว้าย... แม่เจ้า ตายแล้ว เสียกริยาหมดกัน"
ต่างคนต่างขำกันออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
"เธอนี่ตลกเป็นบ้าเลยตั้งโอ๋ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
แล้วตั้งโอ๋เพ่งพินิจใบหน้าบุลินที่ขำๆอยู่แล้วพูดขึ้น
"หมว ดเวลาหมวดไม่เก๊กนี่ ทำให้โลกสดใสมากเลยนะ"
บุลินหยุดมองหน้าตั้งโอ๋รู้สึกดี
"ฉันลืมไปแล้วฉันไม่ได้หัวเราะแบบนี้มานานเท่าไรแล้ว"
"ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด เราก็สามารถมีความสุขได้เสมอ ถ้าหมวดเครียดอีกก็ขอให้นึกถึงเวลาดีๆในวันนี้ก็แล้วกันนะ"
บุลินเอื้อมมือไปจับมือตั้งโอ๋เบาๆ
"ขอบใจมาก ฉันรู้สึกดีจริงๆ"
ทั้งสองยิ้มให้กัน รู้สึกดีๆ
แล้วเสียงมือถือบุลินดังขึ้น บุลินผละออกมารับสาย
"ฮัลโหล"
กานดาโทร.มาจากโรงพัก พูดมือถือกับบุลิน
"ฉันให้วงในของเราเช็คคร่าวๆมาแล้วนะพี่หมวด สรุปว่าอาทิตย์ก่อนที่นายหรั่งจะโดนจับมีการโอนเงินเข้าบัญชีนายหรั่ง 10ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนก้าวกระโดดมากๆ จากการฝากถอนตามปกติ"
"ใครเป็นคนโอนเงินมา"
"มันเป็นบัญชีจากต่างประเทศเช็คไม่ได้อ่ะพี่หมวด"
"กลิ่นมันตุๆนะ ....เอาเป็นว่า เดี๋ยวอีกครี่งชั่วโมงพี่จะเข้าไป ...เราจะสอบนายหรั่งกันอีกครั้ง"
กานดารับคำก่อนตัดสาย
"ได้พี่หมวด"
โรงพัก ฝนหยุดตกแล้ว
หรั่งเดินตัวแข็งเข้ามาที่ประตูตะราง ผลักประตูออกไปอย่างง่ายดาย ประตูเปิดออกไปอย่างกับไม่ได้ติดล็อก
หรั่งก้าวเดินออกไป
กานดาก้มลงคุ้ยหามาม่าคัพที่ลิ้นชัก
เข้มยื่นถุงนํ้าเต้าหู้เข้ามาให้กานดา
"เก็บบะหมี่สำเร็จรูปไปเถอะ กินนํ้าเต้าหู้กันดีกว่า"
กานดาชะงักมอง
"ใครสั่ง"
"ผมซื้อมาฝาก"
"เอาไปฝากตั้งโอ๋แฟนนายเถอะ"
กานดาหันจะไป เข้มดึงกานดาหันกลับมา
"ผมซื้อมาให้คุณ มันก็เป็นของคุณ"
กานดาอึ้งมองเข้มหวั่นไหว
หรั่งเดินผ่านไป กานดาอึ้ง
"นายหรั่ง!!! เฮ้ย...หยุด"
กานดารีบผละจากเข้ม วิ่งออกไปเลย เข้มรีบวิ่งตามไปด้วย
หรั่งกําลังจะเดินออกจากโรงพัก กานดาเข้ามาเข้าไปจับตัว
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ ออกมาจากห้องขังได้ยังไง"
หรั่งไม่ตอบแต่ฟาดเปรี้ยงจนกานดากระเด็นไป
"โอ้ย..."
เข้มตามออกมา
"หมวด"
หรั่งพุ่งเข้ามาจะทำร้ายกานดาอีก เข้มเข้าไปช่วยกานดา ดึงหรั่งมาต่อย
"หยุด"
แต่หรั่งไม่สะทกสะท้าน เข้มอึ้ง หวาดกลัวขึ้นมา
หรั่งฟาดเปรี้ยงไปทีเดียว เข้มทรุดลงไปกับพื้น หรั่งต่อยตูมอีกที เข้มเลือดกระจายล้มลงไปพังพาบกับพื้น
"เข้ม!"
กานดาโกรธมากหยิบปืนออกมายิงใส่หรั่ง เปรี้ยง !! เข้ากลางหลัง ลูกปืนเข้า เลือดทะลักออกมา แต่หรั่งยังมีแรงมาทำร้ายกานดาได้ เพราะโดนซินดี้สิงอยู่
หรั่งหันมาหากานดามองตาขวาง กานดาตะลึง
"ฮึ แก"
หรั่งพุ่งเข้ามาหากานดาอย่างรวดเร็ว ต่อยกานดาหน้าควํ่าลงไปกับพื้น ปืนกระเด็นจากมือ
หรั่งตรงเข้ามาหากานดาแล้วยิ้มแสยะ
กานดามองเห็นหน้าหรั่งกลายเป็นหน้าซินดี้ มองจิก ตาขวางขึ้นมา
กานดาร้องอย่างหวาดกลัวแล้วขยับถอยหลังไปจนติดฝากลัวสุดขีด
ซินดี้เอื้อมมือเข้ามาบีบคอกานดา
กานดากรี๊ดสุดเสียง ไม่รู้ว่าชะตากรรมกานดาจะเป็นอย่างไร
บุลินขับรถตั้งโอ๋นั่งข้างๆถามขึ้น
"หมวด....จะสอบนายหรั่งอีกทำไม"
"จากข้อมูลทั้งหมดมีความเป็นไปได้สูงว่า นายหรั่งจะรับเงินจากใครบางคนเพื่อมาติดคุกแทน"
"จ้างให้มาเป็นแพะ!!! งั้นฆาตกรตัวจริงก็ไม่ใช่นายหรั่งน่ะสิ"
บุลินไม่ตอบ แต่เบรกรถเอี๊ยด จนตั้งโอ๋หน้าคะมำ
"โอ้ย ... หมวด รถนะไม่ใช่เกวียน นึกจะเบรกก็เบรกเหรอ"
บุลินมองไปข้างหน้า "งานเข้าแล้วล่ะ"
บุลินเห็นผู้คนมุงอยู่หน้าโรงพักพร้อมรถพยาบาล
ตั้งโอ๋อึ้งมองตามไปด้วยความแปลกใจเช่นกัน
"ฮึ...เกิดอะไรขึ้น"
บุลินรีบเปิดประตูรถลงไป ตั้งโอ๋ตาม
เจ้าหน้าที่เปลหามกานดาที่สลบเหมือด เลือดท่วมออกมา
บุลินกับตั้งโอ๋แหวกฝูงคนเข้าไปเห็นตกใจ
"หมวดกานดา!"
แล้วเจ้าหน้าที่อีกชุด หามเปลเข้มออกมาด้วย
"เข้ม...ทำไมเป็นแบบนี้ เข้มๆ"
บุลินดึงตั้งโอ๋ไม่ให้ขวางเจ้าหน้าที่ ที่พาทั้งสองคนขึ้นรถพยาบาลออกไป
สารวัตรตามออกมาทีหลัง บุลินรีบเข้าไปหา
"สารวัตรเกิดอะไรขึ้นครับ ใครทำร้ายกานดากับเข้ม"
"นายหรั่ง!"
"อะไรนะครับ !"
"กานดากับนายเข้มพยายามจับตัวนายหรั่งที่หนีออกมาจากห้องขัง เลยโดนนายหรั่งทำร้ายจนหมดสติไป"
"เข้มไม่น่าเลยเลวร้ายที่สุด"
"แล้วจับตัวนายหรั่งได้หรือยังครับ"
สารวัตรส่ายหน้า
"ตอนนี้ฉันสั่งระดมเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยให้ออกล่าตัวนายหรั่งแล้ว มันโดนกานดายิงไปด้วย ไม่น่าจะหนีไปไหนได้ไกล"
"ผมก็ไม่ปล่อยมันไว้เหมือนกันผมต้องรู้ให้ได้ว่ามันหนีไปไหน"
บุลินพูดจริงจัง
หน้าอพาร์เม้นท์เพลินพิมาน ตอนกลางคืนต่อเนื่อง
บรรยากาศรอบๆเงียบสงัด หรั่งค่อยๆเดิน เลือดหยดเป็นดวงๆเข้ามาที่หน้าอพาร์ทเม้นท์ยืนจังก้ามองขึ้นไปข้างบนตึก แล้วเดินเข้าไปในข้างใน
หรั่งเดินตัวแข็งเข้ามาที่หน้าประตูห้องซินดี้ที่ล็อกกุญแจเอาไว้
หรั่งใช้มือดึงโซ่กุญแจขาดกระจุย แล้วผลักประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย
หรั่งก้าวเข้ามาในห้องแล้ว วิญญานของซินดี้หลุดออกมาจากตัวหรั่ง
หรั่งผงะเซไปพิงผนัง แล้วร้องโอดโอยเจ็บแผลที่โดนยิง
"โอ้ย..." หรั่งยกมือที่จับแผลออกมาดู ยิ่งตื่นตระหนก "เลือด!! เลือดกูออกได้ยังไง"
ซินดี้ยืนมองหรั่งด้วยความสะใจ
ซินดี้หัวเราะเยาะ
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ....ฉันสิงร่างแกไปให้ตำรวจยิงเล่นยังไงล่ะ"
หรั่งเงยหน้ามามอง ทั้งตกใจ ทั้งเจ็บ
"ซินดี้!"
"ไอ้ชั่วหรั่งนี่เป็นคืนสุดท้ายในชีวิตแกแล้ว!"
ทางด้านบุลินกําลังสั่งจ่าโอตามหาตัวหรั่ง ตั้งโอ๋ยืนมองอยู่ข้างๆ
"จ่าเช็คเพื่อน คนรู้จักทั้งหมดของนายหรั่ง แล้วแยกกันไปตามหา"
"ครับผม"
จ่าโอเดินออกไป บุลินหันมาเห็นตั้งโอ๋ยืนอยู่
"นี่เธอโรงพักนะ ไม่ใช่ห้องนั่งเล่น กลับบ้านไปได้แล้ว"
บุลินไล่แล้วเดินออกไป ตั้งโอ๋มองตาม
"เฮอะเรื่องชาวบ้านคืองานของเราอยู่แล้ว เรื่องอะไรฉันจะกลับง่ายๆ"
ตั้งโอ๋รีบตามบุลินไป
ต่อมา ช่างซ่อมประตูกําลังดูประตูตะรางที่ล็อกเสีย ซ่อมอยู่ มีตำรวจ1 ยืนดูอยู่ข้างๆ
บุลินเดินเข้ามาดู
"เป็นไงบ้าง"
" ล็อกเสียน่ะครับหมวด....ผู้ต้องหารายนี้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนี่ ทรงพลังช้างสารมากเลยนะครับ ถึงกับทำประตูห้องขังชำรุดได้"
ตั้งโอ๋ตามเข้ามาดูเช่นกัน ตาลุกมองตะลึง
"มันไม่ใช่นายหรั่งแล้ว!"
บุลินหันไปมองปราม "ตั้งโอ๋"
"หมวดมันไม่ใช้ฝีมือนายหรั่ง!! มันเป็นฝีมือ ..."
บุลินจับตัวตั้งโอ๋ รีบดึงตัวออกไปข้างนอก
"หยุดพูดมาก ออกไปซะ"
"โอ้ยหมวดอะไรเนี่ยปล่อยฉัน"
บุลินดึงตัวตั้งโอ๋ออกมาข้างนอก
"หมวดปล่อยฉันนะ มาจับฉันทำไม"
"นี่เธอจะพูดจะจาอะไรก็ระวังบ้าง เดี๋ยวคนอื่นเขาก็หาว่าบ้าหรอก"
"ช่างหัวคนอื่นเถอะ!! ฉันคิดว่า ลำพังนายหรั่งไม่มีทางเปิดประตูคุกเองได้ แล้วก็ไม่มีทางหนีไป ทั้งๆที่โดนยิงกลางหลังอย่างนั้นหรอก"
"หมายความว่าไง"
"หมวดไม่รู้สึกเลย เหรอว่ามันเกี่ยวกับใครบางคนที่มันเหนือธรรมชาติ ใครบางคนที่เรารู้ดีว่าเธอต้องการกลับมาล้างแค้น"
"ซินดี้ !"
บุลินเริ่มกังวลขึ้นมา
ทางด้านหรั่ง พยายามกระเสือกกระสน ลุกขึ้นเคาะประตูห้องเรียกให้คนช่วย
"ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยฉันด้วย"
ซินดี้ยืนอยู่กลางห้อง มองจิกหรั่งอย่างสะใจ
หรั่งเปลี่ยนท่าทีหันมาหาซินดี้ อ้อนขอความเมตตา
"ซินดี้ฉันไม่ได้ทำนะ ฉันไม่ได้ฆ่าเธอนะ ซินดี้อย่าทำอะไรฉันนะ"
ซินดี้ตวัดมือในอากาศ
หรั่งเหมือนโดนตบ กระเด็นตัวลอย ล้มกลิ้งไปอีกทาง และร้องด้วยความเจ็บปวด
"โอ้ย"
"กูไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลในการฆ่าผู้ชายชั่วๆอย่างมึง!"
หรั่งยกมือไหว้
"ฉัน ฉันขอร้องล่ะ อย่าฆ่าฉันเลยซินดี้ ไว้ชีวิตฉันเถอะ ฉันยังไม่อยากตาย"
"มึงอยากตายแบบไหนไอ้หรั่ง กูจะตามใจมึงทุกอย่าง"
หรั่งสะอื้น "อย่า ...อย่าทำฉัน ....ซินดี้สงสารฉันเถอะ"
"สงสาร? มึงเคยสงสารกูมั้ยไอ้หรั่ง มึงจำได้ไหมว่า มึงเคยทำอะไรกับกูบ้าง"
หรั่งขายซินดี้ให้เสี่ย
หรั่งตบตี ทำร้าย ซ้อมซินดี้
ซินดี้มองหรั่งอย่างแค้นใจ
"ไอ้แมงดาถึงเวลาที่มึงต้องชดใช้ความชั่วของมึงให้กูแล้ว"
ซินดี้ยกมือออกไปเด็ดหูหรั่งดึงออกมาขาดกระจุย
หรั่งร้องเจ็บปวดเสียงลั่น
บุลินผลักประตูห้องแต่งตัวของซินดี้ในโรงละคร ตั้งโอ๋ตามเข้ามาเปิดไฟในห้องขึ้น
บุลินมองไปรอบๆ
"ไอ้หรั่งแกอยู่ในนี้ใช่มั้ย"
ทุกอย่างเงียบไม่มีเสียงตอบ
"ทำไมเงียบแบบนี้ หรือว่านายหรั่งจะไม่ได้มา"
บุลินยกมือจุ๊ปากให้ตั้งโอ๋เงียบ พยักพเยิดไปที่ตรงมุมหนึ่งในห้องที่เห็นส่วนหลังของใครบางคนที่ไหวๆอยู่หลังตู้
บุลินถือปืนย่องเข้าไปใกล้ สั่งเฉียบขาด
"ไอ้หรั่งมอบตัวซะ"
กะเพราตกใจร้องลั่น
"อย่ายิงค่ะ อย่ายิง หนูกะเพราค่ะ ไม่ใช่นายหรั่ง"
บุลินอึ้ง
"พี่กะเพรา!"
"เข้ามาทำอะไรในนี้"
"กะเพราแบบ.. พอดี นอนไม่หลับอะค่ะ เลยออกมาเก็บกวาดโน่นนี่ แล้วเผลองีบไปตอนไหนก็ไม่รู้ มาตื่นตอนที่พี่หมวดสุดหล่อเข้ามานี่แหละค่ะ"
บุลินเดินออกมาข้างหน้าโรงละคร สีหน้าเคร่งเครียด คุยมือถือมาด้วย
"ผมมาดูที่โรงละครเพลินพิมาน แต่เหลวไม่น่ามาให้เสียเวลาเลย จ่าอยู่ที่ไหนได้เรื่องมั้ย"
ตั้งโอ๋วิ่งตามออกมา
"หมวด"
"ไม่ต้องมาเรียก ฉันไม่น่าเชื่อเด็กเมื่อวานซืนอย่างเธอเลยจริงๆ"
"โธ่หมวด มันเป็นฝีมือพี่ซินดี้จริงๆ เพียงแต่เรายังไม่รู้ว่า พี่ซินดี้จะพานายหรั่งไปไหนเท่านั้นเอง"
"เอาล่ะฉันจะไปหาจ่าโอ ...ส่วนเธอก็กลับบ้านได้แล้ว"
บุลินหันจะเดินออกไป
แล้วอยู่ๆแมวจากที่ไหนก็ไม่รู้กระโดดตัดหน้าบุลิน
ตั้งโอ๋นึกไปถึงความฝันก่อนหน้านี้
แมวดวงใจยืนอยู่ตรงหน้า ตั้งโอ๋รีบวิ่งหนีออกไปอย่างหวาดกลัว
ตั้งโอ๋วิ่งหนีหน้าตื่นมาแล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องๆหนึ่งเพื่อจะหลบ แล้วตั้งโอ๋ต้องตกใจที่เข้ามาในห้องซินดี้ซะงั้น
"กลายเป็นห้องพี่ซินดี้ได้ยังไง!" ตั้งโอ๋หันจะเปิดประตูออกไป แต่ประตูล็อกเปิดไม่ออก
"เปิดไม่ออก ช่วยด้วยๆๆ"
ซินดี้เดินทะลุกำแพงห้องออกมา พร้อมกับดึงโซ่ที่ล่ามคอหรั่งคลานตามออกมา
ตั้งโอ๋หันมามองพอดี มองตื่นตะลึง ถอยหลังจนไปติดกำแพงอีกด้าน
ซินดี้จัดการกระตุกโซ่ ร่างของหรั่งลอยขึ้นไปในอากาศแบบเหมือนโดนโซ่รัดคอจนหายใจไม่ออก
หรั่งเจ็บปวดทรมาน ร่างของหรั่งพุ่งทะลุหน้าต่างออกไป
ร่างหรั่งตกลงมาตายที่พื้นถนน ตาเบิกโพลง เลือดเต็มหน้า
ตั้งโอ๋ตะลึงรีบเข้าไปดึงแขนบุลินขอร้องเต็มที่
"หมวด ฉันนึกออกแล้ว ฉันเคยฝันถึงพี่ซินดี้กับนายหรั่ง มันต้องใช่แน่ๆ พี่ซินดี้กําลังเล่นงานนายหรั่งอยู่นะ หมวดเราต้องรีบไปแล้ว"
"พอ นี่จะเช้าอยู่แล้ว ยังมีหน้ามาแต่งเรื่องโกหกอีกเหรอ"
"หมวดฉันขอร้องล่ะ ให้โอกาสฉันอีกครั้งเถอะ ไม่อย่างนั้นต้องมีคนตายเพิ่มขึ้นอีกแน่ๆ"
ตั้งโอ๋วิงวอนบุลินจ้องหน้าชั่งใจ
หรั่งโดนถลกหนังหน้าซีกหนึ่งออกมา
หรั่งร้องลั่นจะขาดใจ ทรุดลงนั่งกับพื้น
"ฆ่าฉันสักทีสิ ฆ่าเลย"
ซินดี้ยืนอยู่ตรงหน้า หรั่งยิ้มแสยะด้วยความสะใจ
"อยากตายขึ้นมาแล้วเหรอ"
"ฉันอยากตาย ฉันไม่อยากทรมานแล้ว"
"ฉันมีความสุขจริงๆที่ได้ยินแกพูดแบบนี้" ซินดี้ทรุดลงมาจ้องตาหรั่ง "เพราะสิ่งที่แกพูดมันคือเสียงที่ดังอยู่ในหัวของฉันเวลา ที่แกซ้อมฉันเวลาที่แกลากฉันไปนอนกับผู้ชายอื่น....คราวนี้แกได้รู้แล้วใช่มั้ย ว่าความทรมานมันเจ็บยิ่งกว่าตาย ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
ซินดี้หัวเราะใส่หน้า หรั่งมองซินดี้ มีประกายบางอย่างที่เจ็บปวด
"ฉัน...ทำให้เธอเจ็บปวดมากเลยสินะ ก็สมควรแล้ว สมควรที่เธอจะต้องแก้แค้น"
"แกพูดอะไร"
หรั่งคิดถึงความหลังที่ประทับใจกับซินดี้
"ซินดี้จำได้ไหม ....เมื่อ5 ปีก่อน ตอนที่เรายังรักกันใหม่ๆ วันที่ฉันไม่สบาย เธอหาข้าวกับยามาให้ฉันกิน"
ในอดีต เมื่อ 5 ปีก่อน ในห้องเช่า
ซินดี้รีบวิ่งเข้ามาในบ้านแบบเป็นห่วงหรั่งมาก ,หรั่งนอนซมป่วยเป็นไข้อยู่บนฟูก ซินดี้วิ่งเข้ามาหาหรั่งพร้อมกล่องข้าวและขวดนํ้า ถุงยา แม้ว่า ซินดี้จะมีรอยชํ้าๆที่มุมปากนิดนึงแบบแผลเก่าที่โดนหรั่งซ้อมมา
"พี่หรั่ง ....ฉันซื้อข้าวซื้อยามาให้พี่แล้ว พี่ลุกมากินข้าวก่อนนะ จะได้กินยา"
ซินดี้ประคองหรั่งลุกขึ้นมานั่ง แกะกล่องข้าวออกมา ตักข้าวป้อนให้หรั่ง
"พอดีข้าวต้มมันหมดนะพี่หรั่ง มีแต่ข้าวผัดอะกําลังร้อนๆเลย เดี๋ยวฉันเป่าให้" ซินดี้เป่าข้าวแล้วป้อนให้หรั่งกิน "อร่อยมั้ย"
หรั่งมองหน้าซินดี้ซึ้งใจ
"อร่อยอร่อยที่สุดในโลกเลย"
"งั้นพี่ก็ต้องกินข้าวเยอะๆจะได้หายเร็วๆ"
หรั่งยกมือไปแตะปากซินดี้ที่โดนซ้อม
"ทั้งๆที่ฉันซ้อมเธอ เธอยังหาข้าวมาให้ฉันกิน"
"ก็พี่เป็นผัวฉัน"
"เธอไม่โกรธฉันเหรอ"
"โกรธซิ ...แต่เพราะรักมากกว่า แล้วฉันก็หวังว่าสักวันพี่จะเห็นในความรักของฉัน พี่จะกลับตัวเป็นคนใหม่"
"ซินดี้ฉันรักเธอนะ เธออย่าทิ้งฉันไปไหนนะ"
ซินดี้ยิ้มจับมือหรั่งแนบแก้ม
"ฉันก็รักพี่ ...ถ้าพี่ไม่ยกฉันให้คนอื่นฉันก็ไม่ทิ้งพี่ไปไหนหรอก"
ซินดี้ยิ้มหวาน แนบแก้มกับมือหรั่ง
ซินดี้มองหรั่งอยู่ด้วยความแค้นใจ !
"แต่หลังจากนั้นไม่เกิน 2 อาทิตย์แกก็ขายฉันให้ไอ้เสี่ยนั่น" ซินดี้หัวเราะเย้ย "ตอนฉันเป็นคนนี่มันโง่จริงๆ หลงเชื่อลมปากไอ้แมงดาอย่างแกได้ยังไง"
"แต่ฉันอยากบอกว่า วันที่เธอดูแลฉันตอนฉันป่วยเป็นวันที่ฉันประทับใจมาก เพราะตอนที่ฉันเด็กๆแม่ของฉันทิ้งฉันไปในวันที่ฉันป่วย....แต่เธออยู่กับฉัน ตอนฉันแย่...ฉันไม่สบาย"
"แกกําลังจะหลอกล่อให้ฉันไว้ชีวิตแกใช่มั้ย"
"เปล่า ...ฉันแค่อยากให้รู้ว่าวันนั้นเป็นวันที่ฉันรู้สึกดีจริงๆ เวลาที่ฉันอยู่คนเดียวแล้วคิดถึงเธอฉันก็จะนึกถึงภาพในวันนั้น"
ซินดี้พยายามเข้าใจหรั่ง อีกนิดเดียวฉันก็จะใจอ่อนแล้ว
หรั่งเจ็บปวดใจจะร้องไห้เมื่อพูดถึงความรู้สึกจริงๆ
"ซินดี้ ...ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมฉันถึงพูดดีๆทำดีๆกับเธอไม่ได้ ทำไมฉันต้องทำร้ายทุกคนที่ฉันรัก....ฉัน...อยากจะขอโอกาสให้ฉันได้พูดแบบนี้กับเธอสักครั้ง ....ซินดี้ ...ฉันเสียใจ ฉันขอโทษ"
ซินดี้พุ่งเข้ามาหาหรั่งอย่างรวดเร็วแล้วหักคอหรั่งจนหมุนได้รอบ มองหรั่งด้วยสายตาเย็นชา
"คำขอโทษของแกเดินทางมาช้าเกินไปหรั่ง เสียใจด้วยจริงๆที่ฉันยกโทษให้ไม่ได้"
บุลินกับตั้งโอ๋วิ่งเข้ามาที่หน้าตึก มองไปข้างบนแล้วหยุดมองตะลึง
เป็นจังหวะที่ร่างของหรั่งลอยทะลุกระจกหล่นลงมาจากห้องของซินดี้
บุลินรีบดึงตั้งโอ๋หลบ
ร่างหรั่งร่วงลงมากระแทกพื้นเลือดนอง
ทั้งสองมองด้วยความตื่นตะลึง
"แอร๊ย...." ตั้งโอ๋ร้อง...
หรั่งนอนตายอยู่ที่พื้นหน้าอพาร์ทเม้นท์
บุลินมองสังเวชใจ
เสียงหัวเราะเยือกเย็นของซินดี้ดังแผ่วๆออกมาจากตึก
บุลินเหลือบตามองขึ้นไปบนระเบียงห้องอพาร์ทเม้นท์ก็เห็นซินดี้ยืนอยู่ยิ้มเยาะมองสบตาลงมา
บุลินอึ้ง แพ้อีกแล้ว
ท้องฟ้ายามเช้าตรู่ ในอพาร์ทเม้นท์เพลินพิมาน
แพรวา ภาวัชออกจากลิฟต์เดินหน้าตาขึงขังมาตามทางไปห้องซินดี้
มดแดง โกกิ ลงบันไดเปิดประตูออกมาจากห้อง ตามเข้ามาสบทบ
ทั้งหมดเดินไปที่ห้องซินดี้
มดแดงบอก "อ๊าย... มีคนตายอีกแล้ว"
"ตำรวจมาเต็มเลยอ่ะ" โกกินว่า
แพรวา ภาวัช และทุกคนเดินตรงมาที่หน้าห้องซินดี้ มีทิพย์ยืนอำนวยความสะดวกให้ตำรวจอยู่แถวๆหน้าห้อง
"คุณแพร หมวดบุลินอยู่ข้างในแน่ะค่ะ" ทิพย์บอก
แพรวาพยักหน้ารับรู้ ทุกคนเดินเข้าไปในห้อง
บุลิน จ่าโอ ดูการตรวจสอบหลักฐานในห้องซินดี้อยู่กับตำรวจอื่น
"ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ไม่มีรอยนิ้วมือแฝงของคนอื่นเช่นกันครับหมวด อ่อผมให้คนไปส่งตั้งโอ๋ที่โรงพยาบาลตามที่หมวดสั่งแล้วนะครับ"
ภาวัช แพรวาเดินเข้ามาในห้อง พวกมดแดง โกกิ ทิพย์ตามหลัง
แพรวาเรียก "หมวดบุลิน"
บุลินผละจากที่คุยกับจ่าโอมาหาแพรวา
"ขอโทษนะครับที่ต้องเรียนเชิญคุณแพรวาคุณภาวัชแต่เช้า"
"มีเรื่องอะไรก็พูดมาเลยเถอะค่ะ"
"ครับ ...ผมจะแจ้งให้ทราบนะครับ เรื่องที่นายหรั่งมากระโดดตึกตายที่นี่ ในเบื้องต้นตามหลักฐานที่ปรากฏเป็นการฆ่าตัวตายนะครับ"
ภาวัชถาม "นายหรั่งโดนจับแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วอยู่ๆทำไมถึงต้องมาฆ่าตัวตายที่นี่"
"หนีความผิดล่ะสิคะ" มดแดงว่า
โกกิบอก "จริงด้วยฆ่าคนตายโทษหนักถึงประหารอยู่แล้ว นายหรั่งเลยชิงฆ่าตัวตายซะก่อน"
"ไม่ต้องเดากันแล้วได้มั้ย" แพรวาบอกกับบุลิน "ตกลงยังไงคะหมวดเป็นอย่างที่พวกเด็กๆ
เขาพูดกันหรือเปล่า"
"ไม่ใช่ครับ นายหรั่งไม่ได้หนีความผิด"
"อ้าวแล้วยังไงคะ"
"นายหรั่งกลับคำให้การว่า ไม่ได้เป็นคนฆ่าซินดี้ แล้วฆาตกรยังอยู่ที่นี่"
ทุกคนอึ้ง
"อะไรกัน นายหรั่งกลับคำให้การได้ยังไง นายหรั่งตายแล้วไม่ใช่เหรอ" ภาวัชว่า
"ผมว่าไปดูหลักฐานกันดีกว่านะครับ"
บุลินเบี่ยงตัวหลบออกไปแล้วชี้มือไปที่ผนังห้องด้านที่มีลายมือหรั่งเขียนตัวหนังสือบนผนังด้วยเลือด
“ กูไม่ได้ฆ่าซินดี้ฆาตกรยังอยู่ในตึกนี้”
ทุกคนสีหน้าตกตะลึง
มดแดงบอก "คุณพระ! นั่น"
โกกิร้อง "ว้าย"
"อย่าบอกนะว่าใช้เลือดเขียน" มดแดงว่า
"ครับนี่เป็นเลือดนายหรั่งเอง ....สันนิษฐานว่านายหรั่งจะเขียนก่อนที่จะโดดตึกลงไป"
แพรวาเห็นเลือดแล้วทำท่าเป็นลม ภาวัชรีบจับตัวไว้
"คุณแพรๆทำใจดีๆคุณแพร"
"คุณแพรแพ้เลือดช่วยกันเร็ว คุณแพรเป็นลมไปแล้ว" ทิพย์ว่า
ทุกคนโกลาหลเข้ามาช่วย แพรวาบุลินอึ้ง ตึงเครียด
ต่อมา สารวัตรหันไปมองบุลินที่เดินเข้ามารายงาน
"บุลิน ...ผมกําลังรออยู่เลย ...คดีคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว"
"จากการสอบพยานหลักฐานทั้งหมดพบว่านายหรั่งน่าจะได้รับการว่าจ้างจากใครบางคนให้มาเป็นแพะในคดีซินดี้จริงๆครับ ...แต่ตอนนี้เรายังไม่สามารถระบุได้ว่า ใครเป็นผู้โอนเงินค่าจ้างมาให้นายหรั่งเพราะเป็นการโอนมาจากต่างประเทศและโอนต่อมาหลายทอดด้วยกันครับ"
"อืมมฆาตกรรายนี้ไม่ธรรมดาจริงๆวางแผนรัดกุม คุณคงต้องทำงานหนักแล้วล่ะ"
"ผมไม่กลัวงานหนักหรอกครับ ผมอยากเปิดเผยโฉมหน้าฆาตกรรายนี้ให้เร็วที่สุด
ผมอยากให้การฆ่าคนที่ไม่เกี่ยวข้องมันยุติลงเสียที"
สารวัตรไม่เข้าใจ "อะไรนะนี่คุณพูดเรื่องอะไร"
สารวัตรไม่ได้รู้เรื่องซินดี้
"เปล่าครับ ผมแค่อยากปิดคดีให้เร็วที่สุดเท่านั้นล่ะครับ"
บุลินเปิดประตูออกมาจากห้องสารวัตร ถอนใจเฮือก
"จะให้ผมบอกสารวัตรได้ยังไงว่า คดีทั้งหมดมันเกี่ยวกับวิญญาณซินดี้"
จ่าโอวิ่งเข้ามาหา
"หมวดผมตามเรื่องเงินในบัญชีนายหรั่งต่อแล้วนะครับ หมวดลองทายดูสิว่านายหรั่งโอนเงินค่าจ้างทั้งหมดไปที่ใคร"
บุลินอึ้ง
พรินเตอร์พรินท์รูปเด็กชายต่างชาติคนหนึ่งเสร็จพอดี
จ่าโอดึงภาพที่พริ้นท์ออกมาไปยื่นให้บุลินดู
"นี่ครับรูปของเจ้าของบัญชีที่นายหรั่งโอนเงินทั้งหมดไปให้"
บุลินรับไปดู สงสัย
"ยังเด็กอยู่เลย" บุลินอ่านชื่อ "Justin Fisher ฮึ นามสกุลเดียวกับนายหรั่งนี่"
"ครับ เด็กคนนี้เป็นลูกชายนายหรั่งเอง นายหรั่งทิ้งภรรยากับลูกก่อนที่จะมาอยู่เมืองไทย"
"ไม่น่าเชื่อ หรั่งโอนเงินทั้งหมดไปให้ลูกชายที่ทิ้งไป"
"ครับ ผมติดต่อภรรยาเก่าของนายหรั่งแล้ว เธอบอกว่า หรั่งต้องการให้เงินก้อนนี้เป็นทุนการศึกษาของลูกชายให้สูงที่สุดเท่าที่เขาจะเรียนได้ เพื่อทดแทนที่เขาไม่เคยได้เลี้ยงดูลูก เผื่อว่าลูกของเขาจะเกลียดเขาน้อยที่สุด"
บุลินอึ้งไปเหมือนกันเป็นชีวิตที่น่าเศร้า !
"น่าเสียดายนะที่สำนึกความเป็นพ่อของนายหรั่งเกิดขึ้นในเวลาที่สายเกินไป"
"ไม่น่าเชื่อนะครับ ผู้ชายแมงดาอย่างนายหรั่งจะมีมุมที่รู้จักรักลูกรักเต้าแบบนี้ด้วย"
"จริงๆแล้วมนุษย์ไม่ได้เกิดมาเป็นคนเลวแต่แรกเลย นี่จ่าอย่างที่เรารู้ผู้ต้องหาหลายๆคน ก่อนที่จะมากระทำผิดก็เคยเป็นคนที่ถูกคนอื่นรังแกมาก่อนทั้งนั้น มันอยู่ที่ว่าเวลาเขาเจ็บแล้ว เขาจะเลือกวิธีตอบโต้โลกนี้ยังไงต่างหาก"
"ก็จริงของหมวดนะครับ"
"ถ้าคนเหล่านี้สามารถจัดการกับความเจ็บปวดของตัวเองได้ ไม่ไปทำร้ายคนอื่นต่อด้วยความป่วยของตัวเอง ตำรวจอย่างเราคงงานน้อยลงไปอีกหลายเท่าตัว เอาล่ะ" บุลินยื่นกระดาษคืนจ่าโอ "ระหว่างที่กานดายังรักษาตัวอยู่ จ่าจัดการเรื่องนี้ต่อไปที"
เหล่าบรรดานางโชว์กลุ่มหนึ่งหอบหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าไปขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่ โวยวายเสียงลั่น
"วันๆมีแต่เรื่องผีหลอก ไม่หยุดไม่หย่อน ย้ายคณะด่วนๆๆ" นางโชว์ 1 บอก
นางโชว์2 บอก "คาบาเรต์ผีแบบนี้อยู่ไม่ได้แล้วโว้ย"
มดแดงเหลืออด ตะโกนด่าตอบ
"โอ้ย... ใครเขาง้อให้อยู่ล่ะยะ ขี้ป๊อดนัก ก็เชิญย้ายนมซิลิโคนของหล่อนไปให้พ้นเลยไป"
โกกิบอก "ใช่ออกไปเลย คนที่อยากจะเป็นนางโชว์เพลินพิมานมีอีกเป็นโกดัง พวกหล่อนออกไปเลย อย่าซมซานกลับมาให้สมนํ้าหน้าล่ะ"
ทิพย์หันมาหาแพรวาที่มองอยู่อย่างเครียด
ทิพย์ถาม "คุณแพรคะ นางโชว์ออกไปเป็นสิบคนแบบนี้ เราจะฝึกเด็กใหม่ขึ้นมาทันหรือคะ ให้ทิพย์ไปรั้งไว้ก่อนไหมคะ แล้วเราค่อยเจรจาอีกรอบ"
"ไม่ต้อง คนเราถ้าไม่มีใจจะอยู่ด้วยกันแล้วก็อย่าฝืนใจเขาเลย"
"แต่ว่าคณะเราจะเดือดร้อน"
"คนที่ฉันต้องอ้อนวอนให้อยู่ต่อก็มีแต่ซินดี้คนเดียวเท่านั้น ส่วนคนอื่นถ้าเขาคิดว่าที่อื่นดีกว่าก็ปล่อยเขาไปเถอะ"
กะเพราวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหา
"คุณแพรวาขา คุณแพรวา"
"มีเรื่องอะไรกะเพรา"
"คุณภาวัชค่ะ คุณภาวัชบ้าไปแล้ว"
"อะไรนะ"
"รีบไปห้ามนะคะ ตอนนี้คุณภาวัชคลั่งใหญ่แล้วค่ะ"
ภาวัชยกค้อนป้อนฟาดทุบเก้าอี้ตัวหนึ่งในห้องซินดี้ แตกกระจาย
แพรวาเข้ามาพร้อมมดแดง โกกิ ทิพย์กะเพราเข้ามามุงดู
"ภาวัช"
ภาวัชไม่สนใจถือค้อนป้อนจะไปทุบที่รูปซินดี้
"นังซินดี้ตอนเป็นคนก็สร้างแต่ปัญหา ตายไปแล้วยังทำให้คนอื่นเดือดร้อน"
ภาวัชทำท่าจะทุบที่รูปซินดี้ แพรวารีบเข้ามาดึงแขนห้าม
"อย่าภาวัช"
"ผมเกลียดมัน ขอระบายแค้นบ้างเถอะ"
"ไม่เอาน่าภาวัช ทำแบบนี้มันก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก"
"ปล่อยผม"
ภาวัชสะบัดแรงจนแพรวาเซ กระเด็นไปชนโต๊ะด้านหลังล้มลงไป
"ว้าย"
ทุกคนตะลีง
"คุณแพร"
ภาวัชทิ้งค้อนแล้ววิ่งเข้าไปประคองแพรวา ทุกคนรายล้อม
"คุณแพร"
"โอ้ย... ขาฉัน" แพรวาทำท่าจับๆข้อเท้า
"ผม ....ผมไม่ได้ตั้งใจนะคุณแพร ผมขอโทษ"
ในห้องทำงาน ภาวัชกําลังนวดข้อเท้าให้แพรวา
"เจ็บอยู่มั้ยครับ"
"ไม่แล้วล่ะคะ ขอบคุณนะคะวัช"
"โธ่พูดอะไรอย่างนั้น ผมต่างหากที่ทำให้คุณเจ็บตัว ผมมันแย่จริงๆ"
ภาวัชยกมือจะตีตัวเอง แพรวารีบห้าม
"อย่าคะ อย่าว่าตัวเองอย่างนั้น แพรเข้าใจความรู้สึกคุณนะคะ"
"ผมจะทนไม่ได้แล้วนะครับ ที่จะเห็นคณะคาบาเรต์ที่เราช่วยกันสร้างมากับมือจะต้องพังพินาศเพราะนังซินดี้" ภาวัชลุกขึ้นมานั่งข้างๆแพรวา "คุณแพรตอนนี้ใครๆก็ว่าคาบาเรต์เราเป็นคาบาเรต์ผีสิง มีแต่คนมาตายชื่อเสียงไม่ดีอย่างนี้เราจะทำมาหากินยังไง ผมว่าคุณแพรขายๆมันไปเถอะนะครับปแล้วไปใช้ชีวิตสงบๆกันสองคนนะครับคุณแพรนะครับ"
ภาวัชดึงแพรวามากอดแล้วจูบที่ขมับ
ที่ประตู ทิพย์ถือถาดแก้วนํ้า มองดูทั้งคู่ปเผลอตกใจปล่อยถาดหล่นลงไปแตก
แพรวากับภาวัชหันมอง
"ขอโทษคะปทิพย์กําลังเอานํ้ามาให้คุณแพรค่ะปทิพย์ซุ่มซ่ามไปหน่อย"
ทิพย์ก้มลงไปเก็บเศษแก้วแล้วแก้วบาดนิ้วมือ
"อุ้ย..."
แพรวาเห็นเลือดแล้วเบือนหน้าซุกอกภาวัช
"ว้าย...เลือด"
ภาวัชรีบเอาใจแพรวา
"ทิพย์รีบๆออกไปทำแผลซะสิ เห็นมั้ยคุณแพรเขาแพ้เลือด เดี๋ยวเป็นลมไปอีก ฉันเอาเรื่องเธอแน่"
ทิพย์เงยหน้ามองภาวัชชะงักไปดอกหนึ่ง แต่ก็รีบพยักหน้ารับคำแบบว่าง่ายแล้วออกไป
ภาวัชกอดปลอบขวัญแพรวา
"ไม่เป็นไรแล้วนะครับ ทิพย์เขาไปแล้วล่ะ"
ในห้องนอนทิพย์ อพาร์เม้นท์เพลินพิมาน ต่อเนื่องมา
ภายในห้องทิพย์ที่เต็มไปด้วยรูปธรรมะ คำคมสอนใจต่างๆ
ทิพย์นั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่งหยิบกระบะใส่เครื่องพยาบาลออกมารื้อๆเหมือนจะทำแผล
ทิพย์หยิบสำลีเหมือนจะซับเลือดแล้วกลับเปลี่ยนใจมองเลือดอย่างเย้ายวนแล้วยกนิ้วขึ้นดูดเลือดที่มือจนหมด แต่ยังไม่หนำใจ ทิพย์ถลกกระโปรงยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาชันไว้แล้วหยิบคัตเตอร์ขึ้นมากดเลื่อนใบมีดขึ้นแล้วยกลงไปกรีดที่ขาอ่อนตัวเองจนเลือดซิบๆออกมา ทิพย์มองพึงพอใจมีความสุข
บนโต๊ะทำงาน บุลินกําลังเซ็นงานบนโต๊ะ แล้วเสียงไลน์เข้าดังขึ้นมา บุลินหยิบมือถือมาดู
เห็นว่าเป็นไลน์จากหมาป่า
บุลินกดอ่านข้อความ
"เพลินพิมานกําลังประสบปัญหาใหญ่ ทั้งพนักงานลาออกและเสียชื่อเสียง จากการที่มีคนตาย ศพแล้วศพเล่า ทุกคนลือว่า ผีซินดี้เฮี้ยนอาละวาดจนเพลินพิมานต้องเจ๊งแน่"
บุลินพิมพ์ข้อความตอบไป
“มีใครที่ดูผิดปกติในสายตาคุณใครดูน่าสงสัยที่สุด”
ฝั่งบุลินอ่านข้อความ
“ พูดยากนะครับหมวดคนที่นี่น่าสงสัยทุกคน ...เอาเป็นว่าผมจะพยายามสืบหาความจริงให้เร็วที่สุด”
“ ดี ฆาตกรยังแฝงตัวอยู่ในเพลินพิมานแน่นอน”
ฝั่งบุลินอ่านข้อความ
“ ครับผมจะทำให้ดีที่สุด... ฝากเยี่ยมหมวดกานดาด้วยนะครับ ขอให้หายไวๆ"
บุลินอ่านข้อความแล้วนึกถึงกานดาขึ้นมา
โรงพยาบาล ตอนคํ่า
ตั้งโอ๋รับยาแล้วหันเดินเข้ามาหาเข้มมีผ้าพันแผลแปะศีรษะแบบคนหัวแตก กับต้อมที่นั่งรออยู่
"จ่ายเงินรับยาเรียบร้อย กลับบ้านกันได้แล้ว"
"ไม่ ฉันยังไม่กลับ" เข้มบอก
"นี่ถ้าจะแก่นก็ไว้ให้แผลหัวแตกเย็บ20เข็มของแกหายดีก่อนได้ไหม"
"นั่นสิ มีแต่คนเขาอยากกลับบ้าน แกจะอยากอยู่โรงพยาบาลไปทำไมฮะ เข้ม"
"ผมก็ไม่ได้บอกว่าผมจะไม่กลับ แต่ผมอยากไปเยี่ยมหมวดกานดาก่อนกลับได้มั้ย"
เข้มถาม
บุลินวางกระเช้าของเยี่ยมลงข้างเตียงกานดาที่ยังนอนให้นํ้าเกลืออยู่
"สารวัตรกับทุกคนที่โรงพักฝากมาเยี่ยมด้วยนะกานดา"
"ขอบคุณมากพี่หมวด"
บุลินขยับเข้ามาคุยด้วย
"เป็นไงเห็นหมอว่าเธอชํ้าในร่างกายอ่อนเพลียมาก"
"โอ้ย แค่นี้เด็กๆน่า พี่นี่ถ้าหมอไม่ขู่ว่าจะฟ้องสารวัตร ฉันคงถอดสายนํ้าเกลีอนี่แล้วกลับไปทำงานคืนนี้กับพี่เลย"
"พอๆเลยพักบ้างเถอะกานดา....พี่ยังไม่อยากไปกินข้าวต้มงานเธอ"
"ดูพูดเข้าจะแช่งน้องซะงั้น ขอโทษนะฮะ อย่างกานดาไม่ตายง่ายๆหรอกฮะ ยังไงก็ต้องเคลียร์คดียายซินดี้นี่ให้รู้เรื่องก่อน" กานดานึกขึ้นมาได้ "เออจริงสิ"
กานดานึกย้อนถึงตอนที่หรั่งกลายหน้าเป็นซินดี้พุ่งเข้ามาทำร้ายตัวเธอ
"ตอนที่ฉันสู้กับนายหรั่งมันแปลกมากเลยนะพี่หมวด ฉันว่าฉันเห็น... "
" เห็นอะไร"
"ซินดี้"
บุลินอึ้งไปอีก
"พี่หมวดฉันไม่ได้โกหกนะ ฉันเห็นนายหรั่งกลายเป็นซินดี้จะจะต่อหน้าฉันเลย"
"ไม่หรอกมั้ง"
"จริงๆสาบานได้เลย ฉันเห็นซินดี้ ซินดี้สิงนายหรั่งแน่ๆ ไม่อย่างนั้นนายหรั่งจะเอาแรงมาจากไหน ขนาดโดนยิงยังไม่เป็นไรอ่ ะมันเหลือเชื่อเกินมนุษย์แล้ว"
"เลอะเทอะน่า พี่ว่าเราพักผ่อนเถอะ"
บุลินทำท่าจะไป กานดาจับมือบุลินดึงไว้
"พี่หมวดกําลังปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่า"
"ไม่มีอะไรนี่"
"ไม่มีอะไร แล้วทำไมพี่ไม่ยอมมองหน้าฉัน"
บุลินอึ้ง
"พี่อย่าโกหกดีกว่า เราเป็นพี่น้องกันมานานแล้วนะ พี่ก็รู้ว่าผีซินดี้มีจริงๆใช่มั้ย"
บุลินค่อยเงยหน้าขึ้นสบตากานดา ยอมรับ
"ใช่....วิญญาณซินดี้มีจริงๆ"
"สุดยอดเลยแบบนี้ เราก็ถามนางได้เลยสิว่า ใครฆ่านาง"
"มันไม่ง่ายอย่างนั้นสิ"
"อ้าวทำไมล่ะ"
พวกตั้งโอ๋เปิดประตูเข้ามาในห้อง แต่ได้ยินที่บุลินกับกานดาคุยกัน หยุดชะงักฟัง ซึ่งกานดากับบุลินไม่รู้ตัววางโดนแอบฟังอยู่
"วิญญาณซินดี้อัดแน่นด้วยความแค้น ซินดี้ต้องการฆ่าทุกคนอยู่แล้ว โดยไม่สนใจว่าใครเป็นฆาตกร!"
พวกตั้งโอ๋อึ้งตะลึง
"พี่เองก็เกือบจะเป็นศพไปแล้ว แต่เพราะซินดี้ต้องการเล่นเกมส์ จึงเกิดการเดิมพันกันขึ้น"
ภาพความหลัง
ซินดี้ยกมือขึ้นในอากาศทำท่าเหมือนกรีดคอในอากาศ
ที่คอบุลินมีรอยกรีดขึ้นมา เลือดพุ่งเหมือนถูกเชือดคอ
บุลินร้องเจ็บปวด
ซินดี้มองด้วยความสะใจ
บุลินโดนกรีดแทบคอขาดทรุดลงไปกับพื้น เลือดพุ่งล้นทะลัก ใกล้จะขาดใจตาย
ในนาทีสุดท้าย ซินดี้กลับพลิกมือควํ่าลงกำเข้ามา
เลือดที่พุ่งอยู่ย้อนกลับเข้าไปในตัวบุลินแผลปิดสนิท บุลินถอยกลับมายืนตรงหน้าซินดี้ เหมือนตอนแรก
บุลินยิ่งงงหนักเข้าไปอีก
ซินดี้หัวเราะชอบใจ
"เธอกำลังเล่นตลกอะไร"
"ฉันอยากให้คุณรู้ไว้ว่า ถ้าฉันจะฆ่าคุณมันง่ายนิดเดียว"
"ก็ฆ่าสิจะละเว้นทำไม"
"มันง่ายเกินไปน่ะสิที่คุณจะตาย ฉันอยากเห็นคนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์อย่างคุณต้องเจ็บจนกระอัก เมื่อกฏหมายที่คุณว่าศักดิ์สิทธิ์นักหนามันช่วยชีวิตใครไว้ไม่ได้เลย"
"ถ้าแค้นใจนักก็บอกมาสิว่าใครฆ่าคุณผมจะจับมันเข้าคุกเอง!"
"ฉันไม่ได้ต้องการให้มันติดคุก ฉันต้องการให้มันตายสถานเดียว"
"ไม่ได้ ถึงคนที่ฆ่าคุณจะผิด แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ฆ่าใครทั้งนั้น"
"คุณมีความสามารถที่จะห้ามฉันได้หรือเปล่าล่ะบุลิน หึ หึ เอาชีวิตของทุกคนในเพลินพิมานเป็นเดิมพันมั้ย !"
"หมายความว่าไงคุณจะทำอะไร"
"ฉันก็อยากจะเล่นอะไรสนุกๆสักหน่อย...ถ้าไม่อยากให้คนบริสุทธิ์ต้องตาย คุณก็ต้องรีบหาไอ้ฆาตกรนั่นให้เจอ ....เพราะยิ่งคุณหาตัวมันช้าเท่าไรก็จะยิ่งมีคนตายมากขึ้นเท่านั้น"
บุลินหน้าขรึมพูดต่อ
"นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่พี่จะต้องรีบปิดคดีนี้ให้เร็วที่สุด พี่ไม่อยากเห็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องต้องมาตายโดยไร้เหตุผลแบบนี้"
"พี่หมวดไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะช่วยพี่เต็มที่!"
บุลินยิ้ม "ขอบใจ"
เข้มรีบเดินแซงออกไป ตั้งโอ๋กับต้อมตามไป
"อ้าวจะมุบมิบอะไรกันอยู่สองคนล่ะ ให้ผมแจมด้วยได้มั้ย"
"นายเข้ม"
เข้มยิ้มเผล่ให้กานดา
ตั้งโอ๋มุ่งมั่นมีอุดามการณ์
"ใช่เราต้องช่วยกันเราถึงจะเอาชนะพี่ซินดี้ได้"
"งั้นพี่ก็ต้องขอเอี่ยวด้วยคนแล้ว มะทุกคนรวมพลังกันหน่อย"
ต้อมยื่นมือออกไป ทุกคนวางมือลงจับมือกัน
"ด้วยความจริงใจปรารถนาดีจะนำทางให้เราประสบความสำเร็จ"
อยู่ๆเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาแล้วไฟในห้องดับพรึ่บ
ตั้งโอ๋ร้องตกใจ
แล้วไฟก็ติดขึ้นมาได้เอง
"ไม่มีอะไรหรอกครับไฟมันตกแค่นั้นเอง"
"แน่ใจนะหมวดไม่ใช่ผีมา... " เข้มบอก
"โธ่เอ๊ย... ไม่ทันไรก็ป๊อดซะแล้ว ไปเลย มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยดีกว่า"
เข้มย่นจมูกใส่กานดา
บุลินตัดบทขึ้น
"เอาล่ะครับ ผมขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะครับ ...ไว้ถ้ามีอะไรคืบหน้าผมจะแจ้งให้ทุกคนทราบ ตอนนี้ขออนุญาตกลับไปโรงพักก่อนนะครับ"
บุลินพูด
ต่อมา บุลินออกจากลิฟต์แล้วเดินออกมาที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล
ตั้งโอ๋วิ่งตามหลังบุลินมาที่รถ
"หมวด"
"อ้าว ...มีอะไร แล้วคนอื่นล่ะไปไหน"
"พอดีเข้มกับพี่ต้อมต้องไปหาลูกค้า เขาสั่งออเดอร์ล็อตใหญ่เลยอ่ะ ฉันขอติดรถหมวดไปลงปากทางเข้าบ้านฉันหน่อยได้ไหม"
" ขึ้นรถสิ"
บุลินขยับไปขึ้นรถ ตั้งโอ๋ยิ้มก้าวตามขึ้นไป
รถบุลินแล่นไปตามทาง
ภายในรถบุลินขับ ตั้งโอ๋นั่งข้างๆ บุลินเหลือบตามองตั้งโอ๋แว่บหนึ่ง แล้วตัดสินใจพูดขึ้น
"เธอตามฉันมาทำไมซินดี้"
"ว้าย... พี่ซินดี้มาเหรออยู่ไหนอ่ะหมวด"
"พอเถอะ เธอต้องการอะไรซินดี้ พูดมาเลยตรงๆดีกว่า"
ตั้งโอ๋ยิ้มกริ่มท่าทีเปลี่ยนไปเป็นซินดี้
"หมวดรู้ได้ยังไงว่าเป็นฉัน"
"เธอไม่มีเงาในกระจก"
กระจกข้างเห็นว่าเบาะที่นั่งของตั้งโอ๋เป็นเบาะเปล่าๆ ไม่มีเงาของตั้งโอ๋จริงๆ
ตั้งโอ๋หัวเราะแล้วค่อยกลายร่างเป็นซินดี้นั่งอยู่ข้างบุลินมองจ้องตาเป็นประกาย
"ใช่ฉันเอง...หมวดคิดว่าตัวเองเก่งมากใช่มั้ย ถึงได้คิดจะร่วมมือกับพวกกระจอกนั่นแล้วจะมากําจัดฉันได้ง่ายๆ"
บุลินไม่ตอบ
ซินดี้มองเข้ม
"ฉันจะเอาหมวดไปอยู่ด้วยเดี๋ยวนี้!"
รถบุลินแล่นไปตามถนนแล้วมีรถสิบล้อสวนมา
บุลินเหมือนบังคับรถไม่ได้ หักพวงมาลัยเข้าไปอยู่ในเลนของสิบล้อ
รถสิบล้อแล่นใกล้เข้ามาจะชนกับรถบุลิน
ไฟหน้าจากรถสิบล้อสาดเข้าหน้า บุลินเหวอตะลึงสุดๆ
อ่านต่อตอนที่ 13